|
หัวข้อ: 'เอาทักษิณ' VS 'ไม่เอาทักษิณ' มากกว่า..... เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 13-04-2008, 11:06 แกนนำพรรคพลังประชาชน แนวร่วม นปก.
และบริวาร ชูธงตาม'ใบบอก' ให้บอกเล่ากับ'รากหญ้า' ... ให้สัมภาษณ์ว่าต่อไปนี้การเมืองไทยจะมีสองกลุ่ม คือ กลุ่ม'เอาประชาธิปัตย์'และกลุ่ม'ไม่เอาประชาธิปัตย์' หรือกลุ่ม'เอาเผด็จการ'และกลุ่ม'ไม่เอาเผด็จการ' เท่านั้น... 'ใบบอก'ให้คำอธิบายว่า... เอาประชาธิปัตย์ คือ เอาเผด็จการ... ไม่เอาประชาธิปัตย์ คือ เอาประชาธิปไตย(พลังประชาชน).... นอกจากนี้ยังแบ่งสังคมไทย แบ่งคนไทยให้เป็น ภาคเหนือ ภาคอิสาน และ ภาคกลาง จะรวมอยู่พรรคที่ไม่เอาพรรคประชาธิปัตย์.... ส่วนภาคใต้ให้เป็นของพรรคประชาธิปัตย์..... :!: ปล. ไม่ได้กล่าวถึงกรุงเทพมหานคร...... :?: การให้สัมภาษณ์ การกระจายข่าวอย่างนี้ เป็นการถ่ายทอดข้อเท็จจริง หรือ สร้างข่าวหลอกลวงพวก'รากหญ้า' เท่านั้น... หากพิจารณาจากสมาชิกในเสรีเวบบอร์ดแห่งนี้ น่าจะเป็น... พวก'เอา'ทักษิณ และ 'ไม่เอา'ทักษิณ มากกว่า...... พวกอยากมี'บิดา' ใหม่ และ ไม่อยากมี'บิดา'ใหม่ มากกว่า.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า คนไม่เอาทักษิณ ใช่ว่าจะเอาประชาธิปัตย์ทุกคน... ปล. คนเอา'บรรหาร' 'สมศักดิ์(อนงค์วรรณ)' 'สุวิทย์' 'เสนาะ' ไม่มีทางเลือก ถูกขืนใจจากคนที่กล่าวมาแล้ว ให้เอา'ทักษิณ' ไปแล้ว.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า หัวข้อ: Re: 'เอาทักษิณ' VS 'ไม่เอาทักษิณ' มากกว่า..... เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 13-04-2008, 11:17 เภกก็อยู่มานาน น่าจะจับประเด็นได้ การเคลื่อนไหวของกลุ่มเรา ไม่ได้เป็นไปเพื่อ ปชป. แต่เป็นไปเพื่อความยุติธรรมในสังคม ในอันที่คนที่ทำผิดจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อเป็นบรรทัดฐานทางการเมืองอันดีต่อไป ดังนั้น ปชป. หรือใครจะเป็นรัฐบาล หากทำดีก็ไม่มีปัญหา เภกก็ตีประเด็นล่อเป้าแบบนี้มาหลายรอบ ก็น่าจะรู้ว่ายังไงก็ไม่สำเร็จนะ พวกเอา'ทักษิณ' และพวกถูกขืนในให้เอา'ทักษิณ'น่าจะสำเหนียกความนี้.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า หัวข้อ: Re: 'เอาทักษิณ' VS 'ไม่เอาทักษิณ' มากกว่า..... เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 13-04-2008, 11:39 พยายามจัดกลุ่ม เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง
คนทั่วไปเขาแยกแยะออก คงไม่ต้องมีใครมาจัดกลุ่มให้ดู คงกล่อมได้แต่กลุ่มของพวกตัวเอง(คนรักทักษิณ) กระมัง :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: 'เอาทักษิณ' VS 'ไม่เอาทักษิณ' มากกว่า..... เริ่มหัวข้อโดย: login not found ที่ 13-04-2008, 13:15 ไปพูดกับรากหญ้ายากๆอย่างนั้นได้ไง รากหญ้าจะรู้เรื่องเหรอ
ถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ ให้เงินไปแล้วบอกว่าจะให้ทำอะไรก็พอแล้ว หัวข้อ: Re: 'เอาทักษิณ' VS 'ไม่เอาทักษิณ' มากกว่า..... เริ่มหัวข้อโดย: Solidus ที่ 13-04-2008, 16:19 นอกจากนี้ยังแบ่งสังคมไทย แบ่งคนไทยให้เป็น ภาคเหนือ ภาคอิสาน และ ภาคกลาง จะรวมอยู่พรรคที่ไม่เอาพรรคประชาธิปัตย์.... ส่วนภาคใต้ให้เป็นของพรรคประชาธิปัตย์..... :!: ปล. ไม่ได้กล่าวถึงกรุงเทพมหานคร...... :?:[/color][/size] หัวข้อ: Re: 'เอาทักษิณ' VS 'ไม่เอาทักษิณ' มากกว่า..... เริ่มหัวข้อโดย: เล่าปี๋ ที่ 13-04-2008, 16:39 พยายามจัดกลุ่ม เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง คนทั่วไปเขาแยกแยะออก คงไม่ต้องมีใครมาจัดกลุ่มให้ดู คงกล่อมได้แต่กลุ่มของพวกตัวเอง(คนรักทักษิณ) กระมัง :slime_bigsmile: :slime_agreed: :slime_agreed: :slime_agreed: :slime_agreed: หัวข้อ: Re: 'เอาทักษิณ' VS 'ไม่เอาทักษิณ' มากกว่า..... เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 13-04-2008, 22:17 ฝั่งคนเลว กับฝั่งต้านคนเลวมากกว่า
หัวข้อ: Re: 'เอาทักษิณ' VS 'ไม่เอาทักษิณ' มากกว่า..... เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 14-04-2008, 09:38 แกนนำพรรคพลังประชาชน แนวร่วม นปก. และบริวาร ชูธงตาม'ใบบอก' ให้บอกเล่ากับ'รากหญ้า' ... ให้สัมภาษณ์ว่าต่อไปนี้การเมืองไทยจะมีสองกลุ่ม คือ กลุ่ม'เอาประชาธิปัตย์'และกลุ่ม'ไม่เอาประชาธิปัตย์' หรือกลุ่ม'เอาเผด็จการ'และกลุ่ม'ไม่เอาเผด็จการ' เท่านั้น... 'ใบบอก'ให้คำอธิบายว่า... เอาประชาธิปัตย์ คือ เอาเผด็จการ... ไม่เอาประชาธิปัตย์ คือ เอาประชาธิปไตย(พลังประชาชน).... นอกจากนี้ยังแบ่งสังคมไทย แบ่งคนไทยให้เป็น ภาคเหนือ ภาคอิสาน และ ภาคกลาง จะรวมอยู่พรรคที่ไม่เอาพรรคประชาธิปัตย์.... ส่วนภาคใต้ให้เป็นของพรรคประชาธิปัตย์..... :!: ปล. ไม่ได้กล่าวถึงกรุงเทพมหานคร...... :?: * คนที่ให้สัมภาษณ์ในลักษณะนี้ ....... เป็น สส. ของ พปช. หลังจากที่ กกต. มีมติ 4 ต่อ 1 เสียงเรื่องยุบพรรคชาติไทย ~ มัชฌิมา การพูดถึงการแบ่งขั้วในเรื่องของภาค.... ก็มาจากนักการเมืองนี่แหละ แสดงถึงความเห็นแก่ตัวอย่างได้ชัดเจน .............. มองย้อนกลับไป ...... ระยะหลัง ๆ จะมีกระแสแยกคนกรุง กะ คนต่างจังหวัด ออกจากกันมากขึ้น มีการปลุกกระแสคนต่างจังหวัดสั่งสอนคนกรุง ..... ด้วยการแบ่งแยกว่า คนภาคนี้โง่ แต่จะเป็นภาคที่เลือก นายก เอง ซึ่งส่วนหนึ่งมันก็มาจากการหาเสียงของ สส. นะแหละที่คอยจุดกระแสพวกนี้ขึ้นมาตลอด พอถึงจุดหนึ่ง ..... ที่พรรคตัวเอง อาจเป็นพรรคต่อไปที่จะโดนเช่น 2 พรรคแรก เลยรีบออกมา ตีกัน ด้วยการแบ่งขั้วไว้ก่อนว่า ..... ต่อไปจะแยกเป็น 2 ส่วนแล้วนะ ครึ่งบนของด้ามขวาน ...... คือ พปช. ( รวมกะ 2 พรรคในชื่อใหม่ในอนาคต ) ส่วนครึ่งล่างของด้ามขวาน ...... คือ ปชป. ( แล้วคน กทม. มันเอาไปไว้ที่ไหน ) ถามหน่อยเหอะว่า... ประชาชนเขาคิดที่จะให้มันแตกแยกกันขนาดนั้นเชียวหรือ เพื่อที่จะให้พวกเอ็งเข้ามาพล่านในสภาน่ะ ................ ก็ไม่รู้จริง ๆ ว่า ..... ความคิดชั่ว ๆ ในการแบ่งแยกคนในประเทศขนาดนี้ มันหลุดออกมาจากปากคนลงเล่นการเมืองได้อย่างไร....... ??? เค๊าเลือกพวกมันมาทำงาน ..... ไม่ใช่ให้มาวุ่นวายเล่นแต่เกมส์การเมือง อยากได้แต่ อำนาจ คิดแต่เพียงว่า .... ทำไงพวกตรูจะเข้าสภาได้ว่ะ อยากเป็น สส. รมต. กันจนตัวสั่นแล้วจ๊ะ แบบนี้เราจะเรียกหรือให้คำนิยามคนพวกนี้ได้ไหมว่า ........ นี่แหละ " สันดานนักการเมือง " หัวข้อ: Re: 'เอาทักษิณ' VS 'ไม่เอาทักษิณ' มากกว่า..... เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 15-04-2008, 08:45 * ดูเหมือนว่าในช่วงระหว่างวันหยุดหลายวันนี้ ...
สส. พปช. บางส่วนได้ลงพื้นที่ภาคอีสาน หารายชื่อให้ได้ 50,000 รายชื่อ เพื่อเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงหลังสงกรานต์นี้ด้วย ...... หัวข้อ: Re: 'เอาทักษิณ' VS 'ไม่เอาทักษิณ' มากกว่า..... เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 15-04-2008, 23:17 เลือกตั้งครั้งก่อนโน้น ได้ 19 ล้านเสียง...
แกนนำพรรคฯ ลิ่วล้อพรรคที่ถูกยุบพรรคไปแล้ว ไม่ได้แบ่งแยกอย่างนี้.... เพราะพวกเขาได้'เสียง'ในกรุงฯ' ด้วย... วันนี้'รากหญ้า' ก็รู้พรรคฯที่พวกเขารับใช้อยู่ ไม่มี'เสียง'อย่างนั้นอีกแล้ว.... จึงต้อง'แบ่งแยก' เพื่อให้เกาะกลุ่มแน่นหนา.... หัวข้อ: Re: 'เอาทักษิณ' VS 'ไม่เอาทักษิณ' มากกว่า..... เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 19-04-2008, 20:36 ปชป.แฉเล่ห์บันได3 ขั้นถกหาช่องสกัด"รธน.แม้ว"สัปดาห์หน้า
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 เมษายน 2551 16:23 น. รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ชี้ "พลังแม้ว" แก้รัฐธรรมนูญรื้อองค์กรอิสระเป็นแผนบันใด 3 ขั้น ทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเองและพวกพ้องเท่านั้น เผยเตรียมหาช่องทางสกัดกั้นในสัปดาห์หน้า วันนี้(19 เมษายน) นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็น กรณีที่รัฐบาลจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อลดวาระการทำงานขององค์กรอิสระ ว่า เป็นการกระทำตามแผนบันได 3 ขั้นของรัฐบาล โดยบันไดขั้นแรก เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 ที่เกี่ยวข้องกับคดียุบพรรค บันไดขั้นที่ 2 เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 เรื่องบทเฉพาะกาล และบันไดขั้นที่ 3 คือ การลดวาระองค์กรอิสระ คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายเพื่อประโยชน์ของตัวเอง นายจุรินทร์ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับองค์กรอิสระครั้งนี้ ประเด็นใหญ่คือ มุ่งช่วยคดียุบพรรค และคดีทุจริต ที่อยู่ในการตรวจสอบของ คตส. ลดวาระการทำงานของ กกต. ขณะที่ ป.ป.ช.จะต้องรับช่วงคดีต่อจาก คตส. ที่จะหมดวาระ ในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งคดีส่วนใหญ่เป็นการตรวจสอบทุจริตของอดีตนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายสำคัญคือ ต้องการทำให้องค์กรอิสระใหม่ ที่กำลังจะเกิดขึ้น อยู่ในโอวาท เพราะองค์กรอิสระที่มีอยู่นี้ไม่สามารถสั่งได้ หากเปลี่ยน ป.ป.ช.ชุดใหม่ อาจมีความหวังว่า ป.ป.ช.ชุดใหม่จะอยู่ในโอวาท และสามารถจะช่วยล้มคดีได้ ดังนั้น การแก้รัฐธรรมนูญในส่วนขององค์กรอิสระครั้งนี้ ไม่สามารถมองเป็นอย่างอื่นได้ เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่มีเหตุผลที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนการเสนอเพิ่มจำนวนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้น หากกลับไปใช้การสรรหากระบวนการองค์กรอิสระเหมือนรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ที่มีจุดอ่อนที่เห็นได้ชัด คือ การให้ตัวแทนพรรคการเมือง เข้าไปทำหน้าที่เป็นกรรมการสรรหาองค์กรอิสระ ทำให้มีปัญหาเรื่องการรับใบสั่งให้เลือกกรรมการตามที่พรรคต้องการ ท้ายที่สุดองค์กรอิสระก็ถูกแทรกแซง ไม่มีความเป็นอิสระ และความเป็นกลาง ต้องตอบแทนบุญคุณพรรคการเมือง รัฐบาลอาจคิดว่า หากย้อนกลับไปใช้รูปแบบการเลือกองค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2540 รัฐบาลมี 6 พรรคการเมือง ก็ถือว่ามี 6 เสียงแล้ว ดังนั้น ผมจึงอยากให้ประชาชนติดตามการแก้รัฐธรรมนูญของรัฐบาลครั้งนี้อย่างรู้เท่าทัน นายจุรินทร์ กล่าว อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ ยังตอบไม่ได้ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะเบื้องต้นมีกระแสออกมาต่อต้านเป็นจำนวนมาก ดังนั้น รัฐบาลจึงไม่ควรเสี่ยง หากจะแก้ไขแล้วทำให้เกิดปัญหา แต่ถ้ายังดึงดัน ทั้งที่รู้ว่าจะทำให้เกิดความแตกแยกของคนในสังคม และทำให้บ้านเมืองเกิดวิกฤติอีกครั้ง รัฐบาลต้องร่วมรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญชัดเจนว่า รัฐธรรมนูญสามารถแก้ไขได้ เพื่อผลประโยชน์ในอนาคต ไม่ใช่ช่วยเหลือใครคนใดคนหนึ่งในอดีต ส่วนที่อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 2550 ชี้ช่องว่า การกระทำของรัฐบาล อาจเข้าข่ายความผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 122 เรื่องการขัดกันของผลประโยชน์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่ง ส.ส.และส.ว. 1 ใน 10 สามารถยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพื่อยับยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลได้ นายจุรินทร์ ยอมรับว่า พรรคประชาธิปัตย์เคยหารือถึงประเด็นดังกล่าว และเบื้องต้นเห็นว่าช่องทางนี้สามารถทำได้ แต่ต้องรอให้นำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมพรรค ในสัปดาห์หน้าก่อน /0110 http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000045874 รัฐบาลนอมินีของผู้มีอิทธิพลเหนือนายกฯ ได้ใช้'เสียงข้างมาก'ในรัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เป็นที่ต้องการและพอใจของ'ผู้มีอิทธิพลเหนือนายกฯนอมินี' 'ผีขโหมด 111 ตน' แกนนำพรรคปล้นชาติ และแนวร่วมเป็ดไก่ นั้น... ที่แท้ก็เป็นการต่อสู้ 'เอาทักษิณ' VS 'ไม่เอาทักษิณ' ด้วย..... |