ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ร้องรัฐบาลยกเลิก “ประหารชีวิต”

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.00 น. ตัวแทนกลุ่มประสานงานรณรงค์ยุติโทษประหารชีวิต หรือ TCADP ประมาณ 20 คนนำโดยน.ส.สมศรี บุญอนันทสุข ประธานองค์การนิรโทษกรรมสากล ประเทศไทย ได้เดินทางมายื่นจดหมายเปิดผนึกถึงพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เนื่องในวันยกเลิกโทษประหารสากล  โดยเรียกร้องให้ยกเลิกการลงโทษด้วยวิธีการประหารชีวิต โดยให้เหตุผลว่า การลงโทษประหารชีวิตนั้นเป็นการบั่นทอนหลักการทางศาสนาพุทธ และสิทธิในการมีชีวิตอยู่ของมนุษยชาติมาโดยตลอด ถือเป็นปมมืดของทุกสังคมรวมทั้งสังคมไทย

จดหมายเปิดผนึกระบุด้วยว่า  การลงโทษประหารชีวิตนั้นมาจากความเชื่อว่าสามารถจะลดปัญหาและป้องปรามอาชญากรรมได้ ทั้งที่ข้อพิสูจน์ในประเด็นนี้ไม่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจน

“ทางกลุ่มจึงเห็นว่าปัญหาอาชญากรรมมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับสภาพปัญหาเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้นการแก้ปัญหาอาชญากรรมต้องแก้ที่ต้นเหตุและต้องแก้โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ไม่เลือกปฎิบัติ และไม่ยอมให้ผู้กระทำผิดที่เป็นเจ้าหน้าที่หรือบุคคลอื่นสามารถลอยนวลอยู่ได้ในสังคม โดยให้นำการลงโทษจำคุกตลอดชีวิต มาสำเร็จโทษต่ออาชญากรรมร้ายแรงทุกประเภทแทนการลงโทษประหารชีวิต”

นายสมศรี กล่าวว่า เราจะผลักดันให้ยกเลิกโทษประหารชีวิตควบคู่ไปกับการรณรงค์ให้ยกเลิกการทรมานผู้ต้องหา โดยจะผลักดันให้แก้กฎหมาย ซึ่งเราพร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งของสภาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อร่างกฎหมายนี้ แม้เราจะไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารแต่เราจะไม่ปล่อยให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเข้าไปมีบทบาทในการกำหนดกติกาสังคมโดยไม่ฟังเสียงประชาชน

นอกจากนี้ เรายังต้องการให้ยกเลิกกฎอัยการศึกอีกด้วย เพราะการใช้กติกานี้ส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะสื่อมวลชน หลายแขนงถึงกับต้องเซนต์เซอร์ตัวเอง ทำให้ทุกฝ่ายในสังคมรู้สึกอึดอัด รัฐบาลนี้ควรปล่อยให้สิทธิเสรีภาพของประชาชนเป็นไปตามครรลองที่ควรจะเป็น

ด้านนายอนุชา วินทะชัย  ผู้ประสานงานกลุ่มฯ กล่าวว่า ประเทศไทยได้ลงบันทึกข้อตกลงในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองโดยรับว่าจะทบทวนการใช้โทษประหารชีวิต  แต่เราไม่เคยปฎิบัติตาม ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่นี้ควรจะนำเรื่องนี้มาพิจารณาเพื่อให้ประเทศไทยกลับมาได้รับการยอมรับจากประชาคมโลก

“เราไม่เชื่อว่าการลงโทษประหารชีวิตจะทำให้การก่ออาชญากรรมลดน้อยลง และไม่เชื่อว่าเลือดจะล้างด้วยเลือด เพียงแค่การจำคุกตลอดชีวิตก็น่าจะเพียงพอแล้ว”นายอนุชา กล่าว

http://www.naewna.com/news.asp?ID=29994

ประเด็นน่าสนใจ ควรยกเลิกโทษประหารหรือไม่

ช่วงที่ ทรท เป็นรัฐบาลเคยมีบางความเห็น บอกว่าให้เพิ่มกรณีความผิดบางอย่างเข้าไปในโทษประหาร

โทษประหารชีวิต สำหรับนักการเมืองและเครือข่ายการก่อการร้าย เพื่อใช้ในประเทศไทย??   

http://forum.serithai.net/index.php?topic=8129.msg113156#msg113156
                                                                                                        :slime_cool:

ผมเชื่อว่า คนเลวๆก็สมควรได้รับผลกรรมที่ตนได้ทำลงไป ไม่มีการลงโทษก็ไม่หลาบจำ อย่างนักการเมืองฉ้อโกง ไม่ยึดทรัพย์ให้เกลี้ยงก็ประหารชีวิตไปเลย จะดีมากๆ

ต้อง หาคนที่ทันสมัย จอม พล ป.  ที่เค้าว่า ผิดปุ๊บประหารจุดผิดปั๊บ

ตอนนั้น บานเมืองเป็นสุขมาก

แบบสิงคโปร์ หนะ

ทุกวันนี้แค่ทำมาหากินเลี้ยงตัวเองยังแทบเอาตัวกันไม่รอดแล้ว   นี่เรายังต้องแบ่งเงินไปเลี้ยงพวกนักโทษอีกหรอ  

อีกหน่อยคงจะได้เห็นโจรเต็มเมือง  มันไม่กลัวหรอกครับโทษจำคุกตลอดชีวิต  ถูกจับก็มีข้าวกินฟรี  ไม่ถูกจับก็คงเที่ยวปล้นต่อไป  

ความจริงนอกจากประหารชีวิตแล้ว ควรเพิ่มโทษเข้าไปอีกสำหรับคดีที่รุนแรงมากๆ  อย่างการยึดทรัพย์สิน   การแก้ปัญหาคงต้องทำควบคู่กันไปกับเรื่องอื่นๆ  แต่ถ้าให้ยกเลิกผมว่าไม่ดีแน่  

อย่าครับ อย่าเพิงยกเลิก

รอเหลี่ยม มารับโทษเป็นคนสุดท้ายก่อน

จะยกเลิก ก็ไม่ว่ากัน

ไม่ควรครับ

ถึงจะอ้างว่า เป็นเมืองพุทธ หรือ ควรมีเมตตา หรือ อะไรก้อตาม เราก้อยังหนีความจริงไม่พ้นที่ว่า
ในโลก มีคนที่ดี และ คนที่ไม่ดี ปนกันไป
ถึงจะแก้ยังไง ก้อไม่สามารถทำให้คนเป็นคนดีได้ทั้งหมด

และ การเปลี่ยนแปลงโทษให้น้อยลง ไม่ได้ทำให้คนเป็นคนดีขึ้นเลย
แต่จะเป็นการทำให้ คนเลว "กล้าเสี่ยง" ทำชั่วมากขึ้น

มันก้อคือ cause and effect แหละครับ
ถ้าไม่มีบทลงโทษที่หนักหน่วงพอแล้ว ใครจะเชื่อกฏหมายละครับ

 :mozilla_cool:โทษประหารชีวิตอย่าไปเลิกเลยครับ
เพราะนักโทษที่ได้รับโทษนี้คือนักโทษที่ก่อคดีร้ายแรงทั้งนั้น
เช่น ปล้น ฆ่า ข่มขืน ถ้าในแง่ของมุมกลับ
ถ้าญาติ พี่น้อง ของผู้ร้องถูกกระทำเช่นที่ว่า
คงจะไม่ออกมายื่นข้อเรียกร้องหรอกนะ :slime_cool: :slime_cool:

ผิดต้องว่าตามผิด ไอ้คนที่ทำมันเคยเห็นใจเหยื่อหรือเปล่า...

แล้วจะต้องมามีเมตตาอะไรกับสัตว์นรกพวกนี้...

ผมยังไม่อยากให้ประหารฉีดยาเลย มันสบายไป เหยื่อกรรมของมันทรมานแค่ไหน...

จะปกครองให้ร่มเย็นได้ไม่ใช่แค่ต้องมีคุณธรรม...

ใครผิดก็ต้องเด็ดขาดไม่ละเว้นด้วย...

ยิงเป้านี่แหละ เหมาะสมที่สุด...

น่าประหารด้วยการแขวนคอประจานมากกว่า

ประหาร 7 ชั่วโคตร ก็เป็นโทษที่ควรรื้อฟื้นเอามาใช้กับผู้นำประเทศและเหล่าผู้บริหารประเทศระดับสูงที่ขายชาติ!!
 :slime_v:

ผมก็ไม่เชื่อว่าโทษประหารจะทำให้อาชญากรรมลดลงครับ แต่การที่จะให้คน ๆ หนึ่ง "กินฟรี อยู่ฟรี" ตลอดชีวิตเนี่ยต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ โดยเฉพาะคน ๆ นั้นเป็นอาชญากรร้ายแรง แต่กลับต้องเอาเงินภาษีจากคนที่สุจริตที่เขาทำมาหากินอย่างยากลำบากไปเลี้ยงมันตลอดชีวิตเนี่ย ผมไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงครับ

เหตุผลก็บอกในตัวอยู่แล้วครับ

ผมแปลความหมายของผู้เรียกร้องได้ดังนี้ คือถ้าสภาพเศรษฐกิจและสังคมดี คนจะทำผิดน้อยลง

เอาแค่ตรงนี้ ผมว่าก็ไม่ต้องถามอะไรต่อแล้วครับ

ดูอย่างอเมริกาสิครับ สภาพเศรษฐกิจดีขนาดไหน มันยังมีพวกบ้าๆที่อยู่ดีๆก็ลากปืนไปยิงนักเรียน ยิงชาวบ้านเล่น

ผมก็ได้คำถามมา 2 คำถามคือ

1. ผมสงสัยว่าสภาพเศรษฐกิจและสังคมดีขนาดไหนถึงจะพอ พอให้คนเลิกฆ่ากัน
2. สภาพเศรษฐกิจและสังคมดีขึ้น แล้วคนจะเลิกฆ่ากันจริงหรือ

ถ้ากลุ่ม TCADP คิดว่าตอบได้ รบกวนตอบให้รู้หน่อยได้ไหมครับ

อย่างความเห็ฯข้างบนว่าละครับ สภาพสังคมแบบไหนถึงจะไม่มีอาชญากรรมครับ

มันเป็ฯไปไม่ได้ครับ อย่าเอาอุดมคติมาพูดครับ ยกเว้นประเทศนั้นเป็นนักบวชทั้งประเทศนะครับ

อย่างทิเบตยังมีอาชญากรรมเลยจริงไหม

ความเห็นแรงมาก สมกับเป็นนักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา :slime_cool:

ถ .... ถ .. ถ ถ ถูกต้องนะคร๊าาาบบบบ :slime_sentimental: :slime_sentimental: :slime_sentimental:

* ยกเลิกทำไม... ทำไมต้องยกเลิก

   เอะอะ...อะไรก็บอกว่าบ้านเมืองเราเป็นเมืองพุทธ

   ผิดก็ว่ากันไปตามผิด.. แค่นั้น .. จบ

   จะไปใจอ่อน.. สงสารอะไรกันนักหนา

   ในเมื่อโทษขั้นประหารชีวิต...มันไม่ได้ใช้กะคนที่ทำความผิดแค่..ลักเล็กขโมยน้อย ซะหน่อย !!

   แต่.. จะว่าไปแล้ว  ดิฉัน ..  โอเค กะ  โทษจำคุกตลอดชีวิตมากกว่า

   กักขังอิสรภาพ...ไปไหนไม่ได้ .. อยู่ในสภาพเดิมๆ แบบนั้นตลอดไป ............. ทรมานใจเล่นดี !!

ขนาดมีโทษประหาร มันยังไม่เกรงกลัวกันเลย ถ้ารู้ว่าทำเลวยังไงก็ไม่ถึงตาย คงยิ่งผยองกันใหญ่

ถ้างั้นก็ให้บรรดาฆาตกรฆ่าข่มขืน  ฆาตกรฆ่าหั่นศพ  โจรปล้นฆ่า ฯลฯ
ให้อาชญากร - จำเลย - นักโทษรอการประหาร เหล่านี้
ไปอาศัยอยู่กับครอบครัวพวก TCADP
ไปนอนในห้องเดียวกันกับลูกสาว - ลูกชาย หรือพ่อแม่ ของพวกเขา

กำหนดให้ TCADP เหล่านี้ต้องรับผิดชอบ  ต่อความเสียหายใด ๆ ทั้งปวงที่ "อาชญากรพิเศษ อดีตนักโทษรอการประหาร" ผู้อยู่ใต้การดูแลได้กระทำ หรือมีส่วนกระทำ กับผู้อื่น  ในโทษานุโทษเดียวกันต่างเป็นผู้สนับสนุน


กำหนดให้ TCADP เหล่านี้ต้องเลี้ยงดู - อุปถัมป์ "อาชญากรพิเศษ อดีตนักโทษรอการประหาร" ผู้อยู่ใต้การดูแล
ของตน  ไปตลอดชีวิต ( เพราะเป็นโทษประหารชีวิต )



เอางี้ก่อนก็แล้วกัน

ว่าแต่สิงคโปร์มันยกเลิกการแขวนคอไปยัง :slime_doubt:

ก่อนจะตัดสินใจว่าควรยกเลิกโทษประหารดีหรือไม่นั้น อยากจะยกเรื่องบางเรื่องมาเล่าสู่กันฟังก่อน

เล่ากันว่า มีนักบวชสองรูป ได้เดินทางไปเผยแพร่ศาสนาของพวกเขาในดินแดนกันดารและป่าเถื่อนแห่งหนึ่ง เป็นดินแดนอันมีความเชื่อดั้งเดิมที่เข้มงวดอยู่ก่อนแล้ว ทั้งยังเป็นความเชื่อที่ปฏิเสธศาสนาอื่นใดทั้งหมด

ครั้นต่อมาหัวหน้าเผ่าจับได้ว่ามีนักบวชจากต่างศาสนาเข้ามาเผยแพร่ศาสนาอื่นอยู่ในเขตปกตรองของตน จึงจับนักบวชทั้งสองรูปนั้นมาลงโทษที่กลางลานประชุมชนของหมู่บ้าน

ครานั้นท่านหัวหน้าเผ่าขึ้นบันลังก์ควบคุมการตัดสินโทษด้วยตนเอง แล้วกล่าวกับนักบวชทั้งสองว่า พวกสูทั้งสองนี้บังอาจมากที่เข้ามาล้มล้างศาสนาอันสูงสุดของพวกตู ซึ่งควรจะได้รับโทษทัณฑ์สูงสุดจากกฏของพวกตูนี้ แต่เผ่าของพวกตูศิวิลัยแล้วย่อมให้โอกาสแก่นักโทษเสมอ

ครานี้ตูจะให้พวกสูเลือกเอาระหว่าง โทษประหารชีวิต กับ ชีชี จงเลือกเอาตามใจพวกสูเถิด

นักบวชรูปแรกคิดว่าไม่มีอะไรจะร้ายแรงไปกว่าโทษประหารชีวิตอีกแล้ว จึงเลือก ชีชี โดยไม่ลังเล

"เอามันไป ชีชี " สิ้นเสียงสั่งของหัวหน้าเผ่า นักบวชรูปแรกก็ถูกจับแก้ผ้า กดหัวลงไปในตุ่มว่างเปล่า แล้วชายหนุ่มร่างใหญ่กำยำทั้งหมู่บ้านก็เรียงคิวกันเข้ามาอัดถั่วดำ คนแล้วคนเล่า ได้ยินเสียงร้องของนักบวชรูปนั้นก้องอยู่ในตุ่มอย่างเจ็บแสบทรมาน น่าเวทนานัก

เหตุการณ์นี้ย่อมเกิดขึ้นต่อหน้านักบวชอีกรูป ทำให้นักบวชรูปที่ยังไม่ได้ตัดสินโทษนั้นรูสึกอับอายในบาปที่จะถูก ชีชี เป็นยิ่งนักและตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่า ถ้าการ ชีชี คือการทำอย่างนี้แล้ว ตนเองก็จะขอตายเสียดีกว่า เมื่อถึงคราวตนจึงได้บอกกับหัวหน้าเผ่าว่า ตนขอเลือกเอาโทษประหารชีวิต

"กล้าหาญมาก ดี สูจะถูกประหารชีวิตตามที่สูเลือก" หัวหน้าเผ่าประกาศลั่น แล้วพูดต่อ . .
"แต่ก่อนจะประหารชีวิตต้องนำตัวไป ชีชี ก่อน"

สำหรับผมแล้ว จะยกเลิกโทษประหารชีวิตไปก็ไม่ว่าอะไร แต่ ชีชี ต้องเอาไว้นะครับ

5555555555  :D :D :D

ผมว่า ถ้ามีกฏหมาย ชีชี จริงเนี่ย อาจจะลดอาชญากรรมลง ได้ฮวบๆ เลยครับ

มีไว้ก็ไม่ค่อยได้ใช้อยู่แล้วครับ...ยกเลิกไปก็ไม่เสียหาย...

เรื่องโทษในบ้านเรามีปัญหาเรื่องระบบครับ..จำนวนนักโทษมากเสียจนคุกรับไม่ไหว..กรมราชทัณฑ์ต้องปรับปรุงระบบใหม่..ปล่อยให้ผู้คุม คุมคนคุกมากเกิน จนต้องให้คนคุก คุมคนคุกกันเอง เมื่อคนคุกคุมคนคุก มันก็เลยกลายเป็นโรงเรียนสอนคนให้เลว เสียมากกว่าเป็นสถานที่อบรมคนให้เป็นคนดีกลับสู่สังคม

คุณ Ires

เรื่องนี้ผมได้ฟังตั้งแต่สมันเรียนหนังสือชั้นมัธยม อ.บุ๊ชก้า เป็นคนเล่า
เลยสงสัยว่าคุณอาจจะฟังมาจากแหล่งเดียวกันหรือไม่ เพราะมันเหมือนกันมากจนถึงในรายละเอียดครับ

ติดคุกตลอดชีวิต ไม่เกิน 40 ปีก็ได้ออกมาครับ

ไม่ลดโทษ แต่ไปเพื่อความรู้การศึกษาให้ประชาชนดีกว่าครับ รวม ทั้ง สอนให้เค้ามีคุณธรรมจริยธรรม มากกว่านี้หน่อย ถึงมีโทษประหารก็ไม่ได้ใช้ครับ หากคนละอายความชั่ว เกรงกลัวต่อบาปขึ้นมาบ้าง

แต่ผมชอบ โทษ ชีชี นะครับ  :slime_bigsmile:

ขอแก้ไขนะครับ จอมพลสฤษดิ์ครับ ประหารที่กลางสนามหลวงก็เคย
ประหารที่ไฟไหม้เพราะข้อหาวางเพลิงที่จุดเกิดเหตุเลย ก็เคย
ไม่ใช่จอมพล ป. นะครับ  

   มีเพื่อนคนนึงเป็นผู้พิพากษาเล่าให้ฟังว่า...

รองเจ้าอาวาสวัดธรรมกายเทศนาขอบิณฑบาตโทษประหารชีวิต

เนื่องจากเป็นบาป เป็นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และบาปหนักด้วยเพราะ

เป็นการฆ่ามนุษย์ไม่ว่าเขาจะเลวเพียงใดก็ตาม

ส่วนท่านพุทธทาสสอนว่าไม่บาปเพราะผู้พิพากษาไม่ใช่คนสั่งฆ่า

ผู้ต้องหาเพียงแต่ต้องใช้กรรมของตนที่ก่อไว้ ผู้พิพากษาเป็นเพียงผู้

ชี้กรรมเท่านั้น

แล้วคุณล่ะเชื่อในคำสอนใด...

ผมเห็นด้วยกับท่านพุทธทาสครับ ผู้พิพากษาไม่ได้อยากลงโทษนักโทษเลย
แต่พิจารณาหลักฐานเทียบกับกฏหมายตามหน้าที่ครับ จึงไม่เกิดบาป

ตัวผมเองไม่เชื่อใน"บาป" แต่เชื่อใน"กรรม"นะ

พูทธทาส เพราะจะบาปหรือไม่บาปอยู่ที่เจตนา ผู้ที่ฆ่าคนไปหากไม่เจตนาก็เป็นพระอรหันต์ได้

ผู้พิพากษาคงไม่บาปหรอกครับ..เพราะตัดสินโทษตามที่กฏหมายกำหนดบทลงโทษไว้...ส่วนใครบาปคงบอกไม่ได้เหมือนกันแฮะ

ถ้ายกเลิกโทษประหารรับรองได้ว่าสร้างคุกไม่ทันแน่

ต้องให้น้องสาวมันโดนข่มขืนแล้วมันจะเปลี่ยนความคิด :slime_worship: