ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: *bonny ที่ 29-06-2007, 17:00



หัวข้อ: **ถ้าคุณรู้จักทักษิณมานานกว่า 15 ปีจะไม่สงสัยเลยว่า เงินซื้อแมนซิตี้มาจากไหน **
เริ่มหัวข้อโดย: *bonny ที่ 29-06-2007, 17:00
ข้อมูลย้อนหลังแค่ 3 ปี ลืมไปได้เลยครับ  ไม่มีทางสืบค้นเจอหรอก สำหรับเงินจำนวน 1 หมื่นล้านบาทในบัญชีนอกประเทศ

ต้องย้อนกลับไปไม่ต่ำกว่า 15 ปีครับ  เริ่มตั้งแต่หุ้นชินวัตรคอมพิวเตอร์เข้าตลาดหลักทรัพย์ และทะยานขึ้นไปกว่า 800 บาท แม้จะแตกพาร์จาก 100 เหลือแค่ 10 บาทแล้วก็ตาม (ถ้าไม่แตกพาร์ อาจทะลุราคา 8000บาท/หุ้น)

หุ้นชินวัตรสมัยก่อนนั้นถูกแรงปั่นจากทั้งในและต่างประเทศไปจนสูงลิ่ว เกินปัจจัยพื้นฐานไปมากแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครเอะใจว่า  เอ๊ะ..ทำไมฝรั่งซื้อกันจัง :slime_smile2:

คนที่เป็นเศรษฐีสมัยนี้ มีบัญชีเงินฝากนอกประเทศกันแทบทุกคนครับ  มากบ้างน้อยบ้าง ตั้งแต่เริ่มยุคเก็งกำไรค่าเงินบาท  เพราะค่าเงินบาทมันมีแต่ทรุด และถูกลดค่าเป็นระยะๆ  จาก 20บาท/ดอลล่าร์  เป็น 28บาท/ดอลล่าร์  และเป็น 37บาท/ดอลล่าร์  เนื่องจากความไร้เสถียรภาพของค่าเงินนั่นเอง  ดังนั้น..ใครที่ทำธุรกิจที่มีบัญชีรายรับ/รายจ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศ จะใช้วิธี  ..ซุกเงิน..  ในบัญชีสองที่อยู่ต่างประเทศเป็นสกุลดอลล่าร์เอาไว้

เช่น..

สั่งซื้อวัตถุดิบเข้ามาราคา 100 ดอลล่าร์ตามตั๋วใบนำส่งสินค้า แต่มูลค่าสินค้าจริงๆ เขาจ่ายแค่ 80 ดอลล่าร์  อีก 20 ดอลล่าร์ เป็นส่วนลดที่ผู้ส่งออกต่างประเทศเขาเก็บเอาไว้ให้ และโอนกลับเข้าบัญชีสองที่อยู่ต่างประเทศไว้ให้แล้ว

ทำเช่นนี้ทุกเดือน ทุกปี  ในบริษัทที่มีการสั่งซื้อสินค้าล็อตใหญ่ๆ มูลค่าหลายพันล้านบาทต่อปี  ก็จะมีเงินเก็บในบัญชีต่างประเทศ 20% เสมอๆ สะสมกันเข้าไป

ในกรณีเป็นผู้ส่งออก ก็กลับกัน  ส่งสินค้าให้ไปแล้ว ก็ให้ผู้ซื้อโอนเข้ามาแค่ 80% อีก 20% เก็บไว้ต่างประเทศ  ซึ่งเทคนิคตรงนี้ คนที่ทำธุรกิจ นำเข้า/ส่งออก รู้วิธีกันดี

ส่วนนักการเมืองฉ้อโกง  ก็จะใช้วิธีการรับเงินค่านายหน้ากันเป็นเงินตราต่างประเทศ นัดโอนเข้าบัญชีในฮ่องกง หรือ สิงคโปร์ แทนที่จะมาจ่าย 20% กันในประเทศไทยเป็นค่าเงินบาท

..................................

วันดี คืนดี

เงินที่ฝากในบัญชีต่างประเทศเหล่านี้แหละครับ  ได้กลับมาซื้อ-ขายหุ้นของตัวเองในประเทศไทยในรูปของนักลงทุนต่างประเทศผ่านสถาบันการเงินต่างชาติ  กำไรเละเทะแล้วก็สามารถโอนกลับไปนอกประเทศได้โดยไม่ต้องถูกตรวจสอบ และไม่เกี่ยวโยงใดๆ กับชื่อนักการเมืองด้วย

เขาเรียกว่า นักลงทุนประเภทนี้ว่า ฝรั่งหัวดำ  แต่จะคางเหลี่ยมหรือเปล่า ผมให้ไปสืบเอาเอง :slime_smile2:


แล้วจะมีจำนวนเป็นหมื่นๆ ล้านบาทเชียวหรือ?


เริ่มแรกของการซุกบัญชี มีไม่ถึงหรอกครับ  อาจมีสัก 1000 ล้านบาท กะเก็บเอาไว้เก็งกำไรค่าเงินหรือไว้ซื้อทรัพย์สินในต่างประเทศเท่านั้น (บางคนอาจคิดเลยเถิดถึงขั้นเอาไว้ลี้ภัย หรือ เอาไว้หลบบัญชีทรัพย์สินที่ต้องแสดงต่อ ปปช.)

แต่การทวีค่าจาก 1000 ล้านเป็น 1 หมื่นล้านบาทนั้นไม่ยาก  ถ้านำมาลงในหุ้นถูกตัว  เพราะมูลค่าของหุ้นบางตัว ทวีค่าเป็น 10 เท่าของต้นทุนที่ซื้อได้ หากการปั่นหุ้นสำเร็จ

และหุ้นชินวัตรคอมพิวเตอร์ ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นชินคอร์ป และแตกเป็นชินแซท เอสซีแอสเซ็ท ฯลฯ  แต่ละตัวเคยเพิ่มค่าเกินกว่า 10 เท่าของราคาขายครั้งแรกทั้งนั้น

ถ้าคตส. หรือ ธปท. หรือ อัยการสูงสุด หรือ กลต. ได้มาอ่านกระทู้นี้ก็จะเข้าใจในทันทีว่า เงินที่ซื้อแมนซิตี้นั้นมาจากแหล่งใด  ถูกกฎหมายหรือไม่?

แต่ถ้าตรวจสอบย้อนหลังกันแค่ 3 ปี ผมรับรองว่า หาไม่เจอหรอกครับ และต้องตั้งสมมติฐานไว้ว่า ถูกกฎหมายไว้ก่อนเพราะไม่มีการกระทำผิด

แต่ที่แน่ๆ  ..จู่ๆ เงินมัน งอก ขึ้นมาเองไม่ได้หรอกครับ  เหมือน งาช้างไม่อาจงอกจากปากสุนัข ฉันนั้น


หัวข้อ: Re: **ถ้าคุณรู้จักทักษิณมานานกว่า 15 ปีจะไม่สงสัยเลยว่า เงินซื้อแมนซิตี้มาจากไหน **
เริ่มหัวข้อโดย: aoporadio ที่ 29-06-2007, 18:35
ถุ ถุ ถุกต้มนะคร๊าบ.... :slime_v:

เรื่องพรรณนี้ ป๊ะป๋า เคยเล่าให้ฟัง สมัยมันขายอากาศแรกๆ อู้ฟู่มาก ไม่รู้จะ ซุก อย่างไร(สันดานไม่อยากจ่ายภาษีมาแต่ใหนแต่ไร :slime_hmm:)

ก็เลย...







เป็นอย่างทุกวันนี้ไง :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_smile2:














หัวข้อ: Re: **ถ้าคุณรู้จักทักษิณมานานกว่า 15 ปีจะไม่สงสัยเลยว่า เงินซื้อแมนซิตี้มาจากไหน **
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 29-06-2007, 20:11


ธปท.เงื้อง่าสอบบัญชีลับทักษิณ “ประไหมสุหรี” โผล่เย้ยซื้อทีมเรือใบ  
 
ธปท.ยังไม่เข้าตรวจสอบบัญชีเงินฝากของตระกูล “ชินวัตร” หลัง ปปง.อังกฤษ ระบุมีบัญชีเงินฝากกว่า 2 หมื่น ล.ในลอนดอน-สวิตเซอร์แลนด์ “ธาริษา” อ้างขอรอดูข้อสรุปทางคดีว่าผิดกฎหมายจริงหรือไม่ ขณะที่ข้อมูลในอังกฤษ เผยรายชื่อ “ประไหมสุหรี” บริษัทอสังหาฯ ที่ถูก คตส.สั่งอายัดทรัพย์ ร่วมถือหุ้นในบริษัทที่เข้าไปซื้อทีมสโมสรเรือใบ
       
       วันนี้ (29 มิ.ย.) นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ให้ตรวจสอบบัญชีเงินฝากของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินของประเทศอังกฤษ (ปปง.) ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีบัญชีเงินฝากในประเทศอังกฤษ และสวิตเซอร์แลนด์ จำนวนกว่า 20,000 ล้านบาท
       
       นางธาริษา กล่าวว่า ธปท.สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ แต่คงต้องรอให้คดีมีข้อสรุปก่อนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กระทำผิดกฎหมายจริง เพราะการที่ ธปท.จะเข้าไปตรวจสอบในระหว่างที่คดียังไม่ชัดเจน ธปท.ก็ไม่รู้ว่าจะอ้างเหตุผลอะไรในการตรวจสอบ เพราะถือเป็นประเด็นทางกฎหมาย
       
       อย่างไรก็ตาม ธปท.ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว ได้ยื่นขออนุญาตนำเงินออกนอกประเทศ และ ธปท.อนุมัติเพียง 2 ครั้ง คือ การนำเงินไปซื้อคอนโดมิเนียมและบ้านพักในประเทศอังกฤษ
       
       ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะนำเงินออกนอกประเทศ โดยการเบิกผ่านธนาคารพาณิชย์ นั้น นางธาริษา กล่าวว่า ขณะนี้ ธปท.ยังไม่ได้เข้าไปตรวจสอบ แต่ก็อาจจะทำได้ ซึ่งหากเป็นความจริงก็ต้องดำเนินก่อนหน้าที่ คตส.จะมีคำสั่งอายัดทรัพย์ ซึ่งต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่ ธปท.กำหนด คือ ไม่เกิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อรายต่อปี
       
       “หาก ธปท.จะเข้าไปตรวจสอบบัญชีเงินฝาก ก็ต้องมีข้อสรุปทางคดีที่ชัดเจน ถ้าหากยังไม่ชัด ธปท.ก็ไม่รู้จะอ้างอะไร เพราะเกี่ยวข้องกับประเด็นกฎหมาย ส่วนเรื่องการถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของธนาคารพาณิชย์นั้น ธปท.ยังไม่ตรวจสอบ แต่อาจจะเป็นไปได้ โดยต้องเบิกก่อนที่มีคำสั่งอายัดทรัพย์” นางธาริษา กล่าว
       
       โดยก่อนหน้านี้ มีรายข่าวจากสื่อมวลชนบางแห่งออกมาระบุว่า บริษัท ยูเค สปอร์ตส อินเวสท์เมนต์ส จำกัด (ยูเคเอสไอแอล) ที่ตั้งโดย พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อเข้าไปซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เปิดเผยข้อมูลของบริษัทต่อบุคคลทั่วไปในอังกฤษ ซึ่งปรากฏว่า ในส่วนของผู้ถือหุ้นมีบริษัท ประไหมสุหรี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งถูกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) สั่งอายัดเงินเพิ่มทุน 2 พันล้านบาท รวมอยู่ด้วย
       
       นอกจากนี้ ยังพบว่า นางสาวศศิน มองวัวแซงค์ ที่ร่วมหุ้นในบริษัท ยูเค สปอร์ตสฯ ด้วยนั้น เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และเป็นกรรมการบริษัท คลับ 21 (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้า จากการตรวจสอบงบกำไรขาดทุน พบว่า เมื่อปี 2547 มีรายได้ 445 ล้านบาท กำไร 39 ล้านบาท และปี 2548 มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 846 ล้านบาท กำไร 59 ล้านบาท
       
       ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวระบุถึงแหล่งเงินที่ใช้ซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ว่า มาจากเงินกองทุนที่มีอยู่แล้วของบริษัท ยูเคเอสไอแอล ซึ่งเป็นทุนจดทะเบียนและส่วนที่ทางยูเคเอสไอ โฮลดิ้งส์ให้กู้ยืมมา




หัวข้อ: Re: **ถ้าคุณรู้จักทักษิณมานานกว่า 15 ปีจะไม่สงสัยเลยว่า เงินซื้อแมนซิตี้มาจากไหน
เริ่มหัวข้อโดย: morning star ที่ 29-06-2007, 20:37
 ...ถ้าจะตรวจสอบจริง ผมว่าคงจับไม่ได้ไล่ไม่ทันแน่ ๆ เพียงแต่ประชาชนดูไว้เป็นอุทธาหรณ์เถอะว่า คนอย่างนี้รวยขนาดซื้อประเทศได้ทั้งประเทศ ทำมาหากินโดยสุจริตจริงหรือเปล่า และนักการเมืองเลว ๆ หน้าเก่า ๆ ที่เลือกกันเข้าไปน่ะ มันไปหากินกับนักธุรกิจพวกนี้อีกต่อนึงหรือเปล่า

ที่ปรึกษาด้านการเงินของทักษิณที่อังกฤษ มีประสพการณ์และเส้นสายไม่น้อย ผมเชื่อว่าเค้าหยั่งเชิงแล้วว่าจะทำอะไรเงินที่อยู่นอกประเทศของทักษิณไม่ได้ เพราะพวกนี้อาศัยช่องว่างของกฏหมายหามา อาจไม่สุจริต แต่ไม่ผิดกฏหมาย(ทำเลวแต่ไม่ผิดกฏหมาย) คงจะไปทำอะไรเค้าไม่ได้


หัวข้อ: Re: **ถ้าคุณรู้จักทักษิณมานานกว่า 15 ปีจะไม่สงสัยเลยว่า เงินซื้อแมนซิตี้มาจากไหน **
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 30-06-2007, 01:24
หากินสุจริตไม่เป็นนะไอ้แม้วเนี่ย :slime_evil:


หัวข้อ: Re: **ถ้าคุณรู้จักทักษิณมานานกว่า 15 ปีจะไม่สงสัยเลยว่า เงินซื้อแมนซิตี้มาจากไหน **
เริ่มหัวข้อโดย: *bonny ที่ 30-06-2007, 07:34


       โดยก่อนหน้านี้ มีรายข่าวจากสื่อมวลชนบางแห่งออกมาระบุว่า บริษัท ยูเค สปอร์ตส อินเวสท์เมนต์ส จำกัด (ยูเคเอสไอแอล) ที่ตั้งโดย พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อเข้าไปซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เปิดเผยข้อมูลของบริษัทต่อบุคคลทั่วไปในอังกฤษ ซึ่งปรากฏว่า ในส่วนของผู้ถือหุ้นมีบริษัท ประไหมสุหรี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งถูกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) สั่งอายัดเงินเพิ่มทุน 2 พันล้านบาท รวมอยู่ด้วย
       
       นอกจากนี้ ยังพบว่า นางสาวศศิน มองวัวแซงค์ ที่ร่วมหุ้นในบริษัท ยูเค สปอร์ตสฯ ด้วยนั้น เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และเป็นกรรมการบริษัท คลับ 21 (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้า จากการตรวจสอบงบกำไรขาดทุน พบว่า เมื่อปี 2547 มีรายได้ 445 ล้านบาท กำไร 39 ล้านบาท และปี 2548 มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 846 ล้านบาท กำไร 59 ล้านบาท
       
       ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวระบุถึงแหล่งเงินที่ใช้ซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ว่า มาจากเงินกองทุนที่มีอยู่แล้วของบริษัท ยูเคเอสไอแอล ซึ่งเป็นทุนจดทะเบียนและส่วนที่ทางยูเคเอสไอ โฮลดิ้งส์ให้กู้ยืมมา



ข้อมูลตรงนี้น่าสนใจครับคุณลูกหิน..

ประไหมสุหลี ก็คือ หนึ่งในบริษัทที่ตระกูลชินวัตรเป็นเจ้าของ
ส่วนกองทุนของบ. ยูเคเอสไอแอล  และเงินกู้จาก ยูเคเอสไอ โฮลดิ้ง น่าสนใจว่า เป็นเครือที่คุณทักษิณไป "ซุก" อยู่นานแล้วหรือไม่

ถ้าตรวจสอบที่มาของบริษัทเหล่านี้ และกลุ่มผู้ถือหุ้นก็จะรู้ว่า เงินซื้อแมนซิตี้มาจากไหน  ซึ่งผมก็แน่ใจว่า ส่วนใหญ่มาจากกองทุนกำมะลอที่นำออกไปจัดตั้งตอนที่ทำธุรกิจชินคอร์ป  ซึ่งกองทุนเหล่านี้มีมากมาย ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ สวิสเซอแลนด์ เกาะบริทิชเวอจิ้น และในอังกฤษ แต่เมื่อจะใช้เงินก้อนโตก็จะระดมได้จากกองทุนต่างๆ มารวมกันนั่นเอง

แม้ว่า จะตามยึดกลับมาไม่ได้เนื่องจากเป็นเงินทุนที่อยู่ในต่างประเทศและถูกต้องตามกฎหมาย(เนื่องจากเอาออกไปนานแล้ว มิได้นำออกไปตอนที่ถูกกล่าวหาจากคตส.)  แต่สามารถรู้พฤติกรรมการฉ้อโกงอีกแบบหนึ่งอันนำไปสู่การฟอกเงินให้เป็นเงินดีของระบบนักโกงเมือง

และสามารถเอาผิดได้อีกกระทงกรณีปกปิดสถานะที่แท้จริงของตนเองในรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อปปช.  อีกทั้งหากมีผู้ถือหุ้นในบริษัทมหาชน เช่น ชินคอร์ป  เอสซี แอสเซท  ออกมากล่าวโทษร้องทุกข์ว่า ตนเองถูกปกปิดข้อมูลจากตระกูลชินวัตรมาตลอดทำให้เกิดความเสียหาย ก็สามารถฟ้องร้องเอาผิดได้เช่นกัน  เช่นเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ที่สามารถฟ้องร้องเอาผิดกับผู้บริหารบริษัทได้ในฐานะ ปกปิดข้อมูล หรือ แสดงข้อมูลอันเป็นเท็จ

ถ้าจะเอากันทุกกระทง  ผมว่าชาตินี้ตระกูลชินวัตรไม่ต้องทำมาหากินแล้ว ขึ้นศาลจนหมดอายุขัยยังไม่แล้วเสร็จ และทรัพย์จะถูกอายัดเรื่อยๆ ไป  ก็อยากให้ทั้งประชาชนและทุกหน่วยงานอย่ารอแค่ คตส.เช็คบิล  มีหลักฐานเอาผิดได้ต้องฟ้องเอาไว้ก่อน หลุดคดีนั้นก็มาเจอคดีนี้เป็นห่วงโซ่


หัวข้อ: Re: **ถ้าคุณรู้จักทักษิณมานานกว่า 15 ปีจะไม่สงสัยเลยว่า เงินซื้อแมนซิตี้มาจากไหน **
เริ่มหัวข้อโดย: คนกวาดขยะ ที่ 30-06-2007, 09:48
ผมไม่ค่อยรุ้เรื่องพวกนี้ครับ  ก่อนที่ประกาศอายัดทรัพย์ ผมเข้าใจว่าการไปซื้อ แมน ซิตี้ เป็นวิธีการทยอยนำเงินออกไปนอกประเทศ ไม่นึกว่าจะมีลึกว่านั้น


หัวข้อ: Re: **ถ้าคุณรู้จักทักษิณมานานกว่า 15 ปีจะไม่สงสัยเลยว่า เงินซื้อแมนซิตี้มาจากไหน
เริ่มหัวข้อโดย: พระพาย ที่ 30-06-2007, 10:13
อ้าว... ซวยหล่ะสิ

แบบนี้ตัดท่อน้ำเลี้ยงยังไงก็ไม่ขาดสิครับ

คำถามที่ว่า "นำเงินมาจากไหน?" เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วไปหลังทักษิณซื้อเรือใบ... เป็นการเคลื่อนไหวที่เฉียบขาดมาก... ไข่แม้วทั้งหลายมั่นใจได้เลยว่าผมมีเงิน และพร้อมจะกลับมาเช็คบิลได้ทุกเมื่อ ไม่มีใครหน้าไหนทำอะไรผมได้... จงภักดีกับผมเถิด

 :slime_hmm:


หัวข้อ: Re: **ถ้าคุณรู้จักทักษิณมานานกว่า 15 ปีจะไม่สงสัยเลยว่า เงินซื้อแมนซิตี้มาจากไหน
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 30-06-2007, 11:28
อ้าว... ซวยหล่ะสิ

 แบบนี้ตัดท่อน้ำเลี้ยงยังไงก็ไม่ขาดสิครับ

คำถามที่ว่า "นำเงินมาจากไหน?" เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วไปหลังทักษิณซื้อเรือใบ... เป็นการเคลื่อนไหวที่เฉียบขาดมาก...  ไข่แม้วทั้งหลายมั่นใจได้เลยว่าผมมีเงิน และพร้อมจะกลับมาเช็คบิลได้ทุกเมื่อ ไม่มีใครหน้าไหนทำอะไรผมได้... จงภักดีกับผมเถิด

 :slime_hmm:


ท่าทีของ"ผู้ว่าฯแบงค์ชาติ" ยังคง"เกียร์ว่าง" และเป็น"จรเข้ขวางคลอง" อยู่อย่างนี้....
พวก"ม๊อบไข่แม้ว" ยังสบายใจได้.......

ถ้าวันใด"ผู้ว่าฯแบงค์ชาติ" ปรับปรุงตนเองเหมือนอธิบดีกรมสรรพากรคนปัจจุบัน ก็เตรียมตัว"ตกงาน"ได้เลย....


ถ้าเงินซื้อหุ้น"เรือใบสีฟ้า" ผ่านฉลุยได้
เงินที่ถูก"ฟอก"แล้ว จะเป็น"หลักประกัน"ให้พวก"ม๊อบไข่แม้ว"ในอนาคตว่ายัง"ตกเบิก"ได้....




หัวข้อ: Re: **ถ้าคุณรู้จักทักษิณมานานกว่า 15 ปีจะไม่สงสัยเลยว่า เงินซื้อแมนซิตี้มาจากไหน **
เริ่มหัวข้อโดย: aoporadio ที่ 30-06-2007, 11:54
เจ๊ ธา นี่ บ้านที่เท่าไหร่ ของ ไอ่หัวปี๊ปหว่า... คะ  :slime_doubt:


ปกป้องกันจัง หรือหวังมีเอี่ยว :slime_doubt: