ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: ผู้ทำลาย ที่ 16-05-2006, 12:21



หัวข้อ: ตุลาการศาลปค.แถลงคดีชี้กกต.หันคูหามิชอบ-นัดสั่งคดี15.00 น.
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ทำลาย ที่ 16-05-2006, 12:21
 ตุลาการศาลปกครองกลาง แถลงย้ำอำนาจศาลปกครองสั่งคดีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษาฯ ชี้การจัดคูหาเลือกตั้งออกนอกและการติดประกาศรายชื่อผู้สมัครไว้ที่ผนังในคูหาทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นความลับ ไม่เป็นกลาง มิชอบด้วยกฎหมาย เป็นการทำลายสิทธิขั้นพื้นฐานอันเป็นหัวใจของระบอบประชาธิปไตย และข้อโต้แย้ง กกต.ฟังไม่ขึ้น นัดสั่งคดี 15.00 น.
       
       วันนี้ (16 พ.ค.) เวลา 10.30 น. ตุลาการศาลปกครองกลาง ผู้แถลงคดีได้แถลงคดีที่ นายโพธิพงษ์ บรรลือวงศ์ และพวกอีก 11 คน ฟ้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการจัดคูหาเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 ไม่เป็นไปโดยตรงและลับ โดยการหันหลังให้ฉากกั้นและ กกต.ได้ติดประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งไว้ที่ผนังในคูหาเลือกตั้งทำให้ไม่เป็นกลาง เป็นการจงใจให้ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง เป็นการสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบกับผู้สมัคร ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย
       
       โดยประเด็นสำคัญที่ตุลาการผู้แถลงคดีมี 3 ประเด็น คือ 1.อำนาจศาลปกครอง 2.เงื่อนไขการฟ้องคดี และ 3.เนื้อหาคดี
       
       สำหรับประเด็นที่ 1 ศาลมีอำนาจในการพิจารณาคดี และผู้ร้องมีสิทธิในการเป็นผู้เสียหาย มีสิทธิในการฟ้องร้องคดี และ 3.เนื้อหาคดีในการจัดคูหาแบบใหม่ ซึ่งทำให้เกิดการคาดหมายได้ตามที่ผู้ฟ้องฟ้องว่าการใช้สิทธิไม่เป็นความลับ ใช้เทคโนโลยีดูว่าใช้สิทธิหมายเลขใด ซึ่ง กกต.ก็อ้างว่าในการจัดคูหาแบบใหม่เพื่อให้เจ้าหน้าที่สอดส่องการทุจริตให้ดีขึ้น แต่เห็นว่าฟังไม่ขึ้นเพราะ กกต.สามารถใช้มาตรการอื่นได้ และการใช้สิทธิของประชาชนต้องเป็นความลับ แม้แต่เจ้าหน้าที่ของ กกต.ด้วย ซึ่งการเลือกตั้งก่อให้เกิดผลทางกฎหมาย คือ ตามมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญ การปกครองต้องเป็นไปอย่างประชาธิปไตย สิทธิขั้นพื้นฐานทางการเมืองที่เป็นหัวใจสำคัญที่เป็นระบอบประชาธิปไตยคือการใช้สิทธิโดยลับ เพื่อให้การใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเป็นไปอย่างเสรี เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ส่วนรวมและปลอดจากการข่มขู่ให้เป็นไตามเจตนารมณ์
       
       ดังนั้น ศาลพิเคราะห์เห็นว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน ไม่เป็นความลับเป็นการทำลายสิทธิขั้นพื้นฐานทางการเมืองตามมาตรา 104 (3) การเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายนจึงย่อมเสียไป
       
       ทั้งนี้ รายงานว่าองค์คณะตุลาการศาลปกครองจะอ่านคำสั่งคดีนี้ในเวลา 15 .00 น.


http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000063887