ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: soco ที่ 17-09-2006, 17:20



หัวข้อ: เบ็ดเสร็จสิ้นท่า ทัศนวิสัยปิด
เริ่มหัวข้อโดย: soco ที่ 17-09-2006, 17:20
“เว้นวรรคการเมือง”

คำคำนี้กำลังเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดจากัน กระหึ่มไปทั่วทุกวงสนทนาทางการเมือง ทุกสภากาแฟ

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรักษาการ หัวหน้าพรรคไทยรักไทย จะเว้นวรรคการเมืองหรือไม่

หรือจะเดินหน้าลุย กลับเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย หลังการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น

“เว้นวรรค” หรือ “ไม่เว้นวรรค”

บรรดาคอการเมืองถกเถียงกันหน้าดำคร่ำเครียด หลายคนหาจุดลงตัวกันไม่ได้ถึงขนาดออกปากท้าพนัน วางเดิมพันกันเลยก็มี

ทั้งนี้ เมื่อเปิดพจนานุกรมดูความหมายคำว่า “เว้นวรรค”

พบว่า เป็นการรวมคำ 2 คำเข้าด้วยกัน คือ

คำว่า “เว้น” กับคำว่า “วรรค”

“เว้น” หมายความว่า แยกเอาออก ไม่ให้พัวพันกันอยู่กับสิ่งซึ่งพึงกระทำหรือไม่พึงกระทำ

“วรรค” หมายความว่า ตอน หมวด ช่วงหนึ่งของคำหรือข้อความที่สุดลงแล้ว เว้นเป็นช่องว่างไว้ระยะหนึ่ง

ดังนั้น การเว้นวรรคทางการเมืองโดยความหมาย ก็คือ การหยุดพักทางการเมืองชั่วคราว ซึ่งอาจจะหมายถึง

การไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือการไม่ขอรับตำแหน่งทางการเมืองชั่วคราว

สำหรับประเด็นเรื่องการเว้นวรรคทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ


เริ่มมาจากการที่โดนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาชุมนุมต่อต้านเรื่องปัญหาการทุจริตคอรัปชันและการขายหุ้นในเครือชินคอร์ป

จนนายกฯทักษิณต้องประกาศยุบสภาจัดเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 เมษายน

แต่ปรากฏว่า อดีตพรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน จับมือบอยคอต

ไม่ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง

ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องออกมาลดกระแสต่อต้านโดยประกาศต่อสาธารณชนว่า

จะเว้นวรรคการเมือง ไม่ขอรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง

แต่ปรากฏว่าได้เกิดปัญหาในการจัดการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน และการจัดการเลือกตั้งใหม่ในเขตที่มีผู้สมัครคนเดียวและได้คะแนนเสียงไม่ถึงเกณฑ์ 20 เปอร์เซ็นต์

โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดที่แล้ว ที่มี พล.ต.อ. วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน ได้จัดคูหาลงคะแนนเลือกตั้งโดยหันหลังไปทางหน้าหน่วยเลือกตั้ง

รวมทั้งสั่งให้มีการเปิดรับสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งซ้ำทางภาคใต้ แบบเวียนเทียน อนุญาตให้ผู้สมัครย้ายเขตไปลงสมัครในเขตอื่นได้

เป็นเหตุให้มีการร้องเรียนว่า การเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

และในที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดสั่งให้การเลือกตั้ง 2 เมษายน เป็นโมฆะ


จากจุดนี้ ทำให้เกิดความพลิกผันในเรื่องการประกาศเว้นวรรคทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ

โดยบรรดาแกนนำในพรรคไทยรักไทยต่างออกมาอ้างว่า เมื่อการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ต้องมีการเลือกกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ มีการเลือกตั้งรอบใหม่ การประกาศเว้นวรรคของนายกฯทักษิณ ก็ถือเป็นโมฆะเช่นกัน

ทำให้เกิดความอึมครึมว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเว้นวรรคการเมือง ไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งรอบใหม่หรือไม่

แม้ในช่วงหลังจะมีกระแสข่าวออกมาจากแกนนำพรรคไทยรักไทยถี่กระชั้นมากขึ้นว่า พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะตัดสินใจเว้นวรรค

ไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

แต่คำตอบที่ออกจากปากของ “ทักษิณ” ก็ยังยึกยัก เหมือนคนบ้าจี้

ไม่มีอะไรที่ชัดเจน

ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์บนเครื่องบิน ระหว่างเดินทางจากกรุงลอนดอนไปประเทศคิวบา เพื่อร่วมประชุมกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ก็บอกเพียงว่า

อาจจะเว้นวรรคทางการเมืองเพราะสังคมไทยและสื่อมวลชนไทยขี้เบื่อ

และเมื่อถูกซักว่า การตัดสินใจเว้นวรรคการเมืองจะทำก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ตอบแค่ว่า

อย่างน้อยที่สุดในวันยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ก็ต้องมีความชัดเจน

ใครอยากรู้คำตอบ ก็ต้องติดตามกันต่อไป

สำหรับ “ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ” ได้เกาะติดสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด

เราจะไม่ขอชี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเว้นวรรค หรือไม่ เว้นวรรค

เพราะถือว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของนายกฯทักษิณที่จะตัดสินใจในเรื่องอนาคตของตัวเอง

ไม่เกี่ยวกับเรา

แต่ที่แน่ๆ เมื่อสถานการณ์การเมืองและสภาพแวดล้อมทางสังคมเดินมาถึงจุดนี้ เราขอฟันธงว่า

พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาเป็นนายกฯไม่ได้อีกแล้ว

ถึงแม้พรรคไทยรักไทยจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งรอบใหม่ ได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

ซึ่งตามกติกามีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี

มีสิทธิตั้งรัฐบาล

แต่จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและดำเนินมาจนถึงขณะนี้ หากพรรคไทยรักไทยผลักดัน พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นนั่งเก้าอี้ผู้นำรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง

ก็คงไม่สามารถที่จะบริหารปกครองประเทศได้

การที่ทีมของเราฟันธงอย่างนี้ ไม่ใช่เพราะมอง พ.ต.ท.ทักษิณ ในแง่เลวร้าย

ทั้งนี้ จากสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ต้อง ยอมรับว่า


ในช่วง 5-6 ปี ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคไทยรักไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ

ได้สร้างผลงานต่างๆที่เป็นรูปธรรม ทำสิ่งดีๆเอาไว้ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การปราบปรามยาเสพติด โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค

ชาวบ้านส่วนใหญ่ให้การยอมรับ ชื่นชอบนโยบาย

แต่สิ่งที่ทำให้ “ทักษิณ” และรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ต้องเผชิญกับสภาวะขาลงและเกิดวิกฤติศรัทธาอย่างรุนแรง

ก็เพราะมีพฤติกรรมทุจริตคอรัปชันเกิดขึ้นอย่างมากมาย รวมทั้งพฤติกรรมใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ ธุรกิจครอบครัว วงศาคณาญาติ เครือข่ายคนในรัฐบาล

สะสมมาจนถึงกรณีการขายหุ้นในเครือชินคอร์ป 73,000 ล้านบาท ทำให้ถูกมองว่าขาดความชอบธรรมและจริยธรรมในการเป็นผู้นำ

สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้คนในสังคมรับไม่ได้

กระแสต่อต้านระบอบทักษิณขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ

แต่ในขณะเดียวกัน ชาวบ้านรากหญ้าที่ชื่นชอบนโยบายประชานิยม ก็ยังหนุนอยากให้ “ทักษิณ” เป็นนายกฯต่อไป

เกิดการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายสนับสนุนกับฝ่ายต่อต้าน บานไปทั่วประเทศ

ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้

ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้ามาเป็นนายกฯอีก ก็เท่ากับเป็นการเร่งปฏิกิริยาให้เกิดความแตกแยกอย่างรุนแรงในสังคม

ประชาชนแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เหมือนประเทศโดนแบ่งเป็น 2 ซีก

ล่อแหลมเกิดจลาจล

ขณะเดียวกัน แม้ตามกติกา ถ้าพรรคไทยรักไทยได้เสียงข้างมากในสภาฯ และจะผลักดันให้ พ.ต.ท.ทักษิณขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาล

พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะต้องตอบคำถามให้ได้ว่า จะสามารถบริหาร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดความสงบสุขได้หรือไม่

และถ้าลงไปตรวจราชการในพื้นที่ชายแดนภาคใต้จะมีปัญหารึเปล่า

เพราะทุกวันนี้ ต้องยอมรับว่า ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ กลายเป็นปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ของผู้นำที่ชื่อ “ทักษิณ” ไปแล้ว

นี่ยังไม่รวมถึงปัญหาที่เป็นผลพวงจากแผน “คาร์บอมบ์”

ลอบสังหารผู้นำรัฐบาล

ที่ส่งผลให้ต้องมีการเพิ่มกำลังอารักขา พ.ต.ท. ทักษิณ อย่างเข้มงวด มีกำลังทหารตำรวจ หน่วย รปภ.

คอยล้อมหน้าล้อมหลัง

ป้องกันภัยกันยิ่งกว่าไข่ในหิน

ไปไหนมาไหนแบบปกติธรรมดาไม่ได้ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย

ถ้าตกอยู่สภาพอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็เดาไม่ออกเหมือนกันว่านายกฯทักษิณจะทำงานได้อย่างไร

ที่สำคัญ ต้องยอมรับว่า ปัญหาต่างๆเหล่านี้ เป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยผลการเลือกตั้ง

ถึงแม้มีความพยายามลึกๆที่จะใช้ผลการเลือกตั้งเป็นเครื่องฟอกตัว เพื่อกลับเข้าสู่วงจรอำนาจ

แต่ถ้าไปถึงจุดนั้นจริงๆ ก็จะต้องถูกสังคมเพ่งเล็งว่ามีการใช้อำนาจเงิน อำนาจรัฐ เพื่อความได้เปรียบในการเลือกตั้ง

ถ้าไม่ถูก กกต.เล่นงาน ก็ต้องโดนต่อต้านอย่างหนัก

จากสภาพการณ์ทั้งหมดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้

ทีมของเราขอชี้ว่า เป็นเพราะทัศนวิสัยในการขึ้นนำทางการเมืองมันปิด

เหนืออื่นใด สถานการณ์มาถึงวันนี้ มันเลยขั้นตอนของการเว้นวรรคการเมืองไปแล้ว

เพราะการเว้นวรรคไม่ได้แก้ปัญหาชาติ

แต่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะตัว “ทักษิณ” และ “ไทยรักไทย” เท่านั้น.

"ทีมการเมือง" (http://www.thairath.co.th/news.php?section=politics&content=19926)



หัวข้อ: Re: เบ็ดเสร็จสิ้นท่า ทัศนวิสัยปิด
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 17-09-2006, 19:29
ตอนนี้มันก็ทำท่าจะหนีอยู่แล้วครับ จะเถียงทำไมกันเรื่องเว้นเวรรคหรือไม่เว้น


หัวข้อ: Re: เบ็ดเสร็จสิ้นท่า ทัศนวิสัยปิด
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 17-09-2006, 19:33
เว้นวรรค แค่เกมส์การข่าวเกมส์หนึ่งเท่านั้นค่ะ

ปัญหาหนักอกเวลานี้

1. จะได้กลับมาได้หรือเปล่า พันธมิตรรอไล่อยู่
2. ไปแหย่ทหารจนบางกลุ่มเขากำลังจะทำให้ดูจริงๆแล้วใช่ไหม
3. พรรคโดนยุบแน่นอน รู้ข่าวแล้วใช่ไหม
4. ศาลรับฟ้องคดีให้การเท็จแน่นอน และยังไม่แน่ใจว่าจะได้ประกันตัวไหม

เบาะๆสี่เรื่อง เตรียมขนกระเป๋าอีก 100 ใบได้เลย


หัวข้อ: Re: เบ็ดเสร็จสิ้นท่า ทัศนวิสัยปิด
เริ่มหัวข้อโดย: นู๋เจ๋ง ที่ 17-09-2006, 21:51

ศุลการกรใครเป็นคนตรวจผ่านไอ้สิ่งของที่ขนๆน่ะ ..ตรวจละเอียดป่าว ขนของต้องห้ามอะไรไปมั่งป่าวเพ่??

ที่แน่ๆ มีคนพยายามวิ่งเต้นหาเส้นสาย หาข่าวภายใน จนชัดเจนว่าพรรคโนยุบแน่ก็ต้องเว้นวรรคไปโดยปริยาย
อีกทั้งคดีเก่า ก็โดนแน่....
ไหนจะเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีก จะอยู่ให้นอนคุกทำไมล๊ะ
โดนเห็นๆ เผ่นดีก่า!!!


หัวข้อ: Re: เบ็ดเสร็จสิ้นท่า ทัศนวิสัยปิด
เริ่มหัวข้อโดย: soco ที่ 17-09-2006, 21:58
(http://pics.manager.co.th/Images/549000013677802.JPEG)


ตามล่าขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า

ใครอยู่ที่ไหนทำอะไร เราจะตามล่าไปหาให้เจอ



นึกว่ารอดเร๊อะ  :mrgreen:


หัวข้อ: Re: เบ็ดเสร็จสิ้นท่า ทัศนวิสัยปิด
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 17-09-2006, 22:03
ไปอ่านข่าวนี้ในเมเนเจ้อแล้ว เห็นว่ามีการตั้งกลุ่มหนุนมาด้วยนี่ครับ กลัวแม้วเสียหน้า 555 :mrgreen:


หัวข้อ: Re: เบ็ดเสร็จสิ้นท่า ทัศนวิสัยปิด
เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 17-09-2006, 22:04
แสดงว่าที่ก่นด่ามาสี่ห้าปีนี่ไม่สูญเปล่าจริงๆ

งั้นต้องตั้งหน้าตั้งตาด่าต่อจนกว่ามันจะเข้าคุก
   :mrgreen: :lol: :mrgreen:


หัวข้อ: Re: เบ็ดเสร็จสิ้นท่า ทัศนวิสัยปิด
เริ่มหัวข้อโดย: soco ที่ 17-09-2006, 22:33
ทัศนวิสัยปิด

ไม่กล้ากลับประเทศ

เร่ร่อนไปเรื่อย

น่าเห็นใจ

แต่ต้องยอมรับ กฎ กรรมใดใครก่อ กรรมย่อมสนองต่อผู้ที่กระทำกรรมนั้น รวมทั้งวงค์วานว่านเครือ

อย่านึกว่า

ขโมยเค้ามาแล้ว จะอยู่เย็นเป็นสุข  :mozilla_cool:


หัวข้อ: Re: เบ็ดเสร็จสิ้นท่า ทัศนวิสัยปิด
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 17-09-2006, 22:41
คอยดูวิเคราะห์การเมืองไทยรัฐ วันจันทร์

จะทำเป็นวิเคราะห์ไม่เป็นหลับหูหลับตาเชียร์อีกรึเปล่า :twisted: