ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: อธิฏฐาน ที่ 14-12-2007, 18:42



หัวข้อ: ประวัติของผู้สมัคร สส. ของพรรคพลังประชาชนที่ จ.นราธิวาส
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 14-12-2007, 18:42

รายชื่อผู้สมัคร สส.แบบเบ่งเขตที่จังหวัดนราธิวาส

พรรคพลังประชาชน
หมายเลข 9 นายนัจมุดดีน อูมา  อ่านประวัติแล้วน่ากลัวมาก สส.พรรคนี้มีทั้งโจร มีทั้งปลอมวุฒิการศึกษา



http://www.lawyerthai.com/news/view.php?topic=178


หัวข้อ: Re: ประวัติของผู้สมัคร สส. ของพรรคพลังประชาชนที่ จ.นราธิวาส
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย) ที่ 14-12-2007, 20:09
แหมคุณก็ ประเทศจะได้เจริญทัดเทียมเพื่อนบ้านข้างๆไง  :slime_fighto:

ห่า เหว เลว สัตว์ โกงชาติ ขายชาติ ปล้นชาติ :slime_cool:

โง่ แต่ขยันทำงานนะ :slime_dizzy:

ไม่ชอบเหรอ :slime_smile2:

เคารพเสียง ส่วนใหญ่ดิน้อง  :slime_mad:

ประชาธิปไตย อย่าลืม :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ประวัติของผู้สมัคร สส. ของพรรคพลังประชาชนที่ จ.นราธิวาส
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 14-12-2007, 21:48
คดีนี้ศาลอาญายกฟ้องไปตั้งแต่ปลายปี 48 นะครับ และผมหาไม่เจอว่ามีการอุทธรณ์ต่อหรือเปล่า
ท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมไหมครับ?

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ยกฟ้อง นัจมุดดีน คดีกบฏแยกดินแดน
หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 16 ธ.ค. 2548
http://www.police4.go.th/info_a/showpage.php?info_id=00338

(http://www.police4.go.th/info_a/file/306a.jpg)

ยกฟ้อง - นายนัจมุดดีน อูมา อดีตส.ส.นราธิวาส พรรคไทยรักไทย ยิ้มร่าหลังลูกกรง ภายหลังศาลอาญามีคำพิพากษา
ยกฟ้องคดีเป็นกบฏแบ่งแยกดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกับนายอาริฟ โซะโก ที่ตกเป็นจำเลยด้วยกัน เมื่อวันที่
15 ธ.ค. ศาลพิพากษายกฟ้อง นัจมุดดีน อูมา ข้อหากบฏแบ่งแยกดินแดน ระบุพยานโจทก์มีน้ำหนักไม่เพียงพอ ขาดพยาน
หลักฐานและผลทางนิติวิทยาศาสตร์ สั่งยกฟ้องพร้อมจำเลยอีกคนในคดีเดียวกัน ก่อนญาติจะใช้หลักทรัพย์ประกันตัวไป
ส่วนที่ปัตตานี ตร.-ทหาร บุกค้นคลังอาวุธผู้ก่อความไม่สงบแหล่งใหญ่ที่สายบุรี ได้ทั้งปืน กระสุน และดินระเบิดเพียบ
พร้อมจับครูสอนศาสนา 1 คน สส.ปชป.ตั้งกระทู้ในสภาจวกการจัดฉากเข้ามอบตัวของมหาดไทย

อ่านคำพิพากษาคดีกบฏ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. ที่ห้องพิจารณาคดี 704 ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาคดีกบฏแบ่งแยกดินแดน
5 จังหวัดภาคใต้ ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายนัจมุดดีน อูมา อายุ 44 ปี อดีตส.ส.นราธิวาส
พรรคไทยรักไทย และนายฮาริฟ โซะโก อายุ 35 ปี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในความผิดฐานเป็นกบฏแบ่งแยกดินแดน
สะสมกำลังพลและอาวุธ ร่วมกันเป็นอั้งยี่สมคบกันเป็นซ่องโจรปล้นทรัพย์ โดยใช้อาวุธ ร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงานโดยไต่ตรอง
ไว้ก่อน หน่วงเหนี่ยวกักขัง และความผิดอื่นรวม 12 ข้อหา

ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 15 ก.ค.47 สรุปว่า ระหว่างปี 2540 ถึง 4 ม.ค.2547 จำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องเข้าร่วมกัน
เป็นสมาชิกขบวนการก่อการร้ายเบอร์ซาตู มีจุดหมายแบ่งแยกดินแดน จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และอ.สะเดา อ.สะบ้าย้อย
จ.สงขลา เพื่อตั้งตัวเป็นรัฐอิสระเรียกว่า รัฐปัตตานี หรือรัฐปัตตานีดารุลสลาม โดยมีจำเลยที่ 1 เป็นหัวหน้า ใช้และสมคบกัน
วางแผนปล้นอาวุธปืนจากกองพันพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส วางเพลิงเผาโรงเรียนและสถานที่ราชการต่างๆ และ
ฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ โจทก์ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้คืนทรัพย์สินค่าอาวุธปืนจำนวน 24 รายการ ที่ถูก
ปล้นไปจำนวน 7,398,124.28 บาท แก่กองทัพบกด้วย โดยชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธตลอด
ข้อกล่าวหา โดยจำเลยที่ 1 ยืนยันว่าไม่เคยจัดประชุมเพื่อวางแผนก่อเหตุแบ่งแยกดินแดน ขณะเกิดเหตุกำลังประชุมพรรค
ไทยรักไทย ส่วนจำเลยที่ 2 ปฏิเสธว่า ขณะเกิดเหตุอยู่ที่ประเทศมาเลเซียเพื่อนำเสื้อผ้ามาขาย และไม่เคยเป็นสมาชิก
เบอร์ซาตูแต่อย่างใด

ศาลสั่งยกฟ้อง นัจมุดดิน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า คดีนี้โจทก์มีประจักษ์พยาน 6 ปากมานำสืบ นำโดยนายอนุพงศ์ พันธชยางกูร
อดีตกำนัน ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส แต่ในการคำเบิกพยานได้กลับคำให้การ ต่างยอมรับว่าที่ยอมลงลายมือชื่อ
รับสารภาพในชั้นสอบสวนเพราะถูกเจ้าหน้าที่บังคับ คำให้การของพยานโจทก์ยังมีข้อพิรุธน่าเคลือบแคลงสงสัย ขณะเดียวกัน
ในชั้นนำสืบโจทก์ไม่มีพยานวัตถุ พยานเอกสาร รอยนิ้วมือแฝง คราบเลือด และผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่จะแสดงว่า
จำเลยทั้งสองได้ร่วมกระทำผิด เมื่อพยานหลักฐานโจทก์ไม่มีนํ้าหนักรับฟังได้อย่างเพียงพอ จึงพิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขัง
จำเลยทั้งสองไว้ระหว่างอุทธรณ์และให้โจทก์คืนอาวุธปืนเอ็ม-16 จำนวน 4 กระบอกให้กับผู้เสียหายที่ 1 คือกองทัพบก

ภายหลังมีคำพิพากษา นายเบาะซูเอ็ง หะยีเจ๊ะโซ๊ะ ญาตินายนัจมุดดีน ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็น น.ส.3ก.และ
โฉนดที่ดิน จ.นราธิวาส ราคาประเมิน 3 ล้านบาทเศษ ประกันตัวนายนัจมุดดีน ส่วนนายอาริฟญาติไม่มีหลักทรัพย์มา
ยื่นประกัน จึงต้องนำตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำ สำหรับบรรยากาศการฟังคำพิพากษาในวันนี้ มีนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์
และนายมุข สุไลมาน ส.ส.กลุ่มวาดะห์ พรรคไทยรักไทย เดินทางมาพร้อมญาติ ครอบครัว และเพื่อนของจำเลยทั้งสอง
มาให้กำลังใจเกือบ 50 คน

นายนัจมุดดีนกล่าวว่า เมื่อศาลยกฟ้องแล้วทำให้มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม ยังไม่คิดที่จะฟ้องคดีกลับใครทั้งสิ้น
เพราะไม่มีจิตใจอาฆาตแค้น ถ้าอัยการยื่นอุทธรณ์ก็พร้อมที่จะสู้คดีต่อไป จากนี้ก็พร้อมจะกลับไปลงสมัครแข่งขันผู้แทนราษฎร
อีกครั้ง เมื่อถามว่าเคยรู้จักกับนายอาริฟ จำเลยที่ 2 หรือไม่ นายนัจมุดดีนกล่าวว่า ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ได้พูดคุย
สอบถาม และเชื่อว่านายอาริฟไม่ได้มีส่วนกับเหตุการณ์เช่นกัน

โกวิท ยันไม่กลั่นแกล้งใคร
พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องนายนัจมุดดีน ว่าอัยการคงจะยื่นอุทธรณ์ ตำรวจพยายาม
เต็มที่แล้ว แต่กระบวนการพิจารณาใช้เวลาปีเศษกว่าจะเข้าศาล พยานหลักฐานจึงมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อม
หากมีพิจารณาเร็วกว่านี้ก็จะดีเพราะคดีความมั่นคง การพิจารณาคดีด้วยความรวดเร็วก็จะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย

เหตุเกิดตั้งแต่ม.ค.47 ตำรวจใช้เวลาไม่กี่เดือนก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดีได้ แต่กว่าจะขึ้นศาลกว่าจะพิจารณา
ใช้เวลานานปีเศษ การทำคดีตำรวจใช้กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ และอื่นๆ แต่เราต้องเคารพศาล ผบ.ตร.กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้ตำรวจได้นำตัวนายอนุพงศ์ พันธชยางกูร หรือกำนันโต๊ะเด็ง มาแถลงข่าวด้วย เกรงว่าจะมีการฟ้องกลับ
หรือไม่ พล.ต.อ.โกวิทกล่าวว่า ช่วงนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายอนุพงศ์ด้วยตัวเอง โดยเขาสารภาพต่อหน้าผวจ. และ
สื่อมวลชนได้ซักถามนายอนุพงศ์ ตนนั่งอยู่ด้วยระหว่างนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีใครแกล้งใคร


หัวข้อ: Re: ประวัติของผู้สมัคร สส. ของพรรคพลังประชาชนที่ จ.นราธิวาส
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 14-12-2007, 22:21

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=387083)



เพราะทางการหลงเชื่อนายคนนี้ ทำให้ 2 นาวิกโยธิน ที่ชาวบ้านมุสลิมจับเป็นตัวประกัน ในเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในบ้านตันหยงลิมอร์ วันที่ 21 กันยายน 2548  ต้องเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ ตอนนั้นที่ราชดำเนินก็รุมด่านายคนนี้ แต่ตอนนี้พวกเขาคงลืมหมดแล้ว


http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9480000129504


หัวข้อ: Re: ประวัติของผู้สมัคร สส. ของพรรคพลังประชาชนที่ จ.นราธิวาส
เริ่มหัวข้อโดย: paper punch ที่ 14-12-2007, 23:04
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=387083)



เพราะทางการหลงเชื่อนายคนนี้ ทำให้ 2 นาวิกโยธิน ที่ชาวบ้านมุสลิมจับเป็นตัวประกัน ในเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในบ้านตันหยงลิมอร์ วันที่ 21 กันยายน 2548  ต้องเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ ตอนนั้นที่ราชดำเนินก็รุมด่านายคนนี้ แต่ตอนนี้พวกเขาคงลืมหมดแล้ว


http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9480000129504
ผมเคยได้เห็นรูปผู้กล้าทั้ง 2 ท่านที่เสียชีวิต ซึ่งเป็นรูปที่ไม่มีการเผยแพร่ตามสื่อสาธารณะทั่วไป จำได้ว่าตอนนั้นน้ำตาไหลไม่รู้ตัวครับ
มีความรู้สึกโกรธแค้นมากในตอนนั้น คิดเสมอว่าทำไมชาวบ้านถึงโง่นัก ทำได้แม้กระทั้งเพื่อนร่วมชาติ
ขออนุญาตินำกลอนที่ผมแต่งไว้ในกระทู้ "สัญญา" ของคุณอธิฏฐานมาลงที่นี่อีกครั้ง เพื่อเป็นการสดุดีวีรกรรมของนักรบไทยครับ

สัญญาห่าง  ร้างไกล  ในวันก่อน
เพราะต้องจร จากไป ในหน้าที่
เพื่อปกป้อง  คุ้มครอง ผองทวี
ชีวิตนี้  พลีร่างกาย  ให้แผ่นดิน...


หัวข้อ: Re: ประวัติของผู้สมัคร สส. ของพรรคพลังประชาชนที่ จ.นราธิวาส
เริ่มหัวข้อโดย: ไบรก้อนเขียว ที่ 15-12-2007, 01:03
ทดสอบ


หัวข้อ: Re: ประวัติของผู้สมัคร สส. ของพรรคพลังประชาชนที่ จ.นราธิวาส
เริ่มหัวข้อโดย: soco ที่ 15-12-2007, 14:01
พิพากษายกฟ้องโจทก์ แต่ให้ขังจำเลยทั้งสองไว้ระหว่างอุทธณ์./


ต้องมีการประกันตัวขอปล่อยตัวชั่วคราวไงครับ


หัวข้อ: Re: ประวัติของผู้สมัคร สส. ของพรรคพลังประชาชนที่ จ.นราธิวาส
เริ่มหัวข้อโดย: Anthony ที่ 15-12-2007, 14:35
ผมว่า กล่าวหาแต่พรรค พปช.กรณีนี้อย่างเดียวก็ไม่เป็นธรรมนะ
พรรค ปชป.เองก็มี นาย ประมวล พงศ์ถาวราเดช ผู้สมัคร สส.ประจวบคีรีขันธ์ เหมือนกัน
www.deedeejang.com/tell/news/00708.html

เซ็นอนุมัติตัดถนน 'ศาลชั้นต้น'ตัดสิน ปชป.อีกคน-สั่งยก

“ประมวล พงศ์ถาวราเดช”ส.ส.เขต 3 พรรค ปชป.เมืองประจวบฯถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 7 ปี โทษฐานรับสินบนค่าก่อสร้างถนน สั่งจ่ายเช็คแล้วเก็บไว้ใช้เอง แถมถูกจู่โจมจับกุมได้พร้อมทั้งของกลางเงินสด 5 แสนบาท ที่ได้ถ่ายสำเนาไว้แล้ว มัดแน่นจนดิ้นไม่หลุด ส่วนพวกที่ตกเป็นจำเลยที่ 2-11 คดีเดียวกัน มีทั้ง ส.ส. เขต 2 พรรคเดียวกันกับนักการเมืองท้องถิ่นรอดตัวไป ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าพยานโจทก์มีน้ำหนักน้อย ขณะที่เจ้าตัวไม่ยอมปริปาก ก่อนยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมูลค่า 4 แสนบาท ประกันตัวออกไปทันที

ที่ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเวลา 10.00. น. วันที่ 11 ก.ค. ผู้พิพากษาได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีอาญาหมายเลขดำที่ 4300/2545 ระหว่างฝ่ายโจทก์อัยการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กับนายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ประจวบคีรีขันธ์ เป็นจำเลยที่ 1 กับพวกรวม 11 ราย

ประกอบด้วย นายทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ นายปราโมศย์ ตั้งซุยยัง ส.จ.อำเภอบางสะพาน นายธีรวัช เต็งประเสร็จ ส.จ.กิ่ง อ.สามร้อยยอด นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ อดีต ส.จ.กิ่ง อ.สามร้อยยอด นายสุชน อินทเสน ส.จ.อำเภอหัวหิน นายสายหยุด น้ำกลั่น อดีต ส.จ.อำเภอหัวหิน นายยุทธนา ผาสุก และนายไชยณรงค์ เชื้อวงศ์สกุล ส.จ. อำเภอปราณบุรี นายชรินทร์ กาญจนรัตน์ ส.จ. อำเภอบางสะพาน และนายบุญเลิศ บุญช่วย รองนายก อบจ. ประจวบคีรีขันธ์ อดีต ส.จ.อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ในข้อหาเรียกรับสินบนจำนวน 500,000 บาท

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนการลงนาม ในสัญญาสร้างถนนและเรียกรับสินบนจำนวน 2,920,000 บาท และเพื่อตอบแทนการลงนามเบิกจ่ายเงินค่าก่อสร้างถนนสายหนองฆ้อง-รพช. ศรีนคร อ.บางสะพาน และถนนสายเพชรเกษม-วัดสามร้อยยอด กิ่ง อ.สามร้อยยอด โดยทุจริต และมีจำเลยที่ 2-11 เป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือในการกระทำความผิด โดยศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1 จำนวน 7 ปี ฐานมีความผิดข้อหารับสินบน เพื่อตอบแทนการลงนามเบิกจ่ายเงินค่าก่อสร้างถนน และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2-11

สำหรับคดีนี้ศาลได้พิเคราะห์พยานหลักฐาน แล้วเห็นว่า ข้อหาเรียกรับสินบนเพื่อตอบแทนในสัญญาจ้างก่อสร้าง โดยเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 45 พยาน โจทก์คือ น.ส.เบญจมาศ พูลลำเนาบุตรลูกสาวนายลำยอง พูลลำเนา อดีตนายก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ และ ส.จ.อำเภอหัวหิน ได้ร้องทุกข์กับเจ้าพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายประมวล พงศ์ถาวราเดช นายก อบจ. (ในขณะนั้น) ใน 2 ข้อหา คือเรียกรับเงิน 500,000 บาท เป็นค่าตอบแทนก่อนการลงนามในสัญญาก่อสร้างถนนจำนวน 2 สัญญา กับห้างหุ้นส่วนจำกัด วิโรจน์ ก่อสร้าง จ.นครปฐม คือ ถนนลูกรังสายหนองฆ้อง-รพช. ศรีนคร และถนนสายเพชรเกษม-วัดสามร้อยยอด

ส่วนอีกข้อหาคือ ร่วมกับพวกเป็นเจ้าพนัก งานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่เกี่ยวกับการจ่ายเงินก่อสร้างถนนทั้ง 2 สาย ซึ่งพนักงานสอบสวนโดยตำรวจกองปราบปราม นำโดย พล.ต.ต. อัศวิน ขวัญเมือง ผบก.ป. (ตำแหน่งขณะนั้น) ได้ วางแผนจับกุมนายประมวล กับพวก พร้อมของกลางเงินสด 500,000 บาท และเช็คเงินสดธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เลขที่ 3782265 ลงวันที่ 29 ก.ย. 45 จำนวน 2,420,000 บาท อีก 1 ฉบับ

โดยทั้งนี้ โจทก์มีหัวหน้าส่วนการคลังของอบจ.ประจวบคีรีขันธ์ เบิกความว่าจำเลยที่ 1 ลงชื่อสั่งจ่ายเช็ค แล้วเก็บเช็คเอาไว้เอง โดยที่ไม่มีหน้าที่จัดเก็บและผิดระเบียบทางราชการ และตำรวจกองปราบปรามได้เข้าจับกุมได้ระยะกระชั้นชิด และจำเลยที่ 1 ถูกจับกุมในขณะอยู่ที่ห้องทำงานของตนเองพร้อมธนบัตร 500,000 บาท ซึ่งถูกถ่ายเอกสารไว้ก่อนแล้ว และโจทก์ยังมีสายลับ ซึ่งปลอมตัวเข้าไปในขณะส่งมอบเงินมาเบิกความสนับสนุน ทำให้เชื่อว่าจำเลยที่ 1 กระทำความผิดจริง ส่วนจำเลยที่ 2-11 พยานโจทก์ ยังมีน้ำหนักน้อยไม่พอฟ้องลงโทษจำเลยที่ 2-11 ได้ จึงพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดข้อหาเรียกรับสินบน เพื่อตอบแทนการลงนามเบิกจ่ายเงินค่าก่อสร้างถนน จำคุก 7 ปี และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 -11

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศาลมีคำพิพากษาในคดีดังกล่าว ซึ่งยืดเยื้อมานานเกือบ 5 ปี ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะการประมูลจัดซื้อจัดจ้างของหน่วย งานราชการในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีการฮั้วประมูลกันมาตลอด และจากกรณีดังกล่าวถือ เป็นการจับทุจริตนักการเมืองรายแรกของจังหวัด อย่างไรก็ตาม หลังศาลมีคำพิพากษาแล้ว นายประมวล ได้ใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมูลค่า 400,000 บาท ยื่นประกันตัวออกไปทันที และไม่ให้สัมภาษณ์แสดงความเห็นใด ๆ กับสื่อมวลชน

ด้าน นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส. เพชรบุรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลพิพากษาจำคุกนายประมวล ว่า ได้สอบถามนายประมวล ถึงเรื่องนี้แล้ว ซึ่งนายประมวลแจ้งว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ทั้งนี้พรรคยืนยันว่า จะไม่นำกระบวนการทางการเมือง เข้าไปแทรกแซงการพิจารณาของศาล โดยปล่อยให้ศาลพิจารณาบนหลักการของความตรงไปตรงมา อีกทั้ง จะไม่มีการนำทีมกฎหมายของพรรคไปให้ความช่วยเหลือ เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เนื่องจากคดีดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2543 ซึ่งขณะนั้น นายประมวล ดำรงตำแหน่งนายก อบจ. ส่วนพรรค การเมืองฝ่ายตรงข้ามจะหยิบยกเรื่องนี้มาโจมตีพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น คิดว่าเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้ หากมีผู้นำคดีของนายประมวล มาใช้โจมตีทางการเมือง แต่พรรคขอยืนยันว่า จะไม่ใช้อำนาจใด ๆ เข้าไปปกป้องหรือแทรกแซงกระ บวนการยุติธรรมอย่างแน่นอน


หัวข้อ: Re: ประวัติของผู้สมัคร สส. ของพรรคพลังประชาชนที่ จ.นราธิวาส
เริ่มหัวข้อโดย: soco ที่ 15-12-2007, 15:40
กรณี ประมวล พงศ์ถาวราเดช  ศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง ไปเมื่อ เดือน ตุลาคมที่ผ่านมานี่เองครับ

ก็คงรอการต่อสู้คดีกันต่อไป


หัวข้อ: Re: ประวัติของผู้สมัคร สส. ของพรรคพลังประชาชนที่ จ.นราธิวาส
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 15-12-2007, 16:00
ผมว่า กล่าวหาแต่พรรค พปช.กรณีนี้อย่างเดียวก็ไม่เป็นธรรมนะ
พรรค ปชป.เองก็มี นาย ประมวล พงศ์ถาวราเดช ผู้สมัคร สส.ประจวบคีรีขันธ์ เหมือนกัน
www.deedeejang.com/tell/news/00708.html

เซ็นอนุมัติตัดถนน 'ศาลชั้นต้น'ตัดสิน ปชป.อีกคน-สั่งยก

“ประมวล พงศ์ถาวราเดช”ส.ส.เขต 3 พรรค ปชป.เมืองประจวบฯถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 7 ปี โทษฐานรับสินบนค่าก่อสร้างถนน สั่งจ่ายเช็คแล้วเก็บไว้ใช้เอง แถมถูกจู่โจมจับกุมได้พร้อมทั้งของกลางเงินสด 5 แสนบาท ที่ได้ถ่ายสำเนาไว้แล้ว มัดแน่นจนดิ้นไม่หลุด ส่วนพวกที่ตกเป็นจำเลยที่ 2-11 คดีเดียวกัน มีทั้ง ส.ส. เขต 2 พรรคเดียวกันกับนักการเมืองท้องถิ่นรอดตัวไป ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าพยานโจทก์มีน้ำหนักน้อย ขณะที่เจ้าตัวไม่ยอมปริปาก ก่อนยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมูลค่า 4 แสนบาท ประกันตัวออกไปทันที

คดีรับสินบนธรรมดาๆ กับคดีกบฏแบ่งแยกดินแดน ปล้นอาวุธสงคราม ฆ่าข้าราชการทหาร
ดีกรีต่างกันมากเหลือเกินครับ ผมว่าเป็นเรื่องธรรมดาๆ ถ้า สส.จะถูกกล่าวหาว่ารับสินบน
แต่อย่างกรณีผู้สมัครของ พลังประชาชน ต้องถือว่าเป็นกรณีไม่ธรรมดาอย่างยิ่งนะครับ  :slime_smile:


หัวข้อ: Re: ประวัติของผู้สมัคร สส. ของพรรคพลังประชาชนที่ จ.นราธิวาส
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 17-12-2007, 12:15

ตอนที่ไทยรักไทยเป็นรัฐบาล และมี สส. อย่างนี้นั่งในสภา  ไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมพวกก่อการร้ายทางใต้จึงได้
เหิมเกริมอย่างนี้


หัวข้อ: Re: ประวัติของผู้สมัคร สส. ของพรรคพลังประชาชนที่ จ.นราธิวาส
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 18-12-2007, 00:59
คาดว่าคงสอบตกยกแก๊งค์ตามเคยนะครับ กับพวกกลุ่มวาดะห์