ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: ScaRECroW ที่ 17-08-2007, 13:07



หัวข้อ: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ScaRECroW ที่ 17-08-2007, 13:07
ความคิดเห็นที่ 15
อยากทราบเรื่องที่เหลี่ยมมีสัมพันธ์กับอ้อเล็กจริงเหรอครับ แล้วเจ้หน๋อยมี...กับเหลี่ยมด้วยเหรอครับ แล้วอ้อใหญ่มีข่าวคาวอะไรบ้างครับผม แล้วที่เรียกเจ้หน่อยหลงหอเพราะอะไรครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ..


http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9500000096655


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 17-08-2007, 19:30
หลานตั้งคำถามมาลึกซึ้งยิ่งนัก ป้าถึงกับต้องส่งสายข่าว เหยี่ยวข่าว กระจอกข่าว กระจิบข่าว ออกไปสืบข้อมูล จนงบประมาณอันร่อยหรอของป้าแทบหมด

เรื่องความสัมพันธ์อันล้ำลึก ของหัวหน้ากับลูกน้องนั้น มีในทุกที่แหละจ๊ะ สมภารก็ย่อมมีบ้างที่ชอบฉัน เอ๊ย กินไก่วัด ส่วนคู่ที่หลานถามมานั้น เป็นคำถามที่ลึกแต่ไม่ลับ (ขอขโมยชื่อคอลัมน์ของป้าลัดดามาใช้หน่อยนะ)

คำถามแรกนั้น คู่กรณีหายหน้าไปเป็นเวลานานแล้ว หลังจากกินขาหมูพะโล้มากไปจนอ้วนจ้ำม่ำ  ล่าสุดมีข่าวว่าไปสวีทกับคนตาเหล่ๆ หัวเหม่งๆ ที่ชอบออกมาแถลงฉอดๆๆ เวลานายเข้าตาจนนั่นแหละจ๊ะ

คำถามที่สอง เรื่องนี้หลานต้องเข้าใจว่า บุรุษนั้นบางเวลาก็ต้องเอาไฟส่องหน้า เอาถ้ำยาดมมาอุดจมูก โดยเฉพาะบางคนนั้นหน้ามืดบ่อยๆ หน้ามืดแล้วคลำถ้ำยาดมไม่ใคร่จะถูก คลำไปเจออะไรไม่มีหาง ก็นึกว่าเป็นถ้ำยาดมเรื่อยไป ของอย่างนี้ บางคนเขาเรียกแก้ขัดจ๊ะ จะขัดดอก หรือขัดลายอะไร ป้าก็ไม่แน่ใจ

คำถามที่สาม เคยได้ยินเขาลือกันหึ่งไปแถวตึกสูงย่านโทลเวย์ ถึงดอกเตอร์ชื่อประหลาด ปานๆอะไรนี่แหละ ที่มีห้องสวีทหรูหราอยู่บนตึกย่านนั้น แต่แปลกที่ไม่ยักกะพาเลขาสาวหน้าแฉล้มเข้าไปในห้องสวีท แต่กลับพาเจ้านายหัวพองเข้าไปแทน เขาลือกันมานานแล้ว กระจิบข่าวเลยบินมาบอกป้า

คำถามที่สี่  หอ หึ หึ  คนเราเมื่อมีอะไร แล้วคิดว่าตัวเองมีดี ก็ย่อมจะหลงตัวเองเป็นธรรมดา เมื่อมี หอ แล้วคิดว่า หอ ดี ก็ย่อมหลง หอ ของตัวเองได้ หลงไปหลงมา พึ่งมารู้ตัวว่า หอ ของตัวเองนั้นเก่าแล้ว สู้น้องเดียไม่ได้  หอ ก็เลย เหี่ยว ไปด้วยประการฉะนี้

ศิลาแลง  (ตัวจริง เสียงจริง)


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Body&Soul ที่ 17-08-2007, 19:34
เด็ดขาดจิงๆป้า เจ๋งจิงๆ :slime_agreed:

ดร.คนนั้นชื่อ ปานเดือนคูณสิบสองป่ะครับ :slime_doubt:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Body&Soul ที่ 17-08-2007, 21:52
ป้าศิลาแลงคับ

ผมมีความรักหนักอกอยากปรึกษาป้าคับ จะถามแม่ก็กลัวโดนด่า

เรื่องมีอยู่ว่าผมหลงรักสาวคนนึงชื่อลิเดียร์ เมื่อก่อนเราสัญญาว่ารักกันตลอดไป

แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนใจไปรักผู้ชายแก่คราวพ่อหน้าตาเหมือนเต้าหู้ค้างปี

รวยกว่าผมนิดเดียวเท่านั้น แต่ขณะนี้ผู้ชายคนนั้นกำลังตกเป็นจำเลยในคดีอาญา

หลายคดี ถ้าผู้ชายคนนั้นถูกดำเนินคดีต้องโทษตามกฎหมาย

เธอจะกลับมารักผมเหมือนเดิมป่ะคับ


แมทธิว

 :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 17-08-2007, 23:45
เรียนป้าครับ

ผมเป็นมนายมาหลายปี หาเมียไม่ได้
จนมาเป็นทนาย คนหน้าเหลี่ยมละครับ
เขาให้ผมเดือนนึงก็หลายนะครับ
แต่ผมต้องให้คนเขาด่าอยู่ตลอดเลย ว่าเสียดายทุนหลวง
ตอนนนี้เขาให้ผมเป็นทนายก็ ให้ผมพุดมั่วๆตลอดเลย
อีกอย่างนึงคือ เขายกเมียน้อยให้ผมนะครับ
แต่เมียน้อยเขาชื่อเหมือนเมียเจ้านายเลยนะ
ผมควรรับของเขามั้ยครับ


นพดล ปัดไปปัดมา


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 18-08-2007, 00:07
เรียนถามคุณป้าศิลาแรงค่ะ

ดอกฟ้าฯอยากได้สูตร ซี่โครงไก่ต้มฟัก จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า.....

เจ้าของสูตร เคยทำรายการอาหารอะไรซักอย่าง ประมาณว่า ชิมไปเห่าไป เทือกๆนั้นอ่ะค่ะ

ไม่ทราบว่าคุณป้าจะกรุณาแนะนำให้ได้บ้างหรือเปล่าคะ



ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
:slime_v:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 18-08-2007, 00:36

เรียน  คุณป้าศิลาแรงค่ะ

อธิฎฐานอยากจะเขียนหนังสือสักเล่ม ประเภทเดียวกับ Where are you ของหมวดเจี๊ยบค่ะ ตอนนี้เก็บเงินได้ห้าหมื่นบาทแล้ว แต่ไม่ทราบว่าจะติดต่อสัมภาษณ์ทักษิณได้อย่างไร เงินห้าหมื่นบาทไปกลับอังกฤษ และไปพักสักครึ่งเดือนจะพอหรือเปล่า คุณป้าศิลาแรงกรุณาแนะนำให้หน่อยค่ะ 

ปล.อธิฏฐานเป็นข้าราชการด้วยค่ะ จะโดดงานไปเฉย ๆ โดยอ้างว่าป่วยดีหรือเปล่าคะ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Bo. ที่ 18-08-2007, 07:54
เรียนคุณป้าศิลาแรง

ทำไมวันเปิดตัว "The Corruptions"
แม้วซิตี้ ของ ซิเนตร้า
ถึงไร้เงาหัวของ ป้าอ้อคะ
หรือ จะเป็นไปตามเสียงลือเสียงเล่าอ้างที่ว่า
ที่ไหนมีเลีย เอ้ย เดีย ที่นั่นต้องไม่มีอ้อ

ปล. เมื่อไหร่หนังสือภาคต่อของ Where are you?
คือ He is here!!
จะวางแผงคะ
ติดตามยิ่งกว่า แฮรี่ ป๊อตเตอร์ ซะอีก

น้องโบ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 18-08-2007, 10:01
ป้าศิลาแลงคับ

ผมมีความรักหนักอกอยากปรึกษาป้าคับ จะถามแม่ก็กลัวโดนด่า

เรื่องมีอยู่ว่าผมหลงรักสาวคนนึงชื่อลิเดียร์ เมื่อก่อนเราสัญญาว่ารักกันตลอดไป

แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนใจไปรักผู้ชายแก่คราวพ่อหน้าตาเหมือนเต้าหู้ค้างปี

รวยกว่าผมนิดเดียวเท่านั้น แต่ขณะนี้ผู้ชายคนนั้นกำลังตกเป็นจำเลยในคดีอาญา

หลายคดี ถ้าผู้ชายคนนั้นถูกดำเนินคดีต้องโทษตามกฎหมาย

เธอจะกลับมารักผมเหมือนเดิมป่ะคับ


แมทธิว

 :slime_bigsmile:

หลานแมทธิว

เรื่องความรักหนักอกของผู้ชาย เค้าห้ามไปถามแม่ เพราะแม่ย่อมเข้าข้างลูกชายเสมอ และแม่ผัวย่อมเป็นอริกับลูกสะใภ้ หรือว่าที่ลูกสะใภ้เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ความรักของผู้ชายต้องไปถามพ่อจ๊ะ จะรักกับสาวที่ไหน จะเลิกกับสาวที่ไหน ปรึกษาพ่อมักไม่ค่อยพลาด ถ้าพ่อหน้าเต้าหู้และรวย อาจรับเซ้งต่อได้จ๊ะ

หลานไปรักกับสาวเข้าคนหนึ่ง และสัญญากันว่าจะรักกันตลอดไป ฟังแล้วก็เหมือนสินค้าที่รับประกันตลอดอายุการใช้งาน พอสินค้ามันเสีย เราเอาไปเคลมประกัน เค้าก็บอกว่ามันหมดอายุการใช้งานแล้ว ความรักของหลานที่สัญญิงสัญญากันไว้ ก็คงจะหมดอายุการใช้งานนั่นแหละจ๊ะ ความรักของเด็กแว๊นสาวสก๊อยสมัยนี้ มันมีอายุการใช้งานสั้นจ๊ะ สะบัดก้นลงจากท้ายแมงกะไซด์ ก็ไปกับคนอื่นแล้ว

ส่วนเรื่องคู่รักของหลานเปลี่ยนใจไปรักหน้าเต้าหู้แต่รวยกว่าหลานนิดเดียว ไอ้ที่ว่านิดเดียวนั้นมันเป็นควมเห็นของหลานนะจ๊ะ คนอื่นเขามองอาจจะว่าไม่นิดเดียว แต่มากโขอยู่  และสาวนั้นลองเปลี่ยนใจด้วยเรื่องรวยหรือจน ก็ยากที่จะกลับมาเส้นทางเดิม ลมมักไม่พัดหวน ถึงหน้าเต้าหู้คนนั้นจะต้องคดีอาญาอันใด หน้าเต้าหู้คนอื่นที่รวยกว่าหลานนิดเดียว ยังมีอีกมากจ๊ะ ป้าเองก็มองหาหน้าเต้าหู้รวยๆมาตั้งแต่เป็นสาวน้อย จนบัดนี้ความสาวเหลือน้อย ป้ายังหาไม่พบสักคนเลย แหมน้องเดียร์ของหลานนี่ โชคดีจริงๆ

ป้าว่าหลานหักห้ามใจเสียดีกว่านะ อกหักน่ะมันเรื่องเล็ก แต่อกเล็กน่ะมันเรื่องใหญ่  เอ๊ะ มันเกี่ยวกันไหมเนี่ย

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 18-08-2007, 10:12
เรียนป้าครับ

ผมเป็นมนายมาหลายปี หาเมียไม่ได้
จนมาเป็นทนาย คนหน้าเหลี่ยมละครับ
เขาให้ผมเดือนนึงก็หลายนะครับ
แต่ผมต้องให้คนเขาด่าอยู่ตลอดเลย ว่าเสียดายทุนหลวง
ตอนนนี้เขาให้ผมเป็นทนายก็ ให้ผมพุดมั่วๆตลอดเลย
อีกอย่างนึงคือ เขายกเมียน้อยให้ผมนะครับ
แต่เมียน้อยเขาชื่อเหมือนเมียเจ้านายเลยนะ
ผมควรรับของเขามั้ยครับ


นพดล ปัดไปปัดมา


หลานนพดล

หลานสู้อุตส่าห์ร่ำเรียนวิชาทนายมา ทนายนั้นมีหน้าที่ให้คำปรึกษาและต่อสู้อรรถคดี แต่หลานกลับมาปรึกษาป้า ใครรู้เข้าจะมิเสียหน้าแย่หรือจ๊ะ แต่ก็เอาล่ะ ไหนๆหลานก็บากหน้ามาถามป้าแล้ว ป้าก็จะบากปากตอบไปก็แล้วกัน

การรับเป็นทนายให้กับใครนั้น ทนายย่อมมีสิทธิ์เลือกผู้ว่าจ้าง และมีสิทธิ์กำหนดเงื่อนไขในการรับว่าความหรือเป็นตัวแทนให้ สิ่งไรที่รู้ว่าผิดกฎหมาย หรือลูกความทำผิด ชอบที่ทนายนั้นจะแนะนำให้ลูกความยอมรับผิด โทษหนักก็จะได้กลายเป็นเบา และไม่ผิดศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม ทนายที่ดีนั้น ย่อมไม่หลับหูหลับตาสร้างพยานหลักฐานเท็จ หรือพูดเท็จเพื่อช่วยลูกความให้รอดคดี หรือแก้ตัวน้ำขุ่นๆไปวันๆ ทนายคนใดชอบทำการชั่วเช่นนั้น มักจะตาเหล่จ๊ะ

ปกติแล้วทนายที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม เมื่อรับค่าแรงก็มักจะได้ด้วยการอ่อนน้อมจากผู้ว่าจ้าง เรียกว่าให้เงินแล้วยังใหว้กราบกรานเสียอีก เพราะทนายนั้นจะแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์โดยไม่ผิดทำนองคลองธรรม ให้แก่ลูกความของตน เหมือนเราให้เงินค่าเล่าเรียนแก่ครู ครูนั้นให้วิชาอันเป็นประโยชน์กับเรา เราให้เงินครูแล้วก็ยังสำนึกในบุญคุณ ต้องกราบเพื่อเป็นสิริมงคลในชีวิตเสียด้วย
แต่ทนายชั่วๆนั้น เมื่อรับเงินสกปรก ผู้ว่าจ้างก็โยนให้เหมือนให้ทาน เพราะเห็นในความชั่วของตัวทนาย และเสียดายมือที่จะไหว้ ทั้งๆที่ผู้ว่าจ้างนั้นก็ย่อมสกปรกพอๆกัน ดังนั้นนอกจากเงินแล้ว บางทีอะไรเหลือใช้คิดจะโยนทิ้ง ก็เลยจะโยนทานมาให้ หรืออาจจะคิดกำจัดของเก่าน่าเบื่อ ก็ยืมมือทนายชั่วกำจัดให้ ได้สองต่อสองเด้ง สบายแฮ

หลานสงสัยว่าจะรับดีไหม  ถ้าหลานไม่รับก็หล่นสิจ๊ะ  ของหล่นเดี๋ยวเสียของนะเออ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 18-08-2007, 10:25
เรียนถามคุณป้าศิลาแรงค่ะ

ดอกฟ้าฯอยากได้สูตร ซี่โครงไก่ต้มฟัก จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า.....

เจ้าของสูตร เคยทำรายการอาหารอะไรซักอย่าง ประมาณว่า ชิมไปเห่าไป เทือกๆนั้นอ่ะค่ะ

ไม่ทราบว่าคุณป้าจะกรุณาแนะนำให้ได้บ้างหรือเปล่าคะ

ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
:slime_v:

หลานดอกฟ้าจ๊ะ

เจ้าของสูตรเค้าเคยทักท้วงมาหนหนึ่ง ว่าอย่าเรียก ซี่โครงไก่ ให้เรียกว่า โครงไก่ เฉยๆ คำว่า ซี่ นั้น มันคงแสลงใจเจ้าของสูตรอยู่บ้าง เพราะเจ้าของสูตรนั้น แต่ดั้งเดิมก็มั่งมีศรีสุขพอจะกินเนื้อไก่ แต่มาหลังๆไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะแม้แต่ ซี่โครงพรรค ซี่โครงลูกพรรค ที่เขาถ่มถุยออกมาแล้ว แกก็รับไปแทะต่อได้หน้าตาเฉย หรือนี่มันเป็นนิสัยของคนจมูกบวม  :slime_doubt:

รายการ ชิมไป เห่าไป ที่หลานว่า ป้านั้นคุ้นๆอยู่ เพราะเมื่อเช้า ข้างๆบ้านเขาคลุกข้าวให้ลูกสมุนชิม มันก็ชิมไปเห่าไป แถมยังกัดกันเสียด้วย ตามนิสัยของมันนั่นเอง ทำเอาป้าต้องผวาลุกจากที่นอนแต่เช้าตรู่ โมโหอยู่ไม่น้อย

สูตรที่หลานถามมานั้น ป้าก็พอจะนึกออกดังนี้

ส่วนประกอบ

1. ซี่โครงไก่ จะให้ดีต้องเป็นไก่ ซี้ผี เพราะเจ้าของสูตรดั้งเดิม เขาเอาลูกไปฝากทำงานไว้ที่นั่น
2. ฟัก  จะให้ดีต้องเป็น ฟักแม้ว และเวลาซื้อน่าจะออกสำเนียงฝรั่งให้หนักเข้าไว้ เป็นการสรรเสริญให้พรใครบางคนไปด้วย
3. น้า เครื่องปรุง อันมี รากผักShe (ผักHe ใช้ไม่ได้) พริกไท เกลือ และอยากใส่อะไรก็ใส่เข้าไปเหอะ

วิธีทำ

เอาน้ำใส่หม้อ ใส่รากผักชี พริกไทบุบ และ เอาโครงไก่ใส่ลงไป จะให้ดีบุบประดูกมันซะบ้าง น้ำเลือดน้ำหนองของซากอสุภไก่ จะได้ไหลลงไปปนในน้ำชวนให้อร่อยยิ่งขึ้น ทิ้งไว้สักครู่ค่อยเอาตั้งไฟ แล้วหั่นฟักแม้วใส่ลงไป ตอนหั่น สาปแช่งมันไปด้วย จะทำให้รสอร่อยยิ่งขึ้น เมื่อน้ำเริ่มเดือด ก็ปรุงเอาตามใจชอบ อยากได้รสอะไรก็ประเคนเครื่องปรุงเข้าไป ชิมแล้วถ้ากินได้ก็กิน กินไม่ได้ ให้หมามันกินต่อไป

ปั๊ดโธ่ ถามสูตรอาหารใครไม่ถาม มาถามป้า ลุงน่ะ เค้ากินแล้วเข้าโรงพยาบาลไปสามหนแล้ว ทุกวันนี้ป้าเองก็รับปิ่นโตจ๊ะ ทนฝีมือตัวเองไม่ไหว  :slime_smile2:

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 18-08-2007, 10:36
เรียน  คุณป้าศิลาแรงค่ะ

อธิฎฐานอยากจะเขียนหนังสือสักเล่ม ประเภทเดียวกับ Where are you ของหมวดเจี๊ยบค่ะ ตอนนี้เก็บเงินได้ห้าหมื่นบาทแล้ว แต่ไม่ทราบว่าจะติดต่อสัมภาษณ์ทักษิณได้อย่างไร เงินห้าหมื่นบาทไปกลับอังกฤษ และไปพักสักครึ่งเดือนจะพอหรือเปล่า คุณป้าศิลาแรงกรุณาแนะนำให้หน่อยค่ะ 

ปล.อธิฏฐานเป็นข้าราชการด้วยค่ะ จะโดดงานไปเฉย ๆ โดยอ้างว่าป่วยดีหรือเปล่าคะ

หลานอธิฏฐานจ๊ะ

ถ้าหลานอยากเขียนหนังสือ ความจริงก็น่าจะหาอะไรที่มันเป็นสระมาเขียนนะจ๊ะ อย่ามาเอาอย่างป้า ไร้สาระไปวันๆ

แต่ไหนๆหลานก็อยากแล้ว ป้าก็จะลองแนะนำให้ แต่หลานส่งเพียงคำถามมานั้น ป้าก็ยากที่จะตอบว่า ทำอย่างไรจึงจะได้สัมภาษณ์คนที่หลานอยากสัมภาษณ์ ที่จริงหลานน่าจะส่งรูปถ่ายมาให้ป้าดูด้วย ยิ่งถ้ามีคลิปมือถือ หรือภาพยนต์ที่หลานแสดงเองแล้วแฟนถ่ายไว้ อันนั้นป้าจะได้ใช้ประกอบการพิจารณา เพราะคนที่หลานอยากไปสัมภาษณ์ เขาไม่ได้เลือกผูสัมภาษณ์ที่มีฝีมือในการเขียนหนังสือ หรือเลือกที่สมองคนสัมภาษณ์ เขาเลือกที่ อึ๋ม จ๊ะ

เงินห้าหมื่นบาท ใช้ไปอังกฤษและพักอยู่ครึ่งเดือน สบายมากจ๊ะ เรื่องขี้ผง เริ่มแรกก็จากการเดินทาง หลานก็เดินไป ค่อยๆไปเดี๋ยวมันก็ถึง หรือถ้าเมื่อยน่อง ก็ใช้วิธีเกาะล้อเครื่องบินไป แต่อย่าลืมใส่เสื้อหนาๆ และหาเข็มขัดเซฟตี้เบลท์ติดไปด้วย จะได้รัดตัวไว้กับล้อได้แน่นหนาหน่อย หรือจะเลือกทางเรือ ก็แอบไปลงเรือที่ท่าไหนก็ได้ เลือกท่าเรือเดินสมุทรนะจ๊ะ อย่าไปเลือกท่าเรือคลองแสนแสบ เดี๋ยวจะไปได้แค่ประตูน้ำ อ้อ เตรีมเสยีบง อาทิเช่น พริกกะเกลือ ข้าวคั่ว ไปด้วยล่ะ กลางทะเลไม่มีเซเว่นนะจ๊ะหนู

เมื่อไปถึงลอนดอนแล้ว ก็ไปหาเพื่อนป้า แกชื่อลอร์ดเนลสัน ยืนให้นกพิราบอึรดหัวอยู่แถวทราฟัลการ์สแควส์  บอกแกว่าป้าฝากฝังมา แล้วก็นอนอยู่แถวๆนั้นแหละจ๊ะ ทำตัวให้เหมือนนกพิราบเข้าไว้ อาหารไม่ต้องห่วง จะมีคนมาโปรยให้กินเอง

หลานเป็นข้าราชการ จะโดดงานไปเฉยๆ มันดูไม่มีกึ๋นเลยนะจ๊ะ ป้าแนะนำให้หลานโดดตึกกระทรวงก่อน หลังจากนั้นหลานก็จะได้พักยาว เจ้านายไม่ว่า เพื่อนฝูงไม่บ่น เพราะเห็นคาตาว่าน่าจะได้พักจริงๆ แล้วเอาเวลาพักนั้นแหละจ๊ะ ไปอังกฤษ

รอดกลับมาได้ เขียนหนังสือได้พิมพ์แล้ว ไม่ต้องส่งมาให้ป้านะจ๊ะ ป้าอ่านภาษาฝรั่งไม่ออก เอาแค่ชื่อเป็นภาษาฝรั่งปน ป้าก็วิงเวียนเสียแล้ว

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 18-08-2007, 10:42
เรียนคุณป้าศิลาแรง

ทำไมวันเปิดตัว "The Corruptions"
แม้วซิตี้ ของ ซิเนตร้า
ถึงไร้เงาหัวของ ป้าอ้อคะ
หรือ จะเป็นไปตามเสียงลือเสียงเล่าอ้างที่ว่า
ที่ไหนมีเลีย เอ้ย เดีย ที่นั่นต้องไม่มีอ้อ

ปล. เมื่อไหร่หนังสือภาคต่อของ Where are you?
คือ He is here!!
จะวางแผงคะ
ติดตามยิ่งกว่า แฮรี่ ป๊อตเตอร์ ซะอีก

น้องโบ

หลานโบ

อันที่จริงหลานเข้าใจผิด เป็นเรื่องธรรมดาของโลก ที่ที่ไหนมี น้อย ย่อมไม่มี หลวง  ขืนให้ไปออกงานด้วยกัน งานเปิดตัว "The Corruptions" ก็จะกลายเป็นงานสงคราม และแทนที่จะได้เตะฟุตบอลล์กัน ซิเนตร้า อาจถูกเตะผ่าหมากแทนจ๊ะ  ดังนั้น มีเงาของเดีย ย่อมไม่มีเงาของอ้อ  เรื่องนี้ชาวจีนเค้าว่า มัน ชง กัน

หนังสือเรื่อง He Is Here ข่าวล่าแจ้งว่า อาจจะเปลี่ยนชื่อเป็น She Is Here  และเปลี่ยนคนเขียนเป็นน้องเพ็ญ เพราะตั้งแต่ออกมาจากชุมนุมคนโทษ น้องเพ็ญก็ยังทำปากจู๋ไม่หาย และอยากกลับเข้าไปอีกครั้ง ๆ ๆ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: stromman ที่ 18-08-2007, 13:18
 :slime_bigsmile: :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Suraphan07 ที่ 18-08-2007, 13:49
ดีใจมากเลยครับ ที่เห็นป้าฯ มาช่วยตอบคำถามให้หลานๆและเพื่อนๆที่นี่...
ว่าแล้วก็ขอรบกวน ตั้งสักหนึ่งคำถามน่ะครับ...

พอดีวันก่อนเห็นข่าวพวก นปก.เขาไป "เปิดตูดโชว์" ที่อนุสาวรีย์...
หลังจากนั้นอีกวัน พวกเขาก็นัดกัน "ปล่อยลูกโป่ง" ...

ป้าพอจะตอบได้ไหมครับว่า เขาต้องการส่ง ซิกอะไรให้กันหรือเปล่า...
แล้วถ้าเป็นซิกจริงๆ ต่อๆไป ป้าว่าเขาน่าจะส่งเป็นอะไรกันอีกครับ... :slime_doubt:

ขอบพระคุณมากครับ... :slime_smile:



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 18-08-2007, 14:10
ดีใจมากเลยครับ ที่เห็นป้าฯ มาช่วยตอบคำถามให้หลานๆและเพื่อนๆที่นี่...
ว่าแล้วก็ขอรบกวน ตั้งสักหนึ่งคำถามน่ะครับ...

พอดีวันก่อนเห็นข่าวพวก นปก.เขาไป "เปิดตูดโชว์" ที่อนุสาวรีย์...
หลังจากนั้นอีกวัน พวกเขาก็นัดกัน "ปล่อยลูกโป่ง" ...

ป้าพอจะตอบได้ไหมครับว่า เขาต้องการส่ง ซิกอะไรให้กันหรือเปล่า...
แล้วถ้าเป็นซิกจริงๆ ต่อๆไป ป้าว่าเขาน่าจะส่งเป็นอะไรกันอีกครับ... :slime_doubt:

ขอบพระคุณมากครับ... :slime_smile:

หลานสุรพลซีฟู๊ด (เอ๊ะ ป้าอ่านชื่อถูกไหมนะ)

น.ป.ก.  เป็นชื่อย่อ ป้าก็ได้ยินหลายคนแปลกันไปต่างๆนาๆ จึงได้โทรไปถามที่ 1133 ที่เขาบอกว่าตอบได้ทุกเรื่อง แม่หนูที่รับทำอ้ำอึ้งขอตัวไปค้นหาข้อูล ในขณะที่ป้าก็ออกจะโมโห เพราะเขาคิดค่าถามนาทีละหลายบาทอยู่ กว่าจะได้ความได้คำตอบ ก็เสียสตางค์ไปมากกว่าโทรไปปรึกษาปัญหาเรื่องดวงชะตาเอาการ

น.ป.ก. แปลได้ตามหลักของพจนานุกรมฉบับศิลาแลงว่า " นาย ไป กรง " ซึ่งเมื่อได้ทราบชื่อกลุ่ม ป้าก็ถึงบางอ้อ กลุ่มนี้เขาตั้งขึ้นมาเพราะนายของเขานั้นมีกำหนดการต้องไปกรงขังในเร็ววันนี้ จึงต้องออกมาเต้นแร้งเต้นกาช่วยนายไปตามกำลังเงินที่ได้มา

หลานอาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับการ "เปิดตูดโชว์" อันที่จริงในกลุ่ม น.ป.ก.นั้นเขาเรียกการกระทำในคราวนั้นว่า "เปิดท้ายขายของ" ซึ่งเป็นแนวคิดในการต่อสู้ของน้องเพ็ญ ที่เอาอาวุธส่วนตัวออกปะทะกับศัตรู ใครจะยับเยิน สงครามจบเป็นได้รู้กัน

ส่วนการ "ปล่อยลูกโป่ง" นั้น หากหลานสุรพลได้ไป  "เปิดท้ายขายของ" กับเขาบ้าง หลานจะทราบว่า เมื่อลองได้เปิดท้ายขายของไปแล้ว ลูกโป่งมันก็หมดความหมาย เอามันไปปล่อยเสียให้หมดเรื่องหมดราวจะดีกว่า ไม่เพียง  "ปล่อยลูกโป่ง" ทิ้งไปเท่านั้น ข่าวแจ้งว่าเขายัง "ปล่อยลูกศร" กันอีกอย่างแน่ะ คงกะว่าจะทิ้งของไม่ได้ใช้การไปเสียให้หมด มีไว้คงเกะกะตาจ๊ะ

ทั้งหมดนี้คงไม่ใช่การส่งซิก ส่งเซเว่นกัน หลานอย่าได้คิดมากไป พักนี้บ้านเมืองเราเครียดด้วยเรื่องต่างๆมากมาย มีคณะ นาย ไป กรง ออกมาเล่นจำอวดให้ดูรายวัน บางทีก็เพลินไม่ใช่น้อย รีบๆดูนะจ๊ะ ข่าวแจ้งว่าอีกไม่กี่วัน คณะนี้ต้องกลับไปเป็นนักโทษชายกันหลายคน ถึงคราวนั้นระวังจะอดดูจำอวด

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 18-08-2007, 16:28
 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Eakle ที่ 18-08-2007, 20:10
ป้าแกตอบได้เยี่ยมจริงๆ  :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 18-08-2007, 21:50
ศิลาแรงมาเอง งั้น... ปักหมุดให้นะคร๊าบบบบ  :slime_agreed:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Body&Soul ที่ 18-08-2007, 22:02
หลานแมทธิว

เรื่องความรักหนักอกของผู้ชาย เค้าห้ามไปถามแม่ เพราะแม่ย่อมเข้าข้างลูกชายเสมอ และแม่ผัวย่อมเป็นอริกับลูกสะใภ้ หรือว่าที่ลูกสะใภ้เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ความรักของผู้ชายต้องไปถามพ่อจ๊ะ จะรักกับสาวที่ไหน จะเลิกกับสาวที่ไหน ปรึกษาพ่อมักไม่ค่อยพลาด ถ้าพ่อหน้าเต้าหู้และรวย อาจรับเซ้งต่อได้จ๊ะ

หลานไปรักกับสาวเข้าคนหนึ่ง และสัญญากันว่าจะรักกันตลอดไป ฟังแล้วก็เหมือนสินค้าที่รับประกันตลอดอายุการใช้งาน พอสินค้ามันเสีย เราเอาไปเคลมประกัน เค้าก็บอกว่ามันหมดอายุการใช้งานแล้ว ความรักของหลานที่สัญญิงสัญญากันไว้ ก็คงจะหมดอายุการใช้งานนั่นแหละจ๊ะ ความรักของเด็กแว๊นสาวสก๊อยสมัยนี้ มันมีอายุการใช้งานสั้นจ๊ะ สะบัดก้นลงจากท้ายแมงกะไซด์ ก็ไปกับคนอื่นแล้ว

ส่วนเรื่องคู่รักของหลานเปลี่ยนใจไปรักหน้าเต้าหู้แต่รวยกว่าหลานนิดเดียว ไอ้ที่ว่านิดเดียวนั้นมันเป็นควมเห็นของหลานนะจ๊ะ คนอื่นเขามองอาจจะว่าไม่นิดเดียว แต่มากโขอยู่  และสาวนั้นลองเปลี่ยนใจด้วยเรื่องรวยหรือจน ก็ยากที่จะกลับมาเส้นทางเดิม ลมมักไม่พัดหวน ถึงหน้าเต้าหู้คนนั้นจะต้องคดีอาญาอันใด หน้าเต้าหู้คนอื่นที่รวยกว่าหลานนิดเดียว ยังมีอีกมากจ๊ะ ป้าเองก็มองหาหน้าเต้าหู้รวยๆมาตั้งแต่เป็นสาวน้อย จนบัดนี้ความสาวเหลือน้อย ป้ายังหาไม่พบสักคนเลย แหมน้องเดียร์ของหลานนี่ โชคดีจริงๆ

ป้าว่าหลานหักห้ามใจเสียดีกว่านะ อกหักน่ะมันเรื่องเล็ก แต่อกเล็กน่ะมันเรื่องใหญ่  เอ๊ะ มันเกี่ยวกันไหมเนี่ย

ศิลาแลง




ขอบคุณคับ ที่ป้าทำให้ผมตาสว่างและตัดใจได้

ส่วนเรื่องที่ผมบอกป้าว่า เฒ่าหัวงูคนนั้นรวยมากกว่าผมนิดเดียวเองเพราะว่าตอนนี้ทางการกำลังจ้องจะยึดทรัพย์

เอามาคืนหลวงทั้งหมดแล้วเขาก็คงจะเหลือแต่กุงเกงลิง

ส่วนตัวผมยังมีกางเกงบอกเซอร์กับเสื้อยืดเก่าๆไว้ใส่แก้หนาว งัยคับป้า


 :slime_bigsmile: :slime_smile2: :slime_v:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: cameronDZ ที่ 18-08-2007, 22:07
เล่นอะไรกันเนี่ย

 :slime_dizzy: :slime_doubt: :slime_surrender:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 19-08-2007, 00:35
อ้างถึง
หลานอธิฏฐานจ๊ะ

ถ้าหลานอยากเขียนหนังสือ ความจริงก็น่าจะหาอะไรที่มันเป็นสระมาเขียนนะจ๊ะ อย่ามาเอาอย่างป้า ไร้สาระไปวันๆ

แต่ไหนๆหลานก็อยากแล้ว ป้าก็จะลองแนะนำให้ แต่หลานส่งเพียงคำถามมานั้น ป้าก็ยากที่จะตอบว่า ทำอย่างไรจึงจะได้สัมภาษณ์คนที่หลานอยากสัมภาษณ์ ที่จริงหลานน่าจะส่งรูปถ่ายมาให้ป้าดูด้วย ยิ่งถ้ามีคลิปมือถือ หรือภาพยนต์ที่หลานแสดงเองแล้วแฟนถ่ายไว้ อันนั้นป้าจะได้ใช้ประกอบการพิจารณา เพราะคนที่หลานอยากไปสัมภาษณ์ เขาไม่ได้เลือกผูสัมภาษณ์ที่มีฝีมือในการเขียนหนังสือ หรือเลือกที่สมองคนสัมภาษณ์ เขาเลือกที่ อึ๋ม จ๊ะ

เงินห้าหมื่นบาท ใช้ไปอังกฤษและพักอยู่ครึ่งเดือน สบายมากจ๊ะ เรื่องขี้ผง เริ่มแรกก็จากการเดินทาง หลานก็เดินไป ค่อยๆไปเดี๋ยวมันก็ถึง หรือถ้าเมื่อยน่อง ก็ใช้วิธีเกาะล้อเครื่องบินไป แต่อย่าลืมใส่เสื้อหนาๆ และหาเข็มขัดเซฟตี้เบลท์ติดไปด้วย จะได้รัดตัวไว้กับล้อได้แน่นหนาหน่อย หรือจะเลือกทางเรือ ก็แอบไปลงเรือที่ท่าไหนก็ได้ เลือกท่าเรือเดินสมุทรนะจ๊ะ อย่าไปเลือกท่าเรือคลองแสนแสบ เดี๋ยวจะไปได้แค่ประตูน้ำ อ้อ เตรีมเสยีบง อาทิเช่น พริกกะเกลือ ข้าวคั่ว ไปด้วยล่ะ กลางทะเลไม่มีเซเว่นนะจ๊ะหนู

เมื่อไปถึงลอนดอนแล้ว ก็ไปหาเพื่อนป้า แกชื่อลอร์ดเนลสัน ยืนให้นกพิราบอึรดหัวอยู่แถวทราฟัลการ์สแควส์  บอกแกว่าป้าฝากฝังมา แล้วก็นอนอยู่แถวๆนั้นแหละจ๊ะ ทำตัวให้เหมือนนกพิราบเข้าไว้ อาหารไม่ต้องห่วง จะมีคนมาโปรยให้กินเอง

หลานเป็นข้าราชการ จะโดดงานไปเฉยๆ มันดูไม่มีกึ๋นเลยนะจ๊ะ ป้าแนะนำให้หลานโดดตึกกระทรวงก่อน หลังจากนั้นหลานก็จะได้พักยาว เจ้านายไม่ว่า เพื่อนฝูงไม่บ่น เพราะเห็นคาตาว่าน่าจะได้พักจริงๆ แล้วเอาเวลาพักนั้นแหละจ๊ะ ไปอังกฤษ

รอดกลับมาได้ เขียนหนังสือได้พิมพ์แล้ว ไม่ต้องส่งมาให้ป้านะจ๊ะ ป้าอ่านภาษาฝรั่งไม่ออก เอาแค่ชื่อเป็นภาษาฝรั่งปน ป้าก็วิงเวียนเสียแล้ว

ศิลาแลง

เรียน  คุณป้าศิลาแลง


ที่คุณป้าศิลาแลงบอกว่า เพราะคนที่หลานอยากไปสัมภาษณ์ เขาไม่ได้เลือกผู้สัมภาษณ์ที่มีฝีมือในการเขียนหนังสือ หรือเลือกที่สมองคนสัมภาษณ์ เขาเลือกที่ อึ๋ม จ๊ะ

อธิฎฐานว่าไม่จริงเสมอไปนะคะ หมวดเจี๊ยบไม่เห็นอึ๋มเลยค่ะ หรือว่ามีอะไรดีกว่าอึ๋มคะ  ส่วนตัวหลานเองถึงแม้จะไม่น่ารัก เหมือนลีเดีย แต่ความหนาคงไม่แพ้ ใหม่ เทมปุระ สักเท่าไหร่ พอจะมีโอกาสหรือเปล่าคะ 


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: อมพระมาพูด ที่ 19-08-2007, 00:41
เรียนคุณป้าศิลาแลง

กระผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ป้าได้ให้เกียรติ มาตอบคำถามสดๆ ที่นี่ ตอนแรกกระผมนึกว่ามีผู้ใดแปลงกายมา แต่อ่านสำนวนแล้ว ใช่จริงๆด้วย ผมมีหลายคำถามเลยครับ

1.ผมเพิ่งดูรายการคุณสรยู้ด สัมภาษณ์ คุณชูวิ๊ด เห็นพี่หนวดแกว่าแดกว่า "เล่นการเมืองประสาอะไร ลูกเมียเดือดร้อนจะติดคุกติดตารางเอา ? เค้าว่าใครอ้ะครับคุณป้า ถ้าว่าเจ้าของแมนซิฯ จริงๆ คนนั้นยังขอตังค์ลูกเมียใช้นี่นา ตกลง ผัว หรือเมีย กันแน่ที่เล่นการเมืองตัวจริง ???

2.แถวบ้านผมวันนี้ มีรถสามคัน กับโทรโข่ง สามตัว ออกมารณรงค์ ให้โนโหวต ลงมติ รธน. ผมจะเข้าไปพูดกับเขายังไงดีครับให้ไม่น่าเกลียดว่าให้จ่ายเงินผม สองถึงสามร้อย แล้วผมจะไปกาให้น่ะครับ

3.ผมกำลังสงสัยว่าน้องเพ็ญ อาจอยากจะเข้าคุกอีกรอบ เป็นไปได้มั้ยครับ ? ผมสนับสนุนแกน่ะครับ

4.คุณป้าฯว่าพวกเราในเสรีไทย เป็นพวก 2.4 รึปล่าวครับ ทำไมผมไม่เห็นได้เงินโอนมาเลยอ้ะครับ แล้วผมจะต้องสมัครหรือทำเช่นใดบ้างอ้ะครับ อย่างน้อยเป็นค่าอินเตอร์เน็ตก้อยังดี น่ะครับ

ขอบคุณครับ แล้วผมจะรอคำตอบจากคุณป้าฯ ทุกลมหายใจ  จู๊บ จู๊บ


นายอมพระฯ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 19-08-2007, 03:58
ป้าศิลาฯคะ เมื่อวานลืมถามคุณป้าอีกหนึ่งคำถามค่ะ

เลยตั้งใจว่าต้องมาถามให้ได้ ไม่งั้นคืนนี้คงนอนไม่หลับ แบบว่ามันค้างคาใจยังไงไม่ทราบ

รบกวนตอบให้กระจ่างใจสักทีนะคะ

เรื่องมีอยู่ว่า ต้นตำหรับคนเดิมเรื่องโครงไก่ต้มฟักอ่ะค่ะ เคยบอกไว้อย่างภาคภูมิใจมาก

ตอนสังเวยตำแหน่งเสนาบดีอะไรสักอย่างจำไม่ได้

ว่า ถ้ามะนาวแพงก็ใช้มะดันปรุงอาหารแทน ดอกฟ้าฯกลัวว่าถ้าแกได้กลับมามีอำนาจบริหารประเทศชาติ

จะมาแก้ปัญหาแบบกำปั้นทุบดิน แบบนี้อีก และสิ่งที่กังวลมากๆคือหากใช้มะดันแทนมะนาว

เราจะติดโรค ความดันทุรังสูงมาจากการรับทานมะดัน(ทุรัง) มากเกินไปหรือเปล่าคะ

เราจะใช้ขิงแก่ทุบใส่ลงไปในแกงที่ปรุงเพื่อให้รสชาตกลมกล่อมดีหรือเปล่า

ยอมรับว่าสับสนมากค่ะ

รบกวนช่วยตอบด่วนด้วยนะคะคุณป้าศิลาฯ


ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
:slime_worship:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ScaRECroW ที่ 19-08-2007, 09:51
เอ้าถาม-ตอบกันใหญ่เลย ซ้อเจ็ดน่าจะมาร่วมด้วยช่วยตอบบ้าง


หัวข้อ: จดหมายฉบับที่ 1 ถึงคุณป้าศิลาแลง
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 19-08-2007, 10:41
:slime_v: ขออนุญาตนำจดหมายฉบับที่ 1 ที่เขียนถึงคุณป้าศิลาแลงมาโพสต์หน่อยนะคะ  :slime_v:

(http://img187.imageshack.us/img187/1300/37477284cm9.jpg)

ส่วนคำตอบจากคุณป้าจะเผ็ดเปรี้ยวแซบซ่าส์ขนาดไหนนั้น

:slime_v: :slime_inlove: :slime_p: กรุณาติดตามในหนังสือครบรอบปีของกระดานข่าวแห่งนี้ "ยังไงก็ไม่ชิน" ค่ะ  :slime_p: :slime_inlove: :slime_v:



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 19-08-2007, 10:48



ขอบคุณคับ ที่ป้าทำให้ผมตาสว่างและตัดใจได้

ส่วนเรื่องที่ผมบอกป้าว่า เฒ่าหัวงูคนนั้นรวยมากกว่าผมนิดเดียวเองเพราะว่าตอนนี้ทางการกำลังจ้องจะยึดทรัพย์

เอามาคืนหลวงทั้งหมดแล้วเขาก็คงจะเหลือแต่กุงเกงลิง

ส่วนตัวผมยังมีกางเกงบอกเซอร์กับเสื้อยืดเก่าๆไว้ใส่แก้หนาว งัยคับป้า


 :slime_bigsmile: :slime_smile2: :slime_v:

หลานแมธทิว

หลานก็ยังคงเข้าใจผิดอยู่ดี สมัยนี้ทางการเขายึดได้แต่ทรัพย์ แต่จับเชลยไม่ได้ ลูกเมียนั้นหาได้ถูกยึดไปด้วย  ดังนั้นถึงจะเหลือแต่กุงเกงลิงตัวเดียว ก็ยังพอมีลูกเมียเหลือให้ส่งข้าวผัด โอวเลี้ยง เว้นเสียแต่ลูกเมียนั้นจะต้องถูกยึดทรัพย์ไปด้วย

หากลูกเมียถูกยึดทรัพย์จนเหลือแต่กุงเกงลิงตัวเดียวตามเฒ่าหัวงูนั้นไป ป้าก็คิดว่า คงจะมีคนแห่กันไปเอาใจช่วยไม่น้อย เพราะท่าทางจะน่าดูจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: ขอต้อนรับคุณป้าศิลาแลงประจำการ "สภากาแฟ" ณ กระดานข่าวแห่งนี้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 19-08-2007, 10:49
ขออนุญาตมอบพวงมาลัยคล้องมือให้กับคุณป้าศิลาแลง 1 พวงงาม ๆ นะเจ้าคะ  :slime_worship:

ในโอกาสที่คุณป้า(หลวมตัว) กรุณามาตอบคำถามให้กับสมาชิกที่นี่ค่ะ

(http://img216.imageshack.us/img216/6586/95071196cc6.jpg)

ปล. สงสัยจะได้พิมพ์รวมเล่ม "จดหมายถึงคุณป้าศิลาแลง" ซะก็ไม่รู้  :slime_smile: :slime_bigsmile: :slime_smile:



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 19-08-2007, 10:53
เรียน  คุณป้าศิลาแลง


ที่คุณป้าศิลาแลงบอกว่า เพราะคนที่หลานอยากไปสัมภาษณ์ เขาไม่ได้เลือกผู้สัมภาษณ์ที่มีฝีมือในการเขียนหนังสือ หรือเลือกที่สมองคนสัมภาษณ์ เขาเลือกที่ อึ๋ม จ๊ะ

อธิฎฐานว่าไม่จริงเสมอไปนะคะ หมวดเจี๊ยบไม่เห็นอึ๋มเลยค่ะ หรือว่ามีอะไรดีกว่าอึ๋มคะ  ส่วนตัวหลานเองถึงแม้จะไม่น่ารัก เหมือนลีเดีย แต่ความหนาคงไม่แพ้ ใหม่ เทมปุระ สักเท่าไหร่ พอจะมีโอกาสหรือเปล่าคะ 

หลานอธิฏฐาน

หลานอย่าเข้าข้างตัวเองนักสิจ๊ะ  อึ๋ม นั้น เหมือนหน้าตาของเรานั่นแหละ ต้องให้คนอื่นบอกว่ามันดีหรือไม่ดี จะส่องกระจกดูเองก็จะเข้าข้างตัวเองไปเสียเปล่าๆปลี้ๆ ดังนั้นใครจะอึ๋มหรือไม่อึ๋ม ต้องให้คนอื่นบอกจ๊ะ

หลานดูอย่างแม่ประแดะหูกลวงดวงสมร ในบทละครระเด่นลันใดสิจ๊ะ ขนาด "สองเต้าห้อยตุงดังถุงตะเคียว โคนเหี่ยวแห้งรวบเหมือนบวบต้ม" ยังแย่งกันแทบล้มประดาตาย ของพรรณนี้ ลางเนื้อชอบ ลางยา จ๊ะ

ส่วนสรีระของหลานที่หุ่นราวกับ ใหม่ เทมปุระ นั้น ป้าคิดว่าหลานน่าจะรีบไปปรึกษาร้านบอร์ดีเชฟก็จะดี นานไปมันอาจเหมือน ทาโกะยากิ ลูกอ้วนๆกลมๆใหม้ๆ จ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 19-08-2007, 11:26
เรียนป้าศิลาแลงที่เคารพ ช่วยตอบคำถามตามข้อดังนี้

1. ซ้ายกับขวาผสมพันธุ์กันแล้วได้อะไรครับป้า เมื่อก่อนผมเห็นซ้ายหัวโบราณ แต่พอมาวันนี้ซ้ายกลับเรียงคิวให้ขวาผสมพันธ์ มีซ้ายบางตัวสะอิดสะเอียนกับขวาแยกผสมพันธุ์กันตรงอื่น

2. ทราบมาว่าแกนนำโสเภณีสนามหลวงที่รวมตัวกันขายบริการความใคร่ทางการเมือง แต่ละคนร่ำรวยผิดปกติ คนนึ่งซื้อบ้านโครงการชื่อบูเลอวาร์ดเหมือนโรงแรมคนผิวดำแถวสุขุมวิท คนนึงถอยรถยี่ฟ้อฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดง บางคนถูกตำรวจจับข้อหาอนาจารจนบ้านเมืองชิบหายวายวอด ยังเปลี่ยนรถจากแคมรี่เป็นวอลโว่ ไม่ทราบว่าโสเภณีพวกนี้ค่าตัว 200-300 ทำไมร่ำรวยผิดปกติแบบนี้ วานตอบด้วยครับ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 19-08-2007, 12:57
เรียนคุณป้าศิลาแลง

กระผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ป้าได้ให้เกียรติ มาตอบคำถามสดๆ ที่นี่ ตอนแรกกระผมนึกว่ามีผู้ใดแปลงกายมา แต่อ่านสำนวนแล้ว ใช่จริงๆด้วย ผมมีหลายคำถามเลยครับ

1.ผมเพิ่งดูรายการคุณสรยู้ด สัมภาษณ์ คุณชูวิ๊ด เห็นพี่หนวดแกว่าแดกว่า "เล่นการเมืองประสาอะไร ลูกเมียเดือดร้อนจะติดคุกติดตารางเอา ? เค้าว่าใครอ้ะครับคุณป้า ถ้าว่าเจ้าของแมนซิฯ จริงๆ คนนั้นยังขอตังค์ลูกเมียใช้นี่นา ตกลง ผัว หรือเมีย กันแน่ที่เล่นการเมืองตัวจริง ???

2.แถวบ้านผมวันนี้ มีรถสามคัน กับโทรโข่ง สามตัว ออกมารณรงค์ ให้โนโหวต ลงมติ รธน. ผมจะเข้าไปพูดกับเขายังไงดีครับให้ไม่น่าเกลียดว่าให้จ่ายเงินผม สองถึงสามร้อย แล้วผมจะไปกาให้น่ะครับ

3.ผมกำลังสงสัยว่าน้องเพ็ญ อาจอยากจะเข้าคุกอีกรอบ เป็นไปได้มั้ยครับ ? ผมสนับสนุนแกน่ะครับ

4.คุณป้าฯว่าพวกเราในเสรีไทย เป็นพวก 2.4 รึปล่าวครับ ทำไมผมไม่เห็นได้เงินโอนมาเลยอ้ะครับ แล้วผมจะต้องสมัครหรือทำเช่นใดบ้างอ้ะครับ อย่างน้อยเป็นค่าอินเตอร์เน็ตก้อยังดี น่ะครับ

ขอบคุณครับ แล้วผมจะรอคำตอบจากคุณป้าฯ ทุกลมหายใจ  จู๊บ จู๊บ


นายอมพระฯ

หลานอมพระฯ

หลานไม่ควรตื่นเต้นที่ป้ามาตอบคำถาม เพราะเมื่อมีคนถามป้าก็ต้องมาตอบ ส่วนเรื่องการแปลงกายนัน นับตั้งแต่ป้าเห็นรูปหนูลิเดีย ก็นึกอยากจะแปลงกายได้บ้าง สู้อุตส่าห์ท่องคาถาไอ้มดแดงวีหนึ่งวีสองวีสาม แต่สังขารมันก็ยังเหมือนเดิม ทำเอาป้าชักจะท้อใจ หากแปลงกายได้ดั่งหนูลิเดีย ป้าก็จะไปอังกฤษโดยพลัน

ตอบคำถามที่ 1. นายชูวิ๊ด นั้นแกให้สัมภาษณ์ไปตามประสาปากคันๆของแก หลานอย่าไปเอาสาระอะไรเลย นักการเมืองนั้นก็ทำแบบนายชูวิ๊ด ว่าแทบทั้งนั้น คือเล่นการเมืองแล้วมีทีท่าว่าจะทำให้คนอื่นเดือดร้อน และไอ้ที่จะเดือดร้อนก็ไม่ใช่ใครทำ ก็พวกนักการเมืองด้วยกันนั่นแหละทำ ผลัดกันทำกันไปกันมา ไม่รูจักเบื่อกันบ้าง จะเป็นนักการเมืองระดับหากินบนความทุกข์ของประชาชน หรือนักการเมืองระดับหากินบนเรือนร่างของสตรี มันก็แย่พอๆกันจ๊ะ

ตอบคำถามที่ 2. หลานต้องแยกแยะให้ออก ระหว่างนายทุนกับลิ่วล้อ ระดับขับรถติดโทรโข่งออกมาประกาศปาวๆนั้น มันระดับลิ่วล้อ หากหลานไปติดต่อขอค่าคะแนนเสียง คนขับรถก็จะตีหน้าละห้อยละเหี่ย และสารภาพความจริงว่า ค่าตัวของเขาเองยังถูกหักหัวคิว จ่ายมาจากแดนไกลหัวละห้าร้อย ตกถึงมือคนขายเสียงสองร้อย อีกสามร้อยไม่รู้หายไปข้างไหน

ตอบคำถามที่ 3. ความจริงน้องเพ็ญแกอาจจะไม่ได้อยากเข้าคุก เพียงแต่อยากไปอยู่ที่ที่มีของชอบมากๆ หากมีที่อื่นนอกจากคุก แกก็คงจะไปที่นั่นจ๊ะ

ตอบคำถามที่ 4. ในบอร์ดเสรีไทยนั้นมีหลายพวก  ทั้ง 2.4 2.5 และ 2.ห้อย ใครจะเป็นพวกไหนบ้างป้าก็ไม่แน่ใจ แต่เท่าที่สังเกตุมา พวกแถเก่งๆ มักจะเป็นพวก 2.ห้อย มาจากบุรีรัมย์ ส่วนเรื่องงินโอนนั้น หลานว่างวันไหน ไปเปิดบัญชีด้วยชื่อหลานให้ป้าสักเล่ม แล้วเอาบัตรเอทีเอมให้ป้าไว้ ป้าจะเที่ยวโทรศัพท์ไปแจ้งโชคดีให้กับคนรู้น้อย โดยให้เขาโอนค่าภาษีหักณ.ที่จ่ายมาใส่บัญชีหลาน แล้วป้าจะไปกดเบิกเอทีเอมเอง หลังจากนั้น หลานไปคุยกับตำรวจเขานะ

ต๊าย อุตริอะไรมา จุ๊บๆ ป้า ลุงเค้ายังเลิกจุ๊บไปนานแล้ว

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 19-08-2007, 13:06
ป้าศิลาฯคะ เมื่อวานลืมถามคุณป้าอีกหนึ่งคำถามค่ะ

เลยตั้งใจว่าต้องมาถามให้ได้ ไม่งั้นคืนนี้คงนอนไม่หลับ แบบว่ามันค้างคาใจยังไงไม่ทราบ

รบกวนตอบให้กระจ่างใจสักทีนะคะ

เรื่องมีอยู่ว่า ต้นตำหรับคนเดิมเรื่องโครงไก่ต้มฟักอ่ะค่ะ เคยบอกไว้อย่างภาคภูมิใจมาก

ตอนสังเวยตำแหน่งเสนาบดีอะไรสักอย่างจำไม่ได้

ว่า ถ้ามะนาวแพงก็ใช้มะดันปรุงอาหารแทน ดอกฟ้าฯกลัวว่าถ้าแกได้กลับมามีอำนาจบริหารประเทศชาติ

จะมาแก้ปัญหาแบบกำปั้นทุบดิน แบบนี้อีก และสิ่งที่กังวลมากๆคือหากใช้มะดันแทนมะนาว

เราจะติดโรค ความดันทุรังสูงมาจากการรับทานมะดัน(ทุรัง) มากเกินไปหรือเปล่าคะ

เราจะใช้ขิงแก่ทุบใส่ลงไปในแกงที่ปรุงเพื่อให้รสชาตกลมกล่อมดีหรือเปล่า

ยอมรับว่าสับสนมากค่ะ

รบกวนช่วยตอบด่วนด้วยนะคะคุณป้าศิลาฯ


ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
:slime_worship:

หลานดอกฟ้า

คำพูดของคนบางคนนั้น หลานก็อย่าไปเอาสาระให้มากมายนัก วันหนึ่งใช้มะนาว วันหนึ่งใช้มะดัน บางวันก็อาจจะต้องใช้มะเหงก การปรุงอาหารนั้นเป็นศิลปขั้นสูง อาหารจะอร่อยหรือไม่ก็อยู่ที่ลิ้นของคนชิม แกงหม้อเดียวกัน คนหนึ่งว่าอ่อนเค็ม อีกคนว่าเค็มจัด เอาเป็นที่แน่นอนไม่ได้หรอกจ๊ะ

คนบางคนที่หลานถามมานั้น ครั้งหนึ่งเคยเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ในระหว่างดำรงตำแหน่งนั้นเกิดระเบิดขึ้นหน้าพลับพลาที่ประทับขณะทรงงาน มีผู้เรียกร้องให้เขาลาออก เขาบอกเขาไม่ลาออก เพราะมันจะเป็นบรรทัดฐานต่อไปว่า หากอยากให้เสนาบดีมหาดไทยลาออก ก็เอาระเบิดไปโยนใส่หน้าพลับพลาที่ประทับ ตูมๆๆ รัฐมนตรีก็ต้องลาออก และจะหาคนมาเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ นับว่าเป็นคำตอบอมตะ ที่บ่งบอกถึงสันดานได้เป็นอย่างดี

การรับประทานมะดันนั้น นอกจากจะทำให้เข็ดฟัน ขนลุก และลำใส้ทำงานสะดวกแล้ว ไม่ก่อให้เกิดความดันทุรังแต่ประการใด ความดันทุรังนั้น มักจะเกิดกับคนสิ้นคิด ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี สุดท้ายก็มักจะหกล้มหน้าส้วม หน้าแหกไปตามระเบียบ

การทุบขิงแก่ใส่ลงไปในแกงนั้น หลานต้องดูด้วยว่าแกงนั้นเป็นแกงอะไร หากเป็นแกงการู มันอาจจะเตะสวนเอาได้

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 19-08-2007, 13:20
เรียนป้าศิลาแลงที่เคารพ ช่วยตอบคำถามตามข้อดังนี้

1. ซ้ายกับขวาผสมพันธุ์กันแล้วได้อะไรครับป้า เมื่อก่อนผมเห็นซ้ายหัวโบราณ แต่พอมาวันนี้ซ้ายกลับเรียงคิวให้ขวาผสมพันธ์ มีซ้ายบางตัวสะอิดสะเอียนกับขวาแยกผสมพันธุ์กันตรงอื่น

2. ทราบมาว่าแกนนำโสเภณีสนามหลวงที่รวมตัวกันขายบริการความใคร่ทางการเมือง แต่ละคนร่ำรวยผิดปกติ คนนึ่งซื้อบ้านโครงการชื่อบูเลอวาร์ดเหมือนโรงแรมคนผิวดำแถวสุขุมวิท คนนึงถอยรถยี่ฟ้อฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดง บางคนถูกตำรวจจับข้อหาอนาจารจนบ้านเมืองชิบหายวายวอด ยังเปลี่ยนรถจากแคมรี่เป็นวอลโว่ ไม่ทราบว่าโสเภณีพวกนี้ค่าตัว 200-300 ทำไมร่ำรวยผิดปกติแบบนี้ วานตอบด้วยครับ

หลานอโลฮา

1. ซ้ายกับขวา ผสมพันธ์กันแล้ว ก็จะได้ผลเหมือน Here กับ ควาย ผสมพันธ์กัน ดังมีผู้เคยนำรูปมาโพสไว้ให้ดูในหลายกระทู้แล้ว เป็นการผสมพันธ์ข้ามสปีชี่ข้ามไฟลั่ม ซ้ายนั้นอยู่ในไฟลั่มเดอร์มาพอนแฟนต้า ขวานั้นอยู่ในไฟลั่มเดทตอลมิรินด้า  อันเป็นคนละค่ายกัน  ผลจากการผสมพันธ์นั้น ไม่น่าตื่นเต้นเท่าขบวนการผสมพันธ์ ซึ่งจะต้องปั่นแยกโครโมโซม หรือปั่นหัวให้มึนงงเสียก่อน วิธีการผสมผ่าเหล่าเช่นนี้ มีผู้ทำได้ไม่กี่คน ต้องอาศัยผู้ชำนาญในการผสมข้ามพันธ์ ผสมข้ามรุ่น เมืองไทยนั้นมีผู้ทำได้คนเดียว แต่ขณะนี้หนีไปผสมข้ามรุ่น อยู่แถวเกาะของเมอร์ลินโน่น

2. แกนนำของเหล่าผีขนุนนั้น ถึงจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับป้า แต่ก็ไม่ได้เป็นศิษย์เก่าร่วมสถาบันกันแต่อย่างไร ป้าชำนาญแถวสวนลุม เพราะชอบไปกินเยนตาโฟในสวน พวกนั้นเค้าชำนาญแถวสนามหลวง ไม่รู้เค้าชอบกินอะไรกัน
การซื้อบ้านใหม่ ถอยรถป้ายแดง หลานอย่าไปนึกว่าคนที่กระทำนั้นจะมีเงิน เขาอาจจะเช้ระบบเงินผ่อนก็ได้ ได้จากเจ้านายมางวดหนึ่ง ก็เอาไปดาวน์ไว้ก่อน กะว่าเจ้านายจ่ายงวดต่อๆไป ก็จะเอาไปผ่อน แต่หากงานไม่สำเร็จ เจ้านายเลิกต่อท่อน้ำเลี้ยง ก็จะเกิดอาการ ดาวน์ซินโดรม คือดาวน์แล้วไม่มีปัญญาผ่อน เอ๋อรับประทาน ถูกยึดรถยึดบ้านไป
ส่วนผู้ที่มีรายได้ 200 - 300 แล้วทำตัวเหมือนร่ำรวยผิดปกติ หลานก็อย่าไปนึกว่าร่ำรวยจริง พวกนี้เป็นพวกใช้ทุนในอนาคต ซึ่งอีกไม่นานก็จะต้องใช้หนี้ ใช้กรรม บ้านใหม่ที่ไปซื้อไว้ รถใหม่ที่ไปถอยออกมา ที่สุดก็จะสูญสิ้น คล้ายๆพวกใช้บัตรเครดิต ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่มีเครดิต สุดท้ายก็เค้เก้ หนีหนี้ไปตามระเบียบ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 19-08-2007, 14:56
ด้วยความคารวะอย่างสูงครับ ต่อไปจะมาติดตามเป็นประจำ  :slime_worship:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: มีคณา ที่ 19-08-2007, 15:17
ป้าขา วันนี้นู๋ดวงกุด ไปเจอพวกใส่เสื้อแดง - เทิดทูนเหลี่ยม มากรอกหู โน้มน้าว สุดท้ายก้อข่มขู่ให้หนูโหวตโน :slime_hitted: ฟังจนปวดหูเวียนเฮดกว่าจะหลุดมาได้ เลยรีบไปกาช่องซ้ายก่อนเข้าบ้าน หัวมึนตึ้บเลยอ่ะ     :slime_dizzy:

มาอ่านกระทู้นี้สมองปรอดโปร่ง อารมณ์บรรหารเอ๊ยแจ่มใส  :slime_inlove: ขอบคุณนะค้า


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 19-08-2007, 18:10
ด้วยความคารวะอย่างสูงครับ ต่อไปจะมาติดตามเป็นประจำ  :slime_worship:

คุณจี

ป้าก็ติดตามกระทู้ของคุณอยู่เป็นประจำ คนอะไรก็ไม่รู้ ข้อมูลช่างเยอะแยะแม่นยำ ท่าทางจะเป็นหนุ่มหล่อที่เก่งกาจน่าดู  :slime_smile2:

อย่าเผลอมาติดตามจนถึงตัวป้าเข้าล่ะ เพราะโคแก่ที่ชอบกินหญ้าอ่อนนั้น ไม่ได้มีแต่โคตัวผู้ที่ต้องลี้ภัยไปแล้ว โคตัวเมียก็ยังพอมีอยู่บ้าง  :slime_v:

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 19-08-2007, 18:18
ป้าขา วันนี้นู๋ดวงกุด ไปเจอพวกใส่เสื้อแดง - เทิดทูนเหลี่ยม มากรอกหู โน้มน้าว สุดท้ายก้อข่มขู่ให้หนูโหวตโน :slime_hitted: ฟังจนปวดหูเวียนเฮดกว่าจะหลุดมาได้ เลยรีบไปกาช่องซ้ายก่อนเข้าบ้าน หัวมึนตึ้บเลยอ่ะ     :slime_dizzy:

มาอ่านกระทู้นี้สมองปรอดโปร่ง อารมณ์บรรหารเอ๊ยแจ่มใส  :slime_inlove: ขอบคุณนะค้า


หนูมีคณา

หนูนั้นยังไม่ถึงขั้นดวงกุด แต่โดนเคราะห์เข้าตามตำราพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกพระอาทิตย์แหวกตรงกลาง หนูไม่ได้ตั้งปัญหามาแต่เผอิญป้าอยากตอบ ว่าด้วยเรื่องสีเสื้อแดง ที่กลุ่ม นาย ไป กรง เขาเลือกใช้ในการต่อต้านรัฐธรรมนูญคราวนี้

ครั้งแรกป้าก็สงสัยว่าทำไมเขาถึงเลือกสีแดง แต่พอมาอ่านเรื่องดวงกุดของหนูก็เลยพอจะนึกออกได้บ้าง แต่เดิมนั้นกลุ่มนี้เขาก็ใส่เสื้อเหลือง อันเป็นเสื้อสีมงคลของชาวไทยในระยะหลายปีมานี้ เขาใช้มาในการชุมนุมหรือก่อกวนบ้านเมืองต่างๆนาๆ แต่สีเหลืองนี้เป็นสีประจำวันจันทร์ อันเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว แต่วันจันทร์นี้ตามตำรามหาทักษา ของแม่หนูดาวเรืองในเรื่องญาติกา เขาบอกไว้วว่า วันจันทร์เป็นวันกาลกิณีของวันอังคาร และวันอังคารนั้นเล่าก็เป็นวันเกิดของเจ้านายพวกเขา ในขณะเดียวกัน สีแดงนั้นเป็นสีของวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นกาลกิณีของวันจันทร์เช่นกัน

ดังนั้นเมื่อเป้าหมายมันชัดเจนไปแล้วว่า กลุ่ม นาย ไป กรง นี้ เขาต้องการต่อต้านใครกันแน่ เขาก็เปลี่ยนสีเสื้อให้เป็นสีอวมงคลของผู้ที่เกิดวันจันทร์เสีย จะได้ชัดเจนกันไปเสียที ควรที่ผู้ซึ่งรักสีเหลืองพึงทราบเอาไว้ด้วยว่า การใส่เสื้อแดงในปีมหามงคลเช่นนี้ ผู้ที่กระทำเขาประกาศอะไรออกมา

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ทองเปลว ที่ 19-08-2007, 18:51
แซ๊บหลาย.....ป้า :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ขอต้อนรับคุณป้าศิลาแลงประจำการ "สภากาแฟ" ณ กระดานข่าวแห่งนี้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 19-08-2007, 19:00
ขออนุญาตมอบพวงมาลัยคล้องมือให้กับคุณป้าศิลาแลง 1 พวงงาม ๆ นะเจ้าคะ  :slime_worship:

ในโอกาสที่คุณป้า(หลวมตัว) กรุณามาตอบคำถามให้กับสมาชิกที่นี่ค่ะ

(http://img216.imageshack.us/img216/6586/95071196cc6.jpg)

ปล. สงสัยจะได้พิมพ์รวมเล่ม "จดหมายถึงคุณป้าศิลาแลง" ซะก็ไม่รู้  :slime_smile: :slime_bigsmile: :slime_smile:



หนูเม่ย

ขอรับพวงมาลัยจากหนูด้วยความซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ป้าไม่เคยนึกเลยว่าป้าจะได้รับพวงมาลัยเหมือน ชัยยา มิตรชัย กับเขาด้วย พวงมาลัยของหนูสวยมาก แต่ป้าหาธนบัตรที่ผูกติดไว้ไม่พบ มีใครแอบดึงไปหรือเปล่า  :slime_doubt:

ถ้าหนูคิดจะรวมเล่มจดหมายของป้า หนูคงต้องเหนื่อยหนักกว่าทำหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน" เป็นแน่แท้ เพราะสมาชิกคงไม่ลงขันช่วยแน่นอน หนูอาจจะต้องนั่งเข้าเล่มไสกาวสันปกเองล่ะจ๊ะ  :slime_smile2:

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 19-08-2007, 19:10
โอ้...

 :slime_agreed:


หัวข้อ: Re: ขอต้อนรับคุณป้าศิลาแลงประจำการ "สภากาแฟ" ณ กระดานข่าวแห่งนี้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 19-08-2007, 20:46
หนูเม่ย

ขอรับพวงมาลัยจากหนูด้วยความซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ป้าไม่เคยนึกเลยว่าป้าจะได้รับพวงมาลัยเหมือน ชัยยา มิตรชัย กับเขาด้วย พวงมาลัยของหนูสวยมาก แต่ป้าหาธนบัตรที่ผูกติดไว้ไม่พบ มีใครแอบดึงไปหรือเปล่า  :slime_doubt:

ถ้าหนูคิดจะรวมเล่มจดหมายของป้า หนูคงต้องเหนื่อยหนักกว่าทำหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน" เป็นแน่แท้ เพราะสมาชิกคงไม่ลงขันช่วยแน่นอน หนูอาจจะต้องนั่งเข้าเล่มไสกาวสันปกเองล่ะจ๊ะ  :slime_smile2:

ศิลาแลง

ด้วยความยินดีอย่างหาที่สุดมิได้เลยเจ้าค่ะ  :slime_v:

มิต้องห่วงค่ะ คุณป้าเจ้าขา นู๋ยอมรวมเล่มพิมพ์ จดหมายถึงศิราณี เอ๊ยยย "จดหมายถึงศิลาแลง" ชนิดเทหมดหน้าตักเลยเอ้า เพราะบ้านก็ไม่ต้องเช่า รถก็ไม่ต้องผ่อน แต่ข้าวยังต้องซื้ออยู่ค่ะ  :slime_bigsmile:

นู๋มีเรื่องเด็ดเรื่องดังมาฝากคุณป้าและบรรดาแฟน ๆ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ด้วยนะคะ

(http://img364.imageshack.us/img364/6926/89544737el4.jpg)

http://thairath.co.th/news.php?section=society&content=57958

 :slime_hmm: :slime_dizzy: :slime_hmm:



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ทองเปลว ที่ 19-08-2007, 21:15
สวัสดีครับคุณป้า......
ผมเห็นคุณ..ธิว..ปรึกษาปัญหาหัวใจผมก็เลยอยากจะขอคำแนะนำบ้างหวังว่าคุณป้าคงกรุณา
คือผมแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่ง...ผมยิ่งเห็นผมก็....ยิ่งรัก... :slime_inlove:เธอแอบชอบเธอมานานโขเธอดูสวย
น่ารักที่สุดที่..สำคัญคือหน้าเธอไม่เหลี่ยม ทำให้ผมสงสัยว่าเธอเป็นน้องของเขาคนนั้นจริงหรือ
เปล่า.....ทุกครั้งที่ผมคิดถึงเธอมักจะมีหน้าแบบเหลี่ยมๆลอยแทรกเข้ามาทุกทีเสียอารมณ์จริงๆ
จะทำยังไงผมถึงจะสมหวังครับ พอมีทางมั๊ยครับ.....

ปล.ภรรยาผมยังไม่รู้เรื่องนี้ครับ


หัวข้อ: Re: ขอต้อนรับคุณป้าศิลาแลงประจำการ "สภากาแฟ" ณ กระดานข่าวแห่งนี้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 19-08-2007, 21:25
ด้วยความยินดีอย่างหาที่สุดมิได้เลยเจ้าค่ะ  :slime_v:

มิต้องห่วงค่ะ คุณป้าเจ้าขา นู๋ยอมรวมเล่มพิมพ์ จดหมายถึงศิราณี เอ๊ยยย "จดหมายถึงศิลาแลง" ชนิดเทหมดหน้าตักเลยเอ้า เพราะบ้านก็ไม่ต้องเช่า รถก็ไม่ต้องผ่อน แต่ข้าวยังต้องซื้ออยู่ค่ะ  :slime_bigsmile:

นู๋มีเรื่องเด็ดเรื่องดังมาฝากคุณป้าและบรรดาแฟน ๆ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ด้วยนะคะ

(http://img364.imageshack.us/img364/6926/89544737el4.jpg)

http://thairath.co.th/news.php?section=society&content=57958

 :slime_hmm: :slime_dizzy: :slime_hmm:



หนูเม่ย

ป้าเอาข่าวกลับมาฝากหนูบ้าง

http://news.thaieasyjob.com/lifestyle/show_news-635-11.html

อ่านแล้วคงปะติดปะต่ออะไรได้บ้างล่ะจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 19-08-2007, 21:31
สวัสดีครับคุณป้า......
ผมเห็นคุณ..ธิว..ปรึกษาปัญหาหัวใจผมก็เลยอยากจะขอคำแนะนำบ้างหวังว่าคุณป้าคงกรุณา
คือผมแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่ง...ผมยิ่งเห็นผมก็....ยิ่งรัก... :slime_inlove:เธอแอบชอบเธอมานานโขเธอดูสวย
น่ารักที่สุดที่..สำคัญคือหน้าเธอไม่เหลี่ยม ทำให้ผมสงสัยว่าเธอเป็นน้องของเขาคนนั้นจริงหรือ
เปล่า.....ทุกครั้งที่ผมคิดถึงเธอมักจะมีหน้าแบบเหลี่ยมๆลอยแทรกเข้ามาทุกทีเสียอารมณ์จริงๆ
จะทำยังไงผมถึงจะสมหวังครับ พอมีทางมั๊ยครับ.....

ปล.ภรรยาผมยังไม่รู้เรื่องนี้ครับ

หลานทองปลิว

ป้าน่ะเป็นคนใจดี กรุณาได้กับทุกผู้คน ที่มันไม่โฉดชั่วกับประเทศไทยอันเป็นที่รักของเราจ๊ะ

ป้าอ่านคำถามของหลานแล้ว ก็ต้องงัดถ้ำยาดมขวดยาหม่องแล้วก็ขวดยาดองเบนโลขึ้นมาดื่ม คำถามของหลานมันสับสนดีมาก ป้าว่าป้าตอบคำถามใครๆมาก็หลายคนแล้ว แต่คำถามของหลานนี่ ป้ามึนเอาจริงๆจังๆ  :slime_dizzy:

สรุปได้ในตอนท้ายว่า หลานแอบไปชอบใครเข้าคนหนึ่ง แล้วเมียยังไม่รู้  เป็นอันว่าที่มาถามป้าเนี่ย ก็หวังจะให้เมียรู้ใช่ไหม ถ้าใช่ก็สบายมากจ๊ะ เรื่องปากสว่างนี่ป้าถนัดนัก ขนาดเวลานอนยามค่ำคืน ยังมีแสงเรืองรองออกมาจากปากของป้า คล้ายๆผีกระสือยังไงยังงั้น

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ขอต้อนรับคุณป้าศิลาแลงประจำการ "สภากาแฟ" ณ กระดานข่าวแห่งนี้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 19-08-2007, 22:11
หนูเม่ย

ป้าเอาข่าวกลับมาฝากหนูบ้าง

http://news.thaieasyjob.com/lifestyle/show_news-635-11.html

อ่านแล้วคงปะติดปะต่ออะไรได้บ้างล่ะจ๊ะ

ศิลาแลง

อ่านแล้วต่อไม่ติดค่ะ คุณป้าเจ้าขา เพราะนู๋เป็นคนธรรมดา ไม่มีพรีฟิกซ์ต่อหน้าโซ ๆ อะไรพวกนี้น่ะค่ะ  :slime_smile2:

ก็เลยต้องไปหารอยเชื่อมต่อเพิ่มอีกหน่อย..เจอผู้คนเค้าเม้าท์สนั่นกันที่กระทู้นี้ค่ะ

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5633857/A5633857.html

อ่านแล้วมึนงงค่ะ หนูขอลาไปนอนก่อนนะคะ หลับฝันดีนะคะ คุณป้า  :slime_inlove: :slime_sleeping:



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 20-08-2007, 00:12
ก่อนอื่น...ต้องขอขอบคุณและทึ่งในความรู้ในการตอบปัญหาของคุณป้าฯมากค่ะ

ที่คุณป้าฯสามารถตอบได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่ไม่จิ้มฟันยันเรือรบ ทำให้รู้สึกอุ่นใจมากๆ

ว่าต่อไปนี้คิดอะไรม่ะออกคงต้องพึ่งคุณป้าฯ

เพราะตอนนี้ชักเริ่มสงสัยอีกแล้วว่า แมนซิตี้ชนะแมนยู 1-0 แบบเนี้ย มีการใช้ไสยศาสตร์มาช่วยแบบที่เคยรึป่าวคะ

ใช้บริการหมอพม่าหรือหมอเขมรอยู่คะตอนนี้

แล้วถ้าช่วยให้บอลชนะได้............................

คดีที่คาศาลอยู่ตั้งเยอะแยะหมอผีหรือหมอดูพวกนี้จะช่วยพวกเค้าได้รึป่าวคะคุณป้าฯ
:slime_doubt:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: มีคณา ที่ 20-08-2007, 09:35
ขอเป็นคลื่นแทรกก่อนคุณป้าเข้ามาตอบ เรื่องMan City ชนะ Manchester Unitedนะค้า
 นู๋ไม่มีปัญญาวิเคราะห์หรอกค่ะ  :slime_doubt:
แต่แอบสะจายยยยย  :slime_cool: เพราะมีหลานชายสาวกผี คารวะเช้า คำนับเย็นประมาณนั้น
แถมมันก้อเป็นพวกเชียร์เหลี่ยมตามพ่อมัน
อิอิ ........... เมื่อวานนี้มันหลุดคำผรุสวาท บริภาษมิสเตอร์แฟรงค์ออกมา
 
 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 20-08-2007, 10:12
ก่อนอื่น...ต้องขอขอบคุณและทึ่งในความรู้ในการตอบปัญหาของคุณป้าฯมากค่ะ

ที่คุณป้าฯสามารถตอบได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่ไม่จิ้มฟันยันเรือรบ ทำให้รู้สึกอุ่นใจมากๆ

ว่าต่อไปนี้คิดอะไรม่ะออกคงต้องพึ่งคุณป้าฯ

เพราะตอนนี้ชักเริ่มสงสัยอีกแล้วว่า แมนซิตี้ชนะแมนยู 1-0 แบบเนี้ย มีการใช้ไสยศาสตร์มาช่วยแบบที่เคยรึป่าวคะ

ใช้บริการหมอพม่าหรือหมอเขมรอยู่คะตอนนี้

แล้วถ้าช่วยให้บอลชนะได้............................

คดีที่คาศาลอยู่ตั้งเยอะแยะหมอผีหรือหมอดูพวกนี้จะช่วยพวกเค้าได้รึป่าวคะคุณป้าฯ
:slime_doubt:

หลานดอกฟ้า

ไม้จิ้มฟันนั้นมันอันเล็กกระจิ๋วหลิว ถ้าเอาไปยันเรือรบ ท่าทางมันจะสู้กันไม่ไหว สู้เอาไปจิ้มเหงือกกัปตันเรือรบไม่ได้ ดีไม่ดีอาจถึงตาย

ฟุตบอลล์นั้นมันลูกกลมๆ ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ และการดูฟุตบอลล์ในลีกหรือทัวร์นาเม้นต์ใดๆ ก็ต้องดูกันยาวๆจนจบการแข่งขันทั้งหมดจ๊ะ ผลของฝีมือที่แท้จริงจึงจะปรากฎผล

จะใช้หมอพม่าหรือหมอเขมรมาช่วยให้แข่งชนะนั้น อย่าพึงหวังไปเลย เพราะบอลล์พม่าและบอลล์เขมร ยังไปได้ไม่ถึงไหน ถ้าหมอพม่าหมอเขมรแน่จริง ก็คงพาทีมไปแข่งฟุตบอลล์โลกได้แล้วสิจ๊ะ

ดังนั้นในเมื่อช่วยทีมฟุตบอลล์ไม่ได้ เรื่องคดีความก็อย่าได้ไปหวัง จ้างไปก็เสียสตางต์เปล่าๆปลี้ๆ สู้เอาสตางค์นั้นเก็บไว้สำหรับพานักร้องนางแบบเดินเที่ยวห้างแฮรอดจะดีกว่า

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 20-08-2007, 10:17
ขอเป็นคลื่นแทรกก่อนคุณป้าเข้ามาตอบ เรื่องMan City ชนะ Manchester Unitedนะค้า
 นู๋ไม่มีปัญญาวิเคราะห์หรอกค่ะ  :slime_doubt:
แต่แอบสะจายยยยย  :slime_cool: เพราะมีหลานชายสาวกผี คารวะเช้า คำนับเย็นประมาณนั้น
แถมมันก้อเป็นพวกเชียร์เหลี่ยมตามพ่อมัน
อิอิ ........... เมื่อวานนี้มันหลุดคำผรุสวาท บริภาษมิสเตอร์แฟรงค์ออกมา
 
 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

หลานมีคณา

สาวกผี สาวกหงส์ สาวกเหลี่ยม มีมากมายในบ้านเมืองของเรา เรื่องอะไรไร้สาระคนเหล่านี้ก็จะชอบมาก คน 22 คนแย่งกันเตะลูกฟุตบอลล์ลูกเดียว สุมหัวกันดูอยู่ได้ ดูไม่ดูเปล่า ยังเล่นพนันให้อนาคตของตนเองและชาติฉิบหายไปด้วย เห็นแล้วป้าก็อนาถใจ

พนันกีฬา พนันหุ้น พนันหวย หวังรวยทางลัด คนพวกนี้หากเข้ารับราชการ ก็จะต้องโกงชาติบ้านเมือง ไม่ควรสรรเสริญ

การหลุดคำ ผรุสวาท ออกมา ก็เป็นเรื่องปกติของคนไม่มีกริยางามเวลาโมโห หลังจากหลุดคำ ผรุสวาท ออกมาแล้ว ก็มักจะหลุดคำ สวาท ออกมาด้วย สาวๆควรหลีกเลี่ยงจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Body&Soul ที่ 21-08-2007, 03:16
ป้าคับ ป้าคับ ผมมีเรื่องร้อนใจมาปรึกษาป้า พักนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร

รังเกียจทุกสิ่งที่อย่างที่เป็นสี่เหลี่ยม หลังจากผมผิดหวังจากน้องเดียร์ของผม

ผมเข้าข่ายต้องไปพบแพทย์เพื่อค้นหาต้นเหตุ ของโรคที่ผมเป็นป่ะคับ

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อวานคุณแม่ผมยกไก่ห่อใบเตยมาให้ทานในจานสี่เหลี่ยม

ผมไม่ทานแล้วบอกแม่ว่าผมไม่หิว ยอมอดในมื้อนั้น แม่ไม่เข้าใจ โกรธผมใหญ่

ผมไม่รู้จะปรึกษาใคร เหลือแต่ป้าศิลาแรงคนเดียวเท่านั้นที่จะพอแอบถามได้


ขอบคุณจริงๆมากคับ


แมทธิว :slime_hmm:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: qazwsx ที่ 21-08-2007, 03:35
ผมถามมั่งนะป้า...

วันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมาอ้ะป้า
นมของลิเดีย...
เป็นนมจริง ( ดัน ) หรือ นมศัลย ( กรรม ) ?

อร่า...ถามเพิ่มเติมด้วยเรยยยย
แล้วพ่อแม่เจ้าหล่อนที่ใส่เสื้อทึม "แม้ว ฯ ซิตี้" มาลงคะแนนโหวด ( คงกาโนโหวต ) น่ะ
...ควรจะเอาเวลาไปอบรมสั่งสอนลูกสาวตัวเองเรื่องการแต่ตัวให้ถูกต้องเหมาะสมตามกาละ - เทศะ
หรือ
...ควรจะเอาเวลาไปสอนสั่งลูกสาวให้พูดจาอย่างมีสัมมาคารวะและชัดถ้อยชัดคำ
มากกว่ากัน ??


( ลูกชายผมฝากถามมาข้อนึง - ภรรยาฝากถามมาอีกข้อนึง  ...ส่วนตัวผมอยากรู้คำตอบแค่ข้อเดียว )


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 21-08-2007, 10:00
ป้าคับ ป้าคับ ผมมีเรื่องร้อนใจมาปรึกษาป้า พักนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร

รังเกียจทุกสิ่งที่อย่างที่เป็นสี่เหลี่ยม หลังจากผมผิดหวังจากน้องเดียร์ของผม

ผมเข้าข่ายต้องไปพบแพทย์เพื่อค้นหาต้นเหตุ ของโรคที่ผมเป็นป่ะคับ

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อวานคุณแม่ผมยกไก่ห่อใบเตยมาให้ทานในจานสี่เหลี่ยม

ผมไม่ทานแล้วบอกแม่ว่าผมไม่หิว ยอมอดในมื้อนั้น แม่ไม่เข้าใจ โกรธผมใหญ่

ผมไม่รู้จะปรึกษาใคร เหลือแต่ป้าศิลาแรงคนเดียวเท่านั้นที่จะพอแอบถามได้


ขอบคุณจริงๆมากคับ


แมทธิว :slime_hmm:

หลานแมทธิว

ของในโลกนี้ถ้ามันไม่กลม มันก็ต้องมีเหลี่ยม จะกี่เหลี่ยมมันก็ต้องเป็นเหลี่ยม แต่ของอะไรที่เป็นเหลี่ยม มันก็มีอันตรายแต่การที่เราจะไปปะทะกับเหลี่ยมนั้น เพราะมันอาจจะแหลมคมและทำเอาเราบาดจ็บได้

แต่ถ้าเรารู้จักระมัดระวัง ของเหลี่ยมๆนั้นก็ไม่อาจทำอันตรายกับเราได้ ต่างกับคนมีเหลี่ยม ที่ไม่ว่าเราจะระวังอย่างไร มันก็จะหาทางเอาเหลี่ยมนั้นมาทิ่มเราอยู่เสมอๆ การใช้ของที่เป็นเหลี่ยมจึงดีกว่าคบคนที่มีเหลี่ยม

ตามปกติ เมื่อคนเรามีเหลี่ยมมีคม ก็มักจะซ่อนเหลี่ยมซ่อนคมนั้นไว้ เพราะเกรงว่าคนทั่วไปจะรู้ทันเหลี่ยมทันคม และไม่ยอมหลงเป็นเหยื่อ มีบ้างที่สวรรค์ลงโทษ โดยเอาเหลี่ยมมาประจานไว้ที่ใบหน้า และยังดลบันดาลให้คนรู้เท่าทันเหลี่ยมนั้น ผู้ใดถูกสวรรค์ลงอาญาเข้าขนาดนี้ ก็มักจะต้องไม่มีแผ่นดินอยู่จ๊ะ

วิธีแก้ไขอาการผิดปกติของหลานนั้น อาจจะต้องใช้ตำรา หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง เกลียดเหลี่ยม อกหักเพราะเหลี่ยม ก็มองหน้าลูกสาวเหลี่ยม ที่เหลี่ยมคล้ายกันไปพลางๆ หน้าเหลี่ยมของสาวๆ บางทีก็น่ามองกว่าหน้าเหลี่ยมชราหัวงูจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 21-08-2007, 10:13
ผมถามมั่งนะป้า...

วันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมาอ้ะป้า
นมของลิเดีย...
เป็นนมจริง ( ดัน ) หรือ นมศัลย ( กรรม ) ?

อร่า...ถามเพิ่มเติมด้วยเรยยยย
แล้วพ่อแม่เจ้าหล่อนที่ใส่เสื้อทึม "แม้ว ฯ ซิตี้" มาลงคะแนนโหวด ( คงกาโนโหวต ) น่ะ
...ควรจะเอาเวลาไปอบรมสั่งสอนลูกสาวตัวเองเรื่องการแต่ตัวให้ถูกต้องเหมาะสมตามกาละ - เทศะ
หรือ
...ควรจะเอาเวลาไปสอนสั่งลูกสาวให้พูดจาอย่างมีสัมมาคารวะและชัดถ้อยชัดคำ
มากกว่ากัน ??


( ลูกชายผมฝากถามมาข้อนึง - ภรรยาฝากถามมาอีกข้อนึง  ...ส่วนตัวผมอยากรู้คำตอบแค่ข้อเดียว )


หลาน qazwsx (ชื่ออ่านยากจัง)

ปัญหาของหลานมันคาบเส้นยาแดงยังไงก็ไม่รู้ ดูคล้ายๆน่านำไปถามลุงหมอนพพร ป้าเองนั้นก็จนปัญญาที่จะรู้ได้ ว่าของไหนมันเป็นของจริงของปลอมของดัน เพราะไม่ได้สัมผัสดูอย่างใกล้ชิด แต่ว่าป๋าสุรพล ท่านเคยร้องเพลงเอาไว้ให้ฟังนานมาแล้ว มีใจความว่า

อ้างถึง
ของปลอม : สุรพล สมบัติเจริญ

โลกนี้มีอะไรน่าแปลกจริง เรื่องผู้หญิงพูดไปแล้วเบื่อจัง อย่าเพิ่งโกรธหรือว่าอย่าเพิ่งเกลียดชัง (อย่าเพิ่งโกรธหรือว่าอย่าพึ่งเกลียดชัง) ขอพูดอีกครั้งเถอะน่ะน้องนางเจ้าอย่าพึ่งฉิว ปากแดง แดง ตากลมกลมปล่อยผมโชว์ อกโตโตเหมือนแตงโมที่หิ้ว แต่ทำไมน้องสาวจึงเดินลิ่ว (แต่ทำไมน้องสาวจึงเดินลิ่ว) น่ากลัวคงหิ้วเอามาแต่ของปลอม ของไม่จริงมันจึงไม่สั่นไม่ไหว เขย่าเท่าไหร่จะให้มันไหวมันก็ไม่ยอม สงสัยข้างในคงเป็นของปลอม ( สงสัยข้างในคงเป็นของปลอม) ที่แม่เนื้อหอมปลอมไว้หลอกคุณลุง ผู้หญิงไทยสมัยนี้ผิดกว่าเดิม หน้าอกเสริมใส่ฟองน้ำกันให้ยุ่ง ผิดกว่ายายของฉันที่บ้านทุ่ง (อ้าว ยายของฉันละที่บ้านทุ่ง) แก่ปล่อยเสื้อเลยพุงยานเป็นถุงกาแฟ เฮ้อ สาว เอ้ย สาว ของแท้ที่อีพ่ออีแม่เพิ่นไห่มา เจ้าบ่พอใจ๋ ดันไปใส่ของปลอมของโซ่ เฮ็ดเป็นทรงบักโม่ บั๊งเบิดแท้หนอ ห้วย ของไม่จริงมันจึงไม่สั่นไม่ไหว เขย่าเท่าไหร่จะให้มันไหวมันก็ไม่ยอม สงสัยข้างในคงเป็นของปลอม (สงสัยข้างในคงเป็นของปลอม ) ที่แม่เนื้อหอมปลอมไว้หลอกคุณลุง ผู้หญิงไทยสมัยนี้ผิดกว่าเดิม หน้าอกเสริมใส่ฟองน้ำกันให้ยุ่ง ผิดกว่ายายของฉันที่บ้านทุ่ง ( อ้าว ยายของฉันละที่บ้านทุ่ง ) แก่ปล่อยเสื้อเลยพุงยานเป็นถุงกาแฟ เฮ้อ สมัยนี้ของปลอมทั้งนั้น.

เสียดายที่บอร์ดนี้เขาใส่เพลงไม่ได้ ไม่งั้นป้าจะเปิดเพลงให้ฟัง

ส่วนเรื่อง พ่อแม่ ควรจะสั่งจะสอนลูกสาวหรือไม่ หลานต้องเขาใจว่าแต่ละครอบครัวในเมืองไทยนั้น เลี้ยงลูกไม่เหมือนกัน บ้างก็จ้ำจี้จ้ำไช ตามอบรมกันจนแก่เฒ่า ตายจากันไปข้างหนึ่ง แต่บ้างก็ทำคนละอย่าง พอลูกพ้นอก ก็ไม่อาจไปยุ่งกับเรื่องอกของลูกได้อีก เด็กมันไม่ฟัง มันว่า ตัวของหนู อกของหนู หนูจะทำอะไรก็ได้ อย่างนี้จะไปโทษพ่อแม่ก็ไม่ถูกนะจ๊ะ

สังคมมันเปลี่ยนไป คนก็เปลี่ยนไป แต่ดั้งเดิมสังคมไทยนั้นละเอียดอ่อน บัดนี้หยาบลงไปเป็นอันมาก เรื่องนี้จะไปโทษใครก็ไม่ได้ โลกาภิวัฒน์ เมื่อวัตถุเจริญขึ้น จิตใจก็เสื่อมลง ทุนนิยมนั้นหากตัดสระอุออกไป มันก็เป็น ทนนิยม เราก็ต้องทนๆกันไปจ๊ะ

ลูกชายฝากถามเรื่องอะไร ภรรยาฝากถามเรื่องอะไร ป้าเดาไม่ค่อยออก รู้แต่คำตอบที่หลาน qazwsx อยากรู้เพียงข้อเดียวนั้นแหละ ไม่พ้นเรื่อง อก ไปได้

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 21-08-2007, 11:19
คุณป้าศิลาแลงครับ

หากผมเลือกเห็นชอบรัฐธรรมนูญแล้ว รับธรรมนูญจะดูแลให้เป็นพิเศษหรือเปล่าครับ

จาก นายปากเป็นเอก หัวคะแนนไทยรักไทย


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 21-08-2007, 13:00
คุณป้าครับ

ที่จริงไอ้กระพ้มนี่ก็เจ็ดสิบกว่าใกล้จะเข้าโลงเต็มทีแล้วครั่บ แต่ขอตามเทรนด์เรียกว่าป้าด้วยคนตามหลานๆในนี้ ป้าคงไม่ถือสาว่าผมหลอกแช่งนะขอรับ   :mrgreen: :lol: :mrgreen:

เรื่องก็มีอยู่ว่าตอนนี้ดวงของไอ้กระพ้มนี่มันขึ้นๆลงๆผิดปกติ เมื่อสองเดือนก่อนไอ้กระผมก็โดนศาลตัดสินจำคุกคดีหมิ่นประมาท มาเมื่ออาทิตย์ก่อนทำท่าเหมือนจะมีราชรถมาเกย เพราะเค้าเอาตำแหน่งหัวหน้าพรรคใหญ่ที่โดนยุบมาประเคนให้ เพราะหัวหน้าคนเก่าหนีคดีไปมั่วนักร้องสาวๆแถมทำธุรกิจหมากเตะอยู่ที่อิงลิชพี่เมียหลีก แล้วทิ้งมรดกไว้ให้ แต่ดูไปดูมาชักไม่แน่ใจเพราะมันทำท่าจะเป็นทุกขลาภซะแล้ว เพราะมาเมื่อวันก่อนกรรมเก่าทำท่าจะมาเยือน เพราะเค้าส่งฟ้องไอ้กระพ้มเป็นจำเลยพ่วงในคดีโรงขยะเข้าให้อีก

ไอ้กระพ้มก็เลยอยากจะเรียนถามป้าว่า คดีหลังที่เค้าส่งฟ้องนี่มันเกี่ยวอะไรกับราชรถที่มาเกยมั้ย แล้วดวงของไอ้กระพ้มนี่จะรุ่งโรจน์ได้เป็นนายก หรือว่าจะติดคุกตอนแก่กันแน่ อีกอย่างคือว่าถ้ามันจะต้องติดคุกจริง ไอ้กระพ้มจะทำยังไงกับฝูงแมวที่บ้านดี

สุดท้ายนี่ก็ขอให้ป้าอายุมั่นขวัญยืน ปราศจากโรคภัยไร้กิเลสตัณหา และก็ไม่ถูกกรรมเก่าตามราวีเหมือนไอ้กระพ้มนะครั่บ

หมัก รักแมว



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 21-08-2007, 15:16
:slime_smile2: :slime_smile2: :slime_inlove: :slime_smile2: :slime_smile2:

คุณป้าเจ้าคะ รบกวนถามค่ะว่า คุณป้ายังเคี้ยวหมากอยู่หรือป่าวคะ นู๋จะได้ไปจัดเตรียมให้ค่ะ คุณป้าจะได้มีแฮงตอบบรรดาหลาน ๆ ที่น่ารักน่าชังไปเรื่อย ๆ  :slime_v:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 21-08-2007, 15:39
คุณป้าศิลาแลงครับ

หากผมเลือกเห็นชอบรัฐธรรมนูญแล้ว รับธรรมนูญจะดูแลให้เป็นพิเศษหรือเปล่าครับ

จาก นายปากเป็นเอก หัวคะแนนไทยรักไทย

หลานปากเป็นเอก

ไม่ว่าหลานจะเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ รัฐธรรมนูญ หลานก็ต้องดูแลตัวเองจ๊ะ ตัวของเรามีไว้ให้เราดูแลเท่านั้น หากนำไปฝากคนอื่นเขาดูแล หรือหวังพึ่งคนอื่นให้เขาดูแลให้ ไม่แคล้วผิดหวังแน่นอน

อัตตาหิ อัตโนนาโถ ตนเป๋นที่พึ่งแห่งตน

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 21-08-2007, 15:52
คุณป้าครับ

ที่จริงไอ้กระพ้มนี่ก็เจ็ดสิบกว่าใกล้จะเข้าโลงเต็มทีแล้วครั่บ แต่ขอตามเทรนด์เรียกว่าป้าด้วยคนตามหลานๆในนี้ ป้าคงไม่ถือสาว่าผมหลอกแช่งนะขอรับ   :mrgreen: :lol: :mrgreen:

เรื่องก็มีอยู่ว่าตอนนี้ดวงของไอ้กระพ้มนี่มันขึ้นๆลงๆผิดปกติ เมื่อสองเดือนก่อนไอ้กระผมก็โดนศาลตัดสินจำคุกคดีหมิ่นประมาท มาเมื่ออาทิตย์ก่อนทำท่าเหมือนจะมีราชรถมาเกย เพราะเค้าเอาตำแหน่งหัวหน้าพรรคใหญ่ที่โดนยุบมาประเคนให้ เพราะหัวหน้าคนเก่าหนีคดีไปมั่วนักร้องสาวๆแถมทำธุรกิจหมากเตะอยู่ที่อิงลิชพี่เมียหลีก แล้วทิ้งมรดกไว้ให้ แต่ดูไปดูมาชักไม่แน่ใจเพราะมันทำท่าจะเป็นทุกขลาภซะแล้ว เพราะมาเมื่อวันก่อนกรรมเก่าทำท่าจะมาเยือน เพราะเค้าส่งฟ้องไอ้กระพ้มเป็นจำเลยพ่วงในคดีโรงขยะเข้าให้อีก

ไอ้กระพ้มก็เลยอยากจะเรียนถามป้าว่า คดีหลังที่เค้าส่งฟ้องนี่มันเกี่ยวอะไรกับราชรถที่มาเกยมั้ย แล้วดวงของไอ้กระพ้มนี่จะรุ่งโรจน์ได้เป็นนายก หรือว่าจะติดคุกตอนแก่กันแน่ อีกอย่างคือว่าถ้ามันจะต้องติดคุกจริง ไอ้กระพ้มจะทำยังไงกับฝูงแมวที่บ้านดี

สุดท้ายนี่ก็ขอให้ป้าอายุมั่นขวัญยืน ปราศจากโรคภัยไร้กิเลสตัณหา และก็ไม่ถูกกรรมเก่าตามราวีเหมือนไอ้กระพ้มนะครั่บ

หมัก รักแมว


หลานหมัก

อายุนั้นมันเป็นเพียงตัวเลข วัดได้ได้แต่เวลาที่เกิดมาบนโกใบนี้ ไม่อาจวัดระดับสมองได้ ถ้าจะว่าด้วยวัย ป้าก็คงต้องเรียกหลานเป็นอาวุโส แต่ถ้าจะว่าด้วยสมอง หลานก็ประมาณเหลนของป้าเท่านั้น ยังไม่อดนม และงอแง

ดวงมนุษย์เรานั้น มันก็ขึ้นๆลงด้วยกันทุกคน หากเฝ้าจับตามองชีวิตของใครเข้าสักคน ก็จะพบทุกข์สุขปะปนกันไป ตราบใดที่ยังต้องเกิด นั่นหมายถึงยังมีกรรม หมดกรรมหมดเวรก็ไม่ต้องเกิด นิพพานในบั้นปลาย

การที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ก็นับเป็นโอกาศอันดีที่จะได้สั่งสมบุญกุศล เพื่อที่จะได้เจริญต่อไปในชาติหน้า และเดินทางไปสู่ชาติสุดท้าย ที่จะได้หมดเวรหมดกรรม การจะไปถึงนิพพานนั้น ต้องสั่งสมบุญกุศลกันมากมายหลายชาติ หากเกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว หมั่นทำแต่กรรมชั่ว ชาติหน้า คงต้องกลับไปเกิดเป็นแมวให้เขาเลี้ยงอีกต่อไป

เมื่อถูกศาลท่านพิพากษาว่าผิด ถึงจะรอดคุกรอดตารางมาได้ ก็ควรจะสำนึกและหมั่นปรับปรุงตัว ควรพิจารณาว่าเรื่องต่างๆที่เราทำมานั้น ถูกต้องดีหรือยัง หากผิดก็แก้ไขเสีย ชีวิตนี้ก็จะดีขึ้น  สิ่งที่หลานคิดว่าราชรถมาเกยนั้น ควรพิจรณาดูเสียให้ดี บางทีไอ้ที่มาเกย อาจจะเป็นรถสิบล้อที่เบรคแตกแล้วก็ได้ ดีไม่ดี อาจเป็นรถขยะ รถดูดส้วม ที่คนขับโดดรถหนี เพราะขับต่อไปไม่ไหว ปล่อยให้มาเกยหลานเข้า ระวังบาดเจ็บถึงพิการ หรือสิ้นชีวิตไปเพราะการเกยได้

คดีความที่หลานต้องอยู่นั้น มันเกิดเนื่องแต่กรรมที่หลานก่อไว้ อย่าได้นำไปพัวพันกับรถดูดส้วมที่กำลังวิ่งมาเกย มันคนละเรื่องคนละราวกัน อนาคตนั้นหลานอาจจะโดนดคีเข้าอีกมาก หากยังขืนไม่วิ่งหลบรถดูดส้วมเบรคแตกคันนั้น

ส่วนเรื่องจะต้องไปติดคุกแล้วห่วงแมวนั้น จงอย่าได้เป็นห่วง แมวนั้นไม่เหมือนหมา ถ้าปล่อยไว้ในบ้านไม่ได้ขังกรง ถึงเจ้าของจะไปติดคุก มันก็ลัดเลาะปีนรั้วไต่ไปหานายใหม่ได้ หลานเองนั่นสิ ติดคุกแล้วไต่ลัดเลาะออกมาคงไม่ได้ อายุออกปูนนั้นแล้ว ถ้าจะสิ้นเสียในคุกระมัง

ขอบใจในคำอวยพร แต่การจะให้พรใครนั้น ผู้ให้ต้องมีเสียก่อน หากไม่มี พร มีแต่ พัง จะเอาไปให้ใครเขาก็ดูจะน่าเกลียด

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 21-08-2007, 15:57
:slime_smile2: :slime_smile2: :slime_inlove: :slime_smile2: :slime_smile2:

คุณป้าเจ้าคะ รบกวนถามค่ะว่า คุณป้ายังเคี้ยวหมากอยู่หรือป่าวคะ นู๋จะได้ไปจัดเตรียมให้ค่ะ คุณป้าจะได้มีแฮงตอบบรรดาหลาน ๆ ที่น่ารักน่าชังไปเรื่อย ๆ  :slime_v:

หลานเม่ย

ปกติป้านั้นคบฝรั่ง เหมือนน้องป๊อบอย่างไรก็อย่างนั้น ป้าเคี้ยวหมากฝรั่งจ๊ะ เพราะเคี้ยวแล้วปากไม่แดง ฟันไม่ดำ แต่อย่างไรก็ตาม มักจะมีผู้อยากแจกหมากไทยให้ป้าอยู่บ่อยๆ ป้าต้องคอยหลบหลีกให้ดี หาไม่นอกจากปากจะแดงจนกินน้ำพริกไม่ได้หลายวันแล้ว ดีไม่ดีฟันจะหลุดออกมาอีกด้วย

ตอนนี้ป้ากำลังหัดเคี้ยวหญ้าอ่อน เอาขนาดกอล์ฟไมค์นั่นแหละ ดูท่าทางจะนุ่มเหงือกดี :slime_smile2:

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 23-08-2007, 10:46
:mrgreen: :slime_bigsmile: :slime_smile2: :slime_bigsmile: :slime_smile2: :slime_bigsmile: :mrgreen:


คุณป้าเจ้าขา คำตอบของคุณป้าทำให้นู๋ ๆ และหลาน ๆ หัวเราะจนกรามเกือบค้าง ท้องก็ปวดแทบตายเลยค่ะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะคุณป้า
 
เอ...ว่าแต่ว่า สงสัยที่คุณป้าจ๊ะมาหัดเคี้ยวหญ้าอ่อนเอาตอนนี้ อาจจะสายเกินไปหรือป่าวคะ น่าจะเตรียมฟันปลอมสำรองไว้ด้วยนะคะ และต้องระวังลมเพชรหึงของคุณลุงคนข้างตัวคุณป้าด้วยค่ะ หลาน ๆ เป็นห่วงเป็นใยกลัวคุณป้าจะ(แอบ) พักร้อนยาววววไปอีกคน :slime_smile2:

นู๋มีคำถามจะมาเรียนถามคุณป้าเพื่อขอคำแนะนำด้วยค่ะ เดี๋ยวขอไปย่อความมาก่อนนะคะ กลัวว่าจะยาวเยิ่นเย้อ ยืดเยื้อ พร่ำพรรณนาแบบจบไม่ลงค่ะ  :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 25-08-2007, 15:47
เข้ามาอ่านด้วยความขบขัน
อ่านทุก คคห. เผื่อจะเลียนแบบได้บ้าง..........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


มีคำถาม เรื่องสงสัยเมื่อใด จะมาถามเพื่อคลายทุกข์.......


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 25-08-2007, 16:09
กำลังจะถามป้าศิลาแลง อยู่พอดี มีเบอร์โทรมั๊ย อิ อิ

เผื่อว่าง ๆ จะชวน "ซ้อเจ็ด" มาร่วมเสวนา ฮ่า ฮ่า


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 25-08-2007, 19:20
เข้ามาอ่านด้วยความขบขัน
อ่านทุก คคห. เผื่อจะเลียนแบบได้บ้าง..........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


มีคำถาม เรื่องสงสัยเมื่อใด จะมาถามเพื่อคลายทุกข์.......

หลานปุถุชน

ขบขัน ระวังฟันหัก หาอย่างอื่นขบดีกว่าจ๊ะ

หากมีคำถาม ป้ายินดีตอบ เพราะเมื่อมีคำถามย่อมน่าจะมีคำตอบ แต่ถ้าจะคลายทุกข์ ต้องไปห้องน้ำจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 25-08-2007, 19:30
กำลังจะถามป้าศิลาแลง อยู่พอดี มีเบอร์โทรมั๊ย อิ อิ

เผื่อว่าง ๆ จะชวน "ซ้อเจ็ด" มาร่วมเสวนา ฮ่า ฮ่า

ลุงแคน

ต๊ายตาย  :slime_whistle: อกอีแป้นแล่นลึกเข้าตึกแขก วันนี้ดวงของอิฉันมันเป็นอย่างไร มีหนุ่มใหญ่มาขอเบอร์โทรศัพท์ ความจริงนั้นอยากจะให้จนตัวสั่น แต่โทรศัพท์ที่บ้านก็ถูกตัดสายไปเสียแล้ว น้ำประปาและไฟฟ้าก็คงจะมาตัดเร็วๆนี้ อีฉันลืมจ่ายบิลล์เขาเจ้าค่ะ  :slime_smile2:

ซ้อเจ็ดกับอิฉัน เสมือนเสื่อสองผืนอยู่ร่วมห้องเดียวกันไม่ได้ พบกันเห็นทีจะได้มีรายการบู๊ล้างผลาญ เพราะซ้อเจ็ดแกปากลำโพง อิฉันน่ะปากสว่าง เจอกันเป็นได้ป่นปี้กันไปข้างหนึ่งเจ้าค่ะ ดังนั้นอย่าจัดเสวนาเลย เดี๋ยวจะเดือดร้อนคนจัดเจ้าค่ะ  :slime_smile2:

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Body&Soul ที่ 25-08-2007, 19:40
ป้าคับ ป้าคับ ผมติดตามเรื่องการเมืองมาตั้งแตกเนื้อหนุ่มจนเสียงดังไปถึงหน้าปากซอย

จากวันนั้นถึงตอนนี้ทำไมการเมืองเราไม่ก้าวหน้าไปทางไหนได้เลยคับ

ตัวเลือกไม่กี่คนก็วนๆอยู่แค่นักการเมืองไดโนเสาร์เต่าล้านปีผลัดเปลี่ยนเวียนหน้ากันมาเล่นยี่เกหลงโรง

ให้วัยรุ่นไทยใจซ่าหยั่งผมดู ผมอยากดูนักการเมืองแซ่บซ่าแบบกอล์ฟ-ไมค์บ้าง

ผมควรต้องทำงัยดีคับ ถ้าป้าตอบผมไม่ได้เลือกตั้งคราวหน้าที่จะมาถึง

ผมจะนอนหลับทับสิทธิ์จิงๆด้วย

ขอบคุณคับ

แมทธิว


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 25-08-2007, 20:05
ป้าคับ ป้าคับ ผมติดตามเรื่องการเมืองมาตั้งแตกเนื้อหนุ่มจนเสียงดังไปถึงหน้าปากซอย

จากวันนั้นถึงตอนนี้ทำไมการเมืองเราไม่ก้าวหน้าไปทางไหนได้เลยคับ

ตัวเลือกไม่กี่คนก็วนๆอยู่แค่นักการเมืองไดโนเสาร์เต่าล้านปีผลัดเปลี่ยนเวียนหน้ากันมาเล่นยี่เกหลงโรง

ให้วัยรุ่นไทยใจซ่าหยั่งผมดู ผมอยากดูนักการเมืองแซ่บซ่าแบบกอล์ฟ-ไมค์บ้าง

ผมควรต้องทำงัยดีคับ ถ้าป้าตอบผมไม่ได้เลือกตั้งคราวหน้าที่จะมาถึง

ผมจะนอนหลับทับสิทธิ์จิงๆด้วย

ขอบคุณคับ

แมทธิว

หลานแมทธิว

เรื่องแตกเนื้อหนุ่มนั้น ถึงป้าจะเป็นผู้หญิง แต่ก็พอจะรู้มาเหมือนกัน และป้าก็เคยแตกเนื้อสาวมาก่อน แต่ป้าสงสัยหลานจริงๆ ก็อีแค่แตกเนื้อหนุ่ม ทำไมถึงต้องแหกปากร้องเสียจนดังลั่นไปถึงหน้าปากซอย ดีใจอะไรมากนักหรือ

ที่หลานถามว่า "จากวันนั้นถึงตอนนี้ทำไมการเมืองเราไม่ก้าวหน้าไปทางไหน" ตอนนี้น่ะป้าพอจะเข้าใจ แต่จากวันนั้นมันวันไหนกันล่ะ วันที่เขาเอารถถังออกมา แล้วมีคนไร้แผ่นดินอยู่หรือเปล่าจ๊ะ

ความจริงการเมืองของไทยมันก็ไม่ค่อยจะก้าวหน้าไปไหน นับตั้งแต่ปี 2475 มาแล้วล่ะจ๊ะ ไม่น่าเชื่อว่า เชื้อสายบางสายที่เล่นการเมืองมาตั้งกะยุคแรก ยังคงเล่นอยู่มาจนถึงตอนนี้ และนักการเมืองไทยสมัยนี้ ก็ไม่แตกต่างกับนักการเมืองสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สองเลย ยังคงไม่เอาไหนอยู่เช่นเคย

คนไทยนั้นมีนิสัยรักใครรักจริง ดูอย่างพระเอกหนังนางเอกหนัง สมัยก่อนนี้หากไม่ใช่ มิตร เพชรา ก็ไม่ใคร่จะมีคนดูหนังเรื่องนั้น จนมิตรลาจากไป สมบัติ ก็ขึ้นมาแทน แล้วครองตำแหน่งพระเอกยอดนิยมอยู่เป็นนาน กว่าที่สรพงศ์จะแซงได้

นักการเมืองไทยก็เหมือนพระเอกหนังนี่แหละจ๊ะ โผล่หน้าไปหาชาวบ้าน เขาก็จำได้ว่าคราวก่อนให้สามร้อย คราวนี้ลือกันว่าจะให้ห้าร้อย หากมีพระเอกหน้าใหม่ไปสัญญาว่าจะให้หกร้อย ชาวบ้านเขาก็ไม่ค่อยจะเชื่อ คนแปลกหน้า ไว้ใจไม่ได้ก๊า  ดังนั้นเขาก็เลือกหน้าเก่าหน้าเดิมซ้ำซากเขามาเล่นในสภา หลานแมทธิวซึ่งเป็นวัยรุ่นใจร้อน ก็จึงต้องทนดูหน้านักการเมืองเก่าๆต่อไป

จะให้เด็กรุ่นใหม่ รุ่นกอล์ฟไมค์ ไปลงสมัครเป็น สส. ก็คงแพ้เขาหลุดลุ่ย สู้แรงคนเก่าคนแก่เขาไม่ได้หรอก อีกทั้งระบบเลือกตั้งของไทยเรานั้น เขาแบ่งเขตตามพื้นที่ วัยรุ่นที่มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตต่างๆ เสียงมันไม่มากเท่าวัยชราหรอกจ๊ะ วัยรุ่นเลือกกอล์ฟไมค์ วัยชราเขาเลือกมิตรสมบัติเข้ามาเหมือนเดิม แพ้กันเห็นๆ

ถ้าหลานอยากได้ สส. รุ่นใหม่ คนหน้าใหม่ ต้องช่วยกันแก้รัฐธรรมนูญจ๊ะ ให้เขาแบ่ง สส.ตามอาชีพของประชาชน ไม่ใช่แบ่งตามพื้นที่ เท่านี้หลานก็จะได้ตัวแทนของวัยรุ่นเข้าสภา เพราะหลานซึ่งเป็นนักศึกษาหรือเยาวชน ก็จะได้เลือกคนรุ่นเดียวกันเข้าไปเป็นตัวแทน

คราวหลัง จะแตกเนื้อหนุ่ม หาอะไรอุดปากไว้นะจ๊ะ คนปากซอยเขาจะได้ไม่รู้

ศิลาแลง



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Body&Soul ที่ 25-08-2007, 20:24
ป้ามาตอบเร็วทันใจวัยรุ่นหยั่งผมได้ดีทีเดียว

ทีหน้าทีหลังผมจะไม่ร้องเสียงดังอีกแล้วคับป้า

ผมขอถามอีกคำถามนึงนะคะ ว่าน้องลิเดียร์ของผม

เข้าข่ายนอมินี่แบบที่กำลังฮิตติดปากกันทั่วประเทศเราแบบไร้ยางอาย

ใช่หรือไม่คับป้า ถ้าใช่ผมคงใจชื้นขึ้นเยอะเลย

เพราะนอมินี่ แปลว่าโนมันนี่ก็วิ่งหนีใช่ปะคับป้า ผมตกวิชาภาษาอังกิดง่ะคับ


ผมหวังว่าป้าคงไม่คิดว่าผมเป็นพวกขายขนมหม้อแกงในถาดสี่เหลี่ยมๆอยู่แถวที่ประเทดอังกิดนะคับ


รักป้ามากคับ จุ๊บๆ :slime_inlove:




แมทธิว


หัวข้อ: ป้าแลง! ช่วยตอบคำถามและให้คำแนะนำ(เพิมเติม)ด้วยครับ...
เริ่มหัวข้อโดย: Suraphan07 ที่ 25-08-2007, 23:35
ต้องขออภัยป้าฯด้วยครับ ที่เรียกป้าสั้นๆว่า ป้าแลง ...   

ตามประสาคนไทยน่ะครับ อะไรย่อสั้นได้ก็อยากจะย่อ   
แต่ครั้นจะเรียกสั้นๆว่า "ป้า" ...    
ก็เกรงว่าจะมีคุณป้าท่านอื่นๆ เข้าใจผิด...   
   
จะเรียกว่า ป้าศิ ..ก็บังเอิญชื่อไปตรงกับยัยป้า ปากปลาร้า บ้าหวยข้างบ้าน...   
เกรงว่าจะไม่เป็นศิริมงคลกับป้าศิลาแลงของผม...   
   
พอจะเรียกว่า ป้าลา.ก็กลัวว่าพอ ทักทายกันปุ๊บก็ลากันปั๊บ...   
ใครมาอ่านเจอก็จะคิดว่า ไม่ป้าลา ก็ผมลา ต้องมีใครลากันไปข้างหนึ่ง...   

สรุปแล้วขอเรียกป้าว่า "ป้าแลง" ไปพลางๆก่อนแล๊ะกันน่ะครับ...
เพราะพอผมเปิดพจนานุกรมฉบับ สอ เสถบุตร ดูแล้ว
คำแปลของคำว่า"แลง" ก็  เม๊าะเกิ๋น...

แลง น. ชื่อหินชนิดหนึ่ง เมื่ออยู่ใต้ดินเป็นดินอ่อนแต่เมื่อถูกลมแล้วแข็งเป็นหินสีแดง มีรูพรุน;
           ตัวแมงเชื้อโรคที่เกาะกินรากฟันทำให้ฟันผุ...


ขอเข้าเรื่องที่อยากให้ป้าฯ ช่วยกรุณาตอบคำถามและให้คำแนะนำน่ะครับ...

ที่ป้าฯเคยให้ผมติดตามการแสดงของกลุ่ม นปก.อย่างใกล้ชิด(เพราะอาจจะไม่ได้ดูอีก)...
ผมพยายามทำอย่างดี  แต่แล้วก็เป็นจริงๆ ตามที่ป้าบอก...
ในคืนวันลงประชามติ (พวก)เขาประกาศปิดเวที แล้วก็เปลี่ยนชื่อเป็น นปช.
ปุจฉา...
- ป้าว่าถ้าเปลี่ยนชื่อแล้ว เขาจะยังมีการแสดง(แปลกๆแบบเดิมๆ) อีกมั๊ยครับ ?
แบบว่า.ตัดต้นกล้วย 4 ต้น-ยิงธนูข้ามถนน-ขว้างหินใส่หัวกันเอง-นั่งเก้าอี้ให้ตำรวจหาม-เปิดตูดโชว์-ปล่อยลูกโป่ง
แล้วประกาศว่าตรูชนะ
ฯลฯ... หรือว่าน่าจะมีอะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจกว่าเดิม…
(คือว่า อยากติดตามสิ่งที่ตัวเอง เกิดมาจากท้องพ่อ ท้องแม่ ก็ไม่เคยได้เห็นอ่ะครับ) ....

- จากการเปลี่ยนชื่อ นปก.เป็น นปช. ป้าฯว่า เขาจะเปลี่ยนชื่อไปเป็นชื่ออื่นอีกมั๊ย ?...
แบบว่าเป็น นปท.-นปน.-นปบ.-นปป.-นปผ.-นปพ.-นปห. ไปจนถึง นปอ.และ นปฮ.

......................................................................................................
 
บังเอิญตอนนี้ ผมพยายามตั้งกระทู้ (ในเว็บบอร์ดชื่อดังของเมืองไทย) ให้คนที่ไปอ่าน
ได้สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม-ระวังขยะพิษจากเมืองนอก และชวนให้อ่านหนังสือกันให้มากกว่าวันล่ะ 6 บรรทัด
(เพื่อลบคำสบประมาทที่อดีตนายกท่านหนึ่ง เคยดูถูกคนไทยเอาไว้)
ผมจึงมีคำถามว่า...
- ผมจะวิธี "ปั่น" อย่างไรดีครับ... แล้วข้อควรระวังในการ "ปั่น" มีอะไรบ้าง…???

...................................................................................................

แห่ะ แห่ะ ... ขอถามแค่นี้ก่อนแล้วกันครับ...

พอดีน้องสาวคนเล็ก ของลูกชายของแม่ยายผม มาสะกิดเตือนที่ข้างหูเชิงตัดพ้อ ว่า
"ดึกแล้วน่ะ ฝนก็ตกพรำๆ การบ้านการช่อง ก็เหินห่าง ไม่ค่อยสนใจ ฯลฯ"

ผมขออนุญาต จบคำถาม เพื่อไปทำการบ้านก่อนน่ะครับ ...
ไว้จะมา รบกวนถามป้าเพิ่มเติม...

ยังไง ก็  ยัง  ติด  ตาม   ผลงาน    ของ          ป้าฯ ครับ  ...

ขอ แส ดง ความ บับ ถือ 
 วส ว ห กสอบยสยาบวง วงิงง งงง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 26-08-2007, 09:42
ป้ามาตอบเร็วทันใจวัยรุ่นหยั่งผมได้ดีทีเดียว

ทีหน้าทีหลังผมจะไม่ร้องเสียงดังอีกแล้วคับป้า

ผมขอถามอีกคำถามนึงนะคะ ว่าน้องลิเดียร์ของผม

เข้าข่ายนอมินี่แบบที่กำลังฮิตติดปากกันทั่วประเทศเราแบบไร้ยางอาย

ใช่หรือไม่คับป้า ถ้าใช่ผมคงใจชื้นขึ้นเยอะเลย

เพราะนอมินี่ แปลว่าโนมันนี่ก็วิ่งหนีใช่ปะคับป้า ผมตกวิชาภาษาอังกิดง่ะคับ


ผมหวังว่าป้าคงไม่คิดว่าผมเป็นพวกขายขนมหม้อแกงในถาดสี่เหลี่ยมๆอยู่แถวที่ประเทดอังกิดนะคับ


รักป้ามากคับ จุ๊บๆ :slime_inlove:

แมทธิว

หลานแมทธิว

นอมินี ภาษาอังกฤษแปลตรงๆตัวก็แปลว่าตัวแทน หรือจะแปลให้ถึงใจก็แปลว่าหน้าม้า แต่ถ้าจะแปลตามความหมายทางการเมืองของเราในยุคที่ผ่านมา มันก็น่าจะแปลได้ว่า หน้าด้านให้คนอื่นออกหน้าแทน

แต่คำนี้หากนำมาใช้กับผู้หญิง ก็คงจะต้อง เปลี่ยนสระ เติมวรรณยุกต์ กันหน่อย จึงจะแปลได้อย่างสมบูรณ์ อาจจะอ่านคำนี้ได้ว่า  นอ มี นี่ สำเนียงเป็นฝรั่งจ๋าเลย  และผู้หญิงถ้า นอมีนี่  ก็ไปเล่นภาพยนต์เรื่อง คู่แรด กับเซกิพระเอกในดวงใจป้าได้เลย

น้องลิเดียเธอจะเป็นนอมินีหรือนอมีนี่หรือเปล่า ป้าก็ไม่ใคร่จะแน่ใจเหมือนกัน หรือเธอจะเป็น "โนมันนี่ก็วิ่งหนี" หรือไม่ก็ไม่ทราบอีกนั่นแหละ ของพรรณนี้ มันต้องถึงเวลาดังกล่าวจริงๆ เป็นได้รู้กัน แต่หลานไม่ต้องกังวล อีกไม่นานก็จะได้เห็น เพราะคู่กรรมของเธอนั้น คงได้รับกรรมในคุกเร็วๆนี้

"พวกขายขนมหม้อแกงในถาดสี่เหลี่ยมๆอยู่แถวที่ประเทดอังกิด" นี่เป็นอย่างไรหรือ ช่วยขยายความมาหน่อย ป้าเห็นแต่ว่าแถวนั้น คนเหลี่ยมๆเขาสั่งหม้อแกงอิมปอร์ตเข้าไปหลายใบแล้ว ขนมหม้อแกงยังไม่เห็นเขาสั่ง

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าแลง! ช่วยตอบคำถามและให้คำแนะนำ(เพิมเติม)ด้วยครับ...
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 26-08-2007, 10:02
ต้องขออภัยป้าฯด้วยครับ ที่เรียกป้าสั้นๆว่า ป้าแลง ...   

ตามประสาคนไทยน่ะครับ อะไรย่อสั้นได้ก็อยากจะย่อ   
แต่ครั้นจะเรียกสั้นๆว่า "ป้า" ...    
ก็เกรงว่าจะมีคุณป้าท่านอื่นๆ เข้าใจผิด...   
   
จะเรียกว่า ป้าศิ ..ก็บังเอิญชื่อไปตรงกับยัยป้า ปากปลาร้า บ้าหวยข้างบ้าน...   
เกรงว่าจะไม่เป็นศิริมงคลกับป้าศิลาแลงของผม...   
   
พอจะเรียกว่า ป้าลา.ก็กลัวว่าพอ ทักทายกันปุ๊บก็ลากันปั๊บ...   
ใครมาอ่านเจอก็จะคิดว่า ไม่ป้าลา ก็ผมลา ต้องมีใครลากันไปข้างหนึ่ง...   

สรุปแล้วขอเรียกป้าว่า "ป้าแลง" ไปพลางๆก่อนแล๊ะกันน่ะครับ...
เพราะพอผมเปิดพจนานุกรมฉบับ สอ เสถบุตร ดูแล้ว
คำแปลของคำว่า"แลง" ก็  เม๊าะเกิ๋น...

แลง น. ชื่อหินชนิดหนึ่ง เมื่ออยู่ใต้ดินเป็นดินอ่อนแต่เมื่อถูกลมแล้วแข็งเป็นหินสีแดง มีรูพรุน;
           ตัวแมงเชื้อโรคที่เกาะกินรากฟันทำให้ฟันผุ...


ขอเข้าเรื่องที่อยากให้ป้าฯ ช่วยกรุณาตอบคำถามและให้คำแนะนำน่ะครับ...

ที่ป้าฯเคยให้ผมติดตามการแสดงของกลุ่ม นปก.อย่างใกล้ชิด(เพราะอาจจะไม่ได้ดูอีก)...
ผมพยายามทำอย่างดี  แต่แล้วก็เป็นจริงๆ ตามที่ป้าบอก...
ในคืนวันลงประชามติ (พวก)เขาประกาศปิดเวที แล้วก็เปลี่ยนชื่อเป็น นปช.
ปุจฉา...
- ป้าว่าถ้าเปลี่ยนชื่อแล้ว เขาจะยังมีการแสดง(แปลกๆแบบเดิมๆ) อีกมั๊ยครับ ?
แบบว่า.ตัดต้นกล้วย 4 ต้น-ยิงธนูข้ามถนน-ขว้างหินใส่หัวกันเอง-นั่งเก้าอี้ให้ตำรวจหาม-เปิดตูดโชว์-ปล่อยลูกโป่ง
แล้วประกาศว่าตรูชนะ
ฯลฯ... หรือว่าน่าจะมีอะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจกว่าเดิม…
(คือว่า อยากติดตามสิ่งที่ตัวเอง เกิดมาจากท้องพ่อ ท้องแม่ ก็ไม่เคยได้เห็นอ่ะครับ) ....

- จากการเปลี่ยนชื่อ นปก.เป็น นปช. ป้าฯว่า เขาจะเปลี่ยนชื่อไปเป็นชื่ออื่นอีกมั๊ย ?...
แบบว่าเป็น นปท.-นปน.-นปบ.-นปป.-นปผ.-นปพ.-นปห. ไปจนถึง นปอ.และ นปฮ.

......................................................................................................
 
บังเอิญตอนนี้ ผมพยายามตั้งกระทู้ (ในเว็บบอร์ดชื่อดังของเมืองไทย) ให้คนที่ไปอ่าน
ได้สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม-ระวังขยะพิษจากเมืองนอก และชวนให้อ่านหนังสือกันให้มากกว่าวันล่ะ 6 บรรทัด
(เพื่อลบคำสบประมาทที่อดีตนายกท่านหนึ่ง เคยดูถูกคนไทยเอาไว้)
ผมจึงมีคำถามว่า...
- ผมจะวิธี "ปั่น" อย่างไรดีครับ... แล้วข้อควรระวังในการ "ปั่น" มีอะไรบ้าง…???

...................................................................................................

แห่ะ แห่ะ ... ขอถามแค่นี้ก่อนแล้วกันครับ...

พอดีน้องสาวคนเล็ก ของลูกชายของแม่ยายผม มาสะกิดเตือนที่ข้างหูเชิงตัดพ้อ ว่า
"ดึกแล้วน่ะ ฝนก็ตกพรำๆ การบ้านการช่อง ก็เหินห่าง ไม่ค่อยสนใจ ฯลฯ"

ผมขออนุญาต จบคำถาม เพื่อไปทำการบ้านก่อนน่ะครับ ...
ไว้จะมา รบกวนถามป้าเพิ่มเติม...

ยังไง ก็  ยัง  ติด  ตาม   ผลงาน    ของ          ป้าฯ ครับ  ...

ขอ แส ดง ความ บับ ถือ 
 วส ว ห กสอบยสยาบวง วงิงง งงง


หลาน วส ว ห กสอบยสยาบวง วงิงง งงง (คนอะไรชื่อพิลึก)

หลานจะเรียกชื่อย่อป้าว่าป้าแลง ป้าก็ไม่ว่าอะไร ขอแต่อย่าเรียกเพี้ยน สำเนียงผิดพลาด เป็น ป้าแลน ก็แล้วกัน คำว่า แลน นั้นเปิดพจนานุกรมดูแล้ว มันห่างจากคำว่า แลง มากโขอยู่จ๊ะ ส่วนคำว่า ป้าศิ เมื่อเป็นอริกันอยู่ ระคายหู ก็ไม่ต้องเรียก แต่คำว่า ป้าลา นั้น หากเป็น ลาจาก ฟังแล้วยังพอทน แต่หากเป็นลาหูยาว ป้าว่าป้าไม่ค่อยชอบชื่อนี้นัก ฟังแล้วดูมันโง่ๆพิกล

ชื่อกลุ่ม นปก. นั้น ป้าสังหรณ์ตั้งแต่แรกแล้วว่ามันจะใช้ได้ไม่นาน ชื่อมันไม่เป็นมงคลกับนายตัวเองเลย รีบเลิกไปได้นั่นล่ะดีแล้ว เป็นอันว่าเราเลิกดูจำอวดชุดนี้ไปจริงๆ เพราะศาลท่านเอาจริง ให้ไปอบรมนิสัยเสียหลายวัน อุดมการณ์ที่ว่าจะไม่ประกันตัวพินาศหมด เข็ดคุกกันเป็นแถวๆจ๊ะ

ทีนี้มาเปลี่ยนชื่อกลุ่มใหม่ นปช. ป้าเองก็สงสัยว่ามันแปลว่าอะไร ต้องซอกแซกไปถามชาวบ้านชาวช่องเค้า ก็ได้ความมาว่า ทั้งกลุ่มที่เข้าคุกไปนั้น ยกเว้นน้องเพ็ญคนเดียว ต่างก็ต้องร้องกันระงมยามค่ำคืนว่า "หนู เป็น ชาย"ๆๆๆๆๆๆ  เพราะเกรงว่าเพื่อนร่วมคุกทั้งหลาย จะเข้าใจผิดว่า เป็นพวกน้องเพ็ญกันไปทั้งโขยง หากถูกเข้าใจผิด เป็นไม่ได้ท้องผูกกันล่ะ

ดังนั้นเมื่อเปลี่ยนชื่อ เพื่อไม่ให้เพื่อนร่วมคุกเข้าใจผิดแล้ว ก็คงได้กลับเข้า-ไปในนั้นอีกเป็นแน่ จึงคาดเดาได้ว่า พวกนี้จะต้องออกมาแสดงตลกป่วนเมืองอีกในไม่ช้า เพราะหากไม่แสดง ก็ไม่ได้รับทรัพย์  The Show Must Go On

กระทู้ที่หลานไปตั้งไว้ หัวข้อน่าสนใจมาก แต่หัวข้อกระทู้แบบนี้ ในเวบบอร์ดที่หลานว่ามา เขาไม่ใคร่จะสนใจกัน ป้าว่าถ้าหลานคิดจะ ปั่น กระทู้ ก็คงไม่มีคนสนใจอีกนั่นแหละ วิธีเรียกคนเข้ามาในกระทู้ที่ไม่น่าสนใจนั้น หลานต้องใช้วิธี แถ หากไม่เข้าใจว่าจะ แถ ได้อย่างไร ไปดูตัวอย่างในบอร์ดเสรีไทยได้จ๊ะ ไอ้พวก แถ มีหลายตนอยู่เหมือนกัน

ต๊าย ไม่ค่อยทำการบ้านหรือนี่ ครูถึงต้องมาสะกิดเตือน บัดสีบัดเถลิงจริงๆ มาพูดเรื่องการบ้านปนกับการเมือง คนที่จะเอาเรื่องการบ้านปนกับการเมืองได้นั้น ต้องเป็นหัวหน้าพรรคเสียก่อน แล้วไล่จับลูกน้องไปทำการบ้าน เมื่อลูกน้องที่น่าจับหมดพรรคไปแล้ว ก็เร่ไปจับเพื่อนลูกชายแทน หลานยังไม่ถึงขั้นนั้น แยกแยะหน่อยนะจ๊ะ เอาการเมืองไปปนการบ้าน ก็ถูกครูสะกิดเตือนแบบนี้แหละ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: login not found ที่ 26-08-2007, 10:43
ป้าครับ
ผมมีคนรู้จักคนนึง(แต่เขาคงไม่รู้จักผม) เป็นคนชอบเลี้ยงหมากับแมวมากเลยครับ แมวที่เลี้ยงก็เลี้ยงแบบปกตินะครับ แต่นิสัยของแมวออกจะแปลกประหลาดซักหน่อย แทนที่จะชอบกินปลาแต่แมวบ้านนี้ชอบกินซี่โครงไก่ แค่นี้ยังไม่แปลกเท่ากับหมาที่เขาเลี้ยงครับ เพราะเขาเลี้ยงอยู่ในปาก ผมไม่สามารถระบุพันธุ์ได้้ เพราะผมไม่เคยเห็นตัวเคยได้ยินแต่เสียง จากเสียงที่ได้ฟังคิดว่ามีหลายตัวครับ ผมอยากจะขอแบ่งมาเลี้ยงบ้างท่าทางจะเลี้ยงง่ายเฝ้าบ้านเก่ง ฝึกดีๆหน่อยเผื่อจะออกเทปกับเขาได้บ้าง เขาจะยอมหรือเปล่าครับ
อ้อ...นอกจากเลี้ยงในปาก ผมจะเลี้ยงไว้ที่อื่นได้ไหมครับ เพราะเวลาคนรู้จักคนนี้พูดมันจะมีกลิ่นแปลกๆออกมาด้วย สงสัยคงลืมปล่อยหมาไปทำธุระ ผมกลัวจะมีกลิ่นปากแบบเขานะครับป้า

ขอถามอีกนิดนึงนะครับป้า
พักนี้ฝนตกบ่อยเห็นคนเป็นไข้สมองเสื่อม กับโรคมือบอนกันเยอะเวลาผมไปเล่นเว็บบอร์ดแห่งนึง คนพวกนี้ชอบมาแสดงอาการของโรคให้ผมเห็นบ่อยๆ แต่เขาคงไม่รู้ตัวว่าเป็น ผมสงสารเขามากเลยครับ ป้าว่าผมจะเอายาอะไรให้เขากินดีครับ ระหว่างสตริกนิน กับไซยาไนด์ หรือจะใช้รวมกับยาสูตรอื่นดีครับ ผมเห็นสูตรที่ใช้ง่ายตายถึงรากหญ้าอยู่หลายยี่ห้อ ไม่รู้จะใช้อะไรดี ป้าพอจะแนะนำได้ไหมครับ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 26-08-2007, 17:13
ป้ามาตอบเร็วทันใจวัยรุ่นหยั่งผมได้ดีทีเดียว

ทีหน้าทีหลังผมจะไม่ร้องเสียงดังอีกแล้วคับป้า

ผมขอถามอีกคำถามนึงนะคะ ว่าน้องลิเดียร์ของผม

เข้าข่ายนอมินี่แบบที่กำลังฮิตติดปากกันทั่วประเทศเราแบบไร้ยางอาย

ใช่หรือไม่คับป้า ถ้าใช่ผมคงใจชื้นขึ้นเยอะเลย

เพราะนอมินี่ แปลว่าโนมันนี่ก็วิ่งหนีใช่ปะคับป้า ผมตกวิชาภาษาอังกิดง่ะคับ


ผมหวังว่าป้าคงไม่คิดว่าผมเป็นพวกขายขนมหม้อแกงในถาดสี่เหลี่ยมๆอยู่แถวที่ประเทดอังกิดนะคับ


รักป้ามากคับ จุ๊บๆ :slime_inlove:




แมทธิว



ทีหน้าทีหลังผมจะไม่ร้องเสียงดังอีกแล้วคับป้า
คราวหน้าจะแตกเนื้อหนุ่มอีกเมื่อไหร่...........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Body&Soul ที่ 26-08-2007, 17:57


ทีหน้าทีหลังผมจะไม่ร้องเสียงดังอีกแล้วคับป้า
คราวหน้าจะแตกเนื้อหนุ่มอีกเมื่อไหร่...........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




ผมโดนผู้อาวุโสตั้งคำถามแทนป้าศิลาแรงซะแหล๊ยว

ผมใจแตกทุกวันอ่ะคับ แต่พักนี้ผมอมคลอเรท รสคูลมินต์ ตามพี่ติ๊ก เจตน์

เลยเลิกร้องเสียงดังแล้วคับ


แมทธิว
:slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 26-08-2007, 19:42
ป้าศิลาแลงครับ

ผมสังเกตมีเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง มีขบวนการร่วมด้วยช่วยหากินด้วยเหรอครับ ประเภทผัวชง เมียตบ หรือเมียตั้ง ผัวช่วยแถ ไม่รวมไปว่าจ้างกระเทยตามทุ่งนามาช่วยปั่นกระทู้ และอยากทราบว่า สองผัวเมียคู่นี้รายได้ดีไหมครับ

นายอู่แก๊ส


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 26-08-2007, 19:51
ป้าครับ
ผมมีคนรู้จักคนนึง(แต่เขาคงไม่รู้จักผม) เป็นคนชอบเลี้ยงหมากับแมวมากเลยครับ แมวที่เลี้ยงก็เลี้ยงแบบปกตินะครับ แต่นิสัยของแมวออกจะแปลกประหลาดซักหน่อย แทนที่จะชอบกินปลาแต่แมวบ้านนี้ชอบกินซี่โครงไก่ แค่นี้ยังไม่แปลกเท่ากับหมาที่เขาเลี้ยงครับ เพราะเขาเลี้ยงอยู่ในปาก ผมไม่สามารถระบุพันธุ์ได้้ เพราะผมไม่เคยเห็นตัวเคยได้ยินแต่เสียง จากเสียงที่ได้ฟังคิดว่ามีหลายตัวครับ ผมอยากจะขอแบ่งมาเลี้ยงบ้างท่าทางจะเลี้ยงง่ายเฝ้าบ้านเก่ง ฝึกดีๆหน่อยเผื่อจะออกเทปกับเขาได้บ้าง เขาจะยอมหรือเปล่าครับ
อ้อ...นอกจากเลี้ยงในปาก ผมจะเลี้ยงไว้ที่อื่นได้ไหมครับ เพราะเวลาคนรู้จักคนนี้พูดมันจะมีกลิ่นแปลกๆออกมาด้วย สงสัยคงลืมปล่อยหมาไปทำธุระ ผมกลัวจะมีกลิ่นปากแบบเขานะครับป้า

ขอถามอีกนิดนึงนะครับป้า
พักนี้ฝนตกบ่อยเห็นคนเป็นไข้สมองเสื่อม กับโรคมือบอนกันเยอะเวลาผมไปเล่นเว็บบอร์ดแห่งนึง คนพวกนี้ชอบมาแสดงอาการของโรคให้ผมเห็นบ่อยๆ แต่เขาคงไม่รู้ตัวว่าเป็น ผมสงสารเขามากเลยครับ ป้าว่าผมจะเอายาอะไรให้เขากินดีครับ ระหว่างสตริกนิน กับไซยาไนด์ หรือจะใช้รวมกับยาสูตรอื่นดีครับ ผมเห็นสูตรที่ใช้ง่ายตายถึงรากหญ้าอยู่หลายยี่ห้อ ไม่รู้จะใช้อะไรดี ป้าพอจะแนะนำได้ไหมครับ

หลาน login not found

คนรักสัตว์นั้นมีหลายประเภท บ้างก็รักเพราะเมตตาเอ็นดูมัน บ้างก็รักเพราะมันทำสตางค์ให้ แต่บ้างก็รักเพราะมันสะท้อนความเป็นสัตว์ในตนเองออกมาได้ ใครจะรักสัตว์แบบไหน ก็พิจารณากันเอาเอง

แมวที่ชอบกินโครงไก่นั้น คงไม่น่าแปลกประหลาดอะไรมากมายนัก มนุษย์เข้าใจผิดเกี่ยวกับแมวเสมอๆ โดยเฉพาะคนไทยชอบคิดว่าแมวนั้นชอบกินปลาย่าง ทั้งๆที่แมวมันย่างปลาไม่เป็น และโดยปกติแมวก็จับปลากินเองไม่ได้ อันที่จริงแมวในธรรมชาตินั้น มันเป็นนักล่าที่สามารถ คอยล่าสัตว์ที่เล็กกว่าเป็นอาหาร จำพวก หนู กระรอก นก กิ้งก่า แมวบางตัวก็ซนเหลือหลาย ไล่กัดจิ้งเหลน แล้วนำมาทิ้งเพราะกินไม่ได้ บ้างก็ไปกัดคางคก ปากบวมเป็นครุฑไป

การเลั้ยงหมาไว้ในปากนี่ ดูออกจะอันตรายไม่น้อย ที่ทางก็ออกจะคับแคบ หมามันคงอึดอัดถ้าหากถูกนำไปเลี้ยงไว้ในปาก ยิ่งถ้ามีหลายตัวในนั้น ก็คงจะเห่าประท้วงกันออกมาบ้าง และถ้าแออัดปานนั้น คงขับถ่ายกันจนมีกลิ่นอย่างที่หลานได้พบมา หากหลานขอแบ่งหมาเขามาได้ แล้วคิดจะนำไปเลี้ยงที่อื่น มันคงไม่ยอมอยู่จ๊ะ หมาพันธ์ที่อยู่ในปากได้นั้น มันเป็นพันธ์พิเศษเฉพาะ หลายคนคิดว่าถ้ามีหมาในปากแล้วอยากนำมันออก ก็ไปหาหมอ ให้ผ่าหมาออกจากปาก นั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะวิธีนำหมาพันธ์พิเศษที่อาศัยอยู่ในปากออกนั้น ต้องใช้อาวุธประจำกาย ประเภท หมัด เท้า เข่า ศอก ประเคนเข้าให้ตรงปากจังๆหลายๆที หมานั้นก็จะสงบฤทธิ์ไปได้พักหนึ่ง

พักนี้ฝนตกบ่อยก็จริง แต่โรคไข้สมองเสื่อมนั้นไม่ได้อาศัยฝนเป็นพาหะ ยิ่งโรคมือบอนด้วยแล้ว มันไม่ได้มากับน้ำเหมือนฮ่องกงฟุ๊ต โรคชนิดนี้แพร่ติดต่อกันทางสมอง โดยเฉพาะสมองที่นิ่ม ซึ่งจะมีมากในคนกระโหลกหนา เนื้อสมองน้อย การแก้ไขหรือรักษาโรคทั้งสองนี้ สตริกนินกับไซยาไนด์ หรือยาฆ่าหญ้าสูตรใดก็พอจะใช้งานได้ แต่หากใช้ยาประเภทนี้ คนที่รักษาหรือวางยามักจะต้องไปติดคุก คุณหญิงพรทิพย์ท่านชายหางตาดูก็รู้แล้วว่าคนไข้หายเพราะอะไร ดังนั้นป้าแนะนำให้หลานพาคนเหล่านี้ไปกินหมูกระทะ เลือกเอาร้านที่เขาใช้เนื้อปลาปักเป้ามาปรุงอาหาร วิธีนี้แยบยลกว่าจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 26-08-2007, 19:57
ป้าศิลาแลงครับ

ผมสังเกตมีเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง มีขบวนการร่วมด้วยช่วยหากินด้วยเหรอครับ ประเภทผัวชง เมียตบ หรือเมียตั้ง ผัวช่วยแถ ไม่รวมไปว่าจ้างกระเทยตามทุ่งนามาช่วยปั่นกระทู้ และอยากทราบว่า สองผัวเมียคู่นี้รายได้ดีไหมครับ

นายอู่แก๊ส

หลานอู่แก๊ส

ผัวชง เมียตบ ป้าคิดว่าผัวนั้นคงจะชงเหล้า และชงไม่เลิก กะเมายันหว่าง เมียจึงต้องเผด็จการด้วยการใช้ลูกตบ อาจจะเป็นโฟร์แฮนด์หรือแบ็คแฮนด์ก็ได้ ถ้าตบได้ถูกมุมและรุนแรงเหมือนลูกตบของภราดร แก้วเหล้าคงกระจาย

เมียตั้ง ผัวช่วยแถ อันนี้ฟังเข้าท่าเหมือน ผัวหาบเมียกระเดียด สองแรงแข็งขัน ตั้งกันเอง แถกันเอง สไตล์ลิ่วล้อเหลี่ยมเขาแหละ อย่างนี้รายได้ประชาชาติคงจะสูงดี เพราะช่วยกันทำมาหากิน

กระเทยตามชายทุ่งนานั้น ปั่นกระทู้เป็นด้วยหรือ ป้าก็พึ่งรู้ เอาไว้พบน้องเพ็ญแล้วป้าจะถามเธอให้ว่า เธอชอบปั่นกระทู้ หรือปั่นสิ่งไรจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Body&Soul ที่ 26-08-2007, 20:25
ป้ามาตอนนี้ผมดีใจมากเลย ผมเป็นคนขี้สงสัยจนโดนแม่ด่าว่าไอ้ลูกช่างซัก

เลยไล่ไปซักผ้าแทนแจ๋วทุกทีเลย สงสัยแม่คงรำคาญ

วันนี้อยากถามป้าว่า ป้าคับถ้าผมไม่แน่ใจในตัวเองว่าผมเป็นพวกแอบจิตหรือสว่างจิต

มีคนเคลืือบแคลงสงสัยในพฤติกรรมที่ผ่านมาของผม บางทีก็พูดคะขาเพราะติดมาจากพี่น้องผู้หญิงทั้งฝูง

บางที่ก็แต๋วแตก บางทีก็ทำท่าชายอกสามศอกสี่วาห้าเหลี่ยมชอบไปขับเครื่องบินเด็กเล่นที่ดรีมเวิรล์ด

จู่ๆผมประกาศจะแต่งงานกับสาวสวยคนหนึ่ง แล้วคนที่ผมจะแต่งงานจะถูกคนเข้าใจผิดว่าเป็นนอมินี่ของผมปะคับ



แมทธิว



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ ที่ 26-08-2007, 23:48
ที่ เมืองสวรรค์ชั้นเจ็ด/2550

เรื่่อง เชิญคุณป้าศิลาแลงไปเป็นวิทยากรบนสวรรค์ชั้นเจ็ด

เรียน คุณป้าศิลาแลง



อันวจีที่ป้าได้ระร่ายไว้                   กระเด็นไกลไปถึงสรวงสวรรค์

เหล่านางฟ้าเทวดาได้อ่านกัน           ก็มีอันพรึงพิิศพิจารณา


อันตัวเราเขาให้เป็นผู้แทน               มาเมืองแมนแดนมนุษย์สุดหรรษา

มาเชิญป้าไปสวรรค์ที่ชั้นฟ้า             ดูสักครามาเป็นวิทยากร


อยากให้ป้ามาช่วยอำนวยไข           ข้อข้องใจให้เหล่าเทพสโมสร

อีกทั้งเหล่ากินรีและกินนร               วิทยาธร นักสิทธิ์ วิทยราชา


เราจะเปิดคอนเฟอเรนซ์เซนเตอร์       ใหญ่เบ้อเร่อแอร์เย็นฉ่ำสุดสวยหรู

ของเราใหญ่อลังการชั้นกูรู              ให้มวลหมู่ที่มาฟังนั่งสบาย


ป้าจะเอาเท่าไหร่ให้มาบอก             ไม่มีหลอกจ่ายสดงดเช็คหนา

เครดิตเราระดับเทพเทวดา               มีให้ป้าไม่อั้นนั่นคือเงิน


ขออย่างเดียวให้ป้าต้องมาเอง          ห้ามกระเตงเชี่ยนหมากมาด้วยนา

วิธีมาก็ไม่ยากลำบากกายา              เชิญเถิดหนาคุณป้าศิลาแลง


ป้าแค่ตายวายดิ้นสิ้นชีวา                 พอตายมาก็จะมีคนมาเห็น

เราจะส่งเด็กไปใน Sudden             อย่าทำเล่นเกินเจ็ดวันอันตราย


พอจะตายขอให้ป้าว่าพุทโธ              อีก ธัมโม สังโฆ ด้วยครบองค์สาม

ว่าร้อยจบครบถ้วนกระบวนความ         มีคนตามมาเชิญป้าในทันที


ขอคุณป้าอย่าขัดข้องให้หมองหม่น      มนุษย์คนน้อยนักจักได้เห็น

ทั้งสวรรค์ ชั้นเทวาตัวเป็นๆ               มาเดินเล่นก็เป็นบุญ........คุณป้าแล้วววววว


เรียนเชิญคุณป้าศิลาแลงด้วย ขออภัยที่ท่านท้าวไม่ได้ไปเชิญด้วยองค์เอง


ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ











หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 27-08-2007, 00:22
เทวดา เทวดี มาชวนเชิญ
มาสรรเสริญ เชิญไปพบ ให้ขานไข
อีกมนุษย์ ขี้เหม็น เคี่ยวเข็ญไป
เลือกไม่ได้ ไม่คิดไกล ในชั้นพรหม

ใส่เจดีย์ สวมชฎา ดังว่าไว้
ในหัวใจ ตื่นมา พาขื่นขม
ถอดชฏา คว้าเจดีย์ ทั้งอกตรม
ขอบรรทม ลาแล้ว นะแก้วตา

ป้าศิลาลวง... นอมินี่ที่ไม่รับเชิญจากป้าศิลาแรง... :slime_bigsmile:



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: O_envi ที่ 27-08-2007, 10:45
ป้าครับอันนี้เป็นจม.ฉบับแรกจริงๆ ที่อยากให้ตอบถ้าไม่คับข้องใจจริงๆไม่อยากถามหรอกครับ
ป้ามีแฟนรายการเยอะแล้ว

ป้าครับจากที่มีเพื่อนๆ มาโชว์แฟนนายศิเทยให้ดู

http://forum.serithai.net/index.php?topic=16290.0

พ่อแม่พี่น้องแถวนี้อดซี๊ดปาดไม่ได้น้ำลายไหลกันเป็นแถบ
ผมอยากได้แฟนสวยแบบนี้อ่ะครับไม่รู้ว่าผมต้องปลอมตัวเป็นกะเทยรึเปล่า
หรือว่าจะให้ลดศักดิ์ศรีเป็นลิ่วล้อทักษิณก็ยอมครับ ให้มาเป็นวอร์รูมในห้องนี้ก็ได้

จาก อยากเป็นกะเทย จัง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 27-08-2007, 18:20
ป้ามาตอนนี้ผมดีใจมากเลย ผมเป็นคนขี้สงสัยจนโดนแม่ด่าว่าไอ้ลูกช่างซัก

เลยไล่ไปซักผ้าแทนแจ๋วทุกทีเลย สงสัยแม่คงรำคาญ

วันนี้อยากถามป้าว่า ป้าคับถ้าผมไม่แน่ใจในตัวเองว่าผมเป็นพวกแอบจิตหรือสว่างจิต

มีคนเคลืือบแคลงสงสัยในพฤติกรรมที่ผ่านมาของผม บางทีก็พูดคะขาเพราะติดมาจากพี่น้องผู้หญิงทั้งฝูง

บางที่ก็แต๋วแตก บางทีก็ทำท่าชายอกสามศอกสี่วาห้าเหลี่ยมชอบไปขับเครื่องบินเด็กเล่นที่ดรีมเวิรล์ด

จู่ๆผมประกาศจะแต่งงานกับสาวสวยคนหนึ่ง แล้วคนที่ผมจะแต่งงานจะถูกคนเข้าใจผิดว่าเป็นนอมินี่ของผมปะคับ

แมทธิว


หลานแมทธิว

หลานนี่นับเป็นแฟนพันธ์แท้ของป้าจริงๆ หมั่นตั้งปัญหามาได้สม่ำเสมอ มิน่าเล่าคุณแม่ถึงได้ชมว่าเป็นไอ้ลูกช่างซัก หนำซ้ำยังไล่ไปซักผ้าแทนแจ๋วอีก แต่ป้านั่งคิดๆดูแล้วก็ให้สงสัย คำที่คุณแม่ท่านว่า ท่านบอกใบ้อะไรหรือเปล่า หลานแมทธิวน่าจะพิจารณาคำใบ้นั้นให้ดี อาจจะถอดรหัสออกมาได้เป็นเลขสิบสามหลัก ของบัตรประชาชนช่างคนไหนเข้าสักคน แต่การที่หลานจะไปซักผ้าแทนแจ๋วนั้น หากแจ๋วของหลานไม่ได้มีใบหน้าคล้ายหนูหิ่น แต่ใบหน้ากลับดูคล้ายสาวน้อยหน้าใส ก็รีบสั่งให้แจ๋วไปทำงานอื่นเสีย ขณะที่หลานไปซักผ้าแทน ไม่อย่างนั้น ด้วยนิสัยของหลาน ป้าเกรงว่า ผ้าจะซักไม่เสร็จ

การไม่แน่ใจตนเองว่าเป็นพวกแอบจิตหรือสว่างจิต อย่าไปเอาความเห็นของผู้อื่นมาเป็นบรรทัดฐาน ผู้ชายที่มีกริยานุ่มนวลสุภาพอ่อนน้อมมีถมเถไป บางรายก็อาจจะพูดจาอ่อนหวาน มีคะมีขา นั่งพับเพียบเท้าแขนแอ่นหยัดราวกับสตรี ก็เป็นด้วยถูกอบรมมาอย่างนั้น แต่ในจิตใจแล้วเขาก็ยังเป็นผู้ชายทุกกระเบียดนิ้ว เห็นสตรีเป็นเพศที่สวยงามน่าใกล้ชิด และไม่นิยมในการเข้าไปใกล้ชิดกับบุรุษเกินกว่าความเป็นเพื่อน ของอย่างนี้ ในใจของตัวเองย่อมรู้อยู่แก่ใจของตัวเอง ป้าตอบคำถามที่หลานคร่ำครวญเสียดายน้องเดีย หากหลานเสียดายด้วยใจจริง ในใจของหลานก็ไม่แอบหรือสว่างหรอกจ๊ะ อย่าวิตกไปเลย

เมื่อหลาประกาศแต่งงานแล้ว และสาวเจ้าที่หลานหมายมั่นก็ตกลงปลงใจด้วย จงอย่าไปฟังเสียงนินทากาเล ไม่ต้องกลัวใครกล่าวหาว่าสาวนั้นจะมาเป็นนอมินี เมื่อถึงวันชื่นคืนสุข หลานและคู่ของหลานต่างก็จะมั่นใจว่าฝ่ายใดเป็นอะไร วันนั้นแหละ เป็นได้รู้กัน

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 27-08-2007, 18:40
ที่ เมืองสวรรค์ชั้นเจ็ด/2550

เรื่่อง เชิญคุณป้าศิลาแลงไปเป็นวิทยากรบนสวรรค์ชั้นเจ็ด

เรียน คุณป้าศิลาแลง



อันวจีที่ป้าได้ระร่ายไว้                   กระเด็นไกลไปถึงสรวงสวรรค์

เหล่านางฟ้าเทวดาได้อ่านกัน           ก็มีอันพรึงพิิศพิจารณา


อันตัวเราเขาให้เป็นผู้แทน               มาเมืองแมนแดนมนุษย์สุดหรรษา

มาเชิญป้าไปสวรรค์ที่ชั้นฟ้า             ดูสักครามาเป็นวิทยากร


อยากให้ป้ามาช่วยอำนวยไข           ข้อข้องใจให้เหล่าเทพสโมสร

อีกทั้งเหล่ากินรีและกินนร               วิทยาธร นักสิทธิ์ วิทยราชา


เราจะเปิดคอนเฟอเรนซ์เซนเตอร์       ใหญ่เบ้อเร่อแอร์เย็นฉ่ำสุดสวยหรู

ของเราใหญ่อลังการชั้นกูรู              ให้มวลหมู่ที่มาฟังนั่งสบาย


ป้าจะเอาเท่าไหร่ให้มาบอก             ไม่มีหลอกจ่ายสดงดเช็คหนา

เครดิตเราระดับเทพเทวดา               มีให้ป้าไม่อั้นนั่นคือเงิน


ขออย่างเดียวให้ป้าต้องมาเอง          ห้ามกระเตงเชี่ยนหมากมาด้วยนา

วิธีมาก็ไม่ยากลำบากกายา              เชิญเถิดหนาคุณป้าศิลาแลง


ป้าแค่ตายวายดิ้นสิ้นชีวา                 พอตายมาก็จะมีคนมาเห็น

เราจะส่งเด็กไปใน Sudden             อย่าทำเล่นเกินเจ็ดวันอันตราย


พอจะตายขอให้ป้าว่าพุทโธ              อีก ธัมโม สังโฆ ด้วยครบองค์สาม

ว่าร้อยจบครบถ้วนกระบวนความ         มีคนตามมาเชิญป้าในทันที


ขอคุณป้าอย่าขัดข้องให้หมองหม่น      มนุษย์คนน้อยนักจักได้เห็น

ทั้งสวรรค์ ชั้นเทวาตัวเป็นๆ               มาเดินเล่นก็เป็นบุญ........คุณป้าแล้วววววว


เรียนเชิญคุณป้าศิลาแลงด้วย ขออภัยที่ท่านท้าวไม่ได้ไปเชิญด้วยองค์เอง


ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ



หลานท้าว

หลานถามมาเป็นกลอนป้าอ่อนจิต   เลือกเรียนผิดตกภาษาแต่หน้าใส
หนุ่มตอมเกรียวศิลาแลงแย่งเอาใจ  การบ้านให้กิ๊กช่วยทำกรรมมีจริง

ถึงวันนี้ให้แต่งกลอนนอนดีกว่า       ฉันทลักษณ์ขออำลาท่าไม่ไหว
ทนอ่านกลอนของป้าแล้วบ้าไป      ถึงอย่างไรหลานก็บ้าป้ารู้ดี

มาชวนป้าไปสวรรค์ชั้นไหนไหน     ก็ไม่ไปเพราะหลานท้าวง่าวเต็มที่
อยู่นรกหมกใหม้ในอเวจี               ทะลึ่งมีหน้ามาชวนป่วนจริงๆ

ไฟนรกสุมอกหลานอยู่บานเบอะ      แถมเลอะเทอะอ้างเป็นเทพเสพสวรรค์
เขาถ่วงน้ำปิดฝาหม้อรอลงยันต์       ไม่มีวันได้ผุดเกิดเปิดหูตา

นรกนั้นในวันนี้มีที่เหลือ                หลานอย่างเบื่อหรือเหงาไม่เข้าท่า
อีกไม่นานพอไอ้เแม้วแจวลงมา       ทั้งเอี๊ยอ่าสุมหัวมั่วกันเพลิน

ถึงวันนั้นหลานลืมป้าไม่ว่าหรอก      เชิญหลบหอกหนามงิ้วหิ้วหัวหนี
ทั้งนายบ่าวรับกรรมตามคดี            นรกนี้อีกพันชาติไม่ขาดเธอ ฯ

ขออภัยที่ไม่รับเชิญ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 27-08-2007, 18:55
ป้าครับอันนี้เป็นจม.ฉบับแรกจริงๆ ที่อยากให้ตอบถ้าไม่คับข้องใจจริงๆไม่อยากถามหรอกครับ
ป้ามีแฟนรายการเยอะแล้ว

ป้าครับจากที่มีเพื่อนๆ มาโชว์แฟนนายศิเทยให้ดู

http://forum.serithai.net/index.php?topic=16290.0

พ่อแม่พี่น้องแถวนี้อดซี๊ดปาดไม่ได้น้ำลายไหลกันเป็นแถบ
ผมอยากได้แฟนสวยแบบนี้อ่ะครับไม่รู้ว่าผมต้องปลอมตัวเป็นกะเทยรึเปล่า
หรือว่าจะให้ลดศักดิ์ศรีเป็นลิ่วล้อทักษิณก็ยอมครับ ให้มาเป็นวอร์รูมในห้องนี้ก็ได้

จาก อยากเป็นกะเทย จัง

หลาน O_envi

ชื่อหลานอ่านว่ากระไรนะ โอ เอ็น ไว หรือเปล่า เป็นคนชาติอะไรป้าเดาจากชื่อไม่ออกจริงๆ

คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน คนเราเมื่อทำบุญด้วยกันมาในชาติปางก่อน ชาตินี้ก็ย่อมเกิดมาพบกัน แต่ถึงคู่ไหนจะทำบุญร่วมกันมา แต่ละคนก็ย่อมมีบาปส่วนตัวที่จะต้องเกิดมาชดใช้ เมื่อยังเกิดก็แปลว่ามีกรรมที่จะต้องมารับ ไม่ว่าจะกรรมดีหรือกรรมชั่ว

หลานร่ำร้องว่ายอมเกิดเป็นกะเทย หากจะได้มีแฟนสวยปานนั้น นั่นเป็นเพราะหลานคิดด้วยจิตใจของคนที่ไม่ได้เป็นกะเทย หากคิดด้วยจิตใจของคนเป็นกะเทยแล้ว การได้แฟนเป็นสาวสวยบาดตาบาดใจ มันก็เป็นทุกข์หนักราวกับถูกเพลิงนรกเผาผลาญ เพราะกะเทยนั้นอยากได้บุรุษที่สง่างามล่ำสัน มาเป็นคู่เรียงเคียงหมอน และเกลียดชะนีหน้าสวยใสเป็นยิ่งนัก เห็นชะนีสวยแอ๊บแบ๊ว กะเทยก็คลั่งจะขาดใจเพราะริษยา ยิ่งถ้าต้องเข้าประตูวิวาห์ไปอยู่ด้วยกันตามลำพังสองต่อสอง กะเทยยิ่งปวดร้าวเพราะอาจจะต้องปฎิบัติการเพื่อกลบเกลื่อนความเป็นกะเทยของตนเอง ความรูสึกนี้หากหลานไม่ได้เป็นกะเทย แต่อยากจะรู้ ก็ลองไปไล่กอดคนขับรถสิบล้อล่ำสันเข้าสักคน เลือกเอาที่ขับรถมาไกลแล้วยังไม่ได้อาบน้ำ แล้วหลานน่าจะรู้ซึ่งถึงความระทมทุกข์ของกะเทยที่แต่งงานกับชะนีสวยๆได้ดี

ภาพข่าวที่ส่งมาให้ดูนั้น ไม่เกี่ยวกับการตอบคำถามของป้าแต่อย่างใด ท่านใดกรุณาอย่าเอาไปพาดพิงกันโดยเด็ดขาด ไม่งั้นโกรธกันจริงๆ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ ที่ 27-08-2007, 19:25
เรียนคุณป้า


ท้าวว่าคุณป้าอย่าสับสน              มีอีกคนใช้ชื่อเทพเสพสวรรค์

ชื่อมหาเทพเทวาคือชื่อมัน           ตัวเรานั้นหาใช่ไตร่ตรองดู


ท่านท้าวว่าคุณป้าต้องสับสนเรากับท่านมหาเทพแน่ๆเลย


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: สมปอง ที่ 27-08-2007, 19:43
เรียนคุณป้า


ท้าวว่าคุณป้าอย่าสับสน              มีอีกคนใช้ชื่อเทพเสพสวรรค์

ชื่อมหาเทพเทวาคือชื่อมัน           ตัวเรานั้นหาใช่ไตร่ตรองดู


ท่านท้าวว่าคุณป้าต้องสับสนเรากับท่านมหาเทพแน่ๆเลย
อันมหา เทวา บนฟ้าสรวง

ไม่ควรลวง หลอกมนุษย์ สุดอดสู

ท้าวมหา เทพปลอม จอมอกตัญญู

ที่แท้มัน นั้นคือหมู อวดกูเก่ง

ใช้ชื่อปลอม ย้อมสี ให้มีศักดิ์

แต่ก็ชัก โวยวาย โหวกโหวงเหวง

ฝีมืออ่อน ดังตอนหมู ขู่นักเลง

โดนเขาเฉ่ง กะบาลเอา หัวเน่าเลย :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ ที่ 27-08-2007, 20:12
ฮ่าฮ่าฮ่า โอย ท้าวขำเจงๆ ตรูจะบ้าตาย

คุณสมปองนี่ อาการหนักยิ่งกว่าป้าศิลาแลงอีก

เรากับมหาเทพนั้น คนละองค์กัน

เดี๋ยวเราไปตามท่านนารายณ์อวตารมาอีกองค์แล้วกัน ดีมะ คราวนี้จะได้แยกไม่ถูกเลย ฮ่าฮ่าฮ่า


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 28-08-2007, 08:51
เรียนคุณป้า


ท้าวว่าคุณป้าอย่าสับสน              มีอีกคนใช้ชื่อเทพเสพสวรรค์

ชื่อมหาเทพเทวาคือชื่อมัน           ตัวเรานั้นหาใช่ไตร่ตรองดู


ท่านท้าวว่าคุณป้าต้องสับสนเรากับท่านมหาเทพแน่ๆเลย

หลานท้าว

อ้าวเวรกรรมทำกับฉันจนมันหยด       ชื่อปรากฎเป็นท่านท้าวเหล่าสวรรค์
นึกว่ามีอยู่ตนเดียวเฮี้ยวทุกวัน          เลยมึนพลันกัดเข้าให้ใส้แทบพัง

วานเปลี่ยนชื่อให้ประเสริฐเลิศกว่านี้    คนตายมีนับไม่ถ้วนจำนวนหลาย
เลือกสักชื่อมาแทนตัวกลัวไปใย        ดันไปใช้ชื่อเป็นท้าวเศร้าจริงจริง

ศิลาแลง  :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ ที่ 28-08-2007, 10:33
เรียนคุณป้า

อันเหล่าเทพเทวามหาศาล                          นามเรียกขานละลานตาอย่าสงสัย

เทวดาอารักข์มีชื่อไซร้                               ประดุจได้ดั่งน้ำในทะเล

มิเป็นไรคุณป้า เราเป็นเทพเทวา จะไปใช้ชื่อคนตายได้อย่างไรกัน  :slime_worship:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: สมปอง ที่ 28-08-2007, 17:42
:slime_agreed: :slime_agreed: :slime_agreed:สมปองไม่ได้กล่าวถึงท่าน อภิมหาอัคระ สักหน่อย สมปองกล่าวถึงเทพปลอมๆอีกตัวน่ะ :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_smile2:

ท่านอภิมหาอัคระ เข้าใจผิดรึท่าน :slime_smile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Body&Soul ที่ 28-08-2007, 19:40
ป้าคับ ป้าคับวันนี้ผมมีเรื่องอยากเรียนปรึกษาป้าอีกแล้วคับ

ป้าอย่าเพิ่งรำคาญผมนะคับ

ป้าจำละครเรื่อง ตาชมดาวเท้าจมโคลน ได้ปะคับ

ที่ทางทีวีช่องหนึ่งสร้างแต่ยังไม่เคยได้ออนแอร์จนถึงวันนี้ ผมตั้งตารอดูแต่ก็ยังไม่ได้ดูซักที

ไม่รู้ว่าติดขัดเรื่องสปอนเซอร์ปะคับ ผมเลยเกิดไอเดียว่าทางช่องน่าจะทำเป็นซีรี่ส์

เพราะถ้าสร้างต่อมาถึงตอนที่หลังจากพระเอกพี่พอนด์แต่งงานกับน้องจุ๋ยก๊วย

ต้องเจอมรสุมชีวิตอีกเยอะแยะแถมมีเรื่องชิงรักหักสวาท พลัดพรากจากถิ่นที่อยู่

เป็นเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตาแบบที่ชาวบ้านชอบดูนิยายน้ำที่ยุงชอบวางไข่

ผมว่าสปอนเซอร์คงแย่งกันจองเวลาจนแทบตีกันตาย

มีนางอิจฉา นางรอง นางมารเพิ่มมาอีกตั้งหลายคน ผมว่าตอนสองน่าจะสร้างมากกว่าตอนแรกอีกนะคับ

ผมไม่รู้จะถามใครเห็นว่าป้าของผมตอบปัญหาครอบจักวาลได้ดีมาก

ถามแม่คงโดนด่าตามเคย อย่าลืมตอบผมด้วยนะคับ


รักป้าวันละสามเวลาคับ :slime_bigsmile:


แมทธิว


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 29-08-2007, 09:59
ป้าคับ ป้าคับวันนี้ผมมีเรื่องอยากเรียนปรึกษาป้าอีกแล้วคับ

ป้าอย่าเพิ่งรำคาญผมนะคับ

ป้าจำละครเรื่อง ตาชมดาวเท้าจมโคลน ได้ปะคับ

ที่ทางทีวีช่องหนึ่งสร้างแต่ยังไม่เคยได้ออนแอร์จนถึงวันนี้ ผมตั้งตารอดูแต่ก็ยังไม่ได้ดูซักที

ไม่รู้ว่าติดขัดเรื่องสปอนเซอร์ปะคับ ผมเลยเกิดไอเดียว่าทางช่องน่าจะทำเป็นซีรี่ส์

เพราะถ้าสร้างต่อมาถึงตอนที่หลังจากพระเอกพี่พอนด์แต่งงานกับน้องจุ๋ยก๊วย

ต้องเจอมรสุมชีวิตอีกเยอะแยะแถมมีเรื่องชิงรักหักสวาท พลัดพรากจากถิ่นที่อยู่

เป็นเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตาแบบที่ชาวบ้านชอบดูนิยายน้ำที่ยุงชอบวางไข่

ผมว่าสปอนเซอร์คงแย่งกันจองเวลาจนแทบตีกันตาย

มีนางอิจฉา นางรอง นางมารเพิ่มมาอีกตั้งหลายคน ผมว่าตอนสองน่าจะสร้างมากกว่าตอนแรกอีกนะคับ

ผมไม่รู้จะถามใครเห็นว่าป้าของผมตอบปัญหาครอบจักวาลได้ดีมาก

ถามแม่คงโดนด่าตามเคย อย่าลืมตอบผมด้วยนะคับ


รักป้าวันละสามเวลาคับ :slime_bigsmile:

แมทธิว

หลานแมทธิว

ป้าจำละครเรื่องที่หลานว่ามาได้ดี เพราะเฝ้ารอดูนายพอลขวัญใจคนหนึ่งของป้า ที่ได้ข่าวว่าไปแสดงเป็นตัวเอกของเรื่อง ทั้งๆที่หน้านั้นเป็นรูปไข่สวยงาม มิได้หน้าเหลี่ยมกรามบานเหมือนเจ้าของเรื่องตัวจริง แต่จนแล้วจนรอด ละครเรื่องนี้ก็ไหลเข้าท่อน้ำทิ้งหน้าโรงพิมพ์แถวๆถนนวิภาวดีไป ไม่ได้ออกอากาศเสียที

ป้าไปถามๆเขามาเรื่องละเม็งละครโทรทัศน์ ได้ความมาว่า อันการสร้างละครนี้อาจแบ่งได้ออกเป็นสองแบบ แบบที่หนึ่งนั้นทางสถานีเขาสั่งสร้าง เรียกได้ว่าให้ทุนร่วมทุน มีกำหนดวันเวลาออกอากาศแน่นอน หรือค่อนข้างแน่นอน หากละครที่ออกอากาศก่อนหน้านั้น มันไม่ฮิตเสียจนต้องยีดไปอีกหลายตอน กับละครอีกประเภทื้มีผู้สร้างคิดสร้างเองใช้ทุนของตนเอง เมื่อสร้างเสร็จหรือก่อนสร้างก็ได้ ไปติดต่อขอออกอากาศ จะขายขาดหรือขอส่วนแบ่งในการออกอากาศ ก็แล้วแต่เงื่อนไขของทางสถานีนั้นๆ

ในอดีตวิกหมอชิตเคยสร้างปรากฎการให้เป็นที่ฮือฮามาหนหึ่ง เกี่ยวกับละครที่ผู้สร้างไม่ได้ตกลงกับสถานีก่อน แต่สร้างแลวนำมาขายให้ หรือบังคับขาย เรื่องมีอยู่ว่า โปรโมเตอร์มวยรายหนึ่ง จัดมวยอยู่ดีๆ ชื่อเสียงก็ออกโด่งดัง เมื่อเข้ามาทำงานในสายโทรทัศน์ ก็ให้รู้จักผู้คนมากมาย และมีบางรายแนะนำให้หันมาเอาดีทางการสร้างละครโทรทัศน์บ้าง ด้วยมั่นใจว่าวิกหมอชิตจะต้องซื้อละครไปออกอากาศอย่างแน่นอน ด้วยติดต่อธุรกิจการถ่ายทอดมวยกันมานาน และหากโปรโมเตอร์ย้ายสังกัดไปออกอากาศที่วิกอื่น ซึ่งจ้องจะแย่งตัวโปรโมเตอร์มือทองรายนี้อยู่ วิกหมอชิตก็จะเสียหาย เรียกว่าคิดสร้างละครแล้วบังคับขายเอาดื้อๆว่างั้นเหอะ

ละครเรื่องนั้นมีชื่อลงท้ายว่า โศก อะไรนี่แหละ พระเอกนางเอกก็เป็นคนในวงการแสดงที่มีชื่อเสียง บทและการกำกับก็สรรหาคนมีฝีมือมาทำ ในระหว่างการสร้าง ก็ปล่อยข่าวโปรโมทว่าจะขายให้วิกหมอชิตนำไปออกอากาศ นักข่าวก็ไปสัมภาษณ์ว่าถ้าเขาไม่ซื้อจะทำอย่างไร เพราะวิกนั้นเรื่องละครเป็นที่รู้กันอยู่ในสมัยนั้นว่า มีเจ้าประจำทำผูกขาดอยู่สองสามเจ้า ยังไม่ได้เปิดกว้างเหมือนวันนี้ โปรโมเตอร์มวยรายนั้นก็ตอบว่า ทำธุรกิจกันมานาน หากขัดใจกันเพียงเรื่องละครนี้ ก็เห็นจะต้องพิจารณาเรื่องการให้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดมวยที่เขาจัด คำสัมภาษณ์นี้ ฮือฮากันไปทั้งวงการ

แล้วละครก็สร้างเสร็จ โปรโมเตอร์ก็นำไปขายให้วิกหมอชิตจริงๆ และวิกหมอชิตก็ซื้อไว้จริงๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จ่ายสตางค์ให้ตามสมควรที่เรียกร้องมา และจากวันนั้นถึงวันนี้ ละครเรื่องนั้นก็ไม่เคยได้ออกอากาศ ไม่ว่าจะเวลาใด แม้แต่เวลาดึก ปิดวิกแล้ว จะนำมาฉายแก้บนศาลพระภูมิในวิกบ้าง ก็ไม่เคยปรากฎ

โปรโมเตอร์รายนั้นก็เลิกสร้างละครอีก ด้วยรู้ว่า เขาซื้อไปเพราะตัดรำคาญ และหากทำเช่นนั้นอีก อาจโดนหักดิบเอาดื้อๆ ดูอย่างรายการนางสาวประเทศไทยสิ เจ้าของสิทธิ์ยึกยัก วิกนี้เขาก็ตัดดังโครม สรางการประกวดชนิดใหม่ ส่งนางงามของเขาไปจักรวาลแทนโน่น นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ยามมีอำนาจหรือน้ำขึ้น จะทำอะไรบางทีคนเขาก็เออออห่อหมกไปด้วย แต่พอหมดอำนาจถึงจะรู้ความจริง

อ้าว แวะเข้าซอยไปไหนเสียไกล ละครที่หลานถามมานั้น ข่าวว่าสร้างเสร็จแล้ว ด้วยทุนของผู้สร้าง เจ้าของเรื่องตัวจริงไม่ได้ออกสตางค์อะไรมาให้หรอก การสร้างนั้นก็สร้างเพื่อเอาใจ แลกกับอะไรสักอย่าง และสร้างเสร็จก็ไปรอคิวออกอากาศ แต่ถูกเตะถ่วงไปเรื่อย จนเจ้าของเรื่องหมดอำนาจ ม้วนวีดีโอเทปนั้นก็คงนำไปเก็บไว้เป็นที่ระลึก ผู้สร้างเขาทุนหนา สร้างแล้วเก็บไว้ดูเล่นเองก่อนก็ได้ รอวันเจ้าของเรื่องกลับมามีอำนาจแล้วค่อยงัดกลับมาออกอากาศ เนื้อเรื่องมันห่วยสิ้นดี ออกอากาศไปก็หาคนดูลำบาก เรทติ้งตก

หลานคงต้องรอนานหน่อย เพราะป้าคาดว่ากว่าเจ้าของเรื่องจะพ้นโทษออกมา แล้วพยายามสร้างอำนาจใหม่อีก นายพอลของป้าคงเป็นปู่เป็นตาของคนไปแล้ว และละครมันคงตกยุค เทปเปื่อย ดูไปกระตุกไป กลายเป็นละครประวัติศาสตร์ที่สร้างแล้วกว่าจะได้ออกอากาศใช้เวลากว่าครึ่งศตวรรษโน่น

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Suraphan07 ที่ 30-08-2007, 22:01
 :slime_whistle:  :slime_smile: :slime_bigsmile:
...............................................................
แห่ะ แห่ะ
เข้ามาตามอ่านป้าแลง ตอบคำถาม...
พอถึงถาม-ตอบ กันด้วยบทกลอน นึกว่าเข้าห้องผิด.
...............................................................

ป้าแลง ชำนาญโครงกลอนมิใช่น้อย อ่านเพลินดีครับ ...

ถ้าจดหมายเริ่มซาลงไป และป้าฯพอมีเวลา ผมอยากขอให้ป้าฯ
ช่วยแต่งกลอน สรรเสริญ-เยินยอ-เชิดชู-ปลุกใจ ให้กับพลพรรค ที่ลุงหมัก
แกเพิ่งอาสาเป็นหัวหน้าให้หน่อยได้มั๊ยครับ...

แบบเผื่อว่า ลูกพรรคนั้นใครมาเห็นเข้า อาจมาขอเอาไปอ่านตอนหาเสียงได้อ่ะครับ...
(บทกลอนอาจต้องใช้เวลามาก จะตอบช้าก็ไม่เป็นไร)

ขอรบกวนป้าแลง แค่นี้ก่อนคืนนี้ฝนตกพรำๆอีกแล๊ะ
ขอตัวไปอาบน้ำ เตรียมทำการบ้าน การช่อง ก่อนน่ะครับ ... :slime_v:

ขอแสดงความนับถือ
Suraphan07






หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 31-08-2007, 18:07
:slime_whistle:  :slime_smile: :slime_bigsmile:
...............................................................
แห่ะ แห่ะ
เข้ามาตามอ่านป้าแลง ตอบคำถาม...
พอถึงถาม-ตอบ กันด้วยบทกลอน นึกว่าเข้าห้องผิด.
...............................................................

ป้าแลง ชำนาญโครงกลอนมิใช่น้อย อ่านเพลินดีครับ ...

ถ้าจดหมายเริ่มซาลงไป และป้าฯพอมีเวลา ผมอยากขอให้ป้าฯ
ช่วยแต่งกลอน สรรเสริญ-เยินยอ-เชิดชู-ปลุกใจ ให้กับพลพรรค ที่ลุงหมัก
แกเพิ่งอาสาเป็นหัวหน้าให้หน่อยได้มั๊ยครับ...

แบบเผื่อว่า ลูกพรรคนั้นใครมาเห็นเข้า อาจมาขอเอาไปอ่านตอนหาเสียงได้อ่ะครับ...
(บทกลอนอาจต้องใช้เวลามาก จะตอบช้าก็ไม่เป็นไร)

ขอรบกวนป้าแลง แค่นี้ก่อนคืนนี้ฝนตกพรำๆอีกแล๊ะ
ขอตัวไปอาบน้ำ เตรียมทำการบ้าน การช่อง ก่อนน่ะครับ ... :slime_v:

ขอแสดงความนับถือ
Suraphan07


หลานSuraphan07

หลานจะไปอาบน้ำทำการบ้านการช่อง แล้วไฉนถึงทิ้งการบ้านไว้ให้ป้าด้วยล่ะจ๊ะ ป้าก็บอกแล้วว่าป้าน่ะตกภาษา ไม่ว่าจะภาษาอะไรป้าก็ตกทั้งนั้น แต่ในเมื่อหลานทนอ่านกลอนของป้าได้ ป้าก็จะทนเขียนให้ตามคำขอ แล้วก็อย่าขอมาบ่อยนัก โคลกลอนเนี่ยป้าเขียนทีไร ต้องหายาลมยาดมยาหม่องทุกทีไป

พรรคของเราเดิมยิ่งใหญ่มิใช่น้อย        ทั้งยี้ห้อยนางหลงหอหมอลากข้าง
ยุทธตู้เย็นไอ้ก้านยาวสาวหลายนาง     ก็อยู่กลางพรรคของเราไม่เหงาเลย

ถึงวันนี้เราต้องเสียวพรรคเหี่ยววูบ       เหมือนไอ้ตูบถูกจับตอนหอนล่ะเหวย
หัวหน้าหายลูกพรรคบ่นจนแล้วเอย      บ่นเปรยเปรยเงินพรรคหดสลดใจ

มาเถอะเรามาช่วยกันสรรและสร้าง      ร่วมถากถางฟื้นฟูพรรครักกันใหม่
เงินจากท่อไหลรี่มาน่าสนใจ             นายอยู่ไกลแต่ทรัพย์มีดีเหลือเกิน

ก่อนหน้านั้นใครรักใครเราไม่รู้            หน้าที่อยู่เราไม่ทำซ้ำไม่เขิน
เราหวังแต่โกงและโกยโซ้ยกันเพลิน    ชาติยับเยินเราไม่สนจนคนชัง

มาเริ่มใหม่ปรับปรุงตัวให้ชั่วขึ้น          ทำหน้ามึนปนหน้าด้านปานก้นถัง
โน่นไม่รู้นี่ไม่ชี้บี้แต่ตัง                    นายเปิดคลังจ่ายเงินมาพุงข้ากาง

ตั้งพรรคใหม่ตั้งก๊วนใหม่ให้ไวเข้า        เรียกพวกเราเคาะกะลาหมาแกว่งหาง
หลายหมื่นล้านนายสาดมาให้หาทาง    มาร่วมสร้างอำนาจใหม่ให้ไวเลย

นายเข้ามุมหลังชนฝาหน้าถูกชก        หนังถลกใส้ถูกลากปากถูกเสย
ใกล้วอดวายหรือติดคุกจุกจังเลย        ตายแน่เหวยยถ้าไม่ช่วยม้วยทั้งกอง

ยึดประเทศเฉดหัวบังพังรากฐาน        โค่นราชการรีบเผาศาลผลาญทั้งผอง
ทุรยุคอย่างนายหวังตั้งใจปอง           ฟ้าสีทองเอี๊ยเป็นใหญ่ให้โด่งดัง

บินกลับมาเหยียบแผ่นดินถิ่นกาขาว    ประกาศกร้าวเปลี่ยนระบบจบดังหวัง
ได้ปราบดาครองอำนาจมีพลัง           พรรคเราตั้งเพื่อการนี้จงพลีใจ

แต่ถ้าพลาดหัวก็ขาดอาจจบสิ้น          ทั้งชีวินทร์อนาคตหมดรุ่นหลัง
เจ็ดชั่วโคตรตายกันเกลี้ยงเสี่ยงกันจัง  แต่เพื่อตังเราทำได้ไม่กังวล

เหลือเวลาอีกน้อยนิดรีบคิดด้วย         สู้อาจม้วยแต่ไม่สู้ตูหมดหวัง
ขอวอนเศษเดนมนุษย์มุดมายัง          พรรคพลังประชาชีเร็วรี่เอย ฯ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: อมพระมาพูด ที่ 31-08-2007, 18:57
คุณป้าศิลา สุดสวยครับ

ผมยังข้องใจอยู่เรื่องนึงอ้ะครับว่า ทำไมนายทนายมองไม่ตรง คนนั้นน่ะ เค้าไปกิ๊กกะเด็กเก่านายผู้ชาย แล้วเจ้านายไม่ว่าเร๋อครับ หรือว่านายผู้หญิงให้เป็นรางวัลให้ที่เห่าปกป้องเจ้านายจนออกนอกหน้า ตกลงว่ามันยังไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตนหรือครับนี่ ?

แล้วผมจะมาถามใหม่นะคร๊าบบบบบบบ


นายอมพระฯ
ป.ล.ผมก้อชอบสอใส่เกือกเรื่องในมุ้งชาวบ้านซะด้วย  :slime_p:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 31-08-2007, 20:23
คุณป้าศิลา สุดสวยครับ

ผมยังข้องใจอยู่เรื่องนึงอ้ะครับว่า ทำไมนายทนายมองไม่ตรง คนนั้นน่ะ เค้าไปกิ๊กกะเด็กเก่านายผู้ชาย แล้วเจ้านายไม่ว่าเร๋อครับ หรือว่านายผู้หญิงให้เป็นรางวัลให้ที่เห่าปกป้องเจ้านายจนออกนอกหน้า ตกลงว่ามันยังไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตนหรือครับนี่ ?

แล้วผมจะมาถามใหม่นะคร๊าบบบบบบบ

นายอมพระฯ
ป.ล.ผมก้อชอบสอใส่เกือกเรื่องในมุ้งชาวบ้านซะด้วย  :slime_p:

หลานอมพระฯ

คนที่มองไม่ตรง ก็คงมองเฉียงๆ อาจจะเป็นพวกเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ สี่เหวินเฉียง

การไปกิ๊กกับเด็กนาย โทษของยากูซ่านั้นเขาให้ตัดนิ้ว จะตัดนิ้วไหน ขึ้นอยู่กับว่ากิ๊กมากน้อยเข้าไปเท่าไหร่แล้ว แต่ถ้านิ้วยังอยู่ครบ ก็แปลว่านายไม่เอาเรื่อง อาจจะเป็นด้วยเบื่อกิ๊กแล้ว มีใหม่แล้ว หรือท้ายสุดยังหวงอยู่ แต่เมียสั่งให้ทิ้ง ก็ต้องทิ้ง

ส่วนใครจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนหรือไม่นั้น ป้าก็ไม่อาจรู้ไปได้ถ้วนทั่วทุกตัวคน เนื่องจากไม่ได้เป็นนายทะเบียนสมรส หรือเฝ้าประตูม่านรูด ป้าจึงพลาดที่จะไม่รู้ไปบ้างในบางราย ส่วนรายที่ถามมา เขาเคยหลุดปากออกมาเองว่า ลูกเมียเคยขอร้องให้เลิกทำงานให้นายคนนี้ และลูกเมียนั้นเดือดร้อน จากการที่เขามาทำงานให้นายคนนี้มาก จากปากคำที่ให้มาเองจึงสรุปได้ว่ามีเมียแล้ว

มีเมียแล้วไม่เอา เป็นเมียหลวงไม่เอา เป็นเมียน้อยไม่เอา มีเมียแล้วไม่เอา (จบด้วยเพลงของ ดาว มยุรี)

เป็นเมียหลวงก็ไม่เอา เป็นเมียน้อยก็ไม่เอา ก็เลือกเป็นนางบำเรอก็แล้วกัน เฮ้อ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 01-09-2007, 17:28
พี่ศิลาแลงครับ

ทนายตาไม่ตรง เตรียมจะแต่งงานกับอดีตหญิงเคยตกเป็นข่าวว่า "ท้องกับนายใหญ่" จริงเหรอครับ?

ต้อย แอ็คชั่น


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 02-09-2007, 18:13
พี่ศิลาแลงครับ

ทนายตาไม่ตรง เตรียมจะแต่งงานกับอดีตหญิงเคยตกเป็นข่าวว่า "ท้องกับนายใหญ่" จริงเหรอครับ?

ต้อย แอ็คชั่น

หลานต้อย

ป้าไม่รู้จ๊ะ เพราะยังไม่ได้รับการ์ดเชิญเลย หวังว่าหากมีงานการเช่นนั้นจริง เขาคงจะส่งการ์ดเชิญมาให้ป้าบ้าง ป้าก็กะว่าจะอาหนังสือ ยังไงก็ไม่ชิน ห่อไปให้เป็นของขวัญ แล้วก็กินโต๊ะจีนเสียให้หนำใจ ว่าแต่เขาจะเลียงโต๊ะจีนไหมเนี่ย หรือจะจัดงานที่ลพบุรี เลี้ยงโต๊ะจีนลิง ถ้าเป็นอย่างนั้น ป้าขอบายจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: น้องลิเดีย ที่ 08-09-2007, 00:08
คุณป้าศิลาแลงขา เดียขอแทนตัวเองว่าเดียนะคะ คือเดียก็แอบเป็นแฟนการตอบปัญหาของคุณป้ามานาน รู้สึกชื่นชมเป็นยิ่งนักกับการไขปัญหาด้วยปัญญาที่หลักแหลมของคุณป้า คุณป้าขา ในความรู้สึกลึกๆของเดียแล้ว คุณป้าก็เปรียบเสมือนแสงสว่างจากเปลวเทียน ส่องทางให้กับเหล่า"ลูกแกะหลงทาง" ทั้งหลายให้มองเห็นทางออก ประมาณนั้นเทียวค่ะ

คุณป้าขา ถ้าคนอื่นๆ มองเดียจากภายนอก ก็จะเห็นว่าเดียเป็นเด็กสาวที่น่ารักสดใสคนนึง มีทั้งครอบครัวที่อบอุ่น มีชื่อเสียงพอประมาณ เร็วๆนี้เดียก็จะมีหนังสือชีวิตของเดียออกมาวางแผงแล้วละค่ะ เรียกได้ว่าชีวิตของเดียก็น่าจะมีความสุขตามอัตภาพใช่ไหมคะ แต่........มันไม่เป็นอย่างนั้นน่ะซีคะ คุณป้าขา ชีวิตของเดียไม่เหมือนเดิมอีกเลยเมื่อมี "คุณลุง ท." ก้าวเข้ามาในชีวิตเดีย

คุณลุง ท. เป็นคนใจดี อบอุ่น แม้จะพูดจาโผงผางไปบ้าง แต่ก็ไม่อาจบดบังความใจดีและรักชาติ รักประชาชนที่อยู่เบื้องหลังแววตาสีสนิมเหล็ก ที่บ่งบอกว่าเป็นนักสู้ผู้กล้าหาญคู่นั้นได้ คุณลุง ท. ดีกับเดียทุกอย่าง ตามใจเดียสารพัด ทุกครั้งที่อยู่กับคุณลุง หรือคุณลุงโอบเดียไว้ เดียจะมีความสุขและอบอุ่นเป็นที่สุด เดียกับคุณลุงเข้าใจกันดี แม้วัยจะต่างกันมาก บางครั้งเมื่อคุณลุงพบกับเรื่องเดือดร้อน ก็จะโทรมาปรับทุกข์กับเดีย เดียกับคุณลุงมักท่องเที่ยวในต่างประเทศกันเสมอๆ คุณลุง ท. มีฐานะดีทีเดียวค่ะ คุณลุงมักบอกกับเดียเสมอว่า เงินของคุณลุงเป็นเงินสะอาดทั้งนั้น

แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่เดียไม่เข้าใจเลยค่ะ คือเวลาที่มีคนถามว่า คุณลุงกับเดียเป็นอะไรกันเหรอ คุณลุง ท. ก็จะตอบว่า เดียเป็น "สะใภ้ในฝัน" ของคุณลุงค่ะ คุณป้าคะ เดียไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้เอาเสียเลย คุณป้าพอที่จะให้ความกระจ่างกับเดียได้ไหมคะ ว่าคุณลุง ท. คิดอย่างไรกับเดียกันแน่ ระหว่างเรามันคืออะไรกันหนอ และคำว่า "สะใภ้ในฝัน" มันหมายความว่าอย่างไรหรือคะ

เดียขอกราบขอบพระคุณ คุณป้าศิลาแลงล่วงหน้า ที่จะมาไขความกระจ่าง ให้กับปัญหาที่คับอก..คับใจ ของลูกแกะหลงทาง ตัวน้อยๆ ที่ชื่อเดีย ไว้ ณ. ที่นี้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 08-09-2007, 10:11
คุณป้าศิลาแลงขา เดียขอแทนตัวเองว่าเดียนะคะ คือเดียก็แอบเป็นแฟนการตอบปัญหาของคุณป้ามานาน รู้สึกชื่นชมเป็นยิ่งนักกับการไขปัญหาด้วยปัญญาที่หลักแหลมของคุณป้า คุณป้าขา ในความรู้สึกลึกๆของเดียแล้ว คุณป้าก็เปรียบเสมือนแสงสว่างจากเปลวเทียน ส่องทางให้กับเหล่า"ลูกแกะหลงทาง" ทั้งหลายให้มองเห็นทางออก ประมาณนั้นเทียวค่ะ

คุณป้าขา ถ้าคนอื่นๆ มองเดียจากภายนอก ก็จะเห็นว่าเดียเป็นเด็กสาวที่น่ารักสดใสคนนึง มีทั้งครอบครัวที่อบอุ่น มีชื่อเสียงพอประมาณ เร็วๆนี้เดียก็จะมีหนังสือชีวิตของเดียออกมาวางแผงแล้วละค่ะ เรียกได้ว่าชีวิตของเดียก็น่าจะมีความสุขตามอัตภาพใช่ไหมคะ แต่........มันไม่เป็นอย่างนั้นน่ะซีคะ คุณป้าขา ชีวิตของเดียไม่เหมือนเดิมอีกเลยเมื่อมี "คุณลุง ท." ก้าวเข้ามาในชีวิตเดีย

คุณลุง ท. เป็นคนใจดี อบอุ่น แม้จะพูดจาโผงผางไปบ้าง แต่ก็ไม่อาจบดบังความใจดีและรักชาติ รักประชาชนที่อยู่เบื้องหลังแววตาสีสนิมเหล็ก ที่บ่งบอกว่าเป็นนักสู้ผู้กล้าหาญคู่นั้นได้ คุณลุง ท. ดีกับเดียทุกอย่าง ตามใจเดียสารพัด ทุกครั้งที่อยู่กับคุณลุง หรือคุณลุงโอบเดียไว้ เดียจะมีความสุขและอบอุ่นเป็นที่สุด เดียกับคุณลุงเข้าใจกันดี แม้วัยจะต่างกันมาก บางครั้งเมื่อคุณลุงพบกับเรื่องเดือดร้อน ก็จะโทรมาปรับทุกข์กับเดีย เดียกับคุณลุงมักท่องเที่ยวในต่างประเทศกันเสมอๆ คุณลุง ท. มีฐานะดีทีเดียวค่ะ คุณลุงมักบอกกับเดียเสมอว่า เงินของคุณลุงเป็นเงินสะอาดทั้งนั้น

แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่เดียไม่เข้าใจเลยค่ะ คือเวลาที่มีคนถามว่า คุณลุงกับเดียเป็นอะไรกันเหรอ คุณลุง ท. ก็จะตอบว่า เดียเป็น "สะใภ้ในฝัน" ของคุณลุงค่ะ คุณป้าคะ เดียไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้เอาเสียเลย คุณป้าพอที่จะให้ความกระจ่างกับเดียได้ไหมคะ ว่าคุณลุง ท. คิดอย่างไรกับเดียกันแน่ ระหว่างเรามันคืออะไรกันหนอ และคำว่า "สะใภ้ในฝัน" มันหมายความว่าอย่างไรหรือคะ

เดียขอกราบขอบพระคุณ คุณป้าศิลาแลงล่วงหน้า ที่จะมาไขความกระจ่าง ให้กับปัญหาที่คับอก..คับใจ ของลูกแกะหลงทาง ตัวน้อยๆ ที่ชื่อเดีย ไว้ ณ. ที่นี้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ

หลานเดีย

ป้าออกจะเขินอยู่ ที่หลานเยินยอป้ามาซะมากมาย จนป้าต้องยึดเก้าอี้ไว้แน่น กลัวตัวเองจะหลุดลอยไปติดเพดาน อันที่จริงป้าไม่ได้มีปัญญาหลักแหลมอะไรอย่างที่หนูชมเชยมาเลย หรือหนูจะประชดป้า ป้าก็ไม่ค่อยแน่ใจ แต่เลือกคิดเอาว่าหนูชมป้าจะดีกว่า หนูจะเปรียบป้าเสมือนเปลวเทียนที่ส่องสว่างให้ลูกแกะหลงทางนั้น ป้าคิดว่าไม่เหมาะจ๊ะ ป้าไม่ได้มีคุณสมบัติอะไรเช่นนั้นเลย ป้าเป็นได้แค่เตาถ่าน ที่จะย่างลูกแกะหน้าโง่ที่เผอิญหลงเข้ามาเท่านั้น แกะย่างอร่อยนะหนูเดีย

หนูคิดว่าคนจากภายนอกเขาจะมองภาพของหนูว่า "เป็นเด็กสาวที่น่ารักสดใสคนนึง มีทั้งครอบครัวที่อบอุ่น มีชื่อเสียงพอประมาณ " นั่นก็เป็นความจริงของคนภายนอกบางส่วน เพราะยังมีอีกหลายส่วน ที่เขาไม่ได้มองเฉพาะเปลือกนอก แต่มองลึกเข้าไปถึงจิตใจ และความจริง การมองเช่นนี้เขาเรียกกันว่ามองคนออก มองได้ทะลุปรุโปร่ง อันว่าคนเรานั้น จะถูกมองออกได้ง่าย เสมือนหนังสือที่มีหน้าเดียว อ่านแป๊บเดียวก็จบ  หรือถูกมองออกได้ยาก เหมือนหนังสือเล่มโตๆที่ต้องใช้เวลาอ่าน ก็อยู่ที่ตัวของบุคคลคนนั้นเอง สำหรับหนูนั้น ป้ามองหนูเหมือนเมนูอาหารร้านลาบส้มตำข้างถนน มีหน้าเดียว กวาดสายตาอ่านแล้วก็สั่งอาหารได้เลย ไม่ต้องคิดมาก

เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก สุนทรภู่ท่านสอนเตือนสติเอาไว้นานแล้ว การวางตัวของสตรีนั้น หากจะให้งามก็ต้องรู้จักระมัดระวังตัว ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ทิ้งนวลไม่สงวนตัว คนเขาก็จะครหานินทา อย่าว่าแต่ลุงแท้ๆอาแท้ๆ แม้แต่พ่อของตนเอง โบราณท่านก็สั่งสอนไม่ให้อยู่ด้วยกันลับตาคนสองต่อสอง ปากคนนั้นยาวกว่าปากกา และคนปาก***นั้นมีมากเท่ากับหมาที่มีอยู่ การนินทาว่าร้ายมักจะเกิดขึ้นเมื่อสตรีกระทำตนไม่เหมาะสม เมื่อมีมูลฝอยหมามันก็ถ่ายมูลของมันจ๊ะ

คำของคนนั้นจะเชื่อถือได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าคนคนนั้นเป็นคนเช่นไร คนชั่วย่อมพูดจาเชื่อถือไม่ได้ ดังโคลงโลกนิติที่ว่า "งาสารฤาห่อน***น หดคืน คำกล่าวสาธุชนยืน อย่างนั้น ทุรชนกล่าวคำฝืน คำเล่า หัวเต่ายาวแล้วสั้น เล่ห์ลิ้นทรชน๚ "  ใครจะสาบทสาบานอย่างไรว่าเงินของเขาบริสุทธิ์นั้น จงอย่าได้ไปเชื่อ จนกว่าจะได้พิสูจน์แล้ว เฒ่าหัวงูมากมาย ก็แกล้งสาบทสาบานว่า รักใคร่เอ็นดูเด็กสาวอายุเยาว์วัยเช่นลูก ลงท้ายมันก็เอาไปทำลูกแบบศรีธนนชัย "อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง"

ดังนั้นคำว่าสะใภ้ในฝันนั้น บางทีมันอาจจะเป็นแค่ในฝัน เพราะความจริง คุณลุงของหนู อาจจะมีลูกเขยสามคนและไม่มีลูกสะใภ้เลย สะใภ้ในฝันหรือสะใภ้นอกฝัน จึงอาจกลายเป็นนังเล็กๆไปเสียฉิบ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Gamobank ที่ 08-09-2007, 14:15
 :slime_agreed:

 :slime_bigsmile:

 :slime_smile2:

 :slime_v:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 10-09-2007, 16:18
คุณป้าศิลาแลงยังตอบคำถามได้แซบสะใจลูก ๆ หลาน ๆ เหมือนเคย ฝีปากไม่มีตกเลยนะคะ คุณป้า  :slime_v:

และเพื่อเป็นการไถ่โทษที่นู๋ทำย่อความยังไม่เสร็จ (ซ้ากที :mrgreen:) เลยขอประทานโทษด้วยอาหารว่างสองจานนี้เจ้าค่ะ  :slime_smile:

รสชาติเปรี้ยว เผ็ดจี๊ดจ๊าด :mrgreen:
(http://i171.photobucket.com/albums/u311/aiwen_mei/PICT0013.jpg)

ทั้งกรอบทั้งหวานทั้งหอม  :mrgreen:
(http://i171.photobucket.com/albums/u311/aiwen_mei/PICT0038.jpg)


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 10-09-2007, 17:59
คุณป้าศิลาแลงยังตอบคำถามได้แซบสะใจลูก ๆ หลาน ๆ เหมือนเคย ฝีปากไม่มีตกเลยนะคะ คุณป้า  :slime_v:

และเพื่อเป็นการไถ่โทษที่นู๋ทำย่อความยังไม่เสร็จ (ซ้ากที :mrgreen:) เลยขอประทานโทษด้วยอาหารว่างสองจานนี้เจ้าค่ะ  :slime_smile:

รสชาติเปรี้ยว เผ็ดจี๊ดจ๊าด :mrgreen:
(http://i171.photobucket.com/albums/u311/aiwen_mei/PICT0013.jpg)

ทั้งกรอบทั้งหวานทั้งหอม  :mrgreen:
(http://i171.photobucket.com/albums/u311/aiwen_mei/PICT0038.jpg)

หลานเม่ย

ป้ามาเปิดดูกระทู้ตอนกำลังหิวพอดี เห็นอาหารแล้วน้ำลายสอ ยำแซ่บหลายนี่ป้าโปรดนัก มีทั้งกุ้ง ปลาหมึก เห็ดหูหนูขาว ท่าทางจะรื่นคอดีนัก ส่วถุงทองนั้นท่าจะล้ำค่าเหมือนชื่อ คงกรุบกรอบเคี้ยวมันยิ่งกว่ากระดูกหนุ่มๆ อิอิ

แต่แถวบ้านป้าหารายการอาหารประเภทนี้ไม่ใคร่จะได้ มีแต่ร้านลาบส้มตำเจ้าเก่า คงต้องอาศัยพึ่งพิงไปก่อน

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Suraphan07 ที่ 14-09-2007, 09:53
ป้าแลง ครับ...

ช่วงนี้มีข่าวแผ่นดินไหว แถมยังมีฝนตกชุกอีก...
เรื่องแผ่นดินไหว คงเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย
และเมืองไทยก็ไม่ได้เจอกันบ่อยๆ คนโบราณเลยไม่ได้มีวิธีแก้ไข...

แต่เรื่องฝนตกนี่ ผมเคยได้ยินว่าให้หา สาวบริสุทธิ์  มากลั้นหายใจปักตะไคร้
กลับหัว เอารากชี้ขึ้นฟ้า ผมเองก็ไม่ใคร่เชื่อนักว่ามันจะไล่ฝนได้สำเร็จ แต่ก็เห็นเขาทำกันอยู่...

ป้าฯพอจะทราบไหมครับว่า การปักตะไคร้...
เป็นกุศโลบายอย่างไร ?
ทำไมต้องเป็นสาวบริสุทธิ์ ? เป็นหนุ่มได้ไหม ?
ตอนสาวๆ ป้าฯเคยปักหรือเปล่าครับ แล้วเห็นผลไหม ?
ทำไมต้องปักกลับหัว ?
ทำไมต้องเป็นตะไคร้ ?
ทำไมต้องกลั้นใจ ?

แล้วถ้าผมจะไล่ไม่ให้พวก "นักการเมือง ขี้ฉ้อ"
ได้เข้าไปมีอำนาจ กอบโกยเงินภาษี เข้าพกเข้าห่อตัวเองและพวกพ้อง...

ผมจะดัดแปลงวิธีการนี้ไปใช้ได้ไหมครับ หรือต้องใช้วิธีการใดดี เพราะตอนนี้
อ่านข่าวแล้ว เห็นพวกเขาวิ่งหาพรรค-ต่อรองกันชุลมุนวุ่นวาย เพื่อเตรียมการเลือกตั้งกัน...

ถ้าป้าฯ มีวิธี โปรดกรุณาชี้แนะด้วยครับ...

ผมกะว่าจะเอาวิธีที่ป้าฯแนะนำ ไปเผยแพร่ให้ชาวบ้านเขาช่วยๆกันทำด้วย
ถ้าได้ผล ผมจะช่วยเป็นหัวคะแนนให้ป้าฯ ในการลงเลือกตั้งสมัยหน้า
โดยลดค่าบริการ 50% เลย... :slime_smile:

ขอบพระคุณป้าฯล่วงหน้ามา ณ.ที่นี้

ขอแสดงความนับถือ
Suraphan07


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 14-09-2007, 20:53
ป้าแลง ครับ...

ช่วงนี้มีข่าวแผ่นดินไหว แถมยังมีฝนตกชุกอีก...
เรื่องแผ่นดินไหว คงเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย
และเมืองไทยก็ไม่ได้เจอกันบ่อยๆ คนโบราณเลยไม่ได้มีวิธีแก้ไข...

แต่เรื่องฝนตกนี่ ผมเคยได้ยินว่าให้หา สาวบริสุทธิ์  มากลั้นหายใจปักตะไคร้
กลับหัว เอารากชี้ขึ้นฟ้า ผมเองก็ไม่ใคร่เชื่อนักว่ามันจะไล่ฝนได้สำเร็จ แต่ก็เห็นเขาทำกันอยู่...

ป้าฯพอจะทราบไหมครับว่า การปักตะไคร้...
เป็นกุศโลบายอย่างไร ?
ทำไมต้องเป็นสาวบริสุทธิ์ ? เป็นหนุ่มได้ไหม ?
ตอนสาวๆ ป้าฯเคยปักหรือเปล่าครับ แล้วเห็นผลไหม ?
ทำไมต้องปักกลับหัว ?
ทำไมต้องเป็นตะไคร้ ?
ทำไมต้องกลั้นใจ ?

แล้วถ้าผมจะไล่ไม่ให้พวก "นักการเมือง ขี้ฉ้อ"
ได้เข้าไปมีอำนาจ กอบโกยเงินภาษี เข้าพกเข้าห่อตัวเองและพวกพ้อง...

ผมจะดัดแปลงวิธีการนี้ไปใช้ได้ไหมครับ หรือต้องใช้วิธีการใดดี เพราะตอนนี้
อ่านข่าวแล้ว เห็นพวกเขาวิ่งหาพรรค-ต่อรองกันชุลมุนวุ่นวาย เพื่อเตรียมการเลือกตั้งกัน...

ถ้าป้าฯ มีวิธี โปรดกรุณาชี้แนะด้วยครับ...

ผมกะว่าจะเอาวิธีที่ป้าฯแนะนำ ไปเผยแพร่ให้ชาวบ้านเขาช่วยๆกันทำด้วย
ถ้าได้ผล ผมจะช่วยเป็นหัวคะแนนให้ป้าฯ ในการลงเลือกตั้งสมัยหน้า
โดยลดค่าบริการ 50% เลย... :slime_smile:

ขอบพระคุณป้าฯล่วงหน้ามา ณ.ที่นี้

ขอแสดงความนับถือ
Suraphan07

หลาน Suraphan07

การปักตะใคร้ไล่ฝนนั้น เป็นความเชื่อที่มีกันมาแต่ครั้งไหนก็ไม่ทราบ อาจจะมาจากกระเหรี่ยงก็ได้ เพราะป้าได้ยินมาว่า แม้แต่การโล้ชิงช้าของพราหมณ์ ยังมีนักปาด (ปาด สะกดถูกแล้ว ไม่ใช่ ปราชญ์) ออกมาให้ความเห็นว่า เรารับพิธีโล้ชิงช้ามาจากกระเหรี่ยง

นอกจากการปักตะใคร้แล้ว ยังมีพิธีกวนข้าวทิพย์ ที่ระบุให้สาวบริสุทธิ์เป็นผู้กระทำการ และระหว่างที่กวนขนมอันหอมหวานนั้น หากมดหรือแมลงวันไต่ตอมสาวผู้ใด ก็จะเป็นสัญญลักษณ์ให้ทราบว่า ยายนั่นไม่บริสุทธิ์ ซวยกะลุดม้อ เสียชื่อเสียงไปตลอดชาติ ดังนั้นการกวนข้าวทิพย์ เขาจึงมักจะให้เด็กๆชนิดยังไม้ได้โกนจุก เป็นผู้กระทำการ เพื่อกันขี้ปากคน

เรื่องปักตะไคร้ไล่ฝนนั้น ป้าเคยผ่านประสบการณ์อันเกือบจะขมขื่นมาแล้วหนหนึ่ง เมื่อครั้งยังเป็นละอ่อนหน้าใสวัยรุ่น ในวันนั้นสถานที่ซึ่งเรียนอยู่จะต้องมีกิจกรรมกลางแจ้ง แต่บังเอิญให้ฟ้าฝนเเกิดทำท่าจะตกโปรยปรายลงมา ทันใดนั้นคู่กัดอมตะของป้า เพื่อนรักคิดจะหักเหลี่ยมโหด แกล้งเอะอะโวยวายขึ้นมาว่า เราจะต้องช่วยกันหาทางป้องกันมิให้ฝนตก ด้วยเธอเคยได้ยินคำร่ำลือเกี่ยวกับการปักตะใคร้ไล่ฝน และยืนยันว่าได้ผลหากให้สาวพรหมจรรย์เป็นผู้กระทำพิธีนี้ ทันใดนั้นเธอก็โยนภาระหนักมาให้ป้า โดยพูดเสียเสียงดังว่าให้ยายศิลาแลงนั่นแน่ะไปปักตะใคร้ ด้วยความจริงแล้วในตอนนั้น ป้าก็มีคุณสมบัติครบถ้วนดังว่า หากแต่ก็รู้ๆกันอยู่ว่า เรื่องปักตะใคร้นั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลรองรับทางวิทยาศาสตร์ หากพลาดพลังฝนดันตกลงมา ชื่อเสียงของป้าคงจะป่นปี้

ป้ายิ้มรับคำท้าของคู่กัดอมตะในทันที และตอบรับจะกระทำการให้ เชิดหน้าสวยใสใส่หน้าเห่ยๆของไอ้เพื่อนทรยศคนนั้น ดูรึ ผู้ชายนั่งฟังเป็นก่ายเป็นกอง คิดจะมาฉีกหน้ากันในวันนี้ เป็นต้องเห็นดีกันบ้างล่ะ ชั่วเวลาไม่นานอาสาสมัครที่ไปหาตะไคร้ก็ได้ตะไคร้มากำมือหนึ่ง ป้ายิ้มหวานก่อนจะยื่นมือไปเพื่อจะรับมันมา แล้วก็ชะงักหดมือในทันใด พลางร้องถามผู้ที่ไปนำตะใคร้มาว่า เธอมีรอบเดือนหรือเปล่า เพื่อนคนนั้นรีบปฎิเสธเป็นพัลวัน ป้าก็หันไปยิงคำถามเข้าใส่คู่กัดในทันใดว่า เธอมีรอบเดือนหรือเปล่า ฝ่ายนั้นก็รีบปฎิเสธด้วยคาดไม่ถึงว่าป้าถามทำไม แล้วป้าก็ทำหน้าเหรอหรา บอกด้วยเสียงอันไม่ค่อยนักว่า ฉันปักไม่ได้หรอกวันนี้เผอิญมีรอบเดือน การปักตะใคร้นั้นนอกจากจะต้องให้สาวพรหมจรรย์เป็นผู้กระทำการแล้ว สาวนั้นยังจะต้องอยู่ในภาวะบริสุทธิ์อีกด้วย การมีรอบเดือนถือว่าร่างกายไม่บริสุทธิ์ ทำพิธีไม่ได้ ป้ารีบแถลงกรรมวิธีฉอดๆ ก่อนจะโยนภาระกลับไปให้ไอ้เพื่อนตัวแสบทันทีว่า เธอแน่ะยังบริสุทธิ์และไม่มีรอบเดือน ออกไปเสียสละเพื่อมวลชนสักหน่อยเถิด

หอกทมิฬแทงทมิฬ  ป้านึกถึงท่านศรีปราชญ์ขึ้นมาในเวลานั้น "ธรณีนี่นี้, เป็นพยาน. เราก็ศิษย์มีอาจารย์, หนึ่งบ้าง. เราผิดท่านประหาร, เราชอบ. เราบ่ผิดท่านมล้าง, ดาบนี้ คืนสนอง" คู่กัดอมตะของป้าสุดปัญญาจะหลบเลี่ยงภาระ เพราะใครต่อใครก็หันมามองเธอกันเป็นตาเดียว จำใจต้องเดินขาสั่นออกไปปักตะใคร้ทำพิธี ป้าก็เอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด

ไม่อยากจะบอกเลยว่า วันนั้นเราต้องย้ายไปทำกิจกรรมกันในอาคาร และคู่กัดอมตะของป้าก็มีภาระที่จะต้องแก้ความเชื่อผิดๆเรื่องการปักตะใคร้ไล่ฝน นานจบจบการศึกษาที่นั่นเลย

ส่วนการไล่นักการเมืองขี้ฉ้อนั้น หลาน Suraphan07 จะนำวิธีปักตะใคร้ไปใช้ก็น่าจะได้ผล แต่จะต้องทำตามที่ป้าบอกดังนี้

1. ผู้กระทำการปักตะใคร้จะต้องเป็นชายหนุ่มบริสุทธิ์ มิเคยต้องมือชายด้วยกันมาก่อน แต่หากจะเคยมีอะไรกับสตรีมาแล้วไม่เป็นไร ขอให้ไม่เคยเสียท่าชายด้วยกันมาก็เป็นพอ

2. นำตะใคร้มาปักกลับหัว เช่นเดียวกับการไล่ฝน

3. ต้องกลั้นใจขณะปักตะใคร้ด้วย

4. ปักหนึ่งต้นไล่ได้หนึ่งคน ให้ออกชื่อคนที่ต้องการไล่ในขณะกลั้นใจปัก

สี่ข้อเอง ไม่ยากเลยใช่ไหม หากทำดังนี้แล้วป้ารับรองว่า คนที่ถูกขับไล่นั้นจะไม่ได้เข้ามาในวงการเมืองอีกตลอดกาล  เว้นเสียแต่ว่า คนปักนั้นจะผิดกติกาข้อที่ 1.

หลาน Suraphan07 รีบกระทำการเลยนะจ๊ะ ป้าเองก็ฝากความหวังไว้ที่หลาน บ้านเมืองเราจะได้ปลอดคนชั่วเสียที

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 14-09-2007, 21:42
:mrgreen: :slime_bigsmile: :slime_smile2: :slime_bigsmile: :mrgreen:

โอยยย ขำ ฮาซะ ..ไม่ได้ยินคำว่า "ซวยกะลุดม้อ" มานานแล้ว คุณป้าก็นะ รู้จักซะด้วย  :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: วิหค อัสนี ที่ 15-09-2007, 01:25
 :slime_hmm: ไล่นักการเมืองนี่ ใช้ตัดไม้ข่มนามน่าจะได้ผลกว่านาผมว่า...

เรื่องแผ่นดินไหวก็พูดยาก มีหลายๆ คนว่ากันว่าธรรมชาติ พระแม่ธรณีกำลังปรับสมดุลอีกระลอกแล้ว เหมือนร่างกายคนเรามีพลังฟื้นตัว มีระบบภูมิต้านทานที่จะกำจัดเชื้อโรค ปรสิต หรือมะเร็งเนื้อร้ายที่เกาะกินอยู่นั่นแหละ

ในบอร์ดโหราศาสตร์ของฝรั่งที่นึง ช่วงนี้ก็มีกระทู้เรื่องแผ่นดินไหว ซึ่งหลายๆ คนมีความเห็นว่าน่าจะสอดคล้องสัมพันธ์กับคราสที่เกิดขึ้น 3 ครั้งแล้วในปีนี้ (และในรอบเดือนที่ผ่านมาก็เพิ่งเกิดสุริยคราสไป 1 และจันทรคราสเต็มดวงไป 1 ครั้งติดๆ) และความเคลื่อนไหวอีกหลายๆ อย่างที่บ่งชี้ถึงความโกลาหลทั่วโลกเหมือนช่วงเวลาใกล้สิ้นยุคยังไงยังงั้น น่าคิดและน่ากลัวอยู่เหมือนกัน...

ที่แน่ๆ ผมเห็นทางเว็บประชาๆ อะไรซักที่นึงนี่แหละ ที่ถกการเมืองกันดุเดือดเลือดพล่านฮาร์ดคอร์ทุกวัน มีคุยเรื่องแผ่นดินไหว ภัยธรรมชาติเหมือนกันเลย หลายคนในนั้นดูจะลุ้นกันออกนอกหน้าเหลือเกิน ว่าเมื่อไหร่ "กทม. กับภาคใต้จะจมน้ำหรือโดนธรณีสูบไปซะที (โทษฐานเป็นฝ่ายมารต่อต้านท่านพ่อผู้มีบุญทักษิณ)" อะไรประมาณนั้นเลย

คุณป้าครับ ถึงตรงนี้ผมมีคำถามอย่างนึง อะไรทำให้คนไทยเรามีทัศนคติมุ่งร้ายต่อเพื่อนมนุษย์และแผ่นดินเกิดกันได้มากขนาดนี้ครับ?



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 15-09-2007, 01:58
สวัสดีค่ะ....คุณป้าศิลาแรงขา

ดอกฟ้าฯ ยังชื่นชอบและติดตามอ่านกระทู้นี้อยู่เรื่อยๆตลอดนะคะ

สืบเนื่องจากเรื่องที่คุณป้าบอกวิธีการ ปักตะไคร้ ไล่*****อะไรสักอย่างอ่ะค่ะ

ต้องหาซื้อตะไคร้ตั้งร้อยกว่าต้นได้ไงคะ อาจทำให้ตะไคร้ขาดตลาดได้เลยทีเดียวนะคะ

เหมือนกับตอนนี้ที่ยางอายขาดตลาดจากประเทศเราไปนานแล้ว

พยายามออเดอร์จากญี่ปุ่น แต่ทางเค้าปฎิเสธมาแบบน่าเจ็บหัวใจ

ว่ายางอายมีไว้ขายคนที่มีจิตสำนึกบ้าง แต่ลูกค้าของเราที่ส่วนใหญ่เป็นพวกนักเลือกตั้ง

ส่งมาให้มากแค่ไหน คงไม่พอใช้อ่ะค่ะ ขนาดเปิดแอลซีจากธนาคารให้ เพื่อยืนยันว่าไม่เบี้ยวเด็ดขาดแล้วนะคะ

เค้ายังไม่ยอมขายให้แบบนี้หมายความว่าไงคะ

อ้อ....ขอเรียนถามอีกเรื่องนึงนะคะ ที่ปักตะไคร้ไล่*****เนี่ย ต้องใช้ตะไคร้ในปริมาณที่มากพอสมควร

อันที่จริงดอกฟ้าฯก็เพิ่งเคยได้ยิน


ขอเรียนถามว่า....หลังจากเสร็จพิธีกรรมแล้ว เราจะเอาตะไคร้ไปทำน้ำตะไคร้ได้ป่าวค่ะ

เพราะเกรงว่าจะกลายเป็นน้ำตะไคร่อ่ะค่ะ

แบบว่ามันไม่แน่ใจ จิงๆนะคะ


ขอรบกวนคุณป้าฯ อีกครั้งนะคะ


ดอกฟ้าฯหลานคุณป้าเองค่ะ
:slime_smile2:




หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 15-09-2007, 09:34
:slime_hmm: ไล่นักการเมืองนี่ ใช้ตัดไม้ข่มนามน่าจะได้ผลกว่านาผมว่า...

เรื่องแผ่นดินไหวก็พูดยาก มีหลายๆ คนว่ากันว่าธรรมชาติ พระแม่ธรณีกำลังปรับสมดุลอีกระลอกแล้ว เหมือนร่างกายคนเรามีพลังฟื้นตัว มีระบบภูมิต้านทานที่จะกำจัดเชื้อโรค ปรสิต หรือมะเร็งเนื้อร้ายที่เกาะกินอยู่นั่นแหละ

ในบอร์ดโหราศาสตร์ของฝรั่งที่นึง ช่วงนี้ก็มีกระทู้เรื่องแผ่นดินไหว ซึ่งหลายๆ คนมีความเห็นว่าน่าจะสอดคล้องสัมพันธ์กับคราสที่เกิดขึ้น 3 ครั้งแล้วในปีนี้ (และในรอบเดือนที่ผ่านมาก็เพิ่งเกิดสุริยคราสไป 1 และจันทรคราสเต็มดวงไป 1 ครั้งติดๆ) และความเคลื่อนไหวอีกหลายๆ อย่างที่บ่งชี้ถึงความโกลาหลทั่วโลกเหมือนช่วงเวลาใกล้สิ้นยุคยังไงยังงั้น น่าคิดและน่ากลัวอยู่เหมือนกัน...

ที่แน่ๆ ผมเห็นทางเว็บประชาๆ อะไรซักที่นึงนี่แหละ ที่ถกการเมืองกันดุเดือดเลือดพล่านฮาร์ดคอร์ทุกวัน มีคุยเรื่องแผ่นดินไหว ภัยธรรมชาติเหมือนกันเลย หลายคนในนั้นดูจะลุ้นกันออกนอกหน้าเหลือเกิน ว่าเมื่อไหร่ "กทม. กับภาคใต้จะจมน้ำหรือโดนธรณีสูบไปซะที (โทษฐานเป็นฝ่ายมารต่อต้านท่านพ่อผู้มีบุญทักษิณ)" อะไรประมาณนั้นเลย

คุณป้าครับ ถึงตรงนี้ผมมีคำถามอย่างนึง อะไรทำให้คนไทยเรามีทัศนคติมุ่งร้ายต่อเพื่อนมนุษย์และแผ่นดินเกิดกันได้มากขนาดนี้ครับ?


หลาน QuaOs

การตัดไม้ข่มนาม ก็เป็นวิธีการทางพิชัยสงครามโบราณ ไทยเรานั้นใช้กันมาหลายยุคหลายสมัย ครั้งสุดท้ายก็เมื่อประกาศสงครามกับเยอรมัน ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 6 วันกระทำพิธีประกาศสงครามนั้น ประวัติศาสตร์จารึกไว้ว่า ขณะประกาศสงคราม พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้พระบาทเหยียบใบฝรั่ง อันเป็นเคล็ดตามตำราพิชัยสงครามว่าด้วยการตัดไม้ข่มนาม ไม่ต้องถึงกับให้ทรงตัด เพียงทรงพระเหยียบ ครั้งนั้นเราก็ชนะสงครามแล้ว

เรื่องแผ่นดินไหวนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ แผ่นโลกหลายแผ่นมีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะแผ่นโลกนั้นลอยอยู่บนแมกมา เมื่อมาเกยกันเข้าต่างก็ดันกันด้วยกำลัง ประมาณว่าใครดีใครอยู่ สุดท้ายก็เจ๊ากันไป แต่คนที่อยู่บนแผ่นโลกสองแผ่นนั้นก็เจ๊งกันไป

ความเห็นที่ว่าแผ่นดินไหวสัมพันธ์กับคราสนั้น ก็นับว่าเป็นข้อสังเกตุทางวิชาการโหราศาสตร์ มีผู้สังเกตุมามากมาย แต่ก็ทายไม่ใคร่จะถูกว่ามันจะไหวอีกเมื่อใด เคยอ่านพบมาว่าบ้างก็โทษดาวมฤตยู ว่าเป็นต้องรับผิดชอบต่อการเกิดแผ่นดินไหว แต่อย่างไรก็ตาม ตามตำราอภิไทยโพธิบาทว์ เหตุวิปริตผิดธรรมชาตินั้นอาจทำนายได้ในหลายสาเหตุ ส่วนใหญ่จะเป็นการเตือนก่อนเกิดอาเภทภัย คงไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้านายของเวบบอร์ดจัuไรเหล่านั้น

คำถามสุดท้ายของหลานนั้นแทงใจป้าเป็นอันมาก  หลานเคยได้ยินข่าวหนุ่มรักคุดบุกฆ่าสาวคนรักที่คิดตีตัวออกห่างไหม หรือข่าวสาดน้ำกรดทำลายโฉมแฟนที่คิดตีจาก มันก็เช่นเดียวกันกับกลุ่มคนไทยเราบางกลุ่ม ที่มีทัศนคติมุ่งร้ายต่อเพื่อนมนุษย์และแผ่นดินเกิด เพราะเมื่อตนไม่ได้ดังประสงค์ ก็ทำลายสิ่งนั้นเสีย มิได้คำนึงถึงคุณธรรมจริยธรรมความถูกต้อง นับเป็นกลุ่มคนหรือบุคคลที่มีสันดานนิสัยต่ำช้า ตามคำบอกเล่าของโบราณ ก็ต้องเหมารวมเอาว่าเป็นเปรตอสุรกายมาเกิด และยังไม่ละทิ้งนิสัยดั้งเดิมจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 15-09-2007, 09:54
สวัสดีค่ะ....คุณป้าศิลาแรงขา

ดอกฟ้าฯ ยังชื่นชอบและติดตามอ่านกระทู้นี้อยู่เรื่อยๆตลอดนะคะ

สืบเนื่องจากเรื่องที่คุณป้าบอกวิธีการ ปักตะไคร้ ไล่*****อะไรสักอย่างอ่ะค่ะ

ต้องหาซื้อตะไคร้ตั้งร้อยกว่าต้นได้ไงคะ อาจทำให้ตะไคร้ขาดตลาดได้เลยทีเดียวนะคะ

เหมือนกับตอนนี้ที่ยางอายขาดตลาดจากประเทศเราไปนานแล้ว

พยายามออเดอร์จากญี่ปุ่น แต่ทางเค้าปฎิเสธมาแบบน่าเจ็บหัวใจ

ว่ายางอายมีไว้ขายคนที่มีจิตสำนึกบ้าง แต่ลูกค้าของเราที่ส่วนใหญ่เป็นพวกนักเลือกตั้ง

ส่งมาให้มากแค่ไหน คงไม่พอใช้อ่ะค่ะ ขนาดเปิดแอลซีจากธนาคารให้ เพื่อยืนยันว่าไม่เบี้ยวเด็ดขาดแล้วนะคะ

เค้ายังไม่ยอมขายให้แบบนี้หมายความว่าไงคะ

อ้อ....ขอเรียนถามอีกเรื่องนึงนะคะ ที่ปักตะไคร้ไล่*****เนี่ย ต้องใช้ตะไคร้ในปริมาณที่มากพอสมควร

อันที่จริงดอกฟ้าฯก็เพิ่งเคยได้ยิน

ขอเรียนถามว่า....หลังจากเสร็จพิธีกรรมแล้ว เราจะเอาตะไคร้ไปทำน้ำตะไคร้ได้ป่าวค่ะ

เพราะเกรงว่าจะกลายเป็นน้ำตะไคร่อ่ะค่ะ

แบบว่ามันไม่แน่ใจ จิงๆนะคะ

ขอรบกวนคุณป้าฯ อีกครั้งนะคะ

ดอกฟ้าฯหลานคุณป้าเองค่ะ
:slime_smile2:


หลาน ดอกฟ้าฯ

ตะไคร้นั้นเป็นพืชพื้นเมืองอย่างหนึ่งของไทยเราเอง หากประชาชนมีความต้องการดีมานด์สูง เหล่าเกษตรกรก็จะสนองตอบซัพพลายให้ได้โดยไม่ยาก เป็นการสนับสนุนสินค้าการเกษตรได้อย่างหนึ่งจ๊ะ หลานไม่ต้องห่วงว่าตะไคร้จะขาดตลาดหรอก มันอาจจะมีราคาแพงขึ้นบ้าง เดือดร้อนก็แต่ป้าอังแห่งร้านบารนีเท่านั้น เพราะป้าแกจะต้องซื้อตะไคร้ราคาแพงเพื่อเอาไปทำยำแซ่บๆ

ยางอายนั้นอาจจะขาดตลาดไปบ้างในพักนี้ เพราะยางอายไม่อาจกรีดได้จากต้นยางธรรมชาติโดยทั่วไป ยางแยเป็นสารพิเศษที่หลั่งออกจากมโนสำนึกของคนดีเท่านั้น พักนี้คนดีหลบมุม ยางอายเลยดูเหมือนจะขาดหายไปด้วย

แต่ยางอายนั้นเป็นปฎิภาคกลับกับยางหัว มนุษย์คนใดยางอายขาดหายไปจากใบหน้า ไม่ช้ายางหัวก็จะตก ดูอย่างคนหน้าเหลี่ยมๆสิจ๊ะ ยางอายหายไป กอบโกยโกงกินขนานใหญ่ ไม่ช้าไม่นานยางหัวก็ตกเหมือนยางคางคกไหล ตอนนี้เลยต้องไปนอนเลียยางหัวตัวเอง เลียดิ๊ เลียดิ๊

ไทยเราจะไปออเดอร์ยางอายจากญี่ปุ่นนั้น ถึงจะเปิดแอลซีหรือเองเงินสดไปกอง ก็คงไม่ได้มันมาหรอกจ๊ะ เพราะญี่ปุ่นเองนั้นก็ไม่ใคร่จะมียางอายเหลือ ถ้าหลานไม่เชื่อ ลองไปถามร้านซีดีใต้ดินดู จะเห็นว่าคิกขุอาโนเนะทั้งหลายนั้น ทิ้งยางอายไปตั้งแต่ยังใส่ชุดนักเรียนคอซองกันอยู่เลย ไทยเราก็กำลังตามรอยไปติดๆจ๊ะ

การนำตะไคร้ที่ทำพิธีกรรมดังว่าไปทำเป็นน้ำตะไคร้ เพื่อเป็นการรีไซเคิลนั้น ป้าคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย หั่นๆตัดๆไอ้ตรงที่เปื้อนขี้ดินออกเสียบ้าง แล้วทุบๆบุบๆ เอาไปต้มใส่น้ำตาลกรวด หวานเช็งๆดื่มแล้วชุ่มคอชื่นใจ เสียแต่ว่าอาจมีคนตั้งข้อรังเกียจ เหมือนของเซ่นผี คนเราหาควรนำกลับมากินไม่ ได้แต่จะยกเป็นทานให้สุนัขต่อไป ดังนั้นเรื่องนี้ แล้วแต่ว่า จะถือหรือไม่จ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 25-09-2007, 22:37
คุณป้าศิลาแลงเจ้าคะ

ขออนุญาต(แอบ)นำคำปรารภของท่านประธานบอนนี่มาส่งมอบให้ถึงมือคุณป้านะคะ คำถาม เอ๊ย ขอประทานโทษค่ะ คำปรารภมีว่าดังนี้ค่ะ

...

อนึ่ง..
เห็นมีกระทู้เชิญชวนให้ส่งบทความประชาธิปไตยไปร่วมจัดทำหนังสือของกลุ่มคนรักทักษิณ  ฝ่ายเราก็มีนักเขียนดีๆ หลายคนน่าจะส่งไปร่วมนะครับเป็นการให้ความรู้ด้านประชาธิปไตยที่ถูกต้องแก่สังคม "ด้อยโอกาส"  :slime_v:

โดยเฉพาะป้าศิลาแลงน่าจะไปตอบข้อข้องใจหน่อย :slime_whistle:

รบกวนขอทราบความเห็นของคุณป้าศิลาแลงด้วยนะเจ้าคะ

ขอขอบพระคุณล่วงหน้าเจ้าค่ะ  :slime_worship:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 26-09-2007, 09:06
คุณป้าศิลาแลงเจ้าคะ

ขออนุญาต(แอบ)นำคำปรารภของท่านประธานบอนนี่มาส่งมอบให้ถึงมือคุณป้านะคะ คำถาม เอ๊ย ขอประทานโทษค่ะ คำปรารภมีว่าดังนี้ค่ะ

รบกวนขอทราบความเห็นของคุณป้าศิลาแลงด้วยนะเจ้าคะ

ขอขอบพระคุณล่วงหน้าเจ้าค่ะ  :slime_worship:


หลานเม่ย

การจัดทำหนังสือนั้นเป็นสิ่งที่ดี เพราะเป็นการเผยแพร่ความรู้ คามเห็น ทัศนคติ ของผู้เขียนและผู้จัดทำ หรือเจ้าของนายทุนหนังสือ ให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ แต่อย่างไรก็ตาม การคัดเลือกบทความ หรือการคัดเลือกนักเขียนนั้น คงจะต้องเป็นไปในแนวทางเดียวกับหนังสือนั้นๆ หากบทความหรือนักเขียน ขัดแย้งกับเจตนารมณ์ของหนังสือ ก็จะกลายเป็นอันตรายต่อหนังสือเล่มนั้นได้

หนังสือของกลุ่มคนรักทักษิณ ที่จะทำขึ้นเพื่อไว้อาลัยต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับ คงจะเป็นหนังสือในแนวเศร้าโศก วิปโยค หวนไห้ น่าจะมีบทความไปในแนววสรรเสริญผู้ที่จากไป ซึ่งเป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่า หนังสือประเภทนี้ จะไม่กล่าวให้ร้ายผู้ที่ถูกไว้อาลัย หากมหาโจรสักคนหนึ่งจากไป ลูกเมียคงจะทำหนังสือเยินยอแจกในวันสำคัญนั้น โดยกล่าวแต่สิ่งที่ดีๆ ทำนองที่ว่า ถึงจะเป็นโจรก็เป็นประเภทโรบินฮู๊ด และละเว้นจะกล่ววถึงความจริง เพราะถึงแม้ความจริงจะเป็นสิ่งที่ไม่ตาย แต่หนังสือนั้นก็ทำสำหรับคนที่ตายแล้ว และคนที่ตายแล้วจะไม่รับรู้ ไม่ว่าความนั้นจะจริงหรือไม่ หากแต่คนอยู่นั่นสิ จะบากหน้ารับความจริงที่คนตายทำไว้ไม่ได้

ดังนั้นแนวทางของหนังสือเล่มดังกล่าว จึงน่าจะขัดแย้งกับนักเขียนของเสรีไทยทุกผู้ทุกนาม เพราะพวกเรานั้นประสงค์ที่จะพูดแต่ความจริง และลิ้นของพวกเราไม่มีขน ดังนั้นปากกาของพวกเราจึงคมเสมอๆ การจะให้นำบทความของพวกเรานั้นไปลงในหนังสือดังกล่าว ก็อาจบาดหนังสือของเขาให้ขาดกระจุยกระจายได้

ในส่วนตัวของป้าเองนั้น ป้าก็ยินดีที่จะส่งบทความไปลงในหนังสือนั้น ตามเงื่อนไขดังกล่าวมาแล้ว และด้วยศักดิ์ศรีของผู้ที่เขียนกอไก้ขอไข่ได้ ก็ย่อมไม่อยากให้ใครมาแก้ไขหรือดัดแปลงข้อเขียน แต่ก็เกรงว่าบรรณาธิการของหนังสือเล่มนั้น จะกระอักเลือดตายก่อนอ่านบทความจบ อย่าไปพูดถึงขั้นจะได้ตีพิมพ์เลย เพราะถ้าถึงขั้นนั้น แท่นพิมพ์จะลุกเป็นไฟไปเสียเปล่าๆปลี้ๆ

ถ้าท่านประธานบอนนี่ จะนำบทความของชาวเสรีไทย ไปส่งให้กับบรรณาธิการของหนังสือเล่มนั้นเมื่อไหร่ ช่วยบอกป้าด้วย ป้าจะได้เฝ้าติดตามข่าว พักนี้เขาแทงกันทีละห้าสิบหกสิบแผล ท่านประธานบอนนี่อาจจะทำสถิติใหม่ก็ได้

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 26-09-2007, 15:40
ได้อ่านคำตอบของคุณป้าแล้ว จี๊ดค่ะจี๊ด  ป่าวนะคะ ไม่ใช่นู๋เป็นอะไรหรอกค่ะ แม้ว่าหลายวันนี้ อากาศร้อนซะจนเริ่มมีอาการเวียนหัวเท้าฮิ้งรบกวนบ้างก็ตาม จนต้องอาศัยขบน้ำแข็งกร๊อบ ๆ แก้ร้อนค่ะ   :mrgreen: :D :mrgreen:

สมมติว่าตัวนู๋เองเป็นคนฝั่งคะโน้นอะนะคะ คำตอบที่เชือดเฉือนของคุณป้าคงทำให้รู้สึกหัวใจมันเจ็บจิ๊ด ๆ ถ้าวัดความดัน ตัวเลขคงพุ่งไปที่ 180 หน้าแดงก่ำ ตาเหลือกโปนแน่ ๆ เชียวค่ะ  :slime_smile2:

พออ่านคำตอบถึงตอนท้ายแล้วรู้สึกว่าสังคมบ้านเรามันน่ากลัวขึ้นทุกที เด็กมัธยมต้นอายุยังไม่ถึง 15 ฆ่ากันตายโดยใช้มีดจ้วงแทงพรุนถึงห้าสิบแผลไม่ต่างจากนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ถูกแทงตายหลายสิบแผลเพียงเพราะหวังดีไปห้ามนักศึกษารุ่นน้องต่างมหาวิทยาลัยที่ทะเลาะกับแฟนสาว  :slime_surrender:

นี่ยังไม่นับการรับน้องด้วยวิธีแปลกประหลาดพิเรนทร์พิสดาร จนบานปลายเกิดการบาดเจ็บโคม่าปางตายเสียชีวิต

ขออนุญาตขอคำแนะนำจากคุณป้าผู้รอบรู้ค่ะว่า ในฐานะพ่อแม่ผู้ปกครองของเยาวชนทุกวันนี้ ควรจะอบรมสั่งสอนบุตรหลานเป็นพิเศษอย่างไรดีคะถึงจะไม่ตกเป็นเหยื่อแห่งความรุนแรง ความไร้สติของเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน  :slime_dizzy:



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 26-09-2007, 18:25
ได้อ่านคำตอบของคุณป้าแล้ว จี๊ดค่ะจี๊ด  ป่าวนะคะ ไม่ใช่นู๋เป็นอะไรหรอกค่ะ แม้ว่าหลายวันนี้ อากาศร้อนซะจนเริ่มมีอาการเวียนหัวเท้าฮิ้งรบกวนบ้างก็ตาม จนต้องอาศัยขบน้ำแข็งกร๊อบ ๆ แก้ร้อนค่ะ   :mrgreen: :D :mrgreen:

สมมติว่าตัวนู๋เองเป็นคนฝั่งคะโน้นอะนะคะ คำตอบที่เชือดเฉือนของคุณป้าคงทำให้รู้สึกหัวใจมันเจ็บจิ๊ด ๆ ถ้าวัดความดัน ตัวเลขคงพุ่งไปที่ 180 หน้าแดงก่ำ ตาเหลือกโปนแน่ ๆ เชียวค่ะ  :slime_smile2:

พออ่านคำตอบถึงตอนท้ายแล้วรู้สึกว่าสังคมบ้านเรามันน่ากลัวขึ้นทุกที เด็กมัธยมต้นอายุยังไม่ถึง 15 ฆ่ากันตายโดยใช้มีดจ้วงแทงพรุนถึงห้าสิบแผลไม่ต่างจากนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ถูกแทงตายหลายสิบแผลเพียงเพราะหวังดีไปห้ามนักศึกษารุ่นน้องต่างมหาวิทยาลัยที่ทะเลาะกับแฟนสาว  :slime_surrender:

นี่ยังไม่นับการรับน้องด้วยวิธีแปลกประหลาดพิเรนทร์พิสดาร จนบานปลายเกิดการบาดเจ็บโคม่าปางตายเสียชีวิต

ขออนุญาตขอคำแนะนำจากคุณป้าผู้รอบรู้ค่ะว่า ในฐานะพ่อแม่ผู้ปกครองของเยาวชนทุกวันนี้ ควรจะอบรมสั่งสอนบุตรหลานเป็นพิเศษอย่างไรดีคะถึงจะไม่ตกเป็นเหยื่อแห่งความรุนแรง ความไร้สติของเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน  :slime_dizzy:

หลานเม่ย

สังคมของไทยเรานั้น ก้าวเข้าสู่สังคมทุนนิยมสามนย์อย่างเต็มตัวแล้ว ตัวอย่างของสังคมแบบนี้ เราจะเห็นได้ทั่วไปในประเทศที่คิดว่าตัวเองเจริญแล้ว และเที่ยวแส่เรื่องของชาวบ้านเขาไปทั่วโลก อย่างเช่นสหรัฐอเมริกา

ในประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกานั้น เด็กๆก็พกปืน ไปไล่ยิงเพื่อนยิงครูตายคาโรงเรียน จนเป็นข่าวให้เราได้รับทราบกัน ส่วนข่าวย่อยๆอย่างเช่นยกพวกตบกัน หรือยกพวกตีกันนั้น มันคงไม่สลักสำคัญอะไรจนกระทั่งนำมาเสนอข่าวถึงเมืองไทย แต่ถ้าใครอยากรู้ก็ลองส่งลูกไปเรียนในย่านเสื่อนโทรมของอเมริกันดู ศพของลูกที่ถูกส่งกลับมาจะรายงานสถานการณ์ให้ทราบได้เป็นอย่างดี

ความจริงการเลี้ยงลูกของคนไทยตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยมีปัญหามากมายจนถึงกับกล่าวได้ว่าเป็นปัญหาสังคม จริงอยู่ปัญหานั้นย่อมมีเสมอ ในทุกครอบครัว แต่ระดับความรุนแรงและจำนวนของปัญหาที่เกิดขึ้น ในสมัยเรายังถูกกล่าวหาว่าด้อยพัฒนานั้น น้อยกว่าสมัยที่เราพัฒนาแล้วเป็นอันมาก อาจจะพูดได้เต็มปากว่า แต่เดิมมา คนไทยเลี้ยงลูกเป็น

สุนทรภู่ กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เคยกล่าวสอนเอาไว้ว่า "ถ้ารักวัวกลัวทำไมท่านให้ผูก ถ้ารักลูกก็อย่าปล่อยคอยว่าขาน หากพ่อแม่พะนอลูกไม่ถูกกาล ก็เหมือนหว่านพืชฉิบหายในสกุล" แต่ทุกวันนี้พืชฉิบหายนั้น งอกงามเต็มสกุลต่างๆของไทย จนดาษดื่นแล้ว เป็นเพราะคนไทยเริ่มเลี้ยงลูกไม่เป็น และลูกที่เกิดมานั้น เกิดมาเพราะพ่อกับแม่ได้ทำกิจกรรมตามธรรมชาติ ลูกเป็นผลพลอยได้ หรือบางทีก็เป็นมารหัวขน ดังนั้นเมื่อลูกเกิดมาด้วยวิธีการอย่างนี้ การเลี้ยงดูและอบรมมันก็เลยวิปริตไปเช่นนี้

และมันยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เมื่อมีนักสังคม ผู้ใส่ใจในสังคม หรือจะเรียกให้ชัดเจนว่า พวกที่ไม่มีงานการอะไรที่จะทำให้เป็นประโยชน์ได้ พากันแห่เข้ามาสร้างกฎเกณฑ์ทางสังคม โดยเฉพาะวิธีการจัดการกับเด็กมีปัญหา ครูถูกสั้งห้ามไม่ให้ลงโทษนักเรียนด้วยการตี เด็กที่กระทำผิดกฎหมายถูกละเว้นโทษ พ่อแม่ของเด็กเหล่านั้นก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เด็กที่กระทำผิดต่อเด็กด้วยกัน จะถูกเห็นใจมากกว่าเด็กที่เป็นเหยื่อ ผลสรุปสุดท้ายคือเรามีอาชญากรที่ยังไม่หย่านมเต็มบ้านเต็มเมือง

สังคมมันวิปริตไปแล้ว แล้วเราจะทำอย่างไรกับลูกหลานของเรา หากเรายังคงเลี้ยงลูกเป็น และไม่ได้มีลูกเพราะลืมกินยาคุม หรือลืมยืดอกพกถุง วิธีการนั้นก็คงไม่ยากเย็นอะไร และยังมีครอบครัวที่เลี้ยลูกเป็นเขาปฎิบัติกันอยู่ วิธีการขั้นแรกคือการเอาใจใส่ลูก

การเอาใจใส่ลูกนั้นไม่ใช่การนั่งเฝ้ามองลูกทุกฝีก้าว นั่งจับผิด สั่งสอน พร่ำบ่น หรือบังคับขู่เข็ญลูกให้ไปเรียนเปียโน เรียนพิเศษ เต้นบัลเล่ต์ ประกวดร้องเพลง แต่เป็นการที่ต้องรู้ว่าลูกของเรากำลังทำอะไร สอนให้ลูกรู้จักระเบียบ วินัย การตรงต่อเวลา หน้าที่รับผิดชอบ เด็กต้องถูกฝึก ต้องถูกควบคุม ไม่ตามใจจนเกินควร ไม่ปล่อยให้เป็นอิสระจนเกินขอบเขต เลิกเรียนต้องกลับบ้าน ไม่ใช่แวะไปเที่ยวเตร่ที่ห้าง และเลิกสนใจคำร้องขอของเด็ก ที่ว่าเพื่อนเขาก็มี เพื่อนเขาก็ทำกัน อีกทั้งต้องละเว้นการให้สิ่งเกินจำเป็นแก่เด็ก เช่นโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ เงินมากเกินอัตภาพของเด็ก เครื่องประดับราคาแพง เสื้อผ้าราคาแพง ขนมหรือาหารแพงๆแต่ไร้ค่า ไม่ควรสอนให้ลูกกินอาหารขยะ ไม่สร้างค่านิยมให้เด็กฟุ้งเฟ้อ และถ้ามีลูกสาว ก่อนจะให้ออกจากบ้าน อย่าลืมดูว่าแกนุ่งกางเกงในหรือเปล่าด้วย

อันที่จริง หากพ่อแม่เป็นผู้ที่รู้กาลอันควร ลูกก็จักเป็นเช่นนั้น หากพ่อแม่เป็นผู้มีมารยาทงาม ลูกก็จักเป็นเช่นนั้น หากพ่อแม่มีสมอง ลูกก็จักเป็นเช่นนั้น เพราะพ่อแม่คือแบบอย่างของลูก เป็นครูคนแรกของลูก เขาถึงได้มีภาษิตว่า ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ จะให้แน่ๆต้องดูไปถึงยาย และลูกไม้นั้นย่อมหล่นไม่ไกลต้น มีบ้างหรอกที่มันเป็นลูกยาง ปลิวไปไกล แต่หากเราหมั่นดูแลลูก ทำตนให้ดีเป็นแบบอย่างแก่ลูก โดยมากมักไม่ค่อยผิดหวัง

เอาใจใส่ลูก อย่าปล่อยลูก เด็กนั้นคือเด็ก หากรู้กาลอันควรไม่ควร เขาก็ไม่เรียกว่าเด็ก

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: phutorn connection ที่ 27-09-2007, 09:34
เรียนคุณป้าศิลาแรงที่เคารพ (จริงๆไม่อยากใช้คำว่าป้า เพราะค่อนข้างแสลงหูตัวเอง แต่ขออนุโลมใช้ตามท่านอื่นแล้วกันนะคะ)

อันที่จริง หากพ่อแม่เป็นผู้ที่รู้กาลอันควร ลูกก็จักเป็นเช่นนั้น หากพ่อแม่เป็นผู้มีมารยาทงาม ลูกก็จักเป็นเช่นนั้น หากพ่อแม่มีสมอง  ลูกก็จักเป็นเช่นนั้น  เพราะพ่อแม่คือแบบอย่างของลูก เป็นครูคนแรกของลูก  เขาถึงได้มีภาษิตว่า ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ จะให้แน่ๆต้องดูไปถึงยาย และลูกไม้นั้นย่อมหล่นไม่ไกลต้น มีบ้างหรอกที่มันเป็นลูกยาง ปลิวไปไกล แต่หากเราหมั่นดูแลลูก ทำตนให้ดีเป็นแบบอย่างแก่ลูก โดยมากมักไม่ค่อยผิดหวัง

เอาใจใส่ลูก อย่าปล่อยลูก เด็กนั้นคือเด็ก หากรู้กาลอันควรไม่ควร เขาก็ไม่เรียกว่าเด็ก

อย่างที่คุณป้าว่านั้น ทำให้คิดถึงครอบครัวหนึ่งที่เป็นที่รู้จักในวงสังคม ว่าไฉน  :slime_doubt: มีพ่อเป็นถึงด๊อกฯ ซุกโน่นซุกนี่เป็นพัลวัน ของชิ้นใหญ่ทำให้หายวับไปกับตาอย่างกับเดวิด คอบเปอร์ฟิลล์ก็ไม่ปาน ลูกกลับไม่เอาอ่าว ซุกโพยยังโดนจับได้ ทำคุณพ่อเสียชื่อเสียงหมด ยังดีที่มีคุณลูกอีกคนที่เชิดหน้าชูตา อาจจะเป็นเพราะได้เชื้อทางคุณยายมาแรง เพราะทางคุณยายก็มีชื่อเสียงด้านการคำณวณ(ถึงจะถูกจับได้ก็เหอะ) ทำให้คุณน้องผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศ จากเด็กที่ไม่มีพื้นฐานวิชาการที่เรียนมาเลย กลับคว้าเกียรตินิยมได้อย่างง่ายดาย :slime_doubt:

เข้าสู่คำถามเลยละกันค่ะ คุณป้า

มีเกณฑ์อะไรวัดความเป็นเด็กเป็นผู้ใหญ่บ้างคะ เห็นบางคนอายุอานามปาเข้าไปเกือบสามสิบไปให้ปากคำ ชาวบ้านยังบอกอย่ารังแกเด็ก ทีตอน อ้าย คนเดียวกันไปโรดโชว์กับคุณพ่อ บอกเป็นผู้ใหญ่พอที่จะเป็นตัวแทนพ่อได้แล้ว ทั้งๆที่ตอนนั้น อ้าย คนนั้นอายุน้อยกว่าตอนไปให้ปากคำอีกนะคะ เฮาล่ะ ง๊ง งง  :slime_doubt: เพราะตอนนี้เฮาอายุอานามราวๆ อ้าย คนนั้น แต่เด็กสองขวบเรียกหนูป้าแล้ว หนูควรเป็น โคตรผู้ใหญ่ ใช่ค๊ะ เฮาจะได้ทำใจยอมรับมันได้ซะที :slime_shy:

 :slime_sentimental:
หรือเฮาควรหนับหนุนแผนคุมกำหนัดคะ เพื่อจะได้กันพวก Half - Life ของเฮาผลิตสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าป้าได้อีก
 :slime_fighto: :slime_fighto: :slime_fighto:







หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 27-09-2007, 10:28
เรียนคุณป้าศิลาแรงที่เคารพ (จริงๆไม่อยากใช้คำว่าป้า เพราะค่อนข้างแสลงหูตัวเอง แต่ขออนุโลมใช้ตามท่านอื่นแล้วกันนะคะ)

อันที่จริง หากพ่อแม่เป็นผู้ที่รู้กาลอันควร ลูกก็จักเป็นเช่นนั้น หากพ่อแม่เป็นผู้มีมารยาทงาม ลูกก็จักเป็นเช่นนั้น หากพ่อแม่มีสมอง  ลูกก็จักเป็นเช่นนั้น  เพราะพ่อแม่คือแบบอย่างของลูก เป็นครูคนแรกของลูก  เขาถึงได้มีภาษิตว่า ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ จะให้แน่ๆต้องดูไปถึงยาย และลูกไม้นั้นย่อมหล่นไม่ไกลต้น มีบ้างหรอกที่มันเป็นลูกยาง ปลิวไปไกล แต่หากเราหมั่นดูแลลูก ทำตนให้ดีเป็นแบบอย่างแก่ลูก โดยมากมักไม่ค่อยผิดหวัง

เอาใจใส่ลูก อย่าปล่อยลูก เด็กนั้นคือเด็ก หากรู้กาลอันควรไม่ควร เขาก็ไม่เรียกว่าเด็ก

อย่างที่คุณป้าว่านั้น ทำให้คิดถึงครอบครัวหนึ่งที่เป็นที่รู้จักในวงสังคม ว่าไฉน  :slime_doubt: มีพ่อเป็นถึงด๊อกฯ ซุกโน่นซุกนี่เป็นพัลวัน ของชิ้นใหญ่ทำให้หายวับไปกับตาอย่างกับเดวิด คอบเปอร์ฟิลล์ก็ไม่ปาน ลูกกลับไม่เอาอ่าว ซุกโพยยังโดนจับได้ ทำคุณพ่อเสียชื่อเสียงหมด ยังดีที่มีคุณลูกอีกคนที่เชิดหน้าชูตา อาจจะเป็นเพราะได้เชื้อทางคุณยายมาแรง เพราะทางคุณยายก็มีชื่อเสียงด้านการคำณวณ(ถึงจะถูกจับได้ก็เหอะ) ทำให้คุณน้องผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศ จากเด็กที่ไม่มีพื้นฐานวิชาการที่เรียนมาเลย กลับคว้าเกียรตินิยมได้อย่างง่ายดาย :slime_doubt:

เข้าสู่คำถามเลยละกันค่ะ คุณป้า

มีเกณฑ์อะไรวัดความเป็นเด็กเป็นผู้ใหญ่บ้างคะ เห็นบางคนอายุอานามปาเข้าไปเกือบสามสิบไปให้ปากคำ ชาวบ้านยังบอกอย่ารังแกเด็ก ทีตอน อ้าย คนเดียวกันไปโรดโชว์กับคุณพ่อ บอกเป็นผู้ใหญ่พอที่จะเป็นตัวแทนพ่อได้แล้ว ทั้งๆที่ตอนนั้น อ้าย คนนั้นอายุน้อยกว่าตอนไปให้ปากคำอีกนะคะ เฮาล่ะ ง๊ง งง  :slime_doubt: เพราะตอนนี้เฮาอายุอานามราวๆ อ้าย คนนั้น แต่เด็กสองขวบเรียกหนูป้าแล้ว หนูควรเป็น โคตรผู้ใหญ่ ใช่ค๊ะ เฮาจะได้ทำใจยอมรับมันได้ซะที :slime_shy:

 :slime_sentimental:
หรือเฮาควรหนับหนุนแผนคุมกำหนัดคะ เพื่อจะได้กันพวก Half - Life ของเฮาผลิตสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าป้าได้อีก
 :slime_fighto: :slime_fighto: :slime_fighto:


หนูต้นหอม

การจะเรียกใครด้วยสรรพนาม หรือคำนำหน้านามที่บ่งบอกถึงการเป็นเครือญาตินั้น บางคนเขาก็รับไม่ได้ คนสูงอายุแคะขนมครกขาย บ้างก็นับญาติเรียกป้าเรียกยาย บ้างก็วางฐานะไว้เรียกแค่แม่ค้า อันนี้แล้วแต่ศรัทธาจ๊ะ

การที่ครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง ที่พ่อมีดีกรีปริญญาเป็นถึงดอกเตอร์ แล้วปรากฎว่าลูกกลับไม่เอาไหน มันก็สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของพ่อนั่นเอง เพราะตามที่ป้าอธิบายไว้ว่า "หากพ่อแม่มีสมอง ลูกก็จักเป็นเช่นนั้น" สมองที่ว่าไม่ได้หมายความถึงปริญญา การวัดค่าความรู้ของคน โดยอาศัยกระดาษรับรองจากสถาบันใดสถาบันหนึ่งนั้น มันเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ไม่เชื่อก็ลองไปคุยกับดอกเตอร์เฉลิมดู แล้วจะรู้ความจริง

การที่ลูกซึ่งเป็นที่รู้กันว่า สมองไม่โปร่ง กลับคว้าปริญญาเกียรตินิยมมาได้อย่างง่ายดาย มันก็แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานและความจริงบางอย่าง มาตรฐานนั้นคือมาตรฐานของปริญญาที่รับมานั่นเอง และความจริงนั้นก็คือ มันสะท้อนให้เห็นได้ว่า พ่อได้ปริญญามาอย่างไร

เกณฑ์ที่วัดความเป็นเด็กหรือผูใหญ่นั้น หากจะคิดเป็นเกณฑ์ก็คือเอาแนวคิดตะวันตกมาชี้วัด ฝรั่งเขาก็สอนมาให้คิดได้ง่ายๆ คือ อายุถึงกำหนดขั้นหนึ่งก็เรียกว่าผู้ใหญ่ หากเป็นวัวเป็นกระบือก็คงหมายถึงอายุล่วงเข้าวัยที่เขางอกแล้วนั่นเอง ดังนั้นตามระเบียบที่ใช้กันอยู่ เราก็กำหนดเอาที่ตัวเลขอายุ 20 ปี ถือว่าบรรลุนิติภาวะเป็นผู้ใหญ่แล้ว หากอายุ 19 ปี 364 วัน 12 ชั่วโมง เราก็จะนับว่ายังเป็นเด็กอยู่ การวัดแบบนี้ง่ายดี เพราะใช้การนับเลขพื้นฐานรวมกับการอ่านปฎิทินออก เราก็รู้ได้ว่าใครเป็นเด็กหรือผูใหญ่

แต่การบรรลุนิติภาวะ แปลเอาความเข้าใจได้ว่า ว่าบรรลุถึงกำหนดที่โตเป็นผู้ใหญ่ตามกฎหมาย ดังนั้นทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบด้วยตนเอง เด็กดาวน์ซินโดรม เมื่ออายุถึง 20 ปี ก็บรรลุนิติภาวะไปด้วย หากไม่อยากบรรลุ ต้องให้ผู้ปกครองไปร้องขอเอาเอง หากใครคิดจะเอาสภาพการบรรลุนิติภาวะ มาวัดความเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่นั้น ก็คงวัดได้ผิดพลาด เพราะที่จริงแล้ว เด็กคือสภาพบุคคลที่ไม่รู้ผิดรู้ถูก และผู้ใหญ่นั้นคือสภาพบุคคลที่รู้ผิดรู้ถูกแล้ว

ในสังคมตะวันออก โดยเฉพาะในเมืองของเรา แต่ดั้งเดิมเราวัดความเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่กันที่ความรับผิดชอบ เมื่อยังเล็กพ่อแม่เลี้ยงดู ก็นับว่ายังเป็นเด็ก ต่อเมื่อปีกกล้าขาแข็งหากินเลี้ยงตัวเองได้แล้ว มีครอบครัวแล้ว เราจึงจะนับกันว่าเป็นผู้ใหญ่ แต่ถึงกระนั้น พ่อแม่ยังคงต้องตามรับผิดชอบกับลูกไปตลอดชีวิตของท่าน เพราะหากลูกหลานตระกูลใด ทำความอัปยศเสื่อมเสีย ตระกูลนั้นก็จะถูกติฉินนินทาไปตลอดว่า มีลูกทรพี อวชาติบุตร ครอบครัวไทยแต่โบราณ จึงต้องดูแลอบรมลูกกันไปตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะเห็นได้ว่า ลูกนั้นเอาถ่าน ไม่เอาขี้เถ้าหรือขี้ดิน จึงจะวางมือได้

แต่ในปัจจุบัญ อารยธรรมตะวันตกครอบงำวิถีชีวิตของคนไทยจนวุ่นวาย เด็กหัวหงอกจึงเต็มบ้านเต็มเมือง อีกทั้งคนไทยก็เลี้ยงลูกไม่เป็น ประพฤติตนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยเงิน เมืองของเราจึงอุดมไปด้วยเด็กที่มีอายุมาก สืบพันธ์ได้แต่สืบสันดานดีไม่ได้

ป้าจึงขอเสนอเกณฑ์วัดความเป็นเด็กหรือผูใหญ่เอาไว้ ป้าคิดของป้าเองระหว่างนั่งแคะหู (ป้าไม่มีเต้าขนมครกจะแคะจ๊ะ) นั่นคือบุคคลที่หาทรัพย์เลี้ยงดูตัวเองได้ ไม่ทำความเดือดร้อนให้กับสังคม รู้จักสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองดี เรานับได้ว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ส่วนบุคคลที่หาทรัพย์เลี้ยงดูตัวเองไม่ได้ ได้แต่แบมือขอพ่อแม่ หรือกินบุญเก่าเสพมรดกพกห่อ คอยสร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม วันวันมุ่งแต่กินกามเกียรติ ไม่รู้จักสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองดี ละเมิดสิทธิ์ผู้อื่นและหลบหน้าที่ของตนเอง บุคคลเหล่านี้ก็คือเด็ก ถึงหัวจะหงอกขาวโพลนจนไม่เหลือความดำ ถึงพ่อจะหนีบไปโรดโชว์แล้วประกาศว่าลูกเป็นผูใหญ่แล้ว สุดท้ายพฤติกรรมมันก็จะฟ้องความเป็นเด็กออกมาให้สังคมได้เห็น สมควรส่งกลับไปโรงเรียนดัดสัuดาน ตลอดชีวิต

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 27-09-2007, 14:44
โอ๊ะโอ..คุณป้าศิลาแลงยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเดิม  :slime_v:

นู๋จำได้ว่า คุณป้าเคยบอกว่าเป็นขาประจำร้านส้มตำ ลาบ น้ำตก ใกล้บ้าน (แถวไหนหรือคะ :mrgreen:) ขออนุญาตสั่งชุดเดียวกันกับชมรมเสี่ยวอีสานฯ มามอบให้คุณป้านะคะ ชุดนี้สั่งมาจากร้าน ...ตรงซอยทองหล่อค่ะ  :D

(http://i171.photobucket.com/albums/u311/aiwen_mei/PICT0048.jpg)
(http://i171.photobucket.com/albums/u311/aiwen_mei/PICT0006.jpg)
(http://i171.photobucket.com/albums/u311/aiwen_mei/PICT0064.jpg)


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 27-09-2007, 16:41
ที่ป้าศิลาแลงเขียน อ่านได้เพลินดี

 :slime_smile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 04-10-2007, 19:55
โอ๊ะโอ..คุณป้าศิลาแลงยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเดิม  :slime_v:

นู๋จำได้ว่า คุณป้าเคยบอกว่าเป็นขาประจำร้านส้มตำ ลาบ น้ำตก ใกล้บ้าน (แถวไหนหรือคะ :mrgreen:) ขออนุญาตสั่งชุดเดียวกันกับชมรมเสี่ยวอีสานฯ มามอบให้คุณป้านะคะ ชุดนี้สั่งมาจากร้าน ...ตรงซอยทองหล่อค่ะ  :D

(http://i171.photobucket.com/albums/u311/aiwen_mei/PICT0048.jpg)
(http://i171.photobucket.com/albums/u311/aiwen_mei/PICT0006.jpg)
(http://i171.photobucket.com/albums/u311/aiwen_mei/PICT0064.jpg)

หลานเม่ย

เห็นแลวป้าน้ำลายสอ ร้านแถบซอยทองหล่อ ก็ย่านคนมีกะตัง ดูอาหารในจานก็พอจะรู้ๆอยู่ สวยหรู สะอาด น่ารับประทาน แต่ย่านที่ป้าพักอาศัยอยู่นั้น เป็นย่านคนจนๆจ๊ะ ซอยบ้านป้านั้นอาจจะเรียกได้ว่าซอยเหล็กหล่อ ไม่มีทองจะไปหล่อกับเขาหรอก  :slime_smile2:

ส้มตำร้านโปรดของป้า ตำแบบชาวบ้านจ๊ะ ตำเสร็จกรอกใส่ถุงปลาสติก เอาหนังยางรัด ถ้ารับประทานที่ร้าน ก็จะใส่จานปลาสติกมาให้อีกนั่นแหละ ปูเค็มงี้ เค็มยิ่งกว่าเกลือ ดูดไปสองสามก้าม ริมฝีปากจะเริ่มชา ทำให้เคลิ้มๆไปได้ว่ากำลังหม่ำฟุกุ หรือปลาปักเป้าของญี่ปุ่น ที่แล่ด้วยพ่อครัวชั้นเลิศ พอมีพิษปลาติดมานิดๆ พวกญี่ปุ่นนี่คงไม่เคยกินเนื้อปลาปักเป้าของไทยเรา ที่แพร่หลายในร้านหมูกะทะ ที่แล่ชนิดไม่เกรงใจต่อมพิษของปลาปักเป้า ตาดีกินแล้วก็รอดตาย ตาร้ายชักคากะทะหมู ตายคาที่  :slime_bigsmile:

แต่ป้ามองจานอาหารที่หนูเอามาให้ป้าดูจนน้ำลายไหลแล้วก็สงสัย คนรวยแถวซอยทองหล่อนี่ เขากินใบตองกันด้วยหรือจ๊ะหนู แถวบ้านป้าเค้าไม่กินกัน หรือป้าจะตกเทรนด์  :slime_v:

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 04-10-2007, 19:57
ที่ป้าศิลาแลงเขียน อ่านได้เพลินดี

 :slime_smile:

หลานนทร์

อย่ามัวแต่อ่านสิจ๊ะ ถามอะไรมาบ้าง ป้าล่ะเหงาปาก  :slime_smile2:

ศิลาแลง



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 04-10-2007, 20:10
ขอเรียนถามคุณป้าศิลาแลงแบบด่วนที่สุดดดด  :mrgreen:

ทั่นผู้เฒ่าเล่าเหลาอายุครบโป๊ยจั๊บเหลี่ยวหนา ที่มีฉายาว่า " ก่ำฮุงตั่งกุ้ย" (ผิดพลาดต้องขออภัย  :mrgreen:) อีจ่อหนี่อยากเป็นนายกฯ ถ้าเป็นแล้ว เซี่ยมหล่อก่กของพวกเราจะเป็นฉันใด หรือว่า อาซี่ปังกุ้ยอีจะได้เจอกระบวนท่าพิฆาตทรชนถูกจับยัดเข้าซังเตชนิดทังอกทังใจ หรือคะคุณป้า

ผู้หลานไม่เข้าจายเจง ๆ น้า  :shock: :mrgreen: :mozilla_surprised:

เจ่ยเสี่ย กำเสี่ย คุณป้าศิลาแลง (หน้ากลม ฟันขาว  :mrgreen:)

หลานเซียวม่วยม่วย


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 05-10-2007, 09:19
ขอเรียนถามคุณป้าศิลาแลงแบบด่วนที่สุดดดด  :mrgreen:

ทั่นผู้เฒ่าเล่าเหลาอายุครบโป๊ยจั๊บเหลี่ยวหนา ที่มีฉายาว่า " ก่ำฮุงตั่งกุ้ย" (ผิดพลาดต้องขออภัย  :mrgreen:) อีจ่อหนี่อยากเป็นนายกฯ ถ้าเป็นแล้ว เซี่ยมหล่อก่กของพวกเราจะเป็นฉันใด หรือว่า อาซี่ปังกุ้ยอีจะได้เจอกระบวนท่าพิฆาตทรชนถูกจับยัดเข้าซังเตชนิดทังอกทังใจ หรือคะคุณป้า

ผู้หลานไม่เข้าจายเจง ๆ น้า  :shock: :mrgreen: :mozilla_surprised:

เจ่ยเสี่ย กำเสี่ย คุณป้าศิลาแลง (หน้ากลม ฟันขาว  :mrgreen:)

หลานเซียวม่วยม่วย


หลานเซียวม่วยม่วย

ไอ๊หย่า ป้าอ่านคำถามของหลานแล้ว ก็เป็นลมตกเก้าอี้ไปนอนดิ้นกระแด่วๆ ถึงในกายของป้าจะมีเชื้อสายของตึ่งนั่งเกี๊ยปนอยู๋บ้าง แต่ป้าก็ได้มาเฉพะโครโมโซมบางส่วนเท่านั้น และที่ได้มามันไม่มีโครโมโซมภาษาจีนปนอยู่ด้วย โดยมากได้มาเฉพาะโครโมโซมชอบกินโต๊ะจีน  :slime_dizzy:

ป้าก็เลยต้องไปค้นหารหัสลับขรัวอินโข่ง ว่านักการเมืองคนไหนบ้างที่มีอายุครบ โป๊ยจั๊บ แล้ว (คำนี้พอจะแปลออก เพราะป้าเคยพลาดท่าเสียทีในการต่อราคาของมาหนหนึ่ง อาม่าบอกราคาของมา จับซา ป้ารีบต่อด้วยความชำนาญในการต่อรองราคาสินคัว่า จับซาแพงไป ซาจับได้ไหม อาม่าก็รีบขายให้ป้าอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นป้าก็เดินคิดไปตลอดทางว่า เราทำอะไรผิดไปหรือเปล่าน๊า กว่าจะคิดออกก็แก่พอดี  :slime_smile2:)

ผลจากการค้นหาแคนดิเดทนายกฯ ที่มีอายุเข้าใกล้โป๊ยจั๊บ ก็ได้รายละเอียดมาดังนี้

ปลาไหลสุพรรณ เกิดวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475
เลอเทอะนครพนม เกิดวันที่15 พฤษภาคม 2475
เพ้อเจ้อวังน้ำเย็น เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2477
หมูเน่ากรุงเทพ เกิดวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2478
หมูย่างตรัง เกิดวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2481

ก็ปรากฎว่ามากที่สุดก็อายุเพียง ฉิกจับโหงว ป้าจึงเดาไม่ออกว่า " ก่ำฮุงตั่งกุ้ย" นั้นคือใคร นึกไปถึงนอกวงการเมือง พวกที่ถูกกล่าวหาว่าจะต่อท่อมาเป็นนายก ก็อายุอานามเพียงแค่แซยิดได้ นอกจากนี้ยังมีชื่อ "ซี่ปังกุ้ย" โผล่มาอีกคนหนึ่ง ซึ่งป้ารู้จักก็เพียง "ซิยิ่นกุ้ย" นั่งตอบถึงตรงนี้ ป้าก็ต้องยกส้มตำมาดม เอ๊ยไม่ใช่ ยกถ้ายาดมขึ้นมาดม เพราะวิงเวียนถึงขีดสุด " I Am Wind"

ถ้าหลานเซียวม่วยม่วย ว่าง ช่วยกรุราแปลชื่อเหล่านี้มาให้ป้านะตจ๊ะ ป้าจะได้ตอบคำถามได้ เอิ้กกกก เป็นลมพอดี  :slime_hmm:

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 05-10-2007, 20:17
หลานเม่ย

เห็นแลวป้าน้ำลายสอ ร้านแถบซอยทองหล่อ ก็ย่านคนมีกะตัง ดูอาหารในจานก็พอจะรู้ๆอยู่ สวยหรู สะอาด น่ารับประทาน แต่ย่านที่ป้าพักอาศัยอยู่นั้น เป็นย่านคนจนๆจ๊ะ ซอยบ้านป้านั้นอาจจะเรียกได้ว่าซอยเหล็กหล่อ ไม่มีทองจะไปหล่อกับเขาหรอก  :slime_smile2:

ส้มตำร้านโปรดของป้า ตำแบบชาวบ้านจ๊ะ ตำเสร็จกรอกใส่ถุงปลาสติก เอาหนังยางรัด ถ้ารับประทานที่ร้าน ก็จะใส่จานปลาสติกมาให้อีกนั่นแหละ ปูเค็มงี้ เค็มยิ่งกว่าเกลือ ดูดไปสองสามก้าม ริมฝีปากจะเริ่มชา ทำให้เคลิ้มๆไปได้ว่ากำลังหม่ำฟุกุ หรือปลาปักเป้าของญี่ปุ่น ที่แล่ด้วยพ่อครัวชั้นเลิศ พอมีพิษปลาติดมานิดๆ พวกญี่ปุ่นนี่คงไม่เคยกินเนื้อปลาปักเป้าของไทยเรา ที่แพร่หลายในร้านหมูกะทะ ที่แล่ชนิดไม่เกรงใจต่อมพิษของปลาปักเป้า ตาดีกินแล้วก็รอดตาย ตาร้ายชักคากะทะหมู ตายคาที่  :slime_bigsmile:

แต่ป้ามองจานอาหารที่หนูเอามาให้ป้าดูจนน้ำลายไหลแล้วก็สงสัย คนรวยแถวซอยทองหล่อนี่ เขากินใบตองกันด้วยหรือจ๊ะหนู แถวบ้านป้าเค้าไม่กินกัน หรือป้าจะตกเทรนด์  :slime_v:

ศิลาแลง

โฮ ๆ ๆ แสดงว่าคุณป้ามีภูมิคุ้มกันดีมั่ก ๆ พิษร้ายนานามิอาจกรายกล้ำ  :mrgreen:

อย่างนั้นทองลงทองหล่อ ไฮซงไฮซ้อ เรามิต้องไปสนใจอีกต่อไป  :slime_smile2:

นู๋มีเมนูอาหารเหนือยกมาเสิร์ฟคุณป้า 2 จานเชียวนะเจ๊า

๑. ขนมจีนน้ำเงี้ยว
(http://i171.photobucket.com/albums/u311/aiwen_mei/90129847.jpg)

๒. ข้าวซอยไก่
(http://i171.photobucket.com/albums/u311/aiwen_mei/4bf267e9.jpg)

คุณป้าทานอิ่มแล้ว อาจจะต้องตรวจน้ำหนักตัวด้วยนะเจ้า  :mrgreen:



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 05-10-2007, 20:43
หลานเซียวม่วยม่วย

ไอ๊หย่า ป้าอ่านคำถามของหลานแล้ว ก็เป็นลมตกเก้าอี้ไปนอนดิ้นกระแด่วๆ ถึงในกายของป้าจะมีเชื้อสายของตึ่งนั่งเกี๊ยปนอยู๋บ้าง แต่ป้าก็ได้มาเฉพะโครโมโซมบางส่วนเท่านั้น และที่ได้มามันไม่มีโครโมโซมภาษาจีนปนอยู่ด้วย โดยมากได้มาเฉพาะโครโมโซมชอบกินโต๊ะจีน  :slime_dizzy:

ป้าก็เลยต้องไปค้นหารหัสลับขรัวอินโข่ง ว่านักการเมืองคนไหนบ้างที่มีอายุครบ โป๊ยจั๊บ แล้ว (คำนี้พอจะแปลออก เพราะป้าเคยพลาดท่าเสียทีในการต่อราคาของมาหนหนึ่ง อาม่าบอกราคาของมา จับซา ป้ารีบต่อด้วยความชำนาญในการต่อรองราคาสินคัว่า จับซาแพงไป ซาจับได้ไหม อาม่าก็รีบขายให้ป้าอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นป้าก็เดินคิดไปตลอดทางว่า เราทำอะไรผิดไปหรือเปล่าน๊า กว่าจะคิดออกก็แก่พอดี  :slime_smile2:)

ผลจากการค้นหาแคนดิเดทนายกฯ ที่มีอายุเข้าใกล้โป๊ยจั๊บ ก็ได้รายละเอียดมาดังนี้

ปลาไหลสุพรรณ เกิดวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475
เลอเทอะนครพนม เกิดวันที่15 พฤษภาคม 2475
เพ้อเจ้อวังน้ำเย็น เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2477
หมูเน่ากรุงเทพ เกิดวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2478
หมูย่างตรัง เกิดวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2481

ก็ปรากฎว่ามากที่สุดก็อายุเพียง ฉิกจับโหงว ป้าจึงเดาไม่ออกว่า " ก่ำฮุงตั่งกุ้ย" นั้นคือใคร นึกไปถึงนอกวงการเมือง พวกที่ถูกกล่าวหาว่าจะต่อท่อมาเป็นนายก ก็อายุอานามเพียงแค่แซยิดได้ นอกจากนี้ยังมีชื่อ "ซี่ปังกุ้ย" โผล่มาอีกคนหนึ่ง ซึ่งป้ารู้จักก็เพียง "ซิยิ่นกุ้ย" นั่งตอบถึงตรงนี้ ป้าก็ต้องยกส้มตำมาดม เอ๊ยไม่ใช่ ยกถ้ายาดมขึ้นมาดม เพราะวิงเวียนถึงขีดสุด " I Am Wind"

ถ้าหลานเซียวม่วยม่วย ว่าง ช่วยกรุราแปลชื่อเหล่านี้มาให้ป้านะตจ๊ะ ป้าจะได้ตอบคำถามได้ เอิ้กกกก เป็นลมพอดี  :slime_hmm:

ศิลาแลง

:mrgreen: :slime_smile2: :slime_bigsmile: :slime_smile2: :mrgreen:


คำตอบของคุณป้าทำให้ต่อมหัวเราะของผู้หลานทำงานหนักอีกแว้ววว  :mrgreen:

อาชิกซ่อ (ซ้อเจ็ด) อีคัมแบ็กแล้วหนา อาจจะทำคะแนนนำคุณป้าได้นะคะ มาตรว่า ตอนนี้คุณป้ากับอาชิกซ่ออยู่คนละสนามแข่งก็ตาม แต่เกิดจับพลัดจับผลูมาวิ่งอยู่บนลู่เดียวกันเมื่อไหร่...อั๊ยหย่า คิดมิออกว่าจะเกิดอะไรขึ้น  :slime_smile2:

ผู้หลานนับนิ้วดูแล้ว อาเล่ากงกงปีนี้อายุครบโป๊ยจั๊บแปดสิบ ปีหน้าก็ครบโป๊ยจับอิก (81) แสดงว่า ก็ต้องเกิดปี 2470 แน่ ๆ รหัสลับขรัวอินโข่งมีไม่ครบถ้วนเสียได้ คุณป้าต้องเปิดรหัสลับ คั่งคั่งฉิก ( 007) แทนแล้วมั้งคะ  :mrgreen:

รหัสลับของคุณป้า ทำผู้หลานเกิดอาการก่งก๊ง ต้องรีบเปิดตำราเป็นการด่วน เปิดผิด ๆ ถูก ๆ คุณป้าโปรดอย่าได้ถือสา  :slime_dizzy:

ปลาไหลสุพรรณ >>> ซู่พังเสี่ยงฮื้อ อาป๋าเติ้ง เกิดวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475
เลอเทอะนครพนม >>> ลกคงหยื่อหยื่อฉังชั่ง อาจิ๋วตั่วปา  เกิดวันที่15 พฤษภาคม 2475
เพ้อเจ้อวังน้ำเย็น >>> ชิ่งจุยเก็งทิวฮวง อาป๋าเหนาะ  เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2477
หมูเน่ากรุงเทพ >>> หมั่งก๊กหมี่ตือบะ อาจาหมูกชงพู่  เกิดวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2478
หมูย่างตรัง >>> ตังฮู่เอี้ยงตือบะ อาทั่งชวง  เกิดวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2481

"ก่ำฮุงตั่งกุ้ย" ( ก่ำ ปรับเสียงมาจาก ก๊ำ = อม แผลงเป็นคาบ  :mrgreen:, ฮุงตั่ง ปรับเสียงมาจาก ฮุงตั๊ง = ที่เขี่ย อุ๊ย ไม่ใช่ ที่สูบบุหรี่ และ กุ้ย คำนี้มิต้องถอดรหัส เพราะทราบกันดีว่า หมายถึง ผี, ปีศาจ  :mrgreen:)

และ "ซี่ปังกุ้ย" ( ซี่ปัง = สี่เหลี่ยม)

ในที่สุด คุณป้าก็สามารถตอบคำถามให้ผู้หลานได้ชื่นอกชื่นใจได้แล้วนะคะ  :slime_v:

หลานคนเดิมเซียวม่วยม่วย  :D


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 06-10-2007, 10:25
:mrgreen: :slime_smile2: :slime_bigsmile: :slime_smile2: :mrgreen:


คำตอบของคุณป้าทำให้ต่อมหัวเราะของผู้หลานทำงานหนักอีกแว้ววว  :mrgreen:

อาชิกซ่อ (ซ้อเจ็ด) อีคัมแบ็กแล้วหนา อาจจะทำคะแนนนำคุณป้าได้นะคะ มาตรว่า ตอนนี้คุณป้ากับอาชิกซ่ออยู่คนละสนามแข่งก็ตาม แต่เกิดจับพลัดจับผลูมาวิ่งอยู่บนลู่เดียวกันเมื่อไหร่...อั๊ยหย่า คิดมิออกว่าจะเกิดอะไรขึ้น  :slime_smile2:

ผู้หลานนับนิ้วดูแล้ว อาเล่ากงกงปีนี้อายุครบโป๊ยจั๊บแปดสิบ ปีหน้าก็ครบโป๊ยจับอิก (81) แสดงว่า ก็ต้องเกิดปี 2470 แน่ ๆ รหัสลับขรัวอินโข่งมีไม่ครบถ้วนเสียได้ คุณป้าต้องเปิดรหัสลับ คั่งคั่งฉิก ( 007) แทนแล้วมั้งคะ  :mrgreen:

รหัสลับของคุณป้า ทำผู้หลานเกิดอาการก่งก๊ง ต้องรีบเปิดตำราเป็นการด่วน เปิดผิด ๆ ถูก ๆ คุณป้าโปรดอย่าได้ถือสา  :slime_dizzy:

ปลาไหลสุพรรณ >>> ซู่พังเสี่ยงฮื้อ อาป๋าเติ้ง เกิดวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475
เลอเทอะนครพนม >>> ลกคงหยื่อหยื่อฉังชั่ง อาจิ๋วตั่วปา  เกิดวันที่15 พฤษภาคม 2475
เพ้อเจ้อวังน้ำเย็น >>> ชิ่งจุยเก็งทิวฮวง อาป๋าเหนาะ  เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2477
หมูเน่ากรุงเทพ >>> หมั่งก๊กหมี่ตือบะ อาจาหมูกชงพู่  เกิดวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2478
หมูย่างตรัง >>> ตังฮู่เอี้ยงตือบะ อาทั่งชวง  เกิดวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2481

"ก่ำฮุงตั่งกุ้ย" ( ก่ำ ปรับเสียงมาจาก ก๊ำ = อม แผลงเป็นคาบ  :mrgreen:, ฮุงตั่ง ปรับเสียงมาจาก ฮุงตั๊ง = ที่เขี่ย อุ๊ย ไม่ใช่ ที่สูบบุหรี่ และ กุ้ย คำนี้มิต้องถอดรหัส เพราะทราบกันดีว่า หมายถึง ผี, ปีศาจ  :mrgreen:)

และ "ซี่ปังกุ้ย" ( ซี่ปัง = สี่เหลี่ยม)

ในที่สุด คุณป้าก็สามารถตอบคำถามให้ผู้หลานได้ชื่นอกชื่นใจได้แล้วนะคะ  :slime_v:

หลานคนเดิมเซียวม่วยม่วย  :D


หลานคนเดิมเซียวม่วยม่วย 

เมื่อหลานเฉลยรหัสลับ 007 มาแล้ว ปเก็เลยถึงบางอ้อ รีบไปค้นหาตัวการเจ้าปัญหาในทันที ก็พบว่า "ก่ำฮุงตั่งกุ้ย" นั้น เกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2470 อายุอานามก็ครบโป๊ยจั๊บมาหลายเดือนแล้ว แต่ถ้านับอายุแบบเดือนชนเดือนจริงๆ ผู้ที่เกิดก่อนปี พ.ศ.2483 ในเดือน มกราคม ถึง มีนาคม อายุจะหายไปสามเดือน เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนวิธีการนับพุทธศักราชของไทย แต่สำหรับรายนี้ โป๊ยจั๊บ ถ้วนๆแล้ว

มีผู้คิดกันว่า ก่ำฮุงตั่งกุ้ย คิดจะเป็นนายกทางลัด ซึ่งก็เป็นคำครหาที่น่าสงสัยอยู่ ด้วยเรื่องประลองกำลังกันในสำนัก ดูท่าทางเหมือน ก่ำฮุงตั่งกุ้ย คิดจะไล่เจ้าสำนักออก แล้วเข้าสวมรอยแทน แต่สถานการณณืในสำนักเซี่ยมก๊กนั้น เจ้าสำนักประกาศล้างมือในอ่างทองคำ เมื่อมีการเลือกประมุขคนใหม่แล้ว กำหนดการนั้นแน่นอน เหลือเวลาอีกไม่มาก การจะโค่นเจ้าสำนักแล้วยืดเยื้อเวลาเลือกประมุขพรรคออกไปนั้น ดูจะเป็นหนทางยากลำบาก อีกทั้งเมื่อมองให้ดีๆแล้ว มันคล้ายๆการเล่นงิ้วตบตาผู้คน ทั้งในเหล่านักรบของพรรค และเหล่าผูคุ้มกฎ คล้ายๆสร้างความสับสนในความไม่มีอะไร ป้าจึงไม่คิดว่า ก่ำฮุงตั่งกุ้ย จะได้มาเป็นประมุขพรรคแต่อย่างใด

ส่วน ซี่ปังกุ้ย นั้น อิทธิฤทธ์มากเหมือน ซิยิ่นกุ้ย เนื่องจากพลังเงินนั้นเหลือเฟือ ถ้าไม่ติดที่ว่าชอบใช้เงินไปในทางเสพสุขกับอิสตรีแล้ว จะมีเงินเหลือสร้างความวุ่นวายได้มากกว่านี้ แต่เมื่อมองหนทางที่ปูลาดไว้ด้วยขวากหนามแล้ว ก็ให้คิดถึงการแข่งขันกีฬา ที่กรรมการเข้มงวด เอาจริงเอาจังกับการละเมิดกติกา ซี่ปังกุ้ย นั้นเมื่อไม่ได้เล่นนอกกติกา แข่งขันกับผู้อื่นที่มีมือเท้าเท่ากัน ก็เป็นดั่งที่เคยเป็นมา นั่นคือเจ๊งไม่เป็นท่า จะค้าขายก็ต้องผูกขาด เอาเปรียบคนอื่น ไม่งั้นก็ต้องโกงจึงจะชนะ เมื่อมาพบการประลองยุทธ์ที่แอบใช้อาวุธลับยาก ซี่ปังกุ้ย จึงต้องพ่ายแพ้แน่นอน

ภาพความวุ่นวายในบ้านเมืองคงจะอยู่ไปอีกนานหลายปี เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดย ซี่ปังกุ้ย ไม่มี นอมินี ของมันเข้าร่วม (คำนี้ภาษาจีนเขาว่ากระไรน่ะหนู) ลิ่วล้อก็อยากให้ซี่ปังกุ้ย กลับเข้ามาปั่นป่วนบ้านเมือง แต่ป้าก็คิดว่ามันไม่กล้ากลับ เพราะกลัวติดคุกกกก  :slime_v:


ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 06-10-2007, 17:39
หลานคนเดิมเซียวม่วยม่วย 

เมื่อหลานเฉลยรหัสลับ 007 มาแล้ว ปเก็เลยถึงบางอ้อ รีบไปค้นหาตัวการเจ้าปัญหาในทันที ก็พบว่า "ก่ำฮุงตั่งกุ้ย" นั้น เกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2470 อายุอานามก็ครบโป๊ยจั๊บมาหลายเดือนแล้ว แต่ถ้านับอายุแบบเดือนชนเดือนจริงๆ ผู้ที่เกิดก่อนปี พ.ศ.2483 ในเดือน มกราคม ถึง มีนาคม อายุจะหายไปสามเดือน เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนวิธีการนับพุทธศักราชของไทย แต่สำหรับรายนี้ โป๊ยจั๊บ ถ้วนๆแล้ว

มีผู้คิดกันว่า ก่ำฮุงตั่งกุ้ย คิดจะเป็นนายกทางลัด ซึ่งก็เป็นคำครหาที่น่าสงสัยอยู่ ด้วยเรื่องประลองกำลังกันในสำนัก ดูท่าทางเหมือน ก่ำฮุงตั่งกุ้ย คิดจะไล่เจ้าสำนักออก แล้วเข้าสวมรอยแทน แต่สถานการณณืในสำนักเซี่ยมก๊กนั้น เจ้าสำนักประกาศล้างมือในอ่างทองคำ เมื่อมีการเลือกประมุขคนใหม่แล้ว กำหนดการนั้นแน่นอน เหลือเวลาอีกไม่มาก การจะโค่นเจ้าสำนักแล้วยืดเยื้อเวลาเลือกประมุขพรรคออกไปนั้น ดูจะเป็นหนทางยากลำบาก อีกทั้งเมื่อมองให้ดีๆแล้ว มันคล้ายๆการเล่นงิ้วตบตาผู้คน ทั้งในเหล่านักรบของพรรค และเหล่าผูคุ้มกฎ คล้ายๆสร้างความสับสนในความไม่มีอะไร ป้าจึงไม่คิดว่า ก่ำฮุงตั่งกุ้ย จะได้มาเป็นประมุขพรรคแต่อย่างใด

ส่วน ซี่ปังกุ้ย นั้น อิทธิฤทธ์มากเหมือน ซิยิ่นกุ้ย เนื่องจากพลังเงินนั้นเหลือเฟือ ถ้าไม่ติดที่ว่าชอบใช้เงินไปในทางเสพสุขกับอิสตรีแล้ว จะมีเงินเหลือสร้างความวุ่นวายได้มากกว่านี้ แต่เมื่อมองหนทางที่ปูลาดไว้ด้วยขวากหนามแล้ว ก็ให้คิดถึงการแข่งขันกีฬา ที่กรรมการเข้มงวด เอาจริงเอาจังกับการละเมิดกติกา ซี่ปังกุ้ย นั้นเมื่อไม่ได้เล่นนอกกติกา แข่งขันกับผู้อื่นที่มีมือเท้าเท่ากัน ก็เป็นดั่งที่เคยเป็นมา นั่นคือเจ๊งไม่เป็นท่า จะค้าขายก็ต้องผูกขาด เอาเปรียบคนอื่น ไม่งั้นก็ต้องโกงจึงจะชนะ เมื่อมาพบการประลองยุทธ์ที่แอบใช้อาวุธลับยาก ซี่ปังกุ้ย จึงต้องพ่ายแพ้แน่นอน

ภาพความวุ่นวายในบ้านเมืองคงจะอยู่ไปอีกนานหลายปี เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดย ซี่ปังกุ้ย ไม่มี นอมินี ของมันเข้าร่วม (คำนี้ภาษาจีนเขาว่ากระไรน่ะหนู) ลิ่วล้อก็อยากให้ซี่ปังกุ้ย กลับเข้ามาปั่นป่วนบ้านเมือง แต่ป้าก็คิดว่ามันไม่กล้ากลับ เพราะกลัวติดคุกกกก  :slime_v:


ศิลาแลง

สายัณห์สวัสดิ์ค่ะ คุณป้าศิลาแลง  :slime_smile:

ทราบคำตอบจากคุณป้าแล้ว ผู้หลานรู้สึกสบายใจ ไร้กังวล และเห็นว่า กระบวนท่า "ยืมหอกสนองคืนผู้ใช้" (ของม่อก้งกงจื้อแห่งตระกูลโกวโซว) กำลังย้อนกลับหันมาทิ่มแทงใส่ทั่นผู้เฒ่าเล่ากงกงเสียเอง อิอิอิ ผู้หลานรู้สึกสมใจสาหัสนัก  :slime_bigsmile:

สำหรับทั่นซี่ปังกุ้ย สักวัน อีคงกลายเป็น บ่อเถ่ากุ้ย (บ่อ (บ๊อ)= ไม่มี, เถ่า (เท้า) = หัว) นะคะคุณป้า เพราะไม่ยอมกลับใจ ดูท่าว่ากระทั่งถึงวันตายอาจจะยังไม่สำนึก  :mozilla_yell:

และจริงหรือคะ คุณป้า ที่ฉายา "เจียมหมิ่ง โอวแง้" (หน้าแหลม ฟันดำ) เป็นคำที่ อาหมั่งก๊กหมี่ตือบะเป็นผู้ตั้งให้  :slime_smile2:

คำว่า "นอมินี" นั้น ผู้หลานก็ไม่ทราบมาก่อนค่ะว่า ภาษาจีนเรียกว่า อะไร แต่เปิดตำราออนไลน์ไปหลายคลิก น่าจะใช้คำว่า "ปี่ที้เหมี่ยนั้ง" (被提名人) นะคะ แต่ผู้หลานก็มิแน่ใจนัก แต่ถึงไม่ใช่ก็น่าจะใกล้เคียงอยู่แปดเก้าส่วน  :mrgreen:

ขอคารวะคุณป้ามาด้วยความเคารพ
หลานเซียวม่วยม่วย


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Suraphan07 ที่ 20-10-2007, 23:11
ป้าแลงฯ ที่เคารพรัก ...

ก่อนอื่นต้องขอโทษป้าด้วย ที่ห่างเหินไป ไม่ได้ตั้งคำถาม มาแยงสะดือป้าเหมือนก่อนๆ...
ครั้งนี้ด้วยผมเกรงว่าป้าจะเหงาหงอย ด้วยไม่มี พี่ ป้า น้า อา ลูกๆ หลานๆ มาตั้งคำถาม
ประกอบกับช่วงนี้ ผมเองก็รู้สึก ปวดเศียร เวียนเฮด เป็นอย่างมากกับสภาพพรรคการเมืองและนักการเมืองไทย...

ผมอ่านข่าวดู  รู้สึกทึ่งและพิศวงงงงวย จนแทบจำไม่ได้ว่า...

พรรคไหนยุบไปรวมกับพรรคไหน ใครแตกกับใคร แตกกันยังไง สุดท้ายไปรวมกันที่ไหน อย่างไร...
แถมยังสงสัยว่า มีลูกของใครเป็นสมาชิกพรรคไหน แล้วพ่อเขาเป็นนอมินี่ให้ใคร

ที่สำคัญ พรรคนอมินี่ใหญ่ๆ ทำไมไปเอาลูกเสือ ลูกจระเข้ มาเลี้ยง สนับสนุนให้ลง สส...
แทนที่จะเลี้ยงหมา เลี้ยงแมว (ที่อาจจะมีลูกที่ดูขี้ริ้วขี้เหล่ติดมาด้วย) ที่น่าจะเชื่องและใช้ประโยชน์ได้มากกว่า

ป้าว่า ถ้าสภาพการณ์มันเป็นอย่างงี้ ผมจะเลือก และ/หรือ แน่ะนำให้ญาติๆผมให้เลือกผู้สมัคร สส.ยังไงดีครับ
(แบบว่าเลือกพรรค เลือกคน หรือเลือกดูจากนิสัยผู้เป็นพ่อหรือเลือกที่หัวหน้าพรรคของผู้สมัคร ฯลฯ)

ช่วยตอบคำถามและให้คำแนะนำด้วยครับ เผื่อว่าผมจะได้เอาข้อมูลไปเผยแพร่บอกกล่าวกับเพื่อนๆญาติๆ ให้ได้รู้ไว้...

ว่าแต่ว่า ถ้าขายทีมฟุตบอลที่อังกฤษตอนนี้ เขาว่ากันว่า มีกำไรเห็นๆเป็นร้อยๆล้าน ป้าว่าจริงหรือมั่วนิ่มครับ...

ขอขอบพระคุณป้าล่วงหน้ามา ณ.ที่นี้
ขอแสดงความนับถือ
Suraphan07


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 21-10-2007, 10:04
ป้าแลงฯ ที่เคารพรัก ...

ก่อนอื่นต้องขอโทษป้าด้วย ที่ห่างเหินไป ไม่ได้ตั้งคำถาม มาแยงสะดือป้าเหมือนก่อนๆ...
ครั้งนี้ด้วยผมเกรงว่าป้าจะเหงาหงอย ด้วยไม่มี พี่ ป้า น้า อา ลูกๆ หลานๆ มาตั้งคำถาม
ประกอบกับช่วงนี้ ผมเองก็รู้สึก ปวดเศียร เวียนเฮด เป็นอย่างมากกับสภาพพรรคการเมืองและนักการเมืองไทย...

ผมอ่านข่าวดู  รู้สึกทึ่งและพิศวงงงงวย จนแทบจำไม่ได้ว่า...

พรรคไหนยุบไปรวมกับพรรคไหน ใครแตกกับใคร แตกกันยังไง สุดท้ายไปรวมกันที่ไหน อย่างไร...
แถมยังสงสัยว่า มีลูกของใครเป็นสมาชิกพรรคไหน แล้วพ่อเขาเป็นนอมินี่ให้ใคร

ที่สำคัญ พรรคนอมินี่ใหญ่ๆ ทำไมไปเอาลูกเสือ ลูกจระเข้ มาเลี้ยง สนับสนุนให้ลง สส...
แทนที่จะเลี้ยงหมา เลี้ยงแมว (ที่อาจจะมีลูกที่ดูขี้ริ้วขี้เหล่ติดมาด้วย) ที่น่าจะเชื่องและใช้ประโยชน์ได้มากกว่า

ป้าว่า ถ้าสภาพการณ์มันเป็นอย่างงี้ ผมจะเลือก และ/หรือ แน่ะนำให้ญาติๆผมให้เลือกผู้สมัคร สส.ยังไงดีครับ
(แบบว่าเลือกพรรค เลือกคน หรือเลือกดูจากนิสัยผู้เป็นพ่อหรือเลือกที่หัวหน้าพรรคของผู้สมัคร ฯลฯ)

ช่วยตอบคำถามและให้คำแนะนำด้วยครับ เผื่อว่าผมจะได้เอาข้อมูลไปเผยแพร่บอกกล่าวกับเพื่อนๆญาติๆ ให้ได้รู้ไว้...

ว่าแต่ว่า ถ้าขายทีมฟุตบอลที่อังกฤษตอนนี้ เขาว่ากันว่า มีกำไรเห็นๆเป็นร้อยๆล้าน ป้าว่าจริงหรือมั่วนิ่มครับ...

ขอขอบพระคุณป้าล่วงหน้ามา ณ.ที่นี้
ขอแสดงความนับถือ
Suraphan07

หลาน Suraphan07

ในระยะหลายเดือนมานี้ หมอดูหลายสำนักเขาทำนายว่า พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกราหูแหวกตรงกลาง อีกทั้งมฤตยูเต้นระบำ อังคารก็เต้นแทงโก้ ทำให้เหตุการณ์ของโลกและบ้านเมืองเราปั่นป่วนวุ่นวาย พรรคการเมืองและนักการเมืองของไทย ก็คงจะถูกอิทธิพลของดวงดาว ทำให้เต้นกันเหมือนคุดทะราดเหยียบกรวด ต่างก็ร้อนรนตั้งพรรค ยุบพรรค ย้ายพรรค แอบหลังพรรค ข่มขู่พรรค กันไปต่างๆนาๆ ผลก็คือผู้ชมปวดเศียรเวียนเกล้าไปกันด้วย

แต่ถ้าจะให้สรุปแล้ว เหตุการณ์ตอนนี้เหมือนกับเหตุการณ์หลังพฤษภาทมิฬ เนื่องจากนักการเมืองแยกเป็นสองขั้วชัดเจนเช่นกัน นั่นคือฝ่ายเทพและฝ่ายมาร ฝ่ายที่อาจจะอ้างตัวได้ว่าเป็นเทพนั้น ยังนั่งอมยิ้มรอเวลาถล่มอีกฝ่ายอยู่อย่างเงียบๆ แต่ฝ่ายมารนั้นรู้ตัวและมีประสบการณ์มาจากคราวหลังพฤษภาทมิฬ รูดีว่าความชั่วที่พวกตนได้ไปเป็นกำลังเป็นแขนเป็นขาให้ทรราชนั้น กำลังจะถูกกระชากลากใส้ออกมาในยามหาเสียง  พวกนี้จึงพล่านพยายามตั้งพรรค สร้างพรรค โดยลากเอาหน้าม้าหรือนอมินีที่พอดูได้ เพื่อมาตบตาประชาชนว่าพรรคตนเป็นคนดี เหตุการณ์มันจึงยุ่งเหยิง เพราะคนดีจริงๆนั้น ย่อมรู้ตัวที่จะไม่ยอมไปเกลือกกลัวกับนักการเมืองโลโครกเหล่านั้น ตั้งพรรคกันไปตั้งพรรคกันมา จึงกลายเป็นการผสมพันธ์ของเอี๊ยหลายสาย ไม่ลงตัวได้สักที

พรรคนอมินีหรือพรรคหน้าแรด (ไม่เรียกว่าหน้าม้ากันล่ะ เพราะม้าไม่มีนอ) ขณะนี้ยังหาจุดยืนไม่ได้ เพราะตั้งแต่เริ่มตั้งพรรคมา ไปเลือกหัวหน้าพรรคที่ห่วยได้สุดๆ คือไปขุดศพมาเป็น ด้งนั้นพรรคจึงมีแต่จุดสลบ จึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่จะรับลูกพรรคมั่วไปหมด และลูกพรรคที่เข้าพรรคนั้น เป็นเพราะไม่มีทางจะไปทั้งครอก บางคนนั้นเน่าทั้งตระกูล เมื่อเข้าพรรคมาจึงต่อรอง กดดัน กันวุ่นวาย ให้เป็นที่ขบขัน กัดกันไปพอเพลินๆ อย่าไปเอาสาระอะไรกับพวกเอี๊ยไม่มีทางไปเหล่านี้

ดูจากการเมืองตอนนี้ การจะเลือกใครเข้าไปบริหารประเทศ ก็มีทางเลือกอยู่สองฝ่าย คือฝ่ายไม่เอาทรราช กับฝ่ายเอาทรราช ซึ่งฝ่ายหลังนี้รวมไปถึง เอาก็ได้ ไม่เอาก้ได้ ยังไงขอเป็นรัฐบาล พวกอีแอบนี้จะประกาศตนเป็นกลาง ประกาศตนจะมากู้ชาติ ทั้งๆที่ชาติวิกฤติไปคราวที่แล้ว ก็พวกมันนี่แหละเป็นตัวการ มันก็อย่างที่ป้าว่า เหมือนเหตุการณ์หลังพฤษภาทมิฬ เราไม่มีทางเลือกมากนัก เอา หรือ ไม่เอา ทรราช ก็เท่านั้น

การขายหุ้นทีมฟุตบอลล์หางแถวในพรีเมียลีก จะได้กำไรหรือขาดทุนนั้น มันคงขึ้นอยู่กับความโง่หรือความฉลาดของคนที่จะซื้อ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลงานของทีมฟุตบอลล์ เพราะการสร้างทีมฟุตบอลล์ให้ได้ดีนั้น เสมือนการสร้างความดี ที่ต้องหมั่นกระทำดีเป็นนิจศีล ไม่ใช่ทำดีเอาหน้า ทำบุญเพื่อโฆษณา นักลงทุนตัวจริงนั้นก็มีนิสัยไม่แตกต่างไปจากเจ้าของทีมฟุตบอลล์ที่ว่า คือหวังผลประโยชน์สูงสุดเป็นเป้าหมายของการทำธุรกิจ ถ้าหลานSuraphan07จะซื้อกิจการอะไรสักอย่าง แล้วเห็นเจ้าของกิจการที่จะขายให้ เอี๊ยสุดๆ และกำลังจะพินาศในไม่ช้า หลานจะยอมซื้อกิจการนั้นด้วยราคาแพงๆหม หรือจะรอไปอีกหน่อยนึง พอเจ้าของเดิมมันพินาศไปตามกรรม ราคากิจการนั้นก็จะตกลงเอง เรื่องอย่างนี้ ศรีทนรอได้  :slime_smile2:

พักนี้ถึงบ้านเมืองจะวุ่นวาย แต่จิตใจของชาวเสรีไทยคงสบายดี ป้าเลยไม่ต้องตอบปัญหาหัวใจมากมายนัก อีกทั้งได้ข่าวมาว่า ฟากขะโน้นเขาออกหนังสือเลียนแบบฝั่งของเรา ลางทีเขาอาจจะมีคนตอบปัญหาได้เก่งกาจ เลยมีผู้ย้ายไปถามปัญหาแถวโน้นกันหมด

พูดถึงเรื่องออกหนังสือ ป้าล่ะน้อยอกน้อยใจ คราวเปิดตัวหนังสือของเรา ทีมงานก็ช่างกระไรเลย ไม่เป็นประสีประสา ดูฝั่งโน้นเขาสิ รับทุนมาเยอะแยะ เปิดตัวที่โรงแรมหรูๆ มีเอี๊ยมาร่วมงานตั้งเยอะ ข้างเรานั้น เปิดตัวกันเอ๊งกันเอง กินไปหัวเราะไป แถมยังจ่ายสตางค์กันเองดัว คราวหน้า หัดไปรับทุนมาจากต่างประเทศมั่งนะ ป้าจะได้แต่งชุดราตรีหรูๆ ไปเม้าท์กระจายในงาน เอาให้ซ้อเจ็ดลาป่วยไปเลยทีเดียว  :slime_bigsmile:

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 21-10-2007, 13:46


แล้วอธิฏฐานจะใส่ชุดราตรียาวโจมกระอก มาแข่งกะคุณป้าศิลาแลงด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 21-10-2007, 16:59

แล้วอธิฏฐานจะใส่ชุดราตรียาวโจมกระอก มาแข่งกะคุณป้าศิลาแลงด้วยค่ะ

มายกมือเชียร์ค่ะ  :slime_v: :slime_v:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aoporadio ที่ 21-10-2007, 20:45
ป้าขรา................................. :slime_sentimental:

อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

อีซ้อเจ็ด มันกลับมาแล้วค่า อ้า อ้า อ้า อ้า :slime_bigsmile:

สำนวนของมันช่าง อ อี๋ๆๆๆๆๆๆๆ สกปรก ซกมกสิ้นดี
 :slime_evil:
(แต่ก็อ่านทุกเม็ด :slime_smile2:)

ป้าคิดว่า เมื่อนังซ้อรีเทริ์น ในวงเล็บว่าเพื่อชาติเนี่ย แฟนเหนียวแน่นในเรื่องใต้สะดือดารา ของอีนังซ้อ

จะกลับลำมาสำรวจกลิ่น ตุๆ คาวๆจากใต้สะดือนักกินเมืองกับอีนังซ้อใหมคะ :slime_doubt:

หรือมันก็บ้าดารากันเดิมนันแหละ  :slime_hmm:

ปล. หนูไม่ดูละครนี่เป็นอาชญกรรมใหมเคอะ :slime_shy:

จุ๊บๆ :slime_inlove: :slime_inlove:



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 21-10-2007, 23:40
^
^ ขำค่ะ น้องอาโป  :slime_smile2:



...

พูดถึงเรื่องออกหนังสือ ป้าล่ะน้อยอกน้อยใจ คราวเปิดตัวหนังสือของเรา ทีมงานก็ช่างกระไรเลย ไม่เป็นประสีประสา ดูฝั่งโน้นเขาสิ รับทุนมาเยอะแยะ เปิดตัวที่โรงแรมหรูๆ มีเอี๊ยมาร่วมงานตั้งเยอะ ข้างเรานั้น เปิดตัวกันเอ๊งกันเอง กินไปหัวเราะไป แถมยังจ่ายสตางค์กันเองดัว คราวหน้า หัดไปรับทุนมาจากต่างประเทศมั่งนะ ป้าจะได้แต่งชุดราตรีหรูๆ ไปเม้าท์กระจายในงาน เอาให้ซ้อเจ็ดลาป่วยไปเลยทีเดียว  :slime_bigsmile:

ศิลาแลง

ป้าขรา...(ขออนุญาตเลียนแบบ :mrgreen:) ความจริงก็คือ พวกเราหยิ่งค่ะ เจ้าบุญทุ่มฝั่งขะโน้นเค้าก็อยากออกกะตังก์ให้เรา กะว่า จะซื้อตัวไว้เป็นพวก แต่เราไม่ง้อค่ะ เชิดใส่ซะอีก เชอะ  :slime_smile2:

เอ๊ยย ม่ายช่าย พวกเราฝักใฝ่ในคุณภาพมากกว่าปริมาณเจ้าค่ะ พวกข้างนอกสุกใส ข้างในต๊ะติ๊งโหน่ง เอาเงินของคนอื่นมาถลุงเอาหน้า นี่...พวก เราทนไม่ด๊าย ทนไม่ได้ค่ะ   :mrgreen:

อีกประการ เกรงว่า การไปรับทุนจากต่างประเทศ(แถบเมืองลันดั้น) จะก่อให้เกิดผลข้างเคียงชนิดร้ายแรง สมองจะได้รับความกระทบกระเทือน เห็นหน้าเหลี่ยม ๆ ของคนบางคน ดูน่าหลงใหลกราบไหว้บูชาหัวปักหัวปำแบบพวกประดาหลายคนนั้นที่มีอาการให้เห็นนะคะ

คุณป้าเตรียมตัดชุดราตรีมาปรากฏตัวพร้อมเป็นพิธีกรตอบปัญหาให้กับลูก ๆ หลาน ๆ ของเสรีไทยแห่งนี้ ในงานมีตติ้งครั้งที่ 3 ดีกว่าเจ้าค่ะ  :slime_v: :slime_inlove: :slime_v:



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 22-10-2007, 09:43
ป้าขรา................................. :slime_sentimental:

อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

อีซ้อเจ็ด มันกลับมาแล้วค่า อ้า อ้า อ้า อ้า :slime_bigsmile:

สำนวนของมันช่าง อ อี๋ๆๆๆๆๆๆๆ สกปรก ซกมกสิ้นดี
 :slime_evil:
(แต่ก็อ่านทุกเม็ด :slime_smile2:)

ป้าคิดว่า เมื่อนังซ้อรีเทริ์น ในวงเล็บว่าเพื่อชาติเนี่ย แฟนเหนียวแน่นในเรื่องใต้สะดือดารา ของอีนังซ้อ

จะกลับลำมาสำรวจกลิ่น ตุๆ คาวๆจากใต้สะดือนักกินเมืองกับอีนังซ้อใหมคะ :slime_doubt:

หรือมันก็บ้าดารากันเดิมนันแหละ  :slime_hmm:

ปล. หนูไม่ดูละครนี่เป็นอาชญกรรมใหมเคอะ :slime_shy:

จุ๊บๆ :slime_inlove: :slime_inlove:

หลาน aoporadio

ซ้อเจ็ดนั้นเธอก็เปรียบเสมือนส้มตำ เคล็ดลับของการกินส้มตำให้อร่อย ต้องเลือกเจ้าที่ดูสกปรกสักหน่อย ครกเก่าๆ สากเน่าๆ แม่ค้ามือดำๆ ตำไปด่าไป อย่างนี้จะได้ส้มตำรสแซ่บ กินแล้วถึงใจพระเดชพระคุณ อีกทั้งยังเป็นยาระบายอย่างดี ไม่ต้องไปหาโยเกิร์ตมากินให้วุ่นวาย ได้ทั้งอร่อยและถ่ายท้องไปในตัว ส่วนส้มตำอนามัย ที่แลดูสะอาดไปทั้งสำรับนั้น กินแล้วไม่ใคร่จะอร่อยจ๊ะ

ว่าแต่งวดนี้ป้าว่าซ้อเจ็ดจะดูแปลกๆไป คือคงจะหันมาเล่นวงการดารามากกว่าวงการเมือง เพราะวงการเมืองนั้นยังไม่รูจะออกหัวหรือก้อย เล่นไปมากๆก็อาจเจ็บตัวได้ในภายหลัง ซ้อเจ็ดเองแกก็ต้องเลิกอาละวาดไปชั่วคราว เพราะอิทธิพลวงการเมืองนี่แหละจ๊ะ พอโจทย์ของแกไม่มีแผ่นดินจะอยู่ แกก็เลยกลับมาซ่าได้ใหม่ ส่วนเรื่องแฟนนานุแฟนของซ้อเจ็ดแกนั้น หนูไม่ต้องห่วง เรื่องของชาวบ้านนั้น คนไทยไม่ยอมพลาดอยู่แล้ว เดี๋ยวจะตกข่าว ตกเทรนด์ ว่าแต่ถ้าซ้อเจ็ดกล้าจริง น่าจะลองหันไปเล่นข่าวดีเจสาว ที่ออกมาโฆษณาครีมถนอมผิว แฟนของพระลอ ดูบ้างสักยก ว่าแต่จะกล้าไหม  :slime_smile2:

การไม่ติดตามละครนั้น หนูไม่ได้บอกมาว่าไม่ติดตามละครประเภทใด เพราะละครมีหลายประเภทนัก แต่ป้าเดาเอาว่าคงจะเป็นละครหลังข่าว ที่ประชาชนเขาชื่นชมกันนักกันหนา การไม่ดูละครนั้นไม่ถือเป็นอาชญากรรม แต่ถือเป็นการประหยัดไฟ เพราะช่วงเวลาละครหลังข่าวนั้น นอกจากละครแล้วก็ไม่ค่อยจะมีอะไรให้ดู ปิดโทรทัศน์เสียสองชั่วโมง ก็จะประหยัดไฟฟ้าได้เยอะอยู่จ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 22-10-2007, 09:50
^
^ ขำค่ะ น้องอาโป  :slime_smile2:


ป้าขรา...(ขออนุญาตเลียนแบบ :mrgreen:) ความจริงก็คือ พวกเราหยิ่งค่ะ เจ้าบุญทุ่มฝั่งขะโน้นเค้าก็อยากออกกะตังก์ให้เรา กะว่า จะซื้อตัวไว้เป็นพวก แต่เราไม่ง้อค่ะ เชิดใส่ซะอีก เชอะ  :slime_smile2:

เอ๊ยย ม่ายช่าย พวกเราฝักใฝ่ในคุณภาพมากกว่าปริมาณเจ้าค่ะ พวกข้างนอกสุกใส ข้างในต๊ะติ๊งโหน่ง เอาเงินของคนอื่นมาถลุงเอาหน้า นี่...พวก เราทนไม่ด๊าย ทนไม่ได้ค่ะ   :mrgreen:

อีกประการ เกรงว่า การไปรับทุนจากต่างประเทศ(แถบเมืองลันดั้น) จะก่อให้เกิดผลข้างเคียงชนิดร้ายแรง สมองจะได้รับความกระทบกระเทือน เห็นหน้าเหลี่ยม ๆ ของคนบางคน ดูน่าหลงใหลกราบไหว้บูชาหัวปักหัวปำแบบพวกประดาหลายคนนั้นที่มีอาการให้เห็นนะคะ

คุณป้าเตรียมตัดชุดราตรีมาปรากฏตัวพร้อมเป็นพิธีกรตอบปัญหาให้กับลูก ๆ หลาน ๆ ของเสรีไทยแห่งนี้ ในงานมีตติ้งครั้งที่ 3 ดีกว่าเจ้าค่ะ  :slime_v: :slime_inlove: :slime_v:


หลานเม่ย

เรื่องงานเปิดหนังสือของเสรีไทยนั้น ป้าก็แซวเล่นไปอย่างนั้นเอง เพราะถ้าไปรับทุนมาจากลันดั้นจริงๆ ป้าก็ต้องสับคนไปรับทุนมาเหมือนซ้อเจ็ดสับเละ เพราะเรื่องมันน่าสงสัยว่าไปรับมาได้อย่างไร ทำอย่างไรถึงได้สตางค์มา

อันที่จริงป้าทราบมาว่า ทีมงานจัดทำหนังสือของเสรีไทยนั้น สวยไม่แพ้หมวดเจี๊ยบ โดยเฉพาะหนูเม่ยเองนั้น ได้ข่าวนินทาจากสมาชิกว่า สวยระดับซุปเปอร์หมวย อมบ๊วยเพิ่มพลังเสน่ห์ ข่าวยังเล่าลืออีกว่า หากส่งหนูเม่ยไปสันดั๊น หมวยเจี๊ยบหมดสิทธิ์ออกหนังสือ ลิเดียจะตกกะะป๋อง ณหทัยจะไร้ที่พักพิง และทุนทำหนังสือของเสรีไทยอาจจะได้มากกว่าทุนซื้อทีมฟุตบอลล์ห่วยๆมากนัก  :slime_bigsmile:

ว่าแต่ป้าไปสำรวจข่าวการเปิดตัวหนังสือฟากขะโน้นมา เห็นมีมังกรตัวดำๆมาเป็นแม่งาน ฝั่งของเรามีอะไรประหลาดๆอย่างนั้นบ้างไหม อันนี้ป้าตกข่าว หรือเรามีแต่กิ้งกือ ใส้เดือน หามังกรไม่ได้จ๊ะ  :slime_v:

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 22-10-2007, 12:42


คุณป้าศิลาแรงคะ เดี๋ยวหนุ่ม ๆ ที่นี่น้อยใจนะคะ  ถึงที่นี่ไม่มีมังกรดำ ก็ใช่ว่าจะมีแต่กิ้งกือ ใส้เดือน แต่ที่นี่มีอะไรพิเศษกว่ามังกรดำ ตรงที่มีเครื่องบินขับไล่ของสวีเดนใหม่แกะกล่องเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 27-10-2007, 01:16
คุณศิลาแลงที่น่าสนเท่ห์....

ผมซื้อ Arena เล่มเดือนตุลาคมนี้ เพราะภาพปก Heidi Klum ยอดนางแบบเยอรมันที่ชื่นชอบ... :!:

พลิกเข้าไปข้างในมีเรื่องราวเกี่ยวกับทีมฟุตบอลอังกฤษที่ชาวต่างชาติเป็นเจ้าของหรือหุ้นส่วนใหญ่
หนึงในทีมฟุตบอล ก็มี Manchester City ที่มีอดีตนายกฯไทย จำเลยคดีทุจริตต่าง ๆ ของคณะกรรมการ คตส.
เป็นเจ้าของด้วย ขณะนี้คณะอนุกรรมการ คตส. หนึ่งชุดกำลังตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินที่ซื้อทีมฟุตบอลนี้
แม้ว่าประธานสโมสรฯ จะบอกว่าเงินที่ใช้ซื้อทีมฟุตบอลแมนฯนี้จะผ่านเข้าธนาคารอังกฤษถูกต้องตามระเบียบ
แต่ไม่ได้บอกว่าก่อนหน้านั้น ก่อนที่จะโอนจากสิงคโปร์หรือไทยไปธนาคารอังกฤษ จะถูกต้อง สะอาดหรือไม่.... :?:


 ผมอยากจะถามคุณศิลาแลงว่ามีความเห็นอย่างไรกับข่าวคราวของสองพ่อลูก ประธานสโมสรฯและกรรมการสโมสรฯดังนี้
We are not kidding  :!:
อะไร ๆ ที่น่าตื่นเต้นฮือฮ่าไม่น่าเชื่อสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าอดีตนายกฯคนดังแห่งประเทศไทย เจ้าของนโยบายคิดใหม่ทำใหม่
ยื่นมือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ฉะนั้นอย่าแปลกใจ ถ้าสิ่งเหล่านี้ดันกลายเป็นจริงขึ้นมาในอนาคต...
1. แมนฯซิติกลายเป็นหนึ่งในมหาอำนาจรุ่นใหม่แห่งพรีเมียร์ลีก ทักษิณถูกแต่งตั้งให้เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์แห่งเมืองแมนเชสเตอร์...
2. พานทองแท้ ลูกชายคนดังมีข่าวพัวพันกับดารานางแบบสาวไม่ซ้ำหน้า แต่คราวนี้เปลี่ยนมาควง เจสิก้า อัลบ้า,
    เคียร่า ไนท์ลีย์ และเคต มอสแทน
3. สเวน โกแรน อิริคสัน ตกเป็นข่าวฉาวเรื่องผู้หญิงอีกแล้ว เมื่อเขาแต๊ะอั๋งนักข่าวสาวชาวไทยที่บินไปสัมภาษณ์ ดร.ทักษิณ
    จนกลายเป็นข่าวในแทบลอยด์อังกฤษและหนังสอกอสซิปบ้านเราอยู่หลายวัน...
4. คนขับรถและคนตัดหญ้าสนามของแมนฯวิตี้จู่ๆ ก็ร่ำรวยมาผิดปกติ โดยมีเงินหลายล้านปอนด์เข้ามาอยู่ในบัญชีพวกเขาได้อย่างลึกลับ
    ไร้เหตุผล..
5. ดร.ทักษิณได้รับสัญชาติอังกฤษ ต่อมาได้รับเลือกเป็น สส. แมนเชสเตอร์ จากนั้นนำนโยบาย 30 ปอนด์รักษาทุกโรคมาใช้..
6. เกิดกระแสม็อบต้านทักษิณในแมนเชสเตอร์ ภาพเก่าๆ ตามมาหลอนเขาอีกครั้ง เมื่อแฟนแมนฯซิตี้หลายหมื่นคนโพกหัวมาชุมนุนขับไล่
    และตะโกนว่า 'Taksin ! Get out!'...


ปล. ผมอยากจะเรียก'คุณป้า' ตามคนอื่น ๆ
      แต่กลัวจะทำให้คุณศิลาแลง'แก่'มากเกินไป...





หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 27-10-2007, 09:43
คุณศิลาแลงที่น่าสนเท่ห์....

ผมซื้อ Arena เล่มเดือนตุลาคมนี้ เพราะภาพปก Heidi Klum ยอดนางแบบเยอรมันที่ชื่นชอบ... :!:

พลิกเข้าไปข้างในมีเรื่องราวเกี่ยวกับทีมฟุตบอลอังกฤษที่ชาวต่างชาติเป็นเจ้าของหรือหุ้นส่วนใหญ่
หนึงในทีมฟุตบอล ก็มี Manchester City ที่มีอดีตนายกฯไทย จำเลยคดีทุจริตต่าง ๆ ของคณะกรรมการ คตส.
เป็นเจ้าของด้วย ขณะนี้คณะอนุกรรมการ คตส. หนึ่งชุดกำลังตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินที่ซื้อทีมฟุตบอลนี้
แม้ว่าประธานสโมสรฯ จะบอกว่าเงินที่ใช้ซื้อทีมฟุตบอลแมนฯนี้จะผ่านเข้าธนาคารอังกฤษถูกต้องตามระเบียบ
แต่ไม่ได้บอกว่าก่อนหน้านั้น ก่อนที่จะโอนจากสิงคโปร์หรือไทยไปธนาคารอังกฤษ จะถูกต้อง สะอาดหรือไม่.... :?:

 ผมอยากจะถามคุณศิลาแลงว่ามีความเห็นอย่างไรกับข่าวคราวของสองพ่อลูก ประธานสโมสรฯและกรรมการสโมสรฯดังนี้
We are not kidding  :!:
อะไร ๆ ที่น่าตื่นเต้นฮือฮ่าไม่น่าเชื่อสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าอดีตนายกฯคนดังแห่งประเทศไทย เจ้าของนโยบายคิดใหม่ทำใหม่
ยื่นมือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ฉะนั้นอย่าแปลกใจ ถ้าสิ่งเหล่านี้ดันกลายเป็นจริงขึ้นมาในอนาคต...
1. แมนฯซิติกลายเป็นหนึ่งในมหาอำนาจรุ่นใหม่แห่งพรีเมียร์ลีก ทักษิณถูกแต่งตั้งให้เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์แห่งเมืองแมนเชสเตอร์...
2. พานทองแท้ ลูกชายคนดังมีข่าวพัวพันกับดารานางแบบสาวไม่ซ้ำหน้า แต่คราวนี้เปลี่ยนมาควง เจสิก้า อัลบ้า,
    เคียร่า ไนท์ลีย์ และเคต มอสแทน
3. สเวน โกแรน อิริคสัน ตกเป็นข่าวฉาวเรื่องผู้หญิงอีกแล้ว เมื่อเขาแต๊ะอั๋งนักข่าวสาวชาวไทยที่บินไปสัมภาษณ์ ดร.ทักษิณ
    จนกลายเป็นข่าวในแทบลอยด์อังกฤษและหนังสอกอสซิปบ้านเราอยู่หลายวัน...
4. คนขับรถและคนตัดหญ้าสนามของแมนฯวิตี้จู่ๆ ก็ร่ำรวยมาผิดปกติ โดยมีเงินหลายล้านปอนด์เข้ามาอยู่ในบัญชีพวกเขาได้อย่างลึกลับ
    ไร้เหตุผล..
5. ดร.ทักษิณได้รับสัญชาติอังกฤษ ต่อมาได้รับเลือกเป็น สส. แมนเชสเตอร์ จากนั้นนำนโยบาย 30 ปอนด์รักษาทุกโรคมาใช้..
6. เกิดกระแสม็อบต้านทักษิณในแมนเชสเตอร์ ภาพเก่าๆ ตามมาหลอนเขาอีกครั้ง เมื่อแฟนแมนฯซิตี้หลายหมื่นคนโพกหัวมาชุมนุนขับไล่
    และตะโกนว่า 'Taksin ! Get out!'...

ปล. ผมอยากจะเรียก'คุณป้า' ตามคนอื่น ๆ
      แต่กลัวจะทำให้คุณศิลาแลง'แก่'มากเกินไป...

สวัสดีคุณปุถุชน

นานๆจะได้ตอบคำถามคนรุ่นราวคราวเดียวกันซะที ทำเอาศิลาแลงดีใจมาก เขินสะเทิ้นอาย จนหนังเหี่ยวๆสะเทือน  :slime_smile2:

คุณปุถุชนคงชอบซื้อหนังสือโดยดูที่หน้าปก ถึงได้ข่าวคราวใครบางคนมาโดยบังเอิญ ทั้งๆที่ตั้งใจจะชื่อนชมนางแบบหน้าปกเท่านั้น นี่ถ้าปกหนังสือเล่มนั้นเป็นรูปดิฉัน คุณปุถุชนคงไม่ได้อ่านมันจนแล้วจนรอด อาจจะถึงขนาดมองหน้าปกหนังสือนั้นได้เพียงหนเดียว แล้วคงสาบานตนจะไม่มองหนังสือหัวนั้นไปตลอดชีวิตทีเดียว  :slime_bigsmile:

เงินนั้นเป็นสิ่งของประหลาดอย่างหนึ่งในโลกนี้ ที่ไม่อาจหาเจ้าของเดิม หรือความสะอาดสกปรกได้ง่ายๆ และเงินนั้นสามารถง้างได้ทุกสิ่ง แม้แต่เหล็กที่ว่าแข็งเงินก็ง้างออกมาได้ เรื่องนี้ประธานสโมสรฟุตบอลล์ในอังกฤษที่มีหน้าเป็นแคะ เข้าใจในอำนาจของเงินนี้ดี จึงได้ใช้เที่ยวง้างอะไรต่อมิอะไรจนแหกกระจุยไปหมด โดยเฉพาะสัตว์สองฝา

ต่อไปก็ตอบคำถาม

1. การที่ทีมฟุตบอลล์หางแถวทีมหนึ่ง จะกลายเป็นมหาอำนาจลูกหนังในพระเมียร์ลีกนั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ลองนึกภาพทีมฟุตบอลล์ชาติลาว แต่มีผู้เล่นเป็นทีมชาติบราซิลทั้งหมด ทีมลาวนั้นก็ได้ไปฟุตบอลล์โลกแน่นอน อาจได้แชมป์กลับบ้านด้วย เพราะการทำทีมฟุตบอลล์โดยใช้เงินซื้อตัวนักเล่นเก่งๆมาเข้าทีม ถ้าทุ่มเงินมากพอ ก็สามารถเนรมิตทีมนั้นให้เป็นมหาอำนาจได้
2. คนที่มีข่าวดังเกี่ยวกับเรื่องคาวๆ ก็ย่อมจะมีข่าวแบบนั้นเรื่อยไป มีคนเขาบอกดิฉันว่า ผู้ชายถ้าไม่เจ้าชู้ก็ไม่ใช่ผู้ชาย แต่ในชีวิตจริงนั้นดิฉันเคยเห็นตุ๊ดที่ทำท่าเจ้าชู้เพื่อกลบเกลื่อนความเป็นตุ๊ดถทเถไป แต่ส่วนใหญ่ที่พบนั้น ก็ได้แต่ป้อไปป้อมาเพื่อสรางภาพ หาดูได้ยากที่จะมีพ่อคอยเก็บตกเอาภาพที่สร้างนั้นไปใช้งานเสียจริงๆ ส่วนรายที่ต้งคำถามมานั้น อาจะเป็นไปได้ว่าจะมีข่าวดังแบบนั้น
3. รายงานข่าวนี้ไม่ได้เสริมต่อว่า นักข่าวสาวที่ว่าคือใคร หรือสายไหน เป็นนักข่าวสายทหารหรือเปล่า ???
4. คนขับรถและคนตัดหญ้าของสโมสรฟุตบอลล์ดังกล่าว คงจะพลาดโอกาศสำคัญเช่นนั้นแน่นอน เพราะได้ข่าวมาว่า ปัจจุบัญนี้ เฒ่าหัวงูบางคนนิยมนำเงินมาฝากไว้กับอีหนูที่เอาใจเก่งๆมากกว่า ข่าวว่าเงินทองไหลมาเทมา จนเสียงแหบๆคร่ำครวญ ดังกระดี้กระด้าลั่นสนามกอล์ฟ คงเป็นเสียงหัวเราะเยาะสนามกอล์ฟนั่นเอง ที่มีถึง 18 หลุม แต่ทำเงินได้ไม่เท่านักร้องสาว ทีมีหลุม 19 เพียงหลุมเดียว
5. การที่ผู้อพยพในประเทศใดประเทศหนึ่ง จะได้สัญชาติของประเทศนั้นๆ ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ และถ้ากฎหมายของประเทศนั้นๆ อนุญาตให้ผู้ได้รับสัญชาติโดยมิได้เกิดในประเทศ ลงสมัครเป็นนักการเมือง ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ที่ผู้นั้นจะประสบความสำเร็จ ดูอย่างพ่อบึ๊กอาร์โนลด์ ได้รับสัญชาติอเมริกันจากสถานภาพผู้ขออาศัยในประเทศ ยังได้เป็นถึงผู้ว่าการรัฐ และเมื่อผู้ได้รับสัญชาติได้เป็นนักการเมืองแล้ว การนำนโยบายดั้งเดิมของประเทศตนไปเผยแพร่ในประเทศใหม่ๆ ก็น่าจะเป็นไปได้ อย่างเช่นนโยบาย 30 ปอนด์รักษาได้ทุกโรคแต่ไม่หาย ก็น่าจะเป็นไปได้
6. ไอ้เรื่องนี้ ก็เกิดแน่นอน สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก คนนิสัยไม่ดี ไปอยู่ที่ไหน ไม่นานก็โดนขับไล่ออกจากสังคมนั้น  :slime_smile2:

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 27-10-2007, 13:14
 นานๆจะได้ตอบคำถามคนรุ่นราวคราวเดียวกันซะที ทำเอาศิลาแลงดีใจมาก เขินสะเทิ้นอาย จนหนังเหี่ยวๆสะเทือน 

คุณปุถุชนคงชอบซื้อหนังสือโดยดูที่หน้าปก ถึงได้ข่าวคราวใครบางคนมาโดยบังเอิญ ทั้งๆที่ตั้งใจจะชื่อนชมนางแบบหน้าปกเท่านั้น นี่ถ้าปกหนังสือเล่มนั้นเป็นรูปดิฉัน คุณปุถุชนคงไม่ได้อ่านมันจนแล้วจนรอด อาจจะถึงขนาดมองหน้าปกหนังสือนั้นได้เพียงหนเดียว แล้วคงสาบานตนจะไม่มองหนังสือหัวนั้นไปตลอดชีวิตทีเดียว....

ข้อความโดย: ศิลาแลง


'รูปสวย' เป็นทรัพย์อย่างหนึ่ง...
'ชื่อเสียง' ก็เป็นทรัพย์อย่างหนึ่ง...


ถ้าคุณศิลาแลงได้ขึ้นปกนิตยสารพร้อมชื่อ 'ศิลาแลง' กำกับไว้

ชื่อ'ศิลาแลง'จะเรียกร้องความสนใจให้ซื้อมาอ่าน
อยากรับรู้ความคิดเห็น คำตอบคำถามของคนอื่น ๆ...





หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 30-10-2007, 06:22
หลานเม่ย

เรื่องงานเปิดหนังสือของเสรีไทยนั้น ป้าก็แซวเล่นไปอย่างนั้นเอง เพราะถ้าไปรับทุนมาจากลันดั้นจริงๆ ป้าก็ต้องสับคนไปรับทุนมาเหมือนซ้อเจ็ดสับเละ เพราะเรื่องมันน่าสงสัยว่าไปรับมาได้อย่างไร ทำอย่างไรถึงได้สตางค์มา

อันที่จริงป้าทราบมาว่า ทีมงานจัดทำหนังสือของเสรีไทยนั้น สวยไม่แพ้หมวดเจี๊ยบ โดยเฉพาะหนูเม่ยเองนั้น ได้ข่าวนินทาจากสมาชิกว่า สวยระดับซุปเปอร์หมวย อมบ๊วยเพิ่มพลังเสน่ห์ ข่าวยังเล่าลืออีกว่า หากส่งหนูเม่ยไปสันดั๊น หมวยเจี๊ยบหมดสิทธิ์ออกหนังสือ ลิเดียจะตกกะะป๋อง ณหทัยจะไร้ที่พักพิง และทุนทำหนังสือของเสรีไทยอาจจะได้มากกว่าทุนซื้อทีมฟุตบอลล์ห่วยๆมากนัก  :slime_bigsmile:

ว่าแต่ป้าไปสำรวจข่าวการเปิดตัวหนังสือฟากขะโน้นมา เห็นมีมังกรตัวดำๆมาเป็นแม่งาน ฝั่งของเรามีอะไรประหลาดๆอย่างนั้นบ้างไหม อันนี้ป้าตกข่าว หรือเรามีแต่กิ้งกือ ใส้เดือน หามังกรไม่ได้จ๊ะ  :slime_v:

ศิลาแลง

อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ
ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน
แม้แต่องค์พระปฏิมายังราคิน
มนุษย์เดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา

คุณป้ากรุณาฟังหูไว้หูนะคะ ช่างนินทากันไปด้ายยย  :slime_smile2:

มังกรดำ มังกือดำ กิ้งกือ ไส้เดือนนั้น ไม่มี้ ไม่มีค่ะ ของเรามีแต่เจ้าสัวกระเป๋าหนัก หน้าตาดี บุคลิกดี ราศีจับทั้งนั้นค่ะ  :slime_v:

ผู้หลานขอ(แอบ) นินทามั่งนะคะ คุณป้า  :mrgreen:

1. อาทิตย์ก่อน ยังมีคนบอกว่า ทั่นสเวนโกรันอะไรนั่น เป็นยอดกุนซือเก่งกาจไม่แพ้ใคร แล้วเหตุไฉนเรือใบสีฟ้าจึงถูกสิงห์โตขย้ำเสียจนใบเรือฉีกขาดเป็นริ้ว ๆ ตั้ง 6 ริ้วได้ล่ะคะ คุณป้า หลานล่ะไม่เข้าใจจริง ๆ ว่ามนต์เงินมันเสื่อมแล้วหรือคะ

แต่ก็มีคนนินทาให้ฟังอีกแหละค่ะว่า ฝีเท้ามันห่างไกลกันคนละชั้น แต่หลานว่า ห่างกันแค่ไม่กี่ขั้นบันไดของตารางไม่ใช่หรือคะ :mrgreen:

2. มีสมาชิกบางท่าน เค้าวิตกกังวลด้วยความห่วงใยว่า เมืองไทยของเราจะมีสภาพเหมือนฟิลิปปินส์ 2 เข้าไปทุกที คุณป้าผู้มีวิสัยทัศน์เห็นด้วยหรือไม่อย่างไรคะ 

หลานว่านะคะ เวลาจะเปรียบเทียบกัน ก็ต้องยกข้อด้อยเปรียบเทียบกับข้อด้อย ไม่ใช่ยกเอาข้อดีของบ้านอื่นเมืองอื่นมาเปรียบเทียบกับข้อด้อยของบ้านเมืองตนเอง

พื้นฐานประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศนั้นต่างกัน จีน เกาหลีใต้ เวียดนาม อดีตอันยาวนานของแต่ละประเทศที่ผ่านมาในอีกแง่มุมหนึ่ง เต็มไปด้วยคราบเลือดและน้ำตาของประชาราษฏร์ สิ่งเหล่านี้ย่อมมีผลต่อแรงผลักดันภายในจิตใจของผู้คนแน่นอน

มาเลเซียเองก็เป็นประเทศหนึ่งที่มีการกีดกันในแง่เชื้อชาติ แค่โควต้าของนักเรียนที่เข้ามหาวิทยาลัย คนมาเลย์เชื้อสายจีน กับคนมาเลย์เชื้อสายแขกเองก็มีการแบ่งสันปันส่วนต่างกัน เสมอภาคกันที่ไหน

อินเดียก็ยังมีการแบ่งชนชั้นวรรณะ ถือเขาถือเรา คนจนจนยากแทบไม่มีจะกิน หรือแม้แต่จีนก็มีปัญหาเรื่องประชากรมากมายหลายประการ

ส่วนบรรดาประเทศฝาหรั่งอั้งม้อผมแดง ถึงแม้จะได้ชื่อว่า พัฒนาแล้ว ก็มีปัญหาเน่า ๆ ไร้สาระภายในเยอะแยะ

หลานว่า บ้านเรามันก็พัฒนาไปในแบบฉบับของตนเอง เรื่องล้าหลังไม่เอาไหนก็มี เรื่องดี ๆ ก็มาก ผู้คนส่วนใหญ่ยังมีน้ำใจ เวลาทราบข่าวว่าใครเดือดร้อน ตกทุกข์ได้ยาก น้ำใจก็ไหลหลั่งกันมาทุกสารทิศ ส่วนพวกที่ชอบทำเลว ทำชั่ว สุดท้ายหลายคนที่เห็น ก็ไม่ได้ตายดีสักคน แถมยังทำให้ลูกหลานได้รับผลกรรมไปด้วย ได้ยินผู้ใหญ่อุปมาว่า เหมือนตาลยอดด้วน





หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 30-10-2007, 10:14
อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ
ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน
แม้แต่องค์พระปฏิมายังราคิน
มนุษย์เดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา

คุณป้ากรุณาฟังหูไว้หูนะคะ ช่างนินทากันไปด้ายยย  :slime_smile2:

มังกรดำ มังกือดำ กิ้งกือ ไส้เดือนนั้น ไม่มี้ ไม่มีค่ะ ของเรามีแต่เจ้าสัวกระเป๋าหนัก หน้าตาดี บุคลิกดี ราศีจับทั้งนั้นค่ะ  :slime_v:

ผู้หลานขอ(แอบ) นินทามั่งนะคะ คุณป้า  :mrgreen:

1. อาทิตย์ก่อน ยังมีคนบอกว่า ทั่นสเวนโกรันอะไรนั่น เป็นยอดกุนซือเก่งกาจไม่แพ้ใคร แล้วเหตุไฉนเรือใบสีฟ้าจึงถูกสิงห์โตขย้ำเสียจนใบเรือฉีกขาดเป็นริ้ว ๆ ตั้ง 6 ริ้วได้ล่ะคะ คุณป้า หลานล่ะไม่เข้าใจจริง ๆ ว่ามนต์เงินมันเสื่อมแล้วหรือคะ

แต่ก็มีคนนินทาให้ฟังอีกแหละค่ะว่า ฝีเท้ามันห่างไกลกันคนละชั้น แต่หลานว่า ห่างกันแค่ไม่กี่ขั้นบันไดของตารางไม่ใช่หรือคะ :mrgreen:

2. มีสมาชิกบางท่าน เค้าวิตกกังวลด้วยความห่วงใยว่า เมืองไทยของเราจะมีสภาพเหมือนฟิลิปปินส์ 2 เข้าไปทุกที คุณป้าผู้มีวิสัยทัศน์เห็นด้วยหรือไม่อย่างไรคะ 

หลานว่านะคะ เวลาจะเปรียบเทียบกัน ก็ต้องยกข้อด้อยเปรียบเทียบกับข้อด้อย ไม่ใช่ยกเอาข้อดีของบ้านอื่นเมืองอื่นมาเปรียบเทียบกับข้อด้อยของบ้านเมืองตนเอง

พื้นฐานประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศนั้นต่างกัน จีน เกาหลีใต้ เวียดนาม อดีตอันยาวนานของแต่ละประเทศที่ผ่านมาในอีกแง่มุมหนึ่ง เต็มไปด้วยคราบเลือดและน้ำตาของประชาราษฏร์ สิ่งเหล่านี้ย่อมมีผลต่อแรงผลักดันภายในจิตใจของผู้คนแน่นอน

มาเลเซียเองก็เป็นประเทศหนึ่งที่มีการกีดกันในแง่เชื้อชาติ แค่โควต้าของนักเรียนที่เข้ามหาวิทยาลัย คนมาเลย์เชื้อสายจีน กับคนมาเลย์เชื้อสายแขกเองก็มีการแบ่งสันปันส่วนต่างกัน เสมอภาคกันที่ไหน

อินเดียก็ยังมีการแบ่งชนชั้นวรรณะ ถือเขาถือเรา คนจนจนยากแทบไม่มีจะกิน หรือแม้แต่จีนก็มีปัญหาเรื่องประชากรมากมายหลายประการ

ส่วนบรรดาประเทศฝาหรั่งอั้งม้อผมแดง ถึงแม้จะได้ชื่อว่า พัฒนาแล้ว ก็มีปัญหาเน่า ๆ ไร้สาระภายในเยอะแยะ

หลานว่า บ้านเรามันก็พัฒนาไปในแบบฉบับของตนเอง เรื่องล้าหลังไม่เอาไหนก็มี เรื่องดี ๆ ก็มาก ผู้คนส่วนใหญ่ยังมีน้ำใจ เวลาทราบข่าวว่าใครเดือดร้อน ตกทุกข์ได้ยาก น้ำใจก็ไหลหลั่งกันมาทุกสารทิศ ส่วนพวกที่ชอบทำเลว ทำชั่ว สุดท้ายหลายคนที่เห็น ก็ไม่ได้ตายดีสักคน แถมยังทำให้ลูกหลานได้รับผลกรรมไปด้วย ได้ยินผู้ใหญ่อุปมาว่า เหมือนตาลยอดด้วน


หลานเม่ย

อันนินทากาเลเหมือนเทแกลบ
มันปวดแสบเหมือนเอาตรูดไปครูดหิน
ครูดแรงๆริดสีดวงร่วงลงดิน
แทบแดดิ้นเจ็บในอกเหมือนตกตาล

1. โคชสเวนเสน (เอ๊ะ ชื่อนี้หรือเปล่านะ ป้าว่ามันเหมือนชื่อร้านไอติมยังไงก็ไม่รู้) ก็เป็นโคชที่เก่งกาจคนหนึ่งในวงการฟุตบอลล์ ฝีมือนั้นนับๆได้ว่าอยู่ในแถวหน้าๆ แต่โคชก็คือโคช คนที่เตะฟุตบอลล์ตูมๆอยู่ในสนามนั้นไม่ใช่โคช ถึงโคชจะสอนจนปากเปียกปากแฉะ แต่ผูเล่นนั้นไม่เอาไหน สอนหูซ้ายทะลุหูหมา ฟุตบอลล์มันก็แฟ้วันยันค่ำ องค์ประกอบของทีมฟุตบอลล์ที่จะไปได้ถึงดวงดาวนั้น จึงต้องประกอบด้วย ทีม ทั้ง ทีม ที่ดี ไม่ใช่โคชดีนักเตะห่วย โคชห่วยนักเตะดี โคชก็ดีนักเตะก็ดี แต่เจ้าของทีมมันห่วย ลองมีอะไรห่วยแตกสักอย่างหนึ่ง ทีมนั้นมันก็จะมีอาการแพ้มากชนะน้อย และไปได้ไม่ถึงไหนในตารางหรอกจ๊ะ  วันไหนฟลุ๊กชนะขึ้นมา หัวปี๊บก็จะยิ้มกรามบาน ลิ่วล้อกระดี้กระด้า แต่พอแพ้ขึ้นมา ก็รีบโวยวายว่า ฟุตบอลล์ไม่เกี่ยวกับการเมือง  :slime_smile2:

2. เมืองไทยของเรานั้น มีอะไรที่เหมือน และไม่เหมือน กับประเทศต่างๆ เมืองของเราประกอบขึ้นด้วยคน เช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ และนิสัยของคนนั้น ก็คล้ายๆกัน นั่นคือคนชั่วมันก็ชั่ว คนดีนั้นก็ดี เป็นธรรมดาของโลก

อันที่จริงแล้ว เมือง หรือ ประเทศ เป็นเพียงรูปธรรมที่สมมุติกันขึ้น ในที่สุดก็ต้องมีเกิดมีดับตามหลักไตรลักษณ์ โรมอันยิ่งใหญ่ เคยครองโลกใบนี้ในฐานะมหาอำนาจ บัดนี้เหลือเพียงโคลอสเซียมเอาไว้ให้สุนัขอุจจาระเล่น อียิปต์มหาอาณาจักรในตะวันออกกลาง เหลือเพียงปิรามิดกับชาวอีบิปต์ปัจจุบัญเดินจูงอูฐเล่น ใกล้บ้านเรา อาณาจักรขอมอันเกรียงไกร เหลือเพียงปราสาทหินไว้ให้ต้นไม้ปกคลุม ประเทศของเราก็เช่นกัน ที่สุดแล้วก็ต้องสูญสิ้นไปตามกรรม

ดังนั้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ประชาชนกลุ่มหนึ่งก็ย่อมมีความต้องการให้ประเทศของตนดำเนินไปในแนวทางหนึ่ง ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเหมือนอดีต และไม่จำเป็นจะต้องเผื่อไปถึงอนาคต บรรพบุรุษจะปกครองกันมาอย่างไร ลูกหลานจะปกครองกันต่อไปอย่างไร ไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญคือเราทำวันนี้ ปกครองประเทศในวันนี้ให้ดีที่สุดหรือยัง หากเราไม่ได้ทำ ก็เหมือนเนรคุณบรรพบุรุษ อับอายรุ่นลูกรุ่นหลาน

ประเทศไทยจะเหมือนฟิลิปินส์หรือไม่ หากมองในแง่การเมืองและประชาชนแล้ว คำตอบน่ารับทดใจว่า เหมือนแน่นอน ฟิลิปินส์ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย โดยมีแม่แบบมาจากตะวันตกเช่นเดียวกับประเทศไทย มีการพัฒนาเศรษฐกิจภายใต้ระบบทุนนิยมสามานย์เช่นเดียวกัน สองประการที่สำคัญนี้ก่อให้เกิดความเหมือนอีกต่อไปมากมายหลายประการ

นักการเมืองในทั้งสองประเทศนั้น เป็นนักเลือกตั้งเหมือนกัน ต่างก็พัฒนามาจากผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น นายทุนในท้องถิ่น หมาหลงนอกถิ่นที่มีเงินแล้วอ้างว่าไปสมัครเป็นเขยเป็นสะใภ้ของถิ่นนั้นๆ สรุปรวมได้ว่า นักการเมืองของทั้งสองประเทศนี้ ต่างก็แย่งชิงกันเข้ามาบริหารประเทศ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนทั้งสิ้น

ประชาชนของทั้งสองประเทศนั้น ก็ถูกอบรมหล่อหลอมและให้การศึกษามาในการรับใช้ทุนนิยมสามานย์ ส่วนประชาชนที่ไร้การศึกษา ก็ถูกมอมเมาด้วยอบายมุขต่างๆนาๆ ถูกครอบงำด้วยลัทธิอุบาทว์ เครื่องลางของขลัง ความเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติ ความฝันลมๆแล้งๆ เยาวชนของทั้งสองชาตินั้น ก็เละเทะไปด้วยอารยธรรมตะวันตก มองหาอนาคตอะไรไม่ค่อยจะได้ เกิดมาเพื่อจะโตเป็นทาสในระบบแรงงาน หรือเป็นเหยื่อในสังคม การศึกษาภายใต้ระบบทันนิยมสามานย์นั้น ไม่ได้ช่วยพัฒนาคนแต่อย่างไร มันมีลักษณะคล้ายๆการฝึกวัวฝึกควายไว้ใช้ไถนายามเมื่อยังมีแรง และฆ่าทิ้งเสียเทื่อหมดประโยชน์

การพัฒนาโลกนี้ให้อยู่รอดไปได้อย่างมี่คุณภาพ พึ่งจะมีการเริ่มต้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่โลกใบนี้เกิดขึ้นมา ที่ประเทศไทยของเรานี่เอง ก่อนหน้านี้อาจจะมีทฤษฎีหรือการปฎิบัตที่ใกล้เคียงกันบ้าง แต่ไม่เป็นรูปธรรมที่สามารถถ่ายทอดนามธรรม ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไว้มากว่าสองพันห้าร้อยปีมาแล้วได้ เราเริ่มต้นรูจักความพอเพียงอย่างจริงจัง ไม่ใช่พอเพียงเฉพาะในจิตใจ แต่หมายรวมปถึงการกระทำด้วย หากประเทศไทยของเราเดินไปตามแนวทางนี้ได้อย่างจริงจัง ไม่มีนักการเมืองนักเลือกตั้งเข้ามาหาประโยชน์ โดยการอ้างระบบแต่กลับไปทำอย่างอื่น ประเทศของเราก็มีโอกาศที่จะไม่เหมือนฟิลิปินส์ และไม่เหมือนอีกหลายประเทศในโลก เป็นประเทศที่นายทุนคงจะต้องหลบลี้หนีหน้า หลายรายคงได้ย้ายไปเมืองจีนโน่นแหละ  :slime_smile2:

เมืองไทยของเรานั้นไม่เคยไร้น้ำใจ ป้าเห็นด้วยร้อยเปอร์เซนต์ แต่ไอ้ที่เรากำลังไร้อยู่มากมายในทุกวันนี้ คือการไร้ปัญญา หากเราพัฒนาปัญญา ให้คนไทยมีปัญญามากเท่าๆกับที่มีน้ำใจ ประเทศของเราจะสงบสุขจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 03-11-2007, 12:52
หลานเม่ย

อันนินทากาเลเหมือนเทแกลบ
มันปวดแสบเหมือนเอาตรูดไปครูดหิน
ครูดแรงๆริดสีดวงร่วงลงดิน
แทบแดดิ้นเจ็บในอกเหมือนตกตาล

1. โคชสเวนเสน (เอ๊ะ ชื่อนี้หรือเปล่านะ ป้าว่ามันเหมือนชื่อร้านไอติมยังไงก็ไม่รู้) ก็เป็นโคชที่เก่งกาจคนหนึ่งในวงการฟุตบอลล์ ฝีมือนั้นนับๆได้ว่าอยู่ในแถวหน้าๆ แต่โคชก็คือโคช คนที่เตะฟุตบอลล์ตูมๆอยู่ในสนามนั้นไม่ใช่โคช ถึงโคชจะสอนจนปากเปียกปากแฉะ แต่ผูเล่นนั้นไม่เอาไหน สอนหูซ้ายทะลุหูหมา ฟุตบอลล์มันก็แฟ้วันยันค่ำ องค์ประกอบของทีมฟุตบอลล์ที่จะไปได้ถึงดวงดาวนั้น จึงต้องประกอบด้วย ทีม ทั้ง ทีม ที่ดี ไม่ใช่โคชดีนักเตะห่วย โคชห่วยนักเตะดี โคชก็ดีนักเตะก็ดี แต่เจ้าของทีมมันห่วย ลองมีอะไรห่วยแตกสักอย่างหนึ่ง ทีมนั้นมันก็จะมีอาการแพ้มากชนะน้อย และไปได้ไม่ถึงไหนในตารางหรอกจ๊ะ  วันไหนฟลุ๊กชนะขึ้นมา หัวปี๊บก็จะยิ้มกรามบาน ลิ่วล้อกระดี้กระด้า แต่พอแพ้ขึ้นมา ก็รีบโวยวายว่า ฟุตบอลล์ไม่เกี่ยวกับการเมือง  :slime_smile2:

2. เมืองไทยของเรานั้น มีอะไรที่เหมือน และไม่เหมือน กับประเทศต่างๆ เมืองของเราประกอบขึ้นด้วยคน เช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ และนิสัยของคนนั้น ก็คล้ายๆกัน นั่นคือคนชั่วมันก็ชั่ว คนดีนั้นก็ดี เป็นธรรมดาของโลก

อันที่จริงแล้ว เมือง หรือ ประเทศ เป็นเพียงรูปธรรมที่สมมุติกันขึ้น ในที่สุดก็ต้องมีเกิดมีดับตามหลักไตรลักษณ์ โรมอันยิ่งใหญ่ เคยครองโลกใบนี้ในฐานะมหาอำนาจ บัดนี้เหลือเพียงโคลอสเซียมเอาไว้ให้สุนัขอุจจาระเล่น อียิปต์มหาอาณาจักรในตะวันออกกลาง เหลือเพียงปิรามิดกับชาวอีบิปต์ปัจจุบัญเดินจูงอูฐเล่น ใกล้บ้านเรา อาณาจักรขอมอันเกรียงไกร เหลือเพียงปราสาทหินไว้ให้ต้นไม้ปกคลุม ประเทศของเราก็เช่นกัน ที่สุดแล้วก็ต้องสูญสิ้นไปตามกรรม

ดังนั้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ประชาชนกลุ่มหนึ่งก็ย่อมมีความต้องการให้ประเทศของตนดำเนินไปในแนวทางหนึ่ง ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเหมือนอดีต และไม่จำเป็นจะต้องเผื่อไปถึงอนาคต บรรพบุรุษจะปกครองกันมาอย่างไร ลูกหลานจะปกครองกันต่อไปอย่างไร ไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญคือเราทำวันนี้ ปกครองประเทศในวันนี้ให้ดีที่สุดหรือยัง หากเราไม่ได้ทำ ก็เหมือนเนรคุณบรรพบุรุษ อับอายรุ่นลูกรุ่นหลาน

ประเทศไทยจะเหมือนฟิลิปินส์หรือไม่ หากมองในแง่การเมืองและประชาชนแล้ว คำตอบน่ารับทดใจว่า เหมือนแน่นอน ฟิลิปินส์ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย โดยมีแม่แบบมาจากตะวันตกเช่นเดียวกับประเทศไทย มีการพัฒนาเศรษฐกิจภายใต้ระบบทุนนิยมสามานย์เช่นเดียวกัน สองประการที่สำคัญนี้ก่อให้เกิดความเหมือนอีกต่อไปมากมายหลายประการ

นักการเมืองในทั้งสองประเทศนั้น เป็นนักเลือกตั้งเหมือนกัน ต่างก็พัฒนามาจากผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น นายทุนในท้องถิ่น หมาหลงนอกถิ่นที่มีเงินแล้วอ้างว่าไปสมัครเป็นเขยเป็นสะใภ้ของถิ่นนั้นๆ สรุปรวมได้ว่า นักการเมืองของทั้งสองประเทศนี้ ต่างก็แย่งชิงกันเข้ามาบริหารประเทศ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนทั้งสิ้น

ประชาชนของทั้งสองประเทศนั้น ก็ถูกอบรมหล่อหลอมและให้การศึกษามาในการรับใช้ทุนนิยมสามานย์ ส่วนประชาชนที่ไร้การศึกษา ก็ถูกมอมเมาด้วยอบายมุขต่างๆนาๆ ถูกครอบงำด้วยลัทธิอุบาทว์ เครื่องลางของขลัง ความเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติ ความฝันลมๆแล้งๆ เยาวชนของทั้งสองชาตินั้น ก็เละเทะไปด้วยอารยธรรมตะวันตก มองหาอนาคตอะไรไม่ค่อยจะได้ เกิดมาเพื่อจะโตเป็นทาสในระบบแรงงาน หรือเป็นเหยื่อในสังคม การศึกษาภายใต้ระบบทันนิยมสามานย์นั้น ไม่ได้ช่วยพัฒนาคนแต่อย่างไร มันมีลักษณะคล้ายๆการฝึกวัวฝึกควายไว้ใช้ไถนายามเมื่อยังมีแรง และฆ่าทิ้งเสียเทื่อหมดประโยชน์

การพัฒนาโลกนี้ให้อยู่รอดไปได้อย่างมี่คุณภาพ พึ่งจะมีการเริ่มต้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่โลกใบนี้เกิดขึ้นมา ที่ประเทศไทยของเรานี่เอง ก่อนหน้านี้อาจจะมีทฤษฎีหรือการปฎิบัตที่ใกล้เคียงกันบ้าง แต่ไม่เป็นรูปธรรมที่สามารถถ่ายทอดนามธรรม ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไว้มากว่าสองพันห้าร้อยปีมาแล้วได้ เราเริ่มต้นรูจักความพอเพียงอย่างจริงจัง ไม่ใช่พอเพียงเฉพาะในจิตใจ แต่หมายรวมปถึงการกระทำด้วย หากประเทศไทยของเราเดินไปตามแนวทางนี้ได้อย่างจริงจัง ไม่มีนักการเมืองนักเลือกตั้งเข้ามาหาประโยชน์ โดยการอ้างระบบแต่กลับไปทำอย่างอื่น ประเทศของเราก็มีโอกาศที่จะไม่เหมือนฟิลิปินส์ และไม่เหมือนอีกหลายประเทศในโลก เป็นประเทศที่นายทุนคงจะต้องหลบลี้หนีหน้า หลายรายคงได้ย้ายไปเมืองจีนโน่นแหละ  :slime_smile2:

เมืองไทยของเรานั้นไม่เคยไร้น้ำใจ ป้าเห็นด้วยร้อยเปอร์เซนต์ แต่ไอ้ที่เรากำลังไร้อยู่มากมายในทุกวันนี้ คือการไร้ปัญญา หากเราพัฒนาปัญญา ให้คนไทยมีปัญญามากเท่าๆกับที่มีน้ำใจ ประเทศของเราจะสงบสุขจ๊ะ

ศิลาแลง

ผู้หลานขอคารวะท่านป้าด้วยเบียร์ไฮเนเก้น 3 จอก  :slime_smile: พร้อมกับ (แอบ) ฮาาา  :slime_smile2:

-- หลานมิแน่ใจว่า สมควรจะอุดหนุน "สิงห์" ต่อไปหรือไม่ ตามบางกระแสว่าด้วยเหตุที่ "สิงห์" ไปอุ้มชูเรือใบที่ใบเรือขาดเป็นริ้ว ๆ แล้ว  :slime_smile2:

คุณป้าเจ้าคะ สมัยหลานยังผูกคอซองไปโรงเรียน  :mrgreen: ข่าวว่าใครได้ไปเรียนต่อที่ฟิลิปปินส์ ก็นับว่า โก้ไม่น้อย จะเป็นรองก็เพียงแค่ยุโรป อเมริกา เท่านั้น แต่พอสองสามีภริยาผู้สวมวิญญาณฉินไขว้เวอร์ชั่นฟิลิปปินโน ยึดครองทำเนียบมาลากันยัง บ้านเมืองของพวกเขาก็เริ่มถดถอยเข้าสู่ความล่มจมนับแต่บัดนั้น

-- ถ้าคนในบ้านเมืองของเรา ปล่อยปละละเลยให้ประเทศของเราเป็นแบบฟิลิปปินโนล่ะก็ อาย "ผู้มีเล็บงาม" มันนะเจ้าคะ มิหนำซ้ำยังจะถูกรุ่นลูกหลานเหลนโหลนด่าจนฝาโลงสะเทือน เพราะแผ่นดินของเรายังเป็นขวานเพียงด้ามเดียว ในขณะที่ประเทศฟิลิปปินส์เต็มไปด้วยเกาะแก่งต่าง ๆ นับพันนับหมื่น จะให้รวมตัวสามัคคีกันเป็นหนึ่งเดียวก็ยากเย็นแสนเข็ญ ขนาดของเราแค่เป็นขวานเล่มไม่ใหญ่ไม่โต พวกนักการเมืองรุ่นปู่รุ่นตา ยังทะเลาะขายตัวกันไม่เลิก วันนี้โผไปซบอกคนนี้ พรุ่งนี้โผไปซบอกคนโน้น ทำตัวหลายใจ ไม่มีกระดูก ไม่อายลูกอายหลานเสียบ้างเลย  :mozilla_yell:

คำถามวันนี้ ขอคุณป้ากรุณา "ฟันธง" ให้หน่อยค่ะว่า

...เมื่อจอมโจรเอสตราด้าถูกปล่อยตัวออกมาจากคุก แล้วจอมโจรหน้าเหลี่ยมจะมีวาสนาได้เดินเข้าคุกหรือป่าวคะ?

 :slime_worship:





หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 03-11-2007, 17:56
ผู้หลานขอคารวะท่านป้าด้วยเบียร์ไฮเนเก้น 3 จอก  :slime_smile: พร้อมกับ (แอบ) ฮาาา  :slime_smile2:

-- หลานมิแน่ใจว่า สมควรจะอุดหนุน "สิงห์" ต่อไปหรือไม่ ตามบางกระแสว่าด้วยเหตุที่ "สิงห์" ไปอุ้มชูเรือใบที่ใบเรือขาดเป็นริ้ว ๆ แล้ว  :slime_smile2:

คุณป้าเจ้าคะ สมัยหลานยังผูกคอซองไปโรงเรียน  :mrgreen: ข่าวว่าใครได้ไปเรียนต่อที่ฟิลิปปินส์ ก็นับว่า โก้ไม่น้อย จะเป็นรองก็เพียงแค่ยุโรป อเมริกา เท่านั้น แต่พอสองสามีภริยาผู้สวมวิญญาณฉินไขว้เวอร์ชั่นฟิลิปปินโน ยึดครองทำเนียบมาลากันยัง บ้านเมืองของพวกเขาก็เริ่มถดถอยเข้าสู่ความล่มจมนับแต่บัดนั้น

-- ถ้าคนในบ้านเมืองของเรา ปล่อยปละละเลยให้ประเทศของเราเป็นแบบฟิลิปปินโนล่ะก็ อาย "ผู้มีเล็บงาม" มันนะเจ้าคะ มิหนำซ้ำยังจะถูกรุ่นลูกหลานเหลนโหลนด่าจนฝาโลงสะเทือน เพราะแผ่นดินของเรายังเป็นขวานเพียงด้ามเดียว ในขณะที่ประเทศฟิลิปปินส์เต็มไปด้วยเกาะแก่งต่าง ๆ นับพันนับหมื่น จะให้รวมตัวสามัคคีกันเป็นหนึ่งเดียวก็ยากเย็นแสนเข็ญ ขนาดของเราแค่เป็นขวานเล่มไม่ใหญ่ไม่โต พวกนักการเมืองรุ่นปู่รุ่นตา ยังทะเลาะขายตัวกันไม่เลิก วันนี้โผไปซบอกคนนี้ พรุ่งนี้โผไปซบอกคนโน้น ทำตัวหลายใจ ไม่มีกระดูก ไม่อายลูกอายหลานเสียบ้างเลย  :mozilla_yell:

คำถามวันนี้ ขอคุณป้ากรุณา "ฟันธง" ให้หน่อยค่ะว่า

...เมื่อจอมโจรเอสตราด้าถูกปล่อยตัวออกมาจากคุก แล้วจอมโจรหน้าเหลี่ยมจะมีวาสนาได้เดินเข้าคุกหรือป่าวคะ?

 :slime_worship:

หลานเม่ย

สมัยหลานใส่คอซอง ป้าคงจะเริ่มใส่คอกระเช้าแล้ว และกำลังหัดเคี้ยวหมากเพื่อให้สมวัย แหม รุ่นเดียวกันเลยนะจ๊ะ  :slime_smile2:

ป้าก็เคยได้ยินมาว่า ในยุคสมัยหนึ่งคนไทยนิยมไปชุบตัวกันที่ฟิลิปินส์ นอกจากฟิลิปินส์ก็ยังมีอินเดีย คือสรุปได้ว่า ขอให้ได้นั่งเครื่องบินไปจากบ้านเกิดสักพัก คว้าใบประกาศนียบัตรหรือปริญญามาสักใบหนึ่ง พูดภาษาไทยด้วยสำเนียงแปร่งๆ ไทยคำอังกฤษคำ ก็พอจะสร้างตัวให้เป็นที่น่านับถือกับสังคมในยุคนั้นได้ อย่าว่าแต่ไปเรียนเป็นกิจลักษณะเลย เพียงไปเดินแถวๆปารีส กินกาแฟแถวชอมป์เอลิเซ่ เข้าไปเรียนเสริมสวยดัดผมสักหกเดือน กลับมาก็คุยฟุ้งทับถมพวกที่เรียนแถวๆประตูน้ำได้มากอยู่

อันที่จริงระบบการศึกษาของต่างประเทศที่ว่ามานี้ ก็ไม่ได้ดีเด่นไปกว่าระบบการศึกษาของบ้านเราในสมัยนั้น เพียงแต่คำว่านักเรียนนอก มันขลังมาตั้งแต่ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว ใครๆก็อยากเป็นนักเรียนนอกด้วยกันทั้งนั้น แต่เมือ่โลกเราเจริญขึ้น คนไทยก็เริ่มรู้ทันนักเรียนนอกชนิดกำมะลอมากขึ้น ความนิยมเดินทางไปศึกษาในประเทศใกล้ๆบ้านเราจึงเสื่อมลง ต้องหาทางไปเรียนกันให้ไกลขึ้น ข้ามทวีปไปถึงอังกฤษอเมริกาโน่น จึงจะทันสมัย

มาจนถึงทุกวันนี้ ความเป็นนักเรียนนอกก็ไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไรมากไปกว่า จบนอกมาแล้วรู้ภาษาต่างประเทศเท่านั้นเอง และนักเรียนของไทยเรานี้ หากรู้ภาษาต่างประเทศเข้าจริงๆจังๆ ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่านักเรียนนอกเลย และทุกวันนี้ ประเทศของเราก็เป็นแหล่งศึกษาของนักเรียนต่างประเทศมากมาย มีหลายประเทศทีเดียวที่นิยมส่งเด็กมาเรียนในบ้านเรา โลกมันเปลี่ยนไปแล้วจ๊ะ

คุณแอสตราด้านั้น แกไม่ได้ทำการศึกษาของฟิลิปินส์เสื่อมลงไปหรอก อย่าไปโทษแกเลย อันที่จริงแกไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากทำประโยชน์ให้ตัวเอง ดูไปก็คล้ายๆนักการเมืองที่ไร้แผ่นดินอยู่ในบ้านของเรา มันแต่สูบทรัพย์เสพกามเสียเพลิน มารู้ตัวอีกทีก็กระเด็นไปจากประเทศแล้ว

นักการเมืองรุ่นปู่รุ่นตา รวมมาถึงรุ่นป้าและรุ่นหลาน สืบเชื้อสายมาจากแหล่งเดียวกัน นั่นคือถือกำเนิดมาจากอวิชชา คือความไม่รู้ อุดมไปด้วย กิเลส ตัณหา ราคะ มุ่งหวังเข้ามาเพียงเพื่อ กิน กาม เกียรติ บ้างก็พอเอาตัวรอดลงไปจากหลังเสือได้ บ้างก็โดนเสือกัดขบไปตามแต่บุญกรรมที่สั่งสมมา คนพวกนี้จะต้องกัดกัน กอดกัน ไปตามแต่ภาวะการเมืองจะชักนำไป เหมือนไม้ที่ลอยไปตามกระแสน้ำพัด กระแสกรรมพัดไปทางไหน พวกนี้ก็ลอยไปทางนั้น ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

เรื่องของนักการเมืองที่รอคิวถูกประหาร ด้วยเครื่องประหารหัวสุนัขของท่านเปานั้น ป้าหยิบธงมารอไว้นานแล้ว แต่ยังไม่ได้ฟันลงไปเสียที เพราะเสียดายธง  :slime_smile2: แต่ถ้าจะให้คาดการล่วงหน้า ก็เห็นจะต้องบอกว่า คดีที่ขึ้นไปสู่ศาลนั้น คงจะจบลงด้วยคำพิพากษาจำคุก และไม่มีการรอลงอาญา แต่ตัวจำเลยนั้นคงจะหนีสุดชีวิต และคงจะก่อกวนสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศชาติ เพื่อเอาตัวรอดต่อไป แต่ป้าก็เชื่อในกฎแห่งกรรม และยังเชื่ออย่างที่มีคนพูดๆเอาไว้วว่า คงได้กลับมาแต่กระดูกเท่านั้น

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 15-11-2007, 21:48
หลานเม่ย

สมัยหลานใส่คอซอง ป้าคงจะเริ่มใส่คอกระเช้าแล้ว และกำลังหัดเคี้ยวหมากเพื่อให้สมวัย แหม รุ่นเดียวกันเลยนะจ๊ะ  :slime_smile2:

ป้าก็เคยได้ยินมาว่า ในยุคสมัยหนึ่งคนไทยนิยมไปชุบตัวกันที่ฟิลิปินส์ นอกจากฟิลิปินส์ก็ยังมีอินเดีย คือสรุปได้ว่า ขอให้ได้นั่งเครื่องบินไปจากบ้านเกิดสักพัก คว้าใบประกาศนียบัตรหรือปริญญามาสักใบหนึ่ง พูดภาษาไทยด้วยสำเนียงแปร่งๆ ไทยคำอังกฤษคำ ก็พอจะสร้างตัวให้เป็นที่น่านับถือกับสังคมในยุคนั้นได้ อย่าว่าแต่ไปเรียนเป็นกิจลักษณะเลย เพียงไปเดินแถวๆปารีส กินกาแฟแถวชอมป์เอลิเซ่ เข้าไปเรียนเสริมสวยดัดผมสักหกเดือน กลับมาก็คุยฟุ้งทับถมพวกที่เรียนแถวๆประตูน้ำได้มากอยู่

อันที่จริงระบบการศึกษาของต่างประเทศที่ว่ามานี้ ก็ไม่ได้ดีเด่นไปกว่าระบบการศึกษาของบ้านเราในสมัยนั้น เพียงแต่คำว่านักเรียนนอก มันขลังมาตั้งแต่ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว ใครๆก็อยากเป็นนักเรียนนอกด้วยกันทั้งนั้น แต่เมือ่โลกเราเจริญขึ้น คนไทยก็เริ่มรู้ทันนักเรียนนอกชนิดกำมะลอมากขึ้น ความนิยมเดินทางไปศึกษาในประเทศใกล้ๆบ้านเราจึงเสื่อมลง ต้องหาทางไปเรียนกันให้ไกลขึ้น ข้ามทวีปไปถึงอังกฤษอเมริกาโน่น จึงจะทันสมัย

มาจนถึงทุกวันนี้ ความเป็นนักเรียนนอกก็ไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไรมากไปกว่า จบนอกมาแล้วรู้ภาษาต่างประเทศเท่านั้นเอง และนักเรียนของไทยเรานี้ หากรู้ภาษาต่างประเทศเข้าจริงๆจังๆ ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่านักเรียนนอกเลย และทุกวันนี้ ประเทศของเราก็เป็นแหล่งศึกษาของนักเรียนต่างประเทศมากมาย มีหลายประเทศทีเดียวที่นิยมส่งเด็กมาเรียนในบ้านเรา โลกมันเปลี่ยนไปแล้วจ๊ะ

คุณแอสตราด้านั้น แกไม่ได้ทำการศึกษาของฟิลิปินส์เสื่อมลงไปหรอก อย่าไปโทษแกเลย อันที่จริงแกไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากทำประโยชน์ให้ตัวเอง ดูไปก็คล้ายๆนักการเมืองที่ไร้แผ่นดินอยู่ในบ้านของเรา มันแต่สูบทรัพย์เสพกามเสียเพลิน มารู้ตัวอีกทีก็กระเด็นไปจากประเทศแล้ว

นักการเมืองรุ่นปู่รุ่นตา รวมมาถึงรุ่นป้าและรุ่นหลาน สืบเชื้อสายมาจากแหล่งเดียวกัน นั่นคือถือกำเนิดมาจากอวิชชา คือความไม่รู้ อุดมไปด้วย กิเลส ตัณหา ราคะ มุ่งหวังเข้ามาเพียงเพื่อ กิน กาม เกียรติ บ้างก็พอเอาตัวรอดลงไปจากหลังเสือได้ บ้างก็โดนเสือกัดขบไปตามแต่บุญกรรมที่สั่งสมมา คนพวกนี้จะต้องกัดกัน กอดกัน ไปตามแต่ภาวะการเมืองจะชักนำไป เหมือนไม้ที่ลอยไปตามกระแสน้ำพัด กระแสกรรมพัดไปทางไหน พวกนี้ก็ลอยไปทางนั้น ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

เรื่องของนักการเมืองที่รอคิวถูกประหาร ด้วยเครื่องประหารหัวสุนัขของท่านเปานั้น ป้าหยิบธงมารอไว้นานแล้ว แต่ยังไม่ได้ฟันลงไปเสียที เพราะเสียดายธง  :slime_smile2: แต่ถ้าจะให้คาดการล่วงหน้า ก็เห็นจะต้องบอกว่า คดีที่ขึ้นไปสู่ศาลนั้น คงจะจบลงด้วยคำพิพากษาจำคุก และไม่มีการรอลงอาญา แต่ตัวจำเลยนั้นคงจะหนีสุดชีวิต และคงจะก่อกวนสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศชาติ เพื่อเอาตัวรอดต่อไป แต่ป้าก็เชื่อในกฎแห่งกรรม และยังเชื่ออย่างที่มีคนพูดๆเอาไว้วว่า คงได้กลับมาแต่กระดูกเท่านั้น

ศิลาแลง

ขอบพระคุณคุณป้าศิลาแลงเจ้าเก่ามากค่ะ  ไม่ได้คุยกับคุณป้ามาหลายวัน คิดถึงจังเลย  :slime_smile:

มาจะกล่าวบทไป ทั้งนักเรียนนอกนักเรียนในก็มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาชาติบ้านเมืองนะคะ ขอให้เป็นคนดี มีศีลธรรม อย่าหลงตัวเองจนเกินเหตุ เห็นหน้าสี่เหลี่ยมน่าบูชาหลงใหลได้ปลื้มแบบนั้นล่ะก็ อาจจะตกที่นั่งเดียวกับพวกเข้าแก๊งไหนหัวหน้าตายหมด  :slime_bigsmile:

ว่าที่นายกฯ หน้าหยกของชาวเรา ก็นักเรียนนอกนะคะ  :slime_v:

คืนนี้ มารบกวนขอคำแนะนำจากคุณป้าก่อนอำลาไปนิทราค่ะว่า คุณป้าจะแนะนำลูก ๆ หลาน ๆ ให้จับไม้ติ้ว เอ๊ย เลือกกาเบอร์ไหนดีคะ ทั้งแบบสัดส่วน (ชื่อแปลก ๆ ) กับ สายเดี่ยว น่ะค่ะ  :mrgreen:

ครั้งนี้ คุณป้าคงไม่เสียดายธงที่จะฟันแล้วนะคะ  :slime_smile2:

นอนหลับฝันดีนะคะ คุณป้า  :slime_inlove: :slime_sleeping:



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 16-11-2007, 10:00
ขอบพระคุณคุณป้าศิลาแลงเจ้าเก่ามากค่ะ  ไม่ได้คุยกับคุณป้ามาหลายวัน คิดถึงจังเลย  :slime_smile:

มาจะกล่าวบทไป ทั้งนักเรียนนอกนักเรียนในก็มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาชาติบ้านเมืองนะคะ ขอให้เป็นคนดี มีศีลธรรม อย่าหลงตัวเองจนเกินเหตุ เห็นหน้าสี่เหลี่ยมน่าบูชาหลงใหลได้ปลื้มแบบนั้นล่ะก็ อาจจะตกที่นั่งเดียวกับพวกเข้าแก๊งไหนหัวหน้าตายหมด  :slime_bigsmile:

ว่าที่นายกฯ หน้าหยกของชาวเรา ก็นักเรียนนอกนะคะ  :slime_v:

คืนนี้ มารบกวนขอคำแนะนำจากคุณป้าก่อนอำลาไปนิทราค่ะว่า คุณป้าจะแนะนำลูก ๆ หลาน ๆ ให้จับไม้ติ้ว เอ๊ย เลือกกาเบอร์ไหนดีคะ ทั้งแบบสัดส่วน (ชื่อแปลก ๆ ) กับ สายเดี่ยว น่ะค่ะ  :mrgreen:

ครั้งนี้ คุณป้าคงไม่เสียดายธงที่จะฟันแล้วนะคะ  :slime_smile2:

นอนหลับฝันดีนะคะ คุณป้า  :slime_inlove: :slime_sleeping:


หลานเม่ย

ป้าหลับฝันดีไปแล้ว ตื่นขึ้นมาถึงได้เห็นคำถามจ๊ะ  :slime_smile2:

พูดถึงนักเรียนนอก และพาดพิงไปถึงอดีตนักเรียนนอกที่ต้องกระเด็นจากแผ่นดินเกิด ไปเป็นสัมภเวสีอยู่เมืองนอก และพาดพิงไปถึงว่าที่นายกหน้าหยก ก็เห็นจะเอามาเปรัยบเทียบกันได้ ว่าด้วยเรื่องชนิดของนักเรียนนอก

ว่าที่นายกหน้าหยกนั้น สถาบันที่เรียนมาเมื่อเอ่ยชื่อ คนก็ฮือฮา ไม่เฉพาะคนไทยแต่เป็นคนที่รู้เรื่องการศึกษาทั้งโลก เพราะสถาบันนั้นเป็นสถาบันเก่าแก่ มีคุณภาพชนิดไม่ต้องสงสัย ซึ่งก็เป็นการรับรองคุณภาพคนที่จบมาได้เป็นอย่างดี สมัครงานที่ไหนในโลกนี้ เขาก็อ้าแขนรับ ยกเว้นสมัครผูแทนในบ้านเรา ไม่รู้จะรับกันไหม  :slime_smile2: อย่างว่าแหละ คนมีปัญญาย่อมเลือกคนมีปัญญาด้วยกัน แต่พวกกลัวผีปอบ ขูดต้นไม้หาหวย ใหว้กุมารควายสองหัว และบูชาเจลลดไข้บวมน้ำ พวกนี้จะเลือกอะไรเราก็รู้ๆกันอยู่

ส่วนอดีตนักเรียนนอก ที่ไร้แผ่นดินซุกหัว จบอะไรมานั้น คุณภาพเป็นอย่างไร ก็อยากให้ไปอ่านหนังสือชื่อ  "ตำรวจปริญญาเอก" แปลโดย พล.ต.ท.อัมรินทร์ เนียมสกุล  เขียนโดย george Kirkham ลองหาอ่านดูแล้วจะรู้ว่า สาขาวิชาที่อดีตนักเรียนนอกนั้นจบมาเป็นอย่างไร คุณภาพแค่ไหน  :slime_smile:

ส่วนเรื่องการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง จะเลือกใครดีนั้น คงตอบไม่ยาก เพราะมีตัวเลือกเพียงสามฝ่ายเท่านั้น คือ 1. ฝ่ายไม่เอาทรราช 2.ฝ่ายทรราช 3.ฝ่ายโสโครก รอเข้าข้างไหนก็ได้  ชอบแบบไหนก็พอจะรู้ๆกันอยู่ว่าใครอยู่ฝ่ายไหน

เลือกไปเถิดจ๊ะ เพราะไม่ว่าจะเลือกอย่างไร ความวุ่นวายในบ้านเมืองก็คงจะยังไม่จบ บ้านเมืองเราแตกแยกแล้ว การแก้ไขความแตกแยกนั้น ได้มีผู้พยายามสมานฉันท์กันมาพักหนึ่ง แต่ไม่สำเร็จ

ยกหน้า คงต้องใช้วิธีฆ่าตัดตอน พวกทรราชจะได้สูญพันธ์  :slime_v:

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 28-11-2007, 12:33
เรียนคุณป้าศิลาแรงที่นับถือ

       ผมติดตามรายการของคุณป้ามาตลอด ผมมีปัญหาหนักอกหนักใจมานานแล้วใคร่ครวญถามคุณป้าครับ เรื่องมันเป็นแบบนี้

       ผมแอบชอบผู้หญิงคนนึงมานานแล้วครับ เราคุยกันถูกคอทุกอย่างเหมือนไปกันได้ดี แต่ที่ไม่ถูกใจผมอย่างเดียวก็คือ เจ้าหล่อนเป็นแฟนพรรคไทยรักไทยตัวยง แม้จะโดนยุบไปแล้วก็ยังเชียร์พรรคพลังประชาชนต่ออีก เจ้าหล่อนยังสาธยายบ่อยๆว่าหลงไหลได้ปลื้มกับอดีตนายกทักษิณเหลือเกิน เธอบอกว่าถ้าได้แฟนแบบทักษิณนี่รักตายเลย ก็รู้นะครับว่าความเห็นต่าง เชียร์คนละพรรคไม่เป็นไร ผมก็อยากให้เธอรักและมาเป็นแฟนผมนะครับ ผมควรจะเลียนแบบพฤติกรรมของทักษิณดีหรือเปล่าครับ อย่างกินไก่โชว์ ทาครีมให้เจ้าหล่อนดู ไปศัลยกรรมหน้าให้เป็นสี่เหลี่ยม หรือเอาคำพูดยอดฮิตของทักษิณมาพูด เช่น

ถ้าผมมีกิ๊ก เธอจับได้ผมก็จะพูดว่า"ผมบกพร่องโดยสุจริต"

ถ้าเจ้าหล่อนทำผิดบ้างไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อย ผมก็จะพูดว่า"สมควรตาย"

ถ้าเธอจู้จี้ซักไซ้ผมมากๆ หรือพ่อแม่ของเธอจะเอาอย่างนั้นอย่างนี้ผมก็จะบอกเธอว่า"Unไม่ใช่พ่อ"

หรือคำพูดอื่นๆของพวกนักการเมืองที่เธอชื่นชอบอย่าง หลงห. หรือคำว่า "ปุ้ดโธ่" มาใช้บ้าง

ไม่ทราบว่าพฤติกรรมดังกล่าวของผมจะทำให้เธอหันมารักมาสนใจผมได้หรือเปล่า วานป้าศิลาแลงไขข้อข้องใจผมด้วยจักเป็นประคุณอย่างหามิได้ครับ


        มะ ช่างอุตฯ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 28-11-2007, 18:08
เรียนคุณป้าศิลาแรงที่นับถือ

       ผมติดตามรายการของคุณป้ามาตลอด ผมมีปัญหาหนักอกหนักใจมานานแล้วใคร่ครวญถามคุณป้าครับ เรื่องมันเป็นแบบนี้

       ผมแอบชอบผู้หญิงคนนึงมานานแล้วครับ เราคุยกันถูกคอทุกอย่างเหมือนไปกันได้ดี แต่ที่ไม่ถูกใจผมอย่างเดียวก็คือ เจ้าหล่อนเป็นแฟนพรรคไทยรักไทยตัวยง แม้จะโดนยุบไปแล้วก็ยังเชียร์พรรคพลังประชาชนต่ออีก เจ้าหล่อนยังสาธยายบ่อยๆว่าหลงไหลได้ปลื้มกับอดีตนายกทักษิณเหลือเกิน เธอบอกว่าถ้าได้แฟนแบบทักษิณนี่รักตายเลย ก็รู้นะครับว่าความเห็นต่าง เชียร์คนละพรรคไม่เป็นไร ผมก็อยากให้เธอรักและมาเป็นแฟนผมนะครับ ผมควรจะเลียนแบบพฤติกรรมของทักษิณดีหรือเปล่าครับ อย่างกินไก่โชว์ ทาครีมให้เจ้าหล่อนดู ไปศัลยกรรมหน้าให้เป็นสี่เหลี่ยม หรือเอาคำพูดยอดฮิตของทักษิณมาพูด เช่น

ถ้าผมมีกิ๊ก เธอจับได้ผมก็จะพูดว่า"ผมบกพร่องโดยสุจริต"

ถ้าเจ้าหล่อนทำผิดบ้างไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อย ผมก็จะพูดว่า"สมควรตาย"

ถ้าเธอจู้จี้ซักไซ้ผมมากๆ หรือพ่อแม่ของเธอจะเอาอย่างนั้นอย่างนี้ผมก็จะบอกเธอว่า"Unไม่ใช่พ่อ"

หรือคำพูดอื่นๆของพวกนักการเมืองที่เธอชื่นชอบอย่าง หลงห. หรือคำว่า "ปุ้ดโธ่" มาใช้บ้าง

ไม่ทราบว่าพฤติกรรมดังกล่าวของผมจะทำให้เธอหันมารักมาสนใจผมได้หรือเปล่า วานป้าศิลาแลงไขข้อข้องใจผมด้วยจักเป็นประคุณอย่างหามิได้ครับ


        มะ ช่างอุตฯ


หลานมะ

การแอบชอบผู้หญิงนั้น มักจะเป็นนิสัยปกติของผู้ชาย แต่ถ้าแอบชอบอยู่นานๆ โดยที่เจ้าตัวเขาไม่รู้ตัวเลยว่าเราแอบชอบอยู่ มันก็ดูคล้ายๆรักคุด คุดหงิกๆงอๆไม่ยอมโผล่ออกมาดูโลกกับเขาเสียที รักคุดนั้นมันก็เจ็บไปแบบหนึ่ง เจ็บๆคันๆไม่แพ้ขนคุด จำเป็นจะต้องรักษาอาการด้วยการถอนขนเส้นนั้นออกเสีย แต่การถอนความรักนั้นมันคงยาก เพราะมันไม่ได้เกิดตามธรรมชาติปกติ แต่ผสมการปรุงแต่งของจิตเข้าไปด้วย ถอนยากถอนเย็นเหลือประมาณ

ผู้ชายมักจะชอบคิดเข้าข้างตัวเอง เมื่อมีผู้หญิงให้ความสนิทสนม คุยกันถูกคอ ก็มักจะทึกทักเอาว่าผู้หญิงนั้นคงจะมีใจให้บ้าง แล้วก็พาลคิดเตลิดเรื่อยเปื่อยไปจนถึงไหนต่อไหน ทั้งๆที่ฝ่ายหญิงอาจจะคิดเพียงแค่ได้คนคุยถูกใจ และได้คนรับฟังที่ดี

รสนิยมของสาวเจ้าที่ไม่ต้องกับรสนิยมของหลาน ในเรื่องการเมืองนั้นถือว่าเป้นเรื่องใหญ่ ต่างกับเรื่องอื่นๆมากนัก เพราะทัศนคติและรสนิยมทางการเมืองนั้น มันสะท้อนสติปัญญาของคนผู้นั้นออกมาด้วย ต่างกับรสนิยมทางอาหาร การแต่งตัว ซึ่งมันเป็นความชอบเฉพาะตน เมื่อหลานพบผู้หญิงที่มีทัศนคติทางการเมืองที่แตกต่างกัน ก็มีสองหนทางที่หลานจะทำได้ หนึ่งก็คือพยายามดึงทัศนคติทางการเมืองของหล่อนให้มาทางเรา หรือสอง ยินยอมคล้อยตามหล่อนไปเสียทุกเรื่อง ด้วยคิดว่าการตามใจคือการแสดงออกของความรักแบบหนึ่ง

การตามใจผู้หญิงตะพึดตะพือ โดยไม่มีเหตุผลนั้น อาจจะใช้ได้ผลบ้างสำหรับผู้หญิงบางประเภท แต่สุดท้ายแล้วผู้ชายที่พยายามทำแบบนั้น มักจะระทมทุกข์และพยายามขัดใจต่อไปในภายหลัง เพราะที่ยินยอมตามใจก็ด้วยกลัวเขาจะไม่รัก เมื่อได้มาแล้วซึ่งรักนั้น หรืออาจจะพาลเลยไปถึงได้มาซึ่งตัวผู้หญิงคนนั้นแล้ว สุดท้ายผู้ชายก็จะเริ่มคิด และยิ่งเมื่อข้าวใหม่ปลามัน กลับกลายเป็นน้ำพริกถ้วยเก่าไปแล้ว นรกก็จะตามมา

เพราะทั้งนี้ ผู้หญิงที่ถูกตามใจจากคนรัก มันจะคิดต่อไปเสมอว่า เธอสมควรจะได้รับการตามใจไปตลอดกาล ไม่ควรจะมีความเห็นใดๆจากชายอันเป็นที่รัก ที่จะขัดแย้งกับสิ่งที่เธอคิด และโดยมากก็จะรวมไปถึงการไม่อยากรับฟังสิ่งใดจากคนที่ตนรัก แต่อยากให้เขารับฟังเธอทุกเวลาและทุกเรื่อง สุดท้าย สงครามก็จะบังเกิด

การที่หลานคิดแผนการจะสร้างสถานการณ์เลียนแบบคนบางคนที่ผู้หญิงคนที่หลานหมายปองอยู่ชมชอบ มันอาจจะได้ผลบ้างจ๊ะ ป้าไม่กล้ารับรองผลหรือขัดแย้ง เพราะไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้นของหลาน การที่จะกินไก่โชว์นั้น ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ แต่ป้าแนะนำให้กินไก่สด และอย่าใช้มือในการช่วยกิน ควรใช้ปากคาบแล้วลากลงน้ำไปกินโชว์ให้ดูอย่างน่าระทึก อันนี้อาจช่วยได้มาก การทาครีมนั้นก็เป็นการบำรุงผิวพรรณที่ดีอีกประการหนึ่ง แต่หากการทาครีมนั้นเพียงเพื่อจะเอาไว้โชว์สาว สมควรใช้ครีมแก้ส้นเท้าแตก เพราะมันจะเหมาะกับผิวหน้าในยามนั้นได้ดี ส่วนการศัลยกรรมทำหน้าให้กลายเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมนั้น ป้าแนะนำให้ไปทำที่คลีนิคแถวๆดอนเมือง เพราะหากเขาทำแล้วมีปัญหา เขาจะตามมาจัดการให้ไม่ว่าหลานหลบไปอยู่ที่ไหน

ส่วนการใช้คำพูดที่กินใจ ในยามที่แอบไปมีกิ๊ก โดยคิดจะแก้ตัวว่า "ผมบกพร่องโดยสุจริต" โปรดระวังกระสุนปืนจะลั่นโดยบังเอิญ
ถ้าสาวเจ้าทำผิด แล้วหลายเอ่ยวจีว่า "สมควรตาย" โปรดระวังว่าคนที่ตายนั้นอาจจะเป็นตัวหลานเอง
และถ้าเธอจู้จี้ หรือบุพการีของเธอน่ารำคาญ ประโยคที่ว่า "Unไม่ใช่พ่อ" อาจจะกลับกลายเป็นโดนพ่อตาตื๊บ
ส่วนคำว่า หลงห. ป้าจำได้ว่านางคนที่พูด ผัวน้อยไปมีเมียน้อยใหม่ และตนเองนั้นต้องนั่งเกาห.โดยไม่รู้จะทำอย่างไร
สุดท้ายนั้น คำว่า "ปุ้ดโธ่" ป้าว่าหลานไม่ต้องพยายามพูดหรอกจ๊ะ เพราะหลานจะได้พูดแน่ๆเมื่อทำทุกอย่างตามที่หลานคิดเอาไว้แล้ว

ป้าอยากจะแนะนำอะไรหลานสักอย่างหนึ่ง ผู้หญิงเรานั้นก็เหมือนกับเงา หากผู้ชายวิ่งไล่ก็มักจะวิ่งหนี แต่เมื่อไหร่ที่ผู้ชายเริ่มวิ่งหนี เงานั้นก็จะวิ่งไล่ แต่ถ้าหลานทดลองวิ่งหนีแล้วเห็นว่าเงานั้นไม่ไล่ตาม โดยเฉพาะเงาหัว หลานควรทำบุญใหว้พระเจ็ดวัด และอย่าลืมว่า ป้าชอบข้าวต้มปลาจาละเม็ด หรือหูฉลามน้ำแดง ถ้าคืนแรกเลี้ยงก็จะดีมาก ส่วนกาแฟและเศษขนมเค็กใส่กล่อง ถ้าไม่เลี้ยงในงานทั้งเจ็ดวันได้ก็จะดีมาก

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ ที่ 28-11-2007, 19:02
เรียนป้าศิแรงที่นับถือ


ผมมีปัญหาอยู่ว่าปกติผมเป็นคนที่แก้ปัญหาและหาทางออกให้ตัวเองได้เสมอ
แต่ตอนนี้ผมคบกับผู้หญิงอยู่คนนึง เธอห่างกับผมประมาณ6ปีได้ครับ
เค้าสั่งให้ผมฟังเพลงหวงของปาน ทุกวันวันละ2รอบ ขู่จะตบผมสารพัด
ป้าว่าเค้าโรคจิตป่าวครับ ผมกลัวจริงๆ :slime_shy:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 28-11-2007, 21:31
เรียนป้าศิแรงที่นับถือ


ผมมีปัญหาอยู่ว่าปกติผมเป็นคนที่แก้ปัญหาและหาทางออกให้ตัวเองได้เสมอ
แต่ตอนนี้ผมคบกับผู้หญิงอยู่คนนึง เธอห่างกับผมประมาณ6ปีได้ครับ
เค้าสั่งให้ผมฟังเพลงหวงของปาน ทุกวันวันละ2รอบ ขู่จะตบผมสารพัด
ป้าว่าเค้าโรคจิตป่าวครับ ผมกลัวจริงๆ :slime_shy:

หลานแสงโสม

ชื่อของหลานนี่ฟังแล้วท่าทางจะเมาดี และหลานก็ท่าทางจะได้ที่แล้ว ถึงได้เรียกชื่อป้าพิกลแบบนั้น  :slime_smile2:

คนเราส่วนมาก ก็มักจะ "แก้ปัญหาและหาทางออกให้ตัวเองได้เสมอ" แต่วิธีแก้ปัญหานั้นๆ บางทีก็แก้เหมือนลิงแก้แห คือยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง และการหาทางออกให้ตัวเองได้เสมอนั้น ทางออกที่ว่า บางครั้งก็ออกไปได้ครู่เดียว แล้วก็ต้องหงายหลังกลับมาบ่อยๆ

หลานคบกับผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง จากที่ป้าอ่านจดหมายของหลานมา ก็พอเดาได้ว่าหลานเป็นผู้ชาย ดังนั้นป้าก็อนุโมทนาด้วย ที่หลานชอบได้ถูกเพศแล้ว แต่ตรงที่บอกมาว่า อายุห่างกัน 6 ปีนั้น หลานบอกมาไม่ชัดเจนว่า ใครแซงหน้าใครไป 6 ปี

หากผู้หญิงนางนั้น อ่อนกว่าหลาน 6 ปี แล้วสั่งให้หลานฟังเพลงหวงของปาน ทุกวันวันละ2รอบ ขู่จะตบหลานสารพัด ป้าว่าหลานก็ไม่น่าวิตกกังวลอะไรมากนัก เด็กสาวๆก็เป็นแบบนี้แหละจ๊ะ รักใครก็ย่อมหวงเป็นธรรมดา หากแฟนทำท่าจะมีกิ๊ก ก็ต้องโกรธและมีลงไม้ลงมือกันนิดหน่อย เข้าทำนองพ่อแง่แม่งอน หนังไทยอย่างไรก็อย่างนั้น ง้อๆเสียหน่อยเดี๋ยวก็หายโกรธ

แต่หากผู้หญิงนางนั้นแก่กว่าหลาน 6 ปี คราวนี้ป้าว่าท่าทางมันจะยุ่ง เพราะป้าลองเอาใจตัวเองเป็นที่ตั้ง หากหญ้าอ่อนของป้าริไปมีกิ๊ก มรึงตายยยย

ป้าสรุปว่า เค้าไม่เป็นโรคจิตหรอกจ๊ะ แต่สำหรับหลานนั้น อนาคตไม่แน่นัก

ศิลาแลง



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 28-11-2007, 22:22
ขอ(แอบ) ฮา...ก่อนนะคะ  :slime_bigsmile: :slime_smile2: :slime_bigsmile:

ขอเรียนถามคุณป้าก่อนนอนค่ะว่า

สมมติ นะคะ สมมติ ว่า ผลการเลือกตั้งออกมาโป๊ะแตก...ใกล้เคียงกับสันติบาลโพลอย่างมีนัยสำคัญ พวกเราที่รักความยุติธรรม เป็นปฏิปักษ์กับทั่นเหลี่ยม จะทำอย่างไรดีคะ ?

1. เปิดแฟรนไชส์ กระดานข่าว "ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด" = จำนวนสาขาของ ชิกจับอิก (7-11)

2. แจกหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน" ให้กับทุกอบต. ทั่วประเทศ

หรือคุณป้ามีทางเลือกอื่นอีกป่าวคะ ขอน้อมรับฟังคำแนะนำตักเตือนเจ้าค่ะ

 :slime_sleeping: :mrgreen: :slime_sleeping:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 29-11-2007, 00:25
       ขอบคุณท่านป้าศิลาแลงมากครับที่ไขข้อข้องใจให้กระจ่าง ทำให้ตอนนี้ผมมีความมั่นใจมากขึ้น ทำให้ผมกล้าไปสารภาพรักกับเจ้าหล่อนขึ้นมาครับ ซึ่งเธอก็ยินดีตอบตกลงเป็นแฟนผมแล้วครับ :slime_bigsmile:

       แต่ตอนนี้ผมพบปัญหาใหม่อีกแล้วครับ เป็นเรื่องที่ขัดใจผมมากจริงๆ คราวนี้ไม่ใช่ปัญหาหัวใจครับ แต่เป็นเรื่องอาหารการกิน คือเจ้าหล่อนชอบกินต้มฟักแม้วมากครับ ส่วนผลไม้ก็ชอบกินชมพู่แขกดำ เธออยากกินอะไรก็กินไปครับ ผมไม่เคยบังคับ แต่เจ้าหล่อนชอบบังคับให้ผมไปกินข้าวที่เจ้าหล่อนทำทุกมื้อ สำรับคาวหวานก็มีดังนี้ละครับ ต้มหวัด(นก)ไก่ใส่ฟักแม้ว กับผลไม้คือชมพู่แขกดำ กับเค้กรูปสี่เหลี่ยม แรกๆเพราะรักก็ยังพอทนได้ครับ ตอนนี้ชักจะไม่ไหวประสาทจะกิน ในสมองมันสั่งแต่ว่าคว่ำโต๊ะๆ แต่ร่างกายมันยังไม่สำแดงอาการออกมาเท่านั้นเองครับ

       อ้อ...คุณป้าครับ อาหารโปรดของผมก็คือ ผัดขิงแก่ครับ แต่เจ้าหล่อนเกลียดมากยืนยันให้ผมเลิกกินอาหารชนิดนี้ให้ได้ ถ้าทนไม่ไหวจริงๆให้เอาขิงเน่ามากินแทน ทุกวันนี้แทบกระอักอยู่แล้วครับ ผมควรทนคบเจ้าหล่อนต่อไปดีหรือเปล่าวานคุณป้าตอบด่วนเลยนะครับ จะไม่ลืมพระคุณครับ



       มะ ช่างอุตฯ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ ที่ 29-11-2007, 01:40
หลานแสงโสม

ชื่อของหลานนี่ฟังแล้วท่าทางจะเมาดี และหลานก็ท่าทางจะได้ที่แล้ว ถึงได้เรียกชื่อป้าพิกลแบบนั้น  :slime_smile2:

คนเราส่วนมาก ก็มักจะ "แก้ปัญหาและหาทางออกให้ตัวเองได้เสมอ" แต่วิธีแก้ปัญหานั้นๆ บางทีก็แก้เหมือนลิงแก้แห คือยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง และการหาทางออกให้ตัวเองได้เสมอนั้น ทางออกที่ว่า บางครั้งก็ออกไปได้ครู่เดียว แล้วก็ต้องหงายหลังกลับมาบ่อยๆ

หลานคบกับผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง จากที่ป้าอ่านจดหมายของหลานมา ก็พอเดาได้ว่าหลานเป็นผู้ชาย ดังนั้นป้าก็อนุโมทนาด้วย ที่หลานชอบได้ถูกเพศแล้ว แต่ตรงที่บอกมาว่า อายุห่างกัน 6 ปีนั้น หลานบอกมาไม่ชัดเจนว่า ใครแซงหน้าใครไป 6 ปี

หากผู้หญิงนางนั้น อ่อนกว่าหลาน 6 ปี แล้วสั่งให้หลานฟังเพลงหวงของปาน ทุกวันวันละ2รอบ ขู่จะตบหลานสารพัด ป้าว่าหลานก็ไม่น่าวิตกกังวลอะไรมากนัก เด็กสาวๆก็เป็นแบบนี้แหละจ๊ะ รักใครก็ย่อมหวงเป็นธรรมดา หากแฟนทำท่าจะมีกิ๊ก ก็ต้องโกรธและมีลงไม้ลงมือกันนิดหน่อย เข้าทำนองพ่อแง่แม่งอน หนังไทยอย่างไรก็อย่างนั้น ง้อๆเสียหน่อยเดี๋ยวก็หายโกรธ

แต่หากผู้หญิงนางนั้นแก่กว่าหลาน 6 ปี คราวนี้ป้าว่าท่าทางมันจะยุ่ง เพราะป้าลองเอาใจตัวเองเป็นที่ตั้ง หากหญ้าอ่อนของป้าริไปมีกิ๊ก มรึงตายยยย

ป้าสรุปว่า เค้าไม่เป็นโรคจิตหรอกจ๊ะ แต่สำหรับหลานนั้น อนาคตไม่แน่นัก

ศิลาแลง




ขอบคุณครับ ค่อยสบายใจหน่อย   :slime_smile:

(แต่สำหรับหลานนั้น อนาคตไม่แน่นัก) :slime_doubt: :slime_doubt:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 29-11-2007, 08:53
ขอ(แอบ) ฮา...ก่อนนะคะ  :slime_bigsmile: :slime_smile2: :slime_bigsmile:

ขอเรียนถามคุณป้าก่อนนอนค่ะว่า

สมมติ นะคะ สมมติ ว่า ผลการเลือกตั้งออกมาโป๊ะแตก...ใกล้เคียงกับสันติบาลโพลอย่างมีนัยสำคัญ พวกเราที่รักความยุติธรรม เป็นปฏิปักษ์กับทั่นเหลี่ยม จะทำอย่างไรดีคะ ?

1. เปิดแฟรนไชส์ กระดานข่าว "ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด" = จำนวนสาขาของ ชิกจับอิก (7-11)

2. แจกหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน" ให้กับทุกอบต. ทั่วประเทศ

หรือคุณป้ามีทางเลือกอื่นอีกป่าวคะ ขอน้อมรับฟังคำแนะนำตักเตือนเจ้าค่ะ

 :slime_sleeping: :mrgreen: :slime_sleeping:

หลานเม่ย

โพลของสันติบาลนั้น ต้องฟังหูไว้หู เพราะลองนึกภาพตำรวจสันติบาล มาเดินถือโพยสอบถาม (โพยนะจ๊ะ ถือโพยมาทำโพล) ชาวบ้านที่ถูกสอบถามคงยิ้มกะเรี่ยกะราด และพยายามตอบเอาใจว่าตำรวจเค้าอยากได้คำตอบอะไร เพื่อความปลอดภัย ควรตอบให้เข้าท่า เช่นถามพาดพิงถึงอดีตนายกที่เป็นตำรวจ ก็น่าจะตอบว่าใช่ๆๆไว้ก่อน

แต่อันที่จริงเท่าที่ป้าทราบมา เมื่อนายสั่งให้ทำโพล ลูกน้องก็รีบทำสนอง และไม่ได้ออกมาเร่สุ่มกลุ่มตัวอย่าง แต่ได้ส่งโพยสอบถามโพลนั้นไปตามแฟลตตำรวจสันติบาล ซึ่งบรรดาแม่บ้านที่ต้องตอบแบบสอบถาม ก็สุมหัวกันให้ข้อมูลอันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นั่นคือเดาว่านายเขาจะเอาอะไร ตอบไว้ไม่ให้ตัวเองเดือดร้อนไปก่อน เรื่องมันเลยเป็นอย่างที่ว่า

แต่หากโป๊ะมันแตกดังโพล๊ะจริงๆ นั่นคือ กกต.ของป้าสด ไม่สามารถจับได้ไล่ทันการซื้อเสียง ก็เป็นที่แน่นอนว่าในภาคผีปอบ และภาคผีเจ๊า คงจะเทคะแนนแลกเงินเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลให้พวกปล้นชาติได้เก้าอี้มากมาย ถึงตอนนั้น เราไม่ต้องทำอะไรจ๊ะ รับรองมีคนทำแทน และเขาจะทำได้เก่งกว่าเรา

เพราะสุดท้ายแล้ว นอกจากสัมภเวสี นักการเมืองโสโครกไม่กี่พันตัว ผู้มีอำนาจมีบารมีมีศักยภาพ เขารู้ดีว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ คือการเลือกว่า เราจะมีระบบการปกครองแบบไหน เพราะเสียงส่วนใหญ่นั้นขายได้ แต่สร้างชาติบ้านเมืองไม่ได้

หลานจึงไม่ต้องเดือดร้อนเปิดสาขา หรือแจกหนังสือฟรีจ๊ะ สาขานั้นเปิดได้ก็ดี แต่หนังสือนั้น แจกให้ควายไป มันก็อ่านไม่รู้เรื่อง

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 29-11-2007, 09:01
       ขอบคุณท่านป้าศิลาแลงมากครับที่ไขข้อข้องใจให้กระจ่าง ทำให้ตอนนี้ผมมีความมั่นใจมากขึ้น ทำให้ผมกล้าไปสารภาพรักกับเจ้าหล่อนขึ้นมาครับ ซึ่งเธอก็ยินดีตอบตกลงเป็นแฟนผมแล้วครับ :slime_bigsmile:

       แต่ตอนนี้ผมพบปัญหาใหม่อีกแล้วครับ เป็นเรื่องที่ขัดใจผมมากจริงๆ คราวนี้ไม่ใช่ปัญหาหัวใจครับ แต่เป็นเรื่องอาหารการกิน คือเจ้าหล่อนชอบกินต้มฟักแม้วมากครับ ส่วนผลไม้ก็ชอบกินชมพู่แขกดำ เธออยากกินอะไรก็กินไปครับ ผมไม่เคยบังคับ แต่เจ้าหล่อนชอบบังคับให้ผมไปกินข้าวที่เจ้าหล่อนทำทุกมื้อ สำรับคาวหวานก็มีดังนี้ละครับ ต้มหวัด(นก)ไก่ใส่ฟักแม้ว กับผลไม้คือชมพู่แขกดำ กับเค้กรูปสี่เหลี่ยม แรกๆเพราะรักก็ยังพอทนได้ครับ ตอนนี้ชักจะไม่ไหวประสาทจะกิน ในสมองมันสั่งแต่ว่าคว่ำโต๊ะๆ แต่ร่างกายมันยังไม่สำแดงอาการออกมาเท่านั้นเองครับ

       อ้อ...คุณป้าครับ อาหารโปรดของผมก็คือ ผัดขิงแก่ครับ แต่เจ้าหล่อนเกลียดมากยืนยันให้ผมเลิกกินอาหารชนิดนี้ให้ได้ ถ้าทนไม่ไหวจริงๆให้เอาขิงเน่ามากินแทน ทุกวันนี้แทบกระอักอยู่แล้วครับ ผมควรทนคบเจ้าหล่อนต่อไปดีหรือเปล่าวานคุณป้าตอบด่วนเลยนะครับ จะไม่ลืมพระคุณครับ

       มะ ช่างอุตฯ

หลานมะ

เรื่องอาหารนั้น คนเราควรกินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน ดังนั้นพระที่เคร่งๆบางองค์ท่านก็ฉันสำรวม คือนำอาหารมาใส่ไว้ในภาชนะเดียวกัน แล้วฉันโดยไม่เลือกตัก ตักสิ่งไรได้ก็ฉันเข้าไป ไม่เลือกคาวหวาน ซึ่งบางองค์นั้นต้องการตัดกิเลสให้หนักข้อเข้าไปอีก จึงคนอาหารนั้นเสียก่อน ญาติโยมที่เห็นบางท่านก็เข้าใจผิดว่า การฉันสำรวมนั้นคือการกินข้าวหมู ที่ปนกันเขละขละ ซึ่งความจริงมันไม่ใช่

หลานเองถึงแม้จะยังไม่ได้อยู่ในเพศสมณะ ก็ควรละวางเรื่องอาหารเสียบ้าง แฟนทำอะไรมาให้กินก็กินๆเข้าไป การมีปัญหาเรื่องอาหารที่แฟนทำมาให้กินนั้น ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ในโลกนี้ แม้แต่ผู้นำที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน หากเมียทำอาหารมาให้แล้วไม่กิน เลือกไปกินอาหารที่คนอื่นทำมาให้ พาลจะซวยเอาง่ายๆ บริวารนับแสนนับล้านก็ช่วยอะไรไม่ได้

โดยเฉพาะอาหารที่แฟนของหลานทำมาให้นั้น สมควรกินเป็นอย่างยิ่ง เพราะพวกฟักแม้ว หรือชมพู่เน่า เมื่อกินเข้าไปแล้วจะทำให้รู้อนาคต อนาคตที่ว่านั้นคือ ฟักแม้วและชมพู่ อนาคตของมันคือ อุจจาระ

อย่าลืมแอบตบท้ายอาหารด้วยขิงแก่ เพราะช่วยไล่ลมในกระเพาะให้ออกทางที่ถูกที่ควร ทางที่ว่านั้นคือเส้นทางอนาคตของฟักแม้วและชมพู่เน่าจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 29-11-2007, 12:25
       ขอบคุณท่านป้าศิลาแลงมากครับที่ไขข้อข้องใจให้กระจ่าง ทำให้ตอนนี้ผมมีความมั่นใจมากขึ้น ทำให้ผมกล้าไปสารภาพรักกับเจ้าหล่อนขึ้นมาครับ ซึ่งเธอก็ยินดีตอบตกลงเป็นแฟนผมแล้วครับ :slime_bigsmile:

       แต่ตอนนี้ผมพบปัญหาใหม่อีกแล้วครับ เป็นเรื่องที่ขัดใจผมมากจริงๆ คราวนี้ไม่ใช่ปัญหาหัวใจครับ แต่เป็นเรื่องอาหารการกิน คือเจ้าหล่อนชอบกินต้มฟักแม้วมากครับ ส่วนผลไม้ก็ชอบกินชมพู่แขกดำ เธออยากกินอะไรก็กินไปครับ ผมไม่เคยบังคับ แต่เจ้าหล่อนชอบบังคับให้ผมไปกินข้าวที่เจ้าหล่อนทำทุกมื้อ สำรับคาวหวานก็มีดังนี้ละครับ ต้มหวัด(นก)ไก่ใส่ฟักแม้ว กับผลไม้คือชมพู่แขกดำ กับเค้กรูปสี่เหลี่ยม แรกๆเพราะรักก็ยังพอทนได้ครับ ตอนนี้ชักจะไม่ไหวประสาทจะกิน ในสมองมันสั่งแต่ว่าคว่ำโต๊ะๆ แต่ร่างกายมันยังไม่สำแดงอาการออกมาเท่านั้นเองครับ

       อ้อ...คุณป้าครับ อาหารโปรดของผมก็คือ ผัดขิงแก่ครับ แต่เจ้าหล่อนเกลียดมากยืนยันให้ผมเลิกกินอาหารชนิดนี้ให้ได้ ถ้าทนไม่ไหวจริงๆให้เอาขิงเน่ามากินแทน ทุกวันนี้แทบกระอักอยู่แล้วครับ ผมควรทนคบเจ้าหล่อนต่อไปดีหรือเปล่าวานคุณป้าตอบด่วนเลยนะครับ จะไม่ลืมพระคุณครับ



       มะ ช่างอุตฯ

คุณริวเซย์ ไปกินหมูผัดขิงกับอธิฏฐานดีกว่าค่ะ  รับรองว่าท้องไม่อืดแน่


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 29-11-2007, 13:44
       สวัสดีค่ะคุณป้าศิลาแลง หนูแอบติดตามกระทู้นี้ของคุณป้ามานานแล้ว มีเรื่องอยากปรึกษาแต่ก็อายค่ะ แบบว่ากล้าๆกลัวๆ เรื่องนี้มันเป็นความลับของผู้หญิงน่ะค่ะ แต่ถ้าหนูไม่พึ่งป้าก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว คุณป้าศิลาแลงช่วยตอบปัญหาของหนูหน่อยนะคะ

       1.หนูเป็นคนตัวอ้วนใหญ่มากเลยค่ะ เริ่มเป็นแบบนี้มาตั้งแต่อนุบาลแล้วไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง แต่ป๊าม๊าหนูใจดีมากค่ะ หนูงอแงจะกินอะไรท่านไม่เคยห้ามอยากจะกินอะไรก็ให้กินเต็มที่ บางครั้งถ้าไม่จุใจพอหนูก็ใช้กะละมังแทนชามค่ะ จนญาติๆชอบพูดว่าหนูเป็นลูกผีภูเขาเอามาทิ้ง ไม่ทราบว่าญาติเขาพูดจริงหรือเปล่าคะ?

       2.ตอนสมัยอยู่โรงเรียนอนุบาล ประถม มัธยม พวกเด็กเกรียน เด็กโจ๋ ไม่มีใครกล้าแกล้งหนูเลยค่ะ มีแต่หนูไปแกล้งเขาค่ะ สนุกดี ถ้าหนูโมโหหิวก็ตบพวกนี้หัวคว่ำไป2-3ราย ตั้งแต่นั้นมาไอ้พวกนี้ก็เชิญหนูไปเป็นหัวหน้าใหญ่บ้าง มาชวนหนูไปตีต่อยกับพวกโรงเรียนอื่นบ้าง พวกผู้ชายนี่รุนแรงป่าเถื่อนจังเลยนะป้าขา?

       3.เรื่องที่รำคาญใจหนูตอนนี้ก็คือป๊าพยายามส่งหนูเข้าประกวศเทพีช้างน่ะค่ะ บอกว่าจะเป็นสปอร์นเซอร์ให้หนูเต็มที่ หนูควรลงสมัครดีไหมคะ?

       4.น้องชายหนูชอบล้อเลียนหาว่าร่างกายหนูเป็นเกราะตะปุ่มตะปั่มเหมือนปู เตะต่อยไม่เข้า ก็เลยยืมหนูมาเป็นกระสอบทราย พอน้องชายชกไปได้สักพักหนูรำคาญก็เลยตบสลบไปเลย หนูใจร้ายไปไหมคะ หนูควรปล่อยให้น้องชายฝึกซ้อมเอาหนูเป็นกระสอบทรายต่อไปรึเปล่า?

       5.หนูไปว่ายน้ำทีไร พวกเด็กเล็กๆจะชอบว่ายมาเกาะตัวหนูเต็มไปหมด หนูไล่ก็ไม่ฟัง ก็เลยตบเลือดกลบปากไปรายนึงถึงจะยอมฟังน่ะค่ะ พอไปถามเด็กดีๆพวกเด็กบอกว่านึกว่าหนูเป็นทุ่น หนูควรทำยังไงดีคะเวลาหนูไปว่ายน้ำจะไม่ให้เด็กเข้าใจผิดว่าเป็นทุ่นแล้วมาเกาะตัวหนู?

       6.ถึงกระนั้นนะคะคุณป้า เชื่อไหมคะว่าหนูก็มีแฟนค่ะ แฟนหนูน่ารักมากเลยค่ะแกบอกว่าชอบผู้หญิงอ้วนค่ะ เคยคบมาก็หลายคน จะเลือกแต่ผู้หญิงอ้วนๆเท่านั้น แต่ไซส์ขนาดหนูนี่เพิ่งเคยเจอครั้งแรก สรุปว่าความอ้วนไม่ใช่ปัญหาสำหรับการคบหากันนะคะ แต่ปัญหาคือเวลาหนูขึ้นรถเก๋งของแฟนสิคะ สปริงโชร์คด้านที่หนูนั่งต้องงอแตกไปทุกที แฟนหนุไปเปลี่ยนโชร์คแบบแข็งพิเศษมาก็ยังรับน้ำหนักหนูไม่ไหวอยู่ดีค่ะ บางครั้งลูกปืนรถก็แตก หนูกลุ้มใจมากเลยค่ะ อยากไปไหนมาไหนกับแฟนได้อย่างเป็นปกติแบบชาวบ้านเขาบ้าง หนูควรแนะนำแฟนว่ายังไงดีคะ?

       7.ระยังหลังมานี้เวลาหนูใส่ยกทรงหรือกกน.มันจะรัดแน่นจนก้อนไขมันตรงสีข้างหนูมันจะพลุ้ยออกมาแล้วกระทบกับไขมันอีกที่นึงเสียงดัง แพล่บๆๆๆๆ รำคาญหูมากเลยค่ะ มีวิธีไหนที่จะกำจัดเสียงนี้ได้ไหมคะ?

       8.ข้อสุดท้ายแล้วค่ะ หนูเป็นคนใจร้อนมากค่ะ ยาลดความอ้วนมันชะลอการเพิ่มน้ำหนักของหนูได้แค่เดือนละ2-3โลเอง หนูก็เลยไปหาหมอศัลยกรรม ไปปรึกษาหมอเพื่อลดน้ำหนักลงสัก20โลในคราวเดียว หมอผู้ชายคนนั้นท่าทางยียวนตอบหนูมาว่าลดทีเดียวใน20โลเห็นจะมีวิธีเดียวคือตัดขาทิ้งไปข้างนึงรับรองลดทันทีเกิน20โลแน่นอน คุณป้ามีวิธีอื่นที่ลดสัก20โลในคราวเดียวไหมคะ หนูมีความใฝ่ฝันอยากผอมบ้างค่ะในชาตินี้?

       คุณป้าศิลาแลงช่วยตอบปัญหาหนูด่วนเลยนะคะ หนูเชื่อว่ามีผู้หญิงอีกมากที่ประสบปัญหาเดียวกับหนูตอนนี้ ขอบคุณค่ะ

       หวังเฮยจู สาวหมวยเนื้อปริ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 29-11-2007, 16:59
มุกนี้ร้ายกาจมากค่ะ ท่านริวเซย์ -- >>"หวังเฮยจู"   -- ใครสะเทือนบ้างมั้ยรุ  :slime_smile2: :mrgreen: :slime_smile2:



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 29-11-2007, 18:24
หลาน หวังเฮยจู

อ่านปัญหาของหลานแล้วป้าต้องตบอก ร้องอุทานอกอีแลงแตก อะไรมันจะรันทดจนาดนั้น เอ๊ะ แต่รันทดหรือเปล่าป้าก็ไม่แน่ใจนัก เอาเป็นว่าตอบคำถามของหลานทีละข้อดีกว่านะ

อ้างถึง
1.หนูเป็นคนตัวอ้วนใหญ่มากเลยค่ะ เริ่มเป็นแบบนี้มาตั้งแต่อนุบาลแล้วไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง แต่ป๊าม๊าหนูใจดีมากค่ะ หนูงอแงจะกินอะไรท่านไม่เคยห้ามอยากจะกินอะไรก็ให้กินเต็มที่ บางครั้งถ้าไม่จุใจพอหนูก็ใช้กะละมังแทนชามค่ะ จนญาติๆชอบพูดว่าหนูเป็นลูกผีภูเขาเอามาทิ้ง ไม่ทราบว่าญาติเขาพูดจริงหรือเปล่าคะ?

รูปธรรมนามธรรม คนเราเกิดมาก็ไม่เหมือนกัน มีทั้งผอมบาง ล่ำบึ๊ก อวบอัด แห้งเหี่ยว และอีกหลายสัดส่วน ไม่มีใครรู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเกิดกันมาเป็นแบบนั้น บ้างก็ว่าบุญกรรมแต่ชาติปางก่อน บ้างก็ว่ากรรมพันธ์ หลายคนนิยมไปปรึกษาหญิงอ้วนห่มขาว ที่อ้างว่านั่งบริกรรมแล้วรู้ชาติปางก่อนของผู้อื่น สรุปแล้วก็คือมันเป็นธรรมชาติจ๊ะ เกิดมาแล้วแก้ไขไม่ได้ หรือแก้ได้ก็นิดหน่อย อย่างไปใส่ใจกับมันมากนักเลย ส่วนเรื่องปากคนอย่างญาติของหนูนั้น หากหนูเป็นลูกผีภูเขาอย่างเขาว่าจริง ไอ้คนพูดมันก็น่าจะเป็นเปรตปากรูเข็มมาเกิด เพราะเป็นญาติกันนี่นา

อ้างถึง
2.ตอนสมัยอยู่โรงเรียนอนุบาล ประถม มัธยม พวกเด็กเกรียน เด็กโจ๋ ไม่มีใครกล้าแกล้งหนูเลยค่ะ มีแต่หนูไปแกล้งเขาค่ะ สนุกดี ถ้าหนูโมโหหิวก็ตบพวกนี้หัวคว่ำไป2-3ราย ตั้งแต่นั้นมาไอ้พวกนี้ก็เชิญหนูไปเป็นหัวหน้าใหญ่บ้าง มาชวนหนูไปตีต่อยกับพวกโรงเรียนอื่นบ้าง พวกผู้ชายนี่รุนแรงป่าเถื่อนจังเลยนะป้าขา?

ความรุนแรงป่าเถื่อนนั้นไม่จำกัดเพศ ผู้หญิงเห็นหงิมๆเรียบร้อย บทจะโมโหขึ้นมาก็รุนแรงป่าเถื่อนจนแรมโบ้ได้อาย เรื่องอย่างนี้มันเป็นพรสวรรค์เฉพาะตัว ยากที่จะเลียนแบบกันได้ อีกอย่างหนึ่ง คนที่ชอบใช้กำลังนั้น ก็มักจะเป็นพวกที่คิดว่าคนอื่นกำลังสู้ตนเองไม่ได้ หากหนูพบคนที่สามารถกว่า ตบหนูคว่ำไปบ้างสักสองสามหน ฟันหลุดไปสักสองสามซี่ นิสัยหนูก็จะดีขึ้นมาเอง หากหนูหาคนแบบนั้นไม่พบ ป้าแนะนำให้ไปหาลูกชายของรองหัวหน้าพรรคปล้นชาติ ลูกเขามีสามคน เลือกคนไหนก็ได้ หรือจะเลือกทั้งสามคนก็ไม่ผิดกติกา ป้ารับรองว่า อาการของหนูจะหายสนิท

อ้างถึง
3.เรื่องที่รำคาญใจหนูตอนนี้ก็คือป๊าพยายามส่งหนูเข้าประกวศเทพีช้างน่ะค่ะ บอกว่าจะเป็นสปอร์นเซอร์ให้หนูเต็มที่ หนูควรลงสมัครดีไหมคะ?

ถ้ารำคาญใจก็อย่าลงสมัคร แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าลงไปแล้วจะแพ้หรือไม่ ก็น่าลองดู ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน เมื่อเข้าประกวดแล้วหนูก็จะรู้ค่าของตัวเอง ว่าเหมาะกับตำแหน่งเทพีช้าง หรือจะเป็นได้แค่เทพีอึ่งอ่าง

อ้างถึง
4.น้องชายหนูชอบล้อเลียนหาว่าร่างกายหนูเป็นเกราะตะปุ่มตะปั่มเหมือนปู เตะต่อยไม่เข้า ก็เลยยืมหนูมาเป็นกระสอบทราย พอน้องชายชกไปได้สักพักหนูรำคาญก็เลยตบสลบไปเลย หนูใจร้ายไปไหมคะ หนูควรปล่อยให้น้องชายฝึกซ้อมเอาหนูเป็นกระสอบทรายต่อไปรึเปล่า?

คนเราเมื่อเกิดมาผิดแปลกกว่าคนอื่น ก็มักจะมีคนชอบล้อเลียน หนูเองก็ตลุยมาสิบทิศ ตบใครต่อใครคว่ำไปก็หลายคน ควรหัดตบน้องชายดูบ้าง เผื่อจะมีมธุรสวาจากับเขาขึ้นมาบ้าง การที่น้องชายยืมตัวหนูไปทำกระสอบทราย แล้วหนูไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับพลังหมัดและเท้าของเขา ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า หนูมีคุณสมบัติพิเศษ หากเกิดในเมืองจีน น่าจะปลอมตัวไปบวชที่เส้าหลิน เพราะวิชาคางคกเหล็กเช่นนี้ เส้าหลินเขาทำหายสาปสูญไปนานแล้ว ส่วนหนูจะให้น้องชายยืมตัวไปทำกระสอบทรายต่อไปดีไหม มันอยู่ที่ใจหนูจ๊ะ

อ้างถึง
5.หนูไปว่ายน้ำทีไร พวกเด็กเล็กๆจะชอบว่ายมาเกาะตัวหนูเต็มไปหมด หนูไล่ก็ไม่ฟัง ก็เลยตบเลือดกลบปากไปรายนึงถึงจะยอมฟังน่ะค่ะ พอไปถามเด็กดีๆพวกเด็กบอกว่านึกว่าหนูเป็นทุ่น หนูควรทำยังไงดีคะเวลาหนูไปว่ายน้ำจะไม่ให้เด็กเข้าใจผิดว่าเป็นทุ่นแล้วมาเกาะตัวหนู?

เด็กๆอ่อนประสบการณ์ แยกแยะโฉมงามและทุ่นชูชีพไม่ออก หนูควรให้ความกรุณาปราณีกับพวกเขานะจ๊ะ อีกอย่างหนึ่ง หุ่นขนาดหนูเมื่อลงสระน้ำ น้ำย่อมล้นออกมาจากสระมากมาย เกิดเกลียวคลื่นอลวน เด็กๆอาจจะคิดว่าสึนามิมา จึงหาหลักยึดเกาะเพื่อความปลอดภัย การที่คนเขาคิดว่าเราเป็นทุ่นลอยน้ำมา ก็น่าจะดีกว่าเขาคิดว่าเป็นหมูตายขึ้นอีดลอยน้ำมาไม่ใช่หรือ

อ้างถึง
6.ถึงกระนั้นนะคะคุณป้า เชื่อไหมคะว่าหนูก็มีแฟนค่ะ แฟนหนูน่ารักมากเลยค่ะแกบอกว่าชอบผู้หญิงอ้วนค่ะ เคยคบมาก็หลายคน จะเลือกแต่ผู้หญิงอ้วนๆเท่านั้น แต่ไซส์ขนาดหนูนี่เพิ่งเคยเจอครั้งแรก สรุปว่าความอ้วนไม่ใช่ปัญหาสำหรับการคบหากันนะคะ แต่ปัญหาคือเวลาหนูขึ้นรถเก๋งของแฟนสิคะ สปริงโชร์คด้านที่หนูนั่งต้องงอแตกไปทุกที แฟนหนุไปเปลี่ยนโชร์คแบบแข็งพิเศษมาก็ยังรับน้ำหนักหนูไม่ไหวอยู่ดีค่ะ บางครั้งลูกปืนรถก็แตก หนูกลุ้มใจมากเลยค่ะ อยากไปไหนมาไหนกับแฟนได้อย่างเป็นปกติแบบชาวบ้านเขาบ้าง หนูควรแนะนำแฟนว่ายังไงดีคะ?

ผู้ชายบางคนก็ชอบของแปลก ป้าอ่านข่าวของซ้อเจ็ดก็ยังอดพิศวงไม่ได้ หน้าเหลี่ยมๆบางคนก็ชอบเหนียงยานๆ ใช้งานนานหลายปี ขอให้มีชื่อเสียงบ้างก็ต้องขอลอง สงสัยจะเอาไว้คุยว่าได้ลองมาแล้ว ว่าแต่แฟนของหลานนั้นมีอะไรผิดปกติไหม หรือว่าจบมาจากโรงเรียนราชานุกูลแถวดินแดง อันนี้ป้าค่อนข้างจะสงสัย เรื่องรถยนต์นั้นป้าไม่ชำนาญนัก อะไรมันเสียก็ปล่อยให้ช่างเขาจัดการ แต่เท่าที่ป้าเห็นมา ขนาดรถขนหมูไปโรงเชือด เขาขนหมูอ้วนทีละหลายสิบตัว ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร ป้าแนะนำให้หนูไปแนะนำให้แฟนเปลี่ยนรถจ๊ะ เอารถขนหมูนั่นแหละเหมาะดี

อ้างถึง
7.ระยังหลังมานี้เวลาหนูใส่ยกทรงหรือกกน.มันจะรัดแน่นจนก้อนไขมันตรงสีข้างหนูมันจะพลุ้ยออกมาแล้วกระทบกับไขมันอีกที่นึงเสียงดัง แพล่บๆๆๆๆ รำคาญหูมากเลยค่ะ มีวิธีไหนที่จะกำจัดเสียงนี้ได้ไหมคะ?

ปัญหานั้นเราต้องแก้ที่ต้นเหตุ สำหรับกรณีของหนูนั้น ป้าก็ไม่เข้าใจว่าหนูจะไปยกทรงมันทำไม และถ้าจะยกน่าจะใช้ฟอร์กลิฟท์ หรือแม่แรงขนาดสิบตัน ไม่ควรใช้ วาโก้ ซาบีน่า เพราะของอย่างนั้น เขาเอาไว้ยกอะไรที่มันนุ่มนวล ไม่ใช่ยกมันหมู ป้าแนะนำว่า สาวมั่นอย่างหนู ไม่ต้องใส่สองอย่างที่ถามมาก็ได้ ป้าเชื่อว่า ไขมันอันอุดมของหนู คงจะย้อยลงมาปิดบังอวัยวะพึงสงวนไว้ได้จนมิดชิด อีกอย่าง หนูอาจจะเป็นผู้นำแฟชั่นคนใหม่ก็ได้

อ้างถึง
8.ข้อสุดท้ายแล้วค่ะ หนูเป็นคนใจร้อนมากค่ะ ยาลดความอ้วนมันชะลอการเพิ่มน้ำหนักของหนูได้แค่เดือนละ2-3โลเอง หนูก็เลยไปหาหมอศัลยกรรม ไปปรึกษาหมอเพื่อลดน้ำหนักลงสัก20โลในคราวเดียว หมอผู้ชายคนนั้นท่าทางยียวนตอบหนูมาว่าลดทีเดียวใน20โลเห็นจะมีวิธีเดียวคือตัดขาทิ้งไปข้างนึงรับรองลดทันทีเกิน20โลแน่นอน คุณป้ามีวิธีอื่นที่ลดสัก20โลในคราวเดียวไหมคะ หนูมีความใฝ่ฝันอยากผอมบ้างค่ะในชาตินี้?

การลดความอ้วนโดยใช้ยานั้น เป็นการลดที่ผิดวิธี การควบคุมอาหารและควบคู่กับการออกกำลังกาย เป็นวิธีที่ถูกต้อง หมอที่แนะนำให้หนูตัดขาออกข้างหนึ่งนั้น น่าจะเป็นหมอที่ไม่ชำนาญ เพราะการตัดอะไรออกข้างเดียว ย่อมทำให้ร่างกายเสียสมดุลย์ ทางที่ดีถ้าจะตัด ควรตัดออกทั้งสองข้าง เพื่อความสมดุลย์ แต่ป้าคิดว่าหากหนูตัดขาออก ก็คงใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะหนูน่าจะกลิ้งได้ ไม่ลำบากในการเดินทางไปไหนๆ

แต่ถ้าหนูอยากจะลดน้ำหนักคราวเดียว 20 กิโลกรัม ป้าคิดว่า ตัดหัวออกน่าจะดีกว่า

มีผู้หญิงมากมายประสบปัญหาเดียวกับหนูจริงๆจ๊ะ แต่ป้าก็คิดว่า เขาน่าจะหาหนทางแก้ไขได้ไม่ยากนัก ต่างกับหนูซึ่งแก้ไขได้ลำบากหน่อย ไม่ลองคิดแก้ไขทางดวงชะตาบ้างหรือจ๊ะ ตายแล้วเกิดใหม่อาจจะเป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับหนู

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: อมพระมาพูด ที่ 29-11-2007, 18:36
มุกนี้ร้ายกาจมากค่ะ ท่านริวเซย์ -- >>"หวังเฮยจู"   -- ใครสะเทือนบ้างมั้ยรุ  :slime_smile2: :mrgreen: :slime_smile2:



ใครอ้ะครับคุณเม่ย ? :slime_doubt:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 29-11-2007, 18:45
ใครอ้ะครับคุณเม่ย ? :slime_doubt:

เข้าใจว่า "เฮยจู" เป็นชื่อ แปลว่า "ไข่มุกดำ" ค่ะ คุณอมพระมาพูด

แต่คุณริวเซย์จะตั้งใจให้ "ไข่มูกดำแซ่หวัง" เป็นใครบ้าง เม่ยก็ไม่ค่อยแน่ใจนักค่ะ  :mrgreen: :D :mrgreen:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: อมพระมาพูด ที่ 29-11-2007, 18:48
เข้าใจว่า "เฮยจู" เป็นชื่อ แปลว่า "ไข่มุกดำ" ค่ะ คุณอมพระมาพูด

แต่คุณริวเซย์จะตั้งใจให้ "ไข่มูกดำแซ่หวัง" เป็นใครบ้าง เม่ยก็ไม่ค่อยแน่ใจนักค่ะ  :mrgreen: :D :mrgreen:

ขอบคุณคับ ผมรู้จักแต่ "หวังฟันเจ้า" น่ะคับ อิ อิ :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 29-11-2007, 20:41
คุณริวเซย์ ไปกินหมูผัดขิงกับอธิฏฐานดีกว่าค่ะ  รับรองว่าท้องไม่อืดแน่

ขอบคุณมากครับ แต่ขิงเน่าเข็ดแล้วไม่เอานะครับ ขอเป็นขิงอ่อนจะแซ่บหลาย  :slime_inlove:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 29-11-2007, 20:49
เข้าใจว่า "เฮยจู" เป็นชื่อ แปลว่า "ไข่มุกดำ" ค่ะ คุณอมพระมาพูด

แต่คุณริวเซย์จะตั้งใจให้ "ไข่มูกดำแซ่หวัง" เป็นใครบ้าง เม่ยก็ไม่ค่อยแน่ใจนักค่ะ  :mrgreen: :D :mrgreen:

ตอบคุณเม่ยครับ  :slime_bigsmile:

คำว่า เฮยจู นอกจากจะแปลว่าไข่มุกดำ ได้แล้ว มันยังพ้องเสียงที่แปลว่าหมูดำ ได้อีกอย่างนึงครับ หมายถึงคนแซ่หวัง ชื่อหมูตัวสีดำ นะครับ  :slime_smile:

จดหมายที่ผมเขียนส่งถึงป้าศิลาแลงฉบับนั้น ไม่ได้มีเจตนาจะล้อเลียนใครเป็นการพิเศษ เป็นแค่ชื่อของตัวละครที่ผมตั้งให้เหมาะกับคอนเซ็บเท่านั้นเองครับ


ปล.ภาษาจีนผมไม่ค่อยแข็ง ถ้าใช้ภาษาผิดวานคุณเม่ยช่วยแก้ไขให้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ :slime_v:



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 30-11-2007, 19:47
ขอบคุณคับ ผมรู้จักแต่ "หวังฟันเจ้า" น่ะคับ อิ อิ :slime_bigsmile:

 :mrgreen: ค่ะ แล้วสาวเจ้าก็จะตอบกลับมาทันทีว่า "เจ้าหย่าหวัง"  :slime_smile2:


ตอบคุณเม่ยครับ  :slime_bigsmile:

คำว่า เฮยจู นอกจากจะแปลว่าไข่มุกดำ ได้แล้ว มันยังพ้องเสียงที่แปลว่าหมูดำ ได้อีกอย่างนึงครับ หมายถึงคนแซ่หวัง ชื่อหมูตัวสีดำ นะครับ  :slime_smile:

จดหมายที่ผมเขียนส่งถึงป้าศิลาแลงฉบับนั้น ไม่ได้มีเจตนาจะล้อเลียนใครเป็นการพิเศษ เป็นแค่ชื่อของตัวละครที่ผมตั้งให้เหมาะกับคอนเซ็บเท่านั้นเองครับ

โอ...ร้ายกาจกว่าที่คิดไว้เสียอีกค่ะ ...เห็นเป็นสาวหมวย เลยนึกถึงแต่ "ไข่มุก" ..ป่านนี้อาหมวยร้องไห้ขี้มูกโป่งแล้วค่ะ  :slime_smile2:

ปล.ภาษาจีนผมไม่ค่อยแข็ง ถ้าใช้ภาษาผิดวานคุณเม่ยช่วยแก้ไขให้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ :slime_v:

มิกล้า มิกล้า ภาษาจีนเม่ยก็ง่อนแง่น ขาดทั้งอาหารและวิตะมินค่ะ อาศัยเดาเสียเจ็ดส่วน เปิดดิกอีกสามส่วน และยังต้องถามผู้รู้อีกหนึ่งค่ะ

  :slime_smile:




หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 01-12-2007, 02:49
          ถึงป้าศิลาแรง

          นี่ก็เป็นจดหมายฉบับแรกที่ข้าส่งมาถึงป้าแลงที่ข้านับถือ เห็นป้าตอบปัญหาในหนังสือยังไงก็ไม่ชินที่หลานข้าเอามาฝากของขบวนการเสรีไทยแล้ว ข้าก็ทึ่งเอามากๆว่าป้าตอบไปได้ยังไงฮาขี้แตกเลยจริงๆ ข้าก็เลยนึกอุตริจะเขียนจดหมายมาคุยกับป้าสักฉบับคงไม่ว่ากันนะเพราะข้าคงไม่มีอะไรจะถามคนบางกอกอย่างป้าหรอก.....แต่ถ้าป้าจะมาเที่ยวสุพรรณบ้านข้าเมื่อไรละก็นะ ข้ายินดีต้อนรับ จะได้ให้อีหนอมเมียข้าผูกควายเทียมเกวียนไปรับ

          ที่ข้าเขียนจดหมายมาคุยก็คือเรื่องที่ข้ามีโอกาสได้ไปบางกอกครั้งแรกในชีวิตก็เมื่อปีที่แล้วนี่เอง เหตุก็เนื่องจากกำนันที่ดูแลหมู่บ้านข้าแกชอบพรรคไทยรักไทยมาก แกมาชวนสมัครพรรคพวกบอกว่าไปช่วยให้กำลังใจนายกทักษิณหน่อย ใจข้าก็แหม่งๆอยู่ อยากถามนายกทักษิณเหมือนกันว่า ที่บอกว่าจังหวัดไหนเลือกพรรคไทยรักไทยจะช่วยจังหวัดนั้นก่อนนั่นจริงรึเปล่า จะได้ไปบอกเฮียเติ้งให้เลียนแบบบ้าง กำนันบอกว่าถ้าไปเดี๋ยวมีรถทัวร์มารับแล้วจ่ายค่าเสียเวลาวันละ500บาท พวกทรท.ออกกะตังให้หมด ข้าดีใจมากเพราะไม่เคยเข้าบางกอกเลยอีกอย่างเงินที่ได้ก็มากโขอยู่ เกิดมานะป้าแลงเอ๊ย แค่ยังไม่เคยได้จับกะตังแบงค์500กับเขาซะที ถ้าข้าชวนเมียไปด้วยคงมีโอกาสได้จับกะตังแบงค์1000ก็คราวนี้แหละ กลับมาถึงบ้านข้าก็เลยชวนอีหนอมเมียที่บ้านให้ไปเที่ยวบางกอกด้วยกัน แต่มันก็อ้างสารพัด อ้างว่าห่วงลูกเสียบ้าง ห่วงควายเสียบ้าง หนักเข้ามันก็แก้ตัวว่าไม่มีกระโปรงจะนุ่ง นุ่งกระโปรงแล้วใส่เกือกก็กลัวเกือกมันจะกัด ข้าเบื่อก็เลยเลิกชวนมันแล้ว ถือว่ามันไม่มีบุญตาก็แล้วกันเนอะป้าแลง.....อย่างที่ครูโรงเรียนวัดน้อยแกว่าราษฏรอย่างเรามันต้องได้รุ้ได้เห็นบ้างเรื่องการเมือง ไม่งั้นมันจะไม่มีเสถียรภาพเสถียรแภพอะไรนี่แหละ

          เอ้า นอกเรื่องไปไกล ไหนๆเมียข้าก็ไม่ไปบางกอกแล้ว ข้าก็จะเล่าให้ป้าฟัง พ่อเลี้ยงเอี้ยงคำผู้ช่วยกำนันเขานัดพวกข้าให้ไปขึ้นรถที่ลานตากข้าวโพดบ้านตาเสริมตอนหนึ่งโมงเช้ากับอีกสามสิบนาที แต่ข้ากลัวรถมันจะออกไปเสียก่อนก็เลยไปเสียก่อนสว่างต้องไปคอยเสียย่ำแย่ พอสายหน่อยคนเขาก็ทยอยมากันเพียบเลยคึกคักอย่างกับมีงานวัดอย่างนั้นแหละ ไม่นานรถเมลล์ก็มากันเพียบเลย5-6คันแน่ะ กำนันกับพ่อเลี้ยงก็ไล่พวกข้าขึ้นรถ ขนาดรถตั้ง6คันแล้วนะ พวกข้ายังต้องยืนไปเพราะคนจะไปบางกอกเยอะเหลือเกินแน่นไปทุกคันแหละ อย่างตาเสริมบ้านหมู่5เนี่ย แกเล่นพาลูกหลานมาทั้งบ้านเลย ข้าก็ยิ้มออกมา ก็คงเหมือนข้านี่แหละวะ อยากไปบางกอกอยากรู้อยากเห็นเหมือนกับตาเสริมนั่นแหละ

          เดี๋ยวก่อนสิป้าแลง ข้ายังพูดไม่จบ ป้าอย่าเพิ่งมาขัดคอข้าสิ คอยฟังให้ดีๆเถอะ คนแห่ขึ้นรถจนแน่นมาก 6คันนี่ไปกันไม่หมดเลยทีเดียว ข้าก็โหนข้างนอกเอา กำนันเขาก็บอกให้ข้าลงแล้วกลับบ้านไปก่อน ไว้โทรไปแจ้งคุณไข่แม้วดำแล้ว จะหารถใหม่มาเสริมแล้วไปวันอื่นเอา ไอ้ข้าก็ชักฮึดขึ้นมาเหมือนกัน บอกกับเขาไปว่าก็ไปมันเที่ยวนี้แหละ ข้าลงทุนสั่งลูกสั่งเมียที่บ้านมาแล้ว กลับไปเด็กๆมันจะหัวเราะแย่ เถียงกันอยู่นาน สุดท้ายกำนันก็ใจอ่อนให้ข้าโหนไปทั้งอย่างนั้นแหละ ส่วนตัวกำนันแกนั้นเหรอ มีรถเก๋งคันงามมารอรับแกอยู่แล้ว คนเป็นกำนันนี่ดีเทียวเนอะป้า ได้นั่งรถเก๋งนักการเมืองฟรีซะด้วย ยังงี้นี่เล่าคนมันถึงแย่งกันจะเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้านกันนัก.....

          รถทัวร์ออกจากบ้านข้าแล้วก็วิ่งตรงเข้าบางกอก ข้าก็ห้อยตรงประตูไปทั้งยังงั้นแหละ ข้าก็นึกว่าช่างมันเถอะวะ นานๆจะได้ไปบางกอกเปล่าๆเสียที นั่งไม่ได้ก็ยืนมันไป ยืนไม่ได้ก็โหนมันไป ไอ้เรามันขึ้นรถของท่านทักษิณเปล่าๆ ให้ลูกเล็กเด็กแดงคนแก่ผู้หญิงเขานั่งถึงจะถูก ข้าโหนรถเมลล์ต้งนาน มองดูอะไรต่ออะไรไปตามเรื่อง เห็นไร่เห็นนาข้าวขึ้นเขียวไปหมดข้าก็พลอยสบายใจ คนอย่างข้ามันเกิดมากลางทุ่งนา เห็นนาดีล่ะก็ดีใจทุกที ไม่ว่าจะเป็นนาของเราหรือของใคร

          รถมันแวะจอดที่ปั๊ม เขาก็เอาไก่ย่างข้าวเหนียวมาแจก ข้าก็นึกเสียวๆอยู่ วันก่อนเห็นท่านทักษิณออกข่าวแล้วกินไก่โชว์ เห็นว่าเป็นไก่ดีดีทีหรืออะไรนี่แหละ ท่านยังย้ำอีกนะว่าหวัดนกไม่มีไก่ที่ตายเป็นอหิวาไก่ ข้าไม่อยากเสี่ยงก็เลยกินชมพู่แขกดำที่อีหนอมมันฝากมา

          พอโผล่มาถึงบางกอกเท่านั้นละป้าเอ๊ย ข้าก็ตกตะลึงไปหมด รถราที่บางกอกนี่ไม่รู้มันมาจากไหนกัน วิ่งกันให้มันขวักไขว่ไปทีเดียว ทีแรกข้านึกว่าเขาคงมีงานอะไรกันกระมัง แต่ก็มารู้ทีหลังว่าไม่ใช่ เขาเดินไปเดินมายังงั้นกันทุกวัน ตอนรถถึงสถานีหมอชิต ข้าไปลองถามกลุ่มเด็กวัยรุ่นอยู่หนหนึ่งว่าเดินไปไหนพ่อคู๊ณ เขาหันมามองดูข้าแล้วบอกว่า เดินเตะฝุ่นเล่นไปงั้นแหละลุง จะทำไมเรอะ เขาก็พูดของเขาชอบกล ข้าก็เลยไม่กล้าถามเขาอีก แต่มันทำให้ข้ารู้อย่างนึงว่าคนบางกอกเขาไม่เหมือนคนบ้านนอกเรา อย่างข้ากับอีหนอมถ้าจะไปไหนเราก็ต้องรู้ อีหนอมไม่ออกไปทำนาก็ไปตลาด ไม่งั้นก็ไปวัดบ้าง ไปหาคนโน้นคนนี้บ้าง ข้าก้เหมือนกันไปชนไก่บ้าง ไปหาเหล้ากินบ้าง ไปลงเบ็ดทอดแหบ้าง ไม่เคยออกไปเดินเตะฝุ่นสักที มันสนุกอย่างไรข้าก็ยังไม่รู้.....

          ที่ข้าสงสัยอีกอย่างนะป้าแลง ก็รถในบางกอกนี่น่ะ แต่ละคันมันแล่นเร็วเหลือละ สวนกันให้เฟี้ยวฟ้าวไปหมด ถ้าอีหนอมเมียข้ามาด้วยคงต้องร้องตายแน่ ข้าเองยังใจหายใจคว่ำ จะโดดลงหลายครั้งเสียแล้ว  มันน่าเสียวไส้พิลึกละป้าเอ๋ย ไหนจะรถยนต์ รถเมลล์ รถเครื่อง  แล้วยังมีคนวิ่งข้ามไปข้ามมาเหมือนกับอยากให้รถทับ ไอ้ข้าก็ใจหายแทนทุกครั้ง แต่ไม่เห็นเขาเป็นไรสักที เสียงมันบีบแตรแข่งกันดังลั่นไปหมด พูดกันแทบไม่ได้ยิน บางคันสวนกันหวุดหวิดแล้วก็ตะโกนด่าโยมกันเล่นก็มี ข้าก็นั่งหลับหูลับตาไป กว่าจะถึงขนส่งก็อ่อนใจไปแทบล้มเทียว

          ข้ามาถึงดึกมากง่วงจัดก็เข้ามานอนในสถานีหมอชิตคืนนึง....โธ่ ป้าอย่ามองหน้าข้าอย่างนั้นหน่อยเลยน่า ไอ้ขนส่งหมอชิตนี่นะป้า มันใหญ่ซะยิ่งกว่าโบสถ์วัดบ้านข้าเสียอีกแถมยังดูสะอาดกว่าโรงควายบ้านข้าเป็นไหนๆ เสียแต่คนแออัดไปหน่อย ข้าเห็นคนนั่งข้างในเต็มไปหมด คนนอนก็มีมาก ทำให้ข้าอยากเห็นหน้าหมอที่ชื่อชิตนี่สักคราว่าเป็นอย่างไร ทำไมใจดีนัก สร้างขนส่งใหญ่ขนาดนี้ให้คนเข้ามานั่งพักนอน คงใจบุญสุนทานเหมือนป๋าเติ้งนายกบ้านเรานั่นแหละเนอะป้าแลง สร้างถนนหนทางบ้านเราเสียดิบดี แต่รถก็วิ่งโหรงเหรงเหมือนเดิม...


          เออ ป้า เล่าไปเดี๋ยวยาว ข้าต้องออกไปเกี่ยวข้าวแล้ว เอาไว้ข้าจะให้ไอ้ปื๊ดลูกข้าฝากจดหมายส่งมาถึงป้าอีกนะ ก็เล่าต่อจากนี่แหละกำลังมันเลย
ไว้ข้าจะเขียนมาเล่าอีกนะ รักป้ามาก


          ลุงเชย ชาวนาสุพรรณ
         

         



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 10-12-2007, 20:11
คุณป้าศิลาแลง(แอบ) ลาพักร้อนยาวหรือคะ  :mrgreen: :slime_bigsmile: :mrgreen:



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 10-12-2007, 20:57
          ถึงป้าศิลาแรง

          นี่ก็เป็นจดหมายฉบับแรกที่ข้าส่งมาถึงป้าแลงที่ข้านับถือ เห็นป้าตอบปัญหาในหนังสือยังไงก็ไม่ชินที่หลานข้าเอามาฝากของขบวนการเสรีไทยแล้ว ข้าก็ทึ่งเอามากๆว่าป้าตอบไปได้ยังไงฮาขี้แตกเลยจริงๆ ข้าก็เลยนึกอุตริจะเขียนจดหมายมาคุยกับป้าสักฉบับคงไม่ว่ากันนะเพราะข้าคงไม่มีอะไรจะถามคนบางกอกอย่างป้าหรอก.....แต่ถ้าป้าจะมาเที่ยวสุพรรณบ้านข้าเมื่อไรละก็นะ ข้ายินดีต้อนรับ จะได้ให้อีหนอมเมียข้าผูกควายเทียมเกวียนไปรับ

          ที่ข้าเขียนจดหมายมาคุยก็คือเรื่องที่ข้ามีโอกาสได้ไปบางกอกครั้งแรกในชีวิตก็เมื่อปีที่แล้วนี่เอง เหตุก็เนื่องจากกำนันที่ดูแลหมู่บ้านข้าแกชอบพรรคไทยรักไทยมาก แกมาชวนสมัครพรรคพวกบอกว่าไปช่วยให้กำลังใจนายกทักษิณหน่อย ใจข้าก็แหม่งๆอยู่ อยากถามนายกทักษิณเหมือนกันว่า ที่บอกว่าจังหวัดไหนเลือกพรรคไทยรักไทยจะช่วยจังหวัดนั้นก่อนนั่นจริงรึเปล่า จะได้ไปบอกเฮียเติ้งให้เลียนแบบบ้าง กำนันบอกว่าถ้าไปเดี๋ยวมีรถทัวร์มารับแล้วจ่ายค่าเสียเวลาวันละ500บาท พวกทรท.ออกกะตังให้หมด ข้าดีใจมากเพราะไม่เคยเข้าบางกอกเลยอีกอย่างเงินที่ได้ก็มากโขอยู่ เกิดมานะป้าแลงเอ๊ย แค่ยังไม่เคยได้จับกะตังแบงค์500กับเขาซะที ถ้าข้าชวนเมียไปด้วยคงมีโอกาสได้จับกะตังแบงค์1000ก็คราวนี้แหละ กลับมาถึงบ้านข้าก็เลยชวนอีหนอมเมียที่บ้านให้ไปเที่ยวบางกอกด้วยกัน แต่มันก็อ้างสารพัด อ้างว่าห่วงลูกเสียบ้าง ห่วงควายเสียบ้าง หนักเข้ามันก็แก้ตัวว่าไม่มีกระโปรงจะนุ่ง นุ่งกระโปรงแล้วใส่เกือกก็กลัวเกือกมันจะกัด ข้าเบื่อก็เลยเลิกชวนมันแล้ว ถือว่ามันไม่มีบุญตาก็แล้วกันเนอะป้าแลง.....อย่างที่ครูโรงเรียนวัดน้อยแกว่าราษฏรอย่างเรามันต้องได้รุ้ได้เห็นบ้างเรื่องการเมือง ไม่งั้นมันจะไม่มีเสถียรภาพเสถียรแภพอะไรนี่แหละ

          เอ้า นอกเรื่องไปไกล ไหนๆเมียข้าก็ไม่ไปบางกอกแล้ว ข้าก็จะเล่าให้ป้าฟัง พ่อเลี้ยงเอี้ยงคำผู้ช่วยกำนันเขานัดพวกข้าให้ไปขึ้นรถที่ลานตากข้าวโพดบ้านตาเสริมตอนหนึ่งโมงเช้ากับอีกสามสิบนาที แต่ข้ากลัวรถมันจะออกไปเสียก่อนก็เลยไปเสียก่อนสว่างต้องไปคอยเสียย่ำแย่ พอสายหน่อยคนเขาก็ทยอยมากันเพียบเลยคึกคักอย่างกับมีงานวัดอย่างนั้นแหละ ไม่นานรถเมลล์ก็มากันเพียบเลย5-6คันแน่ะ กำนันกับพ่อเลี้ยงก็ไล่พวกข้าขึ้นรถ ขนาดรถตั้ง6คันแล้วนะ พวกข้ายังต้องยืนไปเพราะคนจะไปบางกอกเยอะเหลือเกินแน่นไปทุกคันแหละ อย่างตาเสริมบ้านหมู่5เนี่ย แกเล่นพาลูกหลานมาทั้งบ้านเลย ข้าก็ยิ้มออกมา ก็คงเหมือนข้านี่แหละวะ อยากไปบางกอกอยากรู้อยากเห็นเหมือนกับตาเสริมนั่นแหละ

          เดี๋ยวก่อนสิป้าแลง ข้ายังพูดไม่จบ ป้าอย่าเพิ่งมาขัดคอข้าสิ คอยฟังให้ดีๆเถอะ คนแห่ขึ้นรถจนแน่นมาก 6คันนี่ไปกันไม่หมดเลยทีเดียว ข้าก็โหนข้างนอกเอา กำนันเขาก็บอกให้ข้าลงแล้วกลับบ้านไปก่อน ไว้โทรไปแจ้งคุณไข่แม้วดำแล้ว จะหารถใหม่มาเสริมแล้วไปวันอื่นเอา ไอ้ข้าก็ชักฮึดขึ้นมาเหมือนกัน บอกกับเขาไปว่าก็ไปมันเที่ยวนี้แหละ ข้าลงทุนสั่งลูกสั่งเมียที่บ้านมาแล้ว กลับไปเด็กๆมันจะหัวเราะแย่ เถียงกันอยู่นาน สุดท้ายกำนันก็ใจอ่อนให้ข้าโหนไปทั้งอย่างนั้นแหละ ส่วนตัวกำนันแกนั้นเหรอ มีรถเก๋งคันงามมารอรับแกอยู่แล้ว คนเป็นกำนันนี่ดีเทียวเนอะป้า ได้นั่งรถเก๋งนักการเมืองฟรีซะด้วย ยังงี้นี่เล่าคนมันถึงแย่งกันจะเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้านกันนัก.....

          รถทัวร์ออกจากบ้านข้าแล้วก็วิ่งตรงเข้าบางกอก ข้าก็ห้อยตรงประตูไปทั้งยังงั้นแหละ ข้าก็นึกว่าช่างมันเถอะวะ นานๆจะได้ไปบางกอกเปล่าๆเสียที นั่งไม่ได้ก็ยืนมันไป ยืนไม่ได้ก็โหนมันไป ไอ้เรามันขึ้นรถของท่านทักษิณเปล่าๆ ให้ลูกเล็กเด็กแดงคนแก่ผู้หญิงเขานั่งถึงจะถูก ข้าโหนรถเมลล์ต้งนาน มองดูอะไรต่ออะไรไปตามเรื่อง เห็นไร่เห็นนาข้าวขึ้นเขียวไปหมดข้าก็พลอยสบายใจ คนอย่างข้ามันเกิดมากลางทุ่งนา เห็นนาดีล่ะก็ดีใจทุกที ไม่ว่าจะเป็นนาของเราหรือของใคร

          รถมันแวะจอดที่ปั๊ม เขาก็เอาไก่ย่างข้าวเหนียวมาแจก ข้าก็นึกเสียวๆอยู่ วันก่อนเห็นท่านทักษิณออกข่าวแล้วกินไก่โชว์ เห็นว่าเป็นไก่ดีดีทีหรืออะไรนี่แหละ ท่านยังย้ำอีกนะว่าหวัดนกไม่มีไก่ที่ตายเป็นอหิวาไก่ ข้าไม่อยากเสี่ยงก็เลยกินชมพู่แขกดำที่อีหนอมมันฝากมา

          พอโผล่มาถึงบางกอกเท่านั้นละป้าเอ๊ย ข้าก็ตกตะลึงไปหมด รถราที่บางกอกนี่ไม่รู้มันมาจากไหนกัน วิ่งกันให้มันขวักไขว่ไปทีเดียว ทีแรกข้านึกว่าเขาคงมีงานอะไรกันกระมัง แต่ก็มารู้ทีหลังว่าไม่ใช่ เขาเดินไปเดินมายังงั้นกันทุกวัน ตอนรถถึงสถานีหมอชิต ข้าไปลองถามกลุ่มเด็กวัยรุ่นอยู่หนหนึ่งว่าเดินไปไหนพ่อคู๊ณ เขาหันมามองดูข้าแล้วบอกว่า เดินเตะฝุ่นเล่นไปงั้นแหละลุง จะทำไมเรอะ เขาก็พูดของเขาชอบกล ข้าก็เลยไม่กล้าถามเขาอีก แต่มันทำให้ข้ารู้อย่างนึงว่าคนบางกอกเขาไม่เหมือนคนบ้านนอกเรา อย่างข้ากับอีหนอมถ้าจะไปไหนเราก็ต้องรู้ อีหนอมไม่ออกไปทำนาก็ไปตลาด ไม่งั้นก็ไปวัดบ้าง ไปหาคนโน้นคนนี้บ้าง ข้าก้เหมือนกันไปชนไก่บ้าง ไปหาเหล้ากินบ้าง ไปลงเบ็ดทอดแหบ้าง ไม่เคยออกไปเดินเตะฝุ่นสักที มันสนุกอย่างไรข้าก็ยังไม่รู้.....

          ที่ข้าสงสัยอีกอย่างนะป้าแลง ก็รถในบางกอกนี่น่ะ แต่ละคันมันแล่นเร็วเหลือละ สวนกันให้เฟี้ยวฟ้าวไปหมด ถ้าอีหนอมเมียข้ามาด้วยคงต้องร้องตายแน่ ข้าเองยังใจหายใจคว่ำ จะโดดลงหลายครั้งเสียแล้ว  มันน่าเสียวไส้พิลึกละป้าเอ๋ย ไหนจะรถยนต์ รถเมลล์ รถเครื่อง  แล้วยังมีคนวิ่งข้ามไปข้ามมาเหมือนกับอยากให้รถทับ ไอ้ข้าก็ใจหายแทนทุกครั้ง แต่ไม่เห็นเขาเป็นไรสักที เสียงมันบีบแตรแข่งกันดังลั่นไปหมด พูดกันแทบไม่ได้ยิน บางคันสวนกันหวุดหวิดแล้วก็ตะโกนด่าโยมกันเล่นก็มี ข้าก็นั่งหลับหูลับตาไป กว่าจะถึงขนส่งก็อ่อนใจไปแทบล้มเทียว

          ข้ามาถึงดึกมากง่วงจัดก็เข้ามานอนในสถานีหมอชิตคืนนึง....โธ่ ป้าอย่ามองหน้าข้าอย่างนั้นหน่อยเลยน่า ไอ้ขนส่งหมอชิตนี่นะป้า มันใหญ่ซะยิ่งกว่าโบสถ์วัดบ้านข้าเสียอีกแถมยังดูสะอาดกว่าโรงควายบ้านข้าเป็นไหนๆ เสียแต่คนแออัดไปหน่อย ข้าเห็นคนนั่งข้างในเต็มไปหมด คนนอนก็มีมาก ทำให้ข้าอยากเห็นหน้าหมอที่ชื่อชิตนี่สักคราว่าเป็นอย่างไร ทำไมใจดีนัก สร้างขนส่งใหญ่ขนาดนี้ให้คนเข้ามานั่งพักนอน คงใจบุญสุนทานเหมือนป๋าเติ้งนายกบ้านเรานั่นแหละเนอะป้าแลง สร้างถนนหนทางบ้านเราเสียดิบดี แต่รถก็วิ่งโหรงเหรงเหมือนเดิม...


          เออ ป้า เล่าไปเดี๋ยวยาว ข้าต้องออกไปเกี่ยวข้าวแล้ว เอาไว้ข้าจะให้ไอ้ปื๊ดลูกข้าฝากจดหมายส่งมาถึงป้าอีกนะ ก็เล่าต่อจากนี่แหละกำลังมันเลย
ไว้ข้าจะเขียนมาเล่าอีกนะ รักป้ามาก


          ลุงเชย ชาวนาสุพรรณ

สวัสดีลุงเชย

ลุงเชยนี่ทันสมัยกับเขาไม่เบาเหมือนกัน ที่ได้อ่านหนังสือที่มีคุณค่า "ยังไงก็ไม่ชิน" ตอนที่อิฉันตอบคำถามในหนังสือเล่มนั้น คราแรกนั้นก็นึกเพียงว่าจะไขปัญหาข้อข้องใจ ตามที่มีผู้ถามมา ไม่ได้นึกเลยจริงๆว่า มันจะได้ประโยชน์หลายอย่าง ใช้เป็นยาถ่ายก็ได้ ว่าแต่ลุงเชยเองนั้น เมื่อฮาขี้แตกขี้แตนแล้ว อย่าฉีกหนังสือที่อิฉันร่วมเขียน เอาไปทำกระดาษชำระเสียล่ะ เปล่าหรอก อิฉันมิได้หวงหนังสือหรือถือเคล็ดลางอันใด เพียงแต่ว่า หนูเม่ยกีบหนูดอกฟ้าผู้เป็นบรรณาธิการนั้น เธอเลือกกระดาษอย่างดีมาพิมพ์หนังสือ มันออกจะแข็งและคม ดีไม่ดี ริดสีดวงของลุงเชยจะแตกแตนไปอีกอย่างหนึ่ง

อีฉันเองก็อยากไปสุพรรณมานานแล้ว หากมีโอกาศจริงๆ ก็จะตีตะแล็ปแก๊ปบอกลุงเชยไป ว่าแต่ตอนแม่หนอมเขามารับอิฉันนั้น ลุงเชยระวังแม่หนอมแกจะเอาลุงเชยมาเทียมเกวียนเสียล่ะ อายุอานามก็ไม่ใช่น้อย หูตามิฝ้าฟางไปแล้วรึ อีฉันนั้นอ่านคำถามของคนมาก็มาก พอจะสรุปได้ว่า อันผู้หญิงเรานั้น เมื่อชราลง ก็มักจะแยกผัวกับควายไม่ออก ค่าที่มันคล้ายๆกัน

เรื่องกำนันนั้นอิฉัก็เคยฟังมามาก อ่านมาก็เยอะ นิยายเรื่องไหนเรื่องนั้น ถ้ากำนันไม่เป็นผู้ร้าย ก็มักจะปัญญาอ่อนกลายเป็นตลกหน้าม่าน ไอ้ที่จะหาเรื่องของกำนันดีๆนั้น หาได้ยาก อย่างว่าแหละนะลุงเชย เรื่องราวที่เขาเอามาทำนิยายกันนั้น มันก็มักจะสะท้อนออกมาจากเรื่องจริง โดยเฉพาะกำนันที่สุพรรณเนี่ย อิฉันดูในหนังไทยทีไร เป็นได้ฮาขี้แตกขี้แตนเหมือนกัน

เรื่องพาคนมาเที่ยวเมืองกรุงก็เหมือนกัน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยอดนิยม ผู้แทนบางคนนั้นคุยว่าเขาเป็นคนมีชื่อเสียง คนทั้งบางกอกรู้จักนับถือเขากันทั้งนั้น ควรที่คนในจังหวัดของเขาจะต้องเลือกเขามาเป็นผู้แทนตลอดกาล เมื่อคนไม่ใคร่จะเชื่อคำคุยโว เขาก็พาคนที่ไม่เชื่อนั้นมาเที่ยวบางกอก แล้วพาไปยืนที่สนามหลวง ส่วนตัวผู้แทนนั้นท่านไปยืนข้างวัดพระแก้ว คนกรุงเทพนั่งรถเมล์ผ่านมา ก็ยกมือใหว้ท่านผู้แทนกันเป็นฝักถั่ว ทำเอาคนที่ไม่ศรัทธาถึงกับสำนึกผิด ที่ไม่เชื่อว่าผู้แทนของตนมีชื่อเสียงจริงๆ

จะว่าไปลุงเชยนี่ก็แข็งแรงไม่หยอก โหนรถเมล์มาจากสุพรรณถึงบางกอกได้ คราวหน้าคราวหลังหากกำนันเขาไม่เอารถไปรับ ลุงก็เดินมาก็แล้วกัน แล้วอิฉันจะเทียมผัว เอ๊ยเอารถไปรับแถวๆตลาดหมอชิต จะขับไปรับถึงสุพรรณก็เห็นจะไม่ไหว เดี๋ยวนี้น้ำมันแพง จะเติมแกสโซฮอลก็ออกจะหวั่นๆ หลวงท่านรับประกันว่าเครื่องไม่พัง แต่หัวฉีดของรถอิฉันมันพัง อันนี้หลวงท่านไม่ใคร่จะรับซ่อม ถ้าลุงเชยเดินมาจากสุพรรณ จะได้ชมทิวทัศน์ท้องนาชัดเจนกว่าโหนรถเมล์มาเป็นไหนๆ ถนนสุพรรณบางกอกนั้นเดี๋ยวนี้ก็สะดวกสบาย เพราะท่านบั่นหารท่านหารเงินทำถนนทั้งประเทศ ไปทำที่สุพรรณบ้านท่านที่เดียวเมื่อครั้งท่านเป็นนายก เป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ที่ทำให้ท่านไม่ได้เป็นนายกกับเขาอีกเลย

ลุงเชยไม่ยอมกินไก่ อิฉันว่าก็ดีแล้ว เพราะเมื่อครั้งท่านทักสิงค์ที่กินไก่อวดผู้คนนั้น ท่านไม่ได้กินตามวิธีคุ้นเคยของท่าน มานั่งงับนั่งกัดให้ดู มันไม่ใช่วิสัยของท่านเลย ปกติท่านลากลงน้ำไปกินเงียบๆ เหมือนเวลาลากสัมปทาน หรือลากสาวๆไปกิน ท่านกินเงียบๆไม่กระโตกกระตาก โดยเฉพาะสาวๆท่านไม่ค่อยกินดังๆ มาดังเอาในตอนหลังๆนี่หรอก เห็นเขาว่ามันเป็นการประชาสัมพันธ์ให้พรรคหรือไงเนี่ย เมื่อเป็นประโยชน์ของส่วนรวม ท่านถึงกินให้ใครเห็น เป็นผู้ใหญ่แล้วกินไก่ให้ใครรู้นั้นมันไม่ค่อยจะงามนะลุงเชย เพราะเมื่อกินไก่อ่อนเข้าไปแล้ว มันส่งผลให้อีนังไก่แก่ ต้องไปโหนเสาเย้วๆอยู่แถวเวทีปราศัย ดูแล้วน่าอนาถนัก

รถราในบางกอกนั้นมันเยอะ แต่ลุงต้องเข้าใจว่ามันไม่ใช่รถคนบางกอกไปเสียทั้งหมดหรอก อีฉันเองเวลาขับรถ ก็ต้องคอยระวัง บางทีโดนปาดหน้าปาดหลัง เมื่อหันไปคิดจะด่าให้หายแค้น เห็นหน้าคนขับคนที่มากวนโทโสแล้ว ต้องร้องอุทานด้วยความสงสาร โถ พ่อคู๊ณ พ่อพึ่งลงหลังควายมาแหมบๆ ก็มาหัดขับรถยนต์ น่าสงสารเสียจริงๆ แล้วก็ได้แต่ทำบุญกรวดน้ำให้มันไป ด่าไปก็ไม่รู้สึก

ที่เดินเตะฝุ่นเล่นจนเกิดมลพิษก็เหมือนกันลุงเชย เดิมก็ทอดแห ไปวัด ชนไก่อยู่ที่บ้านเดิม แต่เมื่อเข้ามาบางกอกแล้วก็ไม่คิดจะกลับบ้าน หลงแสงสีบางกอกจนยอมเดินเตะฝุ่นเล่นให้รองเท้ามันสึก คนที่อยู่ในบางกอกเนี่ย มาจากแถวบ้านลุงก็เยอะ แถบไหนมีผู้แทนหรือเลือกผู้แทนแบบที่พาลุงมาเที่ยวบางกอก ก็ขี้มักจะต้องระเห็จจากบ้านมาอยู่บางกอกหรือไปต่างเมือง บ้านของเราเมืองของเรา ลองได้เลือกคนจัuไรเข้ามาเป็นผู้แทน ไม่นานบ้านมันก็ร้อนอยู่ไม่ได้ มันเป็นธรรมชาติจ๊ะลุงเชย

คนเรานี่ก็แปลกนะลุงเชย บ้านช่องก็มีแสนจะสุขสบาย ไม่ชอบอยู่ กลับชอบให้เขาต้อนไปไหนต่อไหนเหมือนวัวเหมือนควาย ไปแล้วต้องนอนกลางลานปูน ดมควันรถก็เอาดี หรือจะชอบเปลี่ยนบรรยากาศกันก็ไม่รู้ ยิ่งบางกอกเนี่ย หมาโดนรถทับตายวันละไม่รู้กี่ตัวต่อกี่ตัว แต่หลังๆนี่หลวงท่านก็สร้างสะพานลอยไว้ให้ข้ามกันเยอะแยะ หมามันก็เลยออกจะปลอดภัยอยู่ แต่คนนั้นยังคงตายอยู่เหมือนเดิม อิฉันเองก็ต้องท่องเป็นคาถาประจำใจไว้เลยว่า หากผ่านหน้าสถานศึกษาเป็นต้องระวังคน เพราะถึงจะมีสะพานลอย นักศึกษาก็นิยมวิ่งข้ามถนน ต่างกับหมาที่มันข้ามสะพานลอยเป็น หรือหมามันจะฉลาดกว่าคนนะ ลุงเชย

มาบางกอกแล้วก็อย่าซุกซน แม่หนอมก็กระไรเลยปล่อยผัวมาห่างหูห่างตาได้ คนเราลองอยากจนถึงขนาดยอมโหนรถมาเที่ยว ไม่ได้นั่งก็ยอมมา เห็นทีจะไม่เที่ยวเพียงแค่เปิดหูเปิดตา ดีไม่ดีจะพาลไปถึงเปิดผ้า แต่อย่างลุงเชยฉันอาจจะไม่ต้องห่วงกระมัง กำนันเขาคงไม่ใจดีพาไปเที่ยวอะไรที่มันเปลืองสตางค์ เขามีข้าวให้กินก็บุญถมเถแล้ว

ยังไงก็ส่งข่าวมาอีก หายไปเฉยๆ อิฉันจะคิดเอาว่าโดนรถทับตายไปเสียแล้ว

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Kizz ที่ 11-12-2007, 13:55
กราบสวัสดีคุณป้าศิลาแลง

ที่ใช้คำว่ากราบด้วย เพราะผมรู้สึกว่ากระทู้นี้อ่านเพลินดีเหลือเกินครับ กับสำนวนของป้า

ส่วนตัวผมเองก็มีเรื่องที่รู้คับอกคับใจ เหมือนนมจะขึ้นอย่างบอกไม่ถูก

มีอยู่วันนึง ผมต้องรีบไปสถานที่ที่หนึ่ง ซึ่งผมไปคนเดียว ทั้งๆที่ปกติแล้ว ผมไม่ค่อยใคร่ในการนั่งรถแท็กซี่เท่าไหร่ เน้นรถเมล์

ผมโบกรถแท็กซี่แถวๆสยาม มันไม่ค่อยจะไปกันเลย เสียเวลาเรียกอยู่หลายคัน แต่สิ่งที่ผมต้องตะลึงก็คือ แท็กซี่เกือบครึ่งที่ผมเห็น ติดสติ๊กเกอร์ของพรรคหนึ่ง

ซึ่งคันที่ผมได้นั่งก็เป็นคันที่ติดสติ๊กเกอร์นั้นด้วย แต่ตอนนั้มันรีบแหละป้า ก็ไม่ได้คิดอะไรเลยนั่งๆไป

พอติดสี่แยกไฟแดง เขาก็เริ่มถามว่า " เลือกตั้งนี้จะเลือกใคร ... "

ป้าคงจะไม่แปลกใจ ถ้าเห็นสติ๊กเกอร์ข้างถังแล้ว คนขับจะคาดหวังกับคำตอบว่าอย่างไร

ส่วนผมก็เลยตอบว่า "ถ้าจะคุยเรื่องนี้ คุยเรื่องอื่นดีกว่าครับพี่"

"อ๋อ แสดงว่าน้องไม่เอา..... น่ะสิ พี่ว่าเขาออกจะทำงานดีนะ"

ผมไม่ตอบ เพราะเกรงว่าเขาอาจจะถีบผมลงกลางสี่แยก

แต่ผมก็ไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี

ถ้าเกิดผมตอบว่าจะเอาพรรคอย่างคนขับเขา เขาจะมีใบอะไรให้ผมเซ็นไว้ขึ้นเงินมั้ย

การที่ผมตอบแบบนั้นไป จะทำให้พี่เขาเสียรายได้เสริมรึป่าวครับ

แต่สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากกว่านั้นคือ หลังวันที่ 23 แล้วมันจะดีขึ้นจริงๆรึป่าว เพราะดูท่าทางจะเหมือนเดิมจริงๆครับป้า

รักษาสุขภาพนะครับ

ปล.ผมคงไม่เห็นด้วยกับที่เค้าว่า ถ้าพรรคนอมินีได้เป็นรัฐบาลแล้วเขาจะกลับมา ก็ไหนเขาบอกว่าหลังเลือกตั้งจะกลับมาไม่ใช่รึ พรรคไหนได้เป็นเขาก็ควรต้องมาสิ ถูกมั้ยครับป้า


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 11-12-2007, 18:00
กราบสวัสดีคุณป้าศิลาแลง

ที่ใช้คำว่ากราบด้วย เพราะผมรู้สึกว่ากระทู้นี้อ่านเพลินดีเหลือเกินครับ กับสำนวนของป้า

ส่วนตัวผมเองก็มีเรื่องที่รู้คับอกคับใจ เหมือนนมจะขึ้นอย่างบอกไม่ถูก

มีอยู่วันนึง ผมต้องรีบไปสถานที่ที่หนึ่ง ซึ่งผมไปคนเดียว ทั้งๆที่ปกติแล้ว ผมไม่ค่อยใคร่ในการนั่งรถแท็กซี่เท่าไหร่ เน้นรถเมล์

ผมโบกรถแท็กซี่แถวๆสยาม มันไม่ค่อยจะไปกันเลย เสียเวลาเรียกอยู่หลายคัน แต่สิ่งที่ผมต้องตะลึงก็คือ แท็กซี่เกือบครึ่งที่ผมเห็น ติดสติ๊กเกอร์ของพรรคหนึ่ง

ซึ่งคันที่ผมได้นั่งก็เป็นคันที่ติดสติ๊กเกอร์นั้นด้วย แต่ตอนนั้มันรีบแหละป้า ก็ไม่ได้คิดอะไรเลยนั่งๆไป

พอติดสี่แยกไฟแดง เขาก็เริ่มถามว่า " เลือกตั้งนี้จะเลือกใคร ... "

ป้าคงจะไม่แปลกใจ ถ้าเห็นสติ๊กเกอร์ข้างถังแล้ว คนขับจะคาดหวังกับคำตอบว่าอย่างไร

ส่วนผมก็เลยตอบว่า "ถ้าจะคุยเรื่องนี้ คุยเรื่องอื่นดีกว่าครับพี่"

"อ๋อ แสดงว่าน้องไม่เอา..... น่ะสิ พี่ว่าเขาออกจะทำงานดีนะ"

ผมไม่ตอบ เพราะเกรงว่าเขาอาจจะถีบผมลงกลางสี่แยก

แต่ผมก็ไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี

ถ้าเกิดผมตอบว่าจะเอาพรรคอย่างคนขับเขา เขาจะมีใบอะไรให้ผมเซ็นไว้ขึ้นเงินมั้ย

การที่ผมตอบแบบนั้นไป จะทำให้พี่เขาเสียรายได้เสริมรึป่าวครับ

แต่สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากกว่านั้นคือ หลังวันที่ 23 แล้วมันจะดีขึ้นจริงๆรึป่าว เพราะดูท่าทางจะเหมือนเดิมจริงๆครับป้า

รักษาสุขภาพนะครับ

ปล.ผมคงไม่เห็นด้วยกับที่เค้าว่า ถ้าพรรคนอมินีได้เป็นรัฐบาลแล้วเขาจะกลับมา ก็ไหนเขาบอกว่าหลังเลือกตั้งจะกลับมาไม่ใช่รึ พรรคไหนได้เป็นเขาก็ควรต้องมาสิ ถูกมั้ยครับป้า

หลาน kizz

ป้าเองนั้นก็ต้องใช้บริการของรถแท๊กซี่อยู่บ่อยครั้ง แต่ก็อาจจะโชคดีไปอย่างหนึ่งเพราะแท็กซี่ที่ป้านั่ง มักจะไม่ค่อยคุยเรื่องการเมืองเท่าไหร่นัก โดยมากก็มักจะเปรยๆว่ารถติด น้ำมันแพง อะไรเทือกนั้น ซึ่งถ้าป้าถึงคราวซวย ไปพบแท๊กซี่ชวนคุยเรื่องการเมือง ก็ไม่พ้นจะด่าใครต่อใครและยกย่องบุคคลหนึ่งอยู่เช่นกัน เรื่องความชอบไม่ชอบนี่ เราไปห้ามเขาไม่ได้ ดูอย่างอลัชชีบางคน ถูกจับสึกไปด้วยข้อหาปาราชิก ก็ยังมีลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธาไม่เสื่อมคลาย ตามไปยกย่องเชิดชูอยู่ตลอด มีคนเขากล่าวกันว่า เราสามารถโกหกคนบางคนได้ตลอดเวลา เราสามารถโกหกคนทุกคนได้ในบางเวลา แต่เราไม่สามารถโกหกทุกคนในทุกเวลา คนบางคนที่สามารถเชื่อคำโกหกได้ตลอดเวลานั้น ก็เป็นคนที่มีปัญญาอยู่ในระดับเท้า เพราะโตจนหมาเลียก้นไม่ถึง แต่ยังเลียเท้าถึงอยู่

ป้ายสติ๊กเกอร์ที่ติดตามรถแท๊กซี่นั้น ใครมีสตางค์จ่ายค่าติดได้ก็ได้ติด ไม่ว่าจะเป็นคลีนิคเสริมสวย ธุรกิจขายตรง พรรคการเมือง และสารพัดกิจการ อย่าไปใส่ใจกับการโฆษณาแบบนั้นเลย โฆษณานี่ถือเป็นอวัยวะหนึ่งของระบบทุนนิยม หากปราศจากโฆษณา ทุนนิยมก็จบเห่ แต่ถ้าหลานรำคาญและอยากจะเล่นพิเรนทร์ ป้าแนะนำให้ทำสติ๊กเกอร์ด่าพวกปล้นชาติ และนำไปติดไว้ที่ด้านหลังของคนขับรถแท๊กซี่ที่ติดป้ายโฆษณาพรรคการเมืองนั้น พร้อมทั้งนั่งขำไปจนกว่าจะลงจากรถจ๊ะ

หลานอย่าไปเหมาเอาว่า การที่คนขับแท๊กซี่เขาเชิญชวนให้หลานนิยมชมชอบในตัวบุคคลที่เขาชื่นชมนั้น จะต้องมีรายได้เสริม เพราะคนบางคนนั้นก็สติปัญญาต่ำพอที่จะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร โดนสนตะพายไว้อย่างไรก็ไปตามเชือกที่เขาจูงไปนั้น ถึงปลายเชือกจะไม่มีแรงดึงแล้ว ก็ยังเดินไปตามทางที่เขาพาไปโรงฆ่าสัตว์ด้วยความเคยชิน หากคนเราสามารถพัฒนาปัญญาให้รู้คิดได้ทุกคน หลานก็ไม่มีคนขับรถให้นั่งสิจ๊ะ

หลังวันที่ 23 นี้ อะไรๆมันจะดีขึ้นหรือไม่ ป้าก็ไม่รู้ ป้ารู้แต่ว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม และสัตว์โลกบางตัวก็มีความหวังที่จะพ้นทุกข์ด้วยวิธีแปลกๆ ซึ่งเมื่อถึงเวลามันก็จะรู้เองว่าหมดหวัง

เรื่องของคนที่ประกาศว่าจะกลับประเทศหลังวันที่ 23 และมีการพูดกันว่าจะกลับจริงๆก็ต่อเมื่อนอมินีได้เป็นรัฐบาลนั้น ป้าว่าอย่าเอามาใส่ใจเลย มันจะกลับหรือไม่กลับก็ช่างหัวมันเถิด เราก็อยู่ของเราไป ถ้ามันกลับมาทำซ่านัก ก็ยังมีคนอีกมากมายที่คันบาทาพร้อมจะจัดการมันอยู่แล้ว เราเพียงแต่ช่วยออกไปยำมันเมื่อถึงเวลานั้นก็พอ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: justy ที่ 27-12-2007, 23:54
ค่อยน่าอ่านหน่อย 

 :slime_bigsmile:  :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ล่างฟานหวิน ที่ 10-01-2008, 14:25
สุดยอดกระทู้

ของ ป้า ศิลาแดง สอนน้อง

ใครแอบถ่าย คลิป เด็ด ของ อดีต พณ.ท่าน.ท (แม้ว)

อยากเห็น ตอนเล่น จำจี้ กับลูกน้อง

555 และ มีเมียชาวบ้าน 555


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ล่างฟานหวิน ที่ 10-01-2008, 14:28
สุดยอดกระทู้

ของ ป้า ศิลาแดง สอนน้อง

ใครแอบถ่าย คลิป เด็ด ของ อดีต พณ.ท่าน.ท (แม้ว)

อยากเห็น ตอนเล่น จำจี้ กับลูกน้อง

555 และ มีเมียชาวบ้าน 555


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 20-01-2008, 15:03
เอ๋...คุณป้าศิลาแลงหายหน้าหายตาไปไม่มาอวยพรปีใหม่ให้ลูก ๆ หลาน ๆ หรอกหรือคะ  :mrgreen:

เช้านี้เห็นเสียงป๋าหมักจากจอทีวี เลยคิดถึงคุณป้าผู้สามารถไขปัญหาได้ทุกเรื่อง  :mrgreen:

ขอเรียนถามคุณป้าคำถามเดียวค่ะว่า "นายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๕ ของประเทศไทยคือใคร"  :slime_doubt:

คุณป้ากรุณาให้คำตอบก่อนที่พวก ๖ พรรคจะลงมติเลือกอย่าง (ไม่) เอกฉันท์นะคะ  :mrgreen: :D :mrgreen:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 20-01-2008, 18:48
เอ๋...คุณป้าศิลาแลงหายหน้าหายตาไปไม่มาอวยพรปีใหม่ให้ลูก ๆ หลาน ๆ หรอกหรือคะ  :mrgreen:

เช้านี้เห็นเสียงป๋าหมักจากจอทีวี เลยคิดถึงคุณป้าผู้สามารถไขปัญหาได้ทุกเรื่อง  :mrgreen:

ขอเรียนถามคุณป้าคำถามเดียวค่ะว่า "นายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๕ ของประเทศไทยคือใคร"  :slime_doubt:

คุณป้ากรุณาให้คำตอบก่อนที่พวก ๖ พรรคจะลงมติเลือกอย่าง (ไม่) เอกฉันท์นะคะ  :mrgreen: :D :mrgreen:

สวัสดีหลายเม่ย

ด้วยป้าชราภาพแล้ว ปีใหม่หรือปีเก่าสำหรับป้า มันก็เลยเป็นแค่วันธรรมดาวันหนึ่ง จึงลืมไปเสียสนิทที่จะต้องให้พรลูกหลาน ก็ขอกราบขอให้อำนาจคุณพระศรีรัตนไตร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงดลบันดาลให้ทุกคนมีความสุขความเจริญนะจ๊ะ  :slime_worship:

เรื่องนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศเรานั้น อย่าว่าแต่ป้าเลยจ๊ะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายที่รวมกันจัดตั้งรัฐบาล ก็ยังไม่รู้เลยจนบัดนี้ว่า วันเลือกนายกรัฐมนตรีในสภา จะถูกสั่งให้ยกมือเลือกคนไหน

หลานต้องเข้าใจด้วยว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของเราในยามนี้ ถือเป็นภาวะไม่ปกติ นับได้ว่าเป็นภาวะที่ทุนนิยมสามานย์กำลังเฟื่องฟูสุดขีด และกลไกการเลือกตั้งได้หลุดเข้าไปในวงจรอิทธิพลท้องถิ่น รวมทั้งประชาชนส่วนหนึ่งของเรา ได้ตกอับทางปัญญาจนถึงที่สุด ด้วยการมอมเมาของระบบทุนนิยมสามานย์มานานหลายปี ผลของการเลือกตั้งนั้น แทบจะคาดเดาได้ว่า ใครควบคุมการจ่ายเงินให้ถึงมือประชาชนได้ ก็จะได้รับเลือกตั้ง

และเงินที่นำมาแจกจ่ายนั้น ต้นตอของมันมาจากกลุ่มคนเพียงกลุ่มเดียว ซึ่งผู้ใดจ่ายเงินผู้นั้นก็็เสียงดัง และสามารถสั่งการอันใดก็ได้  เสียงสั่งนั่นแหละจ๊ะ คือเสียงที่จะบอกว่า ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี

เป็นเรื่องน่าเศร้าเรื่องหนึ่งของสังคมไทย ที่หลังจากเลือกตั้งและประกาศจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว ไม่สามารถจะบอกได้ว่า ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรีคราวนี้ จะมีโทรศัพท์มาตั้งจ๊ะ

แต่ถ้าจะให้ป้าฟันธง ก็คงต้องยืมวิธีของนักข่าวบันเทิงมาจ๊ะ  นายกคราวนี้ ส.เสือ มาแรง อิอิ  :slime_smile2:

ศิลาแลง


หัวข้อ: ขอรบกวนป้าแลง ซ้อเจ็ดเสรีไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 01-02-2008, 16:30

ถึงป้าแลงเอ็กคลูซีฟลี่ กิ๊ฟๆ  :slime_inlove:  :slime_agreed:


รบกวนคำถาม เปิดผนึก


-คือผมอยากทราบว่ารู้สึกยังไงที่ได้เป็นซ้อเจ็ดเสรีไทย พอใจมั้ยครับ?

-ประการต่อมา อยากให้ป้าเล่าเรื่องประวัติที่มาของคำว่าพระยาเทครัว ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร?


หากว่าป้าแลงทำกุศลครั้งนี้ตามควรด้วยคำตอบประการใดแก่เวไนยสัตว์ที่ผ่านไป โฉบมาทั่วไป

ก็ให้ป้าแลงเป็นคอลัมนิสต์ยอดฮิตติดอันดับเของเสรีไทยต่อไปตราบนานเท่านาน
                                                                                                                      :slime_worship:


หัวข้อ: Re: ขอรบกวนป้าแลง ซ้อเจ็ดเสรีไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 01-02-2008, 18:27
ถึงป้าแลงเอ็กคลูซีฟลี่ กิ๊ฟๆ  :slime_inlove:  :slime_agreed:


รบกวนคำถาม เปิดผนึก


-คือผมอยากทราบว่ารู้สึกยังไงที่ได้เป็นซ้อเจ็ดเสรีไทย พอใจมั้ยครับ?

-ประการต่อมา อยากให้ป้าเล่าเรื่องประวัติที่มาของคำว่าพระยาเทครัว ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร?


หากว่าป้าแลงทำกุศลครั้งนี้ตามควรด้วยคำตอบประการใดแก่เวไนยสัตว์ที่ผ่านไป โฉบมาทั่วไป

ก็ให้ป้าแลงเป็นคอลัมนิสต์ยอดฮิตติดอันดับเของเสรีไทยต่อไปตราบนานเท่านาน
                                                                                                                      :slime_worship:

สวัสดีหลาน Q

คำถามที่หลานถามป้ามาว่า "รู้สึกยังไงที่ได้เป็นซ้อเจ็ดเสรีไทย" ก็เห็นจะต้องตอบว่า ไม่ได้รูสึกเลยว่าเป็นซ้อเจ็ดเสรีไทย หากแต่เป็นศิลาแลงมาตั้งแต่เบื้องต้น ลีลาของซ้อเจ็ดนั้น ป้ามิหาญกล้าไปเทียบชั้น เพราะเรื่องลึกลับขนาดถึงกึ๋นถึงกลีบนั้น ป้าไม่ใคร่จะประสาจ๊ะ นึกออกจะเสียดายอยู่ครามครัน เพราะเมื่อป้าเป็นสาวนั้น ศัพท์คำว่า แรด ที่หมายถึงพฤติกรรมของสตรีนั้น ยังมิเกิดขึ้นในแผ่นดินสยาม ไม่มีตัวอย่างให้ดูมากนัก ที่ป้าพอจะจำได้ซึ่งเป็นข่าวครึกโครม ก็เห็นจะได้แก่มารดาหนุ่มรูปหล่อ ที่เคยทั้ง ร้อง ทั้ง เล่น จนโด่งดัง ภายหลังยังมาดังทางการเมือง ได้เป็นผู้แทนของชาวทุ่งลาดหญ้า ซึ่งค่อนข้างจะเปรี้ยว ตามสำนวนสมัยนั้น และถูกบิดาจับโกนศรีษะ เพื่อมิให้หนีเที่ยวไปเปรี้ยวจัดจนเกินควร แต่หล่อนก็ยังโพกหัวออกมาเปรี้ยวได้ เป็นเรื่องฮือฮากันทั้งเมือง

ขอให้ซ้อเจ็ดเธอเป็นดาราเฉิดฉายในแวดวงไปเถิดจ๊ะ ป้าไม่ขอสู้ด้วย เป็นยายศิลาแลงเคี้ยวหมากปากแดงเถือกไปในเวบเสรีไทยนี่แหละ พอเพียง ของป้าแล้ว

เรื่องที่สองคือเรื่องพระยาเทครัว ซึ่งความหมายที่เข้าใจกันใบปัจจุบัญนี้ ก็เห็นจะได้แก่ความหมายถึงชายที่เหมายกเข่ง เฉ่งยกเล้า เอายกโคตร คือฟาดซะเรียบหมดบ้าน มีสาวกี่คนในบ้านนั้น พ่อเล่นซะไม่เหลือ บ้างก็หาญฮึก ไม่ว่าเฒ่าชะแรแก่ชรา ยันรุ่นลูกรุ่นหลาน ขอให้คลำไม่มีหางพ่อเป็นได้ฟาดหมด

แต่อันที่จริงแล้ว คำว่าเทครัวนั้น เป็นกลยุทธภายหลังการชนะศึกอย่างหนึ่งของคนสมัยโบราณ เมื่อรบทัพจับศึกกันแล้ว ก็มักจะกวาดต้อนผู้คนและทรัพย์สิน กลับมาเป็นบำเน็จสงคราม การกวาดมานั้น เรียกกันว่าเทครัวมากันเลยทีเดียว เพราะนอกจากเสาเรือน ฝาบ้าน จากมุงหลังคา ที่ไม่รู้จะเทมาทำไมแล้ว ผู้คน ทรัพย์สิน ช้าง ม้า วัว ควาย ไก่ เป็ด สารพัดสัตว์เลี้ยง ก็จะถูกกวาดต้อนกลับมาด้วย

เหตุผลก็คือ ในสมัยโบราณนั้น คนนับเป็นอาวุธสงครามที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ศาสตราวุธอื่นใดนั้น หากไม่มีคนเป็นผู้กำกับ ก็จะไร้ค่าไร้ความหมาย และกองทัพที่มีพลรบเป็นจำนวนมาก เมื่อปะทะกับกองทัพที่มีพลรบจำนวนน้อย ย่อมจะชนะศึกในยุคนั้นชนิดที่เรียกว่าชัวร์ป๊าบนิ่ม เมื่อทำการกวาดต้อนผู้คนมาจนหมด แผ่นดินที่แพ้สงครามก็ต้องใชเวลาผลิตพลเมืองใหม่ เพื่อนำมาเป็นพลรบ ซึ่งจะต้องใช้เวลานับสิบปีขึ้นไป หรืออาจจะนานนับร้อยปี กว่าจะมีพลรบพอจะกลับมา เอาคืน ได้

ในการกวาดต้อนอพยพผู้คนของฝ่ายที่แพ้สงครามนั้น จำต้องมีผู้บังคับบัญชา กิจการงานเช่นนี้ ศักดิ์ของผู้กระทำการคงมิใช่ไพร่ราบทหารเลว แต่ต้องเป็นผู้ที่จะบังคับบัญชากองทัพ หรือหน่วยทหารที่จะต้องควบคุมให้เชลยอยู่ในความเรียบร้อย ถ้าเป็นสมัยนี้ก็เห็นจะต้องใช้คนระดับ อธิบดี หรือ เจ้ากรมของทหาร ซึ่งตำแหน่งระดับนี้ในอดีต คงจะประมาณบรรดาศักดิ์ได้เท่ากับพระยา จึงได้เกิดคำเรียกพระยาเทครัวขึ้นมาในครั้งกระนั้น

แต่ไม่จำเป็นว่า ผู้บังคับบัญชาการเทครัวนั้น จะต้องมียศเป็นพระยา จะต่ำหรือสูงกว่านั้นมิได้ เป็นเพียงแต่ว่าคงจะเคยใช้บรรดาศักดิ์พระยา ทำหน้าที่รับผิดชอบการเทครัวขึ้นมาหลายครั้งหลายหน และความหมายก็ผิดเพี้ยนไปตามอารมณ์ขันของคนไทย ที่มักจะชอบเปรียบเปรยเรื่องใกล้ตัว ด้วยชื่อเสียงเรียงนามของสิ่งต่างๆ พระยาเทครัวเลยกลับกลายมาเป็นฉายา ของบุคคลดังกล่าวข้างต้นนั้น

แต่ขอบเขตอำนาจหน้าที่ของพระยานั้น เอาแน่นอนอะไรมิได้ เนื่องจากกการปกครองในสมัยโบราณนั้น ขึ้นอยู่กับความเห็นของผู้มีอำนาจ เช่นเดียวกับตำแหน่งขุนนางของฝรั่ง เพราะปรากฎว่าคนเทกระโถนของพระเจ้าหลุยส์แห่งฝรั่งเศส ยังมีบรรดาศักดิ์สูงกว่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่จำนวนมาก

ป้าขอขอบใจที่เชียร์ให้ป้าเป็นคอลัมนิสต์ยอดฮิตติดอันดับเของเสรีไทย แต่ป้าไม่แน่ใจว่านั้นจะดีหรือไม่ดี เพราะป้าได้ข่าวว่า ซ้อเจ็ดได้ค่าเขียนคอลัมน์คราวละหลายสตางค์อยู่ ส่วนป้านั้น จะซื้อหมากมาเคี้ยว ยังต้องออกทุนเองเลยจ๊ะ อาภัพจริงๆ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: โต มิ โต โชว์ ดะ ที่ 01-02-2008, 18:42
เดี๋ยวผะ....................ผะ...................................ผมมานั่งจีบหมากพลูให้ป้าเคี้ยวเองคร๊าฟฟฟ



ป้าแลงจู้ๆๆๆๆๆๆ





 :slime_inlove: :slime_bigsmile: :slime_v:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 01-02-2008, 22:06
สวัสดีค่ะป้าแลง

หนูติดตามคอลัมน์ "ดุ๊กดิ๊กช่วยเดา" ทางหนังสือพิมพ์หัวเขียวมานาน เอ๊ะ ... หรือว่าไม่เกี่ยวกับป้าแลง งั้นหนูขอถามคำถามกับป้าตรงๆ เลยนะคะ คือหนูเป็นลูกของนักการเมืองที่ชาวบ้านเค้าด่าว่า ปอมอ หน่ะค่ะ คือจริงๆ หนูออกจะภูมิใจนะคะว่า หน้าตาหนูเหมือนแม่มากกว่าพ่อ เพราะแม่หนูสวยค่ะ แต่แม่หนูติดใจคารมคุณพ่อมากตอนที่เรียนมหาลัยด้วยกัน จนกระทั่งได้แต่งงานกัน พ่อหนูหน้าตาไม่ดีเท่าไหร่ แถมออกจะปากตลาด พอหนูเกิดออกมาคุณพ่อมักจะพาหนูไปจ่ายตลาดอยู่เรื่อยๆ จนหนูได้ยินคำพูดของพ่อที่ออกจะปากตลาดอยู่ซะด้วยซ้ำ

หนูแต่งงานกับชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่พบกันในที่ทำงาน เค้าหน้าตาดีค่ะ หนูออกจะภูมิใจว่า เมื่อมีลูกต้องหน้าตาดีกับเขา แต่แล้วเมื่อลูกหนูคลอดออกมา พอโตขึ้นทำไมนานวันเข้า หน้าตาทำไมขี้เหร่เหมือนพ่อหนูตอนนี้ หน้ายักษ์ขมูขีแถมจมูกบานอีก หนูไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเชื้อสายของหนูที่หนูคิดว่าติดมาจากแม่ แล้วเมื่อเจอกับสามีหนูแล้ว คิดว่าลูกเราต้องหน้าตาดีเหมือนน้องกายของมาช่ากับหนุ่ยอำพูน หรือพวยทองท้วยของท่านหน้าเหลี่ยมเจ้านายพ่อหนู

ทำไมค่ะ เชื้อสายหนูมันไม่ดีตรงไหน ทำไมลูกหนูถึงน่าเกลียดขนานนั้นค่ะ ไม่เข้าใจจริงๆ หรือหนูต้องผสมพันธุ์ใหม่อีกรอบถึงจะได้หน้าตาแบบสเตฟาน แต่ยังไงหนูก็รักลูกหนูนะคะ หนูพยายามให้ลูกของหนูทำอาหารเก่งๆ จะได้เป็นพ่อครัว ทำอาหารอร่อยๆ ไม่ต้องกินของหนักๆ อย่างอิฐหินดินทราย หรือแม้กระทั่งกองขยะให้อับอายตระกูลหนูอีก นี่ยังโชคดีที่ไม่ได้เป็นนามสกุลพ่อ ไม่งั้นลูกหนูโตขึ้นคงลำบากแย่

หนูมีเรื่องปรึกษากับป้าแลงแค่นี้ค่ะ ขอบคุณที่อ่านจดหมายของหนูจนจบนะคะ

ขอบคุณค่ะ

ก.ด.ภ. (กดดันภาษี)


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 02-02-2008, 02:31


อ้างถึง




สวัสดีหลาน Q

คำถามที่หลานถามป้ามาว่า "รู้สึกยังไงที่ได้เป็นซ้อเจ็ดเสรีไทย" ก็เห็นจะต้องตอบว่า ไม่ได้รูสึกเลยว่าเป็นซ้อเจ็ดเสรีไทย หากแต่เป็นศิลาแลงมาตั้งแต่เบื้องต้น ลีลาของซ้อเจ็ดนั้น ป้ามิหาญกล้าไปเทียบชั้น เพราะเรื่องลึกลับขนาดถึงกึ๋นถึงกลีบนั้น ป้าไม่ใคร่จะประสาจ๊ะ นึกออกจะเสียดายอยู่ครามครัน เพราะเมื่อป้าเป็นสาวนั้น ศัพท์คำว่า แรด ที่หมายถึงพฤติกรรมของสตรีนั้น ยังมิเกิดขึ้นในแผ่นดินสยาม ไม่มีตัวอย่างให้ดูมากนัก ที่ป้าพอจะจำได้ซึ่งเป็นข่าวครึกโครม ก็เห็นจะได้แก่มารดาหนุ่มรูปหล่อ ที่เคยทั้ง ร้อง ทั้ง เล่น จนโด่งดัง ภายหลังยังมาดังทางการเมือง ได้เป็นผู้แทนของชาวทุ่งลาดหญ้า ซึ่งค่อนข้างจะเปรี้ยว ตามสำนวนสมัยนั้น และถูกบิดาจับโกนศรีษะ เพื่อมิให้หนีเที่ยวไปเปรี้ยวจัดจนเกินควร แต่หล่อนก็ยังโพกหัวออกมาเปรี้ยวได้ เป็นเรื่องฮือฮากันทั้งเมือง

ขอให้ซ้อเจ็ดเธอเป็นดาราเฉิดฉายในแวดวงไปเถิดจ๊ะ ป้าไม่ขอสู้ด้วย เป็นยายศิลาแลงเคี้ยวหมากปากแดงเถือกไปในเวบเสรีไทยนี่แหละ พอเพียง ของป้าแล้ว

เรื่องที่สองคือเรื่องพระยาเทครัว ซึ่งความหมายที่เข้าใจกันใบปัจจุบัญนี้ ก็เห็นจะได้แก่ความหมายถึงชายที่เหมายกเข่ง เฉ่งยกเล้า เอายกโคตร คือฟาดซะเรียบหมดบ้าน มีสาวกี่คนในบ้านนั้น พ่อเล่นซะไม่เหลือ บ้างก็หาญฮึก ไม่ว่าเฒ่าชะแรแก่ชรา ยันรุ่นลูกรุ่นหลาน ขอให้คลำไม่มีหางพ่อเป็นได้ฟาดหมด

แต่อันที่จริงแล้ว คำว่าเทครัวนั้น เป็นกลยุทธภายหลังการชนะศึกอย่างหนึ่งของคนสมัยโบราณ เมื่อรบทัพจับศึกกันแล้ว ก็มักจะกวาดต้อนผู้คนและทรัพย์สิน กลับมาเป็นบำเน็จสงคราม การกวาดมานั้น เรียกกันว่าเทครัวมากันเลยทีเดียว เพราะนอกจากเสาเรือน ฝาบ้าน จากมุงหลังคา ที่ไม่รู้จะเทมาทำไมแล้ว ผู้คน ทรัพย์สิน ช้าง ม้า วัว ควาย ไก่ เป็ด สารพัดสัตว์เลี้ยง ก็จะถูกกวาดต้อนกลับมาด้วย

เหตุผลก็คือ ในสมัยโบราณนั้น คนนับเป็นอาวุธสงครามที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ศาสตราวุธอื่นใดนั้น หากไม่มีคนเป็นผู้กำกับ ก็จะไร้ค่าไร้ความหมาย และกองทัพที่มีพลรบเป็นจำนวนมาก เมื่อปะทะกับกองทัพที่มีพลรบจำนวนน้อย ย่อมจะชนะศึกในยุคนั้นชนิดที่เรียกว่าชัวร์ป๊าบนิ่ม เมื่อทำการกวาดต้อนผู้คนมาจนหมด แผ่นดินที่แพ้สงครามก็ต้องใชเวลาผลิตพลเมืองใหม่ เพื่อนำมาเป็นพลรบ ซึ่งจะต้องใช้เวลานับสิบปีขึ้นไป หรืออาจจะนานนับร้อยปี กว่าจะมีพลรบพอจะกลับมา เอาคืน ได้

ในการกวาดต้อนอพยพผู้คนของฝ่ายที่แพ้สงครามนั้น จำต้องมีผู้บังคับบัญชา กิจการงานเช่นนี้ ศักดิ์ของผู้กระทำการคงมิใช่ไพร่ราบทหารเลว แต่ต้องเป็นผู้ที่จะบังคับบัญชากองทัพ หรือหน่วยทหารที่จะต้องควบคุมให้เชลยอยู่ในความเรียบร้อย ถ้าเป็นสมัยนี้ก็เห็นจะต้องใช้คนระดับ อธิบดี หรือ เจ้ากรมของทหาร ซึ่งตำแหน่งระดับนี้ในอดีต คงจะประมาณบรรดาศักดิ์ได้เท่ากับพระยา จึงได้เกิดคำเรียกพระยาเทครัวขึ้นมาในครั้งกระนั้น

แต่ไม่จำเป็นว่า ผู้บังคับบัญชาการเทครัวนั้น จะต้องมียศเป็นพระยา จะต่ำหรือสูงกว่านั้นมิได้ เป็นเพียงแต่ว่าคงจะเคยใช้บรรดาศักดิ์พระยา ทำหน้าที่รับผิดชอบการเทครัวขึ้นมาหลายครั้งหลายหน และความหมายก็ผิดเพี้ยนไปตามอารมณ์ขันของคนไทย ที่มักจะชอบเปรียบเปรยเรื่องใกล้ตัว ด้วยชื่อเสียงเรียงนามของสิ่งต่างๆ พระยาเทครัวเลยกลับกลายมาเป็นฉายา ของบุคคลดังกล่าวข้างต้นนั้น

แต่ขอบเขตอำนาจหน้าที่ของพระยานั้น เอาแน่นอนอะไรมิได้ เนื่องจากกการปกครองในสมัยโบราณนั้น ขึ้นอยู่กับความเห็นของผู้มีอำนาจ เช่นเดียวกับตำแหน่งขุนนางของฝรั่ง เพราะปรากฎว่าคนเทกระโถนของพระเจ้าหลุยส์แห่งฝรั่งเศส ยังมีบรรดาศักดิ์สูงกว่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่จำนวนมาก

ป้าขอขอบใจที่เชียร์ให้ป้าเป็นคอลัมนิสต์ยอดฮิตติดอันดับเของเสรีไทย แต่ป้าไม่แน่ใจว่านั้นจะดีหรือไม่ดี เพราะป้าได้ข่าวว่า ซ้อเจ็ดได้ค่าเขียนคอลัมน์คราวละหลายสตางค์อยู่ ส่วนป้านั้น จะซื้อหมากมาเคี้ยว ยังต้องออกทุนเองเลยจ๊ะ อาภัพจริงๆ

ศิลาแลง

 
 


ป้าครับ ขอบคุณป้าเป็นการส่วนตัว คือคำตอบของป้า ทำให้ผมหัวใจชุ่มฉ่ำมากเลยครับ..

รู้สึกเหมือนชีวิตเราพอเพียงเมื่อได้สิ่งที่พึงพอใจ เป็นกำลังใจให้ป้าเสมอเช่นกันนะครับ

จริงแล้วมีเรื่องอยากสอบถามป้าอีกมาก เช่น ทัศนะของป้าเกี่ยวกับคำโบราณที่ว่า สามีเหมือนฉัตรแก้วกั้นเกศ ป้าให้น้ำหนักอย่างไรครับ?
                                                                                                                                                                 :slime_smile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 02-02-2008, 15:42
สวัสดีค่ะป้าแลง

หนูติดตามคอลัมน์ "ดุ๊กดิ๊กช่วยเดา" ทางหนังสือพิมพ์หัวเขียวมานาน เอ๊ะ ... หรือว่าไม่เกี่ยวกับป้าแลง งั้นหนูขอถามคำถามกับป้าตรงๆ เลยนะคะ คือหนูเป็นลูกของนักการเมืองที่ชาวบ้านเค้าด่าว่า ปอมอ หน่ะค่ะ คือจริงๆ หนูออกจะภูมิใจนะคะว่า หน้าตาหนูเหมือนแม่มากกว่าพ่อ เพราะแม่หนูสวยค่ะ แต่แม่หนูติดใจคารมคุณพ่อมากตอนที่เรียนมหาลัยด้วยกัน จนกระทั่งได้แต่งงานกัน พ่อหนูหน้าตาไม่ดีเท่าไหร่ แถมออกจะปากตลาด พอหนูเกิดออกมาคุณพ่อมักจะพาหนูไปจ่ายตลาดอยู่เรื่อยๆ จนหนูได้ยินคำพูดของพ่อที่ออกจะปากตลาดอยู่ซะด้วยซ้ำ

หนูแต่งงานกับชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่พบกันในที่ทำงาน เค้าหน้าตาดีค่ะ หนูออกจะภูมิใจว่า เมื่อมีลูกต้องหน้าตาดีกับเขา แต่แล้วเมื่อลูกหนูคลอดออกมา พอโตขึ้นทำไมนานวันเข้า หน้าตาทำไมขี้เหร่เหมือนพ่อหนูตอนนี้ หน้ายักษ์ขมูขีแถมจมูกบานอีก หนูไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเชื้อสายของหนูที่หนูคิดว่าติดมาจากแม่ แล้วเมื่อเจอกับสามีหนูแล้ว คิดว่าลูกเราต้องหน้าตาดีเหมือนน้องกายของมาช่ากับหนุ่ยอำพูน หรือพวยทองท้วยของท่านหน้าเหลี่ยมเจ้านายพ่อหนู

ทำไมค่ะ เชื้อสายหนูมันไม่ดีตรงไหน ทำไมลูกหนูถึงน่าเกลียดขนานนั้นค่ะ ไม่เข้าใจจริงๆ หรือหนูต้องผสมพันธุ์ใหม่อีกรอบถึงจะได้หน้าตาแบบสเตฟาน แต่ยังไงหนูก็รักลูกหนูนะคะ หนูพยายามให้ลูกของหนูทำอาหารเก่งๆ จะได้เป็นพ่อครัว ทำอาหารอร่อยๆ ไม่ต้องกินของหนักๆ อย่างอิฐหินดินทราย หรือแม้กระทั่งกองขยะให้อับอายตระกูลหนูอีก นี่ยังโชคดีที่ไม่ได้เป็นนามสกุลพ่อ ไม่งั้นลูกหนูโตขึ้นคงลำบากแย่

หนูมีเรื่องปรึกษากับป้าแลงแค่นี้ค่ะ ขอบคุณที่อ่านจดหมายของหนูจนจบนะคะ

ขอบคุณค่ะ

ก.ด.ภ. (กดดันภาษี)

สวัสดีหลาน ก.ด.ภ. (กดดันภาษี)

ก่อนอื่นป้าต้องขอทักเสียก่อนว่า ชื่อของหนูแปลกประหลาดดีมาก ไม่ทราบว่าหมอดูท่านใดหรืออาจารย์ผูเรืองวิทยาคมท่านใดตั้งให้ แปลกหูดีมากจ๊ะ และป้าก็ไม่ทราบว่ามันมีความหมายอะไรแอบแฝงอยู่ในนั้นหรือเปล่า

เรื่องบิดาของหนูที่ได้รับฉายาจากชาวบ้านว่า ปอมอ นั้น หนูอย่าไปใส่ใจมากนักนะจ๊ะ เพราะชาวบ้านนั้นก็จัดได้อยู่ในจำพวกไพร่ เวลาจะกล่าวถึงบรรพบุรุษตนเองก็อาจจะกล่าวได้เพียงว่า นายหมักลูกตาหมม ซึ่งฟังแล้วไม่น่าศรัทธาเท่าไหร่ สู้คนที่เป็นลูกน้ำพริกน้ำยาไม่ได้ กล้าวถึงต้นตระกูลแล้ว ขลังดีชะมัด

หน้าตาของหนูนั้นป้าก็ไม่เคยเห็น อีกทั้งหน้าพ่อหน้าแม่ของหนูป้าก็ไม่เคยพบเห็น จึงช่วยตัดสินให้ไม่ได้ว่า หน้าของหนูนั้นเหมือนใครกันแน่ เมื่อหนูปักใจเชื่อว่าหน้าของหนูสวยเหมือนแม่ และหน้าของพ่อของหนูนั้นไม่ค่อยจะงดงาม ป้าก็จะเชื่อไปตามนั้น แต่หนูก็อย่าได้พยายามถามใครต่อใครให้มากนักว่า หน้าหนูเหมือนใครกันแน่ ระหว่างพ่อกับแม่ เพราะถ้ามีผู้รู้มาเฉลยให้ว่า หน้าหนูเหมือนคนข้างบ้าน มันจะยุ่งกันไปใหญ่

การที่หนูหาคู่ครองได้หน้าตาดีเช่นเดียวกับตนเอง ก็คงเป็นที่พึงพอใจของหนู หนูคงมีความสุขดีกับชีวิตที่ได้เห็นหน้าคู่ครองที่ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่ แต่การที่คนหน้าตาดีสองคนมาแต่งงานกัน ไม่มีอะไรเป็นเครื่องรับประกันว่า ทายาทที่ออกมาจะมีหน้าตาดีดังเช่นพ่อแม่ เพราะหนูเองยังยอมรับว่าหนูเหมือนแม่มากกว่าเหมือนพ่อ

แต่ผลของการเสพเมถุนจนได้ทายาทนั้น (ป้ามิได้พูดจาหยาบคายนะจ๊ะ คำว่าเสพเมถุนเป็นศัพท์สูงทางการเมือง ที่กำลังเป็นที่นิยมกัน และถือเป็นคำสุภาพ เพราะออกมาจากปากของลูกน้ำยาเลยทีเดียว) ไม่มีอะไรในโลกนี้รับประกันได้ว่า ใบหน้าของทายาทนั้นจะเหมือนผูให้กำเนิดทั้งสอง ดังนั้นการที่ลูกของหนูหน้าไพล่ไปเหมือนปู่ย่าตายายนั้น ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ในเมื่อใบหน้าของลูกนั้น ไม่ค่อยจะเป็นที่พึงพอใจของหนูสักเท่าไหร่ เนื่องจากเหตุอันใดก็ตาม ป้าแนะนำให้ทำใจ อย่างไรเขาก็เป็นลูกของเรา เลี้ยงดูอบรมให้ดี ให้เป็นคนดี หน้าตาจะขี้ริ้วขี้เหร่ไปบ้าง ก็ถือเป็นเรื่องของกรรมนะจ๊ะ

ส่วนการที่หนูคิดจะมีทายาทเพิ่ม เพราะคิดว่าลูกคนใหม่อาจจะหน้าตาดีกว่าคนเก่า บางทีหนูอาจจะคิดผิด เพราะถ้ามันออกมาแล้วแย่กว่าเดิม คราวนี้หนูจะทำอย่างไร แต่ถ้าหนูคิดจะมีลูกอีกคน เพื่อให้ไว้เป็นเพื่อนของคนที่ออกมาก่อนแล้ว อันนั้นก็จงอย่าไปใส่ใจกับหน้าตาจ๊ะ

ปัญหาเรื่องเชื้อสายของหนูนั้น ป้าจนปัญญาจะตอบจริงๆ แต่การที่หนูจะสั่งสอนลูกหลาน ให้เป็นคนดี เป็นพ่อครัวแม่ครัวที่ทำอาหารได้อร่อย โดยไม่ไปกินหินกินดินกินขยะ ก็นับเป็นความคิดที่ดี คนเรานั้น หน้าตาไม่ดี ปากไม่ดี นิสัยไม่ดี แล้วยังกินของไม่ดีเข้าไปอีก ชีวิตมันก็คงไม่เหลืออะไรดีแล้วล่ะจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 02-02-2008, 16:15


ป้าครับ ขอบคุณป้าเป็นการส่วนตัว คือคำตอบของป้า ทำให้ผมหัวใจชุ่มฉ่ำมากเลยครับ..

รู้สึกเหมือนชีวิตเราพอเพียงเมื่อได้สิ่งที่พึงพอใจ เป็นกำลังใจให้ป้าเสมอเช่นกันนะครับ

จริงแล้วมีเรื่องอยากสอบถามป้าอีกมาก เช่น ทัศนะของป้าเกี่ยวกับคำโบราณที่ว่า สามีเหมือนฉัตรแก้วกั้นเกศ ป้าให้น้ำหนักอย่างไรครับ?
                                                                                                                                                                 :slime_smile:

สวัสดีหลาน Q

ป้าดีใจที่คำตอบของป้า ทำให้หลานชุ่มชื่นหัวใจขึ้นมาได้บ้าง เพราะปกติแล้วเวลาป้าตอบอะไรกับใคร โดยเฉพาะคนแถวบ้าน เขาไม่ใคร่จะชุ่มชื่นหัวใจกันสักเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนดวงตาจะชุ่มด้วยแววโทสะ และป้าก็ใกล้จะเจ็บตัวอยู่เสมอๆ  :slime_smile2:

คำโบราณที่ว่า "สามีเหมือนฉัตรแก้วกั้นเกศ" ป้าเคยได้ยินมา แต่จำไม่ได้ว่า ที่มามาจากที่ไหน คำนี้หากจะพิจารณาเอาเรื่องกัน ก็เห็นจะหาเรื่องกันได้มากอยู่ เพราะสามีที่เป็นสัตว์แก้วเมาเอดส์ มีอยู่มากมายถมเถ แต่อย่างว่าแหละจ๊ะ สังคมโบราณของคนเรา เป็นสังคมที่ชายเป็นใหญ่ ดังนั้นการมีสามีก็เหมือนกับมีผู้คุ้มครองดูแลหาเลี้ยง เหมือนไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาแก้ผู้อยู่ข้างใต้

แต่ถึงปัจจุบัญ ก็คงยอมรับในความเท่าเทียมเสมอภาคกัน ระหว่างชายและหญิงแล้ว ดังนั้น "ภรรยาเหมือนฉัตรแก้วกั้นเกศ" ก็มีให้เห็นอยู่มากมาย อยากเห็นตัวอย่าง ป้าก็แนะนำให้ดูนายกรัฐมนตรีของประชาชนท่านหนึ่ง ที่ประกาศอย่างชื่นชมว่า ไม่ได้ทำมาหากินมาตั้งกะหนุ่มๆ เพราะภรรยาทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง และท่านก็มุ่งหน้าเล่นการเมืองมาตลอด จนประสบความสำเร็จได้เข้ามาล้างแค้น เอ๊ยล้างผลาญ เอ๊ย ไม่ใช่ ล้างตา ว้าาาาา...  ท่านจะเข้ามาทำอะไรก็ช่างท่านเถิด จะมาเสพเมถุนก็ช่าง เป็นอันว่า นี่เป็นตัวอย่างของ "ภรรยาเหมือนฉัตรแก้วกั้นเกศ" ก็แล้วกัน

อันที่จริงแล้ว การครองคู่ของคนเรา หากทั้งสองฝ่ายต่างเป็นคนดี ก็เป็น "ฉัตรแก้วกั้นเกศ" ให้แก่กันและกัน ไม่ว่าจะพิจารณาจากทางด้านไหน ทางสามีหรือภรรยา ก็จะน่านับถือด้วยกันทั้งสิ้น  การสร้างครอบครัวนั้น ผู้ที่เคยมีครอบครัวจะรู้ดีว่า คนดีเพียงคนเดียว อาจพาครอบครัวที่ย่ำแย่ให้รอดได้ และในทางกลับกัน ครอบครัวดีอยู่แล้ว แต่กลับเกิดคนเลวขึ้นมาเพียงคนเดียว ครอบครัวนั้นก็วุ่นวายพินาศได้เช่นกัน

จึงสมควรที่คนเราไม่ว่าหญิงหรือชาย ต้องทำตัวให้เป็นฉัตรแก้วของคนในครอบครัวให้ได้ หากมีฉัตรแก้วหลายคัน ครอบครัวนั้นก็จะยิ่งร่มเย็น นอกจากจะร่มเย็นภายในครอบครัวแล้ว ยังเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มาให้คนที่หนีร้อนมาพึ่งเย็นได้อีกมาก

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 03-02-2008, 22:12


ป้าครับ  :slime_doubt:


ผมเห็นหญิงชายที่เจ้าชู้

ป้าว่าเป็นอย่างไรครับ? ผิดธรรมชาติหรือเปล่า?

อรหันต์ก่อนและหลังมีเมีย และบรรลุอรหันต์ได้หรือไม่?


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 04-02-2008, 10:20

ป้าครับ  :slime_doubt:

ผมเห็นหญิงชายที่เจ้าชู้

ป้าว่าเป็นอย่างไรครับ? ผิดธรรมชาติหรือเปล่า?

อรหันต์ก่อนและหลังมีเมีย และบรรลุอรหันต์ได้หรือไม่?

สวัสดีหลาน Q

หากจะถามว่าความเจ้าชู้ผิดธรรมชาติไหม ก็ต้องมองไปที่มุมของธรรมชาติก่อน  มนุษย์ก็เป็นสัตว์โลกประเภทหนึ่ง ดังนั้นเมื่อเรามองไปที่มุมของสัตว์โลกอื่นๆ มันเจ้าชู้กันบ้างไหม

ช้าง ม้า โค กระบือ สิงห์สาราสัตว์ทั้งหลาย มันก็มีชีวิตอยู่เพื่อนการสืบเผ่าพันธ์ตามธรรมชาติ สัตว์บางชนิดผลัดเปลี่ยนคู่กันไปตามวาระ บ้างก็อยู่คู่ผัวตัวเมียเดียวไปจนตายจากกัน บ้างก็อยู่เป็นฝูงๆ เหมือนฮาเร็ม จะเห็นได้ว่า สัตว์แต่ละชนิดก็มี ธรรมชาติ ของมัน นกที่จับคู่ไม่เปลี่ยนคู่ มันก็คงไม่ไปตำหนิสิงห์โตที่มีตัวเมียพร้อมกันทีละฝูง ว่าเจ้าชู้  และสิงห์โตนั้นก็ไม่ไปตำหนินกว่า โง่จัง อะไรประมาณนั้น

ดังนั้นถ้าจะถามเรื่องธรรมชาติ ป้าก็จะตอบว่า ความเจ้าชู้เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถ้าจะถามเรื่องศีลธรรมวัฒนธรรมประเพณี คำตอบคงจะไม่เหมือนกันจ๊ะ

ส่วนคำถามที่ว่า อรหันต์ก่อนและหลังมีเมีย และบรรลุอรหันต์ได้หรือไม่?  คำถามนี้กำกวมดีมากจ๊ะ

อรหันต์นั้นแปลได้หลายอย่าง ทั้ง  ผู้รู้ ผู้ไม่กลับมา ผู้ไกลจากกิเลส ผู้สามารถขจัดกิเลสให้หมดสิ้นไป ผู้ไกลจากข้าศึกคือกิเลส ผู้ที่ถึงที่สุด ผู้ที่สมบูรณ์

ดังนั้น หากจะเอาความหมายที่แปลได้มากมายนี้มาตอบคำถาม เห็นทีจะตอบไม่ได้ เพราะคำจำกัดความมันตีความไปได้หลายมุม เหมือนรัฐธรรมนูญไม่มีผิด ยิ่งตีความ ยิ่งยุ่ง

แต่ถ้าจะเอาความรู้สึกของคนทั่วไปมาตอบคำถาม ประการแรกเราจะเข้าใจกันว่า ก่อนจะเป็นอรหันต์นั้น ต้องบวชเป็นพระเสียก่อน เพราะคนทั่วไปคงไม่ยอมเชื่อว่า คนสักคนหนึ่งที่นุ่งผ้านุ่งผ่อนเหมือนกับเรา เดินดินกินข้าวแกงร่วมกับเรา จะเป็นอรหันต์ไปได้ หากใครที่ทำตัวเช่นนั้นมาพร่ำบอกกับเราว่า เป็นอรหันต์ ไม่แคล้วถูกจับส่งหลังคาแดง

ดังนั้นหากจะตอบตามความรู้สึกนี้ เห็นทีจะต้องตอบว่า ก่อนจะบวชนั้น จะมีเมียหรือไม่ ไม่ใช่อุปสรรค์ของการเป็นอรหันต์ แต่หลังจากบวชแล้ว ถ้าไปมีเมีย ก็เป็นได้แต่อลัชชีปาราชิก เป็นอรหันต์ไม่ได้แน่นอน เพราะบวชแล้วยังไม่เป้นผู้รู้ ไม่ละกิเลส ไปเสพเมถุน

และการบรรลุอรหันต์นั้น ไม่มีประกาศนียบัตรหรือปริญญารองรับ บรรลุแล้วก็แล้วกัน เพราะถ้ารู้แล้วว่าตนบรรลุอรหันต์ ก็หมายความว่าหมดกิเลสแล้ว การป่าวประกาศให้ผู้คนรู้ว่า ตนบรรลุอรหันต์นั้น เป็นกิเลสอย่างหนึ่ง ดังนั้น พระองค์ใดประกาศตนเป็นอรหันต์ ก็ไม่ใช่อรหันต์

ส่วนการที่ลูกศิษย์ลูกหามาเที่ยวประกาศว่า อาจารย์ของตนเป็นอรหันต์นั้น เป็นเรื่องไร้สาระ เพราะคนที่กิเลสหนาเขรอะ หรือกิเลสจะเบาบาง แต่ยังไม่หมดไป จะไปรู้ได้อย่างไรว่า ใครเป็นอรหันต์ ก็ได้แต่พูดเรื่อยเปื่อย เพื่อยืนยันกับคนอื่นว่า ผู้ที่ตนนับถือนั้นดีเลิศขนาดเป็นอรหันต์ ดีกว่าอาจารย์ของแก ว่างั้นเหอะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 04-02-2008, 15:00


ป้าครับผู้หญิง ที่ไม่ได้บวชหรือมีสามี

บรรลุอรหันต์ได้หรือไม่ครับ..?

ผมไม่คิดว่าจะไม่ได้นะครับ

ในพุทธศาสนา มีบันทึกถึงอรหันต์หญิงอยู่กี่รายครับ.?


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 04-02-2008, 18:46

ป้าครับ :slime_inlove:


ป้ามาพอดี ป้าต้องอดทนกับคำถามผมหรือเปล่า?

ป้าต้องตอบผมตรงๆนะครับ หรือว่าป้าไม่ตอบตรงๆก็ได้

แล้วแต่ป้าละกัน ผมก็ต้องเข้าใจป้าอยู่แล้ว...

ป้าไม่ต้องเข้าใจผมนะครับ ผมไม่อยากเป็นภาระหนักใจป้าหรอกครับ.. :slime_fighto:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 04-02-2008, 18:51

ป้าครับผู้หญิง ที่ไม่ได้บวชหรือมีสามี

บรรลุอรหันต์ได้หรือไม่ครับ..?

ผมไม่คิดว่าจะไม่ได้นะครับ

ในพุทธศาสนา มีบันทึกถึงอรหันต์หญิงอยู่กี่รายครับ.?

หลาน Q

อย่างที่ได้ตอบไปแล้วว่า อยู่ที่การตีความว่า อรหันต์นั้น จะหมายถึงอะไร ความหมายใด

และการบวชนั้น เป็นรูปธรรม ลองคิดดูว่า หากมีคนสักคนหนึ่ง ไม่ได้เข้าพิธีบวช แต่ถือพระวินัยครบ 227 ข้อของภิกษุ หรือ ถือพระวินัยครบ 331 ข้อของภิกษุณี จะเรียกเขาว่าอะไรดี

อีกทั้งการมีสามีหรือมีภรรยา  หรือ เคยมีสามีหรือภรรยามาแล้ว และในขณะที่เราจะนำมาพิจารณา การมีสามีหรือภรรยาของเขาในขณะนั้น เป็นอย่างไร

พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า ธรรมที่นำมาสั่งสอน ไม่ได้คิดขึ้นใหม่ แต่เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว มีอยู่จริง การรู้ การละวางกิเลส ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะพระพุทธองค์ทรงสร้างขึ้น แต่มันมีอยู่แล้ว มีก่อนที่พระพุทธองค์จะนำมาสั่งสอน

ดังนั้นปัญหาที่ว่า คนอย่างไร จะบรรลุอรหันต์ได้ หรือนิพพานได้ ค่อนข้างจะไปทางอจินตัย คิดไปก็ไม่ได้อะไร และเราเองก็ตัดสินผิดถูกไม่ได้ว่า ผู้ใดเป็นอรหันต์หรือไม่ ใครเขาจะว่าเขาเป็น ก็ปล่อยไปเถิด

คำถามที่ว่า ในพุทธศาสนา มีบันทึกถึงอรหันต์หญิงอยู่กี่ราย ป้าก็ไม่ทราบ บันทึกทางพระพุทธศาสนานั้น มีมากมายเหลือคณานับ ป้าไม่เคยอ่านทั้งหมดดอกจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 04-02-2008, 18:56
ป้าครับ :slime_inlove:


ป้ามาพอดี ป้าต้องอดทนกับคำถามผมหรือเปล่า?

ป้าต้องตอบผมตรงๆนะครับ หรือว่าป้าไม่ตอบตรงๆก็ได้

แล้วแต่ป้าละกัน ผมก็ต้องเข้าใจป้าอยู่แล้ว...

ป้าไม่ต้องเข้าใจผมนะครับ ผมไม่อยากเป็นภาระหนักใจป้าหรอกครับ.. :slime_fighto:

หลาน Q

การตอบคำถามของป้าในบอร์ดเสรีไทยนั้น หัสเดิมเริ่มแรกก็ตอบเพราะมีคนถาม จนปัจจุบัญก็ตอบเพราะมีคนถาม

เมื่อมีคนถาม ก็เป็นเครื่องแสดงว่าคนนั้นอยากได้คำตอบ คำถามเป็นอย่างไร คำตอบก็เป็นอย่างนั้นจ๊ะ

ส่วนเรื่องหนักใจนั้น  เมื่อไม่นานมานี้ป้าเคยได้ฟังเพลงสมัยใหม่ถูกใจมากเพลงหนึ่ง ไม่น่าเชื่อว่ายุคสมัยนี้ จะมีคนแต่งเพลงได้ลึกซึ้งถีงปานนี้ จึงนำเนื้อเพลงมาให้อ่าน และนั่นคือคำตอบจากใจของป้าเช่นกัน

อ้างถึง
เคยมีใครสักคนได้บอกฉันมา ว่าเวลาใครมาทำกับเราให้เจ็บช้ำใจ
ลองไปเก็บก้อนหินขึ้นมาสักอัน ถือมันอยู่อย่างนั้นและบีบมันไว้

บีบให้แรงจนสุดแรง ให้มือทั้งมือมันเริ่มสั่น ใครคนนั้นยิ้มให้ฉัน ถามว่าเจ็บมือใช่ไหม

* ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ได้เท่ากับเธอทำตัวของเธอเอง ให้เธอคิดเอาเอง ว่าชีวิตของเธอเป็นของใคร
ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ถ้าเธอไม่รับมันมาใส่ใจ ถูกเขาทำร้าย เพราะใจเธอแบกรับมันเอง

ใครมาทำกับเธอให้เจ็บหัวใจ ก็แค่ให้ก้อนหินก้อนนั้นให้เธอรับมา
เพียงเธอจับมันโยนให้ไกลสายตา หรือเธอปรารถนาจะเก็บมันไว้

หากยิ่งยอมยิ่งแบกไป หัวใจของเธอก็ต้องสั่น หากยังทำตัวแบบนั้น ถามว่าปวดใจใช่ไหม

(ซ้ำ *)

(ซ้ำ *)

ถูกเขาทำร้าย เพราะใจเธอรับไว้เอง

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 04-02-2008, 19:33


ป้าครับ  :slime_inlove:


ผมคงต้องเสริมข้อความของป้านะครับ

คือหินเป็นของแข็ง มือเราอ่อนกว่าก็เจ็บสิครับ

เป็นอย่างอื่นๆที่มีค่า แต่แข็งก็เจ็บครับ เช่นเพชร

หากจะเปรียบเทียบกับจิดใจก็เหมือนกัน

มันคงอยู่ที่ว่า เราจะสามารถทำอะไรได้กับของแข็งอันนั้น..

หากจะเปรียบจริงๆ ของไม่แข็ง เช่นลมร้อนๆหรือเย็นมากๆก็ทำอันตรายได้ครับ

มีโทษ ย่อมมีคุณได้ตามสมบัติของมัน

การตัดสินใจเก็บหรือทิ้งจึงเป็นเรื่องลึกซึ่งมากขึ้นไปอีกครับ..คงสาธยายได้ไม่หมดด้วยตัวอักษร


จากข้อความคำถามก่อนนั้น แสดงว่าอรหันต์ตามพุทธศาสนาไม่จำเป็นต้องออกบวชถือสมณเพศก็ได้ครับ..




หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 04-02-2008, 20:20

ป้าครับ  :slime_inlove:


ผมคงต้องเสริมข้อความของป้านะครับ

คือหินเป็นของแข็ง มือเราอ่อนกว่าก็เจ็บสิครับ

เป็นอย่างอื่นๆที่มีค่า แต่แข็งก็เจ็บครับ เช่นเพชร

หากจะเปรียบเทียบกับจิดใจก็เหมือนกัน

มันคงอยู่ที่ว่า เราจะสามารถทำอะไรได้กับของแข็งอันนั้น..

หากจะเปรียบจริงๆ ของไม่แข็ง เช่นลมร้อนๆหรือเย็นมากๆก็ทำอันตรายได้ครับ

มีโทษ ย่อมมีคุณได้ตามสมบัติของมัน

การตัดสินใจเก็บหรือทิ้งจึงเป็นเรื่องลึกซึ่งมากขึ้นไปอีกครับ..คงสาธยายได้ไม่หมดด้วยตัวอักษร


จากข้อความคำถามก่อนนั้น แสดงว่าอรหันต์ตามพุทธศาสนาไม่จำเป็นต้องออกบวชถือสมณเพศก็ได้ครับ..


หลาน Q

บทเพลงนั้นเป็นเรื่องอุปมาอุปมัย เช่นเดียวกับบทกลอน สัมผัสใจไม่จำเป็นต้องสัมผัสคำ จะเอาเหตุผลแบบวิทยาศาสตร์มาจับผิดเรื่องศิลปะ ก็ออกจะไม่ได้เรื่องไปสักหน่อย

การตัดสินใจจะเก็บหรือทิ้งอะไร กับการตัดสินใจจะปล่อยวางอะไร เป็นศิลปะที่มิอาจชี้แนะกันได้ สิ่งที่บางคนเก็บไว้และเห็นว่ามีค่า อาจจะไร้ค่าสำหรับคนอื่นได้ มาตรฐานมันไม่เหมือนกัน

อรหันต์ตามพุทธศาสนา ต้องบวชจ๊ะ  ถ้าอรหันต์นอกพระพุทธศานาก็ไม่ต้องบวชตามพุทธศาสนา

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 04-02-2008, 20:41


ป้าครับ


เรื่องอรหันต์ตามพุทธศาสนา คงต้องฝากการบ้านไว้กับป้านะครับ

เท่าที่ผมเคยผ่านตาผ่านหู ได้ยินว่าผู้บรรลุธรรมขั้นสูงนั้นไม่จำเป็นต้องถือสมณเพศ

แค่สำหรับอรหันต์ คงไม่ยืนยัน เพราะไม่แน่ใจว่ามีอยู่ในพระไตรปิฏก  หรือคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่?

หากตีความก็ตามที่เรียนครับ ว่าไม่ได้ระบุเงื่นอนไขว่าต้องออกบวช และหรือต้องบำเพ็ญทุกข์กิริยา..


ป้าคุยเรื่องศิลปแขนงต่างๆให้ผมฟังหน่อยครับ

เช่น ความสวยงามของภาษา ฯลฯ

คืนนี้ผมคงหลับง่าย ครับสะสมไว้ก่อน.. ศิลปคืออะไรครับ.อุปมาหรือนิยามให้ฟังหน่อยครับ.

ศิลปคือจุดๆหนึ่งบนท้องฟ้า ณ ขณะหนึ่งๆ ในสายตาคู่หนึ่งได้หรือเปล่าครับ?          :slime_smile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 04-02-2008, 21:10

ป้าครับ


เรื่องอรหันต์ตามพุทธศาสนา คงต้องฝากการบ้านไว้กับป้านะครับ

เท่าที่ผมเคยผ่านตาผ่านหู ได้ยินว่าผู้บรรลุธรรมขั้นสูงนั้นไม่จำเป็นต้องถือสมณเพศ

แค่สำหรับอรหันต์ คงไม่ยืนยัน เพราะไม่แน่ใจว่ามีอยู่ในพระไตรปิฏก  หรือคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่?

หากตีความก็ตามที่เรียนครับ ว่าไม่ได้ระบุเงื่นอนไขว่าต้องออกบวช และหรือต้องบำเพ็ญทุกข์กิริยา..


ป้าคุยเรื่องศิลปแขนงต่างๆให้ผมฟังหน่อยครับ

เช่น ความสวยงามของภาษา ฯลฯ

คืนนี้ผมคงหลับง่าย ครับสะสมไว้ก่อน.. ศิลปคืออะไรครับ.อุปมาหรือนิยามให้ฟังหน่อยครับ.

ศิลปคือจุดๆหนึ่งบนท้องฟ้า ณ ขณะหนึ่งๆ ในสายตาคู่หนึ่งได้หรือเปล่าครับ?          :slime_smile:

หลาน Q

ก็อย่างที่ตอบไปแล้วล่ะต๊ะ ว่าเรื่องนี้แล้วแต่มุมมอง การบรรลุธรรมขั้นสูงหรือขั้นต่ำ ก็คือการบรรลุถึงสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า สิ่งเหล่านั้นมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ  พุทธศานามิได้เป็นเจ้าของสิ่งเหล่านั้นนะจ๊ะ ดังนั้นหากค้นหนทางพบ ก็น่าจะบรรลุได้

การถือสมณเพศ ก็เป็นรูปธรรม อย่างที่อธิบายไปแล้วว่า ถือพระวินัยครบตามพุทธบัญญัติ แต่มิได้บวช จะเรียกว่ากระไร และจะนิพพานได้หรือไม่ ปัญหานี้เป็นปัญหาของ รูปธรรม และ นามธรรม และเป็นอจินตัยแน่นอน เพราะคิดไปก็ไม่ได้อะไร ดีไม่ดี บ้าไปเสียเปล่าๆ

ศิลป เป็นนามธรรมอีกเช่นกัน การจะหาคำจำกัดความของศิลป หาได้แต่ไม่ตรงใจกับความเห็นของทุกคน

ครั้งหนึ่งมีการประกวดผลงานศิลปในประเทศไทย มีผู้ส่งงานเข้าประกวดคนหนึ่งได้รับรางวัล แต่บุคคลนั้นไม่ได้จบจากศิลปากร มีการประท้วงกันว่า กรมการให้รางวัลงานทางด้านศิลป กับคนที่ไม่จบศิลปากรได้อย่างไร คงไม่ต้องบอกว่า เสียงประท้วงนั้นมาจากคนที่จบศิลปากร เรื่องนี้มีกรรมการและศิลปินหลายท่านช่วยกันตอบปัญหาไปแล้ว แต่ก็เป็นเครื่องยินยันได้ว่า ศิลปนั้นมีคำจำกัดความได้หลากหลาย เพราะคนที่จบทางศิลป มาจากสถานศึกษาทางศิลปบางคน เขายังเชื่อว่ามีแต่พวกเขาเท่านั้น ที่ผลิตงานศิลปได้ระดับที่จะรับรางวัล

คนวิจารณ์คงไม่ต้องเอ่ยชื่อ แต่ผู้ที่ได้รับรางวัลในปีที่มีปัญหานั้น ชื่อ มีเซียม ยิบอินซอย

ครั้งเมื่อยุคอิมเพรสชั่นนิสต์เริ่มต้นใหม่ๆ ศิลปินในกลุ่มนี้ถูกรังเกียจเดียจฉันถึงขั้น ไม่ให้จัดงานแสดงผลงานทางศิลปะ แต่ต่อมายุคอิมเพรสชั่นก็รุ่งเรืองถึงขีดสุด  แต่กระนั้นแวนก๊อกก็ขายรูปได้ทั้งชีวิตเพียงรูปเดียว ศิลปินด้วยกันเอง ยังมองศิลปินที่มีผลงานไม่เหมือนกับตนว่า ไม่ใช่งานศิลปะ ดังนั้น คำจำกัดความของศิลป อย่าไปหาเลยจ๊ะ

ความสวยงามของภาษานั้น ก็เป็นความสวยงามเฉพาะผู้รู้ภาษานั้น หรือพอจะฟังออกบ้าง บทกลอนอันไพเราะของสุนทรภู่ เอาไปท่องให้ฝรั่งฟัง เขาก็ได้ยินเหมือนเสียงนกเสียงกา ลางที่จะฟังเหมือนเสียงกระบือ รำคาญเปล่าๆ

เท่าที่ตอบปัญหาของหลานมา ป้าว่าหลานอาจจะต้องพยายามแยกแยะ รูปธรรม และ นามธรรม ให้ออกจากกันนะจ๊ะ แล้วปัญหาหลายอย่าง หลานจะเข้าใจได้โดยง่าย

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 04-02-2008, 21:14
:slime_bigsmile: :slime_v: :slime_bigsmile:

มา (แอบ) เป็นกองเชียร์ค่ะ  :slime_p:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 04-02-2008, 21:40
:slime_bigsmile: :slime_v: :slime_bigsmile:

มา (แอบ) เป็นกองเชียร์ค่ะ  :slime_p:


เข้ามาถามป้า สนุกดีครับ

ต้องให้ซุป นำหน้า เป็นซุปปราแรง..เดี๋ยวป้าแกงอนไม่ตอบเหงาแย่เลย.. :slime_smile:


ป้าครับ

เรื่องรุปและนามน่าสนใจครับ..เพราะมันผลุบโผล่ได้ตามการมองเหมือนกัน..?

มี นิยาม ผมก็ว่าเกิดรูปแล้วล่ะครับ.. :slime_doubt:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: นู๋เจ๋ง ที่ 04-02-2008, 21:54
ชอบกระทู้นี้ที่ซู๊ด

ชอบอ้ะ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 04-02-2008, 21:58
ชอบกระทู้นี้ที่ซู๊ด

ชอบอ้ะ

ไม่เจอซะนาน ชอบก็แวะมาได้ครับ :slime_smile: :slime_v:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 05-02-2008, 00:21

ก้อนหินก้อนนั้น.mp3
http://www.esnips.com/nsdoc/2b8a79ac-b134-4565-85ba-672cf8531fca/?id=1202145352220

อ้างถึง
อ้างถึง
เคยมีใครสักคนได้บอกฉันมา ว่าเวลาใครมาทำกับเราให้เจ็บช้ำใจ
ลองไปเก็บก้อนหินขึ้นมาสักอัน ถือมันอยู่อย่างนั้นและบีบมันไว้

บีบให้แรงจนสุดแรง ให้มือทั้งมือมันเริ่มสั่น ใครคนนั้นยิ้มให้ฉัน ถามว่าเจ็บมือใช่ไหม

* ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ได้เท่ากับเธอทำตัวของเธอเอง ให้เธอคิดเอาเอง ว่าชีวิตของเธอเป็นของใคร
ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ถ้าเธอไม่รับมันมาใส่ใจ ถูกเขาทำร้าย เพราะใจเธอแบกรับมันเอง

ใครมาทำกับเธอให้เจ็บหัวใจ ก็แค่ให้ก้อนหินก้อนนั้นให้เธอรับมา
เพียงเธอจับมันโยนให้ไกลสายตา หรือเธอปรารถนาจะเก็บมันไว้

หากยิ่งยอมยิ่งแบกไป หัวใจของเธอก็ต้องสั่น หากยังทำตัวแบบนั้น ถามว่าปวดใจใช่ไหม

(ซ้ำ *)

(ซ้ำ *)

ถูกเขาทำร้าย เพราะใจเธอรับไว้เอง

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 08-02-2008, 16:26

ป้าครับ  :slime_doubt:

ผมจะทำให้กระทู้ป้าเลอะหรือเปล่าครับ?

คืออยากถามป้าว่า ทำไมดาราชอบเล่นกล้องในลักษณะ

พาน้องนุ้งนิ้ง ออกมาเล่นด้วยครับ มันจะเป็นแนวโน้มของสังคมยุคนี้ต่อไปหรือเปล่า?


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 17-02-2008, 14:24
ป้าครับ  :slime_doubt:

ผมจะทำให้กระทู้ป้าเลอะหรือเปล่าครับ?

คืออยากถามป้าว่า ทำไมดาราชอบเล่นกล้องในลักษณะ

พาน้องนุ้งนิ้ง ออกมาเล่นด้วยครับ มันจะเป็นแนวโน้มของสังคมยุคนี้ต่อไปหรือเปล่า?

หลาน Q

ขอโทษที่ป้ามาตอบช้า เพราะมองเห็นชื่อสุดท้ายในกระทู้เป็นของหลาน ซึ่งป้าจำได้ว่าอ่านแล้ว ลืมดูวันที่ไปจ๊ะ ว่าหลานถามมาใหม่

กระทู้นี้มันเลอะเทอะมานานแล้ว จากน้ำหมากของป้าเอง ป้าโพสของป้าเองเยอะแยะ ไม่มีใครมาทำให้เลอะไปกว่านี้ได้แล้วล่ะจ๊ะ  :slime_smile2:

คำถามของหลานนั้น ป้าคิดจนขะหมองแทยระเบิด อีกทั้งไปถามคนอื่นๆเขาว่า น้องนุ้งนิ้ง นี่มันคืออะไรกันหรือ ก็ไม่ได้คำตอบ ป้าเข้าใจเอาเองว่า มันคงเป็นศํพท์ที่ใหม่เอามากๆ หรือเก่าเอามากๆ จนไม่มีใครรู้จัก ป้าก็ออกจะมึนๆ เลยตอบไม่ได้จ๊ะ
ทางที่ดีหลานน่าจะอธิบายให้ชัดเจนกว่านี้สักนิดหนึ่ง ว่าน้องนุ้งนิ้งนั้นคือใครหรืออะไร ป้าจึงจะตอบถูกจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 17-02-2008, 23:34
หลาน Q

ขอโทษที่ป้ามาตอบช้า เพราะมองเห็นชื่อสุดท้ายในกระทู้เป็นของหลาน ซึ่งป้าจำได้ว่าอ่านแล้ว ลืมดูวันที่ไปจ๊ะ ว่าหลานถามมาใหม่

กระทู้นี้มันเลอะเทอะมานานแล้ว จากน้ำหมากของป้าเอง ป้าโพสของป้าเองเยอะแยะ ไม่มีใครมาทำให้เลอะไปกว่านี้ได้แล้วล่ะจ๊ะ  :slime_smile2:

คำถามของหลานนั้น ป้าคิดจนขะหมองแทยระเบิด อีกทั้งไปถามคนอื่นๆเขาว่า น้องนุ้งนิ้ง นี่มันคืออะไรกันหรือ ก็ไม่ได้คำตอบ ป้าเข้าใจเอาเองว่า มันคงเป็นศํพท์ที่ใหม่เอามากๆ หรือเก่าเอามากๆ จนไม่มีใครรู้จัก ป้าก็ออกจะมึนๆ เลยตอบไม่ได้จ๊ะ
ทางที่ดีหลานน่าจะอธิบายให้ชัดเจนกว่านี้สักนิดหนึ่ง ว่าน้องนุ้งนิ้งนั้นคือใครหรืออะไร ป้าจึงจะตอบถูกจ๊ะ

ศิลาแลง


คำว่านุ้งนิ้งผมไม่ได้ใช้คนแรกครับ

เป็นนักเขียนข่าวเขาใช้ก่อน ผมก็ว่าน่ารักดี

ก็แทนจุดสำคัญที่ค่อนข้างลึกลับในหลายคน

แต่ของดารา บางทีก็ไม่ลับ เพราะเอามาเล่นกล้องกันจนมีคน เอามาเผยแพร่กันบ่อยๆ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 18-02-2008, 09:44

คำว่านุ้งนิ้งผมไม่ได้ใช้คนแรกครับ

เป็นนักเขียนข่าวเขาใช้ก่อน ผมก็ว่าน่ารักดี

ก็แทนจุดสำคัญที่ค่อนข้างลึกลับในหลายคน

แต่ของดารา บางทีก็ไม่ลับ เพราะเอามาเล่นกล้องกันจนมีคน เอามาเผยแพร่กันบ่อยๆ

หลาน Q

ป้าเข้าใจแล้ว อาจเกิดความสับสนในภาษาที่หลานเขียนมา เพราะที่จริงนั้น มีผู้ตั้งศัพแสลงขึ้นใหม่ เพื่อเรียกอวัยวะที่ควรปกปิดของสตรีว่า น้องนุ่มนิ่ม ศัพท์นี้ก็เกิดใหม่ๆ ไม่รู้ว่าได้บรรจุลงพจนานุกรมศํพท์วัยรุ่นกับเขาด้วยหรือไม่

ศัพท์ประเภทนี้มีเกิดมาเป็นระยะ แล้วก็ตายไปเป็นระยะ อย่างเช่น ถั่วดำ ตุ๋ย สะเดิ๊ฟ เป็นลักษณะปกติของภาษา ที่มีเกิดมีดับ ตามกฎไตรลักษณ์เช่นกัน

ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมดาราชอบเล่นกล้อง เท่าที่ป้ารู้มา คนทั่วไปก็ชอบเล่นกล้อง และเล่นพิเรนทร์จนเสียผู้เสียคนมาเยอะแล้ว ข่าวก็มีออกถมเถ ภาษิตเขาว่า ถ้าไม่อยากให้มีใครรู้ อย่าทำ นี่นอกจากจะทำแล้ว ยังบันทึกหลักฐานเอาไว้เสียด้วย สุดท้ายหลักฐานนั้นมันก็แดงโร่ ทำเอาคนในหลักฐานนั้น ถูกมัดจนดิ้นไม่หลุด

โลกเรานั้นเปลี่ยนไปจนมนุษย์เองไล่ตามไม่ทัน เด็กๆเยาวชนหรือชราชน รู้เท่าไม่ถึงการ ทำอะไรรุ่มร่ามไม่ถูกไม่ควร สุดท้ายมันก็ทำให้ตัวเองได้รับความเจ็บปวด เหตุการเล่นกล้องจนหลักฐานหลุดออกมาประจานชาวโลกนั้น ไม่ได้พึ่งเกิดมาครั้งแรก อีกทั้งผู้ที่เล่นกล้องนั้นก็คงได้ตัวอย่างมาจากหลักฐานของคนอื่น ที่หลุดออกมาให้ดู แต่กลับประมาทเล่นเองบ้าง แล้วก็ยังไม่รูจักหยุดหย่อนจนทุกวันนี้ อาจจะแสดงให้เห็นความคิดข้อหนึ่งของคนเรา ที่ชอบคิดว่า เรื่องร้ายๆอย่างนั้น ไม่น่าเกิดกับเราหรอกน่า

ไม่แน่นัก หลังจากมีการหลุดออกมาจนเป็นเรื่องปกติ ในอนาคต อาจจะไม่มีใครสนใจจะตื่นเต้นกับเร่องอย่างนี้ เพราะเห็นเสียจนเบื่อ และเมื่อมีนวัตกรรมใหม่ๆออกมาขายกัน ก็จะมีเรื่องใหม่ให้ชอบเล่นกัน ต่อไปอีกจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 18-02-2008, 19:12


ป้าครับ  :slime_doubt:


บางทีผมก็ห่วงพวกยั่วยุหาพวก กับพวก ฮาร์ทคอร์ กับพวกอ่อนไหวเฉพาะเรื่อง

พวกเด็กซิ่ง เด็กแวนซ์  มันเป็นพฤติกรรมที่ดูขาดกาละเทศะ

ไร้วุฒิภาวะ เจ้าหน้าที่บ้าเนมือง ก็ไม่ยุติธรรม เด็ดขาด กับพวกห่างบ้านพวกนี้

กลางค่ำกลางคืนตามตรอกซอกซอย เสียงดังหนวกหู

ความเร็วก็งั้นๆ ให้ลงสนามแข่งจริงๆ ก็แพ้ตกรอบคัดเลือก

ป้าเคยเจอปัญหาพวกนี้ในชีวิตประจำวันบ้างหรือเปล่า?


ส่วนใหญจะเริ่มในซอย แล้วออกมารวมกลุ่มใหญ่กันบนไฮเวย์

อูดมการณ์คือ อยากดังบ้าง อยากโขว์บ้าง  หนีปัญหาครอบครัวทางบ้านบ้าง แล้วแต่..


ป้าว่าคุกจะแก้ปัญหาหรือจะเพิ่มปัญหา สร้างหัวโจกดื้อด้านต่อกฎหมายและความสงบ โดยไม่มีใครอยากเตือนพวกอาชญากรเหล่านี้ครับ.?




หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 18-02-2008, 19:48

ป้าครับ  :slime_doubt:

บางทีผมก็ห่วงพวกยั่วยุหาพวก กับพวก ฮาร์ทคอร์ กับพวกอ่อนไหวเฉพาะเรื่อง

พวกเด็กซิ่ง เด็กแวนซ์  มันเป็นพฤติกรรมที่ดูขาดกาละเทศะ

ไร้วุฒิภาวะ เจ้าหน้าที่บ้าเนมือง ก็ไม่ยุติธรรม เด็ดขาด กับพวกห่างบ้านพวกนี้

กลางค่ำกลางคืนตามตรอกซอกซอย เสียงดังหนวกหู

ความเร็วก็งั้นๆ ให้ลงสนามแข่งจริงๆ ก็แพ้ตกรอบคัดเลือก

ป้าเคยเจอปัญหาพวกนี้ในชีวิตประจำวันบ้างหรือเปล่า?

ส่วนใหญจะเริ่มในซอย แล้วออกมารวมกลุ่มใหญ่กันบนไฮเวย์

อูดมการณ์คือ อยากดังบ้าง อยากโขว์บ้าง  หนีปัญหาครอบครัวทางบ้านบ้าง แล้วแต่..


ป้าว่าคุกจะแก้ปัญหาหรือจะเพิ่มปัญหา สร้างหัวโจกดื้อด้านต่อกฎหมายและความสงบ โดยไม่มีใครอยากเตือนพวกอาชญากรเหล่านี้ครับ.?


หลาน Q

ปัญหาเด็กซิ่งเด็กแว๊น ซึ่งก็น่าจะหมายถึงเด็กที่ทำผิดกฎหมาย รบกวนความสงบสุขของประชาชน มีสองเรื่องที่จะต้องพิจารณากัน

เรื่องแรกก็คือ กฎหมายและความสงบสุขของประชาชน การรักษากฎหมายนั้น ทุกวันนี้เรายกให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งประชาชนก็บ่นกันว่า ดูเหมือนตำรวจจะไม่ค่อยทำงาน รถซิ่งแข่งกันทุกคืน แต่ตำรวจนั้นนานๆทีจะออกไปปราบเสียหนหนึ่ง แล้วพวกที่ไม่โดนปราบก็ออกมาก่อกวนความสงบสุขกันใหม่ ปัญหานี้ที่จริงแล้ว เกิดจากโครงสร้างของระบบตำรวจของเราผิดพลาด เรานำระบบตำรวจมาจากต่างประเทศ แต่นำมาไม่หมด

ตำรวจที่เรามีทุกวันนี้ เป็นตำรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ดูแลโดยรัฐบาลและคณะกรรมการตำรวจ ที่ส่วนหนึ่งมาจากการเลือกของตำรวจเอง ลองถามผู้คนตามบ้านเรือนทั้งหลายดูเถิดว่า สารวัตใหญ่ที่ดูแลท้องที่ซึ่งเขาพำนักอาศัยอยู่นั้นคือใคร ร้อยทั้งร้อยส่ายหัว บางคนนั้นไม่รู้จักตำรวจในท้องที่ซึ่งบ้านของตัวเองตั้งอยู่เลยแม้แต่คนเดียว ไล่มาตั้งแต่สารวัตใหญ่จนถึงพลตำรวจ นี่คือคำตอบชัดเจนว่า ตำรวจนั้น ไม่ได้มีโครงสร้างที่เป็นตำรวจของประชาชน

ในเมื่อตำรวจนั้นไม่ได้มีโครงสร้างเป็นของประชาชน ก็ไม่ได้ทำงานเพื่อประชาชน แต่ทำงานเพื่อผลงานตามสายตาของผู้บังคับบัญชา ผลงานนั้นจะเข้าตาประชาชนหรือไม่ไม่สำคัญ เข้าตานายเป็นใช้ได้แล้ว และได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งตามนายโปรด ไม่ใช่ตามประชาชนเห็นชอบ

การแก้ไขให้ตำรวจรักษากฎหมายได้ดีขึ้น ต้องแก้ที่โครงสร้าง คืนอำนาจการรักษากฎหมายให้ประชาชน ตำรวจท้องที่ ต้องสังกัดท้องถิ่น ทำดีได้ดี ทำชั่วไล่ออก ไม่ใช่ย้ายไปทำความเดือดร้อนให้ท้องที่อื่นๆต่อไป สรุปได้ว่า หากให้ตำรวจทำงานดีขึ้น ต้องกระขายอำนาจ กลับสู่มือประชาชนโดยตรง

และถ้าจะพิจารณาที่ป้าอธิบายไปนั้น ช่วยแยกตำรวจออกเป็นส่วนๆด้วย เพราะตำรวจที่ต้องสังกดัตรงต่อรัฐบาลก็ยังจะต้องมี เช่น สันติบาล กองปราบปราม ตรวจคนเข้ามือง ฯลฯ แยกประเภทตำรวจให้ถูกต้อง สังกัดให้ถูกต้อง แล้วการรักษากฎหมายมันจะดีขึ้นเอง

เมื่อตำรวจมาจากประชาชนแล้ว ท้องที่เขาก็ต้องไล่จับรถซิ่งกันทุกวัน และอย่าลืมว่า ตำรวจคนแรกคือประชาชนนั่นเอง ดังนั้นในท้องที่ที่มีพวกกวนเมืองมาก ประชาชนก็ต้องร่วมมือกับตำรวจ ในการช่วยปราบปราม  ก็ไม่ยากอะไร ช่วยกันเอาถั่วเขียวมาสาดบนพื้นถนน เวลาพวกซิ่งแข่งกันมา เช่าขึ้นนกพิราบก็จะมากินถั่วเขียว แต่ก่อนหน้านั้น ปอเต็กตึ๊งจะต้องมาเก็บรถซิ่งที่คว่ำไปให้หมดซะก่อน  :slime_smile2: (ป้าล้อเล่นน่ะ)

ถัดมาเมื่อตำรวจของประชาชนทำหน้าที่ได้ดีแล้ว สังคมก็จะช่วยกันจัดการปัญหาน่ารำคาญนี้ได้ บ้านไหนที่ปล่อยลูกออกมาก่อความเดือดร้อน ก็ต้องถูกประนามจากสังคม หากพวกกวนเมืองนั้นมาจากต่างถิ่น ก็ส่งเรื่องให้ท้องถิ่นนั้นเขาประนามและจัดการกันไป

เมื่อขึ้นมาถึงอีกระดับ คือการลงโทษผู้กระทำผิด เยาวชนนั้นความเชื่อของเราถือว่าเป็นอนาคตของชาติ การลงโทษเด็กที่กระทำผิด จึงมีโทษอ่อน และมีความปราณีสูง ซึ่งก็ออกจะเห็นด้วย เพราะเด็กนั้นจะดีหรือเลวอยู่ที่การอบรม ดังนั้นเมื่อเด็กเลว ต้องลงโทษผู้อบรมหรือผู้ปกครองนั่นเอง โทษจำคุก ผู้ใหญ่ทำความผิดโดนเท่าไหร่ เยาวชนทำผิดก็ต้องโดนเท่านั้น แต่ไปเอาผู้ปกครองมาติดคุกแทน ใครจะคิดว่ามันออกจะดูบ้าๆบอๆ แต่ลองทำดูเถิด ป้ารับรองได้ว่า เยาวชนที่กระทำผิด จะลดน้อยลงอย่างน่าใจหายว่าตำรวจจะไม่มีงานทำเอาทีเดียว

นั่นเป็นมุมมองแรก แต่มุมมองที่สองนั้นน่ากลัวยิ่งกว่า

ปรากฎการของเยาวชนที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ เป็นผลตามคำทำนายของทฤษฎีคลื่นลูกที่สาม สถาบันครอบครัวกำลังแตกสลาย ระบบตัวใครตัวมันกำลังเข้ามาแทนที่ พ่อแม่เมื่อตัดหางลูกปล่อยนรกได้ ก็รีบกระทำ พัฒนาตนเองให้เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยเงิน เด็กที่ออกมาใช้ชีวิตตามหอพัก อพาทร์เมนท์ ทั้งๆที่มีบ้านอยู่ มากมายเกินความจำเป็น พ่อแม่เองก็มุ่งแต่จะทำมาหากิน หาเท่าไหร่ก็ไม่พอสนองตอบต่อกิเลสตัณหาที่รุมเร้า ครอบครัวจำนวนมากมาย มีลูกออกมาเพราะอยู่ด้วยกันแล้วมันมี ลูกไม่ใช่โซ่ทองคล้องใจพ่อแม่ แต่เป็นผลพลอยได้ทางกามเท่านั้น เด็กที่เกิดมาแบบนั้น ก็มาเป็นแบบที่เราเห็นว่าเหมือนขยะสังคมด้วยประการฉะนี้

ถ้าจะหาจำเลยสักอย่างหนึ่งในเรื่องที่เกิดขึ้น ก็คงไม่แคล้วจะต้องชี้ไปที่ ทุนนิยมสามานย์ สังคมที่สอนให้คนมุ่งหาเงิน โดยไม่สนใจผลกระทบอื่น ได้มาอย่างไรก็ได้ ขอให้ได้มาก็แล้วกัน มีผู้นำประเทศที่โกงชาติบ้านเมือง รัฐบาล รัฐมนตรี ข้าราชการ ที่ช่วยกันทำตัวอย่างชั่วๆให้เยาวชนดู ลอยหน้าลอยตาท้าทาย บกพร่องโดยสุจริต คิดว่าโกงก็จับให้ได้สิ จ้างทนายตาเบี้ยวตาบูดมาแก้ต่าง จ้างลิ่วล้อหิวเงินมาปกป้องตนเอง สังคมชั่วเลวทรามแบบนี้ ก็ผลิตอนาคตของชาติชั่วๆออกมาเช่นกัน

ตรอก ซอก ซอย บางครั้งมันก็ตัน คนที่คิดจะเดินหน้า ก้าวหน้า ไม่รู้จักถอยหลัง เมื่อถึงทางตันก็ต้องเอาหัวโขกกำแพง เจ็บตัว ไม่ก็หัวแตกตายไป  เส้นทางที่ประเทศไทยเราเดินไปข้างหน้านั้น มันคือทางตัน หากไม่ถอยหลังเดี๋ยวนี้ ต่อไปก็ต้องชนกำแพง แล้วใครที่คิดว่าเก่งกาจ กำแหง จะปีนกำแพงข้ามไปได้ ก็ปล่อยเขาไป เพราะอีกฟากของกำแพงนั้นมันคือนรก อยากลงไปก็ไม่ว่ากัน

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: นู๋เจ๋ง ที่ 03-03-2008, 08:40
 :slime_agreed:

ชอบกระทู้นี้อ้ะ

อ่านกี่รอบก็ไม่เบื่อ

 :slime_inlove:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: hukihani ที่ 24-04-2008, 11:31
หวัดดีทุกคนครับ
เพิ่งสมัครสมาชิก
ได้มาเจอกระทู้นี้
ถูกใจจิง ๆ
เหอ ๆๆ เจ็บ ๆ คัน ๆ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ScaRECroW ที่ 24-04-2008, 13:01
หวัดดีทุกคนครับ
เพิ่งสมัครสมาชิก
ได้มาเจอกระทู้นี้
ถูกใจจิง ๆ
เหอ ๆๆ เจ็บ ๆ คัน ๆ

ถาม "เจ็บ ๆ" มา ศิลาแลง เกา กลับไป   หุหุ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: namjung ที่ 25-04-2008, 23:23
สวัสดีค่ะทุกคนเพิ่มสมัครสมาชิก ฝากตัวด้วยนะคะ มีอไรแนะนำกันได้นะค่ะ :slime_v:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 19-05-2008, 15:27
พี่ศิราณีที่เคารพ

ตอนนี้หนูกลุ้มใจมาก เค้าหาว่า "พี่ทหารข่มขืนหนู"....จะเอาผิด "พี่ทหาร"

จะว่าไป...ข่มขืน กับ สมยอม บางทีมันก็ใกล้ๆ กันนะพี่

แม้มันจะเป็นผลแบบเดียวกันคือ "เสียตัว" หรือ "เสร็จสมอารมณ์หมาย"

การปฏิวัติแต่ละครั้ง มันขึ้นกับ "อารมณ์ร่วมของประชาชน"

ไอ้ผัวเฮงซวยของหนู ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายน่ะ

ตอนที่มันมาขอหนูก็สัญญายังโง้นยังงี้ มาตามตรอก ออกทางประตู

ใหม่ๆก็ดีหรอกค่า...แต่พอมันมาเป็นผัวหนู มันเลี้ยงหนูด้วยลำแข้ง

พอหนูจะพูดหน่อย มันก็บอก "พูดหาหอกทำไม" ดีไม่ดี มันมาว่าหนูคบชู้ "ถามหนูว่า เมื่อคืนหนูเสพเมถุนกับใคร...

ดูมันทำ ดูมันทำ ดูมันทามมมม...

ไปแจ้งความคุณตำหนวดก็บอก "ผัวเมียกัน" หยวนๆ น่า...เค้าเป็นสามี ย่อมมีสิทธิ์ข่มขืนเมีย...เป็นซะยังงั้น

แบบว่า...จะว่าชอบชายในเครื่องแบบก็ไม่เชิงนะคะ...แต่บางทีโดนผัวกุ๊ยมันย่ำยีอ่ะค่ะ...

พอพี่ทหารมาถึงก็ไล่เตะผัวห่วยๆ ของหนูไป หนูก็อิดออดพอเป็นพิธี...ชะมะคะ

ข่มขืนเสร็จแล้ว ตื่นมาเช้าๆ หนูก็เข้าสวนเก็บดอกไม้มาฝาก...แค่นั้นเอง...

ข่มขืนปีโน้น..ชื่อ รสช...หนูก็ชอบนะ...ติดใจ...

มาคราวนี้ชื่อ..คปค...หรือ คมช. หนูก็ดีจั๊ยดีใจ ให้ดอกไม้ไปหลายดอก

"ดอกกุหลาบแดงนี้เพื่อเธอ เก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอก..."

ทำไงได้ "หนูตกเป็นของเค้าไปแล้ว..."

ก็แบบว่า...แม้ไม่เห็นด้วยกับการข่มขืน...แต่หนูก็เข้าใจคะ...อืมม..นะ...

เพราะอย่างน้อยก็ไล่ถีบผัวห่วยๆของหนูไปซะได้...

พอ คมช. ไป แล้ว คนมันชั่วส่งตัวแทนมาเป็นผัวหนูอีก....มาแบบเก่าอีกแล้วค่ะพี่.....

"ไอ้ผัวตัวดี" ก็วนเวียนอยู่แถวๆบ้านนี่แหละค่ะ...บางทีก็แอบๆ เข้ามาในบ้าน...มันมีกุญแจค่ะ

พี่ขา...แบบว่าคนในเครื่องแบบก็บึกบึน..ระทึกใจ

คนที่มาจากการเลือกตั้งก็หล่อดี แต่นิสัยมันแย่...หนูกลุ้มใจมากค่ะ

ตอนนี้หนูส่งลูกไปอยู่โรงเรียนประจำแล้วค่ะ...กลัวจะติดคำพูดหยาบคายจากพ่อเค้า...

เด็กของพี่ทหารที่ชื่อ คตส. หนูก็ยังเป็นกำลังใจให้เค้าอยู่...แบบว่า...อยากให้เค้าทำงานสำเร็จ

ไอ้ผัวเฮงซวยของหนู มันจะได้ติดคุกติดตารางให้รู้แล้วรู้รอดไป

นี่ถ้าหากพี่ทหารเข้าหาหนูอีกที หนูจะยอมดีมั๊ยคะ

พี่ศิราณีขา...หนูกลุ้มใจมากค่ะ...ตอบให้หนูทราบด้วย...ด่วนด้วยนะคะ

จากน้อง น. ผู้อาภัพ

 :slime_inlove: :slime_inlove:


คุณแคน เขานำจดหมายของ'น้อง น. ผู้อาภัพ' ไปปรึกษาปัญหาหัวใจกับคุณsnowflake....

ผมคิดว่าคุณแคน คงไม่ได้รับคำตอบ จึงถือวิสาสะนำจดหมายของคุณ'น้อง น. ผู้อาภัพ' มาให้คุณ'ศิลาแลง'ช่วยไขปัญหาดีกว่า...
ตอบที่นี่แหละครับ คุณแคน จะนำไปบอกเล่าให้คุณ'น้อง น. ผู้อาภัพ' อีกทอดหนึ่ง.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 19-05-2008, 16:06

คุณแคน เขานำจดหมายของ'น้อง น. ผู้อาภัพ' ไปปรึกษาปัญหาหัวใจกับคุณsnowflake....

ผมคิดว่าคุณแคน คงไม่ได้รับคำตอบ จึงถือวิสาสะนำจดหมายของคุณ'น้อง น. ผู้อาภัพ' มาให้คุณ'ศิลาแลง'ช่วยไขปัญหาดีกว่า...
ตอบที่นี่แหละครับ คุณแคน จะนำไปบอกเล่าให้คุณ'น้อง น. ผู้อาภัพ' อีกทอดหนึ่ง.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



ขอบพระคุณท่านลุงปุค่ะ

มารออ่านคำตอบจากป้าศิลาแลงด้วยคนค่ะ  :mrgreen: :lol: :mrgreen:



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 19-05-2008, 17:43
น้อง น. ผู้อาภัพ ฝากกราบขอบพระคุณคุณลุงปุฯ มาแล้วครับ

พี่ศิราณี ไปเมืองสวรรค์นานแล้ว พอดีมี "ป้าศิลาแลง" มาตอบแทน ก็น่าจะได้ครับ

 :slime_inlove: :slime_inlove:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 19-05-2008, 21:23

คุณแคน เขานำจดหมายของ'น้อง น. ผู้อาภัพ' ไปปรึกษาปัญหาหัวใจกับคุณsnowflake....

อ้างถึง
พี่ศิราณีที่เคารพ

ตอนนี้หนูกลุ้มใจมาก เค้าหาว่า "พี่ทหารข่มขืนหนู"....จะเอาผิด "พี่ทหาร"

จะว่าไป...ข่มขืน กับ สมยอม บางทีมันก็ใกล้ๆ กันนะพี่

แม้มันจะเป็นผลแบบเดียวกันคือ "เสียตัว" หรือ "เสร็จสมอารมณ์หมาย"

การปฏิวัติแต่ละครั้ง มันขึ้นกับ "อารมณ์ร่วมของประชาชน"

ไอ้ผัวเฮงซวยของหนู ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายน่ะ

ตอนที่มันมาขอหนูก็สัญญายังโง้นยังงี้ มาตามตรอก ออกทางประตู

ใหม่ๆก็ดีหรอกค่า...แต่พอมันมาเป็นผัวหนู มันเลี้ยงหนูด้วยลำแข้ง

พอหนูจะพูดหน่อย มันก็บอก "พูดหาหอกทำไม" ดีไม่ดี มันมาว่าหนูคบชู้ "ถามหนูว่า เมื่อคืนหนูเสพเมถุนกับใคร...

ดูมันทำ ดูมันทำ ดูมันทามมมม...

ไปแจ้งความคุณตำหนวดก็บอก "ผัวเมียกัน" หยวนๆ น่า...เค้าเป็นสามี ย่อมมีสิทธิ์ข่มขืนเมีย...เป็นซะยังงั้น

แบบว่า...จะว่าชอบชายในเครื่องแบบก็ไม่เชิงนะคะ...แต่บางทีโดนผัวกุ๊ยมันย่ำยีอ่ะค่ะ...

พอพี่ทหารมาถึงก็ไล่เตะผัวห่วยๆ ของหนูไป หนูก็อิดออดพอเป็นพิธี...ชะมะคะ

ข่มขืนเสร็จแล้ว ตื่นมาเช้าๆ หนูก็เข้าสวนเก็บดอกไม้มาฝาก...แค่นั้นเอง...

ข่มขืนปีโน้น..ชื่อ รสช...หนูก็ชอบนะ...ติดใจ...

มาคราวนี้ชื่อ..คปค...หรือ คมช. หนูก็ดีจั๊ยดีใจ ให้ดอกไม้ไปหลายดอก

"ดอกกุหลาบแดงนี้เพื่อเธอ เก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอก..."

ทำไงได้ "หนูตกเป็นของเค้าไปแล้ว..."

ก็แบบว่า...แม้ไม่เห็นด้วยกับการข่มขืน...แต่หนูก็เข้าใจคะ...อืมม..นะ...

เพราะอย่างน้อยก็ไล่ถีบผัวห่วยๆของหนูไปซะได้...

พอ คมช. ไป แล้ว คนมันชั่วส่งตัวแทนมาเป็นผัวหนูอีก....มาแบบเก่าอีกแล้วค่ะพี่.....

"ไอ้ผัวตัวดี" ก็วนเวียนอยู่แถวๆบ้านนี่แหละค่ะ...บางทีก็แอบๆ เข้ามาในบ้าน...มันมีกุญแจค่ะ

พี่ขา...แบบว่าคนในเครื่องแบบก็บึกบึน..ระทึกใจ

คนที่มาจากการเลือกตั้งก็หล่อดี แต่นิสัยมันแย่...หนูกลุ้มใจมากค่ะ

ตอนนี้หนูส่งลูกไปอยู่โรงเรียนประจำแล้วค่ะ...กลัวจะติดคำพูดหยาบคายจากพ่อเค้า...

เด็กของพี่ทหารที่ชื่อ คตส. หนูก็ยังเป็นกำลังใจให้เค้าอยู่...แบบว่า...อยากให้เค้าทำงานสำเร็จ

ไอ้ผัวเฮงซวยของหนู มันจะได้ติดคุกติดตารางให้รู้แล้วรู้รอดไป

นี่ถ้าหากพี่ทหารเข้าหาหนูอีกที หนูจะยอมดีมั๊ยคะ

พี่ศิราณีขา...หนูกลุ้มใจมากค่ะ...ตอบให้หนูทราบด้วย...ด่วนด้วยนะคะ

จากน้อง น. ผู้อาภัพ

ผมคิดว่าคุณแคน คงไม่ได้รับคำตอบ จึงถือวิสาสะนำจดหมายของคุณ'น้อง น. ผู้อาภัพ' มาให้คุณ'ศิลาแลง'ช่วยไขปัญหาดีกว่า...
ตอบที่นี่แหละครับ คุณแคน จะนำไปบอกเล่าให้คุณ'น้อง น. ผู้อาภัพ' อีกทอดหนึ่ง.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า[/color][/size]


สวัสดีหลาน น.

ป้าขอบใจหลานทุกคน ที่ช่วยกันส่งคำปรึกษานี้ให้มาถึงมือป้า เพราะเมื่อป้าอ่านจบแล้ว ก็นึกเศร้าใจกับสังคมไทยในทุกวันนี้ และสงสารหลาน น. จนน้ำตาไหลพราก ในกรรมที่เธอถูกข่มขืนซ้ำซาก ถูกตราบาปจำเจ

หลาน น. ถามปัญหามาไม่ค่อยเหมือนสตรี หากเป็นสตรีแล้วคงจะไม่มีปัญหาในการแยกแยะระหว่างการ ข่มขืน และ สมยอม เพราะเมื่อไหร่ที่มีการเปรียบเทียบระหว่างสองคำนี้ ก็ไม่แคล้วที่จะเป็นฝ่ายชายซึ่งต้องข้อหาข่มขืนนั่นแหละ ยกมาอ้าง

เมื่อทหารนำรถถังออกมา ใครจะถูกข่มขืน ใครจะสมยอม ก็มองเห็นกันได้ไม่ยาก โดยมากแล้วคนที่ตกจากอำนาจมักจะถูกข่มขืน นี่หมายถึงคนที่ถือหางอยู่ด้วยนะ และคนที่สมยอม ก็มักจะเป็นคนที่โดนคนที่มีอำนาจข่มขืนอยู่ กอ่นทหารจะมานั่นเอง เพราะเมื่อทหารมา เขาก็พ้นจากการถูกข่มขืน

การปฎิวัตินั้น ไม่ได้ขึ้นกับอารมณ์ร่วมของประชาชนไปทุกครั้ง ไม่เชื่อก็ลองไปพม่าแล้วสอบถามประชาชนที่นั่นดู หรือจะลองไปถามทหารพม่าดูบ้างก็ได้ ว่ากันว่าทหารพม่านั้น คุ้นเคยกับการข่มขืนดี ถึงกับมีสารคดีออกมาประจานไปทั่วโลก

หลาน น. ส่งลูกไปอยู่โรงเรียนประจำนั้นดีแล้ว เพราะป้าคิดว่าหลานกำลังสับสนกับปัญหาชีวิตจนหาทางออกไม่ได้ ถึงหลานจะถูกข่มขืนมาแล้วซ้ำซาก ก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องรอการข่มขืนรอบต่อไป ความจริงเมื่อลูกไปอยู่โรงเรียนประจำแล้ว หลานก็น่าจะไปสงบจิตใจที่วัดเสียบ้าง แต่ช่วยเลือกวัดให้ดีๆหน่อย ประเภทวัดที่พระใส่เสื้อยืดแขนยาวนั้น อย่าได้ไปเชียว

หลาน น. ถูกข่มขืนมาตั้งแต่ครั้ง รสช. มาจนถึง คมช. ก็ยังถูกข่มขืนได้อยู่ คนข่มขืนนั้นก็ช่างกระไรเลย ไม่ดูอายุอานามกันบ้าง เหนียงยานแล้วก็ไม่ละไม่เว้น คราวต่อไป ถ้ามีใครจะข่มขืนหลานอีก ก็บ้วนน้ำหมากใส่หน้ามันไปเลย ให้มันเข็ดซะบ้าง

ป้าศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: qazwsx ที่ 19-05-2008, 21:51
น่าสงสารน้อง น.
โดนป้าศิลา ฯ ข่มขืนซ้ำ
 :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 19-05-2008, 22:56
ผมคิดว่าคุณแคน คงไม่ได้รับคำตอบ จึงถือวิสาสะนำจดหมายของคุณ'น้อง น. ผู้อาภัพ' มาให้คุณ'ศิลาแลง'ช่วยไขปัญหาดีกว่า...
ตอบที่นี่แหละครับ คุณแคน จะนำไปบอกเล่าให้คุณ'น้อง น. ผู้อาภัพ' อีกทอดหนึ่ง.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า[/color][/size]



สวัสดีหลาน น.

ป้าขอบใจหลานทุกคน ที่ช่วยกันส่งคำปรึกษานี้ให้มาถึงมือป้า เพราะเมื่อป้าอ่านจบแล้ว ก็นึกเศร้าใจกับสังคมไทยในทุกวันนี้ และสงสารหลาน น. จนน้ำตาไหลพราก ในกรรมที่เธอถูกข่มขืนซ้ำซาก ถูกตราบาปจำเจ

หลาน น. ถามปัญหามาไม่ค่อยเหมือนสตรี หากเป็นสตรีแล้วคงจะไม่มีปัญหาในการแยกแยะระหว่างการ ข่มขืน และ สมยอม เพราะเมื่อไหร่ที่มีการเปรียบเทียบระหว่างสองคำนี้ ก็ไม่แคล้วที่จะเป็นฝ่ายชายซึ่งต้องข้อหาข่มขืนนั่นแหละ ยกมาอ้าง

เมื่อทหารนำรถถังออกมา ใครจะถูกข่มขืน ใครจะสมยอม ก็มองเห็นกันได้ไม่ยาก โดยมากแล้วคนที่ตกจากอำนาจมักจะถูกข่มขืน นี่หมายถึงคนที่ถือหางอยู่ด้วยนะ และคนที่สมยอม ก็มักจะเป็นคนที่โดนคนที่มีอำนาจข่มขืนอยู่ กอ่นทหารจะมานั่นเอง เพราะเมื่อทหารมา เขาก็พ้นจากการถูกข่มขืน

การปฎิวัตินั้น ไม่ได้ขึ้นกับอารมณ์ร่วมของประชาชนไปทุกครั้ง ไม่เชื่อก็ลองไปพม่าแล้วสอบถามประชาชนที่นั่นดู หรือจะลองไปถามทหารพม่าดูบ้างก็ได้ ว่ากันว่าทหารพม่านั้น คุ้นเคยกับการข่มขืนดี ถึงกับมีสารคดีออกมาประจานไปทั่วโลก

หลาน น. ส่งลูกไปอยู่โรงเรียนประจำนั้นดีแล้ว เพราะป้าคิดว่าหลานกำลังสับสนกับปัญหาชีวิตจนหาทางออกไม่ได้ ถึงหลานจะถูกข่มขืนมาแล้วซ้ำซาก ก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องรอการข่มขืนรอบต่อไป ความจริงเมื่อลูกไปอยู่โรงเรียนประจำแล้ว หลานก็น่าจะไปสงบจิตใจที่วัดเสียบ้าง แต่ช่วยเลือกวัดให้ดีๆหน่อย ประเภทวัดที่พระใส่เสื้อยืดแขนยาวนั้น อย่าได้ไปเชียว

หลาน น. ถูกข่มขืนมาตั้งแต่ครั้ง รสช. มาจนถึง คมช. ก็ยังถูกข่มขืนได้อยู่ คนข่มขืนนั้นก็ช่างกระไรเลย ไม่ดูอายุอานามกันบ้าง เหนียงยานแล้วก็ไม่ละไม่เว้น คราวต่อไป ถ้ามีใครจะข่มขืนหลานอีก ก็บ้วนน้ำหมากใส่หน้ามันไปเลย ให้มันเข็ดซะบ้าง

ป้าศิลาแลง




ตามมาเป็นกองเชียร์....กระทืบเท้า เป่าปาก วี๊ดวิ้วววว...

ถูกใจจริงๆค่ะป้า ฮี่ๆ ฮ่าๆ เอื๊อก
  :slime_bigsmile: :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 20-05-2008, 04:05
น้อง น. ผู้อาภัพ ฝากจดหมายน้อยใส่มือมาบอกเพิ่มเติม

ผัวคนแรกที่แต่งงานนั้น...ชอบโกหกว่า.."เซ็กส์เสื่อม" ค่ะคุณพี่ขา.....

ความประพฤติผัวตัวเอง ใครจะรู้ดีกว่าเมียที่นอนรองรับความเจ็บปวดทุกคืนละคะ

ไม่มีใครมาเป่าหูหรอก รับรู้ด้วยตัวเอง เห็นเอง สัมผัสเอง

น้อง น . ใช้หลัก "กามสูตร" เอ๊ย..กาลามสูตร...จำไม่ค่อยได้เหมือนนายกนั่นแหละ พูดผิดพูดถืก...ขอโทษนะคะ..

ไม่มีใครมาเป่าหูหนูหรอก สำหรับหนู หูเป็นจุดอันตรายค่ะ ( พูดแล้วเปรี้ยวปาก )

ผัวไม่รับผิดชอบ เงินที่หามาได้ทำไมเมียจะไม่รู้ไปปล้นใครเค้ามา

ที่ทนอยู่น่ะ ก็เพราะอับอายญาติพี่น้อง ไม่อยากให้ลูกมีปัญหา...มันยิ่งปัญญาอ่อนอยู่ด้วย

พี่ ท.ทหาร มาไล่ออกไป เพราะทนดูไม่ได้ น้อง น. ยังขอบคุณอยู่ถึงวันนี้

เพราะไม่รู้จะพึ่งใคร พี่ตำหนวดก็คอยแต่ "เกี้ยเซี๊ย" บอก หยวน ๆ หยวน ๆ ลูกเดียว

เที่ยวนี้ ยังเข้าบ้านไม่ได้ ก็ส่งตัวแทนมาเป็นผัวอีก มันสุดจะทนกล้ำกลืนได้

แค่เห็นหน้า จมูกบานๆ เวลามีอารมณ์ก็พะเยิบพะยาบ น่ารังเกียจสุด ๆ

เรื่องปากเหรอ เหมือนเอาหมาใส่ไว้ในปาก ไม่ยอมแปรงฟัน...มันสุดทนจริง ๆ

พูดเข้าหน่อยก็บอกว่า "ถามหาหอกทำไม" หรือไม่ก็หาว่าน้อง น.มีชู้ ชอบพูดว่า "เมื่อคืนไปเสพเมถุนกับใครมา"

ถ้าใครไม่เป็น น. ผู้อาภัพ ไม่รู้หรอก

นี่ถ้าพี่ ท.ทหาร ปีนบ้านเข้าหาอีก ไม่รู้จะอดใจไหวมั๊ย...

น้อง น. ก็มนุษย์ มีเลือดมีเนื้อ มีรักโลภโกรธหลง ตัณหา ราคะ

ก็ยังไม่บรรลุนี่คะ...

พี่ท.ทหารแต่ละคนที่มา ก็ล่ำบึ๊ก หล่อเฟี๊ยว...

ยังไงก็คิดว่าดีกว่าเห็นหน้าจมูกบานๆ แบบนั้น แก่ก็แก่..ดำก็ดำ..แหวะ.!

เจี๊ยะบ่โละ...เหล่านั๊ง...

จาก น้อง น. ผู้อาภัพ  


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 20-05-2008, 19:42
น้อง น. ผู้อาภัพ ฝากจดหมายน้อยใส่มือมาบอกเพิ่มเติม

ผัวคนแรกที่แต่งงานนั้น...ชอบโกหกว่า.."เซ็กส์เสื่อม" ค่ะคุณพี่ขา.....

ความประพฤติผัวตัวเอง ใครจะรู้ดีกว่าเมียที่นอนรองรับความเจ็บปวดทุกคืนละคะ

ไม่มีใครมาเป่าหูหรอก รับรู้ด้วยตัวเอง เห็นเอง สัมผัสเอง

น้อง น . ใช้หลัก "กามสูตร" เอ๊ย..กาลามสูตร...จำไม่ค่อยได้เหมือนนายกนั่นแหละ พูดผิดพูดถืก...ขอโทษนะคะ..

ไม่มีใครมาเป่าหูหนูหรอก สำหรับหนู หูเป็นจุดอันตรายค่ะ ( พูดแล้วเปรี้ยวปาก )

ผัวไม่รับผิดชอบ เงินที่หามาได้ทำไมเมียจะไม่รู้ไปปล้นใครเค้ามา

ที่ทนอยู่น่ะ ก็เพราะอับอายญาติพี่น้อง ไม่อยากให้ลูกมีปัญหา...มันยิ่งปัญญาอ่อนอยู่ด้วย

พี่ ท.ทหาร มาไล่ออกไป เพราะทนดูไม่ได้ น้อง น. ยังขอบคุณอยู่ถึงวันนี้

เพราะไม่รู้จะพึ่งใคร พี่ตำหนวดก็คอยแต่ "เกี้ยเซี๊ย" บอก หยวน ๆ หยวน ๆ ลูกเดียว

เที่ยวนี้ ยังเข้าบ้านไม่ได้ ก็ส่งตัวแทนมาเป็นผัวอีก มันสุดจะทนกล้ำกลืนได้

แค่เห็นหน้า จมูกบานๆ เวลามีอารมณ์ก็พะเยิบพะยาบ น่ารังเกียจสุด ๆ

เรื่องปากเหรอ เหมือนเอาหมาใส่ไว้ในปาก ไม่ยอมแปรงฟัน...มันสุดทนจริง ๆ

พูดเข้าหน่อยก็บอกว่า "ถามหาหอกทำไม" หรือไม่ก็หาว่าน้อง น.มีชู้ ชอบพูดว่า "เมื่อคืนไปเสพเมถุนกับใครมา"

ถ้าใครไม่เป็น น. ผู้อาภัพ ไม่รู้หรอก

นี่ถ้าพี่ ท.ทหาร ปีนบ้านเข้าหาอีก ไม่รู้จะอดใจไหวมั๊ย...

น้อง น. ก็มนุษย์ มีเลือดมีเนื้อ มีรักโลภโกรธหลง ตัณหา ราคะ

ก็ยังไม่บรรลุนี่คะ...

พี่ท.ทหารแต่ละคนที่มา ก็ล่ำบึ๊ก หล่อเฟี๊ยว...

ยังไงก็คิดว่าดีกว่าเห็นหน้าจมูกบานๆ แบบนั้น แก่ก็แก่..ดำก็ดำ..แหวะ.!

เจี๊ยะบ่โละ...เหล่านั๊ง...

จาก น้อง น. ผู้อาภัพ  

หลานน้อง น.

         ผัวเซ็กส์เสื่อมนั้น อย่าได้ไว้ใจ เพราะอาจจะเสื่อมแต่กับเรา พอออกไปนอกบ้าน นกเขาก็ร่าเริง
ความประพฤติของผัวนั้น เมืยอาจจะรู้บ้างไม่รู้บ้าง แต่ถ้าต้องนอนรอรับความเจ็บปวดอยู่ทุกคืน ทั้งๆที่ผัวเซ็กเสื่อม ก็น่าจะหมายถึงโดนกระทืบระบายอารมณ์

เมียที่ไม่ยอมเลิกกับผัว โดยอ้างว่า "ที่ทนอยู่น่ะ ก็เพราะอับอายญาติพี่น้อง ไม่อยากให้ลูกมีปัญหา" เป็นข้ออ้างมาตรฐาน ผัวเตะแทนกระสอบทรายทุกวัน มันก็ต้องอายญาติพี่น้องอยู่แล้ว เลิกกันก็อายแต่ไม่เจ็บตัว ทนเจ็บตัวอยู่ก็อ้างต่อไปว่าเพื่อลูก ไม่เคยถามลูกสักคำว่าคิดอย่างไร  ที่จริงแล้ว ที่ทนอยู่ก็เพื่อตัวเองทั้งนั้น ส่วนใหญ่กลัวหาผัวใหม่ไม่ได้  :slime_smile2:

หลาน น.บ่นมาเรื่องผัวเสียเยอะแยะ ชีวิตคงหมกมุ่นอยู่แต่เรี่องนี้เรื่องเดียว ทำราวกับแมงกุดจี่ ที่ต้องขาดใจตายหากขี้ควายจากไป ป้าล่ะกลุ้มแทนหลานจริงๆ แนะนำอะไรไปก็คงเข้าหูซ้ายทะลุหูหมาเสียล่ะกระมัง

ไอ้บรรดาผัวเฮงซวย ผัวนอมินีของหลาน น. นั้น ป้าเชื่อว่าอีกไม่นานมันก็จะได้ไปอาละวาดกันอยู่ในนรก หรือไม่นรกก็มากินกระบาลทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่ เหมือนไอ้อ้วนดำที่ยืนไม่เป็น คิดต่างไม่ผิด แต่มันคิดผิด ที่กำลังทำตัวจนไม่มีแผ่นดินจะยืน คนเรานั้นหากจัuไร ไม่รู้จักบุญคุณ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ถึงจะมีฉายาเหมือนพระจันทร์เต็มดวง แต่ชีวิตของมันก็ต้องหมกจมอยู่ในกองคูถ ทำปากจู๋ หาไม้ตีพริกอยู่ตลอดชีวิต

เอ้อ ถ้าป้าตอบอะไรแล้วฟังสับสน ก็ให้อภัยป้านะ ป้าอ่านจดหมายของหนูแล้ว เหมือนกินอาหารเป็นพิษเข้าไป ท้องใส้ปั่นป่วนไปหมด คนอาไร เขียนหนังสือได้ไม่รูเรื่องจริงๆ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: kengdragon ที่ 25-05-2008, 11:27
คุณป้าครับ...
เหตุการณ์ที่ทุบทำลายเทวสถาน..
เป็นการกระทำของคนบ้าหรือเปล่าครับ...
แล้วคุณปู่ผม..จะเป็นอะไรมากหรือเปล่า.... :slime_worship:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 25-05-2008, 14:10
คุณป้าครับ...
เหตุการณ์ที่ทุบทำลายเทวสถาน..
เป็นการกระทำของคนบ้าหรือเปล่าครับ...
แล้วคุณปู่ผม..จะเป็นอะไรมากหรือเปล่า.... :slime_worship:


หลานมังกรเก่ง

การทุบทำลายสิ่งใดนั้น จะกระทำไปด้วยเหตุใด ต้องพิจารณาเหตการณ์ให้รอบคอบ การทุบทำลายสิ่งที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จะเพื่อสร้างสิ่งใหม่ขึ้นแทนที่ หรือจะเพื่อให้หายรกหูรกตา และการทุบทำลายนั้นมิได้เดือดร้อนแก่ผู้ใด ก็คงมิใช่การกระทำของคนบ้า หากแต่เป็นการกระทำที่มีเหตุผลรองรับเพียงพอ

แต่การทุบทำลายสิ่งของดีๆ ที่ไม่มีเหตุผลใดจะทุบทำลาย หรืออาจจะมีเหตุผลที่คิดด้วยความวิปริต ความเชื่อผิดๆ หรือความคึกคะนอง นี่นับเป็นการกระทำของคนบ้าได้ จะบ้าด้วยเหตุใดก็ตาม สรุปได้ว่าบ้า

เมื่อเร็วๆนี้ก็มีการทุบทำลายรูปเคารพสำคัญแห่งหนึ่ง โดยมีคำกล่าวอ้างว่าผู้ที่ทุบทำลายนั้นเป็นบ้า แต่ก็ไม่ได้มีการพิสูจน์ทราบว่าจริงหรือไม่ เพราะผู้ที่ทุบทำลายนั้นเสียชีวติไปในเวลาอันรวดเร็ว บ้างก็ว่าบาปกรรมสนองโดยพลัน แต่บ้างก็ว่าถูกฆ่าตัดตอน

นอกจากการทุบทำลายแล้ว การโยกย้ายที่ตั้งของสัญญลักษณ์ต่างๆ ก็เป็นที่นิยมกันในหมู่คนที่พอจะสรุปได้ว่าบ้า ดูอย่างรูปสลักช้างที่หน้าสถานที่ราชการแห่งหนึ่ง ถูกโยกถูกย้ายจนนับครั้งไม่ถ้วน เนื่องจากมีคนบ้าเข้าไปมีอำนาจในสถานที่นั้น ไม่ว่าจะเป็นไอ้แป๊ะแย้บ้า หรือไอ้ตี๋คอมมิวนิสต์บ้า ต่างก็บ้าได้พอๆกัน

เพื่อความเชื่อบ้าๆ ย่อมทำให้เกิดการกระทำบ้าๆ

ว่ากันว่า คนบ้านในโลกนี้มีห้าร้อยจำพวก บ้างก็บ้าโดยไม่เดือดร้อนผู้อื่น แต่อีกมากก็บ้าโดยสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น เมื่อใดก็ตามที่คนบ้ามีอำนาจ ย่อมมีผู้เดือดร้อนมากมาย ที่สำคัญไอ้บ้าบางคนนั้น มันบ้าทีเดียวหลายอย่าง

เรื่องโบราณสถานที่หลานถามมา ใครๆเขาก็รู้กันว่า ถูกทำลายเพราะไอ้บ้าคนหนึ่ง ซึ่งมันบ้าพร้อมกันหลายอย่าง โดยเป็นที่รู้กันทั่วไป

บ้าอำนาจ บ้าเงิน บ้ากาม

เจอคนบ้าอย่างนี้เข้า สังคมเลยปั่นป่วน

เรื่องคุณปู่ที่หลานถามมานั้น ใครกันล่ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 04-08-2008, 23:35
สวัสดีเจ้าค่ะ....คุณป้าศิลาแรงที่นับถือ


วันนี้ดอกฟ้าฯ มีข้อติดข้องหมองใจ สงสัยไม่หาย คือว่าข่าวคาว เกี่ยวกับเรื่อง เดอะแก๊งค์ออฟโฟร์อ่ะค่ะ

ตะแรกตอนได้ยินมาใหม่ๆ ก็แอบดีใจนึกว่าเป็นบอยแบนด์เกาเหลียงรูปหล่อ จะมาโชว์คอนเสริต์ในบ้านเรา

ฟังไปฟังมา....สามวาแปดศอก กลายเป็นวงเกาเหลา ที่วงแตกกลายพันธุ์ มาจากตัวเงินตัวทองแถวบ้านเราเอง


ที่มาเรียนถาม เพราะป้าเป็นผู้รู้รอบไปทุกเรื่อง  แล้วสามารถตอบคำถามได้ทุกๆเรื่องแบบถูกใจเสือป่าแมวเซา ในเสรีไทยฯ

ที่ไม่มีใครเหมือน และลอกเลียนแบบได้


ขอรบกวนป้าฯ อีกสักครั้ง ด้วยความเคารพนะคะ


ดอกฟ้าฯ เองคร่า


ปล. แล้วเรื่องเหล่าเนี้ย มันจะเกี่ยวกับเรื่อง ที่นายกอึ ไม่ออกแล้วด่านักข่าว ป่ะคะ
:slime_bigsmile: :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 04-08-2008, 23:48
กลับมาใหม่.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 04-08-2008, 23:59

ยังมีอีกหลายคำถามค่ะ.....ลุงปุฯ


ค่อยๆถามคุณป้าฯ ...........ทีละเรื่อง... อิ อิ :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: amm ที่ 05-08-2008, 01:37
 :slime_v:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 05-08-2008, 10:32
สวัสดีเจ้าค่ะ....คุณป้าศิลาแรงที่นับถือ

วันนี้ดอกฟ้าฯ มีข้อติดข้องหมองใจ สงสัยไม่หาย คือว่าข่าวคาว เกี่ยวกับเรื่อง เดอะแก๊งค์ออฟโฟร์อ่ะค่ะ

ตะแรกตอนได้ยินมาใหม่ๆ ก็แอบดีใจนึกว่าเป็นบอยแบนด์เกาเหลียงรูปหล่อ จะมาโชว์คอนเสริต์ในบ้านเรา

ฟังไปฟังมา....สามวาแปดศอก กลายเป็นวงเกาเหลา ที่วงแตกกลายพันธุ์ มาจากตัวเงินตัวทองแถวบ้านเราเอง

ที่มาเรียนถาม เพราะป้าเป็นผู้รู้รอบไปทุกเรื่อง  แล้วสามารถตอบคำถามได้ทุกๆเรื่องแบบถูกใจเสือป่าแมวเซา ในเสรีไทยฯ

ที่ไม่มีใครเหมือน และลอกเลียนแบบได้

ขอรบกวนป้าฯ อีกสักครั้ง ด้วยความเคารพนะคะ

ดอกฟ้าฯ เองคร่า

ปล. แล้วเรื่องเหล่าเนี้ย มันจะเกี่ยวกับเรื่อง ที่นายกอึ ไม่ออกแล้วด่านักข่าว ป่ะคะ
:slime_bigsmile: :slime_smile2:

สวัสดีหลานดอกฟ้าฯ

นานมาแล้วที่ป้าไม่ได้ตอบคำถาม เพราะไม่มีใครถาม จนเกือบออกอาการน้ำลายฟูมปาก คุณหมอแทบจะต้องหามตัวไปรักษา แต่เมื่อสอบถามอาการ ป้าก็ตอบไปตามตรงว่า มันจุกอก เอ๊ย ม่ายช่าย คำพูดมันจุกอก ไม่ได้พูดออกไปนานๆ มันพาลจะล้นออกมาเอง เมื่อคุณหมอท่านได้ยินอาการดังนั้น ท่านก็หัวร่ออย่างอารมณ์ดี แล้วบอกว่า โรคนี้รักษาง่าย โดยแนะนำให้ป้าไปเป็นหัวหน้าพรรคพลังป๋าท้าชน แล้วก็ขึ้นเป็นนายก เท่านั้นอาการก็จะหาย เพราะจะได้พล่ามได้พ่นใส่หน้าผู้คนทั้งแผ่นดิน อาการที่อะไรจุกอกก็จะหายไป หรือถ้าป้าไม่อยากเล่นการเมือง หรือเล่นการเมืองไม่ได้เพราะไม่มีปัญญา คุณหมอท่านก็แนะนำให้ไปจัดรายการ ยัดไปด่าไป ซึ่งก็พอจะบรรเทาโรคได้เหมือนกัน  :slime_smile2:

อ้าว หลานถามอะไรมานั่น มัวแต่พล่ามเสียจนลืมคำถาม  :slime_bigsmile:

แก๊งค์ออฟโฟร์ ดังเดิมนั้นเป็นฉายานามของบุคคลสี่คน คือ  เจียงชิง (Jiang Qing)  หวางหงเหวิน (Wang Hongwen) จางชุนเฉียว (Zhang Chunqiao) เหยาเหวินหยวน (Yao Wenyuan) ที่คิดยึดอำนาจเบ็ดเสร็จจากท่านประธานเหมา (Mao Zedong) เรื่องราวนั้นยืดยาวราวกับหนังกำลังภายใน แต่พอจะสรุปได้ว่าในขณะนั้นท่านประธานเหมาเหล่านั้งแล้ว คือแก่เสียจนเลอะเทอะ ตามประสาคนแก่บางจำพวกที่แก่แล้วเลอะเทอะ คล้ายๆนายกคนหนึ่งของไทยที่กินไปถ่ายไป ทั้งทางก้นและทางปากจนเลอะเทอะไปทั้งประเทศ

เมื่อผู้นำที่ครองอำนาจเลอะเทอะ ขี้ข้าใกล้ชิดก็มักจะทรยศ อันนี้เป็นสัจธรรม เมื่อนายยังสติดีและมีอำนาจ นายว่าขี้ข้าก็พลอย แต่เมื่อนายสติเสียแล้วยังมีอำนาจ นายไม่ต้องว่าขี้ข้าจัดการเอง ผลก็คือประเทศจีนปั่นป่วน เมื่อหัวคลั่งหางก็ควง บ้ากันไปทั้งประเทศ คนล้มตายกันนับไม่ถ้วน โดยไม่ต้องมีศัตรูที่ไหนมาฆ่าฟัน ฆ่ากันเองนั่นแหละง่ายดี

แล้วฉายานี้ก็มาถึงสยามประเทศ ด้วยมูลเหตุอันเดียวกับที่เคยเกิดมาตั้งแต่ครั้งกาลก่อน นั่นคือผู้นำตัวจริงสติเสียเลอะเทอะ วันๆเอาแต่คุ้มคลั่งกับสุรานารี และหาทางเอาตัวให้พ้นคุก ไม่มีปัญญาจะทำการอื่นใด แต่แรกเริ่มก็คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง นานวันขี้ข้าที่ถูกชักใยมันก็ชักจะรู้ว่า ไอ้นายที่อยู่ข้างหลังมันเลอะเลือนสติเสียไปแล้ว มันก็หลอกเข้าให้ และชักใยนายเข้าให้บ้าง

แก๊งค์ออฟโฟร์ ในสยามประเทศนั้น เมื่อเริ่มทำการได้ไม่นานก็ถูกแฉถูกลากใส้ออกมาทันควัน ต่างกับที่เมืองจีนเขา ซึ่งกว่าผู้คนทั่วไปจะรู้ว่ามีคนพวกนี้อยู่ ประเทศก็เกือบถึงกาลวิบัติไปแล้ว ดูจากพฤติกรรมของ แก๊งค์ออฟโฟร์ ในสยามประเทศแล้ว ก็ให้นึกขำ เพราะมิได้คิดจะปฏิวัติบ้านปฏิวัติเมือง หรือทำอะไรด้วยอุดมการณ์ที่ตนคิด หากแต่มุ่งจะกอบโกย ครองอำนาจต่อเนื่อง แล้วก็โกงเข้าไป เท่านั้นเอง

อายุของแก๊งค์นี้ อาจจะนับได้เท่ารัฐบาลที่หัวหน้าแก๊งค์เป็นนอมินีเท่านั้น เพราะเมื่อสิ้นรัฐบาลดังกล่าว แก๊งค์นี้ก็ต้องแตกสลายไปในทันที มีการคาดการว่าแก๊งค์นี้จะไปจับมือกับเพื่อตั้งพรรคใหม่ โดยกำลังรีบหาเงินจากโครงการสำคัญของประเทศ แต่ก็เชื่อได้ว่า เงินนั้นเมื่อไหลเข้ากระเป๋าใครไปแล้ว ยากที่จะไหลออกมา เรื่องไปตั้งพรรคใหม่เพื่อทุ่มทุนสร้างเห็นทีจะยาก

ได้ยินเรื่องแก๊งค์ออฟโฟร์นี้แล้ว ทำให้ป้านึกถึงกลอนของตลกคาเฟ่ยุคโบราณ กลอนนี้ใครจะแต่งก็ไม่ทราบ แต่ตลกคาเฟ่ในยุคหนึ่งนำมาเล่นกันอย่างแพร่หลาย หลายคนคงเคยได้ยินได้ฟังกันมาบ้างแล้ว แต่ป้าจะนำมาลงไว้ให้อ่านกันเล่นๆ

"พรหมลิขิตขีดเขี่ยให้เอี๊ยเดิน เอี๊ยก็เพลินหลงเดินไม่สงสัย เอี๊ยกับเอี๊ยกัดกันก็บรรลัย เอี๊ยหนึ่งตายเอี๊ยหนึ่งอยู่คู่โลกา"

 :slime_bigsmile:

ส่วนเรื่องนายกอึไม่ออก แล้วด่านักข่าวนั้น ขอให้ทำใจ คนอายุปูนนั้นแล้วการขับถ่ายย่อมมีปัญหา ยิ่งสวาปามเข้าไปโดยตามใจปาก แต่ทวารมันไม่อยากทำหน้าที่ กระเพาะมันครากไม่อยากย่อย อาหารก็หมักหมมเป็นพิษอยู่ภายใน สารพิษแล่นเข้ากระแสเลือด ไปสู่สมองทำให้เกิดอาการจิตหลอนคุ้มคลั่ง อย่าไปนึกว่านี่เป็นเรื่องเล็ก ไม่เชื่อก็ลองไม่ถ่ายสักหลายวันดู จะรู้ว่าเห็นหน้าใครก็อยากด่าไปหมด อันที่จริงนั้นท่านคงอยากด่าตัวเอง โดยเฉพาะอยากด่าปากตัวเอง เพราะอาการถ่ายไม่ออกนั้น ต้นเหตุมันมาจากปาก ที่เขมือบอะไรๆเข้าไปโดยไม่มีสติ

อาหารบางอย่างนั้นย่อยยาก บางอย่างก็ไม่ย่อยเลย ไม่เชื่อก็ลองกินแตงโมโดยไม่คายเม็ดทิ้ง เช้าขึ้นก็จะทราบความจริงข้อนี้เอง และถ้าอยากรู้ว่านายกทำไมถึงถ่ายไม่ออกจนหงุดหงิดมาด่านักข่าว ก็ลองกินรถเมล์เข้าไป จะรู้ว่ามันขวางลำใส้เอาไว้จนท้องผูก ยิ่งเป็นรถเมล์ NGV ด้วยยิ่งแล้ว ดีไม่ดีถังก๊าซระเบิดในลำใส้ออกทวาร ทีนี้นักข่าวจะกระเจิงเสียยิ่งกว่าระเบิดออกทางปาก

เพราะความจริงที่ว่า คนกินไม่เลือก มักจะผายลมเหม็นมาก  :slime_v:

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 05-08-2008, 17:39
โห...ดอกฟ้าฯ ขอขอบพระคุณ ป้ามากเลยค่ะ

ที่กรุณาตอบดอกฟ้าฯ ด่วนเหมือนบัตรเติมเงิน ที่พักนี้ฮอตฮิตในหมู่นักกินเมือง

ตอนนี้ ถึงบางอ้อแล้วค่ะ :slime_inlove:


ช่วงนี้กุ้มใจมากเลยค่ะ จะเดินทางไปตปท. อยากหาปี๊บคลุมหัว ปี๊บก็ขาดตลาด

อายเพราะมีคณะละครลิง "ศิษย์พระกาฬ" หลงเหลืออยู่ในประเทศไทยคณะเดียว

ทั้งๆที่กินเนสบุ๊คได้บันทึกไว้แล้วนะคะ


แต่ที่สงสัยจิงๆ ว่า คนที่เล่นละครเหมือนลิงแก้แห เนี่ยจะไปได้ซักกี่น้ำขึ้นน้ำลงคะ

อยากถามหมอลักษณ์ แต่พักนี้ธงแกหักบ่อย

ถามคุณป้าฯ น่าจะแม่นกว่า


รบกวนอีกครั้งด้วยความเคารพ...


รักป้าฯ เท่าฟ้า


ดอกฟ้ากับหมาวัด:slime_bigsmile:


ปล. ถ้าไม่สงสัยจะไม่ถามหรอกค่ะ...อาย
:slime_sentimental:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 06-08-2008, 09:37
โห...ดอกฟ้าฯ ขอขอบพระคุณ ป้ามากเลยค่ะ

ที่กรุณาตอบดอกฟ้าฯ ด่วนเหมือนบัตรเติมเงิน ที่พักนี้ฮอตฮิตในหมู่นักกินเมือง

ตอนนี้ ถึงบางอ้อแล้วค่ะ :slime_inlove:

ช่วงนี้กุ้มใจมากเลยค่ะ จะเดินทางไปตปท. อยากหาปี๊บคลุมหัว ปี๊บก็ขาดตลาด

อายเพราะมีคณะละครลิง "ศิษย์พระกาฬ" หลงเหลืออยู่ในประเทศไทยคณะเดียว

ทั้งๆที่กินเนสบุ๊คได้บันทึกไว้แล้วนะคะ

แต่ที่สงสัยจิงๆ ว่า คนที่เล่นละครเหมือนลิงแก้แห เนี่ยจะไปได้ซักกี่น้ำขึ้นน้ำลงคะ

อยากถามหมอลักษณ์ แต่พักนี้ธงแกหักบ่อย

ถามคุณป้าฯ น่าจะแม่นกว่า

รบกวนอีกครั้งด้วยความเคารพ...

รักป้าฯ เท่าฟ้า

ดอกฟ้ากับหมาวัด:slime_bigsmile:

ปล. ถ้าไม่สงสัยจะไม่ถามหรอกค่ะ...อาย
:slime_sentimental:

หลานดอกฟ้ากับหมาวัด

เวลาหลานเดินทางไปไหนๆ ต้องหาปี๊บมาคลุมหัว นับว่าลำบากลำบนพอสมควร โดยเฉพาะเดินทางไปต่างประเทศ ดีไม่ดีฝรั่งมันจะนึกว่าหลานเป็นผู้ก่อการร้าย และปี๊บนั้นเป็นอาวุธ ป้าขอแนะนะว่า ให้ทำอย่างป้าจะปลอดภัยกว่า  เวลาป้ารู้สึกอัยอาย ก็จะยกชายผ้าถุงขึ้นมาคลุมหัว เท่านั้นคนก็จะไม่สนใจใบหน้าของเราแล้ว ถึงสนใจก็จะมองไม่เห็น สำหรับหลานที่มิได้ใส่ผ้าถุง อาจจะแก้ไขด้วยการบกชายกระโปรงขึ้นมาปิดหน้า แบบเด็กหญิงอนุบาลทำเมื่ออาย ถ้าทำแบบนั้น คนจะหันไปสนใจอย่างอื่นมากกว่าหน้าจ๊ะ  :slime_smile2:

ว่าด้วยเรื่องอาย คนไทยที่ยังมีสติก็อับอายกันทุกคน ป้านึกถึงประเทศอูกันดาในสมัยนึง ที่มีนายอีดี อามิน เป็นผู้นำ คนอูกันดาที่สติยังดี ก็อับอายในพฤติกรรมของผู้นำคนนั้นทั้งนั้น เพราะทุเรศเหลือจะรับ กรรมของคนไทย ที่ต้องมีมีคนแบบเดียวกันเป็นผู้นำ  :slime_hmm:

ลิงแก้แหนั้น ถ้ามันแก้อยู่บนบก มันก็คงแก้ไปได้อีกนาน ถึงแหจะไม่พ้นตัว ยังคงพันหัวหูอยู่จนยุ่ง แต่ก็มีเวลาเท่ากับอาหารในกระเพาะที่เหลืออยู่ หรือเรี่ยวแรงสุดท้ายที่ร่างของมันสะสมไว้ แต่ถ้าลิงติดแหแล้วตกลงไปในน้ำ มันจะมีเวลาแก้เพียงแค่หนึ่งอึดใจ ถ้าแก้ไม่ได้ มันต้องจมน้ำตาย

เวลานี้ไอ้ลิงยัดไปด่าไป มันแก้แหอยู่ริมตลิ่ง ถึงจะแฉะไปบ้างแต่ก็ยังมีเวลาอีกถมเถ เนื่องจากมันเป็นลิงตะกละ ยัดไปด่าไปอยู่เป็นนิจ จึงมีอาหารและพลังงานสะสมไว้มิใช่น้อย แต่ตรีนที่มองไม่เห็น ยื่นเข้าไปจ่ออยู่ที่บั้นท้ายของมันแล้ว ข่าวว่าจะถีบโครมเข้าให้ในเวลาไม่เกินเดือนนี้ เมื่อถีบลงน้ำไปแล้ว ไม่นานมันก็ขาดใจตายจ๊ะ

พูดถึงหมอหั่นธง เขาก็พยายามฟันมันไปเรื่อยๆ ป้าแอบไปถามซ้อเจ็ดมาแล้ว ขานั้นหัวร่อร่าแล้วกระซิบว่า ไม่น่าเชื่อว่าหน้าตาอุบาทว์แบบนั้น ยังมีคนหลงไปให้มันฟันหลายราย ธงหักป่นปี้อับอายไม่กล้าเปิดเผยก็เยอะ ส่วนตัวหมอเองนั้น ก็ฟันดะไปเรื่อยๆ เผื่อถูกเข้ามั่งก็จะได้ฉวยเอามาสร้างความดัง เป็นธรรมดาของคนหากินจ๊ะ อย่าไปคิดมาก

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 06-08-2008, 20:31
ขอบพระคุณ คุณป้าฯ เช่นเคยค่ะ

ยี่ห้อศิลาแลงซะอย่าง ไม่มีใครเหมือน..ลอกเลียนแบบก้อไม่ได้ อิ อิ


วันนี้หลานเริ่มสงสัยบางอย่างค่ะ คือว่าพักนี้ค่อนข้างว่าง แถมเรื่องการเมือง ก็เริ่มตึงเครียด

ตื่นเช้ามาพยายามร้องเพลง รักเธอประเทศไทย ลั่นบ้าน โดนแมวที่บ้านค้อนให้แถมส่ายหน้าแบบระอาจิต


เรื่องที่อยากเรียนถาม คือเรื่องทุจริตกล้ายางค่ะ

คือว่า ศาลฏีกาแผนกคดี ประทับรับฟ้องพี่ห้อยและพรรคพวก

การทุจริตกล้ายางของพวกพี่ๆเค้ามีนัยยะอะไรป่ะคะ

หรือเค้าไม่ต้องการให้ต้นยางอายบ้านเราเติบโตเร็วไป

หรือว่าเค้าอยากให้ประชาชน หน้าด้านหนาตราช้างเหยียบกระโถน เหมือนๆกับพวกเค้า

ทุกวันนี้ยางอายก็ขาดแคลนเหลือเกินแร๊ะ กุ้มใจซะไม่มี :slime_dizzy:


อยากรบกวนถามว่า....พวกนี้เคยเป็นตัวอะไรกลับชาติมาเกิดคะ :slime_doubt:



รักป้าฯทุกวันเลยค่ะ :slime_inlove:


ดอกฟ้าฯ


ปล. หวังว่าคุณป้า คงไม่รำคาญดอกฟ้าฯ นะคะ
:slime_bigsmile: :slime_shy:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: นู๋พิม ที่ 06-08-2008, 21:22
สวัสดีค่ะคุณป้าศิลาแลงที่เคารพ


หนูติดตามอ่านคอลัมพ์ของคุณป้าศิลาแลงมานานหลายวันแล้วค่ะ เพราะกระทู้เยอะมาก
หนูอ่านจนหน้ามืด เป็นลมไป 3 ครั้ง โดนพ่อเตะอีก 2 ที เพราะไม่ยอมหุงข้าว 

หลายเดือนก่อนตอนไปตลาดนัดหนูโดนหมา 6 ตัวรุมกัด  เมื่อก่อนมีแต่คนบอกหนูว่า....
หมายังไม่มองเอ็งเลยนังหนู แล้วหนุ่มที่ไหนจะมาชอบเอ็งว๊า..... 

ถ้าหมาไม่มองเนียะแปลว่า ไม่ดีใช่มั้ยคะแต่ตอนนั้นหนูโดนหมารุมตั้ง 6 ตัว และมันไม่มองอย่างเดียว มันกัดด้วย   
ตั้งแต่นั้นมา ก็มีหนุ่มๆ มาตามจีบหนูเป็นแถวเลย  นี่หนูยังเก็บแผลไว้เป็นที่ระลึกเลยค่ะ ยังเสียดายว่ามีแค่ 12 แผลเอง 

จริงๆ อยากให้มันมารุมมากกว่านี้ แต่บังเอิญทั้งตลาดมันมีหมาอยู่แค่นี้ค่ะ 
ไว้วันหลังหนูจะไปตลาดอื่นดูมั่ง เผื่อมีหมาเยอะกว่านี้ค่ะ   
   
หนูชอบดูความทุกข์ ความเจ็บปวดและความฉิ..หายของคนอื่นมากค่ะ  ดูแล้วมีความสุข   
นึกไม่ถึงว่ากรรมมันย้อนมาหาหนูแล้วตอนนี้

คุณป้าศิลาแลงคะปีนี้หนูอายุ 17 ขวดแล้วค่ะ   เมื่อกลางปีที่ผ่านมาหนูได้รู้จักกับผู้ชายที่โรงเรียนเขาชอบมองหนูค่ะ 
แต่หนูพยายามไม่สนใจเขาเพราะเราต้องตั้งใจเรียนหนังสือจริงไหมค่ะ

เขาเป็นคนรูปหล่อค่ะ  รวยมาก  ชอบใส่แว่นดำ เวลาไปไหนทีก็หอบบอดี้การ์ดไปด้วยเป็นฝูงเลยค่ะ 
แต่หนูไม่ชอบเขาหลอกนะคะ  เพราะหนูชอบพ่อเขามากกว่าค่ะ ดูจาก TV หน้าเหลี่ยมดีค่ะ หนูชอบ อยากได้มาทำเก้าอี้ที่บ้านค่ะ   

เมื่อวานนี้เขาพยายามชวนหนูคุยค่ะแต่หนูพยายามเลี่ยง ไม่อยากให้เขาคิดว่าหนูใจง่าย  พอเที่ยงเขาก็มาชวนหนูไปกินข้าว
หนูก็ไปค่ะเพราะเขาออกเงินให้นี่คะ และหนูก็เริ่มหิวแล้วด้วย  อ้อลืมบอกไปค่ะ ว่าพักนี้เขาจะไปไหนมาไหนคนเดียวค่ะ
เห็นว่าให้บอดี้การ์ดไปคอยอารักขาลุงหมักที่ตลาด อตก. แทนค่ะ กลัวลุงหน้ามืดตกส้วมตาย

เราคบกันอยู่นานมากค่ะ  เกือบ 2 วัน  แล้วเขาก็ชวนหนูไปดูหนังค่ะหนูรีบปฏิเสธค่ะ เพราะกลัวเสียตังค์ 
แต่พอเขาบอกว่าเขาจะเลี้ยงเองหนูก็เลยตอบโอเค

เมื่อเข้าไปในโรงหนังเขาก็พยายามจับมือจับไม้หนู หนูไม่ยอมเพราะข้าวโพดคั่วมันจะหกหนูเสียดายค่ะ


พอดูหนังเสร็จเราก็นั่งกลับบ้านแต่เขากลับเลี้ยวรถกลางทาง
หนูเหลือบมองเห็นป้ายด้านหน้าทางเข้าเขียนว่าโรงแรม หนูรู้สึกทั้งโกรธทั้งอายมากค่ะ 
หนูต่อว่าเขาแล้วรีบวิ่งหนีเข้าไปข้างในบอกบ๋อยที่วิ่งตามว่า  “ขอห้อง วี.ไอ.พี.ค่ะ”


คุณป้าศิลาแลงคะหนูเป็นผู้หญิงเลยสู้แรงเขาไม่ได้ค่ะ  ในที่สุดหนูก็ตกเป็นของเขาค่ะ  ก็ผู้หญิงตัวเล็กๆ จะเอาแรงที่ไหนไปสู้จริงไหมคะ   
หนูเลยสั่งคาราบาวแดงมาดื่ม 2 ขวดทำให้พอมีแรงหิ้วเขาออกจากห้องได้ค่ะ แต่ปัญหาคือหนูขับรถไม่เป็น  หนูก็เลยลากเขาเข้าไปในรถ
แล้วหนูก็เข็นรถกลับบ้านทันทีค่ะ 


หลังจากวันนั้นเขาก็พยายามชวนหนูอีก  หนูกลัวมากค่ะ  ต้องให้เขารับปากว่าเขาจะเป็นคนจ่ายค่าห้อง กับคาคาราบาวแดง!
หนูถึงตกลงค่ะ คุณป้าศิลาแลงว่าหนูเสียเปรียบไหมคะ เพราะหนูต้องออกค่ารถ Taxi  เองค่ะ 
(หนูไม่ให้เขาเอารถไปค่ะ เพราะวันก่อนเข็นแทบตายกว่าจะถึงบ้าน)


เราแอบได้เสียกันหลายครั้งจนเริ่มมีปัญหาค่ะหนูกลุ้มใจมากอยากให้คุณป้าศิลาแลงช่วยรีบตอบด้วยค่ะ

ต่อไปนี้เป็นคำถามนะคะ
1.  คุณป้าศิลาแลงคะตอนนี้ประจำเดือนหนูไม่มาเกือบ 6 เดือนแล้วค่ะ ท้องหนูก็โย้ออกมามากจนใส่กางเกงไม่ได้แล้ว คุณป้าศิลาแลงว่าหนูจะท้องไหมคะ

2.  ถ้าหนูท้องขึ้นมาจริงๆจะทำไงคะ หนูควรจะออกค่าทำคลอด หรือให้เขาออกคะ หนูกลุ้มมากเพราะเขาก็ออกค่าโรงแรมแล้ว

3. คุณป้าศิลาแลงคะ คุณป้าศิลาแลงว่าเขาจะเบื่อหนูไหมคะ พักหลังเขาไม่สั่งคาราบาวแดงให้หนูดื่มเลยเขาชอบสั่งแต่ แรงเยอร์ค่ะทั้งที่รู้ว่าหนูชอบคาราบาวแดงมากกว่าเพราะใต้ฝามีชิงโชคค่ะ

4.  ถ้าหมอถามว่าใครเป็นพ่อเด็ก หนูจะตอบว่ายังไงดีคะ ระหว่างลูกกับพ่อ  แต่ความจริงหนูชอบพ่อเหลี่ยมมากกว่าค่ะ

5. คุณป้าศิลาแลงคะทำไมโรงแรมนี้แอร์ไม่ค่อยเย็นคะ แล้วข้าวต้มก็ใส่กุ้งตัวเล็กๆ แค่ 2-3 ตัวเองค่ะ หนูสงสัยว่าพนักงานมันจะอมกุ้งหนูค่ะ  คุณป้าศิลาแลงว่าหนูควรจะฟ้องผู้จัดการโรงแรมหรือฟ้องหนังสือพิมพ์ดีคะ

6.  คุณป้าศิลาแลงคะ  ถ้าหนูคลอดแล้วจะเอาลูกไปให้พ่อเหลี่ยมตั้งชื่อให้ดีมั้ยคะ  แล้วพ่อเหลี่ยมจะตบรางวัลให้หนูกับลูกมั้ยคะ 

สุดท้ายนี้ขอให้คุณคุณป้าศิลาแลงมีความสุขนะคะ ช่วยตอบหนูคืนนี้ด้วยเพราะหนูกลุ้มมาก และข้างบ้านเขาจะมายึดเครื่องคอมคืนแล้วค่ะ 
หนูยืมเขามาตั้งกะปีที่แล้วกะว่าปีหน้าจะรีบคืนให้  แต่เขารอไม่ไหวค่ะ  นี่ก็ให้ตำรวจมายืนรอหน้าบ้านแล้วค่ะ....   

จาก Forword Mail ค่ะ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 07-08-2008, 10:28
ขอบพระคุณ คุณป้าฯ เช่นเคยค่ะ

ยี่ห้อศิลาแลงซะอย่าง ไม่มีใครเหมือน..ลอกเลียนแบบก้อไม่ได้ อิ อิ

วันนี้หลานเริ่มสงสัยบางอย่างค่ะ คือว่าพักนี้ค่อนข้างว่าง แถมเรื่องการเมือง ก็เริ่มตึงเครียด

ตื่นเช้ามาพยายามร้องเพลง รักเธอประเทศไทย ลั่นบ้าน โดนแมวที่บ้านค้อนให้แถมส่ายหน้าแบบระอาจิต

เรื่องที่อยากเรียนถาม คือเรื่องทุจริตกล้ายางค่ะ

คือว่า ศาลฏีกาแผนกคดี ประทับรับฟ้องพี่ห้อยและพรรคพวก

การทุจริตกล้ายางของพวกพี่ๆเค้ามีนัยยะอะไรป่ะคะ

หรือเค้าไม่ต้องการให้ต้นยางอายบ้านเราเติบโตเร็วไป

หรือว่าเค้าอยากให้ประชาชน หน้าด้านหนาตราช้างเหยียบกระโถน เหมือนๆกับพวกเค้า

ทุกวันนี้ยางอายก็ขาดแคลนเหลือเกินแร๊ะ กุ้มใจซะไม่มี :slime_dizzy:

อยากรบกวนถามว่า....พวกนี้เคยเป็นตัวอะไรกลับชาติมาเกิดคะ :slime_doubt:

รักป้าฯทุกวันเลยค่ะ :slime_inlove:

ดอกฟ้าฯ

ปล. หวังว่าคุณป้า คงไม่รำคาญดอกฟ้าฯ นะคะ
:slime_bigsmile: :slime_shy:

สวัสดีหลานดอกฟ้าฯ

การร้องเพลงในตอนเช้าๆนั้น เป็นการบริหารปอดที่ดีอย่างหนึ่ง แต่มีเคล็ดอยู่ว่า หลานต้องดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยหนึ่งแก้ว ก่อนที่จะร้องเพลง ทั้งนี้เพื่อล้างคราบในลำคอที่สะสมมาทั้งคืน ให้ท่อมันสะอาดเอี่ยมเสียก่อน และให้ร่างกายได้รับน้ำบริสุทธฺสดชื่น มีเคล็ดอีกประการหนึ่ง จริงเท็จไปคิดเอาเอง นั่นคือถ้าจะให้เสียงดีเสียงใสเหมือนนกการะเวก ห้ามแปรงฟันก่อนกินน้ำสะอาดดังกล่าวเด็ดขาด นั่นคือลืมตาตื่นขึ้นมา ก็ดื่มน้ำเข้าไปในทันที จะให้ดีก็ขยุกขยุยน้ำในปากสักสองสามรอบก่อน แล้วค่อยกลืนลงไป สิทธการิยะ ท่านว่าผูใดทำได้ดังนี้ เสียงจะดีเหมือนนักร้องโอเปร่านั่นทีเดียว  :slime_dizzy:

เรื่องทุจริตกล้ายางที่หลานถามมานั้น มันเกี่ยวข้องกับยางอายเป็นอย่างมาก เพราะคนที่จะทำได้นั้น ต้องไร้ยางอายจนถึงขีดสุด เรียกได้ว่าต่อมยางอายเหือดแห้ง จนถึงขั้นพิการไม่อาจจะผลิตยางอายได้อีกแล้ว ถึงแม้กล้ายางนั้นจะไม่ใช่กล้ายางอาย แต่คนที่ร่วมกระบวนการนั้น ขาดยางอายอย่างรุนแรง แต่ละคนนั้นก็มิใช่สิ้นไร้ไม้ตอก แต่สิ้นคิด ร่วมกันโกงประเทศชาติและประชาชน สมควรไปติดคุกตามคำฟ้องนั้นแล้ว

พวกที่กระทำเรื่องนี้ หากจะถามว่าชาติที่แล้วเคยเกิดเป็นตัวอะไร ป้าก็จนปัญญาจะตอบ เพราะป้าระลึกชาติไม่ได้ แต่ถ้าถามว่าชาตินี้ที่จริงแล้ว มันเกิดเป็นตัวอะไร ก็อาจจะตอบได้ว่า ร่างกายของพวกันนั้นดูคล้ายกับมนุษย์ หน้าตาก็คล้ายมนุษย์ แต่กมลสันดานนั้นห่างไกลจากความเป็นมนุษย์มาก  พวกนั้นเป็นเพียงคน

คนเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง แตกต่างกับมนุษย์ตรงที่ว่า มนุษย์คือคนที่พัฒนาไปในทางที่ดีทางที่เจริญแล้ว  ในประเทศของเรา หลานจะเห็น คน ปนเปไปกับ มนุษย์ เสมอๆ หลานอาจจะแบ่งแยกได้โดยสังเกตพฤติกรรม มนุษย์นั้นไม่เอาเปรียบมนุษย์และคน แต่คนนั้นเอาเปรียบมนุษย์และคนด้วยกันเอง  มนุษย์นั้นไม่ทำชั่ว  แต่คนนั้นทำชั่วเสมอๆ

บางครั้ง มนุษย์ ก็สมรสกับ คน จุดจบที่เห็นได้ง่ายคือ ต้องเลิกรากัน และมนุษย์น้ำตาตก ส่วนคนนั้นก็ตีปีกไปหาคู่สู่สมใหม่ต่อไป แต่หากคนสมรสกับคน เราจะเห็นศึกใหญ่ชนิดถ้วยจานชามหม้อไหแตกกระจาย แต่เมื่อคนสมรสกับคนนั้น ยากที่จะเลิกรากัน ตีกันจนบ้านพัง แล้วก็ช่วยกันเก็บบ้าน เพื่อจะพังมันในวันต่อๆไป

แต่ถ้ามนุษย์ สมรสกับ มนุษย์ สันติสุขจะพึงบังเกิด และพลเมืองดีก็จะถือกำเนิดมาในการสมรสเช่นนี้ เป็นลูกมนุษย์ที่มีพ่อมนุษย์และแม่มนุษย์สั่งสอน แตกต่างกับลูกของคน ที่พ่อแม่มันไม่ค่อยจะสั่งสอน และสิงสู่อยู่ตามร้นเกมส์ทั่วไป  :slime_smile:

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 07-08-2008, 16:02
สวัสดีค่ะคุณป้าศิลาแลงที่เคารพ

หนูติดตามอ่านคอลัมพ์ของคุณป้าศิลาแลงมานานหลายวันแล้วค่ะ เพราะกระทู้เยอะมาก
หนูอ่านจนหน้ามืด เป็นลมไป 3 ครั้ง โดนพ่อเตะอีก 2 ที เพราะไม่ยอมหุงข้าว 

หลายเดือนก่อนตอนไปตลาดนัดหนูโดนหมา 6 ตัวรุมกัด  เมื่อก่อนมีแต่คนบอกหนูว่า....
หมายังไม่มองเอ็งเลยนังหนู แล้วหนุ่มที่ไหนจะมาชอบเอ็งว๊า..... 

ถ้าหมาไม่มองเนียะแปลว่า ไม่ดีใช่มั้ยคะแต่ตอนนั้นหนูโดนหมารุมตั้ง 6 ตัว และมันไม่มองอย่างเดียว มันกัดด้วย   
ตั้งแต่นั้นมา ก็มีหนุ่มๆ มาตามจีบหนูเป็นแถวเลย  นี่หนูยังเก็บแผลไว้เป็นที่ระลึกเลยค่ะ ยังเสียดายว่ามีแค่ 12 แผลเอง 

จริงๆ อยากให้มันมารุมมากกว่านี้ แต่บังเอิญทั้งตลาดมันมีหมาอยู่แค่นี้ค่ะ 
ไว้วันหลังหนูจะไปตลาดอื่นดูมั่ง เผื่อมีหมาเยอะกว่านี้ค่ะ   
   
หนูชอบดูความทุกข์ ความเจ็บปวดและความฉิ..หายของคนอื่นมากค่ะ  ดูแล้วมีความสุข   
นึกไม่ถึงว่ากรรมมันย้อนมาหาหนูแล้วตอนนี้

คุณป้าศิลาแลงคะปีนี้หนูอายุ 17 ขวดแล้วค่ะ   เมื่อกลางปีที่ผ่านมาหนูได้รู้จักกับผู้ชายที่โรงเรียนเขาชอบมองหนูค่ะ 
แต่หนูพยายามไม่สนใจเขาเพราะเราต้องตั้งใจเรียนหนังสือจริงไหมค่ะ

เขาเป็นคนรูปหล่อค่ะ  รวยมาก  ชอบใส่แว่นดำ เวลาไปไหนทีก็หอบบอดี้การ์ดไปด้วยเป็นฝูงเลยค่ะ 
แต่หนูไม่ชอบเขาหลอกนะคะ  เพราะหนูชอบพ่อเขามากกว่าค่ะ ดูจาก TV หน้าเหลี่ยมดีค่ะ หนูชอบ อยากได้มาทำเก้าอี้ที่บ้านค่ะ   

เมื่อวานนี้เขาพยายามชวนหนูคุยค่ะแต่หนูพยายามเลี่ยง ไม่อยากให้เขาคิดว่าหนูใจง่าย  พอเที่ยงเขาก็มาชวนหนูไปกินข้าว
หนูก็ไปค่ะเพราะเขาออกเงินให้นี่คะ และหนูก็เริ่มหิวแล้วด้วย  อ้อลืมบอกไปค่ะ ว่าพักนี้เขาจะไปไหนมาไหนคนเดียวค่ะ
เห็นว่าให้บอดี้การ์ดไปคอยอารักขาลุงหมักที่ตลาด อตก. แทนค่ะ กลัวลุงหน้ามืดตกส้วมตาย

เราคบกันอยู่นานมากค่ะ  เกือบ 2 วัน  แล้วเขาก็ชวนหนูไปดูหนังค่ะหนูรีบปฏิเสธค่ะ เพราะกลัวเสียตังค์ 
แต่พอเขาบอกว่าเขาจะเลี้ยงเองหนูก็เลยตอบโอเค

เมื่อเข้าไปในโรงหนังเขาก็พยายามจับมือจับไม้หนู หนูไม่ยอมเพราะข้าวโพดคั่วมันจะหกหนูเสียดายค่ะ

พอดูหนังเสร็จเราก็นั่งกลับบ้านแต่เขากลับเลี้ยวรถกลางทาง
หนูเหลือบมองเห็นป้ายด้านหน้าทางเข้าเขียนว่าโรงแรม หนูรู้สึกทั้งโกรธทั้งอายมากค่ะ 
หนูต่อว่าเขาแล้วรีบวิ่งหนีเข้าไปข้างในบอกบ๋อยที่วิ่งตามว่า  “ขอห้อง วี.ไอ.พี.ค่ะ”

คุณป้าศิลาแลงคะหนูเป็นผู้หญิงเลยสู้แรงเขาไม่ได้ค่ะ  ในที่สุดหนูก็ตกเป็นของเขาค่ะ  ก็ผู้หญิงตัวเล็กๆ จะเอาแรงที่ไหนไปสู้จริงไหมคะ   
หนูเลยสั่งคาราบาวแดงมาดื่ม 2 ขวดทำให้พอมีแรงหิ้วเขาออกจากห้องได้ค่ะ แต่ปัญหาคือหนูขับรถไม่เป็น  หนูก็เลยลากเขาเข้าไปในรถ
แล้วหนูก็เข็นรถกลับบ้านทันทีค่ะ 

หลังจากวันนั้นเขาก็พยายามชวนหนูอีก  หนูกลัวมากค่ะ  ต้องให้เขารับปากว่าเขาจะเป็นคนจ่ายค่าห้อง กับคาคาราบาวแดง!
หนูถึงตกลงค่ะ คุณป้าศิลาแลงว่าหนูเสียเปรียบไหมคะ เพราะหนูต้องออกค่ารถ Taxi  เองค่ะ 
(หนูไม่ให้เขาเอารถไปค่ะ เพราะวันก่อนเข็นแทบตายกว่าจะถึงบ้าน)

เราแอบได้เสียกันหลายครั้งจนเริ่มมีปัญหาค่ะหนูกลุ้มใจมากอยากให้คุณป้าศิลาแลงช่วยรีบตอบด้วยค่ะ

ต่อไปนี้เป็นคำถามนะคะ
1.  คุณป้าศิลาแลงคะตอนนี้ประจำเดือนหนูไม่มาเกือบ 6 เดือนแล้วค่ะ ท้องหนูก็โย้ออกมามากจนใส่กางเกงไม่ได้แล้ว คุณป้าศิลาแลงว่าหนูจะท้องไหมคะ

2.  ถ้าหนูท้องขึ้นมาจริงๆจะทำไงคะ หนูควรจะออกค่าทำคลอด หรือให้เขาออกคะ หนูกลุ้มมากเพราะเขาก็ออกค่าโรงแรมแล้ว

3. คุณป้าศิลาแลงคะ คุณป้าศิลาแลงว่าเขาจะเบื่อหนูไหมคะ พักหลังเขาไม่สั่งคาราบาวแดงให้หนูดื่มเลยเขาชอบสั่งแต่ แรงเยอร์ค่ะทั้งที่รู้ว่าหนูชอบคาราบาวแดงมากกว่าเพราะใต้ฝามีชิงโชคค่ะ

4.  ถ้าหมอถามว่าใครเป็นพ่อเด็ก หนูจะตอบว่ายังไงดีคะ ระหว่างลูกกับพ่อ  แต่ความจริงหนูชอบพ่อเหลี่ยมมากกว่าค่ะ

5. คุณป้าศิลาแลงคะทำไมโรงแรมนี้แอร์ไม่ค่อยเย็นคะ แล้วข้าวต้มก็ใส่กุ้งตัวเล็กๆ แค่ 2-3 ตัวเองค่ะ หนูสงสัยว่าพนักงานมันจะอมกุ้งหนูค่ะ  คุณป้าศิลาแลงว่าหนูควรจะฟ้องผู้จัดการโรงแรมหรือฟ้องหนังสือพิมพ์ดีคะ

6.  คุณป้าศิลาแลงคะ  ถ้าหนูคลอดแล้วจะเอาลูกไปให้พ่อเหลี่ยมตั้งชื่อให้ดีมั้ยคะ  แล้วพ่อเหลี่ยมจะตบรางวัลให้หนูกับลูกมั้ยคะ 

สุดท้ายนี้ขอให้คุณคุณป้าศิลาแลงมีความสุขนะคะ ช่วยตอบหนูคืนนี้ด้วยเพราะหนูกลุ้มมาก และข้างบ้านเขาจะมายึดเครื่องคอมคืนแล้วค่ะ 
หนูยืมเขามาตั้งกะปีที่แล้วกะว่าปีหน้าจะรีบคืนให้  แต่เขารอไม่ไหวค่ะ  นี่ก็ให้ตำรวจมายืนรอหน้าบ้านแล้วค่ะ....   

จาก Forword Mail ค่ะ

สวัสดีหลานพิมพ์

ป้าขอบใจหนูมากที่เป็นแฟนคอลัมน์ป้าอย่างเหนียวแน่น แฟนพันธ์แท้ของป้านั้นหาไม่ค่อยได้มาก ส่วนใหญ่จะพบแต่แฟนพันธ์ทิ้ง คือได้พันธ์แล้วเป็นทิ้งกันล่ะ ไม่ค่อยจะตามมาดูดำดูดี  :slime_smile2:

คำพังเพยที่ชอบพูดกันว่า หมามันยังไม่มองเลย ก็เป็นเพียงคำกระเซ้าเย้าแหย่กันเล่นๆ เพราะอันที่จริงนั้น เวลาหมามันมองคน มันก็มีจุดประสงค์เพียงสองอย่าง นั่นคือมองเพื่อหาอาหาร เพราะคนนั้นมักจะเป็นแหล่งอาหารอันสำคัญของหมา คนใจดีก็ชอบซื้อขนมให้หมากิน อีกประการหนึ่งหมามันก็มองเพื่อประเมินว่าคนคนนั้นเป้ฯมิตรหรือศัตรู เพราะคนใจร้ายมักจะชอบแกล้งหมา อย่างเบาะก็เตะมันเล่น ทั้งๆที่มันไม่ได้ทำอะไรให้เลย

การถูกหมากัดนั้น หากเป็นหมาไม่บ้ากัด และเป็นหมาที่อยู่ในที่สาธารณะ ก็นับว่าคล้ายกับการถูกหวย เพราะหมาจรจัดโดยทั่วไปมักจะเป็นมิตรกับคน เนื่องจากจุดประสงค์ในการหาอาหารดังกล่าว แต่บางวันนั้นหมามันก็อาจจะอารมณ์ไม่ดี หงุดหงิด อกหัก รักคุด ในเวลาเช่นนั้นหากคนเคราะห์ร้ายเดินผ่ามา มันก็อาจจะกัดระบายอารมณ์ แต่ถ้ามารุมกันถึงหกตัว ป้าคาดว่าหมามันคงเมาน่ะจ๊ะ มันคงตั้งวงก๊งกันอยู่ แล้วหนูบังเอิญผ่านไปให้มันลองเขี้ยวพอดี

อย่าไปเอานิยมนิยายอะไรกับหมาเลย ที่ผู้ชายหันมามองหนูนั้น มันไม่ได้เกียวอะไรกับการที่ถูกหมากัดหรอกจ๊ะ เด็กสาวเมื่อเข้าวัยเจริญพันธ์ เด็กหนุ่ม ชายหนุ่ม ชายแก่ ต่างก็มักจะชอบมอง เพราะมันมีอะไรน่ามอง แต่ถ้าหนูล่วงเข้าวัยอย่างป้า ที่ใครๆเขาเรียกกันว่าวัยทอง คราวนี้แหละจะไม่มีใครมอง ขนาดข้ามถนนคนขับรถยนต์มันยังไม่มองเลย ต้องยกมือยกไม้พร้อมตะโกนเจริญพรมัน มันจึงจะหยุดรถให้เราข้าม

เมื่อหนูอายุ 17 หนูก็พบรัก หรือรักมันจะพบหนูป้าก็ไม่แน่ใจ อีกทั้งคนที่หนูพบนั้น ก็มีอาการอย่างที่เด็กสาวๆบางประเภทชอบ นั่นคือ กร่าง ไปไหนมาไหนใส่แว่นดำ มีบอร์ดี้การด์ ดูแล้วคล้ายๆหมามีเจ้าของ ไปไหนก็ต้องให้เจ้าของเดินถือสายจูงตามหลัง หมามันจูงเจ้าของหรือเจ้าของมันจูงหมา บางทีเราก็ดูไม่ออก

เมื่อคบหากันแล้ว เรื่องมันก็ดำเนินไปอย่างที่มันไม่ควรจะเป็น เพราะทางที่มันควรจะเป็นนั้น ต้องเข้าตามตรอกออกตามประตู แต่ของหนูนี่มันเข้าตามโรงหนังแล้วไปออกที่โรงแรม ป้าจะละเว้นที่จะวิจารณ์เรื่องข้าวโพดคั่วและเรื่องห้องวีไอพีของหนู เพราะถ้าป้าวิจารณ์เรื่องนั้น ไม่แคล้ววงแตก และจะเสียแฟนพันธ์แท้ไปอีกคน

เป็นอันว่าป้าจะตอบคำถามล่ะ

1.ประจำเดือนหนูไม่มาถึงหกเดือนแล้ว ป้าว่ามันก็เป็นเรื่องปกตินะ ป้าเองประจำเดือนมันก็ไม่มากว่าหกปีแล้ว อีกทั้งท้องของป้าก็โย้ออกมาจนใส่กางเกงในไม่ได้เหมือนกัน ต้องนุ่งลมกระจ๋อหวออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ป้าก็ว่าป้าไม่ได้ท้อง แต่ถ้าจะท้องจริงๆคงจะคลอดออกมาเป็นขาหมู อาหารโปรดของป้านั่นเอง

2. ถ้าหนูท้องขึ้นมาก็ไม่ต้องทำอย่างไร ไม่ต้องกังวลว่าใครจะเป็นคนออกค่าคลอด เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ หนูทำไม่รู้ไม่ชี้ไปเสียพักหนึ่ง แล้วหนูก็จะคลอดออกมาได้เอง ไม่ต้องเสียเงินเสียทองให้มันยุ่งยาก เชื่อป้าเหอะ ป้าไม่เคยเห้นใครอั้นเอาไว้ได้ เขาบอก ฝนจะตก ขี้จะแตก พระจะสึก คนจะออกลูก ใครก็ห้ามไม่ได้

3. เขาอาจจะอยากให้หนูเปลี่ยนรสนิยม คราวหน้าหนูบอกไปใหม่ เอายี่ห้อพ่อมึง เอ๊ยไม่ใช่ เอายี่ห้อทักษิณสู้ ช่วยๆกินมันหน่อย มันจะเจ๊งแล้ว

4. ถ้าเกิดหนูได้ไปคลอดกับหมอ แล้วหมอถามว่าใครเป็นพ่อเด็ก หนูก็ตอบไปตามตรงจะได้ไม่บาป คำตอบก็คงจะคล้ายกับว่า ไม่แน่ใจ มันหลายคนด้วยกัน หน้าเหมือนใครก็คนนั้น ถ้าเหมือนหลายคน ก็หลายคนนั่นแหละ รู้ไปก็เท่านั้น หมออย่ามาเซ้าซี้

5. เรื่องแอร์ไม่ค่อยเย็นนั้น ก็เป็นด้วยกันทุกที่ โดยเฉพาะในนรกนั้น เขาบ่นกันว่ามันร้อนน่าดู โรงแรมอย่างว่ามันก็คือนรก เมื่อเข้าไปแล้วจะไปหวังความเย็นอะไร ผ้าผ่อนก็ไม่ได้นุ่ง ยังจะร้อนได้อีก ไฟธาตุคงใกล้แตกแล้วจ๊ะ ส่วนข้าวต้มกุ้งนั้น สมัยนี้กุ้งมันก็ตัวเล็กๆด้วยกันทั้งนั้น ค่าครองชีพมันแพง เขาไม่เอากุ้งแห้งใส่มาให้ก็บุญโขแล้ว

6. การตั้งชื่อลูกนั้น ต้องตั้งให้เป็นศิริมงคล ทั้งผู้ตั้งนั้นก็ควรจะมีสิริมงคลอยู่กับตัว ความนิยมของคนไทยเรานั้น นิยมให้พระหรือหมอดูเป็นผู้ตั้งชื่อให้ลูก แต่ไม่ค่อยจะมีใครไหว้วานไอ้พวกขี้คุกหรือใกล้คุกให้ตั้งชื่อให้ มันไม่ค่อยจะเป็นมงคล ถ้าหนูอยากจะให้ใครตั้งชื่อ ก็คิดเสียให้ดีๆ และไปขอให้เขาตั้งชื่อ ยังคิดจะให้เขาตบรางวัลอีก ฟังดูพิกล ป้าว่าหวยมันจะออกทางโดนตบเสียล่ะมากกว่าจ๊ะ

หวังว่าป้าคงตอบทันก่อนที่เครื่องคอมจะโดนยึด ชีวิตหนูน่ารันทดจริงๆ เคยคิดจะไปเกิดใหม่บ้างไหม

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: นู๋พิม ที่ 07-08-2008, 22:29
พอดีเพิ่งกลับมาจาก สะพานมัฆวาน ค่ะ  ไม่ทันดูพี่ตั้วเลยวันนี้คิดถึงป้าฯ มากกว่าค่ะ หุหุ   :slime_bigsmile:
 ----------------------------------------------------
กราบขอบคุณคุณป้าฯ ที่ตักงามๆ เลยนะคะ  ที่กรุณาตอบได้ถึงใจดีแท้   
นี่ถ้าเป็นหนังจีนก็ต้องบอกว่า รับท่าไม้ตายได้ทุกกระบวนท่า  มาไม้ไหนรับได้หมด
สุดยอดเลยค่า... และที่สำคัญทำไมพิมพ์เก่งเหลือเกิน
นู๋พิมกว่าจะจิ้มได้ครบ นิ้วแทบหัก  :slime_hmm:  นี่เห็นตอบยาวๆ
ทั้งนั้นเลย .... นับถือค่ะ นับถือ   :slime_worship: :slime_worship:
ไว้มีตัญหา..เอ้ย มีปัญหา นู๋พิมจะมาขอความอนุเคราะห์ใหม่นะคะ
รักป้าฯ ที่สุดเลย..ย...จุ๊ฟๆๆ



หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 09-08-2008, 20:42
สวัสดีอีกครั้งค่ะ...คุณป้าศิลาของหลาน


วันนี้ดอกฟ้าฯ มีเรื่องสงสัยมาเรียนถามคุณป้าอีกแร๊ะ

เพราะคุณป้า สามารถตอบเรื่องราวทั้งหลายแหล่ได้แบบครอบจักวาลจิงๆนะคะ


เรื่องมีอย่างนี้ค่ะ ไส้กรอกอีสานพัฒนา กับไส้อั่วเชียงใหม่ระดับท้องถิ่น

เวลาทอด จะทำไง ไม่ให้ไส้แตกออกมาคะ

ตั้งน้ำมันจนร้อน แล้วนำไปทอด ไส้ที่เค้าใส่ไว้ข้างใน โห ...แตกโบ๊ะเลยค่ะ

แถมน้ำลาย เอ๊ย ...น้ำมันยังกระเด็น มาเปรอะเปื้อนเป็นที่ระคายเคืองผิวอันบอบบางอีก


อยากให้คุณป้าแนะนำวิธี ให้สักครั้งค่ะ

อย่าบอกนะคะ ว่าให้เลิกทาน

เพราะว่ามันแซ่บหลายเลยล่ะค่ะ :slime_smile2:



รักป้าฯ สามเวลาหลังอาหารค่ะ



ดอกฟ้าฯ
:slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 09-08-2008, 21:40
สวัสดีอีกครั้งค่ะ...คุณป้าศิลาของหลาน

วันนี้ดอกฟ้าฯ มีเรื่องสงสัยมาเรียนถามคุณป้าอีกแร๊ะ

เพราะคุณป้า สามารถตอบเรื่องราวทั้งหลายแหล่ได้แบบครอบจักวาลจิงๆนะคะ

เรื่องมีอย่างนี้ค่ะ ไส้กรอกอีสานพัฒนา กับไส้อั่วเชียงใหม่ระดับท้องถิ่น

เวลาทอด จะทำไง ไม่ให้ไส้แตกออกมาคะ

ตั้งน้ำมันจนร้อน แล้วนำไปทอด ไส้ที่เค้าใส่ไว้ข้างใน โห ...แตกโบ๊ะเลยค่ะ

แถมน้ำลาย เอ๊ย ...น้ำมันยังกระเด็น มาเปรอะเปื้อนเป็นที่ระคายเคืองผิวอันบอบบางอีก

อยากให้คุณป้าแนะนำวิธี ให้สักครั้งค่ะ

อย่าบอกนะคะ ว่าให้เลิกทาน

เพราะว่ามันแซ่บหลายเลยล่ะค่ะ :slime_smile2:

รักป้าฯ สามเวลาหลังอาหารค่ะ

ดอกฟ้าฯ
:slime_bigsmile:

สวัสดีหลานดอกฟ้าฯ

ไส้กรอกอีสานพัฒนา กับไส้อั่วเชียงใหม่ระดับท้องถิ่น ที่หลานว่ามานั้น ป้าก็เคยทอดอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะท่อนใหญ่ท่อนเล็ก มันก็ชอบแตกด้วยกันทั้งนั้น  :slime_doubt:

ที่มันแตกได้ก็เนื่องมาจากความร้อน ไปทำให้น้ำในใส้กรอกนั้นระเหย และดันใส้ให้โป่งออกมาเป้นลูกโป่ง วิธีทอดไม่ให้มันโป่งออกมาแตก ก็คือต้องทำให้มันแตกเสียเอง ด้วยการเอาส้อมจิ้มมันให้เป็นรู หรือจะให้เหล็กแหลมๆอะไรก็ได้ หรือจะเป้นไม้เสียบลูกชิ้นก็ได้ ไม้จิ้มฟันก็ใช้ได้ แต่ต้องเอาชนิดที่ยังไม่ได้จิ้มฟันมาก่อนนะจ๊ะ  :slime_dizzy:

ก่อนจะนำไส้กรอกลงกะทะ ก็จิ้มเสียพองาม ไม่ต้องมากมาย เอาให้รอบๆ อย่าไปจิ้มเสียจนมันแตกกระจายก่อนทอดล่ะจ๊ะ เมื่อจิ้มได้หนำใจแล้ว ก็ส่งมันลงกะทะไป  ระหว่างทอดนั้น มันก็จะคอยโป่งพองออกมาอีก ปูดด้านโน่น ปูดด้านนี้ เราก็ควรจะจิ้มสวนมันลงไปทันที ให้มันเป็นรูเสีย จะได้ไม่ระเบิดดังโพล๊ะ การจิ้มมันในกะทะนั้น สมควรใช้อะไรยาวๆ เช่นเหล็กเสียบบาบีคิว จะปลอดภัยกว่ามาก  :slime_whistle:

แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่ได้รับประกันว่ามันจะไม่แตก ของอย่างนี้บางทีมันขึ้นอยู่กับวาสนาและความอดทน ถ้าหลานดอกฟ้าฯทอดกินเอง ก็คงไม่กระไรนักหนา ถ้ามันจะแตกไปบ้าง แต่ถ้าต้องรับแขกบ้านแขกเมือง ป้าก็พอจะมีวิธีทำให้มันดูสวยงามอร่ามตา ไม่แตกระจาย  :slime_smile:

ก็ง่ายๆจ๊ะ เวลาทอด เอามือกำมันไว้แน่นๆ อย่ายอมให้มันโป่งพองออกมาเด็ดขาด พร่ำบอกมันว่า มันไม่ใช่ถุงลมของคนสูบบุหรี่ ดังนั้นจึงไม่ควรโป่งพอง ถ้าทำด้วยวิธีนี้ รับรองใส้กรอกจะทอดออกมาได้สวย :slime_smile2:

สุดท้าย ก็เป็นวิธีมาตรฐานทั่วไป นั่นคือ ใช้ผัวทอด อันนี้รับรองสะดวกกว่ากันเยอะเลย  :slime_v:

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 09-08-2008, 22:56
สวัสดีหลานดอกฟ้าฯ

ไส้กรอกอีสานพัฒนา กับไส้อั่วเชียงใหม่ระดับท้องถิ่น ที่หลานว่ามานั้น ป้าก็เคยทอดอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะท่อนใหญ่ท่อนเล็ก มันก็ชอบแตกด้วยกันทั้งนั้น  :slime_doubt:

ที่มันแตกได้ก็เนื่องมาจากความร้อน ไปทำให้น้ำในใส้กรอกนั้นระเหย และดันใส้ให้โป่งออกมาเป้นลูกโป่ง วิธีทอดไม่ให้มันโป่งออกมาแตก ก็คือต้องทำให้มันแตกเสียเอง ด้วยการเอาส้อมจิ้มมันให้เป็นรู หรือจะให้เหล็กแหลมๆอะไรก็ได้ หรือจะเป้นไม้เสียบลูกชิ้นก็ได้ ไม้จิ้มฟันก็ใช้ได้ แต่ต้องเอาชนิดที่ยังไม่ได้จิ้มฟันมาก่อนนะจ๊ะ  :slime_dizzy:

ก่อนจะนำไส้กรอกลงกะทะ ก็จิ้มเสียพองาม ไม่ต้องมากมาย เอาให้รอบๆ อย่าไปจิ้มเสียจนมันแตกกระจายก่อนทอดล่ะจ๊ะ เมื่อจิ้มได้หนำใจแล้ว ก็ส่งมันลงกะทะไป  ระหว่างทอดนั้น มันก็จะคอยโป่งพองออกมาอีก ปูดด้านโน่น ปูดด้านนี้ เราก็ควรจะจิ้มสวนมันลงไปทันที ให้มันเป็นรูเสีย จะได้ไม่ระเบิดดังโพล๊ะ การจิ้มมันในกะทะนั้น สมควรใช้อะไรยาวๆ เช่นเหล็กเสียบบาบีคิว จะปลอดภัยกว่ามาก  :slime_whistle:

แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่ได้รับประกันว่ามันจะไม่แตก ของอย่างนี้บางทีมันขึ้นอยู่กับวาสนาและความอดทน ถ้าหลานดอกฟ้าฯทอดกินเอง ก็คงไม่กระไรนักหนา ถ้ามันจะแตกไปบ้าง แต่ถ้าต้องรับแขกบ้านแขกเมือง ป้าก็พอจะมีวิธีทำให้มันดูสวยงามอร่ามตา ไม่แตกระจาย  :slime_smile:

ก็ง่ายๆจ๊ะ เวลาทอด เอามือกำมันไว้แน่นๆ อย่ายอมให้มันโป่งพองออกมาเด็ดขาด พร่ำบอกมันว่า มันไม่ใช่ถุงลมของคนสูบบุหรี่ ดังนั้นจึงไม่ควรโป่งพอง ถ้าทำด้วยวิธีนี้ รับรองใส้กรอกจะทอดออกมาได้สวย :slime_smile2:

สุดท้าย ก็เป็นวิธีมาตรฐานทั่วไป นั่นคือ ใช้ผัวทอด อันนี้รับรองสะดวกกว่ากันเยอะเลย  :slime_v:

ศิลาแลง





ขอบคุณ คุณป้าฯมากเลยค่ะ

ที่กรุณามาตอบ ทันใจวัยรุ่น อิ อิ


เอ่อ....ครือว่า พ่อฝาละมีไม่รักดี ดันไปมีกิ๊กกับนักร้องดั้งหักอ่ะสิคะ

แถมส่งเสียให้ไปเรียน เพื่อชุบตัวเหมือนขนมไทยที่เราเรียกว่าลูกชุบอ่ะค่ะ


ไหนๆ ก็ไหนๆแร๊ะ

งั้นรบกวนถามต่ออีกสักข้อของความข้องใจนะคะ

เพราะตอนนี้ มีไส้กรอกยี่ห้อใหม่ค่ะคุณป้าฯ

ไส้กรอก ยี่ห้อ"หมูตัวเดียวยืนจังก้าด่าชาวบ้าน"

ชอบมาโคดสะนาทุกๆเช้าวันอาทิตย์อ่ะค่ะ

เราสมควรซื้อมาทานป่ะคะ

ทานแล้วอาหารจะเป็นพิษป่ะคะ

เกิดอาการเหมือนคนแพ้ท้อง

หรือมีโอกาสจะเป็นมะเร็งในอารมณ์ได้ป่ะคะ


รักป้าฯกว่าป๋าหมักค่ะ


ดอกฟ้าฯ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: (ลุง)ถึก สไลเดอร์ ที่ 09-08-2008, 23:43
หมูตัวเดียวเลิกซื้อมากินได้เลย
ลูกหลานรายำมันบอกว่า ไส้กรอกที่พ่อทำไม่เอาไหน พ่อมันเลยบอกว่า
"ก็เพราะไส้กรอกของกรูนี่แหละ มรึงถึงได้ลืมตาขึ้นมาดูโลกใบนี้ได้"....เอิ้กกกกก

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: indexthai ที่ 10-08-2008, 06:58
อ่านไม่ไหว ..เยอะมาก


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 10-08-2008, 20:07

ขอบคุณ คุณป้าฯมากเลยค่ะ

ที่กรุณามาตอบ ทันใจวัยรุ่น อิ อิ

เอ่อ....ครือว่า พ่อฝาละมีไม่รักดี ดันไปมีกิ๊กกับนักร้องดั้งหักอ่ะสิคะ

แถมส่งเสียให้ไปเรียน เพื่อชุบตัวเหมือนขนมไทยที่เราเรียกว่าลูกชุบอ่ะค่ะ

ไหนๆ ก็ไหนๆแร๊ะ

งั้นรบกวนถามต่ออีกสักข้อของความข้องใจนะคะ

เพราะตอนนี้ มีไส้กรอกยี่ห้อใหม่ค่ะคุณป้าฯ

ไส้กรอก ยี่ห้อ"หมูตัวเดียวยืนจังก้าด่าชาวบ้าน"

ชอบมาโคดสะนาทุกๆเช้าวันอาทิตย์อ่ะค่ะ

เราสมควรซื้อมาทานป่ะคะ

ทานแล้วอาหารจะเป็นพิษป่ะคะ

เกิดอาการเหมือนคนแพ้ท้อง

หรือมีโอกาสจะเป็นมะเร็งในอารมณ์ได้ป่ะคะ

รักป้าฯกว่าป๋าหมักค่ะ

ดอกฟ้าฯ


หลานดอกฟ้าฯ

ใส้กรอกนี้ดั้งเดิมว่ากันว่าเป็นอาหารของเยอรมัน จริงเท็จประการใดป้าก็ไม่รู้ แต่นักประวัติศาสตร์เขาว่า เคยพบใส้กรอกในหลุมฝังศพของคนโบราณ ที่แรกป้าอ่านแล้วก็ต๊กกะใจ ว่าใส้กรอกอะไรกันมันถึงได้ยืนยงคงกะพันถึงปานนั้น ถูกฝังไว้นับพันปีก็ยังอยู่ แต่เมื่ออ่านต่อเขาบรรยายว่า ใส้กรอกนั้นแข็งเป็นฟอสซิลไปแล้ว แต่ยังดูออกว่ามันเป็นใส้กรอก  :slime_whistle:

ชื่อของใส้กรอก ในภาษาไทยนั้น ตรงไปตรงมาอย่างที่สุด นึกภาพใส้ท่อนยาวๆถูกกรอกไว้ด้วยอะไรสักอย่าง เห็นภาพชัดเจน พูดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้นึกขึ้นได้ ถึงสาวน้อยหน้าใสคนหนึ่ง เธอเคยปรารภให้ป้าได้ยินว่า เธออยากกินแกงจืดลูกกรอก ป้าได้ยินเข้าตกใจแทบสิ้นสติ ดูถีรึ หน้าตาก็ออกจะสะสวย วัยหรือก็ยังใส เหตุไรจึงบริโภคได้น่าเกลียดถึงปานนั้น หมูเห็ดเป็ดไก่มีออกมากมาย กลับจะไปเอาลูกกรอกรักยมมาแกงจืดกิน แต่เมื่อได้ไต่ถาม ก็คลายความตกใจไปได้เปลาะหนึ่ง เพราะที่จริงแล้วแม่หนูคนนั้นอยากกินแกงจืดลูกรอก แต่ก็ต้องเศร้าใจ ที่ชื่ออาหารไทยๆของเราวิบัติไปได้ถึงขนาดนั้น  :slime_doubt:

อ้าว นี่ลืมตอบคำถามไปแล้ว  :slime_smile2:

ไส้กรอก ยี่ห้อ"หมูตัวเดียวยืนจังก้าด่าชาวบ้าน" น่าจะเป็นยี่ห้อใหม่ ป้ายังไม่เคยได้ชิมตามซุปเปอร์มาร์เกต พูดถึงซุปเปอร์มาร์เกตนี่ก็เหมือนกัน ป้าชอบไปเดินแถวๆที่เขาขายใส้กรอกนี่แหละ เพราะแม่สาวคนขายเธอมักจะเอื้อเฟื้อหั่นใส้กรอกเป็นชิ้นเล็กๆ เอาไว้ให้เราชิม ซึ่งป้าก็ชิมให้โดยไม่เรื่องมาก มีเท่าไหร่ชิมหมด จนถูกค้อนเอาบ่อยๆ พอไปที่เดิมซ้ำเข้าหลายๆครั้ง เขาก็ไม่ให้ชิมเสียแล้ว แย่จัง  :slime_hmm:

อ้าว พักนี้ชักเลอะเทอะ ไปไหนมา สามวาสองศอกอยู่เรื่อย ตั้งแต่ได้ข่าวว่าเขาสั่งจำคุกสองผัวเมีย ก็ดีใจแทบสิ้นสติ ไม่เคยนึกเลยว่าจะดีใจทีใครจะต้องไปติดคุกได้มากถึงขนาดนี้มาก่อน พึ่งรู้เหมือนกันว่า ข่าวคนต้องไปติดคุกนั้น บางครั้งก็ถือเป็นข่าวดีได้  :slime_smile2:

เออ ใช่ๆๆ ใส้กรอก ต้องตอบเรื่องใส้กรอก

ใส้กรอกที่หลานดอกฟ้าถามมา อย่าไปกินมันเลย แค่ยี่ห้อมันก็ฟังพิกล อาไร จะทำใส้กรอกขายทั้งที มิรู้จักตั้งชื่อให้เป็นมงคล ดูท่าทางกินแล้วจะปาก***เอาการนะนั่น ป้าสงสัยว่าใส้กรอกยี่ห้อนี้ คงจะผลิตแถวๆหมู่บ้านโอ้โหแหลกราฬ หรืออะไรแถบๆนั้น เพราะได้ข่าวว่าคนแถวนั้นคนนึง ชอบยืนจังก้าด่าชาวบ้านอยูทุกวัน ด่าทั้งนักข่าว ด่าประชาชน ด่ามันไปหมด ถ้าอยู่นอกบ้าน แต่มีคนกระซิบว่า เวลาอยู่บ้าน หงอยรับประทาน เพราะในบ้านนั้น เมียมีอำนาจเหนือกว่า  :slime_smile2:

สรุป อย่ากินของแปลก ไม่เชื่อไปถามแม้วดู กินแล้วมันแสลง

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: PK ที่ 10-08-2008, 20:45
เห็นด้วยกับป้าศิลาแลงครับ พวกเราอย่าริไปกิน ไส้กรอก ยี่ห้อ"หมูตัวเดียวยืนจังก้าด่าชาวบ้าน" เป็นอันขาด
จะมีก็แต่ เมียกับลูกสาว 2 คน ของเจ้าของ เท่านั้น ที่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนกิน 
ตอนกิน ก็อธิฐานไปด้วยว่า เกิดชาติหน้าฉันใด ขออย่าให้ได้มาเจอกันอีก
ขออย่าต้องมาร่วมวงศ์ไพบูลย์กับไอ้เจ้าของ ไส้กรอก ยี่ห้อ"หมูตัวเดียวยืนจังก้าด่าชาวบ้าน" อีกทุกชาติ ๆ ไป
 :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: noohin_2550 ที่ 10-08-2008, 21:09
เรียนป้าศิลาแรง

     คือหนูเพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ ตื่นเต้นมากเลยที่ทู้นี้มีป้ามาตอบปัญหาให้คลายเครียด
     งั้นหนูขอถามป้าหน่อยซิคะ ว่า "ลูกของหนูเบนโล นี่ใช่ลูกของ คนหน้าเหลี่ยมหรือเปล่าคะ"
     เพราะเคยเห็นรูปของ ลูกหนูเบนโล เวลายิ้มแล้วปากอย่างกับพิมพ์เดียวกับหน้าเหลี่ยม มาเลยอ่ะป้า
     แล้วถ้าเกิดใช่ แล้วสามีคนปัจจุบันเขา ของน้องเบนโลนี่ ทำไมถึงยอมเป็นคนล้างส้วมล่ะป้า

   ปล. ป้าสุดสวยจ๋าอย่าลืมมาตอบนะคะ ข้องใจมานานมากเลยเรื่องนี้
         คือหนูเป็นคนประเภทที่เรื่อง ของชาวบ้านเขาเราต้องเจือกอ่ะป้า
         ขอขอบคุณคุณป้ามาณ ทีนี้ด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 12-08-2008, 09:49
ป้ากลับมาอีกแระ  :slime_v:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 12-08-2008, 09:55
เรียนป้าศิลาแรง

     คือหนูเพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ ตื่นเต้นมากเลยที่ทู้นี้มีป้ามาตอบปัญหาให้คลายเครียด
     งั้นหนูขอถามป้าหน่อยซิคะ ว่า "ลูกของหนูเบนโล นี่ใช่ลูกของ คนหน้าเหลี่ยมหรือเปล่าคะ"
     เพราะเคยเห็นรูปของ ลูกหนูเบนโล เวลายิ้มแล้วปากอย่างกับพิมพ์เดียวกับหน้าเหลี่ยม มาเลยอ่ะป้า
     แล้วถ้าเกิดใช่ แล้วสามีคนปัจจุบันเขา ของน้องเบนโลนี่ ทำไมถึงยอมเป็นคนล้างส้วมล่ะป้า

   ปล. ป้าสุดสวยจ๋าอย่าลืมมาตอบนะคะ ข้องใจมานานมากเลยเรื่องนี้
         คือหนูเป็นคนประเภทที่เรื่อง ของชาวบ้านเขาเราต้องเจือกอ่ะป้า
         ขอขอบคุณคุณป้ามาณ ทีนี้ด้วยนะคะ

สวัสดีหลานหนูหิ่น

วันนี้หลานคงว่าไม่ต้องเป็นผู้จัดการบ้าน เลยแอบมาใช้คอมของเจ้านายติดต่อถึงป้า  :slime_smile2:  ป้ารู้สึกดีใจที่ได้คุยกับคนดัง ฝากความคิดถึงไปถึงหนูมิลค์ด้วย  :slime_v:

หนูถามถึงเรื่องลูกของใคร ป้าก็แนะนำให้ไปอ่านคำตอบคำถามของหลานหนูพิมพ์ ไล่ขึ้นไปข้างบนไม่กี่อันนี่แหละ ว่าด้วยเรื่องจะตอบหมอว่าลูกใคร  :slime_smile2:

เมื่อผู้หญิงคลอดลูกออกมานั้น หากไม่ถูกสับตัวไปอย่างนางยอพระกลิ่นกินแมว ก็ให้แน่ใจได้ว่าลูกนั้นเป็นลูกของผู้หญิงคนนั้นจริงๆ เพราะคลอดออกมากะมือ หรือคลอดออกมากะอะไร  :slime_doubt: ไปคิดเองเอง  :slime_smile2:

ความมั่นใจในสายเลือดของลูกจากฝ่ายหญิงนั้น มีมากกว่าฝ่ายชาย  ดังนั้นในบางสังคม เขาถึงกักขังผู้หญิง กักขังเมียไว้ในสายตาตลอดเวลา ที่ต้องทำดังนี้เพราะผู้ชายจะได้มั่นใจแน่นอนว่า ลูกที่ออกจากท้องของเมียนั้นเป็นลูกของเขาร้อยเปอร์เซนต์ ไม่มีใครมาช่วยต่อแขนต่อขาให้ ในขณะที่เขาไปหาเมียน้อย หรือออกไปธุระปะปังที่ไหน บางทีบางครั้งเกิดผิดพลาดทางเทคนิค เมียมีโอกาศหรือมีชายอื่นมาใกล้ชิด ในช่วงเวลาที่น่าเชื่อได้ว่าจะเริ่มตั้งครรภ์ ก็ทำให้เกิดความไม่แน่ใจว่าลูกที่ออกมานั้นเป็นลูกตน ถึงกับต้องหาทางพิสูจน์ เช่นกรีดเลือดพิสูจน์กัน

เหตุที่ผู้ชายในบางแห่งบางเวลา มีนิสัยแปลกประหลาดเช่นนั้น ก็เนื่องมาจากความต้องการสืบเผ่าพันธ์ของตนเอง ความเชื่อในเรื่องเชื้อชาติ ความเห็นแก่ตัว และอีกสารพัดเหตุผล รวมทั้งไม่ชอบมีเขางอกออกมาบนหัว เหมือนลิ่วล้อเผด็จการหน้าเหลี่ยมในบางประเทศ จึงต้องรอบคอบเกี่ยวกับทีมาของลูกในท้องเมีย  :slime_whistle:

อ้าว เอาอีกแล้ว นี่หลานถามอะไรมานั่น พักนี้ทำไมเรื่อยเปื่อยเป็นซี่โครงไก่ต้มฟักเรื่อยเลยนะ  :slime_bigsmile:

เรื่องลูกของเบนโลนั้น ว่ากันว่าเริ่มแรกก็ไม่มีใครแน่ใจว่าเป็นของใคร มันลึกลับเสียยิ่งกว่านิยายเชอร์ลอกโฮม หรือรหัสลับดาวินชี พูดกันไปถึงว่าเบนโลเองก็ยังงง ว่าลูกใครหนอ ทำไมถึงมาได้ และได้เหวี่ยงแหหาพ่อของลูกอย่างขมักเขม้น จนในที่สุดก็ได้มาคนหนึ่ง ซึ่งในตอนแรกก็ยังไม่รูว่า ใช่หรือไม่ แต่ภาษิตเขาว่า กำขี้ดีกว่ากำตด คราแรกกะกำโทรศัพท์ แต่โทรศัพท์มันชิ่ง  กำซิมการ์ดก็ยังดีวะ  :slime_smile2:

แต่เมื่อลูกคลอดออกมาแล้ว สมัยใหม่นี้ก็เป็นเรื่องง่าย อีกทั้งถึงจะมีผัวโง่ ก็ไม่ได้แปลว่าพ่อแม่ผัวจะต้องโง่ไปด้วย การกรีดเลือดตรวจสอบสมัยใหม่จึงบังเกิดขึ้น แล้วก็ โป๊ะเช๊ะ มันถูกเป้าได้อย่างไรหว่า คนยิงยังงง เพราะตอนยิงนั้นหลับตา เสือกเข้ากลางตาวัวพอดี  :slime_smile2:

ก็เป็นอันว่า เรื่องเหลี่ยมๆนั้นตกไป เพราะได้มีการกรีดเลือดกันเป็นการลับแล้ว พบว่า ?????????

ถ้าใช่ลูกมรึง กรูก็กำความลับและลูกของมรึงไว้   ถ้าใช่ลูกของลูกกรู กรูก็ได้หลานกรู

แม่ผัวที่ร้ายกาจเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ไม่ได้มีเฉพาะแม่ผัวของ พจมาน.....สว่างวงศ์ เท่านั้น

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: noohin_2550 ที่ 14-08-2008, 11:05
 :slime_bigsmile: :slime_p: :slime_bigsmile:
 สวัสดีค่ะคุณป้าขา
   
หนูเป็นถึงผู้จัดการบ้านนะคะคุณป้า แล้วเป็นคนโปรดของเจ้านาย(หนูมิลล์)
หนูเลยไอ้อภิสิทธิ์ (น่าจะเป็นนายกคนต่อไปป้าว่าไหม) เหนือคนอื่น ยิ่งบอกคุณ
หนูมิมล์ว่าคุณป้าส่งความคิดถึงมาให้ด้วย แกเลยหนับหนุนให้หนู โทรจิตถึงคุณป้าขาได้เลยค่ะ
หนูมาขอบคุณคุณป้าอ่ะค่ะ ที่ตอบปัญหาของหนูให้หายข้องใจ
หนูเพิ่งรู้นะคะ ว่าเป็นถึงคุณหนูเบนโลสวยก็สวย ต้องใช้วิชามารเหวี่ยงแหหา คุณบุญเลิศ(น่าสงสารคุณบุญเลิศนะป้าเป็นควายอยู่ดีๆต้องเปลี่ยนมาเป็นแพะ)
หนูต้องขอบคุณที่คุณป้าออกมาเตือนเรื่องไส้กรอกหมูตัวเดียวสำรากไปทั่ว วันนี้หนูเปลี่ยนมาทานไส้กรอกนายใบ้ทะลวงปากหมูสำรากวันอาทิตย์
หนูเห็นใจ น้องเบนโลจริงๆ เลยที่มีแม่ผัวสาระพัดพิษ ช่างสมกับน้องเบนโลที่สาระแนจังจริงๆ
หนูต้องขอรบกวนเวลาคุณป้าเท่านี้ก่อนนะคะคุณป้าขา วันหน้าหนูจะมารบกวนคุณป้าขาใหม่ วันนี้หนูต้องไปทำภาระกิจ ไล่หมาหน้าเหลี่ยม ไล่หมูจ้องแต่จะ
เสพเมถุน ให้มันพากันเข้าไปเสพกันในบางขวางก่อนนะคะคุณป้าขา

                                                         กราบลาคุณป้าอย่างงามตรงหน้าตักค่ะ

                                                                   หนูหิ่น รักคุณป้าขา

                                                 :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship:

   


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 15-09-2008, 00:00
สวัสดีค่ะ....คุณป้าที่รักและเคารพ

กว่าจะควานหากระทู้ของคุณป้าเจอ ต้องงมหาอยู่หลายวันเลย

ทำไมคุณริดกุนไม่ปักหมุดไว้หน้าแรก ไม่เข้าใจ


....เอ่อ ขอเริ่มเรื่องความข้องใจเลยนะคะ

พักนี้ทำไมพยัญชนะ...ที่ขึ้นด้วยอักษร ส...เสือ ถึงมาแรง

ดวงเมืองตกกลียุค รึป่าวคะ

ตรงไม่เกี่ยวกับ ส...เสือดีๆ ที่เป็นประชาชนคนธรรมดานะคะ


คนแถวบ้านดอกฟ้าฯ ที่ชื่อคล้ายๆคนเพือกนี้  หนีไปเปลี่ยนชื่อกันจนอำเภอที่ทำการ ต้องทำโอที กันเลยล่ะคะ


เอาเฉพาะแค่แวดวงการเมือง  สมัคร สมชาย สุรพงษ์  สมพงษ์ สุเทพ สุทิน

และยังมีอีกมากมายสาธยายไม่หมด

ไม่มีไรค่ะ... แค่คิดถึงป้า และอยากถาม แก้กลุ้ม....

 เท่านั้นเองค่ะ :slime_doubt:


ดอกฟ้าฯ 
:slime_inlove:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 02-10-2008, 19:52
รอคำตอบป้ามาตั้งแสนนาน....ไม่มีคำตอบ

สงสัยคำถามของดอกฟ้าฯ คงยุ่งยากใจ ...

ไม่เป็นไรค่ะป้าศิลาแรง

วันนี้เราได้นายก..คนใหม่สมใจแล้ว...

ชื่อสมชาย...สายใจ  เขยผู้น้องที่ใกล้ชิดสนิ๊ด.... สนิทนายใหญ่

รักป้าเสมอ :slime_inlove:


ดอกฟ้าฯ
:slime_v:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 02-10-2008, 20:16
สวัสดีค่ะ....คุณป้าที่รักและเคารพ

กว่าจะควานหากระทู้ของคุณป้าเจอ ต้องงมหาอยู่หลายวันเลย

ทำไมคุณริดกุนไม่ปักหมุดไว้หน้าแรก ไม่เข้าใจ


....เอ่อ ขอเริ่มเรื่องความข้องใจเลยนะคะ

พักนี้ทำไมพยัญชนะ...ที่ขึ้นด้วยอักษร ส...เสือ ถึงมาแรง

ดวงเมืองตกกลียุค รึป่าวคะ

ตรงไม่เกี่ยวกับ ส...เสือดีๆ ที่เป็นประชาชนคนธรรมดานะคะ


คนแถวบ้านดอกฟ้าฯ ที่ชื่อคล้ายๆคนเพือกนี้  หนีไปเปลี่ยนชื่อกันจนอำเภอที่ทำการ ต้องทำโอที กันเลยล่ะคะ


เอาเฉพาะแค่แวดวงการเมือง  สมัคร สมชาย สุรพงษ์  สมพงษ์ สุเทพ สุทิน

และยังมีอีกมากมายสาธยายไม่หมด

ไม่มีไรค่ะ... แค่คิดถึงป้า และอยากถาม แก้กลุ้ม....

 เท่านั้นเองค่ะ :slime_doubt:


ดอกฟ้าฯ 
:slime_inlove:

หลานดอกฟ้า

ป้าเองก็หากระทู้ของตัวเองไม่เจอ พักนี้กระทู้มันวิ่งพล่าน โดดขึ้นโดดลง อย่างกับมันไปร่วมเต้นบนเวทีพันธมิตร หลานถามมาเมื่อไหร่ ป้าก็มองไม่เห็น ขอโทษด้วยจ๊ะ  :slime_smile:

มาเห็นคำถามเข้า ส.เสือดาวคะนอง ก็มาแรงเสียจนเข้าป้ายไปแล้ว พูดถึง ส.เสือดาวคะนอง หลานยังท่อง กอไก่ ถึง ฮอนกฮุก ได้อยู่หรือเปล่า เพราะป้าเคยถามเด็กแถวๆบ้านว่า รูจัก ส.เสื้อดาวคะนอหรือไม่ เด็กก็มองหน้าป้าแปลกๆ แล้วถามกลับมาว่า แถวดาวคะนองมีเสือด้วยหรือ ป้าถึงกับมึน  :slime_whistle:

ในที่สุดเราก็ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ คนที่มีชื่อโหลที่สุดในประเทศไทย เพราะเขาว่ากันว่า ชื่อสมชายนี้ เป็นชื่อยอดฮิตติดเรท มีชายไทยใช้ชื่อนี้มากที่สุด หากหลานไปตะโกนเรียกชื่อสมชาย ที่กลางชุมนุมชนที่มีคนเยอะๆ จะมีคนหันมาไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยคน ในนั้นจะมีชื่อสมชายประมาณแปดคน และที่เหลือหันมาเพราะสงสัยว่าคนตะโกนนั้นสติดีหรือไม่  :slime_bigsmile:

เมื่อเราได้นายกรัฐมนตรีที่มีชื่อโหล ผลต่อมาก็เลยปรากฏว่าได้คณะรัฐมนตรีโหล คือยาดองเก่าในโหลเดิม เน่าเหมือนเดิม คาดได้ว่าจะชั่วช้าเหมือนเดิม เป็นการตอกย้ำว่าระบบการเมืองของเรานั้นพิการแล้ว จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันใหม่ จะเปลี่ยนแปลงอย่างไร จะไฉไลขึ้น หรือขี้เหร่กว่าเดิม เขาว่าไม่นานนี้ก็น่าจะเห็นรูปทรง

หลานบ่นมาเรื่องดวงเมืองตกกลียุค ป้าก็ได้ยินหมอดูเขาเปรยๆว่า ดวงเมืองของเรามันเข้าวัยพระราหู ก็คงมีเรื่องวุ่นวายไปอีกนานหลายปี ถึงจะบูชาพระราหูอย่างไรก็คงไม่พ้นเคราะห์ จะเอาของดำแปดอย่างไปบูชา พระราหูก็ไม่ชอบใจ เสียงพรายกระซิบบอกว่าพระราหูมองไปบนโต๊ะบูชา ก็เห็นแต่ ไก่ดำ กาแฟดำ ถั่วดำ เฉาก๊วย ข้าวเหนียวดำ ขนมเปียกดำ เอ๊ย ขนมเปียกปูน แล้วก็ ไข่เยี่ยวม้า จะมีดีอยู่อย่าก็อีตรงเหล้า นอกนั้นอะไรๆก็ดำไปหมด พระราหูท่านว่า อยากได้แบบ ขาวๆเอ๊าะๆบ้าง ก็ไม่มีใครนำไปถวาย

ความจริงนะหลานดอกฟ้า บ้านเมืองเราวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะของดำเพียงอย่างเดียว นั่นคือ ใจ   บ้านเมืองเราวุ่นวายเพราะ คนใจดำ บ้านเมืองไหนถ้ามีคนใจดำมากๆอย่างบ้านเมืองของเรา ก็ต้องวุ่นวายกันแบบนี้แหละจ๊ะ ถึงตัวใหญ่มันจะพาเมียใจดำของมันบินหนีไปแล้ว แต่ไอ้ลิ่วล้อใจดำของมันยังยั้วเยี้ยอยู่เต็มสภา ปั่นป่วนประเทศไม่รู้จักหยุดจักหย่อน

น่าจะช่วยกันควักใจดำๆของไอ้คนชั่ว ไปบูชาพระราหู บางทีทำอย่างนั้น พระราหูท่านอาจจะเมตตาให้พวกเราสงบสุขกันได้บ้างกระมัง  :slime_v:

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 02-10-2008, 20:20

กว่าป้าศิลาแลงจะมา คนชื่อโหลก็วิ่งเข้าป้ายไปเรียบร้อยแล้ว ติดตามด้วยซาลาเปาไส้หมูแดง

 :slime_v:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 02-10-2008, 20:39
เดี๋ยวพรุ่งนี้ดอกฟ้าฯ จะใส่บาตรด้วยซาละเปาใส้ถั่วดำ

เพราะ...ไหนๆก็ไหนๆแล้ว

ว่าตะว่า....มีคำถามป้าอีกแล้วล่ะค่ะ


ด๊อก โอฬาร แกบอกว่า เรามีเงินทุนสำรองตั้งแสนล้านดอลล์

แถมจะตั้งกองทุนพยุงหุ้น อีก สองพันล้านบาท ในเดือนต.ค

ป้าฯ คิดเหมือนดอกฟ้าฯ บ้างป่าวคะ

การกระทำแบบนั้น.....เหมือนเอาไม้จิ้มฟัน มายัน กับเรือรบ ตายกับตายลูกเดียว


เศร้าค่ะ
:slime_hmm:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 02-10-2008, 21:35
เดี๋ยวพรุ่งนี้ดอกฟ้าฯ จะใส่บาตรด้วยซาละเปาใส้ถั่วดำ

เพราะ...ไหนๆก็ไหนๆแล้ว

ว่าตะว่า....มีคำถามป้าอีกแล้วล่ะค่ะ


ด๊อก โอฬาร แกบอกว่า เรามีเงินทุนสำรองตั้งแสนล้านดอลล์

แถมจะตั้งกองทุนพยุงหุ้น อีก สองพันล้านบาท ในเดือนต.ค

ป้าฯ คิดเหมือนดอกฟ้าฯ บ้างป่าวคะ

การกระทำแบบนั้น.....เหมือนเอาไม้จิ้มฟัน มายัน กับเรือรบ ตายกับตายลูกเดียว


เศร้าค่ะ
:slime_hmm:

หลานดอกฟ้า

ได้ยินชื่อด็อกโอราฬแล้วป้านึกถึงกระเบื้องอย่างหนา ที่ในโฆษณาลิงมันขึ้นไปเหยียบแล้วไม่พัง  :slime_smile2:

แต่พอนึกไปอีกทีก็นึกถึงชื่อหมู่บ้านของอดีตนายกที่ใกล้จะไปติดคุก สองอย่างที่นึกออก มันไม่น่าชื่นใจเลยสักกะนิด  :slime_hmm:

วิธีแก้ไขปัญหาของตลาดหุ้น ด้วยการนำเงินประชาชนไปพยุงบ่อนพนันของคนรวย มันก็คือการปล้นชาติอย่างหนึ่ง ตลาดหุ้นนี้ไม่ได้สร้างความเจริญให้กับประเทศชาติ มีแต่สร้างความฉิบหา...

นักธุรกิจ นักการเงินการธนาคาร ส่วนใหญ่ในประเทศเรา ร่ำเรียนมาจากหลักสูตรหลอกกระบือของฝรั่ง มันล้างสมองและอบรมให้โง่ดักดานอยู่ในกะลาทุนนิยมมานานนักหนาแล้ว

จอร์จ เมนาร์ด เคน อาจารย์ใหญ่ของพวกนี้ เปรยๆไว้ก่อนจะกลับไปนอนบ้าน ไปแก้ผ้าไม่ได้แก้ปัญหาว่า พวกเราทำผิด  :slime_doubt:

วันนี้นายทุนนิยมใหญ่ของโลก คว่ำไม่เป็นท่า เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้

และมันก็เตรียมปล้นประเทศยากจน เอาเงินไปแก้ไขปัญหาของมัน  :slime_whistle:

น่าให้โอฬารมาสัมภาษณ์ชูวิทย์ จะได้ไม่มีเวลาไปคิดปล้นประชาชน  :slime_bigsmile:

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 03-10-2008, 00:46
หลานดอกฟ้า

ได้ยินชื่อด็อกโอราฬแล้วป้านึกถึงกระเบื้องอย่างหนา ที่ในโฆษณาลิงมันขึ้นไปเหยียบแล้วไม่พัง  :slime_smile2:

แต่พอนึกไปอีกทีก็นึกถึงชื่อหมู่บ้านของอดีตนายกที่ใกล้จะไปติดคุก สองอย่างที่นึกออก มันไม่น่าชื่นใจเลยสักกะนิด  :slime_hmm:

วิธีแก้ไขปัญหาของตลาดหุ้น ด้วยการนำเงินประชาชนไปพยุงบ่อนพนันของคนรวย มันก็คือการปล้นชาติอย่างหนึ่ง ตลาดหุ้นนี้ไม่ได้สร้างความเจริญให้กับประเทศชาติ มีแต่สร้างความฉิบหา...

นักธุรกิจ นักการเงินการธนาคาร ส่วนใหญ่ในประเทศเรา ร่ำเรียนมาจากหลักสูตรหลอกกระบือของฝรั่ง มันล้างสมองและอบรมให้โง่ดักดานอยู่ในกะลาทุนนิยมมานานนักหนาแล้ว

จอร์จ เมนาร์ด เคน อาจารย์ใหญ่ของพวกนี้ เปรยๆไว้ก่อนจะกลับไปนอนบ้าน ไปแก้ผ้าไม่ได้แก้ปัญหาว่า พวกเราทำผิด  :slime_doubt:

วันนี้นายทุนนิยมใหญ่ของโลก คว่ำไม่เป็นท่า เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้

และมันก็เตรียมปล้นประเทศยากจน เอาเงินไปแก้ไขปัญหาของมัน  :slime_whistle:

น่าให้โอฬารมาสัมภาษณ์ชูวิทย์ จะได้ไม่มีเวลาไปคิดปล้นประชาชน  :slime_bigsmile:

ศิลาแลง


กระเบื้องโอฬาร...ดอกฟ้าฯจำได้แม่นเลยค่ะตอนนั้นฮอตฮิตมากเลย

แต่น้องลิงที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ เค้าไม่ได้เป็นสาวกแม้วเหมือนตาด๊อกโอฬาร ที่ต้องลาออกจาก ผู้บริหารธนาคารนึง

เพราะดันไปฟันธงหัก เรื่องลดค่าเงินบาทว่ายังไงก็ไม่ล๊ดไม่ลด  จะรู้เห็นเป็นใจรึเป่า คนหยั่งเราไม่อาจรู้


วันนี้มีมาตรการใหม่ๆมาให้เราเล่นอีกแล้วค่ะ

ขยาย กองทุน RMF กับ LTF เพื่อมาพยุงกองทุนหุ้น

ทั้งๆที่ การให้ความรู้เรื่องการลงทุนเหล่านี้ ประชาชนยังตามไม่ทัน


ลงทุน LTF สามปีถอนได้ RMF ห้าปี ก็ถอนได้ การประชาสัมพันธ์ที่คลุมเครือ เพื่อแก้ปัญหาแบบสุกเอาเผาก็ต้องกิน

แบบนักการเมืองไทย เรือหายไปไหน ตรูไม่ว่า ขอให้รอดตัวเข้าไว้ก่อน


สุดท้ายนี้....ดอกฟ้าฯยังมีคำถามต่อค่ะป้าฯ



ถ้าเราทนไม่ได้กับนักการเมืองเพือกนี้


เราควรฆ่าตัวตายวิธีไหนคะ....ที่คุ้มค่าแก่การสละชีวิต


รักป้าฯ เสมอค่ะ :slime_inlove:


ดอกฟ้าฯ


ป.ล. ถ้าทำดอกฟ้าฯให้ป้าฯ ปวดเศียรเวียนหัว ขออภัยมา ณ. ที่นี้ด้วยค่ะ
  :slime_worship:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 03-10-2008, 10:22

กระเบื้องโอฬาร...ดอกฟ้าฯจำได้แม่นเลยค่ะตอนนั้นฮอตฮิตมากเลย

แต่น้องลิงที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ เค้าไม่ได้เป็นสาวกแม้วเหมือนตาด๊อกโอฬาร ที่ต้องลาออกจาก ผู้บริหารธนาคารนึง

เพราะดันไปฟันธงหัก เรื่องลดค่าเงินบาทว่ายังไงก็ไม่ล๊ดไม่ลด  จะรู้เห็นเป็นใจรึเป่า คนหยั่งเราไม่อาจรู้


วันนี้มีมาตรการใหม่ๆมาให้เราเล่นอีกแล้วค่ะ

ขยาย กองทุน RMF กับ LTF เพื่อมาพยุงกองทุนหุ้น

ทั้งๆที่ การให้ความรู้เรื่องการลงทุนเหล่านี้ ประชาชนยังตามไม่ทัน


ลงทุน LTF สามปีถอนได้ RMF ห้าปี ก็ถอนได้ การประชาสัมพันธ์ที่คลุมเครือ เพื่อแก้ปัญหาแบบสุกเอาเผาก็ต้องกิน

แบบนักการเมืองไทย เรือหายไปไหน ตรูไม่ว่า ขอให้รอดตัวเข้าไว้ก่อน


สุดท้ายนี้....ดอกฟ้าฯยังมีคำถามต่อค่ะป้าฯ



ถ้าเราทนไม่ได้กับนักการเมืองเพือกนี้


เราควรฆ่าตัวตายวิธีไหนคะ....ที่คุ้มค่าแก่การสละชีวิต


รักป้าฯ เสมอค่ะ :slime_inlove:


ดอกฟ้าฯ


ป.ล. ถ้าทำดอกฟ้าฯให้ป้าฯ ปวดเศียรเวียนหัว ขออภัยมา ณ. ที่นี้ด้วยค่ะ
  :slime_worship:

หลานดอกฟ้า

ข้างๆบ้านป้านั้น มียายขายขนมครกอยู่คนหนึ่ง วันหนึ่งๆแกก็ก้มหน้าก้มตาแคะขนมครกขาย บางทีก็หาสินค้าอื่นๆเช่นขนมไทยต่างๆมานั่งขาย หลังขดหลังแข็ง ทั้งๆที่อายุก็มากโขแล้ว ลูกเต้าหรือก็มีหลายคน  แต่ลูกทั้งหมดพึ่งพาตนเองไม่ได้ เลี้ยงแม่ก็ไม่ได้ ต้องวนเวียนมารีดไถเงินจากยายแกเป็นประจำ เห็นแล้วก็น่าอนาถ หลานดอกฟ้าคิดว่า ลูกหลานของยายคนนั้นสมควรจะเรียกว่าอะไรดี  :slime_doubt:

การจะช่วยเหลือคนใดคนหนึ่งให้ยั่งยืนนั้น ต้องช่วยเพื่อให้เขาช่วยเหลือพึ่งพาตนเองได้ เช่นแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง สอนให้คนพึ่งพาตนเองได้ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เมื่อคนส่วนใหญ่พึ่งพาตนเองได้ ประเทศก็จะเจริญมั่งคั่ง โดยไม่ต้องไปกังวลเรื่องธุรกิจทุนนิยมอื่นใด  :slime_worship:

คนที่พึ่งพาตนเองไม่ได้ คอยยืมจมูกของคนอื่นหายใจ รีดไถเงินบิดามารดามาล้างผลาญ เช่นลูกของยายขายขนมครก สมควรเรียกว่า ลูกทรพี หรือคนทรพี  :slime_dizzy:

ธนาคาร ตลาดหุ้น ธุรกิจทุนนิยม ที่ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ต้องมารีดไถเงินของประชาชนไปพยุง ไปอุ้ม ไปล้างผลาญ มันคือกิจการทรพี ลูกทรพีไม่มีเสียดีกว่า กิจการทรพีก็ไม่มีเสียก็ดีกว่าเช่นกัน  :slime_whistle:

ถ้าทุนนิยมมันดีจริง ต้องเอาเงินภาษีประชาชนไปอุ้มมันทำไม  :slime_doubt:

นักธุรกิจทรพี ในประเทศเรามีเยอะเกินไป นั่งอวดดีชี้ทางโน้นทางนี้ พูดถึงแต่ทางได้ ไม่พูดทางเสีย พอหมดปัญญาเข้า ก็รีดไถเงินประชาชน ไม่ล้างผลาญ เป็นเช่นนี้เรื่อยมาทุกยุคทุกสมัย หากไม่มีไอ้พวกนี้ ประเทศเราเป็นมหาอำนาจไปนานแล้ว  :slime_hmm:

คำถามที่ว่า หากเราทนไม่ได้กับนักการเมืองพวกนี้ เราควรฆ่าตัวตายวิธีไหนคะ....ที่คุ้มค่าแก่การสละชีวิต ต้องขอตอบว่า ชีวิตประชาชนที่มีหัวคิด เพียงชีวิตเดียวก็มีค่ามากกว่านักการเมืองในพรรคการเมืองนอมินีทั้งพรรค ขี้ไคลของเรายังมีค่ามากกว่ามันสมองของพวกมัน ดังนั้นจึงไม่คุ้มค่าที่เราจะสละชีวิตไม่ว่ากรณีใดๆ

แต่ ชีวิตของคนเรานั้น บางทีก็อาจจะมีค่าไม่เท่ากัน หากเราทนไม่ได้กับนักการเมืองชั่วพวกนี้ เราควรหาชีวิตที่มันไร้ค่าไปสละแทนเรา  :slime_smile2:

หลานดอกฟ้ารู้ไหมว่า รากหญ้ากับวัชพืช มันแตกต่างกันตรงไหน

วัชพืช นั้นคือ พืชที่เรายังหาประโยชน์ของมันไม่พบ  :slime_doubt:

แต่ รากหญ้า นั้นคือ ส่วนของวัชพืช ที่เราค้นพบแล้วว่าหาประโยชน์จากมันไม่ได้  :slime_smile:


มีคนจำพวกหนึ่ง ที่มีสมองเท่าเมล็ดถั่วเขียว หาได้แถวๆใต้ดิน ตรงรากของหญ้านั่นแหละ จ้างให้ทำอะไรก็ทำ หลานควรใช้คนพวกนี้ไปสละชีวิตแทน ป้าว่าจะดีกว่านะจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: BrettAnderson ที่ 03-10-2008, 10:41
ป้าศิลาแรงครับ คือซ้อเจ้ดจริงๆหรือนี่

คือผมอยากจีบนางเอกแอ๊บแบ๊วของป้ามากเลย (เจนนี่ เทียนฯ) เพราะหน้าเธอเหมือนแฟนเก่าผมมาก

ของแบบนี้มันฝังใจครับ ผมแทบคลั่งเวลาที่เห็นนางเอกคนนี้ขึ้นจอ เพราะนึกถึงแฟนเก่าผมมาก

ถ้าป้ามีวิธีใดๆที่จะจีบนางเอกของป้าคนนี้ได้ ช่วยบอกวิธีมาทางหลังไมค์ด้วยนะขอรับ

จริงจังนะครับเนี่ย  :slime_evil: :slime_evil: :slime_evil:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: วาโย ที่ 03-10-2008, 12:50
 :slime_smile:เข้ามาสมัครเป็นแฟนประจำครับคุณป้าศิลาแรง
ขอถามคำถามบ้างนะครับ
คุณป้ารู้ข่าวเรื่องผีสาวหน้าห้องของนาย_กบ้างไหมครับ ผมอยากรู้ความจริงที่ลับๆล่อๆครับ
ยิ่งได้รู้เนื้อความตัดพ้อใน จม.ลาขาดยิ่งดี
และอีกข้อนะครับสงสัยมานานแล้วว่าเจ้ซาลาเปาเอาคีมยี่ห้ออะไรไปบีบเธอผู้โชคร้ายครับ
               
                                                                        ขอบคุณครับคุณป้าศิลาแรง
                               
                                                                            :slime_worship:วาโย


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 03-10-2008, 16:10
ป้าศิลาแรงครับ คือซ้อเจ้ดจริงๆหรือนี่

คือผมอยากจีบนางเอกแอ๊บแบ๊วของป้ามากเลย (เจนนี่ เทียนฯ) เพราะหน้าเธอเหมือนแฟนเก่าผมมาก

ของแบบนี้มันฝังใจครับ ผมแทบคลั่งเวลาที่เห็นนางเอกคนนี้ขึ้นจอ เพราะนึกถึงแฟนเก่าผมมาก

ถ้าป้ามีวิธีใดๆที่จะจีบนางเอกของป้าคนนี้ได้ ช่วยบอกวิธีมาทางหลังไมค์ด้วยนะขอรับ

จริงจังนะครับเนี่ย  :slime_evil: :slime_evil: :slime_evil:

สวัสดี หลาน BrettAnderson

อันว่าป้าศิลาแลงนั้น ไม่อาจหาญไปเทียบชั้นกับซ้อเจ็ด  ป้าเป็นเพียงยายแก่ปากมาก ที่หาใครฟังเสียงบ่นไม่ได้ เลยมาหลอกให้หลานๆฟังป้าบ่น  :slime_smile2: ส่วนซ้อเจ็ดนั้น เธอเป็นจอมยุทธ์ในวงการ พลังฝีมือนั้นเหนือกว่าป้าหลายขุมนัก มิบังอาจ มิบังอาจ  :slime_hmm:

การคลั่งไคล้นางเอกยอดนิยมนั้น เป็นอาการปกติของบุรุษ ทั้งหนุ่มทั้งชรา ต่างก็มีสิทธิ์ที่จะฝันไปตามจินตนาการของตน การที่หลานยังคลั่งไคล้นางเอกหน้าตาจิ้มลิ้มอยู่นั้น ก็แปลว่ายังมีไฟอยู่ และคงจะเตะปี๊บดัง แต่จะว่าก็ว่าเหอะ บางคนที่เตะปี๊บไม่ดัง เป่าขี้เถ้าไม่ฟุ้ง แต่ยังมีไฟลุกโชนอยู่ก็มีไม่น้อย  :slime_bigsmile:

น้องเจนนี่นั้น หน้าตาเธอสวยกระชากวิญญานบุรุษได้สบายๆ แต่บุรุษบางคนก็เปรยๆว่าหน้าเธอเหมือนปลาดาบลาว ของอย่างนี้มันแล้วแต่บุคคล นานาจิตตัง  :slime_doubt: แต่ถึงน้องเจนนี่จะหวานหยาดเยิ้มปานใด หลานก็ควรจะรู้ไว้เสียด้วยว่า อะไรๆที่หลานเห็นหลานรู้มานั้น มันเป็นมายา เรื่องจริงของคนจริงๆต้องไปดูกันที่บ้านจริงๆ ไม่ใช่ดูตามหน้าจอโทรทัศน์ ยกเว้นจะเป็นโทรทัศน์ที่ฉายสารคดี

แต่หลานเองก็เคยมีแฟนที่หน้าตาใกล้เคียงกับน้องเจนนี่มาแล้ว  แล้วปล่อยให้แฟนน่ารักตรงสเป็กของตัวเองนั้นหายไปข้างไหน หากความหลังมันฝังใจ เหตุไรจึงไม่กลับไปหาอดีต หรือว่ามีใครคาบแฟนเก่าของหลานไปรับประทานเข้าให้แล้ว  :slime_doubt:

ไปพลาดพลั้งเข้าอีท่าไหน ถึงได้เสียแฟนสวยน่ารักไป ทำให้ต้องมาโหยหวนหาคนใหม่ให้หน้าตาเหมือนเดิม ป้าคิดว่าก่อนจะหาทางไปทำความรู้จักกับน้องเจนนี่ เรามาแก้ปัญหาเรื่องเสียแฟนเก่ากันก่อนดีกว่าไหม เพราะถ้ายังไม่รู้ปัญหาที่ทำให้เสียแฟนเก่าไป จะหาแฟนใหม่อีกสักกี่คน สวยน่ารักปานไหน ลงท้ายมันก็ต้องเสียไปอีกนั่นแหละ  :slime_smile:

การแก้ปัญหามันต้องแก้ที่ต้นเหตุจ๊ะ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: TrainnerGoki ที่ 03-10-2008, 16:11
 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 03-10-2008, 16:32
:slime_smile:เข้ามาสมัครเป็นแฟนประจำครับคุณป้าศิลาแรง
ขอถามคำถามบ้างนะครับ
คุณป้ารู้ข่าวเรื่องผีสาวหน้าห้องของนาย_กบ้างไหมครับ ผมอยากรู้ความจริงที่ลับๆล่อๆครับ
ยิ่งได้รู้เนื้อความตัดพ้อใน จม.ลาขาดยิ่งดี
และอีกข้อนะครับสงสัยมานานแล้วว่าเจ้ซาลาเปาเอาคีมยี่ห้ออะไรไปบีบเธอผู้โชคร้ายครับ
               
                                                                        ขอบคุณครับคุณป้าศิลาแรง
                               
                                                                            :slime_worship:วาโย

สวัสดีหลานวาโย

หลานมีชื่อที่ฟังแล้วรื่นหูเป็นอันมาก ฟังดูไทยๆดี คลาสสิกอย่างไม่น่าเชื่อ และป้าก็ป้าดีใจที่หลานเป็นผู้ชาย  ว่าแต่หลานเลือกเพศหรือยัง อย่างไรก็เลือกเพศที่เกิดมานะจ๊ะ ไม่อย่างนั้นมันจะวุ่นตอนเปลียนชื่อ เพราะเด็กหนุ่มแถวบ้านป้านั้น เมื่อเกิดมาเขาตั้งชื่อให้ว่า จารุ ซึ่งก็เพราะเหมาะแก่เพศชายดี แต่เมื่อโตขึ้น ไอ้หนูมันดันเลือกเพศเป็นอีหนู และเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น จารุณี หากหลานวาโยคิดจะเปลี่ยนชื่อแบบนั้นบ้าง ป้าคง วาโย จับ  :slime_dizzy:

ข่าวเรื่องผีนั้น ป้ารับฟังมาหลายเรื่อง ทั้งผีปอบ ผีแม่ม่าย ผีกระสือ ผีกระหัง ผีกองกอย ผีแม่นาค ผีสามบาท ผีสองบาท และผีไม่เต็มบาท ส่วนเรื่องผีหน้าห้องของนายอะไรนั้น ป้าก็คงรู้ไม่มากกว่าหลานสักเท่าไหร่หรอก เพราะเรื่องนี้เขาปิดบังกัน

เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า มีเสียงนินทาเล่าลือกันถึงชายสูงอายุคนหนึ่ง ที่เกิดมาในยุคโชห่วยรุ่งเรือง ไม่เคยคาดฝันว่าจะโชคร้ายต้องกินอาหารร้านเจ็ดสิบเอ็ด เจอซาละเปาใส้หมูแดงค้างปี แถมปากปลาร้า เอ๊ยกลิ่นเหมือนปลาร้า กินไม่ค่อยจะลง วันหนึ่งๆจึงเที่ยวซอกแซกหาอะไรที่มันใหม่สด หอมหวาน กินประทังชีวิตไปวันๆ

แต่อย่างว่าแหละจ๊ะ อาการฟาสต์ฟู๊ด จั๊งค์ฟูด มันก็เป็นอาหารตลาด มีไว้ขายเอากำไร คุณภาพก็อย่างนั้นๆ ไหนเลยจะสู้น้ำพริกถ้วยใหม่เอี่ยม ที่ไม่มีใครเคยได้ชิม ว่ากันว่ามันอร่อยนักหนา บุรุษถึงได้เสาะหามากินกัน

ชายสูงอายุผู้นั้น ก็หลีกหนีกิเลสตัณหาไปไม่พ้น เช้าขึ้นออกจากบ้าน หลังจากต้องทนดมกลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ทาอยู่บนซาละเปาทุกคืน น้ำหอมขวดเดียวกันนั้น หากทาอยู่บนตัวสาวสวยมันก็ส่งกลิ่นหอม แต่ถ้าเอาไปทาบนก้อนซาละเปา กลิ่นมันก็ปนกับกลิ่นหืนๆ ดมไปแล้วเสียเซลฟ์

แต่พอเข้าที่ทำงาน เจอเด็กสาวที่ไม่มีสตางค์ซื้อหาน้ำหอมราคาแพง ได้แต่ทาแป้งเด็กทาโลชั่น อย่างนี้เอาซาละเปามาแลกก็ไม่ยอม ว่าแล้วชายสูงอายุก็ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ นั่นคือชิมน้ำพริกถ้วยใหม่ หลังจากหว่านล้อมว่าจะรับผิดชอบ และดูแลให้เป็นอย่างดี

เรื่องต่อมาก็รู้ๆกันอยู่ เมื่อซาละเปาวีนแตก หญ้าแพรกก็แหลกราญ โดยที่ชายสูงอายุทำได้เพียง หลบ ทั้งๆที่คนที่กำลังจะแหลกราญนั้นไม่ใช่คนเดียว แต่มีถึงสองคน อีกคนว่ากันว่ายังพูดไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่เขาให้ออกมาพูด และในที่สุดก็ต้องตายตกไปตามกัน

และก็มีคนตั้งคำถามว่า ตายเพราะอะไรกันแน่ ว่ากันว่าคุณหญิงหมอท่านทราบเรื่องอยู่ แต่มันมีอะไรค้ำๆยันๆกันอยู่ จับไม่มั่น คั้นไม่ตาย อย่างว่าแหละ มืออาชีพทำอะไรมักรอบคอบ คดีร้านทองนั้นก็ทำเอาเจ็บไปแล้วหนหนึ่ง ถ้ามาเจออีกคดี ท่าจะเอาตัวไม่รอด เรื่องมันก็เลยเงียบๆอยู่

แต่ผีนั้นออกมาอาละวาด ชาวพระโขนงเลยไม่ได้เป้นอันหลับอันนอนกัน  เพราะแม่นาคแกออกมาหลอกหลอนทุกคืน ตอนจบนั้นหาดูได้ในแผ่น วีซีดี หรือ ดีวีดี เขาก็อปออกมาขายกันมากมายแล้ว

ทั้งหมดข้างบนนั้น ป้าเล่าเรื่องแม่นาคพระโขนง เรื่องผีที่หลานถามมา จริงๆ สาบานให้ฟ้าผ่าซาละเปาสิ

ศิลาแลง


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: มารุจัง ที่ 03-10-2008, 17:50
กราบสวัสดี คุณป้าศิลาแลงค่ะ

เป็นครั้งแรกที่มารุจังเข้ามารบกวนถามคำถามกับคุณป้าค่ะ

คือช่วงนี้เห็นมีสมาชิกของเราบางท่าน
มีอาการแปลก ๆ ไปค่ะ คุณป้าขา

http://forum.serithai.net/index.php?topic=37516.50
จากกระทู้ข้างต้น
เดิมที เจ้าของกระทู้เคยเกรี้ยวกราด
หลงใหลได้ปลื้มกับคนหน้าสี่เหลี่ยมแถวลอนดอน

แต่แล้วจู่ ๆ สมาชิกท่านนี้ ก็แสดงอาการเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือค่ะ
ทำเอา มารุจังตกอกตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น
จึงนึกถึงคุณป้าศิลาแลงค่ะ

รบกวนเรียนถามคุณป้าว่า เิกิดอะไรขึ้นกลับ สมาชิกท่านนี้เจ้าคะ
หรือสมาชิกท่านนี้จะกินยาหมดอายุไปคะเนี่ย
รบกวนคุณป้าศิลาแลง ช่วยหาคำตอบให้หนูหน่อยนะคะ

กราบขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
 :slime_smile: :slime_smile:


หัวข้อ: Re: ป้าศิลาแรง หรือซ้อเจ็ดมาตอบหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาแลง ที่ 03-10-2008, 18:56
กราบสวัสดี คุณป้าศิลาแลงค่ะ

เป็นครั้งแรกที่มารุจังเข้ามารบกวนถามคำถามกับคุณป้าค่ะ

คือช่วงนี้เห็นมีสมาชิกของเราบางท่าน
มีอาการแปลก ๆ ไปค่ะ คุณป้าขา

http://forum.serithai.net/index.php?topic=37516.50
จากกระทู้ข้างต้น
เดิมที เจ้าของกระทู้เคยเกรี้ยวกราด
หลงใหลได้ปลื้มกับคนหน้าสี่เหลี่ยมแถวลอนดอน

แต่แล้วจู่ ๆ สมาชิกท่านนี้ ก็แสดงอาการเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือค่ะ
ทำเอา มารุจังตกอกตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น
จึงนึกถึงคุณป้าศิลาแลงค่ะ

รบกวนเรียนถามคุณป้าว่า เิกิดอะไรขึ้นกลับ สมาชิกท่านนี้เจ้าคะ
หรือสมาชิกท่านนี้จะกินยาหมดอายุไปคะเนี่ย
รบกวนคุณป้าศิลาแลง ช่วยหาคำตอบให้หนูหน่อยนะคะ

กราบขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
 :slime_smile: :slime_smile:

สวัสดีหลานมารุจัง

ป้าได้แวะไปอ่านกระทู้ที่หลานบอกมาแล้ว ก็ไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรนี่จ๊ะ เคยเป็นอย่างไรก็เป็นอยู่อย่างนั้น ปกติดี ไม่มีอะไรประหลาด  :slime_smile2:

การแสดงออกของคนเรานั้น หากเป็นคนตรงก็แสดงออกมาตรงๆ ส่วคนคดนั้นก็แสดงออกได้หลายอย่าง บางทีก็ออกทางคุ้มดีคุ้มร้าย วันนี้ไว้พระ วันพรุ่งอาจจะเตะพระเสียก็ได้ จะเอาอะไรกับคนบ้า เขาห้ามถือเป็นสาระ

คนเมาอีกอย่างหนึ่ง ทำอะไรทุเรศๆได้โดยไม่รู้จักอับอาย เพราะทั้งฤทธิ์สุราและตับที่มันใกล้แข็ง ทำให้สารเคมีในร่างกายปั่นป่วน สติไม่สมประกอบ โบราณท่านถึงห้ามถือ

อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา ถ้ารำคาญก็อัดเสียให้เงียบเสียงไป แก้รำคาญไปได้พักหนึ่ง  :slime_bigsmile:

ศิลาแลง