ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 31-01-2007, 09:20



หัวข้อ: เศรษฐกิจเน่า บาทแข็งส่งไม่ออก 'เกริกไกร'สติแตกว้ากไม่สน
เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 31-01-2007, 09:20
'เกริกไกร'ว้ากไม่สนใจนักลงทุนต่างชาติเตลิด เอกชนรับสภาพค่าเงินบาทแข็ง [ไทยรัฐ 31 ม.ค. 50 - 04:59]
 
นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหกรุ๊ป กล่าวในงานสัมมนา “มองเศรษฐกิจอุตสาหกรรมปี 50” ว่า ปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในปี 2550 คือภาวะเงินบาทแข็งค่า ซึ่งแข็งค่าในอัตราที่สูงกว่าประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะจีน เวียดนาม ไต้หวัน ทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปด้วยความยากลำบากกว่าทุกปี ดังนั้นรัฐบาลควรมีมาตรการที่ชัดเจนเพื่อช่วยลดอุปสรรคให้แก่ภาคธุรกิจ เพราะค่าเงินบาทถือเป็นปัจจัยที่บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจประเทศได้ “น่าจะมีวิธีการทำให้ดีขึ้น และปีนี้หนักใจที่สุด ผมยังมองไม่เห็นว่า ตลาดจะดีขึ้นได้อย่างไร โดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยน เงินบาทที่จะแข็งขึ้นเรื่อยๆถ้าควบคุมไม่ได้จะค้าขายลำบาก เศรษฐกิจดีหรือไม่นั้นค่าของเงินเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้เศรษฐกิจดีหรือไม่ดีได้”

ขณะที่นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า เรื่องเงินบาท แข็งค่าถือเป็นกระแสที่ผู้ประกอบการไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะมีผลจากนักลงทุนไม่นิยมถือครองเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น จึงทำให้หันไปถือครองเงินสกุลอื่น ซึ่งเงินบาทก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น ประกอบกับภาวะที่อัตราดอกเบี้ยของไทยเป็นสิ่งดึงดูดให้ต่างชาติ เข้ามาลงทุนมากขึ้น ดังนั้น มาตรการ ธปท.ที่ออกมาเพื่อสกัดเงินทุนไหลเข้าระยะสั้นเพื่อป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาท คงจะช่วยรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น ระยะยาวควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด

ด้าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวว่า หลังจาก ธปท. ผ่อนปรนมาตรการกันสำรอง 30% แสดงให้เห็นว่า ธปท.เลือกใช้อย่างได้ผล โดยเฉพาะช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาหลังประกาศใช้ ปรากฏว่าค่าเงินบาทในตลาดต่างประเทศแข็งค่าขึ้นถึง 34 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ค่าเงินบาทในประเทศอยู่ที่ 35.80 บาท ห่างกันถึง 2 บาท หากไม่ผ่อนคลายจะทำให้ค่าเงินบาทในประเทศแข็งค่าขึ้นไปถึง 33-34 บาท และเห็นว่าผู้ส่งออกไม่ได้รับผลกระทบจากการผ่อนปรนมาตรการกันสำรอง อีกทั้งยังทำให้เป็นการแบ่งแยกการซื้อขายเงินบาทของตลาดในประเทศและต่างประเทศได้อย่างชัดเจน

ส่วนนายเกริกไกร จีระแพทย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ค่าเงินบาทแข็งค่าอาจมีส่วนผลักดันให้นักลงทุนตัดสินใจย้ายฐานการผลิตไปจากไทย เพราะนักลงทุนที่เข้ามาต่างก็หวังผลกำไรเป็นสิ่งตอบแทน ทั้งค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ค่าแรงถูก และสิทธิประโยชน์ต่างๆ เมื่อมีปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนไม่ได้รับประโยชน์ต่อไปก็อาจเปลี่ยนไปลงทุนที่อื่นแทนได้

ขณะที่นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทปูนซิเมนต์ไทย กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ มีการประชุมของบรรดานักเศรษฐกิจระดับชั้นแนวหน้าของโลกจากทั่วโลกที่ฮ่องกง ได้มีความเห็นเชิงวิเคราะห์ตรงกันว่า ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ค่าเงินบาทไทยจะแข็งค่าอยู่ถึงระดับ 18-19 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งผู้ประกอบการคงจะต้องยอมรับความจริงแง่การขาดทุนในอนาคต ด้านนักบริหารเงินธนาคารกรุงเทพรายงานว่า ค่าเงินบาทปิดตลาด ที่ 35.80 บาท/ดอลลาร์ โดยยังคงเคลื่อนไหวทรงตัวตั้งแต่เช้าจนปิดตลาดเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามา และคาดว่าในวันนี้ (31 ม.ค.) เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.70-35.90 บาท/ดอลลาร์.

(http://quotes.ino.com/chart/intraday.gif?s=FOREX_USDTHB&t=c&w=5&a=2&v=s)

เอาอัตราแลกเปลี่ยน off shore มาแปะให้ดูต่อ ถึงความไม่ค่อยปกติ


หัวข้อ: ค่าเงินบาทไทยจะแข็งค่าอยู่ถึงระดับ 18-19 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ
เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 01-02-2007, 08:37
กระทู้ข้ามคืนแล้ว ไม่มีใครดีใจว่าเงินบาทจะแข็งเป๊กถึง 18-19 บาท ต่อ เหรียญ เลยเหรอ  :slime_doubt:

เศรษฐกิจสุดแข็งแกร่งเลยนะนั่น


หัวข้อ: Re: เศรษฐกิจเน่า บาทแข็งส่งไม่ออก 'เกริกไกร'สติแตกว้ากไม่สน
เริ่มหัวข้อโดย: qazwsx ที่ 01-02-2007, 08:54
เมื่อเศรษฐกิจของประเทศกำลังถูกโจมตี
้ย่อมมีเพียงคนจังรัยอัปรีย์ที่ดีอกดีใจ