ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

โปรดสังเกตดูพฤติกรรมความเคลื่อนไหวของกลุ่มก๊วนสมุนลิ่วล้อทรราชย์นอกรีต

พวกมันพยายามที่จะโจมตี ดิสเครดิต ธุรกิจที่เป็นเครือข่ายสำนักงานทรัพย์สินฯ อย่างต่อเนื่อง

เป้าประสงค์ของพวกมันคืออะไร ?

เป็นที่รับรู้กันดีว่า กลุ่ม Shin Corp. มีสนง.ทรัพย์สินฯ ร่วมถือหุ้นด้วยทางอ้อม
หรือ มีการส่งคนใน ใกล้ชิด อย่าง ชุมพล ณ ลำเลียง เข้าไปเป็นประธานสิงเทล
ดูได้ไม่ยากว่า สนง.ทรัพย์สินฯ เป็นพันธมิตร กับ กลุ่มเทมาเสก ของสิงคโปร์ (ไปหาบทความอ่านดู)

นี่แสดงว่า มีความพยายามที่จะ ดิสเครดิต หวังกระทบไปถึง สนง.ทรัพย์สิน ทางอ้อม
เช่นการกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีว่า สิงคโปร์จะเข้ามายึดครองธุรกิจในประเทศไทย

อยากทราบว่าใครเป็นคนบงการ อยู่เบื้องหลัง สิ่งเหล่านี้  :?:

 หึ หึ มั่วไปเรื่อยแหละ พวกลิ่วล้อไอ้กบฎผีบุญหน้าเหลี่ยมเอ๋ย  เมื่อไหร่พวกมึงจะรู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำกันสักที

ไม่กลัวนรกจะกินกบาลกันมั่งหรือไงฟะ

(http://www.mooseyscountrygarden.com/cat-dog-pictures/sleeping-dog.jpg)
(http://www.animalfriendsrescue.org/images/animals/dog_lady.jpg)


น่ารักดี ใครมีภาพน้องหมาน่ารักๆมาแลกเปลี่ยนเอามาโชว์กันเยอะๆนะครับ


ขออนุญาติใช้เนื้อที่นะครับ

ก้ากกๆๆๆ

กระทู้นี้แสดงความไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงของคิลเลอร์อย่างชัดเจน ในความพยายามลากพระราชวงศ์และพระมหากษัตริย์มาพัวพันกับธุรกิจของทักษิณ เพื่อใช้เป็นเกราะกำบังให้นายของตนเอง นับเป็นการกระทำที่ต่ำช้าอย่างสุดแสน และไม่มีคนไทยคนใดจะยอมให้คิลเลอร์กระทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้ได้

โดยเฉพาะการกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวพันกับเทมาเส็ก ซึ่งเป็นปัญหาการดำเนินธรุกิจสกปรกกับทักษิณอยู่ แสดงให้เห็นถึงความพยายามดึงฟ้าต่ำของคิดลเลอร์ ซึ่งไม่ทราบว่าได้รับคำสั่งมาจากลิ่วล้อของทักษิณสายไหน แต่นับว่าน่าอนาถที่มีคนไทยบางคน คิดทุรยศต่อสถาบันอันเป็นที่เคารพได้เช่นนี้

คิลเลอร์ ไปตายซะ เผื่อจะชดใช้ความผิดให้ตระกูลของตนที่ยังเหลืออยู่ได้บ้าง คุณหมดความเป็นคนไทยไปนานแล้ว แต่บัดนี้หมดความเป็นมนุษย์เข้าไปอีกด้วย

ใครที่ผ่านมาอ่านกระทู้จาบจ้วงของคิลเลอร์นี้น โปรดอโหสิให้ด้วยนะคะ  คงมีคนสั่งสอนแล้วแต่เขาไม่จำค่ะ

รู้น้อยก็จงหุบปากเร่งหาข้อมูล ใส่กระบาลมาตอบกระทู้....

ไม่ใช่นั่งอ่านข่าวพาดหัว นสพ.เล่มละ 8 บาท ดูเคเบิ้ลเป่ากระหม่อม

เก็บตกขี้ปากกะทิ มาเป็นอารมณ์


สนง.ทรัพย์สิน อยู่ภายใต้การดูแล ของกระทรวงการคลัง

ประธานบอร์ดเป็นใครก็ไปค้นหาดูกันเอาเอง....

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (Crown Property Bureau)

เป็นองค์กรนิติบุคคล ดูแลและจัดประโยชน์เกี่ยวกับทรัพย์สินพระมหากษัตริย์และคำนึงถึงประสิทธิภาพในการบริหาร และดูแลผู้เช่า ตั้งอยู่ที่ 173 ถนนราชสีมา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จัดตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช 2479 และยกฐานะขึ้นเป็นนิติบุคคล เมื่อ พ.ศ. 2491 กำหนดให้มีคณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการโดยตำแหน่ง และกรรมการอื่นอีก ไม่น้อยกว่า 4 คน ซึ่งพระมหากษัตริย์จะได้ทรงแต่งตั้ง และในจำนวนนี้ จะได้ทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์หนึ่งคน

ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ คนปัจจุบันคือ นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา

www.crownproperty.or.th
http://sunsite.au.ac.th/thailand/thai_gov/Agencies/k_prop.htm

เท่าที่หามาได้
ก็ไม่เห็นว่า จะไปพุ่งเป้าอะไรที่ไหน ความสัมพันธ์บริษัทข้างล่าง ก็ค่อนข้างเปิดเผย

--------------------------------------------------------------------------------------------

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

SCC : บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
ลำดับ 1 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จำนวนหุ้น (หุ้น) 360,000,000 % หุ้น 30.00

DVS : บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน)
ลำดับ 1 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จำนวนหุ้น (หุ้น) 10,401,846 % หุ้น 86.68

SCB : ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ลำดับ 2 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จำนวนหุ้น (หุ้น) 100,265,685 % หุ้น 5.30

บริษัททุนลดาวัลย์

SCC : บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
ลำดับ 6 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด จำนวนหุ้น (หุ้น) 23,202,000 % หุ้น 1.93

SCB : ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ลำดับ 4 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด จำนวนหุ้น (หุ้น) 82,010,000 % หุ้น 4.34

TPC : บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน)
ลำดับ 2 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด จำนวนหุ้น (หุ้น) 183,281,250 % หุ้น 20.95

บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

TPC : บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน)
ลำดับ 1 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) จำนวนหุ้น (หุ้น) 389,490,220 % หุ้น 44.51

PTTCH : บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน)
ลำดับ 2 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) จำนวนหุ้น (หุ้น) 227,218,767 % หุ้น 20.09

อ้าว ยังมาแรดอยู่ในนี้หรอกเรอะ งานคอห่านนรก ที่ union mall  วันนี้ไม่กระดิกไปล่ะ?  แล้วแดะมาเชิญ...
 :mozilla_laughing: :mozilla_laughing: :mozilla_laughing:

 :mrgreen: :twisted: :mrgreen:

ชุมพล ไปจาก "ปูนใหญ่" ซึ่งก็คือทรัพย์สินฯ แต่จริง ๆ หมอนี่เป็นลิ่วล้อสิงคโปโตกมานานแล้วครับ

ไปส่วนตัว...ไม่เกี่ยวกับองค์กร อย่าไปโยงให้เมื่อยเลย...ไทยพานิชย์ จริง ๆ ก็คือทรัพย์สิน แต่ตอนหลังก็มีหุ้นอีกเยอะแยะ

ตอนหน้าเหลี่ยมซื้อไอทีวี ก็มาสายไทยพานิชย์นี่แหละ...จริง ๆ คือตอนนี้ เงินทองของหน้าเหลี่ยมมีคำสั่งลับ...บล็อค...อิ อิ

killer แม่มมั่วแล้วว่ะ   ไม่รู้จะเอาอะไรมาเล่นแวบไปหาเบื้องสูงอีกแล้วอ้ายเปรต

สำนักงานทรัพย์สินมีวิธีการบริหารงานอย่างไร :?: ใครเป็นผู้ตัดสินใจลงทุนในกิจการต่างๆ :?: รู้บ้างหรือเปล่าครับคิลเล่อร์ :?:

น้าคิลงัดมุกนี้มาเล่น ทำให้ผมนึกถึงทัชภูมิขึ้นมาตะหงิด ๆ 

อาการขั้นสุดท้าย ทะลึ่งพรวดสุดตัว มือไขว่คว้า จมูกและปากพยายามสูดอากาศให้เข้าปอด กายสั่นเทิ้ม จากนั้น สงบ.....  :mrgreen:

มีเวลาไหนที่เขาไม่มั่วบ้างล่ะ

วาระสุดท้ายของคิลเลอร์คงไม่ต่างจากTRATหรือมดชมพูเท่าใดนัก สมควรตายเยี่ยงกบฏ

สำหรับมดชมพู ขาดความยั้งคิดมากๆ

หมอนี่น่าผิดปกติทางจิต

คุณคิล สนง.ทรัพย์สิน บอบช้ำจากวิกฤตเศรษฐกิจไม้แพ้องค์กรธุรกิจใดในประเทศไทย

และอาจมากด้วยซ้ำ

ถึงทุกท่าน  โปรดแยก สนง.ทรัพย์สิน ออกจากพระมหากษัตริย์

และกรุณาอย่าโยง

พี่คิลฯ คงไม่รู้ว่าหลังจากงานนี้ คนชื่อชุมพลแทบไม่มองหน้าคนชื่อวิชิต
ทั้งๆเคยรักกันดูดดื่ม....คอยดูหมาหัวเน่าตัวใหม่ชื่อ วิชิตให้ดีๆนะจ๊ะ..

ขออย่าได้เข้าใจวัตถุประสงค์ของสำนักงานทรัพย์สินผิด
สนง.ทรัพย์สินมีผู้อำนวยการคนปัจจุบันชื่อ ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา
ประธานคณะกรรมการโดยตำแหน่งคือ นายทนง พิทยะ ในฐานะ รมต.คลัง
ในช่วงก่อนหน้าวิกฤตการณ์ทางการเงิน บางบริษัทฯหลักของสนง.ทรัพย์สิน
ขยายธุรกิจผิดพลาดทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อบริษัทฯ เหล่านั้น
หลังจากช่วงปี 2540 ถ้าดูบทบาทและการทำงานแล้วพอจะมองออกว่าวัตถุ
ประสงค์ของสำนักงานทรัพย์สิน คือ รักษาธุรกิจขนาดใหญ่ที่ก่อตั้งแต่เดิม
ให้ยังคงเป็นของสนง.ทรัพย์สิน ซึ่งก็จะเป็นธุรกิจที่มีการถือหุ้นใหญ่เป็นของ
คนไทย น่าจะเป็นการคานอำนาจทุนต่างประเทศซึ่งมาลงทุนในธุรกิจประเภท
เดียวกัน แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ว่าสนง.ทรัพย์สินเอาเงินที่ไหนและใช้วิธีไหนในการ
กอบกู้ธุรกิจเดิมกลับมา มันก็ซับซ้อนไม่มากครับแต่น่าจะมีกระทรวงการคลัง
ร่วมมือด้วย ควรจะมองวัตถุประสงค์เป็นหลักมากกว่า คิดว่าทุกฝ่ายที่รับรู้ใน
การทำงานของสนง.ทรัพย์สินคงจะมองออกว่าการใช้เงินทุนจากต่างประเทศ
มาพัฒนาประเทศมากไปก็ไม่ดี จึงต้องช่วยกันทำให้ธุรกิจเหล่านี้กลับมาเป็น
ของสนง.ทรัพย์สินครับ รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ที่ควรจะเป็นของไทย ถ้าไม่มีกลุ่ม
ทุนอื่นใดของไทยมีกำลังจะซื้อ สนง.ทรัพย์สินก็ยังเป็นความหวังของคนไทย
ครับ

ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ทรัพย์สินใช้วิธีขายบริษัทที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักให้ต่างชาติ (เพราะในชาติไม่มีใครมีตังค์มั๊ง)  :lol:

ขายธุรกิจไหน? ให้ใคร?
เห็นมีแต่ตัดธุรกิจย่อยของธุรกิจหลักขาย

เขียนตกไป บริษัทในเครือทรัพย์สิน   คงไม่ต้องบอกว่าบริษัทไหน

ขายไปก็ไม่เห็นจะผิดตรงไหน ธุรกิจหลักก็ยังอยู่ แถมเจริญรุ่งเรือง