ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

รถไฟฟ้าแหกโค้งสัมปทาน รัฐประเคน 5 สายใส่ พานให้เอกชนผูกขาด
 
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล 5 สาย โดยมีภาครัฐและเอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ.การร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน 2535 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะรับฟังความคิดเห็นในทุกๆด้าน เช่น ด้านสิ่งแวดล้อม ความเหมาะสมของเส้นทางจากประชาชน โดยจะใช้เวลา 2 เดือน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจของ ครม.ในภาพรวมอีกครั้งว่าจะดำเนินการกันอย่างไร

ด้าน พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า รถไฟฟ้าจำนวน 5 สาย รวมระยะทาง 118 กม. วงเงินงบประมาณลงทุน 165,402 ล้านบาท ดำเนินการระหว่างปี 2549-2555 รูปแบบการลงทุนทางภาครัฐจะเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะการก่อสร้างระบบราง ส่วนระบบอาณัติสัญญาณ และระบบรถไฟฟ้า ให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน คาดว่าภายในปี 2550 จะเริ่มก่อสร้างได้ในบางเส้นทาง

ขณะที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า หลังรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน หากไม่มีการคัดค้านจะกำหนดเงื่อนไขการเปิดประมูล (ทีโออาร์) พร้อมเปิดขายซองประมูลให้กับผู้ที่สนใจได้ภายในเดือน มี.ค.2550 สำหรับงบประมาณการลงทุน จะได้ข้อสรุปในอีก 2 เดือน โดยในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานที่ภาครัฐดำเนินการเองนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน อีกส่วนเป็นการกู้เงินทั้งในและต่างประเทศ อาทิ การกู้ยืมธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิก)

สำหรับรูปแบบการก่อสร้างจะใช้รูปแบบการออกแบบให้เสร็จแล้วก่อสร้าง (ดีเทลดีไซน์) ทั้ง 5 สาย แต่จะมีบางส่วนของเส้นทางส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินที่ต้องทำในลักษณะออกแบบไปก่อสร้างไป (ดีไซน์แอนด์บิ้ว) เนื่องจากติดปัญหาเรื่องเวนคืน และต้องทำเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน ทั้งนี้ การก่อสร้างในลักษณะออกแบบให้แล้วเสร็จ จะสามารถก่อสร้างรถไฟฟ้าได้ทั้ง 5 เส้นทาง ในวงเงิน 165,402 ล้านบาท จากเดิมวงเงินดังกล่าว จะก่อสร้างรถไฟฟ้าได้ 3 เส้นทาง

สำหรับรถไฟฟ้าทั้ง 5 สายได้แก่ 1. สายสีน้ำเงิน จากหัวลำโพง-ท่าพระ และจากบางซื่อ-ท่าพระ-บางแค ระยะทาง 27 กม. วงเงิน 52,581 ล้านบาท 2. สายสีม่วง จากบางใหญ่-บางซื่อ ระยะทาง 23 กม. วงเงิน 26,160 ล้านบาท 3. สายสีแดง มี 2 เส้นทางจากรังสิต-บางซื่อ-ตลิ่งชัน และบางซื่อ-มักกะสัน-หัวหมาก ระยะทาง 59 กม. วงเงิน 53,985 ล้านบาท 4. สายสีเขียว มี 2 เส้นทาง จะเป็นส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่วงสถานีตอนหมอชิต-ตลาดยิ่งเจริญ-สะพานใหม่ ระยะทาง 13 กม. วงเงิน 14,737 ล้านบาท 5. สายสีเขียว ช่วงซอยแบริ่ง สำโรง-สมุทรปราการ ระยะทาง 14 กม. วงเงิน 14,939 ล้านบาท

รถไฟฟ้าทั้ง 5 สายจะใช้ระบบตั๋วรวม เพื่อให้กับประชาชนสามารถเดินทางเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายต่างๆได้ ส่วนอัตราค่าบริการจะกำหนดในอัตราที่เหมาะสมและเป็นธรรม ซึ่งจะมีการพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง

ขณะที่นายไมตรี ศรีนราวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินการจากเดิม ออกแบบพร้อมก่อสร้าง หรือดีไซน์แอนด์บิ้ว มา เป็นรัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนเอกชนลงทุนระบบเดินรถ ช่วยให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณได้ 45,000 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงคมนาคมว่า สำหรับโครงการรถไฟฟ้าเดิม 3 สายนั้น มีมูลค่าลงทุน 167,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนในระบบเทิร์นคีย์ที่ให้เอกชนเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและระบบรถไฟฟ้าให้แก่รัฐก่อนและรัฐจะจ่ายเงินก่อสร้างพร้อมดอกเบี้ยในภายหลัง ทั้งนี้ เพื่อที่รัฐจะได้เป็นเจ้าของระบบรถไฟฟ้าและดำเนินการบริหารโครงการเองเพื่อให้ สามารถควบคุมอัตราค่าโดยสารและการเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้งหมดให้เป็นระบบเดียว

ส่วนการปรับเปลี่ยนโครงการลงทุนรถไฟฟ้าใหม่เป็น 5 สาย มูลค่าลงทุน 165,402 ล้านบาทครั้งนี้ ได้ตัดในส่วนของระบบรถไฟฟ้าและอาณัติ สัญญาณต่างๆออกไป โดยรัฐจะลงทุนเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานระบบรางเท่านั้น และเปิดให้เอกชนเข้ามา ลงทุนในระบบรถไฟฟ้าพร้อมรับสัมปทานไปแทน ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่บริษัทบีเอ็มซีแอลเป็นผู้ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเรื่องยากที่รัฐจะควบคุมอัตราค่าโดยสารและต้นทุนดำเนินงาน นอกจากนี้ การที่รัฐเลือกใช้รูปแบบการให้สัมปทาน ยังจะเป็นปัญหาทั้งในเรื่องของการประมูลจัดหาเอกชนเข้ารับสัมปทานที่ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1-2 ปี และยังต้องพิจารณาเรื่องผลประโยชน์ตอบแทนแก่รัฐอันจะทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของค่าโดยสารในอนาคตอย่างแน่นอน.
 
ไทยรัฐ

มีเวลาแค่ปีเดียวจะทำอะไรก็รีบทำ แต่ระวังติดคอด้วยนะท่าน

โดยรัฐจะลงทุนเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานระบบรางเท่านั้น และเปิดให้เอกชนเข้ามา ลงทุนในระบบรถไฟฟ้าพร้อมรับสัมปทานไปแทน ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่บริษัทบีเอ็มซีแอลเป็นผู้ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเรื่องยากที่รัฐจะควบคุมอัตราค่าโดยสารและต้นทุนดำเนินงาน

โธ่พรรคการเมืองอุตส่าห์หาเสียงจะคุมราคาค่าโดยสาร นี่มาจากไหนก็ไม่รู้ไปเอาแบบเดิมเฉย เดินทางตลอดสายหรือข้ามสัมปทาน
ไม่ล่อไปเที่ยวละร้อยกว่าบาทเลยเหรอ ตอนนี้จากศูนย์วัฒนธรรมไปสนามเป้ากี่บาทเนี่ย

สร้างเพื่ออะไรนะ     แล้วถ้าราคาไม่ใช่  15 บาทตลอดสายแบบที่เขาบอกไว้จะทำยังไง
ใครจะกล้าใช้บริการคับ

ยังไงก็อย่าให้เห็น  ผลประโยชน์ทับซ้อนล่ะครับ  ผู้บริหารประเทศ 

รู้ได้ ไง ครับ ชอบแถ ว่าราคาจะร้อยบาท

ยังไงๆ มันก้อไม่น่าจะเป็นราคานี้อยู่แล้ว ช่วงทักสินโปรโมชั่น มันก้อหยอดไปทั่ว ถ้าทำจริงเงินจะเอามาโปะส่วนต่างยังไม่รู้จะไปดึงก้อนไหนมาใช้เล้ยย

เฮ้อ...สร้างก้อด่า ไม่สร้างก้อด่า ใช่มั้ยล่ะครับ ?

15 บาทตลอดสาย ใครก็พูดได้ แต่ทำได้หรือเปล่า
เดี๋ยวก็เหมือน 30 บาทรักษาทุกโรค เอาขี้ไปซ่อนไว้ด้านหลัง
ให้คนอื่นมาตามล้างตามเช็ดกันเอง

อ้าว แล้วคราวนี้ ค่าโดยสารจะควบคุมได้เหรอ  :slime_o:

แค่ที่มีสั้นๆ มันก็สี่สิบบาทแล้ว ถ้ายาวๆ สองต่อจะให้มัน ห้าสิบบาทหรือไงครับ แล้วถ้าต้องสามต่อล่ะ

เรื่องเร่งด่วนมากมายดันไม่ทำ
ทะลึ่งจริงๆ อยากจนหน้ามืด ตามัว  :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_smile2:

มีบอร์ดดีๆ มาแนะนำคับ

http://www.thairakthai.or.th/application/talk/clinic2_qlist.asp?categoryid=1&PagePos=2

1. ต้องพูดให้ชัด ๆ เอา เงินจากการแลกเปลี่ยนสินค้าไปทำเหมือนรัฐบาลที่แล้วหรือเปล่า

2. ต้องการความชัดเจนให้ต่างชาติ ไม่ตระหนกหรือเปล่า

3. วิธีประมูล แตกต่างและโปร่งใสกว่ารัฐบาลที่แล้วหรือไม่

พุดง่าย ๆ ทำเหมือนกัน แต่ก็ไม่เหมือนกัน

คราวที่แล้ว เสี่ยเพ้งยังวิ่งหาเงินกู้เหย็ง ๆ เพราะ ญี่ปุ่นให้เครดิตมาไม่พอที่จะทำ ต้องมากู้ในประเทศหรือออกพันธบัตร

ไม่พอใจ ขสมก. ครีมแดง มีครับ