หัวข้อ: เปิดมุมมอง 'ลิขิต ธีรเวคิน' "ปฏิรูปการเมืองต้องเริ่มที่วุฒิสภา" เริ่มหัวข้อโดย: taworn09220 ที่ 13-10-2006, 12:12 เปิดมุมมอง 'ลิขิต ธีรเวคิน' "ปฏิรูปการเมืองต้องเริ่มที่วุฒิสภา"
กรุงเทพธุรกิจ วันอังคารที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2549 นายลิขิต ธีรเวคิน ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ในฐานะอาจารย์พิเศษคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า หลักการในการยกร่างรัฐธรรมนูญของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เมื่อปี 2540 นั้น มีความพยายามทำให้นายกรัฐมนตรีเข้มแข็ง แต่ขณะเดียวกัน ก็ได้ให้อำนาจการตรวจสอบโดย ส.ส.200 คน และองค์กรอิสระอีก 10 องค์กร แต่ปัญหาก็คือ องค์กรอิสระนี้ต้องมาจากวุฒิสภา แต่วุฒิสภากลับมีปัญหาการใช้เงินซื้อเสียง ทำตัวเหมือนสภาผู้แทนราษฎร และอยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง "ฉะนั้นเมื่อต้นธารไม่สะอาด น้ำที่จะนำไปชงชาก็ไม่สะอาดเช่นกัน ดังนั้น การปฏิรูปการเมืองต้องเริ่มที่องค์กรวุฒิสภาไม่ให้กลับไปสู่วงจรเดิม เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้มีปัญหาแค่กระบวนการ แต่ตัวบุคคลก็มีปัญหาด้วย" นายลิขิต กล่าวต่อว่า หากดูถึงวัฒนธรรมการเมืองแบบประชาธิปไตยในหมู่ประชาชนและผู้นำ จะเห็นตัวอย่างของฟิลิปปินส์และอินเดียที่ประสบความสำเร็จในการนำระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยมาปฏิบัติ โดยตัวแปรที่ทำให้สำเร็จคือ ผู้นำทางการเมืองของทั้งสองประเทศมีวัฒนธรรมการเมืองแบบประชาธิปไตย มีจิตวิญญาณของความเป็นประชาธิปไตย ยึดมั่นในหลักนิติธรรม เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงกระบวนการต่างๆ ที่จะต้องดำเนินไปตามครรลองของระบบประชาธิปไตย นอกจากนั้น ยังต้องมีการตีความกฎหมายโดยมุ่งเน้นที่การผดุงไว้ซึ่งเจตนารมณ์ของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ซึ่งแตกต่างจากการพยายามหาประโยชน์จากช่องโหว่ของกฎหมาย ดังนั้น ความสำเร็จของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย จึงขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมการเมืองแบบประชาธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้ปฏิบัติการทางการเมือง ไม่เช่นนั้น ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยจะกลายเป็นเครื่องมือของผู้ดำรงตำแหน่งบริหาร นำไปใช้เพื่อประโยชน์ของตนเองและกลุ่ม โดยอ้างความชอบธรรมตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน ประชาธิปไตยยังมีปัญหาเรื่อง 2 นครา โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่มีปัญหาความจนกับความเขลา ที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร สุดท้ายจึงตกเป็นเครื่องมือของการซื้อสิทธิขายเสียง นายลิขิต กล่าวด้วยว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา รัฐสภาไทยไม่มีอุดมการณ์เสียสละ และไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้จนทำให้หายไปจากสังคม สิ่งที่น่าห่วงคือผู้ปฏิบัติการทางการเมืองขาด 3 สิ่ง คือ 1.ขาดความรู้ทางการเมือง ไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องรัฐธรรมนูญ 2.ขาดประสาทสัมผัสทางการเมือง คือไม่เข้าใจมารยาททางการเมือง และ 3.ไม่เข้าใจอารมณ์ทางการเมืองของสังคม คิดตามความเชื่อที่ผิดๆ การปฏิบัติการทางเมืองมีลักษณะเหมือนคนไม่รู้หนังสือ |