ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: Suraphan07 ที่ 29-05-2007, 23:27



หัวข้อ: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: Suraphan07 ที่ 29-05-2007, 23:27
บังเอิญแวะไปอ่าน กระทู้แนะนำที่ห้องศาสนา พันทิป...         
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5422821/Y5422821.html                  
ธรรมกาย สอนกันแบบนี้ ก็ทำได้หรือ ??                   
                  
โดยคุณ nameonics                   

ตามๆอ่านอยู่ แต่ไม่ทั้งหมด เพราะพอรู้อยู่ว่า ยังไงเหล่าสาวกก็คงต้องใช้วิธีการเดิมๆ                  
"ฟลัดกระทู้/โพสต์รูปมากๆ"  เมื่อเห็นว่าเพลี่ยงพล้ำ เพื่อให้คนไม่อยากอ่าน...                  
หรือไม่ก็เกณฑ์พวกเข้าไปโพสต์ ดิสเครดิต จขกท.ในสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับหัวข้อ...                  
(คล้ายๆกันกับที่เคยเห็นที่ รดน.)                  

พอหลังๆ จขกท.เอารูปและเนื้อหา ในหนังสือแจกในงานบวชสามเณร มาโพสต์                  
เรื่อง "มนต์เสน่ห์แห่งสวรรค์  ทัณฑ์ทรมานแห่งนรก" (คคห.ที่ 288 ขึ้นไป)                  

อ่านแล้วให้นึกถึงวิธีการและนโยบายประชานิยม ขึ้นมาทันที....                  
ถ้าสนใจข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการให้กำลังใจ คุณ nameonics  จขกท. ก็แวะไปที่ตามลิงค์ได้ครับ...

ภาพแรก...เครื่องประดับชาวสวรรค์(http://[/color][img]http://img504.imageshack.us/img504/8486/80551158ly8.jpg)


แต่ละคำสอน ล้วนมุ่งเน้น "บุญ" ให้สามารถจับต้องได้เหมือนเครื่องแต่งกาย ...                  
(http://img515.imageshack.us/img515/8224/62810211rs4.jpg)



อ่านไปอ่านมา ไอ้บุญพรรค์นี้ ชักจะเริ่มกินได้ด้วยแฮ่ะ...   
 สร้อยส้มตำปู -ส้มตำไทยก็มีด้วยน่ะ ชาวสวรรค์...
(http://img520.imageshack.us/img520/894/38710629nw9.jpg)


ไอ้เรื่องแหวนนี่สิ สำคัญ...         
เกิดจากมือที่ชอบให้ ชอบทำทาน ชอบบริจาค....
      

(http://img521.imageshack.us/img521/9403/4jpgcl7.jpg)
         



               


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: Suraphan07 ที่ 29-05-2007, 23:31
อือม...สร้อยข้าวต้มมัดหยก นี่ก็น่ากินไม่เบา...
(http://img252.imageshack.us/img252/9690/71471886pv8.jpg)



แหวนช็อคโกแล็ต นี่ก็หลอกเด็กชัดๆ...
(http://img248.imageshack.us/img248/9765/15115601xr2.jpg)



แหวนไก่ผงาด เกิดจากบุญถวายไก่ย่าง....      
(http://img255.imageshack.us/img255/46/44785015zr6.jpg)   


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: Suraphan07 ที่ 29-05-2007, 23:37
แหวนไอศครีมหวานเย็นรส Earth Quake!!!

(http://img171.imageshack.us/img171/631/52473062lu8.jpg)


การสวมแหวน ถ้าไม่สวม มีโอกาสตกสวรรค์...

(http://img46.imageshack.us/img46/9789/78032699mu0.jpg)


แล้วสรุปด้วย...
ในเมืองมนุษย์ พอผิวหนังเหี่ยวมีรอยย่น ก็ควรรีบเอาแหวนไปขายเอาเงินมาสร้างบุญ


(http://img234.imageshack.us/img234/1594/10gg9.jpg)

(http://img413.imageshack.us/img413/3750/28952899uw5.jpg)


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: RiDKuN ที่ 29-05-2007, 23:58
การทำบุญโดยไม่หวังผลตอบแทนนั้นดีที่สุด
การทำบุญโดยหวังผลตอบแทน มากบ้าง น้อยบ้าง ก็ยังได้บุญอยู่
แต่การเอาเงินไปให้อลัชชี ผู้ประพฤติชั่ว หลอกลวงผู้อื่นนั้น ไม่ได้บุญอันใดเลย


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: Body&Soul ที่ 30-05-2007, 00:15
หลวงปู่สด วัดปากน้ำ เจ้าของธรรมกายที่แท้จริง

หากท่านล่วงรู้ถึงพฤติกรรมเหล่านี้ ท่านจะเศร้าใจหรือปลงได้มากน้อยเพียงใดหนอ


 :slime_worship:


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: วิหค อัสนี ที่ 30-05-2007, 00:28
...ทำไปได้

เดี๋ยวนี้เป็นไปขนาดนี้แล้วนะเนี่ย - -


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 30-05-2007, 00:45
น่าสงสาร ศูนย์กลางพุทธศาสนาโลก


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: jrr. ที่ 30-05-2007, 01:17
ไอ้เรื่องแหวนนี่สิ สำคัญ...         
เกิดจากมือที่ชอบให้ ชอบทำทาน ชอบบริจาค....     

.......................................................

ดูใหม่ดิ๊ ดูดีๆ......มือมันกำลังให้ หรือว่า...มันกำลังเอาของคนอื่น ???  :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_smile2:

ใครมีครบชุด......ช่วยใส่ให้ดูเป็นบุญตาเถรหน่อยเหอะ (รวมเครื่องแต่งกายเลยนะ) !!!


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 30-05-2007, 01:37
ทาน หรือว่า โลภ



หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 30-05-2007, 01:40
ขำ Earth Quake :slime_bigsmile:

ฉัน Swensen ด้วย ?!?


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: อังศนา ที่ 30-05-2007, 07:29
อุ๊แม่เจ้า.. เลิศหรู ดูดี มีสไตล์ ไฮคลาส เท่ เก๋ คลาสสิค สุดอลังการเหลือเกิน  :slime_whistle:
..ช่างกลมกลืนกับยานอวกาศขนาดยักษ์ในวัดอะไรปานนั้น ดูแล้วเหมือนกับว่า
พอขนทรัพย์สมบัติประดามีมาทำบุญเสร็จก็ขี่ยานเหาะขึ้นสวรรค์ได้เลย.. อิอิ

(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/pink_flowers.gif)


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: public limited ที่ 30-05-2007, 07:54
น่าสงสาร ศูนย์กลางพุทธศาสนาโลก

ศูนย์กลางพุทธศาสนาโลก คือ พุทธมณฑล ...มิใช่หรือครับ (เห็นงานวิสาขะโลกของ UN เขาว่างั้น)
อิแบบธรรมโกย งี้ใครจะไปยอมรับมันลงเนี่ย !!!! ตัวมันเองยังไม่เข้าใจเลยว่าแก่นพุทธศาสนาคืออะไร
 :slime_hmm:


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: THE THIRD WAY ที่ 30-05-2007, 09:13
พอดูหัวข้อนี้ปั๊บ
ผมตามไปดูที่ห้องศาสนา
เข้าไม่ได้แล้วครับ :slime_worship:


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: วิหค อัสนี ที่ 30-05-2007, 09:19
ตอนนี้พันทิพเดี้ยงอยู่ครับ



หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: -3- ที่ 30-05-2007, 09:22
^
ตั้งใจเดี้ยงก่อนบ่ายนี้รึเปล่าหว่า  :slime_bigsmile:

ปล พึ่งจะรู้นะเนี่ยว่าสวรรค์เขาก็เป็นทุนนิยมด้วย  :slime_shy:


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: มารุจัง ที่ 30-05-2007, 09:26
ในแหวน Earth Quake เนี่ยยย

มีรส รัมเรซิ่นด้วยอ๊ะเปล่าาา

หรือมีเวรี่สตรอเบอรี่ด้วยมั้ยยยย

อ๊ะ.. มีมอคค่าอัลมอนด์ฟัดด้วยหรือเปล่าาาา

ไม่มีก็ไม่เอานะคะ..
อิอิอิ...


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 30-05-2007, 09:56
http://www.skyd.org/html/sekhi/43/vision-DMK-1.html


 
--------------------------------------------------------------------------------
สัมภาษณ์ เสฐียรพงษ์ วรรณปก

อาจารย์สรุปว่าธรรมกายไม่ใช่พุทธ

          ฝรั่งมาสัมภาษณ์ผม ผมบอกเลยว่าไม่ใช่พุทธศาสนา ในความหมายที่แท้จริงคือ โดยรูปแบบเขาเป็นพระในพุทธศาสนา และเป็นเถรวาทด้วย แต่จริงๆ เขาไม่ใช่พุทธ เพราะว่าเขาไม่แสดงคำสอนของพุทธศาสนา เพียงไปหยิบเอาคำสอนของพุทธศาสนาบางจุด เพื่อสร้างความร่ำรวย ความยิ่งใหญ่ให้แก่ตัว ถ้าเราถอยหลังมาพิจารณาสักนิด... เราจะเห็นว่าการสอน แม้แต่หลักบุญหลักทาน ซึ่งเป็นหลักพื้นฐานที่สังคมไทยสอนกันมาตามหลักพุทธศาสนานี่ ก็สอน “ให้เพื่อการสงเคราะห์ ให้เพื่อช่วยเหลือสังคม” ใครมีก็ช่วยเหลือเจือจานคนอื่นตามกำลังสามารถ ไม่เคยมีคำสอนใดในสังคมไทยหรือในพุทธศาสนาที่สอนว่า “มึงมีเท่าไรมึงทุ่มให้หมด” ไอ้มีเท่าไรทุ่มให้หมดนี่นะฮะ ถึงกับสร้าง slogan ว่า “ขายบ้านขายรถ ทุ่มสุดฤทธิ์ ปิดเจดีย์” ไม่มีก็ให้ไปขอยืมเขามา ให้ทำมากๆ ท่านก็จะได้มากๆ หมายถึงว่าได้สิ่งตอบแทนกลับมา เช่นให้ไป ๑,๐๐๐ บาท คุณจะได้รับตอบแทนกลับมา ๓,๐๐๐ บาท ๓ เท่าตัว… ไม่มีใครสอนอย่างนี้

          ว่ากันจริงๆ นะ ถ้าถอยหลังมานั่งคิดสักนิด โอ้โห! นี่มันเป็นลัทธิขูดรีด “มึงจะชิบหายช่างมึง แต่ว่าต้องเอาเงินมาให้กูให้ได้ ให้กูได้ร่ำได้รวย” เอาเงินมาแล้วเอาไปทำอะไร สังคมก็เห็นอยู่แล้วว่าเงินทองเอาไปทำอีลุ่ยฉุยแฉก จ่ายให้สีกาคนละ ๑๐๐ ล้าน ๒๐๐ ล้าน เอาไปทำธุรกิจ ก็เห็นๆ กันอยู่ ทำไมคนถึงมองไม่เห็น ก็เพราะความศักดิ์สิทธิ์ของผ้าเหลือง นี่ถ้าสมมติว่าเป็นคุณ นุ่งกางเกง ถ้าคุณทำอย่างนั้นคุณก็โดนถีบ โดนกระทืบตายแล้วใช่ไหม อันนี้เห็นได้ชัดๆ ไม่ใช่พุทธศาสนา คือเราเกรงใจ พูดกันแบบเกรงใจ ผมไม่เกรงใจหรอกแบบนี้...

-------------

 พวกนี้สำคัญผิดหรือเจตนาฉ้อฉล

          เจตนาฉ้อฉลๆ

 หมายถึงรู้มาตั้งแต่ต้น

          รู้ รู้มาตั้งแต่ต้น ตั้งใจมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ถ้าให้ความเป็นธรรมสักเล็กน้อย หลวงพ่อสดนี่ ท่านอาจจะเข้าใจอย่างนั้นจริงๆ ก็ได้ ว่าพระนิพพานของท่านเป็นอย่างนั้น ท่านนั่งเห็นนิมิต ท่านเห็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ได้ เพราะสมถะนั้นสามารถที่จะทำให้เกิด delusion เกิดความเข้าใจผิดได้ จินตนาการไปได้ เพราะนิมิตที่เห็นนั้น แต่ทีนี้หลวงพ่อสดไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นเครื่องมือหากินนะจะบอกให้ หลวงพ่อสดท่านปฏิบัติผิด ท่านก็เข้าใจผิดว่านิมิตนั้นเป็นจุดสุดท้ายเป็นจุดสำเร็จ

          และถ้าดูประวัติของหลวงพ่อสดตั้งแต่ต้น หลังจากนั้นหลวงพ่อสดมาปฏิบัติวิปัสสนากับอาจารย์ใหญ่วิปัสสนาธุระที่วัดมหาธาตุ (ท่านเจ้าคุณโชดก) ได้มอบรูปให้สำนักนั้น เขียนบอกยอมรับว่าวิธีปฏิบัติตามหลักสติปัฏฐาน ตามที่สอนในสำนักวัดมหาธาตุนั้นถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา ก็เขาเล่าลือกันมาตั้งนานแล้ว เขาไม่กล้าพูดกลัวจะเป็นการ bluff กัน ถ้าสมมติเป็นจริงดังนั้นตามหลักฐานที่มีให้เห็นและตามที่เล่าๆ กันมา ผู้ที่เล่าให้ฟังก็มีชีวิตอยู่ แสดงว่าหลวงพ่อสดท่านไปไหนต่อไหนแล้ว หมายความว่าท่านเคยติดตันอยู่ แล้วท่านก็ทะลุกำแพงไปได้ ไปถึงไหนนี่เราไม่ทราบ

          แต่ว่าลูกศิษย์ลูกหาเอามรดกที่ท่านทิ้งไว้มาหากิน ถ้าสังเกตจะเห็นว่าธรรมกายมี ๒ กรุ๊ป กรุ๊ปหนึ่งคลองสาม กรุ๊ปหนึ่งดำเนินสะดวก ดำเนินสะดวกกับคลองสามนี่เป็นลูกศิษย์รุ่นเดียวกัน ทำงานมาด้วยกัน อยู่ที่เดียวกัน แล้วทะเลาะกัน เวลาทะเลาะกันก็วิ่งมาหาผม แม้กระทั่งที่ถูกไล่ ถูกตามล่า ตั้งแต่พระอดิศักดิ์ก็ดี พระชัยเจริญก็ดี พระเลอศักดิ์ก็ดี รุ่นแรกหนีตายก็มาหาผม ทำไมข้อมูลต่างๆ มาอยู่ที่ผม... ก็เพราะท่านเหล่านี้มารายงานให้ทราบ ผมรู้ก่อนใครทั้งนั้นเรื่องอะไรต่ออะไรต่างๆ

          เพราะฉะนั้นสองกลุ่มนี้มีปัญหาหลักคือบิดเบือนคำสอนของพุทธศาสนา  และบิดเบือนทั้งสองกลุ่ม จำได้ไหม การเถียงกันพระนิพพานเป็นอัตตาหรืออนัตตานี่ ใน หนังสือ สมาธิ นิตยสารที่ออกในช่วงนั้น พวกธรรมกาย ไม่ว่าดำเนินสะดวก ไม่ว่าคลองสาม ยืนยันว่าพระนิพพานเป็นอัตตา จากนั้นท่านเจ้าคุณ (พระธรรมปิฎก) จึงเสนอหลักฐานของท่านออกมา และกลายมาเป็นหนังสือ “นิพพานอนัตตา” เกิดถกเถียงเรื่องนี้กันมาก่อน ท่านชี้ว่าพุทธศาสนาไม่ได้สอนนิพพานเป็นอัตตา นั่นแหละคือวิวาทะที่เกิดขึ้นมาก่อนเกิดเหตุ พอเกิดเหตุธรรมกายคลองสามเข้า ทางด้านดำเนินสะดวกก็สงบ สงวนท่าทีอยู่ เพราะว่ามีกรณีสมภารและรองสมภารวัดพระธรรมกายผิดพระวินัยอยู่ด้วย ไม่ใช่เฉพาะเรื่องหลักการของพระพุทธศาสนา หรือพระนิพพานอย่างเดียว แต่ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือประเด็นเรื่องพระนิพพานเป็นอัตตา ทั้งสองสำนักสอนเหมือนกัน ยืนยันเหมือนกัน

-----------------

ไปอ่านต่อกันนะคะ มันส์มากกก  :slime_v:


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: Suraphan07 ที่ 30-05-2007, 11:05
ขอบพระคุณ คุณพรรณชมพู ที่ช่วยเอาบทความดี ดี มาให้อ่าน...

แม้จะเป็นบทความเก่า แต่เนื้อหาก็ยังเป็นปัจจุบัน...

(http://img504.imageshack.us/img504/8144/40241390zh4.jpg)


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 30-05-2007, 23:11
ขอบพระคุณ คุณพรรณชมพู ที่ช่วยเอาบทความดี ดี มาให้อ่าน...

แม้จะเป็นบทความเก่า แต่เนื้อหาก็ยังเป็นปัจจุบัน...

(http://img504.imageshack.us/img504/8144/40241390zh4.jpg)

 :slime_o:


หัวข้อ: Re: มาดูกันว่า"ธรรมกลาย"กับ"ทักกี้" ทำไมจึงกลมเกลียว-เกื้อหนุนกันนัก ...
เริ่มหัวข้อโดย: วิหค อัสนี ที่ 31-05-2007, 17:40
เนื่องในโอกาสวันวิสาขบูชา

ขออนุญาตอัญเชิญพระพุทธวจนะมาเพื่อเตือนสติ และเป็นธรรมทาน...


[๘๐] ครั้งนั้นแล ท่านพระอุบาลีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลว่า ข้าแต่-
*พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส ขอพระผู้มีพระภาคโปรดแสดงธรรม
โดยย่อแก่ข้าพระองค์ ที่ข้าพระองค์ได้สดับแล้ว จะพึงเป็นผู้หลีกออกจากหมู่
อยู่ผู้เดียว ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยวอยู่เถิด ฯ
   พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอุบาลี เธอพึงรู้ธรรมเหล่าใดแลว่า ธรรม
เหล่านี้ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความ
สงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพาน โดยส่วนเดียว เธอพึงทรงธรรม
เหล่านั้นไว้โดยส่วนหนึ่งว่า นี้ไม่ใช่ธรรม นี้ไม่ใช่วินัย นี้ไม่เป็นคำสั่งสอนของ
ศาสดา อนึ่ง เธอพึงรู้ธรรมเหล่าใดแลว่า ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย
เพื่อคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อสงบระงับ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อ
นิพพาน โดยส่วนเดียว เธอพึงทรงจำธรรมเหล่านี้ไว้โดยส่วนหนึ่งว่า นี้เป็นธรรม
นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสั่งสอนของศาสดา ฯ


วินัยวรรค ส. อํ. (๘๐)
ตบ. ๒๓ : ๑๔๕-๑๔๖ ตท. ๒๓ : ๑๒๘-๑๒๙
ตอ. G.S. IV : ๙๖-๙๗