ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: ริวเซย์ ที่ 09-09-2006, 20:49



หัวข้อ: มองคาร์บ๊องจากสายตาทหารชั้นประทวน
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 09-09-2006, 20:49
คาร์บอมบ์คาร์บ๊องส์หรือไม่ ก็แล้วแต่วิจารณญานของใคร
แต่ขอให้ความเห็นจากสายตา ชั้นประทวนคนหนึ่ง อิอิ

ก่อนอื่นถามก่อนว่า ถ้า คาร์บอมบ์ บอมบ์สำเร็จแล้วบรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่ ถ้าไม่สำเร็จผลเสีย เสียมากแค่ไหน
เมื่อชั่งดูแล้ว ผลเสีย เสียหายหนัก ถ้าจะทำทั้งที เปรียบเสมือนผมต้องการฆ่าใครสักคน

ข้อแรกคือ ลงมือหนเดียวต้องไม่พลาด ความรอบคอบต้องสูงสุด

ข้อที่สองคือ มือสังหาร เสมือนว่า ผมคงไม่เอาพ่อครัวมาซ่อมรถ

ข้อที่สามคือ อาวุธที่ผมถนัดที่สุด เสมือนคู่ใจและตรวจสอบระบบให้แน่ใจว่าไม่ขลุกขลัก

ข้อที่สี่คือ ถ้าพลาดผมต้องมีแผนรองรับในการพามือสังหารหนีจากจุด หรือ ตัดออกจากบัญชีโดยไม่คำนึงถึงว่าต้องทำลายเป้าหมายกี่คน

ข้อที่ห้าคือ ดาบแรกไม่สำเร็จผมต้องมีดาบสองตาม

ทั้งห้าประการที่ว่ามา มีครบหรือไม่ เรามาดูกัน

ข้อที่หนึ่ง และข้อที่สอง  การกระทำงานลับ เริ่มจากวางแผนก่อน ถ้าจะรอบคอบคือ คนทราบจะต้องน้อยที่สุด และ ระดับวางแผนต้องอยู่ในไลน์คอมมานด์ทั้งสิ้น   

  ถามว่า คนในคดีนี้ ที่ชัดเจนว่าสารภาพ มี ร.ท. ธวัชชัย และจ่า ยักษ์ สองคนนี้ เป็นใครมีประสิทธิภาพและศักยภาพพอหรือไม่ที่จะมานั่งฟังหรือรับทราบทุกแผนที่มี 
คำตอบคือ
คนที่ 1 ) คนระดับ จ่า ยักษ์ มีสำหรับสั่งไปลงมือห้ามขยัน  มีหรือจะมาทราบแบบที่  จ่า ยักษ์เล่ามาฉอดๆ แบบนั้นมันต้องระดับ เสธ หรือ ไลน์ คอมมานด์แล้ว 
 แค่ บุคคลิก จ่า ยักษ์ เองก็ไม่ผ่านการคัดเลือกสำหรับงานแบบนี้  งานจ่ายักษ์ที่เหมาะคือ คุม วิน คุม บาร์ เก็บค่าส่วย หรือทวงหนี้ 

บุคลิกคนระดับทำงานลับขั้นนี้ จุดเด่นที่มองและเลือกคือ มีความชำนาญในงานนั้นๆผ่านการฆ่ามาในทุกสนาม  รูปร่างต้องสมส่วนแกร่งคล่องตัวสูงเก็บความลับเยี่ยม   แววตาต้องนิ่ง  เสือไม่มีแววตาหลุกหลิก เสือ ไม่มีบุคลิกของหมาปะปน

2) ธวัชชัย  อาจมีมาดนิ่งกว่า จ่า ยักษ์   แต่  ความเด็ดเดี่ยว ไม่มี แววตาที่สลด  สายตาที่ก้มมองพื้นตลอด  ส่อแววหวาดกลัว บุคลิก ของ ธวัชชัย เป็นได้แค่ คนเดินสารคนหนึ่งเท่านั้น

ผมเชื่อว่า หน้าที่ธวัชชัย นั้นแค่ ขับรถ แดวู จากเป้าหมาย แต่ ไม่เชื่อเด็ดขาดว่า ธวัชชัย จะได้รับมอบภาระกิจระดับนี้   ธวัชชัยไม่มีวี่แววของความเป็นเสือ ไม่มีวี่แววของเพชฆาต

ถ้าผมจะทำงานใหญ่ ผมไม่มีวันเลือกคนนี้  อย่าลืมว่า นี่แค่สายตา ชั้น ประทวนอย่างผมมอง

 แล้ว ถ้าคาร์บอมบ์จริง คนคอมมานด์จะมีหรือที่จะเขลาไปกว่าผม จนกระทั่งเลือกสองคนนี้
 
กรุณาวิจารณ์อย่างสร้างสรร   ออกตัวก่อนว่า  ผมใช้ตรรกะมองเยี่ยงผู้ได้รับมอบหมายให้ปฎิบัติการ ในการทำเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุด เยี่ยง ชั้นประทวน


หัวข้อ: Re: มองคาร์บ๊องจากสายตาทหารชั้นประทวน
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 09-09-2006, 20:50
ข้อที่สาม นี่ จะว่าไปเหมือนแกงจับฉ่ายหม้อใหญ่  กรณีการทำลายศัตรูธรรมดา ถ้าต้องการเงียบ ผมใช้มีด ย่องเข้าด้านหลังมือซ้ายคว้าหมับไปที่ปาก มือขวาทะลวงแทงขึ้นสูงผ่านชายโครงเข้าปอดแล้วคว้าน วนขวา
ผมจะไม่รีบร้อนกระชากออก แต่ จะควานให้แน่ใจว่าเลือดทุกหยดตกในไม่ออกมาให้เลอะเปอะไปหมด ถึงค่อยปล่อยเหยื่อนอนลง

 ผมไม่มีวัน เอาทั้งดาบ มีด ไม้หน้าสาม ปืนพก  ไปลงมือแน่นอน 

ระเบิดที่อยู่ในรถ ผสมปนเปให้แลดูน่ากลัว แต่มันกลวงโบ๋วในสายตานักฆ่าทุกคน   แดวู ก็เสมือนแกงจับฉ่ายหม้อใหญ่ นั้นมันอาหารสำหรับสิบล้อกินกัน

และถ้าผมจะเลือกจุดลงมือ ผมคงไม่เพ้อฝันว่า เป้าหมายจะพาตัวเองมาอยู่ในคิลลิ่งโซนที่ผมจัดไว้  มันดูเลื่อนลอยเกินไปที่คาดหวังว่า รถ เป้าหมายจะขับทางด้านล่าง 

 สมมุติว่า ผมจะลงมือ  จุดที่เหมาะที่สุดคือ ทางเลี้ยวออกจากซอย จุดนั้นจุดเดียวเพราะเป็นจุดบังคับ

 และจุดที่ผมข้องใจที่สุดคือ "  ชนวนที่อยู่ ทำไมปักไว้แค่สอง   ในหลักการแล้ว ทุกอันต้องมีชนวนไม่เช่นนั้นมันจะไม่ทำงานครบสมบูรณ์

คนทำงานใหญ่ระดับนี้การตรวจตราไม่น้อยกว่าสามครั้งขึ้น
โอกาศพลาด ต้องให้เท่ากับศูนย์   

และการทำงานครั้งนี้เป็นชิ้นที่สำคัญที่สุด ผมไม่มีวันที่จะใช้อุปกรณ์ที่ไม่สมบูรณ์และล้าหลังยุ่งยากต่อการทำงาน จะทำให้เทอะทะแบบนี้แน่นอน

กรุณาวิจารณ์อย่างสร้างสรร   ออกตัวก่อนว่า  ผมใช้ตรรกะมองเยี่ยงผู้ได้รับมอบหมายให้ปฎิบัติการ ในการทำเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุด เยี่ยง ชั้นประทวน


หัวข้อ: Re: มองคาร์บ๊องจากสายตาทหารชั้นประทวน
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 09-09-2006, 20:51
ข้อที่สี่คือ ถ้าพลาดผมต้องมีแผนรองรับในการพามือสังหารหนีจากจุด หรือ ตัดออกจากบัญชีโดยไม่คำนึงถึงว่าต้องทำลายเป้าหมายกี่คน

ข้อนี้คือจุดอ่อนที่สุดของกระบวนการครั้งนี้
การลงมือปฎิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายที่สำคัญ ต้องมี2 ถึง 3 ทีม ขึ้นไป การปฎิบัติการและการวางแผนเป็นอิสระที่ไม่เกี่ยวเนื่องกัน สามห่วงนี้ต้องสอดคล้องเสมือนเนื้อหนึ่งเดียว แต่ สลัดออกจากกันไม่เป็นภาระแต่ละข้อของห่วง   
ที่ สำคัญคือ จ่า ยักษ์ สำคัญแค่ไหนถึงทำให้คนระดับจ่า รับทราบแผนรองรับ ในทางปฎิบัติ จ่า ยักษ์ จะเสมือน หุ่น ที่ส่งไปเป้าหมายเท่านั้น

เมื่อ รท ธวัชชัย พลาด  ทีม 2 จะลงมือเป็นดาบสองทันที จุดนี้ผมไม่เห็น มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มี แค่วางแผนไปกระทืบจิ๊กโก๋ เรายังดักทางหนีเหมือนไล่สมันให้ตะเลิดไปสู่โซนที่จัดไว้เชือดเลย

ในขณะเดียวกันนั้น ทีม 3 จะลงมือกู้ ธวัชชัยทันที งานระดับนี้เราไม่มาพะวงว่าต้องฆ่าตำรวจกี่คนแค่ขอให้ห่วงแรกไม่ถูกกักเป็นใช้ได้ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็จำต้องเสียสละห่วงแรกเพื่อไม่ให้ความเสียหายเกิดขึ้น " การออกมาเดินโชว์ให้ถ่ายรูปหลังรถ " เป้าแบบนั้น จะมีเหลือหรือ   
คิดให้ดีว่า คนบางการสายคอมมานด์ที่ผ่านการฆ่าคนมามากมาย จะ ใจบุญสุนทาน รักษาชีวิต ธวัชชัย เพื่อใหฟ้เป็นเสี้ยนหนามย้อนมาฆ่าตัวเองหรือ
และกรุณาอย่าด่าว่าวิจารณ์ความเห็นข้อนี้  เพราะผมให้ความเห็นเยี่ยงผู้ปฎิบัติการ ไม่ใช่ เยี่ยงนักบุญ

ก่อนอื่นต้องทำความรู้จักฝ่ายตรงข้าม  ใครเป็นสมองฝ่ายโน้น พวกซ้ายเก่า เกินกว่าครึ่ง   นักเลงราคาถูก อีก หนึ่ง ส่วน  สีกากีที่เพ้อฝันหลงยุค อีกส่วนหนึ่ง  ที่เหลือคือ เขียวขี้ม้ากลายพันธ์

ซ้ายเก่ามักสนใจภาพลักษณ์ความชอบธรรมในสังคม  กรณี ตำรวจเก๊จิ๊กโก๋ปากซอยกระทืบประชาชนสร้างความกังวลใจให้ ซ้ายเก่าขนาดนอนไม่หลับ
พรานกากี นักเพ้อฝันมักลืมตัวแสดงออกในด้านที่ตนถนัดคือการยัดหลักฐานจับก่อนตั้งข้อหาที่หลัง
เขียวขี้ม้ากลายพันธ์ หวาดระแวงว่า ยามใดที่ ประกาศ ฉุกเฉิน พี่พัลลภ จะเหมือนเสือติดปีก จะเป็นคนที่ถือดาบประกาศิตพร้อมที่จะหันคมดาบฟันได้ทุกเมื่อ พี่ พัลลภ เหมือนผงในดวงตาที่ระคายเคืองต้องเขี่ยออก
ทั้งสามข้อที่กล่าวมา ก็มากเกินพอแล้ว ที่ คาร์บอมบ์ จะกลายเป็นคาร์บ๊องส์ขึ้น

ทีนี้มาว่าด้วยแผนก่อนปฎิบัติจริง
การกระทำใดๆเพื่อบรรลุเป้าหมายอันสูงสุดเราคำนึงทั้งผลสำเร็จและไม่สำเร็จ เราชั่งผลลัพท์ทั้งสองอย่างก่อนลงมือแน่นอน 
ผลสะท้อนใดๆที่จะบังเกิดขึ้นต้องถูกวางเพื่อแก้ไข   สถานการณ์เทียมต่างๆถูกสมมุติขึ้นในทุกแง่มุมก่อนวางแผนเสมอๆ 

ก่อนวางแผน เสธ จะแยกเป็นสองทีม
1) ทีมลงมือ  ทีมนี้จะครุ่นคิดสารพัดวิธีการ ทั้ง บุคคลากรอุปกรณ์สิ่งแวดล้อม ความเป็นไปได้  การแก้ไขสิ่งที่พลาดการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้น 
2)ทีมป้องกัน ทีมนี้จะค้นคิดวิธีป้องกันเป้าหมายประหนึ่งตนเป็น ชุดคุ้มครอง  สันนิษฐานความเป็นไปได้ และเสนอแผนการขัดขวางทำลาย ส่งคนแทรกซึมยังฝั่งตรงข้าม   
หลังจากนั้น ทั้งสองทีม จะมาร่วมวิจารณ์หยิบยก จุดอ่อนจุดแข็ง ถึงจะออกมาเป็นผลสรุปว่า แผนใดดีที่สุด บุคคลไหนเหมาะที่สุด อุปกรณ์ไหนที่ทรงประสิทธิภาพที่ทำให้งานสัมฤทธ์ผล
ผ่าน เสธสองฝ่ายมาแล้วมีหรือที่ คาร์บอมส์ จะออกมาในรูปนี้

และสรุปแล้ว ชุดคุ้มครองเท่าที่เห็นเหมาะแค่ทำท่าขึงขังเท่านั้น จะเล่นกันจริงๆ   การออกรอบที่สนามกอลฟ์เป็นจุดที่เหมาะและง่ายที่สุด  แฟรเวย์โล่งๆ ระยะ สามสี่ร้อยหลา การแฝงตัวในพื้นที่ง่ายต่อการกระทำ   พื้นที่โล่งระดับนั้น ไข่กี่พวงกี่พวงๆการันตีว่าเด็ดลงมาได้หมดแน่นอน

การมองครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะต้องการตอบคำถามแด่  G.I.  Darkside



หัวข้อ: Re: มองคาร์บ๊องจากสายตาทหารชั้นประทวน
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 09-09-2006, 21:09
ทหารทั้งหมดที่ถูกกล่าวหาว่า กระทำเรื่องนี้ เป็นทหารในสังกัด กอ.รมน. ซึ่งไม่เคยเลยที่จะร่วมในการปฎิวัติกับเขาสักหน   แต่คราวนี้ แผนการยาวไปถึงการปฎิวัติ ??????

ฟังแล้วเหมือนได้ยินว่า รปภ.ทำเนียบจะทำปฎิวัติ ????

มีทั้งแผนคาร์บอม ยิงด้วยอาร์พีจี  ปฎิวัติ  คุณพระคุณเจ้า น่าเชื่อตายแล้วล่ะ

บรรทัดสุดท้ายของทักษิณ สำหรับแผนลวงโลกนี้คืออะไร  เมื่อกลับมาจากต่างประเทศคราวนี้ (ถ้าได้กลับ) เป็นอันรู้กัน

1. แก้โผทหาร
2. จับพันธมิตร
3. ระดมรากหญ้า
4. เสือไฟบุกกรุง
5. ล้มกระดาน
6. กลับมาเป็นนายก

ฝันไปเหอะแม้ว


หัวข้อ: Re: มองคาร์บ๊องจากสายตาทหารชั้นประทวน
เริ่มหัวข้อโดย: ชอบแถ ที่ 09-09-2006, 21:15
อ่านโก๊วเล้งมากไปป่าว


หัวข้อ: Re: มองคาร์บ๊องจากสายตาทหารชั้นประทวน
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 09-09-2006, 21:43
จะเชื่อหรือไม่เชื่อเมื่อคดีไปถึงศาลความจริงทุกอย่างจะปรากฎครับ ตอนนี้เหลี่ยมแค่ซื้อเวลาเอาไว้เท่านั้น


หัวข้อ: Re: มองคาร์บ๊องจากสายตาทหารชั้นประทวน
เริ่มหัวข้อโดย: เซนเบ้ ที่ 09-09-2006, 22:14
เริ่มโกหกตั้งแต่แรก  ก็ต้องแหลไปเรื่อยๆ
เป็นทีมลอบสังหารที่ยากไร้มาก  ได้ข่าวว่าโอนเงินให้ 100,000 บาท
เพื่อซื้อรถยนต์มือสี่แดวูเก่าๆ 30,000 บาท  เวียนเทียนทั้งดูลาดเลา ชี้เป้า และลอบสังหาร
แถมโง่.... ซื้อรถยนต์ให้เป็นหลักฐานมัดตัวอีก  .... โจรใต้มันยังมีหัวใช้รถที่ขโมยมาก่อการ
เมื่อแผนล้มเหลว คนขับรถโดนจับ ตำรวจคลำเป้าอยู่ 2-3 วัน แทนที่จะรีบทำลายหลักฐาน
กลับวางแผนที่จะถล่มด้วยอาร์พีจีอีก ...คงหลงนึกไปกระมังว่ากำลังลอบฆ่านายก อบต.อยู่ ถึงมีโอกาสที่จะทำซ้ำอีก
สมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับฉายาว่าโจรกระจอก


หัวข้อ: Re: มองคาร์บ๊องจากสายตาทหารชั้นประทวน
เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 09-09-2006, 22:37
เริ่มโกหกตั้งแต่แรก  ก็ต้องแหลไปเรื่อยๆ
เป็นทีมลอบสังหารที่ยากไร้มาก  ได้ข่าวว่าโอนเงินให้ 100,000 บาท
เพื่อซื้อรถยนต์มือสี่แดวูเก่าๆ 30,000 บาท  เวียนเทียนทั้งดูลาดเลา ชี้เป้า และลอบสังหาร
...
สมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับฉายาว่าโจรกระจอก

ยิ่งสืบยิ่งเหมือนเอาตรีนถีบหน้าตัวเองครับ

ตอนเป็นนายกใหม่ๆเคยออกมาปล่อยข่าวพ่อค้ายาบ้า
กับมาเฟียลงขันแปดสิบล้านบาทเป็นค่าหัวไอ้เหลี่ยม
ทำไมเวลาจะลงมือจริงมันถึงสงทุนแค่นี้ก็ไม่รู้
แหม ทำไปได้
    :mozilla_foot: :mrgreen: :lol:



หัวข้อ: Re: มองคาร์บ๊องจากสายตาทหารชั้นประทวน
เริ่มหัวข้อโดย: เซนเบ้ ที่ 09-09-2006, 23:44
จขกท วิเคราะห์ได้ดี&สำนวนสวยครับ
 ว่าแต่ประโยคที่ว่า
"การมองครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะต้องการตอบคำถามแด่  G.I.  Darkside"
นี่หมายถึงอะไรครับ .... เป็นประโยคเดียวที่อ่านแล้วไม่เก็ท


หัวข้อ: Re: มองคาร์บ๊องจากสายตาทหารชั้นประทวน
เริ่มหัวข้อโดย: HILTON (ปาล์มาลี) ที่ 10-09-2006, 10:19
ทำไมไม่ระเบิดตอนกลางคืน 


หัวข้อ: Re: มองคาร์บ๊องจากสายตาทหารชั้นประทวน
เริ่มหัวข้อโดย: O_envi ที่ 10-09-2006, 14:23
จะขนระเบิดไปทำไมอ่ะครับอันนี้งง ก็รถนายกมันผ่านไปตั้งครึ่งชม แล้ว
แล้วคนขนระเบิดดันรักนายกยิ่งกว่าชีวิต แล้วเป็นสมาชิกพรรค ทรท อีก