หัวข้อ: นายกฯสิงคโปร์ ลีเซียนหลุง ปกป้องเทมาเส็กยังไงๆ ก็ฟังไม่ขึ้น...ก็ฟังไม่ขึ้น... เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 10-10-2006, 11:43 ปะหน้าลีเซียนหลุง ฟังเขาปกป้องเทมาเส็กยังไงๆ ก็ฟังไม่ขึ้น...
9 ตุลาคม 2549 17:56 น. ผมถามนายกฯ สิงคโปร์ ลีเซียนหลุง ปลายสัปดาห์ก่อน ว่า เห็นบอกว่าได้ส่งสารแสดงความยินดีกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกฯ ของไทยแล้วใช่หรือไม่? กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ผู้นำสิงคโปร์บอกว่าใช่ ได้ส่งสารไปถึง พล.อ.สุรยุทธ์ เกือบจะทันทีที่มีพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้งนายกฯ คนใหม่ของไทย ผมถามว่า "ทำไมส่งสารแสดงความยินดีให้นายกฯ ไทยคนใหม่เร็วอย่างนั้น?" ลีเซียนหลุง ยิ้มแล้วหันมาตอบว่า "ถ้าผมส่งไปช้ากว่านั้น คุณก็คงจะถามว่าทำไมเพิ่งส่งไป?" ผมถามต่อว่า เคยเจอ พล.อ.สุรยุทธ์หรือเปล่า ลีเซียนหลุง บอกว่า จำได้ว่าเคยเจอกันครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ถามว่า คิดอย่างไรกับผู้นำใหม่ของไทย นายกฯ สิงคโปร์ตอบอย่างคล่องแคล่ว ว่า "ผมเชื่อว่าท่านมีความสามารถที่จะทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบใหม่ของท่านได้..." เป็นคำตอบที่ว่าตามมารยาทการเมืองในฐานะผู้นำของเพื่อนบ้านอย่างไม่ต้องสงสัย แต่คำถามใหญ่ที่นายกฯ สิงคโปร์ ไม่ได้ตอบตรงๆ คือคำถามที่ว่า " รัฐบาลสิงคโปร์รู้สึกมีความรับผิดชอบทางจริยธรรมและศีลธรรมในกรณีที่เทมาเส็กซื้อหุ้นชินคอร์ปจากครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนนำไปสู่วิกฤติการเมืองและการปฏิวัติ ที่ผู้นำสิงคโปร์เองเรียกว่า Setback หรือไม่?" คณะ บก. จากเครือเดอะเนชั่นไม่ต้องตั้งคำถามนี้ด้วยซ้ำ เพราะมีนักข่าวจากหนังสือพิมพ์ยุโรปที่มาร่วมการประชุมของบรรณาธิการเอเชียและยุโรปหลายชาติไปที่สิงคโปร์ระหว่างวันที่ 5-8 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นคนยกประเด็นนี้ถามต่อหน้าอย่างตรงไปตรงมา ในคำปราศรัยที่ ลีเซียนหลุง เตรียมมาล่วงหน้านั้น เขาใช้คำว่า "Setback" (ก้าวถอยหลัง) เมื่อกล่าวถึง การปฏิวัติในไทยเมื่อวันที่ 19 กันยายน และยังบอกว่าไทยได้ประสบกับการปฏิวัติมา 17 ครั้ง ตั้งแต่ ค.ศ.1932 สังเกตว่านายกฯ สิงคโปร์ไม่ได้พูดถึงคอร์รัปชันของรัฐบาลทักษิณ ไม่พูดถึงความไม่พอใจของคนไทยต่อการขาดจริยธรรมของผู้นำ และเมื่อถูกถามถึงเรื่อง "ความรับผิดชอบทางศีลธรรม" ของเทมาเส็ก (ที่ภรรยาของเขาที่ชื่อโฮชิง เป็นผู้บริหารสูงสุด) ลีเซียนหลุง บอกว่า "เรื่องซื้อขายหุ้นระหว่างเทมาเส็กกับชินคอร์ป เป็นเรื่องธุรกิจของสองกลุ่ม และที่เราลงทุนไปนั้น เพราะมีความเชื่อมั่นในประเทศไทย..." ฟังดูดีใช่ไหม? แต่คำถามที่ต้องตามมาเมื่อผู้นำสิงคโปร์อ้างอย่างนี้ ก็คือว่าตอนที่เขาลงทุนเกือบ 1 แสนล้านบาทซื้อหุ้นชินคอร์ปนั้น เขาเชื่อมั่นในประเทศไทย หรือเพราะเชื่อว่าทักษิณจะอยู่ในอำนาจไปอีกนาน พอที่เขาจะทำกำไรอย่างงามจากอำนาจทางการเมืองกันแน่? ความผิดพลาดของเทมาเส็กครั้งนี้ มีผลทางการเมืองกว้างไกลในประเทศ แม้ว่าจะไม่มีนักธุรกิจหรือนักวิชาการของสิงคโปร์ออกมาพูดในที่แจ้งในเรื่องนี้ แต่พอลับหลังนายกฯ นักวิชาการ, นักหนังสือพิมพ์ และนักธุรกิจของสิงคโปร์ ก็กระซิบบอกผมว่า นี่เป็นความล้มเหลวครั้งสำคัญของรัฐบาลสิงคโปร์ ที่เอาตัวเองกระโดดร่วมหอลงโรงกับ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างไร้สำนึก และไร้ความเป็นมืออาชีพอย่างยิ่ง ในอินเทอร์เน็ต ก็มี Blogs มากมายที่คนสิงคโปร์ใช้วิจารณ์รัฐบาล, นายกฯ และเมียนายกฯ ในเรื่องเทมาเส็กกับชินคอร์ปครั้งนี้ มืออาชีพการลงทุนของเทมาเส็กหายไปไหนหมดในกรณีนี้? เพราะขาดการ "ประเมินความเสี่ยงทางด้านการเมือง" ของการลงทุนโดยสิ้นเชิง เพราะแม้ในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นใหญ่อยู่ในการเมืองไทย นักลงทุนที่จะทุ่มเงินเป็นแสนล้านบาทเองก็จะต้องรู้ว่าชินคอร์ปเป็น "หุ้นการเมือง" ที่มีความเสี่ยงสูงยิ่ง เทมาเส็กยังไม่สามารถตอบคำถามของคนสิงคโปร์ได้เลยว่า การที่เข้าไปทุ่มสุดตัวกับหุ้นชินคอร์ป ทั้งๆ ที่ครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณถูกกล่าวหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และความไม่ชอบมาพากลทางการเมืองมากมายหลายด้านนั้น มีเหตุผลอ้างอิงอย่างไร? ใครเป็นคนตัดสิน? ที่รัฐบาลสิงคโปร์ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ก็เพราะนายกฯ ลีเซียนหลุง เป็นรัฐมนตรีคลังด้วยอีกตำแหน่งหนึ่ง (ที่เป็นเจ้าของกองทุนเทมาเส็กเต็มร้อย) และภรรยานายกฯ ที่ชื่อ โฮชิง ก็เป็น "ซีอีโอ" ของเทมาเส็กเสียอีกด้วย "คุณเชื่อไหม ก่อนตัดสินใจเรื่องชินคอร์ป เทมาเส็กไม่ได้ตรวจสอบกับกระทรวงต่างประเทศหรือสถานทูตของเขาที่กรุงเทพฯ หรือขอความเห็นเรื่องความเสี่ยงของการลงทุนจากกลุ่มคนที่เป็นกลางระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณกับฝ่ายต่อต้านเลยหรือ?" นักวิชาการสำคัญของสิงคโปร์คนหนึ่งกระซิบกับผม เทมาเส็กไม่รู้ได้อย่างไรว่า นี่เป็นการซื้อหุ้นที่เกี่ยวกับสัมปทานรัฐว่าด้วยดาวเทียม, โทรศัพท์มือถือ, และสถานีโทรทัศน์? สิงคโปร์จะยอมให้ใครมาถือหุ้นในธุรกิจที่เกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ และละเอียดอ่อนทางการเมืองอย่างนี้แม้แต่ 5 เปอร์เซ็นต์หรือไม่? ตอบว่า "ไม่มีทาง" เทมาเส็กจะหลีกเลี่ยง ไม่ตอบคำถามเหล่านี้ได้อีกนานเท่าไรไม่มีใครรู้ แต่เงินที่เสียหายจากการลงทุนในชินคอร์ปครั้งนี้ ย่อมกระทบชาวสิงคโปร์ทั้งในฐานะผู้เสียภาษี, ในฐานะที่ถูกหักรายได้ประจำไปเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนสะสมกลาง ที่เรียกว่า Central Provident Fund ซึ่งชาวสิงคโปร์เองยังเข้าใจว่า เอาไปลงทุนในกองทุนของรัฐบาลต่างๆ (รัฐบาลอ้างว่าเทมาเส็กลงทุนด้วยเงินกองทุนสำรองของประเทศ ไม่ใช่ภาษีหรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกลาง....แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งหมดนี้ มีความสัมพันธ์กับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลในการบริหารเงินลงทุน) เทมาเส็กบอกว่า ตอนที่ลงนามซื้อหุ้นชินคอร์ปนั้น ไม่รู้ว่าตระกูลชินวัตรของนายกฯ ไทยหาวิธีต่างๆ ที่ไม่ต้องเสียภาษีเลยแม้แต่บาทเดียว... และไม่รู้ว่ามีวิธีการอันสลับซับซ้อนทั้งหลายทั้งปวง เพื่อให้ครอบครัวที่รวยที่สุดของประเทศไทย หลีกเลี่ยงการทำหน้าที่เสียภาษีที่พลเมืองไทยทุกคนต้องทำ เทมาเส็กไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้?..เทมาเส็กมีความสำนึกใน "ความรับผิดชอบทางศีลธรรมและจริยธรรม" ในการทำธุรกรรมในต่างประเทศหรือไม่? ถ้าสิงคโปร์อ้างว่ามีรัฐบาลที่ซื่อสัตย์และรักษาธรรมาภิบาลในบ้านตัวเองอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความศรัทธาของประชาชนที่เลือกเขามา ทำไมเวลาเทมาเส็ก (เป็นของกระทรวงการคลังร้อยเปอร์เซ็นต์ และมีนายกฯ เป็นรัฐมนตรีคลังด้วย) ทำธุรกรรมในต่างประเทศ จึงไม่ได้แสดงความสำนึกในเรื่องธรรมาภิบาลเช่นกัน เทมาเส็กไม่กลัวว่าจะถูกประชาชนคนเสียภาษีของไทยทั้งประเทศกล่าวหาว่าไปร่วมมือกับคนปล้นทรัพยากรของประเทศมาขายให้เขาหรือ? สื่อมวลชนผู้รับผิดชอบของไทยเจอใครที่ต้องตอบคำถาม ก็จะถามกันตรงๆ อย่างนี้...เขาตอบหลบเลี่ยงไปอย่างไร ท่านผู้อ่านก็ตัดสินเอาเอง...เพราะในโลกแห่งอินเทอร์เน็ตวันนี้ ผู้นำที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จจะพยายามหลีกเลี่ยงคำถามอย่างไร ก็หลบไม่ได้ตลอดหรอกครับ... โปรดติดตามการสอบสวนของคณะกรรมการชุดต่างๆ ของไทยเราด้วยความระทึกต่อไป สมบัติของชาติ ใครขโมยไปขายให้ใครที่ส่วนไหนของโลกก็ตาม เราก็จะต้องตามไปทวงกลับคืนมาให้ได้...หาไม่แล้ว ลูกหลานไทยจะสาปแช่งคนรุ่นนี้ไปอีกนานแสนนาน http://www.bangkokbiznews.com/2006/10/10/u001_143987.php?news_id=143987 เนื้อหาของ"กาแฟดำ" ชัดเจน ไม่คลุมเครือเหมือน" ทนายหนึ่งวัน" ที่ทำหน้าที่อลัชชีกฏหมายให้ทักษิณและครอบครัว เพื่อหวังประโยชน์จากค่าสินน้ำใจต่างๆ.... ถ้าข้าราชการไทยและผู้มีหน้าที่ อำนาจตรวจสอบการคอร์รั่ปชั่น"เครือข่ายทักษิณ" จะปฏิบัติหน้าที่อย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรมและซื่อสัตย์ คนไทยจะได้เงิน ทรัพย์สินของชาติที่ถูกคดโกงไป ถูกฉ้อราษฎร์บังหลวงไป กลับคืนมาในที่สุด..... :!: อดีตประธานาธิบดีหญิงต่อจากมาร์กอส และ ประธานาธิบดีรามอส ของฟิลิปปินส์ยังสามารถตามล่าทรัพย์สมบัติของชาติฟิลิปปินส์คืนมาได้ คณะปฎิรูปการปกครองฯ รัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และ คตส. จะทำไม่ได้หรือ :?: หัวข้อ: Re: นายกฯสิงคโปร์ ลีเซียนหลุง ปกป้องเทมาเส็กยังไงๆ ก็ฟังไม่ขึ้น...ก็ฟังไม่ขึ้น.. เริ่มหัวข้อโดย: Killer ที่ 10-10-2006, 11:46 อ่านไม่เข้าใจ...ไปเรียบเรียงกระทู้มาใหม่
ถ้าต้องการจะสื่อให้คนด้อยสติปัญญาระดับผมเข้าใจ หัวข้อ: Re: นายกฯสิงคโปร์ ลีเซียนหลุง ปกป้องเทมาเส็กยังไงๆ ก็ฟังไม่ขึ้น...ก็ฟังไม่ขึ้น.. เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 10-10-2006, 11:54 อ่านไม่เข้าใจ...ไปเรียบเรียงกระทู้มาใหม่ ถ้าต้องการจะสื่อให้คนด้อยสติปัญญาระดับผมเข้าใจ ถ้าอ่านไม่เข้าใจ ก็ผ่านไปก็แล้วกัน กระทู้ของคนรักทักษิณ สาวกฯ หวอรูม เพิ่มปริมาณในเสรีไทยเว็บบอร์ดทุกวัน ไม่ขัดสนต้องอ่านกระทู้ของผมหรอก...........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า หัวข้อ: Re: นายกฯสิงคโปร์ ลีเซียนหลุง ปกป้องเทมาเส็กยังไงๆ ก็ฟังไม่ขึ้น...ก็ฟังไม่ขึ้น.. เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 10-10-2006, 12:04 เทมาเซค ตอบคำถามของประชาชนไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ เทมาเซคมีนักวิเคราะห์การลงทุนมืออาชีพมากมายมหาศาล มีนักวิเคราะห์หุ้น วิเคราะห์สินทรัพย์มากมายมหาศาล
คำถามคือ ทำไมเอาเงินแสนล้าน ไปผูกติดกับหุ้นการเมือง ซึ่งมีความผันผวนและมี"ความเสี่ยง" ไม่จำกัด เว้นซะแต่ เทมาเซครู้ว่า ( เชื่อว่า...วิเคราะห์ว่า...) ระบอบทักษิณได้ยึดครองทุกอย่างในประเทศไทยไว้ในกำมือหมดแล้ว และเชื่อว่า อีก 20 ปี จะไม่มีความเสี่ยงใดใด ดังนั้นเมื่อถามว่า สนใจเรื่องจริยธรรมหรือไม่ ก็คงได้คำตอบแบบ ทนายประจำตระกูลว่า ผมมาตอบคำถามเรื่องการขายหุ้น ไม่ได้มาตอบเรื่องจริยธรรม หัวข้อ: Re: นายกฯสิงคโปร์ ลีเซียนหลุง ปกป้องเทมาเส็กยังไงๆ ก็ฟังไม่ขึ้น...ก็ฟังไม่ขึ้น... เริ่มหัวข้อโดย: เบื่อไอ้เหลี่ยม ที่ 10-10-2006, 12:06 ไอ้ฟายคิลเล่ออ่านไม่เข้าใจ ผมไม่สงสัยเลยครับ มันเป็นพวกไร้จริยธรรม อ่านอะไรที่เกี่ยวเรื่องจริยธรรมแล้วไม่มีวันเข้าใจจริงๆแหละ
หัวข้อ: Re: นายกฯสิงคโปร์ ลีเซียนหลุง ปกป้องเทมาเส็กยังไงๆ ก็ฟังไม่ขึ้น...ก็ฟังไม่ขึ้น.. เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 10-10-2006, 12:23 เอ่อ เล่อเอ๊ย แค่นี้ก็อ่านไม่เข้าใจ
อย่างอื่นก็ไม่ต้องเข้าใจแล้วล่ะครับ ประเด็นมันชัดเจนออกซะขนาดนั้นน่ะ หัวข้อ: Re: นายกฯสิงคโปร์ ลีเซียนหลุง ปกป้องเทมาเส็กยังไงๆ ก็ฟังไม่ขึ้น...ก็ฟังไม่ขึ้น.. เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 10-10-2006, 12:29 ม่ายอาว..ม่ายพูด...พอดีกำลังหัวเสีย โดนล็อคกระทู้...ฮ่า ฮ่า :slime_surrender:
หัวข้อ: Re: นายกฯสิงคโปร์ ลีเซียนหลุง ปกป้องเทมาเส็กยังไงๆ ก็ฟังไม่ขึ้น...ก็ฟังไม่ขึ้น... เริ่มหัวข้อโดย: เพนกวินน้อยนักอ่าน ที่ 10-10-2006, 14:44 ธรรมภิบาลของสิงคโปร์ก็น่าตรวจสอบเหมือนกัน
ผมสงสัยว่ากิจการ คลัง ผัวเมีย ของสิงคโปร์ แบบนี้ ถ้าตัดสินใจผิดเนี่ยไม่มีคนคานเลยนะ น่ากลัวจริงๆ :slime_hmm: หัวข้อ: Re: นายกฯสิงคโปร์ ลีเซียนหลุง ปกป้องเทมาเส็กยังไงๆ ก็ฟังไม่ขึ้น...ก็ฟังไม่ขึ้น.. เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 10-10-2006, 14:57 ธรรมาภิบาลของสิงค์โปร์เหรอ มีกฎหมายห้ามเปิดเผยบัญชีลูกค้าไม่ว่าในกรณีใด ๆ ( แม้แต่คำสั่งศาลก็ไม่ได้ )
นั่นคือ ....มีคนใช้ธนาคารของสิงคโปร์เป็นแหล่งเก็บเงินที่มาโดยมิชอบ... ใครบ้างที่ไปสิงคโปร์ช่วงปฏิรูปการปกครอง...ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ได้เลย...ไปเปิดบัญชี หรือจัดการทรัพย์สิน...บางอย่าง. นั่นคือ สวรรค์ของนักการเมืองขี้ฉ้อ... พวกมาเฟียฟอกเงิน ฯลฯ... หัวข้อ: Re: นายกฯสิงคโปร์ ลีเซียนหลุง ปกป้องเทมาเส็กยังไงๆ ก็ฟังไม่ขึ้น...ก็ฟังไม่ขึ้น.. เริ่มหัวข้อโดย: irq5 ที่ 10-10-2006, 15:18 นายกฯสิงคโปร์ คงอ้างอิงว่า
ความเชื่อถือในรัฐบาล ทักษิณนั้น ได้สืบในระดับประชาชนไทย ผ่านอินเตอร์เน็ต โดยจ้างล่ามชาวไทย แปลกระทู้ ราชดำเนินเป็นเวลา 1 ปี ก่อนซื้อ โดยข้อมูลที่ได้ เห็นว่า ชาวไทย เกือบ 100% รักทักกี้อย่างแน่นเหนียว ไร้คนมาต่อกร และไร้คนดีทั้งประเทศแล้ว ทักกี้ดีคนเดียว หัวข้อ: Re: นายกฯสิงคโปร์ ลีเซียนหลุง ปกป้องเทมาเส็กยังไงๆ ก็ฟังไม่ขึ้น...ก็ฟังไม่ขึ้น... เริ่มหัวข้อโดย: นายเบียร์ ที่ 10-10-2006, 15:23 นายกสิงคโปร์จะไม่ตอบในประเด็นจริยธรรมใดใดทั้งสิ้นเพราะไม่อยู่ในความสนใจและไม่มีหน้าที่ต้องมาตอบให้ใคร เหอๆ
ความรับผิดชอบทางจริยธรรมและศีลธรรม อย่ามาถามถึงให้เหนื่อยกล้ามเนื้อกล่องเสียงเลย หัวข้อ: Re: นายกฯสิงคโปร์ ลีเซียนหลุง ปกป้องเทมาเส็กยังไงๆ ก็ฟังไม่ขึ้น...ก็ฟังไม่ขึ้น... เริ่มหัวข้อโดย: คนเดินดิน ที่ 11-10-2006, 02:03 ลีเซียนหลุง มันก็แค่ห่วงผลประโยชน์ของสิงคโปรโตกเท่านั้น มันไม่ได้มีความหวังดีต่อคนไทยหรอก
อยากให้ พล.เอก สุรยุทธ ทบทวนเรื่องการเช่า สนามบินจังเลย ทั้งที่เมืองกาญน์ อุดรธานี และที่อื่นๆ เรียกร้อง อธิปไตย เหนือน่านฟ้าไทยกลับคืนมา เพื่อคนไทยเท่านั้น ก่อนซื้อชิน มันต้องมีความมั่นใจมากๆ ว่าไม่มีใครมาลบเหลี่ยมได้ มันคงไม่นึกคิดว่า เมื่อชาติมีภัย ทุกภาคส่วนของสังคมไทย ก็พร้อมออกมาเคลื่อนไหว เพื่อต่อสู้กับทรราช จนมีชัย ถึงวันนี้ อยากรู้เหมือนกันว่า เงิน 7.3 หมื่นล้าน มีการจ่ายจริงแล้วเท่าไหร่ และเงินอยู่ไหน ในเมืองไทยหรือไม่ ถ้าถูกเพิกถอนสัมปทานจริง สิงคโปรโตก จะยอมรับเคราะห์ไว้เอง เนื่องจากคาดการณ์ผิด หรือมันจะไปเช็คบิลคืน จากเหลี่ยม |