ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: ปรมาจารย์เจได ที่ 18-12-2007, 13:52



หัวข้อ: ยิ่งใกล้เลือกตั้ง ยิ่งมีแต่คนสรรเสริญพี่หมัก
เริ่มหัวข้อโดย: ปรมาจารย์เจได ที่ 18-12-2007, 13:52
เป็นเมลฟอร์เวิร์ดอีกตามเคย
แนบท้ายด้วยคลิปร่วมเมถุน
แต่ไฟล์ใหญ่ ขี้เกียจอัพ

ดีเหมือนกัน ที่มีคนทำออกมา
ผมจะได้ส่งต่อสะดวกๆหน่อย

Subject: นี่เหรอคนที่จะมาเป็นนายก???
Date: Mon, 17 Dec 2007 00:16:38 +0700


ข่าวการจัดซื้อรถดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร (กทม.) น่าจะเป็นประเด็นที่ใครหลายคนให้ความสนใจอยุ่ในขณะนี้ โดยเนื้อหาของข่าวนั้นเกี่ยวข้องกับการคอรัปชั่นของนายสมัคร   สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนในช่วงที่นายสมัคร  สุนทรเวชเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร 

การจัดซื้อรถดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวน 315 คัน และเรือดับเพลิงอีก 30 ลำ ด้วยวิธีพิเศษจากบริษัทสไตเออร์ ประเทศออสเตรียรวมเป็นเงิน 6,700 ล้านบาท กลายเป็นประเด็นฉาวขึ้นมาเมื่อรถดับเพลิงล็อตแรก 176 คัน ส่งมาถึงท่าเรือแหลมฉบังแล้ว แต่ตรวจพบจำนวน 72 คัน เป็นรถยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราดา ผลิตในไทย  ซึ่งการจัดซื้อรถดับเพลิงดังกล่าวมีราคาแพงกว่ารถของสเปนที่มีมาตราฐานของสหภาพยุโรบถึง 2 พันล้านบาท และผู้เซ็นลงนามจัดซื้อคือนายสมัคร สุนทรเวช ระหว่างรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.เป็นวันสุดท้าย เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547  ทั้งๆที่รถดับเพลิงของเดิมก็มีอยู่แล้ว  รวมถึงก่อนหน้านี้เพียงเล็กน้อยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยเพิ่งจัดซื้อรถดับเพลิงไปแจกจ่ายให้กับองค์กรปกครองท้องถิ่น 3,000 กว่าล้านบาท  ทั้งนี้การอนุมัติโครงการดังกล่าวก็ไม่ถูกต้องตามหลักปฏิบัติ กล่าวคือ  นายสมัคร สุนทรเวช ได้หมดวาระการเป็นผู้ว่าฯ กทม.ไปแล้ว และอยู่เพียงเพื่อรักษาการ   ซึ่งการอนุมัติหรือเซ็นสัญญาผูกพันนั้น  ควรเป็นภาระของผู้บริหารคนใหม่ แต่สำหรับการจัดซื้อรถดับเพลิงครั้งนี้ นายสมัคร รีบเซ็นสัญญาก่อนวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เพียง 2 วัน เท่านั้นไม่พอยังเซ็นหนังสือมอบอำนาจให้ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ์ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.ในขณะนั้นไปเป็นผู้เปิด Letter of credit (แอลซี) กับธนาคารกรุงไทย  ซึ่งคล้ายกับต้องการให้กระบวนการจัดซื้อเสร็จสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์

 

ขณะเดียวกันผลการวิจัยที่นายสมัครอ้างเพื่อของบประมาณกับรัฐบาล 6,687 ล้านบาทนั้น ได้ยกมาอ้างเพียง 1 บรรทัด

โดยระบุว่าเป็นผลวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปี 2526 แต่กลับไม่มีรายละเอียดหัวข้อการวิจัยและใครเป็นผู้วิจัย เมื่อพิจารณาให้ละเอียดยังพบอีกว่า ผลวิจัยได้พ้นสมัยไปนานแล้วหากเปรียบเทียบกับปี 2547 ซึ่ง ชุมชนมีการขยายตัวเปลี่ยนรูปร่างไป

มาก ฉะนั้นการนำผลวิจัยเมื่อ 21 ปีก่อนมาอ้างในการซื้อรถดับเพลิงจึงไม่สมเหตุสมผลและจากการตรวจสอบกับบรรณารักษ์ของหอสมุดกลางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้รับคำยืนยันว่าไม่พบผลวิจัยในปี 2526 ที่เกี่ยวข้องกับรถดับเพลิง

                ทั้งหมดที่กล่าวมานี้  แม้จะเป็นการคอรัปชั่นในองค์กรปกครองท้องถิ่นก็ตาม  แต่ถ้าปล่อยให้คนอย่างนี้ได้เข้ามาบริหารในระดับประเทศแล้ว    ประเทศชาติจะเสียหายอีกเท่าไรไม่รู้  ขณะเดียวกันเงินงบประมาณของรัฐที่รัฐเรียกเก็บจากการทำงานอันเหนื่อยยากของประชาชนจะต้องถูกนำมาปรนเปรอให้กับนักการเมืองอย่างนี้อีกทำไม



หัวข้อ: Re: ยิ่งใกล้เลือกตั้ง ยิ่งมีแต่คนสรรเสริญพี่หมัก
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 18-12-2007, 14:36
เป็นเมลฟอร์เวิร์ดอีกตามเคย
แนบท้ายด้วยคลิปร่วมเมถุน
แต่ไฟล์ใหญ่ ขี้เกียจอัพ

ดีเหมือนกัน ที่มีคนทำออกมา
ผมจะได้ส่งต่อสะดวกๆหน่อย

Subject: นี่เหรอคนที่จะมาเป็นนายก???
Date: Mon, 17 Dec 2007 00:16:38 +0700


ข่าวการจัดซื้อรถดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร (กทม.) น่าจะเป็นประเด็นที่ใครหลายคนให้ความสนใจอยุ่ในขณะนี้ โดยเนื้อหาของข่าวนั้นเกี่ยวข้องกับการคอรัปชั่นของนายสมัคร   สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนในช่วงที่นายสมัคร  สุนทรเวชเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร 

การจัดซื้อรถดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวน 315 คัน และเรือดับเพลิงอีก 30 ลำ ด้วยวิธีพิเศษจากบริษัทสไตเออร์ ประเทศออสเตรียรวมเป็นเงิน 6,700 ล้านบาท กลายเป็นประเด็นฉาวขึ้นมาเมื่อรถดับเพลิงล็อตแรก 176 คัน ส่งมาถึงท่าเรือแหลมฉบังแล้ว แต่ตรวจพบจำนวน 72 คัน เป็นรถยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราดา ผลิตในไทย  ซึ่งการจัดซื้อรถดับเพลิงดังกล่าวมีราคาแพงกว่ารถของสเปนที่มีมาตราฐานของสหภาพยุโรบถึง 2 พันล้านบาท และผู้เซ็นลงนามจัดซื้อคือนายสมัคร สุนทรเวช ระหว่างรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.เป็นวันสุดท้าย เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547  ทั้งๆที่รถดับเพลิงของเดิมก็มีอยู่แล้ว  รวมถึงก่อนหน้านี้เพียงเล็กน้อยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยเพิ่งจัดซื้อรถดับเพลิงไปแจกจ่ายให้กับองค์กรปกครองท้องถิ่น 3,000 กว่าล้านบาท  ทั้งนี้การอนุมัติโครงการดังกล่าวก็ไม่ถูกต้องตามหลักปฏิบัติ กล่าวคือ  นายสมัคร สุนทรเวช ได้หมดวาระการเป็นผู้ว่าฯ กทม.ไปแล้ว และอยู่เพียงเพื่อรักษาการ   ซึ่งการอนุมัติหรือเซ็นสัญญาผูกพันนั้น  ควรเป็นภาระของผู้บริหารคนใหม่ แต่สำหรับการจัดซื้อรถดับเพลิงครั้งนี้ นายสมัคร รีบเซ็นสัญญาก่อนวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เพียง 2 วัน เท่านั้นไม่พอยังเซ็นหนังสือมอบอำนาจให้ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ์ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.ในขณะนั้นไปเป็นผู้เปิด Letter of credit (แอลซี) กับธนาคารกรุงไทย  ซึ่งคล้ายกับต้องการให้กระบวนการจัดซื้อเสร็จสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์

 

ขณะเดียวกันผลการวิจัยที่นายสมัครอ้างเพื่อของบประมาณกับรัฐบาล 6,687 ล้านบาทนั้น ได้ยกมาอ้างเพียง 1 บรรทัด

โดยระบุว่าเป็นผลวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปี 2526 แต่กลับไม่มีรายละเอียดหัวข้อการวิจัยและใครเป็นผู้วิจัย เมื่อพิจารณาให้ละเอียดยังพบอีกว่า ผลวิจัยได้พ้นสมัยไปนานแล้วหากเปรียบเทียบกับปี 2547 ซึ่ง ชุมชนมีการขยายตัวเปลี่ยนรูปร่างไป

มาก ฉะนั้นการนำผลวิจัยเมื่อ 21 ปีก่อนมาอ้างในการซื้อรถดับเพลิงจึงไม่สมเหตุสมผลและจากการตรวจสอบกับบรรณารักษ์ของหอสมุดกลางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้รับคำยืนยันว่าไม่พบผลวิจัยในปี 2526 ที่เกี่ยวข้องกับรถดับเพลิง

                ทั้งหมดที่กล่าวมานี้  แม้จะเป็นการคอรัปชั่นในองค์กรปกครองท้องถิ่นก็ตาม  แต่ถ้าปล่อยให้คนอย่างนี้ได้เข้ามาบริหารในระดับประเทศแล้ว    ประเทศชาติจะเสียหายอีกเท่าไรไม่รู้  ขณะเดียวกันเงินงบประมาณของรัฐที่รัฐเรียกเก็บจากการทำงานอันเหนื่อยยากของประชาชนจะต้องถูกนำมาปรนเปรอให้กับนักการเมืองอย่างนี้อีกทำไม



ยังไม่ได้อ่ะ  :slime_shy:


หัวข้อ: Re: ยิ่งใกล้เลือกตั้ง ยิ่งมีแต่คนสรรเสริญพี่หมัก
เริ่มหัวข้อโดย: varada ที่ 18-12-2007, 17:13
ยังไม่ได้ แต่ขอก๊อปอันนี้ไปfw-mailต่อนะคะ ไฟลแนบไม่ได้ไม่เป็นไร
เอาเนื้อความก็เหลือกินแล้ว


หัวข้อ: Re: ยิ่งใกล้เลือกตั้ง ยิ่งมีแต่คนสรรเสริญพี่หมัก
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 18-12-2007, 17:24
สมัครชอบอ้างว่าคนเปิด LC คือนายอภิรักษ์ ตัวเองจึงไม่เกี่ยว

ทั้งที่ความจริง ถ้าอภิรักษ์ไ่ม่สั่งระงับโครงการเพื่อตรวจสอบ
ป่านนี้คนเปิด LC ก็คือสมัครใช่หรือไ่ม่
แต่อภิรักษ์ก็จะโดนข้อหาไม่ตรวจสอบโครงการอีก.. ทั้งขึ้นทั้งล่อง  :slime_hmm:

สัญญาที่ใช้ก็เขียนขึ้นในสมัยของนายสมัครทั้งนั้น ถึงจะมา
เปิด LC ในสมัยอภิรักษ์ มันก็ยังถือตามสัญญาที่ทำในสมัย
ของนายสมัครทุกประการ

นายสมัครอ้างว่าถ้าไม่รวมภาษีแล้วราคาก็เป็นราคาปกติ
แต่ไม่ตอบว่าทำไมถึงทำสัญญาให้ไทยเป็นคนจ่ายภาษี
เก่งจริงๆ ที่โมเมได้ว่าตัวเองไม่ผิด แต่อภิรักษ์เป็นคนผิด  :slime_smile: