ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: jerasak ที่ 18-11-2006, 15:59



หัวข้อ: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายกว่า 8 หมื่นล้าน==
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 18-11-2006, 15:59
ไหนๆ ช่วงนี้ก็มีกระบวนการตรวจสอบทุจริต การดำเนินงานของรัฐบาลชุดที่แล้ว
กันอย่างคึกคัก  แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่คาใจของผมเองมาเป็นแรมปี และเท่าที่ทราบ
จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการกล่าวถึงจากฝ่ายตรวจสอบใดๆ ทั้งสิ้น

ก็เลยอยากชวนพวกเราที่นี่ พูดคุยพิจารณากันอีกสักหัวข้อหนึ่งครับ..

...

ตามที่รัฐบาลทักษิณก่อนการเลือกตั้ง เม.ย.49 ได้ตัดสินใจใช้เงินกองทุนน้ำมันตรึง-
ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีผลต่อคะแนนเสียงเลือกตั้งของพรรคไทยรักไทยโดยตรง
โดยอ้างขณะนั้นว่าราคาน้ำมันจะสูงอยู่เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง  และหากไม่ตรึงราคา
จะเกิดผลกระทบกับค่าครองชีพของประชาชน และต้นทุนของภาคธุรกิจ  แต่หลังจาก
เวลาผ่านไปเกือบ 1 ปี ราคาน้ำมันก็พุ่งสูงอย่างต่อเนื่องไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง

เป็นที่ยอมรับกันว่าการตรึงราคาครั้งนั้นเป็นการตัดสินใจผิดพลาดของรัฐบาล ที่เกิด
ผลกระทบต่อโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง เพราะทำให้ภาคประชาชนและ
ภาคธุรกิจต่างๆ ไม่เกิดความตระหนักรับรู้ในราคาทุนน้ำมันที่แท้จริง  มีการระดมซื้อ
รถกระบะใหม่ที่ใช้น้ำมันดีเซลกันเป็นจำนวนมากหลายแสนคัน ทำให้เร่งการใช้น้ำมัน
ดีเซลหนักขึ้นไปอีก ทำให้กองทุนฯ เกิดความเสียหายอย่างหนักกว่า 8 หมื่นล้านบาท
และรัฐบาลจำเป็นต้องประกาศยกเลิกการตรึงราคาในที่สุด  และเป็นที่น่าสังเกตว่า
ในการยกเลิกการตรึงราคารัฐบาลให้เหตุผลว่าราคาน้ำมันที่จะปรับตัวสูงขึ้นมีผลกระทบ
กับค่าครองชีพของประชาชน และต้นทุนของภาคธุรกิจเพียงเล็กน้อย

ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วที่ผ่านมาตรึงราคาจนเสียหายหลายหมื่นล้านทำไม.. :slime_doubt:


ความเสียหายครั้งนั้นยังส่งผลกระทบมาจนถึงปัจจุบัน ที่ทำให้ราคาน้ำมันไม่สามารถ
สะท้อนราคาแท้จริงตามตลาดโลกได้ เนื่องจากติดภาระใช้หนี้คืนให้กองทุนน้ำมันฯ
ในที่สุดกลายเป็นทำให้ภาคธุรกิจเสียโอกาสในการแข่งขันกับต่างประเทศ

...

การดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดครั้งนี้ น่าจะสามารถเปรียบเทียบได้กับการตัดสินใจ
ตรึงค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนวิกฤติเศรษฐกิจ 2540 ซึ่งต่อมา
ยอมรับกันว่าเป็นการตัดสินใจทางนโยบายที่ผิดพลาด จนเกิดความเสียหายนับหมื่น-
นับแสนล้าน  และความเสียหายครั้งนั้นยังต้องใช้ดอกผลจากเงินสะสมของประเทศ
ตัดชำระไปอีกยาวนานนับสิบปี  เรื่องนี้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีจนศาลแพ่งตัดสินให้
อดีตผู้ว่าการ ธปท. ต้องชดใช้ความเสียหายเป็นเงินกว่า 1.8 แสนล้านบาท พร้อมทั้ง
ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี  คาดว่าคดียังมีการต่อสู้กันต่อในชั้นอุทธรณ์

แม้จะมีการกล่าวกันว่านายเริงชัยเป็นแพะรับบาป แต่อย่างน้อยก็มีการดำเนินคดี
หาตัวผู้รับผิดชอบ  ในขณะที่ความเสียหายที่เกิดกับกองทุนน้ำมันถึง 8 หมื่นล้าน
ซึ่งเป็นเงินจำนวนมหาศาล (ลองคิดดูว่าถ้าไม่เสียหายไป เงิน 8 หมื่นล้านจะเอาไป
ทำอะไรได้บ้าง) กลับไม่มีการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

มีใครตอบได้บ้างครับว่าทำไมกรณีตรึงค่าเงินบาทมีการดำเนินคดี แต่การตรึงราคา
น้ำมันซึ่งมีความคล้ายคลึงกันกลับไม่มีการดำเนินการใดๆ เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบ?


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายนับหมื่นล้าน==
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 18-11-2006, 16:08
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กองทุนน้ำมัน จากเว็บกระทรวงพลังงาน
http://www.eppo.go.th/petro/oilfund.html
--------------------------------------

1. กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

พระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516 ได้ให้อำนาจ นายกรัฐมนตรี
ในการออก คำสั่งนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อจัดตั้งกองทุน
น้ำมันเชื้อเพลิง ปัจจุบันคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ใช้ในจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ได้แก่ คำสั่งนายกรัฐมนตรี
ที่ 2/2546 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2546

1.1 พระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516

(1) ในช่วงวิกฤตการณ์น้ำมันของโลก ครั้งที่ 1 (พ.ศ. 2516-2517) ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้เพิ่มสูงขึ้น
     อย่างรวดเร็ว และหาซื้อได้ยากก่อให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันขึ้นในประเทศไทย รัฐบาลจึงได้พยายามแทรกแซง
     กลไกตลาดน้ำมัน โดยได้ออกพระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516
     เพื่อใช้เป็นกลไกในการกำหนดมาตรการในการแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยวัตถุ-
     ประสงค์ของพระราชกำหนดประกาศไว้ว่า

     “โดยที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้ทวีสูงขึ้นเป็นลำดับ และน้ำมันดิบที่จะซื้อได้มีปริมาณลดน้อยลง ซึ่งจะก่อ
     ให้เกิดภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นในประเทศไทย ฉะนั้น เพื่อรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของประเทศ
     และความผาสุกของประชาชน จำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขและป้องกันภาวะการณ์ดังกล่าวให้ทันต่อเหตุการณ์
     ในการนี้ นายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องมีอำนาจในการกำหนดมาตรการต่างๆ ได้ โดยฉับพลัน ไม่จำเป็นต้องให้กระทรวง
     ทบวง กรมต่างๆ แยกปฏิบัติการตามกฎหมายที่มีอยู่”

(2) พระราชกำหนดนี้ มีอายุ 1 ปี แต่ต่อมาก็ได้มีการออกพระราชกำหนดต่ออายุ จนกระทั่งปี 2520 จึงได้ตรา
     เป็นพระราชกำหนดให้มีผลบังคับใช้ต่อไปไม่มีกำหนด

(3) พระราชกำหนดนี้ กำหนดอำนาจแก่ นายกรัฐมนตรี ในการออกมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันและแก้ไขภาวะ
     การขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง

1.2 คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 2/2546

     นายกรัฐมนตรี โดยอาศัยอำนาจตามข้อ 3 แห่งพระราชกำหนดแก้ไขป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง
     พ.ศ. 2516 ได้ออกคำสั่งนายกรัฐมนตรี กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง
     ซึ่งคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่มีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน คือ คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 2/2546 โดยได้กำหนดกลไกที่สำคัญ
     ในการแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ได้แก่ การจัดตั้งคณะกรรมการพิจารณานโยบายพลังงาน
     และจัดตั้งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายนับหมื่นล้าน==
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 18-11-2006, 16:15
ข้อมูลเพิ่มเติม (ต่อ)
----------------------------------------------
การบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

4.1 ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 2/2546 ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
     ทำหน้าที่ในการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีหน้าที่ ดังนี้

    1. กำหนดหลักเกณฑ์สำหรับการคำนวณราคา และกำหนดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำในราชอาณาจักร
        ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักร
    2. กำหนดค่าการตลาดสำหรับการซื้อขายน้ำมันเชื้อเพลิง
    3. กำหนดค่าขนส่งไปยังคลังก๊าซและค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาก๊าซ ณ คลังก๊าซ ตลอดจนกำหนด
        ราคาขายก๊าซ ณ คลังก๊าซเป็นราคาเดียวกันทุกแห่งทั่วราชอาณาจักร
    4. กำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนหรืออัตราเงินชดเชยสำหรับก๊าซที่ซื้อหรือได้มาจากผู้รับสัมปทาน
        ตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม ซึ่งเป็นผู้ผลิตได้จากการแยกก๊าซธรรมชาติในราชอาณาจักร
        น้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำในราชอาณาจักร น้ำมันเชื้อเพลิงที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักร
        น้ำมันเชื้อเพลิงที่ส่งออก น้ำมันเชื้อเพลิงที่จำหน่ายให้แก่เรือเพื่อใช้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร
        และก๊าซหุงต้มที่จำหน่ายให้แก่ประชาชน
    5. กำหนดชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่ต้องส่งเงินเข้ากองทุน หรือไม่ให้ได้รับเงินชดเชย
    6. กำหนดราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นและคำนวณราคาขายปลีก
    7. พิจารณากำหนดอัตราภาษีให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่าอัตราภาษีต่ำสุดและไม่สูงกว่าอัตราภาษีสูงสุด
    8. กำหนดให้โรงกลั่นแจ้งราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นต่อคณะกรรมการ
    9. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามคำสั่งนี้
  10. ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ นายกรัฐมนตรี มอบหมาย  

4.2 ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นผู้จัดการกองทุนฯ มีอำนาจหน้าที่จ่ายเงินกองทุนตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี
     ที่ 2/2546  โดยได้มีการออกระเบียบกระทรวงพลังงาน ว่าด้วยการฝากและการเบิกจ่ายเงินกองทุน-
     น้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2546



หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายนับหมื่นล้าน==
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 18-11-2006, 16:22
ข้อมูลเพิ่มเติม (ต่อ)
----------------------------------------------
รายรับ/รายจ่ายของกองทุนน้ำมันฯ

7.1 รายรับ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีรายรับจากอัตราเงินส่งเข้ากองทุนของน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดต่างๆ
      ตามประกาศคณะกรรมการพิจารณานโยบายพลังงาน ดังนี้ ... (เป็นตารางอัตราเงินส่งเข้ากองทุน)

7.2 รายจ่าย กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง อาจมีรายจ่ายตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 2/2546 ดังต่อไปนี้

     1. เป็นเงินจ่ายชดเชยตามอัตราที่คณะกรรมการฯ กำหนด
     2. ค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ตามหมวดรายจ่ายภายในวงเงินงบประมาณการจ่าย-
         ประจำปีที่คณะกรรมการอนุมัติ ดังนี้
     3. ค่าจ้างชั่วคราว
     4. ค่าตอบแทนใช้สอยและวัสดุ
     5. ค่าครุภัณฑ์
     6. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการเห็นชอบ
     7. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการใดๆ เพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง
     8. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการใดๆ เพื่อให้การเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือการจ่ายเงินชดเชย
         จากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นไปอย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ
     9. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการเห็นชอบ


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายนับหมื่นล้าน==
เริ่มหัวข้อโดย: banana_dot ที่ 18-11-2006, 16:26
ไม่ทราบว่าโครงการ ที่จะตั้งประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางส่งออกรถยนต์ ที่ดร.สมคิด รมค.คลัง
สมัยนั้นพยายามผลักดัน จะมีผลไหมถ้าปล่อยให้ค่าน้ำมันดีเซลสูงขึ้นซึ่งต้องมีผลแน่ต่อ ตลาดซื้อขาย
รถดีเซลในประเทศไทย รวมถึงราคาหุ้นของบริษัทย์ ปตท.ที่มีบันดาบิ๊กๆ เข้าไปถือหุ้นจำนวนมาก
และที่สำคัญเรื่องนี้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังใช้น้ำมันที่มีค่าเกินจริงตามตลาดโลก
รู้แค่ว่ารัฐบาลก่อนได้พยายามช่วย ไม่ให้ประชาชนได้รับรู้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นเพราะน้ำมันพุ่งตัว
สูงขึ้นต่อเนื่อง..........ผิดถูกประการใดขออภัยด้วย ข้อมูลผมไม่แน่น


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายกว่า 8 หมื่นล้าน==
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 18-11-2006, 16:31
ข้อสังเกตส่งท้าย..

น่าสังเกตว่า ปตท. ที่แปรรูปไปเป็นของใครก็ไม่รู้ที่สงสัยกันนั้น
เป็นผู้จำหน่ายน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของประเทศ  การตรึงราคาน้ำมัน
ทำให้ ปตท. และบริษัทน้ำมันอื่นๆ ไม่ต้องรับผลกระทบจากความ
ผันผวนของราคาน้ำมัน เช่น ราคาดีเซล จากราคาตลาดโลกอาจ
อยู่ที่ 18.49 บาท การตรึงราคาไว้ที่ 15.49 บาท รัฐบาลจะเป็นผู้จ่าย
ส่วนต่าง 3 บาทให้บริษัทน้ำมัน  เมื่อราคาขยับเป็น 21.49 บาท
รัฐบาลก็จะจ่ายส่วนต่าง 6 บาทให้บริษัทน้ำมัน  โดยที่บริษัทน้ำมัน
ไม่ต้องบริหารความเสี่ยงจากราคาน้ำมันผันผวนเลยเป็นแรมปี

โดยที่ต้นทุนน้ำมันเป็นปัจจัยหลักที่กระทบกับผลกำไรของบริษัท
น้ำมันมากที่สุด เพราะการซื้อน้ำมันเป็นการสั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว
ค่อยขนส่งโดยใช้เรือบรรทุกน้ำมัน  และสังเกตได้อย่างชัดเจน
ว่าผลประกอบการของบริษัทน้ำมันทุกแห่งในช่วงที่มีการตรึงราคา
น้ำมันนั้น ต่างพากันมีกำไรมหาศาลโดยถ้วนหน้า..


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายนับหมื่นล้าน==
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 18-11-2006, 16:37
ไม่ทราบว่าโครงการ ที่จะตั้งประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางส่งออกรถยนต์ ที่ดร.สมคิด รมค.คลัง
สมัยนั้นพยายามผลักดัน จะมีผลไหมถ้าปล่อยให้ค่าน้ำมันดีเซลสูงขึ้นซึ่งต้องมีผลแน่ต่อ ตลาดซื้อขาย
รถดีเซลในประเทศไทย รวมถึงราคาหุ้นของบริษัทย์ ปตท.ที่มีบันดาบิ๊กๆ เข้าไปถือหุ้นจำนวนมาก
และที่สำคัญเรื่องนี้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังใช้น้ำมันที่มีค่าเกินจริงตามตลาดโลก
รู้แค่ว่ารัฐบาลก่อนได้พยายามช่วย ไม่ให้ประชาชนได้รับรู้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นเพราะน้ำมันพุ่งตัว
สูงขึ้นต่อเนื่อง..........ผิดถูกประการใดขออภัยด้วย ข้อมูลผมไม่แน่น

เรื่องการขายรถดีเซล โดยเฉพาะรถกระบะก็น่าสงสัยเช่นเดียวกันครับ เพราะได้รับประโยชน์จาก
การตรึงราคาน้ำมันอย่างชัดเจน  และการที่ราคาหุ้น ปตท. พุ่งสูงขึ้นก็เกี่ยวข้องกับผลประกอบการ
แม้จะอ้างว่ากำไรจากการขายก๊าซ แต่มีกี่คนที่ทราบว่าหน้าที่หนึ่งของกองทุนน้ำมันก็คือการตรึง
ราคาก๊าซ  การที่กองทุนน้ำมันขาดทุนมหาศาลเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ไม่สามารถตรึงราคาก๊าซได้
ซึ่งจะเริ่มมีผลประมาณต้นปีหน้าครับ

ยังไม่นับเรื่องที่แกนนำคนสำคัญ ของพรรคไทยรักไทยมีกิจการผลิตอะไหล่รถยนต์อีกด้วย
มีลูกค้าหลักคือโตโยต้าที่ขายรถกระบะได้ยอดมากมาย  เรื่องนี้มันโยงใยพัวพันกันไปหมด
จนแยกไม่ออกเชียวครับ

และแน่นอน จะมากจะน้อยการตรึงราคาน้ำมันก็มีผลดีกับคะแนนเลือกตั้งของพรรคไทยรักไทย
เพราะประชาชนส่วนใหญ่ที่ใช้รถกระบะก็คือชาวไร่ชาวนาต่างจังหวัดที่เป็นฐานคะแนนเสียงหลัก
ของพรรคไทยรักไทย  เป็นตัวอย่างหนึ่งของการทุจริตเชิงนโยบายที่เห็นภาพได้ง่ายๆ ชัดเจน

..แต่ก็ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงไม่มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา ดำเนินการตรวจสอบทุจริตด้วย..


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายกว่า 8 หมื่นล้
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 18-11-2006, 17:24
ทุจริตทางนโยบาย มันจับยากครับ


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายกว่า 8 หมื่นล้าน==
เริ่มหัวข้อโดย: ชอบแถ ที่ 18-11-2006, 17:41
เจอกระทู้แบบนี้แถถึงกับใบ้ครับ คิดได้ไงเนี่ย


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายกว่า 8 หมื่นล้าน==
เริ่มหัวข้อโดย: แอบอ่าน ซุ่มเงียบ ที่ 18-11-2006, 18:26
ผมคิดเอาเองนะว่า เป็นการ "หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ"
เรื่องความผิดพลาดทางนโยบายการบริหาร  น่าจะเอาความผิดได้ยากครับ
เพราะทุกรัฐบาลที่ผ่านมาล้วนแต่มีการบริหารที่ผิดพลาดกันมาแล้วทั้งสิ้น
ถ้าจะเอาผิด เฉพาะกับกรณีนี้ มันก็จะดู 2 มาตรฐานจนเกินไปหน่อย  ไม่งั้นก็ต้องสาวยาวไปเลยถึงความผิดพลาดของทุกรัฐบาล

เรื่องนี้ยากเกินไปครับ น่าจะยากเกินความสามารถของรัฐบาล "คนดี"นี้
เอาเรื่องง่ายๆกับนวตกรรมการโกงแบบใหม่ๆที่เห็นกันจะๆคาตากันอยู่   ยังไม่เห็นจะกล้ากระดิกทำอะไรสักอย่าง


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายกว่า 8 หมื่นล้
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 18-11-2006, 18:33
แบบนี้เราเรียกว่า ความผิดทางการเมืองนั่นแหละครับ

คล้าย ๆ กรณี CTX อภิปรายจนชัดเจน ประชาชนเชื่อว่าผิด

แต่เปิดดกฎหมายแล้วหาทางเอาผิดยาก จะว่าไปเค้าก็ใช้อำนาจ ที่ประชาชนให้ไป

แต่เราเรียกมันว่า...ฉ้อฉลอำนาจ...ไงครับ


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายกว่า 8 หมื่นล้
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 18-11-2006, 18:43
ทุจริตทางนโยบาย มันจับยากครับ

จริงครับ..

ผมยังคิดว่าน่าจะมีการออกกฏหมายกำกับเอาไว้ ว่าการบริหารราชการแผ่นดิน
ถ้านักการเมืองบริหารงานผิดพลาดเกิดความเสียหาย ต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้
เหมือนกับการคอร์รับชั่น หรือการร่ำรวยผิดปกติ

เพราะไม่อย่างนั้นพวกนักการเมืองก็บริหารงานกันแบบส่งเดช ไม่มีหลักวิชา
ไม่มีความรอบคอบ เพราะเมื่อเกิดความเสียหายก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร

ตอนจะตรึงราคาบอกว่าถ้าไม่ตรึงจะเกิดผลกระทบกับค่าครองชีพและต้นทุนธุรกิจ
พอตอนจะเลิกตรึงบอกราคาที่ลอยตัวจะเกิดผลกระทบเพียงเล็กน้อย???

ลองเปรียบเทียบดูถ้าเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชน ไม่ถูกผู้ถือหุ้นฟ้องตายไปแล้วหรือครับ
บริหารบริษัทแล้วเกิดข้อผิดพลาด เงินหายไปเฉยๆ เกือบแสนล้านบาทแบบนี้...


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายกว่า 8 หมื่นล้าน==
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 18-11-2006, 18:53
ผมคิดเอาเองนะว่า เป็นการ "หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ"
เรื่องความผิดพลาดทางนโยบายการบริหาร  น่าจะเอาความผิดได้ยากครับ
เพราะทุกรัฐบาลที่ผ่านมาล้วนแต่มีการบริหารที่ผิดพลาดกันมาแล้วทั้งสิ้น
ถ้าจะเอาผิด เฉพาะกับกรณีนี้ มันก็จะดู 2 มาตรฐานจนเกินไปหน่อย  ไม่งั้นก็ต้องสาวยาวไปเลยถึงความผิดพลาดของทุกรัฐบาล

เรื่องนี้ยากเกินไปครับ น่าจะยากเกินความสามารถของรัฐบาล "คนดี"นี้
เอาเรื่องง่ายๆกับนวตกรรมการโกงแบบใหม่ๆที่เห็นกันจะๆคาตากันอยู่   ยังไม่เห็นจะกล้ากระดิกทำอะไรสักอย่าง

ถ้าจะว่า 2 มาตรฐาน ตอนนี้ต่างหากครับที่เรียกว่า 2 มาตรฐาน
เพราะกรณีตรึงค่าเงินบาทมีการฟ้องร้อง แต่พอตรึงราคาน้ำมัน
กลับไม่ดำเนินการอะไรทั้งสิ้น

ผมไม่สนใจเรื่องว่าจะได้แพะมาแค่ไม่กี่คน (เหมือนคดีตรึงค่าเงิน)
เพราะอย่างน้อยก็ทำให้พวกข้าราชการประจำตระหนักระวังตัว
ไม่หลับหูหลับตา สนองนโยบายฝ่ายการเมืองอีกต่อไป

การบริหารบ้านเมืองต้องมีมาตรฐานครับ และต้องพิสูจน์ตัวเอง
กับกระบวนการยุติธรรมได้ว่า ดำเนินการไปตามหลักวิชา และ
ละเอียดรอบคอบในการตัดสินใจแล้ว..


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายกว่า 8 หมื่นล้าน==
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 18-11-2006, 19:05
เรื่องตรึงราคาน้ำมันนี้ การฟ้องศาลก็ฟ้องแค่ว่าคนตัดสินใจคือจำเลย
จำเลยจึงต้องรับผิดชอบ และจำเลยตัดสินใจผิดพลาดจริงๆ ใช่ไหม
ถ้าผิดจริงก็ชดใช้มา

จำเลยก็ต้องมาแก้ต่างว่าตัวเองเป็นคนตัดสินใจจริงหรือเปล่า หรือ
ผู้รับผิดชอบควรเป็นใคร  และการตัดสินใจทำอย่างถูกต้องแล้ว
ตามหลักวิชา ตามข้อมูล อะไรอย่างไรบ้าง

ถ้าแก้ตัวหลุดก็แล้วไป แต่ถ้าแพ้คดีก็ต้องจ่ายชดใช้ จะไปยืมเงิน
ลูก 7-8 หมื่นล้านมาชดใช้ก็แล้วแต่ จะได้เป็นบรรทัดฐานต่อไป

...

ก่อนจะดำเนินการฟ้องก็ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาก่อน
ว่าการตัดสินใจตรึงราคาน้ำมันที่ผ่านมาทำถูกต้องหรือเปล่า

หากว่าความผิดมีมูลก็ดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหายได้เลยครับ


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายกว่า 8 หมื่นล้
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 18-11-2006, 19:14
เรื่องของ "อำนาจตามกฎหมาย" ลำบากครับ

ลดค่าเงินบาท หรือ สู้ค่าเงินบาท ยังหาคนผิดไม่ได้ไม่ใช่เหรอ


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายกว่า 8 หมื่นล้
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 18-11-2006, 19:31
เรื่องของ "อำนาจตามกฎหมาย" ลำบากครับ

ลดค่าเงินบาท หรือ สู้ค่าเงินบาท ยังหาคนผิดไม่ได้ไม่ใช่เหรอ

ก็ เริงชัย มะระกานนท์ อดีตผู้ว่าการแบงค์ชาติ ในขณะนั้นไงครับ
โดนฟ้องโดยโจทก์ก็คือธนาคารแห่งประเทศไทย และทุนรักษาระดับฯ
ศาลแพ่งตัดสิน ให้ต้องชดใช้เงิน 1.8 แสนล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย

งานนี้เริงชัยฟ้องมีการกลับด้วยแต่ศาลปกครองสูงสุดยกฟ้อง
ส่วนคดีที่แพ้ในศาลแพ่ง กำลังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ครับ..

...

อีกตัวอย่างที่กำลังโดนตามล้างตามเช็ดก็คือคดีขายสินทรัพย์ ปรส.
ผมถึงคิดว่าน่าจะเอาคดีตรึงราคาน้ำมันมาเล่นด้วย..


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายกว่า 8 หมื่นล้
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 18-11-2006, 19:53
เริงชัยช่วงนั้นอยู่ในฐานะเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงาน

ทำไมนักการเมืองไม่โดนละครับ...


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายกว่า 8 หมื่นล้
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 18-11-2006, 20:07
เริงชัยช่วงนั้นอยู่ในฐานะเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงาน

ทำไมนักการเมืองไม่โดนละครับ...

นักการเมืองไม่โดนก็ไม่เป็นไรครับ  แต่ต้องมีคนรับผิดชอบจะได้เป็นบรรทัดฐานต่อไป
ไม่ใช่เกิดความเสียหายแล้วทุกคนลอยลำ  สุดท้ายประเทศชาติเป็นคนจ่ายค่าเสียหาย

การฟ้องนายเริงชัยดำเนินการตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539
และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิด
ของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539

ความจริงแล้วเราควรมีกฏหมายแบบเดียวกันสำหรับฝ่ายการเมืองด้วยจะได้เท่าเทียมกัน
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีกฏหมายแบบที่ว่านี้ขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมเชื่อว่าในอนาคตสักวันจะต้องมี
เพราะฝ่ายการเมืองนี่แหละที่สร้างความเสียหายกับประเทศได้มากที่สุด..

แต่ในชั้นต้นนี้ ณ ปัจจุบันน่าจะมีใครรับผิดชอบความเสียหายครับ ไม่ใช่เสียหายเฉยๆ แบบนี้


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายกว่า 8 หมื่นล้
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 18-11-2006, 20:14
นั่นคือสิ่งที่เราไม่มี เหมือนประเทศที่ประชาธิปไตยพัฒนาไปจนใช้งานได้ ดูแลผลประโยชน์ของรัฐได้

ยิ่งถ้าเจอรัฐบาลด้าน ๆ ทน ๆ ประชาชนบ่นยังไงก็ไม่รับรู้รับทราบ เบี่ยงประเด็นเป็นการเมือง เป็นเรื่องการต่อสู้ทางการเมือง

ทั้งนี้ก็เพื่อตะโกนหาความชอบธรรมให้ตนเอง...อีกนานครับ...การเมืองไทย กว่าจะไปถึงฝั่งฝัน


หัวข้อ: Re: ==ทำไมยังไม่มีใครถูกเอาผิด กรณีตรึงราคาน้ำมันจนกองทุนฯ เสียหายกว่า 8 หมื่นล้าน==
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 18-11-2006, 21:02
มีความลักลั่นกันมากครับระหว่างระดับความรับผิดชอบของข้าราชการการเมือง
กับข้าราชการประจำ  ยกตัวอย่างข้าราชการประจำเบิกงบซื้อปากกา ซื้อกระดาษ
ยังต้องมีการคำนวณอ้างอิงว่าจำนวนที่ซื้อเหมาะสมหรือไม่อย่างไร สเป็กปากกา
หรือกระดาษก็ต้องนำมาพิจารณา ถ้าไม่มีเหตุผลแค่นี้ก็อาจโดนเล่นงานได้

แต่พอรัฐบาลออกนโยบายกองทุนหมู่บ้าน กำหนดจำนวนเงินหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท
ถามว่าเอาตัวเลขจำนวนเงิน 1 ล้านบาทมาจากไหน  หมู่บ้านทุกหมู่บ้านในประเทศ
มีจำนวนประชากรเท่ากัน มีระดับความเจริญความพร้อมทางเศรษฐกิจเท่ากันหรือ
เป็นไปไม่ได้ที่ทุกแห่งมีความจำเป็นเท่ากันหมด  ดังนั้นวิธีนี้ไม่ใช่การใช้เงินอย่าง
มีประสิทธิภาพโดยมีฐานข้อมูลการศึกษารองรับอย่างแน่นอน

เรื่องทำนองเดียวกันมีกับโครงการอื่นๆ เช่น แจกคอมพิวเตอร์เด็ก 1 ล้านเครื่อง 
แจกโค 1 ล้านตัว แจกบ่อน้ำ 3 แสนบ่อ แจกกล้ายาง 1 พันล้านต้น ฯลฯ ที่ไม่มี
ฐานข้อมูลการวิจัยรองรับว่าทำไมต้องตั้งเป้าเป็นตัวเลขเหล่านี้ ตลอดถึงโครงการ
30 บาทรักษาทุกโรค ที่ไม่มีเหตุผลว่าทำไมต้องเป็น 30 บาท ทำไมไม่ 20 บาท
ทำไมไม่ 50 บาท  ความเข้าใจง่ายๆ ก็คือเป็นตัวเลขที่นึกเอาส่งเดชทั้งสิ้น โดยที่
หวังผลด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์หาคะแนนเสียงเป็นสำคัญ  และตามปกติ
การตั้งตัวเลขแบบนี้มีใช้กันเฉพาะเกมส์โชว์ หรือโปรโมชั่นชิงโชค

การใช้เงินงบประมาณแบบนี้ถ้าเป็นบริษัท (เหมือนอย่างที่ทักษิณเคยพูดว่าประเทศ
ก็คือบริษัท) มีหวังผู้รับผิดชอบโดนไล่ออกตั้งแต่เสนอเป้าตัวเลข เพราะจะต้องถูก
ซักถามที่มาของตัวเลขจนตายคาห้องประชุมผู้ถือหุ้นอย่างแน่นอน

หากเป็นองค์กรธุรกิจทั่วไป การตั้งโครงการมาใช้งบประมาณกันส่งเดชแบบนี้
มีหวังถูกให้ออกจากตำแหน่ง และตั้งกรรมการสอบสวน หรือส่งฟ้องศาลไปแล้ว

...

บางโครงการถึงขนาดตั้งตัวเลขจนทำไม่ได้ เช่นกรณีบ้านเอื้ออาทร 4 แสนหลัง
ที่ไม่ทราบไปเอาตัวเลข 4 แสนหลังมาจากไหน  ทั้งที่การเคหะแห่งชาติอยู่มา
ตั้งหลายสิบปียังทำได้ไม่ถึง 1 แสนหลัง แต่นี่กำหนดให้ทำ 4 แสนหลังภายใน
ระยะเวลาแค่ 4-5 ปี  จนเกิดปัญหาวุ่นวายมาถึงปัจจุบัน   โครงการโคล้านตัว
ก็ทำนองเดียวกันทำมาเป็นปีเพิ่งแจกได้ไม่ถึง 4 หมื่นตัวกระมัง..

การบริหารงานส่งเดชทั้งหมดนี้ ฝ่ายการเมืองก็ยังไม่โดนจัดการให้ต้องรับผิดชอบ
หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะดีกว่าถ้าฝ่ายการเมืองอยู่เฉยๆ ทำงานพื้นฐาน
เพราะถ้าบริหารประเทศแล้วไม่ต้องรับผิดชอบ ไม่มีรัฐบาลอาจดีกว่ามีรัฐบาล

นี่ยังไม่นับเรื่องทุจริต คอร์รับชั่น เลยนะครับแค่บริหารโดยไม่รับผิดชอบเท่านั้น