ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: Sweet Chin Music ที่ 22-02-2008, 17:57



หัวข้อ: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: Sweet Chin Music ที่ 22-02-2008, 17:57
นายกฯพบสื่อทำเนียบ ย้ำไม่พูดเรื่อง 6 ตุลา อ้างลืม เคยพูดที่ฝรั่งเศสปี 2520 มีคนเสียชีวิตมาก ถึงกับหน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่"จอมพลประภาส"

กรุงเทพ ธุรกิจออนไลน์ : ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตอบคำถามสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลประจำสัปดาห์ ถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมจะยื่นกระทู้ถามเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 โดยระบุว่า เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ยื่นมาก่อน ตนตอบชัดเจนแล้วว่าจะไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว พอกันหรือยัง

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้นำภาพถ่ายนายกรัฐมนตรี ที่ถ่ายคู่กับจอมพลประภาส จารุเสถียร อดีตนายกรัฐมนตรี ในเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 มาเปิดเผยกับสื่อมวลชนด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยังไม่เห็น ไปเอามาให้ดูหน่อย ไปยืนกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่

เมื่อผู้สื่อข่าวยื่นหนังสือพิมพ์ให้ดู นายสมัคร ถึงกับหน้าถอดสี และกล่าวว่า "โอ้โห นั่นผมเหรอ ผมยังไม่รู้เลย ไปยืนที่ไหน เมื่อไหร่ ทำไมผมถึงจำไม่ได้ ไหนกางหนังสือพิมพ์ให้ดูหน่อย ผมไม่เห็น ผมไม่ได้รับรูปนี้" จากนั้นนายสมัคร บอกให้ผู้สื่อข่าวถามเรื่องอื่น[/b] [/u]

ต่อข้อถามว่า ยังยืนยันใช่ไหมว่าไปยืนที่สนามหลวง และเห็นคนตายเพียงคนเดียวใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้หรือไม่ว่าข่าวออกมาบอกว่า มีคนถูกเผาที่สนามหลวง ใครก็ไปดูว่าจริงหรือไม่ เพราะอยากไปดูว่าจริงหรือไม่ ว่ามีการเอายางมาวางแล้วจุดไฟเผา ใคร ๆ ก็ไปดูทั้งนั้น ตนอยู่ในกทม. ก็ไปดู หรือสื่อคิดว่ามากกว่า 1 คน

ต่อข้อถามว่า มีการระบุว่านายกรัฐมนตรีเคยไปพูดกับนักศึกษาไทยในฝรั่งเศส เมื่อปีพ.ศ.2520 ว่า มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก นายสมัคร กล่าวว่า “เวลานี้ผ่านมาแล้ว 31 ปี ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าพูดไปอย่างนั้น ทำไมผมพูดอย่างนั้นก็ไม่ทราบ"

เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ว่า มีคนตายมากกว่า 1 คน นายสมัคร ตอบว่า"ผมบอกแล้วว่าจะไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ก็จะไม่พูด และเชื่อว่าไม่ใช่ความเสียหายอะไร ที่พูดไปอย่างนั้น ผมพูดกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เมื่อเขาถาม ผมก็ตอบ เป็นสิทธิเสรีภาพของผมแท้ ๆ"

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไปตอบกระทู้ของฝ่ายค้านด้วยตัวเองหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า บอกแล้วว่า "ไม่พูดเรื่องนี้ ไม่ตอบแล้ว พอแล้ว"
http://www.bangkokbiznews.com/2008/02/22/WW10_WW10_news.php?newsid=232215



อ่าว? วันนี้ ไปไม่เป็นเลยหรือท่าน ขนาดภาพถ่ายแท้ ท่านยังเถียงได้ข้างๆคูๆ....

แล้วใครพอรู้บ้างว่าหนังสือพิมพ์ฉบับไหนลงภาพอะไร

เอามาให้ดูบ้างนะครับ อิอิ  :slime_v:


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: Sweet Chin Music ที่ 22-02-2008, 18:02
อ๋อ เจอละ  :slime_bigsmile:


(http://pics.manager.co.th/Images/551000002411804.JPEG)


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: Sweet Chin Music ที่ 22-02-2008, 18:24
ใครมีรูปสมัครตอนกราบเท้าจอมผพถนอมบ้าง


ขอหน่อยครับ คือผมไปหาแล้วไม่เจออะ


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 22-02-2008, 18:26


ไปถามชวน ชวนก็คงได้แต่บอกว่า

ผมหนีเข้าป่า เย็นลมป่า เป็นรัฐมนตรีก่อนหน้าเกิดเหตุการณ์แท้ๆ


ตายกี่คนแน่ ? ก็ได้แต่ดูภาพเก่าๆ

ดีแล้วที่นายกฯสมัคร ไม่ตอบคำถามอีก

ใครอยากชำระประวัติศาสตร์ก็หาหลักฐานมาเพิ่มเติม..


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: login not found ที่ 22-02-2008, 18:30
 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

ผมไม่รู้ ผมไม่เกี่ยว
ผมไม่เคยโกหก

 :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 22-02-2008, 18:38


เรื่องชำระ เหตุการณ์ 6 ตุลา สภาอาจจะมอบให้กรรมาธิการไปสืบค้นเพิ่มเติมก็ได้

นายกฯคงไม่ต้องไปก้าวก่าย แทรกแซงหรือให้สัมภาษณ์โดยตรง..

เมื่อบอกว่าไม่ให้สัมภาษณ์ก็ไม่จำเป็นต้องต่อปากต่อคำกับนักข่าวอีก

เอาเวลาไปทำงานดีกว่าครับ..



หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: ปรมาจารย์เจได ที่ 22-02-2008, 18:50
บอกว่าไม่เกี่ยวไง  :slime_mad:


หัวข้อ: ก ริ๊ ด. ด. ด. ด. .......เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 22-02-2008, 18:53



(http://pics.manager.co.th/Images/551000002411804.JPEG)
(http://www.stonekid.com/images/stone_oops.gif)
  ริ๊ ด.  ด.   ด.    ด.     :slime_slapped: ม่    ย      ริ๊    


 :slime_mad: จงอย่าเชื่อ "ข่าวลือ " ข่าวโคมลอย..จากพวกคนไม่ดี..
ที่บังอาจ ..กลั่นแกล๊งใสร๊าย ..ท่านสมัคร สุนทรเวช ของ  ดร.ทักษิณ ชินวัตร



"ข่าวลือ".. เหล่านั๊นไม่เป็นความจริ๊ง..เราต้องจำใส่ สมองไว้..ว่าไม่จริง
 

มันเป็นภาพ ตัดต่อ ที่ .. พรรคสะตอ..ตัดต่อไว้เมื่อ 30 ปีก่อน  
พวกมันวางแผนล่วงหน้ากลั่นแกล๊ง ลุงหมัก กะ อาแม๊ว
ล่วงหน้า ตั้งแต่ สมัย พระเจ้า เหา .. แล้ว ววว  แว๊วๆๆๆ



หัวข้อ: Re: ก ริ๊ ด. ด. ด. ด. .......เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: ปรมาจารย์เจได ที่ 22-02-2008, 19:01



(http://pics.manager.co.th/Images/551000002411804.JPEG)
(http://www.stonekid.com/images/stone_oops.gif)
  ริ๊ ด.  ด.   ด.    ด.     :slime_slapped: ม่    ย      ริ๊    


 :slime_mad: จงอย่าเชื่อ "ข่าวลือ " ข่าวโคมลอย..จากพวกคนไม่ดี..
ที่บังอาจ ..กลั่นแกล๊งใสร๊าย ..ท่านสมัคร สุนทรเวช ของ  ดร.ทักษิณ ชินวัตร



"ข่าวลือ".. เหล่านั๊นไม่เป็นความจริ๊ง..เราต้องจำใส่ สมองไว้..ว่าไม่จริง
 

มันเป็นภาพ ตัดต่อ ที่ .. พรรคสะตอ..ตัดต่อไว้เมื่อ 30 ปีก่อน  
พวกมันวางแผนล่วงหน้ากลั่นแกล๊ง ลุงหมัก กะ อาแม๊ว
ล่วงหน้า ตั้งแต่ สมัย พระเจ้า เหา .. แล้ว ววว  แว๊วๆๆๆ



เป็นจริงตามนั้นครับพี่ลูกหิน เราจะไม่หลงกลพวกสื่อชั่ว ที่กลั่นแกล้งท่านสมัครเด็ดขาด  :slime_p:


หัวข้อ: <<<<สมัคร อายุ 73 .. ยังไงก็ต้องเรียก ท่านเทพทักษิณ ว่า "นายพ่อ" >>>>
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 22-02-2008, 19:05
ใครมีรูปสมัครตอนกราบเท้าจอมผพถนอมบ้าง


ขอหน่อยครับ คือผมไปหาแล้วไม่เจออะ

:slime_smile2: รูปนี้ แทน .. ด๊ายป่ะฮะ

(http://www.stonekid.com/uploads/mh111.jpg)

 :slime_fighto:  คนไทยทุกคน ...จะต้องอยุ่ ใต้ ฝ่าเท้า ลุง สมัคร ของพวกเรา..ชาวพ.ป.ช.
เพราะ ลุงสมัคร เปรียบเหมือน ลูก ท่านเทพฯ ทักษิณ ...อีกที (งง มั๊ย) :slime_doubt:
 :slime_sleeping:


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 22-02-2008, 19:54

ไปถามชวน ชวนก็คงได้แต่บอกว่า

 ผมหนีเข้าป่า เย็นลมป่า เป็นรัฐมนตรีก่อนหน้าเกิดเหตุการณ์แท้ๆ


ตายกี่คนแน่ ? ก็ได้แต่ดูภาพเก่าๆ

ดีแล้วที่นายกฯสมัคร ไม่ตอบคำถามอีก

ใครอยากชำระประวัติศาสตร์ก็หาหลักฐานมาเพิ่มเติม..


ข้อเท็จจริงคือ คุณชวน หลีกภัยเขียนหนังสือเล่มนั้น หลังจากรัฐบาล มรว.เสนีย์ ปราโมช
ถูกเผด็จการทหาร พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ใช้กำลังทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
และไม่ได้เป็นเผด็จการรัฐสภา.....

เขียนในขณะที่รัฐบาลหอยเน่าแต่งตั้งโดยเผด็จการทหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ บริหารประเทศ และ 'หมัก เมถุน' เป็น รมว.มหาดไทยแล้ว...
คุณชวน หลีกภัยต้อง'หนีภัย'การเมืองไปอยู่บ้านในภาคใต้.....

มีกี่คนในประเทศไทยที่นับเลขมากกว่า '1' ไม่เป็น........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ ที่ 22-02-2008, 20:00
หมักบอก ตอนที่บอกว่าตายไป40กว่าคนนั้น ไม่รุ้ว่าตอนั้นหมักพูดไปได้ยังไง เพราะ เหตุการมันผ่านมานานแล้ว ตอนนี้จำได้แค่ 1คน  กำ :slime_dizzy:


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 22-02-2008, 20:06

ข้อเท็จจริงคือ คุณชวน หลีกภัยเขียนหนังสือเล่มนั้น หลังจากรัฐบาล มรว.เสนีย์ ปราโมช
ถูกเผด็จการทหาร พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ใช้กำลังทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
และไม่ได้เป็นเผด็จการรัฐสภา.....

เขียนในขณะที่รัฐบาลหอยเน่าแต่งตั้งโดยเผด็จการทหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ บริหารประเทศ และ 'หมัก เมถุน' เป็น รมว.มหาดไทยแล้ว...
คุณชวน หลีกภัยต้อง'หนีภัย'การเมืองไปอยู่บ้านในภาคใต้.....

มีกี่คนในประเทศไทยที่นับเลขมากกว่า '1' ไม่เป็น........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




หลังจากนั้น ชวนได้เป็นนายกฯ อีกสองสมัย  ยังไม่กระจ่าง ก็คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว..

ก็ได้แต่นับเลขต่อไป.. :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 22-02-2008, 20:51
:slime_fighto: หมักบอก ตอนที่บอกว่าตายไป40กว่าคนนั้น ไม่รุ้ว่าตอนั้นหมักพูดไปได้ยังไง  เพราะ เหตุการมันผ่านมานานแล้ว
 :slime_smile2:  ตอนนี้จำได้แค่ 1คน  กำ :slime_dizzy:



:slime_smile2: หลังจากนั้น ลุงหมัก.. จะจำใคร?? ม่ายด๊ายอีกเยย
แม๊แต่ ศพ ตัวเอง..1 ศพ.
( อ๊าว Dead ปายแร๊ว ก็ต้อง เลิกจำดิ :slime_agreed:)


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: drop ที่ 22-02-2008, 20:55
งั้นหมักหมม  เป็นนายก สมใจแล้วในชีวิต ที่เป็นขี้ข้าเผด็จการมา  จงชำระ ปวศ  ให้กระจ่าง
ไม่ใช่มั่ว เหยียบย่ำ  ตอน รบ หอย มันก็เป็น รมต มหาดไทย  ทำไม ไม่ชำระ

 ถ้า ปชป มีส่วนในเหตุการณ์ ก็จัดการเลย  แฉเลย

แน่จริง ก็ชำระ ปวศ เลยซิ  มาพูดจาหมา ๆๆๆๆ รายวัน


http://www.nationweekend.com/2008/02/20/NO10_103_news.php?newsid=10175

ปีที่   16   ฉบับที่  820  ประจำ   วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551      
รหัสผู้ใช้ : รหัสผ่าน :   สมัครสมาชิก
รายงานพิเศษ
'ทองใบ'อดีตทนายนศ.จำเลย 6ตุลา19 ติง'สมัคร-เฉลิม'หยุดบิดเบือน

ทนายความแมกไซไซ ทนายให้นศ.จำเลย 6ตุลา19 เตือน"นายกฯ-มท.1" อย่าบิดเบือนความจริง ชี้ทั่วโลกรู้ข้อเท็จจริง หนุนตั้งกรรมการระดับชาติ ชำระประวัติศาสตร์

นายทองใบ ทองเปาด์ นักสิทธิมนุษยชนเจ้าของรางวัลแมกไซไซ พ.ศ.2527 สาขาบริการสาธารณะ อดีตทนายความให้นักศึกษาตกเป็นจำเลยในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519  กล่าวว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ควรระมัดระวังคำพูดให้มากกว่านี้ เพราะการที่นายกฯ ออกมาระบุว่า มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 เพียงคนเดียวนั้นไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง

หรือเหตุที่เกิดขึ้นเพราะ ร.ต.ท.เมาเหล้าจึงยิงปืนลั่นนั้น ข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ 6 ตุลาได้เผยแพร่ไปทั่วโลกว่า มีผู้เสียชีวิตจำนวนเท่าไร ทุกคนต่างรู้เรื่องนี้ดี ซึ่งร.ต.ท.รายที่ ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่า เมาแล้วยิงปืนลั่น นั้นก็เป็นภาพที่ยืนสูบบุหรี่แล้วถือปืนยิงเข้าไปใส่ธรรมศาสตร์ ไม่ใช่เมาแล้วยิงปืนนัดเดียว

ส่วนกรณีนายสมัคร เห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ 6 ตุลา 2519 นั้น เห็นว่าเป็นเรื่องดี และเคยมีความพยายามชำระประวัติศาสตร์มาหลายครั้ง เช่น มีการเรี่ยไรเงินตั้งกองทุนให้กับแม่ของนักศึกษารายหนึ่งที่ตามหาลูกชายไม่พบ

อย่างไรก็ตาม การตั้งคณะกรรมการต้องหาผู้ที่เป็นกลางมาร่วมโดยเป็นรูปแบบคณะกรรมการระดับชาติ และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องเข้าให้ข้อมูลไม่ว่า จะเป็นอดีตนักศึกษาขณะนั้น เช่น นายสุธรรม แสงประทุม นายธงชัย วินิจจะกูล นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และผู้ที่ถูกกล่าวหา ก็จะเวทีได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งก็จะช่วยให้นายสมัคร สร้างความกระจ่างกับประชาชนได้ และหลายเรื่องในขณะนั้นก็ถูกวิจารณ์มากมาย เช่น การสั่งปิดหนังสือพิมพ์ หรือการที่นายสมัคร ในฐานะ รมว.มหาดไทย ออกคำสั่งหนังสือต้องห้าม 100 เล่ม

นายทองใบ กล่าวถึงข้อเรียกร้องให้คนเดือนตุลา ที่สนับสนุนพรรคพลังประชาชนออกมาให้ข้อเท็จจริงว่า เมื่อเขาเติบโตมาก็มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปมาก สุดแท้แต่ละคน แต่ขอสนับสนุนสิ่งที่นายอดิศร เพียงเกษ อดีตคนเดือนตุลา พูดทั้งหมด

"จึงอยากให้นักศึกษาที่ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์ 6 ตุลา ออกมาพูดความจริง เพราะความจริงไม่ได้ทำลายใคร ทั้งนี้ สมัยที่เป็นทนายให้กับนักศึกษา 19 คนที่ถูกจับและขึ้นศาลทหารต่อสู้ อยู่ในช่วงรัฐบาลธานินทร์ บรรยากาศค่อนข้างแตกแยก เพราะทุกครั้งที่ไปขึ้นศาลที่กรมพลังงานทหาร ก็จะถูกด่าจากฝ่ายตรงข้ามนักศึกษาตลอดเวลาว่า พวกซ้ายคอมมิวนิสต์ บางคนเอาโลง ดอกไม้จันทน์มาให้" ทนายความรางวัลแมกไซไซ ระบุ 

คนมันอายุ ขนาดนี้ แล้ว มันควรมีสำนึก บ้าง  มัน เฮี้ย จนจะเข้าโลง

 :slime_evil: :slime_mad:


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 22-02-2008, 21:00



ตัวเลขสี่สิบแปด มีใครก็ตามมีข้อมูลเป็นอย่างอื่น ก็ไปแจ้งหอจดหมายเหตุ หรือหอประวัติศาสตร์ได้ครับ.

นายกฯคงไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องพวกนี้แล้ว.เพราะอาจจะปากพาไปกันได้..


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 22-02-2008, 21:10
ถึงนาฑีนี้ ยังไม่มีคนไทยคนไหนยืนยันตาม'หมัก หนึ่งเมถุน'ว่า มีคนตายคนเดียว....
แม้แต่'เหลิม ดาวเทียม' และ 'หมอขายยาลดความอ้วน' ก็ตาม......

ถ้า'หมัก หนึ่งเมถุน' ไม่โกหกพกลมมากเกินไป คงไม่มีการรื้อฟื้นหาตะเข็บ....
ถ้าคนไทยที่เข้าใจ นิ่งเฉยๆ....
จะทำบาปกับ'ลิ่วล้อ'ของ'หมัก หนึ่งเมถุน'และ 'ผู้มีอิทธิพล'นอกแผ่นดิน โง่ดักดานต่อไป
หรือฉวยโอกาสบิดเบือน ตะแบงเป็นเรื่องอื่น ๆ.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า





หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: Albert Einsteins ที่ 22-02-2008, 21:33
และแล้ว

เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ก็กำลังถูกลดคุณค่าด้วยน้ำมือของคนที่อยู่ในบริบทของเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519

สำหรับผมสะท้อนภาพสังคมไทยคือ

ไม่เรียนรู้จากบทเรีัยนในอดีต ประวัติศาสตร์ไม่หลงเหลือให้ศึกษา
ไม่พยายามก้าวไปข้างหน้า เพราะเราไม่มีความสามารถที่มองฝ่าืทะลุเงามืดทมึนแห่งอนาคตด้วยแสงแห่งปัญญา


 :slime_cool:


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 22-02-2008, 21:51
น่าสงสารครับ อายุ 73 แล้ว แก่กว่าพวกนักข่าวแค่คนละสี่ห้าสิบปีเอง

ความจำมันก็เลยเลอะเลือนไปบ้าง จำไม่ค่อยได้ว่าเคยโกหกพกลมไว้กะใครที่ไหนบ้าง   :slime_smile2:

ที่จริงถ้าหัดหุบปากซะบ้างหนทางมันก็จะราบรื่นกว่านี้เยอะ   


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: KUKKUK ที่ 22-02-2008, 23:32
นายกฯสมัคร ไม่สุภาพ เรียกชื่อท่านผู้มีวาสนาไม่ครบน่ะครับ


ต้องเรียกนายกฯสมัคร ของท่านทักษิณ จึงจะถูก เด็ก ป.4 เค้ายังรู้เลยยย


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 23-02-2008, 00:05


อ้างถึง

19 ก.ย. ในหนังสือ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ และ ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ (2541) เสนอว่า “ ยานเกราะแนะรัฐบาลให้ฆ่า นักศึกษา 30,000 คนเพื่อชาติ”




ผมสงสัยที่ยานเกราะพูดว่า

ต้องมีคนตายสัก 30000 คน นอกจากสมัครแล้ว

ต้องมีคนหนุนหลัง...ที่ใหญ่ไม่แพ้ถนอม ประภาส


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: cafein ที่ 23-02-2008, 01:29

ผมสงสัยที่ยานเกราะพูดว่า

ต้องมีคนตายสัก 30000 คน นอกจากสมัครแล้ว

ต้องมีคนหนุนหลัง...ที่ใหญ่ไม่แพ้ถนอม ประภาส

ไปกันใหญ่แล้วครับ ถ้าผมจะขอยืมแบบที่สาวกแม้วชอบอ้างว่า

ไหนละ หลักฐาน

เป็นอย่างไรครับ ที่สำคัญที่สุดเคยคิดไหม ทำไมถึงมีข้อนี้ขึ้นมา

เพราะที่กล่าวหานั้น อยู่ในส่วนที่ตอบโต้ไม่ได้ใช่ไหม ก็เลยได้ตัวได้ใจ

ว่ากันไปเรื่อยเปื่อย


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 23-02-2008, 01:38

ก็มีประว้ติศาสตร์ ลายลักษณ์อักษร เป็นเรื่องมีคนเชียนยืนยัน  มีอีกเยอะที่แบะ แบะ หาคำตอบไม่ได้

เวียนแต่หาคนผิด ไปถามชวนสิครับ คนรุ่นเดียวกับสมัคร ดูมันจะพูดว่าอย่างไร?

เอารายชื่ออดีตผบ.ทบ. มาให้ศึกษากัน :slime_smile:

(http://www.rta.mi.th/command/topcenterNew2.gif)
http://www.rta.mi.th/command/33command.htm


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 23-02-2008, 02:03

(http://www.rta.mi.th/command/command21.jpg)

พลเอก เสริม ณ นคร
ผู้บัญชาการทหารบก ลำดับที่ ๒๑
( ระหว่าง ๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ - ๓๐ กันยายน ๒๕๒๑ )


--------------------------------------------------------------------------------

วันเกิด ๒ มีนาคม ๒๔๖๓
เป็นบุตรของนายชุบ และนางลมุล ณ นคร ภริยาคือ คุณหญิง แสงเดือน ณ นคร
การศึกษา
- พ.ศ.๒๔๗๙ จบการศึกษาชั้นมัธยม ๘ จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
- พ.ศ.๒๔๘๓ จบการศึกษาหลักสูตรพิเศษที่โรงเรียนเทคนิคทหารบก (โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า)
ประวัติรับราชการ
- พ.ศ.๒๔๘๓ ผู้บังคับหมวดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ ๔
รับพระราชทานยศว่าที่นายร้อยตรี
- พ.ศ.๒๔๘๔ รับพระราชทานยศนายร้อยโท สำรองราชการกองบังคับการแผนกทหารปืนใหญ่ สำรองราชการกองบังคับการกองพันทหารปืนใหญ่ที่ ๔
- พ.ศ.๒๔๘๖ รับพระราชทานยศร้อยเอก สำรองราชการกองบังคับการจังหวัดทหารบกเชียงใหม่
- พ.ศ.๒๔๘๘ สำรองราชการกองบังคับการกรมเสนาธิการทหารบก
- พ.ศ.๒๔๘๙ นายทหารฝึกหัดราชการโรงเรียนเสนาธิการทหารบก
- พ.ศ.๒๔๙๑ รับพระราชทานยศพันตรี ฝ่ายเสนาธิการประจำกองพลที่ ๑ รักษาพระองค์, ฝ่ายเสนาธิการ
ประจำมณฑลทหารบกที่ ๑
- พ.ศ.๒๔๙๔ รับพระราชทานยศพันโท ฝ่ายเสนาธิการทหารบกที่ ๑
- พ.ศ.๒๔๙๕ ฝ่ายเสนาธิการกองทัพภาคที่ ๑ นายทหารติดต่อกรมผสมที่ ๒๑ (ส่วนประจำถิ่น), หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการกองทัพภาคที่ ๑
- พ.ศ.๒๔๙๗ รับพระราชทานยศพันเอก
- พ.ศ.๒๕๐๐ ประจำกรมยุทธศึกษาทหารบก
- พ.ศ.๒๕๐๑ รองเจ้ากรมส่งกำลังบำรุง
- พ.ศ.๒๕๐๓ เจ้ากรมพลาธิการทหารบก
- พ.ศ.๒๕๐๔ รับพระราชทานยศพลตรี เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก
- พ.ศ.๒๕๐๙ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายส่งกำลังบำรุง
รับพระราชทานยศพลโท
- พ.ศ.๒๕๑๐ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ
- พ.ศ.๒๕๑๓ - ๒๕๑๔ ผู้บัญชาการกองกำลังทหารไทยในเวียดนามใต้ (ผลัดที่๔)
- พ.ศ.๒๕๑๕ รองเสนาธิการทหารบก
- พ.ศ.๒๕๑๗ เสนาธิการทหารบก รับพระราชทานยศพลเอก
- พ.ศ.๒๕๑๙ รองผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารบก
- พ.ศ.๒๕๒๑ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รับพระราชทานยศพลเรือเอก
พลอากาศเอก
- พ.ศ.๒๕๒๒ รองนายกรัฐมนตรี
ราชการพิเศษ หรือตำแหน่งพิเศษ
- พ.ศ.๒๔๘๓ ราชการสนามกรณีสงครามอินโดจีน
- พ.ศ.๒๔๘๕ ราชการสนามกรณีสงครามมหาเอเชียบูรพา
- พ.ศ.๒๔๙๕ ราชการสงคราม ณ ประเทศเกาหลี
- พ.ศ.๒๕๐๔ ราชองครักษ์เวร
- พ.ศ.๒๕๑๓ ราชการสงคราม ณ ประเทศเวียดนาม
- พ.ศ.๒๕๑๕ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
- พ.ศ.๒๕๑๗ เสนาธิการกองอำนวยการรักษาความสงบทั่วไป
- พ.ศ.๒๕๑๘ นายทหารพิเศษ ประจำกองพลที่ ๑ รักษาพระองค์ นายทหารพิเศษ ประจำ
กรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็ก รักษาพระองค์
- พ.ศ.๒๕๑๙ ผู้อำนวยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ทั่วไป
นายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารม้าที่ ๑ รักษาพระองค์ และตุลาการศาลทหารสูงสุด
- พ.ศ.๒๕๒๐ นายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์
ประจำกรมทหารช่างที่ ๑ รักษาพระองค์ เป็นผู้อำนวยการรักษาพระนคร และเป็นสมาชิกสภานโยบายแห่งชาติ
- พ.ศ.๒๕๒๑ กรรมการสภาทหารผ่านศึกประเภทประจำการ ในวาระที่ ๑
เครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญที่ได้รับพระราชทาน
- พ.ศ.๒๔๘๔ เหรียญชัยสมรภูมิ
- พ.ศ.๒๔๙๑ จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก
- พ.ศ.๒๔๙๕ ตริตาภรณ์มงกุฎไทย
- พ.ศ.๒๔๙๖ เหรียญชัยสมรภูมิ (เกาหลี) ตริตาภรณ์ช้างเผือก เหรียญจักรมาลา
- พ.ศ.๒๕๐๔ ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก เหรียญชัยสมรภูมิ (เอเชีย)
- พ.ศ.๒๕๐๕ ประถมาภรณ์มงกุฎไทย
- พ.ศ.๒๕๐๗ ประถมาภรณ์ช้างเผือก เหรียญรัตนาภรณ์ ชั้น ๓
- พ.ศ.๒๕๑๐ มหาวชิรมงกุฎ
- พ.ศ.๒๕๑๑ ตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ เหรียญราชการชายแดน
- พ.ศ.๒๕๑๓ ทุติยจุลจอมเกล้า เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ ๒
- พ.ศ.๒๕๑๕ เหรียญชัยสมรภูมิ (เวียดนาม)
- พ.ศ.๒๕๑๖ เหรียญสมรภูมิ (เวียดนาม) (ประดับเครื่องหมายเปลวระเบิด) เหรียญราชการชายแดน
- พ.ศ.๒๕๑๘ เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ ๑ ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ
มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
- พ.ศ.๒๕๒๓ เข็มสมุทนาธิปัตย์กิตติมศักดิ์ เข็มนาวิกาธิปัตย์กิตติมศักดิ์
ผลงานที่สำคัญ
- พ.ศ.๒๕๑๓ - ๒๕๑๔ ปฏิบัติหน้าที่ผู้บังคับบัญชากองกำลังทหารไทย ณ สาธารณรัฐเวียดนามใต้ (ผลัดที่ ๔)
- พัฒนากองทัพบกทุกด้านบนพื้นฐานของนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ โดยเสริมสร้าง
กำลังรบให้สามารถเผชิญกับภัยคุกคามทั้งภายนอกและภายในประเทศ
- มีการริเริ่มแนวคิดในการจัดตั้งกองกำลังทหารพราน เป็นกำลังสำรอง เพื่อนำไปใช้ในการต่อสู้ป้องกันการก่อการร้าย




หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 23-02-2008, 02:15

(http://www.rta.mi.th/command/command22.jpg)

พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
ผู้บัญชาการทหารบก ลำดับที่ ๒๒
( ระหว่าง ๑ ตุลาคม ๒๕๒๑ - ๒๕ สิงหาคม ๒๕๒๔ )


--------------------------------------------------------------------------------

วันเกิด ๒๖ สิงหาคม ๒๔๖๓
เป็นบุตรหลวงวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง) และคุณแม่อ๊อด ติณสูลานนท์
การศึกษา
- พ.ศ.๒๔๘๐ จบการศึกษาชั้นมัธยม ๘ จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
- พ.ศ.๒๔๘๑ - ๒๔๘๔ หลักสูตรพิเศษโรงเรียนเทคนิคทหารบก (โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า)
- พ.ศ.๒๔๙๐ โรงเรียนนายทหารม้า
- พ.ศ.๒๔๙๕ โรงเรียนยานเกราะสหรัฐอเมริกา หลักสูตรผู้บังคับกองร้อย
- พ.ศ.๒๔๙๖ โรงเรียนยานเกราะสหรัฐอเมริกา หลักสูตรผู้บังคับกองพัน
- พ.ศ.๒๕๐๓ วิทยาลัยการทัพบก หลักสูตรพิเศษ ชุดที่ ๒
- พ.ศ.๒๕๐๙ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ ๙
ประวัติรับราชการ
- พ.ศ.๒๔๘๔ ผู้บังคับหมวดประจำกรมรถรบอินโดจีน ต่อมารับพระราชทาน
ยศนายร้อยตรี ประจำกรมรถรบ
- พ.ศ.๒๔๘๕ รับพระราชทานยศนายร้อยโท
- พ.ศ.๒๔๘๗ รับพระราชทานยศร้อยเอก
- พ.ศ.๒๔๘๙ ผู้บังคับกองร้อยที่ ๒ กองพันที่ ๑ กรมรถรบ
นายทหารฝึกหัดราชการโรงเรียนนายทหารม้า
- พ.ศ.๒๔๙๒ รักษาราชการผู้บังคับกองพันที่ ๑ กรมรถรบ
รับพระราชทานยศพันตรี
- พ.ศ.๒๔๙๓ ผู้บังคับกองร้อยที่ ๓ กองพันทหารม้าที่ ๔ จังหวัดอุตรดิตถ์
รองผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ ๔ รองผู้บังคับการ จังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์
- พ.ศ.๒๔๙๖ อาจารย์แผนกวิชายุทธวิธี กองการศึกษา โรงเรียนยานเกราะ กองพลน้อยทหารม้า (กรุงเทพฯ)
- พ.ศ.๒๔๙๗ รับพระราชทานยศพันโท
อาจารย์แผนกวิชาทหาร กองการศึกษา โรงเรียนยานเกราะ
กองพลน้อยทหารม้า ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ ๕ กรมทหารม้าที่ ๒ รักษาราชการอาจารย์แผนกวิชาทหาร
กองการศึกษา โรงเรียนยานเกราะ กองพลทหารม้าและรักษาราชการผู้บังคับกองพันที่ ๕ กรมทหารม้าที่ ๒
- พ.ศ.๒๔๙๙ รับพระราชทานยศพันเอก
- พ.ศ.๒๕๐๑ ผู้ช่วยผู้บัญชาการโรงเรียนทหารม้ายานเกราะ ศูนย์การทหารม้า
รองผู้บัญชาการโรงเรียนทหารม้ายานเกราะ ศูนย์การทหารม้า
- พ.ศ.๒๕๐๖ รองผู้บัญชาการโรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า
รองผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า และรองผู้บังคับการจังหวัด ทหารบกสระบุรี
- พ.ศ.๒๕๑๑ ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า และผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสระบุรี รับพระราชทานยศพลตรี
- พ.ศ.๒๕๑๒ นายทหารพิเศษประจำกรมทหารมหาดเล็กที่ ๑ รักษาพระองค์
- พ.ศ.๒๕๑๖ รองแม่ทัพภาคที่ ๒
- พ.ศ.๒๕๑๗ แม่ทัพภาคที่ ๒ รับพระราชทานยศพลโท
- พ.ศ.๒๕๒๐ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก รับพระราชทานยศพลเอก
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
- พ.ศ.๒๕๒๑ ผู้บัญชาการทหารบก
- พ.ศ.๒๕๒๒ - ๒๕๒๙ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
- พ.ศ.๒๕๒๓ - ๒๕๓๑ นายกรัฐมนตรี (๕ สมัย)
ราชการพิเศษ หรือตำแหน่งพิเศษ
- พ.ศ.๒๔๘๔ ราชการสนามกรณีสงครามอินโดจีน
- พ.ศ.๒๔๘๕ ราชการสนามกรณีสงครามมหาเอเชียบูรพา
- พ.ศ.๒๕๐๒ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ
- พ.ศ.๒๕๑๑ สมาชิกวุฒิสภา
- พ.ศ.๒๕๑๒ ราชองครักษ์เวร
นายทหารพิเศษประจำกรมทหารม้าที่ ๑ รักษาพระองค์
- พ.ศ.๒๕๑๕ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
- พ.ศ.๒๕๑๘ ราชองครักษ์พิเศษ
- พ.ศ.๒๕๒๑ นายทหารพิเศษประจำกรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษา
พระองค์ และนายทหารพิเศษประจำกรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์
- พ.ศ.๒๕๒๒ นายทหารพิเศษประจำกรมทหารปืนใหญ่ที่ ๑ รักษาพระองค์
- พ.ศ.๒๕๒๓ นายทหารพิเศษประจำกรมทหารราบที่ ๒๑ รักษาพระองค์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญที่ได้รับพระราชทาน
- พ.ศ.๒๔๘๔ เหรียญชัยสมรภูมิ (คราวสงครามอินโดจีน)
- พ.ศ.๒๔๙๑ จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย
- พ.ศ.๒๔๙๕ จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก
- พ.ศ.๒๔๙๖ ตริตาภรณ์มงกุฎไทย
- พ.ศ.๒๔๙๘ เหรียญจักรมาลา
- พ.ศ.๒๔๐๔ ตริตาภรณ์ช้างเผือก
- พ.ศ.๒๔๐๕ เหรียญชัยสมรภูมิ (สงครามมหาเอเชียบูรพา) และทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย
- พ.ศ.๒๕๑๒ ประถมาภรณ์มงกุฎไทย
- พ.ศ.๒๕๑๕ ประถมาภรณ์ช้างเผือก
- พ.ศ.๒๕๑๘ มหาวชิรมงกุฎ
- พ.ศ.๒๕๑๙ ทุติยจุลจอมเกล้า
- พ.ศ.๒๕๒๑ มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ เหรียญรัตนาภรณ์ ชั้นที่ ๓ และ
เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ ๑
- พ.ศ.๒๕๒๒ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันมีศักดิ์รามาธิบดี ชั้นที่ ๒ มหาโยธิน
- พ.ศ.๒๕๒๕ ปฐมจุลจอมเกล้า
- พ.ศ.๒๕๓๑ นพรัตน์ราชวราภรณ์
- พ.ศ.๒๕๓๓ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันมีศักดิ์รามาธิบดี ชั้นที่ ๑ เสนางคะบดี
ผลงานสำคัญ
- พ.ศ.๒๔๘๔ ร่วมรบในสงครามอินโดจีน
- พ.ศ.๒๔๘๕ ร่วมรบในสงครามมหาเอเชียบูรพา
- ขณะที่ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ ๒ ได้ริเริ่มแนวความคิดนโยบาย "การเมืองนำการทหาร" ซึ่งช่วยแก้ปัญหาการคุกคามจากผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ และสามารถดึงมวลชนมาเป็นแนวร่วมได้เป็นจำนวนมาก แนวคิดนี้เผยแพร่ไปสู่กองทัพภาคอื่น ๆ และกลายเป็นความคิดหลักของกองทัพบก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน และขยายออกไปสู่คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ ๖๖/๒๓ เรื่องนโยบายต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ ลง ๒๓ เมษายน ๒๕๒๓ ซึ่งนำไปสู่การยุติสงครามกลางเมืองลงอย่างเด็ดขาดในปี ๒๕๒๔
- ได้จัดตั้งโครงการสร้างงานในชนบท (กสช.) และจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐบาล และภาคเอกชน
เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน




หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: Caocao ที่ 23-02-2008, 03:07
รู้สึกว่าของหมัก มันน่าจะหวานกว่าของแม้วนะ แพ๊บๆ แพ๊บๆ :slime_p:


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: sleepless ที่ 23-02-2008, 06:50
คุณ Q นั่งแก้ต่างให้นายกสมัครตั้งแต่เย็นจนตี 2 ไม่เหนื่อยบ้างหรืออย่างไร
น่าชื่นใจแทนคุณสมัครจริงๆ ที่มีคนรักมากขนาดนี้

 :slime_agreed:


หัวข้อ: 'สมัคร' ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา : แต่ควรจะต้องไปไล่บี้ถามหาว่าใครฆ่าประชาชน
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 23-02-2008, 10:24
6 ตุลา ประชาธิปัตย์ยืนดูตำรวจ-ทหารฆ่าประชาชน  
http://webboard.mthai.com/58/2008-02-22/370649.html

(http://webboard.mthai.com/upload_images_new/2008-02-22/370649.jpg)

ทนดูทนฟังมาหลายวันด้วยความสะอิดสะเอียนเหลือกำลังกับลีลาและอาการของพรรคประชาธิปัตย์ ต่อกรณีเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองไทย ที่น่าเศร้าเสียใจและอภัยให้ไม่ได้ กับความโหดร้ายของฆาตรกรในเครื่องแบบตำรวจและทหาร ที่เข่นฆ่าล้างผลาญชีวิตนักศึกษาและประชาชนผู้บริสุทธิ์ อย่างบ้าคลั่ง

นายสมัคร สุนทรเวช จะเห็นคนตายกี่ศพ ไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับ ใครฆ่าประชาชน

ป่วยการที่จะมาไล่บี้ถามหาคาดคั้นกับคนเห็นเหตุการณ์ว่ามีคนตายกี่คนกันแน่ แต่ควรจะต้องไปไล่บี้ถามหาว่าใครฆ่าประชาชน  ต่างหากเล่า

ที่สำคัญกว่าจำนวนคนตายว่ากี่ราย กี่ศพ และใครฆ่าประชาชน ก็คือ ทำไมรัฐบาล ผู้บริหารบ้านเมืองในขณะนั้นไม่ป้องกัน ไม่สกัดกั้น ไม่ยับยั้งการฆ่าประชาชน

จากบันทึกของคนเดือนตุลา ใน เวปไซต์ www.2519.net ได้ลำดับเหตุการณ์ก่อนจะเกิดกรณี 6 ตุลาคม 2519 ว่าเค้าลางความเลวร้ายและรุนแรง สัญญาณแห่งหายนะ มีแนวโน้มให้เห็นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2519 ซึ่งมีการโฆษณาชวนเชื่อใส่ร้ายขบวนการนักศึกษาที่กำลังเติบโตและขยายตัวอย่างรวดเร็ว อย่างหนักหน่วง

นับจากเดือนมิถุนายน ถึง เดือนตุลาคม เป็นเวลา 4 เดือนเต็ม ที่มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เสมือนเป็นการยั่วยุให้เกิดการปะทะของนักศึกษา กับกลุ่มมวลชนที่ได้รับการฟูมฟักจากทหารบางกลุ่ม และใช้สื่อวิทยุยานเกราะ และสื่อหนังสือพิมพ์ดาวสยาม และ บางกอกโพสต์ โฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่า ขบวนการนักศึกษาเป็นผู้มีเจตนาร้ายต่อประเทศชาติ และพระมหากษัตริย์ เนื่องจากเป็นผู้ฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต์ ที่มีเป้าหมายโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์

หลายครั้งที่มีการเอ่ยอ้างถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มักจะมีตัวละครหลักอยู่เพียง 3 ตัว คือ นักศึกษา ตำรวจ-ทหาร และ สื่อ ไม่ทราบว่าเป็นความตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงรัฐบาลที่บริหารราชการแผ่นดินในห้วงเวลานั้น หรือเป็นเพราะไม่มีใครให้ค่า ให้ราคารัฐบาลในขณะนั้น ทั้งๆ ที่รัฐบาลเป็นผู้มีหน้าที่บริหารประเทศให้เกิดความสงบเรียบร้อย และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ให้ได้รับความปลอดภัย

เป็นไปได้อย่างไรที่รัฐบาลในขณะนั้น ปล่อยให้มีการใช้สื่อของรัฐและสื่อเอกชน ปลุกระดมมวลชน ให้เข้าใจผิดต่อขบวนการนักศึกษา ว่าเป็นคอมมิวนิสต์ เป็นผู้มีแผนการโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ และ มีพฤติกรรมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริงสักเรื่องเดียว

อีกทั้งรัฐบาลยังดำเนินการจับกุมแกนนำนักศึกษา ด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามที่สื่อตั้งข้อกล่าวหา ไปคุมขัง แต่ปฏิเสธที่จะทำตามข้อเรียกร้องของนักศึกษาที่ให้ขับจอมพลถนอม กิตติขจร ในคราบของเณร ออกจากประเทศไทย โดยอ้างว่าเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญของจอมพลถนอม ที่จะอยู่ในประเทศไทยได้ ทั้งๆ ที่จอมพลถนอม เป็นผู้ทำลายระบบประชาธิปไตย และทำลายรัฐธรรมนูญ มาก่อน ท่าทีและการดำเนินการของรัฐบาล จึงเท่ากับเป็นการจงใจยั่วยุให้ขบวนการนักศึกษาลุกฮือขึ้นมานั่นเอง

รัฐบาลที่ทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน แต่ไม่สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ และไม่สามารคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ ในขณะนั้น ก็คือ รัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำ มีม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี หรือเรียกตามภาษาการเมืองทั่วไปว่า เป็นรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ หรือ รัฐ บาลหม่อมเสนีย์ นั่นเอง

จากลำดับเหตุการณ์กรณี 6 ตุลาคม 2519 ที่ปรากฎอยู่ในเวปไซต์ www.2519. net ระบุว่าเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับ เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 อย่างยิ่ง กล่าวคือ หลังจากที่ขบวนการนิสิตนักศึกษา ได้รับชัยชนะจากการประท้วงขับไล่จอมพลถนอม กิตติขจร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้สำเร็จ แม้จะมีการสูญเสียชีวิตและเลือดเนื้อของนักศึกษาและประชาชนผู้บริสุทธิ์ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับผลตอบแทนที่ได้รับคือ การได้ประชาธิปไตยกลับคืนมาสู่ประเทศไทย หลังจากที่ห่างหายไปนานกว่าสิบปี ที่อำนาจอธิปไตย ไม่ได้เป็นของปวงชนชาวไทย แต่ไปตกอยู่ในมือทรราชนับเนื่องจากจอมพล สฤษฎิ์ ธนะรัชต์ จนถึงจอมพลถนอม กิตติขจร และ จอมพลประภาส จารุเสถียร

หลังจากที่พลังนักศึกษาและประชาชน ร่วมกันขับไล่ทรราชออกไปจากประเทศไทยได้แล้ว ขบวนการนักศึกษาหัวก้าวหน้า ก็เติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นกลุ่มพลังที่สำคัญในการคานอำนาจ เป็นดุลอำนาจใหม่ของสังคมไทย ที่ทำให้กลุ่มอำนาจเดิมซึ่งประกอบด้วยข้าราชการ ตำรวจ และทหาร ที่เคยได้ประโยชน์จากการที่มีอำนาจอยู่ในมือและทำอะไรได้ตามใจชอบ ต้องเสียประโยชน์ จากากรถูกขบวนการนักศึกษาตรวจสอบ และเปิดโปง

ความไม่พอใจและแผนการที่จะกำจัดขบวนการนักศึกษาก่อรูปก่อร่างขึ้นมา ในหมู่นาย ทหารและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ที่พ่ายแพ้เสียอำนาจไปในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ด้วยการจัดตั้งมวลชน อาทิ ลูกเสือชาวบ้าน กลุ่มนวพล กลุ่มกระทิงแดง ซึ่งเป็นนักเรียนอาชีวะ นัก เรียนช่างกล ขึ้นมาเป็นกลุ่มพลัง ก่อกวนบ้านเมือง หาเรื่องทำร้ายนักศึกษา สร้างสถานการณ์ความไม่สงบขึ้นในประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้ตำรวจและทหารได้ออกมาแสดงบทบาท และปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดกั้นการเติบโตของขบวนการนักศึกษา ไปถึงขั้นทำลายล้างอย่างสิ้นเชิง

เหตุการณ์ นิสิตนักศึกษาและประชาชนนับแสนเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย เมื่อ 14 ตุลาคม 2516 จบลงด้วยชัยชนะเป็นของประชาชน หลังจากที่จอมพลถนอม กิตติขจร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเดินทางออกนอกประเทศ

แต่เพียง 3 ปี ชัยชนะของนักศึกษาและประชาชน เมื่อ 14 ตุลาคม 2516 ก็พลิกผันแปรเปลี่ยนเป็นความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับเมื่อถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2519 โดยมีการใช้เหตุการณ์ชุมนุมประท้วงไม่ให้จอมพลถนอม กิตติขจร เดินทางกลับประเทศไทย ของขบวนการนักศึกษา มาเป็นเงื่อนไข และกล่าวหาบิดเบือนว่านักศึกษาไม่ได้ต้องการประชาธิปไตย ไม่ได้คัดค้านจอมพลถนอม แต่ มีเป้าหมายโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ และหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

วันที่ 29 สิงหาคม 2519 บุตรสาวจอมพลถนอม เข้าพบม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่บ้านพัก เพื่อเจรจาขอให้จอมพลถนอม กลับประเทศไทย เพื่อบวช

วันที่ 31 สิงหาคม 2519 คณะรัฐมนตรี มีมติไม่ให้จอมพลถนอม เดินทางกลับประเทศไทย

วันที่ 2 กันยายน 2519 แนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ติดใบปลิวต่อต้านการเดินทางกลับประเทศไทยของจอมพลถนอม โดยมีขบวนการนักศึกษาเข้าร่วม

วันที่ 3 กันยายน 2519 นายสมัคร สุนทรเวช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่ามีมือที่สามจะสวมรอยเอาการกลับมาของจอมพลถนอม เป็นเครื่องมือก่อเหตุร้าย

เป็นการปรากฎชื่อ นายสมัคร สุนทรเวช ครั้งแรกในบันทึกลำดับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ในเวปไซต์ www.2519.net ในฐานะผู้กล่าวเตือนให้ระมัดระวัง “มือที่สาม” จะก่อเหตุร้าย มิใช่ในฐานะผู้ก่อเหตุร้าย ทั้งก่อด้วยตนเอง หรือสนับสนุน และเป็นการปรากฎชื่อของนายสมัคร สุนทรเวช เพียงครั้งเดียวในบันทึกลำดับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519

แม้รัฐบาลจะมีมติไม่เห็นด้วยกับการกลับประเทศไทยของจอมพลถนอม กิตติขจร แต่ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2519 จอมพลถนอม กิตติขจร ในคราบของสามเณร ก็อาศัยผ้าเหลืองห่มตัว เดินทางจากสิงคโปร์ มาถึงวัดบวรนิเวศ เมื่อเวลา 10.00 น. โดยมีนายทหารและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ไปรอต้อนรับ

พฤติการณ์ของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่แตกต่างจากปากว่าตาขยิบ ทั้งๆ ที่มีมติคณะรัฐมนตรีว่าไม่ให้เข้าประเทศไทย แต่เมื่อจอมพลถนอม เดินทางมาถึง กลับมีทหารชั้นผู้ใหญ่ไปรอต้อนรับและให้ความคุ้มครอง อีกทั้งวิทยุยานเกราะของทหาร ยังโจมตีนักศึกษาที่ต่อต้านคัดค้าน ว่าเป็นผู้ทำลายศาสนา

โฆษกรัฐบาลแถลงว่าจอมพลถนอม เข้ามาบวชตามที่ได้ขอรัฐบาลไว้แล้ว และ น่าจะพิจารณาตัวเองได้หากเกิดความไม่สงบขึ้น

รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะนั้น ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะขับจอมพลถนอม ออกนอกประเทศ ตรงกันข้ามกลับเปิดโอกาสให้จอมพลถนอม พำนักอยู่ในประเทศไทย ได้ตามความพึงพอใจ และไม่มีมาตรการใดๆ กำกับดูแลเป็นพิเศษ แต่ปล่อยให้เป็นไปตามวินิจฉัยของจอมพลถนอม เอง

ท่าทีของรัฐบาลต่อการกลับมาเข้ามาของจอมพลถนอม ทำให้ขบวนการนักศึกษาไม่พอใจ เพราะจอมพลถนอม คือหัวหน้าทรราชที่ทำลายประชาธิปไตยของประเทศไทย ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของประชาชน

วันที่ 21 กันยายน 2519 นายสุรินทร์ มาศดิตถ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงว่ารัฐบาลมีมติจะให้จอมพลถนอม ออกไปนอกประเทศโดยเร็ว

วันที่ 23 กันยายน 2519 ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในขณะที่ทหารเตรียมกำลังเต็มอัตราศึก และ สถานีวิทยุยานเกราะออกอากาศให้ตำรวจจับนักศึกษาที่ติดโปสเตอร์ต่อต้านจอมพลถนอม

วันที่ 24 กันยายน 2519 พนักงานการไฟฟ้านครปฐม 2 คน ที่เป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ถูกสังหารและแขวนคออย่างโหด***ม

วันที่ 25 กันยายน 2519 ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี อีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่ขบวนการนักศึกษา และ แนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ เรียกร้องให้ขับจอมพลถนอม ออกนอกประเทศ และ เร่งจับฆาตรกรสังหารพนักงานการไฟฟ้า โดยเร็ว

วันที่ 30 กันยายน 2519 ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าข้อเรียกร้องให้พระถนอม ออกนอกประเทศนั้น รัฐบาลทำไม่ได้ เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญ

ทั้งๆ ที่รัฐบาลมีมติไม่ให้จอมพลถนอม เข้าประเทศ แต่ก็ไม่ขัดขวาง และดำเนินคดี เมื่อจอมพลถนอม แอบเข้าประเทศ แล้วยังมาบอกว่าไม่สามารถขับออกไปได้ เพราะขัดรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้ขบวนการนักศึกษา และญาติวีรชนที่เสียชีวิตเมื่อ 14 ตุลาคม 2516 ประท้วงกันอย่างต่อเนื่อง

4 ตุลาคม 2519 ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่ามีตำรวจกลุ่มหนึ่ง เป็นผู้สังหารโหดพนักงานการไฟฟ้านครปฐม ที่ต่อต้านจอมพลถนอม ในขณะที่นักศึกษามหาวิทยา ลัยธรรมศาสตร์ แสดงละครล้อเลียนการสังหารโหดพนักงานไฟฟ้านครปฐม ที่ถูกฆ่าแขวนคอ

การแสดงละครของนักศึกษา ถูกสถานีวิทยุยานเกราะบิดเบือนให้ประชาชนเข้าใจผิดและหลงเชื่อว่านักศึกษาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และมีแผนการโค่นล้มสถา บันพระมหากษัตริย์ โดยบอกว่า ผู้แสดงเป็นคนถูกแขวนคอมีหน้าคล้ายเจ้าฟ้าชาย

5 ตุลาคม 2519 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยไม่มีนายสมัคร สุนทรเวช ร่วมเป็นรัฐมนตรี

หนังสือพิมพ์ดาวสยาม และหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เผยแพร่ภาพการแสดงละครล้อการแขวนคอของนักศึกษา โดยพาดหัวข่าวเป็นเชิงว่าการแสดงดังกล่าวเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

สถานีวิทยุยานเกราะ โดยพ.อ.อุทาร สนิทวงศ์ ประกาศว่า “เดี๋ยวนี้การชุมนุมที่ธรรมศาสตร์ไม่ใช่เป็นเรื่องต่อต้านพระถนอมแล้ว หากแต่เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” และ “ขอให้รัฐบบาลจัดการกับผู้ทรยศเหล่านี้โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันการนองเลือดที่อาจจะเกิดขึ้น หากให้ประชาชนชุมนุมกันแล้ว อาจมีการนองเลือดขึ้นก็ได้”

เวลา 21.30 น. นายประยูร อัครบวร รองเลขาธิการฝ่ายการเมือง ของศนนท. ได้นำนักศึกษา 2 คนที่แสดงเป็นพนักงานการไฟฟ้าที่ถูกแขวนคอ มาแถลงข่าว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่า “ทางนักศึกษาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมสถานีวิทยุยานเกราะและหนังสือพิมพ์ดาวสยาม จึงให้ร้ายป้ายสีบิดเบือนให้เป็นอย่างอื่น โดยดึงเอาสถาบันที่เคารพมาเกี่ยวข้อง”

ถัดมาอีกเพียง 10 นาที คือ เวลา 21.40 น. รัฐบาล ก็ออกแถลงการณ์ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ว่า “ตามที่มีการแสดงละครที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ศกนี้ มีลักษณะเป็นการหมิ่นหรือการแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อองค์รัชทายาท รัฐบาลได้สั่งการให้กรมตำรวจดำเนินการสอบสวนกรณีนี้โดยด่วนแล้ว”

หลังจากนั้น สถานีวิทยุยานเกราะ ก็ปลุกระดมมวลชนและลูกเสือชาวบ้านให้ไปรวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการจับกุมผู้กระทำการหมิ่นองค์สยามมกุฎราชกุมารมาลงโทษ และ กล่าวหานักศึกษาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตลอดทั้งคืนจนถึงเช้าวันที่ 6 ตุลาคม 2519

6 ตุลาคม 2519 เวลา 08.10 น. นาทีแห่งการเข่นฆ่านักศึกษาประชาชนผู้บริสุทธิ์ ก็อุบัติขึ้น โดย พล.ต.ต.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ บัญชาการให้ตำรวจตระเวณชายแดน หรือ ตชด. พร้อมอาวุธสงครามครบมือบุกเข้าในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีนักศึกษาชุมนุมกันอยู่ประมาณ 3,000 คน

การระดมยิงเข้าใส่ของตชด. ทำให้นักศึกษาเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ในขณะที่ส่วนใหญ่ยอมจำนน ถูกจับถอดเสื้อมัดมือไพล่หลัง นอนกลางสนามฟุตบอลที่ร้อนระอุ แต่อีกส่วนหนึ่งตกใจวิ่งหนีออกด้านหน้าประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฝั่งสนามหลวง ก็ถูกรุมประชา ทัณฑ์จนบาดเจ็บเสียชีวิต บางรายถูกจับแขวนคอ บางรายถูกเผาสด

3 ชั่วโมงที่ล้อมปราบและเข่นฆ่าอย่างอำมหิตผ่านพ้นไป มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ นักศึกษาที่รอดตายกว่าพันชีวิต ตกอยู่ในกรงเล็บของมัจจุราชที่เรียกว่า ตำรวจและทหาร โดยมีศพเพื่อนๆ ล้มตายอยู่หลายคนและหลายจุด เป็นพยานหลักฐานความโหดร้ายของผู้ฆ่าและผู้สั่งฆ่า

11.50 น. สำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่านายกรัฐมนตรีมีบัญชาให้ตั้งกองบัญชาการรักษาความสงบเรียบร้อยขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล

12.00 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์ว่า 1.เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพสยามมกุฎราชกุมารได้แล้ว 6 คน จะดำเนินการฟ้องศาลโดยเร็ว 2. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมสถานการณ์การปะทะกันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้แล้ว 3. รัฐบาลได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด

เป็นแถลงการณ์ที่บ่งบอกถึงความเด็ดขาดของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้เลือกข้างแล้วว่าจะยืนอยู่ตรงข้ามกับนิสิตนึกศึกษาประชาชน ที่ถูกเข่นฆ่าล้มตายในมหาวิท ยาลัยธรรมศาสตร์ และดำเนินการตามข้อเรียกร้องของสถานีวิทยุยานเกราะ และลูก เสือชาวบ้านที่ถูกปลุกระดมขึ้นมา ทุกประการ ทั้งยังกล่าวหาว่านักศึกษา ดำเนินการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งต่อมามีพยานหลักฐานปรากฎชัดว่านักศึกษา เป็นผู้ถูกใส่ร้าย โดยสถานีวิทยุยานเกราะของทหาร เป็นผู้บิดเบือนข้อมูลข่าวสารหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อด้วยความเข้าใจผิด

แต่อีกเพียง 6 ชั่วโมงต่อมา พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของรัฐบาลหม่อมเสนีย์ ก็ประกาศยึดอำนาจปกครองแผ่นดิน เป็นการสิ้นสุดวาระของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ และนำประเทศไทยเข้าสู่ยุคสมัยของเผด็จการอีกครั้งหนึ่ง

จากลำดับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ของคนเดือนตุลา ในเวปไซต์ www.2519.net ที่ได้นำมาบอกกล่าวข้างต้นนี้ มีข้อพึงสังเกตและตั้งคำถามหลายประการด้วยกัน ดังนี้

1. พึงสังเกตว่า มีการใช้สื่อมวลชน ได้แก่วิทยุ และหนังสือพิมพ์ เป็นเครื่องมือปลุกระดมมวลชน และเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ให้ประชาชนหลงผิด เข้าข่ายการโฆษณาชวนเชื่อ ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง แบ่งแยกคนในชาติเป็นฝักฝ่าย และทำร้ายซึ่งกันและกัน โดยขาดสติ ไม่ยั้งคิด ซึ่งวิธีการเช่นนี้ ได้ถูกนำมาใช้โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล และสื่อเครือข่ายผู้จัดการ จนทำให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติ อย่างรุนแรง และกลายเป็นเงื่อนไขให้ทหารก่อการรัฐประหาร เมื่อ 19 กันยายน 2549

2. พึงสังเกตว่า มีการแอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อประโยชน์ทางการเมือง และใส่ร้ายผู้อื่น ด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และไม่จงรักภักดี ในทุกครั้งที่มีการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองและยึดอำนาจปกครองแผ่นดิน

3. พึงตั้งคำถามแก่พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่บอกว่าแม้จะมีอายุเพียง 11 ปี ในขณะเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 แต่ก็ศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองไทย มาเป็นอย่างดี และ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม ในห้วงเวลาที่มีการปลุกระดมมวลชนสร้างความแตกแยกให้คนในชาติ และ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในห้วงเวลาที่มีการเข่นฆ่านักศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า...

เหตุใด รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่หาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น ทั้งๆ ที่มีเค้าลางมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2519 และมีความพยายามที่จะก่อเหตุวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองมาโดยตลอด

เหตุใด รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงปล่อยให้จอมพลถนอม เข้ามาในประเทศไทยได้ และไม่ดำเนินการกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ไปรอต้อนรับและคุ้มครองความปลอดภัยให้จอมพลถนอม ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดมติคณะรัฐมนตรี

เหตุใด รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่เชื่อนายสมัคร สุนทรเวช ว่าจะมีการใช้การเดินทางกลับประเทศไทยของจอมพลถนอม เป็นเงื่อนไขสร้างความวุ่นวายขึ้นในประเทศ

เหตุใด รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่ขับจอมพลถนอม ออกนอกประเทศ ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะเป็นชนวนให้นักศึกษาชุมนุมประท้วงและมีโอกาสที่จะเกิดการปะทะกันได้โดยง่าย เนื่องจากมี “มือที่สาม” รอสร้างสถานการณ์อยู่แล้ว

เหตุใด รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงพูดจาภาษาเดียวกับสถานีวิทยุยานเกราะ กล่าวหาว่านักศึกษาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

เหตุใด รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่ดำเนินการกับสถานีวิทยุยานเกราะ ซึ่งดำเนิน การปลุกระดม สร้างความแตกแยกให้แก่คนในชาติ ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

เหตุใด รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ โดยอม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของทหาร และตำรวจ จึงไม่ออกคำสั่งหยุดการเข่นฆ่านักศึกษา ของตำรวจและทหาร แต่กลับปล่อยให้มีการล้อมปราบและสังหารโหด ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำให้มีผู้ล้มตายและบาดเจ็บจำนวนมาก

ต้องถามว่า พล.ต.ต.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ ได้รับคำสั่งจากใคร จึงสั่งการให้ตชด. บุกเข้าไปยิงนักศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ต้องถามว่า ในฐานะรมว.มหาดไทย ซึ่งกำกับดูแลกรมตำรวจ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดำเนินการอย่างไรบ้าง เมื่อเห็นตำรวจฆ่านักศึกษา

ต้องถามว่า นายชวน หลีกภัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในขณะนั้น แสดงบทบาท ท่าทีอย่างไรเมื่อเห็นการประหารโหดนักศึกษา ด้วยเหตุที่เชื่อว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ต้องถามว่า ในขณะที่นักศึกษาถูกล้อมปราบและเข่นฆ่า รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงบทบาทอย่างไรบ้าง ต่อการทำหน้าที่ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และรักษาความสงบเรียบร้อยของคนในชาติ

ต้องถามว่า นับแต่การสังหารโหดเริ่มต้นเมื่อเวลา 08.10 น. จนถึง 11.50 น. ที่รัฐบาลแถลงว่าได้ตั้งกองบัญชาการรักษาความสงบเรียบร้อยขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมงที่ตำรวจและทหารใช้อาวุธสงครามสังหารโหดนักศึกษา รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกคำสั่งให้ตำรวจและทหารหยุดปฏิบัติการ บ้างหรือไม่ และมีรัฐมนตรีคนใด ไปดูเหตุการณ์ สถานการณ์ในพื้นที่หรือไม่

ต้องถามว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ศึกษาประวัติศาสตร์การบริหารราชการแผ่นดิน ในห้วงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปเป็นรัฐบาลทั้งก่อนเกิดเหตุและวันเกิดเหตุ 6 ตุลาคม 2519 บ้างหรือไม่ และมีความเห็นอย่างไรกับบทบาทท่าทีของพรรค และรัฐมนตรีของพรรค ที่คิดแต่หนีเพื่อเอาตัวรอด และปล่อยให้นักศึกษาประชาชน ถูกเข่นฆ่าล้มตายเป็นใบไม้ร่วง

ต้องถามว่า หลังการเข่นฆ่านักศึกษาผ่านพ้นไป ทำไมรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงออกแถลงการณ์ ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่ารัฐบาลเลือกที่จะยืนฝั่งตรงข้ามกับนักศึกษา ซึ่งเป็นผู้พ่ายแพ้ในวันนั้น ด้วยการจะดำเนินการส่งฟ้องผู้ถูกตำรวจจับกุมข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยเร็ว ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่ว่าเป็นข้อหาที่เกิดขึ้นจากการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารของสื่อ มิใช่เกิดจากพฤติกรรมของนักศึกษา จริงๆ

ต้องถามว่า หลังจากเหตุการณ์นองเลือดผ่านพ้นไป เหตุใด พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงก่อการรัฐประหาร ยึดอำนาจปกครองแผ่นดิน ล้มรัฐบาลที่ตัวเองเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปด้วย

คำถามข้อสุดท้ายนี้ พรรคประชาธิปัตย์ อาจจะตอบไม่ได้ในวันนั้น แต่วันนี้ พรรคประชา ธิปัตย์ น่าจะตอบได้แล้ว เพราะมีช่องทางที่จะค้นหาความจริงได้แล้ว เนื่องจากขณะนี้บุคคลในครอบครัวของพล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ คือ พล.อ.วินัย ภัทยิกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม เลขาธิการคมช. เป็นนายทหารที่รู้เห็นเหตุการณ์ในครั้งนั้น ได้เข้ามามีความสัมพันธ์อันดีกับพรรคประชา ธิปัตย์ ในฐานะพ่อของส.ส.สกลธี ภัทยิกุล ส.ส.กรุงเทพฯ ของพรรคประชาธิปัตย์

ไม่น่าเชื่อว่า เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่เกิดขึ้นมาในช่วงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล และมีคำถามมากมายเกี่ยวกับบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์ ในเวลานั้น ที่ยังไม่มีคำตอบจวบจนวันนี้ จะหวนกลับมาอีกครั้งจากการขยายประเด็นของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อจะเล่นงาน นายสมัคร สุนทรเวช แต่ดูเหมือนว่า รายการนี้จะเป็นการขว้างงูไม่พ้นคอ

ในขณะที่ นายสมัคร สุนทรเวช ต้องตอบ 1 คำถามว่าเหตุใดจึงพูดว่าเห็นคนตาย 1 คน

แต่พรรคประชาธิปัตย์ ต้องตอบให้ได้ว่าทำไมจึงไม่ป้องกัน และไม่สกัดกั้นการเข่นฆ่านักศึกษาประชาชน  

อ่านประวัติศาสตร์ 6 ตุลาคม 2519 จบลงเที่ยวนี้ ผมเชื่อแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์ รู้ดีที่สุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 โดยเฉพาะนายชวน หลีกภัย  ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ ตั้งแต่ต้นจนจบ

เพราะฉะนั้น หากใครอยากจะถาม อยากจะรู้อะไรเกี่ยวกับ 6 ตุลาคม 2519 ต้องถามพรรคประชาธิปัตย์ จะได้คำตอบดีที่สุด

แต่อย่าลืมตอบคำถามหลายข้อของผมด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: <<<<สมัคร อายุ 73 .. ยังไงก็ต้องเรียก ท่านเทพทักษิณ ว่า "นายพ่อ" >>>>
เริ่มหัวข้อโดย: Sweet Chin Music ที่ 23-02-2008, 11:22
:slime_smile2: รูปนี้ แทน .. ด๊ายป่ะฮะ

(http://www.stonekid.com/uploads/mh111.jpg)

 :slime_fighto:  คนไทยทุกคน ...จะต้องอยุ่ ใต้ ฝ่าเท้า ลุง สมัคร ของพวกเรา..ชาวพ.ป.ช.
เพราะ ลุงสมัคร เปรียบเหมือน ลูก ท่านเทพฯ ทักษิณ ...อีกที (งง มั๊ย) :slime_doubt:
 :slime_sleeping:

หุหุ คุณลูกหิน ช่างสรรหาภาพมาจริงๆ

ภาพนี้อะผมมีแล้วครับ :slime_mad:


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 23-02-2008, 12:27
ประภาสโดนไล่ไปอยู่ไต้หวัน แต่แอบหลบเข้าประเทศก่อนโดนขับไล่ออกไปอีกครั้งในวันที่ 22 ก่อนตุลา
ไม่รู้เอาเวลาที่ไหนมาแต่งเต็มยศเป็นแบบให้นายสมัครถ่ายรูปด้วย โดยข้อเท็จจริงแม้จอมพลถนอม จอม
พลประภาส พันเอกณรงค์ จะเป็นเผด็จการ แต่ก็ไม่เคยทรยศต่อพระมหากษัตริย์ไทย ดังนั้นการใช้คำว่า
ทรราชย์สำหรับสามคนนี้เป็นการใช้คำที่ไม่ถูกต้อง


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: login not found ที่ 23-02-2008, 12:40
^
^
เxี้ยแม้วคนเดียวที่เหมาะสมกับคำว่า "ทรราช" ใช่หรือเปล่าครับ


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 23-02-2008, 12:47
ไอ้หมักเป็นอัลไซเมอร์หรือนี่

ท่าทางจะแก่แล้วจริงๆ :mrgreen:




หัวข้อ: Re: 'สมัคร' ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา : แต่ควรจะต้องไปไล่บี้ถามหาว่าใครฆ่าประชาชน
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 23-02-2008, 19:32
6 ตุลา ประชาธิปัตย์ยืนดูตำรวจ-ทหารฆ่าประชาชน  
http://webboard.mthai.com/58/2008-02-22/370649.html

(http://webboard.mthai.com/upload_images_new/2008-02-22/370649.jpg)

ทนดูทนฟังมาหลายวันด้วยความสะอิดสะเอียนเหลือกำลังกับลีลาและอาการของพรรคประชาธิปัตย์ ต่อกรณีเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองไทย ที่น่าเศร้าเสียใจและอภัยให้ไม่ได้ กับความโหดร้ายของฆาตรกรในเครื่องแบบตำรวจและทหาร ที่เข่นฆ่าล้างผลาญชีวิตนักศึกษาและประชาชนผู้บริสุทธิ์ อย่างบ้าคลั่ง

นายสมัคร สุนทรเวช จะเห็นคนตายกี่ศพ ไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับ ใครฆ่าประชาชน

ป่วยการที่จะมาไล่บี้ถามหาคาดคั้นกับคนเห็นเหตุการณ์ว่ามีคนตายกี่คนกันแน่ แต่ควรจะต้องไปไล่บี้ถามหาว่าใครฆ่าประชาชน  ต่างหากเล่า

ที่สำคัญกว่าจำนวนคนตายว่ากี่ราย กี่ศพ และใครฆ่าประชาชน ก็คือ ทำไมรัฐบาล ผู้บริหารบ้านเมืองในขณะนั้นไม่ป้องกัน ไม่สกัดกั้น ไม่ยับยั้งการฆ่าประชาชน

จากบันทึกของคนเดือนตุลา ใน เวปไซต์ www.2519.net ได้ลำดับเหตุการณ์ก่อนจะเกิดกรณี 6 ตุลาคม 2519 ว่าเค้าลางความเลวร้ายและรุนแรง สัญญาณแห่งหายนะ มีแนวโน้มให้เห็นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2519 ซึ่งมีการโฆษณาชวนเชื่อใส่ร้ายขบวนการนักศึกษาที่กำลังเติบโตและขยายตัวอย่างรวดเร็ว อย่างหนักหน่วง

นับจากเดือนมิถุนายน ถึง เดือนตุลาคม เป็นเวลา 4 เดือนเต็ม ที่มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เสมือนเป็นการยั่วยุให้เกิดการปะทะของนักศึกษา กับกลุ่มมวลชนที่ได้รับการฟูมฟักจากทหารบางกลุ่ม และใช้สื่อวิทยุยานเกราะ และสื่อหนังสือพิมพ์ดาวสยาม และ บางกอกโพสต์ โฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่า ขบวนการนักศึกษาเป็นผู้มีเจตนาร้ายต่อประเทศชาติ และพระมหากษัตริย์ เนื่องจากเป็นผู้ฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต์ ที่มีเป้าหมายโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์

หลายครั้งที่มีการเอ่ยอ้างถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มักจะมีตัวละครหลักอยู่เพียง 3 ตัว คือ นักศึกษา ตำรวจ-ทหาร และ สื่อ ไม่ทราบว่าเป็นความตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงรัฐบาลที่บริหารราชการแผ่นดินในห้วงเวลานั้น หรือเป็นเพราะไม่มีใครให้ค่า ให้ราคารัฐบาลในขณะนั้น ทั้งๆ ที่รัฐบาลเป็นผู้มีหน้าที่บริหารประเทศให้เกิดความสงบเรียบร้อย และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ให้ได้รับความปลอดภัย

เป็นไปได้อย่างไรที่รัฐบาลในขณะนั้น ปล่อยให้มีการใช้สื่อของรัฐและสื่อเอกชน ปลุกระดมมวลชน ให้เข้าใจผิดต่อขบวนการนักศึกษา ว่าเป็นคอมมิวนิสต์ เป็นผู้มีแผนการโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ และ มีพฤติกรรมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริงสักเรื่องเดียว

อีกทั้งรัฐบาลยังดำเนินการจับกุมแกนนำนักศึกษา ด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามที่สื่อตั้งข้อกล่าวหา ไปคุมขัง แต่ปฏิเสธที่จะทำตามข้อเรียกร้องของนักศึกษาที่ให้ขับจอมพลถนอม กิตติขจร ในคราบของเณร ออกจากประเทศไทย โดยอ้างว่าเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญของจอมพลถนอม ที่จะอยู่ในประเทศไทยได้ ทั้งๆ ที่จอมพลถนอม เป็นผู้ทำลายระบบประชาธิปไตย และทำลายรัฐธรรมนูญ มาก่อน ท่าทีและการดำเนินการของรัฐบาล จึงเท่ากับเป็นการจงใจยั่วยุให้ขบวนการนักศึกษาลุกฮือขึ้นมานั่นเอง

รัฐบาลที่ทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน แต่ไม่สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ และไม่สามารคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ ในขณะนั้น ก็คือ รัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำ มีม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี หรือเรียกตามภาษาการเมืองทั่วไปว่า เป็นรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ หรือ รัฐ บาลหม่อมเสนีย์ นั่นเอง

จากลำดับเหตุการณ์กรณี 6 ตุลาคม 2519 ที่ปรากฎอยู่ในเวปไซต์ www.2519. net ระบุว่าเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับ เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 อย่างยิ่ง กล่าวคือ หลังจากที่ขบวนการนิสิตนักศึกษา ได้รับชัยชนะจากการประท้วงขับไล่จอมพลถนอม กิตติขจร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้สำเร็จ แม้จะมีการสูญเสียชีวิตและเลือดเนื้อของนักศึกษาและประชาชนผู้บริสุทธิ์ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับผลตอบแทนที่ได้รับคือ การได้ประชาธิปไตยกลับคืนมาสู่ประเทศไทย หลังจากที่ห่างหายไปนานกว่าสิบปี ที่อำนาจอธิปไตย ไม่ได้เป็นของปวงชนชาวไทย แต่ไปตกอยู่ในมือทรราชนับเนื่องจากจอมพล สฤษฎิ์ ธนะรัชต์ จนถึงจอมพลถนอม กิตติขจร และ จอมพลประภาส จารุเสถียร

หลังจากที่พลังนักศึกษาและประชาชน ร่วมกันขับไล่ทรราชออกไปจากประเทศไทยได้แล้ว ขบวนการนักศึกษาหัวก้าวหน้า ก็เติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นกลุ่มพลังที่สำคัญในการคานอำนาจ เป็นดุลอำนาจใหม่ของสังคมไทย ที่ทำให้กลุ่มอำนาจเดิมซึ่งประกอบด้วยข้าราชการ ตำรวจ และทหาร ที่เคยได้ประโยชน์จากการที่มีอำนาจอยู่ในมือและทำอะไรได้ตามใจชอบ ต้องเสียประโยชน์ จากากรถูกขบวนการนักศึกษาตรวจสอบ และเปิดโปง

ความไม่พอใจและแผนการที่จะกำจัดขบวนการนักศึกษาก่อรูปก่อร่างขึ้นมา ในหมู่นาย ทหารและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ที่พ่ายแพ้เสียอำนาจไปในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ด้วยการจัดตั้งมวลชน อาทิ ลูกเสือชาวบ้าน กลุ่มนวพล กลุ่มกระทิงแดง ซึ่งเป็นนักเรียนอาชีวะ นัก เรียนช่างกล ขึ้นมาเป็นกลุ่มพลัง ก่อกวนบ้านเมือง หาเรื่องทำร้ายนักศึกษา สร้างสถานการณ์ความไม่สงบขึ้นในประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้ตำรวจและทหารได้ออกมาแสดงบทบาท และปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดกั้นการเติบโตของขบวนการนักศึกษา ไปถึงขั้นทำลายล้างอย่างสิ้นเชิง

เหตุการณ์ นิสิตนักศึกษาและประชาชนนับแสนเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย เมื่อ 14 ตุลาคม 2516 จบลงด้วยชัยชนะเป็นของประชาชน หลังจากที่จอมพลถนอม กิตติขจร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเดินทางออกนอกประเทศ

แต่เพียง 3 ปี ชัยชนะของนักศึกษาและประชาชน เมื่อ 14 ตุลาคม 2516 ก็พลิกผันแปรเปลี่ยนเป็นความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับเมื่อถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2519 โดยมีการใช้เหตุการณ์ชุมนุมประท้วงไม่ให้จอมพลถนอม กิตติขจร เดินทางกลับประเทศไทย ของขบวนการนักศึกษา มาเป็นเงื่อนไข และกล่าวหาบิดเบือนว่านักศึกษาไม่ได้ต้องการประชาธิปไตย ไม่ได้คัดค้านจอมพลถนอม แต่ มีเป้าหมายโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ และหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

วันที่ 29 สิงหาคม 2519 บุตรสาวจอมพลถนอม เข้าพบม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่บ้านพัก เพื่อเจรจาขอให้จอมพลถนอม กลับประเทศไทย เพื่อบวช

วันที่ 31 สิงหาคม 2519 คณะรัฐมนตรี มีมติไม่ให้จอมพลถนอม เดินทางกลับประเทศไทย

วันที่ 2 กันยายน 2519 แนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ติดใบปลิวต่อต้านการเดินทางกลับประเทศไทยของจอมพลถนอม โดยมีขบวนการนักศึกษาเข้าร่วม

วันที่ 3 กันยายน 2519 นายสมัคร สุนทรเวช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่ามีมือที่สามจะสวมรอยเอาการกลับมาของจอมพลถนอม เป็นเครื่องมือก่อเหตุร้าย

เป็นการปรากฎชื่อ นายสมัคร สุนทรเวช ครั้งแรกในบันทึกลำดับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ในเวปไซต์ www.2519.net ในฐานะผู้กล่าวเตือนให้ระมัดระวัง “มือที่สาม” จะก่อเหตุร้าย มิใช่ในฐานะผู้ก่อเหตุร้าย ทั้งก่อด้วยตนเอง หรือสนับสนุน และเป็นการปรากฎชื่อของนายสมัคร สุนทรเวช เพียงครั้งเดียวในบันทึกลำดับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519

แม้รัฐบาลจะมีมติไม่เห็นด้วยกับการกลับประเทศไทยของจอมพลถนอม กิตติขจร แต่ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2519 จอมพลถนอม กิตติขจร ในคราบของสามเณร ก็อาศัยผ้าเหลืองห่มตัว เดินทางจากสิงคโปร์ มาถึงวัดบวรนิเวศ เมื่อเวลา 10.00 น. โดยมีนายทหารและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ไปรอต้อนรับ

พฤติการณ์ของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่แตกต่างจากปากว่าตาขยิบ ทั้งๆ ที่มีมติคณะรัฐมนตรีว่าไม่ให้เข้าประเทศไทย แต่เมื่อจอมพลถนอม เดินทางมาถึง กลับมีทหารชั้นผู้ใหญ่ไปรอต้อนรับและให้ความคุ้มครอง อีกทั้งวิทยุยานเกราะของทหาร ยังโจมตีนักศึกษาที่ต่อต้านคัดค้าน ว่าเป็นผู้ทำลายศาสนา

โฆษกรัฐบาลแถลงว่าจอมพลถนอม เข้ามาบวชตามที่ได้ขอรัฐบาลไว้แล้ว และ น่าจะพิจารณาตัวเองได้หากเกิดความไม่สงบขึ้น

รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะนั้น ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะขับจอมพลถนอม ออกนอกประเทศ ตรงกันข้ามกลับเปิดโอกาสให้จอมพลถนอม พำนักอยู่ในประเทศไทย ได้ตามความพึงพอใจ และไม่มีมาตรการใดๆ กำกับดูแลเป็นพิเศษ แต่ปล่อยให้เป็นไปตามวินิจฉัยของจอมพลถนอม เอง

ท่าทีของรัฐบาลต่อการกลับมาเข้ามาของจอมพลถนอม ทำให้ขบวนการนักศึกษาไม่พอใจ เพราะจอมพลถนอม คือหัวหน้าทรราชที่ทำลายประชาธิปไตยของประเทศไทย ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของประชาชน

วันที่ 21 กันยายน 2519 นายสุรินทร์ มาศดิตถ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงว่ารัฐบาลมีมติจะให้จอมพลถนอม ออกไปนอกประเทศโดยเร็ว

วันที่ 23 กันยายน 2519 ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในขณะที่ทหารเตรียมกำลังเต็มอัตราศึก และ สถานีวิทยุยานเกราะออกอากาศให้ตำรวจจับนักศึกษาที่ติดโปสเตอร์ต่อต้านจอมพลถนอม

วันที่ 24 กันยายน 2519 พนักงานการไฟฟ้านครปฐม 2 คน ที่เป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ถูกสังหารและแขวนคออย่างโหด***ม

วันที่ 25 กันยายน 2519 ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี อีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่ขบวนการนักศึกษา และ แนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ เรียกร้องให้ขับจอมพลถนอม ออกนอกประเทศ และ เร่งจับฆาตรกรสังหารพนักงานการไฟฟ้า โดยเร็ว

วันที่ 30 กันยายน 2519 ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าข้อเรียกร้องให้พระถนอม ออกนอกประเทศนั้น รัฐบาลทำไม่ได้ เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญ

ทั้งๆ ที่รัฐบาลมีมติไม่ให้จอมพลถนอม เข้าประเทศ แต่ก็ไม่ขัดขวาง และดำเนินคดี เมื่อจอมพลถนอม แอบเข้าประเทศ แล้วยังมาบอกว่าไม่สามารถขับออกไปได้ เพราะขัดรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้ขบวนการนักศึกษา และญาติวีรชนที่เสียชีวิตเมื่อ 14 ตุลาคม 2516 ประท้วงกันอย่างต่อเนื่อง

4 ตุลาคม 2519 ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่ามีตำรวจกลุ่มหนึ่ง เป็นผู้สังหารโหดพนักงานการไฟฟ้านครปฐม ที่ต่อต้านจอมพลถนอม ในขณะที่นักศึกษามหาวิทยา ลัยธรรมศาสตร์ แสดงละครล้อเลียนการสังหารโหดพนักงานไฟฟ้านครปฐม ที่ถูกฆ่าแขวนคอ

การแสดงละครของนักศึกษา ถูกสถานีวิทยุยานเกราะบิดเบือนให้ประชาชนเข้าใจผิดและหลงเชื่อว่านักศึกษาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และมีแผนการโค่นล้มสถา บันพระมหากษัตริย์ โดยบอกว่า ผู้แสดงเป็นคนถูกแขวนคอมีหน้าคล้ายเจ้าฟ้าชาย

5 ตุลาคม 2519 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยไม่มีนายสมัคร สุนทรเวช ร่วมเป็นรัฐมนตรี

หนังสือพิมพ์ดาวสยาม และหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เผยแพร่ภาพการแสดงละครล้อการแขวนคอของนักศึกษา โดยพาดหัวข่าวเป็นเชิงว่าการแสดงดังกล่าวเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

สถานีวิทยุยานเกราะ โดยพ.อ.อุทาร สนิทวงศ์ ประกาศว่า “เดี๋ยวนี้การชุมนุมที่ธรรมศาสตร์ไม่ใช่เป็นเรื่องต่อต้านพระถนอมแล้ว หากแต่เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” และ “ขอให้รัฐบบาลจัดการกับผู้ทรยศเหล่านี้โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันการนองเลือดที่อาจจะเกิดขึ้น หากให้ประชาชนชุมนุมกันแล้ว อาจมีการนองเลือดขึ้นก็ได้”

เวลา 21.30 น. นายประยูร อัครบวร รองเลขาธิการฝ่ายการเมือง ของศนนท. ได้นำนักศึกษา 2 คนที่แสดงเป็นพนักงานการไฟฟ้าที่ถูกแขวนคอ มาแถลงข่าว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่า “ทางนักศึกษาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมสถานีวิทยุยานเกราะและหนังสือพิมพ์ดาวสยาม จึงให้ร้ายป้ายสีบิดเบือนให้เป็นอย่างอื่น โดยดึงเอาสถาบันที่เคารพมาเกี่ยวข้อง”

ถัดมาอีกเพียง 10 นาที คือ เวลา 21.40 น. รัฐบาล ก็ออกแถลงการณ์ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ว่า “ตามที่มีการแสดงละครที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ศกนี้ มีลักษณะเป็นการหมิ่นหรือการแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อองค์รัชทายาท รัฐบาลได้สั่งการให้กรมตำรวจดำเนินการสอบสวนกรณีนี้โดยด่วนแล้ว”

หลังจากนั้น สถานีวิทยุยานเกราะ ก็ปลุกระดมมวลชนและลูกเสือชาวบ้านให้ไปรวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการจับกุมผู้กระทำการหมิ่นองค์สยามมกุฎราชกุมารมาลงโทษ และ กล่าวหานักศึกษาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตลอดทั้งคืนจนถึงเช้าวันที่ 6 ตุลาคม 2519

6 ตุลาคม 2519 เวลา 08.10 น. นาทีแห่งการเข่นฆ่านักศึกษาประชาชนผู้บริสุทธิ์ ก็อุบัติขึ้น โดย พล.ต.ต.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ บัญชาการให้ตำรวจตระเวณชายแดน หรือ ตชด. พร้อมอาวุธสงครามครบมือบุกเข้าในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีนักศึกษาชุมนุมกันอยู่ประมาณ 3,000 คน

การระดมยิงเข้าใส่ของตชด. ทำให้นักศึกษาเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ในขณะที่ส่วนใหญ่ยอมจำนน ถูกจับถอดเสื้อมัดมือไพล่หลัง นอนกลางสนามฟุตบอลที่ร้อนระอุ แต่อีกส่วนหนึ่งตกใจวิ่งหนีออกด้านหน้าประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฝั่งสนามหลวง ก็ถูกรุมประชา ทัณฑ์จนบาดเจ็บเสียชีวิต บางรายถูกจับแขวนคอ บางรายถูกเผาสด

3 ชั่วโมงที่ล้อมปราบและเข่นฆ่าอย่างอำมหิตผ่านพ้นไป มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ นักศึกษาที่รอดตายกว่าพันชีวิต ตกอยู่ในกรงเล็บของมัจจุราชที่เรียกว่า ตำรวจและทหาร โดยมีศพเพื่อนๆ ล้มตายอยู่หลายคนและหลายจุด เป็นพยานหลักฐานความโหดร้ายของผู้ฆ่าและผู้สั่งฆ่า

11.50 น. สำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่านายกรัฐมนตรีมีบัญชาให้ตั้งกองบัญชาการรักษาความสงบเรียบร้อยขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล

12.00 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์ว่า 1.เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพสยามมกุฎราชกุมารได้แล้ว 6 คน จะดำเนินการฟ้องศาลโดยเร็ว 2. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมสถานการณ์การปะทะกันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้แล้ว 3. รัฐบาลได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด

เป็นแถลงการณ์ที่บ่งบอกถึงความเด็ดขาดของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้เลือกข้างแล้วว่าจะยืนอยู่ตรงข้ามกับนิสิตนึกศึกษาประชาชน ที่ถูกเข่นฆ่าล้มตายในมหาวิท ยาลัยธรรมศาสตร์ และดำเนินการตามข้อเรียกร้องของสถานีวิทยุยานเกราะ และลูก เสือชาวบ้านที่ถูกปลุกระดมขึ้นมา ทุกประการ ทั้งยังกล่าวหาว่านักศึกษา ดำเนินการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งต่อมามีพยานหลักฐานปรากฎชัดว่านักศึกษา เป็นผู้ถูกใส่ร้าย โดยสถานีวิทยุยานเกราะของทหาร เป็นผู้บิดเบือนข้อมูลข่าวสารหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อด้วยความเข้าใจผิด

แต่อีกเพียง 6 ชั่วโมงต่อมา พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของรัฐบาลหม่อมเสนีย์ ก็ประกาศยึดอำนาจปกครองแผ่นดิน เป็นการสิ้นสุดวาระของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ และนำประเทศไทยเข้าสู่ยุคสมัยของเผด็จการอีกครั้งหนึ่ง

จากลำดับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ของคนเดือนตุลา ในเวปไซต์ www.2519.net ที่ได้นำมาบอกกล่าวข้างต้นนี้ มีข้อพึงสังเกตและตั้งคำถามหลายประการด้วยกัน ดังนี้

1. พึงสังเกตว่า มีการใช้สื่อมวลชน ได้แก่วิทยุ และหนังสือพิมพ์ เป็นเครื่องมือปลุกระดมมวลชน และเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ให้ประชาชนหลงผิด เข้าข่ายการโฆษณาชวนเชื่อ ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง แบ่งแยกคนในชาติเป็นฝักฝ่าย และทำร้ายซึ่งกันและกัน โดยขาดสติ ไม่ยั้งคิด ซึ่งวิธีการเช่นนี้ ได้ถูกนำมาใช้โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล และสื่อเครือข่ายผู้จัดการ จนทำให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติ อย่างรุนแรง และกลายเป็นเงื่อนไขให้ทหารก่อการรัฐประหาร เมื่อ 19 กันยายน 2549

2. พึงสังเกตว่า มีการแอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อประโยชน์ทางการเมือง และใส่ร้ายผู้อื่น ด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และไม่จงรักภักดี ในทุกครั้งที่มีการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองและยึดอำนาจปกครองแผ่นดิน

3. พึงตั้งคำถามแก่พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่บอกว่าแม้จะมีอายุเพียง 11 ปี ในขณะเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 แต่ก็ศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองไทย มาเป็นอย่างดี และ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม ในห้วงเวลาที่มีการปลุกระดมมวลชนสร้างความแตกแยกให้คนในชาติ และ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในห้วงเวลาที่มีการเข่นฆ่านักศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า...

เหตุใด รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่หาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น ทั้งๆ ที่มีเค้าลางมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2519 และมีความพยายามที่จะก่อเหตุวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองมาโดยตลอด

เหตุใด รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงปล่อยให้จอมพลถนอม เข้ามาในประเทศไทยได้ และไม่ดำเนินการกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ไปรอต้อนรับและคุ้มครองความปลอดภัยให้จอมพลถนอม ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดมติคณะรัฐมนตรี

เหตุใด รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่เชื่อนายสมัคร สุนทรเวช ว่าจะมีการใช้การเดินทางกลับประเทศไทยของจอมพลถนอม เป็นเงื่อนไขสร้างความวุ่นวายขึ้นในประเทศ

เหตุใด รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่ขับจอมพลถนอม ออกนอกประเทศ ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะเป็นชนวนให้นักศึกษาชุมนุมประท้วงและมีโอกาสที่จะเกิดการปะทะกันได้โดยง่าย เนื่องจากมี “มือที่สาม” รอสร้างสถานการณ์อยู่แล้ว

เหตุใด รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงพูดจาภาษาเดียวกับสถานีวิทยุยานเกราะ กล่าวหาว่านักศึกษาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

เหตุใด รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่ดำเนินการกับสถานีวิทยุยานเกราะ ซึ่งดำเนิน การปลุกระดม สร้างความแตกแยกให้แก่คนในชาติ ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

เหตุใด รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ โดยอม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของทหาร และตำรวจ จึงไม่ออกคำสั่งหยุดการเข่นฆ่านักศึกษา ของตำรวจและทหาร แต่กลับปล่อยให้มีการล้อมปราบและสังหารโหด ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำให้มีผู้ล้มตายและบาดเจ็บจำนวนมาก

ต้องถามว่า พล.ต.ต.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ ได้รับคำสั่งจากใคร จึงสั่งการให้ตชด. บุกเข้าไปยิงนักศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ต้องถามว่า ในฐานะรมว.มหาดไทย ซึ่งกำกับดูแลกรมตำรวจ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดำเนินการอย่างไรบ้าง เมื่อเห็นตำรวจฆ่านักศึกษา

ต้องถามว่า นายชวน หลีกภัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในขณะนั้น แสดงบทบาท ท่าทีอย่างไรเมื่อเห็นการประหารโหดนักศึกษา ด้วยเหตุที่เชื่อว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ต้องถามว่า ในขณะที่นักศึกษาถูกล้อมปราบและเข่นฆ่า รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงบทบาทอย่างไรบ้าง ต่อการทำหน้าที่ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และรักษาความสงบเรียบร้อยของคนในชาติ

ต้องถามว่า นับแต่การสังหารโหดเริ่มต้นเมื่อเวลา 08.10 น. จนถึง 11.50 น. ที่รัฐบาลแถลงว่าได้ตั้งกองบัญชาการรักษาความสงบเรียบร้อยขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมงที่ตำรวจและทหารใช้อาวุธสงครามสังหารโหดนักศึกษา รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกคำสั่งให้ตำรวจและทหารหยุดปฏิบัติการ บ้างหรือไม่ และมีรัฐมนตรีคนใด ไปดูเหตุการณ์ สถานการณ์ในพื้นที่หรือไม่

ต้องถามว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ศึกษาประวัติศาสตร์การบริหารราชการแผ่นดิน ในห้วงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปเป็นรัฐบาลทั้งก่อนเกิดเหตุและวันเกิดเหตุ 6 ตุลาคม 2519 บ้างหรือไม่ และมีความเห็นอย่างไรกับบทบาทท่าทีของพรรค และรัฐมนตรีของพรรค ที่คิดแต่หนีเพื่อเอาตัวรอด และปล่อยให้นักศึกษาประชาชน ถูกเข่นฆ่าล้มตายเป็นใบไม้ร่วง

ต้องถามว่า หลังการเข่นฆ่านักศึกษาผ่านพ้นไป ทำไมรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงออกแถลงการณ์ ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่ารัฐบาลเลือกที่จะยืนฝั่งตรงข้ามกับนักศึกษา ซึ่งเป็นผู้พ่ายแพ้ในวันนั้น ด้วยการจะดำเนินการส่งฟ้องผู้ถูกตำรวจจับกุมข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยเร็ว ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่ว่าเป็นข้อหาที่เกิดขึ้นจากการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารของสื่อ มิใช่เกิดจากพฤติกรรมของนักศึกษา จริงๆ

ต้องถามว่า หลังจากเหตุการณ์นองเลือดผ่านพ้นไป เหตุใด พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงก่อการรัฐประหาร ยึดอำนาจปกครองแผ่นดิน ล้มรัฐบาลที่ตัวเองเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปด้วย

คำถามข้อสุดท้ายนี้ พรรคประชาธิปัตย์ อาจจะตอบไม่ได้ในวันนั้น แต่วันนี้ พรรคประชา ธิปัตย์ น่าจะตอบได้แล้ว เพราะมีช่องทางที่จะค้นหาความจริงได้แล้ว เนื่องจากขณะนี้บุคคลในครอบครัวของพล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ คือ พล.อ.วินัย ภัทยิกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม เลขาธิการคมช. เป็นนายทหารที่รู้เห็นเหตุการณ์ในครั้งนั้น ได้เข้ามามีความสัมพันธ์อันดีกับพรรคประชา ธิปัตย์ ในฐานะพ่อของส.ส.สกลธี ภัทยิกุล ส.ส.กรุงเทพฯ ของพรรคประชาธิปัตย์

ไม่น่าเชื่อว่า เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่เกิดขึ้นมาในช่วงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล และมีคำถามมากมายเกี่ยวกับบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์ ในเวลานั้น ที่ยังไม่มีคำตอบจวบจนวันนี้ จะหวนกลับมาอีกครั้งจากการขยายประเด็นของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อจะเล่นงาน นายสมัคร สุนทรเวช แต่ดูเหมือนว่า รายการนี้จะเป็นการขว้างงูไม่พ้นคอ

ในขณะที่ นายสมัคร สุนทรเวช ต้องตอบ 1 คำถามว่าเหตุใดจึงพูดว่าเห็นคนตาย 1 คน

แต่พรรคประชาธิปัตย์ ต้องตอบให้ได้ว่าทำไมจึงไม่ป้องกัน และไม่สกัดกั้นการเข่นฆ่านักศึกษาประชาชน  

อ่านประวัติศาสตร์ 6 ตุลาคม 2519 จบลงเที่ยวนี้ ผมเชื่อแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์ รู้ดีที่สุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 โดยเฉพาะนายชวน หลีกภัย  ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ ตั้งแต่ต้นจนจบ

เพราะฉะนั้น หากใครอยากจะถาม อยากจะรู้อะไรเกี่ยวกับ 6 ตุลาคม 2519 ต้องถามพรรคประชาธิปัตย์ จะได้คำตอบดีที่สุด

แต่อย่าลืมตอบคำถามหลายข้อของผมด้วยนะครับ


มีใครโต้แย้งข้อเท็จจริง ที่ยกมาอ้างในบทความหรือเปล่า? :slime_doubt:


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: แอ่นแอ๊น ที่ 24-02-2008, 18:32
รัฐบาลพลเรือนตอนนั้น มีกำลังอำนาจมากพอจะไปต่อกรกับทหารมากน้อยแค่ไหนคะ ลองคิดดูดิว่า ขนาดมีมติครม. มันยังไม่ทำตามกันเลย


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: soco ที่ 24-02-2008, 18:46
(http://www.matichon.co.th/htmleditcode/upload/pages/images2/400samak.jpg) (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=21063&catid=16)




ล้านกว่าคะแนนน่ะครับ อย่าทำซ่า ให้รู้บ้าง ไผเป็นไผ









ผมเสียดายอย่างแรงที่ คะแนนหนึ่งในล้านกว่านั้น เป็นของผมซ่ะด้วย :slime_hmm:


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: สมชายสายชม ที่ 24-02-2008, 20:47
สมัคร มือเปื้อนเลือด






ตอนทำกับข้าว

(http://www.deedeejang.com/tip/food/photo/00075.jpg)


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: Solidus ที่ 24-02-2008, 22:15
รัฐบาลพลเรือนตอนนั้น มีกำลังอำนาจมากพอจะไปต่อกรกับทหารมากน้อยแค่ไหนคะ ลองคิดดูดิว่า ขนาดมีมติครม. มันยังไม่ทำตามกันเลย
อย่าว่าแต่รัฐบาลพลเรือนเลยครับ ขนาดรัฐบาลทหารมันยังไม่ค่อยทำตามกันเท่าไหร่เลย นับประสาอะไรกับรัฐบาลพลเรือน


หัวข้อ: คำตอบเรื่อง 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส
เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 25-02-2008, 06:38
ภาพนี้ถ่ายเมื่อ 28 ธันวาคม 2515 ก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 4 ปี!!

เป็นวันที่เกิดข่าวใหญ่ระดับโลก เมื่อผู้ก่อการร้ายปาเลสไตน์ (กลุ่มแบล็กเซปเทมเบอร์) 4 คน มีปืนกลและระเบิดมือ บุกยึด

สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล ถนนชิดลม

จับเจ้าหน้าที่สถานทูตเป็นตัวประกัน

ยื่นเงื่อนไขให้รัฐบาลอิสราเอลปล่อยโจรปาเลสไตน์ที่ถูกจับกุม

มิฉะนั้น จะสังหารตัวประกันทั้งหมด ภายใน 12 ชั่วโมง!

“แม่ลูกจันทร์” เป็นนักข่าวการเมืองอยู่ในเหตุการณ์ตลอดเวลา

หลังเกิดเหตุ จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี และ จอมพลประภาส รมว. มหาดไทย สั่งตั้ง บก.ฉุกเฉินในโรงเรียนมา-แตร์เดอี ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสถานทูตอิสราเอล

พล.อ.อ.ทวี จุลละทรัพย์ รมว.เกษตร, พลจัตวาชาติชาย ชุณหะวัณ รมช.ต่างประเทศ ขออาสาเป็นตัวแทนรัฐบาลเข้าไปเจรจากับกลุ่มโจรก่อการร้ายอย่างสันติวิธี

การเจรจาระทึกใจยืดเยื้อเกือบ 24 ชั่วโมง ในที่สุดกลุ่มโจรปาเลสไตน์ยอมรับเงื่อนไขคือ รัฐบาลไทยจัดเครื่องบินพิเศษส่งกลับตะวันออกกลาง

โดยมี “เสธ.ทวี” และ “น้าชาติ” เดินทาง ไปด้วยในฐานะตัวประกัน

ส่วน “นายกฯสมัคร” ขณะนั้นเป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอล ทำหน้าที่ประสานงาน

สุภาพสตรีในภาพคือ “เจ๊วิภา สุขกิจ” อดีตผู้สื่อข่าวมติชน

ภาพนี้ถ่ายในโรงอาหารโรงเรียนมาแตร์ฯ เมื่อ 35 ปีที่ผ่านมา

ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ซักนิดเดียว.
http://www.thairath.co.th/news.php?section=hotnews03&content=80109

จะเป็นฝ่ายค้านคุณภาพไม่น่าทำอย่างงี้



หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 25-02-2008, 08:43
เค้าคงให้ดูรูปคนอ้วน ๆ นั่งข้างหน้ามั๊ง


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: mebeam ที่ 25-02-2008, 11:41
     จดจำไว้อีก 1ผลงานของพรรคที่มีอายุการทำงานมา 60 ปี
คนไทยไม่เคยเข็ด กับ กระดาษแผ่นเดียว ที่นำมาใส่ร้ายป้ายสี
แนวทางไม่เคยเปลี่ยนเลย แค่ฝ่ายค้านยังไม่สมควรได้เป็นเลย

  แมงสาบจริงๆ เลย.
.


หัวข้อ: Re: คำตอบเรื่อง 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส
เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 25-02-2008, 12:50
ภาพนี้ถ่ายเมื่อ 28 ธันวาคม 2515 ก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 4 ปี!!

...

ภาพนี้ถ่ายในโรงอาหารโรงเรียนมาแตร์ฯ เมื่อ 35 ปีที่ผ่านมา

ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ซักนิดเดียว.
http://www.thairath.co.th/news.php?section=hotnews03&content=80109

จะเป็นฝ่ายค้านคุณภาพไม่น่าทำอย่างงี้


ตกลงคำตอบคืออะไร?

สมัคร หน้าถอดสีเพราะ ???

ตกใจที่ ตัวเองก็ลืมไปแล้วว่าเคยได้ถ่ายรูปนั้นไว้เมื่อไหร่

หรือตกใจที่ คนเอารูปมาใส่ร้าย งี่เง่าถึงขนาด ???


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 25-02-2008, 18:53
เวลาพูดเรื่องจริง ไม่รู้หายหัวไปไหนหมด...

พอ เค้า ผิดพลาด ทะเล่อทะล่า เอารูปผิดงานมาอวด ....โผล่หน้า มาแยกเขี้ยวใส่ กันเป็นแถว....


 :slime_slapped:


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: mebeam ที่ 25-02-2008, 19:35
เวลาพูดเรื่องจริง ไม่รู้หายหัวไปไหนหมด...

พอ เค้า ผิดพลาด ทะเล่อทะล่า เอารูปผิดงานมาอวด ....โผล่หน้า มาแยกเขี้ยวใส่ กันเป็นแถว....


 :slime_slapped:

 :slime_doubt:


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 25-02-2008, 19:38
:slime_doubt:

มีเรื่องหมักกับเดือนตุลาอีก หลายกระทู้ครับ

 :slime_doubt: :slime_doubt:



หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประภาส ปัดตอบเรื่อง 6 ตุลา
เริ่มหัวข้อโดย: mebeam ที่ 25-02-2008, 19:53
:slime_doubt:

อ๋อ  แล้วเรื่องพรรคประชาธิปัตย์ กับ 6ตุลาล่ะ มีบ้างไหม  :slime_smile:


หัวข้อ: Re: 'สมัคร'หน้าถอดสี เจอรูปถ่ายคู่จอมพลประ
เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 25-02-2008, 20:02
อ๋อ  แล้วเรื่องพรรคประชาธิปัตย์ กับ 6ตุลาล่ะ มีบ้างไหม  :slime_smile:

เข้าไปได้เลย แล้ว อย่ารีบเลิกล่ะ


http://forum.serithai.net/index.php?topic=22147.0