ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

เงินนำส่งรัฐจาก ปตท. ภายใต้ช่วงรัฐบาล ปชป. กับรัฐบาล ทรท. หากนำมาแยกเป็นรายปี..ตามประเภทการนำส่งในรูปแบบต่างๆ ซึ่งแยกเป็นการนำส่งในรูปของภาษีนิติบุคคล เหมือนผู้ประกอบการ นิติบุคคลทั่วไป ส่วนหนึ่งนำส่งในรูปเงินนำส่งรัฐ (ส่วนแบ่งกงสี) ในฐานะที่รัฐเป็นเจ้าของ 100 % เต็ม ซึ่งยังไม่มีการแปรรูป ยังไม่ได้แปลงสินทรัพย์เป็นทุน ต่อมาเมื่อแปรรูปแล้ว แปลงสินทรัพย์เป็นทุนเรือนหุ้นแล้ว...การนำส่งรัฐแบบกงสีก็ต้องยกเลิก เป็นการนำส่งในรูปเงินปันผลแทนที่...ผลสรุปพัฒนาการของรายได้ของรัฐจาก ปตท. สรุปได้ใน 2 ช่วงรัฐบาล เป็นดังนี้

======ปตท. ภายใต้รัฐบาล ประชาธิปัตย์========

ปี 2542 (รวม 7,862 ล้านบาท)

ในรูปภาษีเงินได้นิติบุคคล....1,212 ล้านบาท
เงินนำส่งรัฐ.......................6,650 ล้านบาท

ปี 2543 (รวม 6,102 ล้านบาท)

ในรูปภาษีเงินได้นิติบุคคล....2,250 ล้านบาท
เงินนำส่งรัฐ.......................3,852 ล้านบาท

========ปตท.ภายใต้รัฐบาลไทยรักไทย=======

ปี 2544 (รวม 11,210 ล้านบาท)

ในรูปภาษีเงินได้นิติบุคคล....4,181 ล้านบาท
เงินนำส่งรัฐ.......................7,029 ล้านบาท

=====รัฐบาลแปรรูป ปตท. ตาม พรบ.ทุนฯ========

ปี 2545 (รวม 16,718 ล้านบาท)

ในรูปภาษีเงินได้นิติบุคคล....6,874 ล้านบาท
เงินนำส่งรัฐ.......................5,000 ล้านบาท
เงินปันผลจากหุ้น...............4,844 ล้านบาท

ปี 2546 (รวม 15,294 ล้านบาท)

ในรูปภาษีเงินได้นิติบุคคล....9,771 ล้านบาท
เงินนำส่งรัฐ.......................(ยกเลิก)
เงินปันผลจากหุ้น...............5,523 ล้านบาท

ปี 2547 (รวม 22,703 ล้านบาท)

ในรูปภาษีเงินได้นิติบุคคล....15,089 ล้านบาท
เงินนำส่งรัฐ.......................(ยกเลิก)
เงินปันผลจากหุ้น.................7,614 ล้านบาท

ปี 2548 (รวม 35,344 ล้านบาท)

ในรูปภาษีเงินได้นิติบุคคล...22,495 ล้านบาท
เงินนำส่งรัฐ......................(ยกเลิก)
เงินปันผลจากหุ้น..............12,849 ล้านบาท

ปี 2549 (รวม 51,400 ล้านบาท)

ในรูปภาษีเงินได้นิติบุคคล....33,792 ล้านบาท
เงินนำส่งรัฐ.......................(ยกเลิก)
เงินปันผลจากหุ้น...............17,608 ล้านบาท

======****************************======


ถ้ารัฐบาลสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศแบบนี้เรียกว่าขายชาติ....เหรอครับ...??

ปชป. จะตั้งนโยบายถลุงเงิน...เอารายได้ส่วนนี้ไปใช้ก็ดูให้ดีนะครับ...ให้มันเกิดประโยชน์คุ้มค่า กว่าจะบริหารให้ได้เงินมาใช้ในกิจการต่างๆตามงบประมาณของประเทศ...มันเหนื่อยนะครับ...

คนเสนอหาเงิน หารายได้ให้ประเทศมันไม่ค่อยจะมี...มีแต่คนเสนอใช้เงิน....กึ๋นมันต่างกันตรงนี้



ยกมาจาก : http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4676223/P4676223.html



เอาเฉพาะตรงสีแดงนะครับ รัฐมีหุ้นใน ปตท. 51 % ได้ปันผลมาเท่านั้น แล้วพวก "ไอ้โม่ง" ที่ถือหุ้นอยู่อีก 49 % มันจะได้ปันผลกันเท่าไร

แล้วถ้า ปตท.ไม่ถูกแปรรูป อีก 49 % มันเป็นผลประโยชน์ของรัฐ ไม่ใช่หรือ ?

จะเห็นว่า ผู้นำเสนอข้อมูล ให้ข้อมูลข่าวสารเพียงด้านที่
เป็นประโยชน์กับตนเองและพรรคพวกเท่านั้น

มันไม่เอาราคาน้ำมันมาคิดด้วยรึ

ปล่อยมันดิ้นไป

กำไรของปตท.
ท่ามกลางความย่อยยับ
ของประชาชนผู้บริโภค
ปันผลกันอย่างสนุกแทนการส่งเข้ารัฐ?

น่าภูมิใจจริงๆ

โหวตครับ

โหวตค่ะ



... ลืมไป นึกว่าอยู่ราชดำเนิน  :lol:

 บอกชื่อเวบหน่อยสิคะ  คุณคิลเลอร์  อยากฟังหน่ะ

---  เงียบ  ไม่มีเสียงทั้งสองเวบค่ะ

เงินปันผล เอาเข้ากระเป๋าใครอะครับ  :?:

เงินปันผลก็เข้ากระเป๋าผู้ถือหุ้นสิครับ

เมื่อก่อนเราเสียเป็นดอกเบี้ยให้นายทุนที่ปล่อยกู้
แล้วก็เสียไปเรื่อยๆ เช่นกัน เพราะมันขยายตัวด้วยการก่อหนี้

เออ ไหน ๆ ผู้นำเสนอข้อมูลก็มาตอบด้วยตนเองแล้ว ขอถามด้วยคำถามข้างล่างนี้หน่อยเถอะ


ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน


นายกรัฐมนตรี ที่ได้รับเลือกจากประชาชน แต่เลือกทำตามข้อ ข เพราะเห็นแก่ประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้างนี่ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีหรือชั่วครับ

ตอบอย่างใจคิดเลยนะครับ ไม่ต้องอ้างความเป็นกลาง ระหว่างดีหรือชั่ว มันไม่มีกลางอยู่แล้ว

เอาเฉพาะตรงสีแดงนะครับ รัฐมีหุ้นใน ปตท. 51 % ได้ปันผลมาเท่านั้น แล้วพวก "ไอ้โม่ง" ที่ถือหุ้นอยู่อีก 49 % มันจะได้ปันผลกันเท่าไร

แล้วถ้า ปตท.ไม่ถูกแปรรูป อีก 49 % มันเป็นผลประโยชน์ของรัฐ ไม่ใช่หรือ ?

จะเห็นว่า ผู้นำเสนอข้อมูล ให้ข้อมูลข่าวสารเพียงด้านที่
เป็นประโยชน์กับตนเองและพรรคพวกเท่านั้น

[/quote]



แล้วถ้า ปตท.ไม่ถูกแปรรูป อีก 49 % มันเป็นผลประโยชน์ของรัฐ ไม่ใช่หรือ :?:

  เจ้าของกระทู้ คุณ TRAT จะพูดถึงไปทำไม  คนรักทักษิณ รู้อยู่เต็มอกแล้วว่า แกนนำ ทรท."พันธมิตรสิงคโปร์"  รวมกันถือหุ้นใน ปตท. ได้เงินปันผลไปเท่าใด :?:

คุณ TRAT คิดว่าคนต่อต้านทักษิณ คนขับไล่ทักษิณ จะมีสติปัญญา วุฒิภาวะเท่ากับคนรักทักษิณ จะไปพิจารณาเฉพาะรายได้ภาษีเพิ่มเท่านั้น ได้อ่าน ได้ฟังก็พอใจ เอาไปเล่าต่อได้.............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ทำไมเจ้าของข้อมูลไม่มาโต้แย้งบ้างเลยนะ

เขาบอกว่าภาษีเงินได้นี่ครับ  หมายถึงว่าไม่ได้พูดถึงราคาต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น
หรือผมเข้าใจผิด ช่วยอธิบายหน่อย  ก็ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ปตท. ว่าแน่ ๆ การเจริญเติบโตยังแพ้ ชินคอร์ป กระมัง

เค้าไม่เรียกขายชาติหรอก กรณี ปตท. เค้าเรียก สูบกินเลือดของประเทศชาติ ไปตลอดชาติ

7 ชั่วโคตรยังกินไม่หมดเลย

แล้วเงินปันผลเกี่ยวไรกะสภาพหนี้ด้วยอะคับ  :|

ก็เวลาอธิบายให้คนอื่น ๆ ฟังก็จะพูดทำนองนี้งัยครับ

" เห็นไหมปัจจุบัน ปตท.มีกำไร ปันผลให้รัฐและผู้ถือหุ้น (ไอ้โม่ง) เยอะแยะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนไม่แปรรูปก็จะเป็นหนี้ ต้องเสียดอกเบี้ยอีกเยอะ"

spin มันไปเรื่อย ๆ โดยคิดว่าความจริงอีกด้านจะถูกลบล้างหมดสิ้น

มันก็เป็นปกติขสองรัฐบาลนี้อยู่แล้วที่เสนอข้อความข่าวสารเพียงด้านเดียว ดีใส่ตัว ชั่วใส่คนอื่น

ตัวเลขถูกแล้วครับ แต่ว่า

1) ควรจะดูวงจรธุรกิจ petrechemical ประกอบ ผลิตภัณฑ์ petrochem มีวงจรขึ้นลงๆ ของมันอยู่เรื่อยๆ ขึ้นทีก็เฮที ลงทีก็เดี้ยงที ทีนี้วงจรขาลงรอบสุดท้ายคือคาบเกี่ยวกับ ชวน2-ทักษิณ1 พอดี ตอนนั้น ปตท กำลังประสบปัญหามาก คำถามคือแลว IPO ตอนนั้นทำไมฟะ ไม่รอ IPO ตอนวงจรขาขึ้น ทำให้เรา IPO ได้แค่ที่ 35 บาท เงินเข้ารัฐ 28,000 ล้าน แล้วราคาหุ้นก็ขึ้นเอาๆ อีก 2 ปีต่อมาแบบไม่น่าเชื่อ ก็คิดดูแล้วกันใครได้ประโยชน์ผมว่ารู้ๆ กันอยู่

2) จริงๆ ตอน IPO ปตท และบริษัท ลูก มีการแต่งตัวเข้าตลาดเต็มไปหมด ซึ่งคนที่รับเคราะห์กรรมจากการแต่งตัวให้ดูดีครั้งนั้นก็คือกระทรวงการคลัง คนที่สุดแต่งตัวเลยตอนนั้นคือบริษัทลูกรายหนึ่งที่ผลิตพวก c2 c3 monomer

3) แล้วก็นะ อะไรที่บอกว่าจะเป็นของรัฐ (ท่อส่งก๊าซ ก็มุบมิบหน้าตาเฉย) ตัวท่อส่งก๊าซผลตอบแทนรัฐก็เจรจาได้ห่วยมาก ให้ IRROE 18% บนค่าใช้ท่อ ซึ่งพูดง่ายๆ ก็คือไม่ว่าผมจะลงทุนสร้างท่อแพงแค่ไหน รัฐเวลาซื้อก๊าซจากท่อผม ผมสามรถคิดราคาทุนบวกกำไร 18% ได้หน้าตาเฉย (จนกระทั่งก่อนราคานำมันขึ้นมหาศาลอย่างทุกวันนี้ กำไร ปตท ส่วนใหญ่มาจากก๊าซ) แถมที่นางงสุดคือ ค่าก๊าซที่ส่งผ่านท่อเนี่ย ปกติคนขายก๊าซคือ ปตทสผ แต่ปตท บริษัทแม่คิดค่าคนกลางเนื่อก๊าซอีก 0.75% อ้างว่าเป็นค่าการตลาด การซื้อขายก๊าซนี่มันต้องมีค่าโฆษณาด้วยหรือ

ส่วนค่าผ่านท่อประเทศอื่นๆ นั้นถือเป็นธุรกิจที่มีการกำกับให้ผลกำไร ประมาณ 10-14% (นี่ตัวเลขของอเมริกา) เท่านั้นเพราะรัฐบาลถือว่าก๊าซเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และบริษัทท่อส่งมักมีอำนาจตลาดสูง (monopolistic power) เพราะไม่มี คู่แข่งในแต่ละพื้นที่ จึงต้องมีการกำกับไม่ให้ค้ากำไรเกินควร

ตอน ปตท IPO ตอนแรก ก็บอกว่าจะคืนท่อก๊าซให้รัฐในหนังสือชี้ชวนภายใน 1 ปี ปัจจุบันก็ไม่คืนสักที

4) ปัจจุบัน ปตท จะทำครบวงจรก๊าซไปจาก จัดหา จัดส่ง จัดแยก จนกระทั่งถึง ผลิตไฟฟ้า อันนี้น่ากลัวมาก ปตท ไม่ควรผลิตไฟฟ้า เพราะปตท เป็นผู้จัดหาก๊าซเชื้อเพลิงให้โรงไฟฟ้าก๊าซเกือบทั้งหมดในประเทศไทย คิดดูละกัน ก๊าซในเมืองไทยมีใช้นิดเดียวเอง เราถึงต้องเร่งหาจากประเทศเพื่อนบ้าน วันหนึ่งถ้า ปตท ต้องเลือกระหว่างส่งก๊าซให้โรงไฟฟ้าของตัวเอง กับ โรงไฟฟ้าของ กฟผ วันนั้นจะเกิดอะไรขึ้น น่ากลัวมากเพราะ ปตท มีอำนาจบีบ โรงไฟฟ้าโรงอื่นให้มอดม้วยมากๆ

ถ้าเป็นที่เมือง "บิดา" ที่ "เหลี่ยม" มันเขียนจดหมายไปฟ้องนะ   ผูกขาดแบบนี้ โดนฟ้องเละเทะไปแล้ว เมื่อ 2-3 ปีก่อน รัฐบาลท้องถิ่นของกว่า 10 มลรัฐ ฟ้องไมโครซอฟท์ในคดี Anti Trust ซะกะจุยกะจาย

เพราะฉะนั้น จงกลับมาซะดี ๆ....

อืม ผมว่าค่าไฟประเทศไทยค่อนข้างถูกนะครับ

ถ้าดูจากโครงสร้างการผลิตไฟฟ้าจริงๆ แล้ว ไฟฟ้าเมืองไทยร้อยละ 70 มาจากก๊าซ ไม่ใช่น้ำมัน แล้วก็หลายครั้งที่รัฐบาลแทรกแซงค่าก๊าซเพื่อปรับไม่ให้ค่าไฟแพงขึ้น เรื่องของเรื่องคือไฟฟ้าในระดับการใช้งานครัวเรือนนี่โอเคมากเลย ผมว่ามีความสม่ำเสมอดี และค่อนข้างถูก แหล่งก๊าซธรรมชาติที่ประเทศไทยได้จากอ่าวไทยน่าจะค่อนข้างถูก (แต่มีคนครหาว่าการแบ่งผลประโยชน์ระหว่าง ปตทสผ และ Unocal ซึ่งคือ Chevron ในปัจจุบันนั้น Chevron ได้ประโยชน์ไปอื้อ แต่ก็ไม่มีคนภายนอกได้เป็นสัญญาซื้อขายก๊าซนี้จริงๆ จังๆ ที่เอามาเล่าได้สักคน) อย่างไรก็ดี ปตท ได้กำไรค่าผ่านท่ออื้อ

ปัญหาอยู่ที่การใช้ไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมมากกว่า การใช้ไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมนั้นต้องการความสม่ำเสมอสูงมาก ค่าไฟแพงหน่อยแต่ไม่ไฟตกเหมือน กฟน หรือ กฟภ จะดีกว่าเยอะ เพราะฉะนั้นมัโครงการ SPP ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด โครงการเหล่านี้เป็นประเภทเดียวที่ขายไฟฟ้าให้กับ ลูกค้าอุตสาหกรรมโดยตรงได้โดยไม่ผ่าน กฟผ เขาคิดค่าไฟสูงกว่าพอสมควร แต่เมื่อเทียบกับความเสี่ยงในการพึ่งหน่วยงานรัฐนั้น โรรงงานอุตสาหกรรมหลายๆ โรงก็กล้าลงทุนครับ

ผมไม่มีปัญหากับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจโดยหลักการ แต่มีปัญหาในทางปฏิบัติ
1) การแปรรูปต้องก่อให้เกิดการแข่งขันทางการค้า ไม่ใช่แปรรูปผู้ผูกขาดออกมาให้ผูกขาดต่อไป
2) ต้องไม่ให้สิทธิพิเศษกับบริษัทที่แปรรูปออกมาให้มีโอกาสทางธุรกิจที่ดีกว่า (เช่น กฟผ เมื่อปีที่แล้วที่ได้ การันตี กำลังผลิตไฟฟ้าใหม่โดยไม่ต้องประมูลแข่ง เพราะถ้าประมูลแข่งก็คงแพ้ลุ่ย แล้วยังได้ประกันผลตอบแทนทางการเงินอีก แถมองค์กรกลางกำกับดูแลกิจการก็ไม่มี)

นั่นคือสิ่งที่ไม่ได้เกิดในกรณีของ ปตท

การแปรรูป ปตท มีผลดีหลายอย่าง อย่างน้อยการบริหารจัดการก็ดีขึ้น โปร่งใสขึ้น
แต่ผูกขาดทางการค้า มีเรื่องที่ต้องทำ คือเรื่องท่อก๊าซส่งคืนรัฐที่ยังไม่ได้ทำสักที
ปตท กลายเป็นบริษัทที่กร่างใช้อำนาจบาตรใหญ่ในการเจรจากับชาวบ้านที่ได้ผลกระทบ ขอร้องเถอะคุณจะไปทำให้สิ่งแวดล้อมบ้านเขาเสียหายแล้ว อย่างน้อยก็ให้ความเป็นธรรมกับเขาหน่อย ผมรู้ ผมเข้าใจว่า การพัฒนามันมีการ trade off แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะไม่ฟังชาวบ้านเลยนะ พอเขาประท้วงก็หาว่าเขาถ่วงความเจริญ
ปัจจุบัน ปตท ก็เป็นคนที่ดีลกับคู่ค้าด้วยสัญญาทาส อาศัยความเป็นผู้ผูกขาดในการบังคับข้อสัญญาต่างๆ
แล้วเรื่องแปลกสุดคือ ไทยไม่ใช่เจ้าของทรัพยากรพลังงานที่ใหญ่โตเลยนะ แต่ทำไมบริษัท 6 ใน 10 อันดับแรกของ ตลท กลับเป็น ปตทและสหาย คอยดูวันไหนก๊าซเราหมด วันนั้นจะเจ๊งกันเป็นแถบ เราก็ยังดั้นด้นสร้างกันต่อไปพวกโรงปิโตรเคมีต่างๆ โดยไม่คำนึงว่าจะเอา  raw material มาจากไหนในอนาคตข้างหน้า ผมไม่แน่ใจเหมือนกันเราพัฒนาประเทศกันยังไงไม่ดูศักยภาพระยะยาวของอุตสาหรรมนี้ แต่ปล่อยให้มัใหญ่โตไปเรื่อยๆๆๆๆๆ

แต่ผมก็ยังคิดว่า รัฐไม่ควรซื้อ ปตทคืน ปตทที่เป็นอยู่ปัจจุบันการบริหารงานอาจมีข้อติเยอะ แต่ผมว่าดีกว่าให้ไปเป็นถุงเงินของนักการเมืองเห็นๆ ควรจะคิดหาทางให้ทำอย่างไรให้ ปตท ผูกขาดน้อยลงดีกว่า