ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

รัฐบาลทักษิณ คุยโม้โอ้อวดว่าจะทำให้คนยากคนจนหมดไปจากแผ่นดิน ภายใน 5 ปีคนยากจนที่ไม่มีบ้านอยู่อาศัย จะมีบ้านเป็นของตัวเอง โดยรัฐบาลจะช่วยสร้างให้ ออกเงินค่าซื้อที่ดินจากเอกชนให้คนละ 80,000 บาทแล้วให้ผ่อนชำระเดือนละ 1,500 บาท

สิ้นคำคุยโวโอ้อวดของ "คนหน้าเหลี่ยม" การเคหะแห่งชาติก็ผุดโครงการบ้านเอื้ออาทรแบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 21 ตารางวา 2 ห้องนอน 1 ห้องเอนกประสงค์ โถงโล่งเอนกประสงค์ ซักล้าง ขึ้นทั่วประเทศรวม 68 โครงการ(ไม่นับรวมอาคารชุด 33 ตารางเมตร ที่เกิดขึ้นราวกับดอกเห็ด)

คนยากคนจน คนหาเช้ากินค่ำแห่ไปลงชื่อจองกันสลอนนับแสน ๆ คน แต่การเคหะแห่งชาติเจ้าของโครงการสุ่มจับสลากเหลือ 80,000 คนเศษ เพราะมีพื้นที่ดำเนินงานตามโครงการแค่นี้

สุดท้าย พอน้ำลดตอก็เริ่มผุดโผล่ขึ้นมาให้เห็น ผู้ที่ได้สิทธิ์บ้านเอื้ออาทรแห่ถอนตัวกันอื้อกว่าร้อยละ 60 ในทุกโครงการ

เพราะบ้านบ้าอะไรไม่รู้แคบและเล็กพอ ๆ กับบ้านการ์ตูนในหนังดิสนีย์แลนด์ แต่ราคาแพงมหาโหด 390,000 บาท และไม่ใช่ 390,000 ตรงตัว เมื่อดูสัญญาให้ละเอียดถี่ถ้วนแล้วจะรู้ว่าถ้าตกหลุมพรางที่ "หน้าเหลี่ยม"ทำเอาไว้ ประชาชนคนเดินดินกินข้าวแกงที่มีหนี้สินพอประมาณ จะมีหนี้ก้อนใหม่ซึ่งต้องชดใช้กันถึงลูกถึงหลานรวมแล้วกว่า 900,000 บาท

เนื่องจากพอก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จ ผู้ได้สิทธิ์ต้องนำบ้านพร้อมที่ดินเข้าจำนองกับธนาคารของรัฐ หรือธนาคารพาณิชย์ ที่การเคหะแห่งชาติจัดหาให้ ในราคารับจำนองหลังละ 386,400 บาท โดยให้เวลาในการผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 30 ปี ทั้งนี้นับแต่วันเซ็นสัญญากู้เงินกับธนาคารถึงวันสิ้นสุดการชำระเงินตามสัญญา ผู้กู้จะต้องอายุไม่เกิน 65 ปี

พูดกันง่าย ๆ ก็คือโครงการนี้เปิดโอกาสให้เฉพาะผู้ที่มีอายุสูงสุดไม่เกิน 35 ปีเท่านั้นเข้าเป็นเจ้าของบ้าน ถ้าอายุเกินกว่า 35 ปี ก็ต้องหาคนมาเป็นผู้กู้ร่วม โดยผู้กู้ร่วมต้องมีอายุอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด

ที่นี่มาดูเงื่อนไขในการผ่อนชำระเงินกับธนาคารขั้นต่ำเดือนละ 1,500 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรกร้อยละ 4 ต่อปี ปีที่ 4 - 5 ร้อยละ 5 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยปีที่ 6 เป็นต้นไปเท่ากับอัตราดอกเบี้ยลอยตัว 0.25 ของธนาคารที่รับจำนอง กำหนดตามตารางคำนวณโดยใช้อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6.5 ต่อปี

รวมความแล้ว คือ ปีที่ 1 - 3 ผ่อนเดือนละ 1,500 บาท รวมเป็นเงิน 54,000 บาท ปีที่ 4 - 6 ผ่อนเดือนละ 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 72,000 บาท ปีที่ 7 - 9 ผ่อนเดือนละ 2,200 บาท รวมเป็นเงิน 79,200 บาท ปีที่ 10 - 12 ผ่อนเดือนละ 2,400 บาท รวมเป็นเงิน 86,400 บาท ปีที่ 13 - 15 ผ่อนเดือนละ 2,600 บาท รวมเป็นเงิน 93,600 บาท ปีที่ 16 - 18 ผ่อนเดือนละ 2,700 บาทรวมเป็นเงิน 97,000 บาท ปีที่ 19 - 21 ผ่อนเดือนละ 2,800 บาท รวมเป็นเงิน 100,800 บาท ปีที่ 22 - 24 ผ่อนเดือนละ 2,900 บาท รวมเป็นเงิน104,400 บาท ปีที่ 25 - 27 ผ่อนเดือนละ 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 108,000 บาท ปีที่ 28 ขึ้นไปจนกว่าจะครบตามจำนวนเงินกู้และดอกเบี้ยผ่อนเดือนละ 3,100 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 111,600 บาท

งานนี้จากต้นเงิน 386,400 บาท "คนจน"ต้องเป็นหนี้และต้องใช้หนี้กันชั่วลูกชั่วหลาน เป็นเงินมหาศาลถึง 907,000 บาท(เป็นการคิดในอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน แต่ถ้าในอนาคตดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นก็ไปคำนวณเอาเอง)

ผลก็คือคนจนที่หลงไหลได้ปลื้มว่าตัวเองจะมีบ้านอยู่อาศัยตามคำโฆษณาชวนเชื่อของ "หน้าเหลี่ยม" ถอยกรูด แห่ถอนตัวกันอื้อซ่าเกินกว่าครึ่งในแต่ละโครงการ จนการเคหะแห่งชาติหาเงินค่ามัดจำ 3,600 บาทคืนให้ไม่ทัน

แบบนี้ต้องเรียกว่า "คนจนร้อยละ 60 ของจำนวน 80,000 ครอบครัว"เริ่มที่จะรู้เท่าทัน "หน้าเหลี่ยม" บ้างแล้ว งานนี้"หน้าเหลี่ยม" เสียรังวัดไปกับ "คนจนผู้รู้ทัน" ประมาณ 48,000 ครอบครัว เฉลี่ยแต่ละครอบครัวมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 4 คน งานนี้คะแนนหายไป 192,000 คะแนน

มาดูกันต่อไปว่า โครงการบ้านเอื้ออาทร(แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 21 ตารางวา) มีความโปร่งใสไม่โปร่งใสอย่างไรบ้าง

เมื่อเริ่มต้นกำหนดพื้นที่ดำเนินงานตามโครงได้แล้ว ก่อนอื่นต้องหาผู้รับเหมาก่อสร้างเข้ามาร่วมโครงการ โดยให้ผู้รับเหมาจัดหาพื้นที่ดำเนินงานเอามาขายให้กับรัฐบาลในราคาไร่ละ 500,000 บาท (คุณจะซื้อมาไร่ละ 10,000 - 20,000 บาทเรื่องของคุณ แต่เมื่อรวมค่าปรับถมที่แล้วต้องขายให้รัฐบาล "หน้าเหลี่ยม" ในราคาไร่ละ 500,000 บาทนี่แหละ) แล้วไปขายต่อให้ผู้ได้สิทธิ์ตารางวาละ 7,000 บาทขาดตัว

ขั้นตอนต่อไป คือ ให้การเคหะแห่งชาติออกไปโพนทะนาป่าวประกาศให้คนยากคนจนที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองไปจองสิทธิ์ บอกมันคร่าว ๆ ไม่ต้องให้รายละเอียดมาก เอาแค่ว่าเป็นบ้านเอื้ออาทรสำหรับคนยากจนที่รัฐดำเนินการก่อสร้างให้โดยออกเงินให้ก่อนหลังละ 80,000 บาท ให้ผ่อนชำระเดือนละ 1,500 บาท แค่นี้ก็ขี้คร้านคนจนจะวิ่งไปจองสิทธิจนแทบจะเหยียบกันจมธรณีแล้ว

เมื่อได้จำนวนผู้จองสิทธิ์ตามจำนวนที่ต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือผู้รับเหมาต้องไปเซ็นสัญญาก่อสร้างกับการเคหะแห่งชาติ ตกลงกันในราคาหลังละ 270,000 บาท(รวมค่าที่ดินหลังละ 147,000 บาท)และค่าสาธารณูปโภค(ค่าสายไฟฟ้า, ค่าระบบประปาภายในและนอกอาคาร, ค่ากระจกหน้าห้องน้ำ, ค่าโถส้วม, ค่าก๊อกน้ำ)หลังละ 65,000 บาท(มิเตอร์ไฟฟ้า,ประปาผู้ซื้อบ้านต้องไปจ่ายเงินให้การประปา,การไฟฟ้าเอาเอง)

ผู้รับเหมาจรดปากกาเซ็นปั๊บ ควักกระเป๋านับเงินสด ๆ ราคาหลังละ 20,000 บาท ให้การเคหะแห่งชาติ เพื่อให้นำไปส่งส่วยให้กับเสนาบดีเจ้ากระทรวง นำไปบำรุงกระเป๋าตัวเองและเป็นเงินที่จะนำไปใช้ในการหาเสียงของพรรค

80,000 หลัง เอา 20,000 คูณเอาเองว่าเป็นเงินปากถุงที่พวกฟาดกันเท่าไหร่?

ดูกันต่อที่วัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างนอกจากค่าปากถุงหลังละ 20,000 บาทแล้ว พวกยังกินนอกกินในกันหยุบหยิบไปหมด สีต้องเป็นของ บริษัท ทวีรุ่ง จำกัด ของหลานผู้ว่าการการเคหะฯ น่ะ ห้ามเอาของคนอื่น ถึงของคนอื่นจะราคาถูกกว่าก็ห้ามนำมาใช้เด็ดขาด ปูนซีเมนต์ต้องเป็น "บารอน"นะ ซึ่งก็ไม่รู้โผล่มาจากป่าไหน เหล็ก วงกบหน้าต่างประตู ต้อง "เอกวิบูลย์"นะ

ผลก็คือบ้านแต่ละหลังรวมราคาที่ดิน 21 ตารางวา ราคาสูงลิ่วถึงหลังละ 220,000 บาท ผู้รับเหมาบอกว่าถ้าให้เลือกวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างตามใจชอบราคารวมที่ดินแค่ 200,000 บาท ได้บ้านดีกว่าที่เห็นซะอีก

ยัง ๆ ไม่หมดแค่นี้ จากตัวเลขที่ไล่มาทั้งหมดมองเผิน ๆ ผู้รับเหมาจะได้กำไรหลังจ่ายค่าปากถุง 20,000 บาทแล้วอยู่หลังละ 30,000 บาท แต่ความจริงไม่ใช่ เพราะเจ้าหน้าที่การเคหะ, คนของ รมต. ตามไปขอค่าน้ำร้อนน้ำชาไม่เว้นอาทิตย์ เหลือกำไรให้ผู้รับเหมาแค่หลังละ 3,000 บาทเท่านั้น

วันนี้เอาแค่นี้ก่อน เดี๋ยวค่อยมาว่ากันต่อ ภาค 2 อีกที
------------------------------
ขออภัยอย่างแรง
ครั้งแรกไปโพสต์ผิดที่ เข้าไปอยู่ที่ชายคาพักใจ
วานผู้ดูแลช่วยลบกระทู้นี้ที่ชายคาพักใจให้ที เหลือไว้เฉพาะที่สภากาแฟที่เดียวก็พอ

บ้า โง่ เซ่อ หรือเปล่าเนี่ย ผ่อนตั้งหลายสิบปี จะไม่ต้องเสียดอกเบี้ยได้อย่างไร
เห็นคุยว่าเคยเป็นคนรากหญ้า อย่ามาคิดมาหลอกคนรายได้น้อยที่จะได้บ้านเป็น
ของตัวเองเลย คนที่ไปลงชื่อเขาเปรียบเทียบที่ตั้งโครงการราคารวมทั้งดอกเบี้ย
หมดแล้ว คิดว่าเค้าโง่มากเหรอไงเรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้ ส่วนเรื่องปูนซิเมนต์ วงกบประตู
หน้าต่างถ้าไม่มีหลักฐานอะไรเลย อย่าทะลึ่งมากล่าวหาอะไรลอยๆ อย่างนี้ข้อมูล
ในนี้ web master เขาต้องการให้มีที่มาที่ไป มี link ให้ web เป็นที่น่าเชื่อถือ
ถ้าจะแฉส่งเดชไม่ต้องมีหลักฐาน ควรไปที่ manager นะครับ

ใครพอจำได้บ้างครับ ไอ้เหลี่ยมออกโครงการเอื้ออาทรมากี่โครงการ
ช่วยลิสต์ให้ดูหน่อยจะเป็นพระคุณยิ่ง   :mrgreen: :lol: :mrgreen:

เท่าที่ผมเห็นมามีแต่ล้มเหลวทำให้คนเป็นหนี้โดยที่ได้ของไม่คุ้มเงิน
เห็นมีได้ผลชัดเจนอยู่โครงการเดียว คือเอ็นทรานซ์เอื้ออาทรครับ   :lol: :mrgreen:
แต่น่าเสียดาย มีผู้โชคดีได้เข้าร่วมโครงการแค่คนเดียว
แถมตอนนี้ก็ทำท่าจะยกเลิกสัญญาหนีไปอยู่ลอนดอนซะแล้ว   :mrgreen: :lol:

คุณ ss2507 มาเล่าต่อนะครับ ผมรออ่านอยู่ ที่คุณชอบแถแกออกมาทัก ก็อย่าไปตกใจ เพราะอันที่จริงคุณชอบแถ หนะ แกก็แถไปเรื่อยได้ทุกเรื่องอยู่ละ แต่แกเป็นคนดีนะ ถ้าการนำเสนอของเรามีเหตุผลมีน้ำหนักมากพอ คุณชอบแถ แกก็จะยอมรับ อันที่จริงพวก PT ในเสรีไทยน่ารักกันทุกคนครับ

มีตั้งสามสี่สิบโครงการที่ตั้งแจ่มๆทั้งนั้น เผลอๆติดๆหรืออยู่ข้างๆหมู่บ้านของคุณด้วยซ้ำ
เพราะส่วนใหญ่จะอยู่ไม่ไกล อย่างกรุงเทพกรีฑาก็ติดกับบ้านกลางกรุง ส่วน link หาเอา
เองมีตั้งเยอะตั้งแยะ ส่วนไอ้ที่ว่าเท่าที่คุณเห็นมีแต่ล้มเหลวทำให้คนเป็นหนี้โดยที่ได้ของ
ไม่คุ้มเงิน มันคืออะไร ตัวอย่างอยู่ไหน จะติดนิสัยเจ้าของกระทู้ยกกล่าวมาลอยๆ อีกคน
หรือเปล่า ผมไม่เชื่อข่าวประเภทนี้ตั้งแต่ได้ยินคนที่คุยด้วยพูดว่าเพื่อนผมเป็นสัตวแพทย์
อุ้มคุณทองแดงกับมือ ทั้งที่หลังจากนั้นก็เห็นคุณทองแดงในข่าวทีวีบ่อยๆ

แท๋เอ๊ย อ่านให้ได้ศัพท์ก่อน อย่าก้มหน้าก้มตาเอาแต่รีบทำยอด
ผมถามหาโครงการเอื้ออาทรทั้งหลาย ไม่ใช่โครงการ บ้าน เอื้ออาทร   :mrgreen:

ส่วนบ้านผมน่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ
อยู่ในเขตปลอดสลัมเอื้ออาทรแน่นอน เพราะยอมลงทุนซื้อของแพงหน่อย   :lol: :mrgreen:

ไอ้เรื่องที่บอกว่าล้มเหลวน่ะ เดี๋ยวรอให้คนเค้าเอาข้อมูลมาโพสต์ต่อ
ผมขี้เกียจหาถึงถามไง อ่านไม่เข้าใจเหรอ    :mrgreen:

คุณลืมอ่านหัวข้อกระทู้หรือเปล่า ผมพยายามไม่พาออกทะเล
เพราะโดนทักบ่อยนะครับ ถ้าอยากออกทะเลวันหลังผมจัดให้

หลอกประชาชนมาตลอดแหละครับตั้งแต่มันเป็นนายกใหม่ๆแล้ว

- หลอกประชาชนและศาลว่าบกพร่องโดยสุจริต หุ้นไปอยู่ที่คนสวนกับคนขับรถได้ยังไงไม่รู้

-เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุดันไปพูดออกสื่อว่ารู้ตัวคนวางแผนลอบสังหารหมดแล้ว จะออกหมายจับภายใน7วัน

-หลอกซื้อหุ้นลิเวอร์พูลเพื่อกลบข่าวชั่วCTX

-ไม่มีการทุจริตCTXแน่นอน ผมขอยืนยัน

-ไก่เป็นหวัดนกตายกินได้แล้วเอาไก่CPมากินโชว์ออกสื่อ กลัวธุรกิจCPขายไก่ไม่ได้ ส่วนไอ้ห้อยพูดว่าเมืองไทยไม่มีหวัดนก ถ้ามีจริงผมยอมลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี(พอมีจริงมันก็ไม่ออก)

-ไก่ที่ตายไม่ใช่เพราะหวัดนก แต่เป็นเพราะอหิวาไก่

-ชาติหน้าตอนบ่ายๆถึงจะยุบสภา(2วันต่อมามันยุบเลย)

มีอีกเยอะแยะ นี่เฉพาะโกหกประชาชนนะครับ เรื่องปาก***นอื่นๆยังไม่กล่าวถึง

แท๋เอ๋ย ถ้าตั้งใจแค่จะตอบหัวข้อกระทู้ก็ไม่ต้องมา quote ข้อความที่ผมพิมพ์สิครับ จะได้ไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด

ปกติถ้าคุณไม่มา quote อะไรที่ผมพิมพ์ ผมก็ไม่ไปรบกวนการทำหน้าที่ของคุณอยู่แล้ว    :mrgreen: :lol: :mrgreen:

หน้าที่ผมคือพาออกทะเล แต่วันนี้กลับตัวกลับใจ

:Dขอบคุณ "คนในวงการ" ที่ให้กำลังใจ

จริง ๆ แล้วไม่อยากจะตอบโต้กับใคร ๆ ทั้งสิ้น เพราะตั้งใจตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพียงอย่างเดียว

คุณ "ชอบแถ" ต้องจับประเด็นให้ได้ ผมไม่ได้บอกนะว่า "กู้เงินธนาคาร หรือเอาที่เอาบ้านเข้าจำนองธนาคาร" แล้วจะไม่ต้องเสียดอกเบี้ย

แต่ที่ต้องการบอกเล่า ก็คือ "รัฐบาลหลอกชาวบ้านมาตลอด"

ลองกลับไปทบทวนความจำกันดูหน่อยก็ได้ ช่วงหาเสียงก่อนทำโครงการหมู่บ้านเอื้ออาทร รัฐบาลไปปราศรัยเวทีไหนพูดแต่เพียงว่า "ต่อไปคนจนจะมีบ้านอยู่เป็นของตัวเอง ไม่ต้องไปเช่าบ้านอยู่อีกต่อไป รัฐบาลจะออกเงินค่าสร้างบ้านให้หลังละ 80,000 บาท แล้วให้ไปผ่อนกับธนาคารเดือนละ 1,500 บาท" ไม่มีเวทีไหน หรือครั้งใดที่บอกว่าการผ่อนบ้านกับธนาคารต้องเสียดอกเบี้ยนะ ยอดเงินจะต้องเพิ่มขึ้นจากราคาเริ่มต้นนะ

ผลก็คือทันทีที่มีการเปิดให้จองบ้านเอื้ออาทร ตาสี ตาสา ยายมี ยายมา คนขี่สามล้อ แม่ค้าส้มตำ แม่ค้าไก่ย่าง ลูกจ้างตาแป๊ะ ที่มีรายได้ต่อครอบครัวต่ำกว่า 15,000 บาท/เดือน แห่ไปจองกันชนิดมืดฟ้ามัวดิน

โดยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตัวเองกำลังจะเป็นแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ

เพราะอะไร ถ้าไม่ใช้เพราะ "รัฐบาลพูดความจริงไม่หมด" หรือ "ไม่บอกความจริงที่ควรบอกให้แจ้ง"

ตรงนี้แหละ คือ ที่มาของการแห่ยกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายกับการเคหะฯ ขอรับเงินมัดจำ 3,600 บาทคืน เพราะดูแล้วไม่มีใครมีปัญญาหาเงินผ่อนบ้านราคาร่วม 1,000,000 บาทได้อย่างแน่นอน และไม่มีใครอยากให้ลูกหลานเป็นหนี้สินล้นพ้นตัวตั้งแต่ยังแบเบาะ

ที่นี่..มาดูกันว่าทำไมการเคหะฯ จึงไม่มีเงิน 3,600 บาทมาคืนให้กับผู้ที่ขอเลิกสัญญา

เหตุผลก็คือการเคหะฯ นำเงินที่มีอยู่ไปลงทุนในโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ปลายปี 2547 จนถึงโครงการที่ส่งมอบไปเมื่อต้นปี 2549 ที่ต้องจ่ายให้ผู้รับเหมาหลังละ 270,000 บาท+ค่าสาธารณูปโภค 65,000 บาท รวมแล้วตกหลังละ 335,000 บาทไปหมดแล้ว

เงินที่การเคหะฯ จ่ายไป จะได้กลับคืนมาก็ต่อเมื่อผู้ได้สิทธิเข้าทำสัญญาจำนองบ้าน+ที่ดินกับธนาคารในราคาหลังละ 386,400 บาทแล้วเท่านั้น ยิ่งการก่อสร้างโครงการ การส่งมอบโครงการล่าช้าออกไปเท่าใด การเคหะฯก็ยิ่งถังแตกมากขึ้นเท่านั้น

ลองไปตรวจดูก็ได้โครงการที่ก่อสร้างอยู่ในปัจจุบันและมีกำหนดการจะส่งมอบสิ้นปี 2549 หรือต้นปี 2550 ทุกโครงการ การเคหะฯ ให้ผู้รับเหมาที่เข้าร่วมโครงการเอาไปจำนองกับธนาคาร เอาเงินมาใช้ในการก่อสร้างทั้งสิ้น เพราะการเคหะฯ ไม่มีเงินจ่ายให้ผู้รับเหมาหลังละ 335,000 บาท

ต่อกันที่เรื่องล๊อกสเปคสี ปูนซิเมนต์และเหล็กวงกบหน้าต่าง ประตู ไม่จำเป็นที่จะต้องหาหลักฐานมาอ้างอิง อยากรู้ว่าเท็จจริงอย่างไรลองไปถามผู้รับเหมาโครงการที่อยู่ใกล้ ๆ ว่ามีการล๊อกสเปคอย่างที่บอกหรือไม่?

เห็นหรือยังว่า"บ้านเอื้ออาทร" งานนี้คนที่พังไม่เป็นท่า คือ การเคหะฯ(ตัวองค์กร) คนที่ร่ำรวย คือ คนที่ได้รับเงินปากถุงหลังละ 20,000 บาท กับคนทำงานให้การเคหะฯ และคนขายวัสดุก่อสร้าง

ขณะที่ชาวบ้านผู้จองสิทธิ์ได้หนี้ก้อนใหญ่มานอนกอดไปจนถึงชั่วลูกชั่วหลาน
.........................................

ทิ้งจองก็ทิ้งกันไป แต่มีคนที่อยากได้อีกเยอะแยะมากมาย

คนเหล่านี้คือคนยากคนจน ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง

การได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ถือว่าเป็นสิ่งสูงสุดในชีวิตของพวกเขา

ใครเป็นผู้รากมากดี คาบช้อนเงินช้อนทองคาปากตอนคลอดออกมา

ก็อาจไม่เห็นความสำคัญ และเห็นเป็นเรื่องตลก

ส่วนพวกที่เลวที่สุดก็คือ เห็นว่ามันเป็นโครงการที่ไร้สาระ หลอกลวงคนยากคนจน

มีคนที่อยากได้เยอะแยะมากมาย หรือมีคนที่พร้อมจะถูกหลอกมากมายครับ คิลเลอร์
 :lol:

ถ้าผมเป็นรัฐบาลไม่คิดอย่างคิลหรอก
ต้องลงมาแก้ไขปัญหาแล้ว ว่าทำไมทิ้งจองกัน
แล้วจะแก้ไขอย่างไร เพื่อให้ทุกคน เข้าสู่การผ่อนบ้านต่อไป

แต่ว่า ถ้ามีเงินจะผ่อนขนาดนี้
สู้หาทางกัดฟันทำมาหากิน ให้มากขึ้นอีกนิด
ซื้อผ่อนบ้านในโครงการดีๆ แต่อยู่ชานเมืองมากๆก็ยังพอไหวนะนั่น
 :shock:

ผมว่าพวกที่เลวที่สุด คือพวกที่ เอาความฝันอยากได้บ้านดีดีของประชาชน
มาเป็นเครื่องมือหลอกหาเสียง มากกว่าน่ะ
 :wink:

มันไม่ยังงั้นซิ คิลเล่อร์

ถ้าเป็นหมู่บ้านจัดสรรธรรมดาของเอกชน ใครทิ้งจองไม่ไปโอนเขาก็ยึดเงินจองสบายเฉิบ แต่โครงการนี้คนจองเค้าขอเงินจองคืน เพราะเค้าเชื่อว่ารัฐบาลให้ข้อมูลหมกเม็ดกับเค้า การเคหะกับรัฐบาลก็ต้องหาเงินมาคืน จะไปยึดขาดแบบเอกชนก็ไม่ได้

เรื่องจะเอาไปขายคนอื่นนั้นคิลเล่อร์ต้องเข้าไปดูสภาพเอง ตอนมาเมืองไทยผมขับรถผ่านแถวรังสิตองรักษ์คลองสามบ่อยๆ เห็นสภาพสาธารณูปโภคและความแออัดของการวางผังแบ่งแปลงแล้วขอบอกว่า มันก็คือสลัมใหม่ชานเมืองนั่นแหละครับ คงหาคนมารับช่วงต่อไม่ง่าย :lol: :lol: :mrgreen:

อย่างที่คุณ จขกท.บอกแหละครับ การเคหะรับเละ :mrgreen:

คนจนที่เขาไปผ่อนบ้านเอื้ออาทร ถึงตอนนี้...เขารู้แกวกันหมดแล้วครับ

เพราะผ่อนไปๆมาๆ ทำไมเงินต้องผ่อนเยอะขึ้น

แล้วทำไมรวมดอกแล้วมันต้องผ่อนเยอะนัก

คนจนที่ไหนจะไปผ่อนไหว ผ่านไปซักพักต้องทิ้งที่ตัวเองออมไว้


งานนี้ก็หลอก รากหญ้า ตามระเบียบ

* มีข่าวว่ารัฐบาลแม้วกำลัง จะเอาเงินภาษีเข้าไปอุ้มอีก....

ลอกกินกันง่ายๆ คนเรา... ก็ยอมให้เขาหลอกอยู่อีก

 :roll:

บ้านขนาด 20 ตรว.  ไม่ว่าจะเดี่ยว หรือว่า ทาวน์เฮาส์ ในกทม.และปริมณฑล
มีที่ไหน 200,000 กว่า โครงการถูกที่สุด เริ่มกันที่ 600,000 แล้ว

อีกอย่างที่เป็นปัญหาน่าจะเป็นคุณสมบัติผู้กู้มากกว่า
เรื่องคุณภาพของบ้าน ผมว่า ต่างจิตต่างใจ

ก็ไหนว่าพอเพียงกันไงล่ะ

ถ้าจะเอาบ้านเอื้ออาทรไปเปรียบกับบ้านธรรมดา


ทีหลังก็ไม่ต้องบอกว่าบ้านเื้อื้ออาทรเด้ บอกไปเลยว่า รัฐทำบ้านขายแข่งกับคนอื่น


ป.ล. แต่บ้านเอื้ออาทรมันห่วยจริงๆ ขนาดเด็กที่ทำงานมันยังเบ้หน้า

อ้าว ไง่โทษที่คุณสมบัติผู้กู้ล่ะครับ ไหนบอกว่าเอื้ออาทร เพื่อคนจนงั้ยครับ

คนจนที่มีสิทธิ์ได้บ้านในโครงการต้องเป็นคนจนที่มีคุณสมบัติถึง ใช่ไหมครับ ?

เพิ่งรู้ว่าคนจนของ killer แบ่งเป็นคนจนที่มีคุณสมบัติถึง กับ คนจนที่มีคุณสมบัติไม่ถึงด้วย

Double Stand ดาก นี้  :mrgreen:

ขอบคุณKillerที่ช่วยทำความจริงให้ปรากฏ

ลองย้อนกลับไปดูข้างบน ss2507 บอกไว้ชัดเจนแล้วว่า

เพราะอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะ "รัฐบาลพูดความจริงไม่หมด" หรือ "ไม่บอกความจริงที่ควรบอกให้แจ้ง"

ผลก็คือทันทีที่มีการเปิดให้จองบ้านเอื้ออาทร ตาสี ตาสา ยายมี ยายมา คนขี่สามล้อ แม่ค้าส้มตำ แม่ค้าไก่ย่าง ลูกจ้างตาแป๊ะ ที่มีรายได้ต่อครอบครัวต่ำกว่า 15,000 บาท/เดือน แห่ไปจองกันชนิดมืดฟ้ามัวดิน

คนเหล่านี้ไม่มีเงินฝากในธนาคารในจำนวนที่จะมองได้ว่ามีปัญญาผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยได้, ไม่มีสลิปเงินเดือน, ไม่มีรายได้แน่นอน จึงทำให้ไม่ผ่านคุณสมบัติการขอกู้กับธนาคาร

แต่ไม่ใช่คนกลุ่มนี้เพียงกลุ่มเดียวที่บอกยกเลิกสัญญา คนที่บอกเลิกสัญญาอีกส่วนหนึ่ง คือ ชนชั้นกลางที่มีรายได้แน่นอนเป็นรายเดือน ดูสภาพบ้าน ดูราคาแล้วเห็นว่าถูกเอารัดเอาเปรียบจึงบอกยกเลิกสัญญาเพื่อขอเงิน 3,600 บาทคืน

ถ้ารัฐบาลพูดความจริงเสียตั้งแต่แรก ปัญหาก็คงไม่เกิดขึ้น

ต้องมาดูกันต่อไปอีกว่า "รัฐบาลจริงใจกับประชาชน หรือทำเพียงเพื่อโฆษณาหวังผลทางการเมือง"
คำตอบก็คือ "หวังผลทางการเมือง เพื่อให้ตัวเองได้คะแนนเสียงมาก ๆ"
ถามต่อไปว่า "หลอกลวงประชาชนหรือไม่?"
ss2507 ไม่ขอตอบ ให้ทุกคนช่วยคิดกันเอาเอง
--------------------------------

อย่ามาทำเป็นใสซื่อเลยดีกว่าครับ รายละเอียดตอนไปทำธุรกรรมคนซื้อย่อมรู้ดี
ตอนโฆษณาจะให้เขาออกเป็นเล่มเหมือนหนังสือชี้ชวนกฟฝ.หรือไง เรื่องที่เป็น
ที่รู้กันอย่างผ่อนรถผ่อนบ้านใครจะไม่รู้นอกจากคุณจะแกล้งทำใสซื่อเท่านั้นแหละ

เป็นความผิดพลาดของฝ่ายผู้ให้กู้ และฝ่ายบริหารโครงการ

1. ถ้าจะลดภาระยอดเงินกู้ ก็สามารถทำได้โดยให้ผ่อนดาวน์ไปก่อน

2. ธนาคารต้อง ลดเงื่อนไขผู้กู้ เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวบ้านสามารถกู้ได้ไม่ยาก

3. ผู้กู้เองก็ต้องพยายามช่วยเหลือทางการด้วย เช่นการผ่านเงินในบัญชี
เพื่อแสดงรายได้ประกอบการยื่นกู้หรือหาผู้กู้ร่วม


ไม่เห็นจะมีอะไร แค่นี้ทำเป็นโวยวาย เรื่องแค่นี้ ระดับปฏิบัติ ตัดสินใจไปได้เองอยู่แล้ว
แต่ไม่ทำเพราะ หลักคิด ของคนทำงานภาครัฐ มันไม่กล้าคิด ไม่กล้าทำ ไม่กล้าตัดสินใจ
เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย อะไรๆ ก็ต้องให้ฝ่ายการเมืองเดินเกมส์อย่างเดียวมันไม่ได้

ถ้ากลัวติดคุก ก็สรุปแผนแก้ไขปัญหา เสนอให้รัฐพิจารณาตัดสินใจไปก็สิ้นเรื่อง(เผลอๆเค้าทำกันไปแล้วมั้ง)

วันก่อนรัฐมนตรีวัฒนามาออกรายการกรองสถานการณ์ ก็แจ้งการแก้ปัญหาให้เรียบร้อยแล้ว
รัฐจะค้ำประกันให้ก่อน รายละเอียดจำไม่ได้

นั่น...เห็นไหมล่ะ.........

พฤติกรรมแบบนี้ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่หยิบเอามาดิสเครดิตกันก็เท่านั้น

ตอนที่มีการแก้ไขปัญหา สื่อมวลชั่วบางสำนัก มันไม่นำเสนอหรอก

ผมมองว่าการแก้ปัญหาแบบคุณวัฒนา ไม่ได้ทำให้ประเด็นเรื่องบ้านคุณภาพต่ำกว่าราคาที่ต้องจ่ายตกไป

อีกไม่นานเรื่องนี้จะต้องเข้าสู่ สคบ. และจะต้องมีการไล่เบี้ย บี้กันไปเป็นทอด ๆ คอยติดตามครับ

การแก้ปัญหาของรัฐบาลเรื่องบ้านเอื้ออาทรที่ทำกันอยู่ขณะนี้ คือ การแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการ เนื่องจากผู้ประกอบการรับเหมาไม่มีเงินทุนหมุนเวียน เป็นเหตุให้ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามกำหนดระยะเวลาได้ หลายโครงการต้องหาผู้รับเหมาใหม่

"เพื่อให้โครงการที่จะส่งมอบปลายปี 2549 ต้นปี 2550 สามารถส่งมอบให้กับการเคหะแห่งชาติได้ตามกำหนดระยะเวลา รัฐบาลจึงใช้วิธีให้ผู้ประกอบการรับเหมาที่เข้าไปดำเนินงานก่อสร้างโครงการ นำโครงการเข้าไปจำนองกับธนาคาร โดยรัฐบาลค้ำประกันให้ เพื่อให้มีเงินมาหมุนเวียนในการก่อสร้างโครงการให้แล้วเสร็จตามระยะเวลา"

ก็ต้องยอมรับว่ามีความพยายามในการที่จะแก้ปัญหา แต่เป็นการแก้ปัญหาแบบหญ้าปากคอก

ถ้าข้อมูลที่ จขกท.ว่ามา"จริง" เรื่องค่าก่อสร้างบ้านระดับนี้
ราคาสูงถึง 300,000 บาทก็ถือว่าแพงไป....


เอาเฉพาะค่าก่อสร้าง + วัสดุ ไม่รวมค่าที่ดินนะ....

ขอบคุณ Killer ที่ยอมรับในข้อเท็จจริง

ข้อมูลที่ ss2507 นำมาตีแผ่ทั้งหมด ได้มากจากผู้รับเหมาก่อสร้างที่เข้าร่วมโครงการบ้านเอื้ออาทร แต่อยู่ที่ไหนอย่าให้บอกเลยเดี๋ยวเค้าจะเดือดร้อนเปล่า ๆ

เพราะเอาแค่ที่ผ่านมาเค้าก็สาหัสพอแรงแล้ว ลงทุนไปร้อยกว่าล้านมีกำไรเหลือแค่ 1,000,000 บาทเศษ จ่ายภาษีให้สรรพากรแทบไม่พอ

ขอค้านนะ
เรื่องราคาที่ว่า3แสนกว่าผ่อนไปผ่อนมากลายเป็น9แสนหน่ะ
มีอะไรบ้างที่ผ่อนแล้วคงที่ :?: ยกเว้นแต่จะผ่อน0%

อย่าว่าแต่บ้านเอื้ออาทรเลย บ้านทั่วๆไปที่ขายๆกันนี่พอผ่อนเสร็จ
เบ็ดเสร็จแล้วมันก็เพิ่มขึ้นไปกันทั้งนั้น

เอาตัวอย่างง่ายๆ(พอดีมีโบร์ชัวร์อยู่ในมือ พึ่งไปดูมาเหมือนกัน เพราะมีแววจะโดน
เฉดหัวออกจากบ้าน เนื่องจากเจ้าลูกชายตัวแสบมันไปแผลงฤทธิ์เข้าให้) :oops:

บ้านราคา3ล้านหักดาว3แสน ผ่อนต่ออีก2ล้าน7เป็นเวลา30ปี ผ่อนเดือนละ2หมื่นต้นๆ
รวมเบ็ดเสร็จแล้วเท่าไรหล่ะ===>7.2ล้านเจ้าค่ะ :wink:

ข้อดีของบ้านเอื้ออาทรคือ ให้คนมีรายได้น้อย ได้มีบ้านเป็นของตัวเอง
ในกำลังที่ผ่อนไหว เพราะเดือนละ1500บาทนี่ เดี๋ยวนี้เช่าเอายังไม่ได้เลย(มั้ง)

ส่วนเรื่องวัศดุ+คุณภาพ ก็เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าเหมือนกับเอาแผ่นยิบซั่มประกบๆๆกัน
แค่พอให้เป็นกล่องมุดหัวเข้าไปอยู่ได้

นาย ss2507 น่าจะมีรายละเอียดอยู่กับตัวทั้งหมด แต่แต่งหัวเรื่องว่าหลอกเหมือนกับไม่มีใครรู้เรื่องดอกเบี้ย
ต่อมาก็ยกเรื่อง ส่วยขึ้นมาลอยๆ ตามด้วยการล็อคสเป็ควัสดุที่ไม่มีหลักฐาน การขอค่าน้ำร้อนน้ำชา ทั้งที่
ตัวเองก็รู้เรื่องระบบการก่อสร้างและปัญหาราคาวัสดุขึ้น รวมทั้งการพยายามแก้ปัญหาของรัฐมนตรีวัฒนาเป็น
อย่างดี จบด้วยข้อมูลตีแผ่จากผู้รับเหมา คำว่ารับเหมาก็บอกอยู่แล้วว่าคิดราคาตั้งแต่เริ่มโครงการ โครงการนี้
ไม่มีค่าเคนะครับ ท่านรัฐมนตรีวัฒนายังช่วยจนมีกำไรไม่ขาดทุนก็ดีแค่ไหนแล้ว ลองไปหาดูข้อมูลเองแล้วกันว่า
วัสดุก่อสร้างมันขึ้นขนาดนี้ ถ้าไม่ช่วยขาดทุนแน่นอน พอช่วยก็ยังจะหาว่ามีนอกมีในกันอีก วัตถุประสงค์ของ
ss2507 คือ ดิสเครดิตอย่างเดียว แต่คนในนี้แม้จะเป็นฝ่าย AT ก็รู้มากนะครับ ถ้าจะ post ข้อมูลอะไรก็ขอเป็น
ข้อมูลตรงๆ เลยดีกว่าไม่ต้องชี้นำ แล้วค่อยๆ ปล่อยออกมา มันดูไม่ดีนะครับ

[/color]
-----------------------------------
ขอบคุณมาก ๆ เลย "ชอบแถ" ที่ยอมพูดตรง ๆ
ใช่ ss2507 มีข้อมูลทั้งหมดอยู่เต็มมือ แต่ "ชอบแถ" ก็ตะแบงของคุณไปเรื่อยเฉื่อย

"เสรีไทย" คืออะไร วานไปดูกระทู้ของ "ปุถุชน"

ณ ที่ตรงนี้เราต้องการที่จะนำความไม่ชอบมาพากลของรัฐบาลทักษิณมาตีแผ่ เพื่อให้สมาชิกคนอื่น ๆ รู้เท่าทัน ใช่หรือไม่?

ss2507 ขอประกาศเจตนารมณ์ ณ บรรทัดนี้ ต่อไปจะเลิกใช้ "หน้าเหลี่ยม" แต่จะเล่นกันตรง ๆ "พ.ต.ท.ทักษิณฯ"จะได้สะใจกันไปข้าง

ยืนยันด้วยเกียรติ..คนไปจองสิทธิบ้านเอื้ออาทรของรัฐบาลทักษิณ ไม่เคยมีใครรู้เรื่องดอกเบี้ย เรื่องส่วยที่ว่าถ้าคุณเป็นคนที่ทำงานอยู่กับ "การสืบสวนสอบสวน" ถามว่าคุณจะหูผึ่งไหม?

เรื่องนี้มันไม่ใช่มาโผล่อยู่เฉพาะตรงจุดนี้..ที่อื่นก็มีคนเข้าไป post ด้วย และคนที่เข้าไปก็ไม่ใช่ ss2507 อีกต่างหาก

คนที่ post อาจไม่ใช่คนเชียร์ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่าง "ชอบแถ" ไม่ใช่สมาชิก ทรท.
แต่อาจเป็นคนทำงานอยู่ใน "หน่วยงานที่ทักษิณชอบอ้างว่ารู้ล่วงหน้าจาก....แล้วว่าจะมีคนลอบสังหาร หรือเวลาเกิดเหตุที่ภาคใต้ ก็บอกว่าผมได้รับรายงานจาก....แล้ว"ก็ได้

ใช่..รัฐบาลคือคนกุมบังเหียน หรือเป็นผู้บังคับบัญชา แต่คุณ "ชอบแถ" เคยได้ยินคำว่า "กบฎ" ไหม ?

คุณจะเชื่อหรือไม่ตามใจคุณ "เพื่อชาติ เพื่อบ้านเมือง เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ"  มีคนพร้อมที่จะเป็นเยอะเลย อย่างที่ "รองบรรณวิทย์" กำลังเป็น

เรื่อง "ส่วย" เรื่อง "ล๊อกสเปค" ไม่ใช่การกล่าวอ้างลอย ๆ

"ชอบแถ"มีเพื่อนฝูงเป็นผู้รับเหมาที่เข้าร่วมโครงการบ้านเอื้ออาทรไหม ลองไปถามเขาดูทีปะไรว่าเป็นอย่างที่ ss2507 บอกเล่าให้ฟังหรือไม่ ?

ss2507 ไม่อยากทะเลาะกับใครในเวบบอร์ด และไม่มีเจตนาชี้นำใครให้ไปด่าใครเล่นอย่างที่ "ชอบแถ"เข้าใจ

"บ้านเอื้ออาทรหลังน้ำลดตอผุด "รัฐบาลทักษิณ"หลอกคนจนเป็นหนี้ชั่วลูกชั่วหลาน?" จริงหรือไม่ เพื่อนมิตรในเวบบอร์ดเสรีไทยคือผู้วิพากษ์ และเปิดโอกาสให้ฝ่ายสนับสนุนทักษิณวิพากษ์ชี้แจงข้อกล่าวหาได้อย่างเสรี

เรื่องนี้ยืนยันว่ายังไม่ถึงตอนอวสาน.. ss2507 จะมาแฉต่อไปอีกสัก 2 - 3 ตอน!
----------------------------
หมายเหตุ ** อย่าติดใจเรื่อง "การสืบสวนสอบสวน - รองบรรณวิทย์" เพราะไม่ใช่สาระ ที่ ss2507 ออกมาแฉก็เพราะไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลและเห็นว่ารัฐบาล "หลอกคนจน เพียงเพื่อเพราะผลประโยชน์ส่วนตัว"

อ้อ..บอกไว้ล่วงหน้าต่อไป คือ บัตร ปชช.สมาร์ทการ์ดเอื้ออาทร ผลประโยชน์เพื่อใคร ? "ชอบแถ" กรุณาเตรียมหาข้อมูลมาหักล้างด้วยนะครับ .. ขอบคุณล่วงหน้า
--------------------------

ผมนะ เคืองอยู่อย่างหนึ่ง เอื้ออาทร ไปเกือบทุกอย่าง ทำไม๊ ไม่มี อาบอบนวด เอื้ออาทร บ้าง....

อาบก่อน ผ่อนทีหลัง

มั่วแล้วนั่นมาราคาประเมินเอกชน ถ้ารัฐบาลต้องการเอื้ออาทรจริง ๆ ยอมขาดทุนสิครับ เอื้อแน่ ๆ ไหน ๆ ก็เคยเอาเงินเด็กมาปล่อยกู้ไม่มีดอกเบี้ยมาแล้ว สร้างบ้านขาดทุนอีกซักหน่อยจะเป็นไรไป ไหนคุยไว้เยอะไงว่าทักษิณคนเดียวที่สนใจคนจน แล้วตอนนี้ไม่สนใจแล้วเหรอ

เขาเคยไม่มั่วตอนไหนบ้างอะครับ :mozilla_cool:

แบบนี้เค้าเรียกว่า "เอื้อหลอกแดก" มากกว่า หาหลอกแดกได้เฉพาะกับตาสี-ตาสาเท่านั้นแหละ
ถ้าจะให้เป็น "บ้านเอื้ออาทร" จริงๆก็ควรจะเป็นแบบ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 30 ปี ใม่ใช่ อัตราดอกเบี้ยลอยตัว
 

ถึงท่านทั้งหลาย ที่เชียร์ นายก

คืออยากบอกอย่างนี้ครับ ท่านจะรักจะเชียร์ ก็ไม่ว่ากัน แต่บางกระทู้ที่ท่านเข้ามาตอบไม่อยากให้ตกประเด็น ของหัวข้อกระทู้ไป

เอาในส่วนของกระทู้นี้ก่อนละกัน คำว่า "บ้านเอื้ออาทร" ชื่อมันก็ฟ้องอยู่แล้วมาทำมาเพื่อใคร ฉะนั้นเรื่องดอกเบี้ยที่ต้องส่งให้แบงค์ ทางรัฐก็ควรหาทางช่วยเหลือ
ทีเงิน หมู่บ้านละ 1 ล้าน โคล้านตัว แมกโปรเจ็ค แม้แต่ ค่าก่อสร้างสนามบิน หรืออื่น ๆ หามาได้ แล้วแค่บ้านเอื้ออาทร ซึ่งถือเป็น 1 ในปัจจัย 4 พื้นฐานของมนุษย์ทำไมไม่ช่วยให้จริงจัง
ถ้าจะบอกว่า ผ่อนบ้านที่ไหนเค้าก็มีดอกเบี้ยกันทั้งนั้น ผ่อน 10 ปี 20 ปี 30 ปี ดอกเบี้ยรวมกับราคาบ้าน มันต้องเพิ่มเป็นเท่าตัวของราคาบ้านเรื่องนี้ ผมหรือคุณก็รู้ดี

แต่คนจน ย้ำ คนจน คนหาเช้ากินค่ำ เค้าไม่ค่อยรู้หรอกครับ น้อยมากที่จะรู้ บางคนไม่เคยผ่อนอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะไม่มีปัญญา อย่างมากก็ผ่อน ทีวี วิทยุ ไม่เกินปี ดอกเบี้ยไม่กี่บาท แล้วทีนี้พอไปเจอกับค่าผ่อน + ดอกเบี้ย ขนาดนี้เค้าก็รับไม่ได้หรอกครับ เพราะฟังจาก รัฐ มาว่าเป็นบ้านเอื้ออาทร เค้าก็ต้องคิดว่าเป็นของรัฐ เพื่อประชาชน

แล้วก็เรื่อง การทำเรื่องกู้แบงค์ เอาตัวอย่างง่าย ๆ ทำงานโรงงาน ได้ค่าแรงขั้นต่ำ วันละ 200 ( อันนี้สมมุตินะ จะได้คูณตัวเลขง่าย ๆ) ทำงานเดือนนึง 25 วัน หยุดวันอาทิตย์ เดือนนึงได้ 5000.- คนกลุ่มนี้ ส่วนมากจะมาจากต่างจังหวัดเช่าห้องอยู่ อย่างดีก็มีที่พักของโรงงานให้ เช่าห้องเดือนละ 1500.- เค้าอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง คุณบอกให้เค้าไปทำบัญชี ให้แบงค์เห็นตัวเลข คนส่วนนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปทำ ครับ เช้าทำงาน เย็นเลิกงานแบงค์ปิด พักเที่ยงจะไปแบงค์รึ ยากครับ ส่วนมากโรงงานตั้งอยู่ห่างจากแบงค์เป็นกิโล หรือดีหน่อยบางโรงงานเอาเงินเข้าบัญชีให้ทุกเดือนไปกด atm เอา แล้วคุณคิดว่า ตัวเลขแค่นี้แบงค์จะปล่อยกู้ สินเชื่อบ้านให้เค้าเหรอ

คิดง่าย ๆ แบบ ประหยัดสุด ๆ (แถมไม่ต้องหักประกันสังคมด้วยนะ) สำหรับพวกมีที่พักที่โรงงาน ไม่ต้องเดินทางมาทำงาน ไม่กินเหล้า ไม่เที่ยว
เงินเดือน 5000 หักค่ากินใช้ประจำวันข้าว 3 มื้อ 60.- เดือนนึงก็ 1800.-
ค่าของใช้ส่วนตัว สบู่ ยาสีฟัน แปลงสีฟัน ผงซักฝอก เดือนละ 300.-
ค่าน้ำค่าไฟ แบบประหยัด 500.-
เอาแค่ 3 ยอดนี้ รวมกันก็ 2600.- หักแล้วเหลือ 2400.- เอายอดนี้ไปทำเรื่องกู้แบงค์ คิดว่าจะผ่านไหม
แล้วพวกที่ต้องนั่งรถมาทำงาน ต้องมีค่าเดินทางเพิ่มเข้ามาอีก อันนี้ยิ่งหนักเข้าไปอีก

แล้วอาชีพอื่น ๆ อีกหล่ะ ขับรถรับจ้าง ลูกจ้างรายวัน กรรมกร ค้าขาย(เฉพาะรายเล็ก) คนเหล่านี้คนจนของจริงนะครับ ตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการบ้านเอื้ออาทร แท้ ๆ แต่คนเหล่านี้ ไม่มีปัญญาไปผ่อน ไม่มีปัญญาไปกู้แบงค์  แล้วอย่างนี้โครงการนี้จะทำมาเพื่อใคร ทำมาทำไม ถ้าไ่ม่ทำให้คนจน

คนรวยกว่าหรือมีรายได้ดีกว่านี้เค้าก็ไม่ไปอยู่ ก็มีแต่คนที่กล่าวมาข้างต้นนั่นแหละ ที่ต้องการบ้านเหล่านี้ 

จะรักจะเชียร์กัน ไม่ว่า แต่เอาเป็นเรื่อง ๆ อันไหนดีก็กว่ากันไปตามดี อันไหนไม่ถูกต้องไม่ดี ก็ควรติเตียนกันบ้าง เพื่อประโยชน์ของสังคม ของคนหมู่มาก  ไม่ใช่จะเข้าข้างกันตลอดอย่างนี้ ก็ไม่สมควร

โครงการนี้รัฐ บอกว่าทำเพื่อประชาชน เอาหละ ด้วยความดีของรัฐ ประชาชนจึงเท คะแนนให้อย่างยินดี แต่ทำออกมาแล้วมันเป็นอย่างนี้ ไม่สงสารคนจน ๆ กันบ้างเหรอ
อีกอย่าง การที่รัฐ ออกโครงการอย่างนี้ มันไม่ใช่ได้แค่คะแนน เสียงจากคน กรุงเทพที่หวังจะมีบ้านเหมือนกับคนอื่น ๆ เขาหรอกนะ มันได้คะแนนเสียงอีกมากมายจากคนไทย ในหลาย ๆ จังหวัด หลาย ๆ อำเภอ เพราะรัฐ ประกาศออกทีวีไปทั่วประเทศ ใครฟัง เค้าก็ว่า รัฐนี้ดีนะ รู้จักมองคนจน รู้จักช่วยเหลือคนจน  ก็ให้คะแนนไป

ปกติผม ก็ไม่เข้าข้างใครอยู่แล้ว ทั้ง รัฐ หรือ พันธมิตร ผมมองเป็นเรื่อง ๆ ไป อันไหน รัฐทำดีผมก็รับว่าดีแล้ว ควรแล้ว ถูกต้องแล้ว
อันไหน รัฐทำไม่ดีผมก็ว่า ไม่ดีแล้ว ไม่ควรแล้ว แก้ไขได้มั้ย ทำได้ทำสิ ช่วยกัน เราคนไทยด้วยกัน

คุณ ๆ ทั้งหลายที่เชียร์ อย่าให้ความรักทำให้ตาบอด สิครับแยกเป็นเรื่อง ๆ หน่อย 

ความจน มันจ๊น จน  จนอธิบายไม่ถูกนะครับ รู้แต่ว่ามันกินไม่ได้ แล้วมันก็ติดตัวเราไปทุกที่ ใครไม่เคยจน ไม่รู้หรอกครับ คำว่ากินน้ำตาต่างข้าวมันเป็นยังไง
แล้วก็อย่าบอกว่า ไม่ขยัน กินแต่เหล้า (อย่างในโฆษณานะครับ) จะรวยได้อย่างไร มันไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ บางคนทำแทบตาย เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่ดูด ก็ได้แค่ ที่ผมเล่าให้ฟังนี่แหละ

ค่าข้าวของคุณมื้อเดียวบางครั้ง พวกเราคนจน กินได้ทั้งเดือนนะครับ

คุณ tnet พูดเข้าท่า จขกท. ก็แฉได้ดี มานั่งรอฟังต่อครับ

คุณ tnet พูดไม่เข้าท่า เจ้าของกระทู้ก็แฉได้แย่ คนจนที่อยู่บ้านเอื้ออาทรได้
นี่เป็นกลุ่มที่ไม่สามารถกู้เงินซื้อบ้านได้แต่ก็ไม่จนขนาดเดือนละ 2000-3000
จะผ่อนไม่ไหว โดยรัฐจะค้ำประกันให้ก่อน ถ้าไม่จ่ายตามงวดก็จะโดนยึดตาม
กฎเกณฑ์ที่ตกลงกันไว้ พวกคนจนกลุ่มนี้มีงานเป็นหลักเป็นแหล่งทำและเป็น
คนกลุ่มใหญ่มาก ย่อมเห็นว่าการมีบ้านเป็นของตนเองในราคาเท่ากับเช่าย่อม
จะดีกว่าเช่า ส่วนกลุ่มที่จนกว่านี้ ไม่มีความรู้เรื่องผ่อน หักค่าใช้จ่ายจากรายได้
แล้วเดือนหนึ่งจ่ายค่าเช่าไม่ไหว ไม่ได้อยู่บ้านเอื้ออาทรหรอกครับ เพราะจำนวน
บ้านเอื้ออาทรก็ยังจำกัด แค่กลุ่มคนจนกลางก็ไม่พอแล้วครับ

เพื่อนที่เป็นตำรวจอยู่สันติบาล บอกมาว่าสละสิทธิบ้านเอื้ออาทรไปตั้งแต่ปลายปี 2548 แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาการเคหะแห่งชาติมีหนังสือแจ้งให้ไปทำสัญญาเช่าซื้อโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง

ไม่ได้รับแค่คนเดียวนะ ตรวจสอบเบื้องต้นมีคนสละสิทธิไปแล้วได้รับแจ้งว่าเป็นผู้ได้สิทธิเช่าซื้อบ้านเอื้ออาทร เกิน 50% ของจำนวนหน่วยก่อสร้างทั้งหมด

เดี๋ยวขอไปดูรายละเอียดหนังสือและเงื่อนไขที่การเคหะฯ แจ้งในหนังสือก่อน แล้วจะกลับมาสาธยายให้ฟัง

แต่งานนี้ที่ชัดยิ่งกว่าชัดก็คือ การเคหะและรัฐบาลกำลังหาทางออกให้กับตัวเอง หลังจากที่มีคนแห่ถอนสิทธิขอคืนเงินมัดจำกันจนไม่มีปัญญาจะหาเงินมาจ่าย

นี่ถ้าบอกกับชาวบ้านตรง ๆ ไปเสียตั้งแต่แรกว่าอะไรเป็นอะไร ไม่ใช่ "หมกเม็ด" คิดเพียงเพื่อหลอกลวงให้ประชาชนไปลงคะแนนเสียงเลือกตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีเพียงอย่างเดียว ปัญหาคงไม่เกิด

ถ้าผมจำไม่ผิดคืนวันก่อนที่จะเสียชีวิต กามนิต นั่ง สนทนากับพระพุทธเจ้าทั้งคืน ตอนเช้าได้ยินชาวบ้านบอกว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมายังหมู่บ้านนี้ กามนิต ก็ผลุนผลันออกไป เพื่อจะไปหาพระพุทธเจ้า แล้วก็โดนควายขวิดตาย

มีคนเยอะมากที่เหมือนกามนิต ข้อเท็จจริงวางให้เห็นอยู่ตรงหน้า ก็ยังไม่เชื่อ

มันเป็นข้อเท็จมากกว่าจริง แล้วจะให้เชื่ออย่างไรครับ โดยเฉพาะข้อมูลจากผู้รับเหมา
ถ้าไม่เขี้ยวจริงเป็นผู้รับเหมางานรัฐไม่ได้หรอก รู้รู้กันอยู่ ได้ก็เงียบ เสียทำเป็นโวย

ผมถึงบอกงัยว่า มีคนเยอะมากที่เหมือน กามนิต  นั่งคุยอยู่ด้วยทั้งคืน แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นพระพุทธเจ้า

ต้องยอมรับว่าหน้าเหลี่ยมมันฉลาดมากครับที่หลอกคนส่วนหนึ่งในประเทศได้จนมีคนยอมถวายวิญญาณให้

มือมืดยิง “รีเควสต์เทียม” ถล่มเว็บผู้จัดการหนัก!!
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 15 กันยายน 2549 17:38 น.
 
         หลังจากมีความพยายามปิดกั้นข้อมูลข่าวสารจากเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ โดยผู้ไม่ประสงค์ดีหลายต่อหลายครั้ง ล่าสุด เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงวันพุธ-พฤหัสบดี (13-14 ก.ย.) เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ ได้ถูกโจมตีอย่างหนัก จนไม่สามารถให้บริการข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็วตามปกตินั้น
       
       ทีมงานเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ ได้ตรวจสอบปัญหาดังกล่าว พบว่า การโจมตีของผู้ไม่ประสงค์ดีต่อเว็บครั้งนี้ใช้วิธียิง “รีเควสต์” เข้ามาที่หน้า www.manager.co.th และหน้าข่าวอื่นๆ ภายในเว็บพร้อมๆ กันจำนวนมหาศาล ซึ่ง “รีเควสต์” ดังกล่าวเปรียบเสมือนคำขอจากผู้ใช้ส่งมายังเซิร์ฟเวอร์ เพื่อขอสิทธิในการเปิดหน้าแรกเว็บผู้จัดการออนไลน์ ในกรณีที่มีการขอเปิดหน้าแรกเว็บมากจนเกินไป ทำให้ระบบไม่สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดปัญหาการเข้าชมเว็บล่าช้าดังที่ผ่านมา
       
       ต้นตอของปัญหาดังกล่าวเปรียบเสมือนกับการมี “ผู้อ่านที่ไม่มีตัวตน” คอยเปิดดูหน้าเว็บผู้จัดการออนไลน์วินาทีละจำนวนมหาศาล ทำให้ผู้อ่านทั่วไปเข้าชมเว็บได้ช้ากว่าปกติเป็นอย่างมาก
       
       การโจมตีเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วนตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา และวิธีการโจมตีก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ความเสียหายจากการโจมตีครั้งนี้ทำได้แค่เพียงสร้างความรำคาญใจให้กับผู้อ่าน แต่ไม่ได้ทำความเสียหายให้กับเนื้อหาข้อมูลที่มีแต่อย่างใด
       
       ทั้งนี้ ทีมงานผู้จัดการออนไลน์กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยจะต้องมีการลงทุนเพิ่มทั้งด้านอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าชมเว็บด้วยความรวดเร็วตามปกติโดยเร็วที่สุด
---------------------------------

หายตัวไป 2 วันเต็ม ไม่ใช่เหตุผลอื่น  แต่เป็นเพราะพยายามจะกลับเข้ามาต่อกระทู้ แต่เข้าอยู่เกือบ 10 รอบต่อวันแต่ทำไม่สำเร็จ

ไม่รู้มี "แมวหน้าตัวเมียที่กลัวความจริงเปิดเผยตัวไหนไม่รู้ "ยิงรีเควสต์เทียม” เข้ามาป่วน"(ฝากผู้ดูแลเวบตรวจสอบด้วยนะครับ)
 
โทรคุยกับเพื่อนตำรวจสันติบาลยศ "นายดาบตำรวจ" ทำงานอยู่แถบจังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา ได้ความว่า ในจังหวัดที่หน่วยตำรวจสันติบาลของเพื่อนตั้งอยู่ เปิดให้จองโครงการบ้านเอื้ออาทรตามนโยบายแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของ "ชนชาวรากหญ้า" ของรัฐบาล "ทักษิณ" โครงการที่ 1 จำนวน 499 หน่วย เมื่อกลางปี 2547

เพื่อนบอกว่า รับราชการมาตั้งแต่เป็นพลตำรวจอายุ 20 เศษนิดหน่อย จนถึงปัจจุบันเป็น "ดาบตำรวจ" อายุร่วม 50 ปี อยู่มาตั้งแต่ตำรวจภูธร ร่อนเร่ไปอยู่ กอ.รมน., ศูนย์ปราบปรามยาเสพติด เมีย 1 ลูก 3 อาศัยแต่บ้านหลวง เลยอยากมีบ้านช่องห้องหอเป็นของตัวเอง จึงไปจองสิทธิบ้านเอื้ออาทร

แต่คุณสมบัติไม่ผ่าน เนื่องจากรายได้เกินกว่า 15,000 บาทต่อเดือน(ตัวเองเงินเดือน 11,000 บาท เมียเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดน(อส.)เงินเดือนเต็มขั้น 9,000 บาทเศษ)

วันดีคืนดี ได้รับหนังสือจากการเคหะแห่งชาติแจ้งว่า

เรียน ท่านผู้มีสิทธิโครงการบ้านเอื้ออาทร.................

จากผลการจับสลากโครงการบ้านเอื้ออาทรโครงการ.....ณ สำนักงานใหญ่การเคหะแห่งชาติ กรุงเทพฯ ท่านเป็นผู้โชคดีได้สิทธิโครงการบ้านเอื้ออาทรโครงการ............. การเคหะแห่งชาติขอแสดงความยินดีมา ณ โอกาสนี้ และขอเชิญท่านไปทำการเลือกอาคารและทำสัญญาในวันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2549 เวลา 08.30 - 16.30 น. ณ...................ตามกำหนดการด้านหลังแผ่นนี้

การเคหะแห่งชาติ ขอให้ท่านโปรดสละเวลาไปเลือกอาคารและทำสัญญาให้เรียบร้อยตามกำหนดวัน เวลาดังกล่าวข้างต้นด้วย เนื่องจากการเคหะฯจะให้สิทธิเลือกอาคารตามลำดับที่ของการได้สิทธิ เพื่อประโยชน์ของท่านเอง

ขอแสดงความนับถือ
นายหัสดิน ไกรเพ็ชร
(นายหัสดิน ไกรเพ็ชร)
ผู้อำนวยการกองการตลาดและบริหารงานขาย 2
-------------------------
"งงเป็นไก่ตาแตกเลยว่ะ ก็บอกว่าขาดคุณสมบัติไปแล้ว ทำไมถึงมีหนังสือมาบอกว่า "เป็นผู้โชคดีได้สิทธิโครงการบ้านเอื้ออาทร" เอ้อ..ไปถามไอ้หมื่นมันด้วยนะเห็นมันบอกว่าได้รับหนังสือเหมือนกัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็บอกว่าขาดคุณสมบัติเหมือนกัน" เพื่อน ss2507 มันบอกด้วยความกังขา (ไอ้หมื่น..เป็นตำรวจสันติบาลเหมือนกัน ยศ "นายดาบตำรวจ" เมียรับราชการครู)
--------------------------
พลิกดูหน้าหลังเอกสาร งงหนักเข้าไปอีก เพราะโครงการบ้านเอื้ออาทรที่บอกว่าเพื่อน ss2507 โชคดีจับสลากได้ กลับไม่ยักกะใช่โครงการแรกที่ไปจองสิทธิ แต่เป็นโครงการ 2 ที่จะก่อสร้างมากมายก่ายกองถึง 1,575 หน่วย
--------------------------
หน้าหลังเอกสารแจ้งให้ไปเลือกอาคารและทำสัญญา ระบุว่า
กำหนดการเลือกอาคารและทำสัญญาโครงการบ้านเอื้อาทร.............วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2549 ณ ............................
เวลา 08.30 - 16.30 น.(พักเที่ยง 12.00-13.00 น.) 1. ประเภทยืนยันสิทธิทะเบียนคนจน ลำดับที่ 1 - 590, 2. ประเภทยืนยันสิทธิบุคคลทั่วไป ลำดับที่ 1 - 355 (เพื่อนss2507 อยู่ประเภทที่ 2 ลำดับที่ 93 ขณะที่ไอ้หมื่นอยู่ในกลุ่มที่ถูกเรียกทำสัญญาวันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน 2549)
--------------------------
มีหมายเหตุไว้ว่า
** ผู้ได้สิทธิต้องมาทำสัญญาด้วยตัวเองและโปรดนำหนังสือฉบับนี้มาด้วย ในกรณีที่ผู้ได้สิทธิไม่สามารถมาทำสัญญาด้วยตนเองได้ให้ทำหนังสือมอบอำนาจในการทำสัญญาพร้อมติดอากรแสตมป์ 10 บาท
**หากท่านไม่มาเลือกอาคารพร้อมทำสัญญาตามกำหนดข้างต้นถือว่าท่านสละสิทธิ์
(เพื่อน ss2507บอกว่าสละสิทธิ์ไปตั้งแต่บอกว่าขาดคุณสมบัติแล้วจะเอาอะไรอีก)
**เพื่อความสะดวกรวดเร็วกรุณาเปิดบัญชีอมมทรัพย์ธนาคารทหารไทย สาขา............มาล่วงหน้า แต่หากท่านต้องการชำระครั้งเดียว 18 งวด(9,000 บาท)ไม่ต้องเปิดบัญชีธนาคาร
(เพื่อนss2507 งงยิ่งกว่าโดนไม้หน้าสาม เพราะโครงการแรกที่เลือกอาคารและทำสัญญาไปเมื่อเดือนเมษายน 48 เงินมัดจำงวดละ 300 บาท เก็บ 12 งวด 3,600 บาท)
--------------------------
มาดูกันต่อที่เอกสารหลักฐานซึ่งต้องนำไปใช้
1. หลักฐานประกอบการทำสัญญา
    บัตรประจำตัวประชาชนพร้อมสำเนา      2 ชุด (กรณีจดทะเบียนสมรสใช้ของคู่สมรสด้วย)
    ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา                   2 ชุด (กรณีจดทะเบียนสมรสใช้ของคู่สมรสด้วย)
    ทะเบียนสมรส หรือใบหย่า หรือใบมรณบัตร(ถ้ามี)พร้อมสเนา 1 ชุด
(นี่เพื่อนมันก็งงอีกเหมือนกันใบมรณบัตรจะเอาไปทำหอกอะไร หรือว่า "ผี"ก็ไปทำสัญญาได้โดยถือใบมรณบัตรไปด้วย)
    สำเนาหน้าแรกสมุดบัญชีธนาคารทหารไทย สาขา............. 1 ชุด(ในกรณีที่ท่านเปิดบัญชีมาล่วงหน้าแล้ว)
2. ค่าใช้จ่ายในการทำสัญญา
    -เงินมัดจำล่วงหน้า 2 งวด(งวดละ 500 บาท) จำนวน 1,000 บาท หรือชำระครั้งเดียว 18 งวด 9,000 บาท
    -เงินสำหรับเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 100 บาท (กรณีชำระงวดเดียว 18 งวดไม่ต้องเปิดบัญชี)และธนาคารจะให้บริการทำบัตร ATM โดยคิดค่าบริการ ในการทำบัตร 250 บาท
-------------------------
เพื่อนss2507 บอกว่า "ชาติหน้าตอนบ่ายสาม" ถึงจะไปเลือกอาคารและทำสัญญา เพราะ "ไม่มีสิทธิเนื่องจากขาดคุณสมบัติไปแล้วตั้งแต่แรก"

ประกอบกับไปดูบ้านที่มันเรียกว่า "ศาลพระภูมิ" ในโครงการแรกมาแล้ว มันบอกว่า "อยู่กัน 5 คนลูกสาว 2 คน ลูกชาย 1 คน พอมีที่ซุกหัวนอนที่ 2 ห้องข้างบน แต่ 2 ตา ยาย สามีภรรยาไม่รู้จะไปซุกหัวนอนตรงไหน"

แล้วมันยังคิดไม่ออกอีกต่างหากว่าจะเอา โทรทัศน์ 21 นิ้ว 2 เครื่อง ตู้เสื้อผ้า 2 หลัง เตาแก๊ส 1 เตา มอเตอร์ไชค์ 2 คัน ไปเก็บที่ไหน

"งงจริง ๆ เลยว่ะ "ศาลพระภูมิประเทศไทย" ราคา 390,000 บาท ผ่อนธนาคารระยะยาวรวมแล้วเป็นเงิน 907,000 บาท" เป็นหนี้ชั่วลูกชั่วหลาน แต่ไม่รู้จะเอาหัวไปซุกนอนตรงไหน นี่ขนาดครอบครัวตัวเองแค่ 5 คนนะ เกิดญาติพี่น้องจากต่างจังหวัดมาเยี่ยมแล้วขอนอนพักค้างคืนด้วย สงสัยต้องให้ไปนอนกลางถนนหน้าบ้านว่ะ"

เพื่อนss2507มันว่าของมันหยั่งงี้

อ้อ..มีแบบสำรวจความต้องการประชาชนก่อนจัดทำโครงการ, สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมบ้านเอื้ออาทร ที่ดูแล้วไม่เห็นมีข้อความไหนที่บอกว่ารัฐบาลค้ำประกันให้..ซื้อแล้วต้องไปผ่อนกับธนาคารในอัตราดอกเบี้ยลอยตัวมาด้วย แต่เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยนำมาแฉดีกว่า

(กลัวขี้เกียจอ่าน เพราะแค่นี้ก็ยาวเหยียดแล้ว)

เรื่องโกงไม่โกงผมไม่มีหลักฐานหรอกนะ  คงได้ยินแต่เค้าบอกเล่ากันมา

แต่ผมมองว่าโครงการนี้มันก็แค่ โครงการการตลาดเหมือนโครงการอื่นๆ  ในช่วงแรกที่เปิดจอง ผมกันแฟนก็ไปจองหลังจากนั้นก็รอ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เมื่อปีก่อนมีใบมาให้ไปฟังบ้าบอคอแตกไรไม่รู้  นึกว่าจะได้  กลายเป็นว่ามาบอกว่ากำลังหาพื้นที่  แล้วมันจะเรียกไปทำไรฟะ  ตอนนี้บอกแฟนว่าไม่ต้องไปตามมันแล้วละ  กู้ธนาคารไวกว่าอีก

คำว่า  "ของฟรีไม่มีในโลก"  ยังใช้ได้เสมอ  ไม่มีใครยอมทำแล้วขาดทุนหรอก   ความจริงรัฐน่าจะหาพื้นที่ว่างจัดสรรค์ที่ดินเปล่าๆ ให้ดีกว่านะ  แก้ปัญหาเรื่องการสร้างบ้านไม่ทันได้    แล้วรัฐไปสร้างเฉพาะอพาตเม้นต์สำหรับคนรายได้น้อยจริงๆ  ส่วนบ้านเดี่ยวคิดว่าคนซื้อคงพอมีตัง  รัฐจัดสรรที่ดินให้ไปสร้างบ้านเอาเอง   ไม่รู้ว่ากลัวบริษัทได้กำไรน้อยหรือไงเลยไม่ทำ

ที่ดินปัจจุบันมันก็ไปอยู่ในมือของคนมีเงิน บางที่ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์  น่าจะเก็บภาษีมันเข้าไปแพงๆ  ก็ไม่ทำเพราะมันของพวกนักการเมืองทั้งนั้น  แล้วมาบอกจะช่วยคนจน   พวกนี้ทำอะไรถ้าไม่ได้ผลประโยชน์ไม่เคยทำหรอก  บ้านเอื้ออาทรก็แค่ยื้อให้คนเลือกพรรคเท่านั้นละ 

โหวต โหวต โหวต  :mrgreen: