ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

คู่รักชาวไทยมีเพศสัมพันธ์ต่ำที่สุดในโลก

12 กันยายน 2549 17:52 น.
ผลสำรวจสัมพันธภาพทางเพศของคนทั่วโลกใน 27 ประเทศ พบคู่รักชาวไทยต่ำสุดในโลกแค่ 4.2 ครั้งต่อเดือน ขณะที่ “นพ.พันธ์ศักดิ์” แนะคู่รักควรพูดคุยกัน ทำให้สัมพันธภาพทางเพศดี และควรถูกคน ถูกที่ ถูกเวลา

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : พญ.โรซี คิง ที่ปรึกษาด้านสัมพันธภาพทางเพศ โรงพยาบาลเซนต์ ลูคส์ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยผลการสำรวจ “ทัศนคติเกี่ยวกับสัมพันธภาพทางเพศ” (Global Better Sex Server หรือ GBSS) ในชายหญิงจาก 27 ประเทศ จำนวน 12,563 คน อายุระหว่าง 25-74 ปีระหว่างเดือนตุลาคม 2548 ถึงเดือนมีนาคม 2549 สนับสนุนโดยบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ จำกัด ซึ่งการสำรวจครั้งนี้สัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างในประเทศไทย จำนวน 257 คน เป็นชาย 132 คน หญิง 125 คน เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจด้านสัมพันธภาพทางเพศ

รวมถึงความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองและความปรารถนาในเรื่องสัมพันธภาพของคู่รัก ว่า โดยเฉลี่ยแล้วชายและหญิงทั่วโลกมีเพศสัมพันธ์เฉลี่ย 6.48 ครั้งต่อเดือน ส่วนคู่รักชาวบราซิล มีเพศสัมพันธ์เฉลี่ยสูงสุด 7.9 ครั้งต่อเดือน ขณะที่คู่รักชาวไทยมีเพศสัมพันธ์เฉลี่ย 4.2 ครั้งต่อเดือน ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดใน 27 ประเทศที่สำรวจครั้งนี้

ผลสำรวจยังพบว่า ประมาณ 1ใน 3 ของชายและหญิง ระบุว่า ตนมีกิจกรรมทางเพศน้อยครั้งกว่าที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ตามผลการสำรวจครั้งนี้พบว่าความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์ไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับความพึงพอใจที่ได้รับจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยชาวอังกฤษกับสหรัฐมีความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์เท่ากันคือ 6.4 ครั้งต่อเดือน แต่ชาวอเมริกันรู้สึกสุขสมกับคนรักสูงกว่าชาวอังกฤษโดยมีความสัมพันธ์กับภาวะการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ระดับ

“การศึกษาครั้งนี้พบว่ากลุ่มตัวอย่างเพศชาย 3 ใน 4 ต้องการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เต็มใจที่จะใช้ยารักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศของตนเอง หากยาสามารถช่วยพัฒนาสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่สุขสมได้ ส่วนชายไทยเกินครึ่งคือร้อยละ 55 ยินดีกินยารักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ” พญ.โรซี กล่าว

นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ สูตินรีแพทย์ กล่าวว่า สัมพันธภาพระหว่างชายหญิงเป็นสิ่งที่ต้องพูดคุยทำความเข้าใจกัน หากผู้ชายสามารถทำกิจกรรมทางเพศได้จะเกิดความมั่นใจในตนเอง ชีวิตครอบครัวดี แต่หากหย่อนสมรรถภาพจะทำให้รู้สึกหดหู่ เศร้าหมอง อารมณ์ร้าย เพราะเกิดการคั่งของฮอร์โมนเพศชาย ดังนั้น คู่รักต้องพูดคุยกันมีสัมพันธภาพทางเพศถูกคน ถูกที่ และถูกเวลา

นางปภัสรา เตชะไพบูลย์ หรือ กบ ดารานักแสดง กล่าวว่า สามีมีอายุมากกว่าถึง 16 ปี แต่ชีวิตครอบครัวก็มีความสุข มีครบทุกรส ไม่ใช่เรื่องเซ็กซ์เพียงอย่างเดียว ตนกับสามีจะพูดคุยกันทุกเรื่อง บอกกล่าวถึงความต้องการของแต่ละคน แม้ตนจะเป็นคนบ้านนอก แต่สามีเป็นนักเรียนนอก ใช้ชีวิตในต่างประเทศ ตนและสามีจะกอดและหอมแก้มกันก่อนไปทำงานทุกวัน ถือเป็นการสร้างความรัก ความอบอุ่น ทุกครอบครัวสามารถทำได้ เป็นการแสดงความรักต่อกัน
http://www.bangkokbiznews.com/2006/09/12/w001_137023.php?news_id=137023

 อารายว้า  :mozilla_oops:

อารายว้า   :mozilla_oops: จริงๆ...

มัวแต่นั่งอยู่หน้า Keyboard นี่แหล่ะ :lol: :lol: :lol:

ไปทำสถิติ ดีก่า... :lol: :lol: :lol:

น่าอายจริงๆครับ ชาวสยามเรานี่ ปีละห้าสิบครั้ง

ผมอยู่เมืองไทยปีละไม่ถึงสองเดือนยังสกอร์ได้มากกว่านี้เลย  

            :mrgreen: :lol: :mrgreen:

 :shock: :shock: :shock:

 ตกสำรวจคนนี้ได้ไง  

บังเอิญอยู่กับแขกมุสลิมมานานครับ
เลยออสโมสิสเอาพลังแขกที่มีเมียสี่คนมาได้บ้าง   :lol: :mrgreen:

เอามาเผื่อแผ่กันมั่งซิครับ พี่น้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :mrgreen:

อืมมมมมมมม เรามาช่วยกันเพิ่มสถิติให้ประเทศชาติกันดีกว่าครับ  :oops:

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป อัตราเพิ่มจำนวนประชากร มีปัญหาแน่ๆ

 8)

เห็นด้วย มาเพิ่มสถิติกันดีกว่า  :mrgreen: :lol:

 ทะลึ่งมากๆๆ  :mozilla_undecided: :mozilla_surprised:

พูดเป็นเล่นไป มันมีผลด้านจำนวนประชากรด้วยนา...


รัสเซียล่อใจให้เงินมากกว่า 300,000บ.แก่แม่ที่มีลูกคนที่ 2,3.4
รัฐบาลรัสเซียเสนอจะให้เงินมากกว่า 300,0000 บาทแก่มารดาที่มีลูกคนที่สอง สามและ สี่

(15กย.) นายมิคาอิล ซูราบอพ รัฐมนตรีสาธารณสุขรัสเซีย แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น

ว่า รัฐบาลกำลังเตรียมจะออกกฏหมายฉบับใหม่ ที่จะให้เงิน 250,000 รูเบิ้ล หรือประมาณ 342,000 บาท แก่มารดาชาวรัสเซียที่มีบุตรคนที่สอง,ที่สามหรือที่สี่ หลังวันที่ 1 มกราคม ปีหน้าเป็นต้นไป โดยผู้เป็นมารดาจะได้รับเงินหลังให้กำเนิดบุตรแล้ว 3 ปี และมีเงื่อนไขอื่นๆผูกติดอยู่ด้วย รวมทั้งเงื่อนไขว่าใช้เงินนี้ได้เฉพาะในการหาที่อยู่อาศัย,เพื่อการศึกษาของเด็ก หรือสำหรับการออกจากงานของผู้เป็นมารดาเท่านั้น

 มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามกระตุ้นยอดการเกิดของประชากรชาวรัสเซีย ที่ตกฮวบหลังการล่มสลายของอดีตสหภาพโซเวียต เมื่อปี 2534 และเมื่อพฤษภาคมประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ประกาศหลายมาตรการเพื่อพยายามหยุดยั้งการลดลงอย่างน่ากลัวของจำนวนประชากร ที่ทำให้นับจากปี 2534 มีประชาชนลดลงรวม 5.8 ล้านคนแล้ว และเฉพาะช่วงตั้งแต่ต้นปีนี้ จนถึงกรกฏาคม รัสเซียมีประชากรลดลง 300,000 คนทำให้จำนวนประชากรรัสเซียในปัจจุบันอยู่ที่ 142.4 ล้านคน
 
http://www.komchadluek.net/2006/09/15/a001_47471.php?news_id=47471

หนูไม่ได้ว่า ข่าวที่พี่นทร์ นำมาทะลึ่งสักหน่อยนะค่ะ  :mrgreen:

หนูหมายถึงคนตอบกระทุ้ต่างหาก :evil: :evil:

ไม่ใช่แต่รัชเซียค่ะ  ทประเทศที่อนาอยู่ประชากรก็ลดลง หนุ่มสาวที่แต่งงานกัน ไม่ต้องการที่จะมีลูกกัน

แต่เมืองไทย อนาว่า อนาคตก็น่าจะด้วยเพราะผู้หญิงแต่งงานช้า โอกาศที่จะมีลูกได้มากกว่าสอง ก็น้อยมากค่ะ

ญี่ปุ่น สิงคโปร์ แย่แน่มีแต่คนสูงอายุเต็มไปหมด

สงสัยเหมือนกัน สมัยก่อนที่มีการเชียร์ให้คุมกำเนิด กลัวกันแต่ว่าคนจะล้นโลก ทำไมไม่คิดว่าคนจะน้อยเกินไปบ้าง..

* คนตอบ ก็ช่างเขาเหอะ.. :wink:.  

ดีนะที่คุณนทร์มาออกรับไปแล้ว ไม่งั้นน่าดู   :lol: :mrgreen: :lol:

ส่วนหนึ่งก็เพราะ ผู้ชายฉลาดขึ้น สามารถค้นหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ว่า ตัวเองเป็นใคร.. :lol:

ส่วนชายแท้ๆๆก็คิดถึงแต่เรื่องอย่างว่า ใช่ว่าจะมีประสิทธิภาพทำให้เพิ่มประชากรได้

หลายๆๆครั้ง มันไม่มีผลกับการเพิ่มประชากรนะค่ะ ถ้าเชื้อดี พ่อแม่แข็งแรง ก็ไม่น่ามีปัญหา