ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ก่อนที่จะอ้างถึงกติกาๆ และไปเลือกตั้งๆ  หรืออ้างถึงประชาธิปไตยๆ  ขอให้อ่านตรงนี้  ตรงที่นายกผู้วิเศษไม่เคยสนใจมาก่อน  แต่ทะลึ่งไปกอดคำว่าประชาธิปไตยไว้เป็นยันต์กันนรก  และถ้าจะถกเถียงกันก็ขอให้อ่านให้ครบทุกตัวอักษร  แล้วถามตัวเองว่าประชาธิปไตยที่นายกอ้างถึงมันเป็นไปตามแต่ละข้อข้างล่างนี้ไหม  แล้วค่อยมาเถียงกัน  เพราะฉันสีซอให้คนฟังเท่านั้น  อย่าเอาแค่รู้ไม่จริง  รู้งูๆปลาๆก็เสนอหน้ามาเถียง

ประชาธิปไตยเป็นหลักการปกครองของประชาชน โดยอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศเป็นของประชาชน รูปธรรมคือประชาชนใช้สิทธิของตนเลือกตัวแทนไปบริหารประเทศ  แต่ประเทศที่เปิดโอกาสให้ประชาชนไปใช้สิทธิในการเลือกตั้ง  ก็ไม่ได้หมายความว่า ประเทศนั้นจะเป็นประชาธิปไตย ได้เสมอไป

การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยนั้นจะต้องตั้งอยู่บนหลักการที่สำคัญ  คือ

1)  หลักการเลือกตั้งโดยอิสระ จะต้องให้บุคคลผู้ใช้สิทธิมีโอกาสใช้ดุลยพินิจเลือกผู้สมัคร ใดๆ อย่างเต็มที่ ไม่มีการกระทำในลักษณะของการข่มขู่บังคับ จ้างวานด้วยอามิสสินจ้าง หรือใช้อิทธิพลบีบคั้นให้บุคคลไปใช้สิทธิเลือกผู้สมัครคนใดคนหนึ่ง 

ถามว่าแล้วทุกวันนี้มันเป็นอย่างนี้หรือเปล่า ?

2)  หลักการเลือกตั้งโดยลับ หมายความว่าผู้ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเท่านั้นที่จะรู้ว่า ลงคะแนนให้ผู้สมัครคนใด หลักการนี้จะช่วยสนับสนุนหลักการแรก เป็นการไม่เปิด โอกาสให้มีการข่มขู่บังคับในการเลือกตั้ง เพราะจะไม่มีใครทราบนอกจากผู้ไปใช้สิทธิ เอง แม้จะมีการข่มขู่บังคับเกิดขึ้นบ้าง แต่ก็จะไร้ผลทางการเมือง เพราะจะไม่อาจหา หลักฐานใดๆ มาพิสูจน์ได้ว่าผู้ที่ถูกข่มขู่ได้ลงคะแนนเสียงไปตามนั้นหรือไม่

ถามว่ามันลับไหม  การเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่ผ่านมาน่ะ   มันมองเห็นไหมว่ากาเลือกใคร

3)  หลักการเลือกตั้งอย่างแท้จริง  จะต้องเปิดโอกาสให้มีผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้งอย่าง   ประชาชนจะได้มีโอกาสเลือกผู้แทนที่ตรงกับเจตนารมณ์ของตนมากที่สุดเข้าไปเป็นปาก เสียงแทนตนเองได้ นอกจากนี้การเลือกตั้งที่แท้จริงยังต้องคำนึงถึงความบริสุทธิ์ยุติธรรม จะต้องไม่มีการโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้นไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดๆด้วย

ถามว่ามีการโกงเกิดขึ้นอย่างมโหฬารไหมล่ะ  แม้แต่เจ้าหน้าที่เลือกตั้งก็ยังโกงด้วยบัตร กาแล้วล่วงหน้าเป็นปึกๆ

4)  หลักความเสมอภาค  คะแนนเสียงทุกคนจะมีค่าเท่ากับหนึ่งเสียง ไม่ว่าจะยากดีมีจนหรือ มีตำแหน่งระดับใด จะไม่มีใครที่มีอภิสิทธิ์เหนือบุคคลอื่นๆ

ถามว่าบัตรผีมาจากไหน  ผีก็มีเสียงหรือ

5)  หลักการให้สิทธิทั่วถ้วน  การเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตยนั้นจะต้องไม่มีการจำกัดเพศ  ต่างมีความเท่าเทียมกันในสิทธิทางการเมือง และรัฐประชาธิปไตยจะต้องอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มีสิทธิสามารถไปใช้สิทธิของตนเองได้ เช่น จัดให้มีหน่วยเลือกตั้งอย่างทั่วถึงทุกเขต มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้และเข้าใจถึงวัน เวลา หลักเกณฑ์ และวิธีการในการเลือกตั้ง 

ถามว่าที่ผ่านมาล่าสุดนี้ระยะเวลาก่อนการเลือกตั้งมันเพียงพอไหม มันตอบปัญหาคาใจเราหรือยังว่าโกงกินหรือเปล่า  ไม่ตอบสักข้อ  เอาแต่ตะแบงกอดยันต์ประชาธิปไตยแปะกระบาลมันมาตลอด  ประชาธิปไตยในความหมายไหนกัน แน่

ปัจจัยที่เอื้อต่อระบอบประชาธิปไตย
               
ลำพังแล้วระบอบประชาธิปไตยไม่อาจดำรงอยู่ได้ด้วยตัวของมันเอง  หรือด้วยการท่องคาถาว่า  ไปเลือกตั้งๆๆ   จำเป็นต้องมีปัจจัยอื่นๆ ที่จะเป็นตัวคอยให้การสนับสนุนหรือช่วยให้ระบอบนี้ดำรงอยู่ได้อย่างมีเสถียรภาพ  ได้แก่
           
1. ระดับการศึกษาของประชาชน
   
คนส่วนใหญ่ในสังคมต้องได้รับการศึกษาดี มีเหตุผล ติดตามข่าวสารทางการเมือง มีความสนใจทางการเมืองและมีความรู้ความเข้าใจว่าตนเองเป็นสมาชิกคนหนึ่งของสังคม นโยบายใดๆที่สังคมออกมาก็ย่อมที่จะมีผลกระทบต่อเขาโดยตรง 

                ถามว่าแล้วของเราเป็นอย่างไรละ  เอาเงินไปฟาดหัวผ่านโครงการอัปยศ นานาเอื้ออาทรน่ะ  มันก็คือการซื้อเสียงใช่ไหม

2. การพัฒนาเศรษฐกิจ

ประเทศพัฒนานั้นต้องมีระดับของความเสมอภาคทางเศรษฐกิจสูงกว่าประเทศด้วยพัฒนาทั่วไป เพราะเศรษฐกิจที่ดีมั่นคงจะช่วยให้ประชาชนมีโอกาสเข้ามีส่วนร่วมทางการเมืองด้วยความสมัครใจ  ไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการถูกชักจูง  หว่านล้อมด้วยการให้ประโยชน์  ดำเนินการขู่เข็ญใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม
 
ถามว่าเราถึงขั้นนั้นยัง  จีดีพีที่เทิดทูนนักหนามันให้ประโยชน์แก่ใคร  ประชากรส่วนใหญ่ยังยากจนใช่ไหม  ถึงได้เห็นว่ารับเงินทอง  ได้ 30 บาทตายทุกโรค  ได้ OTOP  (One Tambol One Piss-Off)  เข้าไปก็ถือว่าใช่แล้ว  เทวดาทักษิณมาโปรด  แล้วก็จนดักดานเหมือนเดิม พร้อมหนี้ที่พอกพูนขึ้น  พอไม่ไหวก็ยกพวกมาแหกปากที่ทำเนียบที่กระทรวงทีนึง   รมต.แหล  ก็ต้องยกหนี้ให้อีกครั้งนึง  แล้วก็ยกมาใหม่เมื่อจะจมน้ำหนี้ท่วม  วนเวียนอย่างนี้ไม่รู้จบ   เป็นการเพิ่มวงจรอุบาทว์ในการแบกภาระประเทศด้วยภาษีส่วนใหญ่ที่มาจากชนชั้น กลางใช่ไหม           

3. บุคลิกภาพแบบประชาธิปไตย

ลักษณะของบุคลิกภาพเหล่านี้คือความสนใจที่จะมีต่อกิจการบ้านเมือง  มีความกระตือรือร้นที่จะติดตามความเป็นไป  ทำการตรวจสอบการใช้อำนาจที่ประชาชนมอบให้ไปบริหาร
ประเทศผ่านการเลือกตั้งว่าเอาไปใช้ถูกทางไหม  ไม่ใช่เอาไปเพื่อกอบโกยผลประโยชน์  ต้องมีการถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมีเหตุผล ไร้อคติ และที่สำคัญได้แก่ การเข้ามีส่วน ร่วมทางการเมืองโดยถือเสมือนว่าเป็นหน้าที่ที่ตนจะต้องทำ หรือที่ตนจะต้องรับผิดชอบใน ฐานะสมาชิกผู้หนึ่งของสังคม

ถามว่าระบบการตรวจสอบมันทำงานไหม  ทั้งสว.ทาส  ที่มีประธานครูประชาบาลไปเดินกุมไอ้นั่นตัวงอไปเปิดประตูรถให้นายกนั่ง  และยังมีกกต สามหนาห้าห่วง  มี ปปช.ที่โดนฆ่าตัด ตอนจนเกิดไม่ได้  มี สตง.ที่คุณหญิงเป็ดโดนกีดกันทำลาย  ฯลฯ  กระบวนการตรวจสอบมันพิการไปหมดแล้ว   แล้วจะให้ไปอาศัยใครที่ไหนนอกจากต้องออกมาทำหน้าที่ทางตรงด้วยตนเองผ่านการชุมนุมเรียกร้อง
               
4. เสถียรภาพของสถาบันทางการเมือง

เมื่อสถาบันหรือองค์กรทางการเมืองและองค์กรอิสระเป็นที่ยอมรับของประชาชน ประชาชนก็จะมีความศรัทธา

ถามว่าศรัทธาไหม  คนยอมรับไหม  ผลการเลือกตั้งใน สก  สข  กทม มันออกมาเป็นไงละ  และผลการเลือกตั้ง เดือนเมษามีคนมากมายขนาดไม่ยอมกาเลือกเพราะอะไร  พรรค การเมืองอื่นไม่ยอมลงเลือกตั้งเพราะอะไร  ขนาดในหลวงยังต้องให้แก้ไข  ยังไม่สำนึกในกระบาลกันอีกหรือ  เอะอะไรก็อ้างพ่อให้อย่าทะเลาะกัน  ไอ้บ้าเอ๊ย

5. พัฒนาการทางการปกครองและการบริหาร

ต้องมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน นโยบายของรัฐบาลตรงตามเจตนารมณ์และมีผลดีต่อประชาชน คือ ประชาชนได้มีโอกาส ได้มีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากการดำเนินงาน ไม่ใช่เป็นโครงการเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองและพวกพ้อง  ประชาชนต้องมีความอยู่รอดปลอดภัยได้รับการคุ้มครองในชีวิตและทรัพย์สินไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายรัฐบาลหรือไม่

ถามว่าโครงการต่างๆที่ผุดขึ้นมาจนจำไม่ไหวแล้ว  มีโครงการใดที่ไม่โกงกันมโหฬารบ้าง  รัฐตำรวจเกิดมาในยุดไหน  ภาคใต้ลุกเป็นไฟเพราะใคร  คนถูกอุ้มฆ่าเป็นพันพันคน  ทนายสมชายหายไปนาน  นาย กโผล่หัวกระบาลออกมาบอกว่าโดนฆ่าไปแล้ว  รู้ได้ยังไง  หากรู้แล้ว ก็ต้องรู้ว่าศพอยู่ที่ไหน  หรือว่าเรามีนาย ก ปากพล่อย   อัปรีย์จริงๆที่เรามีตำรวจที่ยังจับแพะไปช็อตไข่  ละเลยผู้โดนข่มเหงกระทืบต่อหน้าต่อตา  แล้วยังเสือกไปตั้งข้อหาคนโดนกระทืบว่าส่งเสียง เอะอะ  ไอ้บ้า

คุณค่าของประชาธิปไตยต่อบุคคล

บุคคลมีเสรีภาพและเท่าเทียมในศักดิ์ศรีและความเป็นคน  การที่คนจะมีเสรีภาพได้อย่างแท้จริง หมายความว่า คนจะต้องไม่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อื่น เพราะประชาธิปไตยเป็นรูปแบบของการปกครองที่ยึดถือว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน และประชาชนเป็นผู้ปกครองเอง การที่ประชาชนจะปกครองตนเองได้จะต้องมีเสรีภาพอย่างแท้จริงประชาธิปไตยยอมรับในคุณค่าของบุคคล โดยให้เสรีภาพทางการเมืองและเสรีภาพในการพูด เขียน  และวิพากษ์วิจารณ์ด้วย  การวิพากษ์วิจารณ์นี้หมายรวมถึง การที่รัฐเปิดช่องทางให้ประชาชนได้แสดงออกซึ่งความคิดเห็นในด้านต่างๆต่อนโยบาย ตลอดจนการดำเนินงานของรัฐเป็นตัวควบคุมหรือตัวกระตุ้นอย่างหนึ่งที่จะทำให้การดำเนินงานได้ทำไปเพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวมจริงๆ มากกว่าที่จะการะทำเพื่อผลประโยชน์คนบางคนบางกลุ่ม
ถามว่าสื่อเสรีจริงไหม  3  5  7  9   ITV  ที่เป็นสื่อรัฐ  มันเสนอข่าว 2 ด้านด้วยความเป็นธรรมไหม  ไม่ต้องลากไปถามว่าผู้จัดการ  ไทยโพสท์  มติชน  กรุงเทพธุรกิจ  เนชั่น  ทำไมเสนอข่าวโจมตีรัฐอย่างเดียว พวกดับเบิ้ลสแตนดาร์ด

นี่แหละหลักการประชาธิปไตยที่แท้จริง  ไม่ใช่แค่ที่พวกคุณท่องมาโพสท์หรอกว่า  ไปเลือกตั้งๆๆๆๆ 

ทีนี้พอจะเข้าใจมาบ้างรึยัง ไม่ใช่ไปเชื่อไอเกรียนหัวกรากพูดว่ากติกาๆ หรือเลือกตั้งลูกเดียว หัดดูอะไรหลายๆด้านบ้างนะ

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ  :mrgreen:

ในเว็ปweekendcorner พิเภกยังนำขบวนเพ้อถึงการเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค. อยู่เลยอ่ะ   :lol:

ข้อความโดย: hidden dragon
ในเว็ปweekendcorner พิเภกยังนำขบวนเพ้อถึงการเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค. อยู่เลยอ่ะ   

ล้าสมัยมากเลยนะครับเนี่ย เค้าไปถึงไหนกันแล้วเภกยังอยู่โลกพระจันทร์อยู่เลย ปิดกั้นตัวเองจากสื่อก็แบบนี้แหละถึงตามอะไรไม่ทัน  :lol:

ก็พี่แกเล่นไม่อ่านหนังสือพิมพ์ แล้วจะรู้เรื่องรู้ราวไหมนี่

ส่วนประชาธิปไตยคืออะไร อันนี้คงต้องใช้การรณรงค์และให้การศึกษาครับ
ที่ผ่านมาก่อนหน้ายุคทักษิณ ทุกภาคส่วนพยายามรณรงค์ให้เกิดการตรวจสอบที่เข้มแข็ง
พยายามให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปกครอง
พยายามทำให้การบริหารส่วนท้องถิ่นเกิดขึ้น เพื่อสลัดการยึดโยงกับอำนาจส่วนกลาง

แต่ความพยายามทั้งหลายเหล่านั้น กลับถูกบั่นทอนโดยคนที่เชียร์โดยไม่ลืมหูลืมตา
ประชาธิปไตยที่กินความหมายกว้างขวาง กลับไม่ได้รับการยอมรับจากบุคคลที่เชียร์ทักษิณเหล่านั้น
เขาพยายามจำกัดคำว่า "ประชาธิปไตย" ให้เหลือแค่ "การกาบัตรเลือกตั้ง"
ทั้งที่เรารณรงค์กันมาเป็นสิบๆ ปี ว่าอย่าให้ประชาธิปไตยจบลงแค่ในคูหาเลือกตั้ง
แต่คนเหล่านี้บอกว่า ต้องจบ ต้องพอแค่นั้น  :?:

ผมไม่เข้าใจว่าคนเหล่านี้เขากำลังทำอะไร ที่เขากล่าวหาว่าไม่อยากให้ประชาธิปไตยถอยหลัง
แน่ในหรือว่าเขาไม่ได้กำลังนำพาประชาธิปไตยของไทยไปสู่ประชาธิปไตยยุคหินดึกดำบรรพ์
ที่ผู้คนยังไม่รู้จักอะไรเลย นอกจากการเข้าไปกาบัตรเลือกตั้ง  :?:

โหวตครับ