ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 05-10-2006, 12:59



หัวข้อ: ...ประทับใจและชื่นชม บุคคลท่านนี้มานานแล้ว...คุณล่ะคะคิดไง
เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 05-10-2006, 12:59
(http://img98.imageshack.us/img98/3815/imageslm8.jpg)


"น.พ.เกษม วัฒนชัย" ไขปริศนาปัญหาชาติ ทำอย่างไรคนไทยรักการอ่าน
มติชนรายวัน  วันที่ 09 มกราคม พ.ศ. 2547 ปีที่ 27 ฉบับที่ 9436
หมายเหตุ - น.พ.เกษม วัฒนชัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขณะนี้ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้เป็นองคมนตรี และยังรับหน้าที่ประธานโครงการ "รวมพลังรักการอ่าน" ซึ่งเป็นโครงการที่ต้องการจะให้ภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนร่วมแรงร่วมใจกันทำให้คนไทยรักการอ่านหนังสือ และขณะนี้โครงการดังกล่าวได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว น.พ.เกษมจึงเป็นบุคคลหนึ่งที่จะตอบคำถามได้ดีว่า "พวกเราจะทำอย่างไรให้คนไทยรักการอ่าน"
http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2004q1/article2004jan09p3.htm

.............................................................................................................................................................


2 องคมนตรีดับไฟใต้-ดูการศึกษา

อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวสะพัดว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ได้ทาบทามนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ให้มานั่งในตำแหน่ง รมว.มหาดไทย เพื่อดูแลแก้ไขปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้ง น.พ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ซึ่งอาจกลับไปเป็น รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) ด้วย
http://news.sanook.com/politic/politic_23199.php

............................................................................................................................


'น.พ.เกษม'จี้เร่งปฏิรูปการศึกษา
ต้องปลอดการเมืองเน้นคุณภาพ

การปฏิรูปการศึกษา เป็นอีกนโยบายที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เสนอมาตลอด นับตั้งแต่ทักษิณ 1 แต่ดูเหมือนว่าการปฏิรูปการศึกษา ยังไปไม่ถึงไหน และยิ่งปฏิรูป ก็ยิ่งย้ำอยู่บนเส้นทางเดิม ซึ่งทิศทาง การปฏิรูปการศึกษาของไทย จะไปไหนนั้น ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเดิมถูกวางให้ผู้กอบกู้ ระบบการศึกษาไทยเป็นคนแรก ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าว ในงานสัมมนามูลนิธิแผ่นดินไทย เรื่องปัจจัยเสี่ยงของประเทศไทย

ประเด็นที่น่าเป็นห่วงและเสี่ยงมากในสังคมไทย นอกจากในเรื่องของคนส่วนใหญ่ที่ตกอยู่ในกระแส สื่อสารสนเทศ ที่มีอิทธิพลต่อความคิดความเชื่อของคนไทย จนยึดเอากระแสให้เป็นสัจจะแล้ว ประเด็นที่น่าเป็นห่วงมาก คือ เรื่องของการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งมีจุดอ่อนในหลายประเด็น ตั้งแต่เรื่องของคุณภาพการศึกษา และการกระจายโอกาสให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล เพราะปัจจุบันระบบการศึกษาของไทยตกอยู่ภายใต้กระแสการหาเสียงทางการเมือง

ศ.นพ.เกษม กล่าวว่า เรื่องการศึกษาถือว่า ปัจจัยเสี่ยงมากในสังคมไทย และจำเป็นจะต้องมีการปฏิรูปอย่างเร่งด่วน โดยประเด็นแรก คือ จะต้องนำเอาระบบการศึกษาออกมาจากระบบการจัดซื้อจัดจ้างให้ได้ ซึ่งคงจะต้องบอกว่า 'ขอเถอะพระเจ้า' แม้ว่า เรื่องนี้จะยากแต่จะต้องพยายามทำ เพราะขณะนี้ระบบการจัดซื้อจัดจ้างทำให้คุณภาพการศึกษาไปไม่ได้ไกล และทำให้มีการใช้เงินมากในระบบการศึกษา นอกจากนี้ จะต้องปฏิรูประบบศรัทธากับ ครู เพราะปัจจุบันเราขาดแคลนครูที่ดี จะต้องยกระดับและพัฒนาครูให้มีหัวใจในการสอนให้ได้

'ระบบคุณภาพการศึกษาเป็นเรื่องที่จะต้องปรับปรุง โดยจะต้องรื้อฟื้นการสอบวัดคุณภาพการศึกษาในระดับชาติขึ้นมาให้ได้อีก เพราะเดิมนั้นการสอบ ม.4, ม.8 จะต้องมีระบบชาติเข้ามาวัดคุณภาพ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำอย่างเช่นปัจจุบัน ที่ทุกโรงเรียนจัดการสอบวัดคุณภาพของโรงเรียนเอง โดยที่ไม่มีระบบการตรวจสอบแห่งชาติ ดังนั้น ควรจะต้องมี สถาบันการสอบมาตรฐานชาติขึ้นมาใหม่'

สำหรับสถาบันการสอบมาตรฐานชาตินั้น จะใช้เพื่อวัดคุณภาพการศึกษาโดยตรง เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่รู้ว่าระดับคุณภาพของนักศึกษาประเทศไทยอยู่ในระดับไหน โดยหากให้โรงเรียนจัดสอบกันเอง จะเกิดปัญหาการปล่อยเกรด ทำให้ระดับการศึกษาของนักเรียนไทยไม่สามารถเทียบเท่ากับนักเรียนสิงคโปร์ หรือประเทศอื่นๆ ได้

'ปัญหาเรื่องคุณภาพจะต้องปรับปรุง โดยเฉพาะการสอบมาตรฐานแห่งชาติ จะต้องรื้อฟื้นเพราะหากให้โรงเรียนจัดทำกันเองก็มีปัญหาเรื่องการปล่อยเกรดให้กับนักเรียน ยิ่งมีนโยบายในเรื่องการไม่ยอมให้นักเรียนสอบตกซ้ำชั้นก็ยิ่งมีปัญหาว่า โรงเรียนปล่อยเกรด เพื่อที่ครูจะได้ไม่ถูกตรวจสอบว่า ทำไมนักเรียน นักศึกษา ถึงสอบไม่ผ่าน ซึ่งเรื่องนี้อันตรายมาก'

นอกจากนี้ ศ.นพ.เกษม ระบุว่า ประเด็นใหญ่อีกประเด็น คือ เรื่องของการที่นำเอาระบบการศึกษาออกจากการหาเสียงทางการเมืองให้ได้ เราพบว่าขณะนี้ระบบครูแถบจะผูกโยงกับเรื่องการหาเสียงทางการเมือง ดังนั้น หากต้องการให้การปฏิรูปการศึกษาไปได้ไกลจะต้องทำให้ระบบการศึกษาปลอดจากการหาเสียงทางการเมืองให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะไปไม่รอดแน่

อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่การศึกษาเท่านั้นที่จะต้องปฏิรูป หากว่า ภาคศาสนาของประเทศไทยก็จำเป็นจะต้องปฏิรูปเช่นกัน โดย ศ.นพ.เกษม กล่าวว่า ศาสนาพุทธ น่าเป็นห่วงมาก เพราะมีคนที่อยู่นอกศาสนาเยอะมาก อีกทั้งศาสนามอมเมา และมีการนำเอาศาสนามาเป็นการค้าในเชิงพาณิชย์ อีกทั้งศาสนาก็มีความขัดแย้งกันเองจำนวนมาก ดังนั้นในเรื่องการศึกษาก็จำเป็นจะต้องมีการปฏิรูปอย่างเร่งด่วนเช่นเดียวกัน
'ศาสนาพุทธมีความน่าเป็นห่วง เพราะเรามีคนอยู่นอกศาสนาจำนวนมากคนพยายามเอาศาสนาไปเป็นพาณิชย์ จะต้องเร่งปฏิรูป เพื่อลดความเสี่ยงของสังคมไทยลงให้ได้'


http://www.ftawatch.org/news/view.php?id=3683


หัวข้อ: Re: ...ประทับใจและชื่นชม บุคคลท่านนี้มานานแล้ว...คุณล่ะคะคิดไง
เริ่มหัวข้อโดย: ชอบแถ ที่ 05-10-2006, 13:39
คนที่ไม่สามารถทำงานในช่วงรัฐบาลทักษิณ 1 คือ คนที่ไม่สามารถแปล
นโยบายมาเป็นการปฏิบัติได้ หรือไม่ก็ไม่สามารถทำงานเป็นทีมได้ แม้ว่า
คนนั้นจะเป็นคนดีเพียงใดก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถแจกจ่ายความดีของตัวเอง
ให้แก่คนอื่นได้


หัวข้อ: Re: ...ประทับใจและชื่นชม บุคคลท่านนี้มานานแล้ว...คุณล่ะคะคิดไง
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 05-10-2006, 13:44
องคมนตรี น.พ.เกษม วัฒนชัย เป็นบุคคลากรที่มีการยอมรับว่ามีความสามารถมานานแล้วค่ะ ท่านทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติมาหลายโครงการแล้ว  แต่ท่านพลาดไปตรงที่รับคำเชิญให้เข้าร่วมรัฐบาลทักษิณ เนื่องจากคนใกล้ชิดได้ชักนำเข้าไป และเมื่อท่านทราบควมจริงเบื้องหัลงของพรรคไทยรักไทย ท่านก็ลาออกในทันทีค่ะ ไม่ยึดติดหรือกระหายอำนาจ หลังจากลาออกมาแล้ว ท่านก็จะถูกพายุโทสะของบางคนกระหน่ำใส่ แต่ด้วยพระบารมี ท่านเลยมีทีคุ้มภัย และรอดปลอดภัยมาได้ค่ะ

ชื่นชมเช่นกันค่ะ


หัวข้อ: Re: ...ประทับใจและชื่นชม บุคคลท่านนี้มานานแล้ว...คุณล่ะคะคิดไง
เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 05-10-2006, 21:34
---ข่าวล่าสุด  ฟังจากสื่อสารมวลชน
ได้ข่าวว่า  ท่านปฏิเสธการรับตำแหน่ง
รมต กระทรวงศึกษา  ขอเป็นองคมนตรี
ต่อไป---



---  ถ้าเป็นจริงก็น่าเสียดายนะคะ


หัวข้อ: Re: ...ประทับใจและชื่นชม บุคคลท่านนี้มานานแล้ว...คุณล่ะคะคิดไง
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 05-10-2006, 21:45
คนที่ไม่สามารถทำงานในช่วงรัฐบาลทักษิณ 1 คือ คนที่ไม่สามารถแปล
นโยบายมาเป็นการปฏิบัติได้ หรือไม่ก็ไม่สามารถทำงานเป็นทีมได้ แม้ว่า
คนนั้นจะเป็นคนดีเพียงใดก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถแจกจ่ายความดีของตัวเอง
ให้แก่คนอื่นได้

ใช่ครับ น่าเสียดายที่ไม่สามารถแจกจ่ายความดีให้กับคนอื่นในพรรคได้ จึงมีแต่พวกสถุ-ล ถ่-อย ทรราชย์ ขายชาติ กังฉิน เหลืออยู่ในพรรค และกอดคอกันจมน้ำตายไปแล้วเมื่อเร็วๆมานี้

 :slime_smile2: