ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ในแวดวงการเมืองของไทย คนที่มีคุณสมบัติ "เก่ง กล้า ดี" มักไม่มีที่ยืน  แต่หากมีสองในสามอย่างแม้สลับที่กันไปมา ก็สามารถยืนอยู่ได้อย่างมั่นคง

ในแวดวงของทหารและตำรวจก็เช่นกัน  คนที่มีคุณลักษณะทั้งสามประการมักไม่ค่อยรุ่ง เนื่องจากระบบราชการของไทยเป็นระบบ เส้นและสาย  ไม่ว่าจะเก่งมาจากไหนก็ตาม จะแน่กว่านายไม่ได้เด็ดขาด  เจ้านายที่มีอำนาจในการโยกย้ายจึงมักเลือกคนที่มีคุณสมบัติแค่ สองในสาม ของที่กล่าวมาก็พอ  ส่วนอีกหนึ่งที่ขาดหายไป ก็เป็นการเติมให้เต็ม ของคำว่า โกง  ไม่เก่ง  ไม่กล้า และ ไม่ดี   เพื่อให้ครบคุณสมบัติของคนเป็นใหญ่เป็นโตที่ไม่เกินหน้าเกินตาเจ้านาย

พลเอกเปรม ทวนกระแสน้ำก้าวขึ้นมาเป็นผบทบ. ได้ ก็เพราะเป็นนายทหารที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดจากราชวงศ์  โดยเฉพาะเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จย่า  และเพราะพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ในครั้งนั้น ทำให้ท่านกลายเป็นต้นทางของสายน้ำทุกสายในกองทัพบก  การแต่งตั้งนายทหารที่เป็น "ลูกป๋า" ถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่บัดนั้น และทำให้ประเทศไทยยังมีที่ยืนให้ทหารหลายคนที่ "เก่ง กล้า ดี"

พลเอกสุรยุทธ์ ก็เป็นหนึ่งในนายทหารที่ถือกำเนิดมาจากสายน้ำที่มีต้นทางคือ พลเอกเปรม  แต่เมื่อท่านเกษียณอายุไปแล้ว อำนาจและบารมีที่จะแผ่ไปถึงลูกป๋าทั้งหลายก็ดูจะเจือจางลง  แวดวงทหารกลับมาสู่ยุคเดิม คือ ตั้งต้นกันใหม่ที่สายใครสายมัน  เพื่อนใครเพื่อนมัน

ปี 2540 ตอนนั้นพลเอกชวลิตเป็นนายก  โผที่วางเอาไว้สำหรับตำแหน่งผบทบ.ต่อจากพลเอกเชษฐา ฐานะจาโร  คือ พลเอกสำเภา ชูศรี  ถ้าผิดไปจากนี้ ก็เป็น พลเอกแป้ง มาลากุล ณ อยุธยา   ส่วนพลเอกสุรยุทธ์ ถือว่า นอกกระแสไปแล้ว เพราะไม่ได้ขึ้นมาเป็น 5 เสือทบ.มาก่อนหน้า

ถือว่าเป็นเดชะบุญที่ รัฐบาลพลเอกชวลิต ถึงแก่กาลอวสานก่อนเวลาอันสมควร ทำให้นายชวน หลีกภัยได้เป็นนายกรัฐมนตรี  ที่สำคัญกว่านั้น ท่านเป็นพลเรือนที่หาญกล้าควบตำแหน่ง รมว.กลาโหมอีกตำแหน่ง  ซึ่งสร้างกระแสไม่พอใจลึกๆ ในหมู่นายทหารระดับสูง เนื่องจากไม่ยอมรับเจ้านายพลเรือนมากุมอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี

นายชวนเองก็พอจะรู้คลื่นใต้น้ำที่กำลังก่อตัว อายุของรัฐบาลที่สืบต่อจากพลเอกชวลิตมีเวลาแค่สามปี  แต่จะอยู่ยั้งยืนยงได้ครบอายุหรือไม่ก็อยู่ที่ตัว ผบทบ.นี่แหละ  หากเป็นนายทหารตามโผเดิมที่พลเอกชวลิตซึ่งขณะนั้นไปทำหน้าที่หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านวางเอาไว้  ก็จะเกิดความลำบากใจ เพราะต้องระวังข้างหน้า พะวงข้างหลังอยู่ตลอดอายุของรัฐบาล  กลายเป็นนายกและรมว.กลาโหมแค่ชื่อ แต่อยู่ใต้อาณัติของขุนทหารที่ยังจงรักภักดีต่อพลเอกชวลิตและพลเอกเชษฐา

โผของผบทบ.ที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ มาพลิกในวินาทีสุดท้าย กลายเป็นพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ชนิดสะท้านไปทั้งกองทัพ เพราะต่างก็คาดว่า พลเอกสุรยุทธ์น่าจะจบชีวิตราชการในกองบัญชาการทหารสูงสุดไปแล้ว

น่าเสียดายที่รัฐบาลชวนหมดอายุไปเสียก่อน ได้นายกคนใหม่ชื่อทักษิณ ชินวัตร การแต่งตั้งโยกย้ายในปีถัดไปจึงเป็นหน้าที่ของพลเอกสุรยุทธ์ที่ต้องเผชิญหน้ากับสายอำนาจเดิมของพลเอกชวลิตและนายกทักษิณที่มีเพื่อนร่วมรุ่นหลายคนอยู่ในกองทัพ

คน เก่ง กล้า ดี ที่พลเอกสุรยุทธ์เสนอขึ้นไป ถูกปฏิเสธจากนายกและพลเอกเชษฐา ที่ได้กลับมาจัดโผทหารแก้ลำใหม่อีกครั้ง  ความขัดแย้งที่ชัดเจนที่สุด คือ พลเอกสุรยุทธ์ ไม่สามรถดัน พลเอกวัฒนชัย ฉายเหมือนวงศ์ ขึ้นมาเป็นหนึ่งใน 5 เสือทบ.ได้ ทั้งๆ ที่คนทั้งประเทศรับทราบกันโดยทั่วไปว่า แม่ทัพภาค 3 ท่านนี้เป็นคน เก่ง กล้า ดี ที่สุดคนหนึ่งของกองทัพ และผลจากความขัดแย้งนี้เอง ทำให้พลเอกสุรยุทธ์ก็รักษาตำแหน่งของตัวเองไม่รอด  ต้องถูกโยกไปจบชีวิตราชการในตำแหน่งผบ.สูงสุด  เพื่อเปิดโอกาสให้พลเอกชัยสิทธ์  ชินวัตร ลูกพี่ของนายทักษิณได้เป็น ผบทบ.แทน ซึ่งก็เป็นการพลิกโผอีกเช่นกัน เพราะไม่ได้มาจาก 5 เสือทบ. แต่เป็นรายการ "คุณขอมา"

และแน่นอนว่า..ทหารสาย "ลูกป๋า" ถูกสลายกำลัง และพลังลงเป็นลำดับ เพื่อเปิดทางให้เพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ของนายกสยายปีกขึ้นมากุมอำนาจในกองทัพบก และวางคิวเป็น ผบทบ.ไปอีกอย่างน้อยสองรุ่น  ซึ่งจะเป็นหลักประกันให้นายทักษิณมีความมั่นคง สมบูรณ์ พูนสุขในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ครบ 2 สมัยอย่างแน่นอน
ทั้งนี้..วงจรที่ยังไปไม่ถึง ยังขาดอยู่นิดเดียว ต้องอาศัยพลเอกสนธิ บุญรัตนกลิน มารับช่วงสั้นๆ  ซึ่งก็เป็นการพบกันครึ่งทางระหว่างนายกทักษิณกับป๋าเปรม  ปรกอบกับมีเหตุการณ์ไฟใต้ที่ยังระอุ  คุณสมบัติสำคัญที่ทักษิณไม่อาจปฏิเสธได้ในตัวพลเอกสนธิ คือ ท่านเป็นมุสลิม


เดชะกรรมของทักษิณแท้ๆ..

พลเอกสุรยุทธ์เกษียณอายุราชการแล้ว แทนที่จะได้ไปใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นคุณงามความดี และโปรดเกล้าฯ ให้เป็นองคมนตรี (แน่นอนว่า ประธานองคมนตรีมีส่วนถวายคำแนะนำ) นั่นทำให้นายทหารผู้นี้ ยังมีบทบาทอยู่ในสังคมไทยและแวดวงทหาร  ด้วยเป็นบุคคลที่พลเอกเปรมไว้วางใจ

อย่าลืมนะครับว่า แม้การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปีจะเป็นอำนาจของผบทบ.เป็นผู้คัดสรร และนายกเป็นคนอนุมัติโผ  แต่ก็ไม่อาจสมประสงค์ได้ หากไม่มีพระปรมาภิไธยของพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทุกครั้งพลเอกเปรมจะเป็นผู้ที่ถวายคำปรึกษาแก่พระองค์ท่าน ซึ่งทำให้นายกทักษิณยังต้องเกรงใจพลเอกเปรมอยู่ และทำให้ประธานองคมนตรีผู้นี้ยังสามารถแผ่บารมีบางๆ ครอบคลุมเงาของกองทัพได้

ผมบอกแล้วว่าเป็นเดชะกรรมของทักษิณ  เพราะเป็นผู้ลั่นไกก่อน โดยผู้ที่เปิดศึกคนแรกกลายเป็นนายสมัคร สุนทรเวชที่บังอาจไปวิจารณ์พลเอกเปรมจนทำให้ตัวเองถูกปลดออกจากรายการ หมัก-สิต คิดตามมัน ซึ่งเราท่านก็รู้ดีถึงคุณภาพ ปากพาจนของนายสมัครดี และรู้ที่มาของการเข้ามาดำเนินรายการทางช่อง 5 ของกองทัพด้วยว่า ต้นสายของรายการนี้ได้รับไฟเขียวมาจากใคร
งานนี้เล่นงานนายของตัวเองโดยไม่รู้ตัวแท้ๆ  ทำให้วงแตก และเกิดความไม่ไว้วางใจกันระหว่างขั้วอำนาจขึ้นมา และหนักหนาขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากเจ้าของฉายาจมูกชมพู่ที่รับงานมายังไม่ยอมหยุด ขอท้าทายอำนาจจนกว่าเจ้านายจะเจ๊ง ด้วยการเปิดศึกมวลชนแข่งกับพันธมิตรที่นำโดยนายสนธิ ลิ้มฯ

เอางบประมาณมาจากไหน  นายสมัครไม่ยอมบอก แต่ที่แน่ๆ ไม่ได้ควักเองแน่นอน

อีกด้านหนึ่ง การตอบโต้จากฝ่ายพันธมิตรที่ได้รับสัญญาณการเคลื่อนไหวมาจาก..จุด..จุด..จุด  ก็กล้าท้าทายอำนาจรัฐในทุกกรณี  โดยเฉพาะรับหน้าที่จัดกระบวนพล ทำสงครามมวลชนกับม็อบชื่อแปลกๆ ที่มาจากเหนือ อิสานและบางส่วนราชการ
ส่วนทางกองทัพก็มีการเคลื่อนไหวนอกคำสั่ง  โดยเฉพาะการขับเคลื่อนกำลังพลของผบทบ.พลเอกสนธิที่ไม่บอกกล่าวพลเอกธรรมรักษ์ และสับเปลี่ยนนายทหารระดับผู้บังคับกองพันรอบๆ กทม.เข้ามาจ่อคอหอยนายกทักษิณในระยะประชิดไม่ให้หายใจหายคอได้สะดวก  ทำให้นายกทักษิณตัดสินใจเปิดศึกกับพลเอกเปรมด้วยปากที่ไม่มีบารมี  ทำให้พลเอกเปรมต้องรื้อชุดทหาร 3 เหล่าทัพมาปัดฝุ่นใส่ใหม่หลังจากแขวนมาหลายสิบปี  และเดินสายอบรมนายทหารให้รับใช้ชาติ เป็นทหารของพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่รับใช้นักการเมือง เป็นการตอบโต้

อะไรทำให้นายกทักษิณมั่นใจว่า มีโอกาสชนะได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่ากำลังต่อสู้อยู่กับใคร?

อย่างแรก..เพื่อนเตรียมทหารรุ่นเดียวกันทั้งในกองทัพบกและสำนักงานตำรวจ กำลังเติบใหญ่  มีกองกำลังในมือรวมกันแล้วถือว่า สู้รบกันได้พอฟัดพอเหวี่ยง  (ในแวดวงทหารเขาประเมินกำลังหทาร และอาวุธยุทโธปกรณ์กันในแผ่นกระดาษนะครับ ว่าได้เปรียบหรือเสียเปรียบโดยไม่ต้องรบจริง)

อย่างที่สอง..กำลังมวลชนจัดตั้งในต่างจังหวัดกำลังได้ที่  โดยผ่านนักการเมืองท้องถิ่นและข้าราชการในระดับสูงของจังหวัด แค่เป่านกหวีดทีเดียว ก็พรึ่บทั้งประเทศ  เขาไม่มุ่งหวังรบในกรุงให้แตกหัก แต่จะยึดรอบเมืองหลวงเอาไว้ทั้งหมด  เรียกว่า ป่าล้อมเมือง  ในกทม.อาจแพ้อย่างสูสี แต่ในต่ในต่างจังหวัดชนะขาดลอย

อย่างที่สาม..มีเครือข่ายสื่อสารมวลชนอยู่ในมือจำนวนหนึ่ง  ที่เราทราบๆ กันดีก็คือ อสมท.ของท่านมิ่ง  ไอทีวีแม้จะห่างเหินแต่ยังพอมีอยู่  นสพ.ท้องถิ่นที่กำลังจัดตั้งขึ้น และวิทยุชุมชนเกือบทั้งหมด  เปิดศึกด่าฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล 24 ชม. นำทีมโดยหมักเจ้าเก่า และนักเคลื่อนไหวเกรดบี ถึง ซีลบ ที่เอ่ยชื่อขึ้นมาทีไร ประชาชนร้อง.."อ๋อ..ไม่รู้จักว่ะ"  ส่วนสื่อทางทีวี แม้ไม่เข้าข้างแต่จะไม่เป็นปรปักษ์อย่างแน่นอน

แต่สุดท้ายจบเห่อย่างที่ทราบๆ กัน เพราะการชิงลงมือก่อนแค่วันเดียวของทหารในการนำของพลเอกสนธิ  หากช้ากว่านี้แค่ชั่วข้ามคืน สถานการณ์จะพลิกผันทันที  เพราะรากหญ้าจะชุมนุมกันแน่นในหลายจังหวัด ทหารก็ทหารสลายไม่อยู่หรอกครับ  เพราะเขารับ-จ่ายกันแล้ว จะทำก็ต้องทำก่อนวันจ่าย ซึ่งก็สร้างความปวดร้าวให้กับแกนนำรากหญ้าอย่างมาก แค้นนี้จำจนวันตาย  "พรุ่งนี้ก็รวยแล้ว" รอไม่ได้หรือไง


และ พลเอกสุรยุทธ์ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 24  ทั้งๆ ที่ทักษิณได้ตัดวงจรของนายพลท่านนี้ให้ไปไกลๆ แล้วแท้ๆ  สุดท้าย..ก็หนีไม่พ้นบ่วงกรรมที่ตนเองก่อไว้กับผู้อื่น  เฮ้อ..!

พี่บอนนี่คะ...

หนูชอบบทความมากค่ะ อ่านอย่างตั้งใจ ราวกับว่ากำลังอ่านมติชนสุดสัปดาห์อยู่




ขออนุญาต เอาข้อความบางส่วนออกค่ะ ขอบพระคุณค่ะพี่  :D

คุณเก็ดถวา..

ความจริงที่ตั้งหัวกระทู้เช่นนี้  หากอ่านทั้งกระทู้จะเห็นว่า คุณชวนมีบทบาทนิดเดียวในเนื้อหาทั้งหมด  แต่ที่กล่าวเช่นนี้ เพราะ..จุดนั้นเป็นจุดหักเหชีวิตของพลเอกสุรยุทธ์ ที่นับว่าสำคัญที่สุดครั้งหนึ่ง ซึ่งนำมาสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้

จะเห็นได้ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่มีผู้วางแผนเกือบทั้งหมด ยกเว้นจุดเล็กๆ จุดนี้


อีกเหตุผลที่เป็นส่วนตัว ก็เคารพคุณชวนในการตัดสินใจครั้งนั้นด้วยครับ เพราะผมปรบมือป้าบๆ ฟังข่าวอยู่

อ่านหัวข้อกระทู้แล้วนึกว่าคุณ สนธิ ลิ้มทองกุล เขียน
เพราะคนๆ นั้น พูดในรายการทำนองว่า
ผมนี่แหละ ทำให้ พล.อ. สนธิ ได้เป็น ผบ.ทบ.
คุณ *bonny อาจคิดว่าตัวเองเจตนาดีที่เขียนแบบนี้
แต่ดิฉันอ่านแล้วรู้สึกว่าไม่เป็นผลดีต่อท่านชวนเลย
จึงขอประท้วงมา ณ ที่นี้

พิมพ์ช้าไปหน่อย คุณ เก็ดถวา ชิงตัดหน้า ส่งก่อนแล้ว  :D

คุณsnowflake คุณเก็ดถวา(อีกที)

เพื่อความสบายใจของทั้งสองท่าน ผมแก้หัวกระทู้ให้แล้วนะครับ

หนูเข้าใจเหตุผลค่ะพี่บอนนี่

และหนูเคารพ ท่านอดีตนายกชวน มากๆ ค่ะ

เพียงแต่.. หนูเกรงว่าจะมีคน.. หมั่นไส้ท่าน แหะๆ  :slime_shy:

แต่ก็ ไม่เป็นไรค่ะ เอาพี่ว่าละกัน

แค่พี่เขียนให้อ่านเป็นอาหารสมอง ก็เป็นพระคุณมากๆ แล้วจริงๆ ค่ะ




คุณ snowflake อิอิ ก็เก็ดถวาพิมพ์แค่ 2 บรรทัดเอง ย่อมเร็วกว่าสิคะ  :mrgreen:

และต้องไม่ลืมว่า
ในช่วงที่ท่านสุรยุทธ์เป็นผบ.ทบ
ทหารอยู่ในแถวทั้งหมด
ไม่มีวีรกรรม วีรเวร
เหมือนยุคหลังจากท่าน

คือคุณงามความดีครับ

ขอบคุณที่รับฟังนะคะ  :D

อืม สงสัยเรื่องแก้ "หัวข้อกระทู้"
ทำไมวันก่อนแก้หัวข้อกระทู้ของตัวเอง แล้ว
เวลาตอบ คคห. ใหม่ ยังได้หัวข้อกระทู้เก่าออกมา
ไม่ยักเปลี่ยนเป็นของใหม่ อย่างของคุณ *bonny ...
ไม่ทราบว่ามีเคล็ดลับอะไรเปล่าคะ?   :roll:

เขียนได้น่าสนใจมาก

แต่ผมคันจัง

คันยิกๆ อยากรู้ว่าหัวข้อที่จริงเขียนว่าอะไร ทำไมมีคนท้วงถึงสองคน

นั่นน่ะสิครับ ลำพังสติปัญญาอย่างนายชวนคงทำได้แค่นั้น  แต่สติปัญญาแบบทักษิณคงไม่เลือกพลเอกสุรยุทธ์หรอก  เพราะเขาเป็นคนที่คิดได้ลึกล้ำ สติปัญญาล้ำเลิศ  เขาจึงต้องระเห็จไปอยู่ต่างประเทศ และพรรคทั้งพรรคเอาตัวไม่รอด แพแตกเช่นทุกวันนี้

ก็เพราะ สติปัญญา  นี่แหละคิลเลอร์


ไม่มีเคล็ดลับอะไรหรอก  เวลาแก้หัวกระทู้ต้องไปกดคำว่า แก้ไขที่กระทู้แรกซึ่งเป็นเนื้อกระทู้  เข้าใจว่า คุณหิมะไปกดแก้ในความเห็นต่อๆ มาของคุณ มันก็จะทำการแก้ไขเฉพาะในความเห็นนั้น

ไม่มีอะไรหรอกครับ  หัวข้อกระทู้เป็นอย่างไร อ่านความเห็นแรกที่ผมตอบคุณเก็ดถวาก็จะเป็นทั้งหมดของหัวข้อที่ลบไป  หายคันได้แล้วครับ  :slime_p:

อ่านแล้ว ตรงใจเลย เพ่ ...........
แต่พวกต่างชาติมันวิจารณ์ตรงกันข้ามเลยอะ
ช่างหัวมันนะ
คนดีไทยนี่
เอามันไว้ก่อน
บ้านเมืองช่างมัน ใช่ป่าวเพ่

ยังไม่รู้กันเหรอ นายชวน ก็เด็ก ป๋า มาก่อน

ถ้าจำไม่ได้ ลองทายสิ "สะตอสามัคคี" มาจากสมัยใหน

ช่วงป๋าเป็นนายก ปชป. ก็เกาะติดป๋ามาตลอด

พอป๋าบอกพอแล้ว...ปชป. ก็ตกกระป๋อง ให้ พลเอกชาติชาย สะบึมไป

ท่านสรยุทธ์ สมัยเป็นพันเอก อยู่ข้างการป๋าเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องการปราบปรามคอมมูนิสต์

รุ่นนั้น เจิมศักดิ์ก็อยู่ในทีมงาน แก้ปัญหา "ข้าว" พวกซ้ายจากป่าก็เพิ่งโผล่ออกมาจากราวป่า ต้องรายงานตัวตลอด

ต้องไม่ลืมว่า 8 ปี ในตำแหน่งนายกของ "ป๋า" ย่อมแผ่บารมีอย่างล้นเหลือ

พวกนี้มันประมาณตัวผิดไปเอง...

ผมทราบว่า..

ในบรรดาสะดอสามัคคีนั้น  คนของปชป.ที่สนิทกับป๋าเปรมมากที่สุดคนหนึ่ง ชื่อ "ไตรรงค์ สุวรรณคีรี"

ตอน พลเอกสุรยุทธ์ มาเป็นผบทบ

ผมชอบคำว่าฮิตสมัยนั้นที่ขึ้นมาพร้อมกันคำว่า ทหารอาชีพ

พร้อมกับบุคคลิก ของ พลเอกสุรยุทธ์

ต่างกันลิบลับจากยุคทักษิณ ที่(กล้ามาก)ไปตั้งญาติตัวเองขึ้นมาคุมกองทัพ

ชอบบทความนี้มากๆเลยครับ :slime_agreed:


ว่าแต่ว่า สะดอสามัคคี คืออะไรเหรอครับ คิดว่าเกิดมาทัน แต่ไม่ทันได้รับรู้เรื่องราวอะไรทั้งนั้น  :slime_shy:

พรรคปชป. มีต้นธารจากอีสาน เป็นหลักใหญ่ สส.ดัง ๆ ที่ต่อสู้กับสายทหาร ก็ 4 รมต. ที่ถูกเก็บที่ทุ่งบางเขนไง

มี กทม.เป็นฐานบัญชาการ ป้อมทองแดง กำแพงเหล็ก ใครก็เข้าตีได้ยาก ยกเว้นจากพวกเดียวกัน

"สะตอสามัคคี" ก็มาไล่ ๆ กับ เพลง "โอ่ โอ ปักษ์ใต้บ้านเรา" นั่นแหละ

ป๋าเป็นคนสงขลา แต่รักอีสาน แต่ต้องอาศัย เสียง สส.ในสภาค้ำจุน...จึงอาศัยเสียง สส. ปชป. เป็นหลัก

"กลุ่มสะตอสามัคค"ี คือกลุ่มสส. ปชป.ที่มาจากภาคใต้นั่นแหละ เข้ายึดการบริหารของ พรรค ปชป.

ช่วงนั้นถือได้ว่า กระแส นายกคนใต้เริ่มมาแล้ว 8 ปี....กลุ่มสส.ปักษ์ใต้ ก็เลยต่อเนื่องด้วยกระแสนายกคนใต้

อย่าลืมว่าปักษ์ใต้นั้น เมื่อก่อนมีทุกพรรค เหมือนอีสานนั่นแหละ เมื่อ ปักษ์ใต้ เริ่มร้องเพลง สะตอสามัคคี ทางอีสานก็มีกลุ่มลูกข้าวเหนียวของอีดี้ ไง

อีดี้จวบ เมื่อก่อนก็อยู่ ปชป. แต่มาย้ายพรรคช่วง พลเอกชาติชายตั้งพรรคชาติพัฒนา

ถ้าถอยหลังไปช่วง 14 ตุลา สส.ที่เป็นเลขาพรรค ก็คือคุณใหญ่ มาจากนครสวรรค์ หรือไงนี่แหละครับ ไม่ใช่สาย"สะตอ" เพราะ สะตอยังไม่เกิด

ช่วงนั้น ปชป. ได้ สส.ใต้ยังสู้ อีสาน เหนือ หรือ กทม.ยังไม่ได้เลยครับ

แต่มา "ขึ้นหม้อ" จากการเป็น รมต. ในยุค ป๋าเปรม...ลอง ๆ ไปค้นดู จำนวน สส. และ การร่วมรัฐบาลป๋าเปรมดูนะครับ

ปชป. ก็คือฐานเสียงของป๋า ในสภาด้วย แต่เข้าใจว่า ฝั่ง พลเอกอาทิตย์ หันไปชื่นชม พรรค ชาติพัฒนาหรือชาติไทย ( พรรคสายทหาร หน้าเหลี่ยมก็ไปเดินโต๋เต๋ในสภาบ้าง แต่กระจอกมาก ขนาด กร ทัพรังสี ยังไม่รู้จักเลย )

ช่วงนั้น สส.ใต้เป็นกิจสังคมเยอะครับ ก่อนที่ป๋าจะมาครองอำนาจ...อย่าลืมว่า 8 ปี ที่ป๋าอยู่สร้างอำนาจบารมีให้ ปชป.สายสะตอสุด ๆ แล้วครับ

เหมือน หน้าเหลี่ยม ครองอีสานในสมัยนี้ ไม่ผิดกันหรอก

ได้นายกคนใหม่ชื่อทักษิณ ชินวัตร การแต่งตั้งโยกย้ายในปีถัดไปจึงเป็นหน้าที่
ของพลเอกสุรยุทธ์ที่ต้องเผชิญหน้ากับสายอำนาจเดิม
ของพลเอกชวลิตและนายกทักษิณที่มีเพื่อนร่วมรุ่นหลายคนอยู่ในกองทัพ

สุดยอดเลย

แต่


 เอ บิ๊กแจ๋ว เนียก็ลูกป๋า กะเค้าไม่ใช่หรือ

... ลองเรียบเรียงใหม่ดีกว่า นะ

ที่สนใจตรงคุณชวนก็เพราะครอบครัวผมทั้งพ่อแม่และผม ชอบท่านก็เลยอยากรู้ว่าคุณ bonny เขียนอะไรไปถึงท่าน
แต่ก็ไม่ติดใจอะไรแล้วล่ะครับ  ขอบคุณครับ

ท่านมีวันนี้ได้ เพราะ อยู่ข้างๆป๋า จำใจรับนะนี่ แต่ป๋าจำใจให้เหมือนกัน อยากเอาไว้เองแต่......ไม่มีแหง :slime_mad:

พิสูจน์แล้วว่าทหารอาชีพ ไม่มีจริง มีแต่ทหารการเมือง
ถ้าตอนนั้นท่านทักษิณไม่กล้าตั้งญาติตัวเองมาคุมกองทัพ
ก็คงจะโดนสอยตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เห็นมั้ยตอนนี้ไม่ตั้งคนที่
ตัวเองไว้ใจแล้วเป็นไง ทหารไว้ใจไม่ได้หรอก โดยเฉพาะ
ทหารแก่

แล้วใครหว่า ที่เข้าไปเจ้ากี้เจ้าการตั้งทหาร พยายามเข็นญาติโกโหติกาเพื่อนร่วมรุ่นขึ้นคุมกำลัง ข้ามหัวรุ่นพี่ โดยไม่ใส่ใจลำดับระบบการเลื่อนชั้นก่อน....

ใครเริ่มก่อน

ตอนนี้ พอเขาโชว์พลังของจริง ที่ไม่ใช่พลังการเมือง ทำโอด...

แถ หน้าด้านๆ ตอนตั้ง พี่ชายเหลี่ยมขึ้น ประชาชนยังนิยมเหลี่ยม  ใครจะมาโค่น.. อย่างดีก็ฮึ่มๆ จาก ทหารที่ไม่ได้ใฝ่การเมือง ก็เท่านั้น

ถ้าไอ่เหลี่ยมรู้จักปล่อยวาง
 - ไม่ไปจู้จี้เรื่องโผทหาร หาเรื่องดันพวกพ้องมันขึ้น
 - ไม่มาจัดฉากคาร์บ๊องป้ายสีทหารเพื่อหาเรื่องปลดฝ่ายตรงข้าม
 - ไม่ขู่ตั้งม็อบป่าบ้าบอมาเที่ยวไล่กระทืบคนค้าน

วันนี้ รึ จะเกิดขึ้น?

ทหารไม่ยุ่งการเมือง แต่การเมืองกี่ครั้งแล้วที่ก้าวก่ายหาเรื่องทหารก่อน  และ ทหารเหล่านี้ ก็ยังดีกว่า นักกินเมืองหน้าเลี่ยม แดกงบชาตินับหมื่นๆล้าน แล้ว อ้างกติกู 100 เท่า!!!