หัวข้อ: ..ถึงขั้น...ทรท. สูญพันธ์เลยนะ !!! เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 23-09-2006, 14:24 จับตา ปปช.สีเทามีชัยกำกับปราบโกง!เด็ดหัวทรท.สูญพันธุ์
23 กันยายน 2549 กองบรรณาธิการ คณะปฏิรูปฯ ออกประกาศให้กฎหมาย ป.ป.ช.มีผลบังคับใช้ "มีชัย" กำกับตั้ง 9 อรหันต์ "กล้านรงค์-วิชา" ร่วมทีม "ปานเทพ" มือขวา "สุเมธ" เป็นประธาน อดีต ส.ว.-เอ็นจีโอกังขาเห็นหน้าแล้วไม่ใช่ดรีมทีม มีทายาทระบอบทักษิณโผล่รวมอยู่ด้วย เตือน คปค.เหตุผลของการยึดอำนาจเพราะปัญหาคอรัปชั่น หากไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้จะมีปัญหาถูกมองว่าซูเอี๋ยกับระบอบทักษิณ ขณะที่ สตง.เดินหน้าลุยซีทีเอ็กซ์ "ศรีสุข" ซวยแน่ คาดพิจารณาจบพร้อมหุ้นชินฯ 5 จนท.สรรพากรไม่รอด โถ "ดีเอสไอ" กลัวตกขบวนขอมีส่วนร่วมด้วย ไทยรักไทยหนีตายพรรคเจ๊งแน่โดนเด็ดหัว เตรียมจับขั้วใหม่ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 กันยายน 2549 พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ประธานที่ปรึกษาคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองคณะปฏิรูปการปกครองฯ และ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ในฐานะ เลขาฯ คปค. ได้ร่วมประชุมเพื่อพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของคณะปฏิรูปการปกครองฯ เป็นผู้เสนอรายชื่อทั้งหมดเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม นอกจากนี้ คณะทำงานด้านกฎหมายฯ ได้เสนอแนวทางการทำงานของ ป.ป.ช.ต่อคณะปฏิรูปการปกครองฯ ด้วยว่า อะไรที่เป็นไปตามกฎหมายก็ขอให้ทาง ป.ป.ช. และ ปปง.ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา สิ่งไหนผิดก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย และดำเนินการตามขั้นตอน ทั้งนี้ อยู่ที่กระบวนการการพิจารณาทางกฎหมายเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาเรื่องการซุกหุ้นหรือการขายหุ้น และการขายบริษัทชินคอร์ป ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะเรื่องต่างๆ เหล่านี้เป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ดังนั้น ป.ป.ช.ชุดนี้จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมเกิดขึ้นโดยเร็ว ที่ประชุมยังได้มีการหยิบยกข้อเสนอถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะถูกตรวจสอบเรื่องทรัพย์สินตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น คณะปฏิรูปการปกครองฯ ก็แสดงความเป็นห่วง เนื่องจากเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง และสามารถใช้สิทธิ์ความเป็นคนไทยได้ตลอดเวลา ดังนั้นคณะปฏิรูปการปกครองฯ จะไม่อายัดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอน และตามหลักฐานที่ปรากฏแน่ชัดเท่านั้น รวมถึงรัฐมนตรีท่านอื่นๆ ที่อาจจะถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบในครั้งนี้ด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะปฏิรูปการปกครองฯ ยังได้เสนอความเห็นต่ออีกว่า หาก ป.ป.ช.หรือคณะปฏิรูปการปกครองฯ ทำอะไรที่ผิดขั้นตอน ก็อาจจะถูกฟ้องร้องตามมาได้ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวัง เพราะเราไม่มีเจตนาที่จะไปบีบคั้นหรือใช้อำนาจที่มีอยู่โดยไม่ชอบธรรม และไม่ให้เกิดแรงเสียดทานใดๆ จากฝ่ายเราโดยเด็ดขาด ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายทั้งสิ้น หากมีการตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดจริง ก็จะต้องฟ้องร้องในชั้นศาล ซึ่งอยู่ที่ดุลพินิจการพิจารณาของศาลเป็นหลัก "อยู่ๆ คณะปฏิรูปการปกครองฯ จะไปออกคำสั่งให้ไปยึดทรัพย์คนนั้นคนนี้ เราคงทำไม่ได้ เพราะเราต้องการจะปลดล็อกทางการเมืองที่มันไม่ถูกต้องให้เกิดความชอบธรรม ดังนั้น ป.ป.ช.ต้องเริ่มต้นทำงานอย่างเร่งด่วนและปราศจากการแทรกแซงจากคณะปฏิรูปการปกครองฯ อย่างแท้จริง และต้องปล่อยให้ ป.ป.ช.ทำงานอย่างอิสระ มีหน้าที่อะไรก็ทำไป ถ้าหากจำเป็นต้องยึดทรัพย์ก็จะต้องยึด ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามข้อมูลหลักฐานที่แน่ชัดเท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าคณะปฏิรูปฯ จะเข้าไปแทรกแซงหรือตั้งคณะกรรมการไปไล่ยึดทรัพย์นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีคนอื่นๆ เราคงไม่ทำ" นายทหารระดับสูงในคณะปฏิรูปการปกครองฯ นายหนึ่งกล่าว ตั้ง 9 ป.ป.ช.ชุดประวัติศาสตร์ หลังประชุมเสร็จ คณะปฏิรูปฯ โดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ ออกประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 19 เรื่อง ให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญบางฉบับมีผลใช้บังคับต่อไป เพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สมควรปรับปรุงพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พุทธศักราช 2542 และมีผลบังคับใช้ต่อไป คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงมีประกาศดังต่อไปนี้ หัวข้อ: Re: ..ถึงขั้น...ทรท. สูญพันธ์เลยนะ !!! เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 23-09-2006, 14:25 ข้อ 1 ให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พุทธศักราช 2542 มีผลใช้บังคับต่อไป โดยให้งดการบังคับใช้บทบัญญัติที่เกี่ยวกับการสรรหา
ข้อ 2 ให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542 มีผลใช้บังคับต่อไป ข้อ 3 ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พุทธศักราช 2542 ประกอบด้วย 1.นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ 2.นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ 3.นายใจเด็ด พรไชยา กรรมการ 4.นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ 5.ศาสตราจารย์ภักดี โพธิศิริ กรรมการ 6.ศาสตราจารย์เมธี กรองแก้ว กรรมการ 7.นายวิชา มหาคุณ กรรมการ 8.นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ และ 9.นางสาวสมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ข้อ 4 ในกรณีที่ประธานกรรมการหรือกรรมการตามข้อ 3 พ้นตำแหน่งด้วยเหตุใด และมีกรรมการเหลืออยู่ตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป ให้คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการเท่าที่เหลืออยู่ ถ้าประธานกรรมการพ้นจากตำแหน่ง ให้กรรมการที่เหลืออยู่คัดเลือกกันเอง ให้กรรมการคนหนึ่งเป็นประธานกรรมการแทน ในกรณีที่กรรมการพ้นจากตำแหน่งและมีกรรมการเหลืออยู่ไม่ถึง 6 คน ให้นายกรัฐมนตรีสรรหาบุคคล เพื่อขอความเห็นชอบจากสภา ที่ทำหน้าที่นิติบัญญัติ และนำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงลงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งต่อไป หรือดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น แล้วแต่กรณี ข้อ 5 ให้ประธานกรรมการและกรรมการตามข้อ 3 ดำเนินการตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พุทธศักราช 2542 ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ในกรณีที่บุคคลตามข้อ 3 ไม่ดำเนินการภายในกำหนดเวลาตามวรรค 1 หรือไม่อาจรับตำแหน่งได้ ให้นำความในข้อ 4 มาใช้บังคับโดยอนุโลม ประกาศ ณ วันที่ 22 กันยายน 2549 เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ได้รับแต่งตั้งเป็น ป.ป.ช. โดยคำสั่งของคณะปฏิรูปฯ นี้ส่วนใหญ่หลายคนมาจากอดีตผู้สมัครเป็นกรรมการ ป.ป.ช.ชุดที่ผ่านมา ซึ่งวุฒิสภาได้มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในเรื่องคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ แต่ล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญได้ถูกยุบทิ้งไปแล้ว ทำให้กระบวนการทั้งหมดต้องนับหนึ่งใหม่ รายชื่อ ป.ป.ช.ชุดใหม่ที่เคยลงสมัคร ป.ป.ช.มีทั้งสิ้น 5 คน คือ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) เป็นผู้ที่ทำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมาหลายปี และเป็นคนใกล้ชิดนายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา 2.นายประสาท พงษ์ศิวาภัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เพื่อนร่วมรุ่น ม.ธรรมศาสตร์ กับนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรักษาการ รมช.มหาดไทย และนายสุจริต ปัจฉิมนันท์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย แต่ที่ผ่านมาได้รับการยอมรับจากกลุ่มข้าราชการว่ามีความเป็นกลาง 3.นายวิชัย วิวิตเสวี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา 4.นายภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา 5.นายเมธี กรองแก้ว อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สำหรับนายใจเด็ด พรไชยา นั้นเคยดำรงตำแหน่งสุดท้ายก่อนการเกษียณอายุราชการ คือตำแหน่งรองอัยการสูงสุด ขณะนี้ดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโสฝ่ายคดีพิเศษสอง (คดีอาญาของนักการเมือง) อดีต ส.ว.กังขาไม่ใช่ดรีมทีม การแต่งตั้งครั้งนี้มีเสียงคัดค้านมาจากอดีต ส.ว.อุบลราชธานี คือ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ เขาชี้ให้เห็นว่า ป.ป.ช. 9 คนยังไม่ใช่ชุดดรีมทีมที่ทำให้เห็นว่า คปค.ควรหาคนทำงานได้ดีกว่านี้ เช่น นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ นายแก้วสรร อติโพธิ ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต. คนที่เป็น ป.ป.ช.ต้องได้คนกล้าที่จะลงโทษผู้กระทำผิด "อย่าลืมว่าเหตุผลของการยึดอำนาจครั้งนี้เพราะปัญหาการทุจริต ซึ่งเป็นเหตุผลที่ชอบธรรมที่สุด และต่างชาติก็ยอมรับว่าประเทศไทยมีปัญหาทุจริตสูงจนต้องใช้อำนาจทหารเข้ามาจัดการ ฉะนั้นถ้า คปค.ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่น ยอมให้บุคคลที่มีภาพที่ไม่ยอมรับเข้าไปเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ก็จะมีปัญหาต่อภารกิจของการยึดอำนาจครั้งนี้ทันที เพราะอาจจะเข้าล็อกที่ว่าเป็นการซูเอี๋ยประนีประนอมกับระบอบทักษิณ" ด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล แกนนำ 30 องค์กรพัฒนาเอกชนต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า จากรายชื่อที่คณะปฏิรูปฯ ประกาศออกมานั้น ทำให้เสียความรู้สึกอยู่บ้าง เพราะบางคนไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ รวมทั้งบางคนไม่มีความกล้าหาญทางจริยธรรม จึงคิดว่าไม่สมควรมารับหน้าที่ในองค์กรนี้ เธอบอกว่าเท่าที่ทราบหลายคนเคยมีความใกล้ชิดกับนักการเมืองในรัฐบาลชุดที่แล้ว จึงไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำงานตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาได้ เพราะการที่คณะปฏิรูปฯ ยึดอำนาจครั้งนี้มีต้นทุนที่ราคาแพง และคนไทยก็มุ่งหวังว่าจะเดินไปสู่สังคมที่ดีกว่า ดังนั้นจึงต้องทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด ส่วนหนึ่งต้องฟังเสียงคัดค้านและความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนด้วย แม้ได้อำนาจมาจากการรัฐประหารก็ตาม จึงขอให้เสนอมีตัวแทนจากภาคประชาชน อาทิ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส หรือบุคคลที่มีความเป็นกลางทางการเมืองเข้ามีส่วนร่วมในการคัดเลือกบุคคลด้วย "กระบวนการทางการเมืองตอนนี้ไม่ควรให้กลุ่มคนเหล่านี้เข้ามามีบทบาท เพราะไม่เชื่อว่าคนเหล่านี้จะทิ้งนิสัยเก่าๆ" แกนนำเครือข่าย 30 องค์กรฯ กล่าว สำหรับกรรมการ ป.ป.ช.ที่ภาคประชาชน และอดีต ส.ว.กังขามากที่สุดคือ ศ.นพ.ภักดี โพธิศิริ ที่ล่าสุดได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ป.ป.ช. เนื่องจากพบว่า ในขั้นตอนการตรวจสอบประวัติและความประพฤติในชั้นวุฒิสภาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ได้รับการร้องเรียนมากที่สุดคนหนึ่ง เช่น กรณีทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง กรณีรับผลประโยชน์จากเครื่องดื่มบำรุงกำลังและยังถูกมองว่า เป็นคนใกล้ชิดกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ สมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวข้อ: Re: ..ถึงขั้น...ทรท. สูญพันธ์เลยนะ !!! เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 23-09-2006, 14:26 นอกจากนี้ ยังมีนายประสาท พงษ์ศิวาภัย อดีตผู้ว่าฯ นครปฐม และได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ที่ถูกมองว่ามีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลสะสมทรัพย์ และปทุมารักษ์ นักการเมืองในพื้นที่จากพรรคไทยรักไทย
ขณะที่ผู้ได้รับการแต่งตั้งต่างออกมาให้ความเห็นถึงการทำงานในอนาคต นายวิชา มหาคุณ ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับการทาบทามจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในคณะปฏิรูปฯ ขอร้องให้เข้าไปช่วยเหลือบ้านเมือง ซึ่งตนก็เห็นว่าประเทศชาติยุ่งเหยิงมามากพอสมควร ดังนั้นจึงไม่ขัดข้อง "กล้านรงค์" พร้อมเต็มที่ นายกล้านรงค์ จันทิก อดีตเลขาฯ ป.ป.ช. กล่าวว่า ได้รับการทาบทามจากคณะปฏิรูปฯ ในช่วงบ่ายวันที่ 22 กันยายนว่า ขอให้ไปช่วยปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือบ้านเมือง โดยการให้ไปปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งก็ยอมรับว่ามีความหนักใจกับภารกิจดังกล่าว เพราะพ้นจากงานปราบทุจริตมานาน และมีความตั้งใจว่าจะเข้าไปเป็นสมาชิกวุฒิสภาเพื่อทำงานด้านกลั่นกรองกฎหมาย แต่เมื่อไม่มีวุฒิสภาแล้วจึงกลับไปสอนหนังสือตามเดิม "เมื่อมีคำสั่งของคณะปฏิรูปฯ ออกมาแล้วก็ต้องปฏิบัติตาม แม้ความจริงจะหนักใจกับภาระหน้าที่ในตำแหน่ง ป.ป.ช.ก็ตาม เนื่องจากสำนักงานได้เว้นว่างและไร้คนทำงานมานาน จึงน่าจะมีงานคั่งค้างอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ไม่ทราบว่าแต่ละคดีดำเนินไปถึงขั้นตอนใดบ้าง แต่เมื่อมีคำสั่งออกมาให้ไปช่วยประเทศชาติ ผมก็ต้องทำตาม เพราะคำสั่งของคณะปฏิรูปฯ ถือเป็นกฎหมายอย่างหนึ่ง" นายกล้านรงค์กล่าว น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล ผู้พิพากษาอาวุโส บอกว่าใน ป.ป.ช.มีคดีคั่งค้างอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากไม่มีคณะทำงานมานานพอสมควร จากรายชื่อที่คณะปฏิรูปฯ ประกาศออกมานั้นส่วนใหญ่เป็นคนคุ้นเคยรู้จักกันพอสมควร จึงไม่รู้สึกหนักใจอะไร ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ขอเวลาเคลียร์งานในตำแหน่งอีก 2-3 วัน อย่างไรก็ตาม ตนยินดีที่ได้รับตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. แต่ในส่วนของแนวทางการทำงานนั้นตนยังไม่สามารถบอกได้ในตอนนี้ ต้องรอให้ทุกอย่างชัดเจนก่อน แล้วจะชี้แจงให้ทราบอีกครั้ง สำหรับความคืบหน้าในการยึดทรัพย์สินของอดีตรัฐมนตรี ที่คณะปฏิรูปฯ ให้อำนาจคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าฯ สตง.) ดำเนินการอย่างเต็มที่ และมีประกาศให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) พ้นตำแหน่งทั้งหมดนั้น ล่าสุดมีรายงานว่า รายงานผลการตรวจสอบโครงการซีทีเอ็กซ์ของ สตง. ซึ่งเป็นคดีแรกที่จะดำเนินการเอาผิดกับอดีตรัฐมนตรี ในเบื้องต้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว ในรายงานจะมีการสรุปผลการตรวจสอบโครงการทั้งหมดอย่างละเอียด ตั้งแต่ที่บอร์ดบริษัท ท่าอากาศยานสากลแห่งใหม่ (บทม.) เห็นชอบให้มีการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ไปจนถึงการส่งมอบเครื่องซีทีเอ็กซ์ และความเชื่อมโยงของฝ่ายผู้บริหาร บทม.และฝ่ายการเมือง รวมทั้งบริษัทเอกชนทั้งหมด "ตัวรายงานเสร็จสมบูรณ์หมดแล้ว แต่ที่ยังไม่สามารถสรุปผลอย่างเป็นทางการได้เพราะในตัวรายงานไม่ได้มีการระบุผู้เกี่ยวข้องและผู้ต้องรับผิดชอบทั้งด้านคดีอาญาและทางวินัย ดังนั้นจึงมีการแก้ไขรายงานในขั้นสุดท้ายอยู่ โดยผลสอบที่จะนำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการสอบทุจริตที่คณะปฏิรูปฯ แต่งตั้งขึ้น จะมีการระบุชื่อผู้ต้องรับผิดชอบอย่างชัดเจนในรายงาน เช่น นายศรีสุข จันทรางศุ ประธานบอร์ด บทม. นายอดิเทพ นาคะวิสุทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญ ทอท อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท เป็นต้น" นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าสำหรับการตรวจสอบโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบและมีความคืบหน้าเป็นระยะก็มีเช่น การตรวจสอบกรณีที่บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้ให้ความเห็นชอบโครงการให้บริการเซลลูลาร์ CDMA ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค กับบริษัทบริษัท ฮัทชิสัน ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย จำกัด (Hutch) เป็นผู้จัดทำการตลาดบริการ CDMA ในส่วนกลางเนื่องจากมีความสงสัยว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวส่อไปในทางไม่โปร่งใส และทำให้ กสท เสียประโยชน์ให้แก่บริษัทเอกชน เป็นจำนวนเงินตกปีละไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท รวมทั้งอาจจะเป็นการเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมายพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 แหล่งข่าวจาก สตง.กล่าวว่า การตรวจสอบโครงการดังกล่าวของ กสท.ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและการรอหนังสือชี้แจงจากผู้บริหารของ กสท หัวข้อ: Re: ..ถึงขั้น...ทรท. สูญพันธ์เลยนะ !!! เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 23-09-2006, 14:28 บี้ ทรท.กินหวยบนดิน
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีนโยบายหวยบนดิน ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มี พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เพื่อนร่วมรุ่น นรต.26 กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็น ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ สตง.มุ่งสอบในประเด็นที่มีการนำรายได้ของสำนักงานสลากฯ จากเรื่องหวยบนดินเข้าไปไว้ในมูลนิธิของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งหากดูตามกฎหมายแล้วสำนักงานสลากฯ สามารถทำได้ แต่ สตง.พยายามดูในเรื่องเจตนาของการทำนโยบายหวยบนดิน และการนำรายได้ไปใช้ในด้านต่างๆ เพื่อสนับสนุนโครงการประชานิยมของรัฐบาลไทยรักไทย สตง.กำลังดูเจตนาว่าอาจเป็นเรื่องการหาเสียงทางการเมืองเพื่อเลี่ยงบาลีในการตรวจสอบการใช้เงินของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบเรื่องนี้ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ คณะกรรมการปฏิรูปฯ ยอมรับว่าขณะนี้มีการพูดคุยกันถึงการให้ตรวจสอบและอายัดทรัพย์สิน พ.ต.ท.ทักษิณ และอดีตรัฐมนตรีที่พัวพันการทุจริต แต่ยังไม่ได้รายละเอียด เรากำลังคุยกันอยู่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฝ่ายกฎหมายและวิชาการ เปิดเผยในเวทีเสวนาวิชาการ เรื่อง "รู้ทันอาชญากรรมเศรษฐกิจ" ด้านภาษีอากรและการเงิน ที่จัดโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ว่า ดีเอสไอพร้อมที่จะทำคดีทุกคดีที่เป็นลักษณะอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ อาทิ กรณีการทุจริตในโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดในสนามบินสุวรรณภูมิ (ซีทีเอ็กซ์) ที่ขณะนี้ สตง.อยู่ระหว่างการตรวจสอบเบื้องต้น โดยหากกระบวนการตรวจสอบในส่วนของ สตง.เสร็จสิ้นแล้ว หากทาง สตง.ส่งมูลความผิดที่ตรวจพบมาให้ ดีเอสไอก็พร้อมทำคดีต่อไป นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงคดีอื่นๆ อาทิ กรณีการตรวจสอบนอมินีถือหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กรณีกรมสรรพากรไม่จัดเก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป จากบุตรชายและบุตรสาวของอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นต้น "ที่ผ่านมา หลายๆ คดีไม่มีคนไปร้องให้ดีเอสไอเข้ามาทำ แต่กลับไปร้องที่อัยการสูงสุดแทน ซึ่งอัยการสูงสุดไม่ได้เป็นหน่วยงานที่เริ่มสอบโดยตรง ส่วนกรณีซีทีเอ็กซ์ ถ้า สตง.สอบเสร็จแล้วแจ้งมา ดีเอสไอก็พร้อมจะทำคดีต่อ แต่หลายๆ คดีที่ สตง.ทำอยู่ ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยังไม่ได้มีการชี้มูลอะไร" นายธาริตกล่าว คลังพบ สตง.แจงหุ้นชินฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.00 น. นางเบญจา หลุยส์เจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางมายังสำนักงาน สตง. เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่ สตง. เรียกเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร 5 ราย เข้าให้ข้อมูลชี้แจงกรณีที่กรมสรรพากรไม่เรียกเก็บภาษีจากบุตรชายและบุตรสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่ซื้อขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น นอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยนางเบญจาเข้าชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่จนถึงเวลาประมาณ 12.50 น. จึงได้เดินทางกลับ นางเบญจากล่าวว่า การชี้แจงในวันนี้ ตนได้ตอบ สตง.ถึงกรณีที่ได้ตอบข้อหารือเรื่องการเสียภาษีหุ้นชินต่อ น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิดกับตระกูลชินวัตร โดยยืนยันว่าเป็นการตอบข้อหารืออย่างเป็นไปตามข้อกฎหมาย และแนวทางการปฏิบัติต่างๆ ของกรมสรรพากร ซึ่งเป็นการตอบที่ไม่มีความแตกต่างจากการตอบผู้มีหน้าที่เสียภาษีรายอื่นๆ ไม่มีการทำเกินขอบเขตของกฎหมาย ดังนั้น จึงไม่ได้รู้สึกกังวลใจต่อการที่ถูก สตง.เรียกมาสอบในเรื่องนี้แต่อย่างใด "เวลาทำงาน เราทำด้วยความสุจริตใจ ไม่ได้ตอบแตกต่างไปจากผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีรายอื่นๆ เลย เป็นการตอบไปตามแนวทางของกรมที่มีอยู่แล้ว และตอบตามข้อมูลที่ประชาชนถามมา ส่วนผลที่ได้จะมีส่วนในการเปลี่ยนคำตอบหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ก็เป็นไปได้ทั้งด้านบวกและด้านลบ ซึ่งในส่วนนี้ผู้ที่รับผิดชอบต้องเป็นคนตอบ" นางเบญจากล่าว อย่างไรก็ดี ในวันนี้ ไม่ได้มีการนำเอกสารมามอบให้ สตง.เพิ่มเติมแต่อย่างใด เพราะเอกสารที่ สตง.ขอมา เข้าใจว่าเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่ต้องเป็นผู้ส่งให้ สตง. นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจกิจการพิเศษ สตง. กล่าวว่า กรณีการตรวจสอบกรมสรรพากรนั้น ภายหลังนางเบญจาเชื่อว่า สตง.จะสามารถเร่งสรุปผลการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ เช่นเดียวกับกรณีการตรวจสอบทุจริตซีทีเอ็กซ์ได้ โดยยังเหลือเพียงเอกสารหลักฐานบางส่วน ที่เป็นหนังสือหารือของ น.ส.ปราณี ที่ทางกรมสรรพากรยังไม่ได้ส่งมาให้ แม้ว่าจะครบกำหนดที่เรียกเอกสารในวันที่ 22 กันยายนนี้แล้วก็ตาม ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าทำไมกรมสรรพากรจึงไม่ให้ความร่วมมือ อย่างไรก็ดี สตง.พร้อมจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป โดยใช้กฎหมายของ สตง. เป็นหลัก และยืนยันว่าไม่จำเป็นถึงขั้นต้องใช้คำสั่งคณะปฏิรูปฯ นอกจากนี้ สตง.อยู่ระหว่างเตรียมทำหนังสือไปถึง น.ส.ปราณี เพื่อเรียกมาให้ข้อมูลอีกครั้งด้วย หลังจากที่เรียกไปครั้งแรกแล้ว น.ส.ปราณีอ้างเหตุผลติดภารกิจ และขอเลื่อนนัดออกไปก่อน "แม้ว่าหน้าที่หลักของ สตง. คือเราตรวจด้านการทำงานของเจ้าหน้ารัฐก็ตาม แต่ในกรณีนี้ ที่ทาง สตง.ต้องการให้ น.ส.ปราณีเดินทางมาชี้แจงด้วยนั้น ก็ถือเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว และถ้าหากสุดท้ายแล้ว น.ส.ปราณีไม่ยอมเดินทางมาชี้แจง ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าหากเดินทางมาได้ ก็จะถือเป็นเรื่องดี เพราะจะทำให้ทาง สตง.ได้ข้อเท็จจริงที่กระจ่างชัดขึ้น จะได้ไม่มีประเด็นติดค้างคาใจกันต่อไปภายหลัง" นายพิศิษฐ์กล่าว คาด 5 จนท.สรรพากรมีความผิด แหล่งข่าวจาก สตง.กล่าวด้วยว่า ในส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบภายหลังจากที่คณะตรวจกิจการพิเศษ ได้ทำการซักถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรที่เกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นดังกล่าวครบทั้ง 5 ราย เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า สตง.จะสามารถสรุปเรื่องดังกล่าวได้อย่างแน่นอน และหลังจากนั้นก็จะส่งรายงานไปยังคณะปฏิรูปฯ เพื่อพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ข้อสรุปเบื้องต้น มีแนวโน้มว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 5 รายของกรมสรรพากรละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีเรื่องดังกล่าวจริง ดังนั้น จึงคาดว่าจะสามารถเอาผิดเจ้าหน้าที่ทั้ง 5 รายได้ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา มาตราที่ 154, 155 และ 157 และตามมาตราที่ 90 ที่ได้สรุปเอาไว้ว่า เมื่อมีการกระทำใดอันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่ผู้กระทำความผิด โดยหากลงโทษสูงสุด คาดว่าอาจจะทำให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 5 ราย มีสิทธิติดคุกถึงตลอดชีวิต และอาจจะโดนปรับถึงรายละ 40,000 บาทอีกด้วย ขณะเดียวกัน ทางกรมสรรพากรก็ต้องไปดำเนินการเรียกเก็บภาษีในการซื้อขายหุ้นครั้งดังกล่าวควบคู่กันไป ส่วนกรณีการตรวจสอบโครงการทุจริตซีทีเอ็กซ์นั้น ขณะนี้ทาง สตง.ได้เร่งตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอยู่ โดยจะเป็นเรื่องแรกที่ทาง สตง.จะต้องรีบสรุปให้ได้ตามที่คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าฯ สตง. ได้ประกาศเอาไว้ ทั้งนี้ มั่นใจว่าผลของการตรวจสอบที่กำลังจะออกมาคงจะไม่ทำให้ประชาชนเกิดความผิดหวังอย่างแน่นอน ทั้งนี้ แหล่งข่าวจาก สตง.กล่าวว่า ในส่วนผลการตรวจสอบทุจริตซีทีเอ็กซ์ที่จะออกมานี้ มีความเป็นไปได้ที่จะเอาผิดไปถึงคณะกรรมการของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (ทอท) บางรายได้ เพราะค่อนข้างมีหลักฐานที่ปรากฏชัดเจนว่ามีความเกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการดังกล่าว ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายบรรพต หงษ์ทอง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงภายหลังการประชุมข้าราชการระดับสูง ถึงข้อสงสัยของ สตง.เรื่องโครงการการกล้ายาง โครงการเซ็นทรัลแล็บ มูลค่า 1,300 ล้านบาท ว่าเป็นการร่วมทุนกับกระทรวงการคลัง ซึ่งกระทรวงการคลังถือว่าเป็นหุ้นใหญ่ กระทรวงเกษตรฯ เพียงเข้าไปเป็นกรรมการเท่านั้น แต่ทั้งหมดหาก สตง.ต้องการข้อมูล ก็พร้อมจะร่วมมือทุกอย่าง เขาบอกว่าไม่ทราบคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อไหร่ โดยตนมีหน้าที่ติดตาม ม.จ.ภีศเดช รัชนี อย่างไรก็ดี หลัง คปค.เข้ามาเปลี่ยนแปลงก็ไม่ได้เจอกัน มีรายงานว่าคุณหญิงสุดารัตน์จะเดินทางกลับจากประเทศเบลเยียม หลังไปดูงานโครงการหลวงกับ ม.จ.ภีศเดช รัชนี ตามกำหนดการเดิมจะถึงประเทศไทยวันที่ 24 กันยายน เวลา 18.00 น. โดยมาพร้อมกับ น.ต.ศิธา ทิวารี และนายอุดมเดช รัตนเสถียร มีรายงานจากที่ประชุมว่า อธิบดีแต่ละคนต่างก็ได้สอบถามถึงงานที่คั่งค้างอยู่ว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะโครงการต่างๆ ของรัฐบาลชุดที่แล้วที่ได้เดินหน้าไปกว่าครึ่ง และเป็นโครงการที่ประชาชนรอคอยและต้องการให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งรัดส่งมอบให้เกษตรกรโดยเร็ว เช่น โครงการกล้ายาง 1 ล้านไร่ โครงการโคล้านครอบครัว โครงการปลูกปาล์ม 5 ล้านไร่ การประกันราคาพืชทดแทนพลังงานน้ำมัน โครงการส่งเสริมธุรกิจไทยจำกัด (เอสพีวี) ที่จะต้องดำเนินโครงการรับช่วงต่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และมีภารกิจที่จะต้องกำหนดวงเงินงบประมาณในการจัดซื้อถังน้ำเชื้อวงเงิน 300 ล้านบาท กำหนดราคาการรับซื้อคืนวัวในโครงการโคล้านครอบครัว โครงการพัฒนา 25 ลุ่มน้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเมกะโปรเจ็กต์ โดยโครงการเหล่านี้ต้องเร่งตัดสินใจก่อน 30 กันยายน ในฐานะที่ปลัดกระทรวงทำหน้าที่แทนรัฐมนตรี เพราะมิเช่นนั้นโครงการเหล่านี้จะตกไม่ทันงบประมาณปีนี้ อย่างไรก็ตาม นายบรรพตก็ไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ ที่อธิบดีหยิบยกขึ้นมาถาม เพียงแต่บอกว่าให้รอรัฐมนตรีคนใหม่ เดี๋ยวก็มาแล้ว ส่วนกระแสข่าวการยึดทรัพย์รัฐมนตรี ซึ่งเบื้องต้นมีข่าวว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทวงอุตสาหกรรม นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายเนวิน ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น นายอนุชา นาคาศัย อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสากรรม (นายสุริยะ) และคนสนิทภายในกลุ่มวังน้ำยม กล่าวว่า ขณะนี้นายสุริยะยังอยู่ในประเทศไทยไม่ได้ไปไหน และตอนนี้นายสุริยะรับทราบแล้วว่าอาจจะต้องถูกตรวจสอบทรัพย์สิน แต่ก็ไม่ได้เป็นห่วงอะไร เพราะเชื่อมั่นว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด ผู้สื่อข่าวถามว่านายสุริยะพร้อมชี้แจงทุกอย่างหรือไม่ นายอนุชาตอบว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ คงต้องรอให้นายสุริยะตัดสินใจก่อน เพราะตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร คงต้องอยู่ที่การดำเนินการตามกระบวนการด้วย หัวข้อ: Re: ..ถึงขั้น...ทรท. สูญพันธ์เลยนะ !!! เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 23-09-2006, 14:29 ทรท.หนีตายพรรคเจ๊งแน่
นพ.สุทธิชัย จันทร์อารักษ์ อดีต ส.ส.ยโสธร พรรคไทยรักไทย กลุ่มบ้านริมน้ำ กล่าวว่า พรรคน่าจะล่มสลายตายสนิทแบบเบ็ดเสร็จ หายไปจากสารบบการเมืองไทยในเร็วๆ นี้ เพราะจากการที่คณะปฏิรูปฯ ออกคำสั่งให้สถานะพรรคการเมืองยังคงดำรงอยู่ น่าจะมีความต้องการที่จะเช็กบิลไทยรักไทยให้เด็ดขาด โดยใช้ข้อกฎหมายโอนคดียุบพรรคที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญเข้าสู่กระบวนการศาลแผนกคดีทางการเมือง "การให้คุณหญิงจารุวรรณมาดำเนินการ ชัดเจนว่าเป็นการไล่เช็กบิลหัวหน้าสังต่างๆ ในพรรค ซึ่งก็คือ ครม. มีแนวโน้มที่จะโดนกันหลายราย ขณะนี้กำลังรอดูความชัดเจนในช่วง 2 สัปดาห์ หากเกิดอะไรขึ้นกับพรรค ก็คงต้องทำการจับขั้วรวมกลุ่มกันใหม่" อดีต ส.ส.ผู้นี้รับสภาพ แต่นายสุรชัย เบ้าจรรยา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย มั่นใจว่าพรรคไทยรักไทยจะยังอยู่แม้ว่าจะไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากโครงสร้างของพรรค โดยเฉพาะนโยบาย มีความเป็นระบบและแข็งแรง ดังนั้นคนที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดต่อไปต้องเจองานหนัก "โดยเฉพาะในต่างจังหวัดเสพติดนโยบายประชานิยมไปเสียแล้ว หากเขารู้สึกว่ารัฐบาลใหม่ให้ได้ไม่เท่ากับรัฐบาลทักษิณก็ลำบาก สำหรับอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทยเท่าที่ตนได้พูดคุย ส่วนใหญ่ก็ยังอยู่พรรคไทยรักไทย อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวอยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว คิดว่าระยะเวลา 1 ปีที่ คปค.ประกาศไว้นานเกินไป และจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ" นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 กันยายนเวลา 13.00 น. ตนพร้อมด้วยนายวีระ มุสิกพงศ์ กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย จะเดินทางไปยัง สน.ดุสิต เพื่อยื่นแจ้งความฐานหมิ่นประมาทกับหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ สืบเนื่องจากได้ลงข่าวใส่ร้ายว่าแกนนำพรรคไทยรักไทย 4 คน ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองเลขาธิการพรรค นายเกรียงกมล เลาหะไพโรจน์ อดีตคณะทำงานของนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ นายวีระ และตนเอง ออกใบปลิวต่อต้านการยึดอำนาจของ คปค. ซึ่งยืนยันว่าไม่เป็นความจริง. http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=23/Sep/2549&news_id=130494&cat_id=501 หัวข้อ: Re: ..อึดอัดใจ ...มะเร็งร้ายลามทั่วตัว....หมอคงตัดสินใจยาก เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 23-09-2006, 14:33 อึดอัดใจ ...มะเร็งร้ายลามทั่วตัว....หมอคงตัดสินใจยาก
*** อึดอัดมาก....มีความรู้สึกว่ามันลามมาก --ก็เห็นใจหมอนะคะ ...ต้องอบ ต้องให้กินยา ต้องฉายแสง ....ก็คงต้องอดทนใจเย็นๆล่ะ หัวข้อ: Re: ..ถึงขั้น...ทรท. สูญพันธ์เลยนะ !!! เริ่มหัวข้อโดย: Solidus ที่ 23-09-2006, 14:37 ถ้าไม่ผิดจะหนีทำไม :slime_evil:
หัวข้อ: Re: ..ถึงขั้น...ทรท. สูญพันธ์เลยนะ !!! เริ่มหัวข้อโดย: เบื่อไอ้เหลี่ยม ที่ 23-09-2006, 14:45 ดีแล้ว พรรค รวมคนสีเทา เฮี่ยๆ แบบนี้ ต้องเอาคดีจ้างพรรคเล็ก และอื่นๆ มาบี้ต่อ เอาให้เข็ด
อย่าปล่อยให้เชื้อชั่วคงอยู่ต่อไปอีก และผมก็จะได้ไม่ต้องไปขอลาออกจากสมาชิกพรรค เฮี่ยๆแบบนี้ พรรคสลาย สถานภาพสมาชิกก้สลายไปด้วย หัวข้อ: Re: ..ถึงขั้น...ทรท. สูญพันธ์เลยนะ !!! เริ่มหัวข้อโดย: Limmy ที่ 23-09-2006, 20:24 นพ.สุทธิชัย จันทร์อารักษ์ อดีต ส.ส.ยโสธร พรรคไทยรักไทย กลุ่มบ้านริมน้ำ กล่าวว่า พรรคน่าจะล่มสลายตายสนิทแบบเบ็ดเสร็จ หายไปจากสารบบการเมืองไทยในเร็วๆ นี้ เพราะจากการที่คณะปฏิรูปฯ ออกคำสั่งให้สถานะพรรคการเมืองยังคงดำรงอยู่ น่าจะมีความต้องการที่จะเช็กบิลไทยรักไทยให้เด็ดขาด โดยใช้ข้อกฎหมายโอนคดียุบพรรคที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญเข้าสู่กระบวนการศาลแผนกคดีทางการเมือง
"การให้คุณหญิงจารุวรรณมาดำเนินการ ชัดเจนว่าเป็นการไล่เช็กบิลหัวหน้าสังต่างๆ ในพรรค ซึ่งก็คือ ครม. มีแนวโน้มที่จะโดนกันหลายราย ขณะนี้กำลังรอดูความชัดเจนในช่วง 2 สัปดาห์ หากเกิดอะไรขึ้นกับพรรค ก็คงต้องทำการจับขั้วรวมกลุ่มกันใหม่" อดีต ส.ส.ผู้นี้รับสภาพ ฉลาด และมีวิสัยทัศน์ เข้าใจสถานการณ์เร็วอย่างนี้ ไหง นพ.สุทธิชัย เป็นแค่ ส.ส. ปลายแถว อย่างนี้ให้เป็นหัวหน้าพรรคไปเลย :slime_smile2: หัวข้อ: Re: ..ถึงขั้น...ทรท. สูญพันธ์เลยนะ !!! เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 23-09-2006, 20:29 ตายยกพรรค อิอิ
หัวข้อ: Re: ..ถึงขั้น...ทรท. สูญพันธ์เลยนะ !!! เริ่มหัวข้อโดย: Solidus ที่ 23-09-2006, 20:39 พอหมาตาย พวกเห็บหมัดรีบหนีกันใหญ่ :slime_evil:
|