ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

กรณีสมัคร พาดพิงน้องชายนายชวน ชักจะเป็นเรื่องแล้วครับ

นายชวนบอกทำนองว่า น้องชายมีปัญหากับธนาคาร ไม่ได้ฉ้อราษฎร์บังหลวง

เค้าให้ชี้แจงเรื่องของการทำงานของรัฐบาล ดันใช้สื่อของรัฐ ไปกล่าวหาประชาชน

นายกมีคดีหมิ่นประมาทมาเยอะแล้ว ระวังจะไปเพิ่มอีกคดี....อิ อิ

'ชวน'เตือน'สมัคร'ระวังปาก เหตุอาจทำเรื่องบานปลาย  

นายชวน หลักภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุพาดพิงถึงน้องชายของนายชวน ผ่านรายการ 'สนธนาประสาสมัคร' เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ตนได้วิเคราะห์การเมืองถึงความไม่แน่นอนของรัฐบาลและเรื่องคดีความต่างๆ โดยตนไม่ได้กล่าวว่า นายสมัครไม่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่นายสมัครกลับพูดเลยเถิดไปถึงน้องชายของตน นอกจากนี้ นายสมัครได้ใช้สื่อของรัฐในการโจมตีและด่าคนอื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะรัฐบาลควรใช้สื่อของรัฐในการประชาสัมพันธ์งานของรัฐบาล แถลงนโยบาย และเพื่อประโยชน์ของประชาชนมากกว่า อย่างไรก็ตาม ขอฝากว่าให้ระวังคำพูด ซึ่งาจทำให้เกิดเรื่องบานปลายได้

นายชวน กล่าวต่อว่า ในฐานะที่ตนเป็นส.ส. จึงมีสิทธิตรวจสอบรัฐบาล ส่วนกรณีที่มีใบปลิวโจมตีพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษนั้น จะหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป

'จักรภพ'ระบุ 'สมัคร' แค่หยิกแกมหยอก 'ชวน'

นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวพาดพิงน้องชายของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ผ่านรายการ 'สนธนาประสาสมัคร' เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า เป็นเพียงเรื่องหยิกแกมหยอกของนายสมัครและนายชวน ที่ทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนกัน อย่างไรก็ตาม ขอให้ทั้งนายสมัครและนายชวนหันมาพูดกันด้วยภาษาดอกไม้ และตนไม่ขอเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

นายจักรภพ กล่าวต่อว่า ตนจะรอดูว่า นายชวนจะเดินหน้าดำเนินการ เรื่องใบปลิวโจมตีพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษได้เพียงใด ส่วนกรณที่พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายหันหน้าเข้าหากันนั้น คงเป็นเพราะกองทัพมีภารกิจอีกมากที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ทหารอาชีพ

 'สมัคร'โต้ชวนพาดพิงปมคุณสมบัติ

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี อ่านและตอบคำถามในช่วงท้ายของรายการ ' สนทนาประสาสมัคร' เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่มีผู้เขียนถาม เรื่องที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พูดจากระทบกระทั่งหลายประเด็น เป็นจริงอย่างที่ถูกว่าหรือไม่ว่า เรื่องนี้พยายามหลีกเลี่ยง ที่นายชวนกล่าวหาเป็นทำนองเหมือนกับทักว่าเป็นนายกรัฐมนตรี คือเป็นคนมีความบกพร่องทางกฎหมาย เป็นคดีความ เป็นคดีโดนคดี และศาลตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา เอาคนอย่างนี้มาเป็นนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้ไม่ทราบจะทำอย่างไร เพราะคดีความขนาดนี้ โดนขนาดนี้ ก็หวังใจว่า ข้างหน้าจะไม่นำเรื่องนี้มาเล่นงานเท่านั้นเอง คดีถึงศาลอุทธรณ์ ถ้าตัดสินให้รอลงอาญา ก็ทำงานต่อไปได้ แต่ว่านายชวนพูดจาเป็นทำนองเหมือนกับว่า เป็นคนมีคดีติดตัว แล้วยังมาทำการเมือง

ขุดอดีตน้องชายหนีคดีฉ้อราษฎร์ตอก

' ผมก็บอกว่าผมโชคไม่ดีเหมือนกับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองบางคน น้องชายเขาฉ้อราษฎร์ ทำยุ่งกับเงินธนาคารเขาหลายร้อยล้าน ต้องหนีคดีไป 20 ปี บัดนี้คดีหมดแล้วกลับมาเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่มีใครว่าอะไร ไม่มีใครกระทบกระทั่งเลยว่าน้องชายคนเป็นหัวหน้าพรรคในอดีตเป็นคนฉ้อราษฎร์ ของผมนี่จะบังหลวงหรือไม่ ผมก็ต่อสู้ของผมอยู่ แต่ผมแน่ใจว่าผมไม่บังหลวง คดีความรถดับเพลิงก็ดี อะไรก็ดี ขุดมาก็ว่ากัน ถ้าผมไม่มารับตำแหน่งนี้ คดีความก็ไม่เกิด ที่ผมมารับตำแหน่งนี้ คดีความก็เกิด ผมก็ท้าทายดูให้ตรวจสอบผม แต่ว่าคนที่น้องชายฉ้อราษฎร์ ถามว่าสื่อสารมวลชนได้จับไปขยำขยี้ไปว่ากล่าวไหม ไม่มีความกริ่งเกรงใจ เกรงใจคุณพี่ชายกัน แล้วคนในพรรคท่าน แต่ก่อนนี้ก็มีคดีความ คดีหมิ่นประมาทเหมือนกัน แล้วยังมาให้เลือกตั้งอยู่อย่างไร คดีความนี้ถ้าเป็นคดีความประเภทที่เขาเรียกว่าคดีลหุโทษ หรือคดีหมิ่นประมาท ในทางการเมืองเขาได้รับยกเว้นไว้เลย คดีหมิ่นประมาทคดีลหุโทษ เอามาเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ไม่ได้ แต่บัดนี้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้กันไว้ เอาจนได้ หมายความว่าถ้าดำรงตำแหน่งอยู่ มีคดีพาดมาปั๊บโดนเลยทันที เรื่องไม่จำเป็นไม่อยากพูดหรอก แต่ว่าคนพูดไม่ค่อยคิด น้องตัวเองฉ้อราษฎร์ชัดๆ เลย แต่กลับไม่เป็นไร ผมนี่ไม่ได้บังหลวง ไม่ได้ฉ้อราษฎร์ แต่ว่าบังเอิญกฎหมายเขียนมาจะล่อผม ก็เอาสิ ไม่เป็นไร กระทบผมได้ ผมก็กระทบของผมบ้าง ผมไม่ได้ออกชื่อ ใครไม่ได้กินปูนอย่าร้อนท้องก็แล้วกัน' นายสมัครกล่าว

ปชป.ป้อง 'หมดอายุความแล้ว'

นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องที่นายกฯพูดในรายการสนทนาประสาสมัคร เป็นการหยิบเรื่องเก่ามาดิสเครดิตประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ซึ่งคดีที่เกิดขึ้นนั้นก็หมดอายุความไปแล้ว ถ้ามีใครมาหยิบเรื่องญาติของนายสมัครมาเพื่อดิสเครดิตเช่นนี้บ้างนายกฯจะรู้สึกเช่นไร

ส่วนจะเป็นการสร้างเรื่องเพื่อกลบข่าว การออกมาเปิดโปงขบวนการโจมตีองคมนตรีหรือไม่นั้น รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เรื่องที่ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคหยิบจดหมายขึ้นมาบอกความจริงในสังคมว่ามีจดหมายโจมตีบุคคลในสังคมในลักษณะเช่นนี้นั้นเป็นเรื่องที่เกิดมานานแล้ว แต่สังคมยังไม่ได้รับรู้ เพราะในยามที่บ้านเมืองต้องการความสมานฉันท์แต่พฤติกรรมแบบนี้ก็ยังมีอยู่ รัฐบาลควรมาช่วยกันตรวจสอบในเรื่องเนื้อหาที่เกิดขึ้นในใบปลิวมากกว่าว่าเป็นความจริงหรือไม่ อย่างไร เพราะถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่มาบอกว่าคนที่ออกมาพูดเรื่องนี้มีมลทิน

ท้าเหยงหากยังติดใจเอาผิดได้เลย

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่นายกฯไม่กล้าพอที่จะเอ่ยถึงนายชวน แต่คนฟังก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นการกล่าวโจมตีนายชวน เป็นวิสัยที่คนขลาดใช้กระทำกัน และแม้ว่านายสมัครจะมีสิทธิตอบโต้ แต่ไม่เหมาะสมหากจะใช้สื่อของรัฐเป็นช่องทางในการสื่อสาร การใช้สื่อรัฐควรพูดเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า อีกทั้งเป็นการนำเรื่องเก่ามาโจมตี ตั้งแต่สมัยที่นายชวนเป็นนายกรัฐมนตรี และในทางกฎหมายคดีดังกล่าวก็จบสิ้นไปแล้ว ดังนั้น หากนายสมัครยังติดในกับเรื่องนี้ ก็ไปดำเนินการทางกฎหมายดีกว่าจะใช้เป็นประเด็มโจมตีทางการเมือง ในส่วนที่นายสมัครกล่าวพาดพิงสมัยที่นายชวนเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มี ส.ส.ที่มีคดีความติดตัวลงรับเลือกตั้งอีกนั้น ประเด็นนี้ไม่ได้อยู่ที่ ส.ส.คนนั้นมีคดีหรือไม่ แต่อยู่ที่คุณสมบัติ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็เป็นผู้วินิจฉัยในอีกขั้นหนึ่งอยู่แล้ว

' นายสมัครควรกลับไปมองพรรคของท่านมากกว่า โดยเฉพาะกรณีที่กล้าส่งคนที่มีปัญหามาดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองถึง 2 คน คนแรกคือนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่มีคดีทุจริตการเลือกตั้งแต่ก็ถูกคัดเลือกจากสมาชิกพรรค ให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ก็คือตัวของนายสมัครเอง ที่ยังต้องคดีความเยอะแยะ ทั้งคดีการทุจริตการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร หรือคดีหมิ่นประมาท ผมจึงอยากถามถึงความสง่างามว่ายังมีอยู่หรือไม่' นายสาทิตย์กล่าว

ถามพปช.ดีพอชี้หน้าด่าคนอื่นหรือ

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวตอบโต้นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน (พปช.) และโฆษกกลุ่มมหาประชาชนเพื่อพิทักษ์ประชาธิปไตย ที่กล่าวหานายชวนมีพฤติกรรมเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ กรณีออกมาเปิดเผยข้อมูลและขบวนการป้ายสี โจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่า ไม่เข้าใจว่าคนของพรรค พปช. ทำไมถึงมีนิสัยเหมือนกันหมด ทำไมถึงไม่รู้จักเรียนรู้ถึงการอยู่ร่วมกับผู้ที่มีความคิดเห็นแตกต่างหรือยังติดกับระบบทุนนิยมที่เคยชินมาจากยุครัฐบาลทักษิณ ถึงไม่เข้าใจคำว่าใจกว้างในการแสดงความคิดเห็นของฝ่ายตรงข้าม การที่นายประชาไปชี้หน้าด่าคนโน้นคนนี้ว่าไม่ดี แล้วตัวเองดีพอแล้วหรือ โดยเฉพาะการทำม็อบมาชนกับม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น อยากถามว่าเป็นสิ่งที่ควรทำหรือไม่เพิ่มความรุนแรงให้บ้านเมืองหรือ

' หรือว่ายังติดนิสัยมาจากยุคทักษิณ ที่คิดระดมประชาชนมาชนมากันตลอด ซากเดนเผด็จการควรตกยุคไปได้แล้ว เพราะวันนี้บ้านเมืองมีปัญหามากเกินกว่าที่รัฐบาลจะชวนทะเลาะเพื่อกลบเกลื่อนผลงานที่รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ทำเลย' นายสาทิตย์กล่าว