ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ข่าวจากมติชน http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01eco01230150&day=2007/01/23
น้ำลดถมทรายสุวรรณภูมิฉาวผุดส่อเค้าความหนาไม่ได้มาตรฐาน "ธีระ"เซ็งงานไม่คืบขู่เด้งยกแผง
รัฐมนตรีคมนาคมเต้น หลังพบรอยร้าวแท็กซี่เวย์สุวรรณภูมิกว่า 100 จุด ระบุบอร์ด ทอท.ชี้เกิดจากปัญหาถมทรายฉาวในอดีตไม่ได้มาตรฐาน ขู่สอบย้อนหลังฟันไม่เลี้ยง เตรียมล้างบางผู้บริหารสุวรรณภูมิ
พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้เร่งรัดให้คณะกรรมการ (บอร์ด) และฝ่ายบริหารของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบปัญหาทางขับหรือแท็กซี่เวย์ สนามบินสุวรรณภูมิมีปัญหาแตกร้าว เบื้องต้นขณะนี้มีรายงานว่ามีผิวแท็กซี่เวย์ที่ประสบปัญหาดังกล่าว มากขึ้นตั้งแต่ 60-100 จุดในเกือบ 10 พื้นที่ จากรายงานเบื้องต้นจากคณะกรรมการ ทอท.ที่เป็นวิศวกร พบว่าปัญหาอาจมาจากการถมทรายในอดีต หลังจากที่ได้มีการเฝ้าสังเกตพื้นที่ จุดต่างๆ บนผิวแท็กซี่เวย์เหล่านี้มีสภาพชุ่มน้ำสลับกับมีน้ำท่วมขังตลอดเวลา อาจมาจากปัญหาการถมทรายในช่วงการก่อสร้างในอดีตไม่ได้มาตรฐานความหนาของปริมาณชั้นทราย .
*บี้ให้สอบทุจริตจริงบ้าง,มั่วบ้างกลายเป็นว่ามาเจอทรายที่ถมในยุคตนเองเป็นรัฐบาลที่เป็นทรายคุณภาพต่ำแต่ราคาแพงที่เรียกว่าทรายขี้เป็ด(ทรายปนโคลน)..อลงกรณ์อย่าลืมมาขุดคุ้ยด้วย*
*กรรมกำลังตามมาติดๆกับพวกร่วมมือกันรัฐประหารทำทำลายประเทศชาติ,ยังมีเหลืออีกหลายๆกลุ่ม coming soon.*

                                         ดี


โดยเฉพาะเทพเทือก...บดแล้วถมลงในส้วมสุวรรณภูมิได้  ยิ่งดี
ท่าทางจะช่วยทำให้ "ส้วมไม่เต็ม" อีกตะหาก


---------------- ส่วนตัว -----------------------------
Staff
เปลี่ยนชื่อครั้งหน้า 
อยากให้ใช้ "The Excaliber ( ดาบของคิงส์อาเธอร์ )"  ว่ะ
...ดูขลังดีนะ

อ้าว ไหนว่ารอยร้าวทางเทคนิควะ  :slime_bigsmile:

 :slime_bigsmile:  :slime_p:  :slime_inlove:

อืมมม ..

ตอนที่ถมทราย เป็นผลงานของท่านสมศักดิ์ ณ เรียงหิน มิใช่หรือ  :slime_doubt:

...

http://www.positioningmag.com/magazine/Details.aspx?id=52177

สุวรรณภูมิ ”อภิมหาโกง”


--------------------------------------------------------------------------------
สุกรี แมนชัยนิมิต
 Positioning Magazine   กันยายน 2549

จากทุ่งนา และบ่อปลาสลิดจำหลายหลายพันบ่อ สุดลูกหูลูกตาในท้องทุ่งหนองงูเห่ากว่า 20,000 ไร่ช่วง 10 ที่ผ่านมา แทบไม่น่าเชื่อว่าขณะนี้มีสิ่งก่อสร้างเกิดขึ้นมากมาย กลายเป็นอีกโลกหนึ่ง สำหรับเป็นสนามบินระดับสากล “สนามบินสุวรรณภูมิ” ที่ทำลายสถิติโลกหลายรายการ

ไม่เพียงสถิติใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างยาวนานที่สุดถึง 46 ปี นับตั้งแต่ริเริ่มโครงการในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในปี พ.ศ. 2503 เป็นสนามบินมีพื้นที่ใช้สอยในอาคารผู้โดยสารเดียวที่มากที่สุดกว่า 500,000 ตารางเมตร มีอาคารหอควบคุมการจราจรทางอากาศที่สูงที่สุดในโลก 132 เมตรเท่านั้น ยังมีสิ่งที่เป็นที่สุดในความรู้สึกของคนไทยอีกสิ่งหนึ่ง นั่นคือ เป็นโปรเจกต์อภิมหาโกง โดยเฉพาะคนรุ่นปัจจุบันที่มีโอกาสเห็นพัฒนาการของการก่อสร้างสนามบินแห่งนี้ เชื่อว่าหลายคนได้น้ำตาไหลให้กับทำเลทองแห่งนี้ที่ถูกรุมทึ้ง แย่งชิงผลประโยชน์จากคนบางกลุ่มบางพวก

อาการโกงที่ถูกเปิดโปงอย่างหนัก เกิดขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงการก่อสร้างโครงการ ที่ต้องประมูลหาผู้รับเหมามาก่อสร้างส่วนต่างๆ ของสนามบิน และหนักยิ่งขึ้นในช่วง 6 ปีหลังที่งานก่อสร้างถูกเร่ง เพื่อให้สนามบินเปิดใช้งานโดยเร็วที่สุด

ช่วงกว่า 10 ปี คือช่วงที่ประเทศชาติได้ผ่านการบริหารของหลายรัฐบาล ตั้งแต่รัฐบาลนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย รัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตผู้นำพรรคความหวังใหม่ วนกลับมาที่รัฐบาลนายชวนอีกครั้ง และช่วง หลัง คือช่วงของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย

ระหว่างเวลาของ 10 ปี แต่ละรัฐบาลมอบหมายให้ขุนพลของพรรค ทั้งระดับรองหัวหน้าพรรค และระดับเลขาธิการพรรค เข้ามากำกับดูแลงานก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิอย่างใกล้ชิด ผ่านเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมบ้าง และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จนรัฐมนตรีบางคนได้ฉายาไปต่างๆ กัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้รับเหมาที่เรียกรัฐมนตรีบางคนว่ามิสเตอร์ 8% บางคนในช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟู ก็ถูกเรียกว่า มิสเตอร์ 20% แถมเบี้ยบ้ายรายทางอีกเป็นระยะ ทั้งการเลี้ยงดูปูเสื่อและพาไปดูงานต่างในต่างประเทศ

ยุคสมัยของกระทรวงคมนาคมในช่วงหลัง จึงเปลี่ยนจากเค้กสัมปทานธุรกิจสื่อสาร มาเป็นสนามบินสุวรรณภูมิอย่างเห็นได้ชัด

เพียงแค่ช่วงเริ่มต้นของโครงการ ด้วยการหาผู้รับเหมาเพื่อปรับปรุงพื้นที่สำหรับก่อสร้าง ก็ฝุ่นตลบไปกับการเปิดประมูล ล้มประมูล และเปิดประมูลใหม่ ที่โด่งดังในช่วงนั้นเรียกกันว่า ”ประมูลถมทราย” ที่ในที่สุดไม่ว่าจะล้มประมูลอย่างไร และรัฐบาลไหนเข้ามา จะเป็นประชาธิปัตย์ หรือในการดูแล ของ ”สมศักดิ์ เทพสุทิน” ที่เคยสังกัดพรรคกิจสังคม และภายหลังควบกิจการเข้าพรรคไทยรักไทย งานถมทรายมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท ก็ตกเป็นของกลุ่มบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด หรืออิตัลไทย เช่นเดียวกับอภิมหาโครงการของสนามบินสุวรรณภูมิ อย่างโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร และอาคารเทียบเครื่องบิน (Terminal & Concourse) และงานอื่นๆ รวมกว่า 60,000 ล้านบาท ก็ตกเป็นของกลุ่มอิตัลไทย  

ดอกผลของการถมทราย เรายังคงเห็น “สมศักดิ์ เทพสุทิน” เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีของพรรคไทยรักไทย  ไม่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะปรับคณะรัฐมนตรีกี่รอบในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา และยังเป็นผู้ใกล้ชิดของน้องสาวผู้นำพรรคไทยรักไทย “เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” รวมถึงมีบารมี ถึงขั้นเป็นหัวหน้ากลุ่มวังน้ำยม มุ้งหนึ่งในพรรคไทยรักไทย ที่มีอำนาจต่อรองกับหน้าพรรคในทุกจังหวะ แม้ในอีกด้านหนึ่ง คือเสียงชื่นชมที่ว่างานถมทรายฝีมือของ ”สมศักดิ์ เทพสุทิน” นั้นเป็นคุณูปการต่อโครงการ เพราะจัดซื้อได้ถูก และได้สเปกของทรายที่มีคุณภาพ จนรับรองกันได้ว่าจะไม่ทำให้สนามบินทรุด ถูกน้ำท่วมอย่างแน่นอน  

ส่วนดอกผลของเทอร์มินอลฯ และงานอื่นๆ นั้นส่งกระจายไปยังหลายคนที่เกี่ยวข้อง และแทบทุกพรรคการเมือง เว้นเสียแต่โครงการที่ฮือฮาระดับสากลอย่าง ”ซีทีเอ็กซ์” ที่ทำให้ ”สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” เลขาธิการพรรคไทยรักไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในช่วงนั้น สะบักสะบอม จนร้อนรนถึงท่านผู้นำที่ต้องปรับคณะรัฐมนตรี หนีอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งที่รัฐบาลไทยรักไทยเพิ่งจัดตั้งรัฐบาลเป็นรัฐบาลทักษิณ 2 ได้ไม่ถึง 6 เดือน หลังเลือกตั้งเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2548

สุดฉาวของซีทีเอ็กซ์ คือการถูกสหรัฐอเมริกาตรวจสอบได้ว่าเป็นโครงการของไทย ที่มีคนไทยไปสร้าง ”สินบนข้ามชาติ”

ข่าวนี้ต้องยกเครดิตให้กับหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ที่นอกจากเปิดประเด็นแล้วยังติดตามหาประเด็นข่าวอย่างต่อเนื่องจนได้รับรางวัลข่าวสืบสวนสอบสวนดีเด่นประจำปี 2548

หลังจากรัฐบาลไทยรักไทยจัดตั้งรัฐบาลได้หมาดๆ เมื่อต้นเดือนมีนาคม เพียงเดือนเศษหลังจากนั้น หรือวันที่ 25 เมษายน 2549 หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจก็ตีพิมพ์ข่าวผลการตัดสินและลงโทษของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกา ต่อบริษัทอินวิชั่น เทคโนโลยีส์ จำกัด ผู้จำหน่ายเครื่องซีทีเอ็กซ์ หรือเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด และสารเสพติดให้กับบริษัทคนไทย สำหรับติดตั้งในโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากพบว่ามีการร่วมเห็นชอบ และรับรู้เพื่อให้ตัวแทน หรือผู้จัดจำหน่ายในไทย ติดสินเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมืองไทย เพื่ออนุมัติจัดซื้อ ”ซีทีเอ็กซ์ 26 เครื่อง วงเงิน 35.8 ล้านเหรียญสหรัฐ”

การลงโทษด้วยการให้ ”อินวิชั่น” จ่ายเงินค่าปรับเพียงประมาณ 8 แสนดอลลาร์ หรือเพียงประมาณ 30 ล้านบาท อาจไม่มากมายนัก แต่สะท้อนให้เห็นว่าทั้งมาตรฐานของบริษัทจากอเมริกา และความโปร่งใสในการทำธุรกิจของไทยนั้นยังคงต่ำอยู่มาก

สำหรับมาตรฐานของไทย ยิ่งตกต่ำอย่างหนัก เมื่อรัฐบาลไทยรักไทย ที่เน้นนโยบายการปราบปรามการคอรัปชั่น พยายามฟอกให้โครงการนี้ ไม่ใช่ปัญหา ”สินบนข้ามชาติ” อย่างที่ถูกกล่าวหา ด้วยการพยายามหากระบวนการฟอก ทั้งการตั้งกรรมการสอบที่สรุปออกมาว่า ”ไม่พบสิ่งผิดปกติ” การย้าย ”สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แถมพ่วงด้วยตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เมื่อพ้นจากหน้าที่เดิม จึงไม่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร

การพยายามรวบรัดตัดความให้การถกเถียงเรื่องสินบนจบความ ด้วยการสั่งซื้อตรงจากอินวิชั่น หรือภายหลังกลุ่มจีอีได้เข้ามาซื้อกิจการ โดยให้บทม. หรือบริษัทท่าอากาศยานสากลแห่งใหม่ บริษัทลูกของบริษัทท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เซ็นสัญญาซื้อ โดยไม่ผ่านนายหน้า แม้ว่านายหน้าคนเดิม คือบริษัทแพทริออต บิสซิเนส คอนซัลแตนท์ จำกัด จะยังคงได้งานติดตั้งอยู่เช่นเดิมก็ตาม

หลังจากนั้นดูเหมือนว่ารัฐบาลไทยรักไทยจะสั่นคลอนตลอดเวลา เพราะปมทุจริตซีทีเอ็กซ์ยังคงพร้อมเสมอที่จะถูกสะกิดออกมาตอกย้ำมาตรฐานความโปร่งใสของพรรคไทยรักไทย ที่ติดลบลงเรื่อยๆ จนสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผลจากการกระทำในอดีตของเหล่าพลพรรค ผู้มีอำนาจ ฉ้อโกงจากแผ่นดินทองแห่งนี้ ปรากฏให้เห็นอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน

“ก๊วน” ซีทีเอ็กซ์

ปลายปี 2545- พลเอกสมชัย สมประสงค์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัทท่าอากาศยานสากลแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) ผู้ดูแลรับผิดชอบงานก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ เชิญชวนกลุ่มสื่อมวลชนร่วมเดินทางดูงานสนามบินฮ่องกง และเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน -1 ธันวาคม 2545 พร้อมกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในขณะนั้น และร่วมด้วยคณะกรรมการเร่งรัดงานก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีนายสมบัติ อุทัยสางเป็นประธน และคณะกรรมการบทม.ทั้งชุด ที่มีนายศรีสุข จันทรางศุ เป็นประธาน

หลังการเดินทาง “สุริยะ” ให้สัมภาษณ์ว่าควรปรับเปลี่ยนให้สนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เครื่องตรวจกระเป๋า แบบ Inline Screening 100% หรือการตรวจระหว่างกระเป๋าถูกส่งผ่านไปยังจุดต่างๆ บนสายพานลำเลียงกระเป๋า จากเดิมที่เป็นแบบ Stand Alone ที่ตรวจตามเคาน์เตอร์ พร้อมขยายการรองรับผู้โดยสารของอาคารจาก 30 ล้านคน เป็น 45 ล้านคน

-มกราคม 2546 คณะกรรมการเร่งรัดฯเสนอให้ปรับปรุงระบบระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า

-11 พฤศจิกายน 2546 คณะรัฐมนตรี โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นประธาน อนุมัติปรับปรุงระบบสายพาน เพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ด้วยงบประมาณ 4,500 ล้านบาท (ภายหลังลดลง 4,335 ล้านบาท)

-27 พฤศจิกายน 2546 คณะกรรมการบทม. มีมติให้ว่าจ้างกลุ่มไอทีโอ ซึ่งมีอิตัลไทย เป็นแกนนำ ดำเนินโครงการ แม้ว่าอิตัลไทย จะมีหนังสือตอบกลับว่าเกรงว่างจะดำเนินการเสร็จไม่ทันตามกำหนด แต่เมื่อเจรจาลงตัว และก่อนเซ็นสัญญา ต่างฝ่ายต่างได้ยืนยันนำข้อมูลจากที่ปรึกษา คือบริษัทคอวโทรเทค และกลุ่มพีเอ็มซี ที่แนะนำให้ใช้เครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 DSI ของบริษัทอินวิชั่น เทคโนโลยี จำกัด

-12 มีนาคม 2547 กลุ่มไอทีโอ ลงนามสัญญากับบทม. เรียกว่าโครงการปรับเปลี่ยนแบบระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า และงานออกแบบ ผลิต จัดหา ติดตั้ง และทดสอบระบบตรวจสอบกระเป๋า 100% (The Baggage Handling Design Modifications and The Design, Manufacture, Test Supply, Installation, and Commission of The 100% Inline Hold Baggage Screening) พร้อมกับปรากฏชื่อของผู้รับเหมาช่วง หรือ Sub Contractor เป็นบริษัทแพทริออต บิสสิเนส คอนซัลแตนท์ จำกัด ที่มีนายวรพจน์ ยศะทัตต์ หรือเสี่ยเช ที่เป็นตัวแทนของอินวิชั่น รับงานนี้ไป 2,608 ล้านบาท


โครงการที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สั่งตรวจสอบ
1.โครงการถมทรายรันเวย์ตะวันออก มูลค่า 1,500 ล้านบาท  
2.โครงการติดตั้งระบบสารสนเทศ ด่านตรวจคนเข้าเมือง 169 ล้านบาท
3.โครงการวางท่อร้อยสายไฟ อาคารผู้โดยสาร 2,000 ล้านบาท
4.โครงการครัวการบิน (การบินไทย) ผลตอบแทน 116 ล้านบาท
5.โครงการคาร์โก 400 ล้านบาท
6.โครงการบริการอุปกรณ์บริการภาคพื้นและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการซ่อมบำรุง
7.ตรวจสอบการให้คิงเพาเวอร์ฯได้รับบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในอาคารผู้โดยสาร

โถ... เจ้าของกระทู้     :slime_smile2:

แถม

http://www.hflight.net/MT/archives/news/cat_eoceoaoao.html

ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมชัย สวัสดีผล เด็กสร้าง สมศักดิ์ เทพสุทิน เปิดซิงสนามบินใหม่
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2053 16 ต.ค. - 19 ต.ค. 2548

ภายหลังจากนายกฯทักษิณ ทำการบิน"ทดสอบ"สนามบินสุวรรณภูมิ แสดงให้คนไทยและชาวโลกรู้ว่าประเทศเราจะมีสนามบินใหม่ที่ใหญ่และทันสมัย พร้อมจะเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการตามแผนเดือนมิถุนายนปีหน้า


ดังนั้น บุคคลที่จะได้รับแต่งตั้งเข้ามานั่งแท่น "ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ" เป็นคนแรกจึงอยู่ในความสนใจของผู้คนทั้งหลาย


ก่อนที่คณะกรรมการของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีหน้าที่บริหารจัดการท่าอากาศยานจะเปิดการประชุม ก็มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างแพร่สะพัดทั่วดอนเมือง มีสองตัวเก็งที่ชิงดำเก้าอี้ตัวนี้ หนึ่งนั้นชื่อ สุรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพิเศษ อีกหนึ่งนั้นชื่อ ภาสกร สุวรรณกนิษฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานวิศวกรรม


แต่เมื่อถึงวันประชุมจริง เหตุการณ์กลับพลิกไปอีกทาง บอร์ดของบริษัทฯ กลับชูมือให้ สมชัย สวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ในฐานะผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นั่งแท่น ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ


ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายของคนในบริษัทฯ แต่ประการใด แม้เขาจะไม่มีชื่ออยู่ในโผตัวเก็ง แต่เป็นที่รู้ๆกันว่าเขาคือผู้ที่บอร์ดเลือกแล้ว


สำหรับ สมชัย สวัสดีผล ผู้นี้หาใช่ลูกหม้อดั้งเดิมของบริษัทการท่าอากาศยานไทย ไม่ เขาทำงานอยู่ในบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด หรือ บทม. ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ต่อมาได้รวมกิจการกับบริษัท การท่าอากาศยาน กลายเป็นบมจ.ท่าอากาศยานไทย เขาก็ได้รับโปรโมทเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานเตรียมการบริหารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ


ในสมัยที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบโครงการสร้างสนามบินใหม่แห่งนี้ ได้เรียกใช้บริการ สมชัย อยู่บ่อยๆ


พูดได้ว่าเขาเป็นคนที่รู้ดี รู้ลึก เกี่ยวกับการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเลยทีเดียว ดังนั้น


ไม่ว่าฝ่ายค้านจะตั้งประเด็นตรวจสอบรัฐมนตรีคมนาคม ถึงความไม่โปร่งใสในการดำเนินการก่อสร้างสนามบินใหม่ในจุดไหน ไม่ว่าจะเป็นโครงการถมทราย เครื่องตรวจวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000


เรื่อยมาจนถึงผ้าใบคลุมหลังคา หรือแม้แต่การซื้อต้นลีลาวดี ก็ตาม เขาจะเป็นผู้ที่ออกหน้ามาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนแทน ช่วยให้รัฐมนตรีลอยตัวเหนือปัญหาแบบเบิร์ดๆ


หลังจากบอร์ดประกาศรายชื่อผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคนใหม่ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ลอยลมตามมาว่าเหตุผลที่ทำให้เขาแซงหน้าตัวเก็งสองรายก็ตรงที่ เป็นผู้ที่สามารถจะตอบสนองกับฝ่ายการเมืองได้ทุกนโยบาย ทุกเรื่อง อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์อันดีกับ สมศักดิ์ เทพสุทิน


เท่านี้ก็เพียงพอที่ทำให้เขาโดดเด่นในสายของบอร์ด


สมชัย เกิดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2501 การศึกษา ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาไฟฟ้า สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง และปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต M.B.A. (Operation Management)


จากนี้ไปก็ต้องติดตามฝีมือการบริหารของ ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คนแรกรายนี้ว่าจะ มีแผนการตลาด แผนการเพิ่มรายได้ อย่างไร เพราะขณะนี้บอร์ดของบริษัทฯได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ หลังจากสนามบินสุวรรณภูมิแห่งนี้เปิดให้บริการท่าอากาศยานทุกแห่งจะถูกจัดเป็นหน่วยธุรกิจ (Business Unit) ผู้อำนวยการท่าอากาศยานทุกคนจะต้องทำแผนธุรกิจของตัวเองนำเสนอต่อบอร์ด เพื่อเป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพการทำงาน


ในส่วน ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคงจะต้องทำงานหนักกว่าคนอื่น ตรงที่ขณะนี้รัฐบาลมีแผนจะขยายสุวรรณภูมิ เฟสสอง ใช้งบลงทุนเกือบห้าหมื่นล้านบาท ตามแผนที่คาดหมายว่าจะมีผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการสนามบินแห่งนี้เพิ่มขึ้นในอนาคต

ถมทรายสมัย ปชป ผู้รับผิดชอบก็ต้องเป็น นายชวน สิคร้าบ อย่าได้งี่เง่าเลย สมัยไทยรักไทย ทุกอย่างยังให้ท่านทักษิณมารับผิดชอบซะหมด
สมัย ปชป จะให้ทักษิณมารับผิดชอบได้ไงมั่วนิ่มแล้ว สมศักดิ์ นี่อ่านว่า สม-สัก ไม่ใช่ ทัก-สิน ผู้เป็นนายกสมัยนั้นก็ต้องรับผิดชอบไปสิ ทีแค่
เรื่องที่ดินรัชดาจิ๊บจ๊อยยังจะให้นายกทักษิณรับผิดชอบไม่ใช่เหรอ ถ้าอยากจะโทษสนามบินอยู่ที่ลุ่มก็โน่นเลย จอมพลสฤษดิ์ ไง

ปชป เป็นรัฐบาลผสมไม่ใช่หรือ ถึงแม้ว่าต้องรับผิดชอบด้วย
แต่ตัวการ ไม่ต้องรับเลยหรือ แถ ไม่เลือกจริง ไม่ต้องเข้ามา
ก็ได้นะ ถ้าไม่มีปัญญาแถได้ดีกว่านี้

อันนี้สงสัยค่ะ  ใครรู้ช่วยเฉลย

(http://www.ce-enterprise.com/cioceo/show/show0191/1p-1.gif)
นาย สมชัย สวัสดิผล


(http://www.sae-dang.com/cover/s1.gif)
เสธ. แดง พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล

ตัวการสมัย ปชป มีชื่อทักษิณด้วยเหรอ งงโคตร  :slime_doubt:

 :slime_bigsmile:  :slime_bigsmile:  :slime_bigsmile:

แถได้สมชื่อเลยนะท่าน  :slime_agreed:


สมัยรัฐบาลที่เกิดมาจากหลายพรรค หรือสหพรรค น่ะ

เขาให้เกียรติกัน ไม่ไปก้าวก่ายกัน หัวหน้าพรรคไหนก็ต้องหาเงิน เอ๊ย

หมายถึงดูแลควบคุมลูกพรรคที่รับตำแหน่งทางการเมือง


แต่พอมาสมัยนายคุณแถ น่ะ .. เขาอยากจะดูดรวมเป็นรัฐบาลพรรคเดียว

ก็ต้องรับไปคนเดียวสิ จะหาหัวหน้าพรรคเล็กพรรคน้อยมาช่วยกันรับผิดได้ยังไง  :slime_hmm:



 

เอิ๊กกกกกก.... ขำที่สุด

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

รู้สึกว่าเจ้าของกระทู้จะโดนน๊อคนะค่ะ ยกนี้

ว่าแล้วไม่มีผิด สุดท้ายก็ใช้ไม้ตายสุดท้าย

เอามันให้หมดเลยครับ ใครทำชั่วๆ กับประเทศไทยไว้

ท่านเหลี่ยมคงรอดหล่ะงานนี้ เพราะไม่ได้เป็นคนถมทราย  :slime_bigsmile:

แต่เอะ ใหนบอกว่า รอยร้าวเล็กน้อย ไม่ต้องรับผิดชอบหล่ะ ตอแหลนิ

ปชป.โกงก็เอาหลักฐานเล่นงานเลยไม่มีใครออกมาแก้ตัวแทน เหมือนไอ้พวกลูกนอกมดลูกเมียไอ้เหลี่ยมหรอก

 :slime_smile2: อุ๋แหม....ผิดเต็ม ๆ แบบนี้ยังแถเอาผิดกับคนอื่นได้เนี่ยก้อสุดยอดแว้วคร้า...

คนโกงชาติยังว่าดีอีก....นู๋รับไม่ได้ :slime_surrender:

งานปรับปรุงคุณภาพดินบริเวณ ทางวิ่ง ทางขับ ฝั่งตะวันตก และลานจอดอากาศยาน   
 
   
  สถานะ ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว 
รายละเอียด :   เป็นการปรับปรุงคุณภาพดินโดยใช้ระบบ PVD (Prefabricated Vertical Drain ) โดยจะทำการปรับปรุงพื้นที่ในส่วนที่เป็นทางวิ่ง
ทางขับฝั่งตะวันตก และในส่วนบริเวณลานจอดท่าอากาศยาน และ ทางขับส่วนที่ตัดกัน รวมพื้นที่ประมาณ 3.3 ล้านตารางเมตร
ผู้รับเหมา:  บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
(Italian-Thai Development Public Co., Ltd.)
มูลค่างานตามสัญญา ไม่รวม VAT  7,868.42 ล้านบาท
ระยะเวลาดำเนินการ : 1,640 วัน
วิศวกรผู้ควบคุมงาน :  - TMSUM (บริษัท ไทยเอนยิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด)
- บริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด
- บริษัท สยามเยอเนอ-รัล เอนยิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด
- Upham International Co., Ltd.
- บริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด
วงเงินว่าจ้าง :  269.518 ล้านบาท
กำหนดแล้วเสร็จ: 30 เมษายน 2545
ผลการดำเนินงาน: 100%
   
 -------------------------------------------------------------------------------  
 งานปรับปรุงคุณภาพดินสำหรับทางวิ่ง ทางขับฝั่งตะวันออก   
 
   
  สถานะ ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว 
รายละเอียด :  เป็นการปรับปรุงคุณภาพดินโดยใช้ระบบ PVD (Prefabricated Vertical Drain) โดยจะทำการปรับปรุงพื้นที่ในส่วนที่เป็นทางวิ่ง ทางขับฝั่งตะวันออก 
ผู้รับเหมา:  กลุ่มบริษัท VKP Joint Venture
มูลค่างานตามสัญญา ไม่รวม VAT  1,233.34 ล้านบาท
ระยะเวลาดำเนินการ : 548 วัน
วิศวกรผู้ควบคุมงาน :  -
วงเงินว่าจ้าง :  -
กำหนดแล้วเสร็จ :  7 สิงหาคม 2547
ผลการดำเนินงาน:  100 %
 
http://bidding.airportthai.co.th/airportnew/bidding/nbia/th/imnbiasub2th.php#2
********
นับเวลาย้อนกลับไปดูซิครับว่า เริ่มสัญากันตอนไหน

และที่สำคัญ แท๊กซี่เวย์ที่ร้าวเย๊อะ ๆ ดั่งว่า นั้น อยู่ด้าน ตะวันออก  :slime_doubt:หรือ ด้านตะวันตก  :slime_doubt:

เราก็จะพบสัจจะธรรม บางประการ

คุณ SOCO หล่ะก็ให้แถ อีกหน่อยไม่ได้ หรือไง  :slime_shy:

เดี๊ยวต่อไปอาจจะกลับมามุขเดิม ก็แก้ไขไปสิ เล็กน้อยไม่เห็นมีไร ดอนเมืองก็เป็น  :slime_hmm:

ตะวันออกก็อยู่อีกด้านกะตะวันตก เอแต่ตามสัญญาเนี่ยตะวันออกมันแค่ 13.5% ของมูลค่าทั้งหมดเองนะ
อยากจะให้มันเป็นตะวันออกใจจะขาดแต่ ไม่มีแผนที่หงะ เลยไม่รู้ว่าถ้าเป็นทางขับฝั่งตะวันออกมันอยู่ตรง
ไหน อยากรู้จังเล้ยแบบเห็นแผนที่ขอบเขตงานถมดินจะจะหนะ จะได้ไม่ยกอะไรมาอ้างมั่วมั่ว

โห........... เชื่อมันเลยว่ะ  :slime_surrender:

 :slime_evil:เสร็จล่ะมึง ไอ้ ปชป :slime_evil:
ขี้ข้ารัฐประหารแถวนี้ เขาไม่รอหลักฐานกันแล้วด้วย
แค่มีข้อครหา มันก็ตายไปครึ่งตัวแล้ว ฮ่า ฮ่า

เป็นไรไอ้ใจมด  ได้อ่านที่เขาพิมพ์ๆ กันมาบ้างหรือเปล่า ข้างบน หน่ะ

แหกตา หน่อย อย่าโชว์ควายนัก รำคาญ.

ส่วนไอ้แถสอง ไม่รู้จักทิศตะวันตก ตะวันออกเหรอ มิน่าโง่ยิ่งกว่าควายซะอีก

กลับไปเรียนอนุบาลใหม่เหอะว่ะ

อ่อไปตอนตัวเองซะด้วยนะ จะได้หมดสิทธิ์แพร่เชื้อโง่ให้หนักแผ่นดินไทย

ตามดี ๆ เปิดในประวัติการก่อสร้างก็ได้ รู้สึกถมดินจะมี 2 ขยัก สมศักดิ์ไปแล้ว สุวัจน์ก็ด้วยมั๊ง

ลอง ๆ ตามดูอีกที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (25 ม.ค.) ได้เกิดปัญหาเที่ยวบินจำนวนมากลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิต้องล่าช้ากว่าตารางบินที่แจ้งไว้กับผู้โดยสาร และต้องบินวนเพื่อรออนุญาตให้ลงจอดนั้น จากการตรวจสอบสาเหตุพบว่า เกิดจากกรณีที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิปิดซ่อมลู่วิ่งและทางขับ หรือรันเวย์ และแท็กซี่เวย์ ทางด้านทิศตะวันตกของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิบางจุด ส่งผลให้ต้องมีการร่นระยะรันเวย์ให้สั้นลง ทำให้เครื่องบินขนาดเล็กเท่านั้นที่สามารถลงจอดในรันเวย์ด้านทิศตะวันตกได้ และต้องนำเครื่องบินขนาดใหญ่ทั้งหมดไปลงจอดทางรันเวย์ด้านทิศตะวันออก ส่งผลทำให้เกิดเที่ยวบินกระจุกตัว ไม่สามารถลงจอดได้พร้อมกัน  

อยากให้ร้าวทิศตะวันออก แต่ดันไปปิดซ่อมทิศตะวันตก ยังไงกัน

ด้านตะวันตกก็ต้องซ่อมก่อน

ทำไมน่ะเหรอ

ก็เพราะว่า เค้าจะเปิดใช้ ด้านตะวันตก ด้านเดียวไง ถ้าฉุกเฉินขึ้นมา

แค่นี้ก็คิดไม่ออก อ่านข่าวดูบ้างน่ะ

http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=28/Dec/2544&news_id=45871&cat_id=501

อันนี้เป็นข่าวเก่า ภาคแรก น่ะครับ หาอ่านได้

ส่วนใครเป็น รมต.ขณะนั้น นึกเอาเอง อิอิ

*****
เพิ่มเติม ประกอบเผื่อตามไม่ทัน http://www.siam-handicrafts.com/webboard/question.asp?QID=3188

การเมือง   - ข่าว
 จ้างแพงพันล้าน 'ถมทราย' ทุจริต มติปปช.เอาผิด!


28 ธันวาคม 2544    กองบรรณาธิการ

ป.ป.ช.สรุปโครงการถมทรายสนามบินหนองงูเห่าทุจริต ส่งอัยการเอาผิดรองผู้จัดการ บทม. พร้อม 8 ตำรวจชั้นประทวน สน.พระโขนงตบทรัพย์คดียาบ้า


นายกล้านรงค์  จันทิก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะ กรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมว่า   ได้มีการพิจารณากรณีโครงการ ประกวดราคาจ้างเหมาปรับปรุง  Ground  Improvement  For  Airside Pavements ของสนามบินสุวรรณภูมิ  ที่มี พล.ท.สวัสดิ์  ออรุ่งโรจน์  กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน  โดยกรณีนี้มีการกล่าวหา นายปรีติ เหตระกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานสากล กรุงเทพแห่งใหม่  จำกัด  (บทม.)  นายประมวล หุตะสิงห์  รองผู้จัดการใหญ่  บทม. ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา  และนายเพิ่มศักดิ์ พัฒนพงษ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายโครงการว่ากระทำทุจริต ในโครงการนี้

ทั้งนี้ จากการไต่สวนข้อเท็จจริงพบว่า การประกวดราคามีผู้ยื่น ซอง  6  ราย โดยบริษัท อิตาเลียนไทยฯ  เสนอราคาต่ำสุดคือ  12,500,000,000 บาท แต่ยังสูงกว่าราคากลางที่บริษัทที่ปรึกษา GEC ตั้งไว้  10,860,743,889.38  บาท  หรือสูงกว่าราคากลาง  15.09% ต่อมาคณะ กรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาได้ต่อรองราคาจนเหลืออยู่ที่   11,900,000,000  บาท ซึ่งยังสูงกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ 9.57% แต่คณะ กรรมการเห็นสมควรจัดจ้างให้บริษัท อิตาเลียนไทยฯ ได้รับการประมูล

อย่างไรก็ตาม  ในการเสนอเอกสารให้คณะกรรมการ บทม. พิจารณาในวันที่  29 พ.ย. 2539 มีการแก้ไปเอกสารผลการพิจารณาของคณะ กรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา   โดยเปลี่ยนราคากลางจาก  10,860,743,889.38  บาท เป็น 12,200,000,000 บาท ทำให้คณะกรรมการ บทม.เห็นควรให้จ้างบริษัท อิตาเลียนไทยฯ  เนื่องจากเห็นว่าราคาที่เสนอมา ต่ำกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ ซึ่งจากการสอบปากคำคณะกรรมการ บทม.ให้การตรงกันว่า ไม่ทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงราคากลาง หากทราบก็ จะไม่มีการพิจารณาอนุมัติให้บริษัทดังกล่าวชนะการประมูล

“การแก้ไขราคากลางดังกล่าว ทำให้พิจารณาของคณะ กรรมการ บทม.สำคัญผิดคิดว่าราคาประมูลต่ำกว่าราคากลาง  จึงอนุมัติให้ บริษัท อิตาเลียนไทยฯ ชนะการประมูล อันเป็นผลให้ทางราชการเสียหาย   คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติว่า นายประมวล  หุตะสิงห์  รองผู้จัดการใหญ่ บทม. ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาที่ทราบดี อยู่แล้วว่า ราคากลางที่แท้จริงเป็นเท่าไร จึงถือว่ามีมูลความผิดทางวินัยใน ฐานเป็นพนักงานไม่ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ และประพฤติตนไม่อยู่ใน ความสุจริต เป็นพนักงานรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา   พร้อมกันนี้ยังมีความ ผิดทางอาญาฐานเป็นพนักงานใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต ทำให้เสียหายแก่ บทม.” เลขาธิการ ป.ป.ช.ระบุ

ส่วนนายเพิ่มศักดิ์  พัฒนพงษ์  ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายโครงการ ซึ่งเป็นผู้นำผลการพิจารณาการประกวดราคามาให้พนักงาน บทม.แก้ไขใหม่ จึงถือว่ามีมูลความผิดทางวินัย ฐานเป็นพนักงานไม่ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ และประพฤติตนไม่อยู่ในความสุจริต เป็นพนักงานรายงานเท็จต่อผู้ บังคับบัญชา   ขณะที่ความผิดทางอาญายังไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอ ว่าการกระทำของนายเพิ่มศักดิ์มีมูลความผิดทางอาญา

สำหรับนายปรีติ   เหตระกูล ไม่พบว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอ ที่ฟังได้ว่าจะทำการปกปิดหรือแก้ไขราคากลางที่แท้จริง ซึ่งเป็นความผิดทาง อาญา  อย่างไรก็ตาม ย่อมมีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับความผิดพลาดในการ เสนอราคากลางครั้งนี้ ซึ่งควรจะมีความผิดทางวินัย   แต่เนื่องจากกรรมการผู้ จัดการใหญ่ บทม. ไม่ใช่พนักงานตามระเบียบ บทม.ว่าด้วยวินัย อีกทั้ง คณะกรรมการ บทม.ได้มีมติ บทม.เลิกจ้างนายปรีติแล้ว จึงไม่สามารถ ดำเนินการใดๆ ต่อไปได้

นายกล้านรงค์กล่าวว่า  คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติให้ส่ง รายงานเอกสาร  พร้อมทั้งความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทาง วินัย และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาต่อไป ส่วนนักการเมือง นั้น การพิจาณาไม่โยงถึงนักการเมือง เนื่องจากพยานที่มาให้ปากคำไม่ได้ พาดพิงไปถึง

http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=28/Dec/2544&news_id=45871&cat_id=501



คุณดาบฟ้าฟื้น และ คุณชอบแถ 2 มาแก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงในคคห.นี้ จากดำ เป็นขาวหน่อย..............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เอามาให้อ่านก็ได้ฟ่ะ

"สุวรรณภูมิ" ปิดซ่อมรันเวย์ฝั่งตะวันออก คืนนี้
วันที่ 26 ม.ค. 2550

รายงานข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่เวลา 22.00 น.เมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดใช้รันเวย์ฝั่งทิศตะวันตกแล้ว หลังใช้เวลาซ่อมแซมรอยร้าวเมื่อวานนี้จนทำให้สายการบินต่างๆ ลงจอดไม่ได้ และเช้าวันนี้บริษัท ท่าอากาศยานไทย ได้แจ้งไปยังบริษัท วิทยุการบิน ว่า คืนนี้เวลาประมาณ 02.00 น. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะปิดรันเวย์ฝั่งตะวันออก เพื่อซ่อมแซมรอยร้าว และจะเปิดให้เครื่องบินขึ้นลงตามปกติได้ในเวลา 06.00 น. ของวันพรุ่งนี้

สำหรับการปิดรันเวย์คืนนี้จะไม่กระทบต่อการขึ้นลงของเครื่องบินเพราะเป็นช่วงที่มีเที่ยวบินน้อย เพียง 6-10 เที่ยวบินเท่านั้น จึงไม่กระทบต่อการจราจรภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อย่างไรก็ตาม การปิดซ่อมรันเวย์ทุกครั้ง บริษัท วิทยุการบิน ได้แจ้งไปยังสายการบินต่างๆ ที่จะลงจอด ล่วงหน้าแล้ว
       
ด้านนางโสพิณ แดงเทศ ประธานคณะกรรมการงานธุรกิจการบิน ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการประสานงานด้านการบินกับสายการบินพาณิชย์ต่างประเทศ เปิดเผยว่า บ่ายวันนี้จะเข้าไปตรวจสภาพรันเวย์ เพื่อรวบรวมข้อมูลมาชี้แจงให้สายการบินต่างประเทศทราบ เนื่องจากขณะนี้มีสายการบินหลายแห่งต้องการทราบข้อเท็จจริงของปัญหาแท็กซี่เวย์ และรันเวย์ร้าว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นด้านการบินมากนัก หากมีการชี้แจงให้สายการบินต่างๆ เข้าใจข้อเท็จจริงมากที่สุด

http://www.matichon.co.th/breaking-news/breaking-news.php?nid=MjAwNzAxMjYtMTQwNjQ0

ใครโกงก็เอามันลงหม้อให้หมดนะดีแล้ว

แต่แปลกใจตรงที่เพราะปชปโกงแล้วแทนที่ทรทจะไปจับ

ดันมาโกงต่อเพราะมีคนโกงมาก่อน

บริหารบ้านเมืองอย่างนี้ก็ chips หายกันพอดี

เหตุการณ์สำคัญ

29 พฤศจิกายน 2539 บทม. ลงนามในสัญญาว่าจ้างให้ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงคุณภาพดิน ทางวิ่ง ทางขับฝั่งตะวันตก และลานจอดอากาศยาน

.
.
.

15 พฤศจิกายน 2545 บทม. ลงนามในสัญญา กับกลุ่มบริษัท VKP Joint Venture เพื่อดำเนินการการปรับปรุงคุณภาพดินสำหรับทางวิ่ง ทางขับฝั่งตะวันออก

http://bidding.airportthai.co.th/airportnew/bidding/nbia/th/history1th.php
-*****

ถึงตัดแปะก็เอาแล้วล่ะว่ะเพื่อเป็นวิทยาทาน

แล้ว runway ฝั่งตะวันออกมันเสียการเมืองหรือไง ถึงต้องซ่อม ก็เดิมเป็นรอยนิดๆ ก็แค่ taxi way กะหัว runway ตะวันตกหน่อยเดียว

หลุมนี้อย่าเพิ่งรีบกลบ นะ

ให้รีเสริฟไว้สำหรับไอ้พวก โกงทั้งโคตร

ผมยินดีที่จะออกค่ากลบให้เอง   :slime_agreed:


(http://pics.manager.co.th/Images/550000001092005.JPEG)

โปรดสังเกตที่ขอบหลุมด้านขวา

น่าจะเป็นรอยยุบเนื่องมาจากการกดทับของล้อเครื่องบิน


...

สำหรับการปิดรันเวย์คืนนี้จะไม่กระทบต่อการขึ้นลงของเครื่องบินเพราะเป็นช่วงที่มีเที่ยวบินน้อย เพียง 6-10 เที่ยวบินเท่านั้น จึงไม่กระทบต่อการจราจรภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อย่างไรก็ตาม การปิดซ่อมรันเวย์ทุกครั้ง บริษัท วิทยุการบิน ได้แจ้งไปยังสายการบินต่างๆ ที่จะลงจอด ล่วงหน้าแล้ว
       
 ด้านนางโสพิณ แดงเทศ ประธานคณะกรรมการงานธุรกิจการบิน ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการประสานงานด้านการบินกับสายการบินพาณิชย์ต่างประเทศ เปิดเผยว่า บ่ายวันนี้จะเข้าไปตรวจสภาพรันเวย์ เพื่อรวบรวมข้อมูลมาชี้แจงให้สายการบินต่างประเทศทราบ เนื่องจากขณะนี้มีสายการบินหลายแห่งต้องการทราบข้อเท็จจริงของปัญหาแท็กซี่เวย์ และรันเวย์ร้าว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นด้านการบินมากนัก หากมีการชี้แจงให้สายการบินต่างๆ เข้าใจข้อเท็จจริงมากที่สุด

http://www.matichon.co.th/breaking-news/breaking-news.php?nid=MjAwNzAxMjYtMTQwNjQ0



คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก มีความเชื่อเหมือนนางโสพิณ แดงเทศ หรือไม่......ฮ่า อ่า ฮ่า ฮ่า

จะอีกกี่ร้อยแปะมันก็ไม่ช่วยหรอก ถ้าไม่มีผังการถมดินตามสัญญา เพราะสองสัญญามันดันห่างกันเยอะ อันหลังแค่ 13.5%
ของมูลค่ารวม ซึ่งอาจหมายความว่าอันแรกถมไปแล้วส่วนหนึ่ง ส่วนอันหลังถมด้านบนก็เป็นได้ รายละเอียดไม่มีมันก็คิด
ความน่าจะเป็นได้หลายอย่าง จะมาฟันธงเป๊ะว่าอันหลังถมเฉพาะ runway ฝั่งตะวันออกทั้งหมดทุกเม็ด ก็คงมีปัญหาเรื่อง
ตรรกะ

อย่างเช่น วัสดุกดทับ หรือ Surcharge ที่เป็นหินคลุกไงน้องแถ สัญญาสองไม่ต้องซื้อ เพราะเอาของฟรี จ้างค่าแรงกะ PVD  นิก ๆ โหน่ย ๆ 

ส่วนทรายก็ซื้อมาจากที่เดิม ๆ นั่นแหล๊ะ

จะรู้เรื่องป่าว  อธิบายมันยากเหมือนกันน่ะ

เอางี้ไปนอนคิดก่อน แล้วมาถามใหม่ก็ยังไม่สาย

ส่วนราคา ของคนที่นามสกุล

"ณ ถมทราย" หาในกูเกิ้ลยังเจอเลย

ยังสงสัยอะไรอีกจ๊ะ 555+++

ว่าแต่ แล้วหินคลุกที่เอามาทำ Surcharge Fill มันหายไปไหนหมด

มันไม่ได้จมดินนะ  เพราะจมแค่ทรายที่ผู้รับเหมาซื้อมาเท่านั้น บวกลบนิดหน่อย

ส่วนหินคลุก นี้เป็น ล้านคิวบิกเมตรน่ะ

สตง. พอรู้เรื่องบ้างป่าว

มันหายไปตอนไหน  :slime_doubt: ?  :slime_doubt:

ใครไปแล้วเจอบ้างมั๊ย ถ้ามีพวกซื่อบื้อมาตอบว่า เอาไปร่อนตะแกรงทำอย่างอื่น ขอหลักฐานมันครับว่า ปริมาณขนาดนั้น ไปไหนหมด

ส่วนสูญเสีย ก็ว่ากันไปนิดหน่อย

อ้าว สุดท้ายก็มาฟอร์มยกขึ้นมาลอยๆ ซะงั้น ไม่มีที่มาที่ไป แล้วระบบ PVD เกี่ยวอะไรด้วย
มันก็น่าอยู่ในสัญญาอยู่แล้ว เสี่ยงทรุดซะอย่างงั้น แล้วใช้ระบบนี้ไม่มีมาตรฐานการตรวจสอบ
เลยหรือไง