ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

เวทีวิพากษ์ : คุณสมัคร และสื่อ
23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 09:30:00
 
สารภาพว่าไม่เพียงเรื่องซึ่งกลายเป็นหัวข้อ ‘ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์’ ว่าด้วยการปะทะคารมระหว่างคุณเทพชัย หย่อง แห่งเครือเนชั่น กับคุณสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ในรายการสยามเช้านี้เท่านั้น ที่ทำให้อึดอัดใจ

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ท่าทีของเพื่อนพ้องน้องพี่จำนวนมากในวงการสื่อที่มีต่อคุณสมัคร พรรคพลังประชาชน อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปจนถึง คมช. และรัฐบาล คมช.ที่ถือกำเนิดจากการรัฐประหารในโลกประชาธิปไตย ก็ชวนให้รู้สึกทำนองเดียวกัน

น่าสนใจว่า คนทำสื่อทุกวันนี้คิดว่าหน้าที่สื่อคืออะไร และพยายามจะบอกอะไรกับผู้บริโภคสื่อ หรือมิได้คิดอะไรเลย นอกจากพยายามยัดเยียดความเชื่อซึ่งยังต้องตั้งคำถามว่า สื่อเก่งกว่านักการเมืองและคนทั่วไปที่สื่อไม่ชอบ รวมถึงเป็นผู้ยึดกุมความดีและความถูกต้อง

เป็นที่เข้าใจกันว่า คุณสมัครไม่กลัวสื่อเพราะคุณสมัครไม่กลัวเป็นข่าวและไม่กลัวเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนไทยช่างพูด ที่ได้ยินข่าวหนึ่งประโยคก็ด่าคนในข่าวได้ห้าร้อยประโยค นอกจากนั้น คุณสมัครยังรู้จุดอ่อนของคนทำสื่อ ที่มีจำนวนมากเป็นพวกรู้น้อยคอยรำคาญ แต่มักตั้งตัวเป็นผู้พิพากษาทุกสิ่งในสังคม ขณะที่อ่อนไหวอย่างมากกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตัวเอง

สื่อไทยมักหลงทางในมายาคติและอารมณ์ เมื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับคุณสมัคร และดูเหมือนว่าแทบไม่ต้องการข่าวสารอะไรจากคุณสมัคร นอกจากได้ชื่อว่าเถียงชนะคุณสมัคร

สื่อกล่าวหาคุณสมัครว่า ก้าวร้าว หยาบคาย และสนับสนุนรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519 แต่ต่อต้านรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เพียงเพราะเป็นตัวแทนคุณทักษิณ ซึ่งสื่อสรุปว่าโกงชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ (แม้จะยังไม่ผ่านกระบวนการตัดสิน และสื่อไม่ยักชี้หน้าประณามคนอื่นๆ ด้วยข้อหาเดียวกัน แม้จะมีพฤติกรรมน่าสงสัยและสมควรประณามไม่ต่างกัน)

สื่อในเครือเนชั่นเอาจริงเอาจังมากกับการนำเสนอประเด็นคุณสมัคร ยอมรับว่าหลักการสามารถเปลี่ยนแปลง และน่าตกใจว่าหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ The Nation ถึงกับเสนอเป็นข่าวพาดหัวพร้อมภาพประกอบเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519

สงสัยยิ่งนักว่า ‘หลักการ’ ที่สื่อเครือเนชั่นกล่าวถึงนั้นหมายถึงอะไร และคนทำสื่อวันนี้เข้าใจเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 อย่างไร

อะไรคือหลักการ ‘ที่ไม่เปลี่ยนแปลง’ ของสื่อ โดยเฉพาะสื่อในเครือเนชั่น (ภาพรวม) เมื่อแสดงท่าทียอมรับรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

คุณสมัครแก้ตัวไม่ขึ้นกับความเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 แต่ใครที่ศึกษาประวัติศาสตร์ย่อมรู้ว่า มีเบื้องหลังอื่นที่ล้ำลึกกว่าคุณสมัครหลายเท่า นอกจากนั้น สถานการณ์ในปี 2519 ยังเป็นเรื่องของการสร้างภาพผีคอมมิวนิสต์ที่อันตรายมากต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยฝ่ายรัฐบาลทหาร ขณะที่สถานการณ์ปี 2549 เป็นการสร้างภาพผีทักษิณ โดยฝ่ายเกลียดรัฐบาลทักษิณ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายอำนาจที่ไม่พอใจอำนาจของทักษิณ

ยังเป็นคำถามว่าทุกฝ่ายที่ร่วมกันขับไล่คุณทักษิณนั้น มีพฤติกรรมต่างจากข้อกล่าวหาคุณทักษิณหรือไม่ หรือเพียงบริโภคคำน้อยกว่า แบ่งปันผลประโยชน์ลงตัวกว่า (ซึ่งยังคงมาไม่ถึงประชาชนส่วนใหญ่) แต่เรื่องอื่นเดินตามรอยเดียวกัน เช่น เห็นแก่หน้าพวกพ้องคนรู้จักก่อนคนอื่น เห็นแก่ประโยชน์และกำไรสูงสุดของตนก่อนคนอื่น ฯลฯ

ผีทักษิณใน พ.ศ.2549 ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันเป็นแหล่งชีวิตของนักการเมือง หยั่งรากมายาวนานกว่าใน พ.ศ.2519 มีสถานภาพคลุมเครือกว่าผีคอมมิวนิสต์ใน พ.ศ.2519

สื่อในเครือเนชั่นและสื่ออื่นๆ ที่ยังอยากทะเลาะกับคุณสมัครด้วยข้อหาเดิมๆ คงต้องศึกษาอีกมาก แต่ทางที่ดี ไม่ควรเสียเวลาทะเลาะกับคุณสมัคร ซึ่งมิได้มีประโยชน์อันใดเลยกับผู้บริโภคสื่อ

นิธินันท์ ยอแสงรัตน์

http://www.bangkokbiznews.com/2007/11/23/WW06_0610_news.php?newsid=204845

ถ้าอยากให้ปัญหาประทุขึ้นรุนแรงกว่าเดิม ก็เลือกพรรคนอมินีกลับมา

คนที่เสียหายมากที่สุดคือคนไทยทั้งหมด

หัวหน้าพรรคปาก*** ใจทรามแบบนี้จ้างให้ก็ไม่เลือก แถมยังเป็นนอมินี่อีก

พรรคที่ไม่มีหัวคิด แถมหน้าด้านไม่ยอมรับความผิดตัวเอง เป็นฝ่ายค้านก็ยังไม่มีคุณสมบัติเลย

ต้องโดนเช็คบิลด้านจริยธรรม เรื่องทุจริต ติดคุกกันไปตามระเบียบ  :slime_worship:

นักการเมืองดีเลวขึ้นอยู่กับสื่อเหลอ??

แล้วคุณรู้ได้ยังใงว่าปัญหา จะรุนแรงขึ้น เอาง่ายๆ ถ้า ปชป ชนะ จะสงบว่างั้นเถอะ
..บ้ากันไปใหญ่
.
.
ถ้าทุกคนยอมรับกติกาของเสียงข้างมากมันก็ไม่มีปัญหาเหมือนทุกวันนี้หรอกครับ  เลือกตั้งเสร็จ ไม่มีมารตัวใหนออก มาก่อม๊อบ มันก็ไม่มีปัญหาหรอก จริงใหม?

รู้สิครับ ไม่รู้แม้วก็กลับมานานแล้ว.. :slime_bigsmile: :slime_cool:

ด่าเนชั่น แต่แหล่งข่าว เอามาจาก เนชั่น..

สรุป เนชั่น เป็นสื่อดี หรือเปล่า ????

แล้วเนชั่นมานด่าตัวเองทำไหมก็ไม่รู้ มวยล้มต้มคนดูมั้ง
ตรรกะปัญญาอ่อน เลือก พปช.ระวังปัณหาจะรุนแรงกว่า
เดิม ขอใช้ครับลุงแคนหน่อยเห็นว่าใช้ได้ ถุย

เขาเปิดโอกาสให้ ตุ๊ดตู่หางด้วน จับแพะชนแกะได้ออกจากรูบ้าง  ปั่นไม่ขึ้นหรอก :slime_smile2: :slime_cool:

พยายามกู้ภาพลักษณ์ที่เสียไปจากการกระทำในวันนั้นกลับคืนมา
แต่ไม่ง่ายหรอก เพราะเป็นเรื่องสะสม ที่รอฟางเส้นสุดท้ายมาทำให้หลังลาหัก

น่าผิดหวังมากค่ะ

 :slime_dizzy:

สื่อที่ดี ก็ย่อมมีคนเห็นต่างกันได้ในสื่อนั้น

คอลัมนิสต์แต่ละคนต่างก็มีมุมมองของตนเอง

ลองๆ มองไปสื่ออื่นๆ บ้างสิ ไทยรัฐ เดลินิวส์ มติชน ฯลฯ

ต่างเปิดโอกาสให้คอลัมนิสต์ใช้วิจารณญาณของตน

ยิ่งเนชั่นให้เปิดบล็อคสำหรับประชาชน ก็บอกอยู่แล้วว่าไม่มีใครปิดกั้นใคร

เรื่องความคิดเห็นในประเด็นอนาคต มักจะตอบโต้กันได้ไม่สิ้นสุด

แต่ผมเห็นต่างกับคุณนิธินันท์ ตรงที่ว่า การกระชากหน้ากากนักการเมืองเป็นเรื่องจำเป็น

หากนายสมัคร เป็นนายหมู นายแมว ที่ไม่เสนอตัวลงสมัครสส. อันจะนำไปสู่ตำแหน่งใหญ่ทางการบริหาร

สื่อก็ไม่ควรไปตอแยอะไรด้วย แต่เมื่อนายสมัคร ลงมาคลุกการเมือง ก็ต้องเจอคำถาม "การเมือง"

เห็นตรงกับคุณแคน และเห็นต่างกับคุณนิธินันท์ ในประเด็นที่ว่า "เสียเวลาทะเลาะ
กับคุณสมัคร ซึ่งมิได้มีประโยชน์อันใดเลยกับผู้บริโภคสื่อ"

ประโยชน์มีค่ะ ดังที่คุณแคนบอกไว้
และขอเพิ่มว่า
การกระชากหน้ากาก "สื่อที่เล่นการเมือง" เป็นเรื่องจำเป็น เช่นกัน

คำเตือนว่า "ทางที่ดี" อย่าไปทะเลาะกับคุณสมัคร นั้น คุณนิธินันท์ คงจะ
ทำด้วยความปรารถนาดีต่อเพื่อนร่วมอาชีพ มากกว่าต่อผู้บริโภค

จำเป้นมาก แบบว่า กลัวสื่อมาระคายโคตรผ้วค้างคืนสินะ  

ถ้าสื่อ แยกแยะประเด็น "การโต้แย้ง" "การสืบเสาะข้อมูล" หรือ "การชวนทะเลาะ" ให้ออกจากกันได้

ประชาชนย่อมได้ประโยชน์แน่นอน

แต่สิ่งที่เห็นและเป็นไป สื่อก็ถามคำถามที่สังคมอยากรู้ แต่ถูกฝ่ายนายสมัคร ตีความเกินเลยไปมากกว่าคำถาม

หรืออีกนัยหนึ่ง นายสมัครมองถึงผลดีผลเสียของการตอบคำถามมากเกินไป

ออกซ้ายก็โดนด่า ออกขวาก็โดนอัด แต่นั่นก็เป็นผลมาจากการเลือกจุดยืนของตัวเองไม่มีใครบังคับ

นี่คือการต้อนให้สมัครจนมุน หากสมัครไม่อยากไปยืนอยู่ระหว่างปัญหาเขาควาย สมัครก็ตอบได้ แสดงจุดยืนได้

แต่เมื่อสมัครแสดงจุดยืนเป็น "นอมินี" และ ประกาศนิรโทษกรรม - นำทักษิณกลับบ้าน -  แก้ไขรัฐธรรมนูญ

นายสมัคร ก็ต้องประกาศให้ชัดเจนว่า นั่นคือนโยบายพรรคพลังประชาชน

คนที่จะเลือกพรรคการเมือง จะได้เลือกง่ายขึ้น ก็เท่านั้นเอง

การต่อปากต่อคำกับนายสมัคร เป็นเพราะ นายสมัครต้องการเช่นนั้น

นายสมัครสร้างบรรยากาศแห่งการโต้เถียงมากกว่าการโต้แย้งหรือตอบคำถาม หรือให้ข้อมูล

และนายสมัครก็ย่อมรู้ พูดแบบใหนถึงจะเป็นข่าว ยิ่งข่าวด่าสื่อ สมัครยิ่งต้องการให้สื่อนำไปเผยแพร่ต่อ

เพราะคิดว่า "การเป็นศัตรูกับสื่อ" คือความสะใจลึกๆ ของประชาชนบางหมู่บางเหล่า

และอาจแปรไปเป็นคะแนนเสียงได้

มันสำคัญที่ว่า สื่อเองพร้อมที่จะตกลงไปในบ่อ ทีนายสมัครขุดล่อเอาไว้หรือไม่

นักข่าวอาวุโสหลายคนที่ "รู้ทันสมัคร" จึงมักตัดเตือนเพื่อนๆ น้องๆ เสมอว่า

อย่าไปให้ราคานายสมัคร...

'หมัก เมถุน' หัวหน้า'พรรคปล้นชาติ'......
ผู้ใช้นามแฝง'กาลามชน' พยายามโยงทักษิณ จำเลยคดีทุจริตต่าง ๆ ของคณะกรรมการ คตส. ปปช. และ ดีเอสไอ. เกี่ยวข้องกับรัฐประหารของพล.ร.อ.สงบ ชลออยู่ ใช้กำลังทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง รัฐบาล มรว.เสนีย์ ปราโมช โดยมีพวกขวาตกขอบ เช่น ประมาณ สมัคร ทมยันตี ดร.อุทิศ พท.อุทาร เป็นต้น สร้างสถานการณ์ให้ 'เณรเฒ่า'ถนอมห่มผ้าเหลืองจากสิงคโปร์(เจ้าเก่า) แล้วใช้กำลังทหาร-ตำรวจปราบปรามนักศึกษา ประชาชนที่คัดค้านการกลับมาของ'เณรเฒ่า' ซึ่งอาศัยผ้าเหลืองบังหน้า ถ้าทรราชถนอม เข้าถึงพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า คงไม่ดันทุรังลอบเข้าประเทศไทยอย่างนั้น....... :!:

การรัฐประหาของทหารปี 2549 ย่อมแตกต่างกับการรัฐประหารของทหารปี 2519....
แม้ว่าสาวกทักษิณฯ และ ผู้ใช้นามแฝง'กาลามชน' จะเรียกว่า'เผด็จการปี 2549' ด้วยก็ตาม
แต่ประชาชนที่รักประชาธิปไตย รังเกียจ'เผด็จการจากการเลือกตั้ง' และการฉ้อราษฎร์บังหลวง
การเบียดบังผลประโยชน์ทับซ้อน การทุจริตทางนโยบาย และการฆ่าตัดตอน ฯลฯ.....

รู้ว่าแตกต่างกันราวกับ'ขาวกับดำ'..........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


สาวกฯ ลิ่วล้อ โกรธแค้น ไม่พอใจสื่อมวลชนที่หยิบยกพฤติกรรมรับใช้เผด็จการทหารปี 2519
ของ 'หมัก เมถุน' มาประจาน แก่เฒ่าอย่างไร จิตใจฝักใผ่เผด็จการไม่เปลี่ยนแปลง....

แม้ พศ.2550.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

สารภาพว่าไม่เพียงเรื่องซึ่งกลายเป็นหัวข้อ ‘ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์’ ว่าด้วยการปะทะคารมระหว่างคุณเทพชัย หย่อง แห่งเครือเนชั่น กับคุณสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ในรายการสยามเช้านี้เท่านั้น ที่ทำให้อึดอัดใจ

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ท่าทีของเพื่อนพ้องน้องพี่จำนวนมากในวงการสื่อที่มีต่อคุณสมัคร พรรคพลังประชาชน อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปจนถึง คมช. และรัฐบาล คมช.ที่ถือกำเนิดจากการรัฐประหารในโลกประชาธิปไตย ก็ชวนให้รู้สึกทำนองเดียวกัน

ใจความ --  ผู้เขียนอึดอัดใจมาก  กับ สื่อ อย่างเนชั่น  ที่เสนอข่าว นายสมัคร   ท่าที ต่อ  นายทักษิณ
และ ท่าทีต่อ  คมช หรือ การทำรัฐประหาร   และ  รบ  ที่มาจาก การทำรัฐประหาร
วิพากษ์ ----  คนแก่ขนาดนี้  มาแสดงอารมณ์ต่อ สาธารณะ ได้อย่างไม่อาย  ไม่ใช่ความรู้สึกอึดอัดใจ
สำหรับข้าพเจ้า  รู้สึกสมเพช ---   แต่ มาหาคำตอบในเนื้อหาดีกว่า ว่า  ผู้เขียน  มีเจตนาอะไร 

น่าสนใจว่า คนทำสื่อทุกวันนี้คิดว่าหน้าที่สื่อคืออะไร และพยายามจะบอกอะไรกับผู้บริโภคสื่อ หรือมิได้คิดอะไรเลย นอกจากพยายามยัดเยียดความเชื่อซึ่งยังต้องตั้งคำถามว่า สื่อเก่งกว่านักการเมืองและคนทั่วไปที่สื่อไม่ชอบ รวมถึงเป็นผู้ยึดกุมความดีและความถูกต้อง

ใจความ---  สื่อ เก่ง กว่าทุกคน  และเป็น ผู้ตัดสินว่า ใครถูก ใคร ผิด (ประโยคที่ขีดเส้นใต้)
วิพากษ์ -----   คนที่  คิดเป็น  จะไม่แสดงความคิดแบบนี้  เพราะ  ข้อเท็จจริง หรือ สัจธรรม คือ  ความจริง ก็คือ ความจริง  ไม่ว่าใคร ก็ไม่อาจเปลี่ยแปลงความจริงได้  สื่อ จะใส่สีตีไข่อย่างไร ก็ ไม่อาจหนีความจริงได้
ความคิดที่ว่า สื่อยุดกุมความดีและความถูกต้อง ----------  คิดแบบนี้ ก็คือ คนอ่านโง่  คนไทยโง่  สื่อบอกใครดี – เลว  คนอ่านเชื่อหมด   ----------  คนที่จะมาเป็นผู้นำประเทศ เห็นว่า ปชช คนในประเทศ โง่ -------
จะจำไว้  จะเอาไปเปิดประเด็นว่า ---------- ควรเลือกผู้นำที่คิดว่า ปชช  ของตนนั้นโง่   หรือไม่  หรือ  คิดว่า สื่อ ครอบงำคนอ่านได้หรือไม่  ถ้าได้  ควรอ่านอย่างไรไม่ให้ถูกครอบงำ...


เป็นที่เข้าใจกันว่า คุณสมัครไม่กลัวสื่อเพราะคุณสมัครไม่กลัวเป็นข่าวและไม่กลัวเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนไทยช่างพูด ที่ได้ยินข่าวหนึ่งประโยคก็ด่าคนในข่าวได้ห้าร้อยประโยค นอกจากนั้น คุณสมัครยังรู้จุดอ่อนของคนทำสื่อ ที่มีจำนวนมากเป็นพวกรู้น้อยคอยรำคาญ แต่มักตั้งตัวเป็นผู้พิพากษาทุกสิ่งในสังคม ขณะที่อ่อนไหวอย่างมากกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตัวเอง

ใจความ ---  สมัครรู้จุดอ่อน..... สมัคร  ดูถูกคนไทย  ดูถูก สื่อ  ย้ำความคิดผิด ๆ ว่า สื่อเป็น พิพากษา  และสื่อเองก็รับไม่ได้เมื่อถูกวิจารณ์
วิพากษ์ ------   สมัครและพวก   เที่ยวไปว่า คนอื่น แต่เมื่อโดนว่า กลับบ้าง  ก็ รับไม่ได้เช่นกัน
แล้วนายสมัครรับได้หรือไม่   คน แก่ อายุ ขนาดเป็นไม้ใกล้ฝั่ง   นักข่าวเด็ก เขาถาม ในประเด็น เรื่อง  บัญชี รายชื่อ  คนมีวุฒิภาวะ ก็ตอบว่า  เป็นเรื่องภายในพรรค ...  ง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คงไม่มีเรื่อง 
พูดง่าย ๆ  สมัคร จะ ปาก*** ยังไง ก็ได้  แต่ถ้า เป็น สื่อ ปาก*** ด่า กลับ บ้างไม่ได้
ผู้เขียนก็เหมือนสมัคร  ว่า สื่อ  กรู ด่า สื่อได้  แต่ สื่อ ด่า กรู ไม่ได้

สื่อไทยมักหลงทางในมายาคติและอารมณ์ เมื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับคุณสมัคร และดูเหมือนว่าแทบไม่ต้องการข่าวสารอะไรจากคุณสมัคร นอกจากได้ชื่อว่าเถียงชนะคุณสมัคร

ไม่มีใจความ
วิพากษ์ ----   เถียงชนะนายสมัคร  คิดแล้วเขียนออกมา นี่ อ่าน สิ่งที่เขียนหรือเปล่า
เถียงชนะ  ---  ไม่ใช่เด็ก  เล่นขายของ นะ  เสนอตัวมาให้คนเลือกเป็น นายก  มาบอกเป็นตัวแทนของไอ้คนที่ถูก หมายศาล  หนีหมายศาล  ไม่ยอมมาแก้คดี  ด้วยเหตุผลว่า  ไม่เชื่อศาล  ศาลไทยไม่ยุติธรรม  เลย ต้อง กลับมาเป็นใหญ่ในประเทศ เพราะคิดว่า จะมาตั้งศาล เอง  ---  หลักคิด ของ คนเขียน บทความ คืออะไร
ความถูกต้อง  ตามที่นายทักษิณ ต้องการ คือ อะไร  จงบอกมา

แต่ความถูกต้อง ที่ คมช มอบให้ โดยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามหลักฐาน  ตามกระบวนการของศาล  ไม่ยุติธรรม เพียงเพราะ คมช  ทำผิด ขั้นตอน เท่านั้นหรือ  การทำผิดขั้นตอน แต่ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามกระบวนของศาลยุติธรรม  กับคนที่คิดจะล้มทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด  ---- แล้วนายสมัคร ก็ บอกว่า จะมาทำให้
พ้นผิด  คงคิดว่า  นายพ้นผิด  สมัคร ก็คง พ้นผิด ด้วย มั๊ง -------- เขียนอะไรออกมา นี่ คิดหรือเปล่า 



สื่อกล่าวหาคุณสมัครว่า ก้าวร้าว หยาบคาย และสนับสนุนรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519 แต่ต่อต้านรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เพียงเพราะเป็นตัวแทนคุณทักษิณ ซึ่งสื่อสรุปว่าโกงชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ (แม้จะยังไม่ผ่านกระบวนการตัดสิน และสื่อไม่ยักชี้หน้าประณามคนอื่นๆ ด้วยข้อหาเดียวกัน แม้จะมีพฤติกรรมน่าสงสัยและสมควรประณามไม่ต่างกัน)

ใจความ---- เป็น การใส่ร้าย นายสมัคร กรณี เดือน ตุลา.
ไปอ่านบทความเกี่ยวกับ เดือน ตุลา ให้มาก ๆ  ก่อนจะให้ความเห็น อย่างที่เขียนข้างบน
ไปอ่านดูให้เข้าใจ  นะ  ว่าเป็นการใส่ร้ายหรือไม่ ----------- ทักษิณโกงร้อยเปอรืเซ็นต์  -- กระบวนการศาล ศาลรับฟ้อง ให้จำเลยมาแก้ต่าง  แต่ไม่มา  -----  พูดไว้แล้วนะ กลับขึ้นไปอ่านใหม่
--- แล้ว วิธีคิด ที่ว่า  “มาว่า กรูเลว เอง ก็ เลว เหมือน กรู  “  นี่  ปรับเปลี่ยนได้แล้ว  ---- คนมีปัญญา  เขาต้องคิดว่า   เองว่ากรู เลว  เอง   หลักฐานมา  ที่ว่า กรู เลว  เขาพิสูจส์ กัน ไม่ใช่ เอา แนวเทียบผิด ๆ มาเทียบ  ประเภท “ใคร ๆ เขา ก็ โกง กรู เลย ต้อง โกง บ้าง”  มันเป็น แนวคิดผิด ที่เอามาเทียบแบบ ผิด ๆๆ   มันเลย โกง กันใหญ่ เพราะ หัว มัน โกง  หาง เลยโกงตามหัว 


สื่อในเครือเนชั่นเอาจริงเอาจังมากกับการนำเสนอประเด็นคุณสมัคร ยอมรับว่าหลักการสามารถเปลี่ยนแปลง และน่าตกใจว่าหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ The Nation ถึงกับเสนอเป็นข่าวพาดหัวพร้อมภาพประกอบเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519

สงสัยยิ่งนักว่า ‘หลักการ’ ที่สื่อเครือเนชั่นกล่าวถึงนั้นหมายถึงอะไร และคนทำสื่อวันนี้เข้าใจเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 อย่างไร

----- ไม่มีใจความ  ตั้งคำถาม ถาม สื่อเนชั่น หลักการ คืออะไร
วิพากษ์-----  คนเขียน ก็น่าจะบอกคนอ่านนะ  ว่า  หลักการสื่อเนชั่น คืออะไร  แล้วเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ในกรณีของสมัคร  ---   ไปบอกว่า สื่อ ไม่รู้จริง  ถ้าคนเขียนรู้จริง  น่าจะหยิบประเด็น นี้ มาเขียน นะ จะได้ แก้ตัว ให้ นายสมัคร ได้  เพราะ “แก้ตัวไม่ขึ้น”  แล้วความเข้าใจเรื่อง  เหตุการณ์เดือนตุลาคม  ของผู้เขียน คืออะไร  คนอ่าน จะได้รู้ว่า  ใครเข้าใจผิด หรือ คนเขียนเอง ก็ไม่เข้าใจเหตุการณ์เดือนตุลา



อะไรคือหลักการ ‘ที่ไม่เปลี่ยนแปลง’ ของสื่อ โดยเฉพาะสื่อในเครือเนชั่น (ภาพรวม) เมื่อแสดงท่าทียอมรับรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

วิพากษ์ -------- จะเลือกตั้งแล้ว  ๒๓  ธ.ค. ที่จะถึงนี้  ยัง ย่ำ อยู่ กับที่  เรื่อง รัฐประหาร   คนอื่น ๆ เขา ก้าวหน้าไปถึงไหน ๆ  แล้ว  ------------------  ถ้าคิดจะแสดงความเห็น นะ  เขียนให้เป็นประโยชน์ นะ  ควรเน้น ประโยชน์เพื่อสังคม เช่น   จะอ่านวิเคราะห์สื่ออย่างไร ให้เป็นประโยชน์  อย่าให้ สื่อ  ชี้ถูกชี้ผิด  เป็นต้น  ฯลฯ
แต่ที่เขียนมาทั้งหมด  กล่าวหาสื่อเนชั่น และ แก้ต่างให้นายสมัคร  ทักษิณ และพวก --- คนเขียน ก็เขียนแบบ อคติ
ใช้ความรู้สึก  ไม่มีการแสดงหลักฐานอ้างอิงใด ๆ  แล้ว ก็ไปกล่าวหาว่า สื่อ อคติ ----------- คนเขียนต้องเป็นกลาง จึงจะไปกล่าวหาคนอื่น ได้ 


คุณสมัครแก้ตัวไม่ขึ้นกับความเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 แต่ใครที่ศึกษาประวัติศาสตร์ย่อมรู้ว่า มีเบื้องหลังอื่นที่ล้ำลึกกว่าคุณสมัครหลายเท่า นอกจากนั้น สถานการณ์ในปี 2519 ยังเป็นเรื่องของการสร้างภาพผีคอมมิวนิสต์ที่อันตรายมากต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยฝ่ายรัฐบาลทหาร ขณะที่สถานการณ์ปี 2549 เป็นการสร้างภาพผีทักษิณ โดยฝ่ายเกลียดรัฐบาลทักษิณ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายอำนาจที่ไม่พอใจอำนาจของทักษิณ

ใจความ---- คุณสมัครแก้ตัวไม่ขึ้น-----    --------- สร้างภาพผีทักษิณ เพื่อให้เกลียดรัฐบาลทักษิณ---------
วิพากษ์ ----------  คำพิพากษา ของ ศาล นี่ คือ การสร้างภาพ  ---  อ่านคำพิพากษา ศาล บ้างหรือเปล่า นี่


ยังเป็นคำถามว่าทุกฝ่ายที่ร่วมกันขับไล่คุณทักษิณนั้น มีพฤติกรรมต่างจากข้อกล่าวหาคุณทักษิณหรือไม่ หรือเพียงบริโภคคำน้อยกว่า แบ่งปันผลประโยชน์ลงตัวกว่า (ซึ่งยังคงมาไม่ถึงประชาชนส่วนใหญ่) แต่เรื่องอื่นเดินตามรอยเดียวกัน เช่น เห็นแก่หน้าพวกพ้องคนรู้จักก่อนคนอื่น เห็นแก่ประโยชน์และกำไรสูงสุดของตนก่อนคนอื่น ฯลฯ

ใจความ-------- มาไล่ทักษิณ  คนไล่ก็ไม่ต่างจากทักษิณ
วิพากษ์ ---------- เพราะย่อหน้า นี้เอง ที่ทำให้ เห็น เจตนา แท้จริง ของ คนเขียน
คิดได้แค่นี้เอง   ---  ผลประโยชน์  ,  แบ่ง ให้ น้อย ....   แสดงชัดเจนและ ยืนยันได้ว่า  นายสมัคร นายทักษิณ พรรคไทยรักไทย   ล้วนแต่ เข้ามาเพื่อโกงกินประเทศ  พอแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว ก็ร่วมหัว กันโค่นล้ม ทักษิณ ----
ทักษิณ คิด อยู่อย่างเดียวว่า  ที่ถูกโค่นล้มไปนี้ เพราะ ไม่แบ่งให้คนอื่นกิน  ถ้าแบ่งให้กิน  ก็จะไม่ถูก โค่นล้ม ---
สมควรแล้ว  ที่ ถูกหมายศาล --- แล้วกลายเป็น คนหนีคดี คนหนีหมายศาล


ผีทักษิณใน พ.ศ.2549 ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันเป็นแหล่งชีวิตของนักการเมือง หยั่งรากมายาวนานกว่าใน พ.ศ.2519 มีสถานภาพคลุมเครือกว่าผีคอมมิวนิสต์ใน พ.ศ.2519

วิพากษ์-------- ประชาธิปไตย เป็น ของ ปวงชนชาวไทย -------  เป็นชีวิต รากเหง้า ของ คนในประเทศ แต่ ถูกพวกนักการเมือง เลว  ๆ  อย่าง ทักษิณ  มาทำให้ ประเทศล่มจม ...... (แต่ ไม่รวม พวกนักการเมืองมืออาชีพ

สื่อในเครือเนชั่นและสื่ออื่นๆ ที่ยังอยากทะเลาะกับคุณสมัครด้วยข้อหาเดิมๆ คงต้องศึกษาอีกมาก แต่ทางที่ดี ไม่ควรเสียเวลาทะเลาะกับคุณสมัคร ซึ่งมิได้มีประโยชน์อันใดเลยกับผู้บริโภคสื่อ

-------- บทสรุป ----------- ไม่มีใครทะเลาะกับนายสมัคร   แต่ สมัคร เป็น ตัวข่าว 
 ประเด็นทีเขียนมา   ไม่มีการมอง  นำข้อมูล หลักฐานต่าง ๆ ที่มีการแสดงทางสื่อ มาประกอบเลย  ยังคงเป็นแนวคิด ก่อน การทำรัฐประหาร ทั้ง ๆ ที่มีหลายเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการทุจริตใน รบ ทรท
การวิพากษ์สื่อว่า ทำตัวเป็น คนชี้ดีชี้ชั่วคนอื่น  แต่ หยิบเอาประเด็น สมัคร ทักษิณ  ไม่ผิด  เพราะ ใคร ๆเขา ก็ โกง   ผู้นำประเทศ คิดได้แค่นี้ เอง  ศาล ไม่ยุติธรรม   รัฐประหาร ไม่ถูก  ทรท มาจากการเลือกตั้ง  .....

 ---  ทักษิณ  และทุกคนที่โกงกินบ้านเมือง ต้องติดคุก  เพราะทำผิด กฏหมาย  ทำผิดศีลธรรม จริยธรรม---

นิธินันท์ ยอแสงรัตน์ นักเขียนและบรรณาธิการข่าวเครือเนชั่นกรุ๊ป

รู้แค่นี้เอง  และเห็นมีบอกว่า เคยเป็น นักร้อง  เคยเห็นเวที ต่าง ๆ ใน ม.ธ.

แต่ไม่รู้มากไปกว่า นี้  และไม่สนใจ  แต่ อ่านแล้ว  ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหา และเจตนา ของผู้เขียน ตามที่ปรากฏ

 :slime_smile:

หลักฐานไม่มี เขียนได้เพราะรับประเด็นมาจากข่าวซุบซิบ หรือคิดเอง...?

หากตอบไม่ได้ เราจะเห็นเจตนาที่หวังจะกระตุ้นให้เข้าใจผิด ซึ่งโดนใจคนที่หวังลมๆแล้งๆจะให้เป็นเช่นนั้น


ที่สำคัญพฤติกรรม ทำให้สังคมสับสน มักมาจากข่าวลือที่ไร้หลักฐาน  การเขียนบทความที่มีประเด็นซ่อนเร้น แต่โยนความรับผิดชอบให้แพะที่เล็งไว้ตั้งแต่ต้น

สื่อในเครือเนชั่นและสื่ออื่นๆ ที่ยังอยากทะเลาะกับคุณสมัครด้วยข้อหาเดิมๆ คงต้องศึกษาอีกมาก แต่ทางที่ดี ไม่ควรเสียเวลาทะเลาะกับคุณสมัคร ซึ่งมิได้มีประโยชน์อันใดเลยกับผู้บริโภคสื่อ

นิธินันท์ ยอแสงรัตน์

http://www.bangkokbiznews.com/2007/11/23/WW06_0610_news.php?newsid=204845



ข่าวเป็นข่าว......

ตำรวจจับ 'ฆาตกร' ฆ่าข่มขืนอย่างโหด***ม ถึงไม่ชอบฆาตกร ก็ต้องนำข่าวมาลง
เพราะเป็นข่าวที่สนใจของคนอ่านระดับหนึ่ง.....

คณะกรรมการสิทธิฯ พิสูจน์ ยืนยันได้ว่า ทักษิณเป็นผู้บงการ สั่งการ "ฆ่าตัดตอน"
ถึงประชาชนส่วนใหญ่ไม่ชอบ'ผู้บงการ' ก็อยากอ่านข่าวคราวและรู้ข้อเท็จจริง....

ถึงสุภาพชนจะรังเกียจ ชิงชัง ความต่ำช้าของนักการเมือง
ที่ถามนักข่าวระหว่างปฎิบัติหน้าที่ ว่า เมื่อคืนนี้เสพเมถุนแล้วยัง?
ก็อยากจะรู้ว่า'เขา' ต่ำช้า เลวสถุนกว่านั้นอีกไหม :?:

เขาดับอนาคตตนเองมากกว่า สื่อดีและนักวิเคราะห์ที่ดี จะไม่เล่นข่าวลือ อย่างน้อยข้อเขียนของเขาจะพิสูจน์ได้เสมอ เมื่อเวลาผ่านไป

เข้าใจว่าผมรู้จักในระดับ "ดี"

เค้าอยู่ในเหตุการณ์ 6 ตุลา ( สวยมาก ๆ ครับ ) เดี๋ยวนี้ก็ยังสวย อะแฮ่ม..

มุมมองนี้ ผมอยากบอกว่า "ตรรกะ" ที่คุณนิธินันท์ใช้ คือ ตรรกะที่คน 6 ตุลาพึงใช้

นั่นคือ ตรรกะที่ว่า 6 ตุลา มีการปลุกฝีคอมมูนิสต์ ( แต่ความจริงคือมีคอมมูนิสต์จริง )

เหตุการณ์ก่อน 19 กันยา 49 มีการปลุกผีทักษิณก่อนเกิดเหตุ ( อ้างปฏิญญาฟินแลนด์ ) ในความจริงพฤติกรรมของทักษิณก็เป็นเช่นนั้นจริง

ด้วยตรรกะแบบนี้แหละครับ ที่กากเดน 6 ตุลาชอบใช้ ( มิได้หมายถึงคุณนิธินันท์นะครับ )

อาหารเสริม

นิธินันท์ ยอแสงรัตน์ ผู้ช่วยบรรณาธิการเครือนชั่นกรุ๊ป
อดีตสมาชิกวงดนตรีต้นกล้า และสมาชิกสภาองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2517
อดีตนักข่าวมติชน ( สนิทสนมคนในรุ่นนั้น รวมทั้งระดับ บริหาร และวาณิช จรุงกิจอนันต์ )

คุณอโลฮ่า และผม ได้มีโอกาสไปเจอที่เนชั่นมาแล้ว...ใช่มั๊ยน้องอ๊อฟ...อิ อิ  

ปล.การวิพากษ์ตัวเอง เป็นหลักการที่จะทำให้องค์กร เดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง
การไม่ใช้ความสำคัญ กรณีสมัคร มองมุมหนึ่งก็น่ารับฟังได้

แต่ประเด็นที่ต้องตีให้ชัดคือ การนำทักษิณกลับบ้าน การนิรโทษกรรม และ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เป็นนโยบายของ พลังประชาชนหรือไม่ นี่คือสิ่งที่เนชั่น นำเสนอและขุดคุ้ย

แม้คุณนิธินันท์ จะเป็นระดับผู้บริหาร แต่การนำเสนอข่าวสารหน้าหนึ่ง
ย่อมมีคนรับผิดชอบและพร้อมให้คำตอบอยู่แล้ว

การวิพากษ์ตนเองหรือเพื่อนฝูง มองในอีกมุม ก็คือ นั่นคือเสรีภาพในเครือเนชั่น

ผมคิดว่า "ไม่แปลก" เพราะใช้ชื่อตนเอง มิได้นำตำแหน่งมาประกบไว้

เสมือนหนึ่ง คอลัมนิสต์คนหนึ่งเท่านั้นเอง ความเห็นย่อมมีการเห็นแตกต่างกันได้เสมอ

บางเสี้ยวของ นิธินันท์
***************
รำลึก 14 ตุลา : เฟ้นหาอุดมการณ์ 14 ตุลา เจอแต่ ปชต.อันสับสน

นิธินันท์ ยอแสงรัตน์ กล่าวว่า จริงๆ แล้ว เจตนารมณ์ 14 ตุลา ไม่ชัดเจน เราไม่เคยพูดเรื่องหลักการ มีแต่อารมณ์ เราจึงไม่เคยมีหลักการเรื่องประชาธิปไตย จึงไม่รู้ว่าประชาธิปไตยคืออะไร มีแต่การพูดเพื่อโก้เก๋ที่เรียกร้องเสรีภาพ แต่เป็นเสรีภาพของตัวเองเท่านั้นเอง

“ดังนั้น ประชาธิปไตยของสังคมไทย ก็เป็นของคนมีสตางค์และมีอำนาจ” นิธินันท์กล่าว

นิธินันท์กล่าวว่า การจะทำความเข้าใจหลักการของประชาธิปไตย ต้องไม่ลืมสองหลักใหญ่ของเจตนารมณ์ 14 ตุลา คือหลักประชาธิปไตย และหลักนิติรัฐ

ในเรื่องหลักประชาธิปไตยนั้น คือหลักของประชาชน อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ที่จะใช้ปกครองตัวเอง ดังนั้น ประชาธิปไตยจึงนำไปสู่ความเสมอภาค, เป็นการปกครองโดยเสียงส่วนใหญ่ที่เคารพเสียงส่วนน้อย ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ปิดปากคนส่วนน้อย และไม่ใช่เสียงส่วนน้อยที่ไปกระทืบคนที่คิดไม่ตรงกัน

เพราะการเคารพเสียงส่วนน้อย นำไปสู่การตรวจสอบ

“สิ่งที่เราต้องทำต่อไป แทนที่จะมารำลึกวีรชน เราต้องมาแลกเปลี่ยนความเห็นเชิงหลักการอย่างจริงจังเสียทีว่า ประชาธิปไตยคืออะไร” นิธินันท์กล่าว

ในเรื่องหลักนิติรัฐนั้น คือการปกครองโดยกฎหมาย กฎหมายต้องประกันสิทธิขั้นพื้นฐาน และมีองค์กรตรวจสอบถ่วงดุล สิทธิขั้นพื้นฐานคือสิทธิพลเมืองที่รัฐให้การรับรอง เป็นหลักประกันความเสมอภาค คำถามคือ เรามีจริงเหรอ

นิธินันท์ตั้งคำถามว่า ประเทศไทยมีอะไรบ้างนอกจากเปลี่ยนหน้าคนปกครอง พร้อมทั้งเรียกร้องกับสื่อ ไม่เว้นสื่อที่นิธินันท์สังกัดอยู่ว่า ต้องสร้างความเข้าใจในเรื่องประชาธิปไตย ทำความเข้าใจให้มากไปกว่าการเดินขบวนขับไล่รัฐบาล ที่ผ่านมา หากคนมีอำนาจไม่ไล่กันเอง ประชาชนก็ไม่มีทางชนะ แล้วสิ่งที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทำลงไป ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับประเทศเลย นอกจากความฉิบหาย

****************
จากการนำเสนอมุมมองเรื่อง"ประชาธิปไตย" ของนิธินันท์ จึงก้าวหน้าไปกว่าฝ่ายกากเดน 6 ตุลา ที่กำลังแสวงหาอำนาจในขณะนี้
เพราะถึงที่สุด ข้อสรุปของนิธินันท์ในอดีตอันไม่ใกลบอกว่า...
“ดังนั้น ประชาธิปไตยของสังคมไทย ก็เป็นของคนมีสตางค์และมีอำนาจ”

***************
ความเห็นของผมก็มองว่า...ตอนนี้เรากำลังจะเปลี่ยนผ่านกลับไปสู่ ประชาธิปไตยของคนมีสตางค์ ไงครับ

เมื่อทักษิณต้องไปอยู่ในคุก

จะเหลือแต่พวกแย่งมรดก

ไม่มีใครยอมรับผิด นั่นคือจิตสำนึกของผู้ที่ตั้งใจสนับสนุนทักษิณทั้งทางตรงทางอ้อม

ผ่านพรรคนอมินี และนักการเมืองนอมินี โดยการสร้างประเด็นเชื่อมโยงมั่วๆ ทั้งที่ตนเองก็ไม่รู้ ได้แต่อ้างด้วยวิธีจับแพะชนแกะ


ทำไมหรือ? เพือปกป้องชามข่าว ชามข้าว อย่างไม่สร้างสรรค์ ด้วยวิธีอำพรางเนื้อแท้ร่วมกับอาการวิตกจริตกลัวทหารของคนที่ใช้ปากแต่มีมือที่เปราะบาง



จีรนันทร์  ทำให้ผม เชื่อถือได้มากกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้

การปั่นกระแสทางการเมืองแบบนี้แสดงความไร้วุฒิถาวะ หรือ อาจจะเป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้เขียนและ

ของผู้ที่ต้องการสร้างปัญหาที่ไม่จำเป็นให้สังคม ทั้งที่ทักษิณ และพวกพยายามทำตัวเป็นกลองจังไร..ตลอดมา


ทักษิโณมิคซึ่งเป็นส่วนย่อยในระบอบทักษิณ ดับสนิทไปแล้ว เหลือแต่ภาพนาสมเพชของไส้เดือนในความนึกคิดของคนจำนวนมาก

  งงกับการ ตีความคุณ drop333

บทความนี้ ไม่เห็นมีใครสรุปเลย 
ผมขอสรุปเลยได้ไหม ที่ คนเขียนที่เป็นสื่อ
เห็น การสัมภาษณ์ ของสื่อวันนั้นแล้ว ไม่สบายใจ
 (อย่าบอกนะว่าเห็นคุณสมัครให้สัมภาษณ์ แล้วไม่สบายใจ )

ที่ด่าสื่อ
  1. น่าสนใจว่า คนทำสื่อทุกวันนี้คิดว่าหน้าที่สื่อคืออะไร และพยายามจะบอกอะไรกับผู้บริโภคสื่อ หรือมิได้คิดอะไรเลย นอกจากพยายามยัดเยียดความเชื่อซึ่งยังต้องตั้งคำถามว่า สื่อเก่งกว่านักการเมืองและคนทั่วไปที่สื่อไม่ชอบ รวมถึงเป็นผู้ยึดกุมความดีและความถูกต้อง

  2.จุดอ่อนของคนทำสื่อ ที่มีจำนวนมากเป็นพวกรู้น้อยคอยรำคาญ แต่มักตั้งตัวเป็นผู้พิพากษาทุกสิ่งในสังคม ขณะที่อ่อนไหวอย่างมากกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตัวเอง

 3.สื่อไทยมักหลงทางในมายาคติและอารมณ์  และดูเหมือนว่าแทบไม่ต้องการข่าวสารอะไรจากคุณสมัคร นอกจากได้ชื่อว่าเถียงชนะคุณสมัคร

4  สื่อกล่าวหาคุณสมัครว่า ก้าวร้าว หยาบคาย และสนับสนุนรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519 แต่ต่อต้านรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เพียงเพราะเป็นตัวแทนคุณทักษิณ ซึ่งสื่อสรุปว่าโกงชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ (แม้จะยังไม่ผ่านกระบวนการตัดสิน และสื่อไม่ยักชี้หน้าประณามคนอื่นๆ ด้วยข้อหาเดียวกัน แม้จะมีพฤติกรรมน่าสงสัยและสมควรประณามไม่ต่างกัน)

5สื่อในเครือเนชั่นเอาจริงเอาจังมากกับการนำเสนอประเด็นคุณสมัคร ยอมรับว่าหลักการสามารถเปลี่ยนแปลง และน่าตกใจว่าหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ The Nation ถึงกับเสนอเป็นข่าวพาดหัวพร้อมภาพประกอบเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 สงสัยยิ่งนักว่า ‘หลักการ’ ที่สื่อเครือเนชั่นกล่าวถึงนั้นหมายถึงอะไร และคนทำสื่อวันนี้เข้าใจเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 อย่างไร

6ใครที่ศึกษาประวัติศาสตร์ย่อมรู้ว่า มีเบื้องหลังอื่นที่ล้ำลึกกว่าคุณสมัครหลายเท่า นอกจากนั้น สถานการณ์ในปี 2519 ยังเป็นเรื่องของการสร้างภาพผีคอมมิวนิสต์ที่อันตรายมากต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยฝ่ายรัฐบาลทหาร

 7ขณะที่สถานการณ์ปี 2549 เป็นการสร้างภาพผีทักษิณ โดยฝ่ายเกลียดรัฐบาลทักษิณ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายอำนาจที่ไม่พอใจอำนาจของทักษิณ

8ยังเป็นคำถามว่าทุกฝ่ายที่ร่วมกันขับไล่คุณทักษิณนั้น มีพฤติกรรมต่างจากข้อกล่าวหาคุณทักษิณหรือไม่

9สื่อในเครือเนชั่นและสื่ออื่นๆ ที่ยังอยากทะเลาะกับคุณสมัครด้วยข้อหาเดิมๆ คงต้องศึกษาอีกมาก

นับว่า คุณ นิธินันท์ ยอแสงรัตน์ สอนคุณหย่องดีมาก

 ผมสรุปให้  จนกว่าจะมีหลักฐานครับ


เจ้าของบทความ จินตนาการไปเอง

ไร้ข้อเท็จจริง ไร้หลักฐานที่จะพิสูจน์ได้

เป็นการพยายาม แปลขาวเป็นดำ มีวาระซ่อนเร้น

พยายามเขียนคลุมเครือ เพื่อให้คนเคลือบแคลงสถาบันต่างๆ

ชี้ทางให้สักหน่อย

ยุคนั้น สมัคร ดุศิต อุทิศ อุทาร สุดสาย แล้วก็ตี๋ง  ปิดฉาก ถนอม ประภาส ณรงค์ เสนีย์

ลองไปประติดประต่อบุคคลเหล่านี้


ส่วนสถาบันทางการเมืองก็ อย่างที่ทราบกัน


สถาบันอื่นๆ ก็รับผิดชอบตัวละครเป็นรายๆไป

ให้เข้าใจอย่างนี้ ทุกสถาบัน มีทั้งคนดีคนเลว รวมทั้งสื่อด้วย

หากหย่องมีข้อผิดพลาด ก็เพียงน้อยนิด เมื่อเทียบกับสมัคร

และการจินตนาการจนสังคมหลงทางของเจ้าของบทความ..


หาสิ่งยืนยันมาให้ได้ ว่าเบื้องหลังพวกที่ฆ่านักศึกษาอย่างโหดเหี้-ยมคือใคร? แต่ที่แน่นอน ก็มาจากลมปากของ พวกไม่รู้จริง แต่อยู่ในเหตุการณ์

นี่แหละครับ ตาบอด ใจบอดคลำช้าง ยังมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ปากไม่มีหูรูด ปากกาก็ใช่ว่าจะมีหูรูด  

สรุปในประเด็นเนชันคือ

การเปิดโอกาสให้กับบทความนี้ ก็เป็นการใจกว้างเพื่อให้หลายคนได้รับรู้ว่าความคิดไม่ดีแม้ไม่ปิดกั้น มันจะยิ่งสร้างปัญหากับเจ้าของความคิด

หรือเป็นไปได้อีกรณีหนึ่งคือ เป็นกุศโลบายของเนชัน ที่จะกระตุ้นเตือนสังคม เพราะว่าเนชันไม่จำเป็นต้องเล่นข่าวแบบนี้

เขาก็ดังอยู่แล้ว อยู่ที่จะรักษาระดับอย่างไร ต่างจากพวก ที่ออกไป เพราะหวังจะเรียนลัด ทางอาชีพสื่อ หรือนักการเมือง

ผมเขียนวิพากษ์ซ้อนวิพากษ์ เกี่ยวกับเรื่องนี้

โอเคเนชั่นก็ขึ้นแนะนำให้ ผมมองว่าเป็นแค่ความเห็นที่แตกต่างเท่านั้น

จะว่าไปหากคุณนิธินันท์ อยากได้คำตอบจริง ๆ เค้าเป็นผู้บริหารระดับสูงในเนชั่น

ก็แค่ยกหูไปถาม หัวหน้าข่าวหน้าหนึ่งก็คงได้คำตอบ

แต่การที่ออกมาเขียนวิพากษ์ตัวเอง วิพากษ์หน่วยงานตัวเอง ก็น่าจะมีผลดีอยู่บ้าง

แต่ไม่แน่ใจว่า คุณนิธินันท์จะได้คำตอบที่ต้องการหรือไม่

ปัญหาเรื่องท่าทีของสื่อต่อนักการเมือง บางทีมันก็มีมุมมองที่แตกต่างได้ โดยเฉพาะบนโต๊ะข่าว

http://www.oknation.net/blog/canthai

ทักษิณ จะเข้าคุกเร็วกว่านี้  ถ้าไม่มีพวกเห็นแก่เงิน  พวกที่มีวาทกรรม  ฟังดูมีตรรกะ แต่จริง ๆ  ไม่มี

มาสร้างความวุ่นวาย มาบิดเบือน  ให้ ปชช  ที่พวกมันดูถูกว่า โง่  ไม่เข้าใจ ว่า อะไร ถูก อะไร ผิด

แต่เพราะสิ่งที่เรียกกันว่า  ตะแบงหรือ ศรีธนชัย  ของพวกมีสื่อ  พวกทนาย พวกนักวิชาเกิน ฯลฯ
เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด  นี่ เอง  ทำให้  ทักษิณ  ยังไม่ติดคุก  และยังมาเป็น รบ  โกงบ้านเมืองจนล่มสลาย ทั้งศีลธรรม จริยธรรม

ยิ่งเจ็บช้ำน้ำใจหนักหนา  ที่พบว่า  ส่วนหนึ่ง คือ พวก ที่ชอบอ้้างคนเดือนตุลา (ทุเรศ )

คนเดือนตุลา ที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนมาก  เป็น คนหาเช้ากินค่ำ  เป็นคนธรรมดา มีอาชีพสุจริต  และคนพวกนี้
มี ปัญญา  พอที่จะแยกแยะว่า อะไร ถูกอะไร ผิด  ทักษิณ โกงชาติ เพื่อ ผลประโยชน์ของครอบครัวอย่างไร

แม้จะรู้ว่า  การเมือง บ้านเราเป็นอย่างไร  แต่ก็มิได้มีความเห็นผิด ถึงขนาด จะบอกว่า  "สมัคร แก้ตัวไม่ขึ้น"
และ "ประชาธิปไตยของสังคมไทย ก็เป็นของคนมีสตางค์และมีอำนาจ”

ประชาธิปไตย เป็นของ ปวงชนชาวไทย --------------แต่ ที่ มันเป็น ของ คนมีสตางค์ อำนาจ  เพราะอะไร เราควรช่วยกันอย่างไร...
-------------------------

ในสังคมไทย -- เชื่อว่า มีคนไทยจำนวนหนึ่งที่ไปใช้เสียงโดยไม่ ซื้อ--ขาย ---  และคงเลือกโดยพิจารณาจากนโยบายเป็นสำคัญ
คนเหล่านี้ จะมีกี่ เปอร์เซ้นต์ ไม่รู้  แต่มีแน่นอน 

การที่ นักเลือกตั้ง กลุ่มหนึ่ง เข้าสภา ได้ โดย ซื้อสิทธิ ขายเสียง  ทำให้ไปสู่ข้อสรุป ว่า ประชาธิปไตยของสังคมไทย ก็เป็นของคนมีสตางค์และมีอำนาจ” 
ไม่น่าจะถูกต้อง
----------------

พระพทุธเจ้า บัญญัติ ศีล ห้า ให้ ปชช  ยึดถือ เพื่อความสงบสุขของ ตนและครอบครัว
พิจารณาจากเนื้อหา  ย่อม อธิบาย ได้ถึงความสงบสุขที่จะเกิดขึ้น กับตนและครอบครัว
และพบว่า มีคนจำนวนหนึ่ง ยึดมั่นใน เบญจศีล และ เบญจธรรม และมีความสงบสุขในครอบครัว

ความจริงระดับหนึ่ง ก็พบว่า  สังคมเต็มไปด้วย คนละเมิด ศีล ห้า  กระทั่ง ห้ามเล่น การพนัน  แต่ รัฐ ก็ส่งเสริมให้คนเล่นพนัน
-------แล้ว ปชช ก็เห็น-------- เราเลยตั้งคำถามว่า  ---  ศีล ห้า มีจริง หรือ ---  คิด กัน ง่าย ๆ แค่นี้ หรือ

การที่คนติดการพนัน  เป็น ความผิด ของคนที่เล่นพนัน หรือ เป็น ความผิด ของ พระพุทธองค์ ที่บัญญัติ ศีล ห้า

ทำไม  ไม่้มอง  สิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐบาล ทักษิณ  แทนการมาเขียน วาทการรม เพราะ ๆ แต่ขาด ตรรกะ ไม่ดูความเป็นจริง
ทำไม ต้องยุบสภา  ทำไมฝ่ายค้านต้องบอยคอต  ทำไมต้องยุบพรรค   ทำไมเลือกตั้ง ๒ เม.ษ. ต้องเป็น โมฆะ
ทำไม..... ทำไม ไล่ ไปทีละเรื่อง  ก็น่าจะเห็น ได้ว่า  ทำไม  ทักษิณ ต้องติดคุก

ถ้า สื่อ ช่วยชี้แจง เรื่องเหล่านี้  กับ ปชช รากหญ้า ถ้า ทุก ๆ คนช่วยกัน ไม่เห็น แก่ เงิน ท่อน้ำเลี้ยง  ฯลฯ

ปชต  คงไม่ใช่เป็นของคนมีสตางค์ และมีอำนาจ

ตัวอย่าง
(แต่ต้องยอมรับว่า  ทุกคนเห็นแก่อำนาจเงิน)  แม้ว ซื้อทีมฟุตบอล ได้ไง  ถ้า โอนเงิน จากไทย  แบงค์ชาติ ก็ต้องรู้
ถ้ารู้ แล้ว ยัง ปล่อยให้ โอน ออก ไป แสดงว่า อะไร  เงินซื้อได้  หรือ มีเงิน อยู่ต่างประเทศ  ทำธุรกิจ อะไร ทำได้อย่างไร ในเมื่อ รธน ห้ามไว้
แล้วเอาเงินที่ไหน  --- มีคำถาม เกี่ยวกับพฤติกรรม พฤติการณ์ ของ แม้ว ที่หาคำตอบไม่ได้  นอกจาก เพราะ ฉ้อฉล

อย่างที่เคยพูด นะ  ปชช ต้องยืนอยู่บนขาของตัวเอง  ไม่ประมาท  มีคุณภาพชีวิตที่ดี  ยึดในหลักเศรษบกิจพอเพียง
มั่นคงในศีลธรรม

---  เงิน  ของ เฮี้ย ตัวไหน ก็ ซื้อไม่ได้ ---------- 

-----------------------
ป.ล.  ไม่ได้อ่านบทความนี้ ด้วยท่าทีของ สื่อ พวกเดียวกัน มา สั่งสอน กันเอง ไม่สนใจ

แต่การนำเสนอเนื้อหา ไปเปรียบเทียบว่า  สมัคร  โดน สื่อ  ด่า เพราะ เป็น ตัวแทน ของ ทักษิณ  ที่ ถูก ทำให้เชื่อ ร้อยเปอร์เซ็นต์

ตรงนี้ ต่างหาก ที่พยายามชี้ ให้เห็น ว่า คน เขียน  ไม่มีความเป็น สือ  สุจริต ใจ  เช่น ที่ ด่า สื่อ ด้วยกัน

ใครจะสั่งสอนใคร ในวงการสื่อ เอง ก็รู้หรอก ว่า ใคร เป็น ไง  ข้าพเจ้า เป็น คน นอก

อีกอย่าง สื่อ เปิด โปง นักการเมือง เลว ๆ  ไม่ดีตรงไหน

ป.ล. มางง ไร กะ ข้าพเจ้า  อิอิ :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

เง้อ...บทความนี้ ไปโดนใจฝ่ายเชียร์แม้ว ยกย่องมุมมองกันใหญ่โต อิ อิ

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6057619/P6057619.html

ก็เค้าบอกว่า อย่าไปทะเลาะกับสมัคร มันก็แค่บอกว่า คนอย่างสมัคร "ไม่มีราคา"

ที่สำคัญ ในมุมมองหากอ่านอย่างพินิจ มันก็แค่บทความด่าทหาร

ทำไมเราจะถามนายสมัครไม่ได้ว่า "นายสมัครคิดต่อต้านการปฏิวัติจริงหรือ?" ก็แค่นั้นเอง

ถ้าไม่ยกเหตุการณ์ในอดีตมาเปรียบเทียบ เราจะให้คนอ่าน คนฟังได้เปรียบเทียบความเป็น 2 มาตรฐาน ของนายสมัครได้อย่างไร

คุณนิธินันท์ ก็ไม่ได้ให้ทางออกไว้ซะด้วย อิ อิ

ไปอ่านบล๊อก ลุงแคน มา

เอาเป็นว่า  ข้าพเจ้า อ่าน บทความนี้ แล้ว  ไม่เห็นด้วยกับ ประโยคที่ว่า

สื่อกล่าวหาคุณสมัครว่า ก้าวร้าว หยาบคาย และสนับสนุนรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519 แต่ต่อต้านรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เพียงเพราะเป็นตัวแทนคุณทักษิณ ซึ่งสื่อสรุปว่าโกงชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ (แม้จะยังไม่ผ่านกระบวนการตัดสิน และสื่อไม่ยักชี้หน้าประณามคนอื่นๆ ด้วยข้อหาเดียวกัน แม้จะมีพฤติกรรมน่าสงสัยและสมควรประณามไม่ต่างกัน)


เขาเป็น สื่อ  ด่า สื่อ ด้วยกัน  แต่ เขา ก็ทำตัว ไม่ต่าง จากที่เขา ด่า คนอื่น  --- ความเห็น  ---

ด้วยการใช้ วาทกรรม ที่บิดเบือน  ฟัง เหมือนมี เหตุผล แต่ จริง ๆ ไม่มี  เต็มไป หมด ในทุก ย่อหน้า

แต่ ข้าพเจ้า ไม่ใช่ สื่อ  เป็น คนอ่าน  จึงวิพากษ์ แบบ คนอ่าน ที่มอง คนเขียน ที่ เต็มไป ด้วยอคติ

หน้าที่ให้ข้อเท็จจริง  ไม่ปรากฏ ในบทความแต่ เต็มไปด้วย การบิดเบือน  เขียนมาได้ อย่างไร  ประโยคนี้ 
แล้ว จะไป ว่า  สื่อ คนอื่น

ย่อหน้าที่ยกมา น่าจะประเมินว่า "นิธินันท์" ตีความผิด ไม่ตรงกับสิ่งที่อยู่ในใจสื่อ

หรือแม้แต่พวกเราที่เป็นฝ่ายตรงข้ามทักษิณ ก็ใช่ว่าจะไปเห็นดีเห็นงามกับฝ่ายปฏิวัติไปซะทุกเรื่องทุกราว

ผมถึงบอกว่า การเพิกเฉย หรือ ไม่ให้ความสำคัญกับสมัครนั้น

มีนัยะสำคัญที่ต้องตีความ เมินเฉยกับการทะเลาะกับสมัคร

แต่จะเชื่อไปด้อย่างไรว่า สมัครจะไม่หาเรื่องทะเลาะสื่อ

ในเมื่อสมัครเองก็เชื่อลึกๆว่า ด่าคนอื่น คือได้คะแนนเสียง

ด่าดีๆ มีคะแนนเสียง ด่าสื่อเลว ได้คะแนนเสียง ด่าคมช. รัฐบาล ซึ่งอ้างผลงานเศรษฐกิจ ได้คะแนนเสียง

แต่คนพวกนี้ไม่คิดว่า คมช. รัฐบาล สนช. สภาร่าง ได้สร้างผลงานอะไรมาบ้าง

การหาเสียงแบบด่าคนอื่น จึงมิใช่เรื่องที่น่าชื่นชม ผมว่าน่าขยะแขยงมากกว่า

เข้าไปอ่านในบล๊อก ลุงแคน มา
อ่านแล้ว ก้ยังคิดเหมือนเดิม คือสื่อทำตัวไม่เหมาะสม
ไม่ว่าแต่ก่อนนี้ยันวันนี้สมัครจะดีเลวอย่างไร
เช้าวันที่สัมภาษณ์ วันนั้น ก็ยังเหมือนเดิมครับ คือ สื่อทำตัวไม่เหมาะสม
ไม่ให้เกียรติแขกรับเชิญ จงใจฉีกหน้าตัวแทนพรรคพปช  ไม่เป็นกลาง

แต่สุดท้าย ก็มือไม่ถึง หมดรูปสื่อ

ปล.ผมเห็นด้วยกับ 3 คห.แรกในบล็อกลุงแคนด้วยนะ    :slime_smile:

อคติบังตา ทั้งเฉลิมและสมัครกลายเป็นคนดีกว่าสื่อที่ถามคำถาม


คงต้องจบที่ ประณามกองเชียร์และสื่อ ที่ไม่ยอมตามนักการเมืองที่ตนสนับสนุนไปติดคุก


ได้แต่เย้วๆ อยากชนะ ประเทศจะมีปัญหาเพราะคนเหล่านี้. อย่าไปเสียเวลาสนใจวิจารณ์อย่างที่ผมบอกแต่แรก


แม้แต่จะโต้ตอบ บางที่เห็นแก่นักวิจาณ์ทั่วไปมากกว่า แต่ก็ต้องระวังอย่าให้สังคมเข้าใจผิดครับ.

คนเดือนตุลา ตัวจริงอยู่ที่ไหน??
Posted by amalit1990 , ผู้อ่าน : 92 , 22:25:37 น.   
 พิมพ์หน้านี้



เมื่อวานนี้ที่ทราบกันว่าผมไปงาน รำลึก14ตุลา

ผมพึ่งมาทราบว่ามันมีสองงาน หรืออาจมากกว่านี้

คืองานที่คณะศิลปะศาสตร์ ธรรมศาสตร์ โดยกลุ่มหลักอยู่ที่กลุ่ม นปก หรือ นปช ในปัจจุบัน และนายจาตุรณน์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย

และงานที่หลัก คือที่สี่แยกคอกวัว หรือ อนุสาวรีย์14ตุลา ซึ่งจัดทุกปี

ซึ่งงานหลังนี้ผมได้ไปร่วมงาน และเขียนไว้ในอันที่แล้ว

จากการเท่าที่มองดูแล้วงานหลักนี้ มีผู้มีชื่อเสียงไปร่วมเยอะกว่า ในสายของคนไม่เอาทักษิณ

แต่การแยกกันของอดีตเหล่าคนเดือนตุลา นั้นไม่ว่าจะแยกในด้านความคิดหรืออุดมการณ์

จากการมองดูอยู่รอบนอก คือการแตกแยกกันในด้านการเมืองเป็นสำคัญ

และเนื่องจากสาเหตุที่เด่นๆ เลยคือ เรื่องทักษิณ และเผด็จการ

คนเดือนตุลาหลายคน มีความรู้สึกรวมในการ ไม่ต้องการระบบรวมอำนาจ

และคนเดือนตุลาหลายคน ที่ไม่ยอมรับในระบบ รวมอำนาจประยุกต์ หรือเผด็จการทุนนิยม

และอีกหลายๆคน ที่ไม่ยอมรับทักษิณ หรืออีกส่วนหนึ่งที่ยอมรับทักษิณ และทำงานกับทักษิณ

แต่ก็มีอีกบางกลุ่มซึ่งตัดสิ้นแล้วทุกสิ่ง

ซึ่งคนหลายคนในนี้ จะแสดงออกทางด้านข้อเขียน ข้อคิดเห็น

หรืออาจจะออกมาในการแสดงออกต่างๆ

หากมองเข้าไปแล้วในความแตกต่างๆ เราจะมองเห็นความขัดแย้งกันมานานแล้วของแต่ละกลุ่ม

ดูได้จากข้อเขียนของอาจารย์หลายๆท่าน เช่นอาจารย์เสกสรรค์ อาจารย์ธงชัย และคนอื่นๆ

เนื่องจากความแตกต่างทางด้านต่างๆ

ผมจึงมองเห็นว่าคนกลุ่มนี้บางคนยังเกาะความเป็นตุลาของตนอย่างเหนียวแน่น

เพื่อความได้เปรียบในการนำเสนอของตนเอง

ทั้งที่บางคนแล้วอุดมการณ์มิได้ออกนำมาใช้นานแล้ว

แต่ความเป็นตุลา ก็สามารถนำมาใช้ในการอ้างประชาธิปไตยให้ตนเองได้เสมอ

กับอีกคนบางกลุ่มซึ่งแสดงให้เห็นท่าทีประนีประนอมกับรัฐบาลเผด็จการ เพราะต้องการความประชาธิปไตยมากกว่า

แต่กลับโดนคำว่าคนตุลา รัดคอให้กลายเป็นคนอีกกลับกลอก โดยคนอีกกลุ่มนึงที่เเสวงประโยชน์จากคำว่าตุลา

จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่บางคนอยากลบอัตลักษณ์คนเกือนตุลาของตนเสีย

เพราะมีบางกลุ่มบางคนนำเอาคำว่าเดือนตุลา มาใช้เสีย โดยตามจริงตนไม่ได้รักประชาธิปไตยเท่าเมื่อก่อนอีกแล้ว

คำว่าคนตุลานี้ อย่าได้หวงแหนมันมากนักเลย

เพราะคนปัจจุบันมันก็จำไม่ได้หรอกเพราะวันนี้เป็นวันอะไร

ขนาดคนตุลายังแบ่งเป็นสองพวก

แล้วคนประชาธิปไตยจริงๆจะอยู่ตรงไหน
 

สื่อ ดี ไม่ ดี คนอ่าน วิเคราะห์ ได้ 
สื่อจะ ด่า สื่อ ด้วย กันเอง ก็ เรื่องหนึ่ง  แต่ การโยง  สมัคร ทะเลาะ กับ สือ กับ คนหนี หมาย ศาล อย่างที่ผู้เขียน  ทำ  ยอมรับไม่ได้
สำหรับคนอ่าน อย่าง ข้าพเจ้า  ยังยืนยันว่า  ขาด เหตุผล จึงทำให้ ว่า  การวิพากษ์ สื่อ เป็นไป ด้ว อคติ จึงไม่สมควร ว่า คุณ หย่อง

-------------------
4  สื่อกล่าวหาคุณสมัครว่า ก้าวร้าว หยาบคาย และสนับสนุนรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519 แต่ต่อต้านรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เพียงเพราะเป็นตัวแทนคุณทักษิณ ซึ่งสื่อสรุปว่าโกงชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ (แม้จะยังไม่ผ่านกระบวนการตัดสิน และสื่อไม่ยักชี้หน้าประณามคนอื่นๆ ด้วยข้อหาเดียวกัน แม้จะมีพฤติกรรมน่าสงสัยและสมควรประณามไม่ต่างกัน)

- ในข้อนี้มี 2 ประเด็น
ประเด็นแรก-สำหรับกรณีพฤติกรรมสมัคร ในเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 สามารถหาอ่านได้จากบล็อคของผม เกี่ยวกับพฤติกรรมของ"เผด็จการสมัคร" โดยเฉพาะกับการทำงานของสื่อในยุคนั้น

ประเด็นที่ 2 การเป็นตัวแทนทักษิณ แสดงถึงความไม่มีวุฒิภาวะของตนเอง ยินดีทำทุกอย่างเพียงเพื่อให้ตนเองได้ด่าป๋า ด่าทหาร ด่าคนที่ทำให้คนที่ตนเองหวังพึ่งพา ( ทักษิณ ) ต้องกระเด็นจากอำนาจ

-------------- ถึงบอกไง ว่า คนอ่าน ที่ขาดข้อมูล ตรงนี้  คงเออ ออ ไป ด้วย  อันตรายมาก สำหรับคนระดับนี้

ย่อหน้าถัดมา ก็ เช่นกัน  เป็น ความเห็น ที่ สัก แต่ ว่า แสดง ออกไป

ยังเป็นคำถามว่าทุกฝ่ายที่ร่วมกันขับไล่คุณทักษิณนั้นมีพฤติกรรมต่างจากข้อกล่าวหาคุณทักษิณหรือไม่ หรือเพียงบริโภคคำน้อยกว่า แบ่งปันผลประโยชน์ลงตัวกว่า (ซึ่งยังคงมาไม่ถึงประชาชนส่วนใหญ่) แต่เรื่องอื่นเดินตามรอยเดียวกัน เช่น เห็นแก่หน้าพวกพ้องคนรู้จักก่อนคนอื่น เห็นแก่ประโยชน์และกำไรสูงสุดของตนก่อนคนอื่น ฯลฯ

พ่อค้าแม่ค้า ปชช ฯลฯ  พันธมิตร ไปร่วมขับไล่ นี่ ได้ ผลประโยชน์ อะไร

อย่าเอา สื่อ เลว  นักธุรกิจ เลว ๆ  นักเลือกตั้ง เลว ๆ ที่ ทำเพื่อผลประโยชน์ มา สรุป ความคิด ผิด ๆ ของ ตนเอง
--------------------

เอาเป็นว่า ถ้า จะ ด่า สื่อ  กันเอง เขียนอะไร ให้ มันชัดเจน อย่า ลาก มา เหมา ๆ  คนอ่าน ทั่วไป ที่คิด เป็น  มี

--------------

คุณอมฤต ---------- คนเดือนตุลา จริง ๆ ตายหมดแล้ว  ที่เหลือ คือ คนที่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์

 :slime_smile:

ไปลอยกระทง ก่อน นะ   :slime_bigsmile:

อ้าว มาให้ข้อมูลต่อ อีกหน่อยว่า

ผมมองว่าเป็นแนวร่วมมุมกลับของเนชั่นเอง คือพยายามจะใช้มุขส่วนตัวลอยตัว ซึ่งเป็นมุขโบราณของสื่อโบราณ

แสดงว่า เจ้าของบทความ เป็นอีกท่านหนึ่งที่กำลังจะตกยุค อะไรไม่ว่า เหตุผลอ่อน หลักฐานข้อเท็จจริงก็ไม่มี


คนไม่ค่อยได้เขียนก็อย่างนี้ เอาเวลาไปสัมนา กับคุณหญิงคุณนายมากไปหรือเปล่าครับ..?

แต่อย่าเขียนอีกเลย เขียนเชียร์สือผมก็ไม่อ่านหรอก ..ยกชฎาให้แล้วกัน  ยกให้เขียนเชียร์อภิสิทธิ์และปขป.ก็แล้วกัน

ต้องขออภัยกองเชียร์อภิสิทธิ์  โทษเจ้าของกระทู้กับกองเชียร์สมัครแล้วกัน ข่าวซุบซิบแบบนี้เห็นในเว็บบอร์ดนานแล้วแต่ไม่เคยเห็นมีหลักฐานสักราย

ไม่มีอะไรหรอก เท่าที่คุยกันกับพี่คนหนึ่งในเนชั่น มันเป็นมุมมองส่วนตัวของพี่ป้อม แต่สำหรับผมเห็นว่าพี่เค้าคงไม่ต้องการที่จะให้ความสำคัญกับอารมณ์ของนายสมัครมากเกินไปกระมังครับ เพราะที่ผ่านมานายสมัครดูเหมือนจะแย่งชิงพื้นที่ข่าว ด้วยการสร้างศัตรูกับสื่อ จนทำให้ภาพของพื้นที่ข่าวผิดเพี้ยน ที่ผ่านมาการทำข่าวเลือกตั้ง แทนที่จะถกถึงนโยบาย กลายเป็นว่าต้องมารับมือกับเสพเมถุน และขายตึกมากกว่า ดีม่ดีเสนอมากๆ นายสมัครดัง จากเดิมที่จะดับมอด

พี่ป้อมเค้าเป็นคนที่มีมุมมองเป็นของตนเอง และเป็นมุมมองที่ต่างซึ่งน่ารับฟังอย่างยิ่ง ใครที่จะอ่านก็ทำใจกลางๆ แล้วรับเอาสิ่งที่เธอได้อธิบาย ไม่ต้องไปมองว่าพี่เค้าเขียนด้วยวัตถุประสงค์อันใด เรากับเขาคงมองไม่เหมือนกัน อย่าตีตนไปก่อนไข้หรือสันนิษฐานโดยที่เจ้าของความคิดเค้าไม่รู้เรื่อง อย่างเช่นบางความเห็นมองว่ากอบกู้ศักดิ์ศรี ก็ว่ากันไปตามแต่ที่มุมมองของแต่ละคนคิด

เนชั่นหาทางเทรดตัวออกไปดีกว่า   บทความกลวงแบบนี้


จะเขียนวิจารณ์สื่อ ดันไม่เข้าใจจรรยาบรรณสื่อเสียเอง :slime_doubt: :slime_cool:

ขอเพิ่มให้ชัดเจนว่า

คุณอมฤต ---------- คนเดือนตุลา จริง ๆ ตายหมดแล้ว  ที่เหลือ คือ คนที่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์

นอกนั้นเป็นพวกกากเดน ๖ ตุลา

ทํศนะคนราชดำเนิน

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6059576/P6059576.html

วันอาทิตย์ ที่ 25 พฤศจิกายน 2550
ค้างคาใจ  
Posted by นิธินันท์


หลังจากข้อเขียนเชิงวิพากษ์สื่อคราวก่อน กลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองระดับหนึ่ง ข้าพเจ้าซึ่งเป็นผู้เขียน รู้สึกค้างคาใจยิ่งนัก จึงเห็นสมควรนำเสนอที่ค้างคาใจให้หายสิ้นไปบ้าง บางประเด็น ดังนี้

๑.

มีคนทำสื่อหลายคนที่เชื่อในความรู้ที่เป็นกลาง และ การแสวงหาความรู้ที่เป็นกลาง หรืออีกนัยคือ ความจริงจากรอบด้าน โดยปราศจากอคติหรือพยายามมีอคติให้น้อยที่สุด เพียงแต่ไม่ได้ส่งเสียงออกมาเท่านั้น เพราะไม่เห็นประโยชน์ของการส่งเสียงเท่ากับพยายามทำงานในส่วนของตัวเองไป 

๒.

คนทำสื่อที่เชื่อในความรู้ที่เป็นกลางและการแสวงหาความรู้ที่เป็นกลางเพื่อนำเสนอแก่ผู้บริโภคสื่อนั้น มิใช่คนดีวิเศษกว่าคนทำสื่อที่ไม่เชื่อเรื่องนี้ ใครที่เห็นด้วยกรุณาอย่ายกยอ มันเว่อร์ มันเซ็ง รับไม่ได้ กระอักกระอ่วนป่วนท้อง ส่วนใครที่ไม่เห็นด้วยอยากอาเจียนใส่นิธินันท์ผู้พูดซ้ำซากชวนอาเจียน ก็ยินดีรับ

ขอยืนยันอีกครั้งว่า มันเป็นเพียงความเชื่อที่แตกต่าง และถ้าจะ “เล่น” คำ ก็คือ เราที่เชื่อเรื่องความเป็นกลางก็ “เลือกข้าง” เหมือนกัน คือเลือกเชื่อความเป็นกลาง เพียงแต่เราเชื่อว่า ในทางปฏิบัติ การเลือกแบบของเรา จะเข้าใกล้ความจริงได้มากกว่า และสามารถนำเสนอภาพที่ใกล้ความจริงได้มากกว่า ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคมากกว่า

๓.

ข้าพเจ้าเชื่อว่า ความเชื่อที่ว่า สื่อต้องเลือกข้างและไม่สามารถเป็นกลาง ถูกบิดเบือนไปนิดนึง
เมื่อมีผู้พยายามยืนยันว่า มันเป็นวิธีปฏิบัติแบบเดียวที่ถูกต้องของการทำสื่อ

๔.

ข้าพเจ้าหาใช่แฟนคลับของคุณสมัครไม่ ข้าพเจ้าชอบคุณสมัครตอนทำกับข้าวและเลี้ยงแมว
และบางทีก็ชอบตอนปากร้ายว่าน่ารักดี โผงผาง ตรงไปตรงมาดี

แต่ข้าพเจ้าไม่ชอบคุณสมัครตอนที่เป็นนักการเมืองปากร้าย เพราะในเวลาที่คุณสมัครมีตำแหน่งและควรจะต้องตอบคำถามที่คุณสมัครเกี่ยวข้องเพราะต้องรับผิดชอบโดยตำแหน่ง คุณสมัครไม่ค่อยยอมตอบดีๆ


บางครั้งข้าพเจ้าก็เหมือนจะเข้าใจคุณสมัคร เพราะบางครั้งข้าพเจ้าก็เป็นคนปากร้ายใจดี แต่ข้าพเจ้าไม่คิดว่าคนเราควรจะใช้เป็นข้ออ้างว่าก็นิสัยฉันเป็นอย่างนั้น ฉันจึงด่าคนได้เรื่อยไป

ในกรณีเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ นั้น คุณสมัครไม่มีหลักฐานอะไรเลย นอกจากความเชื่อก็เที่ยวพูดจาให้ร้ายนักศึกษาและธรรมศาสตร์อย่างแรง ประมาณว่านักศึกษาเป็นญวนต่างชาติและธรรมศาสตร์มีอุโมงค์เก็บอาวุธ ข้าพเจ้ามีเคือง

กล่าวโดยสรุป ให้เลือกคุณสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี ข้าพเจ้าไม่เลือก แต่กระนั้นข้าพเจ้าก็ไม่เกลียดคุณสมัคร ความรู้สึกคือเฉยๆ ไม่รักไม่เกลียด และไม่แค้นฝังใจกรณี ๖ ตุลาคม แม้จะไม่เคยลืมคนตาย แต่สำหรับข้าพเจ้า ไม่จำเป็นต้องแค้น ข้าพเจ้าอาจเป็นมารร้าย แต่ไม่ใช่มารร้ายในหนังสือกำลังภายในของจีน

กรณีคุณสมัครกับสื่อ ข้าพเจ้ายืนยันความเห็นว่า ไม่มีประโยชน์ที่สื่อจะเสียเวลาทะเลาะกับคุณสมัคร เพราะทั้งสื่อทั้งผู้บริโภคสื่อต่างก็ไม่ได้อะไร ไม่มีอะไรใหม่

๕.

ข้าพเจ้ามิใช่แฟนคลับคุณทักษิณเช่นกัน แต่ขอแสดงความนับถือคุณทักษิณว่ามีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการบริหารบ้านเมืองและได้นำเสนอโครงการที่ดีหลายโครงการ เช่น สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ ซึ่งโครงการดีมาก แต่ระบบทำงานแย่มาก เพราะไม่มีใครสนใจความก้าวหน้าของประเทศอย่างจริงจัง เท่าการหาคะแนนเสียง

ส่วนที่ไม่ชอบเกี่ยวกับคุณทักษิณโดยเฉพาะเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เขียนหลายครั้งแล้ว โดนแฟนคลับคนรักคุณทักษิณด่ากระเจิงหลายรอบแล้วตั้งแต่คุณทักษิณอยู่ในตำแหน่ง แต่ข้าพเจ้าก็หงุดหงิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองนี้ ในกรณีคุณทักษิณ และรู้สึกตลกดีที่เราป้ายความผิดทุกอย่างกันง่ายๆ ให้คุณทักษิณเหมือนคุณทักษิณเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 

สำหรับข้าพเจ้า เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เราส่วนมากมิได้พยายามมองภาพใหญ่ให้เห็นทั้งระบบ จึงมองข้ามที่มาที่ไปของปัญหาทั้งหมด ได้แต่แก้ปัญหากันแบบสะเปะสะปะ เฮโลไปกับเสียงปี่กลองประเภทฆ่ามัน ฆ่ามัน เอามันออกไป เอามันออกไป จนเกิดเป็นการรัฐประหาร

ข้าพเจ้าเชื่อว่ามันเป็นความเชื่อเทียมที่ถูกสร้างขึ้นว่า ไม่มีทางออกอื่นที่จะแก้ความขัดแย้งของประชาชนในชาติ ณ เวลานั้น นอกจากไล่คุณทักษิณออกไปเดี๋ยวนี้ แต่คนที่ส่งเสียงดังแล้วจับมือกับทหารคงลืมไปว่า ความขัดแย้งเกิดขึ้น เพราะสังคมมิได้มีแต่พวกเรา หากยังมีพวกเขา คนรักคุณทักษิณ ซึ่งไม่มีโอกาสสมานฉันท์กับคนไม่รักคุณทักษิณ เพราะคนไม่รักคุณทักษิณโจมตีคุณทักษิณที่พวกเขารักทุกวัน ด้วยข้อหาร้ายแรงถึงขั้นล้มล้างราชบัลลังก์ อยากเป็นเจ้ามหาชีวิต ซึ่งพิสูจน์ได้ง่ายว่าไม่จริง ไม่เหมือนกรณีผลประโยชน์ทับซ้อนทางธุรกิจที่มีมูล

คนไม่รักคุณทักษิณลืมไปว่ามีคนอีกมากที่รักคุณทักษิณและไม่ต้องการไล่คุณทักษิณ มีคนอีกมากที่ไม่รักคุณทักษิณแต่ไม่ต้องการรัฐประหาร และเขารอเวลาเปลี่ยนรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตยได้ ในการรอคอยนั้น ชาติบ้านเมืองมิได้บรรลัยเพราะถูกนักการเมืองหัวเซ็งลี้จับมือกับข้ารัฐการช่วยกันกอบโกยโกงกินมากไปกว่าที่เคยเป็นมาสักกี่มากน้อย

คนเหล่านี้ที่ถูกผลักให้เป็นคนละพวกกับคนไม่รักคุณทักษิณจะไปอยู่ที่ไหน พวกเขาไม่ใช่คนไทยเหมือนกันหรือ พวกเขาโง่ ด้อยค่า และต้องถูกกำจัดทิ้งเพราะพวกเขาคิดไม่เหมือนเราที่เสียงดังกว่าเพราะมีสื่อในมือและได้จับมือกับทหารหรือ

ตราบใดที่ยังเห็น "พวกเขา" เป็น "พวกเขา" ที่แย่กว่าเรา โง่กว่าเรา และเลวชาติชั่ว ความขัดแย้งก็ไม่มีวันหมด

เป็นไปไม่ได้ที่ความขัดแย้งจะหายไปเพราะพวกเขาหยุดคิด หยุดพูด หรือถูกสั่งให้หยุดคิด หยุดพูดในสิ่งที่พวกเขาคิดและเชื่อ

๖.

ใกล้เลือกตั้งแล้ว แต่ดูเป็นเรื่องปลอมๆ พิกลเมื่อพูดถึงเรื่องนโยบายพรรคโน้นพรรคนี้ ซึ่งส่วนใหญ่หนีไม่พ้นประชานิยมทำนองเดียวกับประชานิยมที่ถูกกล่าวหาว่า“สามานย์” ของคุณทักษิณ และปลอมหนักเข้าไปอีกเมื่อเอาเข้าจริงก็กลายเป็นเรื่อง เลือกทักษิณหรือไม่เลือกทักษิณ และเหมือนตอนลงประชามติรัฐธรรมนูญ ที่รัฐทหารใจดีให้ลงมติแต่ชี้นำว่า ต้องรับรัฐธรรมนูญเพื่อความสงบของบ้านเมือง

ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ ขณะฝ่ายสนับสนุนพรรคพลังประชาชนเสนอแบบสิ้นคิดว่า ถ้าเลือกพรรคนี้คุณทักษิณจะได้กลับมา และถ้าต่อต้านรัฐประหารต้องเลือกพลังประชาชน ก็เริ่มมีคำชี้แนะทั่วไปว่า ถ้าเลือกพรรคพลังประชาชนบ้านเมืองจะไม่สงบ

ข้าพเจ้าไม่ชอบใจวิธีการครอบงำความคิด “เพื่อบ้านเมืองสงบ” แบบปลอมๆ แบบที่เกิดขึ้นในประเทศไทย มันลดค่ามนุษย์เป็นหมูในเล้า

ข้าพเจ้าชอบใจคำพูดของเพลโตที่พูดไว้เมื่อ ๒๕๐๐ ปีก่อนว่า ประชาธิปไตย เป็นระบอบการปกครองที่มีเสน่ห์ และปราศจากความเป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะมันให้ความเสมอภาคแก่ทุกๆ คนที่ไม่เสมอภาคกันในสังคม แต่คนจำนวนมากฟังอย่างนี้คงอยากอาเจียนใส่ข้าพเจ้าและบอกว่าไม่เห็นต้องตามก้นฝรั่ง ประชาธิปไตยแบบไทยๆ เกี่ยวอะไรกับเพลโต

ความในใจสุดท้ายของวันนี้คือข้าพเจ้าไม่ชอบเป็นหมู  
 
http://www.oknation.net/blog/nithinand

หมายเหตุ บทความนี้โพสท์ในราชดำเนินไม่ผ่าน...( กระทู้ข้างบนนั่นแหละ...)
ไม่รู้ว่าหยาบคายตรงใหน อิ อิ

สำหรับท่านที่ไม่อยากเข้าไปอ่านในราชดำเนิน
อัพเดทอาสาเก็บกระทู้ไปไว้ที่ กระท่อมน้อยของลุงแคนครบถ้วนกระบวนความ
http://www.weopenmind.com/board/index.php?topic=5771.0

คนไม่มีจุดยืน มีสองมาตรฐาน ย่อมไม่สามารถตอบคำถามได้อย่างตรงไปตรงมาได้
คนพวกนี้มักใช้วิธี "มึงก็เลว" ในการหลีกเลี่ยงการตอบคำถาม ตัวอย่างที่ดีคือ หมัก เมถุน และ ทักกี้
จบข่าว

ข้าพเจ้าเนื่องจากร่วมวงวิจารณ์แบบคนวงนอก ---- ดูเฉพาะเนื้อหา ที่ ผู้เขียนนำเสนอ
และแสดงความเห็น แบบ คนอ่านทั่วไปคน หนึ่ง  ที่ เข้ามาอ่าน 
ไม่ ขอ ร่วมวง การวิพากษ์ สื่อ เรื่อง จุดยืน ของ เนชั่น และ จุดยืน ของนายสมัคร  เรื่องหลักการ หรือ ???   

--- แต่   “ภาษาไม่ได้สื่อเฉพาะข้อเท็จจริง แต่สื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกและทัศนะคติ ของ คน”  ดังนั้น

๑.  ความรู้สึกที่แสดงออกด้วยถ้อยคำ ต่อเหตุการณ์  ที่มี ผลต่อ ปชช  ประเทศชาติ...

ในกรณีเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ นั้น คุณสมัครไม่มีหลักฐานอะไรเลย นอกจากความเชื่อก็เที่ยวพูดจาให้ร้ายนักศึกษาและธรรมศาสตร์อย่างแรง ประมาณว่านักศึกษาเป็นญวนต่างชาติและธรรมศาสตร์มีอุโมงค์เก็บอาวุธ ข้าพเจ้ามีเคือง

-----  คนมีหลักการในการทำสื่อ อย่างผู้เขียน  น่ารัก ซะ ไม่มี   กับ ข้อความที่ว่า  .....  ข้าพเจ้ามีเคือง....
สมัครใช้สื่อที่มีอยู่ในมือ โจมตี ..... จนกลายเป็นชนวน.... แม้ พวก กระทิงแดง บุก มาใน ม.ธ  สื่อในมือ สมัคร ก็ไม่ยับยั้งที่จะ ......  ความรู้สึก ของ ผู้เขียนที่แสดงออก ต่อ เหตุการณ์ครั้งนี้ คือ  ข้าพเจ้ามีเคือง

น่ารัก ดี จัง 

๒   เมื่อเทียบกับถ้อยคำที่ใช้ในอีกกรณี

ข้าพเจ้ามิใช่แฟนคลับคุณทักษิณเช่นกัน แต่ขอแสดงความนับถือคุณทักษิณว่ามีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการบริหารบ้านเมืองและได้นำเสนอโครงการที่ดีหลายโครงการ เช่น สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ ซึ่งโครงการดีมาก แต่ระบบทำงานแย่มาก เพราะไม่มีใครสนใจความก้าวหน้าของประเทศอย่างจริงจัง เท่าการหาคะแนนเสียง

น่าประทับใจแทนทักษิณ มาก ที่มี คนเห็น ว่า  เป็น คนมีวิสัยทัศน์ .... แต่คนทำงานไม่ได้เรื่อง

ทักษิณ  ไม่เคยมีความคิด ที่จะ ทำความเจริญให้ประเทศ นองจาก การหาคะแนนเสียง  ทำไม ถึง อยากได้คะแนนเสียง  เพื่อเข้าไปกอบโกย หาผลประโชน์ ให้กับตนเอง
อ้างอิงจาก คำแถลงการณ์ (สื่อ คงหาอ่านฉบับเต็มได้)
สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในสถานะนายกรัฐมนตรี กำลังกระทำอยู่ในบ้านเมืองขณะนี้ เป็นเรื่องที่ท่านประเสริฐ นาสกุล อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ เคยวินิจฉัยเตือนสังคมเอาไว้แล้ว ตั้งแต่ครั้งที่มีการพิจารณาคดี “ซุกหุ้น” ของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ในครั้งนั้น แม้เสียงข้างมากของตุลาการศาลศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีความผิด (8 ต่อ 7) แต่ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น พร้อมกับให้แง่คิดเตือนไว้ว่า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้น ผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”

นี่คือ  อุดมการณ์ของนักการเมือง  --- ไม่ใช่ นักเลือกตั้ง ----  ไม่รู้ว่า  ข้อความนี้ ผู้เขียน จะเห็นว่า เป็นความเชื่อเทียมหรือไม่ ----- สุดแท้แต่ใจจะฝันเฟื่อง
วิสันทัศน์ ของ  คน ซุกหุ้น ไว้ที่คนใช้ คนขับรถ  ---  จะเข้าไปเรียน ในมหาวิทยาลัย  ยังต้องโกง --- คนมี  วิสัยทัศน์  คิดแต่ จะโกง อย่างไร  จะเอื้อธุรกิจ ของตนอย่างไร  นี่หรือคนมีวิสัยทัศน์ -----

ช่างน่าประทับใจจริง ๆๆ    อ้า   อาจจะเป็นความเชื่อเทียมก็ได้   อ.แก้วสรร  นี่ สร้างความเชื่อเทียม...

๓. จริงด้วย ค่ะ  ช่างตลก จริง ๆๆ  ที่  สังคม สื่อ  ป้าย ความผิด ให้ทักษิณ  ตลก มากจริง ๆ อย่างที่ คนเขียน พูด
ตลกมากเลย กับการจ้างพรรคเล็ก ลงเลือกตั้ง เพื่อหนี ๒๐  เปอร์เซ็น  , ตลก มาก ที่พ่อเถ้า แม่เถ้า คนสงขลา ไปนั่งหน้า หน่วย กตต สงขลา  กราบพวก นอมีนี่ ว่า อย่าลงสมัครเลือกตั้งเลย  ตลก มาก เลย สำหรับคนที่มีวิสัยทัศน์

ตลก จริง ๆ ด้วย  ที่คน ๆ  หนึ่ง ถูกใส่ร้าย ได้ง่าย มากเลย  รวมทั้ง คำพิพากษา ให้ยุบพรรค  นี่  ก็ เป็นการใส่ร้าย

ส่วนที่ไม่ชอบเกี่ยวกับคุณทักษิณโดยเฉพาะเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เขียนหลายครั้งแล้ว โดนแฟนคลับคนรักคุณทักษิณด่ากระเจิงหลายรอบแล้วตั้งแต่คุณทักษิณอยู่ในตำแหน่ง แต่ข้าพเจ้าก็หงุดหงิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองนี้ ในกรณีคุณทักษิณ และรู้สึกตลกดีที่เราป้ายความผิดทุกอย่างกันง่ายๆ ให้คุณทักษิณเหมือนคุณทักษิณเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 

ยุติการวิพากษ์
........
ประชาธิปไตยจะประสบผลสำเร็จ  หากปัจจัยดังต่อไปนี้มีอยู่ ท่ามกลางประชาชนผู้มิสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๑ :  ๑. ศีลธรรม  ๒. ความรู้หนังสือ ๓. ความตื่นตัวทางสังคม  เศรษฐกิจ และการเมือง  มิฉะนั้นแล้วประชาธิปไตยก็คือเครื่องมือลวงประชาชน  (prabhat ranjan  sarkar  alias  anandamurti  founder  of  ananda  margi, indai ---  จากหนังสือ คำคมบ่มชีวิต  กรุณา  กุศลาสัย แปล  หน้า ๕๐)
(ถึงแม้อุดมคติ จะสำคัญ  แต่ ความเป็น จริง  ก็ สำคัญไม่แพ้กัน)

๑. ศีลธรรม
ถามว่า  รบ  ในอดีต  มี ศีลธรรม จริยธรรม หรือไม่  ....  คำตอบ  คือ  ไม่   ดังคำแถลงการณ์ของท่านประเสริฐ นาสกุล  และ พฤติกรรม  พฤติการณ์ ต่าง ๆ  ที่ปรากฏให้เห็น  ... โดยเฉพาะ คำพิพากษา   

แต่ ถ้า มา ปรามาส กัน ว่า เป็น ความเชื่อเทียม  ก็  ไม่มีประโยชน์ ที่จะคุยต่อ

คนรักทักษิณ  หรือ คนไม่รักทักษิณ  ไม่เอาเผด็จการ   ข้าพเจ้า  เข้าใจ  คนพวกนี้  และไม่ได้เกลียดชังอะไร
แต่ --- พวกคนรักทักษิณ  ต่างหาก ที่แสดงกิริยา วาจา  ให้ร้าย  จาบจ้วง....... นปก  กลุ่มคนวันเสาร์

คนไม่เอาทักษิณ  ที่เห็น ก็ แค่ เขียนความเห็น ตามเวปปบอร์ด  ตาม bloger  ข้าพเจ้า ไม่เห็นว่า  จะมีใครที่ หยาบคาย ก้าวร้าว  ป่าเถื่อน  จาบจ้วง  อย่างเช่น  เพื่อน ๆ ในเสรีไทย ที่ ไม่เอา ทักษิณ  ก็มีอารมณ์ขัน  หน็บแนม สนุกสนาน  ข้าพเจ้า เสียอีก ที่  จริงจัง  กับการ เกลียดทักษิณ (ฮ่า ๆๆๆๆๆ) 

ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น รุนแรง  มาจากพวก ทักษิณ – บวกกับ  เงิน ท่อน้ำเลี้ยง

๒.   ความไม่รู้หนังสือ ------- -ข้อนี้  ขอ ข้าม คิดว่า  คงหาคำตอบกันได้
๓.   ความตื่นตัวทางสังคม  เศรษฐกิจ และการเมือง
ข้าพเจ้า เป็นคนมองโลก แบบมีความหวัง  --  ความขัดแย้ง เรื่อง เกี่ยวกับทักษิณ  มัน เด็ก ๆ  นะ  จริง ๆ แล้ว  สังคมได้เรียนรู้เยอะ  นะ  ลองมองดู ให้ดี  ๆๆๆ   (พ่อค้าแม่ขายที่ข้าพเจ้ารู้จัก  ก็รู้ว่า  ซุกหุ้น เป็น อย่างไร
แล้วยังมีอีกหลายเรื่อง.... )

ข้าพเจ้าคิด ว่า ส่วนหนึ่ง แล้ว เราเลือกความถูกต้อง ความยุติธรรม  เราไม่ได้มอง แค่ ว่า นั่น พปช  นี่ ปชป
เพียงแต่ว่า  ในขณะปัจจุบัน  มันคือ สิ่งที่เราต้องตัดสินใจ

ความถูกต้องประการหนึ่ง – ที่ประจักษ์ คือ  การที่พรรคการเมืองถูกศาลตัดสินยุบพรรค นักการเมืองถูกลงโทษ

 ศีลธรรมและจริยธรรม มันควรจะบอกว่า  ต้องยุติ  (เหมือน กรณี ของคุณสนั่น )  แต่  สิ่งที่คนใน พปช  ทำ เป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม อย่างสิ้นเชิง  ------  หาก ปชช  มองดู ด้วยใจ ที่ เป็น ธรรม  มันก็ จะ ยุติ ได้   เพราะ  ปชช  ไม่ได้ เลือก ข้าง ว่า นี่ทักษิณ  นั่นพันธมิตร  --- แต่เพราะ ปชช อยากจะเลือกข้างความถูกต้อง ความยุติธรรม  เมื่อ เราพบว่า  อีก ข้าง  เป็น อธรรม -----  แต่ หาก ปชช  ได้รับข้อมูล  ได้รับคำอธิบาย  ... ข้าพเจ้า เชื่อว่า  คนไทย  รัก ความยุติธรรม  แต่ตนเอง ครอบครัว สังคม  --- 

ความจริงสมมุติ กับ ความจริงสูงสุด (ปรมสัจจะ)   ต้อง เข้าใจ  รู้  ประจักษ์  ก็ จะ  ยุติ ลงด้วย ธรรม

คุณนิธินันท์ เป็นบุคลากรระดับครูบาอาจารย์ ของเครือเนชั่นครับ

เข้าใจว่าประสานงานกับคณะนิเทศศาสตร์ ม.หัวเฉียว และมี ห้องเวิร์คช้อปด้านนิเทศศาตร์ ใน เครือเนชั่นด้วย

การที่ครูบาอาจารย์ จะออกมาประท้วง ติติงสื่อที่ตนเองสังกัด ก็ไม่เสียหายอะไรครับ

ที่สำคัญมิได้ให้น้ำหนักเฉพาะที่เนชั่นอย่างเดียว แต่มองสื่อทั้งระบบ

ก็แค่ความเห็นที่แตกต่าง แต่ผู้เขียนก็ได้แสดงจุดยืนและชี้ให้เห็นอีกมุมมองที่มองเข้าไปในสื่อเนชั่นและสื่ออื่นๆ

และเมื่อเขียนแล้วยัง "ค้างคาใจ" เพราะเกรงว่าจะมีผู้เข้าใจผิดหรือนำไปเป็นเครื่องมือทางการเมือง

จึงมีบทความออกมาซ้ำ เมื่อตีสามเมื่อคืนนี้ครับ...

กระทู้ในราชดำเนินเรื่องนี้ น่าจะสงบ สันติ ไปแล้ว ก็นับว่าเป็นบุญที่เค้าปล่อยให้มีความเห็นที่แตกต่าง

แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่า ข้อเขียน "ค้างคาใจ" ของคุณนิธินันท์ หยาบคายตรงใหน

ถึงไม่สามารถ "ผ่านระบบ" ของ ราชดำเนิน

หรือว่าจะต้องให้คุณนิธินันท์ เขียนเรื่อง "ถามหาความเป็นกลางในราชดำเนิน" อีกซักที อิ อิ

การที่ครูบาอาจารย์ จะออกมาประท้วง ติติงสื่อที่ตนเองสังกัด ก็ไม่เสียหายอะไรครับ

ที่สำคัญมิได้ให้น้ำหนักเฉพาะที่เนชั่นอย่างเดียว แต่มองสื่อทั้งระบบ

--------------------- ไม่เสียหาย หรอก  ดี เสียอีก  ที่ มีคนออกมาติติง สื่อ  --- มองทั้งระบบ หรือ  -- ไม่หรอก --- ฉันว่า นะ

แต่  การ ติติง สื่อ  ด้วยสิ่งที่เรียกว่า "มุมมอง" ของ คนเขียน  ด้วยท่าที  เนื้อหา  ของผู้เขียน ที่นำมาเขียน ต่างหาก

ที่ทำให้ " ต้องขอแย้ง "  เพราะ ไม่ได้ แสดงให้เห็น เลยว่า จะ "ติติง" สื่อ ตรงไหน นอกจาก  การให้"ความเห็นที่ ขาด เหตุผล ต่อ คนอ่าน

-------------- คุณ แคน จะ ตำหนิ ข้าพเจ้า  ก็พูดมาตรง ๆ  ถ้ามีเหตุผล  -----------------

ทำไม หรือ  ถ้าเป็น ครู บาอาจารย์แล้ว  ทุกสิ่งที่พูด ทำ  ต้องถูกเสมอ หรือ 

---------- หรือ เพราะ  ฉัน เป็นใครที่ไหน  บังอาจมาวิจารณ์  -- เจ้าของ บทความ  ----------------- 

ด้วยความเคารพ --- ฉัน เล่น กับเนื้อหา อย่างเดียว ------------

ป.ล.  คุณปุถุชน สรุป ได้ตรงดี  แต่หลีกเลี่ยง...

คุณแคน ว่า มา ฉัน จะฟัง ----- 

ความหลากหลายในความคิด เกี่ยวกับการปฏิวัติ เช่น

1. ชอบทักษิณ ไม่ชอบปฏิวัติ
2. ไม่ชอบทักษิณ และไม่ชอบปฏิวัติ
3. ไม่ชอบทักษิณ แต่จนใจที่ต้องมีปฏิวัติ
4. ชอบทักษิณ และชอบใช้กำลัง ความเด็ดขาด

กรณีของบทความ มี 2 ส่วน ส่วนแรกเกี่ยวกับการนำเสนอและท่าทีของสื่อ ต่อ นายสมัคร

ผู้เขียนชี้แจงภายหลังว่า "รู้สึกเฉยๆ กับนายสมัคร" ก็ต้องยกให้เป็นเรื่องส่วนตัว

ส่วนคนอื่นที่คิดต่าง ก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะทำตามที่ตนเห็นว่าชอบว่าควร

ส่วนที่สอง เป็นเรื่องความคิดเห็นเรื่องความชัดเจนของกระบวนการตรวจสอบทักษิณ
ก็ต้องบอกว่า กระบวนการตรวจสอบสมัยทักษิณไม่เปิดโอกาส การตรวจสอบในยุคหลังก้เริ่มส่งผลถึงศาลแล้ว

ผิดถูกก็ต้องไปว่ากันในศาล แต่ประชาชนส่วนหนึ่งก็ตัดสินในใจไปแล้ว ไม่ว่าจะออกมายังไง ทักษิณก็คือคนเลว

คนผิดกับคนเลว เป็นคนละเรื่องกันนะครับ ถ้าแยกตรงนี้ออกก็จะชัดเจนในแนวคิด

คนเลวบางคนก็ไม่ได้รับผลผิด เช่นนายสมัคร และกลุ่มก๊วนรัฐบาลหอย

คนเลวแบบทักษิณ อาจจะรอดพ้นผิด เพราะการพิจารณาคดีในศาลมีข้อจำกัด

คนเลวแบบพวก 111 สัมภเวษิณ กำลังดิ้รนจะขอนิรโทษกรรมและกำลังไม่ยอมรับความผิด

คนเลวกับคนผิดจึงอาจเป็นคนเดียวกันหรือคนละคน คนละพวกก็ได้

ผมคิดว่า หากวิเคราะห์ตามนี้ ผู้เขียนบทความ ( คุณนิธินันท์ ) ยังก้ำกึ่งว่าอยู่ในกลุ่มใหน

จะว่าไป การเลือกตั้งครั้งนี้ก็ "ปลอมๆ " เหมือนเธอว่าเหมือนกันนะ อิ อิ

ผมขอเล่น เจ้าของบทความต่อครับ..

อย่าเขียนบทความในฐานะสื่ออีกเลย

เขียนในบล็อกส่วนตัวก็พอ

ไม่เห็นจะช่วยให้สื่อไทยดีขึ้นได้เลย จากบทความของคุณ

สังคมวุ่นวายมากกกว่า เพราะสับสนกับบทบาทสื่อของคุณครับ 


คือเริ่มสงสารเครือเนชันมากขึ้น หากเปิดโอกาสโดยไม่ตรวจสอบบทความก่อน..

 :slime_fighto: :slime_cool: :slime_doubt:


มาถึงตรงนี้ ก็ขอเตือนนักตัดแปะบทความมืออาชีพตามเว็บบอร์ดด้วยครับ

อย่าเอาบทความมาแปะเฉยๆ โดยไม่รับผิดชอบ ไม่สนทนา ไม่มีที่มาที่ไป..

อาจจะเรียกว่าพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายป่วนบอร์ดก็ได้ เพราะขาดความชัดเจนว่าต้องการสื่ออะไร?โดยเจตนาครับ..

มาตอบ ลุงแคน

กรณีของบทความ มี 2 ส่วน ส่วนแรกเกี่ยวกับการนำเสนอและท่าทีของสื่อ ต่อ นายสมัคร
ผู้เขียนชี้แจงภายหลังว่า "รู้สึกเฉยๆ กับนายสมัคร" ก็ต้องยกให้เป็นเรื่องส่วนตัว

------------------  ช่างเถอะ เรื่อง นายสมัคร เพราะ ความจริง ตั้งแต่ มีเรื่อง นี้ ฉัน ก็เคยมีความเห็นไปแล้ว อย่างคุณแคนว่า “ ไม่ให้ราคา”  และก็ไม่อยากโต้แย้งอะไร  แต่ เจ้า ของ บทความ ยกเรื่องมาประกอบ ข้อเขียน โดยขาด ความรับผิด ชอบ ในความเห็น ของตน สมกับที่เป็นสื่อ
--- ในแวดวง  ไม่มีใครให้ราคากับสมัคร --  ทั้งนั้น  ไม่ใช่เพราะ การประกาศตัวว่าเป็น นอมินี ของทักษิณ
แต่เพราะสิ่งที่ ทำในอดีต (ไม่ใช่เฉพาะเรื่อง ใน มธ.นะ รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ด้วย)
สื่อ เนชั่น ตีข่าว เรื่อง  ตุลา  ฉันว่า น้อย ไปด้วย ซ้ำ  อ่านที่คุณแคน ลง ใน wom  ยังได้ อรรถรส กว่า (พูดจริง นะ)
เพราะฉะนั้น จะมาติงสื่อ ด้วยเรื่อง สมัคร --- อย่างที่เขียน  -- ขอประทานโทษ จริง ๆๆ  รับไม่ได้
----------------
แต่ประชาชนส่วนหนึ่งก็ตัดสินในใจไปแล้ว ไม่ว่าจะออกมายังไง ทักษิณก็คือคนเลว
ผมคิดว่า หากวิเคราะห์ตามนี้ ผู้เขียนบทความยังก้ำกึ่งว่าอยู่ในกลุ่มใหน

 มา ท่าที ที่มีต่อ  นายทักษิณ  ของผู้เขียน  ---- 
เขา เป็น นายก รมต  ของ ประเทศไทย นะ เขาไม่ได้นายหมา นายหมู ที่ไหน
ที่จะไม่ให้ ปชช ทั้งประเทศ  ลงความเห็น หรือ ตัดสินในใจ

การขัดขวางกระบวนการตรวจสอบ ---------  ก็ทำให้การ ตัดสินในใจ  มันง่ายขึ้น เท่านั้น  แต่ 
การตัดสินในใจ ของ  ปชช  ไม่มีความหมายหรอก  --- ต้องเป็น การตัดสินของศาล จึงจะมีผล ----- 
นั่นต่างหาก ที่สำคัญ ------------- ผู้เขียนจะ ติง สื่อ  ว่า อย่า ชี้นำประชาชน  เพราะ ปชช เชื่อ สื่อ
สื่อ บอกผิด  ก็คือ ผิด  สื่อ บอก ถูก ก็ คือ ถูก ---------  ยังไงก็ตาม (ตรง นี้ อาจมองแง่ดี ก็ได้  ว่า เตือนคนอ่าน)
--------------แต่  การตัดสินของใคร ก็ไม่สำคัญเท่ากับ การตัดสิน ของ ศาล -----------

ฮ่าๆๆๆๆๆ  การเลือกตั้ง ปลอม ๆๆ  หรือ  มัน ปลอม มาตั้งแต่ ๒๔๗๕  แล้ว มั่ง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
---------------
คารวะ  ๆๆๆๆ  ขอยุติประเด็นนี้  ---- ไม่อยาก้าวล่วง ครูบาอาจารย์  ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ---- เด๋วกรรมสนอง----

ขอบคุณ ๆๆ  ที่แลกเปลี่ยนความเห็นด้วย
ป.ล. อ่าน wom  แล้ว ช่างอดทนตอบคำถาม พวก พันทิพ จริง ๆ  (นับถือ จริง ๆๆ) 
:slime_worship:

ในแวดวงวิชาการและปัญญาชน การโต้แย้ง แสดงความเชื่อ แสดงความคิดเห็น ย่อมรับฟังกันได้เสมอ

มันขึ้นกับว่า ผู้โต้แย้งแสดงเหตุผล ตรรกะ หลักวิชาใดมานำเสนอ

เรื่องความเป็นกลางของสื่อ เป็นเสมือน "โลกในอุดมคติ" เหมือน "ยูโธเปีย"

การนำเสนอหลักการหรือหลักวิชาสูงสุด ย่อมมีผลดีให้ผู้ที่ทำหน้าที่ พึงระมัดระวัง

ทะเลาะกันทั้งวัน แต่เมื่อหมดเวลา ต่างก็ลงมาร่วมดื่มชา ชมจันทร์ร่วมกันได้เสมอ

เนื่องเพราะต่างคนต่างก็มี "อัตลักษณ์" เป็นของตนเอง

สังคมประชาธิปไตยก็งดงามเช่นนี้...แล...

ปล. ลูกศิษย์ ก็โต้แย้งอาจารย์ได้เสมอ ไม่เช่นนั้น วิชาการคงไม่เจริญก้าวหน้ามาจนป่านนี้

การโต้แย้งในยุคโบราณ ทำให้เกิดวิทยาการใหม่ๆ เกิดขึ้นในโลกนี้

แต่ทั้งหลายทั้งปวง ต้องไม่ลืมแก่น ไม่ลืมหลัก ที่เป็นที่ยอมรับนับถือ

นั่นคือหลัก ความดี ความงาม และความสงบสันติของสังคม

 :slime_cool:


สื่อดีหาไม่ยาก แต่ข่าวดีๆ ก่อนคนอื่น มักจะแพงและมีต้นทุนสูง

ขึ้นกับคนอ่าน และบรรณาธิการ จะแยกแยะ

ถ้าพูดถึงเว็บบอร์ด เหมือนกับเป็นสือแบบสัมนา คือมีการสื่อสารหลายทาง

สมาชิกจึงมีส่วนมาก และควบคุมบอร์ด ตลอดจนเนือหาได้ยาก

ไปเจอข่าวนี้มา....  มา  เดา กันดีกว่า  ในเสรีไทย  นี่ ใคร จะ โดน บัญชีดำ

 :slime_v: :slime_v:

กรองกระแส

26 พฤศจิกายน 2550    กองบรรณาธิการ

กระดี๊กระด๊ากันใหญ่สำหรับเครือข่ายระบอบทักษิณ ที่เห็นโพลล์หลายสำนักบอกว่าพลังประชาชนกำลังจะวินๆ ฉับพลันก็เลยมีข่าวที่กรองแล้วกรองอีกว่า เวลานี้เครือข่ายอำนาจเก่าทั้งหลายตั้งท่าจะ "เช็กบิล"

    พวกกลุ่มอำนาจปัจจุบันกันยกใหญ่เสียแล้ว
    งานนี้แว่วมาจากย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ผสมย่านแมนเชสเตอร์ ว่ามีการเตรียมขึ้นบัญชีดำกลุ่มบุคคลที่ต้อง "ทวงคืน-เอาคืน" กันแล้ว ไม่มากอะไรแต่รู้แล้วอย่าตกใจสำหรับบัญชีดำครั้งนี้

    ก็เหนาะๆ ประมาณแค่ 100 คนเอง

    อ้าว แล้วถามต่อว่ามีใครเป็นใครบ้างล่ะ เอ้าของแบบนี้เขาไม่ทำแบบประเภทไปสั่งพิมพ์กันเป็นเอกสารเป็นเรื่องเป็นราวแล้วตีตรา "ลับ" เพื่อให้ถูกแฮกเกอร์แบบ คมช.ได้หรอก เพราะไอ้นั่นมันพวก "หน่อมแน้ม" เขาทำกัน เพราะเขารู้กันเป็นภายใน แต่ข่าวว่าคนใกล้ชิดนายใหญ่กำลังรวบรวมข้อมูล และแกะรอยความแค้นสั่งฟ้าเพื่อรอวันเอาคืนอยู่

    ส่วนคนในบัญชีดำนั่นก็คงเดากันได้ แต่ที่น่าประหลาดใจว่าอันดับหนึ่งหาใช่บิ๊กบัง พลเอกสนธิ บุญรัตกลิน อดีตประธาน คมช.ที่ทำปฏิวัติ หรือพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม หรืออดีตแกนนำพันธมิตรอย่าง สนธิ ลิ้มทองกุล หรอกนะ
    เพราะสายสืบรายงานมาแบบไม่สะเด็ดน้ำว่า หมายเลขหนึ่งออกที่

    "แก้วสรร อติโพธิ"

    กรรมการ คตส.นั่นเอง และในบัญชีดำก็ยังมีกรรมการ คตส.อีกหลายคน และคงหนีไม่พ้น  "หญิงเป็ด"  คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา มือปราบคอรัปชั่นผู้โด่งดัง เป็นแน่แท้ แถมมีข่าวว่าอันดับอาจสูงกว่าประธาน คตส.อย่าง นาม ยิ้มแย้ม เจ้าของสำนวนคดียุบพรรคไทยรักไทยด้วยนะเนี่ย ส่วนคนอื่นก็น่าจะเดาได้ไม่ยาก แต่ที่น่าตกใจคือเห็นมีข่าวว่ามีอดีตนายกรัฐมตรี-แกนนำองค์กรเอกชน รวมอยู่ด้วย เอ้ารู้แล้วเลยนำข่าวดิบๆ ชิ้นนี้มาเล่าให้ฟัง.

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

คงต้องกรองมากหน่อยช่วงนี้

ขำพวก หลง หลวงแม้ว  จริงๆ จะเอาคืนจากใน รูลอนดอน ได้ไง?

นักธุรกิจใหญ่ เพื่อนผม ที่ซี้ทักษิณ ยังออกปาก สมน้ำหน้าทักษิณ

ผมเลยไม่รู้ว่า กลับมาเที่ยวนี้ เสี่ยแม้วจะเหลือเพื่อนอีกกี่คน

ตท. 10 ก็หมดโอกาสเจริญเติบโต เพราะโดนย้ายออกนอกไลน์ คอมนานด์ กันหมดแล้ว

เพราะการเจริญเติบโตในกองทัพ ในบกที่ 5 ยกสุดท้าย

หากหลุดแล้วก็หลุดทั้งแผง เหลืออนุพงศ์ อยู่คนเดียว ซึ่งก็เป็นเด็กป๋า

หากเสี่ยแม้วกลับมาจะจ้าง รปภ.อีกเท่าไหร่ถึงจะพอ

เพราะจะใช้ "คนหลวง" เหมือนตอนเป็นนายก คงลำบากแล้ว

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

ให้ทักษิณ ไป เคลียร์  ๒,๕๐๐  ศพ  ก่อน  เหอะ 

ค่อยมาเช็ค อีก  ๑๐๐  ศพ   

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

มีผีคอมมิวนิสต์ ผีทักษิณ

อย่าลืมผีเผด็จการ กับผีศักดินาด้วย

เมืองไทยผีเยอะ คนไทยชอบดูหนังผี :slime_smile2:




วันก่อนฟังท่าน ว.วชิรเมธี บอกในทางคติพุทธ ผีมีจริงๆ นะ
บรื๋อววว์ :slime_sentimental:

mms://clips.tv5.co.th/rerun/2550/siam/siam11_26_50.wmv
อ้างจากรายการสยามเข้านี้
สมัย ทรท เรืองอำนาจ ข่าวของพรรค ทรท มากกว่า ปชป 3 เท่า
แต่สมัยนี้ ต่างกันไม่มากนัก แบบนี้สื่อตอนนี้ดีกว่าหรือแย่กว่าสมัย
ทักกี้ครับ

มีบทความเรื่องเล่าของนักหนังสือพิมพ์ไทย เวลาไปต่างประเทศช่วงหลังปฏิวัติ 19 ก.ย. 49

อธิบายเรื่อง สื่อไทย มีอิสระมากขึ้น ฝรั่งทำหน้างงๆ

เพราะมันเข้าใจว่า ขึ้นชื่อว่าเผด็จการ คงเหมือนกันทั้งโลกคือ ปิดข่าว ข่มขู่สื่อ

นักหนังสือพิมพ์ไทย ต้องอธิบายเป็นคุ้งเป็นแคว

*  สื่อ ......... ก็คือ  พวกเล่นกะข่าวนะแหละ

    เพียงแต่ยุคไหน สื่อ จะแสดงบทบาท แบบไหน !!

    ช่วง แม้ว กร่าง ..........  สื่อก็ไม่ค่อย อ้าปาก  พูดสักเท่าไหร่หรอก

    มาตอนนี้ สื่อ ก็นำเสนอข่าวในอีกรูปแบบหนึ่ง  .........  แล้วไงเหรอ

    จะมาโวยวายให้ หมัก เพราะ ????  ....  เปรียบเทียบ  เพราะ  ????

    กรณี หมัก  จะมาบอกว่าเพราะ หมัก รู้จุดอ่อน สื่อ  มันก็เกินไปนะจ๊ะ    >>  ห มา จะ เห่า เขาก็ลงข่าวให้แล้วนี่นา  <<

    หรือเรื่อง  ตุลา  19  ....  ถ้า สื่อ  ใส่ร้ายกล่าวหาว่าหมักมีส่วนในเหตุการณ์นั้น

    งั้นถามกลับว่า ...  ทำไมเงียบหล่ะเรื่องนี้  ไม่เถียงไปหล่ะว่าไม่จริง     >>  เงียบยังกะ ห มา โดนตะกร้อใส่ปากเลย  <<

    ความจริงบางอย่าง  ....  ถ้ามีใครใส่ความใครแค่ไหน  ยังไงมันก็ต้องพิสูจน์ได้  .........  !!!

    จริง ๆ แล้ว  สื่อ ....  มีให้เลือกหลายแบบ  หาข้อมูลอ่านได้เยอะแยะ .... แค่  หนังสือพิมพ์ก็ไม่รู้กี่ สี แล้ว

    ไหนจะ สื่อ ทางด้านอื่น ๆ อีก ....  ถ้าคนมันจะสนใจ  เขาก็หาข้อมูลทั้งนั้นแหละ

    นักข่าวคนไหน  ...  คอลัมนิสต์  อะไร ....  บทความเรื่องไหน  .... หาไม่ยากหรอก

    อย่าคิดว่า  คน เสพ  สื่อ .........  จะโง่   !!!   คิดผิดคิดใหม่  นะจ๊ะ

ไอ้ที่คุณบอกว่า ยอมรับเสียงข้างมากน่ะนะ คุณ คิดดีแล้วหรอที่พล่ามออกมางี้ คุณจะมาด่าว่าม๊อบไม่ได้หรอกครับ :slime_smile2:

อดีตนักการทูตระดับปรมาจารย์หลายท่านยังบอกเลย ว่า คนที่มันพูดว่า มีม๊อบออกมาแล้วเศรษฐกิจไม่ดีน่ะ มันมุกหลอกให้ควายเชื่อโว้ย

เพราะนักลงทุนต่างชาติเค้ายังมองด้วยซ้ำว่าการชุมนุมโดยสงบ แสดงว่าบ้านเมืองยังมีประชาธิปไตย และเป็นเรื่องที่นานาอารยประเทศเค้าทำกันได้ไม่เสียหาย

คำว่าเสียงข้างมาก ก็ต้องถามอีกว่า มันมาถูกต้องมั๊ยล่ะ พวกช่างซ่อมรถ คนใช้แรงงาน ในต่างประเทศ ยังรู้จักคิดและรู้เท่าทันการเมืองดีกว่า คนมีความรู้ในประเทศเราบางคนซะอีก จะมาบอกว่า การเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตยหรอ  :slime_hmm:

ผมตอบว่าไม่เสมอไปหรอก การเลือกตั้งที่เป็นแบบพิธี ก็มีให้เห็นตั้งมากมาย ในประเทศที่ทรราชย์มีอำนาจ การเลือกตั้งก็แค่การจัดฉากล่ะวะ  :slime_agreed:

ที่สำคัญโว้ย ท่านพุทธทาสเคยกล่าวไว้ว่า ประชาธิปไตยน่ะ มันอยู่ที่ประโยชน์ที่แท้จริงของประชาชน เพราะไอ้ประโยชน์จอมปลอม มันไม่ใช่ประชาธิปไตย
ที่สำคัญต่อให้ประเทศเราเป็นระบบเผด็จการ แต่ทำเพื่อประโยชน์ที่แท้จริงของคนในประเทศมันก็เป็นประชาธิปไตยมากกว่า ประชาธิปไตยจอมปลอมล่ะวะ ที่มันหลอกลวงสร้างภาพให้ควายตามไปกินเศษหญ้ากันเป็นฝูง ท้ายที่สุดก็โดนเชือดซะงั้น แล้ว พ่อง ใครมันจะไปเชื่อว่านี่มันเป็นประชาธิปไตยวะ คนต่างประเทศเค้ามอง ไอ้เหลี่ยม ว่างัยรู้มะ ก็แค่พ่อค้าที่สร้างภาพแสวงหาผลประโยชน์โดยมีการเมืองบังหน้า เค้าถึง งง กันงัย ว่าระบบตรวจสอบตาม รธน.40 แมร่งเป็น ห่ะ อะไร ถึงทำอะไรไอ้พวก กระสือการเมืองอย่างนี้ไม่ได้ เพราะงั้น จำไว้ว่า อย่ามาซุย คิดว่าคนอื่นเค้าโง่รึงัย :slime_evil:

เสียงข้างมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เมิงท่องอาขยาน รึงัยวะ บ้าป่าว ไปตรวจสมองด่วนนะ คนที่เรียนกฎหมายมหาชนไม่ได้มองเสียงข้างมากหรอกโว้ย โดยเนื้อแท้แล้ว เค้ายังมองกันถึงประโยชน์สาธารณะ ให้สมดุลกับประโยชน์ของเสียงข้างน้อย เพราะงั้น มันไม่มีอะไรตายตัวโว้ย มันอยู่ที่ว่า รู้มั๊ยว่าอะไรอะไรถูกอะไรผิดต่างหากเว้ย คนเรียนจบดอกเตอร์ บางคน มันก็เท่านั้นล่ะวะ ถ้าเมิงใช้ทำชั่วซะอย่าง วิชาที่เรียนมาเค้าก็ไม่เรียกว่าวิชา ดิวะ เค้าเรียก อวิชา แล้วจะเรียนไปหาพระแสงอาราย ถามหน่อยดิ เกลียดจิงโว้ย one man one vote?what an imbecile it is the word of jerk contnueously said every time.just so you know "Abusus bysum in vocat">>>"คนชั่วช้ามักพากันไปลงนรก"

สื่อดีหาได้ยาก  แต่เท่าที่มีก็พอรับได้อยู่บ้าง

แต่นักการเมืองดี ยิ่งหาได้ยากมากกว่า

พรรคการเมืองดี ยิ่งหายากไปอีก

 :slime_smile2:

ดีที่เราหลุดจากความเป็น "สื่อ" มาตั้ง 20 ปี อิ อิ