ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => ชายคาพักใจ => ข้อความที่เริ่มโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 02-01-2008, 21:01



หัวข้อ: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 02-01-2008, 21:01
นางประแดะ


สูงระหงทรงเพรียวเรียวรูด
งามละม้ายคล้ายอูฐกะหลาป๋า
พิศแต่หัวตลอดเท้าขาวแต่ตา
ทั้งสองแก้มกัลยาดั่งลูกยอ

คิ้วก่งเหมือนกงเขาดีดฝ้าย
จมูกละม้ายคล้ายพร้าขอ
หูกลวงดวงพักตร์หักงอ
ลำคอโตตันสั้นกลม

สองเต้าห้อยตุงถุงตะเครียว
โคนเหี่ยวแห้งรวบเหมือนบวบต้ม
เสวยสลายาจุกพระโอษฐ์อม
มันน่าเชยน่าชมนางเทวี


ระเด่นลันได  แต่งโดย พระมหามนตรี (ทรัพย์)





หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 02-01-2008, 21:09


บทละครเรื่อง ระเด่นลันได

แต่งโดย พระมหามนตรี (ทรัพย์)



๏(ช้าปี่)* มาจะกล่าวบทไป
ถึงระเด่นลันไดอนาถา
เสวยราชย์องค์เดียวเที่ยวรำภา
ตามตลาดเสาชิงช้าหน้าโบสถ์พราหมณ์
อยู่ปราสาทเสาคอยอดด้วน
กำแพงแก้วแล้วล้วนด้วยเรียวหนาม
มีทหารหอนเห่าเฝ้าโมงยาม
คอยปราบปรามประจามิตรที่คิดร้าย ฯ ๔ คำ ฯ

     ๏ เที่ยวสีซอขอข้าวสารทุกบ้านช่อง
เป็นเสบียงเลี้ยงท้องของถวาย
ไม่มีใครชังชิงทั้งหญิงชาย
ต่างฝากกายฝากตัวกลัวบารมี
พอโพล้เพล้เวลาจะสายัณห์
ยุงชุมสุมควันแล้วเข้าที่
บรรทมเหนือเสื่อลำแพนแท่นมณี
ภูมีซบเซาเมากัญชา ฯ ๔ คำ ฯ



จาก...วิกิซอร์ซ




หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 02-01-2008, 21:25
     ๏ เมื่อนั้น
นางประแดะหูกลวงดวงสมร
ครั้นรุ่งเช้าท้าวประดู่ภูธร
เสด็จจรจากเวียงไปเลี้ยงวัว
โฉมเฉลาเนาในที่ไสยา
บรรจงหั่นกัญชาไว้ท่าผัว
แล้วอาบน้ำทาแป้งแต่งตัว
หวีหัวหาเหาเกล้าผมมวย
ได้ยินแว่วสำเนียงเสียงหมาเห่า
คิดว่าวัวเข้าในสวนกล้วย
จึงออกมาเผยแกลอยู่แร่รวย
ตวาดด้วยสุรเสียงสำเนียงนาง
พอเหลือบเห็นระเด่นลันได
อรไทผินผันหันข้าง
ชม้อยชม้ายชายเนตรดูพลาง
ชะน้อยฤๅรูปร่างราวกับกลึง
งามกว่าภัสดาสามี
ทั้งเมืองตานีไม่มีถึง
เกิดกำหนัดกลัดกลุ้มรุมรึง
นางตะลึงแลดูพระภูมี ฯ ๑๐ คำ ฯ



อ้างอิง...จากทีเดิม


หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 02-01-2008, 21:55
บทละคอนเรื่องระเด่นลันได
ของ พระมหามนตรี (ทรัพย์)



อธิบายบทละคอน เรื่อง ระเด่นลันได

บทละคอนเรื่อง ระเด่นลันได ถ้าอ่านโดยไม่ทราบเค้ามูล ก็คงจะเข้าใจว่า เป็นบทแต่งสำหรับ เล่นละคอนตลก

แต่ความจริง ไม่เป็นเช่นนั้น หนังสือเรื่อง ระเด่นลันไดนี้ที่แท้เป็นจดหมายเหตุ
 
หากผู้แต่ง ประสงค์จะจดให้ขบขัน สมกับเรื่องที่จริง จึงแกล้งแต่งเป็นละคอน

สำหรับอ่านกันเล่น หาได้ตั้งใจจะให้ใช้เป็น บทเล่นละคอนไม่

เรื่อง ระเด่นลันได เป็นหนังสือแต่งในรัชกาลที่ ๓ เล่ากันมาว่า

ครั้งนั้น มีแขกคนหนึ่งชื่อ ลันได ทำนองจะเป็นพว กฮินดู ชาวอินเดีย ซัดเซพเนจร

เข้ามาอาศัยอยู่ที่ใกล้โบสถ์พราหมณ์ ในกรุงเทพฯ เที่ยวสีซอขอทานเขาเลี้ยงชีพเป็นนิจ พูดภาษาไทยก็มิใคร่ได้

หัดร้องเพลงขอทานได้เพียงว่า "สุวรรณหงษ์ถูกหอกอย่าบอกใคร บอกใครก็บอกใคร"

ร้องทวนอยู่แต่เท่านี้ แขกลันไดเที่ยวขอทาน จนคนรู้จักกันโดยมากในครั้งนั้น

มีแขกอีกคน ๑ เรียกกันว่า แขกประดู่ ทำนองก็จะเป็นชาวอินเดีย เหมือนกัน

ตั้งคอกเลียงวัวนม อยู่ที่หัวป้อม (อยู่ราวที่ สนามหน้าศาลสถิตยุติธรรม ทุกวันนี้) มีภรรยา เป็นหญิงแขกมลายู ซื่อประแดะ

 อยู่มาแขกลันได กับแขกประดู่ เกิดวิวาทกัน ด้วยเรื่องแย่งหญิงมลายูนั้น

โดยทำนองที่กล่าวในเรื่องละคอน คนทั้งหลาย เห็นเป็นเรื่องขบขัน ก็โจษกันแพร่หลาย

พระมหามนตรี (ทรัพย์) ทราบเรื่อง จึงคิดแต่งเป็นบทละคอนขึ้น


พระมหามนตรี(ทรัพย์)นี้ เป็นกวีที่สามารถในกระบวน แต่งกลอนแปด จะหาตัวเปรียบได้โดยยาก

แต่มามีชื่อโด่งดัง ในการแต่งกลอน ต่อเมื่อถึงแก่กรรมแล้ว เพราะเมื่อมีชีวิตอยู่ ไม่ใคร่พอใจแต่งโดยเปิดเผย

หนังสือซึ่ง พระมหามนตรี(ทรัพย์) ได้ออกหน้าแต่งมีปรากฏ แต่โคลงฤาษีดัดตนบท ๑ กับเพลงยาวกลบทชื่อ

กบเต้นสามตอน (ซึ่งขึ้นต้นว่า "แจ็บคำจำคิดจิตขวย") บท ๑ เท่านั้น

ที่พระมหามนตรี (ทรัพย์) มีชื่อเสียงสืบต่อมา จนรัชกาลหลัง ๆ เพราะแต่งหนังสืออีก ๒ เรื่อง

 คือ เพลงยาว แต่งว่า พระยามหาเทพ(ทองปาน) เมื่อยังเป็น จมื่นราชามาตย์เรื่อง ๑ กับบทละคอนเรื่อง ระเด่นลันไดนี้เรื่อง ๑

เพลงยาวว่าพระยามหาเทพ(ทองปาน) นั้น เล่ากันมาว่า เป็นแต่ลอบแต่ง

 แล้วเขียนมาปิดไว้ที่ ทิมดาบตำรวจ ในพระบรมมหาราชวัง ผู้อื่นเห็นก็รู้ว่า เป็นฝีปากพระมหามนตรี(ทรัพย์)

แต่ไม่มีผู้ใดฟ้องร้องกล่าว มีแต่ผู้ลอกคัดเอาไป (แล้วเห็นจะเลยฉีกทั้งต้นหนังสือเสีย จึงไม่เกิดความฐานทอดบัตรสนเท่ห์)

ด้วยครั้งนั้น มีคนชัง พระยามหาเทพ (ทองปาน) อยู่มากด้วยกัน เพลงยาวนั้น

 ก็เลยแพร่หลาย หอพระสมุดฯ ได้พิมพ์เพลงยาวนั้น ไว้ในหนังสือวชิรญาณวิเศษเล่ม ๓ ประจำปีกุน จุลศักราช ๑๒๔๙ (พ.ศ.๒๔๓๐)

ส่วนบทละคอนเรื่องละเด่นลันได เหตุที่แต่งเป็นดังอธิบายมาข้างต้น

ถ้าผู้อ่านสังเกตจะเห็นได้ว่า ทางสำนวน แต่งดีทั้งกระบวนบทสุภาพ และวิธีที่เอาถ้อยคำขบขัน เข้าสอดแซม

 บางแห่ง กล้าใช้สำนวนต่ำช้าลงไป ให้สมกับตัวบท แต่อ่านก็ไม่มีที่จะเขินเคอะ ในแห่งใด

 เพราะฉะนั้น จึงเป็นหนังสือ ซึ่งชอบอ่านกันแพร่หลาย ตั้งแต่แรกแต่ง

ตลอดมาจนในรัชกาลหลัง ๆ นับถือกันว่า เป็นหนังสือกลอนชั้นเอกเรื่อง ๑

บทละคอนเรื่องระเด่นลันไดนี้ มีผู้ใดเคยพิมพ์มาแล้ว แต่ฉบับที่พิมพ์มาแต่ก่อน วิปลาสคลาดเคลื่อน

แลมีผู้อื่นแต่งแทรกแซม เพิ่มเติมอีกเป็นอันมาก จนวิปริตผิดรูปฉบับเดิม

กรรมการหอพระสมุดฯ เห็นว่าบทละคอนเรื่อง ละเด่นลันได นับว่าเป็นเรื่องสำคัญ

ในหนังสือกลอนไทยเรื่อง ๑ ซึ่งสมควรจะรักษาไว้ให้บริสุทธิ์ จึงได้พยายามหาฉบับมาแต่ที่ต่าง ๆ สำหรับชำระแล้วพิมพ์ไว้ในสมุดเล่มนี้

แต่เสียดายอยู่ที่ บทตอนท้ายในเล่มนี้ ยังขาดฉบับเดิมอยู่ สักสามฤาสี่หน้ากระดาษ

เนื้อเรื่องที่ขาดเพียงใด จะอธิบายไว้ ท้ายเล่มสมุด เผื่อท่านผู้ใด มีฉบับบริบูรณ์


ถ้ามีแก่ใจคัดส่งมายัง หอพระสมุดฯ ฤาให้ยืมต้นฉบับ มาให้หอพระสมุดฯ ดัดได้ จะขอบพระคุณเป็นอันมาก



ดำรงราชานุภาพ

สภานายก
หอพระสมุดวชิรญาณ
วันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๓





หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 02-01-2008, 22:05

ไม่ว่าเห็นชื่อนางประแดะที่ไหน ต้องเผลอเข้าไปอ่านทุกครั้งค่ะคุณดอกฟ้าฯ  ชอบอารมณ์ขันของผู้แต่ง


หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 02-01-2008, 22:11
ไม่ว่าเห็นชื่อนางประแดะที่ไหน ต้องเผลอเข้าไปอ่านทุกครั้งค่ะคุณดอกฟ้าฯ  ชอบอารมณ์ขันของผู้แต่ง


เหรอคะ....ดอกฟ้าฯนี่อ่านทีไร ขำทุกครั้งเลยค่ะ

ขอชื่นชมผู้แต่ง พระมหามนตรี ท่านแต่งได้ ทันยุคสมัยเสมอ

อ่านแล้วไม่เคยเบื่อ งั้นเดี๋ยวจะเอามาลงให้อีกค่ะ ช๊อบ...ชอบ โดยเฉพาะที่กล่าวถึงนางประแดะ

และพระเอก คือระเด่นลันได อิ อิ
:slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: grave accent ที่ 02-01-2008, 22:57
เอาตอนที่กล่าวถึงระเด่นลันไดด้วยครับ ชอบตอน ที่กล่าวว่า อยู่ปราสาทเสาคลอนยอดด้วน แล้วอะำไรว่า เรียนมาไม่ถึงสิบปีเลย ลืมหมดแล้ว  :slime_whistle:


หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 02-01-2008, 22:59

     ๏ เมื่อนั้น
พระสุวรรณลันไดเรืองศรี
เหลียวพบสบเนตรนางตานี
ภูมีพิศพักตร์ลักขณา ฯ 2 คำ ฯ
๏ชมโฉม สูงระหงทรงเพรียวเรียวรูด
งามละม้ายคล้ายอูฐกะกลาป๋า
พิศแต่หัวตลอดเท้าขาวแต่ตา
ทั้งสองแก้มกัลยาดังลูกยอ
คิ้วก่งเหมือนกงเขาดีดฝ้าย
จมูกละม้ายคล้ายพร้าขอ
หูกลวงดวงพักตร์หักงอ
ลำคอโตตันสั้นกลม
สองเต้าห้อยตุงดังถุงตะเคียว
โคนเหี่ยวแห้งรวบเหมือนบวบต้ม
เสวยสลายาจุกพระโอษฐ์อม
มันน่าเชยน่าชมนางเทวี ฯ ๖ คำ ฯ

     ๏ร่าย นี่จะเป็นลูกสาวท้าวพระยา
ฤๅว่าเป็นพระมเหสี
อกใจทึกทักรักเต็มที
ก็ทรงสีซอสุวรรณขึ้นทันใด ฯ ๒ คำ ฯ

     ๏พัดชา ยักย้ายร่ายร้องเป็นลำนำ
มีอยู่สองสามคำจำไว้ได้
สุวรรณหงษ์ถูกหอกอย่าบอกใคร
ถูกแล้วกลับไปได้เท่านั้น ฯ ๒ คำ ฯ

     ๏ร่าย แล้วซ้ำสีอิกกระดิกนิ้ว
ทำยักคิ้วแลบลิ้นเล่นขบขัน
เห็นโฉมยงหัวร่ออยู่งองัน
พระทรงธรรม์ทำหนักชักเฉื่อยไป ฯ ๒ คำ ฯ มโหรี




เอาตอนที่กล่าวถึงระเด่นลันไดด้วยครับ ชอบตอน ที่กล่าวว่า อยู่ปราสาทเสาคลอนยอดด้วน แล้วอะำไรว่า เรียนมาไม่ถึงสิบปีเลย ลืมหมดแล้ว  :slime_whistle:



รอแป๊ะนึงนะคะ ......อิ อิ :slime_v:


หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 02-01-2008, 23:11
ดอกฟ้าฯว่า....น่าจะเป็นบทนี้มากกว่ามังคะ....คุณgrave accent :slime_doubt:


  ๏ร่าย มาเอยมาถึง
เมืองหนึ่งสร้างใหม่ดูใหญ่กว้าง
ปราสาทเสาเล้าหมูอยู่กลาง
มีคอกโคอยู่ข้างกำแพงวัง
พระเยื้องย่างเข้าทางทวารา
หมู่หมาแห่ห้อมล้อมหน้าหลัง
แกว่งตระบองป้องปัดอยู่เก้กัง
พระทรงศักด์หยักรั้งคอยราญรอน ฯ ๔ คำ ฯ เชิด





หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 02-01-2008, 23:37
*  วรรณคดีไทย ...  มีเรื่องราวน่าสนใจ +  ข้อคิด  มากมาย

    เรื่องราวหลาย ๆ อย่างเปรียบเปรยมาจาก ....

    บางแง่มุมของคนแต่ละยุค  ....  และ  แต่ละสังคม
    มาตามอ่านเรื่องของ  .....  นางประแดะ  ค่ะพี่    :slime_agreed:



หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 03-01-2008, 23:14
*  วรรณคดีไทย ...  มีเรื่องราวน่าสนใจ +  ข้อคิด  มากมาย

    เรื่องราวหลาย ๆ อย่างเปรียบเปรยมาจาก ....

    บางแง่มุมของคนแต่ละยุค  ....  และ  แต่ละสังคม
    มาตามอ่านเรื่องของ  .....  นางประแดะ  ค่ะพี่    :slime_agreed:




น้องเอ้ขา....ทำไมบังเอิญมาชอบเรื่องเดียวแบบนี้กันเปี๊ยบเลย

งั้นมาต่อดีกว่าค่ะ..... :slime_bigsmile:



๏ เมื่อนั้น
นางประแดะตานีศรีใส
สดับเสียงสีซอพอฤทัย
ให้วาบวับจับใจผูกพัน

ยิ่งคิดพิศวงพระทรงศักดิ์
ลืมรักท้าวประดู่ผู้ผัวขวัญ
ทำไฉนจะได้พระทรงธรรม์
มาเคียงพักตร์สักวันด้วยรักแรง

คิดพลางทางเข้าไปในห้อง
แล้วตักเอาข้าวกล้องมาสองแล่ง
ค่อยประจงลงใส่กระบะแดง
กับปลาสลิดแห้งห้าหกตัว

แล้วลงจากบันไดมิได้ช้า
เข้ามานอบนบจบเหนือหัว
เอาปลาใส่ย่ามด้วยความกลัว
แล้วยอบตัวลงบังคมก้มพักตรา ฯ ๘


หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: สมปอง ที่ 04-01-2008, 00:10
:slime_smile2: แหม อารมณ์ สุนทรีย์ จริงๆ ท่านผู้แต่ง :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: เล่าปี๋ ที่ 05-01-2008, 21:57

      :slime_agreed:  ยอดเยี่ยมครับคุณดอกฟ้าฯ

 เรื่องละเด่นลันได  โดยท่าน พระมหามนตรี  ผมก็ชอบอ่านครับ

 ท่านผู้แต่งคงจะมองโลกใน แง่ที่ดีงาม  จึงได้แต่งเรื่อง ขำๆมาให้

 พวกเราท่านได้อ่าน  ประเทืองอารมณ์ในเรื่องตลกๆ  และขอขอบคุณคุณดอกฟ้า  จขกท.ด้วยครับ
:slime_smile2: :slime_agreed: :slime_v:


หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 05-01-2008, 22:32

นางประแดะชอบฟังเสียงซอ เหมือนใครเอ่ย


หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 07-01-2008, 02:01
มีคนชอบเยอะมากเลย

เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อนะคะ.....รับรองมีแต่เรื่องสนุกๆแน่ค่ะ



ดอกฟ้าฯ ขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาติดตามนะคะ
:slime_inlove:


หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: เล่าปี๋ ที่ 07-01-2008, 06:42



 แจ๋วเลยครับคุณ ดอกฟ้าฯ ผมจะเฝ้ารออ่านต่อนะครับ :slime_agreed:


หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 09-01-2008, 22:12
     ๏ เมื่อนั้น
ลันไดให้แสนเสนหา
อะรามรักยักคิ้วหลิ่วตา
พูดจาลดเลี้ยวเกี้ยวพาน ฯ ๒ คำ ฯ


     ๏โอ้โลม งามเอยงามปลอด
ชีวติพี่นี้รอดด้วยข้าวสาร
เป็นกุศลดลใจเจ้าให้ทาน
เยาวมาลย์แม่มีพระคุณนัก
พี่ขอถามนามท้าวเจ้ากรุงไกร
ชื่อเรียงเสียงไรไม่รู้จัก
เจ้าเป็นพระมเหสีที่รัก
ฤๅนงลักษณ์เป็นราชธิดา
รูปร่างอย่างว่ากะลาสี
พี่ให้มีใจรักเจ้าหนักหนา
ว่าพลางเข้าใกล้กัลยา
พระราชาฉวยฉุดยุดมือไว้ ฯ ๖ คำ ฯ


     ๏ร่าย ทรงเอยทรงกระสอบ
ทำเล่นเห็นชอบฤๅไฉน
ไม่รู้จักมักจี่นี่อะไร
มาเลี้ยวไล่ฉวยฉุดยุดข้อมือ
ยิ่งว่าก็ไม่วางทำอย่างนี้
พระจะมีเงินช่วยข้าด้วยฤๅ
อวดว่ากล้าแข็งเข้าแย่งยื้อ
ลวนลามถามชื่อน้องทำไม
น้องมิใช่ตัวเปล่าเล่าเปลือย
หยาบเหมือนขี้เลื่อยเมื่อหัวไหล่
ลูกเขาเมียเขาไม่เข้าใจ
บาปกรรมอย่างไรก็ไม่รู้ ฯ ๖ คำ ฯ


หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 09-01-2008, 22:25
     ๏ชาตรี ดวงเอยดวงไต้
สบถได้เจ็ดวัดทัดสองหู
ความจริงพี่มิเล่นเป็นเช่นชู้
จะร่วมเรียงเคียงคู่กันโดยดี
ถึงมิใช่ตัวเปล่าเจ้ามีผัว
พี่ไม่กลัวบาปดอกนะโฉมศรี
อันนรกตกใจไปใยมี
ยมพระบาลกับพี่เป็นเกลอกัน
เพียงจับมือถือแขนอย่าแค้นเคือง
จะให้น้องสองเฟื้องอย่าหุนหัน
แล้วแก้เงินในไถ้ออกให้พลัน
นี่แลขันหมากหมั้นกัลยา
พอดึกดึกสักหน่อยนะน้องแก้ว
พี่จะลอดล่องแมวขึ้นไปหา
โฉมเฉลาเจ้าจงได้เมตตา
เปิดประตูไว้ท่าอย่าหลับนอน ฯ ๘ คำ ฯ


     ๏ร่าย ทรงเอยทรงกระโถน
อย่ามาพักปลอบโยนให้โอนอ่อน
ไม่อยากได้เงินทองของภูธร
นางเคืองค้อนคืนให้ไม่อินัง
ช่างอวดอ้างว่านรกไม่ตกใจ
คนอะไรอย่างนี้ก็มีมั่ง
เชิญเสด็จรีบออกไปนอกวัง
อย่ามานั่งวิงวอนทำค่อนแคะ
เพียงแต่รู้จักกันกระนั้นพลาง
พอเป็นทางไมตรีกระนี้แหละ
เมื่อพระอดข้าวปลาจึงมาแวะ
น้องฤๅชื่อประแดะดวงใจ
ท่านท้าวประดู่ผู้เป็นผัว
ยังไปเลี้ยงวัวหากลับไม่
แม้นชักช้าชีวันจะบรรลัย
เร่งไปเสียเถิดพระราชา ฯ ๘ คำ ฯ


หัวข้อ: Re: ~~~ ** นางประแดะ ...ระเด่นลันได **~~~
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 19-02-2008, 22:36
     ๏ เมื่อนั้น
ลันไดยิ้มเยาะหัวเราะร่า
เราไม่เกรงกลัวอิทธิ์ฤทธา
ท้าวประดู่จะมาทำไมใคร
พี่ก็ทรงศักดากล้าหาญ
แต่ข้าวสารเต็มกระบุงยังแบกไหว
ปลาแห้งพี่เอาเข้าเผาไฟ
ประเดี๋ยวใจเคี้ยวเล่นออกเป็นจุณ ฯ ๔ คำ ฯ

     ๏ เมื่อนั้น
นางประแดะเห็นความจะวามวุ่น
จึงนบนอบยอบตัวทำกลัวบุญ
ไม่รู้เลยพ่อคุณนี้มีฤทธิ์
กระนั้นซิเมื่อพระเสด็จมา
หมูหมาย่นย่อไม่รอติด
ขอพระองค์จงฟังยั้งหยุดคิด
อย่าให้มีความผิดติดตัวน้อง
ท้าวประดู่ภูธรเธอขี้หึง
ถ้ารู้ถึงท้าวเธอจะทุบถอง
จงไปเสียก่อนเถิดพ่อรูปทอง
อย่าให้น้องชั่วช้าเป็นราคี
ว่าพลางทางสลัดปัดกร
ควักค้อนยักหน้าตาหยิบหยี
นาดกรอ่อนคอจรลี
เดินหนีมิให้มาใกล้กราย ฯ ๘ คำ ฯ

     ๏ เมื่อนั้น
ลันไดไม่สมอารมณ์หมาย
เห็นนางหน่ายหนีลี้กาย
โฉมฉายสลัดพลัดมือไป
มันให้ขัดสนยืนบ่นออด
เจ้ามาทอดทิ้งพี่หนีไปได้
ก็ยกย่ามขึ้นไหล่ไปทั้งรัก ฯ ๔ คำ ฯ เชิด



http://th.wikisource.org