หัวข้อ: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 09:41 ....จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ก็พอจะทราบแล้วใช่มั๊ยคะว่า
เพราะสังคมเสื่อมโทรม การตระหนักและเห็นคุณค่าของ...ศีลธรรม. แทบไม่มี ไม่ว่าจะเป็นรากหญ้า รากแก้วมีไม่น้อยทีเดียว ที่ถูก ซึมซับ ถูกแทรกซึมให้เห็นคุณค่าของ เงิน....วัตถุ ...เศรษฐกิจ ให้เห็นเป็นเรื่องหัวใจของประเทศ จนชีวิตประจำวันของคนไทยส่วนมาก ....และหายใจเข้าออกมีแต่เรื่องต้องทำมาหากินเพื่อเงิน เพื่อความมั่งคั่ง ร่ำรวย...บูชาคนมีเงินมากว่า..เป็นพระเจ้า บันดาลอะไรได้ทุกสิ่ง จนลืมเหลียวมอง วัฒนธรรมไทย จริยธรรม คุณค่าแห่งการกระทำดี ซึ่งเป็นพื้นฐานของคนไทยแท้แต่โบราณ ที่ใช้ชีวิตอย่างผาสุข เน้นความสุข สงบ นี่คือพื้นฐานจิตใตของคนไทยจริงๆ ....... แล้วมาวันนี้ ณวินาที เป็นอย่างไรล่ะคะ ...แม้เงินร้อยล้าน พันล้าน หมื่นล้าน .....เห็นแล้วหรือยังว่า ชีวิตวันนี้ของคนมีเงินเป็นหมื่นล้าน แสนล้านเป็นอย่างไร เงินมิสามารถบันดาลให้เขามีชีวิตที่พอเพียงหรือสงบสุขใช่หรือไม่..... เราคนไทยจะยอมรับกันได้แล้วหรือยังว่า... จริงๆแล้ว เงินมิใช่พระเจ้า แม้สักนิดเดียวเลย.... ศีลธรรมต่างหาก ที่จะทำให้ประเทศสงบสุข.... มั่นใจ และฟันธงว่า ....ศีลธรรมเหนือสิ่งอื่นใด ..เรื่องความคิดที่แตกต่างคงเป็นเรื่องยากมากค่ะที่จะปรับเปลี่ยนกันได้ เพราะอดีตท่านนายกทักษิณคิดว่าท่านพูดถูก.. คิดถูก... ทำถูก และมั่นคง ตรงจุดยืนเช่นนั้น เรื่องราวเลยเป็นอย่างนี้ เชื่อว่าแม้ ณ วินาทีนี้ ท่านก็คิดว่า ท่านถูก เชื่อมั๊ย ...?? ....ไม่อยากเอามาพูดมาก...... โบราณว่า....ไม้ล้มอย่าข้าม .... ศีลธรรมจริยธรรมเหนือสิ่งอื่นใด ...ถ้าจำไม่ผิดใบไม้เคยตั้งกระทู้เน้นย้ำว่า .. ศีลธรรมเหนือสิ่งอื่นใด ...เกินสิบครั้ง.ในราชดำเนิน ทุกครั้งก็จะถูกหลายอมยิ้มต่อต้าน และแม้อมยิ้มที่แสดงด้วยเหตุผลหลายอมยิ้มก็ไม่ยอมรับว่า..... ....ศีลธรรมเหนือสิ่งอื่นใดจริงๆ...... ณ วินาทีนี้เหตุการณ์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก็พิสูจน์แล้วว่า...ใช่ .....เอกลักษณ์ของคนไทยวัฒนธรรมไทยยึดคุณค่าของความดีเป็น จุดยืนของบ้านเมือง.... คุณค่าแห่งการทำดี ย่อมชนะอธรรมเสมอ..... ....ขอความกรุณา ตระหนักถึงคุณค่าของการกระทำความดีมากกว่า ทำเพื่อผลประโยชน์แบบไม่ถูกต้องกันเหอะค่ะ...... ถ้าเป็นไปได้อยากร้องขอให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคำนึงถึง...การปฏิรูป สังคมควบคู่ไปกับการปฏิรูปการศึกษา....สักนิดได้มั๊ยคะ ดังคำที่ท่านพุทธทาสเคย กล่าวไว้ว่า...... ...... ศีลธรรมของเยาวชนคือสันติภาพของโลก[/ .... เรียนท่านนายกคะ....ทุกวันนี้สังคมแทบต้องเรียกว่าเป็น มะเร็งร้ายเลยทีเดียว....ถ้าจะให้สังคมฟื้นตัวเองมาเป็นสังคมพอเพียง สังคมที่เน้นจริยธรรมให้ได้ ด้วยตนเองคงยากมากนะ คงต้องขอแรงจากภาครัฐต้องยื่นมือเข้ามาช่วย มิว่าจะเป็น กระทรวง มหาดไทย กระทรวงศึกษา กระทรวงวัฒนธรรมยื่นมือเข้ามาช่วย เข้ามาจัดระเบียบให้ เข้ามาออกนโนบายเข้าช่วย... คนไทยมิได้ เป็นมนุษย์ผู้วิเศษอะไรมากมายก่ายกองหรอกค่ะ บางครั้งการที่จะให้เรื่องที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อชีวิต คนมี คุณภาพของชีวิต ....อย่างแท้จริง .. อนาธิปไตย และประชาธิปไตย ต้องใช้ควบคู่กันค่ะ ....ขอเสนอนะคะว่า.. อยากจะให้มี.... การจัดระเบียบสังคมสมัยคุณปุระชัย ( ยังมีคุณค่ามากต่อเยาวชน ) มาร่วมใช้กับ...การปฏิรูปการศึกษาที่เน้นถูกทาง คือเน้นผู้เรียน ให้เป็น.... .... คนเก่ง คนดี คนมีความสุข ...มากกว่าเข้ามาปฏิรูปโครงสร้างปฏิรูปกรมต่างๆ...อย่างมั่วๆ...ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน ว่าการปฏิรูประบบราชการของกระทรวงศึกษาที่ล้มเหลวคือ ...การจับประถม มัธยมมารวมกัน และจับสายอุดมศึกษามารวมกันหมดในกระทรวงศึกษา ...อันนี้ชี้ชัดว่าเดินผิดทางแน่นอน .. จุดเน้น นโยบายการทำงาน วัฒนธรรมการทำงานของแต่ละองค์กรต่างก็ทำงานแตกต่างกัน ....ไม่สามารถมาร่วมทำงานกันได้หรอก อย่าคิดแค่ว่าได้ปฏิรูประบบราชการแล้วเก่งแล้วดี ของบางอย่างเขาอยู่ตามของเดิม เขาอยู่กันดีอยู่แล้ว .....ช่วงหลังตั้งแต่รัฐบาลทักษิณมาปรับเปลี่ยน โครงสร้าง ระบบการทำงานก็รวนไปหมดข้าราชการแทบทำงานไม่ได้เลย ดูมันสับสนไปหมด ..... ....ลองปรับใหม่อีกครั้งได้มั๊ยคะ จับหัวใจของการปฏิรูปการศึกษามาเล่นจริงๆ เน้นผู้เรียนจริงๆ และทำไปควบคู่กับจัดระเบียบสังคม .....น่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมนะคะ (http://img455.imageshack.us/img455/2182/548000017773301nw0.jpg) หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 04-10-2006, 09:49 หากธรรมไม่กลับมา ปวงประชาจะพินาศ ค่ะ
หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 10:09 หากธรรมไม่กลับมา ปวงประชาจะพินาศ ค่ะ ...น้องพรรณชมพูคะ ...พี่ดีใจมากนะคะที่ยังมีคนเห็นด้วย กับความสำคัญของคำว่า ....ศีลธรรม หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: TAKSIN THE BEST PM. ที่ 04-10-2006, 10:22 คือผมว่าผมก็พอเพียงมาตลอดนะ
แบบ ว่า รับราชการ มาตลอดชีวิต ก็ไม่ได้ทำขายตรง อะไร เมียก็ไม่ได้ทำงานอะไร อยู่บ้านหลวง น้ำไฟ ฟรี เปิด แอร์ 24 ชม. คูปองน้ำมัน หลวงท่านก็ให้มา จะทำงาน อย่างไรดีครับ ถึงจะ มีบ้านในสนามกอร์ฟ หรูๆ ได้ครับ หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: Neoconservative ที่ 04-10-2006, 10:26 คือผมว่าผมก็พอเพียงมาตลอดนะ แบบ ว่า รับราชการ มาตลอดชีวิต ก็ไม่ได้ทำขายตรง อะไร เมียก็ไม่ได้ทำงานอะไร อยู่บ้านหลวง น้ำไฟ ฟรี เปิด แอร์ 24 ชม. คูปองน้ำมัน หลวงท่านก็ให้มา จะทำงาน อย่างไรดีครับ ถึงจะ มีบ้านในสนามกอร์ฟ หรูๆ ได้ครับ แล้วสนใจ มั๊ย ครับ ถ้าสน ติดต่อหลังไมค์ มาเลย :slime_fighto: หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 10:40 :oops: :oops: :oops:
....เมื่อการปฏิรูปการศึกษาที่ผ่านมาเป็นแค่ ปฏิรูปเปลือก ไม่ได้ ปฏิรูปแกน ...หลักสูตรเน้นเทคโนโลยีมากเกินไป เน้นคุณค่า วัตถุ เน้นความเก่งระดับโลก เน้นอินเตอร์ เด็กจะต้องเล่นคอมพิวเตอร์ได้ เด็กจะต้องพูดภาษาอังกฤษเป็นทุกคน....สิ่งเหล่านี้ที่อดีตท่านนายก ไฝ่ฝัน ก็มิใช่ว่าจะไม่ดี ....แต่เป็นสิ่งดีที่ต้องมาทีหลัง การอ่านออกภาษาไทย การเขียนภาษาไทยที่ถูกต้อง การจดจำ อะไรอย่างเข้าใจการแยกแยะวิเคราะห์ข้อมูลได้ถูกต้อง ต้องมาก่อน ....เรื่องนี้เป็นเรื่องอึดอัดใจมาก ไม่รู้จะบอกใครดี ว่าระยะหลัง เมื่อปฏิรูปการศึกษา หลงทาง ...หลักสูตรก็หลากหหลาย เด็กแต่ละคนต้องเรียนถึง 9 กลุ่มสาระการ เรียนรู้ ฯ... แถม ต้องเรียนทั้งสาระพื้นฐาน และสาระเพิ่มเติม กระเป๋าหนักเดิน ไหล่เอียงไปโรงเรียนทุกวัน เรียนอะไรก็ ไม่รู้ลึก และไม่รู้จริง ไม่รอบรู้ เพราะสิ่งที่บังคับให้เด็กรู้มันมากเกินความจำเป็น.... ...การศึกษาไทยจึงถอยหลังเข้าคลองโดยอัตโนมัติ ดังที่เขาออก โรงเรียนในฝันมา ( ที่หลายคนแอบเรียกโรงเรียนนายฝัน)...ฝัน ก็ล่มสลายลงในพริบตา....เมื่อครูเบื่อปฏิรูป เบื่อการทำงาน จับต้นชนปลายไม่ถูก ก็กลายเป็นว่า หันมาเหลียวมองตนเอง ทำเพื่อตนเองดีกว่า ...ทีนี้เป็นไงคะ เมื่อ ------- ----ครูก็มัวบ้าทำแต่ผลงาน เอกสารสร้างภาพ ---ผู้บริหารก็บ้าทำผลงาน เอกสารสร้างภาพ แล้ว ผู้เรียนล่ะ ใครจะบอกเขาให้เป็นคนดี ให้เรียนหนังสือเพื่อ ทำประโยชน์แก่ตนเอง และประเทศชาติ พร้อมทั้งเมื่อไปเป็น นักการเมือง ใครล่ะจะไปบอกเขาว่า อย่าโกงนะ ---- หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 10:59 คือผมว่าผมก็พอเพียงมาตลอดนะ แบบ ว่า รับราชการ มาตลอดชีวิต ก็ไม่ได้ทำขายตรง อะไร เมียก็ไม่ได้ทำงานอะไร อยู่บ้านหลวง น้ำไฟ ฟรี เปิด แอร์ 24 ชม. คูปองน้ำมัน หลวงท่านก็ให้มา จะทำงาน อย่างไรดีครับ ถึงจะ มีบ้านในสนามกอร์ฟ หรูๆ ได้ครับ ...***๕๕๕ เห็นชื่อ นามแฝงก็กลัวแล้วจ๊ะ ไม่กล้าช่วยคิดหน่ะ..... ลองเสนออะไรที่เป็นไปได้ หน่อยดีมั๊ยจ๊ะ ...อย่าล้อเล่นหน่ะ กระทู้นี้ เจ้าของกระทู้นั่งพิมพ์ไปยิ้มไปนะ...เราเป็น เพื่อนกันนะ...คุยกันได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา .... หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 11:17 - การทำผลงานของครูมิใช่สิ่งแปลก ถ้ายืนอยู่บน
พื้นฐานของความพอดีโดยยึดการเรียนการสอนกับผู้เรียนเป็นตัวหลัก ตั้งใจและใจจริง ในการถ่ายทอดความรู้ผู้เรียน หวังให้ผู้เรียนเป็น คนดี คนเก่ง อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ครูก็จะกลายเป็นครูที่แท้จริงคือ ... ผู้ยกระดับวิญญาณของมนุษย์ .. ส่วนการจะรวบรวมข้อมูลด้านเอกสารเพื่อทำผลงานก็ทำแต่เพียงพอดี ก็คงไม่กระทบ กระเทือนผู้เรียนขนาดนี้ ----แต่ตอนนี้ มิว่าครูทางทิศ ตก ออก เหนือ ใต้ มองซ้าย มองขวา มิว่า ครู ผู้บริหารหายใจเข้า หายใจออก ทำแต่เอกสาร ข้อมูลสวยหรู สร้างภาพ ผักชีโรยหน้าเพื่อให้ผลงานผ่าน คำว่า อาจารย์ สามเชิงประจักษ์ ผอ คุณภาพ ล้วนแต่เป็นคำ... ......สวยหรู สร้างภาพให้ดูดี แต่ในข้อเท็จจริง คือ สร้างเอกสาร สร้างข้อมูลให้สวย ให้เข้าเกณฑ์ ว่าไปแล้ว ถ้านำมากอง ก็เกือบถึงหลังคาห้องล่ะ เพราะในความ เป็นจริง กรรมการที่ตัดสินก็รู้จักตัวตนครูหรือผู้บริหารคนนั้นไม่แท้จริงหรอก จึงยึดเอกสารเป็นหลัก ตรวจเอกสารให้เนี๊ยบไว้ก่อน ---เมื่อ ตัณหาของคนมันกำเริบ เหล่าคนที่ไขว่าคว้าซึ่งอำนาจและเงินตรา ทำไงล่ะ ก็ทุ่มเท แรงกาย แรงใจ ทุกวิถีทาง เพื่อให้เอกสารออกมาสวยหรู แล้ว ------ผู้เรียนตาดำ ๆๆๆละคะ จะเหลืออะไร --------ครูลาออกจำนวน มากเพราะอะไร ท่านผู้รับชอบเรื่องนี้ เคยเก็บมาทบทวนมั๊ยคะ เมื่อ.... ....... การศึกษาเป็นแบบ หมาหางด้วน แน่นอน อย่าหวังเลยว่าการเมืองจะเดินมาถูกทาง หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 11:27 (http://img139.imageshack.us/img139/9099/113760mf8.jpg)
ประชาธิปไตยจะเต็มใบได ประชาธิปไตยที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้ การปลูกฝังประชาธิปไตย ต้องปลูกฝังมาแต่อ้อนแต่ออด มิใช่มาปลูกฝังตอนแก่จะเข้าโลงแล้ว.... ชีวิตเด็กน้อย ตาดำๆ....ใครเคยคิดถึงบ้าง ว่า เขารู้จักประชาธิปไตย ดีแล้วหรือยัง การเมืองเป็นเรื่องของคนทุกคน และทุกวัย และเป็นเรื่องที่สัมพันธ์กับทุกเรื่อง โดยเฉพาะ การปฏิรูปการศึกษา และการปฏิรูปสังคม มัวคำนึง แต่.... อำนาจ ผลประโยชน์ วัตถุและเงิน เกิดสงบสุขอะไรขึ้นบ้านเมืองบ้างล่ะ !!! ถามหน่อย ...ฟันธง การปฏิรูปการศึกษาจะสำเร็จได้ ต้องปฏิรูปสังคม ควบคู่ไปด้วย หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: TAKSIN THE BEST PM. ที่ 04-10-2006, 11:40 ...***๕๕๕ เห็นชื่อ นามแฝงก็กลัวแล้วจ๊ะ
ไม่กล้าช่วยคิดหน่ะ..... ลองเสนออะไรที่เป็นไปได้ หน่อยดีมั๊ยจ๊ะ ...อย่าล้อเล่นหน่ะ อิอิอิ อย่ากลัวเราเลย แค่ มอง ต่าง มุม เพียงแต่ อยากรู้ว่า คนดีไหว้ได้ ที่ตอนนี้แข้งเปียกกันตลอด 24ชม. รับราชการมาตลอด ชีวิต บอก นโยบาย ศก.พอเพียง คำพูด กับ ความเป็นอยู่ การกระทำมันชัดๆอยู่ น้า แค่อยากมีบ้านในสนามกอร์ฟ ต้องทำไงก็บอกปชช.เค้าหน่อย จะได้เจริญรอยตามท่านคนดีศรีสังคม หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 11:41 ... เรามักจะพูดถึง ประชาธิปไตย.... พูดถึง ...จริยธรรม ศีลธรรม ความสงบสุข
... ทำไมมัวคิดแต่ปลายเหตุล่ะคะ ....ต้นเหตุที่แท้จริง คือ...การปฏิรูปการศึกษาล้มเหลว มิใช่หรือ !!!!!!................. *** ทำไม ไม่คิดแก้ที่ต้นเหตุของปัญหากันล่ะคะ ..... หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 11:46 อิอิอิ
อย่ากลัวเราเลย แค่ มอง ต่าง มุม เพียงแต่ อยากรู้ว่า คนดีไหว้ได้ ที่ตอนนี้แข้งเปียกกันตลอด 24ชม. รับราชการมาตลอด ชีวิต บอก นโยบาย ศก.พอเพียง คำพูด กับ ความเป็นอยู่ การกระทำมันชัดๆอยู่ น้า แค่อยากมีบ้านในสนามกอร์ฟ ต้องทำไงก็บอกปชช.เค้าหน่อย จะได้เจริญรอยตามท่านคนดีศรีสังคม ....................................................... :slime_v: :slime_v: .. แค่มองต่าง...นิดๆหน่อยๆ แบบนี้ล่ะชอบ ....เจอคนเห็นต่าง ความคิดจะได้แตกฉาน.... ** เศรษฐกิจพอเพียง คุณธรรม ใช่สิ่งที่ดีหรือไม่ ....ถามก่อน การจะยึดอะไรที่จะเอามาปฏิบัติ เราจะยึดที่ตัวคนพูด หรือยึดความ ถูกต้องของเนื้อหาสาระนั่นล่ะ... ..** ที่ผ่านมาอดีตท่านนายก พังเพราะเนื้อหาสาระที่พูด หรือ พังเพราะอะไรกันล่ะค่ะท่าน หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: อมพระมาพูด ที่ 04-10-2006, 11:48 ...***๕๕๕ เห็นชื่อ นามแฝงก็กลัวแล้วจ๊ะ ไม่กล้าช่วยคิดหน่ะ..... ลองเสนออะไรที่เป็นไปได้ หน่อยดีมั๊ยจ๊ะ ...อย่าล้อเล่นหน่ะ อิอิอิ อย่ากลัวเราเลย แค่ มอง ต่าง มุม เพียงแต่ อยากรู้ว่า คนดีไหว้ได้ ที่ตอนนี้แข้งเปียกกันตลอด 24ชม. รับราชการมาตลอด ชีวิต บอก นโยบาย ศก.พอเพียง คำพูด กับ ความเป็นอยู่ การกระทำมันชัดๆอยู่ น้า แค่อยากมีบ้านในสนามกอร์ฟ ต้องทำไงก็บอกปชช.เค้าหน่อย จะได้เจริญรอยตามท่านคนดีศรีสังคม เอ แต่บางคนซื้ออพาร์ทเม้นท์ที่ลันดั้น 700 กว่าล้านนะ แถมเมียใครบางคนจะบินไปอังกิดขอเบิกเงินสองพันล้าน บังเอิ๊ญ ธนาคารให้เบิกแค่ยี่สิบล้านเอง เงินมาจากไหนน้า.... หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 11:56 ... ไม่ต้องโทษตัวบุคคล โทษท่านนายกทักษิณหรอกว่า ....ผิด
ว่าโกง ว่าไม่โปร่งใส ....ต้องโทษ ระบบเสียมากกว่า ... การปฏิรูปการศึกษา ...ล้มเหลว มาเป็นเวลานานทีเดียว ด้วยเหตุที่ว่า ...ผู้ที่คิดที่จะปรับปรุง พัฒนาระบบการปฏิรูปการ ศึกษา ลืมนึกถึงข้อเท็จจริงบางอย่างที่ว่า .... ...การปฏิรูปการศึกษาจะสำเร็จได้ต้องปฏิรูปสังคมควบคู่ไปด้วย ... ทำไมจะต้องปฏิรูปสังคมไปด้วย ก็ด้วยเพราะว่า ชีวิตของเด็ก ของเยาวชน ต้องใช้ชีวิตในครอบครัว ในสังคม ชีวิตของเขามีสอง โลกคือโลกที่บ้าน และโลกที่โรงเรียน ...มิว่าโรงเรียนจะใช้กฏเหล็ก กฏระเบียบที่เคร่งครัดอย่างไร ถ้าระบบสังคมยังไม่ปฏิรูป .... ขอฟันธงได้เลย ว่า การปฏิรูปการศึกษาล้มเหลวแน่นอน เพราะ เด็กจะทนแรงยั่วยุ จากสังคมเสื่อมโทรมได้อย่างไร .... ***ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดมาก ....เป็นเรื่องที่สังคมละเลย พวกเราในสังคม ขาดการดูแลและใส่ใจจริงจังกับเรื่องเหล่านี้ ....1. พิธีกรในรายการเกมโชว์ต่างๆ ในทีวี ใช้กิริยากรี๊ดกร๊าด พูดจา ใช้ภาษาไม่สุภาพ รวมไปถึงการแต่งกายที่ไม่เรียบร้อย รัดรูปเน้นรูปร่างจนเกินควร หรือโชว์สะดือ ยั่วยุกามารมณ์? ....2. นักร้อง นักแสดง ละครทีวี โดยเฉพาะนักร้อง เต้นเด้งหน้า เด้งหลัง โชว์ท่าทาง ยั่วยุอารมณ์ทางเพศ พร้อมทั้งแต่งกาย สื่อความหมายยั่วยุอารมณ์ทางเพศอย่างชัดเจน นักแสดง แสดงบทรักอย่างโจ๋งครึม ไม่มีใครว่าอะไร มิทราบว่า กระทรวง วัฒนธรรมเขาตั้งไว้ทำอะไร เรามัวแต่กลัวว่าไม่อินเตอร์ ... ไม่สากล .....พอพูดจุดนี้ก็กจะมีคนลุกขึ้นมาต่อต้านว่า โลกเปลี่ยน แปลงแล้ว โลกไปถึงไหนแล้ว .... ... .แม้กระทั่งในโลกอินเตอร์เน็ต ....รัฐบาลที่ผ่านมาเคยรู้บ้างไม๊ ว่า การส่งเสริมให้ทุกโรงเรียนมีคอมพิวเตอร์ ผลที่เกิดขึ้นทางลบ แก่เยาวชน และผลที่เกิดขึ้นทางบวกแก่เยาวชน อันไหนมากกว่ากัน ลองถามคนที่คลุกคลีกับเยาวชนอย่างหลากหลายดู .... ..วุฒิภาวะทางอารมณ์ของเด็ก ย่อมอยากดูในสิ่งยั่วยุทางเพศ มากกว่าดู ...ศึกษา เรื่องที่สร้างสรรค์ เราจะโทษเขาไม่ได้หรอก ยามใดที่เขาอยู่หน้าจอเพียงลำพัง ท่านผู้ปกครองลองตรอง ดูว่า.... เขาอยากดูสิ่งโป๊ สิ่งลามกหรือไม่ในเมื่อฮอร์โมนเพศของ เขาค่อนข้างทำงานอย่างแข็งแกร่ง ....ลูกท่านหลานท่านจะ ปลอดภัยจากสิ่งยั่วยุหรือไม่ จะชนะใจตนเองหรือไม่ เมื่อ อยู่หน้าจอคอมเพียงลำพัง ** คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่ดี สร้างสรรค์ สำหรับผู้ที่มีวัยวุฒิ พอควร มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอควร ทำไมจึงมีการหลอกลวงกันในโลกอินเตอร์เน็ตกันมากมาย ก็ด้วยที่ว่า ....วุฒิภาวะทางอารมณ์ วัยวุฒิของเขายังไม่แข็ง แกร่งพอ ที่จะต่อสู้เขี้ยวเล็บ อสรพิษในโลกไร้พรมแดน นั่นเอง.....กระทรวงไอซีที เคยสนใจออกนโยบายเอาจริง เอาจังเรื่องนี้หรือไม่ ....แล้วทำไมไม่อนุรักษ์ ความเป็นไทย ความมีวัฒนธรรมไทย อันทรงคุณค่า ความสงบร่มเย็นในสมัยก่อนเก่า ....กลับคืนมาล่ะ เลียนแบบทำไมต่างชาติ เลียนแบบแล้วสังคมสงบ สุข ร่มเย็น หรือไม่ เราต้องการให้ประเทศร้อนหรือเย็นถามหน่อย *** พอพูดถึงเรื่องนี้ก็จะกระเทือนไปยังระบบ เรตติ้ง ระบบโฆษณาในวงการสื่อสารมวลชนและท้ายที่สุด ก็หนีไม่พ้นเรื่องผลประโยชน์ ....ตราบใดที่เราคำนึงถึง ผลประโยชน์ และเงินมาเป็นตัวตั้งในการบริหารระบบ. เรื่องต่างๆ ในทางสงบสุข ในทางมีคุณธรรมของบ้านเมือง จะเป็นเรื่องที่แก้ไขยากขึ้นมาทันที เมื่อไหร่ เราคนไทย จึงจะร่วมด้วยช่วยกันอย่างจริงจังสักที เพื่อส่วนรวม ของประเทศ ....ร้องขออย่างเคว้งคว้างในโลกไร้พรมแดน นี่ล่ะ .....เผื่อ ....จะมีใครเห็นใจบ้าง ....@@@@ หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 12:07 ... ทำไมมัวมุ่งมอง แต่เรื่องเศรษฐกิจ การค้าเสรี การทัดเทียม
ต่อ อานารยประเทศ.... ????.... .... มิว่า เศรษฐกิจจะดีอย่างไร จะอินเตอร์ขนาดไหน รายได้เข้าประเทศมากมายอย่างไร ...ถ้าเยาวชนของชาติ ยังไม่รู้จักคุณค่าของความดี เด็กอยากร่วมเพศตรงไหน อย่างไรก็ได้ ....เด็กอยากแสดงออกกรี๊ดกร๊าด โชว์เนื้อ หนัง ตรงไหนอย่างไรก็ได้ ....เด็กขาดความรับผิดชอบต่อ ตนเองและสังคม อยากจะขับรถซิ่งชนใคร ทำร้ายชีวิตผู้คน บนถนนอย่างไรก็ได้. ... เด็กอยากจะให้พ่อแม่กราบเช้า กราบเย็นขอร้องให้ไปโรงเรียน ขอร้องให้ลูกรับผิดชอบ กราบให้ลูกไปโรงเรียนเพื่อเรียนหนังสือ .....สังคมและประเทศ ....ก้าวหน้า พัฒนาไปทางสงบสุขเป็นประเทศที่ร้อนเป็นไฟ หรือร่มเย็นกันแน่ ขอให้ผู้ที่รับ ผิดชอบเรื่องเหล่านี้ ....ทบทวนหน่อยนะคะ.... หัวข้อ: Re: ขออนุญาตินำกระทู้ป้าเสลามาเติมเต็มในกระทู้นี้นะคะ...ป้าขา....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 12:41 ** จากความคิดเห็นของป้าเสลาในกระทู้นี้
http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=1541.msg10946;topicseen#msg10946 ........................................................................................... ป้าเห็นด้วยกับคุณคำตัดพ้อฯ ค่ะ ลองอ่านกระทู้ http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=470.msg10942;topicseen#msg10942 (http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=470.msg10942;topicseen#msg10942) หลังจากมีนายกฯคนใหม่ เชื่อว่าน่าจะมีการปฏิรูประบบการศึกษา รื้อฟื้นสังคม วัฒนธรรม จริยธรรมที่ดีให้กลับคืนมาในเร็ววัน ก่อนที่จะสายมากไปกว่านี้ 8) หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: TAKSIN THE BEST PM. ที่ 04-10-2006, 12:47 เอ แต่บางคนซื้ออพาร์ทเม้นท์ที่ลันดั้น 700 กว่าล้านนะ
แถมเมียใครบางคนจะบินไปอังกิดขอเบิกเงินสองพันล้าน บังเอิ๊ญ ธนาคารให้เบิกแค่ยี่สิบล้านเอง เงินมาจากไหนน้า.... มาจากไหน ขบวนการศาลเตี้ยก็ดำเนินการอยู่ แต่ท่านก็มีธุรกิจขนาดยิงดาวเทียมได้อ่ะ แต่อยากรู้ ทหารอาชีพศก.พอเพียง คนดีโลกตลึง มีบ้านขนาด แบบนี้ แค่เงินเดือน จริงๆ เหรอ :slime_v: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตินำกระทู้ป้าเสลามาเติมเต็มในกระทู้นี้นะคะ...ป้าขา....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 12:57 (http://mud.mm-a6.yimg.com/image/2082503626) ดัชนีชี้วัดความสุข(GNH)
เรียบเรียงจาก: บทความชื่อ ภูฏาน : ดัชนีชี้วัดความสุข โดย ศิริพงษ์ วิทยวิโรจน์ จาก หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ************** มีศัพท์เศรษฐศาสตร์สองคำที่ต้องจำเอาไว้ คือ จีเอ็นพี กับ จีดีพี ตัวแรกคือ Gross National Product เรียกกันว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ ตัวหลังคือ Gross Domestic Product หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ จีดีพี หมายถึง มูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตขึ้นภายในประเทศในระยะเวลาหนึ่ง โดยไม่คำนึงถึงว่าทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตสินค้าและบริการ จะเป็นทรัพยากรของพลเมืองในประเทศหรือเป็นของชาวต่างประเทศ ในทางตรงข้าม ทรัพยากรของพลเมืองในประเทศแต่ไปทำการผลิตในต่างประเทศ ก็ไม่นับรวมไว้ในผลิตภัณฑ์ในประเทศ จีเอ็นพี หมายถึง ผลิตภัณฑ์ในประเทศมีการจัดทำทั้งตามราคาปัจจุบันและราคาคงที่ โดยจีดีพี ณ ราคาปัจจุบันคิดมูลค่าผลผลิตเป็นเงินตามราคาตลาดของสินค้า และบริการเหล่านั้น ขณะที่จีดีพี ณ ราคาคงที่คิดมูลค่าผลผลิต เป็นเงินตามราคาปีที่กำหนดเป็นปีฐาน สรุปแล้วGDP และ GNPตัวนี้เขาใช้เป็นดัชนีชี้วัดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ภายใต้สมมติฐานเก่าว่า เศรษฐกิจดี หมายถึงคนอยู่ดีกินดีและมีความสุข ต่อมาไม่นานนัก ก็มีคำว่า GNH ที่นักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก หลังจาก พระมหากษัตริย์แห่งภูฏานตรัสในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก (ปี 2515) ว่า "Gross National Happiness is more important than Gross National Product" แปลง่ายๆ ว่า ความสุขมวลรวมประชาชาติ สำคัญกว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ คำตรัสของกษัตริย์แห่งประเทศเล็กๆ ในหลืบของหิมาลัย กลายเป็นหัวข้อที่นักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะการใช้ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจเพื่อบ่งชี้ความเจริญก้าวหน้าหรือความอยู่ดีกินดีของคนนั้น มีปัญหาของมันอยู่ในตัวเอง ความสุขกับความเจริญทางวัตถุไม่ได้เดินควงคู่ไปด้วยกัน ซึ่งก็รู้ๆ กันอยู่ แต่แก้ไม่ตก เรื่องจีเอ็นเอชจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่อภิปรายถกเถียงกันมาตลอด ด้วยหวังว่าจะพัฒนาดัชนีชี้วัดออกมาให้ได้ (http://www.geocities.com/evergreen2205/flowerTU2.gif)(http://www.geocities.com/evergreen2205/flowerTU2.gif) ที่จริงนักเศรษฐศาสตร์บ้านเราก็รับอิทธิพลเรื่องจีเอ็นเอชมากับเขาเหมือนกัน ส่วนหนึ่งในการจัดทำดัชนีชี้วัดที่นอกเหนือไปจากเรื่องเศรษฐกิจหลายสิบปีมาแล้ว แต่ก็ไปไม่ถึงไหน อาจจะเป็นเพราะการสร้างดัชนีชี้วัดความสุขไม่ได้หลอมรวมเข้ากับแนวทางการพัฒนา การใส่ จปฐ (ความจำเป็นขั้นพื้นฐาน)เข้าไป ก็แค่ทำให้สมบูรณ์ขึ้นในทางกายภาพ ที่จะสามารถวัดออกมาได้ในเชิงปริมาณ แต่หัวใจของมันก็ไม่ใช่อีกเช่นเดียวกัน ความจำเป็นขั้นพื้นฐาน จำเป็นต้องมี แต่ไม่ได้สะท้อนความสุขของมนุษย์ สองสามปีมานี้บางคนอาจจะคุ้นๆ กับการสำรวจความสุขของคนในโลกนี้ (http://mud.mm-a7.yimg.com/image/2492860601) และก็ต้องแปลกใจกับสภาวะความสุขว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับจีเอ็นพีหรือจีดีพีเลย และความสุขในแบบของภูฏานซึ่งอิงแอบกับศาสนาพุทธ ก็ไม่ใช่ความพึงพอใจทางวัตถุถ่ายเดียว ลองพิจารณาคำกล่าวของ Jigmi Y. Thinley, Minister of Home and Cultural Affairs, Bhutan ที่กล่าวไว้เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว "สังคมโดยรวมไม่สามารถบรรลุความสุขได้ หากปัจเจกชนแต่ละคนแก่งแย่งแข่งขันกัน อย่างไม่รับผิดชอบ เพื่อให้ได้มันมาไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร" ความสุขแบบที่จิกมีบอกว่า เป็น "the illusion of market-led happiness" แข่งกันจนแทบตายกันไปข้าง เพื่อจะให้ได้ "ความสุข" ของตัวเอง (http://www.geocities.com/evergreen2205/flowerTU2.gif)(http://www.geocities.com/evergreen2205/flowerTU2.gif) นพ.ประเวศกล่าวว่า หลักของ GNH ที่กษัตริย์ภูฏานทรงทำจะใช้หลักปรัชญา 4 เรื่อง คือ 1.การพัฒนาต้องเน้นความเสมอภาค ลดช่องว่างในสังคม ทำให้คนมีความสุข 2.ดูแลสิ่งแวดล้อม 3.ดูแลวัฒนธรรม 4.มีธรรมาภิบาล ทุกเรื่องต้องทำอย่างโปร่งใส มิฉะนั้นคนจะเป็นทุกข์เหมือนประเทศไทย ขณะนี้ไทยเริ่มเคลื่อนไหวเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ความสุข และความดี ซึ่งต้องขับเคลื่อน 3 เรื่องนี้ไปพร้อมกัน (http://mud.mm-a4.yimg.com/image/1114799490) ทุกฝ่ายต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนคำถามใหม่ จากเดิมแบบทุนนิยมจะถามว่าทำอย่างไรจึงจะรวย คำตอบคือต้องเอารัดเอาเปรียบกัน ให้เปลี่ยนคำถามเป็นความดีคืออะไร ก็จะเกิดคำตอบว่า คือ ความขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีน้ำใจ รักษาสิ่งแวดล้อม พัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยทำให้หายจนได้ นพ.อำพลกล่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงขณะนี้ยังไม่มีการผลักดันเป็นยุทธศาสตร์ชาติ คนระดับกลางและระดับสูงยังคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว หากจับเรื่องนี้กับเรื่อง GNH มาทำเป็นนโยบายสาธารณะจะมีพลังมาก ซึ่งไม่ใช่ให้รัฐบาลเป็นผู้ประกาศดำเนินการ แต่ต้องให้ประชาชนทุกฝ่ายเข้ามาร่วม และยกเป็นยุทธศาสตร์ชาติ ใช้วิธีให้ความรู้และสร้างเครือข่าย เสริมสร้างการปฏิบัติให้ชัดเจน นายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้แทนสำนักงานเครือข่ายงดเหล้า กล่าวว่า GDP ไม่ใช่วิธีชี้วัดความสุขของประชาชน อย่างคนมีเงิน 70,000 ล้าน อาจมีความทุกข์ได้ หากยังมีความอยากอยู่ตลอดเวลา ขอเสนอให้พรรคการเมืองที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง พูดถึงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นนโยบายการทำงานจะช่วยเพิ่มน้ำหนักในการหาเสียงได้มาก(http://www.geocities.com/evergreen2205/flowerTU2.gif) หัวข้อ: Re: ขออนุญาตินำกระทู้ป้าเสลามาเติมเต็มในกระทู้นี้นะคะ...ป้าขา....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 13:02 จาก บ้านเมืองออนไลน์ : webmaster@banmuang.co.th วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2549
คอลัมน์ : ไก่อ่อน : ความพอเพียง ************** ผลการสำรวจของ NEF : New Economics Foundation ตามรายงาน Happy Planet Index ปรากฏว่าประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกคือ ประเทศวานูอาตู และประเทศไทยอยู่อันดับที่ 32 จากประเทศที่สำรวจทั้งสิ้น 178 ประเทศ (http://www.biblicalministries.org/countries/images/Vanuatu1.jpg) (http://www.vanuatu.resortspacific.com/islands/images/ph_top_vanuatu_island.jpg) สาธารณรัฐวานูอาตูอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้กับฟิจิ ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยรวม 83 เกาะ มีประชากร 200,000 กว่าคน มีพื้นที่ประเทศ 12,200 ตารางกิโลเมตร มีเมืองหลวงชื่อ ปอร์ท วิลล่า อันเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ มีพลเมืองประมาณ 30,000 คน (http://www.sailfreyja.ca/archives/port%20vila.jpg) Port Vila เมืองท่าและเมืองหลวง เงินสกุลวานูอาตู คือ เงินวานู ภาษาที่พูดกันมีภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศส รวมกับภาษาท้องถิ่นบีสลาม่า เป็นภาษาทางราชการ ระบอบการปกครองของพวกเขาคือ สาธารณรัฐ มีประธานาธิบดี และมีนายกรัฐมนตรี
บรรทัดฐานการสำรวจอยู่บนเศรษฐกิจในประเทศ ผสมผสานกับทรัพยากรแห่งชาติ สภาพสิ่งแวดล้อม ความเป็นอยู่ของพลเมือง อันได้แก่ ความยืนยาว และความพอใจในชีวิต ผลการสำรวจของเอ็นอีเอฟ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อังกฤษนี้ ไม่น่าเชื่อว่ามหาประเทศหลายประเทศรั้งตำแหน่งท้ายๆ สหราชอาณาจักรคว้าตำแหน่งที่ 108 ในขณะที่สหรัฐอเมริกาเพื่อนเลิฟของอังกฤษ อยู่อันดับที่ 150 และรัสเซียกระเด็นไปอยู่ถึงอันดับที่ 172 หวิดบ๊วย หลักเกณฑ์อันหนึ่งที่น่าจะลบล้างความไม่น่าเชื่อจากการสำรวจนี้ก็คือ ประเทศที่มีความสุขน้อยมากนั้นตกอยู่กับประเทศอุตสาหกรรม และการสำรวจดังกล่าวก็เกิดจากหน่วยงานที่ร่วมมือกับองค์กรสีเขียวของอังกฤษ ที่เรียกตนเองว่า Friends of the Earth (http://www.prodivecentralcoast.com.au/web%20gallery/images/bob%20vanuatu%20079.jpg) (http://www.prodivecentralcoast.com.au/web%20gallery/images/bob%20vanuatu%20387.jpg) ธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ใต้ท้องทะเล แต่งานการสำรวจจะเกิดจากอะไรก็ตามที หากเราพิจารณาด้วยหัวใจที่เป็นกลางแล้ว จะเห็นได้ว่าเป็นประโยชน์กับโลกที่เราทั้งหลายร่วมกันอาศัยอยู่ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงของโลก บ่งบอกถึงทรัพยากรที่โลกมอบมาให้กับแต่ละประเทศ ด้วยความพอดีกับสภาพความเป็นอยู่ของผู้คน สิ่งเหล่านี้มีความสัมพันธ์ระหว่างกัน มีความเอื้ออาทรต่อกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มองอินเด็กซ์การสำรวจอีกสักที ว่ากันเฉพาะกลุ่มประเทศในเอเชียด้วยกัน ผลออกมาว่าประเทศที่มีความสุขมากที่สุดคือ เวียดนาม ซึ่งอยู่อันดับที่ 12 ของโลก โดยประเทศไทยเป็นอันดับ 4 รองจากฟิลิปปินส์ ซึ่งติดอันดับที่ 17 และจีนอันดับที่ 31 ขณะที่สิงคโปร์คว้าบ๊วยเอเชียไปครอง คือติดตำแหน่งที่ 131 นอกจากนี้ก็มี อินโดนีเซีย 23, มาเลเซีย 44, อินเดีย 64 และฮ่องกง 89 เพราะอะไรวานูอาตูจึงกลายเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดของโลก ? (http://www.prodivecentralcoast.com.au/web%20gallery/images/bob%20vanuatu%20363.jpg) (http://www.savethechildren.net/new_zealand/media/images/Vanuatu.jpg) (http://www.prodivecentralcoast.com.au/web%20gallery/images/bob%20vanuatu%20360.jpg) ความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายของชาววานูอาตู รายงานกล่าวว่าเป็นเพราะชาววานูอาตูมีความพอใจในสิ่งที่พวกเขามี สังคมของพวกเขาไม่ใช่สังคมบริโภคนิยม ชาววานูอาตูอยู่ร่วมกันอย่างแท้จริง ด้วยความเกื้อกูลต่อกัน แทบไม่มีช่องว่างระหว่างวัย ต่างฝ่ายต่างหันหน้าเข้าหากัน ต่างฝ่ายต่างให้ความสนใจซึ่งกันและกัน ความกังวลในชีวิตของชาววานูอาตูมีเพียงประการเดียวคือ ภัยธรรมชาติ อันได้แก่ พายุไซโคลนและแผ่นดินไหว (http://www.biblicalministries.org/countries/images/Vanuatu3.jpg) (http://www.biblicalministries.org/countries/images/Vanuatu7.jpg) น่าสนใจอย่างยิ่งครับ สำหรับความเป็นอยู่ของชาววานูอาตู โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพึงพอใจในสิ่งที่พวกเขามีอยู่ และการดำรงชีวิตแบบไม่ใช่สังคมบริโภคนิยม ความร่มเย็นเป็นสุขของคนไทยนั้น ผมเชื่อว่ามีโอกาสไต่อันดับจาก 32 ขึ้นไปได้อีกในอนาคต อันเนื่องมาจากพระราชดำรัสแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้ง เศรษฐกิจพอเพียง และ คุณธรรม 4 ประการ ที่ได้พระราชทานให้กับคนไทยทั้งประเทศ.. ไก่อ่อน ******************** ข้อมูลเพิ่มเติมจาก :- http://www.biblicalministries.org/countries/vanuatu.html Vanuatu อ่านว่า van-wah-too) เป็นหมู่เกาะรูปตัว Y จำนวน 80 เกาะ อยู่ห่าง 500 miles จาก west of Fiji และประมาณ 1300 miles east of Brisbane ประชากร จำนวนประมาณ 200,000 คนที่อยู่อาศัยใน Vanuatu 98% เป็นเชื้อชาติ Melanesians ซึ่งจำนวนประมาณ 36,000 อาศัยอยู่ในเมืองหลวงคือ Port Vila และอีกประมาณ 8,000 อาศัยอยู่ใน Luganville ซึ่งอยู่ตอนเหนือของเกาะ Santo ยังมีประชากรอีกหลายร้อยคนที่ยังใช้ชีวิตกระจัดกระจายอยู่ในเขตป่า
(http://www.aliviaggi.it/imgdest/Vanuatu/Port_Vila.JPG) (http://www.batrachian.com/images/Vanuatu/Port%20Vila%20Market.jpg) ตลาดในเมืองหลวง Port Vila หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 13:13 มาจากไหน ขบวนการศาลเตี้ยก็ดำเนินการอยู่
แต่ท่านก็มีธุรกิจขนาดยิงดาวเทียมได้อ่ะ ..................................................... :slime_o: :slime_o: ... แหมตื่นเต้นจัง มีธุรกิจขนาดยิงดาวเทียม ได้เลยเหรอ !!!!! หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: ChuNg ที่ 04-10-2006, 13:30 ต้องขอบอกว่าสังคมไทยเดินมาผิดทางโดยตลอด ตั้งแต่ประชาชนไทยริอาจขอประชาธิปไตยจากองค์ในหลวง ร.7
ทั้งๆที่คนส่วนใหญ่ในประเทศยังไม่รู้ว่าประชาธิปไตยมันคืออะไร ...... ทุกวันนี้ไปถามชาวบ้านบางคน เขายังเข้าใจแค่ว่า "ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง" เลือกคนที่เราคิดว่าชอบ คิดว่าดี เข้าไปทำงานแทน เข้าไปแล้วสร้างโน่นสร้างนี่ให้กับชุมชน แต่พอนักการเมืองคนไหนโกง กลับไม่ค่อยใส่ใจ บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากระบวนการกินภาษีมันเยอะแยะมากมายแค่ไหน ..... ชาวบ้านรู้แค่ว่าขอให้นักการเมืองให้อะไรกับตัวเองเป็นพอ เขาจะโกงจะกินก็ปล่อยเขา ถือว่าเขาโกงเงินเอามาให้พวกเรา-ให้ชุมชน (จริงๆก็คือ นักการเมืองกินเนื้อ เถือหนัง หมดแล้ว ถึงโยนกระดูกให้หมาดีใจกันบ้าง) หลังๆมาเลยเถิดไปถึงขั้นว่านักการเมืองต้องมีเงินให้ชาวบ้านกู้ไปซื้อมือถือ-ซื้อรถ ปลดหนี้ให้ และรอคอยสิ่งที่เป็นรูปธรรม-วัตถุ จากผู้แทนราษฎร ประชาธิปไตย กลายพันธุ์ เพราะนักการเมืองเลวทรามมีมากจนเกินไป มากจนระบบตรวจสอบและองค์การอิสระไม่กล้าที่จะทำอะไรลงไป เราอาจจะลืมกันไปว่าแท้จริงแล้ว "ประชาธิปไตย" คือ "การพึ่งพาตัวเอง" ซึ่งควรจะใส่คำว่า "ศีลธรรม ความสำนึกผิดชอบชั่ว-ดี" เข้าไปด้วย หากคนไทยรู้จักพึ่งพาตัวเองแบบมีศีลธรรมเป็นทุกคน คงจะไม่มีใครที่โกงกินประเทศชาติ ทุกคนจะมีสำนึกไม่เอาเปรียบผู้อื่น และรู้จักยับยั้งชั่งใจในการทำความชั่วใดๆ ....แน่นอนว่ามันเป็นสังคมในฝัน ไม่มีทางที่ประชาชน 60-70 ล้านคนจะทำแบบที่บอกได้ทุกคน แต่อย่างน้อยเราก็ช่วยกันให้มันดีขึ้นได้โดยเริ่มที่ตัวเราเอง เมื่อประชาชนมีการศึกษาที่ดี มีศีลธรรมอันเข้มแข็ง ก็ยากที่นักการเมืองเลวๆจะหลอกใช้เป็นเครื่องมือ เข้าไปนั่งในสภาไม่ได้ สิ่งเหล่านี้มันอาจจะไม่ได้ดีขึ้นในรุ่นของพวกเรา แต่รุ่นลูก-รุ่นหลาน มันจะต้องดีขึ้น การปลูกฝังศีลธรรมอันเข้มแข็งควบคู่ไปกับการศึกษา เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ...... ศีลธรรมที่ควรจะเอาไปสอนในชั้นเรียน ไม่ใช่วิชาศาสนาพุทธ คริสต์ หรือ อิสลาม ....... ไม่ใช่การสอนว่าพระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน เมื่อวันที่เท่าไหร่, ทำผิดตกนรก ทำความดีขึ้นสวรรค์ หรือ เป็นชาวพุทธต้องเข้าวัดทุกวันอาทิตย์ ชาวคริสต์เข้าโบสถ์ ชาวอิสลามต้องทำละหมาดทุกเช้าเย็น ..... สิ่งที่ควรทำคือสอนให้เด็กรู้จักกับความเมตตา โอบอ้อมอารี ตั้งแต่เล็กๆ จิตใจที่ดีงามจะทำให้เขาเติบโตมาเป็นคนดีของสังคม ....... ครู อาจารย์ พ่อแม่ ควรสอนให้เขาชอบช่วยเหลือผู้คน มีน้ำใจ ... โตมาหน่อยก็พาเขาไปเปิดหูเปิดตา พาไปทำบุญบ้านเด็กกำพร้า เด็กพิการ อย่าให้เขารังเกียจเด็กกลุ่มเหล่านี้ พยายามสอนเด็กว่ามนุษย์ทุกคนมีความเป็นคนเท่าๆกัน เมื่อเรามีโอกาสที่ดีกว่าเด็กกลุ่มนี้ เราก็ควรให้โอกาสกับคนอื่นเหมือนกัน อย่าเลี้ยงลูกด้วยเงิน ลูกอยากได้อะไรก็ซื้อให้แทบทุกอย่าง พยายามสอนลูกให้รู้จักความยากลำบาก อยากได้อะไรต้องอดออม เก็บเงิน ทำงาน และไม่โกงใคร อาศัยความอดทนถึงจะได้มันมา ... ทุกวันนี้พ่อแม่จำนวนไม่น้อยซื้อข้าวของให้ลูกเพราะความรักแบบผิดๆ ซื้อให้ทุกอย่างจนวันไหนที่ลูกขอแล้วไม่ได้อย่างที่ขอ ก็จะเกิดความไม่พอใจ ...... .... เด็กบางคนอยากได้รถมอเตอร์ไซค์ พอพ่อแม่ไม่มีเงินพอที่จะซื้อให้ ก็ขู่ด้วยการจะไม่ไปโรงเรียน (เพราะพื้นฐานศีลธรรมวัยเด็กมีไม่เพียงพอ) พ่อแม่ก็ต้องตัดใจ ยอมเป็นหนีเป็นสินหาเงินมาซื้อมอเตอร์ไซค์ให้ลูก เหมือนอย่างที่เคยซื้อของเล่นให้ลูกตอนเด็กๆ ตามใจจนเสียคน พอเติบโตขึ้นมาอีกหน่อย พ่อแม่เริ่มไม่มีแรงทำงานหาเงินให้ใช้ ก็ต้องไปทำงานเอง บางคนโตขึ้นก็กลับใจได้ รู้ว่าสิ่งที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่น่าละอาย แต่สำหรับบางคนก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น และแน่นอนว่าเขาจะต้องทำทุกวิถีทางที่จะให้ได้เงินมาสนองความอยากของตัวเอง โดยไม่คำนึงว่ามันถูกศีลธรรมหรือไม่ หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: utopiathai ที่ 04-10-2006, 13:44 พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสพระราชทานเพื่ออัญเชิญไปอ่าน
ในพิธีเปิดการประชุมยุวพุทธิกสมาคมทั่วประเทศ ครั้งที่ ๑๒ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๑๓ "ในบ้านเมืองเราทุกวันนี้ มีเสียงกล่าวกันว่า ความคิดจิตใจของคนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เสื่อม ความประพฤติที่เป็นความทุจริตหลายอย่างมีท่าทีจะกลายเป็นสิ่งที่คนทั่วไปพากันยอมรับ และสมยอมให้กระทำกันได้เป็นธรรมดา สภาพการณ์เช่นนี้ย่อมทำให้วิถีชีวิตของแต่ละคนมืดมัวลงไป เป็นปัญหาใหญ่ที่เหมือนกระแสคลื่นอันไหลบ่าเข้ามาท่วมทั่วไปหมด จำเป็นต้องแก้ไขด้วยการฝืนคลื่นที่กล่าวนั้น ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจ ไม่กระทำสิ่งใด ๆ ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่า ชั่วเสื่อม เราต้องฝืนต้องต้านความคิด และความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดต่อธรรมะ เราต้องกล้า และบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่า เป็นความดีเป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ให้ได้จริง ๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้น ๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ" พระบรมราโชวาทนี้ 36 ปีมาแล้วครับ หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: TAKSIN THE BEST PM. ที่ 04-10-2006, 13:57 สรุปว่า คนดีโลกตลึง
รับราชการทหารอาชีพ เพรียวๆ จนมีตังค์ ซื้อบ้าน ระดับนี้ได้ เพราะพอเพียง นั้นเอง :slime_o: :slime_o: :slime_o: พี่ๆ น้อง น่า จะยึดเป็นแนวทางปฎิบัติครับ :slime_agreed: :slime_agreed: :slime_agreed: ส่วนผม กรรมการอาชีพก็แทงหวยใต้ดิน Return อีกคราดีกว่า หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: อมพระมาพูด ที่ 04-10-2006, 14:06 สรุปว่า คนดีโลกตลึง รับราชการทหารอาชีพ เพรียวๆ จนมีตังค์ ซื้อบ้าน ระดับนี้ได้ เพราะพอเพียง นั้นเอง :slime_o: :slime_o: :slime_o: พี่ๆ น้อง น่า จะยึดเป็นแนวทางปฎิบัติครับ :slime_agreed: :slime_agreed: :slime_agreed: ส่วนผม กรรมการอาชีพก็แทงหวยใต้ดิน Return อีกคราดีกว่า แสดงว่าคุณไม่เข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงจิงๆ หึหึ ถึงได้ตีความได้เถรตรงขนาดนี้ ผมว่าคุณไปแต่งกลอน ลอกกลอนของคุณต่อเถอะ ถ้าจะให้ดีมีผู้มีชื่อเสียงเขียนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไว้บ้าง ก้อไปหามาอ่าน หรือต้มน้ำกิน 3 เวลาหลังอาหารนะ เผื่อจะได้เข้าใจมากขึ้น !! หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 14:10 สรุปว่า คนดีโลกตลึง รับราชการทหารอาชีพ เพรียวๆ จนมีตังค์ ซื้อบ้าน ระดับนี้ได้ เพราะพอเพียง นั้นเอง :slime_o: :slime_o: :slime_o: พี่ๆ น้อง น่า จะยึดเป็นแนวทางปฎิบัติครับ :slime_agreed: :slime_agreed: :slime_agreed: ส่วนผม กรรมการอาชีพก็แทงหวยใต้ดิน Return อีกคราดีกว่า แสดงว่าคุณไม่เข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงจิงๆ หึหึ ถึงได้ตีความได้เถรตรงขนาดนี้ ผมว่าคุณไปแต่งกลอน ลอกกลอนของคุณต่อเถอะ ถ้าจะให้ดีมีผู้มีชื่อเสียงเขียนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไว้บ้าง ก้อไปหามาอ่าน หรือต้มน้ำกิน 3 เวลาหลังอาหารนะ เผื่อจะได้เข้าใจมากขึ้น !! :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: ....อย่าไปว่าเขาเลยค่ะ บางทีเขาอาจจะไม่ใช่คนไทย นะ ....อาจจะเป็นพวกนามสกุล อินเตอร์หน่ะ หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@ เริ่มหัวข้อโดย: Solidus ที่ 04-10-2006, 14:12 สรุปว่า คนดีโลกตลึง รับราชการทหารอาชีพ เพรียวๆ จนมีตังค์ ซื้อบ้าน ระดับนี้ได้ เพราะพอเพียง นั้นเอง :slime_o: :slime_o: :slime_o: พี่ๆ น้อง น่า จะยึดเป็นแนวทางปฎิบัติครับ :slime_agreed: :slime_agreed: :slime_agreed: ส่วนผม กรรมการอาชีพก็แทงหวยใต้ดิน Return อีกคราดีกว่า แสดงว่าคุณไม่เข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงจิงๆ หึหึ ถึงได้ตีความได้เถรตรงขนาดนี้ ผมว่าคุณไปแต่งกลอน ลอกกลอนของคุณต่อเถอะ ถ้าจะให้ดีมีผู้มีชื่อเสียงเขียนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไว้บ้าง ก้อไปหามาอ่าน หรือต้มน้ำกิน 3 เวลาหลังอาหารนะ เผื่อจะได้เข้าใจมากขึ้น !! หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: TAKSIN THE BEST PM. ที่ 04-10-2006, 15:38 ก็อ่านที่ผมสรุปไปแล้ว
ไงครับ แค่ แนะนำ คนอื่นให้เอาเยื่ยงท่าน พอเพียงมากๆ ครับ สมถะ แหม ใครบ้างไม่อยากเป็น ยกย่องทั้งแผ่นดิน อ่านหนังสือไม่แตกหรือกระไร ผมกบในกะลา ทำไม่ได้ ก็แทงหวยไปวันๆ :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship: เผื่อวันดีคืนดีมีคนยกเกี้ยวมา จะได้ขอ ซื้อซัก1ชาม. :slime_fighto: :slime_fighto: หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 15:44 ก็อ่านที่ผมสรุปไปแล้ว ไงครับ แค่ แนะนำ คนอื่นให้เอาเยื่ยงท่าน พอเพียงมากๆ ครับ สมถะ แหม ใครบ้างไม่อยากเป็น ยกย่องทั้งแผ่นดิน อ่านหนังสือไม่แตกหรือกระไร ผมกบในกะลา ทำไม่ได้ ก็แทงหวยไปวันๆ :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship: เผื่อวันดีคืนดีมีคนยกเกี้ยวมา จะได้ขอ ซื้อซัก1ชาม. :slime_fighto: :slime_fighto: :slime_o: :slime_o: แหม... แล้วคุณยกย่องใครบ้างล่ะ ยกตัวอย่างหน่อย ....จะได้ยกย่องตามบ้างเนอะ... :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 04-10-2006, 15:47 ต้องขอบอกว่าสังคมไทยเดินมาผิดทางโดยตลอด ตั้งแต่ประชาชนไทยริอาจขอประชาธิปไตยจากองค์ในหลวง ร.7 ทั้งๆที่คนส่วนใหญ่ในประเทศยังไม่รู้ว่าประชาธิปไตยมันคืออะไร ...... ทุกวันนี้ไปถามชาวบ้านบางคน เขายังเข้าใจแค่ว่า "ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง" เลือกคนที่เราคิดว่าชอบ คิดว่าดี เข้าไปทำงานแทน เข้าไปแล้วสร้างโน่นสร้างนี่ให้กับชุมชน แต่พอนักการเมืองคนไหนโกง กลับไม่ค่อยใส่ใจ บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากระบวนการกินภาษีมันเยอะแยะมากมายแค่ไหน ..... ชาวบ้านรู้แค่ว่าขอให้นักการเมืองให้อะไรกับตัวเองเป็นพอ เขาจะโกงจะกินก็ปล่อยเขา ถือว่าเขาโกงเงินเอามาให้พวกเรา-ให้ชุมชน (จริงๆก็คือ นักการเมืองกินเนื้อ เถือหนัง หมดแล้ว ถึงโยนกระดูกให้หมาดีใจกันบ้าง) หลังๆมาเลยเถิดไปถึงขั้นว่านักการเมืองต้องมีเงินให้ชาวบ้านกู้ไปซื้อมือถือ-ซื้อรถ ปลดหนี้ให้ และรอคอยสิ่งที่เป็นรูปธรรม-วัตถุ จากผู้แทนราษฎร ประชาธิปไตย กลายพันธุ์ เพราะนักการเมืองเลวทรามมีมากจนเกินไป มากจนระบบตรวจสอบและองค์การอิสระไม่กล้าที่จะทำอะไรลงไป เราอาจจะลืมกันไปว่าแท้จริงแล้ว "ประชาธิปไตย" คือ "การพึ่งพาตัวเอง" ซึ่งควรจะใส่คำว่า "ศีลธรรม ความสำนึกผิดชอบชั่ว-ดี" เข้าไปด้วย หากคนไทยรู้จักพึ่งพาตัวเองแบบมีศีลธรรมเป็นทุกคน คงจะไม่มีใครที่โกงกินประเทศชาติ ทุกคนจะมีสำนึกไม่เอาเปรียบผู้อื่น และรู้จักยับยั้งชั่งใจในการทำความชั่วใดๆ ....แน่นอนว่ามันเป็นสังคมในฝัน ไม่มีทางที่ประชาชน 60-70 ล้านคนจะทำแบบที่บอกได้ทุกคน แต่อย่างน้อยเราก็ช่วยกันให้มันดีขึ้นได้โดยเริ่มที่ตัวเราเอง เมื่อประชาชนมีการศึกษาที่ดี มีศีลธรรมอันเข้มแข็ง ก็ยากที่นักการเมืองเลวๆจะหลอกใช้เป็นเครื่องมือ เข้าไปนั่งในสภาไม่ได้ สิ่งเหล่านี้มันอาจจะไม่ได้ดีขึ้นในรุ่นของพวกเรา แต่รุ่นลูก-รุ่นหลาน มันจะต้องดีขึ้น การปลูกฝังศีลธรรมอันเข้มแข็งควบคู่ไปกับการศึกษา เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ...... ศีลธรรมที่ควรจะเอาไปสอนในชั้นเรียน ไม่ใช่วิชาศาสนาพุทธ คริสต์ หรือ อิสลาม ....... ไม่ใช่การสอนว่าพระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน เมื่อวันที่เท่าไหร่, ทำผิดตกนรก ทำความดีขึ้นสวรรค์ หรือ เป็นชาวพุทธต้องเข้าวัดทุกวันอาทิตย์ ชาวคริสต์เข้าโบสถ์ ชาวอิสลามต้องทำละหมาดทุกเช้าเย็น ..... สิ่งที่ควรทำคือสอนให้เด็กรู้จักกับความเมตตา โอบอ้อมอารี ตั้งแต่เล็กๆ จิตใจที่ดีงามจะทำให้เขาเติบโตมาเป็นคนดีของสังคม ....... ครู อาจารย์ พ่อแม่ ควรสอนให้เขาชอบช่วยเหลือผู้คน มีน้ำใจ ... โตมาหน่อยก็พาเขาไปเปิดหูเปิดตา พาไปทำบุญบ้านเด็กกำพร้า เด็กพิการ อย่าให้เขารังเกียจเด็กกลุ่มเหล่านี้ พยายามสอนเด็กว่ามนุษย์ทุกคนมีความเป็นคนเท่าๆกัน เมื่อเรามีโอกาสที่ดีกว่าเด็กกลุ่มนี้ เราก็ควรให้โอกาสกับคนอื่นเหมือนกัน อย่าเลี้ยงลูกด้วยเงิน ลูกอยากได้อะไรก็ซื้อให้แทบทุกอย่าง พยายามสอนลูกให้รู้จักความยากลำบาก อยากได้อะไรต้องอดออม เก็บเงิน ทำงาน และไม่โกงใคร อาศัยความอดทนถึงจะได้มันมา ... ทุกวันนี้พ่อแม่จำนวนไม่น้อยซื้อข้าวของให้ลูกเพราะความรักแบบผิดๆ ซื้อให้ทุกอย่างจนวันไหนที่ลูกขอแล้วไม่ได้อย่างที่ขอ ก็จะเกิดความไม่พอใจ ...... .... เด็กบางคนอยากได้รถมอเตอร์ไซค์ พอพ่อแม่ไม่มีเงินพอที่จะซื้อให้ ก็ขู่ด้วยการจะไม่ไปโรงเรียน (เพราะพื้นฐานศีลธรรมวัยเด็กมีไม่เพียงพอ) พ่อแม่ก็ต้องตัดใจ ยอมเป็นหนีเป็นสินหาเงินมาซื้อมอเตอร์ไซค์ให้ลูก เหมือนอย่างที่เคยซื้อของเล่นให้ลูกตอนเด็กๆ ตามใจจนเสียคน พอเติบโตขึ้นมาอีกหน่อย พ่อแม่เริ่มไม่มีแรงทำงานหาเงินให้ใช้ ก็ต้องไปทำงานเอง บางคนโตขึ้นก็กลับใจได้ รู้ว่าสิ่งที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่น่าละอาย แต่สำหรับบางคนก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น และแน่นอนว่าเขาจะต้องทำทุกวิถีทางที่จะให้ได้เงินมาสนองความอยากของตัวเอง โดยไม่คำนึงว่ามันถูกศีลธรรมหรือไม่ ... ขอบคุณ..มากนะคะ....ที่เข้ามาช่วยเติมเต็มในกระทู้ ช่วยกันหลายแรง .....เพื่อสังคมของเราค่ะ :slime_v: :slime_v: :slime_v: :slime_v: :slime_v: หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: TAKSIN THE BEST PM. ที่ 04-10-2006, 16:11 แหม... แล้วคุณยกย่องใครบ้างล่ะ
ยกตัวอย่างหน่อย ....จะได้ยกย่องตามบ้างเนอะ. นายกทักษิณไงครับท่านมาจากการเลือกตั้ง มาตามตรอก แต่ออกทางรู เพราะมารผจญ ท่านสร้างโครงการอะไรก็สำเร็จเสร็จลุล่วง ผู้นำขนาดสั่นสะเทือน เอเซียได้ ไม่ใช่ไปประชุม ไปนั่งกำไข่ กลัวฝรั่งถาม ...เสียสละ รวยแล้วยังมา ช่วยปชช. เร่ง ทำโครงการอภิมหายาวนาน ให้เสร็จ แม้หลังคาที่มีรูรั่ว1รู ก็ ยัง OK แค่ปราบยาบ้า ให้ลูกหลานไม่ติดยาก็เป็นล้านคนแล้ว มีโปรเจ็ค เยอะแยะดีๆ ทั้งนั้น สำเร็จเยอะ ไม่สำเร็จก็มี ดีกว่าอดีตนายกที่เคยมีมาทั้งประเทศรวมกัน ไม่เคยกู้ IMF /ไม่เคยลดค่าเงินบาท /ส่งออก ได้มากที่สุดที่มีปท.ไทยมา จัดงานฉลอง 60ปี ในหลวง แบบโลกจารึก ไม่สร้างภาพ ด่าก็ด่า คิดไว ตอบไว ไม่อำอึ๊ง ไม่ใช่ตอบไม่ได้ ไล่นักข่าวกลับบ้าน ลงพื้นที่สั่งการทำจริง ปฎิรูประบบเช้า 3 ชามเย็น 4ชาม เป็น 1stop service บางที่ทำดีแต่เด่นย่อมมีภัย คนชั่วมันแอบแกล้งกล่าวหา ตั้งศาลเตี้ย แกล้งกล่าวหา เอาคนผิดก่อนหาหลักฐานที่หลัง :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship: แต่ตอนนี้ยอมแพ้ ร้องเพลงหมาเห่าไปก่อน หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: อมพระมาพูด ที่ 04-10-2006, 16:16 เอ...รัชการที่ 5 ท่านเลิกทาสนานแล้วนี่นา...สงสัยทาสในเรือนเบี้ย..
หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@ เริ่มหัวข้อโดย: RiDKuN ที่ 04-10-2006, 16:47 ประชาชนไม่ฉลาดแล้่วประเทศจะเจริญได้อย่างไร การศึกษาคือหัวใจของชาติ แต่ไม่มีรัฐบาลไหนจริงจัง
เพราะผลงานไม่สามารถปรากฎออกมาเด่นชัดได้ในระยะเวลาชั่วรัฐบาลเดียว แถมคนในชนบทก็ไม่สนใจว่ารัฐบาลจะพัฒนาการศึกษาอย่างไร สนใจแต่ว่ารัฐบาลไหนมีวัวควายมาแจก มีเงินมาให้กู้(แล้วชักดาบง่ายๆ) ช่วยประนอมหนี้ ยกหนี้ แจกที่ดินให้ คิดได้ดังนี้แล้วการศึกษาไทยจะไม่สามารถก้าวไปไหนได้ หากปล่อยให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้จัดการ เพราะคนชนบทเป็นผู้ตั้งรัฐบาล ดังนั้นรัฐบาลก็ต้องทำตามความต้องการของคนชนบท ที่ไม่ได้มีเรื่องการศึกษาเข้ามาเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย ดังนั้นในช่วงเวลา 1 ปีนี้ ก็เป็นโอกาสดีที่เราจะมีนายกฯ ที่ไม่เห็นแก่คะแนนเสียง มาทำประโยชน์ในด้านการศึกษาให้กับประเทศชาติ อาจจะมีการจัดตั้งนโยบายแห่งชาติ สถาบันหรือหน่วยงานอิสระที่ดำเนินการพัฒนาด้านการศึกษาอย่างแท้จริง เพื่อให้การศึกษาของไทยมีมาตรฐานมากกว่าที่เคยเป็นมา :slime_worship: หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: 555555555555 ที่ 04-10-2006, 16:54 นายกทักษิณไงครับท่านมาจากการเลือกตั้ง
มาตามตรอก แต่ออกทางรู เพราะมารผจญ ท่านสร้างโครงการอะไรก็สำเร็จเสร็จลุล่วง ผู้นำขนาดสั่นสะเทือน เอเซียได้ ไม่ใช่ไปประชุม ไปนั่งกำไข่ กลัวฝรั่งถาม ตอนนี้กุมไข่แน่นกว่าเดิมพราะมีแผ่นดินจะอยู่และกำลังถูกยึดทรัพย์...เสียสละ รวยแล้วยังมา ช่วยปชช. เร่ง ทำโครงการอภิมหายาวนาน ให้เสร็จ แม้หลังคาที่มีรูรั่ว1รู ก็ ยัง OK แค่ปราบยาบ้า ให้ลูกหลานไม่ติดยาก็เป็นล้านคนแล้ว มีโปรเจ็ค เยอะแยะดีๆ ทั้งนั้น สำเร็จเยอะ ไม่สำเร็จก็มี ใช่ทุกโครงการต้องรีบทำให้เสร็จเพราะต้องแบ่งเงินจากงบประมาณที่ตั้งตัวเลขสูงเกินจริงมาใช้กอบกู้อนาจักรชินและโคตรเหง้าให้รวยๆๆๆๆๆ และ ต้องให้เสร็จในสมัยที่ยังมีอำนาจจะได้จัดสรรทุกโครงการให้กับเครือญาติและก็ผูกขาดทุกดครงการให้ได้เบ็ดเสร็จเพื่อลุกหลานตระกูลชินจะได้สบาย นอนกระดิกตีนเงินก็ไหลมาเข้าปาก ใช่ต้องรีบปราบยาบ้า แต่ ลืมปราบ เฮโรอีน ทำไมก็ไม่รู้นิ อิ อิ อ้าว แล้วที่ไม่สำเร็จน่ะใช้งบไปกี่แสนล้านจ๊ะ แจงแจงหน่อยเร็ว แล้ว เงินที่ใช้น่ะไปอยู่ไหนหมดจ๊ะ ดีกว่าอดีตนายกที่เคยมีมาทั้งประเทศรวมกัน ไม่เคยกู้ IMF /ไม่เคยลดค่าเงินบาท /ส่งออก ได้มากที่สุดที่มีปท.ไทยมา ดีกว่าตรงไหนวะ มันก็โกงกินเหมือนๆกัน แถมโกงกินมากกว่าอีก เพราะสามารถควบคุม แทรกแซงได้ทุกๆองค์กร นี่ถ้าควบคุมศาลได้หมดก้หมดกัน สมัยก่อนๆ โกงแต่ตรวจสอบแล้วยังจนมุม สมัยนี้โกงบบ ตรวจสอบไม่ได้ ถึงตรวจสอบว่าโกงก็ยังแถ ยกมือไว้วางใจกัน เพราะทั้งสภามีแต่ทาสไอ้แม้วทั้งนั้น แล้วมันจะดีกว่าตรงไหนวะ แล้ว กุ้ไอเอ็มเอฟอ่ะนะ มันต้องกูเพราะรัฐบาล พี่จิ๋ว ที่ไอ้แม้วมันอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอจ๊ะ ส่งออกมาที่สุดเหรอวะ ส่งออกได้มากก็เพราะค่าเงินบาทมันอ่อนไง ลองปรับให้เป็น 24 บาท/ 1 us มันจะเป็นไงล่ะจ๊ะ โดนจีนแดกแน่ๆ ใช่ๆ อย่าลืมทวงเงินที่ให้พม่ากู้ยืมด้วยนะจ๊ะ ไม่เคยกุ้ไอเอ็มเอฟ แหมอยากจะขำกลิ้งจริงๆ แล้วจะกุ้หาหอกอะไรล่ะจ๊ะ ตอนนี้อะจ๊ะ จะเลียก็เอาคำพูดอื่นๆมาดีกว่ามั้ง จัดงานฉลอง 60ปี ในหลวง แบบโลกจารึก ไม่ว่ารัฐบาลไหนๆ ก็ต้องจัดงานให้สมเกียรติอยู่แล้ว ไม่ใช่มีแต่รัฐบาลทักสิน อีกอย่างงานนี้ทุกๆคนช่วยกันทั้งนั้น อย่าเอามาอ้างโง่ๆดีกว่า แล้วงานอื่นๆล่ะ จัดได้งามหน้าชาวโลกจริงๆ จริงไหมจ๊ะ เอางบประมาณไปผลาญเล่นกี่งานแล้วล่ะ งานพืช สวนโลกเอย งานกรุงเทพเมืองแฟชั่นเอย งาน อะไรนะที่จัดที่เยอรมันน่ะ ไม่ได้เรื่องเลยไม่ไช่เหรอจ๊ะ ไม่สร้างภาพ ด่าก็ด่า คิดไว ตอบไว ไม่อำอึ๊ง ไม่ใช่ตอบไม่ได้ ไล่นักข่าวกลับบ้าน ใช่คิดไวตอบไวจริงๆ เช่น สมควรตาย โจรกระจอก ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ ผู้มีบารมี ...... เขาเรียกว่าปากเร็วกว่าความคิดรึเปล่าเอ่ย แล้วพอนักข่าวถามมากๆ ก็เล่นมุขปัญญาอ่อน โชว์ ป้ายกากะบาท 55555 ปัญญาอ่อนเนอะ ลงพื้นที่สั่งการทำจริง ปฎิรูประบบเช้า 3 ชามเย็น 4ชาม เป็น 1stop service บางที่ทำดีแต่เด่นย่อมมีภัย คนชั่วมันแอบแกล้งกล่าวหา ตั้งศาลเตี้ย แกล้งกล่าวหา เอาคนผิดก่อนหาหลักฐานที่หลัง ผ่านมาจะ2 ปี ภาคใต้ยังฆ่ากัน วางระเบิด กันแทบทุกวัน ให้ลงพื้นที่ก็ไม่กล้า น้ำท่วมก็ไม่สน ลงพื้นที่แต่ จังหวัดที่เลือกตัวเอง แหม โคตรดีเลยนะจ๊ะ เรื่องศาลเตี้ยอ่ะนะไปถามมันสิว่า ผู้บริสุทธิ์ที่ตายจากการฆ่าตัดตอนยาเสพติดน่ะ จะรับผิดชอบยังไง แล้ว ชิปปิ้งหมู กับ อีกคนน่ะ ชื่ออะไรนะ ตกลงใครฆ่าจ๊ะ แล้วที่สั่งตำรวจให้เอาลุกน้องไปตืบคน นี่เรียกศาลเตี้ยรึเปล่าวะ 555 แต่ตอนนี้ยอมแพ้ ร้องเพลงหมาเห่าไปก่อน ใช่ๆ ต้องให้TAKSIN THE BEST PM. เห่าหอนไปก่อนถูกต้องเลย เห่าต่อไปเหอะนะ หมาตัวน้อยๆ หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: TAKSIN THE BEST PM. ที่ 04-10-2006, 16:55 อมพระมาพูด
อย่าลาม ของสูง รู้บ้างของไหนควรเขียนไม่ควรเขียน จะแดกดันทั้งที หัดมี สกุลบ้าง หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: อมพระมาพูด ที่ 04-10-2006, 17:12 อมพระมาพูด อย่าลาม ของสูง รู้บ้างของไหนควรเขียนไม่ควรเขียน จะแดกดันทั้งที หัดมี สกุลบ้าง ผมไม่ได้ลามของสูง ใครๆก้อรู้ว่ารัชกาลที่ 5 ท่านเลิกทาส หรือคุณไม่รู้ ? อ้าว...ผมเขียนลอยๆแล้วคุณรู้ได้ยังงัยว่า แดกดันคุณ ผมมันพวกไอซีไอ สีมีสกุลนะครับ หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: Darkness Fall ที่ 04-10-2006, 17:25 แหม... แล้วคุณยกย่องใครบ้างล่ะ ยกตัวอย่างหน่อย ....จะได้ยกย่องตามบ้างเนอะ. นายกทักษิณไงครับท่านมาจากการเลือกตั้ง มาตามตรอก แต่ออกทางรู เพราะมารผจญ เห็นภาพดีครับ...หึหึ..ออกทางรู..หึหึ...ขอบคุณ ท่านสร้างโครงการอะไรก็สำเร็จเสร็จลุล่วง รวมไอ้ที่ว่าจะแก้รถติดใน 6เดือน, นั่งรองนายกดูเศรษฐกิจพังสมัยรัฐบาลจิ๋ว, แก้ปัญหาภาคใต้ ฯลฯ ด้วยป่ะครับ ผู้นำขนาดสั่นสะเทือน เอเซียได้ ไม่ใช่ไปประชุม ไปนั่งกำไข่ กลัวฝรั่งถาม ไปประชุมเอเซีย มีแต่คนเอเซียน ไปกลัวฝรั่งทำไมครับ ...เสียสละ รวยแล้วยังมา ช่วยปชช. โครงการไหนเอ่ย...ที่แกควักตังแกจ่ายเองอ่ะ..ไหนๆๆ เร่ง ทำโครงการอภิมหายาวนาน ให้เสร็จ แม้หลังคาที่มีรูรั่ว1รู ก็ ยัง OK เสร็จจริงๆครับ เสร็จแกกะพลพรรค แต่ถึง "เสร็จ" ก็ยังไม่ "จบ" หรอกครับ มีคนรอเช็คบิลอยู่ แค่ปราบยาบ้า ให้ลูกหลานไม่ติดยาก็เป็นล้านคนแล้ว ปราบยังไงหว่า แค่ฆ่าตัดตอน มีคดีไหนสาวถึงผู้ค้ารายใหญ่ต้นน้ำสักคดี มีไหมครับ มีโปรเจ็ค เยอะแยะดีๆ ทั้งนั้น สำเร็จเยอะ ไม่สำเร็จก็มี เห็นด้วยครึ่งนึงครับ ตรงที่ว่า "ไม่สำเร็จ" ดีกว่าอดีตนายกที่เคยมีมาทั้งประเทศรวมกัน ฮู้วววว... ไม่เคยกู้ IMF /ไม่เคยลดค่าเงินบาท /ส่งออก ได้มากที่สุดที่มีปท.ไทยมา ไม่กู้ IMF แต่ไปกู้อื่นๆหรือเปล่าเอ่ย จัดงานฉลอง 60ปี ในหลวง แบบโลกจารึก จารึกว่าประเทศไทยเคยเป็นเมืองขึ้นฝรั่งหรือไง ทำไมนายกฯไทยต้องพูดอังกฤษสำเนียงโสเภณีพัทยาด้วย ไม่สร้างภาพ ด่าก็ด่า คิดไว ตอบไว ไม่อำอึ๊ง จริงครับ ด่าจนไม่รู้หัวรู้หาง ไม่ดูที่ต่ำที่สูง ไม่ใช่ตอบไม่ได้ ไล่นักข่าวกลับบ้าน คร้าบ แกรู้เยอะ รู้จริง รู้คนเดียว ไอ้พวก รมต. โง่หมดคร้าบ ลงพื้นที่สั่งการทำจริง โอ้ว .. อาจสามารถโมเดล..เลียลิตี้ทีวีนี่เอง ทำไมพักหลังเหยงๆไม่กล้าลงใต้ละครับ ปฎิรูประบบเช้า 3 ชามเย็น 4ชาม เป็น 1stop service one stop sevice ครับ ค่าธรรมเนียมไม่รั่วไหลจ่ายตรง บางที่ทำดีแต่เด่นย่อมมีภัย คนชั่วมันแอบแกล้งกล่าวหา ตั้งศาลเตี้ย แกล้งกล่าวหา เอาคนผิดก่อนหาหลักฐานที่หลัง กลับมาสู้คดีสิครับ...หนีทำไมละจ้ะ :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship: :slime_worship: แต่ตอนนี้ยอมแพ้ ร้องเพลงหมาเห่าไปก่อน หยอกกันเล่นๆ อย่ามาเคืองกันนะครับ เห็นคุณมีความคิด "น่าเอ็นดู" ดี หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: TAKSIN THE BEST PM. ที่ 05-10-2006, 10:54 หยอกกันเล่นๆ อย่ามาเคืองกันนะครับ
เห็นคุณมีความคิด "น่าเอ็นดู" ดี :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: ดีครับ คนไทยด้วยกัน แค่มองต่างมุมกันไม่ได้ เคืองอะไรหรอก (ในกรอบนะ อย่า ลามของสูง) แซวๆกัน ก็ได้หนุกๆ วันไหน ว่างๆ ลองจัดเตะบอลซิ ผมว่ามันส์ ยิ่งกว่า ศึกแดงเดือดอีก 555555 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@ เริ่มหัวข้อโดย: zoonkeang ที่ 07-10-2006, 20:51 เวลามีกระทู้เกี่ยวกับความพอเพียงตามพระราชดำรัส
มักจะมีคนคอยถากถาง ประชดประชัน เป็นประจำ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร มาอ้างว่าเห็นแตกต่าง แต่เนื้อหาคือโมหะจิตชัดๆ คงเป็นเพราะไปสะกิดต่อมกิเลสสินะ หัดรู้ัจักพอบ้างเถิดครับไม่งั้นก็จะโดนแบบคุณพ่อที่ลอนดอน เห็นด้วยนะครับกับเจ้าของกระทู้นี้ ศาสตร์แห่งจิตใจผมว่ามันน่าสนใจและไม่ต่ำต้อยไปกว่า MBA หรือ เศรษฐศาสตร์ หรอกครับ เผลอๆเรียนรู้ยากกว่าอีก หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 08-10-2006, 14:28 เวลามีกระทู้เกี่ยวกับความพอเพียงตามพระราชดำรัส มักจะมีคนคอยถากถาง ประชดประชัน เป็นประจำ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร มาอ้างว่าเห็นแตกต่าง แต่เนื้อหาคือโมหะจิตชัดๆ คงเป็นเพราะไปสะกิดต่อมกิเลสสินะ หัดรู้ัจักพอบ้างเถิดครับไม่งั้นก็จะโดนแบบคุณพ่อที่ลอนดอน เห็นด้วยนะครับกับเจ้าของกระทู้นี้ ศาสตร์แห่งจิตใจผมว่ามันน่าสนใจและไม่ต่ำต้อยไปกว่า MBA หรือ เศรษฐศาสตร์ หรอกครับ เผลอๆเรียนรู้ยากกว่าอีก ขออนุญาตต่อติมความคิดอีกสักนิดนะคะ ** คำว่า พอเพียง และเพียงพอ ต้องพอตั้งแต่ระดับประเทศ แล้วล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ การบิรหารประเทศด้าน การคลัง ด้านเศรษฐกิจ ต้องมีคำว่า พอเพียง เพียงพอ เสมอ คำว่า เศราฐกิจตกต่ำ และหรือ เศรษฐกิจเงินเฟ้อ ก็ย่อมไม่เกิดขึ้น หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: Politician Boss ที่ 08-10-2006, 21:15 จขกท. ความคิดดี ความรู้ดี อุดมการณ์สูง แต่ความคิดรวบยอดผิด นะครับ
หัวข้อ: Re: คุณ Politician Boss คุณแสดงความคิดเห็นโดนใจนะ.. อยากฟังเหตุผลจ๊ะ...@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 09-10-2006, 10:25 จขกท. ความคิดดี ความรู้ดี อุดมการณ์สูง แต่ความคิดรวบยอดผิด นะครับ คุณ Politician Boss คุณแสดงความคิดเห็นโดนใจนะ อยากฟังเหตุผลจ๊ะ :) :) :) หัวข้อ: Re: สังคมที่พอเพียงต้องนำหน้า..การศึกษาคือหัวใจ เศรษฐกิจเป็นเรื่องมาทีหลัง....@@@@ เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 09-10-2006, 11:34 มีความแตกต่างอย่างแน่นอนระหว่างคณะรัฐมนตรีของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ กับ คณะรัฐมนตรีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
เป็นความแตกต่างตามรากฐานความคิด รากฐานทางการเมือง ขณะที่ฝ่ายหนึ่งพร่ำเตือนในเรื่อง "อนาคต" ที่กำลังไล่ล่า พร้อมกับเสนอกลยุทธ์ เพื่อเพิ่มขีดการแข่งขันประสานไปกับการรุกคืบเข้ามาของโลกาภิวัตน์ และให้ความสนใจเป็นอย่างสูงกับตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อีกฝ่ายกล่าวถึงความสุขบนพื้นฐานแห่งคุณภาพชีวิต จะพัฒนาประเทศไปในทิศทางแห่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไม่เน้นตัวเลขทางเศรษฐกิจ แต่เน้นความสุขของการมีชีวิตอยู่การปรากฏขึ้นของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และคณะรัฐมนตรี จึงไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับบทบาทของขุนนางนักวิชาการอย่างที่เรียกกันว่า อำมาตยาธิปไตย หากแต่ยังเท่ากับเป็นการส่งสัญญาณว่า ทิศทางการพัฒนาบนพื้นฐานเช่นนี้จะไม่ดำเนินไปอย่างโดดๆ ตรงกันข้าม จะเชื่อมสัมพันธ์ทั้งในทางเศรษฐกิจ ในทางการเมืองและในทางสังคม อย่างเป็นองค์เอกภาพเดียวกัน http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01col01091049&day=2006/10/09 |