ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ระบอบทรราช ได้แจก ได้หว่าน เม็ดเงินโปรยลงไปอุดปากรากหญ้า ที่หวังเพียงปากท้องของตน ผ่านโครงการที่อ้างว่าอาทร ต่างๆนานา บางโครงการก็เป็นโครงการที่หลักการดูจะดี แต่การบริหารจัดการจริงๆ กลับสวนทางและไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างจริงจัง เมื่อไม่ได้อยู่ในหน้าเทศกาลหาเสียง

ระบอบทรราช ได้ให้ความแตกแยก ร้าวฉานแก่คนในชาติ สู้รบกันจากการที่มีมุมมองความคิด ความเชื่อแตกต่างกันทางการเมือง อย่างที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อนได้มากมายถึงเพียงนี้ เพราะคนคนเดียวที่แม้แต่เจ้าตัว เองยังแยกความดี-เลว ความถูก-ผิด ความควร-ไม่ควร ออกจากกันไม่เป็น

ระบอบทรราช ได้ให้สังคมไทย ก้มหน้ายอมรับการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบผิดหลักการหรือผิดจิตนารมณ์ที่แท้จริงของระบอบไป โดยสร้างคติให้เห้นว่าประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง และเสียงคนหมู่มากเท่านั้น โดยห้ามคำนึงถึง การมีส่วนร่วม การตรวจสอบ การถ่วงดุล ใดๆ อันเป็นสาระประกอบของระบอบนี้เลย

ระบอบทรราช ได้ให้ค่านิยมใหม่ว่า ความเจริญก้าวหน้า ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น คือ การเข้าถึงแหล่งทุน การแปลงสินทรัพย์เป้นทุน ต้องกู้ยืม ต้องมีเงิน ต้องกล้าใช้จ่าย ฟุ้งเฟ้อ เท่านั้นจึงจะเป็นสุข ซึ่งสวนทางกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพร่ำสอนผสกนิกรอยู่เสมอ. ที่สำคัญในช่วงระบอบอัปยศนี้ ธุรกิจสินเชื่อรายบุคคลเติบโตขึ้นมาก โดยมีบริษัทในเครือธุรกิจครอบครัวนายกเจ้าระบอบ เปิดดำเนินการปล่อยสินเชื่อเองด้วย

ระบอบทรราช ให้คนไทยครึ่งหนึ่งได้เห็น ผู้นำที่บ้าอำนาจ หูเบา เชื่อคนง่าย ปากม๋า ด่าเก่ง ขี้แย ตอแหลหน้าตาย แล้วคนไทยอีกครึ่งหนึ่งหลงชื่นชม รักและศรัทธาจนงมงาย เป็นพ่อเทวดาเทพบุตรกู้วิกฤติปากท้องตน โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่ตนได้รับ เป็นเพียงเศษเสี้ยวดินกระเด็นจากการกอบโกยขุดเหมืองประโยชน์ของคนบ้าอำนาจนั้นและพวกพ้องที่เข้ารุมสูบออกจากแผ่นดิน

ระบอบทรราช ได้ให้คนถื่อน คนถอย นักเลง ชายฉกรรจ์ชอบตีชอบต่อย พวกหัวรุนแรงขาดสติ รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบอาชีพรับจ้าง ชาวบ้านว่างงาน ได้มีงานการทำ ในยุคของการต่อสู้ทางการเมืองที่ดุเดือด โดยให้คนในสังคมปกติเดือดร้อน อกสั่นขวัญหนี แม้ในห้างใหญ่ใจกลางกรุง แม้แต่ในอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ก็หาได้ปลอดจากภัยวิธีสกปรกทางการเมือง

ระบอบทรราช ได้ให้ต่างชาติเข้ามากอบโกยหาประโยชน์จากแผ่นดินไทยได้อย่างง่ายดาย พยายามขายสมบัติชาติของคนไทยทุกคน ให้เหลือเพียงเป็นของคนไทยบางกลุ่มและต่างชาติบางประเทศเท่านั้น อีกทั้งมอบสิทธิประโยชน์ ปล่อยกู้ให้ต่างชาติง่ายๆ โดยประเทศหาได้รับประโยชน์ใดๆ เต็มที่จากการนั้น ซึ่งเทียบไม่ได้กับบางบริษัทเอกชนที่กลับได้รับผลนั้นไปเต็มๆ

ระบอบทรราช ให้เรื่องศาสนาปั่นป่วนแตกแยก และทำศีลธรรม คุณธรรม จรรยาบรรณ เป็นเรื่องตลก ใช้ไม่ได้กับการดำเนินชีวิต การทำงาน และการเมือง และให้การแข่งขัน การมุ่งเอาชนะ การหาและรักษาประโยชน์เฉพาะตนทุกวิถีทางแม้แต่การแก้กฏหมายเสียเอง การมุดช่องโหว่กฏหมาย การเลี่ยงบาลี เป็นศรีธนญชัย คือเรื่องที่ถูกต้องทำได้ และแสดงว่านี่คือคนเก่งของสังคม

ระบอบทรราช เรียกร้องให้คนทุกคนยึดในกติกา เฉพาะอันที่จะต้องเป็นประโยชน์แก่ผู้เรียกร้องนี้เท่านั้น หรือกล่าวได้ว่าบังคับให้สังคมยึดใน "กติกรุ" ตามที่ตนเองตีความให้ ยึดว่านี่คือความถูกต้องชอบธรรมที่จะต้องปฏิบัติตาม โดยหาได้สนใจเจตนารมณ์ของกฏหมายที่แท้จริง

ระบอบทรราช ปลูกฝังให้คนไทย มองปัญหาเพียงด้านเดียว มองความจริงเพียงครึ่งเดียว คิดอ่านหรือแก้ปัญหาต่างๆ เพียงแค่เปลือกนอกของปัญหาเท่านั้น และให้คิดอะไรแบบสุดขั้ว เช่น ถ้าข้าถูก-เอ็งต้องผิด, ถ้าข้าผิด-อยางมากก็ผิดเล็กน้อย-แต่เอ็งต้องโคตรเลว

...ฯลฯ...

ดูแล้วก็คงจะจริง กับคำที่มีคนกล่าวไว้ว่า ระบอบทรราช ได้ให้อะไรแก่สังคม คนไทยไว้อย่างมากมาย จนหลายคนคิดถึงอยู่เสมอ เพียงตัวอย่างข้างต้นยังเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ระบอบทรราชได้มอบไว้ให้แก่สังคมไทย และมันก็ยังคงอยุ่และดำเนินต่อไป เพราะเมื่อได้จุดติดขึ้นมาแล้วจากเชื้อที่มีท่อน้ำเลี้ยง ย่อมยากที่จะดับได้ด้วยน้ำสะอาดเพียงวิธีเดียว ...แต่ก็ยังมีสิ่งที่ระบอบทรราชไม่ได้ให้กับสังคมไทย คือ...

ระบอบทรราช ไม่ได้ให้คนไทย ใช้สติปัญญา ใช้สมองคิดไตร่ตรองด้วยเหตุด้วยผล ด้วยศีลธรรม คุณธรรม เพราะตนต้องการจะควบคุม และป้อนคำสั่ง ป้อนน้ำเลี้ยง ป้อนประโยชน์ที่จะเจียดให้อุดปาก เท่านั้น

ระบอบทรราช ไม่ได้ให้คนไทย ดำเนินชีวิตอย่างรอบคอบ รู้จักประเมินกำลังตนและเก็บออม พอใจและพอเพียง เพื่อเติบโตขึ้นไปอย่างมั่นคง ซึ่งสวนทางกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง ที่เน้นก้าวหน้าอย่างมีสติ

ระบอบทรราช ไม่ได้ให้คนไทย รู้รักสามัคคี รู้จักรวมพลังกันสร้างชาติ สร้างสังคมที่น่าอยุ่ร่วมกัน เพื่อต่อสู้ยืนหยัดในสังคมโลกอย่างมีเกียรติ ว่าประเทศดินแดนศูนย์กลางพุทธภูมิ และราชอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่นี้ผาสุกกว่าใครในโลก

และสุดท้าย...

ระบอบทรราช ไม่ได้ให้ "กระจก" แก่ทาสทรราชทั้งหลาย ที่เป็นกำลังขับเคลื่อนระบอบ ได้ส่องย้อนดูตัวเอง ได้พิจารณาสิ่งที่ตนเองได้ทำไป เทียบกับคนอื่นๆ ที่ตนกล่าวหา ว่าแท้จริงแล้วใครกันแน่คือต้นเหตุของปัญหาต่างๆ และใช้สะท้อนความดี-เลวในตัวเองออกมาให้ได้สำเนียกคิดด้วยตัวเอง

เพราะเหล่านี่แหละคือวิธีปิดกั้นไม่ให้คนคิดเป็น ไม่ให้คนเข้าอกเข้าใจผู้อื่น. เพียงเพราะต้องการจะสร้างคนให้รอแต่รับคำสั่ง รอป้อนความเชื่อตามที่เจ้าระบอบต้องการให้ทำให้เป็น รอแต่รับประโยชน์ที่จะอาทรเจียดให้เท่านั้น. อันเป็นหลักวิธีสำคัญของการชักจูงจมูกคนด้อยปัญญามาเป็นแนวร่วมฯ สร้างฐานอำนาจ ให้กับระบอบอัปยศนี้ได้ยิ่งใหญ่คับฟ้า !! ...ไม่ว่าทาสนั้นจะโง่หรือเก่งจบปริญญาจากที่ไหนมา แต่หากถูกปิดกั้นจนด้อยในปัญญาเมื่อไหร่ย่อมตกเป็นเครื่องมือ และทาสเบี้ยแก่คนบ้าอำนาจ ได้เหมือนๆ กันทั้งนั้น. เราจึงไม่แปลกใจที่เห็นคนมีการศึกษายังตกเป็นเหยื่อของระบอบทรราชนี้อย่างหัวปักหัวปำ ถอนตัวไม่ขึ้น

เห็นด้วยครับ ต้องโหวต

ปล เด๋วก็มีแถ เชื่อสิ  :slime_bigsmile: