ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

เห็นเค้าโครง"คณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ 35 คน" แล้ว
"คอการเมือง" คาดล่วงหน้าก่อนได้เลยว่า "35 คน"นั้นเป็นใคร...... :!:


เมื่อถึงเวลาได้ 35 คนตามสเปคของ คมช.แล้ว
ประชาชนที่เคยให้การสนับสนุน เคยคาดหวังจาก คปค. คมช. มาก่อน พูดได้ประโยคเดียว....

ฝากไว้ก่อน ต๋อย(สนธิ) ...............
วันนี้ จดบัญชี"หนังหมา"ไว้ก่อน......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า :!:


คนไทยที่รักประชาธิปไตย รักธรรมนูญ จะต้องเลือกสมาชิกพรรคการเมือง
ที่ประกาศว่าจะ"ยกร่าง"รัฐธรรมนูญใหม่ หลังจากได้เป็นรัฐบาลแล้ว.....


ปล. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ "วางเฉย" ให้"ยกร่าง"รัฐธรรมนูญตามความต้องการของ"คณะมนตรีความมั่นคง" แล้ว  ความดีงาม ความเป็นคนดีของท่าน ถูกทำลายไปด้วยครับ...

ประชาชนที่ต้องการรัฐธรรมนูญของประชาชน ต้องติดตาม ตรวจสอบ
สะท้อนความคิดเห็นให้ "คณะมนตรีความมั่นคง" ได้เข้าใจรัฐธรรมนูญของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เป็นอย่างใด.... :!:

เอ้า ใครจะกล้าไปแย้งไปตรวจสอบเขาหล่ะท่าน  :slime_smile2:
ประชาชนไม่มีปืนเหมือนโจรใต้นะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :slime_bigsmile:

ขณะที่ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ได้แสดงความกังวลต่อ สัดส่วนที่กระจุกตัวอยู่ที่ภาครัฐถึง 73 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนถึง 1 ใน 3 จนทำให้สภาร่างรัฐธรรมนูญกลายเป็นสภาข้าราชการได้....

 หากถ้าในขั้นตอนคัดเลือกให้เหลือ 100 คนนั้น คมช.เมินเฉยไม่คำนึงถึงสัดส่วนจากภาคอื่นๆ ก็น่าเป็นห่วงว่าสภาร่างรัฐธรรมนูญจะถูกครอบงำโดยความคิดแบบรัฐราชการ หรืออุดมการณ์แบบอำนาจนิยม และข้อกังวลของหลายฝ่ายที่เป็นห่วงว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็นฉบับอมาตยาธิปไตย ก็เป็นไปได้สูง  

อย่าลืมว่า "บิ๊กบัง" ได้เอ่ยตั้งโจทย์ในเรื่องปมสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไว้หลายเรื่อง อาทิ นายกฯควรเป็น 2 สมัย วุฒิสภาควรมาจากแต่งตั้งเพื่อสกัดกั้น "สภาผัวเมีย-พี่น้อง" การห้ามยุบรวมพรรคการเมืองหลังเลือกตั้ง หรือแม้แต่เรื่องการปลดล็อค 90 วันสังกัดพรรคการเมือง

เหล่านี้ถูกมองว่าเป็นการ "ส่งสัญญาณ" บางประการต่อรัฐธรรมนูญใหม่ โดยใช้บทเรียนในอดีตจนก่อวิกฤติมาเป็นตัวตั้ง และจะมีผลต่อการเมืองในอนาคต

จึงต้องจับตาว่า ส.ส.ร. 100 คนที่จะถูกคัดเลือกโดย คมช.นั้น จะเป็น "คำตอบ" ถึงการกระทำ และจะเป็นบทสรุปสำหรับคำการันตีของประธาน คมช.

เอาแค่ เลือก 100 ส.ส.ร.ก็พอ ไม่ต้องไปดูถึง กรรมาธิการยกร่างฯ 35 คน...

และถ้ามีคำถามคาใจของสังคม ก็เตรียมคำชี้แจงที่ฟังขึ้นไว้ด้วย !

http://www.bangkokbiznews.com/viewNews.jsp?newsid=140879


 1. "สภาข้าราชการ"ของพล.อ.สนธิ ประธานคณะมนตรีความมั่นคงฯ(สมช.) ดีเลวกว่า "สภาผัวเมีย"ของทักษิณ หัวหน้าพรรคเทียมรักเทียม เท่าใด :?:

2. พระราชกฤษฏีกากำหนดคุณสมบัติ"กรรมการยกร่างฯ" เป็น"พิเศษ" ทำให้คาดเดาได้ว่า "ไผเป็นไผ"
    เพื่อยกร่าง"รัฐธรรมนูญฉบับ 2550" ตามใจคณะมนตรีความมั่นคงฯ(คมช.)...... :!:

ครป.ติงเลือก 35 อรหันต์ร่างรธน. ล็อคสเปคผู้เชี่ยวชาญกฏหมายมากไป

21 ธันวาคม 2549 19:43 น.


 ครป.ติง คมช.เลือก 35 อรหันต์ร่างรัฐธรรมนูญล็อคสเปคผู้เชี่ยวชายญด้านกฏหมายมากเกินไป ย้ำบทเรียนนักกฎหมายเป็นทั้งผู้เขียน-ฉีกรัฐธรรมนูญ 40 ด้านอรรคพล แนะให้เลือกสภาร่างฯให้หลากหลาย ย้ำไม่ต้องห่วงผู้ชำนาญการกฎหมาย เพราะคมช.ยังเลือกผู้เชี่ยวชาญได้อีก 10 คน  ขณะที่สภาฯ เตรียมถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 27 ธค.นี้


นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงเกณฑ์ในการคัดเลือกคน 100 คนเพื่อมาเป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญว่า ควรต้องคำนึงถึงสัดส่วนจากวิชาชีพต่างๆ และครอบคลุมทั้ง 4 ภาคส่วน ในสัดส่วนที่เท่าเทียมไม่เหลื่อมล้ำจนเกินไป ซึ่งถ้าเกณฑ์ของคมช.โปร่งใส มีเหตุมีผลจะทำให้กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญเริ่มต้นด้วยความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่เริ่มต้นด้วยความหวาดระแวง เพราะประชาชนยังฝังใจกับวัฒนธรรมสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารในอดีต

ในส่วนกรอบในการสรรหากรรมาธิการยกร่าง 35 คน ทั้งจากการคัดเลือกของ คมช. 10 คน และจากสภาร่างรัฐธรรมนูญอีก 25 คนที่ปรากฏในร่างพระราชกฤษฎีกา ที่คมช.จะเสนอให้ ครม.ตราออกมานั้น วางน้ำหนักที่ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นการล็อกสเป็กผู้เชี่ยวชาญมากเกินไป

 โดยผู้เชี่ยวชาญกฎหมายไม่ควรเกิน 15 คนที่เหลือควรจะมีสัดส่วนจากผู้รอบรู้ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักรัฐศาสตร์ สังคมวิทยา นักการศึกษา ภาคประชาชน หรือแม้แต่ปราชญ์ชาวบ้าน หรือผู้รู้เรื่องชุมชนท้องถิ่น เพราะบทเรียนจากรัฐธรรมนูญ 2540 ผู้เชี่ยวชาญได้กลายเป็นทั้งผู้เขียนและฉีกรัฐธรรมนูญไปในตัว โดยเฉพาะบทบัญญัติที่ครอบงำด้วยระบบความหมายและระบบภาษานิติศาสตร์ หรือแนวคิดเรื่องรัฐธรรมนูญนิยมของนักกฎหมายมหาชน ยืนอยู่คนละฐานกับชุดความจริงทางสังคมการเมืองไทย จนเปิดช่องให้มีการตีความแบบศรีธนญชัยหรือวัฒนธรรมเนติบริกร

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า เขาไม่ได้คัดค้านผู้เชี่ยวชาญ แต่ต้องไม่ให้กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญครอบงำโดยวาทกรรมแบบผู้เชี่ยวชาญ ฉะนั้นในกระบวนการคัดเลือกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 35 คนต้องมีพื้นที่ให้กับฐานความรู้ในด้านอื่นๆ ด้วย แม้ผู้เชี่ยวชาญจะตั้งใจดีอย่างไร ก็อาจมีช่องว่างโดยเฉพาะความไม่เข้าใจต่อการเมืองในเชิงวัฒนธรรม

http://www.bangkokbiznews.com/viewNews.jsp?newsid=141818

นักวิชาการวิพากษ์ไอเดียต่ออายุ'กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน'หวังสืบทอดอำนาจ

23 ธันวาคม 2549 17:29 น.
  "ดร.ธเนศ เจริญเมือง" วิพากษ์แนวคิด"พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน" ผลักดันต่ออายุกำนันผู้ใหญ่บ้านไม่ต่างจากวิธิคิดนักการเมือง หวังสะสมกำลังพรรคพวกเป็นฐานของตัวเอง
 
-

 ดร.ธเนศ เจริญเมือง อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ต้องการผลักดันให้กำนันผู้ใหญ่บ้านอยู่ในตำแหน่งจาก 5 ปีเป็น 10ปี เพื่อทำงานสนองความจำเป็นเร่งด่วนของประชาชนอย่างแท้จริง  ที่ผ่านมาการปกครองส่วนท้องถิ่นของไทยมีปัญหาความทับซ้อนกันในพื้นที่ ระหว่างกำนันผู้ใหญ่บ้านกับองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)

ทั้งนี้ปัญหามาจากความไม่เอาไหนของนักการเมืองเมื่อตั้งอบต.ขึ้นมาแล้ว ไม่ยกเลิกระบบกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แต่เก็บเอาไว้เป็นฐานเสียง เป็นพลังทางการเมือง หรือเป็นฐานอิทธิพล เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางธุรกิจ ขณะที่กระทรวงมหาดไทยก็ไม่มีความจริงใจในการกระจายอำนาจปล่อยให้ระบบกำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวถ่วงดุลไม่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแข็งเกินไป

ดร.ธเนศ กล่าวว่า กำนันผู้ใหญ่บ้านกับอบต.หลายแห่งก็ขัดแย้งกันเองในพื้นที่ แต่ละฝ่ายปัดความรับผิดชอบ ทำให้ประชาชนหมดที่พึ่ง เช่นที่จังหวัดเชียงใหม่มีปัญหามลพิษจากการเผาขยะ เมื่ออบต.เรียกประชุม ปรากฎว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านไปบอกประชาชนไม่ให้ไปประชุม หรือการแจกผ้าห่มให้ชาวบ้าน ถามว่ามันหายไปไหนกันหมด ทั้งๆที่มีการบริจาคกันมากมาย และผ้าห่มก็แจกทุกปี แต่วันนี้หลายจังหวัดยังขาดผ้าห่มเป็นแสนๆเป็นไปได้อย่างไรมีการคอร์รัปชั่นกันหรือไม่

  "แนวคิดของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่ต้องการต่ออายุให้กำนัน ผู้ใหญ่นั้นไม่ต่างกับวิธีคิดของนักการเมือง ที่ต้องการสะสมกำลังหาพรรคพวกเป็นฐานให้ตัวเอง ที่ผ่านมานักการเมืองมักใช้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นเครื่องมือสร้างอิทธิพล บางแห่งคอยรับซื้อที่ดินให้นักการเมือง หรือบางแห่งกำนันผู้ใหญ่บ้านทำหน้าที่เป็นหัวคะแนน เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งนักการเมืองก็เอาเงินไปให้แสนสองแสนบาทให้เอาชาวบ้านไปเลือก "ดร.ธเนศ กล่าวและว่า

นี่คือเหตุผลที่ฝ่ายการเมืองถึงไม่ยอมยกเลิกระบบนี้ ทั้งๆที่สร้างปัญหามากมาย วันนี้เราไม่มีนักการเมือง และมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้ว เหตุใดกลับจะเดินซ้ำรอยเดิมอีก นอกจากจะไม่ยกเลิกแล้ว ยังเพิ่มเงินให้สายสะพายไปกันใหญ่อีก ควรจะใช้โอกาสนี้ยกเลิกระบบกำนันผู้ใหญ่บ้าน โดยให้การบริหารอยู่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ชัดเจนเสียที

อย่างไรก็ตาม นักวิชาการ เห็นว่า การยกเลิกระบบกำนัน ผู้ใหญ่บ้านนั้น สามารถดำเนินการโดยประนีประนอมกันได้ไม่จำเป็นต้องทำแบบกระทันหัน จนคนที่เคยมีตำแหน่งตกใจ อาจจะวางเป้าหมายระยะยาวภายใน 3 หรือ 5 ปี แล้วค่อยๆลดอายุราชการลงจนยกเลิกได้เป็นผลสำเร็จ
 
 
http://www.bangkokbiznews.com/viewNews.jsp?newsid=142314
 

ฝากไว้ก่อน... ต๋อย(สนธิ)............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

'พระปกเกล้าฯ'ค้านยืดอายุกำนันผู้ใหญ่บ้าน บอกสร้างอิทธิพล

23 ธันวาคม 2549 18:36 น.
"สถาบันพระปกเกล้าฯ" ยันต่ออายุ "กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน" ระบุเป็นการสร้างอิทธิพลในพื้นที่โดยใช้เหตุ หวั่นประชาชนหมดทางเลือก เสนอเขียนกม.เปิดทางชาวบ้านถอดถอนได้

นายวุฒิสาร ตันไชย ผู้อำนวยการวิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงแนวคิดของพล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่ต้องการผลักดันให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน อยู่ในตำแหน่งนานกว่าเดิม เพื่อทำงานสนองความจำเป็นเร่งด่วนของประชาชนอย่างแท้จริง  ถ้าต้องการให้มีวาระยาวนานขึ้น ก็ต้องเขียนระเบียบ สร้างกลไกการตรวจสอบกำนันผู้ใหญ่บ้าน ให้มีประสิทธิภาพ เปิดช่องทางให้ประชาชนสามารถร้องเรียน กระทั่งถอดถอนออกจากตำแหน่งให้ได้ ไม่ใช่ให้อยู่ยาวแต่ตรวจสอบไม่ได้ กลายเป็นสร้างอิทธิพลในพื้นที่ หรือบางแห่งคนที่ร้องเรียนต้องตกอยู่ในความหวาดระแวง จากอิทธิพลของกำนันผู้ใหญ่บ้าน หรือสุดท้ายต้องทะเลาะกันเองในชุมชน

นอกจากนี้ยังต้องกำหนดภารกิจให้ชัดเจนว่ากำนันผู้ใหญ่บ้านต้องทำหน้าที่ในด้านความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยเท่านั้น ส่วนงานบริหารต้องเป็นหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) เพื่อให้เกิดความชัดเจนไม่ทับซ้อน

"ถ้าจะขยายจริงๆไม่ควรเกิน 7 ปี และต้องไม่อยู่ยาวจนตลอดชีวิตเหมือนเดิม เพราะจะทำให้ประชาชนหมดทางเลือก โดยระหว่างที่อยู่ในตำแหน่งต้องถูกประเมินผลตรวจสอบจาก 2 ทาง คือภาคราชการนายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด และจากภาคประชาชน" นายวุฒิสาร กล่าวและว่า

ดังนั้น ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจสอบได้อย่างใกล้ชิด และไม่เป็นอันตราย เพราะกำนันผู้ใหญ่บ้านมีอิทธิพลในพื้นที่ ขณะที่กระทรวงมหาดไทยต้องมีหลักเกณฑ์ในการวัดประสิทธิภาพ เพิ่มสมรรถนะอย่างต่อเนื่อง เช่น เวลามีกฎหมาย

http://www.bangkokbiznews.com/viewNews.jsp?newsid=142326


ฝากไว้ก่อน... ต๋อย(สนธิ)............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

นสพ. ทีวี นักวิชาการ NGO อ๋อย มาร์ค และคุณปุถุชน คุณสโนว์เฟลค ฯลฯ
แย้งกันขรม

แต่เหลี่ยมไม่สนใจใคร สั่งทนายสู้ตายเพื่อรักษามรดก  :slime_bigsmile: