ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ด้วยความร่วมมือจากองค์กรอิสระที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง พรรคการเมืองใหญ่ที่ต้องการเป็นรัฐบาลใหม่อีกครั้งหนึ่ง หลังจากถูกประชาชนทั่วภูมิภาคขับไล่ให้พ้นตำแหน่งนายกฯ เพราะขาดความชอบธรรมและจริยธรรมในการเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว จึงจัดการเลือกตั้งอย่างกระชั้นชิด แก้ไขเงื่อนไข ให้แปลกพิสดารเพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับพรรคการเมืองใหญ่ที่เป็นผู้แต่งตั้ง...

ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้ พรรคการเมืองใหญ่เป็นพรรคเดียวที่มีความพร้อม รู้ล่วงหน้า ใช้แผนการเลวร้ายหยุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้งกระชั้นชิดให้องค์กรอิสระปฎิบัติตาม  ไม่ให้พรรคการเมืองอื่นหรือสมาชิกในพรรคฯที่ต้องการแตกแยกออกไปตั้งตัวทัน....ได้สมาชิกฯเข้าสภาผู้แทนฯเกือบทั้งหมด

ผลการเลือกตั้งวุฒสมาชิกที่ผ่านไป จึงมีกลไกทำให้วุฒิสมาชิกส่วนใหญ่เป็นญาติมิตรของครอบครัวนักการเมืองเก่า อดีตสมาชิกสภาฯเก่า ไม่ว่าจะเป็น ผัว เมีย พ่อ แม่ ลูกชาย ลูกสาว ลูกสะใภ้ ลูกเขย พี่ชาย และน้องสาว เป็นต้น...


การเลือกตั้งสนามสภาผู้แทนราษฎรทั้งประเทศและวุฒิสภา ที่เป็นอยู่นี้ เป็นผลพวงจากเสี่ยทักษิณมีความเชื่อว่า"ประชาธิปไตยเป็นเพียงเครื่องมือเท่านั้น มิใช่เป็นเป้าหมาย" เป็นเครื่องมือใช้สำหรับเลือกตั้งผู้แทนประชาชนหรือราษฎร เข้าไปในรัฐสภา แล้วผู้แทนราษฎรในรัฐสภาเลือกคนที่เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาลบริหารประเทศไปตามเป้าหมายของพรรคการเมือง และอ้างอิงรัฐธรรมนูญเพื่อสร้างความชอบธรรมแบบศรีธนชัย....

หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีจะบริหารราชการแผ่นดินตามใจชอบ แต่อย่างไร เลวร้าย ฉ้อราษฎรบังหลวงอย่างไร ก็ไม่เป็นไร ขอให้สินน้ำใจ ให้สัญญาเอื้ออาทรแก่รากหญ้า โดยใช้ภาษีของประชาชนทั้งประเทศ หรือจะกล่าวอีกทีภาษีจากคนชั้นกลางที่เสียภาษีตามเงินเดือน ตามรายได้หลีกเลื่ยงไม่ได้.... 

จึงมีนักธุรกิจการเมืองเห็นช่องว่างของรัฐธรรมนูญและกติกาการเลือกตั้งลงขันลงทุนจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อสิทธิจากประชาชนระดับรากหญ้าที่ต้องการขายเสียง เพื่อเป็นคณะรัฐบาลบริหารประเทศไทยต่อไป.....


ในขณะที่อ้างอิงว่าเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นคณะรัฐมนตรีจากการเลือกตั้ง จากรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ แต่ไม่ยอมรับสิทธิการแสดงออกของประชาชนที่ต้องการตรวจสอบภาคประชาชน และ อารยะขัดขืนที่ไม่ยอมรับการได้มาของฐานคะแนนเสียงเลือกตั้งที่ได้มาอย่างฉ้อฉล และการสนับสนุนขององค์กรอิสระที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง.....!


ผลการเลือกตั้งทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ทำให้ประชาชนหมดศรัทธาต่อเสี่ยทักษิณและคณะกรรมการ กกต.ที่เสี่ยทักษิณตั้งมากะมือ ทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมนิ่งเฉย ไม่ยอมสยบจำนวน แสดงออกการไม่ยอมรับและนับถือ ด้วยการฉีกบัตรเลือกตั้ง ผิดกฎหมายที่บัญญัติไว้เพื่อแสดงออกถึง อารยะขัดขืนต่อรัฐบาลรักษาการและรัฐบาลใหม่ในอนาคตที่เป็นพรรคพวกเดียวกัน.....



เสี่ยทักษิณ แกนนำพรรคไทยรักไทย และสาวกฯ หวอรูม เห็นพ้องต้องการว่า การฉีกบัตรเลือกตั้ง เป็นการละเมิดกฎหมาย แต่ไม่ยอมคิดว่า การดำเนินการเลือกตั้งที่ผ่านมา ฉ้อฉล เอารัดเอาเปรียบอย่างไร  ?

หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณประกาศ "เว้นวรรค" ปรากฏว่ามีการเปิดตัวของกลุ่มก๊วนต่างๆ อย่างเปิดเผย ไม่ปิดบัง

ไม่ว่า กลุ่มวังน้ำยมได้เรียกประชุม ส.ส. ของกลุ่มเกือบ 100 ชีวิต ที่บ้านพักย่านสนามบินน้ำของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา

และตามด้วยการปรากฏตัวขึ้นของ "กลุ่มบ้านริมน้ำ" อันประกอบส่วนขึ้นจาก นายสนธยา คุณปลื้ม นายสรอรรถ กลิ่นประทุม และ นายสุชาติ ตันเจริญ ซึ่งว่ากันว่ามี ส.ส. ในสังกัด 62 ชีวิต

ซึ่งยังไม่รวมถึงวังพญานาค ของ นายพินิจ จารุสมบัติ

กลุ่มวังน้ำเขียวของ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ

กลุ่มกรุงเทพมหานครของ นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

กลุ่มวังนำเย็นที่แม้จะขาดผู้นำ แต่ก็มีการจับตัวเป็นกลุ่มก้อนพร้อมที่จะเป็นเงื่อนไขและตัวแปรในพรรคได้ตลอดเวลา

ยังไม่รวมถึง "กลุ่มทุน" ที่รับจัดส่งเสบียงกรังเข้าคลังพรรคอีก ซึ่งมาจากกระเป๋าตังค์ของ ประชา มาลีนนท์, อดิศัย โพธารามิก, ประยุทธ มหากิจศิริ, ธนินทร์ เจียรวนนท์ และ เจริญ สิริวัฒนภักดี

และแน่นอน ย่อมต้องรวมถึงวังจันทร์ส่องหล้า ด้วย

การปรากฏตัวของ วัง หรือ กลุ่ม ก๊วน เหล่านี้ คงไม่จบลงที่การต่อรองเรื่องผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แทน พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น

หากแต่น่าจะมีการต่อรองอย่างถึงพริกถึงขิง ถึงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองตั้งแต่เก้าอี้รัฐมนตรี, ประธานคณะกรรมาธิการ, ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล), คณะกรรมการบริหารพรรค ฯลฯ

ซึ่งนี่ย่อมมองเห็นอนาคตอันใกล้ว่า จะยุ่งเหยิงวุ่นวายขนาดไหน



ความคาดหวังว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะใช้อำนาจเพื่อสยบกลุ่มการเมืองเหล่านี้ให้เชื่องเหมือนเดิมคงไม่ได้อีกแล้ว

เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้อยู่ในฐานะที่แข็งแกร่งอีกต่อไป เพราะในด้านหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังต้องเผชิญกับกระแส "ท้ากกก สิน ออกไป" แม้ว่าในขณะนี้ จะมีภาพการรุกไล่เช็คบิลแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ โดยอาศัยกลไกรัฐ และการดำเนินคดี

แต่พลังเสียง "โนโหวต" ที่ยืนเป็นแบ๊คให้กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ยังคงเหนียวแน่น พร้อมที่จะออกมาแสดงพลังตอบโต้ พ.ต.ท.ทักษิณ หากมีการรุกไล่จนเลยขอบเขตที่จะยอมรับได้

ขณะเดียวกัน การที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องจำใจถอยออกไปเป็นคนนอก ย่อมทำให้ "ความเบ็ดเสร็จเด็ดขาด" ลดน้อยถอยลงอย่างมาก

แม้ว่าอำนาจภายในพรรคไทยรักไทยจะยังคงอยู่ในกำมือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่แปรเปลี่ยน แต่กลุ่มก๊วนต่างๆ ที่รวมตัวกันเหนียวแน่น ก็คงไม่ตัวสั่นงันงกยอมอยู่ภายใต้อิทธิพลของหัวหน้าพรรคเช่นเดิมแน่นอน

การต่อรอง-แลกเปลี่ยน ย่อมเป็นไปอย่างเข้มข้นแน่นอน

http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=0406210449&srcday=2006/04/21&search=no



ระบอบประชาธิปไตยไทยๆ แบบเสี่ยทักษิณ ที่รวบรวม กวาดต้อนกลุ่มนักธุรกิจการเมือง ทุนนิยมใหญ่เจ้าของธุรกิจที่ต้องพัวพันหรือรับสนับสนุนจากข้าราชการการเมืองหรือข้าราชการประจำนั้น จัดตั้งรัฐบาล โดยแบ่งสรรตำแหน่ง แบ่งสรรผลประโยชน์ให้กลุ่มทุนนิยมที่สนับสนุน มากน้อย ขึ้นอยู่กับจำนวน"มือ"ของสส.ในวัง ในคุ้ม ในซุ้ม ในบ้าน  เป้าหมายเป็นรัฐบาลเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากสัมปทาน โครงการ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ และผลประโยชน์ทับซ้อน กีดกันกลุ่มผลประโยชน์ นักธุรกิจที่ไม่เข้ารวมกลุ่มด้วย ....

เสี่ยทักษิณจะไม่สามารถทำได้ง่ายๆ อีกแล้ว เพราะ 5 ปีที่ผ่านไป หัวหน้ากลุ่มวัง กลุ่มคุ้ม กลุ่มซุ้ม ได้รับรู้แล้วว่า เสี่ยทักษิณได้รวบรัด รวบยอดผลประโยชน์ชิ้นโต มหาศาลให้กับเด็นในบริษัท ในบ้าน และเด็กข้างรั้วไปบริหารจัดการ เหลือเพียงส่วนน้อย ตกหล่นให้พวกเขา....

แม้ว่าอำนาจภายในพรรคไทยรักไทยจะยังคงอยู่ในกำมือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่แปรเปลี่ยน แต่กลุ่มก๊วนต่างๆ ที่รวมตัวกันเหนียวแน่น ก็คงไม่ตัวสั่นงันงกยอมอยู่ภายใต้อิทธิพลของหัวหน้าพรรคเช่นเดิมแน่นอน

การต่อรอง-แลกเปลี่ยน ย่อมเป็นไปอย่างเข้มข้นแน่นอน

เอาไว้คอยดูหากเปิดสภาได้ หน้าเหลี่ยมจะใช้สภาควบคุมการทำงานของรัฐบาลในลักษณะใหน

มันจะกลับไปสู่ระบอบรัฐสภา อย่างที่อยากให้เป็นมั๊ย

แต่เล่นยังไงก็คงเล่นได้ ก็สส.ไม่มีฝ่ายค้าน เล่นยังไงก็เล่นไปเหอะ ดูยังไงมันก็ตลกอยู่ดี

เหลี่ยมเขาเพี้ยนจริงๆ   :shock:

อืม....ยิ่งพูดมาก ยิ่งเผยไต๋มาก

ชักทนไม่ได้ ทำไมผู้นำประเทศเราเป็นคนแบบนี้... - -"

เด็กๆเข้ามาบ่นๆน่ะค่ะ ไม่เข้าหูใครขอโทษด้วย

ผมคิดว่าต้นเหตุของปัญหาคือ การยุบสภาที่ไม่มีเหตุผลอันควร

ในการปฏิรูปการเมืองยุค 2 ควรนำเรื่อง "อำนาจในการยุบสภา" มาพิจารณาให้ถ่องแท้

สาเหตุใดบ้างที่รัฐบาลมีอำนาจยุบสภา

ถ้าปล่อยลอย ๆ แบบนี้...เกรงว่าจะเป็นการเอาเปรียบสภามากเกินไป

เพราะการถ่วงดุลโดยระบอบรัฐสภา ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายรัฐบาลได้ ตั้งกติกาซะเข้มแข็ง

แต่สาเหตุแห่งการยุบสภา กลับเลื่อนลอยไร้กฎเกณฑ์

ถึงเสี่ยทักษิณจะยุบสภาและไม่สั่งให้ กกต. กำหนดวันเลือกตั้งกระชั้นชิดอย่างนั้น ผมก็คิดว่าเป็นเกมการเมืองที่เสี่ยทักษิณ มีสิทธิทำได้ แม้ว่าจะไม่สง่างาม ไม่เปิดเผยเท่าที่ควร....

การที่ 3 พรรคการเมืองฝ่ายค้าน ประท้วง เพราะเสี่ยทักษิณ เอารัดเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น รู้ว่าพรรคของเสียพร้อมที่จะเลือกตั้ง เพราะเสี่ยเป็นคนกำหนดวันเลือกตั้งกะมือ....

การประท้วงไม่ลงเลือกตั้งนั้น เสี่ยและพรรคฯ ไม่ได้คิดถึง นึกไม่ถึง 3 พรรคการเมืองจะกล้าหาญอย่างนั้น ทำให้เกิดปัญหา คนของเสี่ยฯ จะไม่ได้ 20 เปอร์เซ็นในเขตเลือกตั้งทุกเขต จึงต้องจัดหา จ้างวานพรรค นอมินีเอิกเกริกอย่างนั้น...

ดังนั้นเสี่ยทักษิณ จึงสมควรถูกตำหนิมากที่สุด ทำให้ประเทศเสียเงินจากภาษีประชาชนอย่างไม่สมควรแก่เหตุ.......