ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 01-06-2007, 07:17



หัวข้อ: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 01-06-2007, 07:17
1. ไม่ใช่โทษอาญาเพิ่มโทษย้อนหลังได้ ต่อไปคงมีเพิ่มค่าปรับย้อนหลังกันตะบี้ตะบัน
2. ได้รับโปรดเกล้าทำหน้าที่ศาลหนึ่งสามารถไปทำหน้าที่อีกศาลได้โดยไม่ต้องโปรดเกล้าอีก
    ต่อไปได้รับการโปรดเกล้าตำแหน่งหนึ่งคงตีความว่าทำหน้าที่อื่นที่ต้องโปรดเกล้าได้ด้วย
    โดยไม่ต้องเสียเวลาโปรดเกล้าใหม่
3. ยกคำสั่งคณะปฏิวัติเป็นประเพณีการปกครองแบบประชาธิปไตยของไทย ต่อไปคงได้มี
    การปฏิวัติอยู่คู่การปกครองเมืองไทยเพราะยกระดับให้ดูชอบธรรม
4. ใช้หลักคำบอกเล่าพยานและสรุปว่าใครได้ประโยชน์คนนั้นเป็นผู้ผิด ต่อไปบุคคลที่ 1 มี
    ความแค้นบุคคลที่ 2 บุคคลที่ 1 เกิดมองหน้าบุคคลที่ 2 มีพยานบุคคลที่ 3 เห็น แต่บุคคล
    ที่ 2 กลับบ้านกินข้าวติดคอตายเอง บุคคลที่ 3 ให้การว่าเห็นบุคคลที่ 1 มองหน้าบุคคลที่ 2
    บุคคลที่ 1 จะผิดเพราะบุคคลที่ 1 ได้ประโยชน์
5. การด่ากันถ้าไม่ได้คิดเองจะไม่ผิด ต่อไปให้คนข้างๆ ด่าจำขี้ปากมาด่าต่อได้สบายใจ
6. อยากยุบพรรคใหญ่แค่ใส่ร้ายกรรมการคนเดียวก็ทำได้แล้ว ไม่ต้องรอพิสูจน์จากศาลอาญา
    ว่ากรรมการพรรคคนนั้นทำผิดจริง เนื่องจากความผิดนั้นเป็นความผิดร้ายแรงมีโทษทางอาญา
    ใช้หลักแค่เชื่อได้ว่า ก็สามารถทำลายล้างทางการเมืองล่วงหน้าก่อนศาลอาญาตัดสินได้


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: นู๋เจ๋ง ที่ 01-06-2007, 08:15
นั่นแน่ นักกฎหมายตีความคำสั่งศาล

หมิ่นศาล!

ให้นั่ง นอน ฟัง คำวินิจฉัยสบายๆ ที่บ้านยังไม่สำนึก
สงสัยต้องจับเข้าห้องแคบๆ มีลูกกรงให้ตั้งใจฟังใหม่อีกทีล่ะมั้ง

ใช้คำว่าใส่ร้ายกรรมการพรรค ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

ทำไมกรรมการผู้บริหารจะรับแต่เงิน รับแต่ความชอบเล่า ความผิดนี่จะไม่รับกันบ้างเลยรึ



หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: irq5 ที่ 01-06-2007, 08:32
 :slime_bigsmile:

เป็นบรรทัดฐานว่า  ถึงคนจะรักเอ็ง   แต่ชอบโกง เอาปรียบ คนส่วนน้อยที่เหลือ ไปเรื่อยๆ 

ก็ซวย


หัวข้อ: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้ทรท.อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 01-06-2007, 08:38


ขอแค่ความเห็นเดียวครับ จากนั้นมีใครมาว่าผมในกระทู้นี้ก็จะไม่ตอบโต้ :slime_v:


พรรคทรท.ถูกยุบไปแล้ว บรรดาอดีตกรรมการบริหารพรรคและพวกดื้อด้านตะแบงแถไถสมควรอายไปชั่วลูกชั่วหลาน


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: THE THIRD WAY ที่ 01-06-2007, 08:58

ได้ฟังคำอธิบายหรือเปล่าครับ


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: jrr. ที่ 01-06-2007, 09:00
ถ้าไม่คิดที่จะยอมรับคำตัดสิน(ที่ไม่ถูกใจ)...ตั้งแต่ต้น

ก็ไม่น่าจะเข้าไปนั่งฟังกันสลอนให้เมื่อยตูด....!!!


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 01-06-2007, 09:12
เรื่องกฎหมายย้อนหลังก็มีบางฉบับประกาศใช้อยู่ก่อนนานแล้ว อย่างพรบ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงินที่ประกาศใช้ มีผลย้อนหลังนะครับ แถมยังอายัด ยึดทรัพย์ผู้กระทำผิดได้อีกด้วย ทำไมไม่เห็นแถเอามาประท้วงบ้างครับ

แล้วกฎหมายอาญาก็ยังมีผลย้อนหลังได้นะครับ แต่เฉพาะในกรณีที่เป็นคุณ อย่างสมมุติว่าวันนี้แถไปฆ่าคนตายติดคุก10ปี ระหว่างจำคุกมีพรบ.ออกมายกเลิกกฎหมายอาญาเรื่องการฆ่าคนไม่ผิด แถก็จะได้รับคุณแห่งการยกเลิกกฎหมายเรื่องการฆ่าคน ส่งผลให้แถต้องถูกปล่อยตัวทันที(สมมุตินะครับ เพื่อให้เห็นผลย้อนหลังของข้อกฎหมาย) ทั้งนี้ขอยืนยันว่า ถ้าไม่ใช่หลักกฎหมายอาญา รัฐอาจออกกฎหมายย้อนหลังได้หากเป็นเรื่องที่จำเป็นต่อความมั่นคงของรัฐครับ

ข้ออื่นๆรอคนอื่นมาตอบละกันนะ


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: buntoshi ที่ 01-06-2007, 09:31
พวกเสียผลประโยชน์ ก็ต้องเดือดร้อนเป็นธรรมดา ประชดประชัน หมิ่นศาล เกิดมาก็มีพวก ทรราชไทยนี่แหล่ะ ที่หมิ่นศาลที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา

เอาหล่ะปล่อยให้ซักวันสองวันตามสบาย

อยากตายก็ตายได้นะไม่ได้ห้าม


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: monty ที่ 01-06-2007, 09:38
พวกหน้าเหลี่ยมรู้จักคำว่าอับอายด้วยหรือ   :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

เช้าวันพิพากษา มันยังบอกว่าจะยอมรับและเคารพในคำตัดสิน
พอผลออกมาไม่ถูกใจ  มันบอกไม่ยุติธรรมเฉย


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 01-06-2007, 09:42
ข้อ2

ถ้าในหลวงทรงโปรดเกล้ามา ป่านนี้คงรัดตัวไทยรักไทยยิ่งกว่านี้อีกนะครับ  :slime_bigsmile:

ข้อ3

ประกาศของคณะปฎิวัติถือว่าเป็นกฎหมายครับ ทุกวันนี้ก็ยังมีฉบับเก่าๆบางฉบับยังใช้อยู่ สาเหตุที่เป็นกฎหมายเพราะสภาพสังคมในขณะนั้นแม้จะไม่ใช่ประชาธิปไตยแต่ถือว่าเป็นคณะบุคคลที่เข้าทำการรัฐประหารและมีอำนาจในมือ ฉะนั้นประกาศของคณะปฎิวัติทุกฉบับจึงเปรียบเสมือนกฎหมายที่ประชาชนต้องปฎิบัติตาม การตัดสินคดีในศาลผมเห็นบ่อยไปที่อัยก่อนส่งฟ้อง มีประกาศคณะปฎิวัติปนมาในมาตราความผิดด้วย ตรงนี้ผมไม่ถือว่าผิดแปลกอะไร

ข้อ4

ความผิดที่ปรากฎเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วไป เจตนาของทร.ก็เลวทรามมาตั้งแต่แรก จ้างพรรคเล็กลงสมัคร กล้องวงจรปิดก็จับภาพไว้ พฤติการณ์ก็คาดเดาได้ว่าใครจะได้รับผลประโยชน์หากกระทำลงไป หากไม่มีผลประโยชน์ย่อมไม่กระทำ พยานหลักฐานก็ชี้ชัดเจน แถลองฟังคำวินิจฉัยของศาลอีกทีดีไหมครับ

ข้อ5

ผมไม่รู้ว่าแถหมายถึงตอนไหน ถ้าหมายถึงตอนที่ศาลพูดว่า "ไอ้เอี้ยๆๆ"นั่นล่ะก็ ในคดีหมิ่นประมาท มันก็จะเป็นต้องเขียนคำที่หมิ่นลงในฟ้องให้ชัดเจนครับ และกรณี่ศาลอ่าน ก็จำเป็นต้องอ่านถ้อยคำที่ว่าหมิ่นประมาทนั้นด้วย หลักการนี้ใครๆก็รู้ทั้งนั้นครับ

ข้อ6

กรรมการบริหารพรรคต้องตระหนักสิครับว่าการกระทำของตนเองอาจส่งผลถึงพรรคได้ ในกรณีนี้พล.อ.ธรรมรักษ์กับนายพงศํกดิ์จ้างพรรคเล็กลงสมัครแข่งกับพรรคทรท. ไม่ใช่ว่า2คนนี่ได้ประโยชน์เท่านั้นนี่ครับ ที่ได้ประโยชน์คือพรรคทรท.ทั้งพรรค ดังนั้นการกระทำของ2คนนี่จึงถือได้ว่าทำในนามของพรรคเพราะพรรคไดประโยชน์ เมื่อศาลตัดสินออกมาจึงต้องยุบพรรคไงครับ

ผมว่าแถไปเอาคำพิพากษาคดียุบพรรคปชป.กับทรท.มาอ่านอีกทีเถอะครับ แถอาจหายโง่ขึ้นบ้าง


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 01-06-2007, 09:43
พวกหน้าเหลี่ยมรู้จักคำว่าอับอายด้วยหรือ   :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

เช้าวันพิพากษา มันยังบอกว่าจะยอมรับและเคารพในคำตัดสิน
พอผลออกมาไม่ถูกใจ  มันบอกไม่ยุติธรรมเฉย


นี่คือตัวอย่างของอคติชนที่ไม่มีปัญญาในการแยกแยะระหว่างการยอมรับในคำตัดสิน กับ การวิจารณ์มาตรฐานของคำตัดสิน


สังเวชจายยยยอ่ะ :slime_shy:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: varada ที่ 01-06-2007, 09:52
ที่ควรจะอายคือพวกที่ถูกศาลประจานมากกว่า
แต่คงไม่มั้ง.........อย่างหนาแล้วนี่

อ้อบอกให้นิดนะ วันนั้นหน่ะ ช่อง5ขึ้นตัววิ่ง(คำแปล)
เป็นภาษาปะกิตด้วยหล่ะ เพราะงั้นเพื่อนต่างชาติที่ทำงานเรา
เค้าก็เลยอ่านรู้เรื่อง(ชนิดเราไม่ต้องคอยแปลให้เมื่อย ยิ่งแปลยากๆอยู่
พวกสำนวนแบบนี้)
เพราะงั้นเค้าไม่แปลกใจที่ทรท.โดนยุบ :slime_whistle:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 01-06-2007, 09:55

นี่คือตัวอย่างของอคติชนที่ไม่มีปัญญาในการแยกแยะระหว่างการยอมรับในคำตัดสิน กับ การวิจารณ์มาตรฐานของคำตัดสิน


สังเวชจายยยยอ่ะ :slime_shy:

วิจารณ์มาตรฐานของคำตัดสินจริงเหรอ แล้วที่จ๊ะชอบพูดว่าพวกนี้ไม่ใช่ศาลล่ะ เป็นการวิจารณ์มาตรฐานคำตัดสินด้วยรึเปล่า


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: Ja-Ded ที่ 01-06-2007, 09:57
ก็แค่คนเสียผลประโยชน์ จากคำพิพากษา ออกมาหาข้อแก้ตัว

สมมตินะครับสมมติ ว่าถ้าปชป.ถูกยุบ แต่ ทรท.ไม่โดน แต่เหตุผลเดียวกันนี้ ลุงแถจัง จะออกมาแก้ต่างให้ ปชป.ไหนหนอ


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: samepong(ยุ่งแฮะ) ที่ 01-06-2007, 10:06
อ่านคำวินิจฉัยดีๆๆอีกรอบไหมครับ ว่าตุลาการทั่น ให้รายละเอียดไว้ครบแล้ว

อ่านให้หมดตรง4ประเด็นสุดท้ายนะครับแล้วจะเห็นว่าคำแก้ต่างนั้น เหมือนคุณเลยครับ คือใช้วิธี แถไปแก้ต่างเอา
ถ้าคุณชอบแถ คิดว่าไม่ยุติธรรมแล้ว การกระทำการจ้างพรรคเล็กนั้น เหมาะสมต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยใช่ไหมครับ

การเลือกตั้งเป็นการเลือกเพื่อให้ได้ผู้นำที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆหรือครับ จำประวัติศาสตร์ได้ไหมครับ ครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ เอดอฟ ฮิตเลอร์ได้รับเลือกโดยกระบวนการประชาธิปไตย แต่ทำไมคนทั้งโลกบอกว่า เค้าเป็นเผด็จการ คำตอบนี้ฝั่งในใจไม่ต้องตอบ ผมกลัวคุณตอบแบบแถๆ ใส่ผม ผมกลัวเจงๆ


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: Ja-Ded ที่ 01-06-2007, 10:16
อ่านคำวินิจฉัยดีๆๆอีกรอบไหมครับ ว่าตุลาการทั่น ให้รายละเอียดไว้ครบแล้ว

อ่านให้หมดตรง4ประเด็นสุดท้ายนะครับแล้วจะเห็นว่าคำแก้ต่างนั้น เหมือนคุณเลยครับ คือใช้วิธี แถไปแก้ต่างเอา
ถ้าคุณชอบแถ คิดว่าไม่ยุติธรรมแล้ว การกระทำการจ้างพรรคเล็กนั้น เหมาะสมต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยใช่ไหมครับ

การเลือกตั้งเป็นการเลือกเพื่อให้ได้ผู้นำที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆหรือครับ จำประวัติศาสตร์ได้ไหมครับ ครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ เอดอฟ ฮิตเลอร์ได้รับเลือกโดยกระบวนการประชาธิปไตย แต่ทำไมคนทั้งโลกบอกว่า เค้าเป็นเผด็จการ คำตอบนี้ฝั่งในใจไม่ต้องตอบ ผมกลัวคุณตอบแบบแถๆ ใส่ผม ผมกลัวเจงๆ

โดนใจจะเด็ดอย่างแรงครับ  :slime_v: :slime_v:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 01-06-2007, 10:17
จะสร้างเครดิตตัวเองด้วยการแย้งก็หัดเอาข้อมูลมายืนยันด้วย ไม่
ใช่ยกมาลอยๆ คนที่เชื่อก็คงมีแค่สมองบอดแถวๆ นี้

ข้อ4

ความผิดที่ปรากฎเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วไป เจตนาของทร.ก็เลวทรามมาตั้งแต่แรก จ้างพรรคเล็กลงสมัคร กล้องวงจรปิดก็จับภาพไว้ พฤติการณ์ก็คาดเดาได้ว่าใครจะได้รับผลประโยชน์หากกระทำลงไป หากไม่มีผลประโยชน์ย่อมไม่กระทำ พยานหลักฐานก็ชี้ชัดเจน แถลองฟังคำวินิจฉัยของศาลอีกทีดีไหมครับ

กร๊ากยิ่งกว่าการใส่ร้ายในละครเกาหลีเรื่องแดจังกึมที่ฉายปีก่อนเลยนะนั่น ว่าละครเกาหลีมัน
เขียนบทใส่ร้ายห่วยแล้ว มาเจอของจริงเมืองไทยจ๋อย เรื่องภาพวงจรปิดฟังคำวินิจฉัยหรือเปล่า
ถ้าฟังคงไม่กล้ายกมาพูดอีก มันกระซิบเบาๆ บอกว่าพยานให้การขัดกันในข้อเท็จจริง แต่ว่าเงิน
นั่นก็ต้องเป็นของธรรมรักษ์อยู่ดี ตรรกะประเภทนี้นั่นเองเมืองไทยถึงไม่ไปไหน จริงมั้ยจ๊ะ คุณ
ชายรักชาย คนสวย beamy head


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 01-06-2007, 10:23
โดนใจจะเด็ดอย่างแรงครับ  :slime_v: :slime_v:

พูดความจริงครึ่งเดียว....น่าอายครับ


การปกครองในระบอบปชต.ในโลกนี้ที่ผ่านกระบวนการเลือกตั้งมาเป็นพันๆหมื่นๆครั้ง....มีเพียงไม่กี่กรณีที่จบลงแบบฮิตเล่อร์  แล้วจะมีเหตุผล/ความชอบธรรมที่จะใช้กรณีดังกล่าวเพื่อบอกว่าการเลือกตั้งไม่ใช่วิธีที่ดีในการสรรหาผู้นำที่ดีได้อย่างไรครับ?


กรุณาตอบให้ชัด!!


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: คาคาชิ ที่ 01-06-2007, 10:27
ฟังไม่ขึ้น


อย่ามาเห่าแถวนี้เลย
แน่จริงไปที่ศาล แล้วไปด่าศาลนู่น

อย่ามาแปลงเพศเป็นหญิงแถวนี้
เก่งจริง เอาเลย
ไปด่าศาล  ไปแจ้งความดำเนินคดีกับศาล
ไปทำอะไรที่คิดว่ามันไม่ถูกให้มันถูกซะ

มัวแต่มาเห่าในนี้ ไม่ได้ประโยชน์อะไรหรอก

อยากเห็นคนแน่จริงว่ะ  ช่วยทำให้ดูหน่อย


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 01-06-2007, 10:30
ขี้เกียจเถียงอะครับ เอาเป็นว่าผมรวบสรุปตัดตอนเลยละกันว่าทรท.โดนยุบ เหลี่ยมกับพวก110คนโดนตัดสิทธิทางการเมือง5ปี แล้วระหว่างนี้คดีอาญาทั้งมวลจะพิจารณาเสร็จสิ้น เหลี่ยมติดคุกชัวร์ ส่วนพวกทรท.ทั้งหลายก็ต้องแตกกระเซ็นเป็นหลายกลุ่มเพราะนายใหญ่หมดอำนาจ ตระกูลชินวัตรจะถูกสาบส่งในฐานะโกงทั้งโครต คนทั้งชาติจะได้รู้พฤติกรรมชั่วๆทั้งหมดของทรท.ซึ่งไม่มีวันได้ผุดได้เกิด

นี่คือความจริงที่มองเห็นได้ในอนาคตครับ กรรมของทรท.ส่งผลมาจากการกระทำของพวกมันเองนั่นแหละ หาใช่มาจากความอยุตติธรรมในสังคมไม่

 :slime_worship:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: แสวง ที่ 01-06-2007, 10:33
เรื่องเก่าๆ .. ที่เคยกดดันศาลฯ สมัย ซุกหุ้น 1 .... เป็นคำบอกเล่าเฉย ๆ  ..
ไม่ว่ากัน .... ไม่มีหลักฐาน
แต่ครั้งนี้ ..
อ้าง 14 ล้านเสียง เป็นเหตุของการไม่ควรยุบพรรคด้วย ...  :slime_cool:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 01-06-2007, 10:37
คำตอบง่ายๆกับคำถามที่ว่า "ทำอย่างไรที่จะทำให้คนไทยลืมคุณทักษิณ?"   คำตอบก็คือ คุณต้องทำให้เศรษฐกิจดีซิ คนส่วนใหญ่เค้าพร้อมให้อภัยเสมอ...แต่คนที่มีอำนาจต้องทำให้ดีกว่าสมัยทักษิณ!!


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 01-06-2007, 10:41
คำตอบง่ายๆกับคำถามที่ว่า "ทำอย่างไรที่จะทำให้คนไทยลืมคุณทักษิณ?"   คำตอบก็คือ คุณต้องทำให้เศรษฐกิจดีซิ คนส่วนใหญ่เค้าพร้อมให้อภัยเสมอ...แต่คนที่มีอำนาจต้องทำให้ดีกว่าสมัยทักษิณ!!

งั้นนายกรัฐมนตรีทุกคนนั่นแหละครับที่ดีกว่าทักษิณ ตอนนี้ประชาชนก็ลืมทักษิณหมดแล้ว เหลือแต่พวกที่ไปชุมนุมที่สนามหลวง1พันคน ซึ่งก็เป็นขี้ข้าทรท. กับพวกที่ป่วนในบอร์ดทั่วประเทศอีกไม่เกิน20คน ที่ยังงมโข่งอยู่  :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: samepong(ยุ่งแฮะ) ที่ 01-06-2007, 10:48
พูดความจริงครึ่งเดียว....น่าอายครับ


การปกครองในระบอบปชต.ในโลกนี้ที่ผ่านกระบวนการเลือกตั้งมาเป็นพันๆหมื่นๆครั้ง....มีเพียงไม่กี่กรณีที่จบลงแบบฮิตเล่อร์  แล้วจะมีเหตุผล/ความชอบธรรมที่จะใช้กรณีดังกล่าวเพื่อบอกว่าการเลือกตั้งไม่ใช่วิธีที่ดีในการสรรหาผู้นำที่ดีได้อย่างไรครับ?


กรุณาตอบให้ชัด!!

--------------------
สงสัยจะสื่อไม่โดนใจคุณ ชายเหนือชาย ที่ผมยกกรณี ของเอดอฟ ฮิตเลอร์ คือการชี้ให้เห็นว่า การเลือกตั้งไม่ได้เป็นการบ่งชี้ว่าผู้นำที่ได้รับการคัดเลือกจะมีวิสัยทันศ์ในความเป้นประชาธิปไตย เคารพในระบบรัฐสภาทุกคน ที่ผมยกมาคือการตัดสินใจของบุลคลเดียวพาเยอรมันเข้าสู่ยุคเผด็จการ นโยบายทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การทหารผ่านสมองของคนๆเดียวไม่ต้องอิงหลักรัฐสภา เฉกเช่นเดียวกับระบบเผด็จการ แล้ววิสัยทันศ์แบบนี้ คุณทักษิณ ก็มีส่วนคล้ายเสียด้วยซิ ซึ่ง คุณก็คงไม่อยากรับข้อนี้เลยแถไปทางที่บอกว่า ไม่กี่กรณี แทนที่จะตอบว่า จริงหรือไม่จริง
และคุณชายเหนือชายคงยังไม่ได้อ่านคำวินิจฉัยแน่ๆๆ ที่ตุลาการบอกเอาไว้ว่า การจัดการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรม และการกระทำอันให้ได้มาซึ่งอำนาจการบริหารประเทศ โดยไม่ได้คำนึง และเคารพในสิทธิ์ของประชาชนที่แท้จริง เช่น การจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง และการใช้อำนาจที่มีอยู่เข้าไป แก้ไข ข้อมูลของ กกต. คุณจะบอกว่า แค่คน2คนทำทุกอย่างได้เหรอครับ โดยไม่มีนายใหฯ1คน คอยชี้นำและบ่งการคู่กรณีอื่นๆ


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 01-06-2007, 10:50
เชิญคนครึ่งหญิงครึ่งชายอย่าง "ชายเหนือชาย"  ดื่ม "กาแฟดำ" หน่อยยย :mrgreen: :slime_smile2: :mrgreen:

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนหนึ่งของคำพิพากษาบอกว่า

"...แต่ผู้ถูกร้องที่ 1 (พรรคไทยรักไทย) กลับทำให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่  2 เมษายน 2549 เป็นเพียงแบบพิธีที่จะนำไปสู่การผูกขาดอำนาจทางการเมืองของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เท่านั้น ..."
และอีกตอนหนึ่งบอกว่า

"...แสดงให้เห็นว่าผู้ถูกร้องที่ 1 มิได้ให้ความสำคัญหรือเพิ่มคุณค่าของสิทธิเลือกตั้งของประชาชนอันเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังแสดงถึงการไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งที่ผู้ถูกร้องที่ 1 เป็นพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนสูงสุดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไปก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง...ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นข้อบ่งชี้ด้วยว่าผู้ถูกร้องที่ 1 มิได้มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มุ่งพัฒนาประเทศชาติเพื่อให้คนในชาติมีความสุขทั่วหน้าดังที่ได้รณรงค์หาเสียงไว้ต่อประชาชนอย่างแท้จริง  หากแต่มุ่งประสงค์เพียงดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศนอกเหนือไปจากครรลองที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศตลอดจนบทกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จนยากที่จะหาอุดมการณ์อันแท้จริงของพรรคให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชนโดยรวมว่าเมื่อเป็นรัฐบาลมีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินแล้ว จะดำเนินการปกครองประเทศโดยสุจริต ไม่ประพฤติมิชอบหรือบริหารราชการแผ่นดินโดยแอบแฝงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง..."

และเหตุที่คณะตุลาการรัฐธรรมนูญต้องมีคำสั่งให้ยุบพรรคไทยรักไทยก็เพราะ

"...พฤติการณ์ของผู้ถูกร้องที่ 1 ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าผู้ถูกร้องที่ 1 ไม่อาจจะดำรงความเป็นพรรคการเมืองที่จะสร้างสรรค์ และจรรโลงความชอบธรรมทางการเมืองแก่ระบอบการปกครองของประเทศโดยรวมได้อีกต่อไป..."  

แล้วที่พรรคไทยรักไทย อ้างว่ามีสมาชิกพรรคถึง 14 ล้านคนล่ะ?

อ่านคำตัดสินแล้วจะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง

"...ที่ผู้ถูกร้องที่ 1 กล่าวอ้างว่าผู้ถูกร้องที่ 1 มีสมาชิกจำนวนมากถึง 14,394,404 คน การสั่งยุบพรรคจะเกิดผลกระทบรุนแรงต่อสมาชิกพรรคทั้งที่ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องนั้น  เป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องที่ 1 ขณะเกิดเหตุจะต้องร่วมกันรับผิดชอบต่อสมาชิกพรรคดังกล่าวเอง..."

และรายละเอียดว่าใครพบใครเพื่อเจรจากับใครเพื่อรับเงินไปส่งสมัครคนที่ไม่มีคุณภาพรวมทั้งปลอมแปลงเอกสาร และการไปเปลี่ยนฐานข้อมูลรายชื่อสมาชิกพรรคทางการ...พบกันที่ไหน ให้เงินกันเท่าไร มอบเงินกันอย่างไร...แต่ละรายละเอียดล้วนเป็นการฟ้องให้ประชาชนได้รู้ว่านักการเมืองกลุ่มนี้ทำอะไรกับบ้านเมืองนี้บ้าง

ตำราเล่มใหญ่เรื่องยุบพรรคไทยรักไทยเล่มนี้จะถูกจารึกไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วนในประวัติศาสตร์การเมืองของไทยอีกนานเท่านาน

มีลูกสอนลูก มีหลานสอนหลานว่าอย่าได้แม้แต่คิดจะเป็นนักการเมืองเป็นอันขาดถ้าคิดทำร้ายบ้านเมืองด้วยกลเม็ดเด็ดพรายเลวร้ายเช่นที่ว่านี้

http://www.bangkokbiznews.com/2007/06/01/WW12_1238_news.php?newsid=75803


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: -3- ที่ 01-06-2007, 11:25
ทักษิณเป็นหัวหน้าพรรครึเปล่าครับ?

ลูกพรรคทำผิด ใครต้องรับผิดชอบครับ? หรือว่าหัวหน้าเตะส่งให้คนๆ นั้นรับไปคนเดียว ตัวเองไม่เกี่ยว?

ชายฯขออนุญาตตอบรวมๆแล้วกันครับ...เอ๊ย...ค่ะว่า สังคมที่เจริญแล้วเค้ายอมรับผลการลงคะแนนเลือกตั้ง เพราะหากผู้นำคนใดบริหารงานไม่ได้เรื่อง...คนในสังคมนั้นเค้าก็จะไม่เลือกเข้าไปบริหารประเทศอีก


กรณีของฮิตเล่อร์ที่ได้รับการคะแนนเสียงเลือกตั้งจากคนในชาติแต่ท้ายสุดแล้วก็เป็นผู้นำที่เลว อันนี้มีหลักฐานที่ปรากฎชัดว่าจริง


ส่วนกรณีของคุณทักษิณ....ข้อเท็จจริงก็คือ คนส่วนใหญ่ในไทยเลือกทรท. แต่ศาลบอกว่าเป็นโมฆะ ทรท.เตรียมให้มีการเลือกตั้งใหม่ เผด็จการทหารเลยยึดอำนาจเพราะทนรอไม่ได้ ผู้มีอำนาจตั้ง คตส. คณะตุลาการรธน.ชุดใหม่ขึ้นมาจัดการกับระบอบทักษิณ ฯลฯ ไหนลองบอกซิครับว่าด้วยระบบตุลาการที่โปร่งใสและยุติธรรมแล้ว.....มีข้อสรุปไหนบ้างที่ปรากฎว่าคุณทักษิณเลว!?!


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: samepong(ยุ่งแฮะ) ที่ 01-06-2007, 11:28
งั้น คุณเต๋วแตก ก็รออีกนิด ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการศาลหมดแล้ว ความผิดตามกรณีก้จะมาที่ละเรื่อง และข้อเท็จจริงก็คือ คนส่วนใหญ่ในไทยเลือกทรท. แต่ศาลบอกว่าเป็นโมฆะ ก็แสดงว่า คำว่า การเลือกตั้งโดยมีพรรคการเมืองเดียว ลงเลือกตั้งไม่เป้นประชาธิปไตย(ไม่อยากยกคำนี้มาเลย ผมเคารพคำนี้มากๆๆด้วยซิ)ไม่ได้เข้าไปในหู ในสมอง ในกมลและสันดานอะไรเลยใช่ไหมครับ หรือต้องให้ไอเหลี่ยมหน้าแบน มาพูดถึงจะทำให้สมองแล่นได้


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: truly ที่ 01-06-2007, 11:35
ที่น่าอับอายน่าจะเป็นคำวินิจฉัยเรื่องซุกหุ้นมากกว่า
ถ้าทำอะไรถูกต้อง ตรงไป ตรงมา ทำไมต้องไปซุกหุ้นไว้กับคนใช้

สมน้ำหน้าพวกผู้บริหารพรรค ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง
อยากร่วมมือกันทำชั่ว อุ้มคนโกงไว้
วันนั้น ถ้าร่วมมือกันตัดหางปล่อยวัดไอ้ทักษิณ จอมโกงไปซะ
ตัวเองก็ไม่ต้องมีวันนี้...

คงนึกไม่ถึงล่ะสิว่า วันนึงผลของการอุ้มคนโกงมันจะย้อนมาหา
ตัวเองได้เจ็บปวดขนาดนี้.... :slime_shy:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 01-06-2007, 11:41
ที่น่าอับอายน่าจะเป็นคำวินิจฉัยเรื่องซุกหุ้นมากกว่า
ถ้าทำอะไรถูกต้อง ตรงไป ตรงมา ทำไมต้องไปซุกหุ้นไว้กับคนใช้

สมน้ำหน้าพวกผู้บริหารพรรค ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง
อยากร่วมมือกันทำชั่ว อุ้มคนโกงไว้
วันนั้น ถ้าร่วมมือกันตัดหางปล่อยวัดไอ้ทักษิณ จอมโกงไปซะ
ตัวเองก็ไม่ต้องมีวันนี้...

คงนึกไม่ถึงล่ะสิว่า วันนึงผลของการอุ้มคนโกงมันจะย้อนมาหา
ตัวเองได้เจ็บปวดขนาดนี้.... :slime_shy:



ตกลงเชื่อกระบวนการยุติธรรมหรือว่าเชื่อในบางเรื่องกันแน่เอ่ย? คุณกล่าวหาว่าผู้อื่นโกงโดยที่ศาลท่านยังไม่วินิจฉัยออกมา...แสดงให้เห็นชัดเจนว่ามาตรฐานความเป็นมนุษย์ของคุณมันแย่ขนาดไหน


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: samepong(ยุ่งแฮะ) ที่ 01-06-2007, 11:42
ประเด็นก็คือ 9 อรหันต์ไม่สามารถชี้แจงได้ว่าคณะกรรมการบริหารอีกกว่า 100 คนเกี่ยวข้องกับผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดได้อย่างไร มีแต่คำอ้างบอกว่าเป็นถึง รมต. ย่อมเป็นคนสำคัญของพรรค การกระทำของคนในระดับรมต.ย่อมต้องเป็นที่รับทราบกันดีในหมู่คณะกรรมการบริหาร

แถไปอีกแล้ว เอาเรื่องความจริงออกจากความเห็นใจก่อนนะ การกระทำของคนไม่กี่คนที่คุณว่า มีจุดมุ่งหมายเพื่ออะไร เพื่อให้คนในกลุ่มของตนได้อำนาจบริหารมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว จะบอกว่า รับของโจรไม่ได้บอกโจรไปขโมยได้หรือ แล้วการกระทำของคนสองสามคนที่ถูกร้องนั้น กระทำไปเพื่อใครหรือครับ

ถ้าคุณไม่เคารพหรือคิดว่าตุลาการทั้ง9คนไม่ยุติธรรม แล้วจะให้ใครให้ความเป้นธรรมหรือ ไม่ใช่คุณบอกว่าไม่ยุติธรรมแล้วคนทั้งโลกจะบอกว่าไม่ยุติธรรม

กลับมาเรื่องเดิมอีกรอบ เผด็จการ หรือประชาธิไตยคือแนวคิดนะครับ ไม่ใช่รูปธรรมที่มาบอกว่า ทหารคือ เผด็จการ การเลือกตั้งคือประชาธิปไตย
การที่คุณกำลังบอกว่า ประเทศไทยเป้นเผด็จการ นอกจากพูดว่าทหารแล้ว มีอะไรที่คุณโดนริดรอนสิทธิ์ อยู่หรือครับ ผมก็รู้สึกว่าผมมีสิทธิ์โดยชอบธรรมในการกระทำการต่างๆในการดำรงชีวิต การแสดงความคิดเห็นแล้วสิทธิ์ในการถือครองทรัพย์ที่หามาได้โดยความสุจริตอยู่ครบทุกประการ ถ้านี่คือสิทธิ์ตามแนวคิดประชาธิไตยแล้วไซร้ ทำไมเราจึงไม่เป้นประชาธิปไตยละคร้าบ


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: buntoshi ที่ 01-06-2007, 11:50
คนที่อับอายคือคนที่ทำความผิด ถูกศาลลงโทษ เห็นด้วยเลย อับอายชั่วลูกชั่วหลานจริงๆ  :slime_v:

แต่พวกนี้ ดิ้นพรากๆ เลยนะ คนชั่วมักจะไม่ยอมรับผิดแบบนี้แหล่ะ  :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 01-06-2007, 11:55
ประเด็นก็คือ 9 อรหันต์ไม่สามารถชี้แจงได้ว่าคณะกรรมการบริหารอีกกว่า 100 คนเกี่ยวข้องกับผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดได้อย่างไร มีแต่คำอ้างบอกว่าเป็นถึง รมต. ย่อมเป็นคนสำคัญของพรรค การกระทำของคนในระดับรมต.ย่อมต้องเป็นที่รับทราบกันดีในหมู่คณะกรรมการบริหาร

แถไปอีกแล้ว เอาเรื่องความจริงออกจากความเห็นใจก่อนนะ การกระทำของคนไม่กี่คนที่คุณว่า มีจุดมุ่งหมายเพื่ออะไร เพื่อให้คนในกลุ่มของตนได้อำนาจบริหารมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว จะบอกว่า รับของโจรไม่ได้บอกโจรไปขโมยได้หรือ แล้วการกระทำของคนสองสามคนที่ถูกร้องนั้น กระทำไปเพื่อใครหรือครับ

ถ้าคุณไม่เคารพหรือคิดว่าตุลาการทั้ง9คนไม่ยุติธรรม แล้วจะให้ใครให้ความเป้นธรรมหรือ ไม่ใช่คุณบอกว่าไม่ยุติธรรมแล้วคนทั้งโลกจะบอกว่าไม่ยุติธรรม

กลับมาเรื่องเดิมอีกรอบ เผด็จการ หรือประชาธิไตยคือแนวคิดนะครับ ไม่ใช่รูปธรรมที่มาบอกว่า ทหารคือ เผด็จการ การเลือกตั้งคือประชาธิปไตย
การที่คุณกำลังบอกว่า ประเทศไทยเป้นเผด็จการ นอกจากพูดว่าทหารแล้ว มีอะไรที่คุณโดนริดรอนสิทธิ์ อยู่หรือครับ ผมก็รู้สึกว่าผมมีสิทธิ์โดยชอบธรรมในการกระทำการต่างๆในการดำรงชีวิต การแสดงความคิดเห็นแล้วสิทธิ์ในการถือครองทรัพย์ที่หามาได้โดยความสุจริตอยู่ครบทุกประการ ถ้านี่คือสิทธิ์ตามแนวคิดประชาธิไตยแล้วไซร้ ทำไมเราจึงไม่เป้นประชาธิปไตยละคร้าบ


ง่ายๆค่ะว่า ตุลาการไม่มีเหตุผลเพียงพอที่ชี้ให้เห็นว่าการกระทำผิดของคน2-3คนเป็นสิ่งที่คนกว่า 100 รับทราบ....เอาตรงนี้ชัดๆก่อนครับ ส่วนการรับซื้อของโจรนั่นมันเป็นเรื่องแค่คนไม่กี่คน ส่วนมากจะ 2 คน คือ คนซื้อและคนขาย ส่วนเรื่องยุบพรรคมันมีเป็นร้อยคน จะเอามาเปรียบกันไม่ได้


กรุณาใช้สามัญสำนึกมากๆหน่อยครับ pleaseeeee :slime_agreed:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: Limmy ที่ 01-06-2007, 11:58
แปลกใจครับที่พรรคไทยรักไทย ไม่เอาคนอย่างจานจ๊ะไปเป็นนักกฏหมายมือ 1 ของพรรค ปล่อยให้พงษ์เทพ ทนายฝึกหัด ไปว่าความแก้ต่าง พรรคถึงได้วิบัติขนาดนี้

จานจ๊ะมีเหตุผลมาแก้ต่างเสมอ แม้บางครั้งจะเป็นเหตุผลที่แปลกประหลาด ไม่เหมือนมนุษย์โลก คาดว่าจานจ๊ะน่าจะมาจากดวงดาวอันไกลโพ้น หรือส่วนที่อยู่ลึกสุดใต้พิ้นโลก

ลองปล่อยจานจ๊ะลุยกับศาลดูสักตั้งดีกว่าครับ ว่าแล้วผมสนับสนุนให้จานจ๊ะยื่นฟ้องตุลาการรัฐธรรมนูญเลยครับ อยากเห็นลีลาตอนขึ้นศาล

หวังว่าคงจะไม่คอตกเหมือนนกป่วย แบบจาตุรนต์ นะครับจาน ด้วยความปราถนาดี


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: samepong(ยุ่งแฮะ) ที่ 01-06-2007, 12:15
ง่ายๆค่ะว่า ตุลาการไม่มีเหตุผลเพียงพอที่ชี้ให้เห็นว่าการกระทำผิดของคน2-3คนเป็นสิ่งที่คนกว่า 100 รับทราบ....เอาตรงนี้ชัดๆก่อนครับ ส่วนการรับซื้อของโจรนั่นมันเป็นเรื่องแค่คนไม่กี่คน ส่วนมากจะ 2 คน คือ คนซื้อและคนขาย ส่วนเรื่องยุบพรรคมันมีเป็นร้อยคน จะเอามาเปรียบกันไม่ได้


กรุณาใช้สามัญสำนึกมากๆหน่อยครับ pleaseeeee 
 
 
ok มาพูดสามัญสำนึก แล้วคุณว่า คนชั่วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สองสามคน จะมาบอกคนที่ดีปนเลว ให้รู้ไหมว่าข้าจะทำชั่วใครไม่พอใจออกไปก่อน ทำชั่วเสร็จค่อยกลับมา มันมีไหมครับ ลองประกาศให้ทั้ง100กว่าคนรู้ก่อนดีครับ ผมว่ามีคนดีออกจากพรรคหมดก่อนและคงไม่มีใครมาสังขยนาหรอก คนชั่วสองสามคนมีสามัญสำนึก แต่ในทางไม่ดีไง มันเลยบอกไม่ได้พูดไม่ได้ก็แอบทำ แอบทำผลที่ออกมาก็คือพาคนดีที่ปนคนเลว ลงเหวตามกันไปไงครับ นี่แหละ สามัญสำนึกหละครับ


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: นายเกตุ ที่ 01-06-2007, 12:22
จะให้อายใครละครับ


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: varada ที่ 01-06-2007, 12:27
คำตอบง่ายๆกับคำถามที่ว่า "ทำอย่างไรที่จะทำให้คนไทยลืมคุณทักษิณ?"   คำตอบก็คือ คุณต้องทำให้เศรษฐกิจดีซิ คนส่วนใหญ่เค้าพร้อมให้อภัยเสมอ...แต่คนที่มีอำนาจต้องทำให้ดีกว่าสมัยทักษิณ!!

ดูท่าจะยากนะ ตอนแรกก็ลืมๆไปบ้างแล้วหล่ะ ว่าทำอะไรไว้มั่ง
แต่พอศาลท่านขุดขึ้นมาเลยสว่างเลย
บางเรื่องลืมไปแล้ว แต่บางเรื่องเนี่ยโห.......ไม่เคยรู้มาก่อนเลย
ชั่วๆๆทั้งน๊านนนนนนนนนนนนนน คงลืมยาก :slime_whistle:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: Limmy ที่ 01-06-2007, 12:34
อยากเป็นสถาบันทางการเมือง ต้องเรียนรู้เรื่องการรับผิดชอบร่วมกันให้ได้ก่อนครับ

ไม่งั้นคงเป็นได้แค่แก๊งค์โจร


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: สมชายสายชม ที่ 01-06-2007, 12:36
1. ไม่ใช่โทษอาญาเพิ่มโทษย้อนหลังได้ ต่อไปคงมีเพิ่มค่าปรับย้อนหลังกันตะบี้ตะบัน
2. ได้รับโปรดเกล้าทำหน้าที่ศาลหนึ่งสามารถไปทำหน้าที่อีกศาลได้โดยไม่ต้องโปรดเกล้าอีก
    ต่อไปได้รับการโปรดเกล้าตำแหน่งหนึ่งคงตีความว่าทำหน้าที่อื่นที่ต้องโปรดเกล้าได้ด้วย
    โดยไม่ต้องเสียเวลาโปรดเกล้าใหม่
3. ยกคำสั่งคณะปฏิวัติเป็นประเพณีการปกครองแบบประชาธิปไตยของไทย ต่อไปคงได้มี
    การปฏิวัติอยู่คู่การปกครองเมืองไทยเพราะยกระดับให้ดูชอบธรรม
4. ใช้หลักคำบอกเล่าพยานและสรุปว่าใครได้ประโยชน์คนนั้นเป็นผู้ผิด ต่อไปบุคคลที่ 1 มี
    ความแค้นบุคคลที่ 2 บุคคลที่ 1 เกิดมองหน้าบุคคลที่ 2 มีพยานบุคคลที่ 3 เห็น แต่บุคคล
    ที่ 2 กลับบ้านกินข้าวติดคอตายเอง บุคคลที่ 3 ให้การว่าเห็นบุคคลที่ 1 มองหน้าบุคคลที่ 2
    บุคคลที่ 1 จะผิดเพราะบุคคลที่ 1 ได้ประโยชน์
5. การด่ากันถ้าไม่ได้คิดเองจะไม่ผิด ต่อไปให้คนข้างๆ ด่าจำขี้ปากมาด่าต่อได้สบายใจ
6. อยากยุบพรรคใหญ่แค่ใส่ร้ายกรรมการคนเดียวก็ทำได้แล้ว ไม่ต้องรอพิสูจน์จากศาลอาญา
    ว่ากรรมการพรรคคนนั้นทำผิดจริง เนื่องจากความผิดนั้นเป็นความผิดร้ายแรงมีโทษทางอาญา
    ใช้หลักแค่เชื่อได้ว่า ก็สามารถทำลายล้างทางการเมืองล่วงหน้าก่อนศาลอาญาตัดสินได้



คุณชอบแถเขียนขาดตกไป ๑ ข้อ .. มาช่วยเติมให้ครับ


๗. เป็นครั้งแรกที่ตุลาการอ่านคำวินิฉัยกลาง(ประจาน)ออกอากาศทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่ายิ่ง

มีคำว่า "โกงทั้งโคตร" อ่านซ้ำเกือบสิบเที่ยว

...


ส่วนบรรทัดฐานอันเก่า ที่มี ปปช.คนหนึ่ง ไปเป็นพยานเพื่อให้คุณ แก่ทักษิณ ต่อคณะตุลาการขุดซุกหุ้นภาค ๑

คุณแถได้บันทึกไว้หรือยัง   :slime_doubt:

...
 
และบรรทัดฐานอันใหม่ (ที่เชื่อว่า พวกคุณได้บันทึกไว้แล้ว) คือ นายพายัพ ชินวัตร บอกว่า ..

"จะเอาคืนทั้งโคตร พ่อแม่ลูกเมีย" (ก็ไม่เว้น)   :slime_cool:

...


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: TheBluECaT ที่ 01-06-2007, 12:37
จะให้อายใครละครับ

ก็ให้ ไอ้คนตระกูล ช. น่ะ...

มันอายคนทั้งประเทศสิครับ...

ขนาดศาลยังนั่งอ่านความเลว ของพวกมันอยู่ได้อยู่ตั้งนาน


แต่เอ๊ะ !!  ลืมไปว่าคนในตระกูลนี้มันไม่มียาง...   :slime_hitted:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: truly ที่ 01-06-2007, 12:47

ตกลงเชื่อกระบวนการยุติธรรมหรือว่าเชื่อในบางเรื่องกันแน่เอ่ย? คุณกล่าวหาว่าผู้อื่นโกงโดยที่ศาลท่านยังไม่วินิจฉัยออกมา...แสดงให้เห็นชัดเจนว่ามาตรฐานความเป็นมนุษย์ของคุณมันแย่ขนาดไหน
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

คนส่งเรื่องฟ้องศาลก็ต้องเชื่อล่ะครับ ว่าคนที่ตัวเองส่งฟ้องไป หรือแจ้งความจับเป็นผู้กระทำผิด
ไม่งั้นจะยื่นฟ้องหรือแจ้งความไปทำไม

ถ้ามาตรฐานความเป็นมนุษย์ของผมจะแย่ในสายตาคุณ
ก็คงช่วยอะไรไม่ได้

ในสายตาของสุนัขย่อมมองเห็นเจ้านายที่ให้ข้าวให้น้ำตัวเองดีกว่าคนอื่นอยู่แล้ว
ใครจะมาทำร้ายนาย ก็ต้องปกป้องไว้ก่อน เพราะสุนัขมันไม่รู้หรอกว่านายมันเป็นคนดีหรือไม่ดีอย่างไร
อย่างนี้ผมถือว่าเป็นสุนัขที่มีมาตรฐานสูง  :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: tu249cm ที่ 01-06-2007, 12:57
ที่ควรจะอายคือพวกที่ถูกศาลประจานมากกว่า
แต่คงไม่มั้ง.........อย่างหนาแล้วนี่

อ้อบอกให้นิดนะ วันนั้นหน่ะ ช่อง5ขึ้นตัววิ่ง(คำแปล)
เป็นภาษาปะกิตด้วยหล่ะ เพราะงั้นเพื่อนต่างชาติที่ทำงานเรา
เค้าก็เลยอ่านรู้เรื่อง(ชนิดเราไม่ต้องคอยแปลให้เมื่อย ยิ่งแปลยากๆอยู่
พวกสำนวนแบบนี้)
เพราะงั้นเค้าไม่แปลกใจที่ทรท.โดนยุบ :slime_whistle:


ดีจังเลย ทำไมช่องอื่นไม่ทำเหมือนช่อง5 ล่ะ เพราะจะช่วยได้มากให้ต่างชาติได้เข้าใจเหตุและผล
ว่าทำไมจึงจะต้องเอาผิดพรรคการเมืองชั่วพรรคนี้ อย่างน้องคนต่างชาติที่เข้าใจจะได้ช่วยอธิบายให้
เพื่อนฝูงญาติพี่น้องของเขาเข้าใจด้วยเมื่อกลับไปประเทศตน


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 01-06-2007, 13:11
อานิสงค์ของการถ่ายทอดคำถาม คำชี้แจง และคำวินิจฉัย ทำให้เจ้าของร้านค้าโช่วห่วยในหมู่บ้าน
เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนความเชื่อถือต่อเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกก่อนหน้านี้.....


วันนี้บอกว่า เธอทนไม่ได้ที่ไปฟังคำพูดของแม่ค้าที่ขายของให้เธออีกทอดหนึ่งในตลาดอ่อนนุช
ที่ยังหลงคารมงมงายต่อเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกเหมือนเธอเมื่อก่อนนี้....


คนไทยที่ได้ฟังคำชี้แจง คำอธิบายและคำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญผ่านสถานีโทรทัศน์ ตกตลึง นึกไม่ถึงว่า เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความชั่วร้าย เลวร้าย ทำลายประเทศไทยถึงขนาดนั้น.....



ปล. ผู้สื่อข่าวต่างชาติที่ได้รับชม ได้รับฟังรายการถ่ายทอดการพิจารณาคดีอย่างละเอียดและต่อเนื่อง
เริ่มสงสัยว่า พวกเขา"หูเบา" ใจง่ายเชื่อถือเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกได้อย่างไร.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 01-06-2007, 13:12

ดีจังเลย ทำไมช่องอื่นไม่ทำเหมือนช่อง5 ล่ะ เพราะจะช่วยได้มากให้ต่างชาติได้เข้าใจเหตุและผล
ว่าทำไมจึงจะต้องเอาผิดพรรคการเมืองชั่วพรรคนี้ อย่างน้องคนต่างชาติที่เข้าใจจะได้ช่วยอธิบายให้
เพื่อนฝูงญาติพี่น้องของเขาเข้าใจด้วยเมื่อกลับไปประเทศตน


ฮ่าๆๆๆ.....ต่างชาติเค้ามีอิสระที่จะนำเสนอข้อเท็จจริงได้อย่างมีเหตุและผล สื่อไทยในยุคเผด็จการครองเมืองที่ปิดเว๊บไซด์ หรือเรียกบรรณาธิการ/ผู้อำนวยการข่าวช่องต่างๆไปให้นโยบายการเสนอข่าว คงไม่มีทางเข้าใจวิถีของสื่อมวลชนมืออาชีพ

ประเทศไทยเรานับวันจะถูกโดดเดี่ยวลงทุกวัน....เพราะการได้มาซึ่งอำนาจมันสวนกระแสโลกาภิวัฒน์นั่นเอง!!


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 01-06-2007, 13:19

ตกลงเชื่อกระบวนการยุติธรรมหรือว่าเชื่อในบางเรื่องกันแน่เอ่ย? คุณกล่าวหาว่าผู้อื่นโกงโดยที่ศาลท่านยังไม่วินิจฉัยออกมา...แสดงให้เห็นชัดเจนว่ามาตรฐานความเป็นมนุษย์ของคุณมันแย่ขนาดไหน



วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้พิพากษา"ยุบพรรค" พรรคไทยรักไทย และลงโทษ กรรมการพรรค 111 คนรวมอดีตหัวหน้าพรรคฯ ด้วย ยังมีข้อเกี่ยงงอน เฉไฉไปเรื่องอะไรอีก........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 01-06-2007, 13:27


วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้พิพากษา"ยุบพรรค" พรรคไทยรักไทย และลงโทษ กรรมการพรรค 111 คนรวมอดีตหัวหน้าพรรคฯ ด้วย ยังมีข้อเกี่ยงงอน เฉไฉไปเรื่องอะไรอีก........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




ประการแรก ที่มาของคณะตุลาการชุดนี้เกิดขึ้นจากการแต่งตั้งของ คมช. หาใช่เกิดจากการโปรดเกล้าเหมือนคณะตุลาการชุดก่อนๆ


ประการต่อมา การแบนยกเข่ง 111 คนขาดหลักฐานในการเชื่อมโยงว่าผู้กระทำผิด2-3คนที่บอกนั่นได้กระทำการโดยเป็นที่รับทราบของคนกว่า 100 คน....การกล่าวอ้างว่าคน2-3คนที่มีตำแหน่ง รมต. ย่อมอนุโลมได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญ และโยนภาระการรับรู้ข้อมูลดังกล่าวให้กับ 100 กว่าคนเป็นผ้รับผิดชอบถือว่าเป็นการวินิจฉัยที่ปราศจากเหตุและผล


ประการสุดท้าย ระหว่างหลักฐานวิดิโอในคดีของปชป. กับ หลักฐานการกล่าวอ้างของบุคคลต่างๆของทรท. โดยปรกติแล้ว....ศาลที่มีความยุติธรรมย่อมให้น้ำหนักต่อวิดิโอมากกว่า แต่กรณีนี้....ไม่เป็นเช่นนั้น


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 01-06-2007, 13:37
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

คนส่งเรื่องฟ้องศาลก็ต้องเชื่อล่ะครับ ว่าคนที่ตัวเองส่งฟ้องไป หรือแจ้งความจับเป็นผู้กระทำผิด
ไม่งั้นจะยื่นฟ้องหรือแจ้งความไปทำไม


เค้ายื่นไปที่ศาลรธน.ชุดที่ถูกยุบนี่นา....ชุดปัจจุบันมารับช่วงต่อ ทรท.เลยไม่มีทางเลือกที่จะไม่สู้ในช่องทางดังกล่าวเพราะเดี๋ยวจะถูกด่าว่าไม่เล่นตามกติกาอีก



ถ้ามาตรฐานความเป็นมนุษย์ของผมจะแย่ในสายตาคุณ
ก็คงช่วยอะไรไม่ได้

ขอบคุณครับที่ยอมรับ :slime_smile2:



ในสายตาของสุนัขย่อมมองเห็นเจ้านายที่ให้ข้าวให้น้ำตัวเองดีกว่าคนอื่นอยู่แล้ว
ใครจะมาทำร้ายนาย ก็ต้องปกป้องไว้ก่อน เพราะสุนัขมันไม่รู้หรอกว่านายมันเป็นคนดีหรือไม่ดีอย่างไร
อย่างนี้ผมถือว่าเป็นสุนัขที่มีมาตรฐานสูง  :slime_smile2:


เรื่องของหมาๆ...ชายฯไม่ทราบดีเท่าคุณtruly อันนี้ขอยอมรับคร้าคุณพี่ขา :slime_whistle:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 01-06-2007, 14:00
1. ไม่ใช่โทษอาญาเพิ่มโทษย้อนหลังได้ ต่อไปคงมีเพิ่มค่าปรับย้อนหลังกันตะบี้ตะบัน
2. ได้รับโปรดเกล้าทำหน้าที่ศาลหนึ่งสามารถไปทำหน้าที่อีกศาลได้โดยไม่ต้องโปรดเกล้าอีก
    ต่อไปได้รับการโปรดเกล้าตำแหน่งหนึ่งคงตีความว่าทำหน้าที่อื่นที่ต้องโปรดเกล้าได้ด้วย
    โดยไม่ต้องเสียเวลาโปรดเกล้าใหม่
3. ยกคำสั่งคณะปฏิวัติเป็นประเพณีการปกครองแบบประชาธิปไตยของไทย ต่อไปคงได้มี
    การปฏิวัติอยู่คู่การปกครองเมืองไทยเพราะยกระดับให้ดูชอบธรรม
4. ใช้หลักคำบอกเล่าพยานและสรุปว่าใครได้ประโยชน์คนนั้นเป็นผู้ผิด ต่อไปบุคคลที่ 1 มี
    ความแค้นบุคคลที่ 2 บุคคลที่ 1 เกิดมองหน้าบุคคลที่ 2 มีพยานบุคคลที่ 3 เห็น แต่บุคคล
    ที่ 2 กลับบ้านกินข้าวติดคอตายเอง บุคคลที่ 3 ให้การว่าเห็นบุคคลที่ 1 มองหน้าบุคคลที่ 2
    บุคคลที่ 1 จะผิดเพราะบุคคลที่ 1 ได้ประโยชน์
5. การด่ากันถ้าไม่ได้คิดเองจะไม่ผิด ต่อไปให้คนข้างๆ ด่าจำขี้ปากมาด่าต่อได้สบายใจ
6. อยากยุบพรรคใหญ่แค่ใส่ร้ายกรรมการคนเดียวก็ทำได้แล้ว ไม่ต้องรอพิสูจน์จากศาลอาญา
    ว่ากรรมการพรรคคนนั้นทำผิดจริง เนื่องจากความผิดนั้นเป็นความผิดร้ายแรงมีโทษทางอาญา
    ใช้หลักแค่เชื่อได้ว่า ก็สามารถทำลายล้างทางการเมืองล่วงหน้าก่อนศาลอาญาตัดสินได้


..พรรคไทยรักไทยก็ยื่นคำค้านทำนองเดียวกับคุณชอบแถนี่แหละถึงได้แพ้คดีหมดรูป..

1. ไม่ใช่โทษอาญาเพิ่มโทษย้อนหลังได้ ต่อไปคงมีเพิ่มค่าปรับย้อนหลังกันตะบี้ตะบัน

    ก็กฎหมายระบุไว้อย่างชัดเจนเฉพาะในโทษทางอาญาว่าจะเพิ่มโทษย้อนหลังไม่ได้
    และกรณีนี้ "ไม่ใช่" โทษทางอาญา  แต่มีผลให้กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
    ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็เหมือนกับกรณีการออกกฎหมาย
    กำหนดให้ผู้สมัคร สส. ต้องจบปริญญาตรี ซึ่งถือเป็นการกำหนดย้อนหลังจากที่บรรดา
    สส. ที่ไม่จบปริญญาตรี รวมทั้งประชาชนทั่วไปที่ไม่จบปริญญาตรีทั้งหลายในขณะนั้น
    ต่างไม่สามารถสมัคร สส. ได้จากเดิมที่สามารถทำได้  ทำให้ผู้ที่ต้องการสมัคร สส.
    และยังไม่จบปริญญาตรีต้องไปเรียนต่อทั้งหมด เสมือนถูกให้เว้นวรรคทางการเมือง
    เป็นเวลาหลายปีเช่นเดียวกัน
   
    และเรื่องค่าปรับที่คุณชอบแถยกมานั้นเป็นโทษทางอาญา คำค้านฟังไม่ขึ้นครับ  :slime_smile2:


2. ได้รับโปรดเกล้าทำหน้าที่ศาลหนึ่งสามารถไปทำหน้าที่อีกศาลได้โดยไม่ต้องโปรดเกล้าอีก
    ต่อไปได้รับการโปรดเกล้าตำแหน่งหนึ่งคงตีความว่าทำหน้าที่อื่นที่ต้องโปรดเกล้าได้ด้วย
    โดยไม่ต้องเสียเวลาโปรดเกล้าใหม่


    แล้วที่ผ่านมาได้รับโปรดเกล้าทำหน้าที่ศาลหนึ่งแล้วไปทำหน้าที่อีกศาลได้ใช่ไหมครับ
    ถ้าจะค้านก็ค้านตรงนี้  และไม่เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งหน้าที่อื่นๆ ที่ยกมานะครับ

    คำค้านในข้อนี้ฟังไม่ขึ้นอีกเช่นเดียวกัน เพราะค้านไม่ถูกจุดนะครับ  :slime_bigsmile:


3. ยกคำสั่งคณะปฏิวัติเป็นประเพณีการปกครองแบบประชาธิปไตยของไทย ต่อไปคงได้มี
    การปฏิวัติอยู่คู่การปกครองเมืองไทยเพราะยกระดับให้ดูชอบธรรม


    และที่ผ่านมาคำสั่งคณะปฏิวัติ คณะปฏิรูปต่างๆ มีผลเป็นกฎหมายหรือเปล่าล่ะครับ
    ถ้ามีผลก็ถือเป็นประเพณีการปกครองฯ จริงๆ   และถ้าจะบอกว่าไม่มีผลเป็นกฎหมาย
    งั้นก็ลองไม่ยอมยุบพรรค หรือกรรมการพรรคลองพยายามดำรงตำแหน่งทางการเมือง
    ให้ดูหน่อยสิครับว่าทำได้หรือเปล่า นี่ก็เห็นยอมรับว่าโดนยุบ และโดนตัดสิทธิจริงๆ

    พรรคไทยรักไทยยังไม่ค้านเรื่องนี้ และคุณจะค้านได้ยังไง คำค้านฟังไม่ขึ้นอีกแล้วครับ  :slime_bigsmile:


4. ใช้หลักคำบอกเล่าพยานและสรุปว่าใครได้ประโยชน์คนนั้นเป็นผู้ผิด ต่อไปบุคคลที่ 1 มี
    ความแค้นบุคคลที่ 2 บุคคลที่ 1 เกิดมองหน้าบุคคลที่ 2 มีพยานบุคคลที่ 3 เห็น แต่บุคคล
    ที่ 2 กลับบ้านกินข้าวติดคอตายเอง บุคคลที่ 3 ให้การว่าเห็นบุคคลที่ 1 มองหน้าบุคคลที่ 2
    บุคคลที่ 1 จะผิดเพราะบุคคลที่ 1 ได้ประโยชน์


    กรณีที่ยกมาก็ระบุชัดๆ ว่ากินข้าวติดคอตายเอง แล้วมันจะครบองค์ประกอบคดีได้ยังไง?  :slime_hmm:

    ไม่เกี่ยวกันเลยกับกรณีการจ้างวาน หรือสั่งการให้ผู้อื่นกระทำการเพื่อผลประโยชน์ของตน
    ซึ่งผู้ลงมือกระทำการย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากการนั้น (แต่อาจได้รับผลประโยชน์อื่นๆ
    จากผู้จ้างวาน หรือสั่งการก็ได้)

    ยกตัวอย่างมั่วๆ ครับ คำค้าน "ฟังไม่ขึ้น" และ "ฟังไม่ลง" ครับ  :slime_smile2: :slime_smile2:


5. การด่ากันถ้าไม่ได้คิดเองจะไม่ผิด ต่อไปให้คนข้างๆ ด่าจำขี้ปากมาด่าต่อได้สบายใจ

   ถ้าคุณชอบแถจะหมายความถึงกรณี ปชป. ถูกฟ้องให้ยุบพรรคโดยกล่าวหาว่าสร้างเรื่อง
   "ระบอบทักษิณ" ขึ้นมาเองเพื่อใส่ร้ายอดีตนายกฯ ทักษิณ   เรื่องนี้ทาง ปชป. ต่อสู้คดี
   ว่าไม่ได้เป็นผู้สร้างเรื่องขึ้นมาเอง แต่มีปรากฏเป็นเอกสารของนักวิชาการ และมีการ
   เผยแพร่ทั่วไปก่อนหน้าเหตุการณ์ที่ผู้ฟ้องยกมาอ้างอิงความผิดของ ปชป. หลายปี   

   คำค้านของ ปชป. มีหลักฐานหักล้างเป็นข้อเท็จจริงที่เชื่อถือได้ว่าไม่ได้คิดเรื่องขึ้นเอง
   ตามที่ถูกกล่าวหา  และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความผิดฐานหมิ่นประมาทที่คุณชอบแถบอกว่า
   ด่าแล้วไม่ผิดเพราะจำขี้ปากมาด่าอะไรแบบนั้นนะครับ มันคนละเรื่องกันเลย

   คำค้านข้อนี้ก็ฟังไม่ขึ้นเหมือนกันครับ และผมคิดว่าคุณชอบแถฟังคำตัดสินไม่รู้เรื่องด้วย  :slime_bigsmile:


6. อยากยุบพรรคใหญ่แค่ใส่ร้ายกรรมการคนเดียวก็ทำได้แล้ว ไม่ต้องรอพิสูจน์จากศาลอาญา
    ว่ากรรมการพรรคคนนั้นทำผิดจริง เนื่องจากความผิดนั้นเป็นความผิดร้ายแรงมีโทษทางอาญา
    ใช้หลักแค่เชื่อได้ว่า ก็สามารถทำลายล้างทางการเมืองล่วงหน้าก่อนศาลอาญาตัดสินได้
 

    ขนาดของพรรคที่ใหญ่ไม่ใช่เหตุผลว่าจะต้องไม่โดนยุบถ้าคิดแบบนั้นก็ไม่ต้องขึ้นศาลกัน
    เพราะพรรคไทยรักไทยน่ะใหญ่ที่สุด

    ส่วนเรื่องใส่ร้ายกรรมการ ควรสังเกตว่าไทยรักไทยไม่ได้ต่อสู้คดีว่าเหตุการณ์จ้างพรรคเล็ก
    ไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่ต่อสู้ไปว่ากรรมการที่ทำผิดไม่ใช่ตัวแทนอย่างเป็นทางการของพรรค
    เพราะไม่มีการแต่งตั้งเป็นลายลักษณ์อักษร และไม่มีมติคณะกรรมการบริหารพรรครับรอง
    ซึ่งเรื่องดังกล่าวตุลาการท่านพิจารณาว่า การมอบหมายเป็นตัวแทนตามอ้างนั้นใช้สำหรับ
    กรณีการกระทำที่ถูกกฏหมาย เป็นไปไม่ได้ที่จะมอบหมายกันอย่างเป็นทางการให้ไป
    ดำเนินการที่ผิดกฏหมาย  คำอ้างดังกล่าวจึงฟังไม่ขึ้น

    สุดท้ายนะครับมีกฎหมายตรงไหนระบุให้ต้องรอพิสูจน์จากศาลอาญาก่อนหรือครับ
    ช่วยยกมาให้ดูสักหน่อยถ้าจะค้าน  และคุณชอบแถควรเข้าใจชัดๆ เสียที่ว่าเรื่องนี้
    "ไม่ใช่" โทษทางอาญา และไม่อยู่ในเขตอำนาจศาลอาญาด้วย

    คำค้านฟังไม่ขึ้นทั้งหมดเลยครับ ยอมรับความจริงดีกว่าอย่าพยายามเลย  :slime_smile:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: samepong(ยุ่งแฮะ) ที่ 01-06-2007, 14:04

ประการแรก ที่มาของคณะตุลาการชุดนี้เกิดขึ้นจากการแต่งตั้งของ คมช. หาใช่เกิดจากการโปรดเกล้าเหมือนคณะตุลาการชุดก่อนๆ


ประการต่อมา การแบนยกเข่ง 111 คนขาดหลักฐานในการเชื่อมโยงว่าผู้กระทำผิด2-3คนที่บอกนั่นได้กระทำการโดยเป็นที่รับทราบของคนกว่า 100 คน....การกล่าวอ้างว่าคน2-3คนที่มีตำแหน่ง รมต. ย่อมอนุโลมได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญ และโยนภาระการรับรู้ข้อมูลดังกล่าวให้กับ 100 กว่าคนเป็นผ้รับผิดชอบถือว่าเป็นการวินิจฉัยที่ปราศจากเหตุและผล


ประการสุดท้าย ระหว่างหลักฐานวิดิโอในคดีของปชป. กับ หลักฐานการกล่าวอ้างของบุคคลต่างๆของทรท. โดยปรกติแล้ว....ศาลที่มีความยุติธรรมย่อมให้น้ำหนักต่อวิดิโอมากกว่า แต่กรณีนี้....ไม่เป็นเช่นนั้น
---------------------------------------------------------------------------------------
 คนชั่วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สองสามคน จะมาบอกคนที่ดีปนเลว ให้รู้ไหมว่าข้าจะทำชั่วใครไม่พอใจออกไปก่อน ทำชั่วเสร็จค่อยกลับมา มันมีไหมครับ ลองประกาศให้ทั้ง100กว่าคนรู้ก่อนดีครับ ผมว่ามีคนดีออกจากพรรคหมดก่อนและคงไม่มีใครมาสังขยนาหรอก คนชั่วสองสามคนมีสามัญสำนึก แต่ในทางไม่ดีไง มันเลยบอกไม่ได้พูดไม่ได้ก็แอบทำ แอบทำผลที่ออกมาก็คือพาคนดีที่ปนคนเลว ลงเหวตามกันไปไงครับ นี่แหละ สามัญสำนึกหละครับ

แล้วการเอาเรื่อง ปชป. มาปน กับ ทรท. แสดงว่า พยายามแถไปนอกเรื่องแล้วครับ นี่คุณยังไม่รู้อีกเหรอ ว่าสองเรื่องนี้มันคนละคดี ต่างกรรม ต่างวาระ ไม่ได้เป้นคดีเดียวกัน จะเอาหลักฐานอีกคดีมาใฃ้กับอีกคดีได้ไงครับ เชื่อเค้าเลย



หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 01-06-2007, 14:17

..พรรคไทยรักไทยก็ยื่นคำค้านทำนองเดียวกับคุณชอบแถนี่แหละถึงได้แพ้คดีหมดรูป..

1. ไม่ใช่โทษอาญาเพิ่มโทษย้อนหลังได้ ต่อไปคงมีเพิ่มค่าปรับย้อนหลังกันตะบี้ตะบัน

    ก็กฎหมายระบุไว้อย่างชัดเจนเฉพาะในโทษทางอาญาว่าจะเพิ่มโทษย้อนหลังไม่ได้
    และกรณีนี้ "ไม่ใช่" โทษทางอาญา  แต่มีผลให้กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
    ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็เหมือนกับกรณีการออกกฎหมาย
    กำหนดให้ผู้สมัคร สส. ต้องจบปริญญาตรี ซึ่งถือเป็นการกำหนดย้อนหลังจากที่บรรดา
    สส. ที่ไม่จบปริญญาตรี รวมทั้งประชาชนทั่วไปที่ไม่จบปริญญาตรีทั้งหลายในขณะนั้น
    ต่างไม่สามารถสมัคร สส. ได้จากเดิมที่สามารถทำได้  ทำให้ผู้ที่ต้องการสมัคร สส.
    และยังไม่จบปริญญาตรีต้องไปเรียนต่อทั้งหมด เสมือนถูกให้เว้นวรรคทางการเมือง
    เป็นเวลาหลายปีเช่นเดียวกัน
   
    และเรื่องค่าปรับที่คุณชอบแถยกมานั้นเป็นโทษทางอาญา คำค้านฟังไม่ขึ้นครับ  :slime_smile2:


2. ได้รับโปรดเกล้าทำหน้าที่ศาลหนึ่งสามารถไปทำหน้าที่อีกศาลได้โดยไม่ต้องโปรดเกล้าอีก
    ต่อไปได้รับการโปรดเกล้าตำแหน่งหนึ่งคงตีความว่าทำหน้าที่อื่นที่ต้องโปรดเกล้าได้ด้วย
    โดยไม่ต้องเสียเวลาโปรดเกล้าใหม่


    แล้วที่ผ่านมาได้รับโปรดเกล้าทำหน้าที่ศาลหนึ่งแล้วไปทำหน้าที่อีกศาลได้ใช่ไหมครับ
    ถ้าจะค้านก็ค้านตรงนี้  และไม่เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งหน้าที่อื่นๆ ที่ยกมานะครับ

    คำค้านในข้อนี้ฟังไม่ขึ้นอีกเช่นเดียวกัน เพราะค้านไม่ถูกจุดนะครับ  :slime_bigsmile:


3. ยกคำสั่งคณะปฏิวัติเป็นประเพณีการปกครองแบบประชาธิปไตยของไทย ต่อไปคงได้มี
    การปฏิวัติอยู่คู่การปกครองเมืองไทยเพราะยกระดับให้ดูชอบธรรม


    และที่ผ่านมาคำสั่งคณะปฏิวัติ คณะปฏิรูปต่างๆ มีผลเป็นกฎหมายหรือเปล่าล่ะครับ
    ถ้ามีผลก็ถือเป็นประเพณีการปกครองฯ จริงๆ   และถ้าจะบอกว่าไม่มีผลเป็นกฎหมาย
    งั้นก็ลองไม่ยอมยุบพรรค หรือกรรมการพรรคลองพยายามดำรงตำแหน่งทางการเมือง
    ให้ดูหน่อยสิครับว่าทำได้หรือเปล่า นี่ก็เห็นยอมรับว่าโดนยุบ และโดนตัดสิทธิจริงๆ

    พรรคไทยรักไทยยังไม่ค้านเรื่องนี้ และคุณจะค้านได้ยังไง คำค้านฟังไม่ขึ้นอีกแล้วครับ  :slime_bigsmile:


4. ใช้หลักคำบอกเล่าพยานและสรุปว่าใครได้ประโยชน์คนนั้นเป็นผู้ผิด ต่อไปบุคคลที่ 1 มี
    ความแค้นบุคคลที่ 2 บุคคลที่ 1 เกิดมองหน้าบุคคลที่ 2 มีพยานบุคคลที่ 3 เห็น แต่บุคคล
    ที่ 2 กลับบ้านกินข้าวติดคอตายเอง บุคคลที่ 3 ให้การว่าเห็นบุคคลที่ 1 มองหน้าบุคคลที่ 2
    บุคคลที่ 1 จะผิดเพราะบุคคลที่ 1 ได้ประโยชน์


    กรณีที่ยกมาก็ระบุชัดๆ ว่ากินข้าวติดคอตายเอง แล้วมันจะครบองค์ประกอบคดีได้ยังไง?  :slime_hmm:

    ไม่เกี่ยวกันเลยกับกรณีการจ้างวาน หรือสั่งการให้ผู้อื่นกระทำการเพื่อผลประโยชน์ของตน
    ซึ่งผู้ลงมือกระทำการย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากการนั้น (แต่อาจได้รับผลประโยชน์อื่นๆ
    จากผู้จ้างวาน หรือสั่งการก็ได้)

    ยกตัวอย่างมั่วๆ ครับ คำค้าน "ฟังไม่ขึ้น" และ "ฟังไม่ลง" ครับ  :slime_smile2: :slime_smile2:


5. การด่ากันถ้าไม่ได้คิดเองจะไม่ผิด ต่อไปให้คนข้างๆ ด่าจำขี้ปากมาด่าต่อได้สบายใจ

   ถ้าคุณชอบแถจะหมายความถึงกรณี ปชป. ถูกฟ้องให้ยุบพรรคโดยกล่าวหาว่าสร้างเรื่อง
   "ระบอบทักษิณ" ขึ้นมาเองเพื่อใส่ร้ายอดีตนายกฯ ทักษิณ   เรื่องนี้ทาง ปชป. ต่อสู้คดี
   ว่าไม่ได้เป็นผู้สร้างเรื่องขึ้นมาเอง แต่มีปรากฏเป็นเอกสารของนักวิชาการ และมีการ
   เผยแพร่ทั่วไปก่อนหน้าเหตุการณ์ที่ผู้ฟ้องยกมาอ้างอิงความผิดของ ปชป. หลายปี   

   คำค้านของ ปชป. มีหลักฐานหักล้างเป็นข้อเท็จจริงที่เชื่อถือได้ว่าไม่ได้คิดเรื่องขึ้นเอง
   ตามที่ถูกกล่าวหา  และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความผิดฐานหมิ่นประมาทที่คุณชอบแถบอกว่า
   ด่าแล้วไม่ผิดเพราะจำขี้ปากมาด่าอะไรแบบนั้นนะครับ มันคนละเรื่องกันเลย

   คำค้านข้อนี้ก็ฟังไม่ขึ้นเหมือนกันครับ และผมคิดว่าคุณชอบแถฟังคำตัดสินไม่รู้เรื่องด้วย  :slime_bigsmile:


6. อยากยุบพรรคใหญ่แค่ใส่ร้ายกรรมการคนเดียวก็ทำได้แล้ว ไม่ต้องรอพิสูจน์จากศาลอาญา
    ว่ากรรมการพรรคคนนั้นทำผิดจริง เนื่องจากความผิดนั้นเป็นความผิดร้ายแรงมีโทษทางอาญา
    ใช้หลักแค่เชื่อได้ว่า ก็สามารถทำลายล้างทางการเมืองล่วงหน้าก่อนศาลอาญาตัดสินได้
 

    ขนาดของพรรคที่ใหญ่ไม่ใช่เหตุผลว่าจะต้องไม่โดนยุบถ้าคิดแบบนั้นก็ไม่ต้องขึ้นศาลกัน
    เพราะพรรคไทยรักไทยน่ะใหญ่ที่สุด

    ส่วนเรื่องใส่ร้ายกรรมการ ควรสังเกตว่าไทยรักไทยไม่ได้ต่อสู้คดีว่าเหตุการณ์จ้างพรรคเล็ก
    ไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่ต่อสู้ไปว่ากรรมการที่ทำผิดไม่ใช่ตัวแทนอย่างเป็นทางการของพรรค
    เพราะไม่มีการแต่งตั้งเป็นลายลักษณ์อักษร และไม่มีมติคณะกรรมการบริหารพรรครับรอง
    ซึ่งเรื่องดังกล่าวตุลาการท่านพิจารณาว่า การมอบหมายเป็นตัวแทนตามอ้างนั้นใช้สำหรับ
    กรณีการกระทำที่ถูกกฏหมาย เป็นไปไม่ได้ที่จะมอบหมายกันอย่างเป็นทางการให้ไป
    ดำเนินการที่ผิดกฏหมาย  คำอ้างดังกล่าวจึงฟังไม่ขึ้น

    สุดท้ายนะครับมีกฎหมายตรงไหนระบุให้ต้องรอพิสูจน์จากศาลอาญาก่อนหรือครับ
    ช่วยยกมาให้ดูสักหน่อยถ้าจะค้าน  และคุณชอบแถควรเข้าใจชัดๆ เสียที่ว่าเรื่องนี้
    "ไม่ใช่" โทษทางอาญา และไม่อยู่ในเขตอำนาจศาลอาญาด้วย

    คำค้านฟังไม่ขึ้นทั้งหมดเลยครับ ยอมรับความจริงดีกว่าอย่าพยายามเลย  :slime_smile:

(http://i174.photobucket.com/albums/w120/kittinunn/pongthep_listen.jpg)

ของแถม


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 01-06-2007, 15:29
ไม่ได้นึกอยากตอบกระทู้ของนายแถ แต่สิ่งที่จะนำมาเล่าไว้ให้ฟังนี้ เพื่อแก้โง่ของ ไทยรักไทย

คดีสำคัญที่สุดของโลกครั้งหนึ่ง คือคดี อาชญากรสงคราม นาซี โดยเฉพาะ คดี ไอค์มัน

ในระหว่างที่กองทัพเยอรมันทำสงครามนั้น ไม่มีกฎหมายใดๆระบุว่าสิ่งที่นเหล่านั้นทำไว้ผิด

แต่เมื่อสงครามยุติ ทั้งศาลนูเรมเบิร์ก และศาลของอิสราเองเอง ต่างพิพากษาลงโทษทหารเยอรมัน ทั้งๆกฎหมายที่นำมาลงโทษนั้น เอาผิดย้อนหลัง

โดยเฉพาะคดี ไอค์มัน จำเลยถูกนำไปดำเนิคดีในศาลประเทศ อิสราเอล ประเทศที่ยังไม่เกิดด้วยซ้ำไปในขณะที่เยอรมันฆ่ายิว แกฎมยที่นำมาพิพากษา ไอค์มัน นั้น เป็นกฎหมายของอิสราเอล เขียนหลังเกิดเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวยิวไปแล้ว

ประชาคมโลกทั้งหมด ยอมรับในการพิพากษานั้น               

อาชญากรรมนั้นเป็นสากล ผู้ประกอบอาชญากรรม ถึงจะประกอบในขณะที่ไม่มีข้อกฎหมายกำหนดไว้ แต่หากสิ่งนั้นละเมิดต่อผู้อื่น ลงโทษย้อนหลังเพื่อความยุติธรรมของสังคมนั้นได้ค่ะ

ไทยรักไทย เป็นพรรคการเมืองที่ ถ่..อ..ย  ที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา

ลิ่วล้อของมันี่มาสาะแนในบอร์นี้ แสดงตัวชัดเจนแล้วว่า ไม่ยอมับกติกาของสังคม และมุ่งจะก่อแต่ความวุ่นวาย เพื่อประโยน์ส่วนตน


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 01-06-2007, 15:32
โง่บัดซบที่คิดว่าค่าปรับมีแต่โทษอาญาแล้วยังสะเออะจะมาแย้งไปเรียนหนังสือ
มาใหม่ไป๊ไอ้พวกหน้าโง่คิดว่าตัวเองฉลาด ค่าปรับทางแพ่งที่ผิดสัญญากับรัฐก็
มีตั้งหลายกรณีรวมถึงวิธีการคิดดอกเบี้ยด้วย เช่น เงินประกันตัวผู้ต้องหา รู้ไว้มั่ง
ถ้านำผู้ต้องหามาให้ตำรวจไม่ได้ก็เจอปรับเป็นแพ่งไม่ใช่อาญา

ถ้าคิดว่าประชาธิปไตยคือเลียบู๊ททหารก็ต่างจิตต่างใจคิดแบบไทยๆ ไม่สากล
ห้ามกันไม่ได้ถ้าอยากอยู่หลังเขา จะตีความแบบพม่าๆ แบบไทยๆ ยังไงก็เอา
เถอะ สากลเค้าไม่คิดว่าเผด็จการทหารเป็นประชาธิปไตยหรอก ไม่ต้องมาแสดง
โง่แถวนี้ก็ได้


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 01-06-2007, 15:35
เอาหน้าปกหนังสือมาให้ เศษเดนไทยรักไทย ไปหาอ่านแก้โง่ซะ มีปัญญาอ่านหรือเปล่าล่ะ โง่ อ่านแล้วหนัก เขา นะ จะบอกให้

(http://img244.imageshack.us/img244/6316/69986965bn2.jpg)


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: qazwsx ที่ 01-06-2007, 15:44
โง่บัดซบที่คิดว่าค่าปรับมีแต่โทษอาญาแล้วยังสะเออะจะมาแย้งไปเรียนหนังสือ
มาใหม่ไป๊ไอ้พวกหน้าโง่คิดว่าตัวเองฉลาด ค่าปรับทางแพ่งที่ผิดสัญญากับรัฐก็
มีตั้งหลายกรณีรวมถึงวิธีการคิดดอกเบี้ยด้วย เช่น เงินประกันตัวผู้ต้องหา รู้ไว้มั่ง
ถ้านำผู้ต้องหามาให้ตำรวจไม่ได้ก็เจอปรับเป็นแพ่งไม่ใช่อาญา

ถ้าคิดว่าประชาธิปไตยคือเลียบู๊ททหารก็ต่างจิตต่างใจคิดแบบไทยๆ ไม่สากล
ห้ามกันไม่ได้ถ้าอยากอยู่หลังเขา จะตีความแบบพม่าๆ แบบไทยๆ ยังไงก็เอา
เถอะ สากลเค้าไม่คิดว่าเผด็จการทหารเป็นประชาธิปไตยหรอก ไม่ต้องมาแสดง
โง่แถวนี้ก็ได้

ค่าปรับสินไหมทดแทน
ค่าปรับตามที่ระบุไว้ในนิติกรรมสัญญา
ค่าปรับจากการกระทำความผิดทางอาญา
...เหมือนกัน ?

โห...ฉลาดชิบ
 :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 01-06-2007, 16:05
โง่บัดซบที่คิดว่าค่าปรับมีแต่โทษอาญาแล้วยังสะเออะจะมาแย้งไปเรียนหนังสือ
มาใหม่ไป๊ไอ้พวกหน้าโง่คิดว่าตัวเองฉลาด ค่าปรับทางแพ่งที่ผิดสัญญากับรัฐก็
มีตั้งหลายกรณีรวมถึงวิธีการคิดดอกเบี้ยด้วย เช่น เงินประกันตัวผู้ต้องหา รู้ไว้มั่ง
ถ้านำผู้ต้องหามาให้ตำรวจไม่ได้ก็เจอปรับเป็นแพ่งไม่ใช่อาญา

ถ้าคิดว่าประชาธิปไตยคือเลียบู๊ททหารก็ต่างจิตต่างใจคิดแบบไทยๆ ไม่สากล
ห้ามกันไม่ได้ถ้าอยากอยู่หลังเขา จะตีความแบบพม่าๆ แบบไทยๆ ยังไงก็เอา
เถอะ สากลเค้าไม่คิดว่าเผด็จการทหารเป็นประชาธิปไตยหรอก ไม่ต้องมาแสดง
โง่แถวนี้ก็ได้

โอเคครับคุณชอบแถที่ว่ามีค่าปรับทางแพ่งด้วย

แล้วยังไงครับค่าปรับทางแพ่งซึ่งไม่ใช่โทษทางอาญาเขาจะเพิ่มค่าปรับย้อนหลัง
ได้ไหมล่ะครับ และถ้าหากเพิ่มได้ก็ตรงกับที่ตุลาการท่านวินิจฉัยว่า ถ้าไม่ใช่โทษ
ทางอาญาก็สามารถเพิ่มย้อนหลังได้อยู่ดี

เรื่องค่าปรับน่ะผมแซวเล่นๆ ต่อท้ายความเห็น แต่ประเด็นหลักที่ผมโพสไว้ก่อน
ตั้งยืดยาวตกลงคุณชอบเห็นด้วยโดยไม่โต้เถียงใช่ไหม ?

เวลาแย้งน่ะควรแย้งประเด็นหลักนะครับ ไม่ใช่แย้งคำห้อยท้ายที่ผมแซวเล่นๆ
เพราะถ้าไม่แย้งประเด็นหลักที่เป็นสาระสำคัญก็แพ้คดีนะครับ
  :slime_smile:

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. ไม่ใช่โทษอาญาเพิ่มโทษย้อนหลังได้ ต่อไปคงมีเพิ่มค่าปรับย้อนหลังกันตะบี้ตะบัน

    ก็กฎหมายระบุไว้อย่างชัดเจนเฉพาะในโทษทางอาญาว่าจะเพิ่มโทษย้อนหลังไม่ได้
    และกรณีนี้ "ไม่ใช่" โทษทางอาญา  แต่มีผลให้กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
    ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็เหมือนกับกรณีการออกกฎหมาย
    กำหนดให้ผู้สมัคร สส. ต้องจบปริญญาตรี ซึ่งถือเป็นการกำหนดย้อนหลังจากที่บรรดา
    สส. ที่ไม่จบปริญญาตรี รวมทั้งประชาชนทั่วไปที่ไม่จบปริญญาตรีทั้งหลายในขณะนั้น
    ต่างไม่สามารถสมัคร สส. ได้จากเดิมที่สามารถทำได้  ทำให้ผู้ที่ต้องการสมัคร สส.
    และยังไม่จบปริญญาตรีต้องไปเรียนต่อทั้งหมด เสมือนถูกให้เว้นวรรคทางการเมือง
    เป็นเวลาหลายปีเช่นเดียวกัน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 01-06-2007, 16:15
ตัดคำพิพากษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้พอดี เอามาลงให้อ่านประกอบด้วยแล้วกัน

--------------------------------------------------------------------------------------------------
ประเด็นต้องวินิจฉัยว่า ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 27 ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 มีผลใช้บังคับย้อนหลังกับการกระทำอันเป็นเหตุยุบพรรคในคดีนี้หรือไม่

ข้อนี้ผู้ถูกร้องที่ 1 กล่าวอ้างว่า ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 27 ไม่มีผลใช้บังคับย้อนหลัง เนื่องจากประกาศฉบับดังกล่าวไม่ได้กำหนดให้มีผลใช้บังคับย้อนหลัง ทั้งการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของบุคคลในการใช้ สิทธิทางการเมืองซึ่งเป็นโทษทางการเมืองและมีความร้ายแรงกว่าโทษอาญาบาง ประเภท จึงต้องกำหนดไว้แน่นอนล่วงหน้า หากตีความว่าให้มีผลย้อนหลัง จะขัดกับหลักนิติรัฐและหลักการออกกฎหมายที่อารยประเทศทั่วโลกยึดถือ

พิจารณาแล้วเห็นว่า ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 27 ข้อ 3 บัญญัติว่า "ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญหรือองค์กรอื่นที่ทำหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองใด เพราะเหตุกระทำการต้องห้ามตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น มีกำหนดห้าปีนับแต่วันที่มีคำสั่งให้ยุบพรรค"

ประกาศฉบับดังกล่าวมี ผลใช้บังคับเมื่อ 30 กันยายน 2549 แต่การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสามอันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพรรคการเมือง พ.ศ.2549 เกิดขึ้นในช่วงเวลาภายหลังพระราชกฤษฎีกายุบสภา พ.ศ.2549 มีผลใช้บังคับคือเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 จนถึงวันที่ 2 เมษายน 2549 อันเป็นวันลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว จึงมีปัญหาว่า ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พุทธศักราช 2549 ฉบับที่ 27 ข้อ 3 เป็นกฎหมายที่มีผลย้อนหลังเป็นผลร้ายแก่บุคคล ต้องห้ามมิให้ใช้บังคับหรือไม่

หลังการห้ามออกกฎหมายมีผลย้อนหลัง เป็นผลร้ายแก่บุคคลนั้น มีที่มาจากหลักการที่ว่า ไม่มีกฎหมาย ไม่มีความผิด ไม่มีโทษ แต่หลักการดังกล่าวใช้บังคับกับการกระทำอันเป็นความผิดอาญาเท่านั้น ดังที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 บัญญัติว่า "บุคคลจักต้องรับโทษในทางอาญา ต่อเมื่อได้กระทำการอันกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำนั้นบัญญัติเป็นความผิดและ กำหนดโทษไว้ และโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำผิดนั้น จะต้องเป็นโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย" ซึ่งหลักการนี้ได้รับความคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยในอดีต หลายฉบับ ตั้งแต่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2492 เป็นต้นมา

ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 27 ข้อ 3 ที่ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีกำหนดห้าปีนับ แต่วันที่มีคำสั่งให้ยุบพรรค เพราะเหตุกระทำการต้องห้ามตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรค การเมือง พ.ศ.2541 มาตรา 66 นั้น แม้เป็นบทบัญญัติที่มีผลทำให้กรรมการบริหารพรรคการเมืองที่กระทำการต้อง ห้ามตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 มาตรา 66 ก่อนที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับต้องรับผลร้ายเพิ่มขึ้น เนื่องจากเดิมเพียงแต่ได้รับผลตามมาตรา 69 กล่าวคือ จะขอจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารของพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการขอจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ตามมาตรา 8 อีกไม่ได้เท่านั้น แต่การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมิใช่โทษทางอาญา เป็นเพียงมาตรการทางกฎหมายที่เกิดจากผลของกฎหมายที่ให้อำนาจในการยุบพรรค การเมืองที่กระทำการต้องห้ามตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรค การเมือง พ.ศ.2541 เพื่อมิให้กรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเมือง และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมีโอกาสที่จะกระทำการอันเป็นการก่อให้เกิด ความเสียหายซ้ำอีกในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และแม้สิทธิเลือกตั้งเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชนในสังคมที่มีการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตย แต่การมีกฎหมายกำหนดว่าบุคคลใดสมควรมีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้เหมาะสมแก่สภาพแห่งสังคม หรือเพื่อให้การปกครองระบอบประชาธิปไตยในสังคมนั้นดำรงอยู่ย่อมมีได้ ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 27 ข้อ 3 จึงมีผลใช้บังคับย้อนหลังแก่การกระทำอันเป็นเหตุยุบพรรคในคดีนี้ได้ ข้อต่อสู้ของผู้ถูกร้องที่ 1 ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: Anthony ที่ 01-06-2007, 16:39
อ๋อ หมายถึงคดีซุกหุ้นนะเหรอ ชอบแถ(อะไรจ๊ะ) พนง.ม.ชินวัตร

ใช่แล้วอัปยศสุดๆเลย ถึงลูกถึงหลานเลยแหละ ตัดสินวันเดียวกัน คนนึงผิด อีกคนดันไม่ผิด ทั้งที่ปกปิดทรัพย์สินเหมือนกัน

คดีผู้ว่า สตง.ด้วยใช่มะ :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 01-06-2007, 16:41
คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายชอบแถต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 01-06-2007, 17:13
ไม่แปลกใจที่คนส่วนใหญ่ที่เวบนี้จะยอมรับว่า
อำนาจที่ยึดไปจากประชาชน โดยคณะรัฐประหาร
มีความ “ชอบธรรม”
แต่ไม่น่าเชื่อว่าเหล่าตุลาการ (ตลก.) จะยอมรับมาใช้ด้วย
รู้สึก “ผิดคาด” เช่นเดียวกับคุณจาตุรนต์
และนักกฏหมายอีกหลายท่าน

และสำหรับพวกชอบใช้คำ “ข่มขืน” ในการเปรียบเทียบ
ขอเสนอคำพูด อ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล หลังฟังคำ “วินิจฉัย” *
ที่บอกว่า “คนข่มขืน” ให้มาตัดสินลงโทษ “คนลวนลาม”
เป็นธรรมหรือไม่?
หรือต่อไปนี้ “ผู้ใดมีดาบผู้นั้นก็เป็นใหญ่”
ใครมีอาวุธมากก็จงมายึดประเทศไทย
แล้วก็ยอมรับกัน
And we live happily ever after.
Only it doesn’t work that way.

* มิใช่ “พิพากษา” เพราะมิใช่ “ศาล”
กระทำการภายใต้พระปรมาภิไธย
เป็นเพียงคณะ ตลก. ที่คณะรัฐประหารแต่งตั้งมา
เช่นเดียวกับ คตส. สนช. สสร. กมธ. ฯลฯ

ส่วนเรื่องออกกฏหมายเอาผิดได้ย้อนหลัง
หากยอมรับให้ใช้บังคับได้เป็น "บรรทัดฐาน"
พวกที่ทำผิด ฉีกรัฐธรรมนูญ และที่ร่วมกันก่อการอื่นใด
อันไม่เป็นธรรม ... จงระวังไว้ให้ดี
นิรโทษกรรม ถึงเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญก็จะไม่มีความหมาย
เพราะสามารถออกกฏหมายที่ใหม่กว่ามายกเลิก
แล้วเอาผิดล้างผลาญกัน ย้อนหลังได้ทุกเวลา
ปรับสักแสนล้านเป็นไร มิใช่โทษอาญา


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 01-06-2007, 17:15
คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายชอบแถต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


ชายฯว่าตอนนี้มีประเด็นที่น่าสนใจอย่างน้อย 2 เรื่องคือ

สถานะของตุลาการที่แต่งตั้งโดยคมช.ที่ปราศจากการโปรดเกล้ามีความชอบธรรมและถูกต้องในทางกฏหมายหรือไม่?
และสอง การลงโทษ 111 คนขัดต่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานว่าด้วยเรื่องทางการเมืองกับสหประชาชาติหรือไม่?


อิ อิ....เกมส์แห่งอำนาจมันต้องดูหลายๆตอนถึงจะหนุกหนานฮ้า :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 01-06-2007, 17:32

ชายฯว่าตอนนี้มีประเด็นที่น่าสนใจอย่างน้อย 2 เรื่องคือ

สถานะของตุลาการที่แต่งตั้งโดยคมช.ที่ปราศจากการโปรดเกล้ามีความชอบธรรมและถูกต้องในทางกฏหมายหรือไม่?
และสอง การลงโทษ 111 คนขัดต่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานว่าด้วยเรื่องทางการเมืองกับสหประชาชาติหรือไม่?


อิ อิ....เกมส์แห่งอำนาจมันต้องดูหลายๆตอนถึงจะหนุกหนานฮ้า :slime_smile2:

1. ตัดแปะนายประดาบในไฮท็อกซิณไปถวายฎีกาโน่น

2. คนโกงการเลือกตั้ง ก็ต้องโดนตัดสิทธิในการเลือกตั้ง


ลองดูดิ


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: สมชายสายชม ที่ 01-06-2007, 17:39
ชายเหนือชาย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออนไลน์ ออนไลน์

กระทู้: 3,794



   
   
Yesss! ศาลมีคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่า 3 กกต. ไม่ผิด!!
« เมื่อ: 25-07-2006, 08:39 »
   
เริ่มโดย ชายเหนือชาย, ข้อความ โดย ชายเหนือชาย

ม่ะ ใครจะต่อรองราคาบ้าง?

พี่จ๊ะรองก่อนเลยว่า ท่าน 3 กกต. ไม่ผิด...ใครจะต่อให้บ้างอ่ะ?!?


พี่จ๊ะขอ make money หน่อยดี๊
ิ๊ 
ขอล็อกกระทู้เพื่อให้กระทู้ตกไป เนื่องจากเป็นกระทู้ที่ให้ข้อมูลตรงข้ามกับความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง
และขอแจ้งเตือนสมาชิกทุกท่าน โปรดระมัดระวังข้อมูลที่คาดเคลื่อนไม่ตรงกับความจริงในกระทู้นี้ด้วยครับ
/ Aloha007 : Global Moderator...

หลัง จากที่ ‘ฟ้าเปิด’ โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค. เพื่อความสงบสุขของประเทศชาติและให้มีการจัดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และ ยุติธรรม ส่งผลให้กระบวนการทางสังคมและการเมืองขับเคลื่อนไปได้อย่างถูกต้องอย่าง เป็นระบบต่อไป

และแล้ว momentum การแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤติทางการเมืองและสังคมก็ได้รับการขับเคลื่อน ต่อไปข้างหน้าเมื่อศาลชั้นต้นมีคำวินิจฉัย ‘ยกฟ้อง’ คดีที่นายถาวร ฟ้องร้อง 3 กกต. ในข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการมิชอบ รายละเอียดในคำวินิจฉัยคดีดังกล่าว...ก็ไปติดตามเอาเองแล้วกันวันนี้หง่ะ



‘อะไรจ๊ะ’ ขอกระดิก feet จิบเบียร์เย็นๆหัวเราะเอิ๊กๆไปพลางๆก่อน...จะผิดมากมั้ยฮ่ะ!?!


กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก.......
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-07-2006, 14:26 โดย Aloha007 »    แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
http://forum.serithai.net/index.php?topic=4588.msg63162;topicseen#msg63162




รู้สึกว่า อาจารย์จ๊ะ จะตีโจทย์ไม่แตก แต่ หน้าแตก บ่อยนะ  :slime_bigsmile:  :slime_v:

...


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 01-06-2007, 19:20
ไหนๆ ก็ย้อนหลังกันได้
และมีจุดมุ่งหมายสูงส่ง
อยากทำให้การเมืองไทยใสสะอาด
ปราศจากการโกงเลือกตั้ง
ไยไม่ไปจัดการยุบพรรคและ
ตัดสิทธิย้อนหลังกรรมการบริหารพรรค
ที่มีนักเลือกตั้งได้ “ใบแดง” จากการโกงเลือกตั้ง
ในอดีต ทั้งหลายทั้งปวงให้หมดสิ้น

ชาวบ้านจะได้ไม่คิดสงสัยว่า
คณะ ตลก. และประกาศ คปค. นั้น
สร้างขึ้นมาเฉพาะกิจเพื่อเลือกปฏิบัติ
กำจัดศัตรูทางการเมืองบางคน บางพรรค
เช่นเดียวกับที่สงสัย คตส. เลือกทำเฉพาะบางคดี


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 01-06-2007, 19:30
ไหนๆ ก็ย้อนหลังกันได้
และมีจุดมุ่งหมายสูงส่ง
อยากทำให้การเมืองไทยใสสะอาด
ปราศจากการโกงเลือกตั้ง
ไยไม่ไปจัดการยุบพรรคและ
ตัดสิทธิย้อนหลังกรรมการบริหารพรรค
ที่มีนักเลือกตั้งได้ “ใบแดง” จากการโกงเลือกตั้ง
ในอดีต ทั้งหลายทั้งปวงให้หมดสิ้น

ชาวบ้านจะได้ไม่คิดสงสัยว่า
คณะ ตลก. และประกาศ คปค. นั้น
สร้างขึ้นมาเฉพาะกิจเพื่อเลือกปฏิบัติ
กำจัดศัตรูทางการเมืองบางคน บางพรรค
เช่นเดียวกับที่สงสัย คตส. เลือกทำเฉพาะบางคดี


เห็นเรื่องใดมีมูลก็เอามาโพสต์สิครับ พูดออกมาแล้วก็เป็นหน้าที่ด้วยแล้ว

อย่างคดีคลองด่านก็เห็นสอบสวนกันอยู่


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: Body&Soul ที่ 01-06-2007, 19:31
ใจคอน้องโนว์เฟะ จะให้ไปขุดกระดูกในป่าช้ามาเชียวหรือ

เอาเฉพาะที่เห็นๆก่อน แล้วต่อไปก็เข็ดหลาบกันเอง

อย่ามามั่วสิคร๊าบบ


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 01-06-2007, 19:38
ชายเหนือชาย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออนไลน์ ออนไลน์

กระทู้: 3,794





   
   
Yesss! ศาลมีคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่า 3 กกต. ไม่ผิด!!
« เมื่อ: 25-07-2006, 08:39 »
   
เริ่มโดย ชายเหนือชาย, ข้อความ โดย ชายเหนือชาย

ม่ะ ใครจะต่อรองราคาบ้าง?

พี่จ๊ะรองก่อนเลยว่า ท่าน 3 กกต. ไม่ผิด...ใครจะต่อให้บ้างอ่ะ?!?


พี่จ๊ะขอ make money หน่อยดี๊
ิ๊ 
ขอล็อกกระทู้เพื่อให้กระทู้ตกไป เนื่องจากเป็นกระทู้ที่ให้ข้อมูลตรงข้ามกับความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง
และขอแจ้งเตือนสมาชิกทุกท่าน โปรดระมัดระวังข้อมูลที่คาดเคลื่อนไม่ตรงกับความจริงในกระทู้นี้ด้วยครับ
/ Aloha007 : Global Moderator...

หลัง จากที่ ‘ฟ้าเปิด’ โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค. เพื่อความสงบสุขของประเทศชาติและให้มีการจัดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และ ยุติธรรม ส่งผลให้กระบวนการทางสังคมและการเมืองขับเคลื่อนไปได้อย่างถูกต้องอย่าง เป็นระบบต่อไป

และแล้ว momentum การแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤติทางการเมืองและสังคมก็ได้รับการขับเคลื่อน ต่อไปข้างหน้าเมื่อศาลชั้นต้นมีคำวินิจฉัย ‘ยกฟ้อง’ คดีที่นายถาวร ฟ้องร้อง 3 กกต. ในข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการมิชอบ รายละเอียดในคำวินิจฉัยคดีดังกล่าว...ก็ไปติดตามเอาเองแล้วกันวันนี้หง่ะ



‘อะไรจ๊ะ’ ขอกระดิก feet จิบเบียร์เย็นๆหัวเราะเอิ๊กๆไปพลางๆก่อน...จะผิดมากมั้ยฮ่ะ!?!


กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก.......
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-07-2006, 14:26 โดย Aloha007 »    แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
http://forum.serithai.net/index.php?topic=4588.msg63162;topicseen#msg63162




รู้สึกว่า อาจารย์จ๊ะ จะตีโจทย์ไม่แตก แต่ หน้าแตก บ่อยนะ  :slime_bigsmile:  :slime_v:

...


โห........น้าสมชาย เอาใบเสร็จมาโชว์ เลยหรือนี่

 :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 01-06-2007, 19:59
ไหนๆ ก็ย้อนหลังกันได้
และมีจุดมุ่งหมายสูงส่ง
อยากทำให้การเมืองไทยใสสะอาด
ปราศจากการโกงเลือกตั้ง
ไยไม่ไปจัดการยุบพรรคและ
ตัดสิทธิย้อนหลังกรรมการบริหารพรรค
ที่มีนักเลือกตั้งได้ “ใบแดง” จากการโกงเลือกตั้ง
ในอดีต ทั้งหลายทั้งปวงให้หมดสิ้น

ชาวบ้านจะได้ไม่คิดสงสัยว่า
คณะ ตลก. และประกาศ คปค. นั้น
สร้างขึ้นมาเฉพาะกิจเพื่อเลือกปฏิบัติ
กำจัดศัตรูทางการเมืองบางคน บางพรรค
เช่นเดียวกับที่สงสัย คตส. เลือกทำเฉพาะบางคดี


ออกแนวเกะกะระรานนะเนี่ย 

จบอะไรมาล่ะเนี่ยถึงรู้ดีจัง  ขนาดศาลตัดสินยังบอกว่า ศาลผิด

จบจากโรงเรียนสารพัดวิชาหรือเปล่า  เก่งไปหมด

สารพัดวิชา กับ จับฉ่ายวิชา นี่มันคล้ายๆกันหรือเปล่านะ




หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: เหยี่ยวพิฆาต ที่ 01-06-2007, 20:58
เรื่องกฎหมายย้อนหลังก็มีบางฉบับประกาศใช้อยู่ก่อนนานแล้ว อย่างพรบ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงินที่ประกาศใช้ มีผลย้อนหลังนะครับ แถมยังอายัด ยึดทรัพย์ผู้กระทำผิดได้อีกด้วย ทำไมไม่เห็นแถเอามาประท้วงบ้างครับ

แล้วกฎหมายอาญาก็ยังมีผลย้อนหลังได้นะครับ แต่เฉพาะในกรณีที่เป็นคุณ อย่างสมมุติว่าวันนี้แถไปฆ่าคนตายติดคุก10ปี ระหว่างจำคุกมีพรบ.ออกมายกเลิกกฎหมายอาญาเรื่องการฆ่าคนไม่ผิด แถก็จะได้รับคุณแห่งการยกเลิกกฎหมายเรื่องการฆ่าคน ส่งผลให้แถต้องถูกปล่อยตัวทันที(สมมุตินะครับ เพื่อให้เห็นผลย้อนหลังของข้อกฎหมาย) ทั้งนี้ขอยืนยันว่า ถ้าไม่ใช่หลักกฎหมายอาญา รัฐอาจออกกฎหมายย้อนหลังได้หากเป็นเรื่องที่จำเป็นต่อความมั่นคงของรัฐครับ

ข้ออื่นๆรอคนอื่นมาตอบละกันนะ

โบราณท่านว่า "อย่าสีซอ ให้ควายฟัง"


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: เหยี่ยวพิฆาต ที่ 01-06-2007, 21:04
ไหนๆ ก็ย้อนหลังกันได้
และมีจุดมุ่งหมายสูงส่ง
อยากทำให้การเมืองไทยใสสะอาด
ปราศจากการโกงเลือกตั้ง
ไยไม่ไปจัดการยุบพรรคและ
ตัดสิทธิย้อนหลังกรรมการบริหารพรรค
ที่มีนักเลือกตั้งได้ “ใบแดง” จากการโกงเลือกตั้ง
ในอดีต ทั้งหลายทั้งปวงให้หมดสิ้น

ชาวบ้านจะได้ไม่คิดสงสัยว่า
คณะ ตลก. และประกาศ คปค. นั้น
สร้างขึ้นมาเฉพาะกิจเพื่อเลือกปฏิบัติ
กำจัดศัตรูทางการเมืองบางคน บางพรรค
เช่นเดียวกับที่สงสัย คตส. เลือกทำเฉพาะบางคดี


ไอ้พวกที่ออกใบแดง ต่างก็ติดคุกกันไปถ้วนทั่ว ด้วยพฤติกรรมที่ผ่านมา
ตกลงการออกใบแดงเป็นพฤติกรรมที่น่าเชื่อถือหรือไม่


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: truly ที่ 01-06-2007, 22:56
ชายเหนือชาย
ขาประจำขั้นที่ 3

 ออฟไลน์

กระทู้: 3,794


 
   
Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
? ตอบ #45 เมื่อ: วันนี้ เวลา 13:37 ?
อ้างถึง
อ้างจาก: truly ที่ วันนี้ เวลา 12:47
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ในสายตาของสุนัขย่อมมองเห็นเจ้านายที่ให้ข้าวให้น้ำตัวเองดีกว่าคนอื่นอยู่แล้ว
ใครจะมาทำร้ายนาย ก็ต้องปกป้องไว้ก่อน เพราะสุนัขมันไม่รู้หรอกว่านายมันเป็นคนดีหรือไม่ดีอย่างไร
อย่างนี้ผมถือว่าเป็นสุนัขที่มีมาตรฐานสูง 
-------------------------------------------------
เรื่องของหมาๆ...ชายฯไม่ทราบดีเท่าคุณtruly อันนี้ขอยอมรับคร้าคุณพี่ขา
-------------------------------------------------

หมาไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับคัวเองหรอกครับ
คนเลี้ยงจะรู้ดีกว่า.... :slime_smile2:


แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล     บันทึกการเข้า


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 02-06-2007, 21:30
วันที่ 31 พฤกษภาคม 2550.............
คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก สงบเสงี่ยมไปหนึ่งวัน
เพราะ"ใบบอก"ที่มีอยู่นั้น "ล้าสมัย"...
ไม่ทันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเย็นวันที่ 30 พฤกษภาคม 2550

เมื่อ"ใบบอก"ฉบับใหม่ออกมา พร้อมคำสั่งการให้ คนรักเหลี่ยมฯ สู้ ๆ ๆ
คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก จึงเข้ามาในเว็บเสรีไทยใหม่...

แม้ว่าจะยังเจ็บใจ ยังปวดใจไม่หาย
ที่ตุลาการรัฐธรรมนูญ 9 ท่าน ไม่เห็น"คุณงามความดี"ของเหลี่ยมฯเลย

1-2 วันนี้คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกเข้ามาตั้งกระทู้เพื่อทำลายชื่อเสียง ศรัทธา
ของตุลาการรัฐธรรมนูญที่"ยุบพรรคไทยรักไทย" และ ลงโทษกรรมการพรรคฯ 111 คน....


เกิดเป็นคนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก ก็ดีไปแปดอย่าง
มีสมาชิกเสรีไทยที่"รู้ทัน"เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก
และเข้าใจคำชี้แจงของตุลาการรัฐธรรมนูญ "เมตตา" ชี้แจง
อธิบายให้คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก ไม่ให้เห็น"กงจักร เป็นดอกบัว"...

แต่สมาชิกเสรีไทยคงเข้าใจแล้วว่า คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกเป็นพวก"อเวไนยสัตว์"...



ถ้าสมาชิก"เสรีไทยเว็บบอร์ด" มัวแต่คอยตอบคำถามของคนรักทักษิณ จะพลาดโอกาส.........



หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: dantri ที่ 03-06-2007, 01:37
คงจะมีแต่พวกคนชั่วคนเลวเท่านั้นที่รู้สึกอับอาย  แน่ล่ะคนพวกนี้จะไม่อายก็ต่อเมื่อทำเลว อย่างพวกทักษิณหรือพวกที่โง่รักทักษิณไง ดูจากชอบแถ อะไรจ๊ะก็รู้แล้ว สนับสนุนคนเลวได้ไม่อับอายใครจริงๆ  55555 :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 03-06-2007, 15:56
คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน 
คุณชอบแถคงเห็นว่าคนอื่นๆ มีความคิดเห็นแตกต่างกับคุณชอบแถมากทีเดียว ถ้าจะคิดว่า"นานาจิตตัง"ก็ได้.......


ด้วยพื้นฐานคนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกของคุณชอบแถ
ย่อมไม่มีความคิดว่าการวินิจฉัยของตุลการรัฐธรรมนูญคราวนี้จะเป็นบรรทัดฐานที่ดี
เป็นแบบอย่างให้นักธุรกิจการเมืองไทย"เตือนใจ" และ "ระมัดระวัง"
ไม่ละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง เพื่อจะได้เอารัดเอาเปรียบ"วิธีการ"เพื่อจะได้มีอำนาจบริหารประเทศต่อไป...


ปล. ลูกหลานกรรมการพรรคไทยรักไทยที่มีจิตสำนึก มีคุณธรรม และ จริยธรรม น่าจะละอายที่พ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ของเขา ไม่ห้ามปรามกรรมการฯคนอื่น ๆ ประพฤติชั่ว และ "รอรับ"ผลประโยชน์ ถ้าไม่ถูกจับได้.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: สี่หามสามแห่ ที่ 03-06-2007, 17:30
จริงๆ หัวกระทู้ น่าจะเป็น

"คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ที่จะทำให้ คนไทยรักไทยให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน "


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 03-06-2007, 21:48
จริงๆ หัวกระทู้ น่าจะเป็น

"คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ที่จะทำให้ คนไทยรักไทยให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน "



พศ.นี้ ศาลไทยได้รับการรับรองจากนานาชาติ
ชาวต่างชาติที่ทำผิดกฏหมายไทย จึงยอมรับการพิพากษาโทษในประเทศไทย....
จะส่งตัวกลับในกรณีมีสัญญาแลกตัวนักโทษกัน.....


ดังนั้นมาตราฐานศาลไทยเที่ยงตรงและยุติธรรมแบบสากล ไม่ใช่"แบบไทย ๆ" ที่คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก บิดเบือน เพื่อไม่ให้ศรัทธาเชื่อคำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญ......



หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 03-06-2007, 22:21
ประกาศคณะรัฐประหาร ในรูปคำวินิจฉัย

ไทยโพสต์ 3 มิถุนายน 2550

"เป็นการตีความโดยเอาอำนาจเป็นที่ตั้ง หรือเอาอำนาจเป็นธรรม
ไม่ใช่เอาธรรมเป็นอำนาจ"

วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ไม่ได้เอาผลทางการเมืองมาเกี่ยวข้อง แต่เขาวิพากษ์วิจารณ์คำวินิจฉัย
ด้วยหลักกฎหมายล้วนๆ ว่า "ผมเห็นว่านี่เป็นประกาศคณะรัฐประหารในรูปของคำวินิจฉัย"

"วันที่อ่านคำวินิจฉัยผมไม่ได้อยู่ฟังจนจบหรอก หลับไปก่อน เพราะตอนที่เขาประกาศ
คำวินิจฉัยยุบพรรคเล็กประมาณหกโมง โดยตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค
5 ปี โดย sense ผมก็รู้สึกว่าไทยรักไทยน่าจะถูกยุบโดยเอาโทษ 5 ปีมาใช้ด้วย ผม
กลับบ้าน แล้ว 3-4 ทุ่มก็หลับ เช้ามาฟังผลก็ไม่ผิดความคาดหมาย"

ทำไมถึงเรียกว่าประกาศคณะรัฐประหารในรูปของคำวินิจฉัย
"ความจริงตอนยึดอำนาจ 19 ก.ย. คณะรัฐประหารมีอำนาจในมือที่จะยกเลิกกฎหมาย
พรรคการเมือง และยุบพรรคได้ ในอดีตที่มีการยึดอำนาจบางช่วงบางยุคเขาก็ยุบพรรค
ไปเลย แต่ คปค. ไม่ทำ เขาอาจจะไม่แน่ใจว่าการใช้อำนาจอย่างนั้นเป็นที่ยอมรับได้
ไหม จึงต้องมาสร้างคณะตุลาการรัฐธรรมนูญขึ้นในรัฐธรรมนูญชั่วคราว ซึ่งไม่เคยมีมา
ก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองไทย เพราะรัฐธรรมนูญชั่วคราวโดยปกติไม่มี
หลักประกันสิทธิเสรีภาพอะไรมาก ไม่จำเป็นต้องมีองค์กรมาคุ้มครองกฎหมายรัฐธรรมนูญ
เมื่อเห็นรัฐธรรมนูญชั่วคราวมีการโอนอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญมาให้คณะตุลาการรัฐ-
ธรรมนูญ ผมก็ทราบแล้วว่าภารกิจหลักคือการวินิจฉัยคดียุบพรรค  อ่านออกตั้งแต่ทำรัฐ-
ธรรมนูญชั่วคราวแล้ว ฉะนั้นถ้าจะพูดกันทางการเมือง เขาอาจยุบพรรคได้แต่เขาเลือก
ใช้กลไกทางรัฐธรรมนูญเพื่อให้ดูว่ามีความชอบธรรม  เพราะฉะนั้นในแง่มุมหนึ่ง ถือว่า
การรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. จบลงอย่างสมบูรณ์เมื่อวันที่ 30 พ.ค."

วรเจตน์เป็นผู้เขียนบทความคัดค้านประกาศ คปค. ฉบับที่ 27 มาตั้งแต่เดือนตุลาคม
ว่าขัดต่อหลักกฎหมายที่มีผลลงโทษย้อนหลัง
"ผมเห็นว่าคำวินิจฉัยยุบพรรคการเมือง ไม่เจาะจงพรรคไทยรักไทย แต่ 4 พรรคพร้อมๆ
กัน โดยเพิกถอนสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรค 5 ปี เป็นการวินิจฉัยที่ผิด"

"เราเรียนกฎหมายตั้งแต่เป็นนักศึกษาปีหนึ่ง สิ่งแรกที่ต้องเรียนคือขอบเขตการใช้บังคับ
ของกฎหมายว่า กฎหมายนั้นจะมีขอบเขตการใช้บังคับในแง่เวลา ในแง่บุคคล และในแง่
ของดินแดนหรือพื้นที่
3 เรื่องนี้เป็นข้อจำกัดในการใช้กฎหมาย
ในแง่บุคคล คือ ใครบ้างตกอยู่ใต้บังคับของกฎหมาย
ในแง่ดินแดน อำนาจกฎหมายขยายไปถึงส่วนไหน
ในแง่เวลา คือ กฎหมายนั้นจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศ เว้นแต่จะกำหนดวันบังคับ
ใช้อย่างอื่น เช่น บางกรณีให้ใช้ย้อนหลัง บางกรณีกำหนดให้ใช้ในอนาคตเวลาใดเวลา
หนึ่ง"

"ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ใช้บังคับย้อนหลัง มีหลักสำคัญอันหนึ่งว่า การออกกฎ-
หมายย้อนหลังเป็นผลร้ายกับบุคคล ทำไม่ได้ ออกกฎหมายย้อนหลังไปใช้บังคับการ
กระทำที่จบไปแล้ว ผู้กระทำไม่มีโอกาสทำเป็นอย่างอื่นแล้ว ทำไม่ได้ เพราะมันฝืนเหตุ-
ผลสามัญสำนึกธรรมดา ยกตัวอย่าง เช่น กำหนดความผิดทางวินัยเอาไว้  ถ้าทำความ
ผิดทางวินัย ต้องได้รับโทษตัดเงินเดือน สมมติผู้พิพากษาคนหนึ่งเขาทำผิดไปแล้ว อยู่
ในระหว่างสอบสวน จะไปออกกฎหมายให้ความผิดที่ทำไปแล้วนั้น ที่ยังไม่ตัดสิน ให้ถือ
ว่าถ้าถูกลงโทษจะต้องงดบำเหน็จบำนาญตลอดชีวิต อย่างนี้ทำไม่ได้ ใช้บังคับไม่ได้
เพราะคนทำผิด ในเวลาทำ เขารู้แต่ว่าโทษเท่าไหร่ มากำหนดเพิ่มโทษมีลักษณะย้อน
หลังไม่ได้ อันนี้เป็นความรู้เบื้องต้นกฎหมายทั่วไป นักศึกษาที่เรียนปีหนึ่งต้องทราบ"

"แต่ในประเทศไทยมีการสอนกัน-นักกฎหมายไทยค่อนข้างยึดติดตัวอักษร มักจะท่องจำ
กันว่า การห้ามใช้กฎหมายย้อนหลังเป็นผลร้ายต่อบุคคล ห้ามเฉพาะโทษอาญา นี่เป็นสิ่ง
ที่นักกฎหมายไทยท่องกัน หลายคนเลยเข้าใจว่า ถ้าเขียนกฎหมายย้อนหลังเป็นผลร้าย
ต่อบุคคล แต่ไม่ใช่โทษอาญา ก็ทำได้หมด ซึ่งต้องถือเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะมันมี
ผลร้ายบางอย่างที่อาจจะรุนแรงกว่าโทษทางอาญา"

"ผมเขียนบทความยกตัวอย่างให้เห็นชัด และยังไม่เห็นใครตอบโต้ประเด็นนี้ได้เลยว่า
การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี หรือการออกกฎหมายภาษีย้อนหลัง กลับไปเก็บภาษี
1 ล้านบาท ทั้งที่ในเวลากระทำยังไม่มีกฎหมายดังกล่าว มันรุนแรงกว่าโทษปรับ 500
บาท เราบอกว่าโทษปรับ 500 บาทออกกฎหมายย้อนหลังไม่ได้ เพราะเป็นโทษอาญา
แต่เรากำลังจะรับกันว่า การเพิกถอนสิทธิ 5 ปี หรือกลับไปเก็บภาษี 1 ล้าน ไม่ใช่โทษ
อาญาทำได้ ไม่เป็นเหตุเป็นผลกัน ผมจึงมีความเห็นว่าประกาศ คปค. ฉบับที่ 27 มันใช้
บังคับไม่ได้"

วรเจตน์บอกว่ากฎหมายแพ่งเคยมีบางกรณีที่ออกกฎหมายย้อนหลัง แต่จะต้องมีการ
ชดเชย หรือมีมาตรการกำกับ
"การออกกฎหมายย้อนหลังทำได้ ถ้าเป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม แต่ต้องมี
หลักบังคับ อาจจะมีความจำเป็นบางเรื่อง แต่ต้องไม่กระเทือนหลักความยุติธรรมและ
ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ ถ้าอย่างนั้นทำได้บางกรณี เรื่องทางแพ่งอาจเถียง
กันได้บางเรื่อง แต่ตัดสิทธิบุคคลชัดเจนทำไม่ได้ ซึ่งการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นโทษ
รุนแรงมาก ผมใช่คำว่าเป็นการพรากความเป็นพลเมืองไปจากบุคคล"

"กรณีที่ตัดสินไป จริงๆ ประกาศ คปค. 27 ก็ไม่ได้เขียนว่าใช้บังคับตั้งแต่เมื่อใด เมื่อ
ไม่เขียน การตีความตามหลักธรรมดา ก็ต้องถือว่าใช้บังคับตั้งแต่วันที่ประกาศ - ถ้ามัน
ใช้บังคับได้นะ แต่ผมถือว่าใช้บังคับไม่ได้อยู่แล้ว แต่เอาละ แม้ใครบอกว่าใช้บังคับได้
ก็ต้องมีผลตั้งแต่วันประกาศ เพราะฉะนั้นอะไรที่มันเกิดก่อน ก็ใช้บังคับไม่ได้ เพราะการ
กระทำมันเกิดก่อนที่จะประกาศ"

"การที่ตุลาการรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเพียงผลในทางกฎ-
หมาย ที่เกิดขึ้นตามมาจากการยุบพรรค จึงเป็นการวินิจฉัยที่ฟังไม่ขึ้น  เป็นการวินิจฉัย
ซึ่งขัดกับหลักเหตุผลและมโนสำนึกตามหลักปกติธรรมดาทั่วไป ทั้งนี้เพื่อจะทำให้การ
เพิกถอนมีผลทางกฎหมายตามความต้องการของผู้เขียนประกาศ คปค. เป็นการตีความ
ซึ่งคนธรรมดาสามัญไม่อาจเข้าใจได้เลย"

"การใช้และการตีความกฎหมายในลักษณะนี้ มีผลเป็นการทำลายหลักการในทางนิติ-
ศาสตร์ลง เพราะเป็นการตีความโดยเอาอำนาจเป็นที่ตั้ง หรือเอาอำนาจเป็นธรรม ไม่ใช่
เอาธรรมเป็นอำนาจ ผลร้ายคือต่อไปวันข้างหน้า ถ้าจะมีใครสักคนที่มีอำนาจ แล้วออก
กฎหมายอย่างนี้ เขาก็ย่อมจะต้องทำได้เหมือนกัน และถ้าออกกฎหมายอย่างนี้มาใช้
บังคับกับคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ คณะตุลาการก็จะเอาเหตุผลมาโต้แย้งไม่ได้ มันทำให้
กฎหมายกลายเป็นเรื่องที่ใครมีอำนาจเขียนอะไรออกมาก็เป็นกฎหมายไปหมด ซึ่งจะทำ
ให้ไม่สามารถเรียนและสอนวิชานิติศาสตร์ได้"

วรเจตน์บอกอีกว่าถ้ายึดหลักอย่างนี้ โทษอื่นๆ ที่มีผลร้ายกว่าคดีอาญาอีกเยอะ สมมติ
เช่น โทษทางวินัย งดบำเหน็จบำนาญ ไล่ออกจากราชการ การเก็บภาษี ค่าปรับ ค่า
ธรรมเนียมในทางปกครอง ซึ่งไม่ใช่โทษทางอาญา ก็จะเขียนกฎหมายย้อนหลังกันได้
หมด มีผลต่อความมั่นคงในสิทธิและหน้าที่ของบุคคล

"เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก  เป็นเรื่องซึ่งนักกฎหมายทุกคนจะต้องร่วมกันวิพากษ์วิจารณ์"

คนกับพรรค
วรเจตน์ยังไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคการเมืองโดยเอาความผิดของกรรมการบริหารพรรค
ส่วนหนึ่งเป็นเหตุแห่งการยุบพรรค
"ปัญหาที่ต้องพูดกันคือการจะยุบพรรคการเมืองได้ การกระทำนั้นต้องเป็นการกระทำที่
ถือเป็นของพรรคได้ หรืออนุมานได้ว่าเป็นการกระทำของพรรค อย่างน้อยที่สุด กรรมการ
บริหารพรรคจะต้องรับทราบ รับรู้ แล้วก็ไม่ได้ขัดขวางการกระทำอันนั้น แต่ว่าแน่นอน ไม่
จำเป็นจะต้องถึงขนาดพรรคต้องมีมติ คำวินิจฉัยประเด็นนี้ถูกแล้ว เพราะเป็นไปไม่ได้ที่
พรรคจะมีมติให้กระทำผิดกฎหมาย แต่อย่างน้อยกรรมการบริหารคนอื่นๆ ต้องรู้ ต้องทราบ
เพื่อจะโยงไปได้ว่าการกระทำนั้นเป็นการกระทำของพรรค"

"การกระทำของส่วนใดส่วนหนึ่งของกรรมการบริหารพรรค ที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า
กรรมการบริหารคนอื่นรับรู้ รับทราบ และยินยอมด้วยโดยปริยาย จะถือเป็นการกระทำ
ของพรรคการมืองไม่ได้ ก็ต้องถือเป็นการกระทำของบุคคลผู้นั้นเฉพาะตัว ถึงแม้การ
กระทำนั้น พรรคการเมืองอาจจะได้ประโยชน์ก็ตาม เพราะหากไปเชื่อมโยงการกระทำ
ของบุคคลคนใดคนหนึ่ง หรือของกรรมการบริหารพรรคส่วนใดส่วนหนึ่ง ว่าเป็นการกระทำ
ของพรรค เราอาจจะยุบพรรคการเมืองได้ทุกพรรค และอาจจะยุบได้ทุกวัน"

"การวินิจฉัยอย่างนี้ต้องถือว่า ไม่เป็นธรรมกับกรรมการบริหารพรรคที่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็น
ด้วย ไม่เป็นธรรมกับสมาชิกของพรรคการเมือง แล้วก็เป็นการวินิจฉัยที่มีผลทำลายเสรี-
ภาพในการรวมตัวกันจัดตั้งพรรคการเมืองด้วย"

วรเจตน์บอกว่านี่เขายังไม่ได้ลงในข้อเท็จจริง ว่าคนของไทยรักไทยทำผิดจริงหรือไม่
"แต่ถึง พล.อ.ธรรมรักษ์ทำผิดจริง ในแง่มุมนั้นก็ยังไม่สามารถเห็นได้ว่าเป็นการกระทำ
ซึ่งกรรมการบริหารพรรครับรู้และยินยอมด้วยโดยปริยาย ไม่เห็นในคำวินิจฉัย หรืออย่าง
น้อยก็ยังไม่ชัดเจนในประเด็นนี้"

"ผมเรียนต่อด้วยว่ายังมีความเข้าใจผิดๆ ในหมู่ของบุคคลซึ่งมีอำนาจและดำรงตำแหน่ง
ในองค์กรอิสระบางคน ที่จะผลักดันให้มีการออกกฎหมายว่า ถ้าผู้สมัครส.ส.พรรคใดซื้อ
เสียงใ ห้ยุบพรรคการเมืองนั้น อันนี้เป็นทิศทางที่ผิดในการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย
เพราะการกระทำในลักษณะเช่นนี้ ถ้ากรรมการบริหารพรรคไม่รู้ด้วย ก็ต้องถือเป็นความ
ผิดตัวบุคคล ต้องดำเนินการกับผู้นั้น"

ในต่างประเทศมียุบพรรคไหม
"การยุบพรรคการเมืองตามหลักสากล ทำได้กรณีเดียวคือ กรณีที่อุดมการณ์ของพรรค
การเมืองพรรคนั้นเป็นปฏิปักษ์หรือเป็นศัตรูต่อระบอบประชาธิปไตย กรณีอื่นๆ ไม่ใช่เหตุ
ของการยุบพรรคการเมือง ระบอบประชาธิปไตยจะใจกว้างให้พรรคการเมืองนั้นดำรงอยู่
ได้ เพราะพรรคจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างประชาชนกับอำนาจในทางนิติบัญญัติ เพราะฉะนั้น
การยุบพรรคจึงเกิดขึ้นค่อนข้างยาก"

เลอะกันต่อไป?
วรเจตน์ต่างจากปริญญาตรงที่เน้นว่า อันตรายจะเกิดกับระบบกฎหมาย
"ถ้าดูจากการทำรัฐประหาร 19 ก.ย. เป็นต้นมา การตั้งตุลาการรัฐธรรมนูญขึ้นในรัฐ-
ธรรมนูญชั่วคราว ดูจากการออกประกาศ คปค. ฉบับที่ 27 ก็พอจะเห็นว่าการยุบพรรค
มันเป็นทิศทางซึ่งเป็นเรื่องในทางการเมืองแท้ๆ"

"ผมเคยพูดเสมอว่าเมื่อใดที่ใช้อำนาจทางกฎหมายเข้าจัดการกับปัญหาทางการเมือง
อำนาจในทางกฎหมายนั้นจะมีข้อจำกัดในตัวของมัน การที่อำนาจในทางกฎหมายมีข้อ
จำกัดในตัวนั้น มีข้อดีตรงที่เมื่อใช้แล้วจะทำให้คนเกิดความเชื่อถือ เพราะมีหลักมีฐาน
มีเหตุมีผล ซึ่งเป็นจุดอ่อนของการใช้อำนาจในทางการเมือง ฉะนั้นอำนาจทางกฎหมาย
มีข้อจำกัดคือทำไม่ได้ในบางเรื่อง แต่มีจุดแข็งคือสร้างความน่าเชื่อถือ เมื่อตัดสินไปแล้ว
เกิดสันติสุขในระบบกฎหมายขึ้น"

"แต่ถ้าการใช้อำนาจในทางกฎหมายนั้นไม่ได้เป็นการใช้อำนาจซึ่งเป็นไปตามหลักของ
เหตุผล เป็นการใช้อำนาจในทางกฎหมายแบบเดียวกับอำนาจทางการเมือง อันตรายก็
จะบังเกิดขึ้นกับระบบกฎหมาย เพราะในที่สุดแล้ว คนก็จะไม่ให้ความเชื่อถือในกฎหมาย
คนก็จะคิดว่ากฎหมายไม่ใช่เรื่องของเหตุผล แต่เป็นเรื่องของอำนาจ จึงไม่ต้องสนใจเหตุ-
ผล แต่สนใจเพียงว่าใครมีอำนาจ และที่สุดแล้วก็จะไม่เกิดการยอมรับ แล้วระบบกฎหมาย
ทั้งระบบก็จะดำรงอยู่ไม่ได้ หรือหากดำรงอยู่ได้ ก็อาจจะดำรงอยู่อย่างไม่มีศักดิ์ศรี คนก็
จะถูกกดให้ต้องฟัง แต่จะไม่ใช่การยอมรับจากห้วงลึกของจิตใจ ง่ายๆ คือยอมรับเพราะ
ถูกกดให้ยอมรับ เพราะอำนาจกดอยู่ แต่ไม่ได้ยอมรับเพราะเชื่อว่านั่นเป็นสิ่งที่ยุติธรรม
หรือสิ่งที่ถูกต้อง นี่คือปัญหาใหญ่ในสายตาผม นี่คือปัญหาที่กำลังเกาะกินระบบกฎหมาย
ของเรา"

"แต่อย่างน้อยผมก็ขอคารวะตุลาการ 3 ท่านที่ยืนยันว่าการเพิกถอนสิทธิทางการเมือง
5 ปีนำมาใช้ย้อนหลังไม่ได้"

"ผมคาดหมายว่าต่อไปก็จะมีการต่อรองทางการเมือง (พูดก่อนประธาน คมช. เสนอ
นิรโทษกรรม) ที่อาจจะทำให้เกิดการนิรโทษกรรมให้กับบุคคลบางคนใน 111 คน
อาจจะเกิดการต่อรอง เพิกถอนไม่ถึง 5 ปีได้ไหม คือจะใช้อำนาจทางกฎหมายมาบอก
ว่านิรโทษกรรมให้บางคนไป"

นั่นอาจจะแก้ปัญหาทางการเมืองได้ แต่แก้ปัญหาของระบบกฎหมายไม่ได้
"ความไม่มีหลักทางกฎหมายจะเกิดขึ้นต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน ตั้งแต่ปีที่แล้ว ยังไม่
หยุดเลย ก็จะกลายเป็นการแก้ปัญหาแบบไทยๆ ไป มันไม่ใช่เรื่องกฎหมาย มันเป็นเรื่อง
อำนาจล้วนๆ แต่มาใช้อำนาจในเสื้อคลุมของกฎหมาย มันก็จะทำลายระบบกฎหมายไป
เรื่อยๆ"

ออกกฎหมายนิรโทษกรรมได้ไหม
เขาเห็นว่าถ้าจะทำจริงก็ทำได้ แต่เป็นปัญหาทางหลักวิชา
"ในทางทฤษฎี กำลังอำนาจของตุลาการรัฐธรรมนูญเกิดจากรัฐธรรมนูญโดยตรง ฉะนั้น
ถ้าทำอะไรต้องแก้รัฐธรรมนูญ แต่คณะตุลาการชุดนี้สถานะทางกฎหมายก็เป็นปัญหามาก
ถ้าเป็นศาลที่ชอบธรรมและตัดสินตามรัฐธรรมนูญฉบับที่มีความชอบธรรม เขาตัดสินแล้ว
จะไปทำอะไรได้ยากมาก อาจถึงขั้นต้องแก้รัฐธรรมนูญ หรือทำไม่ได้ด้วย เพราะกำลัง
อำนาจที่ปรากฏเป็นอำนาจในชั้นรัฐธรรมนูญ"

"แต่คณะตุลาการชุดนี้ไม่ใช่ศาลรัฐธรรมนูญ และตัวรัฐธรรมนูญชั่วคราวก็ไม่ได้ให้ความ
ชอบธรรม ไม่ใช่ความชอบธรรมทางประชาธิปไตย  เป็นเรื่องอำนาจแท้ๆ กำลังบังคับ
ทางกฎหมายก็มีปัญหา"

ส่วนถ้าจะยกเลิกหรือแก้ไขประกาศ คปค. ฉบับที่ 27 วรเจตน์บอกว่าก็คงเถียงกันอีก
ว่าผลบังคับตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญจะยังอยู่หรือไม่ ในเมื่อศาลตัดสินไปแล้ว (แม้เขา
จะเห็นด้วยว่าโทษนั้นสิ้นสุดลง)

นอกจากนี้วรเจตน์ยังชี้ด้วยว่า ถ้าอ่านคำวินิจฉัยดีๆ จะพบว่าตุลาการรัฐธรรมนูญกลับ
ไม่ระบุโทษตาม พ.ร.บ. พรรคการเมือง ที่ห้ามกรรมการบริหารพรรคที่ถูกยุบไปเป็น
หัวหน้าหรือกรรมการบริหารพรรคอื่น เพียงระบุโทษตามประกาศ คปค. ฉบับที่ 27 เพิก
ถอนสิทธิทางการเมือง 5 ปี ฉะนั้นถ้ายกเลิกประกาศ คปค. ก็จะเกิดคำถามข้อถกเถียง
ตามมาอีกว่า แปลว่ากรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยไปเป็นหัวหน้าหรือกรรมการบริหาร
พรรคใหม่ได้ ใช่หรือไม่

"การคิดทางกฎหมายที่ไม่ clean ไม่กระจ่าง ก็จะเกิดปัญหาตามมาเช่นนี้ ก็คงถูไถกันไป
แต่จะเป็นเรื่องโจ๊ก และทำให้กฎหมายกลายเป็นเรื่องบ้าๆ บอๆ"

"ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับระบบกฎหมาย"

http://www.thaipost.net/index.asp?bk=tabloid&post_date=3/Jun/2550&news_id=143142&cat_id=22010

 :slime_agreed:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: -3- ที่ 03-06-2007, 22:43
อาฮะ สงสัย ปชป ต้องโดนยุบไปด้วยถึงจะเห็นว่าเป็นธรรม


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: Solidus ที่ 03-06-2007, 22:44
รหัสฎีกา
ฎ 254409083 ม 3
เลขที่คำพิพากษาฎีกา
คำพิพากษาฎีกาที่ 9083/2544
ชื่อคู่ความ
โจทก์
พนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการ
จำเลย
นายสุชาติ จันทร์เจริญ กับพวก
ชื่อกฎหมาย
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 18, 90, 157
พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล
มาตรา 59, 60, 71, 72

ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,
157 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482 มาตรา 4,
29, 32, 33, 43, 45, 47, 59, 60, 71, 72 และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ
จำเลยทั้งแปด
จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 8 ที่ปฏิเสธ
เพื่อให้โจทก์ฟ้องเป็นคดีใหม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 157 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482
มาตรา 29, 59, 60, 71, 72 เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 อันเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 5 ปี จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ
เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยที่ 1
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา โดยอัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "มีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์
เพียงข้อเดียวว่า ศาลต้องเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยที่ 1 หรือไม่ เห็นว่า
การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
กล่าวคือ นอกจากจำเลยที่ 1 มีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตาม
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แล้ว ยังมีความผิดต่อพระราชบัญญัติ
การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482 มาตรา 57, 60, 71, 72 โดยเหตุ
ที่การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นมาตรการที่มุ่งจะจำกัดสิทธิของเจ้าพนักงาน
ผู้ดำเนินการเลือกตั้งซึ่งกระทำหน้าที่โดยทุจริต มิใช่โทษตามกฎหมาย เมื่อศาล
ลงโทษจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 อันเป็นบทที่มีโทษ
หนักที่สุดแต่เพียงบทเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 แล้ว
ศาลย่อมมีอำนาจสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยที่ 1 ได้ มิฉะนั้น
แล้วการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวย่อมไร้ผล อันเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์
ของกฎหมายที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 ยกคำขอของโจทก์ในส่วนนี้
ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น"
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยที่ 1 มีกำหนด
4 ปี ด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1
แหล่งที่มา
สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ชื่อองค์คณะ
( ไชยวัฒน์ สัตยาประเสริฐ - ประชา ประสงค์จรรยา - องอาจ โรจนสุพจน์ )
เจ้าของสำนวน
ไชยวัฒน์ สัตยาประเสริฐ


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย) ที่ 04-06-2007, 01:36
ใครอาย :slime_doubt:


หัวข้อ: Re: คำวินิจฉัยตุลาการที่จะเป็นบรรทัดฐานแบบไทยๆ ให้อับอายต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
เริ่มหัวข้อโดย: คนไทยคนหนึ่ง ที่ 04-06-2007, 08:00
คนที่ควรจะอับอายไปชั่วลูกชั่วหลาน ควรจะเป็นคนที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในการพิจรณาคดีนี้ เพราะเป็นข้อหาที่รุนแรงที่สุดแล้วทางการเมือง


หัวข้อ: ข้อค้างคาใจในคำวินิจฉัยคดียุบพรรค
เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 06-06-2007, 12:47
ข้อค้างคาใจในคำวินิจฉัยคดียุบพรรค   

ชำนาญ จันทร์เรือง

ผมไม่ติดใจต่อผลของคำวินิจฉัยของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญในคำวินิจฉัยที่ 1-2/2550
และ 3-5/2550 ในกรณีที่มีคำวินิจฉัย ไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ และให้ยุบพรรคไทยรัก-
ไทยและที่เหลืออีก 3 พรรคตามคำร้องของอัยการสูงสุด เพราะจะกลายเป็นการ “ดันทุรัง”
และไม่ยอมรับในกติกาที่มีอยู่ว่า เมื่อผลออกมาเช่นไรก็ควรที่จะต้องยอมรับและยุติ เพราะ
คณะตุลาการฯ ได้ทำหน้าที่จบแล้ว

แต่ผมติดใจในเหตุผลที่ใช้ในการอธิบายคำวินิจฉัยในประเด็นที่สำคัญๆ และมีผลต่อบรรทัด-
ฐานของระบบกฎหมายไทยต่อไปภายหน้า เพราะมิได้อธิบายฐานที่มาแห่งอำนาจของคณะ
ตุลาการรัฐธรรมนูญเองว่า เป็นการแต่งตั้งศาลพิเศษเฉพาะคดีที่เข้าข่ายเป็นการละเมิดต่อ
กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International
Covenant on Civil and Political Rights) ของสหประชาชาติที่ไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย
หรือไม่ เพราะศาลรัฐธรรมนูญถูกยุบไปแล้ว คดีที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญเดิมก็ควรจะตกไป
ตามกัน แต่กลับถูกรื้อฟื้นให้คืนชีพขึ้นมาใหม่เพื่อการนี้โดยเฉพาะ

แต่กลับไปอธิบายขยายความรับรองความชอบธรรมของคำสั่งที่ออกโดยคณะบุคคลที่
ล้มล้างรัฐธรรมนูญว่า เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย และยังย้อนหลังเป็นผลร้ายแก่บุคคล
หรือคณะบุคคลอีกด้วย ดังจะเห็นได้จากประเด็นดังต่อไปนี้

1) ประเด็นเกี่ยวกับประเพณีการปกครองของไทย
คำวินิจฉัยที่ 1-2/2550 หน้า 42 ใช้ถ้อยคำว่า “...เมื่อพิจารณาตามประเพณีการ
ปกครองของประเทศไทยในอดีต
เมื่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยสิ้นสุดลง
ภายหลังการเข้ายึดอำนาจการปกครอง หากคณะผู้เข้ายึดอำนาจการปกครองไม่ประสงค์
ให้กฎหมายที่มีเนื้อหาสาระเป็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ต่อไป ก็จะมี
ประกาศหรือคำสั่งให้ยกเลิก...”

ซึ่งเป็นการตีความกฎหมายโดยยึดหลัก “ประเพณี” แต่เป็นประเพณีของการยึดอำนาจ
ตามแบบเผด็จการ มิใช่ประเพณีของประชาธิปไตยแต่อย่างใด

2) ประเด็นเกี่ยวกับการยึดอำนาจการปกครองด้วยกำลังเป็นวิธีการที่มิได้เป็นไป
ตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

คำวินิจฉัยที่ 3-5/2550 หน้า 94 ใช้ถ้อยคำว่า “...ดังนั้น การได้มาซึ่งอำนาจในการ
ปกครองประเทศโดยวิธีการที่มิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ จึงมิได้
หมายความถึง การได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ โดย
การปฏิวัติรัฐประหาร
หรือยึดอำนาจการปกครองด้วยกำลัง ทำนองเดียวกับที่บัญญัติไว้
ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 65 ดังที่ผู้ถูกร้องที่ 1
กล่าวอ้างเท่านั้น ..."

ซึ่งก็แสดงว่า คณะตุลาการรัฐธรรมนูญเห็นว่า การทำรัฐประหารก็เป็นการได้มาซึ่ง
อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ ด้วยการยึดอำนาจการปกครอง
ด้วยกำลังเป็นวิธีการที่มิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเช่นกัน แต่
คณะตุลาการรัฐธรรมนูญก็ยังพิจารณาคดีโดยอาศัยกฎหมายที่ออกโดยคณะบุคคลที่
กระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตามข้อกล่าวหา
เช่นเดียวกับผู้ถูกร้องเสียอีก

3) ประเด็นการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งย้อนหลัง
คำวินิจฉัยที่1-2/2550 หน้า 86 มีถ้อยคำว่า ...หลักการห้ามออกกฎหมายมีผลย้อนหลัง
เป็นผลร้ายแก่บุคคลนั้น มีที่มาจากหลักที่ว่า ไม่มีกฎหมาย ไม่มีความผิด ไม่มีโทษ แต่
หลักการดังกล่าวใช้บังคับกับการกระทำอันเป็นความผิดอาญาเท่านั้น...แต่การเพิกถอน
สิทธิเลือกตั้ง มิใช่โทษทางอาญา เป็นเพียงมาตรการทางกฎหมายที่เกิดจากผลของ
กฎหมายที่ให้อำนาจในการยุบพรรคการเมืองที่กระทำการต้องห้ามตามพระราชบัญญัติ
ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 เพื่อมิให้ผู้บริหารพรรคการเมืองที่
ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเมืองและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมีโอกาส
ที่จะกระทำการอันเป็นการก่อให้เกิดความเสียหายซ้ำอีกในช่วงเวลาหนึ่ง และแม้สิทธิ
เลือกตั้งเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชนในสังคมที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
แต่การมีกฎหมายกำหนดว่าบุคคลใดสมควรมีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้เหมาะสมแก่สภาพ
แห่งสังคมหรือเพื่อให้การปกครองระบอบประชาธิปไตยในสังคมนั้นดำรงอยู่ย่อมมีได้...
ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมุข ฉบับที่ 27 ข้อ 3 จึงมีผลบังคับใช้ย้อนหลังกับการกระทำอันเป็นเหตุยุบพรรค
ในคดีนี้ได้...”

ซึ่งคงมีปัญหาตามมาว่า แล้วจะว่าอย่างไร หากต่อไปมีการดื้อตาใส ย้อนหลังไป
ยกเลิกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อเช็คบิลหรือนำตัวคนผิดมาลงโทษ เพราะเห็นว่า
กฎหมายนิรโทษกรรมก็มิใช่กฎหมายอาญา เนื่องจากไม่มีการบัญญัติความผิดและ
โทษไว้ แต่เป็นเพียงกฎหมายที่ยกเว้นการจะต้องรับผิดเท่านั้น

ทั้งนี้ ก็อาจจะหมายรวมถึงความรับผิดทางแพ่ง ทางปกครอง ทางภาษี หรือทางวินัย
ด้วย ว่ามิใช่กฎหมายอาญาก็อาจออกย้อนหลังไปเป็นโทษได้เช่นกัน ซึ่งก็คงยุ่งดีพิลึก

กฎหมายย้อนหลัง หรือในภาษากฎหมายเรียกว่า ex post facto law นี้ ในรัฐธรรมนูญ
สหรัฐอเมริกาบัญญัติว่า No state shall pass any ex post facto law โดยไม่ได้ระบุ
ว่าเป็นคดีแพ่งหรืออาญา และโธมัส เจฟเฟอร์สันผู้ร่วมร่างรัฐธรรมนูญนี้ได้ให้เหตุผลว่า
กฎหมายย้อนหลังไม่เป็นธรรมกับสิทธิตามธรรมชาติของมนุษย์ และกฎหมายย้อนหลัง
อาจมีโทษและผลร้ายได้แม้กระทั่งในคดีแพ่งมากเท่ากับคดีอาญา เมื่อตอนที่เขาร่างจึง
จงใจละเว้นคำว่าแพ่งและอาญาเพื่อให้มีผลทางกว้างและไม่ก่อให้เกิดความอยุติธรรม  

ในประเทศอื่น เช่น อิตาลี ก็บัญญัติว่า nobody can be punished but according
to the law come into force before the deed was committed เช่นกัน

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ มิได้หมายความว่าจะชักชวนหรือต่อต้านคำวินิจฉัยนี้ แต่เป็นการ
ชี้ให้เห็นว่า ไม่มีความจำเป็นใดใดที่จะต้องอธิบายหรือขยายความไปจนทำให้เกิดเป็น
นิติประเพณีใหม่ขึ้นมา

ที่สำคัญคือ แล้วจะให้คำตอบแก่ผู้ที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอย่างไร ว่านี่มิใช่
การรับรองความชอบธรรมของประเพณีของการยึดอำนาจและรับรองความชอบธรรม
ของการทำรัฐประหารที่ละเมิดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายเช่นกันและเป็น
กฎหมายสูงสุดเสียด้วยสิครับ
 
http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=8363&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai

ความคิดเห็นที่ 1  แหลม   

เป็นบทความในหนังสือพิมพ์ของหยุ่น แต่ไม่ถูกโพสขึ้น เวป เพราะกลัว ความคิดเห็น
ที่แตกต่าง แต่มีเหตุผล และ มีน้ำหนักมาก จนเกินไป ... จนอาจจะเกิด ความคิด ที่
จะต่อต้าน ผลการตัดสินขึ้น ข่าววงในเช็คมาแล้ว ... คมช. เซ้นเซอร์ บทความนี้ ครับ
???
 
วันที่   6/6/2550 11:56

http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2_comment.php?mod=mod_ptcms&ContentID=8363&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai