ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: นทร์ ที่ 15-09-2006, 16:19



หัวข้อ: สาเหตุ 5 ประการของ การปฏิวัติรัฐประหาร
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 15-09-2006, 16:19
 1. รัฐบาลพลเรือนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการของฝ่ายทหารมากเกินไป สภาผู้แทนราษฎรจุกจิกคอยจับผิดทหารหรือตัดงบประมาณของทหารเกินความจำเป็น รัฐบาลพลเรือนหรือฝ่ายการเมืองพยายามที่จะกดทหารลงไปเหมือนเป็นผู้รับใช้ ในขณะที่ฝ่ายทหารเองบางครั้งบางคราวไม่ยอมรับอำนาจฝ่ายการเมืองด้วยเหตุผลบางประการ เช่นตัวบุคคล และการบริหารงานของรัฐบาลที่มุ่งรักษาผลประโยชน์พวกตนมากกว่าของประเทศชาติ

 2. ความพยายามของฝ่ายการเมืองในการเข้าไปแบ่งกลุ่มแบ่งพวกทหารด้วยวิธีการหลายอย่าง  เช่นแอบสนับสนุนนายทหารบางคน ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันผลประโยชน์ที่ได้มาจากการประกอบธุรกิจ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆโดยไม่คำนึงถึงระเบียบแบบแผนที่เคยปฏิบัติ ทำให้ทหารแตกกันเป็นกลุ่ม เป็นการแยกดุลอำนาจของทหารในกองทัพเพื่อให้เป็นที่วางใจได้ว่าทหารจะไม่สามารถทำการปฏิวัติรัฐประหารได้

 3. ความขัดแย้งกันเองระหว่างฝ่ายทหารด้วยกัน  ไม่ว่าจะเกิดจากความทะเยอทะยานส่วนตัว ความขมขื่นส่วนตัว หรือขัดแย้งกันด้วยผลประโยชน์บางอย่างของกลุ่มตน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆในกองทัพ ที่โยกย้ายคนของตนไปดำรงตำแหน่ง และโยกย้ายคนที่ไม่ใช่กลุ่มหรือพวกตนไปอยู่ในตำแหน่งอื่นที่ไม่สำคัญ

 4. เกียรติภูมิและบทบาทของทหารถูกละเมิด หรือไม่ก็ตกต่ำเนื่องจากการลบหลู่ดูถูก หยามเกียรติ  ถูกกล่าวหาว่าเป็นเผด็จการหรือทุจริตคอรัปชั่น

 5. การปฏิวัติรัฐประหารหลายครั้งที่ผ่านมานั้น เกิดเพราะ ทหารไม่มีความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลพลเรือนที่บริหารประเทศอยู่ในขณะนั้นจะสามารถนำพาประเทศชาติไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจสังคม ความสงบเรียบร้อยภายในหรือปัญหาที่เกิดจากการทุจริตแสวงหาผลประโยชน์โดยไม่ชอบธรรมของนักการเมืองและพรรคการเมืองที่มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้

 ทั้ง 5 ประการ เป็นที่มาของการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วในบ้านของเราในอดีต  หยิบยกมาให้ได้เห็นกันเป็นอุทาหรณ์

http://www.naewna.com/news.asp?ID=25891

(http://www.komchadluek.net/2006/09/15/images/1501_copy5.jpg)
http://www.komchadluek.net/


หัวข้อ: Re: สาเหตุ 5 ประการของ การปฏิวัติรัฐประหาร
เริ่มหัวข้อโดย: คนในวงการ ที่ 15-09-2006, 16:22
สำหรับปัจจุบัน เหลืออยู่แค่สองข้อหนะคุณนทร์

1. รัฐประหารเพื่อพิทักษ์เหลี่ยม
2. รัฐประหารเพื่อไล่เหลี่ยม


555


หัวข้อ: Re: สาเหตุ 5 ประการของ การปฏิวัติรัฐประหาร
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 15-09-2006, 16:28
สำหรับปัจจุบัน เหลืออยู่แค่สองข้อหนะคุณนทร์

1. รัฐประหารเพื่อพิทักษ์เหลี่ยม
2. รัฐประหารเพื่อไล่เหลี่ยม


555

ประชาชนมองหน้ากันครับตอนนี้

เพราะไม่รู้ทหารฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน

เกิดมีอะไรขึ้นมา ไม่รู้จะวิ่งไปมุมไหน

การเตรียมกำลังทุกฝ่ายตอนนี้ประชาชนกำลังมึน..


หัวข้อ: คำแนะนำสำหรับประชาชนในกรณีที่มีการรัฐประหาร
เริ่มหัวข้อโดย: คนในวงการ ที่ 15-09-2006, 16:36
1. อย่าออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น
2. หากมีการปะทะกันใกล้บ้าน ให้พยายามอยู่ในที่ต่ำ หรือนอนราบกับพื้น
3. หากมีการปะทะกันในขณะที่เราอยู่บนถนนใกล้ ๆ กับที่เรายืนอยู่ให้หมอบราบกับพื้น
4. ทหารเค้ายิงกัน ประชาชนไม่เกี่ยว คุณไม่ใช่ Hero ถูกยิงก็ตาย ท่องจำเอาไว้
5. ความอยากรู้อยากเห็น สามารถขจัดได้โดยการเปิดทีวี นักข่าวเสี่ยงตายถ่ายสดมาให้ดูกันอยู่แล้ว
6. การยิงกันจริง ๆ ไม่เหมือนในหนัง ที่ผู้ร้ายยิงไม่ถูกพระเอก และพระเอกยิงผู้ร้ายตายเป็นเบือ ในชีวิตจริง คนที่ถูกยิงมักเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้อง
7. กลับบ้านให้เร็วที่สุด ถ้าอยู่นอกบ้าน


หัวข้อ: Re: สาเหตุ 5 ประการของ การปฏิวัติรัฐประหาร
เริ่มหัวข้อโดย: อังศนา ที่ 15-09-2006, 16:52
^
^
^
..อ่านแล้วหวิวๆ อย่าเกิดขึ้นเลยจะดีกว่านะคะ (http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/emo34.gif)

(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/pink_flowers.gif)


หัวข้อ: Re: สาเหตุ 5 ประการของ การปฏิวัติรัฐประหาร
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกไทย หลานไทย ที่ 15-09-2006, 16:54
8. เตรียมกระเช้าดอกไม้ เข้าไปอวยพรแสดงความยินดีกับฝ่ายที่ชนะ  :mozilla_innocent:


หัวข้อ: Re: สาเหตุ 5 ประการของ การปฏิวัติรัฐประหาร
เริ่มหัวข้อโดย: คนในวงการ ที่ 15-09-2006, 16:58
^
^
^

ข้อ 8. นี่จำเป็นมากครับ ขอบอก 555


คุณอังศนา เอายาดมยาลมยาหม่องมั้ยครับ  :mrgreen:


หัวข้อ: Re: สาเหตุ 5 ประการของ การปฏิวัติรัฐประหาร
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 15-09-2006, 17:15
เอาเรื่องเก่า ๆ มายกเป็นอุทาหรณ์
........................................


นาทีปฏิวัติ

พล.อ. สุจินดา คราประยูร ให้สัมภาษณ์หลังจากเหตุการณ์วันที่ ๒๓ ก.พ. ว่า “ใช้เวลาตัดสินใจเพียงแค่ชั่วโมง” ( ข่าวสด ๔ มี.ค. ๓๔ )

รายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันแจ้งว่า เดิมทีทหารเตรียมการจะจับตัว พล.อ. ชาติชาย และ พล.อ. อาทิตย์ ที่สนามบินกองทัพอากาศ ( บน. ๖ ) ในเวลา ๑๙.๓๐ น. หลังจากการเข้าเฝ้า พร้อมกับการเคลื่อนกำลังทหารเข้ายึดจุดสำคัญทั่วกรุงเทพฯ แต่แผนกลับเปลี่ยนแปลงในเช้าวันนั้น นายทหารที่ร่วมปฏิบัติการส่วนใหญ่เป็นทหารอากาศ

เวลา ๑๑.๐๐ น. พล.อ.ชาติชาย พล.อ.ชาติชาย พล.อ.อาทิตย์ เดินทางถึงห้องรับรองพร้อมหน่วยรักษาความปลอดภัยประมาณ ๒๐ นาย ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบิน ซี ๑๓๐ ที่จอดพร้อมอยู่แล้วนายกรัฐมนตรี พล.อ. อาทิตย์ นายอนันตกูล เลขาธิการ ครม. และปลัดกระทรวงมหาดไทยนั่งบริเวณที่นั่งวีไอพี ส่วนหน่วย รปภ. ถูกแยกไปอยู่ตอนท้ายของเครื่อง

ทันทีที่เครื่องซี ๑๓๐ เคลื่อนตัวทหารสองนายในชุดซาฟารีสีน้ำตาลก็กระชากปืนจากเอวควบคุม รปภ. ทั้ง ๒๐ คน คนเอาไว้ พร้อม ๆ กับที่เครื่องบินลดความเร็วลง และ พล.อ.ชาติชายอยู่ในสภาพถูกควบคุมตัวเรียบร้อย ขณะที่การปฏิบัติการเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทหารบกจำนวนสองพันก็เคลื่อนออกประจำจุดต่าง ๆที่กำหนดไว้ พล.อ.อ. เกษตร ออกจากกองทัพอากาศ สมทบกับ พล.อ.สุจินดา พล.ร.อ. ประพัฒน์ กฤษณจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.อ. สุนทร คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดออกแถลงการณ์กับประชาชน

เหตุผลของการปฏิวัต

ประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ ๑ ยืนยันถึงการล้มล้างรัฐบาล พล.อ. ชาติชาย ว่าได้กระทำการเรียบร้อยสมบูรณ์ในเวลา ๑๑.๓๐ นง วันที่ ๒๓ ก.พ. และ พล.อ. สุนทร ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ก็ได้อ่าน แถลงการณ์ ฉบับที่ ๑ ชี้แจงเหตุผลของการกระทำในเวลาต่อมา

    “ประการแรก พฤติการณ์ฉ้อราษฎร์บังหลวง คณะผู้บริหารประเทศได้ฉวยโอกาสอาศัยอำนาจตามตำแหน่งหน้าที่ทางการเมืองแสวงหาประโยชน์ให้แก่ตนเองและพรรคพวก
อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน จนเป็นเรื่องปรกติธรรมดาของรัฐมนตรีเกือบทุกคนที่ต้องแสวงหาเงินเพื่อสร้างฐานะความร่ำรวย
เป็นฐานอำนาจทางการเมือง


    “ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจมีการฉ้อราษฏร์บังหลวงอย่างกว้างขวางในหมู่รัฐมนตรีรวมทั้งข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจระดับสูงบางคนก็ตาม แต่นายรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารับบาลกลับไม่เอาใส่ที่แก้ไขอย่างจริงจังกลับแสดงความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาด้วยการยืนยันว่า หากพบผู้ใดประพฤติมิชอบให้เอาใบเสร็จมายืนยันด้วย

    “ประการที่ ๒ ข้าราชการการเมือง ใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงราชการประจำผู้ซื่อสัตย์สุจริต…ผู้ไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือนักการเมือง รับราชการไม่เจริญก้าวหน้า ถูกข่มเหงรังเกหากยินยอมเป็นพรรคพวกหลายท่านต้องลาออกราชการ

    “ประการที่ ๓ รัฐบาลเป็นเผด็จการทางรัฐสภา นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรครัฐบาลได้ร่วมมือพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล รวมทั้งคณะที่ปรึกษานายำฯ บ้านพิษณุโลก ใช้อุบายอันแยบยลทางการเมืองสร้างภาพลวงตาประชาชนว่าเป้นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แล้วพลิกแพลงหาประโยชน์เป็นที่ประจักษ์ชัดโดยทั่วไป แท้จริงแล้วใช้ผลประโยชน์เป็นตัวนำการเมือง ระดับรัฐมนตรีที่ทำหน้าที่บริหาร รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ นำประเทศไปสู่การปกครองระบอบเผด็จการทางรัฐสภาเมื่อเป็นเช่นนี้ การวางตัวบุคคลในตำแหน่งสำคัญทั้งทางเมืองและข้าราชการประจำจึงตกอยู่กับพรรคพวกนายกรัฐมนตรีทั้งสิ้น เป็นช่องทางที่ก่อให้เกิดการกอบโกยผลประโยชน์ จึงนับว่าเป้นภัยอันตรายอย่างยิ่งต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

    “ประการที่ ๔ การทำลายสถาบันทางทหาร ทหารเป็นสถาบันข้าราชการประจำเพียงสถาบันเดียวที่ไม่ยอมตกอยู่ใต้อิทธิพลทางการเมืองของนักการเมือง จากสภาพโดยส่วนรวมทั่วไปจะเห็นว่ารัฐบาลได้เผชิญหน้ากับฝ่ายทหารมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นกรณีลิตเติลดั๊ก รถวิทยุสื่อสารเคลื่อนที่
การไม่ปลด ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง จาการเป็นรัฐมนตรีตามสัญญาสุภาพบุรุษ

    “ประการที่๕ การบิดเบือนคดีล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อปี ๒๕๒๕ ประมาณเก้าปีเศษที่ผ่านมา พล.ต. มนูญ รูปขจรและพรรคพวกได้บังอาจคบคิดวางแผนทำลายล้างราชวงศ์จักรีเพื่อล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์เปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศ
ไปสู่แบบที่ตนเองและคณะได้กำหนดไว้ การวางแผนการชั่วร้ายดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จ พล.ต. มนูญและพรรคพวกถึง ๔๓ คนถูกจับกุมในที่สุดและได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มคณะบุคคลที่มีอิทธิพลทางการเมืองให้ได้รับการประกันตัว
จนสามารถก่อการปฏิวัติได้อีกสามครั้ง

    “จากเหตุผลและความจำเป็นทั้งห้าประการ คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติไม่สามารถที่จะปล่อยให้ภาวะระส่ำระสายของชาติบ้านเมืองเกิดขึ้นรุนแรงต่อไปอีกได้ เพื่อดำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป้นประมุขจึงจำเป็นต้องใช้วิธีการเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ และคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติจะดำเนินการจัดระบอบการบริหารราชการแผ่นดินให้กลับสุ่สภาพปรกติโดยเร็วที่สุด”

ยึดทรัพย์นักการเมือง


“ เราเห็นว่าระบอบนี้ ถ้าจะดำเนินการต่อไปนั้น บ้านเมืองก็จะมีแต่ความล่มจม เพราะว่าทุกพรรคหรือนักการเมืองที่เข้ามา ต่างคนต่างฝ่ายก็มุ่งหน้าหาเงินเข้าพรรค เพื่อจะใช้ในการเลือกตั้ง เพื่อจะเอาชนะในการเลือกตั้ง จนมีคำกล่าวกันว่าคณะรัฐมนตรีแบบที่เป็นอยู่นั้น เขาเรียกว่า “บุฟเฟต์ คาบิเน็ต” คือเข้ามาเพื่อแย่งกันกิน” พล.อ. สุจินดาซึ่งเป็นผู้มีบทบาทมากที่สุดในครั้งนั้นกล่าวกับบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในเช้าวันที่ ๒๔ ก.พ.

รุ่งขึ้น”ประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติฉบับที่ ๒๖ “ลงนามโดย พล.อ.สุนทร ก็ปรากฏออกมา แต่งตั้ง ให้ พล.อ. สิทธิ จิรโรจน์ อดีตรับมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทยเป็นประธานกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน มีนายสุธี อากาศฤกษ์ นายมงคล เปาอินทร์ นายไพศาล กุมาลย์วิสัย นายสุชาติ ไตรประสิทธิ์ พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ และนายชัยเชต สุนทรพิพิธ ร่วมเป็นกรรมการ ให้อำนาจในการอายัดและห้ามจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินของนักการเมืองที่มีพฤติกรรมอันอาจส่อแสดงว่ามีทรัพย์สินร่ำรวยผิดปรกติ

รัฐมนตรีที่ถูกประกาศอายัดทรัพย์

    มาจากพรรคชาติไทย ๑๒ คน คือ
    พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัน
    พล.ต ประมาณ อดิเรกสาร
    นายเสนาะ เทียนทอง
    นายกร ทัพพะรังสี
    นายสมาน ภุมมะกาญจนะ
    นายชูชีพ หาญสวัสดิ์
    นายอุดมศักดิ์ ทั่งทอง
    นายสุธน ชามพูนท
    นายเดช บุญหลง(รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี)
    นายประมวล สภาวสุ
    นายบรรหาร ศิลปอาชา
    นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ (ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี)

    จากกิจสังคมห้าคน คือ
    นายมนตรี พงษ์พานิช
    นายสุบิน ปิ่นขยัน
    นายไชยศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ
    นายสันติ ชัยวิรัตนะ
    นายภิญญา ช่วยปลอด

    จากประชาธิปัตย์สามคน คือ
    พล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์
    นายประจวบ ไชยสาส์น
    นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี

    พรรคราษฎรสองคน คือ
    พล.อ. เทียนชัย สิริสัมพันธ์
    นายวัฒนา อัศวเหม

    พรรคประชากรไทย
    นายสมัคร สุนทรเวช

    เอกภาพ
    นายณรงค์ วงศ์วรรณ

    มวลชน
    ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ตามลำดับ

พร้อม ๆ กันนั้น มีความเคลื่อนไหวทาง น.ต. ฐิติ นาครทรรพ อดีตนายทหารอากาศที่สนิทสนมกับ พล.อ.อ. เกษตร
ประกาศจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ ในช่วงแรกเรียกกันติดปากว่า “พรรคทหาร” กระทั่งได้ชื่อว่า “พรรคสามัคคีธรรม”
ในที่สุดในทันทีที่นายณรงค์ วงศ์วรรณ พ้นจากการถูกอายัดทรัพย์ ก็ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคสามัคคีธรรม

ไม่เพียงแต่พรรคเอกภาพเท่านั้นที่สูญเสียหัวหน้าพรรค ในส่วนของพรรคชาติไทย พล.อ. ชาติชายก็ลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน และโดยการดำเนินการทางการเมือง พล.อ.อ. สมบุญ ระหงษ์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานฯ อดีตนายทหารอากาศก็ได้รับเชิญให้ดำรงตำแหน่งแทนขระที่พรรคกิจสังคมเปิดตำแหน่งเลขาธิการพรรคให้แก่ พล.ท. เขษม ไกรสรรณ์ เพื่อนร่วมโรงเรียนอำนวยศิลป์ของ พล.อ. สุจินดา และ รัฐมนตรีที่ได้รับการปล่อยตัวจากประกาศยึดทรัพย์ก็สมัครเป็นสมาชิกพรรคสามัคคีธรรมโดยพร้อมเพียง ทั้งนายประมวล นายไชยศิริ และ นายสันติ

ผลการตรวจสอบทรัพย์สิน นักการเมือง ๑๐ คนซึ่งยังมีคดี “ร่ำรวยผิดปรกติ” อยู่ระหว่างการพิจารณา ประกอบด้วย พล.อ.ชาติชาย นายพิทักษ์ นายเสนาะ นายวัฒนา พล.ต.อ. ประมาณ นายภิญญา นายสุบิน นายมนตรี นายประมวล และ ร.ต.อ. เฉลิม




หัวข้อ: Re: คำแนะนำสำหรับประชาชนในกรณีที่มีการรัฐประหาร
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 15-09-2006, 17:19
4. ทหารเค้ายิงกัน ประชาชนไม่เกี่ยว คุณไม่ใช่ Hero ถูกยิงก็ตาย ท่องจำเอาไว้

พระเอก the hero โดนธนูพรุน...ตายตอนท้ายเรื่องครับ  :|

บางคนเตรียมเสบียงไว้แล้ว..


หัวข้อ: Re: สาเหตุ 5 ประการของ การปฏิวัติรัฐประหาร
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 15-09-2006, 17:27
สถานการณ์สร้างวีรบุรุษครับ แต่คงไม่ใช่ผมคนนึงล่ะ ขออยู่ดูความเจริญรุ่งเรืองของประชาธิปไตยติดคราบเลือดก็แล้วกัน แบบว่ากลัวตายครับ แหะๆ


หัวข้อ: Re: สาเหตุ 5 ประการของ การปฏิวัติรัฐประหาร
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 15-09-2006, 17:40
จับโจรจับหัวหน้า...ยิงคนยิงม้าก่อน...


หัวข้อ: Re: สาเหตุ 5 ประการของ การปฏิวัติรัฐประหาร
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 15-09-2006, 18:56
ฝ่ายใด ถวายการอารักขาได้ก่อน ฝ่ายนั้นชนะค่ะ