หัวข้อ: เครื่องหมายจอมทัพไทย เริ่มหัวข้อโดย: narong ที่ 03-05-2006, 20:32 คฑา + กระบี่
(http://radc.go.th.www.readyplanet.net/images/1120544597/pic01.jpg) นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ พระองค์ทรงใช้พระคทาจอมพลองค์ที่สาม ซึ่งนายกรัฐมนตรี และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงกลาโหม ได้ทูลเกล้า ฯ ถวาย พร้อมเครื่องยศจอมพล เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พุทธศักราช 2493 ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เนื่องในวโรกาส ที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินนิวัตสู่ประเทศไทย ต่อมาในปีพุทธศักราช 2509 ข้าราชการกระทรวงกลาโหมเห็นว่า พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ สำหรับประเทศชาติ ทั้งภายในและภายนอกประเทศอย่างมากมาย ทำให้กิจการต่าง ๆ บรรลุผลสำเร็จลุล่วงเสมอ พระบารมีของพระองค์แผ่ไพศาล ก่อให้เกิดความสามัคคีกลมเกลียว และความสงบสุขในหมู่ประชาชน สภากลาโหมจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พุทธศักราช 2509 ให้สร้างพระคทาจอมพลขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเก็บเงินเพื่อสร้างคทานี้จากนายทหารชั้นนายพลประจำการทุกนาย และในวันที่ 2 ธันวาคม พุทธศักราช 2509 นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ได้ทูลเกล้า ฯ ถวายพระคทาจอมพลองค์นี้แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงมีพระชนมายุ 40 พรรษา เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความจงรักภักดีของข้าราชการทหารทุกนาย และได้ขอพระบรมราชานุญาต ขนานนามพระคทาองค์ใหม่นี้เป็นพิเศษว่า พระคทาจอมทัพภูมิพล สายยงยศ จอมทัพ (http://radc.go.th.www.readyplanet.net/images/1120544597/pic02.jpg) สายยงยศเป็นเครื่องหมายแสดงฐานะพิเศษเฉพาะบางฐานะของผู้ประดับที่เป็นทหาร ซึ่งไม่เป็นสาธารณแก่ทหารทั่วไป เช่นสายยงยศของนายทหารฝ่ายเสนาธิการ และสายยงยศของราชองครักษ์ เป็นต้น สำหรับสายยงยศจอมทัพไทย เป็นสายยงยศเฉพาะองค์พระมหากษัตริย์ซึ่งทรงเป็นองค์ "จอมทัพไทย" สายยงยศนี้แตกต่างจากสายยงยศราชองครักษ์ด้วยมีสายไหมหรือสายไหมทองถักรวบสายยงยศคู่หน้า เมื่อประดับบนฉลองพระองค์เครื่องแบบทหาร ถมที่ถักรวบดังกล่าวนี้ จะอยู่ในแนวกระเป๋าของฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารระดับพระอุระเบื้องขวา http://www.radc.go.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=154199 พระคทาจอมทัพภูมิพล (http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Pic/p31.jpg) คทาจอมพล เริ่มใช้เป็นเครื่องประดับเกียรติในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายหลังที่ทรงปรับปรุงกิจการทหารเป็นแบบสากล คทาจอมพล แบ่งออกเป็น ๓ ประเภท ประเภทที่ ๑ เป็นพระคทาเครื่องต้นของพระมหากษัตริย์ ประเภทที่ ๒ เป็นพระคทาสำหรับพระบรมวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งดำรงพระยศเป็นจอมพล ประเภทที่ ๓ เป็นคทาสำหรับจอมพลทั่วไปใน ๓ เหล่าทัพ (http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Pic/P32.2.jpg) ผู้บัญชาการกรมทหาร พร้อมด้วยข้าราชการในกรมยุทธนาธิการเตรียมรับการตรวจแถว จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ สนามหญ้า ภายในศาลายุทธนาธิการ ภายหลังที่กรมทหารบก ทูลเกล้าฯ ถวายพระคทาจอมพล เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๔๖ คทาจอมพล ซึ่งเป็นพระคทาเครื่องต้นของพระมหากษัตริย์ มี ๔ องค์ คือ องค์แรก ข้าราชการกรมทหารบกได้สร้างพระคทาจอมพลขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในฐานะองค์จอมทัพไทย เนื่องในพระราชพิธีทวีธาภิเษกสมโภช เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๔๖ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท (http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Pic/p32.jpg) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงถือพระคทาจอมพลองค์แรกของกองทัพไทย ซึ่งกรมทหารบกทูลเกล้าฯ ถวาย (http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Pic/P33.2.jpg) พระคทาจอมพลองค์แรก ลักษณะพระคทาจอมพลองค์แรกนี้ เป็นรูปทรงกระบอกยาก ๓๕ เซนติเมตร ยอมเป็นรูปช้างสามเศียร ลงยาสีขาวเหนือหัวช้างเป็นพระเกี้ยว ตอนท้ายเป็นทรงกระบอกตัดองค์พระคทาทำด้วยทองคำหนัก ๔๐ บาท และใต้หัวช้างลงมาเป็นลายนูนรูปหม้อกลศ ซึ่งหมายถึงการทูลเกล้า ฯ ถวายเนื่องในพระราชพิธีทวีธาภิเษก พระคทาองค์นี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Pic/p33.jpg) และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เป็นประจำตลอดรัชกาล (http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Pic/p34.jpg) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงถือพระคทาจอมพลองค์ที่ ๒ ที่มียอดเป็นมงกุฎ (http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Pic/P34.2.jpg) พระคทาจอมพลองค์ที่ ๒ องค์ที่ ๒ ข้าราชการกรมยุทนาธิการ ได้จัดสร้างพระคทาจอมพลขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวในฐานะองค์จอมทัพไทย เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๕๓ พระคทาจอมพลองค์ที่ ๒ มีลักษณะส่วนใหญ่คล้ายคลึง กับพระคทาองค์แรกมากต่างกันตรงยอดซึ่งเป็นมงกุฎและมีลายเฟื่องอยู่ที่แถบกลางใต้ฐานของยอดมงกุฎโดยรอบเท่านั้น (http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Pic/p35.jpg) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงถือพระคทาจอมพลองค์ที่ ๓ ซึ่งพระองค์ทรงพระราชทานแบบพระคทาขึ้นใหม่ (http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Pic/P35.2.jpg) พระคทาจอมพลองค์ที่ ๓ องค์ที่ ๓ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้ทรงพระราชทานแบบพระคทาจอมพลขึ้นใหม่และโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างขึ้นด้วยทองคำเกลี้ยง พระคทาจอมพลองค์ที่ ๓ นี้ มีลักษณะป่องตรงกลาง และคอดเรียวไปทางด้านยอดและด้านปลาย ตรงยอดของพระคทา เป็นรูปพระยาครุฑพ่าห์ลงยาตามแบบพระราชลัญจกรประจำแผ่นดิน และใต้พระยาครุฑ เป็นลูกแก้วรองฐานบัวหงายลงยาราชาวดี ส่วนด้านปลายมีลูกแก้ว และยอดบัวกลุ่มสี่ชั้นลงยาราชาวดีเช่นกัน พระคทาจอมพลองค์นี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้มาตลอดรัชกาล ต่อมา พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงใช้พระคทาจอมพลองค์นี้สืบมา (http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Pic/p36.jpg) องค์ที่ ๔ นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จขึ้นครองราชสมบัติพระองค์ทรงใช้พระคทาจอมพลองค์ที่ ๓ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งนายกรัฐมนตรีและนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงกลาโหมได้ทูลเกล้า ฯ ถวายพร้อมเครื่องยศจอมพล เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง เนื่องในวโรกาสที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินนิวัติสู่ประเทศไทย ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๕๐๙ ข้าราชการกระทรวงกลาโหม ต่างพิจารณาเห็นว่าพระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจสำหรับประเทศชาติ ทั้งภายในและภายนอกประเทศอย่างมากมาย กิจการใดที่เป็นประโยชน์ต่อชาติ และพสกนิกรชาวไทยแล้ว พระองค์จะทรงเข้ารับเป็นพระราชภาระ และทำให้กิจการต่าง ๆ บรรลุผลสำเร็จเสมอ พระบารมีของพระองค์ก่อให้เกิดความสามัคคี กลมเกลียวและความสงบสุขในหมู่ประชาชน ดังนั้นในวันที่ ๑๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๐๙ สภากลาโหมได้มีมติให้จัดสร้างพระคทาจอมพลขึ้นเพื่อทูลเกล้า ฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเก็บเงินเพื่อสร้างพระคทานี้จากนายทหารชั้นนายพลประจำการทุกนาย และในวันที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๐๙ นายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ได้ทูลเกล้า ฯ ถวายพระคทาจอมพลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงมีพระชนมายุเข้าปีที่ ๔๐ เพื่อเป็นเครื่องหมายของความจงรักภักดีของข้าราชการทหารทุกนาย และเพื่อให้แปลกแตกต่างไปจากพระคทาจอมพลองค์ก่อน ๆ จึงได้ขอพระบรมราชานุญาตขนานนามพระคทาองค์ใหม่เป็นพิเศษว่า "พระคทาจอมทัพภูมิพล" (http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Pic/p37.jpg) พระคทาจอมทัพภูมิพล พระคทาจอมพลองค์ที่ ๔ (พระคทาจอมทัพภูมิพล) มีลักษณะทั่วไปเหมือนพระคทาจอมพลองค์ที่ ๓ กล่าวคือ องค์พระคทาทำด้วยทองคำหนัก ๔๓๐ กรัม แกนกลางป่องเรียวไปทางยอดและปลาย ประกอบด้วยเครื่องหมายมงคลแปด ซึ่งถือกันว่าเป็นนิมิตหมายแห่งความเป็นมงคลในศาสนาพราหมณ์ ด้านยอดคงมีพระยาครุฑพ่าห์ลงยา และลูกแก้วรองฐานบัวหงายลงยาราชาวดี ส่วนด้านปลายมีลูกแก้วและยอดบัวกลุ่มสี่ชั้นลงยาราชาวดี เช่น พระคทาองค์ที่ ๓ ส่วนที่ต่างออกไป คือ เหนือพระยาครุฑมีพระปรมาภิไธยย่อ "ภปร" ฝังเพชรอยู่ในกรอบรูปไข่ และมีรูปพระมหาพิชัยมงกุฎทองฝังเพชรอยู่เบื้องบน ตอนปลายต่อจากเครื่องหมายมงคลแปด มีเครื่องหมายกระทรวงกลาโหม (http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Pic/p39.jpg) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงถือพระคทาจอมทัพภูมิพล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสตอบในการเสด็จพระราชดำเนินออกทรงรับพระคทาจอมทัพภูมิพล ดังนี้ "ข้าพเจ้าขอขอบใจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ นายทหารผู้ใหญ่ทุกคน ที่นำคทาจอมทัพมามอบให้ข้าพเจ้าครั้งนี้ ข้าพเจ้ายินดีรับไว้ด้วยความเต็มใจ และจะถือว่าคทาจอมทัพ เป็นเสมือนเครื่องหมายแห่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกองทัพทั้งสาม อิสรภาพ ความมั่นคง ตลอดจนความเจริญรุ่งเรืองของประเทศของเรา ขึ้นอยู่กับกิจการทหารเป็นสำคัญ ตลอดมาทุกยุคทุกสมัย เพราะเมืองไทย ของเรานี้เป็นเมืองทหาร คนไทยทุกคนมีเลือดทหาร เป็นนักต่อสู้ ผู้รักและหวงแหนความเป็นไทยยิ่งด้วยชีวิต ข้าพเจ้าจึงมีความพอใจอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นความกลมเกลียวเป็นปึกแผ่นของทหารทั้งสามเหล่าในวันนี้ ทหารมีหน้าที่ป้องกันรักษาประเทศหน้าที่นี้ นอกจากในด้านการรบแล้ว ยังมีด้านอื่นซึ่งสำคัญเท่าเทียมกันอยู่อีก คือ การสร้างความสัมพันธ์ อันดีกับประชาชน ทหารต้องทำตัวเป็นมิตร ต้องสงเคราะห์อนุเคราะห์ประชาชน ด้วยการให้ความคุ้มครองป้องกัน และช่วยเหลือในความเป็นอยู่ ตลอดถึงการแนะนำสนับสนุนในการครองชีพด้วย ถ้าทหารปฏิบัติ หน้าที่ได้อย่างครบถ้วน ก็จะเป็นที่อุ่นใจ และเป็นที่เชื่อถือไว้วางใจ ของประชาชนได้อย่างแท้จริง ขอท่านทั้งหลายจงร่วมมือร่วมใจกัน ทำหน้าที่ของทหารให้สมบูรณ์ทุกด้าน มีความพรักพร้อมเป็นใจเดียวกัน ประกอบกรณียกิจเพื่อความมั่นคงความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ และความร่มเย็นเป็นผาสุกของประชาราษฎรไทยทุกคน ขอคุณพระศรีรัตนตรัย จงคุ้มครองท่านทั้งหลาย ให้แคล้วคลาด จากภัยทุกประการ บันดาลให้เกิดกำลังกาย กำลังใจ และกำลังปัญญา สามารถปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติยิ่งขึ้นสืบไป" http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Sceptre.htm (http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Sceptre.htm) หัวข้อ: Re: เครื่องหมายจอมทัพไทย เริ่มหัวข้อโดย: เก็ดถวา ที่ 03-05-2006, 20:53 ขอบพระคุณมากค่ะ หัวข้อ: Re: เครื่องหมายจอมทัพไทย เริ่มหัวข้อโดย: ดอกเข็มขาว ที่ 03-05-2006, 21:03 ได้ความรู้อีก 1 เรื่อง
ขอบคุณมากคะ หัวข้อ: Re: เครื่องหมายจอมทัพไทย เริ่มหัวข้อโดย: GN-001 Exia ที่ 03-05-2006, 21:24 ยอดเลยครับ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนไทยภาคภูมิใจ
หัวข้อ: Re: เครื่องหมายจอมทัพไทย เริ่มหัวข้อโดย: ลูกไทย หลานไทย ที่ 04-05-2006, 17:05 อ่านกระทู้คุณ narong แล้วเกิดแรงบันดาลใจไปหามาเพิ่มเติมครับจาก http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Sceptre.htm
มีรูปวาดของพระคทาจอมพลสำหรับพระมหากษัตริย์ทั้ง 4 องค์นะครับ
หัวข้อ: midi ringtone เพลงความฝันอันสูงสุด เริ่มหัวข้อโดย: narong ที่ 07-05-2006, 16:29 midi ringtone เพลงความฝันอันสูงสุด ใช้กับโทรศัพท์ที่เล่นเสียง POLYPHONIC ได้
หัวข้อ: ภาพทะเบียนสมรสของในหลวง เริ่มหัวข้อโดย: narong ที่ 09-05-2006, 12:23 (http://i2.tinypic.com/xli2b6.jpg) (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php/topic,16203.0.html)
|