ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: snowflake ที่ 13-04-2007, 11:32



หัวข้อ: ไม่เอา "สุรยุทธ์" แล้วจะเอาใคร?
เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 13-04-2007, 11:32
แก้การเมืองด้วยการทหาร?

คอลัมน์ เดินหน้าชน โดย จำลอง ดอกปิก

การแก้ไขสถานการณ์อึมครึมในขณะนี้ ในทางทฤษฏีมีทางออกจากระดับอ่อนสุด จนถึง
ระดับเข้มข้น อยู่แค่ 3 ประการ
1. การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล
2. การเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี และ
3. การใช้กำลังทหารปฏิวัติอีกครั้ง

การแก้ด้วยแผนขั้นที่ 1 ปรับคณะรัฐมนตรีอาจไม่สอดคล้องต้องกันกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ด้วยผ่านการพิสูจน์มาในระดับหนึ่งแล้วว่า ไม่ประสบผลสำเร็จ ฉะนั้น มาตรการอ่อนสุดนี้
จึงน่าจะมองข้ามไปได้

เหลือเพียงการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี หรือไม่ก็ทำการรัฐประหารอีกครั้ง

ทั้ง 2 ประการนี้ มีแนวโน้มความเป็นไปได้สูงยิ่ง!!

ทั้งนี้ เนื่องจากลึกๆ แล้วคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติหรือ คมช. และแนวร่วมที่ออกมา
เคลื่อนไหวต่างไม่พอใจ และพากันหวาดระแวง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ทำอะไรไม่ได้
ดั่งใจตัวและพวกพ้อง

คนเหล่านี้ตั้งคำถามนายกรัฐมนตรีต่างๆ นานา พร้อมกับยัดเยียดข้อกล่าวหาต่อสายกับกลุ่ม
อำนาจเก่า

ยิ่งดูเหมือนรัฐบาลไม่กระตือรือร้นในการอำนวยความสะดวกเอาผิดกับรัฐบาล พ.ต.ท.
ทักษิณ ชินวัตร ดังจะเห็นได้จาก แม้คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิด
ความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เรียกร้อง ให้ออกมติคณะรัฐมนตรีบังคับให้ข้าราชการให้
ความร่วมมือ ทว่าไม่ได้รับการสนองตอบ ก็ยิ่งทำให้ความไม่ไว้วางใจเพิ่มสูงขึ้น

เป้าของ คมช.จึงอยู่ที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นสำคัญ!!

เมื่อมองว่า เป็นอุปสรรคสำคัญในการกำจัดกลุ่มอำนาจเก่า อันอาจเท่ากับเปิดโอกาสให้
ฟื้นคืนชีพกลับมาเช็คบิลผู้ก่อการรัฐประหารได้แล้ว ก็ต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุด

นั่นคือเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี!!

แรงกดดันจึงถาโถมเข้าใส่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อย่างต่อเนื่อง ตามมาด้วยกระแสข่าว
อาจถอดใจ ตามมาด้วยการปฏิเสธด้วยอารมณ์ขัน ทำเช่นนั้นมิได้ เพราะไม่ใช่ทศกัณฑ์

กระนั้นสัญญาณที่จับได้จากคำพูด พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เพื่อนผู้รู้ใจนายกฯ ที่ว่า หากสถานการณ์รุนแรงวุ่นวายจากการเคลื่อนไหวของหลายกลุ่มขึ้น
"ท่านก็สัญญาว่า ให้แก้ไขปัญหาการเมืองด้วยการเมือง คำว่าการเมืองนั่นคือเปลี่ยนรัฐบาล
นั่นเอง เมื่อถึงจุดนั้น นายกรัฐมนตรีก็พร้อมที่จะลาออก" กลับน่าสนใจมิใช่น้อย

น่าสนใจเป็นอย่างมากตรงที่ว่า เป็นคำพูดดักคอคล้ายปิดทาง ไม่ต้องการให้ใครคิดก่อการ
ปฏิวัติรัฐประหารอีกครั้ง โดยยินดีเปิดทางให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยวิถีทางการเมือง ที่
ส่งผลสะเทือนบอบช้ำต่อประเทศน้อยกว่า

นอกจากนี้ยังอาจเป็นการส่งสัญญาณเตือน ปรามการรุกคืบกดดันจาก คมช. หากยัง
ไม่หยุดเคลื่อนไหวอาจตัดสินใจลาออก เป็นความพยายามกรุยทางปูพื้นเหตุผลว่า ถึง
ที่สุดแล้วหากต้องตัดสินใจไขก๊อกจากภาระหน้าที่ หาใช่เป็นเพราะถอดใจในระดับ
ธรรมดาไม่ หากแต่ถูกกดดันหนักจากทั้ง คมช.และแนวร่วม กระทั่งขาดความเป็นอิสระ
มิอาจบริหารราชการแผ่นดินให้ดำเนินไปอย่างราบรื่นได้

จงอย่าได้คิดเรียกร้อง กดดันด้วยวิธีการต่างๆ นานาเพื่อให้ทำตามความต้องการในบาง
เรื่องอีกเด็ดขาด!!

การเปิดไพ่เล่นเช่นนี้ ด้านหนึ่งอาจเข้าทาง คมช.หากยังไม่เปลี่ยนความคิดเปลี่ยนตัว
นายกรัฐมนตรี ทว่าด้านหนึ่งอาจต้องคิดหนักเช่นกัน

หากไม่ใช่ "สุรยุทธ์ จุลานนท์" แล้วจะเอาใคร

หรือว่า "ไต๋" นี้ นายกรัฐมนตรีมองออกเช่นกันว่า ในภาวะเช่นนี้หาคนมาดำรงตำแหน่ง
แทนยากยิ่งเต็มที

หรือว่า "พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน" จะกล้าเป็นเอง

หรือว่า ต้องการปฏิวัติล้มล้างแล้วก่อร่างใหม่

สถานการณ์นับจากนี้ไป เข้มข้นน่าสนใจ

ยิ่งกว่าการเผชิญหน้าในวันนี้เสียอีก!!

มติชน วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10625

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act07130450&day=2007/04/13&sectionid=0130

ไม่เอา "สุรยุทธ์" แล้วจะเอาใคร?
พวกที่ขยันไล่ คงจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว
ก็รอดูต่อไปว่า ที่อ้างกันว่า "รักชาติ" นั้น รักแบบไหน?
ที่เที่ยวกล่าวหาคนอื่นเป็น "ผู้ร้าย" แท้จริงก็เป็นเพียงผู้ที่ "อ้างว่า" ดี?


หัวข้อ: Re: ไม่เอา "สุรยุทธ์" แล้วจะเอาใคร?
เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 13-04-2007, 12:06
วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10625

"ป๋า"เตือน"สพรั่ง"ใจเย็นๆ "สุรยุทธ์"สู้ต่อ ยึดแนวพระทำใจรกลับใจ

ย้ำไม่มีสัญญาลับกับ"แม้ว" "บุญรอด"แฉท่อน้ำเลี้ยงป่วน ขนเงินใส่กระเป๋าแจกม็อบ





ขอพร "ป๋า" - พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และนายทหารทุกเหล่าทัพ เข้าร่วมรดน้ำดำหัวและขอพรจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เนื่องในวันสงกรานต์ ที่สโมสรทหารบก เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา

 
"สุรยุทธ์"ย้ำไม่ท้อถอย มุ่งมั่นจะทำงานให้สำเร็จ อ้าง"สนธิ"บอกเองไม่คิดเปลี่ยนตัวนายกฯ แถมยันปฏิวัติซ้ำแค่ข่าวลือ ปัดมีสัญญาลับกับ"ทักษิณ" ยกตัวอย่างองค์คุลิมาล พระกล่อมโจรให้กลับใจได้ "ป๋า"บอกอย่าน้อยใจคนเข้าใจผิด วอนทหารช่วยทำความเข้าใจว่าทำเพื่อชาติ พร้อมเตือน"สพรั่ง" ทำอะไรให้ใจเย็นๆ

"สุรยุทธ์"ยัน"สนธิ"ไม่คิดเปลี่ยนนายกฯ  

หลังจาก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ต้องยกเลิกปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันที่ 9-11 เมษายน เนื่องจากต้องนอนพักเพื่อตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เมื่อวันที่ 12 เมษายน พล.อ.สุรยุทธ์ได้กลับมาปฏิบัติภารกิจนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยแถลงและตอบข้อซักถามกับผู้สื่อข่าว เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

ทั้งนี้ พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวถึงกรณี พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า นายกฯมีสัญญาใจกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ว่า พร้อมจะรับผิดชอบทางการเมือง หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองได้ ว่าตนมีความตั้งใจและพยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่ หากไม่มีปัญหาอุปสรรคที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากกระทบต่อการทำงาน ก็ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะทำต่อไป แต่ถ้าแก้ไขปัญหาทางการเมืองไม่ได้ มีการปะทะกันและใช้กำลังกันก็คงต้องรักษาในสิ่งที่เคยพูดเอาไว้ ในฐานะที่เป็นทหารย่อมมองสถานการณ์ในลักษณะที่ร้ายไว้ก่อนแล้วหาทางไม่ให้ไปถึงจุดนั้น

"ส่วนข่าวเรื่องปฏิวัติซ้อน ทางประธาน คมช.ได้พูดคุยกับผมก่อนเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่น (วันที่ 2-5 เมษายน) ว่าเป็นเพียงข่าวลือ รวมถึงข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ ก็เคยคุยกับผมว่าไม่คิดจะเปลี่ยน" พล.อ.สุรยุทธ์กล่าว

ปัดสัญญาลับ"แม้ว"-เชื่อพระกล่อมโจรได้

ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แสดงความสงสัยว่านายกฯมีสัญญาลับกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาทางการเมืองจำเป็นต้องรับฟัง ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณเคยโทรศัพท์มาพูดคุย 2 ครั้ง ก็พูดคุยกันในลักษณะว่าจะทำให้เกิดความสงบในบ้านเมืองได้อย่างไร โดยตนได้บอก พ.ต.ท.ทักษิณไปว่าให้กลับมาหลังช่วงที่มีการเลือกตั้งแล้ว ไม่ได้มีอะไรแอบแฝงมากไปกว่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรระบุว่า นายกฯสมานฉันท์ไม่ถูกทาง นายกฯ กล่าวว่า "คำเปรียบเทียบว่าพระกับโจรอยู่ด้วยกันไม่ได้น่ะ ผมคิดว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้องในหลักพุทธศาสนา ในหลักพุทธศาสนาคือ พระจะเป็นผู้ที่อภัยให้แก่โจร พระพยายามพูดให้โจรกลับใจ พระพุทธเจ้าสอนเรื่ององคุลีมาลให้กลับใจ จนได้ผ่านไปนิพพานด้วย ในศาสนาพุทธพระพุทธเจ้าสอนให้เราเป็นคนมีเมตตากรุณา ถ้าเราย้อนกลับไปดูในส่วนของพรหมวิหาร 4 นั่นคือ สิ่งที่คนนับถือศาสนาพุทธควรนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตและแก้ไขปัญหาตนเอง"

ยันกับขรก.ไม่ท้อถอยจะทำให้สำเร็จ  

ก่อนหน้านั้น หลังจาก พล.อ.สุรยุทธ์เดินทางเข้าตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อเวลา 10.30 น. ก็ได้เก็บตัวอยู่บนห้องทำงาน กระทั่งเวลา 12.30 น. พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนจะเข้าร่วมพิธีรดน้ำดำหัวและขอพรจาก พล.อ.สุรยุทธ์เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ที่ตึกสันติไมตรี โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตำรวจ ทหาร สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เข้าร่วมประมาณ 200 คน

พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวอวยพรว่า ตนตระหนักดีว่าการทำงานของรัฐบาลในห้วงเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา มีปัญหาและอุปสรรคมากพอสมควร แต่ด้วยความช่วยเหลือของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทำให้การทำงานของรัฐบาลเป็นไปด้วยความราบรื่น และหวังเป็นอย่างว่า ยิ่งพวกเราจะช่วยกันทำงานในเวลาที่เหลือไม่มาก และทำให้ภารกิจในช่วงเปลี่ยนผ่านเป็นไปด้วยความราบรื่น

"แน่นอนว่าปัญหาและอุปสรรคมีมาตลอด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะท้อถอยท้อแท้ ผมมีความมุ่งมั่นจะทำงานให้สำเร็จ และมีโอกาสนำ ครม.เข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตน ซึ่งคำถวายสัตย์ปฏิญาณระบุชัดว่า จะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและความรุ่งเรืองของชาติบ้านเมือง" นายกฯกล่าว

บอกเปลี่ยนนายกฯให้ถามคมช.

ด้าน พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ว่า ไม่ได้คุยเรื่องงานเลย ไม่มีอะไรเพราะนายกฯพูดบนเวทีรดน้ำดำหัวแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่า พล.อ.สุรยุทธ์อาจถอดใจลาออกและมอบให้ พล.อ.สนธิเป็นนายกฯแทน พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า ต้องไปถามคนที่ตั้งรัฐบาล คือ คมช. หากรัฐบาลมีอะไรผิดพลาด คมช.ต้องพิจารณา

เมื่อถามว่า ทำไมช่วงนี้มีกระแสข่าวความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับ คมช. พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า มันมีเพราะคนไปลงข่าว ประธาน คมช.บอกแล้วว่าไม่มี ตนก็ยืนยันว่าไม่มี มันมีแต่สถานการณ์เท่านั้นที่จะทำให้เกิดขึ้น และเป็นไปตามที่ตนพูดคือการไปถึงจุดหนึ่งนั้นหากจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าไม่ไปถึงจุดนั้นก็เรียบร้อยดี รัฐบาลก็ไปถึงเป้าหมาย มันขึ้นอยู่กับประชาชน ตนพูดแบบนี้เพราะอยากให้ทุกคนมองระยะยาวว่าหากทำอย่างนี้จะกระทบอย่างไร หากว่ารัฐบาลชุดนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่งและมีศรัทธา ผลงานออกมาตามที่ประชาชนต้องการ มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  

ปูดใช้กระเป๋าขนเงินท่อน้ำเลี้ยงตามบ้าน

เมื่อถามว่า รัฐบาลใช้สองมาตรฐานในการควบคุมม็อบกลุ่มต่างๆ พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า รัฐบาลปฏิบัติมาตรฐานเดียวกัน เมื่อถามว่า จะจัดการกับท่อน้ำเลี้ยงจากขั้วอำนาจเก่าที่สนับสนุนม็อบต่างๆ อย่างไร พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า "ท่อน้ำเลี้ยงไม่ได้ทำอย่างเปิดเผย เพราะกระทำกันอย่างลับๆ เงินไม่ได้โอนผ่านธนาคารเพราะอยู่ตามบ้านต่างๆ เยอะแยะ ส่งกระเป๋าไปเอา ทำได้อย่างแนบเนียน"

เมื่อถามว่า แสดงว่าฝ่ายข่าวของรัฐจัดการไม่ได้ พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า รู้แต่ว่าเงินไปถึงกลุ่มไหน และได้เท่าไหร่ รู้ในช่วงระหว่างส่งผ่านและกระจายไป แต่ไม่สามารถจัดการได้

เมื่อถามว่า สถานการณ์บ้านเมืองในช่วงสงกรานต์จะเป็นอย่างไร พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า ในช่วงนี้คงไม่มีอะไร แต่อาจจะเกิดขึ้นในหลังจากช่วงสงกรานต์ คือการนัดการเคลื่อนไหวและม็อบต่างๆ ก็จะออกมาเป็นธรรมชาติ แต่การป้องกันนั้นก็มีมาตรการที่เข้มงวดอยู่แล้ว[/color]

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0101130450&sectionid=0101


อันนี้ผมเอามาจากมติชนเหมือนกัน