ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: Limmy ที่ 17-10-2006, 21:29



หัวข้อ: สมการของอาจารย์ปราโมทย์
เริ่มหัวข้อโดย: Limmy ที่ 17-10-2006, 21:29
http://mgr.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000129247


อยากให้อ่านงานของ ปราโมทย์ นาครทรรพ เรื่อง ใครจะชนะสงครามแย่งประชาชน : ระบอบทักษิณหรือประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ใน ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันนี้ที่แจกแจงว่าการยึดอำนาจครั้งที่ผ่านมาสำเร็จเพราะสมการ P + K + S + A โดยแทนค่าดังนี้ P = อำนาจของประชาชน, K = บารมีของในหลวง, S = กำลังใจจากรัฐบุรุษพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และ A = กองทัพบก ที่มีลักษณะเป็น ขบวนการที่มีส่วนร่วมและองค์ประกอบหลายฝ่าย มิใช่ ปรากฏการณ์อัศวินม้าขาวของฝ่ายทหารแบบข้ามาคนเดียว ผู้เขียนอุปมาอุปไมยเห็นภาพชัดว่า “...พลเอกสนธิ บุญยรัตกลินเป็นผู้ที่เข้ามาในวินาทีสุดท้าย เพื่อลงมีดผ่าตัด ในห้องที่เตรียมไว้พร้อมสรรพ ทั้งระบบไฟ หมอดมยา ยาดม คณะแพทย์ พยาบาล และมีดผ่าตัดเป็นชุด -- คนเดียวจะมีความหมายอะไร ถ้าไม่มีการต่อสู้มาเป็นปี.” อย่าหลงผิดไป ทำลายขบวนการ แล้วแปรให้เป็น การยึดอำนาจทั่ว ๆ ไป เสียล่ะ
       
นอกจากสมการ P + K + S + A แล้วในบทความเดียวกันนี้ ปราโมทย์ นาครทรรพ ยังเสนออีก 2 สมการ สมการที่จะ แพ้ คือ E + K = G และสมการที่จะ ชนะ คือ E + K + P = G โดยแทนค่าในสมการดังนี้ E = Elite, Establishment, K = King, G = Government และ P = People และในส่วนของ P—People นั้น ณ วันนี้มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างไปจากเดิม “...บัดนี้มิใช่ประชาชนธรรมดาที่มาร์กซ์ดูถูกว่าเป็น potatoes in the sack of potatoes แต่เป็น informed citizen coalition ประกอบด้วยประชาชน + NGO + ปัญญาชนผู้ประกอบวิชาชีพ + สื่อเสรี.” ขืนหลงผิดทำเป็นหลงลืม เป็นเรื่อง แน่ ๆ
       
และในส่วนของ E--Elite, Establishment นั้น ปราโมทย์ นาครทรรพ เตือนไว้ว่า “...อย่าลืมข้อเท็จจริงว่า E คือตัวอุปสรรคทำให้บารมีที่แท้จริงของ K ไปไม่ถึงประชาชน K เพียงถูกแอบอ้าง และจะถูกตำหนิในความผิดพลาดของ E ทั้งๆ ที่ K ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย เพราะอะไร.” แม้จะอ่าน ไม่ง่าย แต่ก็ ไม่ยาก เกินกว่าที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จะทำความเข้าใจ

ที่มา : http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000129368


หัวข้อ: Re: สมการของอาจารย์ปราโมทย์
เริ่มหัวข้อโดย: Killer ที่ 17-10-2006, 21:38
   ...ก็ต้องรอดูกันต่อไป...

ยินดีปรีดามาก ที่ได้ก่อกำเนิดเกิดมามีส่วนเป็นสักขีพยาน

เหตุการณ์ครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งของสังคมไทย


หัวข้อ: Re: สมการของอาจารย์ปราโมทย์
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 18-10-2006, 00:50
ใครจะชนะสงครามแย่งประชาชน: ระบอบทักษิณหรือประชาธิปไตยอันมีมหากษัตริย์เป็นประมุข
 
โดย ปราโมทย์ นาครทรรพ 17 ตุลาคม 2549 15:54 น.
 
บรรดาชนผิวขาวชาวต่างประเทศที่หยิ่งในความเหนือกว่าของวัฒนธรรมตนเอง ไม่ว่าจะเป็นสื่อ ปัญญาชน หรือผู้นำรัฐบาล  รวมทั้งนักวิชาการบริสุทธิ์หรือปัญญาชนหอคอยงาช้างเมืองไทย ก็จะมองเห็นเหมือนกันว่านี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทหารทำลายประชาธิปไตยไทย โดยมองไม่เห็นว่า ภาคประชาชนและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ต่อสู้ขับไล่เผด็จการของระบอบทักษิณอย่างไม่ลดละมาเป็นเวลาปีเศษแล้ว ในที่สุดก็ได้พึ่งบารมีของในหลวง และกำลังใจจากพลเอกเปรม ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กองทัพบกตัดสินใจในวินาทีสุดท้ายก่อนที่ทักษิณจะทำการยึดอำนาจและปราบประชาชนด้วยกำลัง
       
         ทักษิณได้ทำลายประชาธิปไตย บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ พระราชอำนาจตามรัฐธรรมนูญ สถาบันนิติบัญญัติ สิทธิมนุษยชน ระบบราชการและกลไกในการถ่วงดุลตรวจสอบในระบอบประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่องมากว่า 5 ปี จนเกือบจะไม่มีอะไรเหลือแล้ว นอกจากสัญลักษณ์อย่างเดียวคือการเลือกตั้ง

http://mgr.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000129247


หัวข้อ: Re: สมการของอาจารย์ปราโมทย์
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 18-10-2006, 01:08
นี่คือการกอบกู้วิกฤติที่สุดในโลก ของประเทศไทย

นี่คือจุดเปลี่ยนประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ที่กำลังจะก้าวไปสู่ "ความเป็นตัวของตัวเอง"

นี่คือการตระหนัก รับรู้ปัญหาของประเทศชาติของประชาชนคนชั้นกลาง ผสมผสานรากหญ้าคุณภาพ

ที่กำลังจะหยั่งรากลึกให้ต้นไม้ประชาธิปไตยหยัดยืนได้อย่างมั่นคงแข็งแรง

เพราะตั้งแต่มีประเทศไทยมา ยังไม่มีครั้งใหนที่ใครจะคาดคิดว่า ประเทศไทยจะมีเผด็จการพลเรือน สมบูรณ์ืแบบเท่า 5-6 ปีที่ผ่านมา

ไม่มีครั้งใหนที่ผู้หลักผู้ใหญในแผ่นดิน่ ทั้งฝ่ายซ้าย ฝ่ายขวาที่มีคุณธรรมจะผนึกกันแน่นหนา ช่วยกันทำลายล้าง "ทุนสามานย์"

ให้พินาศลงโดยสันติ...ไม่มีการสูญเสียเลือดเนื้อ หมดจด งดงาม สร้างสรรค์ มั่นใจและจริงใจ

คำใหนคำนั้น...แบบลูกผู้ชายชาติทหาร

คุณธรรมไม่กลับมาโลกาจะวินาศ ขอบคุณ "พระสยามเทวาธิราช" ที่ดลบันดาลให้มีวันนี้