ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: *bonny ที่ 11-01-2008, 17:10



หัวข้อ: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: *bonny ที่ 11-01-2008, 17:10
ไม่ได้เข้ามาตั้งกระทู้นานมากแล้ว :slime_p:  แต่คิดว่า เรื่องนี้คงไม่อาจอยู่เฉยได้.. :slime_shy: เพราะหากมีใครที่รู้เรื่องราวของนายคนนี้แล้วเฉยเอาไว้  ในอนาคต..จะมีคนไม่รู้เข้าใจผิดกันไปยกใหญ่

ผมเข้าไปอ่านบทความของนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล จากเว็ปนี้..
http://www.sameskybooks.org/board/index.php?showtopic=4866

เกี่ยวกับความรู้สึกของเขาต่อการแสดงความสูญเสียของสมเด็จพระพี่นางฯ ของปวงชนชาวไทย  จดหมายลับที่นำมาเปิดเผยบางส่วนแบบไม่มีที่มา ลามไปถึงเรื่องวิญญาณวีรชน 6 ตค.19 ซึ่งนายสมศักดิ์เป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดความรุนแรงจนถึงขั้นนองเลือด


ยิ่งได้อ่านบทความอื่นๆ ในเว็ปนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่า ไม่สบายใจอย่างยิ่ง  เพราะนี่มันเข้าข่ายผิดกฎหมายทั้งเว็ป

ไม่น่าแปลกใจนักที่คนรักทักษิณทั้งหลายจะนิยมชมชอบบทความนี้ และคลั่งไคล้ในตัวนายหัวโตในฐานะนักวิชาการที่มีจิตวิญญาณคนเดือนตุลา ที่การันตีว่า เกลียดเผด็จการ

ผมเรียกนายสมศักดิ์ว่า เจ้าหัวโต เพราะเป็นชื่อที่เพื่อนๆ ชาวสวนกุหลาบเรียกขานแทนชื่อจริง

ผมไม่สามารถตอบโต้เจ้าหัวโตได้ในเว็บนั้นเพราะผมไม่ใช่สมาชิก และก็ไม่อยากจะสมัครด้วย หากใครมีจิตเมตตาก็ช่วยนำบทความนี้ไปแปะไว้ในบอร์ดของเว็ปนั้นด้วยก็จะขอบพระคุณมาก :slime_worship:


เรื่องแรกที่ผมจะพูดคือ เรื่องที่เจ้าหัวโตไม่เห็นด้วยกับการที่เวลาคนในาชวงศ์เสียชีวิต ทำไมต้องให้สังคมไทยพลอยโศกเศร้าไปด้วย  เทีียบกับกรณีการเสียชีวิตของอดีตมหาดเล็กในกรณีสวรรคต ร.8  การป้ายสีท่านปรีดี พนมยงศ์  และการเสียชีวิตของวีรชน 6 ตค.19  ราชวงศ์ไม่เคยนำพา หรือ แสดงความเศร้าเสียใจกับการสูญเสียเหล่านั้นบ้าง

ในกรณีของสมเด็จพระพี่นางนั้น..

ประเด็นที่ผมจะกล่าวแย้ง ไมใช่เรื่อง การบีบบังคับให้คนไทยต้องแสดงความรู้สึกเสียใจ  เพราะนั่นเป็นความรู้สึกล้วนๆ ไม่มีกฎหมายบังคับ เป็นเอกสิทธิ์ของทุกท่านในการแสดงออก  คนใส่ชุดดำก็มิได้หมายความว่า มีความสำนึกโศกเศร้าก็ได  การแสดงออกแบบเกินเลยของสื่อต่างๆ ทุกวันนี้ ก็อาจมิได้มาจากความจงรักภักดีก็ได้เช่นกัน 

แต่นี่เป็นเรื่องของวัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมไทยที่มีมาแต่โบราณ ชาติอื่นๆ ในโลกไม่มีที่ไหนเสมอเหมือน  ผมเองก็ไม่ได้เห็นด้วย แต่ก็ไม่ขัดขวาง เพราะเข้าใจว่า นี่คือ สังคมไทย เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติไทย  จะเลวจะชั่วก็เสมือนเรื่องในครอบครัวไทย  พ่อ-แม่ของเราอาจไม่ใช่คนดีที่สุด แต่หากเราไม่รังเกียจพ่อ-แม่ของเรา ก็เป็นเพราะความรู้สึกที่เราอยู่ในครอบครัวนี้  ไม่ใช่ว่า เราจะเห็นด้วยกับพ่อ-แม่เสียทั้งหมด  แต่เพราะความเป็นครอบครัว พวกเราจึงยอมรับได้ต่างหาก   เชื่อว่า..พ่อแม่ของใครก็ไม่อาจเป็นคนดีได้ทุกเรื่องหรอก  แต่ในฐานะลูกย่อมมองข้ามความผิดนั้นได้มากกว่าบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกครอบครัว 

เรื่องที่ผมจะติติงบทความของเจ้าหัวโต คือ สมเด็จพระพี่นางเป็นอาจารย์ในคณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์มาช้านาน แม้ในช่วงเวลาที่นายหัวโตเข้าไปศึกษา(เพียงปีเดียว) ท่านก็เป็นอาจารย์สอนภาษาฝรั่งเศสอยู่ แม้เจ้าหัวโตพ้นจากสภาพนศ.ไปแล้ว ท่านก็ยังสอนอยู่เรื่อยมาอีกระยะหนึ่ง

ในฐานะที่เป็นราชนิกูลระดับสูงเช่นนี้  มีพระองค์ไหนบ้างเสียสละเวลาและความสุขสบายที่พึงหาได้ในช่วงเวลานับสิบปีมาสอนหนังสือให้เด็ก

ผมคิดว่า..หาได้ยากยิ่ง ไม่ว่าในประเทศนี้ หรือที่ใดในโลก

จะว่า ท่านปรารถนาชื่อเสียงก็คงไม่ใช่  หวังลาภยศก็มีเกินพอที่จะแสวงหาแล้ว  หวังเงินทองเงินเดือนจากค่าสอนก็ยิ่งไม่ใช่ใหญ่  เพราะท่านไม่เคยรับจ็อบงานนอกรั้วมหาวิทยาลัยเหมือนอาจารย์ทั่วๆ ไป  และเงินเดือนที่ได้รับผมไม่ทราบว่า จะพอค่าพาหนะเดินทางที่ต้องมีผู้ติดตามเสด็จหรือไม่  แล้วท่านทำเรื่องเช่นนี้เพื่อใคร..??? ถ้าไม่ใช่เพื่อสังคมไทยส่วนหนึ่ง

เท่าที่รู้  สมเด็จพระพี่นาง ไม่เคยสร้างภาพในเรื่องนี้ออกสู่สาธารณชน  ท่านทำเพราะท่านอยากทำและเห็นว่าเป็นสิ่งดี

แต่ที่รู้แน่ๆ้ คือ ท่านเจียดกำลังทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนให้นักศึกษาที่เรียนดีแต่ยากจนทุกปี  ในชื่อทุนซื้อหนังสือเรียนของสมเด็จพระพี่นาง  และผมก็เคยเป็นนักศึกษาทุนในส่วนนี้ด้วย  เป็นเรื่องที่เกิดได้ยากจริงๆ ที่นักเรียนทุนสมเด็จพระพี่นางฯอย่างผมดันมาอ่านบทความที่หยามหมิ่นของเจ้าหัวโตซึ่งเป็นศิษย์ธรรมศาสตร์เช่นกันเข้า

ที่ผมเขียนติติงมานี้ ก็เพื่อแก้ข้อกล่าวหาเล็กๆ ของเจ้าหัวโตในฐานะลูกศิษย์ที่สำนึกในบุญคุณ  และผมก็เชื่อว่า ยังมีลูกศิษย์ของพระพี่นางอีกจำนวนมากที่จบการศึกษาไปแล้วไม่พอใจกับข้อเขียนของเจ้าหัวโต  ซึ่งอดีตก็มาจากรั้วเหลืองแดง ปัจจุบันมีคนเรียกเขาว่า อาจารย์ นำหน้า :slime_hitted:


และหากใครจะนับว่า นายหัวโตเป็นชาวธรรมศาสตร์แล้วล่ะก้อ  ผมคนหนึ่งล่ะที่ขอค้าน..
เพราะหมอนี่แค่เอ็นท์ติด มธ. และใช้ชื่อมธ.ในการสืบสานอุดมการณ์บ้าบอของเขาเท่านั้น  มีกี่คนที่เห็นหน้าเจ้าหัวโตเข้าไปเรียนหนังสือในหัองเรียนเหมือนคนอื่นๆ บ้าง?  ลองไปเช็คทรานสคริปต์ดูสิครับว่า เขาลงทะเบียนกี่วิชา และสอบผ่านกี่วิชาก่อนจะเกิดเหตุการณ์ 6 ตค.

เวลาส่วนใหญ่ของเจ้าหัวโตใช้ไปกับการปลุกระดมมวลชน และบนเวทีปราศรัยในนามสมาชิกองค์การนักศึกษามธ.

ในเมื่อไม่ได้เข้ามาแสวงหาความรู้จากรั้วมธ. เจอครูอาจารย์อีกทีก็วันสอบ จะไปนับถือเป็นครูเป็นศิษย์เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันได้อย่างไร?

เจ้าหัวโตอาจหลงคารมของศิษย์ผู้พี่รุ่นเก่าๆ ที่บอกว่า ชาวธรรมศาสตร์ต้องรับใช้ประชาชน อย่าเห็นแก่ตัวเอาตัวรอดแค่จบจากที่นี่แล้วมีงานการทำ ร่ำรวยใหญ่โต

กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่า รุ่นพี่ๆ นั่นแหละเห็นแก่ตัวกันสุดๆ เพราะพวกนั้นดันจบ(จนได้) และปัจจุบันอยู่ในแวดวงธุรกิจ ร่ำรวยเงินทอง แถมยังรับใช้นักการเมืองเอาเปรียบสังคมอยู่ทุกวันนี้
ี้ยังไม่เห็นรุ่นพี่ที่เจ้าหัวโตเคารพนับถือคนไหนออกมาทำงานรับใช้ประชาชนในฐานะ..ผู้เสียสละเพื่อสังคม ตามอุดมการณ์สักคนเดียว   แม้แต่..เจ้าหัวโตเองก็เถอะ  เคยทำอะไรให้ธรรมศาสตร์ และทำให้ประเทศชาติและประชาชนมั่ง ช่วยบอกหน่อยสิ

ผมเองก็เด็กกิจกรรมเหมือนเจ้าหัวโต เป็นสมาชิกพรรคการเมืองในรั้วมหาลัยเหมือนเจ้าหัวโตนั่นแหละ  แต่ผมแยกแยะได้  พ่อแม่ส่งเรามาเีรียนหนังสือ  เวลาเรียนเราต้องเรียน เป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อตัวเอง ต่อเงินทองของพ่อแม่ และต่อสังคม (ค่าเรียนถูกเพราะรัฐอุดหนุนส่วนหนึ่ง) มิฉะนั้นจะมีความรู้ความสามารถไปรับใช้สังคมได้อย่างไร  แต่นอกเวลา เราทำกิจกรรมเพื่อสังคมได้  แม้แต่ไปนั่งตากแดดกลางสนามฟุตบอลเพื่อขับไล่เผด็จการ พวกผมก็ทำกันในเวลาส่วนใหญ่ของเวลาว่าง  มิได้เอาไปดูหนัง เล่นกีฬา จีบผู้หญิงซะที่ไหน

ดังนั้น..ในฐานะที่สมเด็จพระพี่นางฯ เคยเป็นอาจารย์ที่นั่น ผมเรียกท่านได้เต็มปากว่า อาจารย์  เพราะท่านไม่เคยเกการสอน ถึงเวลาสอนก็ต้องมาสอน ไม่อยากสอนก็ต้องสอน ขี้เกียจสอนก็ต้องสอน สอนแล้วไม่ได้อะไรเลย เมื่อสิ้นพระชนม์ยังมีคนมาด่ากต้องไปสอน เพราะ็มีความรับผิดชอบต่อเด็กๆ ทั้งที่เป็นศิษย์คณะศิลปศาสตร์และไม่ใช่คณะนั้น  ท่านให้โอกาสทุกคนในเรื่องของเงินทุน

แต่เจ้าหัวโตที่แทบไม่ได้เข้าเรียนเลย ไม่เคยคบเพื่อนนอกกลุ่ม อาศัยชื่อของมหาลัยสืบทอดอุดมการณ์อย่างเดียว  ผมก็ไม่ขอเรียกเต็มปากเช่นกันว่า ศิษย์มธ.

เรื่องต่อมา..
คือเรื่องที่เจ้าหัวโตชอบแอบอ้างวีรกรรม 6 ตค.19 ไปสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง  ผมว่าควรยุติได้แล้ว ละอายแก่ใจบ้างเถอะครับ 

เจ้าหัวโตนี่แหละที่นำพาให้คนไปใตายในมหาวิทยาลัยและกลางแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนมาก

เป็นเด็กอายุไม่ถึงยี่สิบดี แต่ริอ่านเป็นผู้นำม็อบ เอาชีวิตคนจำนวนมากเป็นหลักประกันความสำเร็จของอุดมการณ์ตนเอง ไม่ทราบว่า สงสารพ่อแม่ ญาติพี่น้องผู้ตายหรือเปล่า??????

อายุของผู้นำม็อบไม่ดูที่ตัวเลขก็จริง  แต่ความรับผิดชอบต้องมีสูงเทียบเท่ากับความสำคัญด้วย

ในเวลานั้น..นักศึกษาและประชาชนจำนวนมากไม่มีอาวุธใดๆ จะไปต่อกรกับอันธพาลส่วนหนึ่ง และเจ้าหน้าที่รัฐส่วนหนึ่ง  ข้านอกเขามีสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ปลุกระดมกันอยู่ทุกวี่วัน  นักศึกษามีอะไรสู้ได้..นอกจากความบริสุทธิ์ใจ

ในขณะที่ภัยร้ายกำลังเข้าใกล้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทุกนาที  เพราะพวกเขาก็ฮึ่มๆ กันอยู่ว่า จะบุกเข้าไป รอแค่ไฟเขียวจากผู้นำเท่านั้น  ถ้าเจ้าหัวโตและนายธงชัยศิษย์ผู้พี่ (คนนึงอยู่ปีหนึ่ง อีกคนอยู่ปีสองเท่านั้น) จะเห็นแก่ความปลอดภัยของผู้ร่วมชุมนุม ต้องประกาศให้สลายการชุมนุมไปก่อน ให้แยกย้ายกันไปในที่ปลอดภัย แล้วหาทางระดมพลใหม่เมื่อสถานการณ์อำนวย  ไม่ใช่..ยืนบนเวทีแล้วประกาศว่า "ทุกคนอยู่ในความสงบ ไม่ต้องกลัว ให้จับมือกันไว้ อย่าแตกกลุ่ม  ไม่มีใครทำร้ายพวกเราได้ถ้าพวกเรารวมกันเป็นหนึ่งเดียว บ้านเมืองมีขื่อมีแป ไม่มีใครทำลายอำนาจของนักศึกษา ประชาชนได้ ฯลฯ"  สรุปว่า ให้อยู่ในรั้วมหาลัยนั่นแหละ  ในที่สุด ..ใครเชื่อมันก็ตายหมู่  กลา็ยเป็นเหยื่อให้เขาสอยทิ้งได้ง่ายๆ เพราะกระจุกตัวกันอยู่ในชามใบใหญ่  ยิงตรงไหนก็ถูก

โทษใครครับ? ที่เราต้องเสียพี่น้องผู้บริสุทธิ์ไปนับร้อยๆ คน  ถ้าไม่โทษความอ่อนหัดในการนำม็อบของเด็กสองคนที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบ

แต่บทความของเจ้าหัวโตเลือกที่จะกล่าวโทษราชวงศ์ว่า ทำไมไม่นำพา ไม่ช่วยซับน้ำตาคนตาย  โถ..ไม่หันมาโทษตัวเองบ้างเลยนะ

ฝ่ายขวาจัดอันประกอบไปด้วย ขุนนางทั้งหลายนั่น เขามีหน้าที่ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของตนเองเป็นสำคัญ เช่นเดียวกับสถาบันทุกแห่งในสังคม รวมทั้งสถาบันพระมหากษัติรย์  นี่คือ..สิ่งที่เจ้าหัวโตและนายธงชัยควรสังวรณ์ไว้ด้วย  เพราะสังคมไทยประกอบกันขึ้นมา  มิได้มีแต่ สังคมของนักศึกษา ผู้ใช้แรงงาน และประชาชนผู้ด้อยโอกาสเท่านั้น

นี่ถ้าหมั่นเข้าเรียนสักหน่อย รอจนอายุขัยได้ที่ มีคุณวุฒิ และวัยวุฒิที่เหมาะสม  ก็น่าจะเป็นผู้นำม็อบได้ดีกว่านี้

ดังนั้น..ที่คนตายจำนวนมาก อย่าโทษเป็นความผิดของอมาตยาธิปไตยทั้งหมด เป็นความอนุบาลทางการเมืองของเด็กฝึกหัดสองคนนั่นด้วย

ที่ตนเองและนายธงชัยได้ไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ ไม่ต้องถูกจองจำจนแก่หง่อมเพราะใครให้โอกาส? หรือคิดว่า เป็นเพราะตัวเองและญาติพี่น้องเสริมส่ง?  เวรกรรมแท้ๆ ที่มีคนเช่นนี้ในประเทศไทย

เรื่องสุดท้าย..เกลียดเผด็จการเข้าไส้
ใครๆ ก็เกลียดครับ เพราะการรวบอำนาจไว้ที่คนๆ เดียว สั่งไดทุกหน่วยงานให้รับใช้ ทำจนตนเองและครอบครัวร่ำรวยในทางมิชอบมหาศาลโดยที่กติกาสังคมทำอะไรไม่ได้  อย่างนี้ก็เรียกว่า เผด็จการเช่นกัน   แต่เป็นเผด็จการนายทุนนักการเมือง  หรือเจ้าหัวโตไม่รู้หว่าว่ามันมีหลายประเภทและมีการกลายพันธุ์ได้ :slime_doubt:

หลังเหตุการณ์ 6 ตค.19 มีการยึดอำนาจอีกหลายครั้งโดยคณะนายทหาร  ผมก็ไม่เห็นว่า เจ้าหัวโตจะใส่ใจออกมาเรียกหาประชาธิปไตย  กล้าชนกับใครเขาที่ไหนเลยสักครั้งเดียว  แต่เผด็จการ คมช.ครั้งนี่กลับออกมาสับเป็นชิ้นๆ อย่างสนุกสนาน


นี่เพราะอะไร?

ผมจะบอกให้  เพราะเผด็จการที่ผ่านๆ มาเป็นเผด็จการทหารที่แท้จริง เขาไม่เปิดโอกาสให้พูด ให้เขียนแย้ง เขาส่งคนไปเก็บหมด  แต่ คมช. และ รัฐบาลหน่อมแน้มชุดนี้ เป็นเผด็จการปากอ้าขาสั่น  ก็พฤติกรรมเหมือนอดีตนายกฯ เปรม นั่นแหละ  เขาให้มานั่งชูคอมิได้มานั่งแก้ปัญหา

และไม่น่าเชื่อว่า คนหัวซ้ายจัดอย่างเจ้าหัวโต ไฉนกลายเป็นพันธมิตรของ่ลูกหลาน และสาวกพรรคหน้าเหลี่ยมและนายจมูกบานที่เคยเป็นคนชักนำให้ชาวบ้านเกลียดนักศึกษาสถาบันที่ตนเองจบออกมา และกล่าวหาว่า ข้างในมีทั้งญวน มีทั้งคลังอาวุธ จะสามารถจูบปากกันได้ในที่สุด

ที่เป็นเช่นนี้ น่าจะเป็นเพราะเจ้าหัวโตจงเกลียดจงชังระบบศักดินาที่มีสถาบันอยู่เหนือหัวเป็นที่สุด  ซึ่งจะว่าไปแล้ว น่าจะเกลียดชังตั้งแต่สมัยยังอยู่ในรั้วมธ.เสียด้วยซ้ำ  แต่ครานั้น..ความใฝ่ฝันที่จะปฏิวัติด้วยพลังประชาชนพินาศไปเสียก่อน แต่ความเจ็บช้ำยังคงดำรงอยู่จนถึงวันนี้ จึงทำอย่างไรก็ได้ ให้จูบปากกับอดีตฆาตกร 6 ตค.19 ก็ยอม เพียงเพราะเหตุผล คนเหล่านั้นยืนอยู่ตรงข้ามกับสถาบัน  แค่นั้นก็สะใจแล้ว  (เออ..คำว่า..ประเทศชาต ิของเจ้าหัวโตมีความหมายว่าอย่างไรนะ)


ที่เขียนมาทั้งหมดนี่ ผมไม่ได้เป็นทาสใครทั้งสิ้น เผด็จการทหารก็ไม่ชอบ  แต่เผด็จการทหาร ผมยังเหลือประเทศให้ภาคภูมิใจว่ายังมีอยู่  แต่เผด็จการนายทุน ผมแทบไม่เหลืออะไรให้ภาคภูมิใจได้เลย  เพราะมันฮุบหมดไม่ยอมแบ่งใคร นอกจากพวกมันเอง และเปิดโอกาสให้บางประเทศที่มีภาระผูกพันกันทางผลประโยชนเข้ามาร่วมฮุบ

นอกจากนี้ ผมยังไม่ได้เป็นคนยกย่องบทบาทของราชวงศ์ใดๆ ทั้งสิ้น แม้แต่เสื้อตราสัญลักษณ์ก็ยังไม่เคยใส่ เพราะไม่รู้ว่า จะซื้อมาใส่ทำไมในเมื่อเสื้อผ้าผมมีอยู่เต็มตู้

และผมไม่มีอคติใดๆ กับเจ้าหัวโต เพราะผมเองก็พวกเดียวกันกับเขา นั่งฟังเขาไฮปาร์คด่ารัฐบาลมาด้วยกันและเจ็บช้ำกับเหตุการณ์ 6 ตค.19 จากน้ำมือของเจ้าจมูกบานและคณะผู้ก่อการเช่นเดียวกัน






หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 11-01-2008, 17:27
เข้ามาอ่าน'ลากใส้' เจ้าหัวโต
หรือ อาจารย์สมศักดิ์ของคนในห้องสังคมและการเมือง เวบประชาไท.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Priateľ ที่ 11-01-2008, 17:39
ขอถือโอกาสสวัสดีปีใหม่คุณ *bonny ครับ

ผมอ่านบทความของอาจารย์สมศักดิ์แล้วครับ ผมว่าอาจารย์แกพยายามจะโยงเรื่องให้มันเกี่ยวข้องกัน แต่มันไม่มีอารัมภบทหรือปูทางให้เข้าใจ มันก็เลยดูประหลาดๆ

(คือยังไม่ทันต้องเข้าทางของอาจารย์ที่อยากดูการเต้นของเหล่า royalist อย่างผมนะครับ แค่ความสมเหตุสมผลในการโยงข้อความหนึ่ง มาข้อความสอง เพื่อเข้าประเด็นที่ตั้งใจไว้คือข้อความที่สามมันยังไม่สมจริงอ่ะครับ)

ทำไมถึงต้องมาเสียใจเวลาญาติตัวเองตาย แต่ทำไมคนนั้นคนนี้ตายถึงไม่"แสดง"ความเสียใจ ฯลฯ

บทความอาจารย์สมศักดิ์ผมก็เป็นแฟนติดตามอ่าน ดังนั้นผมก็ว่าอาจารย์เขาก็ยังเล่นประเด็นเดิมคือเรื่อง 6 ตุลา (นึกถึงคุณ นายชดขึ้นมาติดหมัดเลย เขาเคยถามผมว่าระหว่างอาจารย์สมศักดิ์ อาจารย์ธีรยุทธ อาจารย์เสกสรรค์ ผมเชื่อใคร ผมตอบว่าผมเชื่ออาจารย์เสกสรรค์ ซึ่งตัวผมเองก็ยังไม่รู้คำตอบที่ถูกต้องจนถึงทุกวันนี้ แต่คิดว่าคำถามน่าจะมีนัยอะไรสักอย่าง มั้ง แหะแหะ)

แค่เอาเรื่องสมเด็จพระพี่นางมาประกอบเรื่องเท่านั้น ไม่รู้ว่าจะเล่นอะไรต่อ อาจเป็นวันจักรีก็ได้ครับ

(โทษทีครับอาจารย์ ผมยังเป็นแฟนบทความอาจารย์เหมือนเดิม แต่อ่านกระทู้อาจารย์ทีไรมันก็เริ่มรู้สึกอย่างนี้มากขึ้นทุกทีอะครับ)

(ท่าทางอาจารย์อยากจะเป็นสายล่อฟ้า ผมก็คงดูห่างๆอะคับ ไม่ค่อยชอบโดนสายฟ้าผ่าร่าง อิอิ)


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: แอบอ่าน ซุ่มเงียบ ที่ 11-01-2008, 17:46
บอนนี่ กำลังบอกว่า ผู้ที่ทำให้เกิดความรุนแรงในช่วง 6 ตุลา 19 คือ นายธงชัย กับ นายสมศักดิ์ยังงั้นหรือ  เพราะความอ่อนหัดของเขาทั้งคู่ ยังงั้นหรือ

แหม แสดงว่า นักศีกษาในสมัยนั้น โง่จน โดน 2 คนนี้ จูงจมูกไปเข้าโรงฆ่าเลยเนอะ

เหมือนที่สมัครพูดว่า จำลองพาคนไปตายเลย อยู่ดีๆ ก็เดินไปให้ทหารยิงทำไม 

ถ้าพวกนักศีกษาในธรรมศาสตร์วันนั้นไม่โง่ไปประท้วง   ก็คงไม่ต้องตายสินะ  แหม ทำไมถึงโง่อย่างนี้  แสดงว่า สมควรถูกฆ่าแล้วสินะ


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: *bonny ที่ 11-01-2008, 17:53
บอนนี่ กำลังบอกว่า ผู้ที่ทำให้เกิดความรุนแรงในช่วง 6 ตุลา 19 คือ นายธงชัย กับ นายสมศักดิ์ยังงั้นหรือ  เพราะความอ่อนหัดของเขาทั้งคู่ ยังงั้นหรือ

แหม แสดงว่า นักศีกษาในสมัยนั้น โง่จน โดน 2 คนนี้ จูงจมูกไปเข้าโรงฆ่าเลยเนอะ

เหมือนที่สมัครพูดว่า จำลองพาคนไปตายเลย อยู่ดีๆ ก็เดินไปให้ทหารยิงทำไม 

ถ้าพวกนักศีกษาในธรรมศาสตร์วันนั้นไม่โง่ไปประท้วง   ก็คงไม่ต้องตายสินะ  แหม ทำไมถึงโง่อย่างนี้  แสดงว่า สมควรถูกฆ่าแล้วสินะ


เอาข้อความว่า "บอนนี่กำลังบอกว่า..."  ออกเถอะ เพราะคุณอ่านแล้วจับใจความมาผิดๆ

ผมกำลังบอกว่า อย่าปัดความรับผิดชอบทิ้งต่างหาก  อย่าลงโทษคนอื่นๆ ฝ่ายเดียวในขณะที่ตัวเองบกพร่อง

ในกรณี 6 ตค. มีทั้งคนเติมเชื้อเพลิง คนเผา (ซึ่งแน่นอนคือ คนผิด) และคนถูกเผา  ผมกำลังบอกว่า เจ้าหัวโตและนายธงชัยมีส่วนร่วมในการไม่ขนย้ายทรัพย์สินหนีในขณะที่มีโอกาส แต่ปล่อยให้มันมอดไหม้ไปในกองไฟ โดยประกาศว่า มือเปล่าไม่กลัวไฟ(โว้ย)

พูดเปรียบเปรยเช่นนี้ ไม่มรู้ว่า คุณยังจับใจความได้ถูกหรือเปล่า?


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 11-01-2008, 17:58
สวัสดีค่ะพี่บอนนี่ ...
ทางด้านอุปถัมภ์การศึกษา ที่อนาชื่มชมมากๆและได้เคยสอบมาแล้ว (แต่พลาด) ของพระพี่นางฯ และสร้างชื่อให้ประเทศไทยระดับโลก

มูลนิธิส่งเสริม โอลิมปิกวิชาการ http://www.posn.or.th/ สร้างชื่อให้น้องปิงปอง ที่ตอนนี้กลายเป็นบุคคลวิทยาศาสตร์ให้ปีไปแล้ว แซงนักวิทย์ฯรุ่นใหญ่ไป โหะๆ http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9510000001758

เทิดพระเกียรติพระพี่นางเธอฯ เป็น “เจ้าฟ้าแม่พิมพ์ของแผ่นดิน”
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9510000004223


ส่วนนายหัวโตไม่คอมเม้นค่ะ รู้สึกยี้ๆๆๆๆๆๆมากๆๆ :slime_hitted:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: แอบอ่าน ซุ่มเงียบ ที่ 11-01-2008, 17:59
lor=red]เจ้าหัวโตนี่แหละที่นำพาให้คนไปใตายในมหาวิทยาลัยและกลางแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนมาก[/color]

เป็นเด็กอายุไม่ถึงยี่สิบดี แต่ริอ่านเป็นผู้นำม็อบ เอาชีวิตคนจำนวนมากเป็นหลักประกันความสำเร็จของอุดมการณ์ตนเอง ไม่ทราบว่า สงสารพ่อแม่ ญาติพี่น้องผู้ตายหรือเปล่า??????

โทษใครครับ? ที่เราต้องเสียพี่น้องผู้บริสุทธิ์ไปนับร้อยๆ คน  ถ้าไม่โทษความอ่อนหัดในการนำม็อบของเด็กสองคนที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบ


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย) ที่ 11-01-2008, 18:00
bonny เขียนดีแฮะ เพิ่งรู้นะนี่ว่า อายุเยอะแล้ว

ผมโตไม่ทัน ไล่เผด็จการทหาร

อาศัยก็อ่าน หนังสือ และวีดีโอห้องสมุดเอา

เห็นใจนักศึกษา สงสารครอบครัวผู้ตาย

แต่กาลเวลาได้พิสูจน์ แล้วว่า พลังบริสุทธิ ของนักศึกษา และ อุดมการณ์ทางการเมือง ที่จะทำเพื่อประชาชนนั้น โกหกทั้งเพ

ไอ้พวกซ้ายทั้งนั้นแหละ ที่มันเอาประเทศนี้เป็นตัวประกัน ทำเพียงเพื่อแก้แค้น ล้มล้างสถาบัน

ท้าทายกฏหมาย เขาจับกุมฟ้องร้องก็หาว่ากลั่นแกล้ง จ้างควายมาประท้วงอีก

อยากถามพวกซ้ายตัณหากลับเหล่านี้ว่า

ถ้าไม่มีสถาบันเป็นจุดยึดเหนี่ยว แล้วประเทศนี้จะเป็นอย่างไร

อย่าฝันว่าจะมีสังคมที่สงบสุขเท่าเทียม

เพราะมันไม่มีในโลกของความเป็นจริง แหกตาดูอเมริกาสิ ว่าคนของมันที่จนน่ะ จนแบบต้องขอเขากิน นอนบนถนน

แต่เรายังมีประเทศเป็นของตัวเอง รักษาเอกราชไว้ได้ ในน้ำยังมีปลาเป็นของเรา ขยันก็ไม่อดตาย ต่างประเทศจะตกปลา ต้องซื้อใบอณุญาติ มันไม่ปล่อยให้จับกินกันอย่างนี้หรอก

เรามีสังคมที่รักใคร่ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เพราะรู้ว่าเราเป็นครอบครวเดียวกัน มีพ่อที่รักเราคนเดียวกัน


แต่พวกซ้ายวิปริต กำลังทำให้สังคมแตกแยก ไม่ไว้เนื่อเชื่อใจกัน เพียงเพื่อสนองตัณหาตัวเอง


สังคมที่ขัดแย้งกันอย่างทุกวันนี้ไม่ต่างจากปากีสถาน หรืออิรัก

ถ้าเราไม่มีจุดยึดเหนี่ยวจิตใจ ถ้าเราไม่มีสถาบันที่เราเชื่อได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นก็ยังมีประเทศไทย เป็นของคนไทย
 
เราก็คงเละ แตกออกเป็นเสี่ยงๆ หรือไม่ก็ดักดาน อย่าง พม่า ลาว กัมพูชา

อย่าลืมนะว่า กำพืด และสันดานคนไทย ไม่ต่างจากประเทศเหล่านี้เลย

ที่เรามาอยู่จุดนี้ก็เพราะเราไม่ไปเสียเวลาฆ่ากันเอง



หลายๆ คนอยากเห็นการเผชิญหน้า ฆ่ากันให้ตายไปข้างนึง

ถามว่า ใครล่ะที่จะเป็นคนตาย ถามว่าเลือดใครที่จะนองถนน

ไม่ใช่เลือดนักการเมือง ไม่ใช่เลือดพวหปลุกระดม

แต่เป็นเลือดคนที่หลงเชื่อ ที่เขาหลอกไปตาย ทั้งนั้น

ตายแล้วได้อะไร ผมยังจำชื่อคนตายไม่ได้สักคน ไม่เห็นนักการเมืองเอารูป วีรชน ติดข้างฝาสักคน







หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ ที่ 11-01-2008, 18:08
เห็นว่าเป็นหนึ่งในคอมมิวนิสที่ได้รับอภัยโทษ :slime_sentimental:


แต่เอ๊ะ  http://www.sameskybooks.org/board/index.php?showtopic=4866

ในลิ้งนี้ มีชื่อล๊อกอินคุ้นๆนะ มิน่าที่หายไป ไปสุงสิงกับพวกนี้นี่เอง  ถึงมาหมิ่นแบบ ไม่เกรงใจใคร :slime_whistle:

ไอพวกเว็บนี้มันมีหมิ่นเอาเหลี่ยมกับหมิ่นไม่เอาเหลี่ยม
เวลาพูดเรื่องเหลี่ยมทีไร เว็บแตกทุกที มันเลยหมิ่นอย่างเดียว  :slime_smile2:



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 11-01-2008, 18:10
 เห็นใจนักศึกษา สงสารครอบครัวผู้ตาย

แต่กาลเวลาได้พิสูจน์ แล้วว่า พลังบริสุทธิ ของนักศึกษา และ อุดมการณ์ทางการเมือง ที่จะทำเพื่อประชาชนนั้น โกหกทั้งเพ

ไอ้พวกซ้ายทั้งนั้นแหละ ที่มันเอาประเทศนี้เป็นตัวประกัน ทำเพียงเพื่อแก้แค้น ล้มล้างสถาบัน

ท้าทายกฏหมาย เขาจับกุมฟ้องร้องก็หาว่ากลั่นแกล้ง จ้างควายมาประท้วงอีก....




เรียกพวกเขาเป็น 'ไอ้พวกซ้าย'
เรียกตามพวกเผด็จการทหาร เณรถนอม สงัด ประมาณ สมัคร อุฬาร ทมยันตี ฯลฯ........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



ปล. พวก นปก. และลิ่วล้อในเวบไฮ-ทักษิณ เวบประชาไท ก็เขียนและคิดอย่างนี้....
คนพรรค์นี้เป็น 'ไอ้พวกซ้าย' เหรอ...... :?:

ผมกล้ายืนยันได้ว่าพวกที่เคลื่อนไหว 6 ตุลา 19 และ คนที่ตายไปแล้ว เกือบทั้งหมด
มีความคิดเห็น พฤติกรรม การเคลื่อนไหว แตกต่างกับพวก นปก. ลิ่วล้อในเวบรักทักษิณแน่นอน.... :!:




หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: An.mkII ที่ 11-01-2008, 18:11
ก็อย่างที่ผมคยโพสไปในกระทู้ที่เอาเรื่องที่นายสมศักดิ์ไปตั้งกระทู็้ที่ต่างๆ หลังจากฟ้าเดียวกันโดนปิดว่า.. และกระทู้น่าจะโดนลบไปว่า..

การที่นายสมศักดิ์จะรัก จะเชื่อจะชื่นจะชอบระบบอะไร รึไม่ชอบอะไร..

มันเป็นสิทธิ์ ของนายสมศักดิ์ตามรธน.ที่ว่าไว้..


แต่นายสมศักดิ์ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไป ทำอะไร


ที่มันเป็นการดูหมิ่นความชอบของคนอื่นเขา ใช่รึไม่..

เพราะว่าด้วยหลักตรรกะของมนุษย์ผู้เจริญแล้วด้วยอะไรก็ว่าไป..


ที่ว่ามีมนุษย์ดีๆที่ไหนที่เที่ยวไปดูถูกความเชื่อความศรัทธาของผู้อื่นๆเขา..ไม่ว่าจะกรณีใดๆก็ตามเเต่..



เเละวิธีการแบบนั้นผมว่ามันมิใช่ประชาธิปไตยแบบที่นายสมศักดิ์ชอบกล่าวอ้างว่า..

ที่ว่า  ตนทำไปก็เพื่อประชาธิปไตย.. เพราะตนรักประชาธิปไตย..



เพราะประชาธิปไตยที่ไหนครับที่เที่ยวไปดถูกความคิดของผู้อื่นเขา..

แบบนั้นบ้านนายสมศักดิ์แกอาจจะเรียกประชาธิปไตย แต่แบบนั้นบ้านผมมิใช่ครับ..


เเละบ้านผมเรียกว่าอีเเอบประชาธิปไตยที่ชอบหากินกะประชาธิปไตยชอบเอาประชาธิปไตยมาอ้างตะหาก



ซึ่งเฉกเช่นเดียวกะกรณีนี้ที่ผมเคารพความชอบเเละสิทธิ์ของนายสมศักดิ์

ที่ไม่ว่านายคนนี้จะศรัทธาระบบอะไร..ตามที่ผมว่าไป..



แต่นายสมศักดิ์ไม่มีสิทธิ์ที่จะออกมาเที่ยวออกมาดูหมิ่นความชื่นชอบของคนอื่นเขา

รึหมิ่นประมาทด้วยการว่ากล่าวแกใคร..ใช่รึไม่..




เพราะถ้านายสมศักดิ์ทำแบบนั้นเเล้วบอกว่าประชาธิปไตย..

คือการเที่ยวดูหมิ่นความเชื่อคนอื่นเเละหมิ่นประมาทคนอื่นๆเขาแบบนี้..


แบบนั้น..

ถ้าผมจะดูหมิ่นความเชื่อของนายสมศักดิ์และคณะ  และเที่ยวดูหมิ่นคนที่นายสมศักดิ์และคณะชอบมั่ง..


นายสมศักดิ์และคณะจะว่าอย่างไร..

จะอยู่เฉยๆรึออกมาดิ้น...



ฉะนั้นผมคิดว่าก่อนที่คนเราจะอ้างว่าต่อสู้เพื่อใครเพื่ออะไรเเละลุกออกมาเป็นฮีโร่ให้สังคมเขาสรรเสริญ..


คุณควรจะมีความสำนึกของความเป็นมนุษย์ที่เจริญแล้วเขาซะก่อน...


ที่ว่าเราควรควระไปดูถูกความเชื่อของใครเขา..

และการที่เราจะทำอะไรควรจะเอาใจเขามาใส่ใจเราซักนิด...


เพราะถ้าคุณไร้ประเด็นพวกนี้  คุณก็เป็นได้แค่ฮีโร่(มัยซิน)ก็เเค่นั้นแหละ.. :slime_whistle:

 


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Priateľ ที่ 11-01-2008, 18:15
 เห็นใจนักศึกษา สงสารครอบครัวผู้ตาย

แต่กาลเวลาได้พิสูจน์ แล้วว่า พลังบริสุทธิ ของนักศึกษา และ อุดมการณ์ทางการเมือง ที่จะทำเพื่อประชาชนนั้น โกหกทั้งเพ

ไอ้พวกซ้ายทั้งนั้นแหละ ที่มันเอาประเทศนี้เป็นตัวประกัน ทำเพียงเพื่อแก้แค้น ล้มล้างสถาบัน

ท้าทายกฏหมาย เขาจับกุมฟ้องร้องก็หาว่ากลั่นแกล้ง จ้างควายมาประท้วงอีก....




เรียกพวกเขาเป็น 'ไอ้พวกซ้าย'
เรียกตามพวกเผด็จการทหาร เณรถนอม สงัด ประมาณ สมัคร อุฬาร ทมยันตี ฯลฯ........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า





คุณสมัครตอนนี้เป็นผู้นำกลุ่มอดีตซ้ายหลายคนอยู่นาครับ  :mrgreen:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย) ที่ 11-01-2008, 18:17
 เห็นใจนักศึกษา สงสารครอบครัวผู้ตาย

แต่กาลเวลาได้พิสูจน์ แล้วว่า พลังบริสุทธิ ของนักศึกษา และ อุดมการณ์ทางการเมือง ที่จะทำเพื่อประชาชนนั้น โกหกทั้งเพ

ไอ้พวกซ้ายทั้งนั้นแหละ ที่มันเอาประเทศนี้เป็นตัวประกัน ทำเพียงเพื่อแก้แค้น ล้มล้างสถาบัน

ท้าทายกฏหมาย เขาจับกุมฟ้องร้องก็หาว่ากลั่นแกล้ง จ้างควายมาประท้วงอีก....




เรียกพวกเขาเป็น 'ไอ้พวกซ้าย'
เรียกตามพวกเผด็จการทหาร เณรถนอม สงัด ประมาณ สมัคร อุฬาร ทมยันตี ฯลฯ........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า





ผมยังเรียก "ประชาธิปไตย"
เรียกตามพวกเผด็จการทหาร เณรถนอม สงัด ประมาณ สมัคร อุฬาร ทมยันตี ทักษิณฯลฯ........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ ที่ 11-01-2008, 18:19
คุณสมัครตอนนี้เป็นผู้นำกลุ่มอดีตซ้ายหลายคนอยู่นาครับ  :mrgreen:

วิญญาณฝั่งขวาคงยืนยิ้มหน้าบานอย่างภูมิใจ โดยเฉพาะ อาจารย์ของป๋าหมากอย่างจอมพลถนอม :slime_smile2:

ส่วนวิญญาณฝั่งซ้าย ก็ยืนดูตาถลน ว่ามันเป็นแบบนี้ไปได้ไง  :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย) ที่ 11-01-2008, 18:21



ผมกล้ายืนยันได้ว่าพวกที่เคลื่อนไหว 6 ตุลา 19 และ คนที่ตายไปแล้ว เกือบทั้งหมด
มีความคิดเห็น พฤติกรรม การเคลื่อนไหว แตกต่างกับพวก นปก. ลิ่วล้อในเวบรักทักษิณแน่นอน.... :!:


อ๋อเหรอ



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 11-01-2008, 18:24
  "ในประเทศไทยถ้าคุณเป็นปัญญาชนจริงๆ ต้องกล้าพูดเรื่องสถาบันกษัตริย์
ถ้าคุณไม่กล้าพูดอย่างมากก็เป็นคนที่รับใช้รัฐแล้วเขียนลงหนังสือพิมพ์เอา
รายได้ต่อเดือนต่อวันไปเท่านั้น"

- สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล


ใครอยากเป็น'ปัญญาชน'ในแบบฉบับนี้ ก็เชิญเถอะครับ


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: An.mkII ที่ 11-01-2008, 18:39
บอกตามตรงว่ผมเองก็มิได้เข้าไปอ่านตามลิงค์ที่คุณ*bonny มาแปะหรอกครับ

ก็เลยมาสะดุดกะ ข้อความที่คุณ ปุถุชน เอามาแปะ..


ที่ผมว่า การที่คนเรานั้นจะเเสดงออกเป็นปัญญาชนตัวจริงมันมีอะไรมากกว่านั้นครับ...


มากกว่ากาที่คุณไปพูดเรื่องสถาบันเเล้วจะกลายเป็นปัญญาชน 

เเละยิ่งถ้าใครอ่านเเค่นี้เเล้วเชื่อ และกระทำตาม ผมว่ามันก็คงจะไม่ใช่ปัญญาชนเเน่นอน..


และผมก็คิดว่าเรื่องสถาบันน่ะพูดได้ครับ..

แต่ต้องรู้ว่าอะไรควรพูดรึไม่ควรพูด เพราะการพูดเพื่อทำลาย กะพูดเพื่อสร้างสรรค์มันก็ต่างกันแล้ว..


และในหัวของนายสมศักดิ์ต้องการพูดเพื่อสร้างสรรค์รึทำลายกันละครับ..


เพราะถ้าพูดเพื่อสร้างสรรค์ในข้อเท็จจริงใครเขาจะว่าคุณ เเต่พูดเพื่อทำลายเเละเป็นการสร้างข่าวใครเขาจะยอม..


และเรื่องเเค่นี้ยังคิดมิได้ก็อย่ารึอาจที่จะยกหางตัวเองเป็นปัญญาชนป็นอะไรเลยครับ..


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 11-01-2008, 18:50
พูดถึงคน "ซ้าย" ไม่เลิกจนแก่เฒ่า

พวก อ.ใจ อ.จอน เค้าไม่เห็นต้องมาวิพากษ์สถาบันฯ หรือแอนตี้สถาบันฯ แบบไอ้หัวโต

หมอนี่คงได้แรงใจจากอาจารย์ ส. มั๊ง

คิดว่า ด่าสถาบันได้ ก็เกิดความเท่ คิดได้แค่นี้จะเป็นปัญญาชนได้ไง

ถ้าพูดในห้องเรียน ในที่รโหฐาน ในเชิงวิชาการก็ว่ากันไป

แต่นำมาเผยแพร่ทั่วไป ผมว่าไม่สมควร

อาจโดนกระทืบตายซักวัน


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 11-01-2008, 19:59
หนังสือฟ้าเดียวกันยังพอว่านะ แต่นี่มันเผยแพร่กระจัดกระจายทั่วไปเลย สมควรหรือไม่


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 11-01-2008, 20:21
ผมว่าคนที่กล้าวิจารณืสถาบันได้น่ายกย่องนะ

มีใครบ้างในประเทศที่ยัดหัวมาด้วยสิ่งที่เรียกว่าดี กล้าที่จะออกมาวิจารณ์

แต่บางคนที่นำเอาผลประโยชน์มาผสมกับอุดมการณ์คนอื่นนั้น

ผมว่าน่าเกลียดมากกว่านะ


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย) ที่ 11-01-2008, 20:42
ไม่น่ายกย่องเลย

น่าสมเพชมากกว่า สมเพชในความขี้ขลาด หลบๆ ซ่อนๆ

มันกล้าแหกปากเพราะรู้ว่าไม่ถูกขังคุก

มันก็แค่ เด็กที่ไม่ยอมโต เหมือนเด็ก ม.ต้น ที่แอบสูบบุหรี่ในห้องน้ำ

ไปสูบเพราะคิดว่าเท่ที่กล้า ท้าทายอำนาจ ครูฝ่ายปกครอง ก็แค่นั้น

นายอะไรนี่ก็เหมือนกัน ก็แค่เด็ก มอต้น

ถ้ามันอยากเป็นวีรบุรุษ ปัญญาชน ไปวิจารณ์ ศาสดาของอิสลามโน่น ว่าทำไม คนนับถือศาสนาอิสลามถึงนิยมแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง


มันก็แค่นั้น แค่อยากดัง มีคนพูดถึง

เด็กกระจอก


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Scorpio6 ที่ 11-01-2008, 21:05
ลบหลู่ ดูถูกสถาบัน ไม่ควรได้รับการยกย่องเป็นนักวิชาการ
อย่างน้อยควรรู้ว่าเป็นสิ่งที่เราคนไทยนับถือเป็นที่สุด.......
ผมขอประณาม บุคคลผู้นี้


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 11-01-2008, 21:29
ผมว่าการวิพากษ์สถาบันก็เหมือนกับการติเตียนพ่อแม่ของตัวเอง

ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ในทุกกรณี แต่วิธีการที่เหมาะสมไม่ใช่แบบสมศักดิ์หรอกครับ





เรื่องของวัฒนธรรมต้องเคารพคนอื่นด้วย
ไม่ใช่ว่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง


แบบนั้นถึงจะอ้างวิชาการ
ก็เป็นวิชาการที่ไม่มีคุณประโยชน์อะไร


เป็นวิชาการในแบบที่เอาไว้บูชากันอย่างงมงายไม่ต่างกัน :?



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 11-01-2008, 21:39
เป็นแค่ คนอยากเด่น อยากดัง อยากได้รับความนับถือ แต่หาหนทางไม่ได้ เพื่อนๆเลยแซงหน้าไปหมดแล้ว เท่านั้นเอง  :slime_smile:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 11-01-2008, 21:53
ไม่น่ายกย่องเลย

น่าสมเพชมากกว่า สมเพชในความขี้ขลาด หลบๆ ซ่อนๆ

มันกล้าแหกปากเพราะรู้ว่าไม่ถูกขังคุก

มันก็แค่ เด็กที่ไม่ยอมโต เหมือนเด็ก ม.ต้น ที่แอบสูบบุหรี่ในห้องน้ำ

ไปสูบเพราะคิดว่าเท่ที่กล้า ท้าทายอำนาจ ครูฝ่ายปกครอง ก็แค่นั้น

นายอะไรนี่ก็เหมือนกัน ก็แค่เด็ก มอต้น

ถ้ามันอยากเป็นวีรบุรุษ ปัญญาชน ไปวิจารณ์ ศาสดาของอิสลามโน่น ว่าทำไม คนนับถือศาสนาอิสลามถึงนิยมแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง


มันก็แค่นั้น แค่อยากดัง มีคนพูดถึง

เด็กกระจอก

ถ้าหากคุณพูดถึงอิสลาม คือคนทั้งโลก

อิสลามไม่ได้นิยมความรุนแรง ถ้าหาดคุณคิดว่าอิสลามนินมความรุนแรง

ขอให้ไปศึกษาใหม่ ไม่งั้นควรเลิกพูดซะ

สถาบันเป็นสิ่งที่วิจารณืได้ ไม่มีอะไรดีร้อยทั้งร้อย


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย) ที่ 11-01-2008, 22:14
ถ้าหากคุณพูดถึงอิสลาม คือคนทั้งโลก

อิสลามไม่ได้นิยมความรุนแรง ถ้าหาดคุณคิดว่าอิสลามนินมความรุนแรง

ขอให้ไปศึกษาใหม่ ไม่งั้นควรเลิกพูดซะ

สถาบันเป็นสิ่งที่วิจารณืได้ ไม่มีอะไรดีร้อยทั้งร้อย

เจอพวกเกรียน อ่านหนังสือไม่แตกอีกแล้ว เอาอ่านใหม่

"ทำไม คนนับถือศาสนาอิสลามถึงนิยมแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง"

อ่านหลายรอบนะ จะได้ไม่เกรียน ว่า เจตนาของประโยคนั้นคือะไร

แล้วอย่ามาสั่ง โน่นสั่งนี่ ไม่ชอบเผด็จการโว้ย จะพูดอ่ะ คุณพี่จะทำไรหนู  :slime_fighto:

ดั้นมันสั่ง คนอื่นห้ามพูด อย่างโน้นอย่างนี้



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: *bonny ที่ 11-01-2008, 22:22
คุณแอบอ่านซุ่มเงียบ..

ผมไม่อยากให้คุณเข้าใจประเด็นของผมผิดไปจากใจของผมที่ต้องการถ่ายทอด

การเป็นผู้นำม็อบต้องมีความรับผิดชอบ  แม้จะไม่ใช่คนผิด แต่ต้องรับผิดที่ทำให้คนตาย หวังว่าคุณจะเข้าใจความหมาย ไม่ใช่บอกว่า ผมโยนความผิดในกรณี 6 ตค.ที่มีคนตายให้ หัวโตและธงชัยรับไปทั้งหมด

คนที่นำชาวบ้านมาชุมนุมไม่ว่าที่สนามหลวง   หน้าทำเนียบ  สวนจตุจักร  เวลาเกิดเรื่องต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียของครอบครัวของเขาเช่นเดียวกัน

ที่ผมต้องออกมาพูด  เพราะไม่อยากให้เจ้าหัวโตเอาเรื่องนี้มาสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองตลอดเวลา เพราะผมพบในหลายบทความแล้ว  ความจริงบทความของเขามีคุณค่าน่าอ่าน  เพราะรู้ลึก เข้าถึง แต่ในส่วนที่ตัวเองเกี่ยวข้องอย่างรุนแรงต้องรับฟังคนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่รู้จริงเช่นกันด้วย  จึงจะเรียกว่า ประชาธิปไตย

นี่คนตายเขาพูดไม่ได้แล้ว  ผมเป็นคนเป็นต้องพูดแทนคนตาย ไม่งั้นคนที่เกิดไม่ทัน คนที่ไม่ได้เป็นลูกศิษย์พระพี่นางจะพากันเข้าใจผิดๆ กันไปหมด  ตรงนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ครับ

กรณีคนเป็นพูดไม่ได้ก็มีนะ  เช่น ในหลวง  พลเอกเปรม  ท่านถูกนายสมัครและม็อบ นปก.ด่าว่ามากมาย มีทั้งจริงและไม่จริง  แต่ไม่เคยออกมาตอบโต้  ในขณะที่สมัครและ นปก. พูดทีไร สื่อเอาไปลงหมด  ชาวบ้านรับรู้แค่ข้างเดียว

เป็นสิทธิ์อันชอบธรรมที่พลเอกเปรมจะตอบโต้บ้าง แต่ท่านไม่ใช้สิทธิ์นั้น ทั้งๆ ที่เป็น..คนเป็น

คนเป็นตอบโต้ได้แต่ไม่ตอบโต้เป็นเรื่องของคนเป็น  แต่คนตายไปแล้ว ตอบโต้ไม่ได้  เราเป็นคนเป็น เห็นว่าไม่ยุติธรรม เพราะคนพูด พูดในฐานะครูอาจารย์  เราต้องตอบโต้แทนเท่าที่เรารู้  โดยเฉพาะผม ถ้าไม่ออกมาถือว่า เนรคุณครับ

ข้อความของนายหัวโตที่พี่ปุนำมาโพสต์..ที่ว่า..

""ในประเทศไทยถ้าคุณเป็นปัญญาชนจริงๆ ต้องกล้าพูดเรื่องสถาบันกษัตริย์
ถ้าคุณไม่กล้าพูดอย่างมากก็เป็นคนที่รับใช้รัฐแล้วเขียนลงหนังสือพิมพ์เอา
รายได้ต่อเดือนต่อวันไปเท่านั้น"- สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล

ผมว่าคนปัญญานิ่มมากกว่าที่ทำเช่นนั้น  ขืนทุกคนวิจารณ์สถาบันกันหมดเพราะวิสัยทัศน์ที่ว่า ปัญญาชนพึงกระทำ  บ้านนี้ ประเทศนี้ลุกเป็นไฟแน่นอน

ปัญญาชนต้องแยกแยะออก และวิเคราะห์ได้ด้วยปัญญาว่า หากวิจารณ์ไปแล้ว เกิดภัยแก่ตัวเอง ญาติพี่น้อง และเพื่อนร่วมประเทศแล้ว  พึงกระทำหรือไม่ต่างหาก

ในอดีตก็มีผู้กล้าทำมาแล้วไงครับ พตต.อนันต์ เสนาขันต์ ที่ต้องข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพสมเด็จพระนางเจ้าฯ แล้วเป็นไง ปัญญาชนก็ตายในคุกไงครับ
ถ้าอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้  ผมเชื่อว่า พตต.อนันต์จะเป็นนักเคลื่อนไหวที่ทำงานให้สังคมได้อย่างมากคนหนึ่ง เพราะท่านเป็นคนกล้าและมีแนวความคิดที่ดีคนหนึ่ง  น่าเสียดาย..


เฉกเช่น กรณี 6 ตค.19..

ผมคิดว่า ถ้านายหัวโตมีสิทธิ์รีเพลย์ย้อนกลับไป ด้วยวัยวุฒิ และวุฒิภาวะที่เป็นอยู่ในวันนี้จะไม่เกิดการนองเลือดแน่นอน  เพราะเขาเป็นผู้ถือไมค์อยู่บนเวทีทุกวันๆ ละหลายชั่วโมง ชะตากรรมของผู้คนอยู่ในมือจริงๆ ครับ  (หากใครจำได้ กรณีของคุณเสกสรรค์ ประเสริฐกุลที่ยกพลเข้าไปในวังสวนจิตรคราว 14 ตค.ก็เช่นกัน  ทุกคนทำตามเพราะคุณเสกสรร เป็นผู้นำผู้ถือโทรโข่งบอกให้ทำเช่นนั้น  ผิดถูก ดีชั่ว เราฝากไว้กับเขาคนเดียว)

สงครามมิใช่รบวันเดียวจบนี่นา ใยต้องเอาชีวิตพลทหารไปแลก

ขงเบ้ง  เจ็งกีสข่าน  รวมทั้ง พระเจ้าตากสิน ล้วนแล้วแต่เคยล่าถอยให้ศัตรูที่มีพละกำลังมากกว่าเพื่อให้ตนเองและทหารรอดตาย  แล้วกลับมาทวงคืนประเทศจากศัตรูได้ในภายหลังเมื่อตนเองมีสรรพกำลังที่พร้อมมากกว่าแล้ว  ทุกท่านได้รับการยกย่องว่า ตัดสินใจภายใต้ภาวะผู้นำได้ถูกต้องตามพิชัยยุทธทั้งสิ้น  ผมไม่เคยได้ยินใครว่า พวกท่านเป็นผู้ขี้ขลาดตาขาวหนีเอาตัวรอดเลยสักครั้ง

คนที่เกิดไม่ทัน หรือ โตไม่ทันรู้ความเรื่อง 14 ตค.16 และ 6 ตค.19 ในเว็บบอร์ดการเมืองของประเทศนี้มีมากกว่าผู้เคยร่วมในเหตุการณ์หลายเท่าตัว  ดังนั้น..ต้องไม่ฉกฉวยสร้างความชอบธรรมจากประวัติศาสตร์นั้นเพื่อสนองความต้องการของตนเองหรือเพื่อให้ตนเองเป็นวีรบุรุษ  และควรให้ความรู้ความจริงแก่ผู้ที่เติบโตมาทีหลังอย่างถูกต้อง จึงจะนับว่าน่ายกย่อง

นี่อะไร..เอะอะก็กล่าวโทษ โยงใยโทษฝ่ายตรงข้ามเสมอมา ในขณะที่ความบกพร่องของตนเองระงับเอาไว้

คนที่ชนะในสถานการณ์นองเลือดจะมีอยู่แค่สองพวกเท่านั้นครับ คือ คนที่สั่งให้เอาปืนมายิง หรือไม่ก็คนที่ประกาศชัยชนะหลังจากเสียสละเพื่อนที่ถูกยิง  มีอยู่แค่สองพวกนี้เท่านั้นเองครับ  ส่วนคนที่ตายจากการถูกยิง  หากฝ่ายตนเป็นฝ่ายชนะก็จะได้เป็นวีรชน  แต่หากฝ่ายตนแพ้ก็จะเป็นผู้หลงผิด  หากเป็นปัญญาชนที่คิดเป็นก็จงอย่าเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ใครมาประกาศชัยชนะบนความตายของตนเองเลย

ในสถานการณ์ที่ถูกปลุกเร้าโดยคารมของผู้นำจนสุกงอม บางทีปัญญาชนก็กลายเป็นปัญญาเขลาได้นะครับ ดังบทกวีของคุณวิทยากร เชียงกูร อดีตผู้นำนศ.ที่เขียนไว้ว่า..

ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง   ฉันจึงมาหาความหมาย..นั่นแล  แสดงให้เห็นว่ายังเยาว์ก็ยังเขลา  
ยิ่งพอมาเจอบทเพลงปลุกใจ..

เจ้าหนุ่มเจ้าสาวเอย  เจ้าเคยแล้วหรือยัง  ..ตายเพื่อสร้าง เอยตายเพื่อสร้างเสรี  

บางทีก็ทำให้ตามืดบอดไปในขณะหนึ่ง  แต่พอตายไปแล้วจริงๆ แทนที่จะรู้ความหมาย กลับกลายเป็น "ไร้ความหมาย" ไปเลย  ดังเช่น วีรชน 6 ตค.19 ที่สูญหายไปหลายร้อยคน  จนบัดนี้ก็ยังเป็นผู้สูญหายอยู่นั่นเอง ไม่มีชื่อปรากฏเป็นวีรชนบนแท่นหินใดๆ เลย


หากผมเป็นนายหัวโตจะอยู่อย่างเงียบๆ หากออกสังคมก็จะไม่พูดเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดเพราะละอายแก่ใจไปจนวันตาย
 


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 11-01-2008, 22:27
แสดงว่าการเรียกร้อง และไล่ให้เผด็จการออกไปเป็นสิ่งผิด ตามที่คุณ bonny พูด

งั้นที่คุณรวบรวมคนมาที่เสรีไทยนี่เพื่ออะไรหากคุณคิดเช่นนี้

แล้วสิ่งในสถาบันเป็นอะไร เทวดาเหรอครับ ที่จะวิจารณ์มิได้

มีใครบ้างเหรอครับที่ดี จนไม่มีสิ่งใดผิด


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 11-01-2008, 22:30
เจอพวกเกรียน อ่านหนังสือไม่แตกอีกแล้ว เอาอ่านใหม่

"ทำไม คนนับถือศาสนาอิสลามถึงนิยมแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง"

อ่านหลายรอบนะ จะได้ไม่เกรียน ว่า เจตนาของประโยคนั้นคือะไร

แล้วอย่ามาสั่ง โน่นสั่งนี่ ไม่ชอบเผด็จการโว้ย จะพูดอ่ะ คุณพี่จะทำไรหนู  :slime_fighto:

ดั้นมันสั่ง คนอื่นห้ามพูด อย่างโน้นอย่างนี้



ถ้าไม่รู้จริง แล้วคุณจะเสือกพูดทำไม

คัมภีย์ของพุทธ คริสตฺ อิสลาม เองล้วนแฝงไปด้วยความรุนแรงทั้งสิ้น


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 11-01-2008, 22:32
ไม่มีอะไรที่วิจารณ์ไม่ได้หรอกครับ


ประเด็นไม่ได้อยู่ที่วิจารณ์ได้หรือไม่ได้


แต่วิจารณ์ยังไงให้มันสร้างสรรค์มากกว่าทำลาย :slime_sleeping:






หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: *bonny ที่ 11-01-2008, 22:36
แสดงว่าการเรียกร้อง และไล่ให้เผด็จการออกไปเป็นสิ่งผิด ตามที่คุณ bonny พูด

งั้นที่คุณรวบรวมคนมาที่เสรีไทยนี่เพื่ออะไรหากคุณคิดเช่นนี้

แล้วสิ่งในสถาบันเป็นอะไร เทวดาเหรอครับ ที่จะวิจารณ์มิได้

มีใครบ้างเหรอครับที่ดี จนไม่มีสิ่งใดผิด


คุณแปลเจตนาผิดอีกคนแล้ว

การเรียกร้องประชาธิปไตย และขับไล่เผด็จการเป็นสิ่งถูกต้องชอบธรรมหากใช้ตามสิทธิ์ที่ตนเองมี  แต่การนำมวลชนเป็นกลยุทธและกลวิธีที่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง รอบคอบ อย่าให้มวลชนเหล่านั้นต้องมาสละชีวิตโดยความสะเพร่า

ส่วนการวิจารณ์สถาบัน ถ้าตามกฎหมายเป็นสิ่งผิดที่อาจส่งให้ผู้วิจารณ์เป็นอันตรายได้ และผู้ถูกวิจารณ์ (คนในราชวงศ์) เขาไม่สามารถมาโต้ตอบตามสิทธิได้ ดังนั้น..ต้องระมัดระวังครับ
ผมไม่เคยบอกว่า ห้ามวิจารณ์นะ ไปอ่านดูดีๆ ก่อนดีกว่ามั้ง

ความหมายมีเท่านี้เอง ตีความให้ถูก กลับไปอ่านใหม่ดีกว่าครับ  ผมขี้เกียจเถียงแล้ว  ไปอาบน้ำนอนดีกว่า :slime_surrender:



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 11-01-2008, 22:39
ท่านสารวัตร อนันต์ รถชนตายอย่างมีปริศนาครับ

ไม่ใช่ตายในคุก


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 11-01-2008, 22:42
เจ้าหัวโต มันคืออะไรหรือ ภาษาอังกฤษแปลว่า
Monarch that gets dickhead enlargement. ป่าว
พอดีอ่อนทั้งไทยทั้งปะกิตอ่ะ  :slime_doubt:

^
^
^
คุณ amalit1990 แบบนี้เรียกวิจารณ์ได้ใช่ป่ะ :mrgreen:




หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 11-01-2008, 22:46
อันนี้ไม่เรียกวิจารณ์ เขาเรียกว่าไร้สมองคิดจะวิจารณ์ ได้แต่ด่าแบบไร้สมอง


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 11-01-2008, 22:49

คนชื่อแก๊สข้างบนนี่ก็ดันก้นสมศักดิ์อยู่ในเว็บฟ้าเดียวกัน :?


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 11-01-2008, 22:52
คนชื่อแก๊สข้างบนนี่ก็ดันก้นสมศักดิ์อยู่ในเว็บฟ้าเดียวกัน :?

ผมรู้ดี แต่แนวทางเขาไม่ใช่

แนวทางเขา รุนแรงเกินไป และไม่ใช่แนวทางที่ติเพื่อก่อ
และที่สำคัญ เขาหลงอยู่กับไอ้แม้ว


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 11-01-2008, 23:23
คนชื่อแก๊สข้างบนนี่ก็ดันก้นสมศักดิ์อยู่ในเว็บฟ้าเดียวกัน :?


นั่นแน่ วิจารณ์สมาชิกท่านอื่นในทางเสียหาย ผิดธรรมนูญบอดมาตรา 5 วรรค 1
แต่ช่างเหอะ เค้าเอาซ่นเท้าพิมพ์ไว้เล่นโก้ๆ แบบว่า บอดกรูก็มีกฎอะไรเทือกนั้น

คนชื่อแก๊สเนี่ยมีก้นเป็นของตัวเองนะหนู เล็งก้นสมศักดิ์ไว้อะดิ หึงใช่ป่าว :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 11-01-2008, 23:39

นั่นแน่ วิจารณ์สมาชิกท่านอื่นในทางเสียหาย ผิดธรรมนูญบอดมาตรา 5 วรรค 1
แต่ช่างเหอะ เค้าเอาซ่นเท้าพิมพ์ไว้เล่นโก้ๆ แบบว่า บอดกรูก็มีกฎอะไรเทือกนั้น

คนชื่อแก๊สเนี่ยมีก้นเป็นของตัวเองนะหนู เล็งก้นสมศักดิ์ไว้อะดิ หึงใช่ป่าว :slime_bigsmile:

พูดถึงระเบียบบอร์ด พฤติกรรมกับตัวบุคคลมันต้องแยก... :slime_fighto:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 11-01-2008, 23:52
นั่นแน่ วิจารณ์สมาชิกท่านอื่นในทางเสียหาย ผิดธรรมนูญบอดมาตรา 5 วรรค 1
แต่ช่างเหอะ เค้าเอาซ่นเท้าพิมพ์ไว้เล่นโก้ๆ แบบว่า บอดกรูก็มีกฎอะไรเทือกนั้น

คนชื่อแก๊สเนี่ยมีก้นเป็นของตัวเองนะหนู เล็งก้นสมศักดิ์ไว้อะดิ หึงใช่ป่าว :slime_bigsmile:

หมกมุ่นแต่เรื่องอย่างว่าอีกแล้วว
เดี๋ยวก็จิ๋มเยอะจิ๋มน้อย เดี๋ยวก็น้ำต่งน้ำแตก


รีบๆหาเมียซะดิ เผื่อจะหายกลัดมัน :mozilla_cool:



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 11-01-2008, 23:57



ถ้าจะคุยเรื่องสภาบันกับการเมือง อยากให้ตั้งกระทู้หัวข้อตรงๆไปเลย

ไม่ต้องตั้งกันป่อย ผู้ดูแลต้องเคร่งครัดเป็นกลาง...


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 12-01-2008, 00:03
สถาบันกันการเมืองเป็นเรื่องที่ต่างกันแค่ปลายนิ้ว



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 12-01-2008, 00:04
อย่างเรื่องที่ทางโน้นเค้ามองว่าเป็นการล้างสมอง
อีกแง่นึงมันก็เป็นเรื่องการปลูกฝังทางสังคม

เหมือนๆ กับที่เราถูกสอนให้ไหว้ ให้เคารพผู้อาวุโส

เรื่องของวัฒนธรรมมันไม่ใช่จะหักด้ามพร้าด้วยเข่ากันได้

ทำไม่ดีได้ไม่คุ้มเสีย แล้วพวกที่คิดว่ามีปัญญามากกว่าชาวบ้าน (นักวิชาการ ชนชั้นอำนาจ)
จะรับผิดชอบไหวไหม :?:



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 00:09


คนที่ยกประเด็นยกย่องสภาบันวิจารณ์คนอืนทางการเมือง ยังไงก็ไม่เหมาะสม

ไม่ใช่หน้าที่ ไม่ถูกกาละเทศะ :slime_doubt:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 12-01-2008, 00:16
สวัสดีคุณบอนนี่ครับ

ผมเห็นด้วยที่เราควรยกย่องเชิดชูสถาบันกษัตริย์เอาไว้อย่าให้ใครมาวิพากษ์วิจารณ์ในทางเสียหาย

อยากให้เป็นศูนย์รวมจิตใจดีแล้ว อย่าเปิดโอกาสให้ใครวิจารณ์ลากลงมาทำลายเลย

คนจ้องล้มล้างสถาบันเดี๋ยวนี้มีเยอะด้วยครับ เรื่องนี้ละเอียดอ่อนกระทบจิตใจคนส่วนมาก

ดังนั้นอย่านำมาวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบเลยครับ ขอร้อง

 



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: คาคาชิ ที่ 12-01-2008, 00:18
เออเนอะ คนเรานี่ก็แปลกเนอะ อยู่ดี ๆ ก็ไปวิจารณ์สถาบัน
และพยายามสร้างความชอบธรรม
ไอ้บ้าเอ๊ย  ก่อนจะวิจารณ์อะไรน่ะ ดูด้วยสิ

ถ้าประเทศนี้ไม่มีสถาบัน มันจะยุ่งขนาดไหน
ถ้าประเทศนี้ ไม่มีสถาบัน คนจะยึดเหนี่ยวอะไร
เวลาเกิดเรื่องร้าย ๆ ก็สถาบันนั่นแหละ ที่พูดคำเดียวก็จบ

สถาบัน เป็นสิ่งที่มีพร้อมทุกอย่าง เพราะฉะนั้น เวลาทำอะไร ก็ไม่ติดกับคำว่า ผลประโยชน์

ในโลกนี้ หาใครทำอะไร โดยไม่หวังผลประโยชน์น่ะ หายากเหลือเกิน

ว่าแต่ไอ้คนวิจารณ์ มันทำอะไรให้สังคม บ้างล่ะ
และมีปัญญาทำได้แบบที่สถาบันทำไหม
มีปัญญา ทำให้ คนเกือบทั้งประเทศ ยกเว้นพวกเวรนี่ ก้มกราบ ได้ไหม

ถ้าไม่มีปัญญา อย่าริอ่านวิจารณ์

อย่าเอาคำอ้างห่วย ๆ ที่บอกว่า คนเราต้องเท่ากันทุกคน มาสร้างความชอบธรรม เพื่อที่จะด่าใครก็ได้
เพราะทั้งในทาง กายภาพ คนเราก็เกิดมาสูง เตี้ย ดำขาว ไม่เท่ากัน
ไม่มีหรอก ที่ทุกคนควรจะเท่ากัน
นั่นมันในฝัน

ในโลกนี้ ยังมีอะไร ๆ ที่ต้องช่วยกัน ต้องวิจารณ์กันอีกเยอะ
ทำไมต้องมามัวแต่แตะต้องสถาบัน เพื่ออะไร ไม่เข้าใจ
เรื่องโลกร้อน  พวกมรึง ทำไมไม่วิจารณ์
นี่เรื่องด่วนกว่าอีก เสือกไม่ปริปาก

ปัญหาในสังคม ก็ยังมีอีกตั้งเยอะ
ทำตัวให้เป็นคนดี โดยไม่ต้องเสือก ไปกระแทกคนอื่น ดีกว่านะ ไอ้สมศัตว์
คนเราจะอยู่กันได้สักกี่สิบปีกันเชียว
มัวแต่มานั่งวิจารณ์ สถาบัน มันทำให้พวกมรึงขึ้นสวรรค์เหรอไงวะ

กรูไม่เข้าใจ

 :slime_fighto:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 00:19



ลองวิจารณ์ดูครับ



หัวข้อกระทู้ก็ติดลบไปตั้งแต่แรก..

เรียกกระทู้หนักแผ่นดินมุมกลับ..


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: สมชายสายชม ที่ 12-01-2008, 00:47

เรื่องต่อมา..
คือเรื่องที่เจ้าหัวโตชอบแอบอ้างวีรกรรม 6 ตค.19 ไปสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง  ผมว่าควรยุติได้แล้ว ละอายแก่ใจบ้างเถอะครับ 

เจ้าหัวโตนี่แหละที่นำพาให้คนไปใตายในมหาวิทยาลัยและกลางแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนมาก

เป็นเด็กอายุไม่ถึงยี่สิบดี แต่ริอ่านเป็นผู้นำม็อบ เอาชีวิตคนจำนวนมากเป็นหลักประกันความสำเร็จของอุดมการณ์ตนเอง ไม่ทราบว่า สงสารพ่อแม่ ญาติพี่น้องผู้ตายหรือเปล่า??????


ไม่รู้ว่าเป็นแผนการของใคร ...


ครั้งแรก นักศึกษาและประชาชนชุมนุมอยู่หลายวันที่สนามหลวง

ผู้นำนักศึกษาประกาศให้ผู้ร่วมชุมนุมย้ายไปชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ โดยอ้างว่า

"อยู่สนามหลวงกลางแจ้ง ไม่มีที่หลบฝน ถ้าย้ายเข้าไปที่ธรรมศาสตร์ มีที่หลบฝน"

จึงเข้าทางของยุทธการ "ปิดประตูตีแมว"

เหตุการณ์ครั้งนั้น น่าจะมีผู้นำนักศึกษาบางคนที่รับแผน "ปิดประตูตีแมว" นี้มา   :slime_hmm:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Familie ที่ 12-01-2008, 00:58
เข้ามาอ่านประดับสติปัญญาครับ
ในฐานะที่เคยเป็นวัยรุ่นสมัย สิบสี่ตุลา แต่อยู่ซีกขวาครับ


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: justy ที่ 12-01-2008, 01:32
สวัสดีค่ะ พี่บอนนี่

ดีใจที่เจอพี่อีกครั้งค่ะ

ได้อ่านที่พี่เขียนทุกตัวอักษรแล้ว และเข้าใจทุกถ้อยทุกคำที่พี่กล่าวมา ก็เลยไม่ทราบจะออกความคิดเห็นอย่างไร

กับคนๆนั้นก็ไม่รู้จักเขา แต่ติดตามเพื่อประดับความรู้ค่ะ  (ขี้เกียจด่า เพราะ ณ ปัจจุบัน ใครดีใครชั่วก็แสดงพฤติกรรมออกมาให้เห็นแล้ว)



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 01:35


อ้างถึง

ผมไม่สามารถตอบโต้เจ้าหัวโตได้ในเว็บนั้นเพราะผมไม่ใช่สมาชิก และก็ไม่อยากจะสมัครด้วย หากใครมีจิตเมตตาก็ช่วยนำบทความนี้ไปแปะไว้ในบอร์ดของเว็ปนั้นด้วยก็จะขอบพระคุณมาก





มีใครรับอาสาเอากระทู้แบบนี้ไปแปะ ในที่ต่างๆ แสดงตัวให้จขกท.และเพื่อนสมาชิกเห็นหน่อย.. :slime_fighto:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ตะนิ่นตาญี ที่ 12-01-2008, 01:38
หากใครจะนับว่า นายหัวโตเป็นชาวธรรมศาสตร์แล้วล่ะก้อ  ผมคนหนึ่งล่ะที่ขอค้าน..
เพราะหมอนี่แค่เอ็นท์ติด มธ. และใช้ชื่อมธ.ในการสืบสานอุดมการณ์บ้าบอของเขาเท่านั้น  มีกี่คนที่เห็นหน้าเจ้าหัวโตเข้าไปเรียนหนังสือในหัองเรียนเหมือนคนอื่นๆ บ้าง?  ลองไปเช็คทรานสคริปต์ดูสิครับว่า เขาลงทะเบียนกี่วิชา และสอบผ่านกี่วิชาก่อนจะเกิดเหตุการณ์ 6 ตค.


เห็นด้วยกับข้อความดังเบื้องต้นของคุณ *bonny ครับ

มีอยู่ประการหนึ่งที่ค่อนข้างจะแปลกใจกับพฤติการณ์ของ คน และ/หรือ กลุ่มคน  เหล่านี้

ตรงที่ไม่มีการเหยียดหยามประณาม นายสมัคร สุนทรเวช เลย

ซึ่งไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม  ทำไมจึงไม่ต่อต้านคนเช่นนั้นเลย

คนที่ใช้ซากศพของ คนไทย-เด็กไทย ทำเป็นบันได ให้ตนเองก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง

เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Familie ที่ 12-01-2008, 01:42
เสียดายแปะกระทู้กับเขาไม่เป็น
ไม่อย่างนั้นก็รับอาสาแล้ว
ตอนนี้ทำได้อย่างเดียวคือร้องเพลง หนักแผ่นดิน


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 12-01-2008, 01:45
กระทู้นี้ไปโผล่ที่บอร์ดโน้นด้วยแฮะ :)

http://www.sameskybooks.org/board/index.php?showtopic=4957



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 01:50




ถ้าตั้งประเด็นกระทู้เลี่ยงสถาบัน เพื่อใช้โจมตีกันทางการเมืองได้

ก็คงไม่มีปัญหาเกิดกับกระทู้ง่ายๆ  การเอาสถาบันมาแฝงในการตั้งกระทู้แบบนี้

ดูยังไงก็ไม่เหมาะสม..ดูแย่กว่าพฤติการณืของคนที่ถูกโจมตีเสียอีก

ไม่ว่าจะเป็นใคร มันดูมีประเด็นแอบแฝงสถาบันเพื่อกระพือข่าว..ด้วยยุทธวิธีเชิงข่าวสาร  


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 01:53




มีใครรับอาสาเอากระทู้แบบนี้ไปแปะ ในที่ต่างๆ แสดงตัวให้จขกท.และเพื่อนสมาชิกเห็นหน่อย.. :slime_fighto:

ใครจะไปแปะก็กระทำอย่างเปิดเผย..ได้เผื่อมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น จะได้รู้ว่าใครเลียนแบบใคร

สมัครก็เล่นประเด็นแบบนี้ จนเกิดเหตุการณ์ในสมัยนั้น..


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 12-01-2008, 01:55
แปลกใจกับความคิดของหลายคน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเองทรงเป่นประชาธิปไตย

แต่หลายคนกลับยกท่านจนเป็นเทวดา

นึกว่าศาสนาพุทธสอนมาไม่ให้มีเทวนิยม

แต่สุดท้ายก็ความคิดเทวนิยม วรรณะนิยมกันตรึม 55555555



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 01:56









เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**, กระทู้ นินทาข้ามเวบ ตัวเลือก   

 เกาะติดหัวข้อนี้
 ส่งอีเมล์หัวข้อนี้
 พิมพ์หัวข้อนี้
 ดาวน์โหลด/พิมพ์หัวข้อนี้
 รับข่าวจากฟอรั่มนี้
ตัวเลือกการแสดง
 เปลี่ยนไปเป็น Outline
 Standard
 เปลี่ยนไปเป็น Linear+ We vote No  เมื่อวาน, 08:49 PM   


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 12-01-2008, 01:58
คนแบบนี้จะเรียกว่าพวกขี้อิจฉาได้มั้ยเนี่ย
ไม่รู้เวลาญาติอาจารย์เค้าเสีย นี่จ้างตลกมาเล่นในงานกันหรือเปล่า

ไม่รู้จริงๆหรือว่า ที่คนไทยส่วนใหญ่ ต่างพร้อมใจกันไว้ทุกข์นี่เพราะอะไร
เพราะว่าเป็นสถาบันกษัตริย์ หรือว่าเพราะคุณงามความดีที่พระองค์ท่านได้ทำเอาไว้
เห็นเอะอะอะไรก็พูดแต่สถาบันว่าไม่ดีอย่างโน้นไม่ดีอย่างนี้  แต่สิ่งดีๆ ไม่เคยพูด
และความจริงสิ่งที่ไม่ดีส่วนใหญ่ก็มักอ้างไปสมัยไหนก็ไม่รู้ พิสูจน์ไม่ได้ ไม่ก็ไปอ้างประเทศอื่นๆ

คือตลกนะพวกนี้ อ้างว่าเป็นปัญญาชน เป็นนักวิชาการ เป็นนักประชาธิปไตย แต่ทำตัวเหมือนพวกไม่มีอารยะไม่มีวัฒนธรรม
วิจารณ์อะไรไม่วิจารณ์ ไปวิจารณ์เรื่องของความรู้สึกของคน  ของแบบนี้มันไม่มีใครถูกใครผิดหรอก เรื่องของความรักความชอบ
ถ้าอาจารย์มีคนรักสักคนเกิดตายไป อาจารย์จะเสียใจหรือเปล่า  
แล้วถ้าผมไปพูดกับอาจารย์ว่าจะเสียใจทำห่าอะไร เสียใจไปคนตายมันก็ไม่ฟื้น อาจารย์จะว่ายังไง
หรือถ้าอาจารย์ไม่เสียใจก็แล้วไป  จะได้รู้ว่าเป็นพวกไร้ความรู้สึก

การจะวิจารณ์อะไร ควรทำอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่บอกจะวิจารณ์อะไรก็ได้
เป็นปัญญาชนก็ต้องรู้จักคิดว่า วิจารณ์ไปแล้วจะได้ประโยชน์อะไร
คำว่าประโยชน์ต้องเอาประเทศชาติ ส่วนรวมเป็นหลัก ไม่ใช่ตัวเอง วิจารณ์เพียงเพราะตัวเองไม่ชอบ ก็ใช้ไม่ได้
ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ความจริงบางครั้งก็ต้องรู้จักกาลเทศะ รู้จักจิตใจผู้อื่นด้วย



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 12-01-2008, 01:59
ตัวเราเองยังมิกล้าเผย เหตุใดจึงต้องทำซุ้มเสี่ยง



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 02:02



ใครจะไปแปะก็กระทำอย่างเปิดเผย..ได้เผื่อมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น จะได้รู้ว่าใครเลียนแบบใคร

สมัครก็เล่นประเด็นแบบนี้ จนเกิดเหตุการณ์ในสมัยนั้น..









เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**, กระทู้ นินทาข้ามเวบ ตัวเลือก  

 เกาะติดหัวข้อนี้
 ส่งอีเมล์หัวข้อนี้
 พิมพ์หัวข้อนี้
 ดาวน์โหลด/พิมพ์หัวข้อนี้
 รับข่าวจากฟอรั่มนี้
ตัวเลือกการแสดง
 เปลี่ยนไปเป็น Outline
 Standard
 เปลี่ยนไปเป็น Linear+ We vote No  เมื่อวาน, 08:49 PM   


สรุปแล้ว มีอาการแอบแฝงทางการเมือง ที่นี่ยังคุยกันไม่สะเด็ดน้ำด้วยซ้ำ..


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 12-01-2008, 02:06
คนตายเป็นร้อย

แต่ลูกเสือชาวบ้านนิ้วเจ็บเราต้องไปเยี่ยม  :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 02:13


นี่กระทู้อัดสมศักดิ์ หรือสมัครมีเยอะแยะที่นี่


มารู้จัก "สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล" กัน..ว่าเป็นใครมาจากไหน..ทำไมถึง......  zeed~ko  27  521  

http://forum.serithai.net/index.php?topic=20755.0


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 12-01-2008, 02:14
คนตายเป็นร้อย จะไปเยี่ยมใครก่อนดีล่ะ

ลูกเสือชาวบ้านคนเดียวไม่เสียเวลาเท่าไหร่ ไปเยี่ยมได้อยู่แล้ว  เอาเวลาไปทำประโยชน์อย่างอื่นได้อีกเยอะ

แต่ตรรกกะแบบนี้มันอ่อนไปเยอะเลย


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 12-01-2008, 02:15
แปลกใจกับความคิดของหลายคน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเองทรงเป่นประชาธิปไตย

แต่หลายคนกลับยกท่านจนเป็นเทวดา

นึกว่าศาสนาพุทธสอนมาไม่ให้มีเทวนิยม

แต่สุดท้ายก็ความคิดเทวนิยม วรรณะนิยมกันตรึม 55555555




เมืองไทยอิทธิพลพราหมณ์มีเยอะครับ
จะถอนรากถอนโคนเรื่องความเชื่อ-วัฒนธรรม มันไม่ง่ายเหมือนในทฤษฎีนะ
ขนาดคอมมิวนิสต์อย่างจีน คนยังกลับมาเข้าวัดกันเลย



มองให้ไกลๆ ทำใจให้กว้างๆ ครับ
(ผมไม่ได้พูดเอง จำพระท่านสอนมาครับ)



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 02:19

นี่กระทู้อัดสมศักดิ์ หรือสมัครมีเยอะแยะที่นี่


มารู้จัก "สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล" กัน..ว่าเป็นใครมาจากไหน..ทำไมถึง......  zeed~ko  27  521  

http://forum.serithai.net/index.php?topic=20755.0

นี่ก็กระทู้ปักหมุด ไม่เห็นมีใครไปทำเลอะเทอะ



ใหม่สมเด็จพระพี่นางฯ สิ้นพระชนม์แล้ว  ตะนิ่นตาญี  49  1688
http://forum.serithai.net/index.php?topic=20507.0


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 02:26




จะให้พิจารณาเนื้อหาคงต้องพิจารณาเจตนารมณ์และวิธีการของกระทู้ด้วย



ผมตั้งข้อสังเกต เพราะไม่ต้องการให้สมาชิกตกเป็นเครื่องมือของสถานการณ์ทางการเมืองเท่านั้น ซึ่งผมเรียกว่าเหยื่อหรือทาส

ไม่ใช่อุดมการณ์บริสุทธิ์ ที่คนไทยเหล่านั้นไม่น่าคิดร้ายกับคนไทยที่บริสุทธิ์ด้วยกัน ไม่ว่าจะโง่หรือฉลาดกว่ากันหรือไม่อย่างไรก็ตาม


สมัครและนักการเมืองรุ่นเก่าจำนวนไม่น้อย คือไดโนเสาร์ครับ :slime_fighto: :slime_cool:



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 12-01-2008, 08:21
มาตะเภาเดียวกับพวกชอบอ้างประชาธิปไตย อ้างแต่สิทธิเสรีภาพ แต่ยังไม่รู้เลยว่า "หน้าที่" ที่ตนเองพึงกระทำนั้น ควรเป็นเช่นไร การกระทำของตนเอง มีวิญญูชนกี่คนที่ยอมรับ  :mrgreen: :lol: :mrgreen:

พวกที่จ้องจะล้มล้างสถาบัน ก็ไม่ต่างจากพวกที่คิดว่าการเข้าคูหากาบัตรลงคะแนนเลือกตั้งเพียงไม่กี่วินาที ก็ถือว่าเป็นประชาธิปไตยแล้ว

เมื่อถึงเวลาที่สุกงอม การเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดขึ้น แต่ถ้าด่วนคิดจะจ้องล้มล้าง ทำลาย คนที่แม้เพียงคิดจะถูกทำลายก่อนเสียเอง


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 12-01-2008, 10:35
คุณสมศักดิ์เอาเรื่องต่างกรรมต่างวาระมาเปรียบกันเป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะเปรียบกันไม่ได้

สาเหตุ เรื่องราว ความเป็นไป แต่ละเรื่องต่างกัน

เรื่อง ปัจจุบันเป็นเรื่องปัจจุบัน

เรื่อง ในอดีตเป็นเรื่องในอดีต

หากเอามาผูกเรื่องกัน จักเป็นการหาเรื่องกันไม่รู้จบ

เหมือน ปชป ที่โดนขุดเรื่องเก่าๆมาด่านั่นแหละ

หากเรามองในแง่ สาธารณะประโยชน์

หรือความคิดในแง่สาธารณะ ที่มีต่อประโยชน์สังคมในแต่ละช่วง

การมองในเรื่องปัจจุบัน เราได้ประโยชน์มากมายที่ได้เห็นพระราชกรณียกิจของ พระพี่นาง

ได้มีความคิดริเริ่มอย่างสร้างสรรค์ เป็นไปต่อสาธารณะชนได้โดยเห็นได้ชัด

ส่วนเรื่องในอดีตที่ผ่านมา หาจะทำเป็นประโยชน์ต่อสังคมในแง่ใดแง่หนึ่งได้

ก็เป็นการดี แต่ไม่ควรเอามาเปรียบเทียบกัน


ผมหมายความว่า เมื่อต่างกรรมต่างวาระ สิ่งที่จะได้ หรือเสียก็ต่างกัน

ส่วนเรื่องความเห็นในแต่ละกรณีผมขอสงวนสิทธิ์ไว้ก่อน

เพราะไม่ควรเอาความเห็นในแต่ละเรื่องมาขัดสีกัน เพราะเมื่อต้นเรื่องมิควรแล้ว ปลายเรื่องก็มิควรพิจารณต่อไปเช่นกัน

 :mozilla_cool:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 12-01-2008, 13:27
บอกตามตรงว่ผมเองก็มิได้เข้าไปอ่านตามลิงค์ที่คุณ*bonny มาแปะหรอกครับ

ก็เลยมาสะดุดกะ ข้อความที่คุณ ปุถุชน เอามาแปะ..


ที่ผมว่า การที่คนเรานั้นจะเเสดงออกเป็นปัญญาชนตัวจริงมันมีอะไรมากกว่านั้นครับ...


มากกว่ากาที่คุณไปพูดเรื่องสถาบันเเล้วจะกลายเป็นปัญญาชน 

เเละยิ่งถ้าใครอ่านเเค่นี้เเล้วเชื่อ และกระทำตาม ผมว่ามันก็คงจะไม่ใช่ปัญญาชนเเน่นอน..


และผมก็คิดว่าเรื่องสถาบันน่ะพูดได้ครับ..

แต่ต้องรู้ว่าอะไรควรพูดรึไม่ควรพูด เพราะการพูดเพื่อทำลาย กะพูดเพื่อสร้างสรรค์มันก็ต่างกันแล้ว..


และในหัวของนายสมศักดิ์ต้องการพูดเพื่อสร้างสรรค์รึทำลายกันละครับ..


เพราะถ้าพูดเพื่อสร้างสรรค์ในข้อเท็จจริงใครเขาจะว่าคุณ เเต่พูดเพื่อทำลายเเละเป็นการสร้างข่าวใครเขาจะยอม..


และเรื่องเเค่นี้ยังคิดมิได้ก็อย่ารึอาจที่จะยกหางตัวเองเป็นปัญญาชนป็นอะไรเลยครับ..


ถ้าอยากจะแสดงความคิดเห็นตามแนวทางของตน
ก็ต้องให้โอกาสคนอื่น ๆ ที่ไม่เห็นด้วยได้แสดงความคิดเห็นโต้แย้งได้ จึงจะชอบ...

สถาบันพระมหากษัตริย์หรือ'บุคคลที่มีชื่อเสียง' มักจะเป็น'เป้านิ่ง' ให้คนพวกนี้วิพากษ์วิจารณ์
บางครั้งการแสดงความคิดชี้นำ เบียงเบน บิดเบือน อาจจะทำให้คนอื่น ๆที่ไม่ได้พิจารณาอย่างถ่องแท้เข้าใจผิดไปด้วย...




หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 12-01-2008, 13:42
แสดงว่าการเรียกร้อง และไล่ให้เผด็จการออกไปเป็นสิ่งผิด ตามที่คุณ bonny พูด

งั้นที่คุณรวบรวมคนมาที่เสรีไทยนี่เพื่ออะไรหากคุณคิดเช่นนี้

แล้วสิ่งในสถาบันเป็นอะไร เทวดาเหรอครับ ที่จะวิจารณ์มิได้

มีใครบ้างเหรอครับที่ดี จนไม่มีสิ่งใดผิด




ผมขอยกตัวอย่างการเคลื่อนไหว เรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
การเคลื่อนไหวจากที่ชุมนุมแต่ละครั้ง จะกำหนด วางแผน เพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมชุมนุม
ไม่มีการปลุกร้าวให้ฝ่าด่าน'ตำรวจ' ทำร้าย ทำลายทรัพย์สิน(เป็นต้น)อย่างม๊อบสนามหลวง ม๊อบจลาจลของพวก นปก......

และไม่'หลงกล' เดินตามแผนของฝ่ายตรงข้าม เช่น ไม่บุกรุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลครานั้น เป็นต้น...




หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 12-01-2008, 13:52
อย่างเรื่องที่ทางโน้นเค้ามองว่าเป็นการล้างสมอง
อีกแง่นึงมันก็เป็นเรื่องการปลูกฝังทางสังคม


เหมือนๆ กับที่เราถูกสอนให้ไหว้ ให้เคารพผู้อาวุโส

เรื่องของวัฒนธรรมมันไม่ใช่จะหักด้ามพร้าด้วยเข่ากันได้

ทำไม่ดีได้ไม่คุ้มเสีย แล้วพวกที่คิดว่ามีปัญญามากกว่าชาวบ้าน (นักวิชาการ ชนชั้นอำนาจ)
จะรับผิดชอบไหวไหม :?:





ขอเสริม ขออ้างอิงไปไกล ๆ หน่อย
ทั้งนักคิดอย่าง 'ขงจื้อ' และ นักปฏิวัติอย่าง 'เหมา'
ก็'ล้างสมอง' คนอื่นๆ ทั้งนั้น.....

บางคนอาจจะนิยม'จารีตประเพณี' ก็ไม่ผิด...
บางคนอาจจะนิยม'ความคิดก้าวหน้า'(สมัยก่อนถือเป็น'คอมฯ') ก็ไม่ผิด...
บางคนอาจจะนิยม'ลัทธินิยม' ต่าง ๆ ก็ไม่ผิด...

แต่ให้โอกาสคนอื่น ๆ คิดเอง หรือ ช่วยคนอื่น ๆ คิดบ้าง....



ปล. บางคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าพวก'จาริตประเพณี' ไม่ยอมให้คนอื่น ๆ คิดผิดแปลก
แต่คนมีความคิดอื่น ๆ บางที่ก็ห้ามคนอื่น ๆ คิดผิดแปลกจากเขาเหมือนกัน....



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-01-2008, 13:54
ทำไมไม่วัดคนที่คุณงามความดีเฉพาะตัว โดยเฉพาะคนวิพากษ์ และคนที่ถูกวิพากษ์

เฉพาะเวลานี้ประชาชนคนไทย ที่กำลังแสดงความอาลัยไปทั่วประเทศ

แสดงความไว้อาลัยในคุณงามความดี ความเป็นพระอาจารย์ ที่คนไทยเอาเยี่ยงอย่างได้ในทุกมิติ

ผมก็มองว่า คนธรรมดาอย่างเราๆ ยังทำอะไรไม่ได้เท่าเศษธุลีที่ท่านทำมา

พวกเราหลายคน ยังขี้เกียจ นอนตื่นสาย ทำอะไรๆ ตามใจตัวเอง ไม่เป็นโล้ ไม่เป็นพาย

พวกช่างติ ก็แบบสมศักดิ์ก็นี้แหละครับ

แม้แต่พระประธานที่คนกราบไหว้ หากเค้าอยากจะติ เค้าก็ติได้เสมอ

แค่คำว่า บูชา คนที่ควรบูชา คนแบบสมศักดิ์ ยังทำไม่เป็น

ผมยังไม่ค่อยแน่ใจว่า ในสถาบันครอบครัวของเค้า เค้าคิดว่าใครทำบุญคุณกับเค้าไว้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้

เรื่องบางเรื่องเป็นประเพณีโบราณ เป็นเรื่องความงดงามทางวัฒนธรรม

พวกนักวิชาการ "ซ้ายใหม่" มักจะมองข้ามสิ่งเหล่านี้ และตีคุณค่าทางใจเป็นค่าของเงินอย่างเดียว

เพียงแค่เค้าคิดถึง ประโยชน์ของศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี อันดีงาม เค้าคงไม่คิดทำให้คนอื่นเสียหาย

ไม่ว่าในหมู่นักวิชาการด้วยกัน เพื่อนฝูงของเค้า หรือผู้ที่ถูกเค้าวิพากษ์วิจารณ์

ผมคิดว่าคนแบบสมศักดิ์ สักแต่ว่ามีปากไว้พูด แต่ไม่มีสมองพอที่จะกลั่นกรองสิ่งดีงามออกมา

ผมอยากถามเค้าอยู่เหมือนกันว่า "คนดี" ในสายตาของเค้าเป็นแบบไหน

คนเราถ้าไม่นับถือ "คนดี" หรือ "ความดี" ก็ไม่ทราบว่าจะไปนับถืออะไรอีกแล้ว



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Familie ที่ 12-01-2008, 14:05
พวกที่จ้องแต่จะล้มล้างสถาบัน
เขาคิดว่าตัวเองเป็นพวกหัวก้าวหน้า ทันสมัย
คิดจะพลิกฟ้า พลิกแผ่นดิน แต่โทษทีครับ ที่นี่ประเทศไทย
คอมมิวนิสต์ก็คิดแบบนี้มานานแล้ว ปัจจุบันเป็นอย่างไร
จะเอาอย่างประเทศอื่น แต่ไม่รู้จักประเทศตัวเอง
พวกนี้งมงายกับคำว่าประชาธิปไตย จนตัวเองไม่รู้เลยว่า
ประชาธิปไตยที่แท้จริงคืออะไร
เขาเรียกพวกดักดานกับความคิด แต่ไม่ได้มองตัวเองเลย


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 12-01-2008, 14:06
กระทู้นี้ไปโผล่ที่บอร์ดโน้นด้วยแฮะ :)

http://www.sameskybooks.org/board/index.php?showtopic=4957





เข้าไปอ่านความคิดเห็นต่าง ๆ แล้ว
ถ้าคุณบอนนี่จะเข้าอธิบาย ชี้แจง คงจะยาก...........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


ความเห็นที่นี่(เสรีไทยฯ) แตกต่างกันก็จริง
ก็เป็นการแสดงความคิดเห็นอย่างคนมีความคิดและความเชื่อของตน...




หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 12-01-2008, 14:14
คนแบบนี้จะเรียกว่าพวกขี้อิจฉาได้มั้ยเนี่ย
ไม่รู้เวลาญาติอาจารย์เค้าเสีย นี่จ้างตลกมาเล่นในงานกันหรือเปล่า

ไม่รู้จริงๆหรือว่า ที่คนไทยส่วนใหญ่ ต่างพร้อมใจกันไว้ทุกข์นี่เพราะอะไร
เพราะว่าเป็นสถาบันกษัตริย์ หรือว่าเพราะคุณงามความดีที่พระองค์ท่านได้ทำเอาไว้
เห็นเอะอะอะไรก็พูดแต่สถาบันว่าไม่ดีอย่างโน้นไม่ดีอย่างนี้  แต่สิ่งดีๆ ไม่เคยพูด
และความจริงสิ่งที่ไม่ดีส่วนใหญ่ก็มักอ้างไปสมัยไหนก็ไม่รู้ พิสูจน์ไม่ได้ ไม่ก็ไปอ้างประเทศอื่นๆ

คือตลกนะพวกนี้ อ้างว่าเป็นปัญญาชน เป็นนักวิชาการ เป็นนักประชาธิปไตย แต่ทำตัวเหมือนพวกไม่มีอารยะไม่มีวัฒนธรรม
วิจารณ์อะไรไม่วิจารณ์ ไปวิจารณ์เรื่องของความรู้สึกของคน  ของแบบนี้มันไม่มีใครถูกใครผิดหรอก เรื่องของความรักความชอบ
ถ้าอาจารย์มีคนรักสักคนเกิดตายไป อาจารย์จะเสียใจหรือเปล่า  
แล้วถ้าผมไปพูดกับอาจารย์ว่าจะเสียใจทำห่าอะไร เสียใจไปคนตายมันก็ไม่ฟื้น อาจารย์จะว่ายังไง
หรือถ้าอาจารย์ไม่เสียใจก็แล้วไป  จะได้รู้ว่าเป็นพวกไร้ความรู้สึก

การจะวิจารณ์อะไร ควรทำอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่บอกจะวิจารณ์อะไรก็ได้
เป็นปัญญาชนก็ต้องรู้จักคิดว่า วิจารณ์ไปแล้วจะได้ประโยชน์อะไร
คำว่าประโยชน์ต้องเอาประเทศชาติ ส่วนรวมเป็นหลัก ไม่ใช่ตัวเอง วิจารณ์เพียงเพราะตัวเองไม่ชอบ ก็ใช้ไม่ได้
ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ความจริงบางครั้งก็ต้องรู้จักกาลเทศะ รู้จักจิตใจผู้อื่นด้วย





ไม่รู้จริงๆหรือว่า ที่คนไทยส่วนใหญ่ ต่างพร้อมใจกันไว้ทุกข์นี่เพราะอะไร
เพราะว่าเป็นสถาบันกษัตริย์ หรือว่าเพราะคุณงามความดีที่พระองค์ท่านได้ทำเอาไว้.......

เขาต้องตีขลุม ตีเหมาไว้ก่อน จึงจะสมกับทฤษฎีของตนไง........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เป็นวาสนาของคนไทยยุคนี้ เวลานี้ที่มีในหลวง....
แนวคิดของ'ไอ้หัวโต' หรือ 'ปฏิญญาฟินแลนด์' จึงไม่ทำให้คนไทยเดือดเนื้อ ฆ่าฟันกัน....





หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-01-2008, 14:25
แวะไปอ่านมาแล้ว ขี้เท่อทั้งนั้นเลยครับ

สมศักดิ์นี่มันก็แปลก ป่านนี้ยังเอาความเป็นคน 6 ตุลา มาแปะหน้าผากอยู่ได้

ยิ่งแปะเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องสำนึกเสียใจ ที่ต้องทำให้ประชาธิปไตยเสียไป ไม่รู้จักประคับประคอง

พวกที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวายแล้วไม่รับผิดชอบ เช่นเดียวกับ ทักษิณ นั่นแหละครับ

คืออ้างว่ามาจากประชาธิปไตย มาจากการเลือกตั้ง แต่มันไม่ยอมรับว่า มันชั่วมันเลว

คนอื่นๆ เลวหมด ไม่เคยคิดถึงจิตใจประชาชนคนอื่น

ในสายตาของคนแบบหัวโต ที่มองเหตุการณ์มีแค่ 2 พวก คือ พวก เผด็จการ กับนิสิตนักศึกษาในธรรมศาสตร์

แต่มันไม่เคยมองออกไปทั้งสังคม

เอาแค่กรุงเทพ ที่มักจะยืนข้างความถูกต้องมาทุกยุคทุกสมัย

มันไม่เคยถามตัวเองเลยว่า ทำไมประชาชนในกทม. ไม่ใส่ใจ ที่จะไปร่วมงานใน สนามหลวงหรือ มธ.

ถ้ามันตอบคำถามนี้ไม่ได้ ก็แสดงว่า ไม่เคยวิพากษ์ตัวเองเลยว่า ทำไมคนกทม. ไม่สนับสนุนพวกเด็ก ๆ นักศึกษา

มัวแต่คิดว่า ฝ่ายเผด็จการ ฝ่ายเจ้าควบคุมสื่อ

ทั้งๆ ที่สื่อใหญ่ อย่าง "ไทยรัฐ" ก็เข้าข้างเด็กใน มธ.สุด ๆ

รัฐบาลก็เป็นของ ประชาธิปัตย์บ้าง ของ หม่อมคึกฤทธิ์บ้าง

แต่มันมาสุกงอมเพราะฝ่ายนักศึกษา "เป็นฝ่ายรุก" รุกจนไม่ยอมให้อีกฝ่ายมีที่ยืนเท่านั้นเอง

มองในมุมนี้ น่าจะมีใครศึกษาประเด็น "ทำไมคนกทม.จึงเมินเฉย ไม่เข้าร่วมกับขบวนการนักศึกษา ในเหตุการณ์ 6 ตุลา 19"

ทั้งๆ ที่ประชาชน คนกทม. นับหลายแสน ออกมาร่วมขบวนการนักศึกษาในกรณี 14 ตุลา 16

ประชาชนที่รักความเป็นธรรมในกลุ่มนี้หายไปไหน

คนพวกนี้ไม่รักประชาธิปไตยหรือ หรือแค่ออกมาไล่ ถนอม-ประภาส แล้วนั่งดูเฉย ๆ

มันเหมือนกับ เด็ก ๆ ตะโกนด่านักเลง พอโดนตบแรงๆไป ก็มาร้อง "ตีกรูทำไม ตบกรูทำไม"

ถึงแม้แต่ปัจจุบัน คนกทม. ทำไมเมินเฉย ไม่ต่อต้านเผด็จการ นั่นก็คือ กระแสสังคม ไม่เอาด้วยกับหน้าเหลี่ยม

ก็เท่านั้นเอง บทเรียนที่นักศึกษา รู้สึกว่า"มีอำนาจ" แล้ว "ใช้อำนาจไม่เป็น ใช้สิทธิ์ของตนเองเกินขอบเขต"

ประเด็นนี้ สาเหตุสภาพสังคมในยุคนั้น เว็บ 6 ตุลา 19 รู้สึกจะสรุปวิเคราะห์ไว้แล้ว ( ลองหาดูนะครับ )

ก็เหมือนปัจจุบัน ที่ไอ้หัวโต ใช้สิทธิเสรีภาพเกินขอบเขตของตัวเอง เป็นเสรีภาพที่ไม่อยู่ภายใต้กฎหมายใดๆ

ใช้เสรีภาพที่ไปก้าวก่ายสิทธิ์ของคนอื่น มันคงไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า คนอื่นเค้าก็มีเสรีภาพเหมือนกัน

"เสรีภาพ" นั้น มันก็มีข้อจำกัดในตัวมันเอง มิใช่จะบอกว่า "ถ้ามีเสรีภาพ ฉันทำอะไรได้ทุกอย่าง ตามใจฉัน"

แบบนั้นมันไม่ใช่ "เสรีภาพ" แล้วครับ

เสรีภาพต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: *bonny ที่ 12-01-2008, 14:51
ขอบคุณความคิดเห็นที่ 70 และ 71 ครับ

บางคนอาจจะนิยม'จารีตประเพณี' ก็ไม่ผิด...
บางคนอาจจะนิยม'ความคิดก้าวหน้า'(สมัยก่อนถือเป็น'คอมฯ') ก็ไม่ผิด...
บางคนอาจจะนิยม'ลัทธินิยม' ต่าง ๆ ก็ไม่ผิด...

แต่ให้โอกาสคนอื่น ๆ คิดเอง หรือ ช่วยคนอื่น ๆ คิดบ้าง....

(ปุถุชน..ยามไม่มีเสียงหัวเราะ)


ผมก็มองว่า คนธรรมดาอย่างเราๆ ยังทำอะไรไม่ได้เท่าเศษธุลีที่ท่านทำมา

พวกเราหลายคน ยังขี้เกียจ นอนตื่นสาย ทำอะไรๆ ตามใจตัวเอง ไม่เป็นโล้ ไม่เป็นพาย

พวกช่างติ ก็แบบสมศักดิ์ก็นี้แหละครับ

แม้แต่พระประธานที่คนกราบไหว้ หากเค้าอยากจะติ เค้าก็ติได้เสมอ

แค่คำว่า บูชา คนที่ควรบูชา คนแบบสมศักดิ์ ยังทำไม่เป็น

ผมยังไม่ค่อยแน่ใจว่า ในสถาบันครอบครัวของเค้า เค้าคิดว่าใครทำบุญคุณกับเค้าไว้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้

เรื่องบางเรื่องเป็นประเพณีโบราณ เป็นเรื่องความงดงามทางวัฒนธรรม

พวกนักวิชาการ "ซ้ายใหม่" มักจะมองข้ามสิ่งเหล่านี้ และตีคุณค่าทางใจเป็นค่าของเงินอย่างเดียว

เพียงแค่เค้าคิดถึง ประโยชน์ของศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี อันดีงาม เค้าคงไม่คิดทำให้คนอื่นเสียหาย

ไม่ว่าในหมู่นักวิชาการด้วยกัน เพื่อนฝูงของเค้า หรือผู้ที่ถูกเค้าวิพากษ์วิจารณ์

ผมคิดว่าคนแบบสมศักดิ์ สักแต่ว่ามีปากไว้พูด แต่ไม่มีสมองพอที่จะกลั่นกรองสิ่งดีงามออกมา

ผมอยากถามเค้าอยู่เหมือนกันว่า "คนดี" ในสายตาของเค้าเป็นแบบไหน

(แคนแคน)


คมความคิดของคนคิดคม :slime_agreed:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 12-01-2008, 15:02
เข้ามาอ่าน ยามลุงปุ ไม่มีเสียงหัวเราะ   :slime_smile: (สงสัยลุงปุยิ้มค่ะ)


นานๆที่อนาจะได้อ่านความคิดเห็น ของ ลุงแคน ลุงปุ พี่บอนนี่  พร้อมกัน





ปล. อ่านแล้ว เข้าใจยากจัง ค่ะ  :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 15:14



การเมืองไทยถ้ายังเอาสถาบันเป็นประเด็นขัดแย้งทางความคิดแบบนี้คงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์




หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-01-2008, 15:19
ไม่เห็นอ่านยากเลย หนูอนา

ก็ดูแค่คุณงามความดีเฉพาะตัว ก็ไม่ควรไปก้าวล่วงท่านแล้ว

อย่าว่าแต่งานนี้ คนไทยส่วนใหญ่เกือบจะทั้งประเทศ กำลังเศร้าโศก เสียดาย อาลัย

พวกเค้ายังมาทำลายบรรยากาศ

หากอยากวิจารณ์ ก็รอไปหน่อยให้งานเสร็จอีกครึ่งปี ค่อยงัดออกมาก็ยังพอทำเนา

เสรีภาพทางวิชาการ นั่นเค้าใช้ในห้องเรียน อยากวิพากษ์อะไรก็ว่ากันไป

เหมือนเวลาอภิปรายในสภา หากมีเรื่องเกี่ยวพันบุคคลภายนอกเค้าก็มีขอประชุมลับ ไม่ยอมให้มีการถ่ายทอด

นั่นแค่เรื่องที่สมาชิกสภาอาจอภิปรายทำให้คนอื่นเสียหาย และ เอกสิทธิ์ทางรัฐสภายังไม่สามารถไม่คุ้มครองได้

นี่เค้าไม่ได้คำนึงถึงกฎระเบียบ อะไรควร/ไม่ควร

เราเรียกคนพวกนี้ว่า พวกไม่มีสำนึกในการอยู่ร่วมกันในสังคม

ประเภทที่ว่า กรูอยากพูด มรึงจะทำไม อะไรแบบนี้ พอโดนตบหัวซักที ก็ร้อง ตบกรูทำไม

มันไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า ที่มันพูดนั้น มีคนอยากตบมันนับล้านๆ คน

ในการอยู่ร่วมกันในสังคม ต้องยอมรับความแตกต่าง

ไม่ว่า เรื่อง เชื้อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งแต่ละสังคมได้รับการปลูกฝังกันมา

เราเชื่อในศาสดาของเรา แต่เราจะไม่ก้าวล่วง ศาสดาของศาสนาอื่น

เรื่องเชื่อในประมุขของเรา และเราก็ไม่ก้าวล่วงในประมุขของรัฐอื่น

เราเชื่อในความเป็นชาติไทย เราก็ไม่ไปก้าวล่วงในเชื้อชาติอื่น

หากถือเป็นเรื่อง "ดอกไม้หลากสี" ต่างคนต่างอยู่ ไม่ลบหลู่ซึ่งกันและกัน มันก็ไม่ยุ่ง

ไม่สร้าง "เงื่อนไขสงคราม" หรือสร้างความหงุดหงิดให้คนอื่น

******************************

ผมอ่านที่พวกอาจารย์เค้าบอกว่า เศรษฐกิจพอเพียง คือสูตรที่จะมาใช้รับมือทุนนิยม

เสียอย่างเดียว คนจะรับเศรษฐกิจพอเพียงได้ ต้องเป็นคนดี มีคุณธรรม

อ้าว..ตรรกะแบบนี้ เท่ากับไม่อยากให้สังคมมีคนดี มีคุณธรรมหรือยังไง

มันก็แค่คุณธรรมพื้นๆ ที่คนไทยได้ยินได้รับรู้มาจากศาสนาประจำชาติอยู่แล้ว

เพียงแต่นำความรู้ที่รับมาปฏิบัติจริง ใช้จริง...ก็เท่านั้นเอง

ไม่ใช่รู้แต่ในตำรา รู้แต่ปาก รู้แบบนกแก้วนกขุนทอง

ทางสายกลาง พอดี พอเพียง สันโดษ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน อะไรพวกนี้ มันมีมาตั้ง 2,500 กว่าปี


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 15:30



เสียดายที่ผมวิจารณ์ไปแล้ว ว่าอ่านความคิดสมศักดิ์เหมือนอ่านหนังสือนิยาย เหมือนเด็กเล่นขายของ


ก็เลยไม่สนใจเข้าไปอ่าน ส่วนวิจารณ์ข้ามเว็บไม่เห็นด้วย ควรวิจารณ์งานความคิดของเขามากกว่า


การวิจารณ์ซ้อนวิจารณ์ โอกาสสิ้นสุดมันไม่มี มันก็จะเหนื่อยกันไปเอง..


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-01-2008, 15:32


การเมืองไทยถ้ายังเอาสถาบันเป็นประเด็นขัดแย้งทางความคิดแบบนี้คงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์




วาทะกรรมเรื่องสถาบันฯ เป็นวาทะกรรมที่ใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงอำนาจมาตลอดครับ

ลองๆ ย้อนๆ ไปดูก็จะเห็นเอง

ย้อนไปตั้งแต่สมัยนายปรีดี ก็ได้ครับ


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 15:35


วาทะกรรมเรื่องสถาบันฯ เป็นวาทะกรรมที่ใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงอำนาจมาตลอดครับ

ลองๆ ย้อนๆ ไปดูก็จะเห็นเอง

ย้อนไปตั้งแต่สมัยนายปรีดี ก็ได้ครับ

การตั้งกระทู้แนวนี้ในทางการเมืองจึงเป็นดาบสองคม

ที่เสรีไทยเราตั้งได้ โดยไม่ด่าว่ากันเอง แสดงว่าบอร์ดเรามีวุฒิภาวะมากกว่าที่อื่นแล้วครับ :slime_fighto:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-01-2008, 15:36
คนแบบไอ้หัวโต ไม่น่ากลัว เพราะคนแบบนี้ ไม่คิดแสวงหาอำนาจ

แต่คนที่คิดแบบไอ้หัวโต แต่ไม่พูดออกมา พวกนี้น่ากลัวกว่ากันเยอะ

พวกที่คิดแต่ไม่พูด แต่มันทำเลย มันยังแสวงหาอำนาจและพร้อมที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงสังคม

คนจำพวกนี้ น่ากลัวที่สุด


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 15:39
คนแบบไอ้หัวโต ไม่น่ากลัว เพราะคนแบบนี้ ไม่คิดแสวงหาอำนาจ

แต่คนที่คิดแบบไอ้หัวโต แต่ไม่พูดออกมา พวกนี้น่ากลัวกว่ากันเยอะ

พวกที่คิดแต่ไม่พูด แต่มันทำเลย มันยังแสวงหาอำนาจและพร้อมที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงสังคม

คนจำพวกนี้ น่ากลัวที่สุด

สังคมเปลี่ยนไปตามคนส่วนใหญ่ เหมือนประเด็นสื่อ หากมีการชี้นำ คนเห็นด้วยก็ไปตามๆกัน..

สื่อจึงต้องชี้ให้คนคิดหลายด้านไว้ก่อน เพราะคุณสมบัตินี้จะติดตัวคนไปในการมองปัญหาทุกชนิดครับ


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 15:44


อย่างคำว่าตาต่อตา ฟันต่อฟัน

แม้แต่มุสลิมเองหลายคนก็ไม่เข้าใจ เอามาใช้ผิดๆ


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-01-2008, 15:47
บางเรื่อง เราก็ต้องการเอกภาพ

บางเรื่องเราก็ต้องการความสมานฉันท์

บางเรื่องเราก็ต้องยอมเสียส่วนย่อยเพื่อรักษาส่วนใหญ่

มันขึ้นกับน้ำหนักความเสียหายต่อสังคมโดยรวม

และทั้งนี้ต้องใช้หลักนิติธรรม มาว่ากัน

บางเวลาเราใช้เพลง "สามัคคีชุมนุม"

บางเวลาเราใช้เพลง "มือขวาสามัคคี" ของ อำพล ลำพูน

บางเวลาเราก็ต้องร้อง "แตกเป็นแตกแบกเอาไว้มันหนัก..." ของ มาช่า


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 15:56
บางเรื่อง เราก็ต้องการเอกภาพ

บางเรื่องเราก็ต้องการความสมานฉันท์

บางเรื่องเราก็ต้องยอมเสียส่วนย่อยเพื่อรักษาส่วนใหญ่

มันขึ้นกับน้ำหนักความเสียหายต่อสังคมโดยรวม

และทั้งนี้ต้องใช้หลักนิติธรรม มาว่ากัน

บางเวลาเราใช้เพลง "สามัคคีชุมนุม"

บางเวลาเราใช้เพลง "มือขวาสามัคคี" ของ อำพล ลำพูน

บางเวลาเราก็ต้องร้อง "แตกเป็นแตกแบกเอาไว้มันหนัก..." ของ มาช่า

สุดท้ายเล้ว ในสังคมอุดมคติ คงต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์กันทุกคนครับ..

แต่จะไปถึงอุดมคติ คงไม่ง่ายนัก เพราะของแต่ละคนเริ่มต่างกันแล้วระหว่างทาง

ส่วนใหญ่ตายกันไปก่อนทั้งหมด คนรุ่นใหม่ก็ก้าวเดินในทิศทางของตนเองต่อไป

ข่าวสารสมัยนี้มากและเร็ว ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจะเร็วกว่าอดีตมาก..


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-01-2008, 15:58
พวกฝ่ายซ้าย นำเพลงพระราชนิพนธ์ "เราสู้" มาอ้าง

แต่ลืมไปว่า ฝ่ายซ้ายเอง ก็ผลิตเพลง "สู้เข้าไป อย่าได้ถอย"

รวมถึงเพลงในชุดของ "คาราวาน" ตั้งแต่ "อเมริกันอันตราย-คนกับควาย"

ทุกย่างมันเป็นความจริงสองด้าน แต่ไม่ยอมวิพากษ์ด้านของตัวเอง

ก็เมื่อมันเป็น "ภาวะสงคราม" ต่างฝ่ายก็ต้องงัดไม้เด็ดของตนออกมา

ไม่ว่าเพลง "เปรี้ยง ๆ ดังเสียงฟ้าฟาด" จากละคร ของอ.สมภพ จันทรประภา

หรือ เพลง "หนักแผ่นดิน" ของศิลปินแห่งชาติ

มันก็คือ สงครามแย่งชิงประชาชนกันทั้งนั้น

ทำยังกับว่า ตัวเองตีหัวคนอื่นได้ แต่คนอื่นห้ามตีหัวตัวเอง



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 16:01
พวกฝ่ายซ้าย นำเพลงพระราชนิพนธ์ "เราสู้" มาอ้าง

แต่ลืมไปว่า ฝ่ายซ้ายเอง ก็ผลิตเพลง "สู้เข้าไป อย่าได้ถอย"

รวมถึงเพลงในชุดของ "คาราวาน" ตั้งแต่ "อเมริกันอันตราย-คนกับควาย"

ทุกย่างมันเป็นความจริงสองด้าน แต่ไม่ยอมวิพากษ์ด้านของตัวเอง

ก็เมื่อมันเป็น "ภาวะสงคราม" ต่างฝ่ายก็ต้องงัดไม้เด็ดของตนออกมา

ไม่ว่าเพลง "เปรี้ยง ๆ ดังเสียงฟ้าฟาด" จากละคร ของอ.สมภพ จันทรประภา

หรือ เพลง "หนักแผ่นดิน" ของศิลปินแห่งชาติ

มันก็คือ สงครามแย่งชิงประชาชนกันทั้งนั้น

ทำยังกับว่า ตัวเองตีหัวคนอื่นได้ แต่คนอื่นห้ามตีหัวตัวเอง



ผมว่าเมืองไทยคงไม่มีนิยมซ้ายตกขอบตัวจริง หลงเหลือแล้วหล่ะครับ ซ้ายนี่ ความเห็นส่วนตัวผมเป็นอุดมคติที่ไปไม่ถึง

อย่างเก่งก็ได้แค่ รัฐสวัสดิการ..


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 12-01-2008, 16:04


อังกฤษ อเมริกา ฝรั่งเศส เป็นประชาธิปไตยมานานกว่าไทย

ของอังกฤษมีกษัตริย์ แสดงว่าได้ทั้งสอง สามแบบในขณะนี้ แต่ต้องปรับให้ดี


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 12-01-2008, 19:43
เข้ามาอ่าน ยามลุงปุ ไม่มีเสียงหัวเราะ   :slime_smile: (สงสัยลุงปุยิ้มค่ะ)


นานๆที่อนาจะได้อ่านความคิดเห็น ของ ลุงแคน ลุงปุ พี่บอนนี่  พร้อมกัน





ปล. อ่านแล้ว เข้าใจยากจัง ค่ะ  :slime_bigsmile:


ไม่คำนึงถึงยศฐาบรรดาศักดิ์ของท่าน
ผลงานของท่าน ภาระกิจของท่าน ไม่สมควรจะหยิบยก สรรเสริญ ยกย่อง.... :?:

น่าจะตระหนัก รำลึกถึงมากกว่าสามัญชนด้วยซ้ำไป.....

คนประเภทนี้ อาจจะมัวเมา คุยน้ำลายแตกฟองในกลุ่ม จนหลงลืม
คิดว่า คนประเภท พวกเขา จึงจะมี'คุณค่า' ต่อสังคมไทย และ มนุษยชาติ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า





หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-01-2008, 20:03
เอาแค่ความเป็น "ครู" หัวโต ทำได้ดีแล้วหรือ

หลักในการประชาสัมพันธ์ มีหลักง่ายๆ ว่า "สินค้าไม่ดี ตีปี๊บยังไงก็ไปไม่รอด"

สินค้าดี ใช้แล้วคนติดใจใช้ต่อ มีความภักดีต่อสินค้านั้น

บรรดานักปราชญ์ หรือ คนที่มีคุณงามความดีแก่แผ่นดิน

เวลาตาย แม้เราไม่ใช่ญาติ เรายังไปร่วมส่งท่านเหล่านั้นขึ้นสู่สวรรค์ แม้ไปไม่ได้ เรายังกล้ายอมรับนับถือ

ท่านคนเหล่านั้นเราก็มิได้สัมผัสโดยตรง แต่แอบอ่านแอบติดตาม ยอมรับนับถือในคุณงามความดี

การแสดงความไว้อาลัยต่อคนดี เป็นสัญลักษณ์ว่าเรายกย่องคนดี

ไม่ต้องไปมองว่า ใคร มีศักดิ์ศรีกว่าใคร

เอาแค่คุณงามความดีที่ทำให้แก่โลก ทำคุณงามความดีแก่สังคมก็สมควรย่องอยู่แล้ว

คนที่ไม่เชื่อว่า พระพุทธเจ้าตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง แสดงว่าฉาบฉวยในเรื่อง "สัจธรรม"

บางคนบอกว่า พระพุทธเจ้า "ต่อยอดความคิดของผู้อื่นมา"...เป็นงั้นไป

เพราะหากเรียนรู้ศาสนาพุทธจริงจัง เค้าจะไม่พูดให้เห็นความไม่รู้ขนาดนี้

ศาสนาพุทธสอนอย่างเดียวคือ ให้ "รู้" ด้วยตัวเอง ให้ "รู้" ด้วยการปฏิบัติเฉพาะตัว

ไม่มีใครหอบใครขึ้นสวรรค์หรือนิพพานด้วยการฟังอย่างเดียว หรือท่องจำอย่างเดียว

ถ้าคุณจะเข้าสู่นิพพาน หรือถึงนิพพาน คุณต้องทำด้วยตัวเอง

เวลาฟังพวกซ้ายๆ วิจารณ์ศาสนาพุทธแล้วได้แต่ขำ ๆ

ถ้าจะเอาเรื่องเศรษฐกิจ ทำไมไม่ลองไปศึกษา "เศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ" ที่ท่าน" ป. ปยุตโต " รังสรรค์ขึ้นมาให้โจมตีอยู่แล้ว

มีปัญญาตีแนวคิดนั้นให้ตกลงไปได้หรือไม่


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย) ที่ 12-01-2008, 20:20
ถ้าไม่รู้จริง แล้วคุณจะเสือกพูดทำไม

คัมภีย์ของพุทธ คริสตฺ อิสลาม เองล้วนแฝงไปด้วยความรุนแรงทั้งสิ้น

อั่นแน๊ temper temper

อย่าหยาบดิคุณเพ่ พูดไม่สุภาพอย่างนี้ผู้ปกครองจะเสียใจนะ :slime_surrender:

อุตสาห์ เลี้ยง อบรมสั่งสอน คิดดี ทำดี พูดดี ลืมหมด :slime_bigsmile:

ไม่ได้ยั่วโมโหพวกกะโหลกหนา มานาน ชอบช๊อบ

เอาอีก ด่ามาอีก สิคุณน้องโชว์ธาตุแท้ สันดานดิบออกมาเลย

ไม่ต้องแกล้งฉลาดว่า ทุกศาสนามีความรุนแรง จบเอกศาสนามาหรือจ๊ะน้อง ถือปิ่นโตให้สมีสำนักไหนหรือจ๊ะ

แหม เผด็จการ ชอบสั่ง ห้ามโน่น ห้ามนี่ แล้วยังหยาบเป็น... อีก

555


เอาล่ะ พอแระ

ด่าอีตากะโหลกหนาหัวโตมันส์กว่า



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 12-01-2008, 20:23
อั่นแน๊ temper temper

อย่าหยาบดิคุณเพ่ พูดไม่สุภาพอย่างนี้ผู้ปกครองจะเสียใจนะ :slime_surrender:

อุตสาห์ เลี้ยง อบรมสั่งสอน คิดดี ทำดี พูดดี ลืมหมด :slime_bigsmile:

ไม่ได้ยั่วโมโหพวกกะโหลกหนา มานาน ชอบช๊อบ

เอาอีก ด่ามาอีก สิคุณน้องโชว์ธาตุแท้ สันดานดิบออกมาเลย

ไม่ต้องแกล้งฉลาดว่า ทุกศาสนามีความรุนแรง จบเอกศาสนามาหรือจ๊ะน้อง ถือปิ่นโตให้สมีสำนักไหนหรือจ๊ะ

แหม เผด็จการ ชอบสั่ง ห้ามโน่น ห้ามนี่ แล้วยังหยาบเป็น... อีก

555


เอาล่ะ พอแระ

ด่าอีตากะโหลกหนาหัวโตมันส์กว่า


จำเป็นต้องจบเอกศาสนาด้วยรึ ถ้าศึกษามาละ

คำว่าเสือกผมนี่หยาบมากเลยเนอะ




หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-01-2008, 20:39
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Priateľ ที่ 12-01-2008, 20:40
พี่แคนแจกคาถาพรหมสี่หน้าด้วยแฮะ  :slime_bigsmile:

อุเบกขานี่ยากสุดนะผมว่า


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-01-2008, 20:55
เอาน่า ถ้าเค้าตบแก้มซ้าย ให้เราย้ายแก้มขวาให้ตบซ้ำ

เพราะเค้าคือ พิศาล อัครเศรณี..ตบ..จูบ...ตบ..จูบ...หนูละช้อบชอบ..

 :slime_inlove: :slime_inlove:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ ที่ 12-01-2008, 21:13
เอาน่า ถ้าเค้าตบแก้มซ้าย ให้เราย้ายแก้มขวาให้ตบซ้ำ

เพราะเค้าคือ พิศาล อัครเศรณี..ตบ..จูบ...ตบ..จูบ...หนูละช้อบชอบ..

 :slime_inlove: :slime_inlove:

ลูกสาว พิศาล สวยนะเอ่อ

น้องอ้อม พิยะดา นั่นไง

แต่ถ้าใครไปทำกะลิ้มกะเลี่ย

จาก ตบ จูบ ตบ จูบ อาจจะกลายเป็น เตะ จุก เตะ จุก ได้


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 12-01-2008, 21:21
ลูกสาว พิศาล สวยนะเอ่อ

น้องอ้อม พิยะดา นั่นไง

แต่ถ้าใครไปทำกะลิ้มกะเลี่ย

จาก ตบ จูบ ตบ จูบ อาจจะกลายเป็น เตะ จุก เตะ จุก ได้
แต่แก่แล้วนะ อ้อมอายุตั้ง30กว่า

แต่สำหรับลุงๆ คงยังไม่แก่มั้งครับ เหอะๆ :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 12-01-2008, 21:25
แต่แก่แล้วนะ อ้อมอายุตั้ง30กว่า

แต่สำหรับลุงๆ คงยังไม่แก่มั้งครับ เหอะๆ :slime_bigsmile:

ไม่แก่หรอกค่ะ ลุง ๆ ก็แค่ 30 กว่า เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-01-2008, 21:34
กระทู้จวกไอ้หัวโต ทำไมมาลงที่น้องอ้อมเค้าละครับ อิ อิ

ตึ่ง ๆ ๆ ๆ ๆ


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 12-01-2008, 21:37
กระทู้จวกไอ้หัวโต ทำไมมาลงที่น้องอ้อมเค้าละครับ อิ อิ

ตึ่ง ๆ ๆ ๆ ๆ

 :slime_bigsmile:

ตอนเห็นหัวข้อกระทู้ "เจ้าหัวโต" -- เม่ยนึกถึง "มารดาเจ้าเห็นปีศาจหัวโต" ก่อนอื่นเลย  :slime_smile:

พอเข้ามาอ่าน -- อ้าว... :mozilla_surprised:



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 13-01-2008, 02:34
อ้อม หัวโต..


ป่อย ป่อย ป่อยๆๆๆๆ :lol:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 13-01-2008, 05:33
ใครเข้าไปในเว็บนั้นได้ วานเอาข้อเขียนผมไปวางด้วย

บอกว่าลุงแก่ๆ ฝากมาตบกระโหลก เผื่อจะมองเห็น "สัจธรรม" บ้าง

ฝ่ายซ้ายแพ้ในเชิงวาทะกรรม แพ้ในเชิงยุทธศาสตร์

เพราะพวกฝ่ายขวาเค้าเล่นเรื่อง "ความสามัคคี" เป็นหลัก เน้น "คุณธรรม/ความดี" เป็นหลัก

ซึ่งมันก็คือหลักในการอยู่ร่วมกัน แม้ "คำขวัญวันเด็ก" ของท่านอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ตอนหลัง 14 ตุลาคม 2516

ท่านยังบอกว่า

พ.ศ. 2517 - นายสัญญา ธรรมศักดิ์
สามัคคีคือพลัง  

พ.ศ. 2518 - นายสัญญา ธรรมศักดิ์
เด็กดีคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจร่วมพลังสร้างความสามัคคี  

นี่ไม่นับคำขวัญที่ออกมาจากฝ่ายทหาร ที่บอกว่า

"อย่าดึงฟ้าต่ำ อย่าทำหินแตก อย่าแยกแผ่นดิน"

เพียงเท่านี้ ฝ่ายซ้ายจะตะโกนเรียกร้องความเป็นธรรมในสังคม จะตะโกนด่า "นายทุน-ขุนศึก" ซักแค่ไหน

แต่สุดท้ายก็มาพ่ายแพ้แก่เรื่อง " ความสงบในบ้านเมือง" ชาวบ้านเค้าเอียนสภาเดินขบวนรายวันขนาดไหนก็น่าจะรู้

โดยเฉพาะ หากมาเล่นงานจอมพลถนอม กิตติขจร ในเรื่องที่กลายเป็น "ทรราช"

แต่ในการรับรู้ของประชาชน จอมพลถนอม ไม่ได้มีภาพของ "ทรราช" อยู่ในตัว

ในสังคมยุคนั้น ไม่มีใครมองว่า จอมพลถนอม เป็นผู้ "สั่งการ" แม้แต่น้อย

ไม่ว่าจะโดยอะไรก็ตามแต่ "จอมพลถนอม" ไม่ใช่ "ศัตรู" ที่ฝ่ายซ้ายจะโค่นลงได้ง่าย ๆ

เพราะจอมพลถนอมนั้น มีภาพของ "คนดี ความดี" อยู่ในตัว

เฉพาะ "คำขวัญวันเด็ก" ที่ผลิตออกมาในช่วงนั้นล้วนแต่เน้นเรื่อง "คุณธรรม/ความดี"

ตั้งแต่ปี 2508

เช่น
พ.ศ. 2508 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
เด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี  

พ.ศ. 2509 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะ บากบั่น และสมานสามัคคี  

พ.ศ. 2510 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรงดีมีความประพฤติเรียบร้อย

พ.ศ. 2511 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
ความเจริญและความมั่นคงของชาติไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับเด็กที่มีวินัย เฉลียวฉลาดและรักชาติยิ่ง

พ.ศ. 2512 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ  

พ.ศ. 2513 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
เด็กประพฤติดีและศึกษาดี ทำให้มีอนาคตแจ่มใส  

พ.ศ. 2514 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
ยามเด็กจงหมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ

พ.ศ. 2515 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ

พ.ศ. 2516 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ

รู้สึกจะมีหนังฝรั่งเรื่องหนึ่ง ตั้งชื่อว่า

"จงทำดี จงทำดี และ จงทำดี"

ภาพ "คนดี" ของจอมพลถนอม ที่มิใช่สร้างมาในปี-2 ปี แต่สร้างภาพนั้นมาโดยตลอดระยะเวลาที่ครองอำนาจ

ดังนั้นคนรุ่นหลังจึงมองภาพที่ นายชวน หลีกภัย ทำเรื่อง "คืนยศ" จอมพลถนอม กิตติขจร ไม่มีพื้นฐานความคิดตรงนี้

แม้จะเป็นการพิจารณาของสภากลาโหม ก็เถอะ นายชวน ย่อมมีภาพ "ความดี" หรือความเป็น "เหยื่อ" ของเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 อีกคนหนึ่ง

ถ้ามองในแง่ของภาพที่สังคมมองจอมพลถนอม เค้ามองว่า คนที่สั่งทำงานทั้งหลาย กลายเป็นภาพของ จอมพลประภาสและ พันเอกณรงค์ ซะมากกว่า

จริงอยู่ การคืนยศจอมพลถนอม ถูกต่อต้านของคนบางกลุ่ม บางพวก ที่เก็บเอาไว้เป็น "หอกทิ่มนายชวน" เพื่อหวังผลทางการเมือง

แต่ถ้าถามคนที่เติบโตในรุ่นนั้น มีใครบ้างที่มอง "จอมพลถนอม" เป็น "เผด็จการ"

ภาพที่คนไทยในสังคมมอง "จอมพลถนอม กิตติขจร" ในฐานะ "นายกรัฐมนตรี"

ก็คล้าย ๆ ภาพที่คนไทยส่วนใหญ่มอง พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่มาจากทหารในวลานี้นั่นเอง

เวลาที่พวกซ้าย ออกไปปลุกระดมผู้คน พวกซ้ายบอกไม่ผิด มีสิทธิ์เสรีภาพที่จะทำได้

แต่เวลาพวกเจ้าฯ ไปทำเรื่องลูกเสือชาวบ้าน ในนาม "ตำรวจตระเวณชายแดน" เป็นเรื่องผิด

มันท่าจะบ้า

เออ...มันคิดแต่เรื่องคนอื่นทำไม่ดี ไม่ชอบ ไม่ควร แต่ไม่ยอมรับว่า นี่คือ "ศึกแย่งชิงประชาชน"

ก็เหมือนกับในปัจจุบัน ที่ฝ่ายอำนาจเก่า กับฝ่ายอำนาจใหม่ ที่กำลังใช้ยุทธศาสตร์เดิมๆ คือ "ศึกแย่งชิงประชาชน"

เพียงแต่มาอีกรูปแบบหนึ่ง โดยใช้ "วิถีเลือกตั้ง" มาสู้กัน แค่นั้นเอง



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ฮูลิแกน ที่ 10-03-2008, 17:06
ไอ้หัวโตน่ะหรือ เฮอะๆ ทุกวันนี้ดีแต่ออกมาแขวะคนที่ต่อต้าน ทรท.
จนจะกลายเป็นแนวร่วมมุมกลับของ ทรท.แล้ว
ขนาดอดีตสหายร่วมเป็นร่วมตายอย่าง ธงชัย&เกษียร ที่ออกมาเห็นด้วยกับพระราชดำรัสวันที่ 25 เม.ย.49 ยังโดนมันด่าหาว่ายอมสยบต่อสถาบันฯ...

อ้างว่าเห็นด้วยกับอำนาจจากการเลือกตั้งมากกว่าอำนาจในด้านอื่นๆทุกประการ
แต่ตัวเองไม่เคยไปเลือกตั้งเลย อย่างน้อยก็ตั้งแต่ปี 2544-2549(หมายถึงไอ้สมศักดิ์ไม่เจียมกบาล)
ไม่ว่าจะ สว.หรือ สส.  ไอ้ห่านี่ไม่เคยไปใช้สิทธิ์ใดๆ!

ประเภทการเลือกตั้ง : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
วันที่เลือกตั้ง : 6 กุมภาพันธ์ 2548
ชื่อ-นามสกุล : นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
เพศ : ชาย
เลขประจำตัวประชาชน : 3-1006-03339-03-8
เลขรหัสประจำบ้าน : 10060424443 เขต : 18 หน่วย : 41
สำนักทะเบียน :ท้องถิ่นเขตวังทองหลาง
ที่อยู่ :แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
ผลการตรวจสอบ-บุคคลนี้เป็นผู้เสียสิทธิ  :slime_slapped:

ส่วนเกษียร กะ นิธิ ไปใช้สิทธิ์ทุกครั้ง
ชื่อ-นามสกุล : นายเกษียร เตชะพีระ
เพศ : ชาย
เลขประจำตัวประชาชน : 3-1008-00785-20-1
ผลการตรวจสอบ-บุคคลนี้ไม่ใช่ผู้เสียสิทธิ

ชื่อ-นามสกุล : นายนิธิ เอียวศรีวงศ์
เพศ : ชาย
เลขประจำตัวประชาชน : 3-5099-00531-53-1
ผลการตรวจสอบ-บุคคลนี้ไม่ใช่ผู้เสียสิทธิ
............................................................

อ.นิธิ กับ อ.เกษียร ที่เคยวิจารณ์ทักษิณและระบบการเลือกตั้ง ยังไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเลย
แม้แต่อาจารย์ ส.ศิวลึงค์ ที่แกด่าระบบการเลือกตั้ง ด่านักการเมืองบ่อยๆ แกยังไปใช้สิทธิ์ทุกครั้ง!(เท่าที่ผมเช็คเจอ)
ส่วน อ.ธงชัย ผมเข้าใจ เพราะแกอยู่ไกลถึงอเมริกา คงมาไม่สะดวก

แหม แต่ผมสะใจจริงๆ ที่ไอ้หัวโตโดนคุณ"ตัวจริงเสียงจริง"ขุด Pedigree ออกมาประจานในเวบฟ้าเดียวกัน
http://www.sameskybooks.org/board/index.php?showtopic=6064
สงสัยคุณตัวจริงเสียงจริง คงเป็นเจ้าหน้าที่ในกระทรวงมหาดไทยแน่ๆเลยว่ะ เหอๆ ขุดได้กระทั่งพ่อแม่มัน  ...ผมเองที่เข้าเวบประกันสุขภาพ กับเวบเลือกตั้ง ก็เคยขุดมันขึ้นมาประจาน(ข้อหาที่มันไม่เคยไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเลยตลอด 8 ปีที่ผ่านมา แต่เสือกออกมาเห่าว่าคนที่มาจากการเลือกตั้ง มีความชอบธรรมมากกว่าสิ่งที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง) แต่ขุดได้แค่ตัวมันเท่านั้น ขุดโคตรพ่อโคตรแม่มันไม่ได้ :slime_smile2:

ปล.ตอนนี้เวบเช็คสิทธิ์มันเข้าไม่ได้ เลยเช็คอะไรไม่ได้ว่าใครไปใช้สิทธิ์หรือไม่


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 10-03-2008, 19:22
ลองถามตัวท่านเองแล้วกันว่า หากพ่อแม่ที่เปรียบเสมือนพระอรหันต์ประจำบ้านเสียชีวิต...ท่านจะแสดงความเสียใจและไว้อาลัยอย่างไร? จ๊ะคิดว่าพ่อแม่ของแต่ละคนคือที่สุดที่แต่ละคนพึงให้ความรักและศรัทธาสูงสุดแล้วมิใช่หรือ!?! :slime_doubt:



อืม... พูดเหมือนคนมีความคิดเลยอ่ะ   :slime_doubt:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ฮูลิแกน ที่ 10-03-2008, 19:38
คือแบบว่า...ผมแปลกใจที่เวลาไอ้หัวโต เอาเรื่องของคนที่ล่วงลับไปแล้ว มานินทา(ขอใช้คำว่านินทามากกว่าวิพากษ์ เพราะเราไม่มีหลักฐานอะไรรู้ด้วยซ้ำว่าที่มันเอามาพ่นนั้นเป็นความจริงแค่ไหน?)  พวกสหายในบอร์ดฟ้าเดียวกัน ต่างพากันเห็นชอบ :slime_doubt:
แต่พอมีคนเอาโคตรพ่อโคตรแม่ของไอ้หัวโตมาวิจารณ์  ทำไมพวกสหวยเหล่านั้นจึงออกมาเต้น(ตามเพลงของติ๊กซีโร่?) อ้างว่าเล่นแรงไป ล่ะ? หือ?
ดับเบิ้ลสแตนดาร์ดหรือเปล่าครับ? :slime_slapped:

ในเมื่อพวกมันยังดับเบิ้ลสแตนดากกันแบบนี้ แล้วทำไมชอบเสือกอ้างความเท่าเทียมล่ะครับ หือ? :slime_cool:

ครั้งนี้ถือว่าไอ้หัวโตเล่นได้ยำยำมากๆ...การเอาคนที่ล่วงลับมานินทาในเวลาแบบนี้ ต่อให้คนที่ล่วงลับนั้นเป็นสามัญชน ไม่ใช่เจ้านายก็ตาม
ผทเลยเล่นข้อความยำยำแบบมันบ้างงัยล่ะ :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 10-03-2008, 20:24
ไอ้หัวโตน่ะหรือ เฮอะๆ ทุกวันนี้ดีแต่ออกมาแขวะคนที่ต่อต้าน ทรท.
จนจะกลายเป็นแนวร่วมมุมกลับของ ทรท.แล้ว
ขนาดอดีตสหายร่วมเป็นร่วมตายอย่าง ธงชัย&เกษียร ที่ออกมาเห็นด้วยกับพระราชดำรัสวันที่ 25 เม.ย.49 ยังโดนมันด่าหาว่ายอมสยบต่อสถาบันฯ...

อ้างว่าเห็นด้วยกับอำนาจจากการเลือกตั้งมากกว่าอำนาจในด้านอื่นๆทุกประการ
แต่ตัวเองไม่เคยไปเลือกตั้งเลย อย่างน้อยก็ตั้งแต่ปี 2544-2549(หมายถึงไอ้สมศักดิ์ไม่เจียมกบาล)
ไม่ว่าจะ สว.หรือ สส.  ไอ้ห่านี่ไม่เคยไปใช้สิทธิ์ใดๆ!

ประเภทการเลือกตั้ง : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
วันที่เลือกตั้ง : 6 กุมภาพันธ์ 2548
ชื่อ-นามสกุล : นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
เพศ : ชาย
เลขประจำตัวประชาชน : 3-1006-03339-03-8
เลขรหัสประจำบ้าน : 10060424443 เขต : 18 หน่วย : 41
สำนักทะเบียน :ท้องถิ่นเขตวังทองหลาง
ที่อยู่ :แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
ผลการตรวจสอบ-บุคคลนี้เป็นผู้เสียสิทธิ  :slime_slapped:

ส่วนเกษียร กะ นิธิ ไปใช้สิทธิ์ทุกครั้ง
ชื่อ-นามสกุล : นายเกษียร เตชะพีระ
เพศ : ชาย
เลขประจำตัวประชาชน : 3-1008-00785-20-1
ผลการตรวจสอบ-บุคคลนี้ไม่ใช่ผู้เสียสิทธิ

ชื่อ-นามสกุล : นายนิธิ เอียวศรีวงศ์
เพศ : ชาย
เลขประจำตัวประชาชน : 3-5099-00531-53-1
ผลการตรวจสอบ-บุคคลนี้ไม่ใช่ผู้เสียสิทธิ
............................................................

อ.นิธิ กับ อ.เกษียร ที่เคยวิจารณ์ทักษิณและระบบการเลือกตั้ง ยังไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเลย
แม้แต่อาจารย์ ส.ศิวลึงค์ ที่แกด่าระบบการเลือกตั้ง ด่านักการเมืองบ่อยๆ แกยังไปใช้สิทธิ์ทุกครั้ง!(เท่าที่ผมเช็คเจอ)
ส่วน อ.ธงชัย ผมเข้าใจ เพราะแกอยู่ไกลถึงอเมริกา คงมาไม่สะดวก

แหม แต่ผมสะใจจริงๆ ที่ไอ้หัวโตโดนคุณ"ตัวจริงเสียงจริง"ขุด Pedigree ออกมาประจานในเวบฟ้าเดียวกัน
http://www.sameskybooks.org/board/index.php?showtopic=6064
สงสัยคุณตัวจริงเสียงจริง คงเป็นเจ้าหน้าที่ในกระทรวงมหาดไทยแน่ๆเลยว่ะ เหอๆ ขุดได้กระทั่งพ่อแม่มัน  ...ผมเองที่เข้าเวบประกันสุขภาพ กับเวบเลือกตั้ง ก็เคยขุดมันขึ้นมาประจาน(ข้อหาที่มันไม่เคยไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเลยตลอด 8 ปีที่ผ่านมา แต่เสือกออกมาเห่าว่าคนที่มาจากการเลือกตั้ง มีความชอบธรรมมากกว่าสิ่งที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง) แต่ขุดได้แค่ตัวมันเท่านั้น ขุดโคตรพ่อโคตรแม่มันไม่ได้ :slime_smile2:

ปล.ตอนนี้เวบเช็คสิทธิ์มันเข้าไม่ได้ เลยเช็คอะไรไม่ได้ว่าใครไปใช้สิทธิ์หรือไม่
แปลกมากการที่คนไม่ไปเลือกตั้ง คือคนเลวงั้นหรือ??

ไปอ่านงานของท่านพจนา จันทรสันติ

แล้วคุณจะมีความคิดเรื่องการเลือกตั้งที่ดีกว่านี้


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: soco ที่ 10-03-2008, 20:42
แปลกมากการที่คนไม่ไปเลือกตั้ง คือคนเลวงั้นหรือ??

ไปอ่านงานของท่านพจนา จันทรสันติ

แล้วคุณจะมีความคิดเรื่องการเลือกตั้งที่ดีกว่านี้


ผมไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ตามหน้าที่ เพราะไม่ติดขัดอะไร

ต้องไปหาอ่านความคิดเห็นคนอื่นด้วยหรือครับ


หรือว่าพวกไม่ต้องการทำหน้าที่บุคคล ต้องไปหาอ่านบทความเพื่อมาสนับสนุนตัวเอง ?



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 10-03-2008, 21:11

ผมไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ตามหน้าที่ เพราะไม่ติดขัดอะไร

ต้องไปหาอ่านความคิดเห็นคนอื่นด้วยหรือครับ


หรือว่าพวกไม่ต้องการทำหน้าที่บุคคล ต้องไปหาอ่านบทความเพื่อมาสนับสนุนตัวเอง ?


หากคิดแบบมีกรอบ ความคิดก็อยู่แค่กรอบ


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: soco ที่ 10-03-2008, 21:17
หากคิดแบบมีกรอบ ความคิดก็อยู่แค่กรอบ


ผมยกตัวอย่างให้ฟังนิดนึง เผื่อคุณจะได้คิด

ผมเคยเจอคนที่นึกเอาเองว่า บินได้

และกระโดดหน้าต่างชั้นสองออกไป   เสียดายผมจับเค้าใว้ไม่ทัน แค่สาหัส


เค้าก็คิดว่า นอกกรอบ เหมือนกัน


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 10-03-2008, 21:26

ผมยกตัวอย่างให้ฟังนิดนึง เผื่อคุณจะได้คิด

ผมเคยเจอคนที่นึกเอาเองว่า บินได้

และกระโดดหน้าต่างชั้นสองออกไป   เสียดายผมจับเค้าใว้ไม่ทัน แค่สาหัส


เค้าก็คิดว่า นอกกรอบ เหมือนกัน
งั้นลัทธิ Post-modern ควรจะมีกรอบมั้ยครับ

post-modren นะ ไม่ใช่ post-motam


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ฮูลิแกน ที่ 10-03-2008, 21:45
แปลกมากการที่คนไม่ไปเลือกตั้ง คือคนเลวงั้นหรือ??

ไปอ่านงานของท่านพจนา จันทรสันติ

แล้วคุณจะมีความคิดเรื่องการเลือกตั้งที่ดีกว่านี้

คือผมไม่ได้บอกว่ามันเลวเพราะไม่ไปเลือกตั้ง ถ้ามันอยู่เฉยๆอ่ะนะ
แต่จากลิงค์นี้ในประชาทัย(โทษทีครับลิงค์มันสูญไปแล้ว)
http://www.prachatai.com/05web/th/board/showboard.php?QID=12309&TID=5
แต่ผมจะเล่าคร่าวๆ...ไอ้หัวโตมันบอกว่า การที่ อ.นิธิ อ.เกษียร  อกมาวิพากษ์วิจารณ์ระบบการเลือกตั้ง ทำให้คณะรัฐประหารเอาวาทกรรมนี้(ของนิธิ)ไปสร้างความชอบธรรมในการยึดอำนาจ
แล้วมันก็ยังสะเออะมาพูดอีกว่า เสียง 16 ล้านเสียงของทักษิณ ย่อมมีความชอบธรรมที่สุด...โทษทีที่ผมอ้างลอยๆ ก็เวบมันโดนลบไปแล้วทำไงได้?

ผมก็เลยย้อนมันว่า ถ้ามัน(ไอ้หัวโต)ออกมาอ้างแบบนี้  แล้วทำไมมันไม่เคยไปใช้สิทธิ์สักครั้งเลยล่ะ :slime_hitted:
ให้สมกับที่มัน(กำลังมีท่าที)เชียร์ระบบนี้อยู่
เค้าเรียก ปากพูด ตูดขมิบ งับ :slime_slapped:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ฮูลิแกน ที่ 10-03-2008, 21:54
http://somsakcouppostings.blogspot.com/2006/09/1-2-per-se-22-2549-1-3-14-nlr-1.html

เอ้า โชว์ให้ดูคับ 

อ้างถึง
ที่คุณแอนตี้ "นักเลือกตั้ง" ได้มากขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะมี "การเลือกตั้ง" หรอกหรือ?

ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง คุณสามารถ "ด่า" ใครได้มากขนาดนี้หรือ?

ถ้า "แม้ว" ไม่ได้ลงเลือกตั้ง คุณสามารถ แม้แต่จะเอาชื่อเล่นของเขามาด่าสาธารณะได้มากขนาดนี้? (ไอ้แม้ว, พ่อไอ้แม้ว, ฟักแม้ว ฯลฯ)

คุณสามารถ เอาใตรมาพาดพิงในวาทกรรมสาธารณะ หรือ ถ้าไม่ใช่เพราะเป็น "นักเลือกตั้ง" คือผู้ที่ต้องได้อำนาจมาโดยผ่านการเลือกตั้ง

คุณใช้คำอย่าง "หน้าเหลี่ยม" กับใครที่มีอำนาจโดยไม่ได้มาจากการเลือกตั้งได้หรือ?

อ้าว แล้วทีก่อนเดือนสิงหาฯ ก็มีการชุมนุม ด่า พล.อ.สนธิ  ด่า พล.อ.เปรม ตั้งมากมาย? ไม่เห็นจะมีใครเอาผิดเลย? ก็แค่โดนจับข้อหารบกวนเท่านั้น...ผมก็เคยกลัวเหมือนกันว่า คมช.จะยิงกราดแบบเผด็จการทหารในอดีต...แต่ตอนนี้เปลี่ยนมุมมองไปพอสมควร :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 10-03-2008, 22:04
มองในแง่ "ภววิสัย" ผมเห็นว่า การนำเสนอไอเดีย "แอนตี้การเลือกตั้ง" ของนิธิ, เกษียร ฯลฯ เป็นการแสดงบทบาทปฏิกิริยาทางประวัติศาสตร์

ในประเทศไทย การที่พวกเขาแอนตี้โจมตีการเลือกตั้ง และผู้ที่มาจากการเลือกตั้ง ในขณะที่บ่อยครังกลับแสดงท่าทีอ่อนต่อ อำนาจที่ไม่ได้มาจากเลือกตั้ง เป็นอะไรบางอย่างที่ผมเห็นว่า วิปริต, และน่าขยะแขยง อย่างยิ่ง



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 10-03-2008, 22:26
ไอ้หัวโตเกลียดเจ้านี่ไม่ว่ากันครับ เข้าใจได้ว่าเป็นความคิดความเชื่อส่วนตัวที่มีผลมาจากอดีตของหัวโต
แต่หัวโตไล่กัดคนด่าไอ้เหลี่ยมนี่ มันหาเหตุผลมารองรับไม่ได้จริงๆ   :slime_dizzy:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 10-03-2008, 23:17
พวกฮิบปี้รุ่นแรก ๆ ปฎิเสธ'มนุษย์เงินเดือน' ไม่ทำงานรับใช้อุตสาหกรรม....
แต่พวกฮิบปี้ใส่เสื้อผ้า ห่มผ้าทอจากเครื่องจักรอุตสาหกรรม อ่านหนังสือ ดูภาพยนต์ กินข้าวจากโรงสี....

ถ้าพวกเขาจะนุ่งใบไม้ กินผลไม้ที่เกิดจากนกกา ผึ้งขี้ใส่  หรือปลูกเองบนที่ดินของตนเอง คงไม่มีใครตำหนิ
แต่พวกฮิบปี้เอาเปรียบสังคมที่เขาอยู่ ไม่สร้างผลผลิต ไม่เสียภาษีเงินได้
แต่รับการรักษาพยาบาล ใช้ไฟฟ้า น้ำประปา อยู่ในบ้านเรือนที่คนอื่นๆ ก่อสร้าง....ฯลฯ

ผมจะไม่ถกเถียงว่า'หัวโต'หรือคนที่มีพฤติกรรมทำนองเดียวกัน ไม่ไปเลือกตั้ง
แต่วิพากษ์วิจารณ์การเมืองเหมือนมีส่วนได้ส่วนเสีย
เป็นคนหนึ่งใมสังคม จะเป็นคนเลวหรือไม่.....

ผมจะสนับสนุนให้มีการ'จำกัด'สิทธิบางประการในฐานะ'มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ'

 ผมเคารพคนที่ไปแสดงสิทธิ 'No Vote'มากกว่าคนที่เอารัดเอาเปรียบสังคมพรรค์นั้น....


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Caocao ที่ 11-03-2008, 00:04
ทุกวันนี้โลกเรามันเบลอๆ หลายครั้งชีวิตเรามันก็เบลอๆ อยากให้ไอ้หัวโตไปทบทวนใหม่ ว่าตกลงเอ็งซ้ายหรือขวา 555 :slime_fighto:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: *bonny ที่ 11-03-2008, 15:46
สวัสดีครับทุกท่าน..

คุณแคน แคน..

จอมพลถนอมน่าจะเป็นเผด็จการที่มีนิสัยพอคบหาได้คนหนึ่งนะครับ  หากใครมีชีวิตอยู่ในช่วง 16 ปี(แห่งความหลัง) ที่ท่านผู้นี้ปกครองประเทศอยู่ ก็จะรู้สึกสัมผัสได้อย่างนึงว่า  แม้จะไม่มีสิทธิ เสรีภาพ 100% แต่คุณสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข  ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไปตามกระบวนการยุติธรรม

ทำมาค้าขายได้มากได้น้อย ตามความขยันหมั่นเพียร  และที่ดีที่สุดอยู่หนึ่งอย่าง คือ ปัญหาโจรผู้ร้ายได้รับการแก้ไขและจัดการได้อย่างเด็ดขาด  ไม่ค่อยมีใครสมองเบลอเที่ยวถามชาวบ้านว่า.."มึงรู้ไหม กรูลูกใคร?" 

ม.17 คือ มาตรากม.ที่มีความเด็ดขาดและถูกนำมาใช้กับอาชญากรอย่างได้ผลชะงัด แต่อาจขัดกับหลักการสิทธิมนุษยชน  ซึ่งระบาดไปทั่วเมื่อปี 2517 โดยเจ้าลัทธิ คือ อเมริกา

เหตุผล คือ  เมกาต้องการหาเรื่องเอาผิดเป็นการส่วนบุคคลกับรัฐบาลเผด็จการทั่วโลก เช่น จีน รัสเซีย  เป็นอาทิ  จึงเดินสายปลุกระดมทั่วโลกให้ยกย่องและเคารพในสิทธิมนุษยชน   แต่..ผลสุดท้าย เรื่อง สิทธิ นี่แหละที่มันก่อกวน รังควาน และสร้างความปั่นป่วนให้กับสังคมทั่วโลก โดยเฉพาะในแง่ของการตีความว่า อะไรคือ สิทธิส่วนบุคคล อะไรคือ การละเมิด

ผมยกย่องจอมพลถนอมในส่วนหนึ่ง ในฐานะที่เป็นนักปกครองครับ

ส่วนการที่นายชวนคืนยศให้หลังจากนั้น  ผมคิดว่า ทุกสังคมย่อมมีคนที่เป็นปูชนียบุคคลในใจของคนในสังคมนั้น   นายทหารที่เติบโตมาจากการเป็นผู้บังคับบัญชาของจอมพลถนอมและรำลึกถึงอยู่ย่อมอยากทำอะไรเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความดีของท่านต่อสถาบันทหารของพวกเขา  แต่คนในสถาบันอื่นๆ เขาไม่ชอบ ไม่ยอมรับ

อยากให้คนๆ นึงมีภาพชั่วช้าติดตัวไปจนตาย ก็เลยออกมาด่านายชวน  ส่วนฝ่ายค้านในสมัยนั้นและสมัยต่อมาก็คงนำมาผสมโรงด้วย  ซึ่งความจริงเรื่องนี้ นายชวนไม่เกี่ยวด้วยเลย  คนชงเรื่องและเห็นดีเห็นงามเป็นนายทหารทุกระดับชั้นทำกันขึ้นมาเท่านั้น แต่ในฐานะ รมว.กลาโหมจำเป็นต้ำงลงนาม  จะว่าไป คืนยศก็หาใช่คืนสมบัติที่ยึดมาซะที่ไหน  ถึงได้ยศคืน ก็ได้รับการเคารพบูชาเฉพาะในสถาบันทหาร สถาบันสังคมอื่นๆ เขาไม่ได้บังคับให้ต้องยอมรับด้วย

.........................................................

กรณีนายสมศักดิ์ หัวโต ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง..


การไปใช้สิทธิหรือไม่ เป็นสิทธิอันชอบธรรมส่วนตัว ไม่อาจระบุได้ว่าเป็นคนดีหรือเลว  แต่ระบุได้วา เป็นคนแอนตี้สังคมและมีความคิดเข้าข้างตนเองอย่างรุนแรง

การอยู่ร่วมในสังคมเดียวกันย่อมต้องเคารพสิทธิของผู้อื่นและกติกาของสังคมด้วย  ซึ่งผมคิดว่า หัวโตขาดมโนธรรมในสิ่งนี้ไป และยึดติดกับความเคียดแค้นมากไปหน่อย

ช่างเขาเถอะครับ..
สมัยเรียน มธ. เขายังไม่ไปใช้สิทธิเรียนและสอบเหมือนนักศึกษาคนอื่นๆ เลย  นับประสาอะไร :slime_worship:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: natthaphat ที่ 11-03-2008, 21:03
ไม่อยากจะว่า หัวโตก็แค่ "กาก" ที่อยากสำรอกว่าตนมีความรู้เสียเต็มประดา

แต่การมีความรู้ไม่ใช่แค่วิชาการนะครับ เพราะการรู้ธรรมะ แล้วเข้าใจเรื่องบาปบุญมันเป็นของที่คนเรียนเก่งจบสูงแค่ไหนก็ไม่อาจเข้าใจได้

เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราเข้าใจว่าการสั่งสมบุญดีทำให้เกิดมาในชาติตระกูลที่ดี พวกไพร่ที่อิจฉาเจ้านายที่ท่านสูงส่งย่อมไม่อาจมีสติปัญญาเข้าใจเรื่องเหล่านี้ไปได้

 :slime_p: "นักวิชาการเรอะ นักวิชากากมากกว่ามั๊ง"เบื่อๆๆๆ :slime_dizzy:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: soco ที่ 11-03-2008, 21:37
นายชวนไม่เคยคืนยศให้ใคร


และ จอมพลถนอม ก็ไม่เคยโดนถอดยศ แต่ประการใด

การแต่งตั้ง นายทหารพิเศษ พอจะนิยามได้ดังนี้

“นายทหารพิเศษ”  หมายถึง นายทหารสัญญาบัตร ที่ได้รับพระราชทานโปรดเกล้า ฯ ให้เป็นนายทหารพิเศษประจำหน่วยทหารรักษาพระองค์  สังกัดกองทัพบกหน่วยหนึ่ง หน่วยใด ซึ่งเป็นตำแหน่งกิตติมศักดิ์ ไม่มีหน้าที่ราชการประจำในหน่วยที่สังกัดนั้นแต่ประการใด


และเมื่อมีการต่อต้านกันมาก ทั้งสองท่านคือ จอมพลถนอม และ พลตรีมนูญกฤต ก็เลย กราบบังคมทูลลาออกจากตำแหน่งนายทหารพิเศษประจำกรมฯดังกล่าว ตามเอกสารฉบับนี้ (http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2542/E/019/3.PDF)


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Caocao ที่ 12-03-2008, 00:40
ผมคิดอย่างนี้ ว่าคนเรามันมีสองภาคส่วน คือภาคความคิด และภาคของการกระทำ ซึ่งการจะระบุตัวตน หรือสำแดงความเป็นตัวตน มันต้องทำทั้งสองภาคส่วน คือทั้งคิดและปฏิบัติ ซึ่งจะขาดภาคใดภาคหนึ่งไปไม่ได้ ถ้าได้แค่คิด แต่ปฏิบัติไม่เคย ตามความคิดเห็นผมเค้าเรียกว่าพล่ามครับ ยกตัวอย่างกรณีไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร แล้ววันที่ 19 -20 กันยา ไอ้หัวโตไปอยู่ไหน


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-03-2008, 03:28
โลกนี้มิได้มีแต่สีดำกับสีขาว

บางส่วนที่เป็นสีเทา และอีกหลายสี

นั่นคือการยอมรับในอัตลักษณ์ของแต่ละปัจเจก

ถูกที่หนึ่ง อาจผิดอีกที่หนึ่ง

จะให้เราคิดเหมือนหัวโตก็คงยาก จะให้หัวโตคิดเหมือนคนอื่นๆ ก็คงยาก

เมื่อฝังหัวซะแล้ว ก็ได้แต่บอกว่า...ตามสบายเถอะหัวโต...อิ อิ

สังคมประชาธิปไตยเปิดโอกาสให้เชื่อในสิ่งที่เชื่อ ตราบใดที่ไม่สร้างความเสียหายให้สังคมโดยรวม

รัฐบาลเผด็จการนี่ก็แปลกเหมือนกัน ปล่อยให้มีความคิดแตกต่าง คัดค้านได้โดนเสรี

ในขณะที่รัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตยในปัจจุบัน กลับแสดงท่าทีไม่เป็นมิตรกับผู้ที่คิดแตกต่าง

อ้างว่าเพื่อสร้างสมดุล....มันก็แปลกดีนะ

ปล่อยวางบ้างก็ดี




หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: สหายนำชัย ที่ 12-03-2008, 08:43
เรียนคุณ bonny 

1. อะไรคือหนักแผ่นดิน ?

2. คนอย่างอาจารย์สมศักดิ์เป็นคนหนักแผ่นดินได้อย่างไร ?

3. แผ่นดินนี้เป็นของใคร ?

4. ประเทศที่ไม่มีประชาชนเป็นประเทศได้ไหม ? ในอดีตพระมหากษัตริย์ออกรบแต่เพียงผู้เดียวหรือไม่ ?

5. คุณ bonny คิดว่าระหว่างประชาชนกับพระมหากษัตริย์ ใครควรจะมีอำนาจเป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้ ? 


ผมจะรอคำตอบ ...




หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: สหายนำชัย ที่ 12-03-2008, 09:11
อาจารย์สมศักดิ์ แสดงออกว่าเขาไม่เห็นด้วยที่จะบังคับให้อาจารย์ในคณะไว้ทุกข์
การไว้ทุกข์ควรจะเป็นสิทธิส่วนบุคคล ...
นี่มันเป็นสิ่งชัดเจนที่สุดแล้ว ไยต้องใช้ตรรกกะใดมาอธิบายอีก   

คุณรู้สึกเศร้าโศกต่อการจากไป คุณก็แต่งกายไว้ทุกข์ สดุดี แสดงการรำลึก คุณทำเท่าที่คุณมีปัญญาจะทำ ... ไม่มีใครว่าคุณเลย
แต่... การที่คุณจะไปบังคับคนอื่นว่าต้องรู้สึกเหมือนคุณ ต้องแต่งกายเหมือนคุณ ต้อง ๆๆๆๆๆๆ เหมือนคุณ ...

อย่างนี้มันไม่ถูกเรื่อง

ความเคารพเชื่อถือความศรัทธา บังคับกันไม่ได้
ในมุมมองของคุณ คุณว่าดี ดีเลิศ ดีจนหาใดเปรียบ
แต่.. ในอีกมุมของคนอื่น ก็งั้น ๆ 

ผมอยากบอกว่าเขามีสิทธิที่จะคิดอย่างนั้น เขามีสิทธิที่จะคิดว่า กะอีแค่เคยเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่คณะ ทำไมจะต้องให้ความสำคัญขนาดนั้น
หรือ ถ้าคุณจะทำจริง ๆ แล้วอาจารย์คนอื่น ๆ ที่ล่วงลับไปแล้ว ทำไมคุณไม่ทำอย่างนั้นบ้าง คนอื่น ๆ มีคุณูปการต่อคณะต่อมหาวิทยาลัยยิ่งยวดกว่านี้
หลายเท่าตัว


คนคิดแตกต่างออกไปจาก คุณ bonny ทำไมต้องเป็นคนหนักแผ่นดินด้วย ?
คนที่ไม่เคารพเหมือนที่คุณ bonny เคารพ ไยต้องเป็นคนหนักแผ่นดิน ?

คุณ bonny ได้จับจองและผูกโยงตัวเองไว้แล้วว่า คุณนี่แหล่ะคือ คนค้ำชูแผ่นดิน แผ่นดินนี้จะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคนอย่างคุณ
คุณและความคิดของคุณ คือสัจธรรมแห่งโลกแห่งแผ่นดิน
ใครคิดต่างปฏิบัติต่างไปจากนี้

ต้องได้ชื่อว่า คนหนักแผ่นดิน

อย่างนั้นหรือ ?



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 12-03-2008, 09:18

หากอาจารย์สมศักดิ์คิดว่ายังเป็นข้าราชการ ก็สมควรปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยของทางราชการ  ที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล การไว้ทุกข์เป็นมติ ครม. หากอาจารย์สมศักดิ์ไม่ได้เป็นข้าราชการ ก็ไม่เห็นใครว่าอะไร ยังมีประชาชนอีกเยอะถึงแม้เป็นบุคคลธรรมดาเขาก็ยังไว้ทุกข์ด้วยความเต็มใจ แม้ไม่มีใครบังคับก็ตาม  


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 12-03-2008, 09:22

มติ ครม. เรื่องการไว้ทุกข์ ก็แค่ขอความร่วมมือ หากอาจารย์สมศักดิ์จะนุ่งกระโปรงแดงไปทำงาน ก็ไม่มีใครจับเข้าคุกเข้าตะราง มันอยู่ที่สามัญสำนึกของแต่ละคน ว่าสมควรหรือไม่


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: ปรมาจารย์เจได ที่ 12-03-2008, 20:46
ข้อ 1 ของการเข้ารับราชการคือ

ต้องเลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

ประเด็นแรก หัวโตไม่เลื่อมใสองค์ท่าน ไม่ว่ากัน

แต่นี่ยังไม่เคยไปเลือกตั้งอีก
จะถือว่ามันไม่เลื่อมใสระบอบประชาธิปไตยด้วย
ถึงมันจะยกแม่น้ำทั้ง 5 มาแย้งเรื่องมันไม่ไปเลือกตั้งก็ตาม

มันไม่สมควรเป็นข้าราชการ ที่ได้เงินเดือนมาจากภาษีอากรของราษฎรนับตั้งแต่วันแรกที่มันเข้าแล้วครับ

ใครรู้จักมันก็ไปบอกมันที


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Caocao ที่ 13-03-2008, 00:11
เห็นด้วยกับดาร์ค แต่งคงไม่ถึงกับต้องให้มันกับไปแปลคำว่า "ข้าราชการ" หรอกน่ะ  :slime_v:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 13-03-2008, 01:28
ถ้าลาออกจากธรรมศาสตร์ จะมี มหาวิทยาลัยใหนรับเข้าทำงานบ้างมั๊ยเนี่ย


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 13-03-2008, 04:35
ถ้าลาออกจากธรรมศาสตร์ จะมี มหาวิทยาลัยใหนรับเข้าทำงานบ้างมั๊ยเนี่ย
มอ ชินวัตร ไงลุง ศรัทธาผู้ก่อตั้งยิ่งกว่าอะไร

มอ มอ มอ  :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 13-03-2008, 06:43
น่าจะถาม ไอ้หัวโตว่า นับถือศาสนาอะไรด้วย เผื่อจะได้รู้แนวคิด

น่าจะประกาศให้ชัดๆ ไปว่า เชื่อในแนวทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมแบบไหน จะได้ทำความเข้าใจ และยอมรับในความแตกต่าง

เกิดมาในชีวิต เคยสำนึกว่าใครมีบุญคุณต่อบ้านเมืองบ้าง อยากให้มันลองเขียนลงในกระดาษเล่นๆ


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 13-03-2008, 07:40
คอมมูนิสต์ห้ามนับถือศาสนามั้งครับ
ตายไปก็เอาไปทำปุ๋ย :mrgreen:



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: *bonny ที่ 13-03-2008, 08:41
เรียนคุณ bonny 

1. อะไรคือหนักแผ่นดิน ?

2. คนอย่างอาจารย์สมศักดิ์เป็นคนหนักแผ่นดินได้อย่างไร ?

3. แผ่นดินนี้เป็นของใคร ?

4. ประเทศที่ไม่มีประชาชนเป็นประเทศได้ไหม ? ในอดีตพระมหากษัตริย์ออกรบแต่เพียงผู้เดียวหรือไม่ ?

5. คุณ bonny คิดว่าระหว่างประชาชนกับพระมหากษัตริย์ ใครควรจะมีอำนาจเป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้ ? 

ผมจะรอคำตอบ ...

1. คนหนักแผ่นดิน คือ คนที่ทำให้แผ่นดินที่ตนเองอยู่อาศัยร้อนรุ่ม จนคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ด้วยกันต้องรับผลกระทบ ทำให้อยู่แล้วไม่เป็นสุขกันถ้วนทั่ว 
การทำให้แผ่นดินร้อนรุ่ม หรือ ลุกเป็นไฟ ก็มีหลายวิธีการด้วยกัน  อย่างที่จารย์สมศักดิ์กระทำอยู่นี้เป็นการยุแยงให้เกิดการแตกแยก ไม่ไว้วางใจกันและกันในสังคมขึ้นมา  จะร้อนรุ่มจนนำไปสู่การลุกเป็นไฟหรือไม่  ตอนนี้อาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้น  แต่ทำให้ประชาชนคนอื่นๆ ในสังคม (คนส่วนใหญ่) เขาเกิดความทุกข์ ก็คงไม่เป็นการดีหรอกนะครับในการจะอยู่ร่วมกัน

ในอดีตอันไกลโพ้น  หากคนส่วนใหญ่เกิดความทุกข์ทั้งทางกายและทางใจจากการกระทำของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือ กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในสังคมนั้น จนไม่อยากอยู่ร่วมแผ่นดินเดียวกัน  พวกเขาก็จะรวมตัวกันขับไล่ ทำลายให้สิ้นสุดกันลงไป  ใครกำลังมากกว่าก็ชนะไป  แผ่นดินก็เบาขึ้น(แน่นอนมันตายไปเยอะ)

แม้แต่สถาบันพระมหากษัตริย์ก็ตามที  หากคนส่วนใหญ่ในแผ่นดินไม่ต้องการและเกิดการลุกฮือ คนในสถาบันก็กลายเป็นคนหนักแผ่นดินไปได้เช่นกัน  ดังเช่นที่เกิดในฝรั่งเศส  อิหร่าน เป็นต้น

2. คำตอบอยู่ในข้อหนึ่งแล้วครับ  จัดเอาเองละกันว่า เข้าข่ายหรือไม่  โดยอ่านจากบทความทั้งหลายที่เจ้าหัวโตเผยแพร่ออกไป  และพฤติกรรมทั้งในอดีตและปัจจุบัน  คุณว่า เขาเป็นคนทำให้แผ่นดินนี้ร่มเย็นเป็นสุขหรือเปล่าล่ะ

แม้สิ่งที่เขาทำและคิดจะทำจะยังไม่สำเร็จ เพราะยังเป็นแค่อาจารย์ตัวเล็กๆ ที่ไม่มีพรรคพวกมากนัก แต่ลองนึกภาพดูว่า หากเขามีอำนาจ มีอิทธิพลเหนือคนอื่นๆ ที่เขากำกับได้ ดังเช่นในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 จะเกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมืองนี้

คนอย่างนายสมศักดิ์เป็นคนต่อต้านสังคมทุกประเภทครับ  ไม่ว่าจะอยู่ในระบอบใดก็เถอะ  เป็นจิตเภทประเภทหนึ่งที่ไม่ต้องการปรองดองกับสังคม

แม้ผมจะไม่รู้จักเขาใกล้ชิด แต่ผมเชื่อว่า ใครก็ตามอยู่ใกล้เขาคงไม่ได้รับความสุข ความอบอุ่นอย่างมนุษย์มนาควรจะมี แม้แต่คนในครอบครัวก็เหอะ  จริง/เท็จก็ลองถามไถ่สืบประวัติดูนะครับ

3. แผ่นดินนี้เป็นของประชาชนทุกคนที่มาอยู่อาศัยโดยถือหลักปักฐานด้วยความชอบธรรมทั้งนิตินัยและพฤตินัย มิใช่ของกษัตริย์ หรือ ของทักษิณ

4. คำถามนี้ค่อนข้างผิดปกติวิสัยนะครับ  ไม่มีประชาชนอาศัยจะเป็นประเทศได้อย่างไร  ประเทศมีได้ก็เพราะประชาชนรวมตัวกันเป็นสังคมขึ้นมา  พระมหากษัตริย์เป็นเพียงผู้เข้ามาครอบครองโดยการสืบทอด หรือ สถาปนา หรือ ปราบดาภิเษกตนเอง  เพื่อให้สังคมมีหัวหน้า มีผู้นำทาง  ทุกสังคมต้องมีหัวหน้า มีผู้นำทางทั้งนั้น แม้แต่สังคมเล็กๆ อย่างครอบครัวของคุณ  ไม่งั้นทะเลาะกันตายแม้แต่เรื่องแย่งสมบัติ

การยกย่องให้ใครเป็นผู้นำของตนอยู่ที่กติกาที่คนในสังคมกำหนดขึ้นมาร่วมกันและยอมรับร่วมกัน  ใครไม่ยอมรับก็ก่อการกบฏต่อกติกา  ถ้าชนะก็สร้างกติกาใหม่ได้  ถ้าแพ้ก็ถูกกำจัด  นี่เป็นสัญชาตญาณของการอยู่รอดของมนุษย์ในสังคม

5. ทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นใหญ่ในสังคมประเทศได้ทั้งนั้น  หากประชาชนไม่ยอมรับระบบกษัตริย์  มีหรือจะดำรงอยู่ได้น่ะ 

แต่..หากขับไล่ระบบกษัตริย์ออกไป  ประชาชนอยู่ร่วมกันได้ด้วยความปรองดองหรือไม่?  ตรงนี้ต่างหากที่ต้องตั้งคำถามกลับไปที่คุณให้คิดให้รอบคอบ   ระบบกษัตริย์อยู่คู่แผ่นดินนี้มาช้านาน มีทั้งกษัตริย์ที่ดีและเลว  คราใดที่มีกษัตริย์ที่เลว  บ้านเมืองก็จะเกิดวิกฤติและมีอันเป็นไปตามมา  ในประวัติศาสตร์ก็บอกเล่าอยู่แล้ว

ในขณะเดียวกัน มิใช่กษัตริย์เท่านั้นที่นำพาประเทศไปสู่ทางดีหรือทางเลว  บรรดาขุนนางที่กำกับดูแลก็มีบทบาทในการกำหนดทิศทางประเทศเช่นกัน  ในปัจจุบันนี้  กษัตริย์มิได้มีหน้าที่ในการบริหารจัดการบ้านเมือง  มอบหมายให้นายกรัฐมนตรีที่มาจากประชาชนเป็นผู้ดูแลแทนตามระบอบประชาธิปไตย  ดีชั่วอยู่ที่ตัวนายกฯ แล้ว ไมใช่กษัตริย์นะครับ

............................................................


ส่วนเรื่องการแต่งกายไว้ทุกข์ในกรณีที่เจ้าหัวโตแอนตี้..

ผมว่า ในกรณีของอาจารย์สมศักดิ์  คงไม่มีใครไปบังคับหรอกครับถ้าท่านจะใส่เสื้อสีแดง ผูกไทร์สีเขียวไปทำงาน  เพราะจดหมายต้องเป็นการขอความร่วมมือและไม่มีบทลงโทษกับคนที่ไม่ร่วมมือหรอกครับ
การที่อธิการบดีออกจดหมายเวียนนั้น  ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงการยอมรับในการปกครองระบอบประชาธิปไตย(หรืออะไรก็แล้วแต่..) อันมีระบอบกษัตริย์อยู่ในรัฐธรรมนูญ

หากเจ้าหัวโตอ่านรธน.แล้วยอมรับการมีส่วนร่วม ก็คงเข้าใจความหมายได้
การออกมาโวยวายในบอรืดมันเหมือนเด็กๆ

(เช่นเดียวกับที่พยายามแล้วพยายามอีกที่จะบอกสังคมว่า ทำไมตอนนั้น..สมเด็จพระเทพนำกระเช้าไปเยี่ยมลูกเสือชาวบ้านที่บาดเจ็บ  ทำไมไม่ทำแบบเดียวกันกับนักศึกษา/ประชาชนในมธ.บ้าง แสดงว่า รักไม่เทากัน

หากเจ้าหัวโตมีความคิดสักนิดนึงจะไม่พูดเช่นนี้หรอกครับ เพราะมันทำนองเดียวกับกรณี ทำไมคนในราชวงศ์รับผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ก่อการร้ายในภาคใต้ไว้ในพระบรมราชูปถัมป์  ในขณะที่ไม่ได้รับโจรก่อการร้ายซึ่งก็เป็นคนไทยด้วยกัน

พูดแบบนี้เดี๋ยวจะหาว่า..  หาว่า นศ. และ ปชช. ในเหตุการณ์ 6 ตค. เป็นโจรเรอะ

เปล่าเลยครับ  พวกนั้นเป็นคนดี  เป็นคนมีอุดมการณ์  แต่ในฐานที่เป็นผู้ดำรงตนอยู่ในสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องสร้างภาพที่มำให้สถาบันของตนเองดำรงอยู่ได้  และประชาชนไม่สับสนกับบ่ทบาท   
ลองนึกภาพสิครับ หากมีพระองค์ใดรับผู้บาดเจ็บที่เป็นโจรก่อการร้ายไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์  อะไรจะเกิดขึ้นกับสังคมไทยครับเมื่อประชาชนเห็นภาพนั้น

หัวโตน่าจะคิด และคิดให้แตกฉานในศาสตร์ของการปกครองนะ  อย่าคิดแบบเด็กๆ)

ทำไมไม่ทำเป็นกิจลักษณะให้สังคมรับรู้กันโดยถ้วนทั่วล่ะครับ  เช่นไปยื่นหนังสือกับอธิการบดี พร้อมกับแต่งตัวสีฉูดฉาดให้นสพ.ไปทำข่าว (ไม่กล้าใช่มะ)

ผมว่า ท่านอธิการบดีก็คงไม่ลงโทษเจ้าหัวโตเพราะขัดขืนคำสั่งขอความร่วมมือหรอกครับ

.....................................................

โดยส่วนตัวของผม ก็บอกไปแล้วว่า ผมเคารพและนับถือสมเด็จพระพี่นางในฐานะที่เป็นอาจารย์  มิใช่เป็นคนในราชวงศ์

ผมมีอิสระที่จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่านด้วยความรำลึกถึงบุญคุณที่ท่านเคยมีต่อผม โดยไม่กะเกณฑ์ว่าวันไหนต้องใส่ชุดอะไรมาทำงาน ส่วนใครที่แต่งชุดดำแต่สักแต่ว่าทำตามๆ กระแส  ทั้งที่ในใจเกลียดชัง ก็เป็นการทรยศต่อตนเอง  อย่าแต่งดีกว่าครับ


ในสมัยเรียนที่มธ. (แค่สามเดือน)
นอกจากหัวโตจะไม่เคยแต่งเครื่องแบบ นศ.ที่ถูกกฎของมหาลัยแล้ว  ยัง(แทบ)ไม่เคยเข้าเรียน  ไม่เคยเข้าสอบ 
การกระทำเช่นนี้   ถือว่า ให้ความเคารพต่อสถาบันที่ตนเองศึกษา  ครูบาอาจารย์  เพื่อนๆ และพ่อแม่ที่ส่งเสียหรือเปล่าครับ?

แม้แต่หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบตนเองต่อสังคม  เจ้าหัวโตยังละเลยเช่นนี้  นับประสาอะไรกับการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

แล้วตนเองมีวุฒิภาวะขนาดไหนที่ไปนำมวลชนบนเวทีให้สู้ๆ ๆ ๆ จนหยดสุดท้าย  สุดท้ายมีคนตายไปหลายร้อยคน แต่ตนเองอยู่รอดและจบการศึกษาชั้นสูงสุดมาได้

ผมเรียกคนแบบนี้แหละครับว่า.."หนักแผ่นดิน"


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: สหายนำชัย ที่ 13-03-2008, 09:33
1. คนหนักแผ่นดิน คือ คนที่ทำให้แผ่นดินที่ตนเองอยู่อาศัยร้อนรุ่ม จนคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ด้วยกันต้องรับผลกระทบ ทำให้อยู่แล้วไม่เป็นสุขกันถ้วนทั่ว 
การทำให้แผ่นดินร้อนรุ่ม หรือ ลุกเป็นไฟ ก็มีหลายวิธีการด้วยกัน  อย่างที่จารย์สมศักดิ์กระทำอยู่นี้เป็นการยุแยงให้เกิดการแตกแยก ไม่ไว้วางใจกันและกันในสังคมขึ้นมา  จะร้อนรุ่มจนนำไปสู่การลุกเป็นไฟหรือไม่  ตอนนี้อาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้น  แต่ทำให้ประชาชนคนอื่นๆ ในสังคม (คนส่วนใหญ่) เขาเกิดความทุกข์ ก็คงไม่เป็นการดีหรอกนะครับในการจะอยู่ร่วมกัน

ในอดีตอันไกลโพ้น  หากคนส่วนใหญ่เกิดความทุกข์ทั้งทางกายและทางใจจากการกระทำของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือ กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในสังคมนั้น จนไม่อยากอยู่ร่วมแผ่นดินเดียวกัน  พวกเขาก็จะรวมตัวกันขับไล่ ทำลายให้สิ้นสุดกันลงไป  ใครกำลังมากกว่าก็ชนะไป  แผ่นดินก็เบาขึ้น(แน่นอนมันตายไปเยอะ)

แม้แต่สถาบันพระมหากษัตริย์ก็ตามที  หากคนส่วนใหญ่ในแผ่นดินไม่ต้องการและเกิดการลุกฮือ คนในสถาบันก็กลายเป็นคนหนักแผ่นดินไปได้เช่นกัน  ดังเช่นที่เกิดในฝรั่งเศส  อิหร่าน เป็นต้น

2. คำตอบอยู่ในข้อหนึ่งแล้วครับ  จัดเอาเองละกันว่า เข้าข่ายหรือไม่  โดยอ่านจากบทความทั้งหลายที่เจ้าหัวโตเผยแพร่ออกไป  และพฤติกรรมทั้งในอดีตและปัจจุบัน  คุณว่า เขาเป็นคนทำให้แผ่นดินนี้ร่มเย็นเป็นสุขหรือเปล่าล่ะ

แม้สิ่งที่เขาทำและคิดจะทำจะยังไม่สำเร็จ เพราะยังเป็นแค่อาจารย์ตัวเล็กๆ ที่ไม่มีพรรคพวกมากนัก แต่ลองนึกภาพดูว่า หากเขามีอำนาจ มีอิทธิพลเหนือคนอื่นๆ ที่เขากำกับได้ ดังเช่นในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 จะเกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมืองนี้

คนอย่างนายสมศักดิ์เป็นคนต่อต้านสังคมทุกประเภทครับ  ไม่ว่าจะอยู่ในระบอบใดก็เถอะ  เป็นจิตเภทประเภทหนึ่งที่ไม่ต้องการปรองดองกับสังคม

แม้ผมจะไม่รู้จักเขาใกล้ชิด แต่ผมเชื่อว่า ใครก็ตามอยู่ใกล้เขาคงไม่ได้รับความสุข ความอบอุ่นอย่างมนุษย์มนาควรจะมี แม้แต่คนในครอบครัวก็เหอะ  จริง/เท็จก็ลองถามไถ่สืบประวัติดูนะครับ

3. แผ่นดินนี้เป็นของประชาชนทุกคนที่มาอยู่อาศัยโดยถือหลักปักฐานด้วยความชอบธรรมทั้งนิตินัยและพฤตินัย มิใช่ของกษัตริย์ หรือ ของทักษิณ

4. คำถามนี้ค่อนข้างผิดปกติวิสัยนะครับ  ไม่มีประชาชนอาศัยจะเป็นประเทศได้อย่างไร  ประเทศมีได้ก็เพราะประชาชนรวมตัวกันเป็นสังคมขึ้นมา  พระมหากษัตริย์เป็นเพียงผู้เข้ามาครอบครองโดยการสืบทอด หรือ สถาปนา หรือ ปราบดาภิเษกตนเอง  เพื่อให้สังคมมีหัวหน้า มีผู้นำทาง  ทุกสังคมต้องมีหัวหน้า มีผู้นำทางทั้งนั้น แม้แต่สังคมเล็กๆ อย่างครอบครัวของคุณ  ไม่งั้นทะเลาะกันตายแม้แต่เรื่องแย่งสมบัติ

การยกย่องให้ใครเป็นผู้นำของตนอยู่ที่กติกาที่คนในสังคมกำหนดขึ้นมาร่วมกันและยอมรับร่วมกัน  ใครไม่ยอมรับก็ก่อการกบฏต่อกติกา  ถ้าชนะก็สร้างกติกาใหม่ได้  ถ้าแพ้ก็ถูกกำจัด  นี่เป็นสัญชาตญาณของการอยู่รอดของมนุษย์ในสังคม

5. ทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นใหญ่ในสังคมประเทศได้ทั้งนั้น  หากประชาชนไม่ยอมรับระบบกษัตริย์  มีหรือจะดำรงอยู่ได้น่ะ 

แต่..หากขับไล่ระบบกษัตริย์ออกไป  ประชาชนอยู่ร่วมกันได้ด้วยความปรองดองหรือไม่?  ตรงนี้ต่างหากที่ต้องตั้งคำถามกลับไปที่คุณให้คิดให้รอบคอบ   ระบบกษัตริย์อยู่คู่แผ่นดินนี้มาช้านาน มีทั้งกษัตริย์ที่ดีและเลว  คราใดที่มีกษัตริย์ที่เลว  บ้านเมืองก็จะเกิดวิกฤติและมีอันเป็นไปตามมา  ในประวัติศาสตร์ก็บอกเล่าอยู่แล้ว

ในขณะเดียวกัน มิใช่กษัตริย์เท่านั้นที่นำพาประเทศไปสู่ทางดีหรือทางเลว  บรรดาขุนนางที่กำกับดูแลก็มีบทบาทในการกำหนดทิศทางประเทศเช่นกัน  ในปัจจุบันนี้  กษัตริย์มิได้มีหน้าที่ในการบริหารจัดการบ้านเมือง  มอบหมายให้นายกรัฐมนตรีที่มาจากประชาชนเป็นผู้ดูแลแทนตามระบอบประชาธิปไตย  ดีชั่วอยู่ที่ตัวนายกฯ แล้ว ไมใช่กษัตริย์นะครับ

............................................................


ส่วนเรื่องการแต่งกายไว้ทุกข์ในกรณีที่เจ้าหัวโตแอนตี้..

ผมว่า ในกรณีของอาจารย์สมศักดิ์  คงไม่มีใครไปบังคับหรอกครับถ้าท่านจะใส่เสื้อสีแดง ผูกไทร์สีเขียวไปทำงาน  เพราะจดหมายต้องเป็นการขอความร่วมมือและไม่มีบทลงโทษกับคนที่ไม่ร่วมมือหรอกครับ
การที่อธิการบดีออกจดหมายเวียนนั้น  ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงการยอมรับในการปกครองระบอบประชาธิปไตย(หรืออะไรก็แล้วแต่..) อันมีระบอบกษัตริย์อยู่ในรัฐธรรมนูญ

หากเจ้าหัวโตอ่านรธน.แล้วยอมรับการมีส่วนร่วม ก็คงเข้าใจความหมายได้
การออกมาโวยวายในบอรืดมันเหมือนเด็กๆ

(เช่นเดียวกับที่พยายามแล้วพยายามอีกที่จะบอกสังคมว่า ทำไมตอนนั้น..สมเด็จพระเทพนำกระเช้าไปเยี่ยมลูกเสือชาวบ้านที่บาดเจ็บ  ทำไมไม่ทำแบบเดียวกันกับนักศึกษา/ประชาชนในมธ.บ้าง แสดงว่า รักไม่เทากัน

หากเจ้าหัวโตมีความคิดสักนิดนึงจะไม่พูดเช่นนี้หรอกครับ เพราะมันทำนองเดียวกับกรณี ทำไมคนในราชวงศ์รับผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ก่อการร้ายในภาคใต้ไว้ในพระบรมราชูปถัมป์  ในขณะที่ไม่ได้รับโจรก่อการร้ายซึ่งก็เป็นคนไทยด้วยกัน

พูดแบบนี้เดี๋ยวจะหาว่า..  หาว่า นศ. และ ปชช. ในเหตุการณ์ 6 ตค. เป็นโจรเรอะ

เปล่าเลยครับ  พวกนั้นเป็นคนดี  เป็นคนมีอุดมการณ์  แต่ในฐานที่เป็นผู้ดำรงตนอยู่ในสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องสร้างภาพที่มำให้สถาบันของตนเองดำรงอยู่ได้  และประชาชนไม่สับสนกับบ่ทบาท   
ลองนึกภาพสิครับ หากมีพระองค์ใดรับผู้บาดเจ็บที่เป็นโจรก่อการร้ายไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์  อะไรจะเกิดขึ้นกับสังคมไทยครับเมื่อประชาชนเห็นภาพนั้น

หัวโตน่าจะคิด และคิดให้แตกฉานในศาสตร์ของการปกครองนะ  อย่าคิดแบบเด็กๆ)

ทำไมไม่ทำเป็นกิจลักษณะให้สังคมรับรู้กันโดยถ้วนทั่วล่ะครับ  เช่นไปยื่นหนังสือกับอธิการบดี พร้อมกับแต่งตัวสีฉูดฉาดให้นสพ.ไปทำข่าว (ไม่กล้าใช่มะ)

ผมว่า ท่านอธิการบดีก็คงไม่ลงโทษเจ้าหัวโตเพราะขัดขืนคำสั่งขอความร่วมมือหรอกครับ

.....................................................

โดยส่วนตัวของผม ก็บอกไปแล้วว่า ผมเคารพและนับถือสมเด็จพระพี่นางในฐานะที่เป็นอาจารย์  มิใช่เป็นคนในราชวงศ์

ผมมีอิสระที่จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่านด้วยความรำลึกถึงบุญคุณที่ท่านเคยมีต่อผม โดยไม่กะเกณฑ์ว่าวันไหนต้องใส่ชุดอะไรมาทำงาน ส่วนใครที่แต่งชุดดำแต่สักแต่ว่าทำตามๆ กระแส  ทั้งที่ในใจเกลียดชัง ก็เป็นการทรยศต่อตนเอง  อย่าแต่งดีกว่าครับ


ในสมัยเรียนที่มธ. (แค่สามเดือน)
นอกจากหัวโตจะไม่เคยแต่งเครื่องแบบ นศ.ที่ถูกกฎของมหาลัยแล้ว  ยัง(แทบ)ไม่เคยเข้าเรียน  ไม่เคยเข้าสอบ 
การกระทำเช่นนี้   ถือว่า ให้ความเคารพต่อสถาบันที่ตนเองศึกษา  ครูบาอาจารย์  เพื่อนๆ และพ่อแม่ที่ส่งเสียหรือเปล่าครับ?

แม้แต่หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบตนเองต่อสังคม  เจ้าหัวโตยังละเลยเช่นนี้  นับประสาอะไรกับการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

แล้วตนเองมีวุฒิภาวะขนาดไหนที่ไปนำมวลชนบนเวทีให้สู้ๆ ๆ ๆ จนหยดสุดท้าย  สุดท้ายมีคนตายไปหลายร้อยคน แต่ตนเองอยู่รอดและจบการศึกษาชั้นสูงสุดมาได้

ผมเรียกคนแบบนี้แหละครับว่า.."หนักแผ่นดิน"


เยี่ยมมากเลย คุณ bonny ขอชมคุณจากใจจริง ๆ

หลักการหนักแน่น เหตุผลนำหน้า แต่ละคำสุภาพน่าอ่าน 
เล่นเอาผมเคลิ้มเลย


นิดเดียวครับ คุณ bonny ขอถามอีกนิดเดียวจริง ๆ

คุณคิดว่าที่อาจารย์สมศักดิ์นำเสนอข้อมูลแกมวิพากษ์วิจารย์สถาบันอยู่เดี๋ยวนี้
คุณ bonny คิดว่าแต่ละเรื่องเป็นเรื่องจริงไหม ?
จริงทั้งหมด จริงบ้างเท็จบ้าง หรือ โกหกทั้งเพ
เอาง่าย ๆ ว่า ข้อมูลของอาจารย์สมศักดิ์เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน ?     

และสิ่งที่อาจารย์สมศักดิ์คิดและแสดงออกอยู่เดี๋ยวนี้ ผมจะไม่ถามว่าสมควรหรือไม่สมควร แต่อยากจะถามว่า เขามีสิทธิที่จะทำอย่างนี้หรือไม่ ? 
ถ้าไม่  ไม่เพราะอะไร ?


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 13-03-2008, 09:43
อ้างแต่สิทธิ์ แต่ไม่คิดถึงหน้าที่ และความรับผิดชอบต่อสังคม

เสรีภาพทางวิชาการ เหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานใกล้เคียง มีพื้นความรู้พอสมควร

การเรียนการสอนในบางเรื่อง มีความละเอียดอ่อน ที่ผู้รับสารต้องมีภูมิคุ้มกันในตัวเองพอสมควร

อาจต้องเรียนวิชาหนึ่งแล้วไปต่อยอดอีกวิชาหนึ่ง มันเป็นเรื่องการใช้วิจารณญาณของผู้สอน

ต้องป้อนข้อมูลอย่างรอบคอบรอบด้าน

หากสอนด้านลบ ก็ต้องสอนด้านบวกไปด้วย

ในโลกนี้มิใช่มีแต่ขาวกับดำ ยังมีอีกหลายมุมมองที่มิใช่ทั้งขาวและดำ


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 13-03-2008, 10:00

เยี่ยมมากเลย คุณ bonny ขอชมคุณจากใจจริง ๆ

หลักการหนักแน่น เหตุผลนำหน้า แต่ละคำสุภาพน่าอ่าน 
เล่นเอาผมเคลิ้มเลย


นิดเดียวครับ คุณ bonny ขอถามอีกนิดเดียวจริง ๆ

คุณคิดว่าที่อาจารย์สมศักดิ์นำเสนอข้อมูลแกมวิพากษ์วิจารย์สถาบันอยู่เดี๋ยวนี้
คุณ bonny คิดว่าแต่ละเรื่องเป็นเรื่องจริงไหม ?
จริงทั้งหมด จริงบ้างเท็จบ้าง หรือ โกหกทั้งเพ
เอาง่าย ๆ ว่า ข้อมูลของอาจารย์สมศักดิ์เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน ?     

และสิ่งที่อาจารย์สมศักดิ์คิดและแสดงออกอยู่เดี๋ยวนี้ ผมจะไม่ถามว่าสมควรหรือไม่สมควร แต่อยากจะถามว่า เขามีสิทธิที่จะทำอย่างนี้หรือไม่ ? 
ถ้าไม่  ไม่เพราะอะไร ?


ขอแจม..

ของสมศักดิ์เป็นเรื่องวิเคราะห์วิจารณ์
จะถามว่ามุมมอง ความคิดเห็นของสมศักดิ์เป็นจริงหรือเท็จ
จริงบางส่วนหรือโกหกทั้งเพ

คงตอบยากพิลึก

แต่ถ้าถามว่าความคิดความเห็นของสมศักดิ์เข้าท่าหรือมีประโยชน์หรือไม่

ค่อยว่าไปอย่าง :mozilla_tongue:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: สหายนำชัย ที่ 13-03-2008, 10:19
ขอแจม..

ของสมศักดิ์เป็นเรื่องวิเคราะห์วิจารณ์
จะถามว่ามุมมอง ความคิดเห็นของสมศักดิ์เป็นจริงหรือเท็จ
จริงบางส่วนหรือโกหกทั้งเพ

คงตอบยากพิลึก

แต่ถ้าถามว่าความคิดความเห็นของสมศักดิ์เข้าท่าหรือมีประโยชน์หรือไม่

ค่อยว่าไปอย่าง :mozilla_tongue:


คุณ Cherub Rock คิดว่าสิ่งที่อาจารย์สมศักดิ์ทำอยู่นี้ เข้าท่าไหม มีประโยชน์ไหม ?


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: egoman ที่ 13-03-2008, 11:37
ผมว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม การอยู่รวมกันเป็นหมู่คณะความคิดเห็นย่อมแตกต่างกันไป
แต่ทุกสังคมต้องมีสิ่งที่ยึดเหนี่ยวเพื่อความเป็นปิกแผ่น เช่นเดียวกับทุกประเทศ ในต่างประเทศ
มีประธานาธิปดีเป็นประมุขของประเทศ แต่ในสังคมไทยมีพระมหากษัตย์ เป็นประมุข
การที่คนใดคนหนึ่งพูดจาพาดพิงถึง สิ่งยึดเหนี่ยวของคนในสังคมในทางเสื่อมเสีย หรือใน
สิ่งที่ดีงามย่อมทำให้สังคมแตกแยกได้ การพูดจาหรือการวิจารย์ควรจะคำนึงถึง
คนในสังคมว่ายอมรับได้มากน้อยแค่ใหน

การวิจารญ์ควรจะมองถึงผลที่จะเกิดขึ้น ตามมา แต่สิ่งที่ผมอ่านดูทั้งซ้ายและขวาต่างอยู่กันแบบผสมผสาน
เพราะผลประโยชน์ทั้งนั้น มิได้คำนึงถึง สังคมว่าจะอยู่รอดหรือไม่

ผมส่าสิ่งที่คุณหัวโตอะไรนั้น คงทำไปเพื่อผลประโยชน์อะไรสักอย่างหนึ่ง

 :slime_p: :slime_p:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: สหายนำชัย ที่ 13-03-2008, 11:55
อ้างแต่สิทธิ์ แต่ไม่คิดถึงหน้าที่ และความรับผิดชอบต่อสังคม

เสรีภาพทางวิชาการ เหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานใกล้เคียง มีพื้นความรู้พอสมควร

การเรียนการสอนในบางเรื่อง มีความละเอียดอ่อน ที่ผู้รับสารต้องมีภูมิคุ้มกันในตัวเองพอสมควร

อาจต้องเรียนวิชาหนึ่งแล้วไปต่อยอดอีกวิชาหนึ่ง มันเป็นเรื่องการใช้วิจารณญาณของผู้สอน

ต้องป้อนข้อมูลอย่างรอบคอบรอบด้าน

หากสอนด้านลบ ก็ต้องสอนด้านบวกไปด้วย

ในโลกนี้มิใช่มีแต่ขาวกับดำ ยังมีอีกหลายมุมมองที่มิใช่ทั้งขาวและดำ


การปกครองในระบอบประชาธิปไตย คำว่า “สิทธิ” ย่อมเป็นสิ่งที่ผู้อื่นล่วงละเมิดมิได้
เขามีสิทธิเขาก็ใช้สิทธิ นั้น  เป็นเรื่องธรรมดาอย่างที่สุด
ถ้าเห็นว่าสิทธิที่เขาใช้ล่วงละเมิดสิทธิคุณหรือของใคร  แจ้งจับฟ้องศาล ก็จบแค่นั้น

คนหลากหลายความคิดก็หลายหลาก
ที่อาจารย์สมศักดิ์ทำคือ “การนำเสนอ”  มิใช่  “การบังคับ”  หรือ  “ ครอบงำ” 
ใครจะรับ จะเสพ จะตีความ หรือจะอะไรก็แล้วแต่เขา คนแต่ละคนมีวิจารณญาณไม่เหมือนกันและไม่เท่ากัน
แต่ไม่ควรจะไปด่วนสรุปว่า ใครคนใดคนหนึ่ง หรือ นักศึกษา ยังมีสติปัญญายังมีวุฒิภาวะไม่เพียงพอที่จะแยกแยะผิดชอบชั่วดีจากเรื่องที่รับรู้ได้

การเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน แล้วมาตัดสินว่าคนนั้นต่ำคนนี้สูง คนนี้ผิดคนนั้นถูก คนนั้นดีคนนี้เลว อย่างนั้นควรอย่างนี้ไม่ควร มันคงไม่ถูกต้อง
ไม่ถูกต้องตั้งแต่เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานแล้ว

ผมไม่ได้ว่าสิ่งที่อาจารย์สมศักดิ์ทำนั้น "ดี"  แต่ผมเห็นว่าสิ่งที่เขาทำนั้น "ถูก"  ถูกต้องตามสิทธิของบุคคลอันพึงได้อันพึงมีในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

ถ้าจะพูดในแง่ของการทำหน้าที่ เขาได้สร้างความหลากหลายเกิดมุมมองใหม่ แก่ "บุคคล" หรือสถาบัน ซึ่งสิ่งที่เขานำเสนอนั้นมันก็ไม่ใช่ทั้งหมด คืออาจจะแค่ 0.01 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันคือส่วนหนึ่งของสิ่งนั้น

กระพี้ของต้นไม้ มันก็เป็นส่วนหนึ่งของต้นไม้เหมือนกัน

เขาอาจจะแค่หยิบกระพี้ของมันออกมานำเสนอ แล้วบอกว่าดูจากกระพี้แล้วต้นไม้ต้นนี้เป็นลักษณะอย่างนั้นอย่างนี้.... ซึ่งอาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้
เพราะถึงอย่างไรต้นไม้ต้นนี้ก็ยังยืนต้นตระหง่านอย่างที่คุณหรือใครมองเห็น

ร่มเงาเขียวครึ้มเฉพาะด้านนอก แต่ข้างในกลวงหนอนเจาะจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ ... เรื่องนี้ไม่มีใครรู้จริง   
และประการสำคัญอาจารย์สมศักดิ์ก็ไม่ได้บอกหรือมีนัยใด ๆ ที่แสดงว่า มาโค่นต้นไม้ต้นนี้กันเถอะ

เขาเพียงแค่นำเสนอและวิจารณ์ เปิดมุมมองอันหลากหลาย มันไม่น่าจะถึงกับหนักแผ่นดิน

ที่สำคัญเขารับผิดชอบต่อสิ่งที่เขาทำ คุณหรือใครสามารถฟ้องร้องเขาได้ ถ้าเห็นว่าเขาทำผิดกฏหมาย



หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 13-03-2008, 12:04
วิพากษ์คนอื่นได้ ก็ควรยอมรับการที่สังคมจะวิพากษ์กลับ

ผู้คนในสังคมก็ใช้สิทธิ์เดียวกับไอ้หัวโตนั่นแหละครับ

ถ้าคนอื่นก้ำเกินไปไอ้หัวโต ก็ใช้สิทธิ์มาได้เลยครับ

ไอ้หมอนี่สมองโตไม่เกินเด็ก ม. 5 ครับ

ยืนยัน


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 13-03-2008, 12:20

การปกครองในระบอบประชาธิปไตย คำว่า “สิทธิ” ย่อมเป็นสิ่งที่ผู้อื่นล่วงละเมิดมิได้
เขามีสิทธิเขาก็ใช้สิทธิ นั้น  เป็นเรื่องธรรมดาอย่างที่สุด
ถ้าเห็นว่าสิทธิที่เขาใช้ล่วงละเมิดสิทธิคุณหรือของใคร  แจ้งจับฟ้องศาล ก็จบแค่นั้น



บางทีด้านกฎหมายมันจบแค่นั้น แต่อารมณ์ของผู้คนในสังคมมันไม่จบแค่นั้นนะสิ

ทำไมอ้างแต่สิทธิ์องตนเองล่ะ อ่านรัฐธรรมนูญถึงมาตราที่เท่าไหร่แล้ว

ไม่ดูมาตราต่อ ๆ มานั่นแหละ ดูหมวดพระมหากษัตริย์ด้วยสิ

จะได้รู้ว่าสิทธิ์ที่ตนมีนั้นก็มีอย่างจำกัด มิได้จะไปพูดก้ำเกินส่วนอื่นๆ ของสังคม

การใช้สิทธิ์นั้นต้องไม่ไปละเมิดกฎหมายอื่น เข้าใจบ่ บักหัวโต

จะว่าไปทางสถาบันฯก็ไม่เคยเอาตนเองลงมาเป็นคู่กรณี

เป็นหน้าที่ของผู้คนในสังคม เป็นหน้าที่ของผู้รักษากฎหมายจะดำเนินการกันไป

ตามแต่กฎหมายให้สิทธิ์ไว้

กว่าจะโดนฟ้องผมกลัวว่าจะโดนแบบ "ดา ตอปิโด" มากกว่านะ

เพราะสังคมหลากหลาย บางที่ก็ใช้อารมณ์ บางที่ก็ใช้เหตุผล

ฝากไปถามไอ้หัวโต ในฐานะผ่านเหตุการณ์ 6 ตุลา 19

เอ็งเรียนรู้อะไรบ้างในเหตุการณ์นั้น โดยเฉพาะเรื่องสถาบันฯ

เพราะเอ็งไม่รู้จักสรุปบทเรียนนี่แหละ ถึงบอกว่า สมองเอ็งไม่โตขึ้นตามอายุ


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 13-03-2008, 12:54

ถ้าจะพูดในแง่ของการทำหน้าที่ เขาได้สร้างความหลากหลายเกิดมุมมองใหม่ แก่ "บุคคล" หรือสถาบัน ซึ่งสิ่งที่เขานำเสนอนั้นมันก็ไม่ใช่ทั้งหมด คืออาจจะแค่ 0.01 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันคือส่วนหนึ่งของสิ่งนั้น


ผมไม่เห็นว่ามุมมองแบบนี้มีอะไรใหม่
เรื่องแบบนี้ไม่ใช่สมศักดิ์คิดได้อยู่คนเดียวในประเทศ

เพียงแต่คนอื่นเค้ารู้ว่าควรแสดงออกอย่างไรให้เหมาะสมและสร้างสรรค์ :idea:






หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: natthaphat ที่ 13-03-2008, 15:04
 :slime_smile2: ถ้าคนที่เรียนมามีวามรู้กันทุกคน ก็ไม่ควรจะรู้แค่วิชาการอย่างเดียวนะครับ

เพราะการไม่รู้รอบ ถึงประวัติศาสตร์พื้นฐานทางสังคมรวมถึงธรรมะกฎแห่งบาปบุญ ก็ทำให้ขาดมุมมองในด้านอื่นเลยทำให้ตัดสินอะไรผิดๆเชื่อแต่สิ่งที่ตนเองคิดว่ามีเหตุมีผล

อย่างหัวโตไม่คู่ควรที่ใครจะเรียกว่านักวิชาการหรอกครับ

ในบ้านเมืองนี้นักวิชาการจริงๆมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น อาจารย์ นพ.ประเวศ ถือว่าเป็นนักวิชาการโดยแท้ต่างจากหัวโตโดยสิ้นเชิงราวอรูปพรหมมาเทียบกับอสุรกายในอเวจี  :slime_cool:


หัวข้อ: Re: **เจ้าหัวโต..แบบฉบับของคนหนักแผ่นดิน(ไทย)**
เริ่มหัวข้อโดย: Caocao ที่ 14-03-2008, 01:28
ไม่มีอะไรในโลกที่ ถูกเสมอ และ ผิดตลอด บางครั้งการอ้างสิทธิที่จะทำการใดการหนึ่งที่ถือเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ไม่ได้มองถึงความผิดที่อาจเกิดจากการใช้สิทธิที่ว่า ว่าอาจส่งผลกระทบอย่างหนึ่งอย่างใด ก็ไม่ถือว่าเป็นผู้ที่ใช้ปัญญาอย่างรอบคอบครับ อย่างการวิพากษ์ราชวงศ์เป็นสิทธิที่ทำได้ ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตยแน่นอน แต่เหตุที่ผิด คือผิดด้านจารีตประเพณี รวมทั้งมารยาททางสังคมที่ส่วนรวมยึดมั่นและปฏิบัติ อย่างกรณีสมเด็จพระพี่นาง สำนักพระราชวังขอความร่วมมือ ไม่ได้บังคับ ส่วนประชาชนจะแสดงความจงรักภักดี เป็นสิทธิส่วนบุคคล และเหตุส่วนหนึ่งที่ชี้ชวนให้ปฏิบัติตาม เนื่องด้วยเป็นมารยาททางสังคมที่ประชาชนควรแสดงออกเท่านั้น