ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => ร้อยรักษ์กวีวรรณ => ข้อความที่เริ่มโดย: softly gun ที่ 09-11-2006, 13:20



หัวข้อ: การศึกษา หรือโดนทะเลคารมจมลง
เริ่มหัวข้อโดย: softly gun ที่ 09-11-2006, 13:20
      การศึกษา หรือโดนทะเลคารมจมลง

              ฉันอยู่ในประเทศเกิดใหม่
ประเทศอะไรไม่มีบอกอยู่ในแผนที่
เกิดเป็นเพียงมโนภาพที่สมองบ่งชี้
กับวจีจำเพาะเจาะจง

   กำเนิดเป็นภาพเริ่มแรกของมนุษย์
ดูใสสะอาดผ่องผุดสูงส่ง
วิถีชีวิตดำรง
คงความคิดเรียนรู้คู่กายา

   เขาสอนให้เยาวชนคนทั้งชาติ
ราษฎร์กับการศึกษา
สอนให้มีการพัฒนา(รู้จำ รู้คิด)
คุณค่า “คน”

   เคารพในกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ใต้องค์ไอยสูรย์มากพ้น(รำพัน)
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
ผลละอบายมุขผดุงคุณธรรมความดี

   สามัคคีกันไว้เป็นเลิศ
ประเสริฐกับความสุขี
กับการรู้จักใช้ชีวี
เศรษฐกิจที่มีพอเพียง

   สิ่งสำคัญที่เมืองฉันหมั่นฝึก
ให้รำลึก กฎ“ความจริง”นิ่งเมื่อผิดอย่าเถียง
ฝึก “อภัย” “ขอโทษ” “ไม่ลำเอียง”
หลีกเลี่ยงความอาฆาต พร้อมคำว่า “เสียใจ”

   ประเทศนั่นคงไม่ใช่ที่นี่(เมืองไทย)
ที่ทุกคนมีสิทธิพูดได้
มีประชาธิปไตย
มีไว้ให้ปราชญ์โอ้อวดคารม

   หลายทศวรรษพัฒนาการศึกษา
ผู้มีวิชาเปลี่ยนไปแปลงมาทับถม
การศึกษาจึงไม่โผล่จากโคลนตม
ค่านิยมอยู่ที่ “ปริญญา”

   เมืองฉันเพียงเท่านั้นท่านนำไปสั่งสอน
เป็นขั้นตอนซ้อนต่อยอดหรือเติมขา
ความรู้ในวิชา
มาพร้อมกับจริยธรรม

   พึงรฤกเสมอ(เขียนเป็นระลึก)
ทวยราษฎร์เจอแต่อุปถัมภ์
มือไม่ได้ใช้ลูบคลำ
ตกระกำเหมือนเป็นง่อย

   ช่วยอะไรช่วยอย่างไรหรือขอให้ช่วยหรือไม่
ช่วยไปผิดบ่อย
สิ่งที่สมควรช่วยได้แต่คอย
เพียงลมลอยลองทำผิดคิดแผนพัง

   อย่าเอาการศึกษาชาติ
หลอกให้เด็กวาดความหวัง
อย่าพึงนำสถาบันมาทดลองกำลัง(สถาบันการศึกษา)
แล้วนั่งคอยดู

   อย่าถามแต่นักปราชญ์
ชาญฉลาดรู้(ไม่จริง)
เอาชีวิตคนหลายล้านคนปู
ทางให้ตนเองเจริญ

   โอ้เสียดายเวลา
การศึกษาต้องมาระหกระเหิน
เพียงหาทางเดิน
ต้องเผชิญกับทะเลคารมจมลง....ฯ

วรรณกวีศรีกรุงไทย, softly gun ลิขิต


หัวข้อ: Re: การศึกษา หรือโดนทะเลคารมจมลง
เริ่มหัวข้อโดย: คนในวงการ ที่ 09-11-2006, 16:21
ยอดเยี่ยมครับคุณ softly gun ขอเอาหินมาล่อหยกหน่อยนะ อิอิ


ก. เอ๋ย ก. ไก่
ตั้งไข่อยู่หลายปี
สงสารประชาชี
มีรัฐมนตรีเล่นตั้งไข่

ด. เด็กหมั่นศึกษา
หวังจะมามหาลัย
เอเน็ตทำร่ำไห้
ทั่นผู้ใหญ่ไงกำหนด

ฒ. ผู้เฒ่าเพราะเกิดนาน
กิจการงานเลยรันทด
เรียนมาปัญญาหด
เลยสลดศึกษาไทย

ฮ. นกฮูกตาโตตาย
เรื่องง่าย ๆ (เลย) ไปกันใหญ่
ปริญญาฤๅอะไร
ทำคนให้ไม่เป็นคน


วรรณกวีศรีกรุงทอง แล กรองทิพย์, คนในวงการ ลิขิต


หัวข้อ: ภาคเหนือมีทะเลกว้างใหญ่
เริ่มหัวข้อโดย: softly gun ที่ 09-11-2006, 20:13
                ภาคเหนือมีทะเลกว้างใหญ่

     ประเทศฉันเมืองฉันไม่ใหญ่
ไม่มีพิษสง
มากหลายเผ่าพันธุ์ดำรง
ยืนยงเป็นชาติอธิปไตย

     แบ่งแยกเหนือใต้ออกตก
เมืองหลวงภาคกลางยกให้
ไม่ได้แบ่งเหมือนไทย
ไว้เพื่อพัฒนา

     ภาคเหนือมีทะเลใหญ่กว้าง
ติดต่อกับต่างประเทศทั่วทิศา
ประชาชนเก่งเรื่องการค้า
ทำมาหารับประทาน

     ชนเผ่ามีความรู้ทางทะเล
ก่อนร่อนเร่อาจหาญ
สู้แหลกตีแตกแหลกลาญ
พ่อค้าอันธพาลหรือนักเลง

     บางครั้งขาขึ้นนำสินค้าขาย(๑)
ขากลับออกลวดลายข่มเหง
ปล้นสะดมข่มขืนมิหวาดเกรง
สินค้ากะเตงเต็มลำ

     ประชาชนภาคนี้นักสู้
เด็กรู้หากินอิ่มหนำ
พอเห็นน้ำก็เห็นกุ้ง หอย ปูปลาจับมาทำ(๒)
อาหารเช้ากลางวันค่ำไม่อดตาย

     เก่งเรื่องการฝีมือ
เล็กใหญ่ฝึกปรือทำขาย
เป็นอุตสาหกรรมต่อเรือใหญ่จนพาย(๓)
อาชีพเลี้ยงกายเพียงพอ

   
     เทวดาผีสางนางฟ้า
ผีน้ำ แม่ย่า ยังขอ
เทพแห่งดาว จันทร์ อาทิตย์ พะนอ
สรรเสริญเยินยอภาวนา

     เป็นขนบธรรมเนียมรวมหมู่
รวมใจชนอยู่ครบหน้า
อยู่หนไหนแห่งไหนกลับมา
ถือว่าเป็นประเพณี

     เมืองฉันจัดให้มีการศึกษา
สำหรับชาวประชาท้องที่
จัดอย่างไรไม่เหมือนเมืองไทยมี
ดีไม่ดีไม่ขอเปรียบเทียบ(ด้วยสาเหตุ กำลังจะพัฒนา)....ฯ

วรรณกวีศรีกรุงไทย
softly gun ลิขิต




หัวข้อ: Re: การศึกษา หรือโดนทะเลคารมจมลง
เริ่มหัวข้อโดย: morning star ที่ 09-11-2006, 22:25
การศึกษา สาระ ระบบแบบ
จัดว่าแคบ ค่อนข้าง ล้าร้างสมัย
คนมีเงิน จ่ายค่า ศึกษาไป
เขาจึงได้ ให้การ ศึกษามา

คนจนจน สนใจ หาใส่ท้อง
มิควรต้อง ตะเกียกตะกาย ใฝ่ศึกษา
เรียนไปใย ได้แค่ใบ ปริญญา
เอามันมา แลกงาน เพียงผลาญแรง

ได้รับเงิน ไม่สมกัน งานก็หนัก
เรียนมามัก ไม่ได้ใช้ ให้เหี่ยวแห้ง
ความรู้ที่ เรียนไป ให้เสียแรง
การศึกษา ไม่ใช่แสง แห่งปัญญา

เมื่อเรียนเรียน เรียนเรียน พากเพียรอ่าน
เรียนเพื่อให้ได้งาน คือเป้าหมายของการศึกษา
แล้วเมื่อไรสมองไทย จะพัฒนา
การศึกษา ของไทย คงจะไม่มีวันเจริญ

...


หัวข้อ: Re: การศึกษา หรือโดนทะเลคารมจมลง
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 10-11-2006, 00:01
จันทร์เจ้าขา ข้าฯขอ ท่านได้ไหม
หากเลือกได้ ขอครู ให้ข้าฯก่อน
ครูดีดี ปลูกฝัง และสั่งสอน
ให้ละอ่อน เติบใหญ่ ในสังคม


ขอความรู้ ให้ข้าฯ ได้ศึกษา
ขอวิชา มีไว้ ให้สั่งสม
เพื่อให้ เป็นคนดี ของสังคม
อย่าปล่อยข้าฯ ต้องจ่อมจม กับฝูงควาย....


 :slime_hmm:


หัวข้อ: Re: การศึกษา หรือโดนทะเลคารมจมลง
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 10-11-2006, 00:28
หากวิชา ความรู้ อันมีค่า
ต้องซื้อหา ใครจะมา ช่วยข้าฯได้
พ่อและแม่ ทำงานหนัก ยิ่งกว่าใคร
เงินที่ไหน จะมีจ่าย ได้ร่ำเรียน


รัฐบาล เจ้าขา ฟังข้าฯก่อน
ข้าฯอ้อนวอน เพราะอยาก ได้อ่านเขียน
อยากฉลาด โตแล้ว จะหมั่นเพียร
ประดุจเทียน ส่องสว่าง สร้างชาติไทย


หัวข้อ: ภาคใต้ไม่หันหน้าลงคลอง
เริ่มหัวข้อโดย: softly gun ที่ 10-11-2006, 11:29


     ๒๕ ลงใต้ประชามีไฟการศึกษา
เมืองฉันจัดงบให้มาเพียบ(ประมาณ)
วิทยาการแข่งขันเฉียบ                                       
ราบเรียบร่มรื่น(ชื่นใจ)                                       

     ๒๖ เป็นชุมชนโบราณใหญ่                               
ศูนย์ร่วมใจมิได้มีเผ่าอื่น(พันธุ์)                               
ศาสนาศรัทธาเคร่งคัดทุกวันคืน
ยืนหยัดด้วยตนเอง

     ๒๗ มีพื้นที่กว้างใหญ่ทำเกษตร(๑)
ขอบเขตเพาะปลูกตรงเผง
ปลูกพืชไร่ได้ไม่หวั่นเกรง
มิวังเวงรัฐจัดให้ปลูกหมดลดจำนวน(ล้นตลาด)

     ๒๘ หลายโรงงานแหล่งนี้(๒, ๓, ๔)
รับผลผลิตที่ไร่สวน
เกษตรกรไม่เดินขบวน
สมควรทราบราคาล่วงหน้าเป็นปี(ซื้อขายล่วงหน้า)

     ๒๙ ประเพณีชาวใต้
บูชาเทพพืชไร่สุขศรี
ฝนฟ้าแสงสุรีย์
มีร่ายรำตามทำนอง

     ๓๐ ชำนาญพื้นฐาน
คือการเพาะปลูกเป็นหนึ่งวิธีใช้พลังงานเป็นสอง
วัวควายต้องใช้ตามครรลอง
ถูกต้องประหยัดพลังงาน(บางเวลา)

     ๓๑ เมื่ออยู่ดีมีใช้
เพียงเสียนิสัยต้องกล่าวขาน
ว่างมาก หยุดนาน
เจือจานการพนัน

     ๓๒ เด็กผู้ใหญ่เป็นไปหมด
รัฐจดให้เล่นอย่างสมานฉันท์(ทะเบียน, พี่น้อง)
เล่นได้เพียงหนึ่งพัน(สตางค์, ผู้ใหญ่)
น้องฉันเล่นได้เพียงยี่สิบห้าสตางค์

     ๓๓ ผู้ใดพนันจนหมด
รัฐกำหนดต้องสะสาง(แจ้งรัฐ)
ที่มาของสตางค์มิอำพราง
อีกอย่างผิดทั้งผู้ให้และผู้ยืมมา(เล่น)

     ๓๔ ทราบพื้นฐานเมืองฉันเล็กน้อย
แล้วค่อยมาดูการศึกษา
ทำอย่างไรพัฒนา
ไม่หันหน้าลงคลอง..........ฯ

วรรณกวีศรีกรุงไทย softly gun ลิขิต




หัวข้อ: ตะวันออกแห้งแล้งกันดาร
เริ่มหัวข้อโดย: softly gun ที่ 11-11-2006, 12:26
          ตะวันออกแห้งแล้งกันดาร

     ๓๕ ตะวันออกแห้งแล้งกันดาร
ผู้บริหารจัดเป็นสอง(พัฒนาประเทศ)
ทำเลทอง
ด้วยการฟื้นฟูแหล่งที่ดิน

     ๓๖ พื้นดินเหือดแห้งแล้งนัก(เมื่อก่อน)
จักฝนตกหนักในท้องถิ่น
เม็ดทรายไม่เก็บ,น้ำต้องไหลริน
หมดสิ้น พืชไร่นาสาโท

     ๓๗ น้ำกินกันดารน่าสงสาร
บาดาลลึกโข
สวดมนต์ตั้งนะโม
ไชโยเมื่อรัฐกระทำ(พัฒนา)

     ๓๘ ผันน้ำจากใต้
แม่น้ำใหญ่หลายสายเลิศล้ำ(มีค่า)
คูคลองชลประทานนำ(ไม่ปล่อยลงทะเล)
ผันน้ำมา

     ๓๙ เดี๋ยวนี้พื้นที่
มีปลูกพืชไร่เฉพาะหน้า(๑)
ผลผลิตเก็บเกี่ยวสั้นทันตา(ใช้น้ำน้อย)
ปัญหาหมดไป

     ๔๐ โรงงานขนาดยักษ์
อุตสาหกรรมหนักจัดให้(สาธารณูปโภค)
แรงงานไว้ใจ(๒)
หาได้ง่ายดาย

    ๔๑ คนงานทำงานดีมีคุณภาพ
ได้รับทราบข่าวสารในหลายสาย
ฝีมือ ปลอดภัย อันตราย(มี, ระวัง)
อีกร่างกายโชคดีมีประกัน

     ๔๒ ผู้เฒ่ารออยู่หมู่บ้าน
มีงานทั้งนั้น
โรงงานให้แยกทำได้ทั้งวัน(เหมา)
ขมีขมันทำหมดไม่อดตาย
 
     ๔๓ การศึกษาประเทศฉันแยกจัด
เร่งรัดขวนขวาย
เฉพาะท้องถิ่นไม่กระจัดกระจาย
ไม่วุ่นวายอพยพมาเรียน(ภาคอื่น)

     ๔๔ ควรจัดอย่างไร?
เด็กได้อ่านเขียน
ขยันหมั่นเพียร
แวะเวียนเทียบทำจำตรอง....ฯ

วรรณกวีศรีกรุงไทย, softly gun ลิขิต


หัวข้อ: เหมือนนครวาติกัน
เริ่มหัวข้อโดย: softly gun ที่ 13-11-2006, 21:36
เหมือนนครวาติกัน

     ๔๕ ภาคตะวันตกเจ้าเอย
รัฐเคยเสนอสนอง
ปัญหาคือประชาไม่มอง
เป็นทองไม่รู้ร้อน

     ๔๖ อาณาเขตอยู่ติดประเทศใหญ่
ประเทศนี้เคยได้จับจองพื้นที่ก่อน
เผยแพร่เผ่าพันธุ์ไม่ขาดตอน(มนุษย์)
พูดสอนได้ใกล้เคียง

     ๔๗ ศาสนาที่ศรัทธา
สวดมนต์ภาวนาสุ่มเสียง
ถ้อยคำสำเนียง
เพียงยินยังรู้หมู่เดียวกัน

     ๔๘ มีปัญหาอย่างไรข้ามไปหา
ไปมาสมานฉันท์
มีความผูกพัน
ยึดมั่นด้วยพระเจ้า

     ๔๙ ภาคนี้ผู้คนน้อย
ค่อยหลบจากป่าเขา
มาตั้งรกรากเอา(ใกล้เมืองเขา)
ประชาชนประเทศเรา, สนทนาเมืองเขาจริง

     ๕๐ เมืองฉันว่าไม่ใช่ปัญหา
ให้ชาวประชาชายหญิง
สามารถเลือกพักพิง
ทิ้งเมืองฉัน ถ้าประเทศนั้นรับ

     ๕๑ ไปได้, แผ่นดินคงอยู่
ประเทศในโลกรู้ทุกระดับ
เพราะมีแหล่งแร่คณานับ
ทรัพยากรธรณี(๑)

     ๕๒ เมื่อต้องการแยกออกมา
ต้องถามชาวประชาพื้นที่(ประชาพิจารณ์)
ให้เวลาสักยี่สิบปี(ศึกษา)
ดีไม่ดีรอไม่นาน

     ๕๓ ตั้งเป็นเมืองใหม่
ได้พื้นฐาน
ศาสน ตระการ
การศึกษารวมอยู่ในนี้

     ๕๔ เหมือนนครวาติกัน
โหวตกันเต็มที่
ยังต้องเคารพภูมี(ประชาชนทุกคน)
บารมีมากพ้นพรรณนา..............ฯ

/มีต่อ
อาศรมวรรณกวีศรีกรุงไทย softly gun ลิขิต


หัวข้อ: เว็ปภาพอุจาด มีกฎหมายควบคุม...
เริ่มหัวข้อโดย: softly gun ที่ 15-11-2006, 13:33
                 เว็ปภาพอุจาด มีกฎหมายควบคุม...

     ๕๕ ภาคกลางและเมืองกรุง
มุ่งเรื่องการศึกษา
วิทยาการใหม่มา
รอท่าตักตวงจ้วงเอา

     ๕๖ สิ่งแปลกปลอมมารู้หมด
จำจดไม่เขลา
ผิดถูกหนักเบา
คาดเดาด้วยหลักการ

     ๕๗ ประชาชีอยู่ดีมีสุข
หมดทุกข์สนุกสนาน
รัฐจัดเรื่องการงาน
อยู่อย่างสมานสามัคคี

     ๕๘ ใครใคร่ค้าได้ค้า
เร็วช้าอาจเป็นเศรษฐี
ไม่จำกัดไพร่ผู้ดี
มีสิทธิทุกคน

     ๕๙ เศรษฐกิจอยู่ที่การส่งออก
บอกไม่สับสน
ภาษีสากล
มาคนมาเคี่ยวกระจายไป(พัฒนา)

     ๖๐ ทุกคนเคารพหน้าที่
ที่มีกฎวางไว้
เช่นรายได้อื่นใด
เต็มใจจ่ายภาษีให้ตามกำหนด(เกณฑ์)

     ๖๑ ภาคนี้ได้ความเป็นอารยะ
พัฒนะไม่ละลด
คณะรัฐบาลใสสะอาดหมด
ไม่คดโกง

     ๖๒ สื่อจากต่างประเทศ
ขอบเขตโอ่โถง(กว้างไกล)
อินเตอร์เน็ตเชื่อมโยง
โครงเค้าก้าวทันเทคโน

     ๖๓ เปิดอย่างอิสระไม่ปิดกั้นสื่อ
มือถือฮัลโล
เวปภาพออกโชว์
ภาพโป๊ภาพเปลือยอุจาดตา

     ๖๔ เมืองฉันกำหนดให้ผู้เผยแพร่
แค่การศึกษาหรือหรรษา
กำหนด เรส อาร์
มาควบคุมเยาวชน

     ๖๕ รัฐเอาโทษผู้กระทำผิด
จึงมีประกาศติดไว้ทุกหน(แห่ง)
อายุที่มีสิทธิยล
ผู้คนต้องช่วยกันคุม

     ๖๖ ลงโทษผู้โพสท์ภาพไม่ระบุเกรด
ให้ขอบเขตไม่มั่วสุม
ผู้ปกครองร่วมประชุม(ร่วมรัฐ)
ช่วยรุมกันร่างให้รัฐปกครอง...........ฯ

อาศรมวรรณกวีศรีกรุงไทย
softly gun ลิขิต


หัวข้อ: ตำรวจตรวจแหลก
เริ่มหัวข้อโดย: softly gun ที่ 07-12-2006, 20:13
     ๖๗ สังคมพื้นฐานบ้านฉัน
แยกจากกันเป็นสอง
(หนึ่ง)การเมืองตามครรลอง
เรียกร้องการปกครองตามมา

     ๖๘ (สอง)การพัฒนาหลายหลาบ
สุขภาพ, การศึกษา
เศรษฐกิจ, อาชีพ นำพา
การค้า,  แหล่งผลิตนอกใน

     ๖๙ เมื่อได้หลักการพื้นฐาน
แยกจากงาน ขานไข
ประชานิยมทั่วไป
ความสุขที่ได้พอเพียง

     ๗๐ ความสงบเรียบร้อย
ดังค่อยปรับเสียง
ตำรวจมิลำเอียง
เข้าเถียงเข้าข้างฝ่ายเดียวกัน

     ๗๑ ยุติธรรมเบื้องต้น
ชนไม่เหยียดหยัน
ผู้ใดผิดไม่ช่วยมัน
ดุนดันให้รับโทษ

     ๗๒ ตำรวจอวดใหญ่
โน่นอยู่ในโกษ
ฟ้าดินพิโรธ
โกรธเกลียดถึงนรก

     ๗๓ ตำรวจบ้านฉัน
แยกกัน ไม่โกหก
จึงมาเล่าให้ฟัง ทั้งหยิบยก
คล้ายเรื่องชาดกโบราณ

     ๗๔ หมู่บ้านฉันเรียก “วิลเลจ” (อ่านว่า วิน-เล็ท นะครับ)
ขอบเขตสัณฐาน
กว้างขวางพอประมาณ
มีพ่อบ้าน(นายกเทศมนตรี) ผู้นำ(ปกครอง)

     ๗๕ ตำรวจตรวจแหลกต้องขึ้นกับที่วิลเลจนี่
ดีชั่วมั่วถลำ
เปื้อนเปรอะเลอะดำ
สภาบ้านทำลงโทษปลดเสีย

     ๗๖ มีเข้ากับปลดไม่มีย้าย
ไม่มีนาย, วิ่งแข่งตำแหน่งไร่เรี่ย
ไม่มีสื่อช่วยเชียร์
ลูกเมียตำรวจเท่าเทียมกัน

     ๗๗ สังคมมีความสงบ
หน้าที่ทำครบ, ตำรวจบ้านฉัน
สงบเรียบร้อยฉับพลัน
ขยันลูกเมียทำมาหากิน

     ๗๘ บ้านฉันพัฒนาเพียงนิด
เศรษฐกิจนิยม, โผผิน
ฟุ้งเฟ้อบ้าเห่อโบยบิน
เพียงได้ยิน “ฟาสต์ฟูด” อาเจียน

     ๗๙ เพราะฉะนั้นจึงเรืองรุ่ง
เด็กยุ่งแต่อ่านเขียน
อบายมุขเลิก(ยุ่ง)มุ่งแต่เรียน
พากเพียรให้ผู้ปกครองพอใจ

     ๘๐ ยังมีอีกมาก
ไม่ยาก, สังคมไปไหว
ชุมชนไปรอดปลอดภัย
เริ่มได้ แผนพัฒนาการเรียนรู้ (การศึกษา)....ฯ

/อาศรมวรรณกวีศรีกรุงไทย, softly gun ลิขิต.