ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: An.mkII ที่ 05-03-2007, 16:40



หัวข้อ: 4 อดีต กกต.ส่อซวยซ้ำ! ต้องชดใช้ค่าเสียหายกรณีเลือกตั้ง 2เม.ย.
เริ่มหัวข้อโดย: An.mkII ที่ 05-03-2007, 16:40
4 อดีต กกต.ส่อซวยซ้ำ! ต้องชดใช้ค่าเสียหายกรณีเลือกตั้ง 2เม.ย.
   

นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. กล่าวยอมรับว่า กกต. มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีความเสียหายจากการจัดการเลือกตั้ง 2 เม.ย. 49  โดยมีนาย สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. เป็นประธาน ซึ่งจะต้องหาข้อเท็จจริงในชั้นต้นก่อนว่าเป็นอย่างไร  แล้วค่อยพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ขอให้รอผลของคณะกรรมการก่อน ผิดไม่ผิดก็ต้องรู้ก่อน  เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

รายงานข่าวแจ้งว่า การที่กกต.ได้มีมติตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวสืบเนื่องจาก หลังศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองมีคำวินิจฉัยและคำพิพากษาว่าการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. 2 เม.ย. 49 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและให้เพิกถอนการเลือกตั้งทั้งหมด

ม.ร.ว.รำพิภาภา เกษมศรี  กลุ่มสตรีผู้สูงศักดิ์และราชนิกูล ได้ยื่นคำร้องต่อกระทรวงการคลังให้เรียกค่าเสียหายจากคณะกรรมการการเลือกตั้งในขณะนั้น ซึ่งก็คือกกต.ชุดที่มีพล.ต.อ. วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน และสำนักงานกกต. ให้รับผิดชอบค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งประมาณ 2,020 ล้าน ตามพ.ร.บ. ความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่พ.ศ. 2539
 

โดยกระทรวงคลังได้ส่งเรื่องมายังสำนักงานกกต. และหารือไปยังสำนักงานกฤษฎีกา ก็ได้มีการนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษ และมีความเห็นว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น เกิดจากการดำเนินการต่างๆ ของกกต.ชุดที่แล้วตามคำร้องของ ม.ร.ว.รำพิอาภา มีลักษณะเป็นกฎ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทำให้ทั้งศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครองมีคำวินิจฉัยและคำพิพากษาไปในแนวทางดังกล่าว มิใช่ความเสียหาย ตามนิยามในข้อ 4 ของระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่พ.ศ. 2539   


แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากคำวินิจฉัยและคำพิพากษาของศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญมีผลทำให้ราชการเสียหายจากการใช้งบประมาณแผ่นดิน จึงมีประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดหลายประเด็นที่ต้องวินิจฉัย เช่น การกระทำดังกล่าวมีลักษณะเป็นการกระทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือไม่เป็นการกระทำในทางส่วนตัว ที่ต้องบังคับตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือไม่  หรือเป็นการกระทำเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครองดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะนำมาประกอบการพิจารณาวินิจฉัยได้


"สำนักงานกกต.ในฐานะหน่วยงานรัฐ ที่เป็นผู้รับเงินงบประมาณจากรัฐเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง 2 เม.ย. 49 และเกิดความเสียหายขึ้น  จึงอยู่ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่เสียหาย ที่จะแสวงหาข้อเท็จจริงว่าการละเมิดเป็นไปตามบทบัญญัติใด โดยสามารถนำปฏิบัติในการแสวงหาข้อเท็จจริง ตามที่กำหนดไว้ในระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่พ.ศ. 2539 มาปรับใช้เป็นแนวทางเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงว่าความเสียหายนั้นเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือเป็นไปตามบทบัญญัติในพ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 "

หนังสือของกฤษฎีการะบุ


รายงานข่าวแจ้งว่า

กระทรวงการคลังได้ส่งความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาดังกล่าวมายังกกต.เพื่อพิจารณาดำเนินการและกกต.ก็ได้มีมติตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยมีเลขาธิการกกต. เป็นประธาน มีรองเลขาธิการด้านการเลือกตั้ง รองเลขาธิการด้านกิจการพรรคการเมือง  ผู้แทนคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้แทนสำนักงบประมาณ  ผู้แทนกระทรวงการคลัง และผู้แทนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ร่วมเป็นกรรมการ ให้ดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน


อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้สำนักงานกกต. โดยสำนักกฎหมายและคดีได้เคยมีความเห็นแจ้งกลับไปยังกระทรวงคลังเมื่อครั้งได้รับหนังสือแจ้งว่ามีผู้ร้องเรียนว่า การจัดการเลือกตั้งส.ส. เมื่อ 2 เม.ย. 49 ของ กกต. ไม่เข้าลักษณะกรณีเจ้าหน้าที่กระทำละเมิดต่อเอกชน หรือหน่วยงานของรัฐ และมิได้เป็นการกระทำประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งดังกล่าวจึงไม่เป็นความเสียหายที่เกิดจากการจัดการเลือกตั้งของกกต.


อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวระบุว่า

คำร้องของม.ร.ว.รำพิอาภา นั้นเป็นการร้องหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครองมีคำวินิจฉัยและคำพิพากษา  เพิกถอนผลการเลือกตั้ง ซึ่งในคำวินิจฉัยและคำพิพากษาทั้ง 2 ฉบับไม่ได้มีการระบุชัดว่าเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  แต่หลังจากนั้นในเดือนก.ค. 49 ศาลยุติธรรมมีคำพิพากษาระบุว่าอดีตกกต. 4 คนปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงต้องดูว่าคณะกรรมการชุดที่กกต.ตั้งขึ้นฯ จะนำพิพากษาของศาลยุติธรรมามาพิจารณาด้วยหรือไม่


  และซึ่งหากตรวจสอบแล้วพบว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเกิดจากการปฏิบัติโดยมิชอบจะโดยการกระทำของอดีตกกต. 4 คนหรือระดับพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็อาจต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบหาผู้รับผิดชอบว่า ใครควรจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย 2,020 ล้านบาท บ้าง


และระดับความรับผิดชอบควรเป็นจำนวนเท่าไร  จากนั้นก็จะต้อองมีการแจ้งความดำเนินคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไป 

http://www.dailynews.co.th%2Fdailynews%2Fpages%2Ffront_th%2Fpopup_news%2FDefault.aspx%3FNewsid%3D119857%26amp%3BNewsType%3D1%26amp%3BTemplate%3D2


หัวข้อ: Re: 4 อดีต กกต.ส่อซวยซ้ำ! ต้องชดใช้ค่าเสียหายกรณีเลือกตั้ง 2เม.ย.
เริ่มหัวข้อโดย: cameronDZ ที่ 05-03-2007, 17:25
สงสัยพี่หนาคงต้องขายสวนทุเรียนมาจ่ายเอง

เพราะสัญญาว่าจ้าง "สิ้นสุด" ลง ตั้งแต่ทำงานล้มเหลวคราวนั้น