ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

มติที่ประชุมของประมุข3ศาล เร่งคดี-ระมัดระวัง-อิสระ

มติที่ประชุม 3 ประมุขศาลแก้วิกฤตการเมืองเสร็จสิ้นแล้ว โดยได้ข้อยุติ 3 ประการ โดย เร่งพิจารณาพิพากษาคดีของแต่ละศาลให้เสร็จโดยเร็ว ตีความกฎหมายด้วยความระมัดระวัง และอิสระ ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ


วันนี้(28 เม.ย.)เวลา 12.00 น.ที่สำนักงานศาลยุติธรรม อาคารศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า การประชุมของศาลฎีกา ศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหารือแก้ปัญหาวิกฤตการเมืองของประเทศว่า หลังการประชุมได้เสร็จสิ้นลง นายจรัญ ภักดีธนากุล เลขาธิการประธานศาลฎีกา ได้แถลงผลการประชุม ว่าที่ประชุมของประธานศาลทั้ง 3 ศาลได้ข้อยุติในวันนี้ 3 ประเด็น ประกอบด้วย

1.ทั้ง 3 ศาลเห็นคล้องต้องกันว่าจะะเร่งรัดการพิจารณาพิพากษาคดีและดำเนินการในส่วนที่อยู่ในอำนาจ หน้าที่ของศาลแต่ละ ศาล ให้รวดเร็ว ทันต่อความจำเป็นของแต่ละปัญหาที่เกิดขี้น 2.ทั้ง 3 ศาลมีความเห็นตรงกันว่า ไม่ว่าคดีความจะขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลไหน การใช้กฎหมายหรือตีความกฎหมาย ต้องระมัดระวัง ว่าให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ขัดแย้งกัน เพื่อยุติความสับสนที่อาจจะเกิดขึ้นและ 3.ในการดำเนินการของแต่ศาล นั้นถือเป็นความอิสระของศาล ตามเขตอำนาจของแต่ละศาลให้ดำเนินไปตามรัฐธรรม และกฎหมายด้วยความยุติธรรมและสุจริต

ทั้งนี้ นายจรัญ กล่าวว่า ข้อยุติทั้ง 3 ประการ ถือเป็นข้อยุติที่ประธาน 3 ศาล ได้ข้อยุติเบื้องต้น ส่วนรายละเอียดในการดำเนินการ และผลการพิจารณา ของศาลแต่ละศาล จะนำมาเปิดเผย ล่วงหน้าก่อนที่จะมีคดีขึ้นมาสู่ศาลไม่ได้

http://www.komchadluek.net/news/2006/04-28/p1--70017.html

ด่วน!มติ3ประมุขศาลแก้วิกฤตชาติ
     ที่ประชุม 3 ประมุขศาลแก้วิกฤตการเมือง เสร็จสิ้นแล้ว โดยได้ข้อยุติเบื้องต้น 3 ประการ โดย เร่งพิจารณาพิพากษาคดีของแต่ละศาลให้เสร็จโดยเร็ว ตีความกฎหมายด้วยความระมัดระวัง และอิสระ ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ
       
       
       วันนี้(28 เม.ย.)เวลา 12.00 น.ที่สำนักงานศาลยุติธรรม อาคารศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า การประชุมของ ศาลฎีกา ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหารือแก้ปัญหาวิกฤตการเมืองของประเทศว่า ล่าสุด การประชุมได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยนายจรัญ ภักดีธนากุล เลขาธิการประธานศาลฎีกา ได้แถลงผลการประชุม ว่าที่ประชุมของประธานศาลทั้ง 3 ศาลได้ข้อยุติในวันนี้ 3 ประเด็น ประกอบด้วย
       
       1.ทั้ง 3 ศาลเห็นคล้องต้องกันว่า จะะเร่งรัดการพิจารณาพิพากษาคดีและดำเนินการในส่วนที่อยู่ในอำนาจ หน้าที่ของศาลแต่ละ ศาล ให้รวดเร็ว ทันต่อความจำเป็นของแต่ละปัญหาที่เกิดขี้น
       
       2.ทั้ง 3 ศาลมีความเห็นตรงกันว่า ไม่ว่าคดีความจะขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลไหน การใช้กฎหมายหรือตีความกฎหมาย ต้องระมัดระวัง ว่าให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ขัดแย้งกัน เพื่อยุติความสับสนที่อาจจะเกิดขึ้น
       
       และ 3.ในการดำเนินการของแต่ศาล นั้นถือเป็นความอิสระของศาล ตามเขตอำนาจของแต่ละศาลให้ดำเนินไปตามรัฐธรรม และกฎหมายด้วยความยุติธรรมและสุจริต
       
       ทั้งนี้ นายจรัญ กล่าวว่า ข้อยุติทั้ง 3 ประการ ถือเป็นข้อยุติที่ประธานทั้ง 3 ศาล ได้ข้อยุติในเบื้องต้น ส่วนรายละเอียดในการดำเนินการ และผลการพิจารณา ของศาลแต่ละศาล จะนำมาเปิดเผย ล่วงหน้าก่อนที่จะมีคดีขึ้นมาสู่ศาลไม่ได้
       
       ส่วนรายละเอียดการแถลงข่าว จะรายงานให้ทราบต่อไป

http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9490000056405

มติ3ศาลผ่าทางตัน 3ประเด็นมั่นใจทันแก้วิกฤติ
 
นายจรัญ ภักดีธนากุล เลขาธิการประธานศาลฎีกา แถลงวันนี้ ( 28 เม.ย.) ถึงผลการประชุมประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาวิกฤติการเมืองสนองพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ที่ประชุมวันนี้ มีมติใน 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1.ศาลแต่ละศาลจะดำเนินการพิจารณาคดีไปตามขอบเขตอำนาจของตน ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายด้วยความอิสระ สุจริต ยุติธรรม 2.การใช้และการติดตามกฎหมายบทเดียวกันของแต่ละศาลควรให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันเพื่อป้องกันความขัดแย้ง และความสับสนของประชาชน และ 3.แต่ละศาลจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างรวดเร็วตามความจำเป็นของแต่ละปัญหา เชื่อว่าจะต้องมีทางออกของปัญหาได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของกรอบระยะเวลาในการแก้ปัญหาต้องขึ้นอยู่กับแต่ละศาล ที่ต้องมีความเป็นอิสระ เร่งพิจาณาแก้ไขปัญหาให้รวดเร็วที่สุด แก้ไขปัญหาให้ผ่านพ้นไปได้ แต่บอกไม่ได้ว่ากรอบระยะเวลาในการพิจารณาเท่าใด ไม่มีใครสามารถชี้นำได้ 

เลขาธิการประธานศาลฎีกา กล่าวต่อว่า ที่ประชุมวันนี้ มีการหารือกันในทุกประเด็น แต่ไม่สามารถออกเป็นมติของประธานทั้ง 3 ศาล ในทางที่จะผูกมัดหรือชี้นำการพิจารณาพิพากษาคดีของแต่ละศาลได้   ข้อยุติของที่ประชุมจึงไม่สามารถก้าวล่วงในเนื้อหาของคดี ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า มติดังกล่าวต้องมีทางออกต่อปัญหาการเลือกตั้ง ส.ส. อย่างแน่นอน  หากหาทางออกไม่ได้ การดำเนินภารกิจของทั้ง 3 ศาล จะไม่เป็นไปตามความคาดหวังของประชาชนได้  จึงตกลงให้อำนาจแต่ละศาลมีความเป็นอิสระที่ต้องใช้กฎหมายพิจารณาพิพากษาคดีที่ค้างอยู่ในศาลต่างๆ ให้เป็นไปโดยเที่ยงธรรมสุจริต สอดคล้อง และเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง

"ข้อมูลขณะนี้ คือ ทุกศาลมีคดีที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่คาบเกี่ยวกับปัญหาบ้านเมือง ดังนั้นจึงต้องรอผลคำวินิจฉัยชี้ขาดของศาลใดศาลหนึ่งที่จะออกมาเป็นคำพิพากษา เนื่องจากที่ประชุมไม่สามารถกำหนดคำตอบตรงนี้ได้ แต่มั่นใจว่าการพิจารณาดำเนินการทันกรอบรยะเวลา และทันท่วงทีในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองแน่นอน" เลขาธิการประธานศาลฎีกากล่าว และว่า ในส่วนของศาลยุติธรรม และศาลฎีกาจะพิจารณาคดีต่างๆที่เกี่ยวข้องกับปัญหานี้โดยยึดรัฐธรรมนูญมาตรา 271ที่ระบุว่า คดีใดที่ไม่อยู่ในขอบเขตอำนาจการพิจารณาของศาลอื่น คดีนั้นอยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรม 
 
http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=4038

จากข่าว ไม่เห็นบอกเลยว่าจะแก้ปัญหากันยังไง แล้วจะแก้ได้หรือไม่ได้ ยากขนาดไหนไม่เห็นบอกด้วย เซ็ง!   :( อุตสาห์หวังไว้กับพวกศาล

เรื่องละเอียดอ่อนครับ ศาลท่านต้องใช้เวลาพิจารณาเพราะจะเป็นหลักและแนวทางตลอดไป

ขอเป็นกำลังให้คณะศาลทั้ง 3 ศาล เรียก ศาลพระราชทาน คงไม่ผิดนะครับ