ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: ปุถุชน ที่ 16-01-2008, 08:51



หัวข้อ: 'เทพชัย หย่อง' มีความตั้งใจให้ประเทศไทยมี'ทีวีสาธารณะ'....
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 16-01-2008, 08:51
'เทพชัย หย่อง'ลาออกจากเครือเนชั่น รับตำแหน่งผอ.ทีวีสาธารณะ
 
15 มกราคม พ.ศ. 2551 17:24:00
 
 (http://img141.imageshack.us/img141/8464/220440showkl8.jpg) (http://imageshack.us)

เทพชัย หย่อง
 
'เทพชัย หย่อง'ลาออกจากเครือเนชั่น รับตำแหน่งผอ.ทีวีสาธารณะ ลั่นต้องทำให้เกิดให้ได้ วางกรอบทำงานช่วง 6 เดือน เริ่มออกอากาศครั้งแรก1ก.พ.นี้ พร้อมเปิดรับฝ่ายข่าว-ผลิต16-19ม.ค.

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายเทพชัย หย่อง คณะกรรมการนโยบายชั่วคราว และรักษาการผู้อำนวยการชั่วคราว สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส หรือทีวีสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย อดีตบรรณาธิการเครือเนชั่น กล่าวว่า ได้ยื่นใบลาออกจากเครือเนชั่นตั้งแต่วันนี้ (15ม.ค.) เป็นต้นไป

แต่เนื่องจากบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้แจ้งไปที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว ซึ่งมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (16ม.ค.) สำหรับหุ้นบมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ปจำนวนหุ้น 1 แสนหุ้นที่ตนถืออยู่ จะประกาศขายในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 16 มกราคมนี้

ทั้งนี้ ตนได้รับการทาบทามจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้มาดำรงตำแหน่ง คกก.นโยบายชั่วคราวทีวีสาธารณะ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ที่ยังไม่ได้ยื่นใบลาออกจากเนชั่นก่อนหน้านี้ก็เพราะรอ ครม.เห็นชอบเสียก่อน โดยการที่มารับตำแหน่งคกก.ทีวีสาธารณะเนื่องจากมีความสนใจในการทำทีวีสาธารณะ และต้องการให้ประเทศไทยมีทีวีสาธารณะ เพื่อนำเสนอข่าวสารและสาระที่มีประโยชน์ต่อผู้ชม

"กรอบทำงานของคกกก.ชั่วคราวมีระยะเวลา 6 เดือน โดยในระยะแรก วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ทีวีสาธารณะจะเริ่มออกอากาศ จะนำเสนอข่าวสารเป็นหลัก  ระยะที่สอง ในวันที่ 1มีนาคม ผังรายการจะประกอบไปด้วยข่าวและรายการที่ผลิตขึ้นเอง หลังจากนั้นจะเป็นระยะที่สาม ที่มีผังรายงานสมบูรณ์ ทั้งนี้จะทำการเปิดรับสมัครฝ่ายข่าวและฝ่ายผลิต ในวันที่ 16-19 ม.ค.นี้ ณ กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ ซึ่งพนักงานทีไอทีวีที่มีประสบการณ์ด้านข่าวสามารถมาสมัครและร่วมการพิจารณาร่วมกับบุคคลอื่นๆ"
 
 
http://www.bangkokbiznews.com/2008/01/15/WW10_WW10_news.php?newsid=220440



โดยการที่มารับตำแหน่งคกก.ทีวีสาธารณะเนื่องจากมีความสนใจในการทำทีวีสาธารณะ และต้องการให้ประเทศไทยมีทีวีสาธารณะ เพื่อนำเสนอข่าวสารและสาระที่มีประโยชน์ต่อผู้ชม.......
ผมเชื่อว่าความสามารถเฉพาะตัวและความสนใจจะทำทีวีสาธารณะของ'เทพชัย หย่อง' จะเป็นผลสำเร็จ.....



หัวข้อ: Re: 'เทพชัย หย่อง' มีความตั้งใจให้ประเทศไทยมี'ทีวีสาธารณะ'....
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 16-01-2008, 08:54
'สมชัย'ร่อนจดหมายจากลอนดอน แจงผังรายการทีวีสาธารณะ
 
16 มกราคม พ.ศ. 2551 05:09:00
 
 อดีตบก.บีบีซี อาเซ๊ยน โต้พนง.ไอทีวี เหตุพาดพิงวางผังตุ๊กตาลดเวลา-คุณค่าข่าว แจงผัง"ทีไอทีวี"ล่าสุดข่าวน้อยกว่า ซัดข่าว"ปิงปอง"กระพือขัดแย้ง "เล่าข่าว"แค่บันเทิงเรียกเรตติ้ง

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายสมชัย สุวรรณบรรณ อดีตบรรณาธิการบริหาร เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บีบีซี ลอนดอน ชี้แจงผ่านจดหมายจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษดังนี้

ผมได้อ่านข่าวเกี่ยวกับเรื่องผังรายการของทีวีสาธารณะ TPBS และการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนของสถานีโทรทัศน์ TITV ในหลายประเด็น โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับผังรายการตัวอย่างที่ผมร่างขึ้นเพื่อเสนอแนะ ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และ TITV นำไปวิพากษ์วิจารณ์ออกอากาศ ผมจึงขอชี้แจงดังต่อไปนี้

ประการที่หนึ่ง ผมใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการจัดทำผังรายการตัวอย่างในช่วงที่เดินทางกลับมาที่ประเทศไทย ผังรายการที่จัดทำขึ้นเป็นความคิดของผมเพียงคนเดียว โดยมิได้ปรึกษาผู้ใด แต่ใช้ประสบการณ์ส่วนตัวในการทำงานที่บีบีซี ลอนดอนเป็นเวลาหลายปี ผังรายการที่ผมแนะนำเสนอเป็นผังรายการ ตัวอย่าง เพื่อให้คณะทำงานนำไปถกเถียงพิจารณาต่อไป มิใช่เป็นข้อยุติ

 ประการที่สอง ข้อวิจารณ์เกี่ยวกับรายการ "มองต่างมุม" เป็นความเข้าใจผิดของพนักงาน TITV เนื่องจากที่จริงแล้วผมเสนอรายการชื่อ Question Time ซึ่งเป็นรายการสนทนาอภิปรายทางการเมืองรายสัปดาห์ของบีบีซีทีวี ที่อาจเป็นต้นแบบของรายการ "มองต่างมุม" ของมูลนิธิสื่อสร้างสรรค์ ผมไม่มีความตั้งใจใดๆ ที่จะระบุให้ ดร. เจิมศักดิ์ ปิ่นทองเป็นผู้ผลิตรายการ

ทั้งนี้ ผมไม่เคยพูดคุยกับ ดร. เจิมศักดิ์หรือคุณเถกิง สมทรัพย์ เกี่ยวกับรายการนี้เลย วัตถุประสงค์ของผมคือต้องการนำเสนอรายการสนทนาทางการเมืองรายสัปดาห์ในโทรทัศน์ของประเทศไทย เพื่อให้การศึกษาทางการเมืองแก่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผมเชื่อว่า ผู้ดำเนินรายการอย่างคุณเทพชัย หย่อง คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา คุณกิตติ สิงหาปัด คุณกนก รัตน์วงศ์สกุล คุณอดิศักดิ์ ศรีสม คุณจอม เพชรประดับ หรือคนอื่นๆ ที่มีศักยภาพในระดับเดียวกันล้วนสามารถเป็นผู้จัดรายการในลักษณะนี้ได้ทั้งสิ้น

ประการที่สาม ข้อวิจารณ์ของพนักงาน TITV ที่ว่าผังรายการที่ผมจัดทำขึ้นได้ลดเวลานำเสนอรายการข่าวของ TITV จาก 8 ชั่วโมงลงไปเหลือ 4 ชั่วโมงต่อวัน เป็นการบิดเบือนความจริง ในทางตรงกันข้าม ผมพยายามจัดทำผังรายการให้มีช่วงเวลานำเสนอรายการข่าวถึง 6.30 ชั่วโมงต่อวันหรือเจ็ดชั่วโมงต่อวันหากรวมข่าวราชสำนักด้วย (ผมมิได้นำข่าวต้นชั่วโมงที่เสนอเจ็ดครั้งต่อวันมารวมในการคำนวน) ใ

นขณะที่รายการข่าวของ TITV ระหว่างเวลา 05.30-24.00 น. มีเพียง 4.30-5.0 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น ผังรายการของผมจึงมีช่วงเวลาการนำเสนอรายการข่าวรวมกันมากกว่าผังรายการของไอทีวีในปัจจุบัน (ผมใช้ผังรายการของ TITV ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาในการเปรียบเทียบ)

อนึ่ง ผมไม่ถือว่า รายการประเภท "คุยข่าว" หรือการอ่านหนังสือพิมพ์แถมความคิดเห็นส่วนตัวของผู้จัดรายการ ให้ผู้ชมฟังนั้นเป็น "รายการข่าว" หรือ Serious Journalism แต่ถือว่ารายการประเภทนี้เป็น "รายการบันเทิง" นอกจากนี้ ผมยังไม่นับรวมรายการข่าว Hot News ที่ออกอากาศซ้ำอีกครั้งในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน เพราะเอาของเก่ามาฉายซ้ำ

ประการที่สี่ ผมขอเสนอให้เปลี่ยนการออกรายการข่าวหลัก (Main Evening Bulletin) ช่วงค่ำที่เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 มาเป็นการเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 21.00 เป็นต้นไป ด้วยเหตุผลดังนี้

หนึ่ง สถานีโทรทัศน์ไทยขณะนี้แทบทุกช่องได้เสนอรายการข่าวช่วงเย็นระหว่างเวลา 18.00-20.00 น. อยู่แล้ว ซึ่ง TPBS ไม่จำเป็นต้องนำเสนอรายการข่าวเพื่อแข่งขันกับสถานีอื่นในช่วงเวลาเดียวกันนี้ เพราะไม่ได้ทำให้ผู้ชมทางบ้านได้สาระอะไรเพิ่มมากขึ้นไปกว่าที่เสนอกันอยู่ และ

สอง เนื้อข่าวส่วนใหญ่ที่ปรากฏในช่วงเวลา 18.00-20.00 น. ในสถานีต่างๆ เป็น "ข่าวปิงปอง" ที่เน้นการโต้กันไปมา โดยหวังเพิ่มเรตติ้ง ( rating) สิ่งที่ขาดหายไปก็คือ การนำเสนอข่าวเชิงวิเคราะห์เจาะลึกอย่างครบถ้วนและรอบด้าน และในความเห็นของผม "ข่าวปิงปอง" ยังลดคุณค่าของข่าวลง และอาจนำไปสู่ความเข้าใจที่ผิดพลาด หรือกระพือความเป็นปรปักษ์ต่อกันในสังคมไทย ซึ่งแสดงถึงความไม่รับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ถือว่าเป็นสื่อสารมวลชนที่มีคุณภาพ

ผมได้เสนอให้ TPBS มีรายการข่าว (Main Evening Bulletin) ในช่วงเวลา 21.00 น เป็นช่วงหลักของรายการข่าว เพื่อที่จะให้นักข่าวของ TPBS มีเวลาทำงานอย่างพิถิพิถันให้ดีขึ้น (proper journalistic treatment) สามารถเก็บมุมมองข่าวอย่างรอบด้าน นำเสนอข้อโต้แย้งจากฝ่ายต่างๆ รวมถึงนำเสนอภูมิหลังของข่าว บริบทของเรื่องราวที่นำเสนออย่างครบถ้วนในข่าวชิ้นเดียว (TV news package) ก่อนที่จะออกอากาศ จะให้ประโยชน์ต่อผู้ชมมากกว่า และในช่วงเวลาดังกล่าว ผมมีความคาดหวังว่า ผู้รับสารน่าจะพร้อมรับชมรายการข่าวอย่างจริงจัง เนื่องจากเดินทางกลับมาถึงบ้านหลังเลิกงานแล้ว ดังนั้นการนำเสนอข่าวในช่วงเวลานี้จะเป็นประโยชน์มากกว่า ในประเทศอังกฤษ โทรทัศน์ BBC และ ITV มีช่วงเวลาหลักของรายการข่าวในเวลา 22.00 น. มี Channel 4 เพียง ช่องเดียวมีช่วงเวลาหลักของรายการข่าวในเวลา 19.00 น.

ประการที่ห้า ผังรายการที่ผมเสนอในช่วงเวลา 16.00-20.00 น. ต้องการตอบสนองต่อเด็กและครอบครัวเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ผมได้แทรกช่วงเวลาของรายการข่าว 30 นาทีเพื่อเป็นรายการข่าวสำหรับเด็ก ซึ่งคล้ายกับ Newsround ของ BBC ทั้งนี้เนื้อหาของข่าวและลักษณะของการนำเสนอข่าวในช่วงนี้จะแตกต่างออกไปจากรายการข่าวปกติ นอกจากนี้ ในเวลา 17.00 และ 19.00 น. ผมคิดว่าน่าจะนำเสนอข่าวสั้นต้นชั่วโมงเฉพาะหัวข้อข่าวช่วงละ 3 นาทีจำนวน 2 ช่วง เพื่อที่จะคอยเตือนผู้ชมที่รับชมรายการอยู่ในช่วงเวลาของรายการเด็กและครอบครัว (เวลา 16.00-20.00 น.)

 ผมเชื่อว่าผังรายการที่ผมเสนอนั้นจะตอบสนองต่อผู้ชมที่กว้างและตอบสนองต่อความสนใจที่หลากหลายของผู้ชม โดยมุ่งเน้นการศึกษาและครอบครัว ผังรายการดังกล่าวดูจะแตกต่างจากผังรายการของสถานีโทรทัศน์ส่วนใหญ่ในประเทศไทย และมันก็ควรจะเป็นเช่นนั้น มิฉะนั้น เราคงต้องถามกันว่า เราต้องมีสถานีโทรทัศน์สาธารณะไปทำไม

ผมหวังว่าคำอธิบายเหล่านี้คงจะเป็นประโยชน์ต่อในการเปิดประเด็นการอภิปรายเรื่องผังรายการของทีวีสาธารณะ ซึ่งเป็นจุดประสงค์ของผมในการจัดทำผังตัวอย่างดังกล่าว

สมชัย สุวรรณบรรณ

15 มกราคม 2551
 

 


หัวข้อ: Re: 'เทพชัย หย่อง' มีความตั้งใจให้ประเทศไทยมี'ทีวีสาธารณะ'....
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 16-01-2008, 09:12
เมื่อคืนผมก็ดูคุณเทพชัย ในรายการตาสว่างด้วยครับ

และ คิดว่า หากคุณเทพชัยมาคุมบังเหียน เรื่องของทีวีสาธารณะนั้น มีความเป็นไปได้สูงเลยครับ


หัวข้อ: Re: 'เทพชัย หย่อง' มีความตั้งใจให้ประเทศไทยมี'ทีวีสาธารณะ'....
เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 16-01-2008, 09:18
ดีใจที่ ไอทีวี เปลี่ยนผู้บริหารข้างบนหมด ไม่รู้มันประท้วงไปถึงไหนแล้วค่ะ ไม่ได้ตามข่าวเลย   :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: 'เทพชัย หย่อง' มีความตั้งใจให้ประเทศไทยมี'ทีวีสาธารณะ'....
เริ่มหัวข้อโดย: samepong(ยุ่งแฮะ) ที่ 16-01-2008, 09:23
ทำให้ดีแล้วกัน ครับ อย่าทำให้พนักงานที่ไม่เกี่ยวข้องการเมืองที่เสียสละ ให้ทีวีช่องนี้เกิดขึ้น ต้องเสียไปเปล่าๆๆ

ส่วนไอพนักงานกับทีมข่าวที่รับใช้เหลี่ยมใ สมน้ำหน้ามันครับ


หัวข้อ: Re: 'เทพชัย หย่อง' มีความตั้งใจให้ประเทศไทยมี'ทีวีสาธารณะ'....
เริ่มหัวข้อโดย: ScaRECroW ที่ 16-01-2008, 09:25
สนับสนุนคุณสมชัยครับ


หัวข้อ: Re: 'เทพชัย หย่อง' มีความตั้งใจให้ประเทศไทยมี'ทีวีสาธารณะ'....
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 16-01-2008, 09:42
ข่าวฉายซ้ำ Hot News
น่าจะเป็น "แห้ง นิวส์" นะ :lol:



นับเวลาเสนอข่าวก็ไม่เป็น



มิน่า... ถึงกลัวตกงาน :lol:



หัวข้อ: Re: 'เทพชัย หย่อง' มีความตั้งใจให้ประเทศไทยมี'ทีวีสาธารณะ'....
เริ่มหัวข้อโดย: dantri ที่ 17-01-2008, 17:03
มีหลายความเห็นบอกว่าคุณเทพชัยแม้จะลาออกจากเนชั่นและขายหุ้นออกหมดแล้ว  แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่เกี่ยวข้องเอื้อผลประโยชน์กะเนชั่นอีก 


ถ้างั้นการที่ดาวเทียมไทยคมซึ่งเคยเป็นของแม้วรับจ้างออกอากาศให้สถานีผู้ก่อการร้ายแม้วกะอ้อก็ต้องรู้เห็นน่ะสิ


หัวข้อ: Re: 'เทพชัย หย่อง' มีความตั้งใจให้ประเทศไทยมี'ทีวีสาธารณะ'....
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 17-01-2008, 17:37
กาแฟดำ

เราตรวจสอบเขา เขาตรวจสอบเรา
 
17 มกราคม พ.ศ. 2551 00:00:00
 
หลายคนถามผมเรื่องคุณเทพชัย หย่อง ลาออกไปเป็นกรรมการ 1 ใน 5 (และรักษาการผู้อำนวยการชั่วคราว) ของ คณะกรรมการนโยบายชั่วคราวขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ "ไทยพีบีเอส" (Thai Public Broadcasting Service TPBS)

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :   ถามว่าลาออกจริงหรือ? หรือลาออกเพียงพิธีการ?

จริงครับ ไม่ใช่ลาออกธรรมดาหรือลาออกเฉยๆ แต่เป็นการที่คุณเทพชัยขอ "เกษียณก่อนเวลา" ที่เรียกว่า early retirement ตามโครงการของบริษัทอนุญาตให้พนักงานบางคนขอเข้าแผนนี้ได้ด้วยเหตุผลที่สอดคล้องกันทั้งสองฝ่าย

ซึ่งแปลว่าออกไปเลย ไม่มีโอกาสจะกลับเข้ามาทำงานในฐานะพนักงานเนชั่นได้อีก...คอลัมน์ต่างๆ ที่เขาเคยเขียนในสื่อของเครือเนชั่น ก็จะระงับไปเช่นกัน...หุ้นเนชั่น ที่เขามีก็ขายออกไป

เพราะคนเนชั่น เชื่อในเรื่องของการไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะเราวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งต่อคนอื่นที่ทำงานสาธารณะ เพราะเรามี "สัญญาประชาคม" ตั้งแต่เริ่มทำงานสื่อมา 36 ปี ว่าเราจะเคร่งครัดกับตัวเราในเรื่องจริยธรรมเพื่อให้สมกับความไว้เนื้อเชื่อใจของสังคม เราจึงต้องทำทุกอย่างให้เกิดความชัดเจนโปร่งใสและซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพนี้

คนเนชั่น รับตำแหน่งใดๆ ที่อาจจะตีความว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนกับอาชีพด้านนี้ไม่ได้ หากบุคคลนั้นตัดสินใจว่าจะไปกระทำการเช่นนั้น ก็จะต้องลาออกจากเนชั่นและห้ามใช้ความผูกพันกับเนชั่นเก่านั้นเพื่อประโยชน์แห่งตน

(โปรดอ่านรายละเอียดใน The Nation Way อันเป็น "คู่มือจริยธรรม" หรือ Code of Ethics ที่เป็นกติกาพื้นฐานของคนเนชั่น มาตลอด...สามารถถามหาได้จากคนของเนชั่นทุกคน)

หากสาธารณชนคนใดเห็นหรือได้ข่าวว่าคนเนชั่นไปประพฤติตัวเช่นนั้น กรุณาแจ้งผ่านช่องทางทุกช่องทางทั้งโดยทางการหรือไม่เป็นทางการเพื่อเราจะได้ตรวจสอบ สอบสวน และพิจารณาตัดสินตามข้อเท็จจริง...และหากผิดจริง ก็ไม่ปล่อยให้เป็นเช่นนั้นต่อไปเป็นอันขาด

คนเนชั่น ไม่เชื่อเรื่อง "เส้นสาย" ในการทำงานและคัดค้านต่อต้านการ "วิ่งเต้น" หรือเกาะเกี่ยวกับอำนาจการเมืองหรือธุรกิจ เพราะเราเชื่อว่าสิ่งที่มีค่าที่สุดของคนทำสื่อคือ "ความน่าเชื่อถือ" และ "ความสัตย์ซื่อ" ต่อสาธารณชนซึ่งไม่อาจจะสร้างได้ หากคนทำสื่อใช้อิทธิพลของตนเพื่อแสวงหาอำนาจ ผลประโยชน์หรือบารมีเพื่อตนหรือกลุ่มตน

เราเชื่อว่า "ผลงานของความเป็นมืออาชีพ" ของเราเท่านั้นที่จะตัดสินคุณค่าของเราต่อสังคม และด้วยเหตุผลนี้ เราจึงฝึกปรือคนทำงานของเราให้ "เข้ม" และ "จริงจัง" กับหลักการ แม้ว่าในบางครั้งการยึดมั่นในหลักการเช่นนั้นจะทำให้เราต้องเผชิญกับอุปสรรคการกดดันและกลั่นแกล้งหรือใส่ร้ายป้ายสีจากกลุ่มอำนาจหรือกลุ่มผลประโยชน์ในบางครั้งบางจังหวะก็ตาม

คุณเทพชัย ไม่ใช่คนแรก และคงไม่ใช่คนสุดท้ายของเนชั่น ที่ขอตัวออกไปแสวงหาเป้าหมายของชีวิตตามที่แต่ละคนมุ่งหวัง

คำว่า "ผลประโยชน์ทับซ้อน" เป็นคำที่เรารังเกียจและต่อต้าน เพราะเราเชื่อว่านี่คือสาเหตุแห่งปัญหาความเสื่อมถอยของสังคมไทยมามากต่อมากแล้ว

คนที่เนชั่น ถูกบ่มเพาะให้เป็นคนมีความคิดอิสระเป็นของตัวเอง ไม่มีใครต้องสยบยอมใครเพียงเพราะตำแหน่งสูงกว่า อายุมากกว่า หรือเสียงดังกว่า...ทุกคนวิจารณ์ทุกคนได้

ทุกคนรู้ดีว่าเนชั่น มีความภาคภูมิในตัวเองและอหังการเพียงพอที่จะไม่ "อาศัยใบบุญ" ของ "ศิษย์เก่า" เพื่อแสวงหาโอกาสอันมิควรได้หรือสร้างความได้เปรียบ เพราะความรู้จักมักคุ้นกันในเวทีสาธารณะที่ควรจะต้องมีการแข่งขันกันอย่างถูกต้องเป็นธรรม

เพียงแค่ผู้ขอลาจากไม่กระทำการใดที่จะทำให้ชื่อเสียงของ "ความเป็นเนชั่น" ต้องเสื่อมหรือเสียหาย หรือใช้ "ความเป็นศิษย์เก่าของเนชั่น" ไปในทางที่ผิดหลักจริยธรรมของที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาก็ต้องขอบคุณเขาแล้ว

เราตรวจสอบกันเอง ตรวจสอบคนอื่น ให้คนอื่นตรวจสอบ และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบซึ่งกันและกัน เป็นกติกาพื้นฐานแห่งวิชาชีพอยู่แล้ว

ดังนั้น กรรมการชั่วคราวทั้งห้าคนของ "ทีวีสาธารณะ" แห่งแรกของประเทศไทย จึงจะต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียดรอบด้านและเข้มข้นเพื่อให้พวกเขาสามารถสร้างสถานีโทรทัศน์ที่อิสรเสรี ปราศจากแรงกดดันจากการเมืองและผลประโยชน์ธุรกิจจากการโฆษณา

เพื่อให้สถานีสาธารณะแห่งนี้สามารถทำหน้าที่ตรวจสอบสื่ออื่นๆ ที่กำลังตรวจสอบพวกเขาอยู่ขณะนี้ด้วย...อย่างแน่วแน่ มั่นคง และ ไร้อคติ

เพื่อให้เกิดความโปร่งใสชัดเจนในประเด็นนี้ ขอเรียนให้สาธารณชนได้ทราบว่าเครือเนชั่นจะไม่เสนอรายการโทรทัศน์ใดไปให้กับสถานีโทรทัศน์ TPBS พิจารณาในผังรายการใหม่ตราบเท่าที่คุณเทพชัยมีตำแหน่งอยู่ในคณะกรรมการชั่วคราวชุดนี้

(เข้ามาร่วมแสดงความเห็นหลากหลายได้ที่ blog ของผมที่ www.oknation.net/blog/black ตลอด 24 ชั่วโมง)
 

http://www.bangkokbiznews.com/2008/01/17/WW12_1238_news.php?newsid=220932


เพื่อให้เกิดความโปร่งใสชัดเจนในประเด็นนี้ ขอเรียนให้สาธารณชนได้ทราบว่าเครือเนชั่นจะไม่เสนอรายการโทรทัศน์ใดไปให้กับสถานีโทรทัศน์ TPBS พิจารณาในผังรายการใหม่ตราบเท่าที่คุณเทพชัยมีตำแหน่งอยู่ในคณะกรรมการชั่วคราวชุดนี้
หลักการนี้สามารถพิสูจน์เป็น"รูปธรรม" ได้
คงไม่เหมือนเงินกู้ไทยที่ให้เพื่อนบ้าน เพื่อมาซื้อสินค้าและบริการของเพื่อนร่วมลงทุนพรรคการเมือง...

หรือลูกชายของ"กาแฟดำ" ไม่ไปตั้งบริษัท"ฮาวโปร" รับงานจากสถานีทีวีสาธารณะ....





หัวข้อ: Re: 'เทพชัย หย่อง' มีความตั้งใจให้ประเทศไทยมี'ทีวีสาธารณะ'....
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 17-01-2008, 19:02
เนชั่นทำดีที่สุดแล้ว พวกปากหอยปากปู ก็จะเงียบไปเอง


หัวข้อ: Re: 'เทพชัย หย่อง' มีความตั้งใจให้ประเทศไทยมี'ทีวีสาธารณะ'....
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 17-01-2008, 19:10
เมืองไทยต้องมี ช่องทีวีที่ไม่มีการแทรกแซงได้



หัวข้อ: Re: 'เทพชัย หย่อง' มีความตั้งใจให้ประเทศไทยมี'ทีวีสาธารณะ'....
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 17-01-2008, 20:05
ผมว่า 5 อรหันต์นี่ น่าจะเหมือน 5 เสือ กกต. ชุดแรก

สังคมจับตาเยอะ พวก "มือสกปรก" ก็ยังเข้าแทรกแซงไม่ได้

ชุดต่อไปไม่แน่ อาจเหมือนพวก 3 หนาห้าห่วง :?