ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: drop ที่ 13-08-2007, 15:36



หัวข้อ: เขาทุ่มเงินเพื่อคว่ำร่างรัฐธรรมนูญทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: drop ที่ 13-08-2007, 15:36
เขาทุ่มเงินเพื่อคว่ำร่างรัฐธรรมนูญทำไม

11 สิงหาคม พ.ศ. 2550 22:49:00

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ยิ่งใกล้จะถึงวันที่ 19 สิงหา อันเป็นวันออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มากเพียงใด บรรยากาศการเมืองดูจะยิ่งมีความว้าวุ่นมากยิ่งขึ้นเพียงนั้น ว้าวุ่นถึงขนาดที่จะทำให้คนระดับประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญและรัฐมนตรีบางคนในคณะรัฐบาล กับกรรมการการเลือกตั้งบางคนเกือบจะต้องมาตั้งวงทะเลาะกัน เพราะข่าวคราวการทุ่มเงินแจกชาวบ้านเพื่อให้ออกเสียงไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ หรือแม้แต่ให้นอนหลับทับสิทธิ์อยู่ที่บ้าน
อันที่จริงทั้งสองฝ่ายก็เป็นฝ่ายเดียวกันแท้ๆ คือต่างก็มีหน้าที่เกี่ยวข้องและมีความมุ่งหมายที่จะทำให้การจัดทำประชามติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยปราศจากการทำผิดกฎหมายว่าด้วยการจัดทำประชามติ และก็คงจะด้วยความมุ่งหมายดังกล่าวนี้ เมื่อท่านประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญและท่านรัฐมนตรีเกิดไปได้รับทราบข่าวคราวการทุ่มเงินอย่างที่ว่ากันขึ้นมา ก็เลยนำมาโพนทนา คือพูดจาดังๆ ผ่านสื่อ ซึ่งผมเข้าใจว่าคงทำอย่างอเนกประสงค์คือ 1.ประสงค์ที่จะประณามฝ่ายที่ทุ่มเงิน 2.ประสงค์ที่จะบอกให้ประชาชนรู้ และ 3.ประสงค์ที่จะบอกให้ กกต.ได้รับทราบด้วย เพื่อจะหาทางป้องกันและระงับยับยั้ง
ทาง กกต.ซึ่งเพิ่งจะเข้ามารับงานใหม่ยังตั้งหลักกันไม่ค่อยได้ ก็เลยเกิดอาการหงุดหงิด เพราะคิดไปว่าเป็นการพูดเพื่อตำหนิติเตียน กกต. จึงเกิดอาการเอาคืนด้วยการตอบโต้ว่าเป็นผู้ใหญ่กันทั้งนั้น เมื่อรู้ว่ามีการทุ่มเทเงินเพื่อซื้อเสียงให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญเช่นนี้ ก็น่าจะได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่ให้ดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ใช่เพียงแต่มาพูดปาวๆ ให้ กกต."เต้น"
ผมรู้สึกว่าระยะนี้ กกต. "เต้น" บ่อย เมื่อหลายวันก่อนก็ "เต้น" ในอาการเดียวกันนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว เพราะท่านมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพูดถึงเรื่องพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองซื้อตัวผู้สมัครที่เป็น ส.ส.เก่าบางคนถึงคนละ 30 ล้านบาท เพื่อให้อยู่กับกลุ่มของตน ครั้งนั้น กกต.บางท่านก็ร้องถามหาพยานหลักฐานกันให้วุ่นไปเหมือนกัน
เรื่องอย่างนี้มีจริง และมีอยู่บ่อยๆ ในทางการเมือง แต่จะให้ไปหาพยานหลักฐานมายืนยันให้ครบถ้วนสมบูรณ์เหมือนอย่างการพิจารณาคดีในศาลนั้นคงไม่ได้ และสำหรับเรื่องจ่ายเงินหัวละ 250 บาทเพื่อให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ท่านรัฐมนตรีสำนักนายก คือท่านรัฐมนตรี ธีรภัทร เสรีรังสรรค์ ก็ยังคงยืนยันอยู่ ถึงขนาดกล้าระบุชื่อพื้นที่เป็นรายอำเภอเลยทีเดียว ทั้งยังบอกว่าทราบชื่อผู้จ้างวานที่มีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองในพื้นที่เสียอีกด้วย
และถ้าจะถามผมว่า ผมเชื่อคำบอกกล่าวของท่านรัฐมนตรีหรือไม่ ผมขอบอกว่าผมเชื่อ และก็เห็นด้วยที่จะต้องนำเรื่องเหล่านี้มาโพนทนาดังๆ ผ่านสื่ออย่างเอนกประสงค์ดังที่กล่าวแล้ว
กลุ่มคนเหล่านี้ยอมทุ่มเงินว่าจ้างเพื่อคว่ำร่างรัฐธรรมนูญด้วยความมั่นใจว่าจะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญได้จริง คือสามารถทำให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ผ่านประชามติได้อย่างนั้นหรือ ผมว่าไม่ใช่ ผมเชื่อว่ากลุ่มพวกเขาก็เข้าใจดีว่าร่างรัฐธรรมนูญคงจะผ่านการจัดทำประชามติไปได้ในที่สุด แล้วเขายังยอมทุ่มเงินจำนวนมากมายไปทำไมกัน มีอะไรเป็นแรงจูงใจให้ต้องทำอย่างนั้น ผมคิดว่ามีแรงจูงใจอย่างน้อย 3 ประการ กล่าวคือ
1.เป็นยุทธการตบหน้า คมช. (คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ) ซึ่งได้ยึดอำนาจการเมืองไปจากกลุ่มพวกตน เพราะแม้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่จะผ่านการจัดทำประชามติไปได้ แต่หากมีการออกเสียง "ไม่รับ" เป็นจำนวนมาก ก็อาจนำไปอ้างอิงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างประเทศ ซึ่งเป็นเกมที่ถนัดอยู่แล้วว่า ประชาชนไทยจำนวนไม่น้อยยังต่อต้านการยึดอำนาจของ คมช. รวมทั้งยังไม่ยอมรับกระบวนการใดๆ ที่สืบเนื่องมาจากการยึดอำนาจ
2.เป็นการใช้โอกาสเดียวกันนี้ทำแนวร่วมกับกลุ่มความคิดอื่นที่ไม่ยอมรับ คมช. และไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เช่น กลุ่มอุดมการณ์ที่ต่อต้าน คมช. โดยสุจริตใจ และกลุ่มไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญเพราะไม่พอใจที่ไม่มีบทบัญญัติให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ซึ่งอาจจะพัฒนาไปสู่การจัดทำเป็นนโยบายหาเสียงในการเลือกตั้งที่จะถึงอีกด้วย
3.เป็นการตกเขียวทางการเมือง คือจ่ายเงินเพื่อตรวจสอบพลังประชาชนฝ่ายตนที่จ่ายเงินซื้อได้ และเพื่อจะจ่ายเงินซื้อเสียงอีกครั้งหนึ่งเมื่อถึงคราวเลือกตั้ง
ด้วยเหตุผลที่เป็นแรงจูงทั้ง 3 ประการนี้ สำหรับกลุ่มการเมืองที่ทำการเมืองด้วยการใช้ "เงิน" เป็นปัจจัยชี้ขาด และที่สำคัญคือมี "เงิน" มากมายมหาศาลที่จะใช้ ก็ต้องนับว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเสียอีก
สำหรับ กกต.ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงในเรื่องนี้ เมื่อมาถึงวันนี้ในขณะที่เริ่มมีบุคคลหลายฝ่ายแม้กระทั่ง กกต.จังหวัดในบางพื้นที่ต่างยืนยันว่า เรื่องการทุ่มเงินเพื่อคว่ำร่างรัฐธรรมนูญมีอยู่จริง เพียงแต่ยังหาพยานหลักฐานที่จะจับให้มั่นคั้นให้ตายไม่ได้ ความหงุดหงิดหรืออาการ "เต้น" ดูจะน้อยลงไปแล้ว
ฉะนั้นหาก กกต.ยังมีอาการ "เต้น" อยู่ ก็ควรจะเป็นการ "เต้น" เพื่อที่จะป้องกันและระงับยับยั้งปฏิบัติการทุ่มเงินอย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งจะเป็นทั้งโอกาสอันดีในการตรวจสอบเครือข่าย กกต.บางคน บางจังหวัด และในบางเขตพื้นที่ที่มีปัญหาการทุ่มเงินว่ายังมีศักยภาพดี หรือมีประเภทที่ "เกลือเป็นหนอน" อยู่หรือไม่ เพื่อปรับปรุงแก้ไขกันเสียก่อน และทั้งยังจะเป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่ก่อนที่จะเข้าสู่สงครามเลือกตั้งในคราวที่จะถึงนี้
ซึ่งดุเดือดแน่นอน!
บัญญัติ บรรทัดฐาน
------------------------------------------------------
หากติดตามการ ดีเบท หรือบทความต่าง ๆ จะเห็นว่า โดยภาพรวม ๆ แล้ว รธน ปี ๕๐ ก็ไม่ได้ต่างไปจาก ปี ๔๐  แบบหน้ามือ เป็นเท้า
ประเด็นที่นำมาโต้แย้ง โดยเฉพาะ ที่มา หรือ ทำระบบข้าราชการมีอำนาจ  ฯลฯ ก็ไม่มีน้ำหนักพอจนยอมรับไม่ได้

การเมืองภาค ปชช แม้จะไม่เข้มแข็งมาก แต่ก็ไม่อ่อนแอ เหมือนในอดีต
เทคโนโลยี่ ก็แพร่หลาย ที่จะทำให้รับรู้ข่าวสาร  ก็เข้าใจกันได้

หากความพยายามจะล้ม การรับร่าง แท้ จริง แล้ว  เป็นประเด็นการเมือง 
ไม่ว่าจะ รับร่าง หรือ ไม่รับร่าง  บ้านเมืองก็คงไม่พ้นภาวะ วิกฤต



หัวข้อ: Re: เขาทุ่มเงินเพื่อคว่ำร่างรัฐธรรมนูญทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: สมปอง ที่ 13-08-2007, 15:39
ไม่รับแล้วมันดีกว่ารับยังไงอะ ช่วยบอกที ก็ไม่ต่างกันเลย รับก่อนแล้วก็ดำเนินการไปเรื่อยๆดีกว่า เพราะยังไงเค้าก็ต้องเอาฉบับเก่ามาแก้ใหม่ถ้าไม่รับอะ


หัวข้อ: Re: เขาทุ่มเงินเพื่อคว่ำร่างรัฐธรรมนูญทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: drop ที่ 13-08-2007, 17:18
อยู่ฝ่ายรับร่าง อยู่แล้ว  เพียงแต่ มีข่าวเรื่องคว่ำ รธน จาก พวก เหลี่ยม เยอะ มาก ก็เลยเห็นว่า 

หลังการรับร่าง ไม่ว่า ผล จะเป็น อย่างไร  บ้านเมืองคงวุ่นวาย  ไม่พ้นวิกฤต

เพราะ here้ เหลี่ยม  กับพวก

รับร่างแน่นอน







หัวข้อ: Re: เขาทุ่มเงินเพื่อคว่ำร่างรัฐธรรมนูญทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: (ก้อนหิน) ละเมอ ที่ 13-08-2007, 17:21
ถ้าไม่รับ ก็เอาฉบับเก่า มาแก้ให้เหมือนฉบับใหม่ ง่ายนิดเดียว 5555  :mrgreen:


หัวข้อ: Re: เขาทุ่มเงินเพื่อคว่ำร่างรัฐธรรมนูญทำไม
เริ่มหัวข้อโดย: drop ที่ 13-08-2007, 17:32
ช่าย ง่านนิดเดียว  รธน ๔๙ ก็พูดไว้ ให้ ประธาน คมช กับ นายก

แต่ ข่าว ที่จะบิดเบือน กันไปทั่ว นี่ สิ

ก็สร้างความวุ่นวายได้อีก