ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: ลุงโท้ยโซ้ยปัญหา ที่ 18-09-2006, 08:29



หัวข้อ: ปัญหา : ทักษิณ - เปรม..บุคลิกที่แตกต่างสร้างบารมีที่แตกต่าง?
เริ่มหัวข้อโดย: ลุงโท้ยโซ้ยปัญหา ที่ 18-09-2006, 08:29
ลุงโท้ยไม่ค่อยสบาย ต้องนอนขลุกอยู่แต่ในบ้าน งดสอนการบ้านเด็กๆ หนึ่งวัน แต่เด็กๆ ก็ยังอยากคุยกับลุงโท้ย จึงตามมาเยี่ยมถึงบ้าน

จุกน้อย-" ลุงเป็นอะไรมากหรือเปล่าฮะ "

ลุงโท้ย-" ปวดศีรษะนิดหน่อย อาจเป็นหวัด "

ส้มเช้ง-" พวกหนูจะบีบนวดให้นะคะ "

เด็กๆ ช่วยกันบีบนวดให้ลุงโท้ยทั้งแขนและขา จนลุงโท้ยรู้สึกดี

ลูกปลา-" ดีขึ้นไหมคะ "

ลุงโท้ยต้องยิ้มออกมา ยิ้มเพื่อตอบแทนความหวังดีของเด็กๆ

ลุงโท้ย-" จริงๆ ความรู้สึกดีๆ ที่พวกเรามอบให้ลุง มันทำให้ดีขึ้นได้โดยไม่ต้องลงมือนวดแล้ว แค่รู้สึกว่า มีเด็กกลุ่มหนึ่งที่ลุงได้ให้การอบรมสั่งสอนมาเยี่ยมลุงดด้วยความเป็นห่วง มันก็รู้สึกว่า ดีขึ้น แม้ร่างกายยังไม่ดีแต่พลังใจเราดี "

บัว- " เด็กๆ ทุกคนก็เห็นคุณงามความดีของลุง จึงเป็นห่วงเป็นใย อยากให้ลุงหายเร็วๆ "

ลุงโท้ยเอามือลูบศีรษะบัว

ลูกปลา " วันนี้อ่านข่าว ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ใครๆ ก็บอกว่า ทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมืองหลายคน ถูกฝ่ายนายกทักษิณกล่าวหาว่าไม่ได้ทำความดีเอาไว้เลย จริงเท็จก้ไม่รู้ แต่คนเราทำความดีแล้ว มันมีหมดอายุด้วยเหรอคะ "

ลุงโท้ย " คนดีงามจะปลูกฝังความดีงามของผู้ที่เจริญพร้อมแล้วด้วยความดี แต่คนกักขฬะจะเหยียบย่ำความดีงามของผู้ที่ทำความดี เนื่องจากความเสื่อมของตนในชาตินี้ ไม่อาจรับรู้ความดีงามของใครได้ และไม่อาจนำเอาความดีงามมาปลูกฝังในใจตนได้  ความดีจึงไม่มีเสื่อม แต่จิตใจของคนมันเสื่อม "

ลูกเกด " แสดงว่า คนไม่ดีย่อมไม่เจริญรอยตามคุณความดีของคนดีใช่ไหมคะ "

ลุงโท้ย " ต้องพูดว่า คนคิดไม่ดี ย่อมไม่เจริญรอยตามคุณความดีของคนที่เจริญพร้อมด้วยความดีถึงจะถูก "

ดำ " อย่างเช่นกรณีของนายกทักษิณกับพลเอกเปรม ได้ไหมครับ นายกเป็นคนไม่ดีแต่พลเอกเปรมเป็นคนดี "

ลุงโท้ย " จริงๆ เบื้องลึกในจิตใจ ทั้งสองคนอาจเป็นคนดี แต่ในบางช่วงของจังหวะชีวิต ทำให้คิดดี และคิดไม่ดีแตกต่างกันไป แต่วันนี้ นายกิวจารณ์ว่า สมัยพลเอกเปรม บริหารประเทศอยู่แปดปี โดนด่าหนักกว่าสมัยของเขาอีก ก็แสดงให้เห็นว่า จิตใจของนายกในช่วงนี้ คิดไม่ดีกับพลเอกเปรม จึงมองไม่เห็นคุณความดีของพลเอกเปรม แต่มองเห็นความเลวร้ายของพลเอกเปรมแทน "

จุกน้อย " ลุงครับ ลุงจำสมัยที่พลเอกเปรมบริหารประเทศได้ไหมครับ ผมอยากทราบว่า จริงๆ ท่านถูกยกย่องเพราะอะไร และถูกด่าเพราะอะไร "

ลุงโท้ย " จำได้สิ ตอนนั้นลุงก็ยังหนุ่มอยู่ และเป็นคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการครองอำนาจของพลเอกเปรม  ด้วยเหตุที่ พลเอกเปรมขึ้นมาเป็นนายกเพื่อลดความขัดแย้งของทหารกับทหาร และทหารกับพลเรือน บ้านเมืองต้องการนายกรัฐมนตรีที่เป็นหลักประกันว่า ทหารจะไม่ก่อการปฏิวัติและพลเรือนไม่เหลิงอำนาจ "

ลูกปลา " สมัยนั้นเป็นประชาธิปไตยแล้วไม่ใช่หรือคะ แต่พลเอกเปรมก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง "

ลุงโท้ย " สมัยนั้นประชาธิปไตยแบ่งเป็นสองครึ่ง ครึ่งแรกเป็นของอำนาจเก่าที่เคยครองอำนาจในประเทศนี้มาหลายสิบหลายร้อยปีแล้ว  ส่วนอีกครึ่งเป็นของประชาชนที่ใฝ่หาอำนาจรัฐโดยอ้างระบอบประชาธิปไตย และการมอบอำนาจการปกครองให้ประชาชนแทนระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชเมื่อปี พ.ศ.2475 ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลที่มาจากพลเรือนตามระบอบประชาธิปไตยกับทหารและอำนาจเก่ายังมีอยู่  ไม่มีรัฐบาลพลเรือนใดที่สามรถอยู่รอดได้ครบอายุของสภาโดยไม่ถูกปฏิวัติ นี่จึงเป็นที่มาของการชูพลเอกเปรมขึ้นมา เพราะบุคลิกและลักษณะ รวมทั้งบารมีของท่านเป็นที่ยอมรับได้ของคนทุกหมู่เหล่า "

แตงกว่า " แล้วท่านบริหารประเทศดีไหมคะ ทำไมจึงถูกด่ามาก "

ลุงโท้ย " พลเอกเปรมไม่ใช่นักบริหารจัดการ ตลอดชีวิตอยู่ในเครื่องแบบที่ต้องรับคำสั่งผู้บังคับบัญชาไปปฏิบัติและเป็นผู้ออกคำสั่งให้ทหารใต้บังคับบัญชาไปปฏิบัติ  ไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจ กฎหมาย และการเมืองมากมายพอที่จะบริหารประเทศ แต่ท่านก็สามารถนำประเทศชาติให้ผ่านพ้นวิกฤติการณ์ความไม่ลงรอยของประชาชนหลายฝ่ายในชาติบ้านเมืองไปได้ด้วยดีตอลดแปดปีที่อยู่ในตำแหน่ง  โดยยึดหลักการบริหารแบบพรหมวิหารสี่ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา  ใครจะทะเลาะกัน แก่งแย่งชิงอำนาจกัน โกงกินกัน ท่านเป็นผู้วางเฉย ประพฤติตนไม่ให้เป็นที่ขัดแย้งของคนดีและคนไม่ดีในบ้านเมือง  ท่านจึงถูกด่ามากเพราะไม่ยอมลงมาดูแลปัญหา "

ดำ " แสดงว่า ถูกด่าจริงๆ "

ลุงโท้ย " ถูกด่าด้วยความเคารพ ยำเกรง คนด่าก็ไม่รู้ว่า นั่นคือ ขันติธรรม มารู้ว่า ท่านอยู่บนขันติธรรมและพรหมวิหารสี่ตลอดเลา แปดปี ก็ต่อเมื่อท่านวางมือจากอำนาจ ด้วยอมตะวาจา ผมพอแล้ว "

ส้มเช้ง " เสียงด่ามากเท่าสมัยนี้ไหมคะ "

ลุงโท้ย " นายกไม่ควรนำมาเปรียบเทียบกัน  พลเอกเปรมถูกด่าหาว่าไม่ทำอะไร แต่นายกทักษิณถูกด่าหาว่า กระทำการเกินไปทั้งกริยาและวาจา พลเอกเปรมไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง แต่เหลังการเลือกตั้งครั้งใดก็จะมีพรรคการเมืองหลายพรรคมาทาบทามให้เป็นนายกรัฐมนตรีทั้งๆ ที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง แต่นายกทักษิณประกาศตัวก่อนตั้งแต่ได้เป็นนายกแล้วว่า จะเป็นนายกแปดปี หลังจากนั้นจะให้พรรคการเมืองของเขาครองอำนาจไปอีกยี่สิบปี  พลเอกเปรมมีหัวหน้าพรรคการเมืองหลายพรรคมาขอให้อย่าเว้นวรรค นายกทักษิณมีประชาชนทุกหมู่เหล่ามาขอให้ เว้นวรรคเถอะ  พลเอกเปรมก้าวขึ้นมาสยบความขัดแย้งของชนในชาติ แต่นายกทักษิณก้าวขึ้นมาทำให้คนในชาติขัดแย้งกันเอง ความแตกต่างที่กล่าวมานี้ จึงไม่สมควรที่จะนำพลเอกเปรมมาเทียบเคียง "

จุกน้อย " แล้วสมัยพลเอกเปรมมีการจัดตั้งม็อบเชียร์ตัวเองไหมครับ "

ลุงโท้ย " มี แต่เป็นฝีมือของข้าราชการประจำฝ่ายปกครอง มิใช่นักการเมืองท้องถิ่นอย่างทุกวันนี้ ม็อบเชียร์จึงมีความแตกต่างทางด้านคุณธรรม ม็อบเชียร์พลเอกเปรมถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นหน้าเป็นตาของข้าราชการฝ่ายปกครองในท้องถิ่น  แต่ม็อบเชียร์นายกถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้ามโดยมีสัญญาว่าจะตอบแทนเป็นอามีสสินจ้าง "

ลูกปลา " ความแตกต่างที่หนูเห็นอีกประเด็หนึ่งที่ชัดเจน คือ หลังจากโดนด่าแหลกในครั้งนั้น พลเอกเปรมก็ได้รับการยกย่อง สรรเสริญ จากประชาชน ทหาร ตำรวจ และข้าราชการทุกหมู่เหล่า รวมทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงแต่งตั้งให้เป็นองคมนตรีและรัฐบุรุษ แต่.."

ลุงโท้ย " แต่อะไรหรือลูกปลาก ทำไมเงียบไป "

ลูกปลา " แต่นายกทักษิณโดนด่าแหลก หลังจากนี้ บอกว่า อาจจะไปทำมูลนิธิ "

ลุงโท้ย " หึ หึ หึ.."  ลุงโท้ยหัวเราะในลำคอ ตอนนี้ไม่รู้สึกปวดหัวแล้ว


หัวข้อ: Re: ปัญหา : ทักษิณ - เปรม..บุคลิกที่แตกต่างสร้างบารมีที่แตกต่าง?
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 18-09-2006, 08:38
 :D

สนุกมากเลยครับ มารอตอนต่อไปอีกครับ อิอิ


หัวข้อ: Re: ปัญหา : ทักษิณ - เปรม..บุคลิกที่แตกต่างสร้างบารมีที่แตกต่าง?
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 18-09-2006, 08:47
ไหนๆๆ ตอนต่อไปอยู่ตรงไหนอ่า

อยากอ่านต่อน่ะ


หัวข้อ: Re: ปัญหา : ทักษิณ - เปรม..บุคลิกที่แตกต่างสร้ū
เริ่มหัวข้อโดย: Yodyood ที่ 18-09-2006, 09:08
เหอๆ กะลังรอคนเข้ามาแถ  :twisted:


หัวข้อ: Re: ปัญหา : ทักษิณ - เปรม..บุคลิกที่แตกต่างสร้างบารมีที่แตกต่าง?
เริ่มหัวข้อโดย: RiDKuN ที่ 18-09-2006, 09:48
คนหนึ่งอยู่เฉยๆ ก็ถูกเชิญให้มาเป็นนายกฯ ซ้ำแล้วซ้ำอีก
แต่อีกคนทุ่มเงินทองมากมาย เพื่อให้ตัวเองได้เป็นนายกฯ
เปรียบเทียบแค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครเหนือกว่า

ถึงวันนี้ทักษิณก็คงรู้แล้ว ว่าถึงมีเงินหลายหมื่นล้านก็ซื้อไม่ได้ทุกอย่าง
"บารมี" ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ "เงิน" ไม่สามารถซื้อได้
ไอ้พวกที่ล้อมรอบทักษิณอยู่ทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะ "บารมี" แต่เพราะ "เงิน"
เพราะ "เงิน" มันซื้อได้แค่ลิ่วล้อลูกทาส และพวกที่หลงใหลใน "อำนาจเงิน" เท่านั้นแหละ  :!: