ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: achiteer ที่ 11-06-2007, 19:05



หัวข้อ: "แม้ว" โดนเชือด! คตส.มีมติอายัดทรัพย์
เริ่มหัวข้อโดย: achiteer ที่ 11-06-2007, 19:05
"แม้ว" โดนเชือด! คตส.มีมติอายัดทรัพย์
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 มิถุนายน 2550 18:28 น.
 
 
       คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส.มีมติให้อายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อันเนื่องมาจากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีการทุจริตและประพฤติมิชอบ ร่ำรวยผิดปกติ เนื่องจากพบว่าเงินบางส่วนได้ถูกยักย้ายถ่ายโอนไป เช่น การซื้อขายหุ้น ซึ่งคงเหลืออยู่ในบัญชีเพียงประมาณ 52,884 ล้านบาทเท่านั้น อย่างไรก็ตาม อาศัยตามอำนาจของ คปค. ที่ให้อำนาจ คตส.ในการแต่งตั้งจาก คปค. ฉบับที่ 30 มีมติให้อายัดทรัพย์ในบัญชีธนาคารของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทุกสถาบัน
        ทั้งนี้ เป็นผลสรุปจากการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการซึ่งมีนายกล้านรงค์ จันทิก เป็นประธานคณะอนุกรรมการการตรวจสอบผลการบริหารประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ
        อย่างไรก็ตาม ในเอกสารมติของ คตส.ระบุว่า โดยผลจากการตรวจสอบและไต่สวนคดีต่างๆ ของคณะกรรมการ คตส.ได้ลุล่วง และยืนยันว่ามีพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กับพวก ได้ทุจริตประพฤติมิชอบ และร่ำรวยผิดปกติ ได้ทรัพย์สินโดยมิชอบและอันสมควร จากการใช้อำนาจที่เอื้อผลประโยชน์ต่อกิจการของบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นเหตุให้ได้ประโยชน์ และก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ คตส.มีการประเมินสรุปว่า พฤติกรรมทุจริตประพฤติมิชอบ รวมทั้งสิ้น 5 พฤติกรรม โดยมีพยานหลักฐานจนถึงขั้นถูกกล่าวหา 5 คดี และเกิดความเสียหายแก่รัฐ

 http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000067647
 


หัวข้อ: Re: "แม้ว" โดนเชือด! คตส.มีมติอายัดทรัพย์
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 11-06-2007, 19:10



จับตาคนใกล้ชิดและกระแสเงินของคนใกล้ชิดครับ

เช่น อดีตแกนนำนักการเมืองใกล้ชิด อย่างสุดารัตน์

หรือญาติ อย่างเยาวภา ว่ามีการเคลื่อนไหวทางการเงินเกี่ยวข้องหรือไม่?

ทนายอย่างนพดลด้วยครับ


หัวข้อ: Re: "แม้ว" โดนเชือด! คตส.มีมติอายัดทรัพย์
เริ่มหัวข้อโดย: achiteer ที่ 11-06-2007, 19:11
มติคตส.อายัดทรัพย์"ทักษิณ-พจมาน-พวก" 
18:51 น.   คตส.มีมติ ให้อายัดทรัพย์และบัญชีทรัพย์สิน ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ทุกบัญชีเงินฝากทุกธนาคาร และทุกสถาบันการเงิน กับพวกข้อหาประพฤติมิชอบ ร่ำรวยผิดปกติ ได้ทรัพย์โดยมิชอบ ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เอื้ออประโยชน์ต่อกิจการ ชินคอร์ป โดยพฤตจิการทุจริตประพฤติมิชอบ มี 5 คดี 1.การจัดซื้อที่ดินย่านรัชดา 772 ล้านบาท 2.การจัดซื้อกล้ายาง 1,140 ล้านบาท 3.การจัดซื้อ CTX 9000 จำนวน 1,500 ล้านบาท 4.โครงการเลขท้ายพิเศษ 2 ตัว 3 ตัว วงเงิน 37,790 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีพฤติการร่ำผิดปกติ การแก้ไขภาษีสรรพสามิตรกิจการโทรคมนาคม 30,667 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการแก้ไขสัมปทาน ในเครือชินคอร์ปอีกหลายกรณี อาทิ การแก้ไขสัญญา ข้อตกลงส่วนแบ่งรายได้ ค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่วงเงินประมาณ 71,677 ล้านบาท การแก้ไขสัญญา ข้อตกลงปรับเกณฑ์การตัดส่วนแบ่งรายได้ให้ TOT เอื้อแก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟเซอร์วิส จำกัด (มหาชน) 700 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังรวมถึง การขายหุ้นชินคอร์ปฯ ให้กับกลุ่มทุนเทมาแสท จำนวน 73,000 ล้านบาท ดังนั้น คตส.จึงเห็นควรสังอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากพบว่า บางส่วนได้ถึงยักย้ายถ่ายโอนแล้ว เช่น เงินค่าขายหุ้นชินคอร์ปฯ ที่คงเหลือในบัญชีกว่า 52,884 ล้านบาท นอกจากนี้ให้อายัด บัญชีเงินฝากที่ได้จากการขายชินคอร์ปฯ ให้กับกลุ่มทุนเทมาเส็ก 21 บัญชี ทั้งนี้ให้บุคคล ที่ถูกกล่าวหาและยื่นคำร้องเพื่อพิสูจน์ต่อคณะกรรมการภายใน 60 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.เป็นต้นไป
 


หัวข้อ: Re: "แม้ว" โดนเชือด! คตส.มีมติอายัดทรัพย์
เริ่มหัวข้อโดย: achiteer ที่ 11-06-2007, 19:12
คตส.มีมติอายัดทรัพย์"ทักษิณ" ถูกยักย้ายเหลือแค่52,884ล้าน
11 มิถุนายน 2550 19:05 น.
คตส.มีมติ ให้อายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวก ข้อหาประพฤติมิชอบ มี 5 คดี อายัดเงินค่าขายหุ้นชินคอร์ปฯ ที่คงเหลือในบัญชีกว่า 52,884 ล้านบาท นอกจากนี้ให้อายัด บัญชีเงินฝากที่ได้จากการขายชินคอร์ปฯ ให้กับกลุ่มทุนเทมาเส็ก 21 บัญชี ทั้งนี้ให้บุคคล ที่ถูกกล่าวหาและยื่นคำร้องเพื่อพิสูจน์ต่อคณะกรรมการภายใน 60 วัน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในเวลา 13.30 น. วันที่ 11 มิถุนายน มีการพิจารณาคดีสำคัญคือการลงมติอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว ซึ่งมีหลายคดีที่มีมูลที่เข้าข่ายอายัดทรัพย์ได้ โดยตลอดทั้งวัน ได้มีการติดต่อสถานีโทรทัศน์หลายแห่ง เพื่อเตรียมพร้อมในการถ่ายทอดสด และเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการแถลงข่าวใหญ่ของ คตส.ครั้งนี้ โดยได้มีการประสานงานไปยังสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี เพื่อถ่ายทอดสด และให้เจ้าหน้าที่แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าให้เตรียมความพร้อม โดยในช่วงเย็นจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ด้าน คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา หนึ่งใน คตส.กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "วันนี้อาจมีข่าวใหญ่จาก คตส."

ทั้งนี้ ในเวลานี้ได้มีหลายคดีที่มีการกล่าวหา และส่งอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาสั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา โดยเฉพาะคดีทุจริตซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก และการเลี่ยงภาษีการขายหุ้นชินคอร์ป

มีรายงานว่า มาตรการในการอายัดทรัพย์สินของครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ ดังกล่าวยังได้รับการเห็นชอบจากการหารือร่วมกันของบุคคล 3 คน คือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงที่สนับสนุนกลุ่มม็อบให้ก่อความวุ่นวายเพื่อต่อรองทางการเมืองและมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยการหารือของทั้งสามคนได้ข้อยุติเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังการตีกอล์ฟร่วมกัน

กระทั่งเวลา 18.00 น. มีการแถลงข่าวโดยที่ประชุม คตส.มีมติให้อายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คุณหญิงพจมาน ชินวัตร กับพวก ในข้อหาทุจริตประพฤติมิชอบ ร่ำรวยผิดปกติ ได้ทรัพย์โดยมิชอบ ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เอื้อประโยชน์ต่อกิจการชินคอร์ป โดยพฤติการณ์ทุจริตประพฤติมิชอบ มี 5 คดี 1.การจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ 772 ล้านบาท 2.การจัดซื้อกล้ายาง 1,140 ล้านบาท 3.การจัดซื้อซีทีเอ็กซ์ 9000 จำนวน 1,500 ล้านบาท 4.โครงการเลขท้ายพิเศษ 2 ตัว 3 ตัว วงเงิน 37,790 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ การแก้ไขภาษีสรรพสามิตกิจการโทรคมนาคม 30,667 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการแก้ไขสัมปทานในเครือชินคอร์ปอีกหลายกรณี อาทิ การแก้ไขสัญญา ข้อตกลงส่วนแบ่งรายได้ ค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่วงเงินประมาณ 71,677 ล้านบาท การแก้ไขสัญญา ข้อตกลงปรับเกณฑ์การตัดส่วนแบ่งรายได้ให้ทีโอทีเอื้อแก่บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) 700 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังรวมถึงการขายหุ้นชินคอร์ปให้แก่กลุ่มทุนเทมาเซค จำนวน 7.3 หมื่นล้านบาท ดังนั้น คตส.จึงเห็นควรสั่งอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากพบว่า บางส่วนได้ยักย้ายถ่ายโอนแล้ว เช่น เงินค่าขายหุ้นชินคอร์ป ที่คงเหลือในบัญชีกว่า 52,884 ล้านบาท นอกจากนี้ ให้อายัดบัญชีเงินฝากที่ได้จากการขายชินคอร์ปให้แก่กลุ่มทุนเทมาเซค 21 บัญชี ทั้งนี้ ให้บุคคลที่ถูกกล่าวหาและยื่นคำร้อง เพื่อพิสูจน์ต่อคณะกรรมการภายใน 60 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน เป็นต้นไป

นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. กล่าวว่า คตส.มีมติให้อายัดเงินในบัญชีของ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ทุกบัญชี ทุกสถาบันการเงิน จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สำหรับบุคคลที่อ้างเป็นเจ้าของที่แท้จริง มิใช่เป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยมิชอบ ก็ให้ยื่นคำร้องภายใน 60 วัน โดยคำสั่งของ คตส.ในการอายัดทรัพย์ครั้งนี้เป็นไปตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 30

โฆษกรัฐปัดข่าวนายกฯสั่งยึดทรัพย์

ร.อ.น.พ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี สั่งอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่มีเรื่องนี้ ยืนยันว่าเรื่องใดที่รัฐบาลต้องดำเนินการ จะต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย เพราะเรายึดหลักนิติธรรม และนิติรัฐเป็นหลัก

คมช.ชี้อายัดทรัพย์น่าจะเป็นผลดี

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) แถลงผลประชุม คมช.ที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.เป็นประธานการประชุม ว่า ที่ประชุมไม่ได้มีการหารือถึงการอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพียงแต่มีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่า การอายัดทรัพย์น่าจะทำให้เกิดผลดี แต่บางคนก็บอกว่า ณ เวลานี้ เขาคงไม่ใช้เงินตรงนี้ แต่ใช้เงินจากที่อื่น ซึ่งต่างฝ่ายต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไป มีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่สำหรับ คมช.ไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้ กำลังปรึกษาหารือกันว่า มีความเหมาะสมหรือไม่เพียงใด

ทนายโวย คตส.ไม่มีสิทธิอายัดทรัพย์

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและครอบครัวชินวัตร กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า ที่ประชุมค ตส.อาจมีการสั่งอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ฝ่ายกฎหมายได้ศึกษาข้อกฎหมายอย่างละเอียดยืนยันว่า คตส.ไม่มีอำนาจยึดทรัพย์ตามประกาศ คปค. เพราะการยึดทรัพย์จะเกิดขึ้นได้ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร โดยอธิบดีกรมสรรพากรจะเป็นผู้ยึดทรัพย์ กรณีของภาษีที่ไม่ยื่นหลักทรัพย์ค้ำประกันเท่านั้น ส่วนการอายัดทรัพย์ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะต้องเป็นความผิดมูลฐาน

ด้าน นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำกลุ่มไทยรักไทย กล่าวถึงข่าวที่ คตส.จะทำการอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า ไม่ทราบรายละเอียด ต้องไปถาม คตส. แต่บอกได้ว่าการใช้กฎหมายจะถูกต้องเป็นธรรมหรือไม่นั้น ระยะเวลาที่ใช้อาจบอกไม่ได้ แต่หากเวลาผ่านไประยะหนึ่ง จะมีการตรวจสอบได้ว่าอำนาจที่ใช้ไปถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้ ตามที่ คตส.มีการกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ เช่น คดีที่ดินถนนรัชดาฯ ก็ไม่เห็นว่าจะมีการสืบสาวไปถึงคนที่เกี่ยวข้องเลย รวมทั้งคดีอื่นๆ ด้วย
 


หัวข้อ: Re: "แม้ว" โดนเชือด! คตส.มีมติอายัดทรัพย์
เริ่มหัวข้อโดย: room5 ที่ 11-06-2007, 19:15
ควายเหนือควายจะต้องตกเลือดตายแน่ๆ :slime_fighto: :slime_fighto: :slime_fighto:


หัวข้อ: Re: "แม้ว" โดนเชือด! คตส.มีมติอายัดทรัพย์
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 11-06-2007, 19:26
วู้วู้ การเมืองตอนนี้มันจริงๆ

แต่กลัวม็อบกระจอกจะเอาเงินชุดสุดท้าย ก่อกวนเมือง


หัวข้อ: Re: "แม้ว" โดนเชือด! คตส.มีมติอายัดทรัพย์
เริ่มหัวข้อโดย: achiteer ที่ 11-06-2007, 20:27
'ทักษิณ'ลั่นตั้งทีมทนายสู้ ฟ้องแพ่ง-อาญา'คตส.'ถึงที่สุด
 
11 มิถุนายน พ.ศ. 2550 19:39:00
 
"นพดล"ระบุ'ทักษิณ'สั่งตั้งทีมทนายสู้ขอฟ้องแพ่ง-อาญา"คตส." ถึงที่สุด ลั่นไม่รับประกันม็อบบานปลาย แต่คมช.-คตส. ต้องรับผิดชอบ ยืนยันแทน"นาย"เงินได้มาสุจริต

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทราบเรื่องนี้แล้ว และท่านรู้สึกว่าเป็นควาพยายามกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะตอนแรกเอาผิดพ.ต.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ไม่ได้ จึงมาใช้ช่องทางนี้ อย่าไรก็ดีเราได้ตั้งทีมทนายโดยจะขอฟ้องกลับคตส. ทั้งทางแพ่งและทางอาญาจนถึงที่สุด

ส่วนตัวเลขจำนวนเงินที่ฟ้องเรียกค่าเสียหายนี้ยังคำนวณไม่ได้ต้องขอตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินก่อนว่า มีจำนวนเท่าไรเพาะถือว่าเป็นการเสียโอกาสในการประกอบธุรกิจระหว่างที่มีการอายัดทรัพย์สิน เรื่องนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการกรรโชก ประทุษร้ายหลักนิติธรรม อีกทั้งการดำเนินการเช่นนี้ยังเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ประเทศไทย และการที่กรรมการคตส. ระบุว่า  การอายัดทรัพย์เป็นผลจากการตรวจสอบคดีทุจริต 5 คดี ก็เป็นการอ้างที่ขาดน้ำหนัก พยายามเหวี่ยงแหให้ถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ได้ ยังเป็นการเด็ดปีกสร้างความลำบากให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่คำนึงถึงหลักกฎหมาย   

"ขณะที่ผมรายงานท่าน ท่านอยู่ที่ฮ่องกงก่อนจะเตรียมเดินทางไปยังอังกฤษ ท่านกำลังทานข้าวอยู่ ท่านเปรยว่า ต่อไปคงต้องขอเงินลูก และยืนยันว่า เงินที่ได้มาด้วยความสุจริต  สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินได้หมด และไม่คิดว่า จาก 5 ปีที่เคยเป็นถึงอดีตนายกฯ เคยทุ่มเทให้กับประเทศชาติกลับได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ แต่ท่านไม่ได้ท้อแท้ หรือมีอารมณ์เกรี้ยวกราดระหว่างที่ผมรายงานท่าน” นายนพดล กล่าว

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ห่วงหรือไม่ว่า กรณีนี้จะทำให้อารมณ์ม็อบบานปลายขึ้น นายนพดลกล่าวว่า หลังจากนี้คงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คมช.และคตส. ต้องรับผิดชอบ 
 
http://www.bangkokbiznews.com/2007/06/11/WW10_WW10_news.php?newsid=78315


หัวข้อ: เปิดคำสั่งคตส.อายัดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณกับพวก(ส่วนแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: achiteer ที่ 11-06-2007, 20:29
เปิดคำสั่งคตส.อายัดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณกับพวก(ส่วนแรก)
 
11 มิถุนายน พ.ศ. 2550 19:13:00
 
มติคตส.อายัดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัว ในบัญชีขายหุ้นชินคอร์ป และบัญชีอื่นทุกสถาบันการเงิน เปิดให้ยื่นค้านได้ภายใน 60 วัน

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : มติคณะกรรมการตรวจสอบ

เรื่อง ให้อายัดทรัพย์ของพันตำรวจโท ทักษิณ  ชินวัตร กับพวก

ด้วยผลจากการตรวจสอบและไต่สวนในคดีต่างๆ ของ คณะกรรมการตรวจสอบ (คตส.) ได้ลุล่วงถึงขั้นมีพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับพวก  ได้ทุจริตประพฤติมิชอบ และร่ำรวยผิดปกติได้ทรัพย์สินโดยมิสมควรจากการใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ต่อกิจการของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นเหตุให้ได้ประโยชน์ หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐโดยรวม ดังนี้

พฤติการณ์ทุจริตประพฤติมิชอบ

มีพยานหลักฐานจนถึงขั้นถูกกล่าวหา ๕ คดี และ เกิดความเสียหายต่อรัฐดังนี้

๑. การทุจริตโครงการจัดซื้อที่ดินมูลค่าตามสัญญา ๗๗๒ ล้านบาท จากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย 

๒. การจัดซื้อกล้ายางมูลค่าตามสัญญา ๑,๔๔๐ ล้านบาท ของกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

๓. การทุจริตโครงการจัดซื้อจัดจ้างปรับเปลี่ยนสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร และเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด CTX ๙๐๐๐ รัฐเสียหายประมาณ๑,๕๐๐ ล้านบาท

๔. โครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย ๓ ตัว และ ๒ ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล  รัฐเสียหาย ประมาณ ๓๗,๗๙๐ ล้านบาท

๕. การให้เงินกู้โดยทุจริตของผู้บริหารธนาคารกรุงไทย รัฐเสียหายประมาณ ๕,๑๘๕ ล้านบาท

พฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ

มีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และภริยา ยังคงถือไว้ซึ่งหุ้นธุรกิจสัมปทานของ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นต้นมา แต่ได้ให้บุตร ญาติ หรือบุคคลผู้ใกล้ชิดเป็นผู้ถือหุ้นเอาไว้แทน และยังได้ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ต่อกิจการชินคอร์ปหลายประการ ดังนี้

๑. แก้ไขสัญญาข้อตกลงลดส่วนแบ่งรายได้ค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรจ่ายเงินล่วงหน้า (Prepaid) เพื่อประโยชน์แก่บริษัท แอดวานส์ อินโฟเซอร์วิซ จำกัด (AIS) ทำให้รัฐเสียผลประโยชน์ ตลอดอายุสัมปทานเป็นเงิน ประมาณ ๗๑,๖๖๗ ล้านบาท

๒. แก้ไขสัญญาข้อตกลงปรับเกณฑ์การตัดส่วนแบ่งรายได้ให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เพื่อเอื้อประโยชน์แก่บริษัท แอดวานส์ อินโฟเซอร์วิซ จำกัด (AIS) ทำให้รัฐเสียหาย

ประมาณ ๗๐๐ ล้านบาท

๓. ตราพระราชกำหนดภาษีสรรพสามิตในกิจการโทรคมนาคม และได้มีมติคณะรัฐมนตรีแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต เพื่อประโยชน์แก่บริษัท แอดวานส์ อินโฟเซอร์วิซ จำกัด (AIS) ทำให้วิสาหกิจของรัฐเสียหายประมาณ ๓๐,๖๖๗ ล้านบาท

๔. ให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เช่าและลงทุนระบบคลื่นความถี่ดาวเทียมของบริษัท ชิน แซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) โดยไม่จำเป็นเป็นเหตุให้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)รัฐเสียหาย เป็นจำนวนเงินประมาณ ๗๐๐ ล้านบาท

๕. สั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) ให้รัฐบาลสหภาพพม่ากู้เงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการของบริษัทชิน แซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) ในจำนวนเงินกู้ประมาณ ๑,๐๐๐ ล้านบาท 

๖. อาศัยการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นำผลประโยชน์ของชาติแลกเปลี่ยนบุกเบิกตลาดธุรกิจดาวเทียมให้แก่สายธุรกิจดาวเทียมในเครือบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  เพิ่มมูลค่าธุรกิจดาวเทียมของบริษัทชิน แซทเทิลไลท์ เป็นอันมาก

การใช้อำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของตนเองดังกล่าว มีทั้งที่พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เกี่ยวข้องสั่งการโดยตรง หรือละเว้นไม่กำกับสั่งการดูแลมีความพยายามหลีกเลี่ยงขั้นตอนตรวจสอบตามกฎหมายทุกครั้ง ยังผลเป็นประโยชน์อัน       มิควรได้ตกเป็นมูลค่าแฝงฝังอยู่ในหุ้นของตน จนมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างผิดปกติตลอดเวลา

ในท้ายที่สุดก็ได้ใช้อำนาจหน้าที่ผลักดันให้แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยเพิ่มเติมให้บุคคลต่างด้าวถือหุ้นในบริษัทด้านกิจการโทรคมนาคม จากเดิมไม่เกินร้อยละ ๒๕ เป็นไม่เกินร้อยละ ๕๐ พร้อม ๆ กับการเจรจาเพื่อขายหุ้นที่มีชื่อครอบครัวและบริวารของตนเป็นเจ้าของอยู่ร้อยละ ๔๙.๒ ให้แก่กองทุนเทมาเส็กของประเทศสิงค์โปร์ ซึ่งเมื่อพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๔๙  ก็ได้ดำเนินการขายหุ้นดังกล่าวให้แก่กองทุนเทมาเส็กในวันจันทร์ที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๔๙ ได้เงินจากการขายหุ้นทั้งหมด เป็นจำนวน ๗๓,๒๗๑ ล้านบาท

คำสั่งอายัดทรัพย์ 

คณะกรรมการตรวจสอบ จึงเห็นว่า ผลการดำเนินการในเรื่องที่ตรวจสอบและไต่สวนดังกล่าวในปัจจุบัน มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีการทุจริตและประพฤติมิชอบ และร่ำรวยผิดปกติ และเนื่องจากได้พบว่าเงินบางส่วนได้ถูกยักย้ายถ่ายโอนแล้ว   เช่นเงินค่าขายหุ้นชินคอร์ปก็คงเหลืออยู่ในบัญชีประมาณ ๕๒,๘๘๔  ล้านบาทเท่านั้น

อาศัยอำนาจตามความในประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ ๓๐ ลงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๙ เรื่อง การตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ข้อ ๕ วรรคสอง และข้อ ๘ จึงมีมติให้อายัดเงิน     ในบัญชีธนาคารหรือสถาบันการเงิน  ดังนี้

คำสั่งคณะกรรมการตรวจสอบที่ คตส.๐๑๖/๒๕๕๐  ให้อายัดบัญชีเงินฝากที่ได้จากการขายหุ้นชินคอร์ป  ให้แก่กลุ่มทุนเทมาเส็คดังนี้

๑. บัญชีเลขที่ ๑๑๑-๑-๑๑๖๐๔-๑ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน

๒. บัญชีเลขที่ ๑๑๑-๒-๒๗๗๒๒-๒ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน

๓.บัญชีเลขที่ ๒๐๘-๑-๐๐๐๒๒-๙ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาย่อยเซ็นจูรี่

๔. บัญชีเลขที่ ๑๑๑-๒-๓๑๐๐๘-๘ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน

๕. บัญชีเลขที่ ๑๑๑-๑-๑๓๐๙๒-๒ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน

๖.  บัญชีเลขที่ ๐๐๑-๑-๕๕๒๓๒-๕ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาชิดลม

๗. บัญชีเลขที่ ๑๑๑-๒-๔๑๕๒๔-๔ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน

๘. บัญชีเลขที่ ๑๑๑-๑-๑๒๖๓๑-๓ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน

๙. บัญชีเลขที่ ๑๑๑-๑-๑๒๒๒๒-๐ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน

๑๐. บัญชีเลขที่ ๐๐๑-๑-๕๕๑๘๘-๒ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาชิดลม

๑๑. บัญชีเลขที่ ๐๑๔-๑-๑๑๓๐๐-๙ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)สาขาพหลโยธิน

๑๒. บัญชีเลขที่ ๑๑๑-๒-๗๘๑๘๘-๑ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน

๑๓. บัญชีเลขที่ ๑๑๑-๑-๑๑๑๘๘-๙ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน

๑๔. บัญชีเลขที่ ๑๑๑-๑-๑๓๐๙๕-๖ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน

๑๕. บัญชีเลขที่ ๐๑๔-๒-๔๑๓๓๕-๕ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาพหลโยธิน

๑๖. กองทุนธนบดี ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในนามนายพานทองแท้ ชินวัตร

๑๗. กองทุนธนบดี ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในนามนางสาวพินทองทา ชินวัตร

๑๘. บัญชีเลขที่ ๑๒๗-๒-๓๗๓๔๒-๒ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาซอยอารีย์ฯ

๑๙. บัญชีเลขที่ ๑๒๗-๒-๓๗๓๔๓-๐ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาซอยอารีย์ฯ

๒๐. บัญชีเลขที่ ๑๒๗-๒-๓๗๒๘๗-๙ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาซอยอารีย์ฯ

๒๑. บัญชีเลขที่ ๑๔๖-๒-๓๑๐๘๑-๒ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาราชวัตร

คำสั่งคณะกรรมการตรวจสอบ ที่ คตส. ๐๑๗/๒๕๕๐   ให้อายัดเงินในบัญชีเงินฝากของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ทุกบัญชีเงินฝาก ทุกธนาคาร และทุกสถาบันการเงิน

การอายัดทรัพย์ตามคำสั่งทั้งสองนี้ให้อายัดไว้จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

อนึ่ง บุคคลใดกล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าของที่แท้จริงของทรัพย์สินที่อายัดตามคำสั่งดังกล่าว และมิใช่ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด หรือมิได้เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติ  ให้บุคคลนั้นยื่นคำร้องเพื่อพิสูจน์ต่อคณะกรรมการตรวจสอบ ภายใน ๖๐ วัน นับแต่

วันออกคำสั่งนี้

                                                                                         วันที่ ๑๑ มิถุนายน  ๒๕๕๐
 
 


หัวข้อ: Re: "แม้ว" โดนเชือด! คตส.มีมติอายัดทรัพย์
เริ่มหัวข้อโดย: achiteer ที่ 11-06-2007, 20:30
เปิดคำสั่งอายัดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณกับพวก(ส่วนที่สอง)
 
11 มิถุนายน พ.ศ. 2550 19:19:00
 

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : คำสั่งคณะกรรมการตรวจสอบ

ที่ คตส.        /๒๕๕๐

เรื่อง  อายัดทรัพย์สินของพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร 

ด้วยคณะกรรมการตรวจสอบในการประชุมครั้งที่ ๒๔/๒๕๕๐ เมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๐ มีมติว่าจากการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้กระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือร่ำรวยผิดปกติ

อาศัยอำนาจตามความในประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ ๓๐ ลงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙ ข้อ ๕ และข้อ ๘ คณะกรรมการตรวจสอบ จึงออกคำสั่งอายัดเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร และสถาบันการเงิน           ของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ทุกบัญชี ทุกธนาคาร และทุกสถาบันการเงิน ไว้ก่อน และให้ทุกธนาคาร และสถาบันการเงินส่งรายงานบัญชี รายละเอียดการฝากถอนเงินของแต่ละบัญชี ตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๔ จนถึงปัจจุบันต่อคณะกรรมการตรวจสอบ

 

การอายัดทรัพย์ตามคำสั่งนี้ ให้อายัดไว้จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง อนึ่ง บุคคลใดกล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าของที่แท้จริงของทรัพย์สินที่อายัดตามคำสั่งดังกล่าว และมิใช่ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด หรือมิได้เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติ ให้บุคคลนั้นยื่นคำร้องเพื่อพิสูจน์ต่อคณะกรรมการตรวจสอบ ภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันออกคำสั่งนี้

ทั้งนี้  ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

สั่ง  ณ  วันที่ ๑๑ มิถุนายน  พ.ศ. ๒๕๕๐     

(นายนาม  ยิ้มแย้ม)

ประธานกรรมการตรวจสอบ
 
 


หัวข้อ: Re: "แม้ว" โดนเชือด! คตส.มีมติอายัดทรัพย์
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 11-06-2007, 22:03
"แม้ว" โดนเชือด! คตส.มีมติอายัดทรัพย์..... 

คณะกรรมการ คตส.ช่วยแก้หน้า
ไม่ให้"แม้ว" เป็น"เด็กเลี้ยงแกะ"
โกหกซื้อ "แมนฯ ซิติ" อีก........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า