หัวข้อ: เผยคืนประวัติศาสตร์!!..คณะปฏิรูปฯไฟเขียว"ASTV"ชนสื่อนอก เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 06-10-2006, 09:30 http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000124718
ไพศาล พืชมงคล เผยรัฐบาลแผนสูง เตรียมขนม็อบชนพันธมิตรฯ ประกาศยึดอำนาจ พร้อมยกย่อง แม้ว เป็นวีรบุรุษ ระบุคณะปฏิรูปฯ ไฟเขียว เอเอสทีวี ชนสื่อต่างชาติ เชื่อเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นสถานการณ์ในของประเทศไทย ในสายตาของต่างประเทศจะย่ำแย่กว่านี้ รายการ คลุกวงในข่าว ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เอเอสทีวี คืนวันที่ 5 ต.ค.49 นายสำราญ รอดเพ็ชร ผู้ดำเนินรายการ ได้สนทนากับนายไพศาล พืชมงคล ถึงบทบาทและหน้าที่ภายหลังได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในการออกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (คปค.) โดยนายไพศาล เริ่มประเด็นไว้อย่างน่าสนใจว่า ถ้าไม่มีการยึดอำนาจในวันที่ 19 ก.ย.แล้วปล่อยให้มีการชุมนุมวันที่ 20 ก.ย.ประเทศไทยอาจจะเกิดเหตุการณ์นองเลือด และมีการยึดอำนาจจากรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก ดังนั้นเพื่อปกป้องชีวิตประชาชนไม่ให้บาดเจ็บล้มตายบนสงครามกลางเมือง ทหารจึงมีความจำเป็นที่จะต้องยึดอำนาจ จากฐานข่าวผมรู้ว่าจะมีการขนม็อบเข้ามาชนกันในกรุงเทพฯ และก็จะมีการก่อสถานการณ์ขึ้น แล้วก็จะมีการกวาดล้างปราบปรามครั้งใหญ่ โดยการประกาศสภาวะฉุกเฉิน จากนั้นก็จะมีคนกลับมาอย่างวีรบุรุษ ประกาศชัยชนะ นี่จึงเป็นที่มาของการยึดอำนาจในคืนวันที่ 19 ก.ย.และเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีการเตรียมการการไว้ แต่ผู้ที่ติดตามการข่าวของเอเอสทีวีมาก่อนหน้านี้ 2-3 วัน ก็คงจะรู้แล้วว่าน่าจะเกิดอะไรขึ้นนายไพศาล กล่าว เขายังกล่าวถึงบทวิเคราะห์ของ เซี่ยงเส้าหลง ที่เขียนไว้ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน โดยมีประโยคหนึ่งหลุดออกมาจากคนในเครื่องแบบที่ติดตามอารักขา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระบุว่าต้องฆ่าให้มด นั้น ถือเป็นการประเมินจิตใจทหารผิด คิดว่าเมื่อได้ทำนุบำรุงให้รุ่นให้พวกได้ความก้าวหน้าในทางราชการเหนือกว่ารุ่นอื่นๆ แล้ว เขาจะยืนเคียงข้างตนเอง แต่ทหารทั้งชีวิตเขา เขาอยู่ใต้ร่มธงไชยเฉลิมพลมา ฝั่งจิตฝั่งใจในความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่มีอำนาจใดที่จะเปลี่ยนใจสิ่งนี้ได้เด็ดขาด ดังนั้นเมื่อถึงเวลาคับขันแล้วทุกคนก็มายืนอยู่ใต้ธงไชยเฉลิมพลเหมือนกันหมด ผู้ดำเนินรายการตั้งข้อสังเกตถึงความสับสนในคืนวันที่ 19 ก.ย.หลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศสภาวะฉุกเฉิน นายไพศาล ตอบว่า ตนเชื่อว่า พล.อ.วินัย รู้เรื่องนี้ก่อน ทำให้คณะที่ยึดอำนาจสามารถกุมสภาพได้อย่างชัดเจน มิเช่นนั้นแล้วจะไม่สามารถเตรียมการอะไรได้ทัน เพราะการประกาศสภาวะฉุกเฉินมีการเตรียมไว้ก่อน อีกทั้งเตรียมกองบัญชาการที่ 1 ที่ 2 ไว้ นายสำราญ ถามว่า ทำไม พล.อ.เรืองโรจน์ ถึงกลับจาก บก.ทหารสูงสุด มาร่วมมือกับฝ่ายยึดอำนาจ นายไพศาล ตอบว่า ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน ผู้ใหญ่คนหนึ่งได้คุยกับพล.อ.เรืองโรจน์ ว่า ถ้ามีอะไรขึ้นเอ็งยืนข้างไหน พล.อ.เรืองโรจน์ ก็ถามกลับไปว่า จะให้ผมยืนข้างไหน ผุ้ใหญ่ท่านนี้ก็บอกว่า ถ้าไอ้จ๊อด (พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์) ยังอยู่แล้วยืนข้างไหนมึงยืนข้างนั้นแล้วกัน ทั้งนี้ตนต้องขอชื่นชมและนับถือในน้ำใจจงรักภักดีเคารพต่อเจ้านายสุดชีวิตจิตใจ ที่สำคัญคืนวันนั้นก็มีผู้ใหญ่อีกท่านหนึ่งโทรไปย้ำอีก พล.อ.เรืองโรจน์ ก็หันกลับมาทางนี้ ซึ่งถ้าคืนวันนั้น พล.อ.เรืองโรจน์ ตัดสินใจสู้เหตุการณ์จะยุ่งกว่านี้ ผู้ดำเนินรายการถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดเอเอสทีวีจึงออกอากาศในคืนวันที่ทหารเข้ายึดอำนาจได้ นายไพศาล ตอบว่า ถ้าดูผิวเผินดูเหมือนมีอภิสิทธิ์ แต่ความจริงไม่ใช่ เนื่องจากมีการอนุญาตมาจากกองบัญชาการที่ยึดอำนาจ เพราะขณะนั้นตั้งเวลา 3 ทุ่ม สื่อต่างประเทศเสนอข่างเชิงลบต่อคณะปฏิรูปฯ ทั้งสิ้น ข่าวยืนไปทางอำนาจเก่า ที่นี้สื่อไหนละที่จะไปสู้ในต่างประเทศได้ ประเทศไทยมีสื่อเดียวก็คือ เอเอสทีวี ที่ถ่ายทอดไปทั่วโลก ทางกองบัญชาการจึงอนุญาตเป็นพิเศษ เป็นผลให้คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาให้สัมภาษณ์โต้ฝรั่ง คือ ฝ่ายพันธมิตรที่รู้เรื่องต่างออกมาโต้กันหมด ก็เป็นผลให้ข่าวสารตรงนี้ออกไปโต้ข่าวกับข่าวที่สื่อต่างประเทศเสนอ ซึ่งตนคิดว่า การที่กองบัญชาการคณะปฏิรูปฯ เห็นชอบให้ปล่อยอิสระในหลายช่วงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง มิเช่นสถานการณ์ในของประเทศไทย ในสายตาของต่างประเทศจะย่ำแย่กว่านี้มาก ผู้ดำเนินรายการถามถึงบทบาทของ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งการเข้าร่วมยึดอำนาจ กับการที่ไม่เร่งรัดคดีที่ตำรวจมีส่วนในการทำร้ายประชาชน ซึ่งนายไพศาล ตอบไว้อย่างน่าสนใจว่า การยึดอำนาจเสร็จสิ้นลงก่อนเวลา 4 ทุ่ม ตนไม่ทราบว่า พล.ต.อ.โกวิท อยู่ที่ไหน แต่เมื่อตนเข้าไปกองบัญชาการกองทัพบก และเมื่อคณะปฏิรูปฯ กลับมาจากเข้าเฝ้าฯ ผบ.เหล่าทัพเข้ามาหมด ยกเว้น ผบ.ตร.มีแต่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลนั่งอยู่ท่านเดียว ตนจึงถามนายทหารท่านว่า ทำไมพล.ต.อ.โกวิท ไม่มา ซึ่งท่านก็ตอบว่า ผบ.ตร.ต้องไปจัดการกับตำรวจ ซึ่งหนักมาก เพราะตำรวจได้ถูกจัดวางไว้เป็นกองทัพตำรวจอยู่แล้ว อีกทั้งก่อนหน้านั้น พ.ล.ต.อ.โกวิท ก็ยอมรับแล้วว่า ไม่มีอำนาจสมกับตำแหน่ง ซึ่งการไปแก้ปัญหาอย่างนั้นมีเหตุผลฟังได้ ส่วนประเด็นที่สองที่เกี่ยวกับคดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตนอยากฝากความปารถนาดีไปยัง พล.ต.อ.โกวิท และตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ให้อำนวยความยุติธรรม เพราะถือเป็นหน้าที่พื้นฐานเบื้องต้นของตำรวจ ท่านอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ เคยกล่าวว่า ตำรวจเป็นต้นกระแสธารแห่งความยุติธรรม ถ้าต้นกระแสธารขุ่นมัวแล้ว กลางคืออัยการ และปลายคือศาล จะให้ใสสะอาดเป็นไปไม่ไม่ได้ เวลานี้คดีที่พันธมิตรฯ ถูกกล่าวหา ตำรวจจะดำเนินการฟ้องอุดตลุด คนละ 40 -50 คดี มากมายไปหมด แต่คดีที่ฝั่งพันธมิตรเผ้นผู้กล่าวหา ถูกเพิกเฉยมานานแล้ว แม้แต่คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตำรวจก็ไม่ทำอะไรเลย พล.ต.อ.โกวิท อ้างแต่ถูกแรงกดดันทำให้ขยับไม่ได้ แต่วันนี้นับแต่วันปฏิรูปเป็นต้นมา ผบ.ตร.อ้างเหตุผลตรงนี้ไม่ได้อีกแล้ว ต้องทำหน้าที่นี้ให้สมบูรณ์ อย่าให้เสียแรงที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัย ผบ.ตร.น่าจะเข้าใจ และเพื่อให้เกิดความถูกต้องต่อบ้านเมืองต่อไป นายสำราญ ถามว่า มีส่วนร่วมในการเขียนร่างประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 9 ที่เกี่ยวกับเรื่องนโยบายต่างประเทศหรือไม่ นายไพศาล ตอบว่า ประกาศฉบับนี้ตนมาทราบก็เช้าวันที่ 20 ก.ย.ตนไม่ได้เขียน เนื่องจากหลังเวลาตี 3 ของคืนวันที่ 19 ก.ย. หลังนายมีชัย ฤชุพันธ์ (อดีตประธานวุฒิสภา และ นักกฎหมายมืออันดับต้นๆของเมืองไทย )เดินทางกลับไปแล้ว ก็ไม่มีการเขียนประกาศที่เป็นกฎหมายอีก เขียนเฉพาะคำแถลงการณ์ของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่จะกล่าวในวันรุ่นขึ้น เข้าใจว่า ร่างประกาศน่าจะมาจากคณะทำงานอีกห้องหนึ่ง จากนั้นก็ส่งต่อมาที่ห้องตนเพื่อดูความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุให้นายมีชัยบ่น และเสนอให้ร่างประกาศทุกฉบับต้องออกมาจากจุดเดียวเท่านั้น ร่างฉบับนี้ถ้าดูให้ดีจะพบว่า คณะทำงานที่ออกประกาศมา คงจะมีคู่มือประกาศคณะปฏิวัติสมัยก่อนอยู่ จึงหยิบเอาบางฉบับมาพูด ซึ่งข้อความเหมือนกับที่เคยมีในอดีต รวมทั้งฉบับที่ช่วยเหลือชาวไร่ชาวนาด้วย ซึ่งเป็นความตั้งใจดี แต่สถานการณ์มันเปลี่ยนไป การเขียนกฎหมายจะเอาแบบเดิมไม่ได้ เนื่องจากปัจจุบันมีปัญหาเรื่อง การไปทำข้อตกลงที่ไม่ผ่านรัฐสภา มีผลให้มีการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายบ้านเมืองและภาษีอากร ต้องถือเป็นสนธิสัญญาประเภทที่ต้องขออนุมัติต่อสภา แต่รัฐบาลที่แล้วไปให้ความเห็นว่า ไม่ต้องผ่านสภา รัฐบาลควรจะหยิบมาพิจารณาด้วยนายไพศาล กล่าว นายสำราญ ถามถึงนานาประเทศคิด นายไพศาล ตอบว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ทั่วโลกให้ความสนใจ การยึดอำนาจในครั้งนี้ เป็นการเล่นเกมการเมืองระกว่างประเทศ เพื่อฉวยโอกาสของแต่ละประเทศ ประเทศไทยกับสหรัฐมีความสัมพันธ์ที่ยาวนาน ไม่ว่าจะเป้นความสัมพันธ์ในระดับประมุข และประชาชน แต่ฝ่ายบริหารบางคนได้ฉวยโอกาสตรงนี้กดดันประเทศไทยมากเกินไป การตัดความช่วยเหลือทางการทหาร 24 ล้านเหรียญ การข่มขู่ของรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ ถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในอย่างน่าเกลียด ดังนั้นจึงขอฝากไปถึงเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐ ให้ทำหน้าสมกับความเป็นราชทูต ควรแจ้งข่าวสารให้ถูกต้อง มันตรงกันข้ามกับประเทศจีนที่เข้าใจบทบาทและสถานการณ์ในประเทศไทยมาก การเดินทางมาเยือนของท่านประธานเสนาธิการใหญ่ ถ้าเป็นไปได้ รัฐบาลไทยและคณะมนตรีความมั่นแห่งชาติ (คมช.) ควรจะให้ความสำคัญ ให้สมกับน้ำใจที่เขาให้กับเรา นายไพศาล กล่าวทิ้งท้าย หัวข้อ: Re: เผยคืนประวัติศาสตร์!!..คณะปฏิรูปฯไฟเขียว"ASTV"ชนสื่อนอก เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 06-10-2006, 09:41 ผมไม่ได้มีโอกาสติดตามASTVบ่อยนักครับ ต้องขอขอบคุณคุณพรรณชมพูที่เอาบทความเหล่านี้มาให้อ่าน
เรียกว่าเปิดปูมคืนวันที่19กันยายนเลยทีเดียว อ่านแล้วสนุกและน่าใจหายมากครับ ต้องกราบขอบพระคุณพระสยามเทวาธิราช และเหล่าทหารหาญที่กู้ชาติครั้งนี้ เยี่ยมจริงๆครับ :slime_v: หัวข้อ: Re: เผยคืนประวัติศาสตร์!!..คณะปฏิรูปฯไฟเขียว"ASTV"ชนสื่อนอก เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 06-10-2006, 09:46 สัมภาษณ์ 2 คืนซ้อน เห็นบอกจะบันทึกเป็น วีซีดี ออกจำหน่าย เก็บเป็นประวัติศาสตร์
ผู้จัดการได้เปรียบ ที่มีคนในทีมงานเข้าไปช่วยในคืนปฏิวัติ หลายคน ความจริงเรื่องแบบนี้ คุยกัน 5 ตอนก็ยังสนุก... อ้อ...ผมได้ดู-ฟัง ทั้ง 2 ตอน ทำให้มองเหตุการณ์ได้ดีขึ้น ต้องขอบคุณเค้าด้วย หัวข้อ: Re: เผยคืนประวัติศาสตร์!!..คณะปฏิรูปฯไฟเขียว"ASTV"ชนสื่อนอก เริ่มหัวข้อโดย: อมพระมาพูด ที่ 06-10-2006, 09:52 เบื้องลึก เบื้องหลัง..น่าติดตามดีครับ
หัวข้อ: Re: เผยคืนประวัติศาสตร์!!..คณะปฏิรูปฯไฟเขียว"ASTV"ชนสื่อนอก เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 06-10-2006, 10:03 คืนวันนั้นจำได้ว่า ฟังวิทยุทุกสถานีถ่ายทอดเพลงหมด แต่มี 90.5 รายงานจากศูนย์ข่าวเนชั่นโต้งๆ
สักพักก็ตัดเข้ารายการเหมือนกันหมด คือเพลงเทิดพระเกียรติ สักพักหมุนไป 97.75 ชขัดแจ๋วครับ ฟังคุณการุณ คุณเติมศักดิ์ คุณอัญชลี จัดรายการไปจนถึงตีสอง จึงตัดเข้ารายการเพลง หัวข้อ: Re: เผยคืนประวัติศาสตร์!!..คณะปฏิรูปฯไฟเขียว"ASTV"ชนสื่อนอก เริ่มหัวข้อโดย: HILTON (ปาล์มาลี) ที่ 06-10-2006, 11:14 ASTV สู้กับ CNN และ BBC โอ้ พระเจ้า ...? อาจาซีล่า แห่งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ สนธิเกิดแล้ว ... :slime_bigsmile:
หัวข้อ: Re: เผยคืนประวัติศาสตร์!!..คณะปฏิรูปฯไฟเขียว"ASTV"ชนสื่อนอก เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 06-10-2006, 14:24 ASTV สู้กับ CNN และ BBC โอ้ พระเจ้า ...? อาจาซีล่า แห่งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ สนธิเกิดแล้ว ... :slime_bigsmile: เมื่อคุณยืนหยัดอยู่กับสิ่งที่ถูกต้อง ต่อสู้กับความชั่วร้าย ก็จะได้รับสิ่งที่ดี โดยที่ไม่จำเป็นต้องร้องขอ ไม่จำเป็นต้องเลีย....วันนี้ เอเอสที่วี อาจจะเป็นแค่มดตัวเล็ก ๆ เมื่อ เทียบกับ CNN หรือ BBC แต่ก็คงจะมีคนรู้จักกันมากขึ้นในวงกว้าง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และหากยังหยัดอยู่กับสิ่งที่ดีงามต่อไป ก็จะได้รับผลตอบแทนที่ดีมากขึ้นไปเรื่อย ๆ .......ถึงผมจะไม่ค่อยจะชอบคุณ สนธิ ในหลาย ๆ เรื่อง แต่ก็ต้องยอมรับจริง ๆ ว่า การขับไล่ ระบอบทักษิณ เป็นการจุดชนวน โดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ครับ ส่วนกรณี ผบ.โกวิท.......โอกาสอย่างนีได้มาอย่างฟลุ๊ก ๆ ด้วยความเมตตาของผู้หลักผู้ใหญ่ .....ก็สมควรต้องกลับตัวกลับใจมาทำในสิ่งถูกต้องเสียที ถ้าวันนี้ยังไม่ทำอีก ก็ไม่เหลืออะไรไว้ภูมิใจ ในยามแก่เฒ่าแล้ว หัวข้อ: Re: เผยคืนประวัติศาสตร์!!..คณะปฏิรูปฯไฟเขียว"ASTV"ชนสื่อนอก เริ่มหัวข้อโดย: justy ที่ 06-10-2006, 15:43 คืนนั้นระหว่างที่ทุกๆช่องมีเพลงของในหลวงและทหาร(สื่อไม่ถูก ขอโทษด้วย)สลับกับการแสถงการณ์เป็นระยะๆ
แต่ ASTV มีคุณ อัญชลี ไพรีรักษ์ และคุณ การุณ ใสงาม ร่วมด้วย พิธีกรของ ASTV อีกคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ชาย จำชื่อไม่ได้ คอยให้ รายงานข่าวการปฏิวัติ (สลับคำแสถงการณ์ของคปค.)และพูดถึงแง่มุมต่างๆให้ประชาชนที่ติดตามหน้าจอได้รับทราบ รวมทั้งไปหยิบข่าวสดๆจาก CNN มาให้ดูด้วย คืนนั้น ช่วงสั้นๆก็ได้เชิญ คุณสนธิ ลิ้ม มาพูดด้วยค่ะ หัวข้อ: Re: เผยคืนประวัติศาสตร์!!..คณะปฏิรูปฯไฟเขียว"ASTV"ชนสื่อนอก เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 06-10-2006, 16:36 เรียนถามคุณพรรณชมพูหน่อยครับ
วันนี้คุณถนอม อ่อนเกตุพล พูดทาง FM9225 ว่า สถานะทางการเงินของเครือผู้จัดการโอนเอนเต็มทน เพราะการต่อสู้ 1 ปีที่ผ่านมาใช้ทุนทรัพย์ไปเยอะมาก บอบช้ำจริงๆ ไม่ทราบว่าช่องทางการบริจาคให้เครือผู้จัดการผ่านบัญชีเมืองไทยรายสัปดาห์ยังอยู่หรือไม่ หรือจะต้องช่วยเหลือกันทางไหน พอจะมีข้อมูลไหมครับ ..... ผมขอประณาม "คนหัวฝรั่ง" บางคนที่พยายามทำลายความน่าเชื่อถือของสนธิ ลิ้มฯ มาตลอด จนถึงบัดนี้ รู้กันอยู่ว่าใคร และก็มี "ทนายบ้าเพลงโอเปร่า" รีบแจ้นมาแก้ต่างให้ทุกทีน่ะ เลวมาก หัวข้อ: Re: เผยคืนประวัติศาสตร์!!..คณะปฏิรูปฯไฟเขียว"ASTV"ชนสื่อนอก เริ่มหัวข้อโดย: Megalo ที่ 06-10-2006, 16:49 ผมติดตามดูทั้งสองคืน คุณไพศาลหรือเรืองวิทยาคมมาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ลุ้นและสนุกดี
อ่านสามก๊กมา 2 รอบ เพิ่งเห็นหน้าคนแต่ง ( เรื่องวิทยาคม ) ก็หนนี้ สามก๊กโดยเรื่องวิทยาคม แกเขียนได้น่าติดตามมาก ใครไม่ได้อ่านก็หามาอ่านได้ ไม่ผิดหวัง หัวข้อ: Re: เผยคืนประวัติศาสตร์!!..คณะปฏิรูปฯไฟเขียว"ASTV"ชนสื่อนอก เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 06-10-2006, 21:53 คุณไพศาล ไม่อยากหักหน้า มีชัย...นับว่าเป็นคนที่น่านับถือ และพยายาม "แก้ตัว" ให้กับ "โกวิท"
คุณไพศาล พูดแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น ยกความดีให้กับทุกคน นับว่าสร้างคุณูปการให้กับสังคมได้ในระดับหนึ่ง |