ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ศาลปกครองสูงสุดสั่งรับฟ้องเพิกถอนสัมปทานกลุ่มชินคอร์ปฯแล้ว


ศาลปกครองกลาง อ่านคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด โดยมีคำสั่งให้รับฟ้องในคดีที่ นายศาสตรา โตอ่อน อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ยื่นฟ้องกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที),บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) โดยกระทรวงคมนาคม และสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-3 ในความผิดเรื่องสัญญาสัมปทานกรณีละเลยต่อหน้าที่ในการตรวจสอบและยกเลิกสัญญาสัมปทานที่มีการละเมิดต่อหลักการดำเนินกิจการคลื่นความถี่ ตามรัฐธรรมนูญ ม.40 ของบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้ขายหุ้นส่วนใหญ่ให้กับกลุ่มเทมาเส็ก ซึ่งเป็นกองทุนของต่างชาติ โดยศาลปกครองสูงสุด เห็นว่าผู้ฟ้องถือเป็นประชาชนที่เป็นผู้ใช้บริการ ซึ่งอาจได้รับความเสียหายหากบริษัทดังกล่าวตกไปอยู่ในมือของต่างด้าว  

ต่อมาวันที่ 22 มีนาคม ศาลปกครองกลางวินิจฉัยสั่งไม่รับฟ้องคดีแ ละให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องจากผู้ฟ้องไม่ใช่คู่สัญญาสัมปทานของรัฐที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหายต่อมานายศาสตรา หลังจากนั้นนายศาสตรา จึงยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด และได้นัดสั่งคดีในวันนี้

http://www.naewna.com/news.asp?ID=29167
 :slime_smile:

ข่าวดีที่ไหน นี่มันข่าวร้ายชัดๆ (ของทะสิน)  :slime_smile2: :slime_smile2:

อำนาจนี่น่ากลัวเนอะ  ใช้ในทางที่ดีก็ดีไป ใช้ในทางที่ไม่ดีก็เป็นเคราะห์กรรม
ทักษิณเข้ามาอุ้มธุรกิจตัวเอง ผ่านอำนาจนายกฯ จากไม่มีเงิน หงิมๆพอเสพติด
ทั้งเงินทั้งอำนาจก็ กร่าง ทำอะไรตามใจ ทุจริจเชิงนโยบายเพียบ

มีทุกวันนี้ด้วยเงิน สร้างพรรคด้วยเงิน เงินที่ได้มาก็ไม่โปร่งใส คนเทือกนี้
ไม่รู้ทำไมมีคนไปนับหน้าถือตามันได้

ตอนนี้ทักษิณก็ไม่ได้ถือหุ้นชินคอร์ปแล้ว เทมาเส็กก็ถือส่วนหนึ่งที่เหลือก็รายกลางและรายย่อย
ถ้าเพิกถอนสัมปทานไปใครจะเสียบ้าง พนักงานชินคอร์ปและบริษัทในเครือทั้งหมดมีกี่คน
พนักงานเหล่านี้ก็คงไม่ได้รักทักษิณทุกคนหรอกนะ รู้สึกจะเป็นการเพิ่มปัญหาให้บ้านเมือง
มากกว่าแก้ปัญหานะครับ

 ศาลปกครองสูงสุดระบุว่า คำวินิจฉัยที่บอกว่าผู้ฟ้องไม่ใช่เป็นผู้เดือดร้อนเสียหายจึงไม่มีสิทธิ์ฟ้องคดีนั้น ศาลปกครองสูงสุดพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำอุทธรณ์ของนายศาสตราที่ระบุว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียและใช้บริการรวมทั้งเป็นเจ้าของคลื่นความถี่ตามมาตรา 40 ศาลเห็นว่าคำอุทธรณ์ของนายศาสตรา แม้ผู้ฟ้องไม่เดือดร้อนเสียหาย แต่สัมปทานบริษัททั้งสามได้รับ คือ บริษัท ไอทีวี, ชินคอร์ป และเอไอเอส มีโอกาสที่จะล่วงรู้ความลับเกี่ยวกับการสื่อสารของผู้ใช้บริการได้ ถ้ากิจการตกไปอยู่ในมือของคนต่างด้าว อาจทำให้เกิดความเดือดร้อนเสียหาย เป็นภัยต่อความมั่นคง ผู้ฟ้องคดีอาจเป็นผู้เดือดร้อนเสียหาย จึงเป็นผู้มีสิทธิฟ้องคดีได้....


เป็นภัยต่อความมั่นคงเลยเรอะ  ทำไมเวลาขายพวกมันไม่รู้จักคิด  :slime_mad:

เรื่องดีสุดๆเลย ต่อไปก็ ปตท.นะนะ :slime_agreed:

สงสัยจะเป็นนโยบายเรียกวีรชนยุคใหม่

คงต้องรอผลการสืบคดีสอบสวนและตัดสินค่ะ  เป็นกติกาของสังคม เราต้องยอมรับ
กฎหมายเขียนไว้ชัดเจนค่ะ เรื่องสัดส่วนของผู้ถือหุ้น แม้จะถูกแก้ไขให้มากเกินกว่าที่เคยด้วยฝีมือของเจ้าของบริษัทชินเอง แต่กติกาที่ตนเขียนเองก็ยังโกงซะเองเลยค่ะ โทษใครไม่ได้

หากเดือดร้อนเพราะทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ก็ต้องถูกตัดสินครับ ก็ต้องเป็นไปตามหลักยุติธรรม ไม่ใช่หลักกู

ช่วยฟ้อง

DTAC อีกบริษัท ด้วยครับ
ขายหุ้น ให้ เทเลนอร์ ทั้งบริษัท

เหมือนกันเปี๊ยบ

เพื่อชาติ

ต้องไม่ DOUBLE STANDARD  

ได้สนุกแน่นอนครับ  เจ้าของเดิมก็ศิษย์พระธรรมกาย  ด้วยกันกับทักกี้

ว่าแล้วมันแปลกๆ    ไปไหว้พระ ทำห้องพระเหมือนกันเปี๊ยบ

ลูกแ้ก้ว เอยยยยยย

DTAC มีแต่มือถือ ไมมี่ดาวเทียม

มือถืออย่างเดียว คุกคามความมั่นคงได้หรือเปล่า  ศาลคงต้องคิดดู

ถ้าตามกฏหมายผิด มันก็ผิด คุกคามไม่คุกคาม
มันเป็นเรื่องของการใฃ้บทลงโทษมากกว่า
ถ้าคุกคามมาก ก็เจอโทษหนัก คุกกคามน้อย
ก็โทษน้อย ไม่เกี่ยวอะไรกันกับผิดหรือไม่

ฟ้องเองสิครับ เขาไม่ได้ห้ามนี่

ช่วงนี้อารมณ์ดีมากเป็นพิเศษครับ เพราะทรราชย์กำลังโดนตามเช็คบิล

กรรมตามทันแล้ว ลิ่วล้อก็ตัวใครตัวมัน  :slime_bigsmile:

แถไปเลย  :slime_slapped: เอาแต่ซะใจ  :slime_cool: