หัวข้อ: ผลพวงจากสงครามข่าวสาร ยังมีผลต่อจิตใจของเหยื่อในสถานการณ์ เริ่มหัวข้อโดย: Killer ที่ 30-10-2006, 17:13 จากการวิเคราะห์ วิจัยและประเมินผล 40 วันผ่านไปหลังจากเกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจอันน่ารื่นรมย์
ซาบซึ้งตราตรึงใจ จนน้ำหูน้ำตาไหลกันทั้งบ้านทั้งเมือง เป็นที่ปลาบปลื้มจนแทบคุมสติกันไม่อยู่ แต่ยังมีคนบางกลุ่ม บางจำพวก ยังหลงละเมอ นอนสะดุ้งหวาดผวา เวลาเห็น หรือว่าได้ยิน อะไรที่เกี่ยวกับ ดร.ทักษิณ นี่แสดงให้เห็นถึงอาการเครียดที่ยังคงมีอยู่ ถ้าปล่อยเอาไว้ระวังจะเป็นโรคจิตขั้นรุนแรงได้ เลยเอาบทความมาฝากกันไว้ สำหรับมือใหม่เอี่ยม ที่ไม่เคยผ่านสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมือง เอาไปพิจารณาดู และหาทางเยียวยาตนเอง ก่อนที่จะเป็นอันตรายต่อสังคมส่วนรวมได้ ถ้าหากปล่อยไว้ กลุ่มอาการเครียดจากการเมือง ( Political Stress Syndrome : PSS ) ไม่ใช่โรค ที่เกิดจากปัญหาทางสุขภาพจิต แต่เป็นปฏิกิริยาของอารมณ์และจิตใจ ที่เกิดขึ้น กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่มีความสนใจปัญหาทางการเมือง ติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด หรือ เอนเอียงไปทางกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จนทำให้มีอาการทางกาย จิตใจ และกระทบต่อสัมพันธภาพกับผู้อื่น ที่สำคัญคือความคิดคาดการณ์ที่นำไปสู่ความรู้สึกวิตกกังวล หรือกังวลต่อเหตุการณ์ในอนาคต(anticipatory anxiety) เช่น กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงเฉกเช่นอุบัติการณ์ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นพฤษภาทมิฬ มหาวิปโยคสิบสี่ตุลาหนึ่งหก(14 ต.ค 2516) เหตุการณ์รุนแรงในวันที่ 6 ตุลาคม 2518 เป็นความหวั่นวิตกที่แฝงอยู่ในใจคนส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะคนที่คลั่งไคล้การเมือง คอยติดตามข่าวสารและได้รับข้อมูลการวิเคราะห์เจาะลึกอยู่เนือง ๆ ทั้งข้อมูลที่ผ่านและไม่ผ่านการกลั่นกรองอุบัติการณ์ 1 ใน 4 ของประชากร ขณะนี้มีปัญหาสุขภาพจิต บุคคลที่มีความเสี่ยง 1. กลุ่มนักการเมือง 2. กลุ่มสนับสนุนทั้ง 2 ฝ่าย 3. กลุ่มผู้ติดตาม 4. กลุ่มผู้สนใจข่าวสารการเมือง 5. กลุ่มผู้มีปัญหาสุขภาพจิต ลักษณะกลุ่มอาการ 1. อาการทางกาย - ปวดศีรษะ, ปวดกล้ามเนื้อ, ตึงบริเวณขมับ,ต้นคอ หรือตามแขน ขา - นอนไม่หลับ, หลับๆตื่นๆ หรือหลับแล้วตื่นกลางคืนไม่สามารถหลับต่อได้ - ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติทั้งที่อยู่ในสภาพปกติ - หายใจไม่อิ่ม อึดอัดในช่องท้อง - แน่นท้อง ปวดท้อง อึดอัดในช่องท้อง - ชา ตามร่างกาย 2. อาการทางใจ - วิตกกังวล ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา - หงุดหงิดง่าย โกรธ ฉุนเฉียว ก้าวร้าว - เบื่อหน่าย ท้อแท้ หมดหวัง สิ้นหวัง รู้สึกไม่มีทางออก - สมาธิไม่ดี ฟุ้งซ่านหรือหมกมุ่นมากเกินไป 3. ปัญหาพฤติกรรมและสัมพันธภาพกับผู้อื่น - มีการโต้เถียงกันกับผู้อื่น หรือแม้แต่บุคคลในครอบครัวโดยใช้อารมณ์ตั้งแต่ปานกลาง ถึงรุนแรง โดยไม่สามารถยับยั้งตนเองได้ - มีความคิดที่จะตอบโต้โดยใช้กำลังในการเอาชนะ - มีการลงมือทำร้ายร่างกายเพื่อตอบโต้ - มีการเอาชนะทางความคิดกับคนที่เคยมีสัมพันธภาพที่ดีมาก่อนจนทำให้เกิดปัญหาด้านสัมพันธภาพอย่างรุนแรง หากมีอาการเหล่านี้ในทั้ง 3 กลุ่มอาการ แนะนำให้ปฏิบัติ ดังนี้ 1. หันเหความสนใจไปเรื่องอื่น 2. ลดความสำคัญของปัญหาลงมาชั่วขณะ ให้ความสำคัญกับเรื่องเร่งด่วน ตามหลักอื่นๆบ้าง 3. หาทางระบายออกโดยเลือกผู้ที่มีแนวคิดใกล้เคียงกัน 4. ออกกำลังกายและพักผ่อน 5. ฝึกวิชาผ่อนคลายตัวเอง เช่น - ฝึกสติและสมาธิ - ฝึกโยคะ - ฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เช่น การกำหนด ลมหายใจเข้า - ออก 6. หันหาวิธีการที่ทำให้สงบ อาจจะใช้ศาสนามาช่วยขัดเกลาจิตใจ เพื่อปล่อยวาง ซึ่งอาการดังกล่าวจะหายไปได้เอง เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง หรือละความสนใจไปในเรื่องอื่นบ้าง หากมีอาการทั้งหมดเกินกว่า 1 สัปดาห์ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ ศึกษาความรู้เพิ่มเติมหรือขอรับบริการปรึกษา ได้ที่ - www.dmh.go.th - คลินิกคลายเครียด ในสถานบริการสุขภาพจิตทั่วประเทศ - โทรศัพท์สายด่วน 1323 รวม 17 คู่สาย ในกรณีที่สายไม่ว่างหรือติดต่อไม่ได้ ให้ฝากข้อความได้ที่ โทรศัพท์อัตโนมัติ หมายเลข 1667 (140 คู่สาย) - บริการให้การปรึกษาผ่านระบบอิเลคโทรนิก (msn) ทาง e-mail address : counseling_sty@hotmail.com จันทร์ - ศุกร์ (16.00 - 24.00 น.) และ เสาร์ - อาทิตย์ (08.00 - 24.00 น.) หัวข้อ: Re: ผลพวงจากสงครามข่าวสาร ยังมีผลต่อจิตใจของเหยื่อในสถานการณ์ เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 30-10-2006, 18:00 หมดมุขแว๊กขนหน้าแข้งแม้วแล้วเหรอ... ถึงต้องเอาตำราหมอมากาง :slime_bigsmile:
รู้สึกว่าจะตีพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ แล้วมีคนแปะบทความนี้ไปหลายรอบแล้ว :slime_hmm: หัวข้อ: Re: ผลพวงจากสงครามข่าวสาร ยังมีผลต่อจิตใจของเหยื่อในสถานการณ์ เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 30-10-2006, 21:14 ........................
|