ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: Cherub Rock ที่ 27-01-2008, 18:12



หัวข้อ: วาระเร่งด่วน 99 วัน พาทักษิณกลับบ้าน กุมภาก็แล้ว เมษาก็แล้ว พฤษภาคมยังไม่แน่
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 27-01-2008, 18:12
ทำไมต้องเลื่อนมาเป็นเดือนพฤษภาคม

ก่อนจะพิเคราะห์ว่าทำไม ต้องดูก่อนว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก่อนเดือนพฤษภาคม

1.การโยกย้ายนายทหารต้นฤดูกาลในต้นเดือนเมษายน

หาก มีการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกลาโหม "สายตรง" ที่สามารถผนึกกับนายกรัฐมนตรี หักขั้วอำนาจ "คมช." แล้วสร้างขั้วอำนาจใหม่ในกองทัพได้สำเร็จ ตรงนี้เท่ากับยกระดับความมั่นใจในความปลอดภัยเมื่อกลับมาเมืองไทยได้ รวมถึงจะปราศจาก "อำนาจสูงสุด" คุกคาม

เมื่อเชื่อมโยงตัวรัฐมนตรี ว่าการกลาโหมเข้ากับการเลื่อนเวลากลับเมืองไทยเข้าด้วยกันแล้ว ผมยังเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กับพวกจะไม่ยอมรับข้อเสนอของ คมช. แต่จะตั้งรัฐมนตรีว่าการจากนายทหารเกษียณที่ต้องไม่เดินสวนทางเขา ตลอดจนนายกฯคนใหม่ ก่อนเข้าสู่เป้าหมายสำคัญคือลดอำนาจคุกคามอันดับหนึ่งที่มีต่อเขา ครอบครัว และรัฐบาล "นอมินี"

2.รัฐบาลบริหารประเทศครบ 3 เดือน

นพ.สุ รพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน มือขวาของเขา เคยบอกว่า ช่วง 3 เดือนแรกรัฐบาลเป็นช่วง "ฮันนีมูน" ถ้าผ่านตรงนี้ไปได้อย่างราบรื่น อานิสงส์ก็แผ่ไปถึงอดีตนายกฯด้วย แต่ถ้าเกิดปัญหาวุ่นวายรายวัน ก็ยังสามารถอ้างโน้นอ้างนี่ต่อรองศาลฎีกาฯ ขอเลื่อนกลับได้อีกระยะหนึ่ง

3.การผ่านร่างกฎหมายฉบับแรกคือร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกกฎอัยการศึก

แนว คิดที่จะผลักดันยกเลิกกฎอัยการศึก ถือเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการหยั่ง "ปฏิกิริยา""ผู้นำกองทัพ จะได้รู้ว่ากล้าหือกล้าอือกับรัฐบาลหรือไม่ ขณะที่ฝ่ายต่างๆ ในสังคมถึงไม่หนุนก็คงไม่ค้าน ทำไปไม่มีทางเสียมวลชน

4.พฤษภาคมคือเดือนสุดท้ายที่ คตส.เหลือเวลาส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุดก่อนครบวาระในสิ้นเดือนมิถุนายน

ช่วง นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ และคณะทนาย จะรู้แล้วว่ามีคดีอะไรบ้างที่ คตส.ส่งสำนวนไม่ทันพ้นวาระ มีคดีอะไรบ้างอยู่ในมืออัยการสูงสุด มีคดีอะไรบ้างอยู่ในชั้นศาลฎีกาฯ และจะต่อสู้คดีอย่างไร

ดังนั้น เดือนพฤษภาคม 2551 คือจังหวะเวลาที่อดีตผู้นำและกุนซือ ได้ทราบสถานการณ์เกือบทั้งหมดในไทย และได้เห็นอะไรต่างๆชัดเจนมากพอที่จะประเมินว่า

ทางโล่งตลอดปลอดโปร่งพอที่จะเดินทางกลับเมืองไทยหรือไม่

(http://www.vanhara.com/wp-photos/thumb.20061028-231702-5.jpg)


http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act01270151&day=2008-01-27&sectionid=0130


ได้เป็นรัฐบาลแล้วใช่ว่าจะเสร็จงาน
ลิ่วล้อต้องสู้ต่อไปเพื่อนายใหญ่คนเดียว


วาระแห่งชาติ
ไม่รู้จะมีในแถลงนโยบายหรือเปล่า :mozilla_money:



หัวข้อ: Re: วาระเร่งด่วน 99 วัน พาทักษิณกลับบ้าน กุมภาก็แล้ว เมษาก็แล้ว พฤษภาคมยังไม่แน่
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 27-01-2008, 18:22


เออ อันนี้อ่านดูแวบๆ แล้วค่อยดูเป็นบทความ ที่เข้าเค้าหน่อย.. :slime_smile:


หัวข้อ: Re: วาระเร่งด่วน 99 วัน พาทักษิณกลับบ้าน กุมภาก็แล้ว เมษาก็แล้ว พฤษภาคมยังไม่แน่
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 27-01-2008, 18:29
ภาระเร่งด่วนอาจจะมีมากกว่านั้นแล้วค่ะ

คดีความในกระบวนการยุติธรรม  เท่าที่ส่งฟ้องแล้ว และจ่อคิวรอ รวมถึงรอ คตส.ทิ้งทวนไว้เป็นครั้งสุดท้าย เป็นงานหนักที่เชื่อได้ว่ายังไม่เห็นทางแก้ไข นอกจากจะยื้อเวลาไปเรื่อยๆก่อน เผื่อจะแก้ไขได้ในภายหลัง การเตะถ่วงคดีอาจจะทำได้หลายปี ถ้าเป็นฝ่ายที่ครองอำนาจรัฐ และการคุกคามกระบวนการยุติธรรม การโยกย้าย รังแกข้าราชการตุลาการ ที่ไม่ยอมช่วยเหลือให้รูปคดีเป็นไปตามที่ต้องการ อาจทำได้ง่ายขึ้น หากครองอำนาจได้เป็นเวลายาวนาน

สำคัญคือคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นศาลเดียว ตัดสินครั้งเดียว และกระบวนการไม่ยืดเยื้อ หากจำเลยเข้ากระบวนการยุติธรรม ไม่เกินสองปีก็รู้ผลแน่นอน จุดนี้ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน โดยอาจจะแก้ไขกฎหมายให้คดีเหล่านี้กลับเข้าสู่กระบวนการศาลปกติ ซึ่งจะเตะถ่วงไปได้นานนับสิบปีทีเดียว มีเวลาทำอะไรได้เยอะ

แต่ปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้า คือคดีของทั่นประธาน ที่รอคิวเชือดเบื้องต้นด้วยการไปให้ปากคำกับ กกต. ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้น หาก กกต.เพียงสามเสียง เห็นว่ามีมูลความผิด จะต้องส่งเรื่องไปให้ศาลฎีกาตัดสินความต่อ และทั่นประธานจะต้องหยุดการทำหน้าที่ทันที ในขณะเดียวกัน คดีของกรรมการบริหารพรรคอีกสองพรรค จะถูกส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญในเวลาไม่นานนี้ ซึ่งจะมีการดำเนินคดีไปตามลำดับ หากมีการยุบพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นเบื้องต้น ฐานของรัฐบาลจะสะเทือนชนิดอยู๋ไม่ได้ ต้องมีการยุบสภาเพื่อให้สมาชิกไปจัดกระบวนกันในพรรคใหม่ และรีบใช้อำนาจรัฐช่วยเหลือในการเลือกตั้ง ให้ได้เสียงข้างมากเข้ามาเพียงพรรคเดียว หาไม่ขืนรอให้เข้าสู่กระบวนการยุบพรรคตนเอง พรรคอาจจะแตกได้โดยง่าย

การดึงเวลากลับประเทศไทย ก็คือการยืดเวลาเพื่อหาทางออก เมื่อต้องยืดเวลาไปเช่นนี้ ก็เป็นการแน่นอนว่าขณะนี้ไม่มีทางออก การสืบพยานคดีที่ดินรัชดา ผู้ที่ต้องเข้าให้ปากคำจำนวนหนึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ซึ่งไม่อาจเตะถ่วงต่อศาลได้ จะมากลับคำให้การอย่างไรก็ต้องมาตามเรียก ดังนั้นคดีนี้ดึงเวลาได้เฉพาะฝ่ายจำเลยไม่กี่ปาก แต่ยิ่งถ่วงเวลาเท่าไหร่ ภาพความผิดก็จะยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น เพราะจะถูกขุดคุ้ยมิรู้จบ

บางที่คราวนี้ เราจะได้เห็นการต่อสู้กันระหว่าง ความดีและความชั่ว ประเทศของเราอาจจะมีอนาคตที่ถูกกำหนดได้ ด้วยเหตุการณ์ในปีสองปีนี้ หากความชั่วชนะความดีได้ด้วยพลังอำนาจ พลังเงิน ภาพลักษณ์ของประเทศเราก็คือประเทศป่าเถื่อน ด้อยพัฒนา และเยาวชน ประชาชนของชาติ คงเสื่อมถอยไปตามค่านิยมที่ว่า มีเงินจ้างผีโม่แป้งได้  :slime_smile: