ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: อิรวันชาห์ IrWanSyah ที่ 25-09-2006, 16:09



หัวข้อ: โชว์ข้อมูลเบื้องต้นครูไทย “งานหนัก-งานมั่ว-แก่ประชุม-ขาดสอนเพียบ”
เริ่มหัวข้อโดย: อิรวันชาห์ IrWanSyah ที่ 25-09-2006, 16:09
“ทีชเชอร์วอทช์” โชว์ข้อมูลเบื้องต้นครูไทย “งานหนัก-งานมั่ว-แก่ประชุม-         ขาดสอนเพียบ” กว่าครึ่งคิดอยากเออลี่  สคบศ.วอนรัฐเร่งดูแลครู “เก็บครูไว้กับงานสอน-เพิ่มเจ้าหน้าที่ธุรการ” ก่อนครูถอดใจ  พร้อมชี้ผลสำรวจปัญหานักเรียน “พื้นฐานย่ำแย่-ขาดวินัย-ก้าวร้าว” คือปัญหาหนักอกครูที่สุด
   ดร.อมรวิชช์  นาครทรรพ ผู้อำนวยการสถาบันรามจิตติและหัวหน้าโครงการ Child Watch เปิดเผยถึงโครงการติดตามสภาวการณ์ทำงานของครูหรือ Teacher Watch อันเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันรามจิตติกับ สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา (สคบศ.) ว่า จากข้อมูลผลการสำรวจเบื้องต้นซึ่งขณะนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่จากข้อมูลของกลุ่มตัวอย่างเท่าที่ได้ประมาณสองพันกว่าคนจากทุกจังหวัด ทำให้เห็นข้อมูลภาพรวมที่น่าสนใจหลายประการ อาทิ การที่ครูส่วนใหญ่สอนค่อนข้างหนักโดยมีชั่วโมงสอนเฉลี่ยถึง     21 ชั่วโมงต่อสัปดาห์  นอกจากนี้ครูส่วนใหญ่ยังต้องรับผิดชอบงานธุรการต่างๆ ในโรงเรียนเนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่ธุรการเป็นการเฉพาะ โดยเฉลี่ยครูต้องมีตำแหน่งบริหารหรือธุการอีกคนละ 1-2 ตำแหน่ง และครูส่วนใหญ่ใช้เวลาถึงร้อยละ 10 -20 ของเวลาสอนปกติไปกับงานธุรการ นอกจากนี้ครูกว่าร้อยละ 45.5 จำเป็นต้องขาดสอนแทบทุกสัปดาห์ สัปดาห์หนึ่งประมาณ 2 คาบ โดยสาเหตุอันดับหนึ่งคือการต้องไปฝึกอบรมเพิ่มพูนความรู้ให้กับตนเอง รองลงมาคือ การติดประชุม ส่วนภาระที่ครูหนักใจที่สุดกับไม่ใช่เรื่องการสอนแต่เป็นภาระเรื่องการทำฐานข้อมูล การจัดทำรายงานต่างๆ ให้กับโรงเรียนและส่วนกลาง เช่น รายงานการประเมินผล เป็นต้น  โดยมีครูถึงร้อยละ 46.1 ระบุถึงความหนักใจในเรื่องนี้ซึ่งสูงกว่าข้ออื่นๆ ทั้งหมด
   นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าครูถึงร้อยละ 50  ที่เริ่มถอดใจกับอาชีพครู โดยร้อยละ15 ระบุว่าตนเคยคิดอยากเปลี่ยนอาชีพ ในขณะที่ร้อยละ 62.5 ระบุว่าหากมีโครงการเกษียณก่อนอายุเกิดขึ้นอีกตนคิดจะเข้าร่วมโครงการ  สำหรับปัญหานักเรียนที่ครูรู้สึกหนักใจมากที่สุดพบว่า  อันดับหนึ่งคือปัญหาพื้นฐานความรู้อ่อน ร้อยละ 97.2 อันดับสองคือ ปัญหาการขาดวินัยและความรับผิดชอบร้อยละ 93.6 และอันดับสาม คือปัญหาก้าวร้าวทะเลาะวิวาท ร้อยละ 89.6 นอกนั้นยังพบว่าครูร้อยละ 50.6 ยังไม่เห็นด้วยกับหลักการโอนโรงเรียนไปสังกัดองค์กรท้องถิ่น เนื่องจากยังไม่มั่นใจในความพร้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถึงร้อยละ 48.2
   ดร.อมรวิชช์ฯ ชี้แจงว่าภายในเวลาประมาณเดือนเศษๆ ผลการสำรวจจากโรงเรียนทั้งหมดราว 1,350 โรงครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างครูทั้งหมดราว13,500 คนน่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยจะสามารถแยกเป็นสภาวการณ์ครูรายจังหวัดได้อีกด้วย พร้อมกับข้อมูลความต้องการการพัฒนาในวิชาชีพ ซึ่งทางสถาบันรามจิตติกำลังประสานกับ สคบศ.ในการนำข้อมูลดังกล่าวมาพัฒนาเป็นรูปแบบการพัฒนาครูในระดับพื้นที่ พร้อมกับการนำร่องในพื้นที่จังหวัดบางแห่งต่อไป
   ทางด้านนายสันทัด สินธุพันธ์ประทุม ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา ได้ให้ความเห็นว่า จากข้อมูลโครงการ Teacher Watch แม้จะเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น แต่จากกลุ่มตัวอย่างเท่าที่วิเคราะห์ไปแล้วกว่าสองพันตัวอย่างก็สามารถให้ภาพรวมที่น่าสนใจหลายประการ โดยตนอยากวิงวอนรัฐบาลให้นำข้อมูลนี้ไปพิจารณาหาแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาสภาวะการทำงานของครูให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะการเน้นให้ครูมีเวลากับการเตรียมสอนและการสอน ตลอดจนการตรวจการบ้านนักเรียนอย่างเต็มที่ และลดภาระงานธุรการของครูลงโดยขอให้รัฐบาลพิจารณาจัดสรรอัตราเจ้าหน้าที่ธุรการสารบรรณและการเงินให้โรงเรียนของรัฐโดยด่วน  มิฉะนั้นจะยิ่งมีผลกระทบสูงต่อคุณภาพการเรียนการสอนซึ่งจากผลการประเมินของ สมศ.ก็เห็นชัดอยู่แล้วว่ามีโรงเรียนต่ำกว่ามาตรฐานร่วมสองหมื่นโรง  นอกจากนี้ หากรัฐไม่แก้ปัญหาเรื่องนี้ให้เร็วพอ ยังอาจมีผลถึงการสูญเสียครูดีๆ ที่ถอดใจออกจากการเป็นครูมากขึ้นด้วย

 :slime_dizzy: :slime_hitted:


หัวข้อ: Re: โชว์ข้อมูลเบื้องต้นครูไทย “งานหนัก-งานมั่ว-แก่ประชุม-ขาดสอนเพียบ”
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 25-09-2006, 16:19
เพิ่งจะตรัสรู้กันเหรอครับ ว่า ครู นั้นงานหนักแค่ไหน


หัวข้อ: Re: โชว์ข้อมูลเบื้องต้นครูไทย “งานหนัก-งานมั่ว-แก่ประชุม-ขาดสอนเพียบ”
เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 25-09-2006, 17:24
ครูแถวบ้านผมสมัยประถม หนักยิ่งกว่านี้อีกนะ   เสาร์อาทิตย์บางทีเรียนไม่ทันยังนัดมาสอนให้โดยไม่ได้อะไร  กีฬาจะแข่งเด็กเล่นไม่เป็นตกเย็นครูต้องมาสอนให้โดยที่ไม่ใช่ครูกีฬา   เด็กได้รับทุนไม่กี่พันบาทครูต้องเสียค่ารถตัวเองพาเด็กขึ้นแท๊กซี่พาไปรับทุนหมดไปหลายร้อยเกือบเท่ากับทุนของเด็กที่ได้รับ  ครูสอนเกษตรต้องหันมาฝึกเครื่องดนตรีเพื่อสอนเด็กๆ ให้เล่นดนตรีกันจนสามารถออกงานหาเงินมีรายได้   โดยครูก็ไม่ได้เงินสักนิดเดียวแต่ต้องพาเด็กออกไปตระเวนตามงานต่าง  ได้เพียงแค่กินข้าวตามงานที่ไปเท่านั้น   แต่แกตีเจ็บน่าดูเลยอิอิ   :slime_slapped:

 ไม่รู้ว่าสมัยนี้จะมีครูที่มีความเสียสละ มีความสำนึกในความเป็นครูอยู่สักเท่าไร    สังคมสมัยนี้มันหาภาพที่จะมาเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนรุ่นหลังได้เรียนรู้ยากเหลือเกิน  เพราะภาวะปัจจุบันที่มีการแข่งขันกันสูง ทำให้คนเรานึกถึงกันแต่ตัวเองมากเกินไป  จนทำให้บางคนจึงมองเรื่องของการทำความดีว่าเป็นเรื่องแปลก หรือเป็นเรื่องไร้สาระ  เพราะเค้าไม่เคยได้รับสิ่งเหล่านี้มาก่อนก็เลยไม่รู้ว่ามันดีอย่างไร เอาไปใช้ไม่เป็น :slime_fighto: